The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ความสัมพันธ์ของอยุธยากันดินแดนอื่นๆในเอเชียและตะวันตก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Teerawee Rabob, 2022-12-18 01:14:58

ความสัมพันธ์ของอยุธยากันดินแดนอื่นๆในเอเชียและตะวันตก

ความสัมพันธ์ของอยุธยากันดินแดนอื่นๆในเอเชียและตะวันตก

ความสัมพันธ์ระหว่างอยุธยากับดินแดนอื่นๆในเอเชีย
และชาติตะวันตก

รายวิชาประวัติศาสตร์4 (ส22106)
เสนอ ครูญาณี อนันตอาจ

แนะนำตัวละคร



โรงเรียน สวัสดี นักเรียน สำหรับการบ้านวัน

นี้ก่อนขึ้นบทต่อไป ครูจะให้
นักเรียนหาข้อมูล

เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอยุธยา กับ
ดินแดนในเอเชีย และ ชาติตะวันตกนะ

แล้วนำเสนอหน้าห้องด้วยนะ

ครับ!!!

และหลังจากนั้นครูก็มอบหมายให้บราวน์นำเสนอความสัมพันธ์กับ
ดินแดนเอเชียทั้งหมด ส่วน ลีโอนาร์รับเรื่องความสัมพันธ์กับชาติ
ตะวันตกโปรตุเกต ส่วนมูน รับเรื่องฮอลันดาและ ประเทศที่เหลือ

ครูจะอธิบายเอง

เมื่อถึงวัน นักเรียนจดบน
เสนองาน กระดานให้เพื่อน

ด้วยนะครับ

ความสัมพันธ์กับจีนนั้น เกี่ยวข้องกับการเมืองและการ
ค้าในลักษณะรัฐบรรณาการ โดยถ้ารัฐใดแต่งตั้งทูตพร้อมกับ
นำเครื่องราชบรรณาการไปถวายจักรพรรดิจีนราชสำนักจีน
ถือว่าเข้ามาอ่อนน้อม จีนจะให้การรับรองกษัตริย์ของรัฐนั้นๆ
และซื้อขายกับจีนได้

ความสัมพันธ์ระหว่างอยุธยากับจีนปรากฏชัดเจนมากขึ้น
ในสมัยสมเด็จพระบรมราชาที่ 1 (ขุนหลวงพงั่ว) เป็นต้นมา

ในสมัยนั้นกษัตริย์ตั้งคณะทูตและนำเครื่องราช
บรรณาการให้จีนรับรอง เพื่อประโยชน์ทางการค้า ซึ่งจะ
ดำเนินอย่างกว้างขวางในเวลาต่อมา และเพื่อให้เกิดความชอบ
ธรรมในการเสด็จขึ้นครองราชย์ของพระกษัตริย์อยุธยา

Title of the Comic

ถ่ายรูปหรือยังครับ ถ่ายแล้ว

ต่อไปเป็นญี่ปุ่นนะ

และความสัมพันธ์กับญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยว
กับการค้าเป็นหลักมีความสัมพันธ์ด้วยการเมืองบ้างซึ่งเป็นไป
เพื่อปกป้องผลประโยชน์ด้านการค้าราชสำนักติดต่อกันญี่ปุ่น
ครั้งแรกในพ.ศ. 2149 ซึ่งตรงกันสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ
มีผลทำให้การติดต่อค้าขายระหว่างพ่อค้าทั้งสองฝ่ายขยายตัว
มากขึ้นต่อมาใน พ.ศ. 2178 ซึ่งตรงกับสมัยสมเด็จพระเจ้า
ปราสาททอง เมื่อช่วงญี่ปุ่นบางคนในอยุธยา ได้คิดก่อการ
ร้ายขึ้น สมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงมีพระบรมราชโองการ
ให้ทำการปราบปรามอย่างเด็ดขาด ทำให้ชาวญี่ปุ่นจำนวน
มากอพยพลี้ภัยออกจากกรุงศรีอยุธยา

Title of the Comic

จบไป 2 ชาติแล้วมีใคร หลังจากเกิดเหตุนี้
สงสัยอะไรไหมครับ ญี่ปุ่นยังค้าขายต่อไหมคะ

เป็นคำถามที่ดีมาก เพราะหลังจากนั้น อยุธยาพยายามติดต่อเจรจา
สัมพันธ์กับญี่ปุ่น แต่ญี่ปุ่นไม่ยอมรับ อาจเป็นเพราะอยุธยาทำการ

ปราบปรามญี่ปุ่น และญี่ปุ่นดำเนินนโยบายปิดประเทศ

และสุดท้ายความสัมพันธ์กับเปอร์เซีย(อิหร่านใน
ปัจจุบัน) เป็นชาวอาหรับ ตั้งอยู่บริเวณอ่าวเปอร์เซียใน
ภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ความสัมพันธ์ระหว่าง
อยุธยากับเปอร์เซียทุกจะเกี่ยวกับทางด้านการค้าซึ่งมีมา
นานแล้ว ทั้งยังเปิดโอกาสให้ชาวเปอร์เซียได้รับราชการ
ในราชสำนักอยุธยา ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อแผ่นดินไทยด้าน
แต่หลังรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราชไปแล้ว ไม่ราก
ฏหลักฐานถึงการเดินทางเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่าง
อยุธยากับเกย์เซียอีก

