The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ลิลิตตะเลงพ่าย กลุ่ม 7

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by bb-bullung01, 2022-02-24 09:46:45

ลิลิตตะเลงพ่าย กลุ่ม 7

ลิลิตตะเลงพ่าย กลุ่ม 7

หนังสือเล่มเล็ก

วิเคราะห์ลิลิตตะเลงพ่าย
ตอน ยุทธหัตถี

บทที่ ๕๕ - ๖๓

จัดทำโดย

นาย บัลลังก์ ขาวเจริญ ม.๕/๒ เลขที่ ๔
ม.๕/๒ เลขที่ ๘
นาย กันต์ธนนันท์ งามสนอง ม.๕/๒ เลขที่ ๒๐
ม.๕/๓ เลขที่ ๒๕
นาย กัญจน์ บูรสุขสวัสดิ์

นาย ธาวิน แ ซ่ ห ว่ อ ง

สแกนเพื่อฟั งประวัติความเป็ นมาเเละเรื่องย่อของ
วรรณคดี เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่าย

๕๕   ๏ นฤบาลบพิตรเผ้า       ภูวนา ยกแฮ
ผายสิหนาทกถา           ท่านพร้อง

ไพเราะราชสุภา-           ษิตสื่อ สารนา
เสนอบ่มีข้อข้อง            ขุ่นแค้นคำไข




ถอดคำประพันธ์ได้ว่า สมเด็จพระนเรศวรได้ตรัสถ้อยคำไพเราะน่าฟังไม่มีพระสุรเสียง
ขุ่นแค้นเคืองขัดเลยสักนิด

คำศัพท์
นฤบาลบพิตรเผ้าภูวนา = กษัตริย์
สิหนาท = อำนาจ คำกล่าว
พร้อง = พูด

๕๖ ๏ อ้าไทภูธเรศหล้า        แหล่งตะเลง โลกฤๅ
เผยพระยศยินเยง        ย่านแกล้ว

สิบทิศทั่วลือละเวง        หวั่นเดช ท่านนา
ไป่เริ่มรอฤทธิ์แผ้ว         เผือดกล้าแกลนหนี

ถอดคำประพันธ์ได้ว่า กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งประเทศมอญ มีพระเกียรติยศเลื่องลือไกล
ทั้ง ๑๐ ทิศผู้ใดได้ยินก็หวั่นเกรงพระบรมเดชานุภาพไม่กล้าต่อสู้แล้วรีบหนีไป

คำศัพท์
ไท = ผู้ใหญ่
ยศ = ชื่อเสียง
ละเวง = กลัว
ฤทธิ์ = หมดแรง
เผือดกล้าแกลน = กลัว



๕๗ ๏ พระพี่พระผู้ผ่าน         ภพอุตดมเอย
ไป่ชอบเชษฐ์ยืนหยุด       ร่มไม้

เชิญราชร่วมคชยุทธิ์        เผยยอเกียรติ ไว้แฮ
สืบกว่าสองเราไสร้          สุดสิ้นฤๅมี

ถอดคำประพันธ์ได้ว่า พระเจ้าพี่ปกครองประเทศที่บริบูรณ์ยิ่งไม่สมควรเลยที่จะประทับ
อยู่ใต้ร่มไม้ ขอเชิญพระองค์มากระทำยุทธหัตถีร่วมกัน ให้ปรากฏเกียรติยศไว้เถิด
ต่อจากเราทั้งสองคนคงไม่มีอีกแล้ว

คำศัพท์

อุตดม = สมบุรณ์
เชษฐ์ = พี่ใหญ์
คชยุทธิ์ = ยุทธหัตดี

๕๘
๏ หัสดีรณเรศอ้าง         อวสาน นี้นา
นับอนาคตกาล            ห่อนพ้อง
ขัตติยายุทธ์บรรหาร       คชคู่ กันแฮ
คงแต่เผือพี่น้อง           ตราบฟ้าดินกษัย

ถอดคำประพันธ์ได้ว่า  การรบด้วยการชนช้าง จะสิ้นสุดกันในคราวนี้ นับแต่นี้ไปจะไม่ได้
พบเห็นอีก การทำยุทธหัตถีกันของกษัตริย์ คงจะมีแต่เราสองพี่น้องนี้เท่านั้น ตราบฟ้ าดิน
สิ้นสลาย

คำศัพท์

หัสดีรณเรศ = ยุทธหัตดี บรรหาร = กล่าวแท้
ห่อน = ไม่
ขัตติยา = กษัตริย์ เผือ = ข้า
กษัย = สิ้น



๕๙ ๏ ไว้เป็นมหรสพซ้อง      สุขศานติ์
สำหรับราชสำราญ         เริ่มรั้ง

บำเทิงหฤทัยบาน          ประดิยุทธ์ นั้นนา
เสนอเนตรมนุษย์ตั้ง       แต่หล้าเลอสรวง

ถอดคำประพันธ์ได้ว่า  การทำยุทธหัตถีกัน ก็เหมือนการเล่นรื่นเริงสนุกสนานของ
พระราชา เพื่อให้ชมเล่นเป็นขวัญตาสำราญใจแก่มนุษย์และเหล่าเทวดา

คำศัพท์

มหรสพ = เล่นรื่นเริง ราชสำราญ = หมู่กษัตริย์
ซ้อง = พ้องกัน ประดิยุทธ์ = รบ
ศานติ์ = สงบ    เลอสรวง = สววรค์

๖๐ ๏ ปวงไท้เทเวศทั้ง        พรหมมาน
เชิญประชุมในสถาน ที่นี้

ชมชื่นคชบำราญ ตูต่อ กันแฮ
ใครเชี่ยวใครชาญชี้ ชเยศอ้างอวยเฉลิม

ถอดคำประพันธ์ได้ว่า ขอเชิญท่านเทวาและพรหมทั้งหลาย จงมาประชุมกันในสถานที่นี้
เพื่อชื่นชมการทำยุทธหัตถี ใครเชี่ยวชาญชำนาญกว่า ขอจงได้อวยพรให้ผู้นั้นได้รับชัยชนะ
ด้วยเถิด

คำศัพท์
คชบำราญ = ยุทธหัตดี
ชเยศ = ชนะ



๖๑ ๏ หวังเริ่มคุณเกียรติก้อง กลางรงค์
ยืนพระยศอยู่คง           คู่หล้า

สงครามกษัตริย์ทรง       ภพแผ่น สองฤๅ
สองราชรอนฤทธิ์ร้า        เรื่องรู้สรเสริญ

ถอดคำประพันธ์ได้ว่า  ครั้นสมเด็จพระนเรศวรตรัสพรรณนาความมาอย่างนั้นพระมหา

อุปราชาทรงฟังแล้วก็ทรงเห็นตามด้วย ทำให้เกิดขัตติยมานะอันหาญกล้าจึงทรงขับช้าง

เข้าสู้รบ

คำศัพท์
รงค์ = สนามรบ

หล้า = โลก แผ่นดิน

รอนฤทธิ์ = ผู้มีอำนาจ ผู้มีฤกธิ์

ร้า = รบ

๖๒ ๏ ดำเนินพจน์พากย์พร้อง พรรณนา
องค์อัครอุปราชา               ท่านแจ้ง

กอบเกิดขัตติยมา-             นะนึก หาญเฮย
ขับคชเข้ายุทธ์แย้ง              ด่วนด้วยโดยถวิล

ถอดคำประพันธ์ได้ว่า  ครั้นสมเด็จพระนเรศวรตรัสพรรณนาความมาอย่างนั้น
พระมหาอุปราชาทรงฟังแล้วก็ทรงเห็นตามด้วย ทำให้เกิดขัตติยมานะอันหาญกล้าจึง
ทรงขับช้างเข้าสู้รบ

คำศัพท์
อัคร = ยอด เลิศ
ขัตติยมานะ = การถือตัวเองว่าเป็นกษัตริย์
ถวิล = ใจจดจ่อ



๖๓ ๏ หัสดินปิ่ นธเรศไท้        โททรง
คือสมิทธิมาตงค์           หนึ่งอ้าง

หนึ่งคือศิริเมขล์มง         คลอาสน์ มารเอย
เศียรส่ายหงายงาคว้าง      ไขว่แคว้งแทงโถม

ถอดคำประพันธ์ได้ว่า  ช้างทรง ๒ ช้าง ของสมเด็จพระนเรศวรกับพระมหาอุปราชา
เป็นเหมือนช้างเอราวัณซึ่งเป็นช้างทรงของพระอินทร์ และช้างคีริเมขล์ซึ่งเป็นพาหนะ
ของวสวัตดีมารทั้งสองช้างต่างส่ายเศียรหงายงาเข้าโถมแทงกันและกันอย่างขวักไขว่

คำศัพท์
หัสดิน,มาตงค์ = ช้าง
ปิ่น,ธเรศ,ไท้ = ผู้เป็นใหญ์ในแผ่นดิน
สมิทธิ = สำเร็จพร้อม
ศิริเมขล์ = ช้างทรงของพญาวสวัตดีมารผู้ที่เคยจะมาผจญ
พระพุทธเจ้าที่ควงไม้ศรีมหาโพธิ์
                         



วรรณศิลป์ที่ปรากฏ

สัมพัสพยัญชนะ

ดำเนินพจน์พากย์พร้อง พรรณนา
ขับคชเข้ายุทธ์แย้ง ด่วนด้วยโดยถวิล
พระพี่พระผู้ผ่าน ภพอุตดมเอย
ไป่ ชอบเชษฐ์ยืนหยุด ร่มไม้
เชิญราชร่วมคชยุทธิ์ เผยยอเกียรติ ไว้แฮ
สืบกว่าสองเราไสร้ สุดสิ้นฤๅมี
ไพเราะราชสุภา- ษิตสื่อ สารนา
เสนอบ่มีข้อข้อง ขุ่นแค้นคำไข
อ้าไทภูธเรศหล้า แหล่งตะเลง โลกฤๅ
เผยพระยศยินเยง ย่านแกล้ว
สิบทิศทั่วลือละเวง หวั่นเดช ท่านนา
ไป่ เริ่มรอฤทธิ์แผ้ว เผือดกล้าแกลนหนี



สัมพัสสระ

หัสดินปิ่ นธเรศไท้ โททรง
เศียรส่ายหงายงาคว้าง
สิบทิศทั่วลือละเวง ไขว่แคว้งแทงโถม
ผายสิหนาทกถา หวั่นเดช ท่านนา
ไพเราะราชสุภา
ท่านพร้อง
ษิตสื่อ สารนา



อุติพจน์

อ้าไทภูธเรศหล้า        แหล่งตะเลง โลกฤๅ

เผยพระยศยินเยง         ย่านแกล้ว
สิบทิศทั่วลือละเวง         หวั่นเดช ท่านนา
ไป่ เริ่มรอฤทธิ์แผ้ว         เผือดกล้าแกลนหนี

หัสดินปิ่ นธเรศไท้ โททรง
คือสมิทธิมาตงค์ หนึ่งอ้าง
หนึ่งคือศิริเมขล์มง คลอาสน์ มารเอย
เศียรส่ายหงายงาคว้าง ไขว่แคว้งแทงโถม



ข้อคิดและคุณค่า

ข้อคิด

1.แผ่นดินไทยต้องผ่านการทำศึกสงครามอย่างมากมาย
กว่าที่จะมารวมกันเป็ นอย่างปั จจุบันนี้

2.พระราชภารกิจของกษัตริย์ไทยในสมัยก่อนคือการปกครอง
บ้านเมืองให้ร่มเย็นเป็นสุขและรบเพื่อปกป้ องอธิปไตยของไทย

คุณค่า

1.ให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์
2.เป็ นวรรณคดีชั้นสูงของชาติซึ่งถือได้ว่าเป็ นแบบอย่างที่ดีของวรรณ

คดีอื่นๆ
3.ปลุกใจให้คนไทยรักและเทิดทูนแผ่นดินไทย




Click to View FlipBook Version