ความสัมพันธ์อยุธยากับ ครูเล่าให้ผมฟังหน่อย
โปตุเกส ครับ



มีความสัมพันธ์ด้วย โดยมีความสัมพันธ์ทางด้านการค้าขาย ด้านการเมืองและด้านวัฒนธรรมความสัมพันธ์ระหว่างอยุธยา
กับโปรตุเกสเริ่มต้นใน พ.ศ. ๒๐๕๔ ในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ เมื่อกองเรือของโปรตุเกสเข้าโจมตีมะละกาและยึด
เมืองไว้ใด้ แต่เมื่อโปรตุเกส ทราบว่ามะละกาเป็นเมืองประเทศราชของอยุธยา จึงส่งทูตเดินทางมายังราชสำนักอยุธยาเพื่อ
ทำสัญญาระหว่างกันใน พ.ศ. 2054 ผลของสัญญาทำให้อยุธยามีการติดต่อค้าขายกับโปรตุเกสมากขึ้นโปรตุเกสได้เข้ามา
ตั้งสถานีการค้าที่กรุงศรีอยุธยา นครศรีธรรมราช ปัตตานี มะริด ตะนาวศรี นอกจากนี้ อยุธยายังให้ชาวโปรตุเกสเข้ามา
สมัครเป็นทหารอาสาประจำอยู่ในกองทัพอยุธยาอีกด้วยนอกจากความสัมพันธ์ทางด้านการค้าแล้ว อยุธยาธยังมีความ
สัมพันธ์กับโปรตุเกสทาง ด้านการทหารและด้านวัฒนธรรม ด้านการทหาร อยุธยาซื้อปืนจากโปรตุเกสมาใช้และจ้างทหารโป
ตุเกสมาเป็นทหารอาสาอยู่ในกองทัพอยุธยา ส่วนด้านวัฒนธรรม บาทหลวงโปรตุเก เผยแผ่คริสต์ศาสนานิกาย
โรมันคาทอลิกในกรุงศรีอยุธยาจนมั่นคงสืบมา นอกจากนี้ อยุธยายังได้รับวัฒนธรรมการทำขนมหวานจากโปรตุเกสอัน
เป็นที่มาของขนมหวานไทยในปัจจุบันด้วย เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง

ต่อไปเป็นความ ความสัมพันธ์ระหว่างอยุธยา
สัมพันธ์กับฮอลันดา กับฮอลันดาเกี่ยวข้องกับทาง

นะครับ ด้านการค้าขาย

อยุธยาเริ่มมีความสัมพันธ์กับ
ออลันดาในสมัยสมเด็จพระ

นเรศวรมหาราช

เมื่อฮอลันดาส่งคณะทูตเดินทางมาเจรจาทาง ผมจะขึ้นบนกระดานนะครับ
ไมตรีและขอตั้งสถานีการค้าที่เมืองปัตดานีอย่าง

เป็นทางการใน พ.ศ. ๒๑๕๖ เป็นผลสำเร็จ

จนกระทั่งถึงสมัยสมด็จพระเจ้าทรงธรรม อยุธยากับฮอลันดาได้มีการ
ทำสนธิ
การค้าระหว่างกันใน พ.ศ. ๒๑๖๐ โดยฮอลันดาได้สิทธิพิเศษในการซื้อ
หนังกวาง หนังสัตว์ ไม้หอม และไม้ฝางจากอยุธยา แต่เมื่อถึงสมัย
สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ฮอลันดาส่งเรือรบปิดท่าเรือเมืองตะนาวครี
ใน พ.ศ. ๒๑๙๑ อยุธยาจึงตัดสิทธิพิเศษทางการค้าที่ธอลันดาเคยได้รับ
ภายหลัง
ต่อมาอยุธยาเกิดความบาดหมางกับฮอลันดาอีกในสมัยสมเด็จพระ
นารายณ์มหาราชเกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ทางการค้าของทั้งสองฝ่าย
จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ชาวจีนได้เข้าล้อมสถานีการค้าของฮอลันดาที่
กรุงศรีอยุธยาทำให้ฮอลันดาเข้าใจว่าอยุธยาให้การสนับสนุนชาว
จีน'เหล่านี้ จึงส่งเรือรบของฮอลันดาปิดอ่าวไทยจนในที่สุดสมเด็จพระ
นารายณ์มหาราชได้ทรงเปิดการเจรจาและทำสัญญากับฮอลันดาเมื่อ ม
วันที่ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๒๐๗

สาระสำคัญของสัญญามีว่า ฮอลันดาได้สิทธิผูกขาดการส่งหนัง
กวางและหนังวัว ออกนอกราชอาณาจักร อยุธยาต้องไม่จ้างชาว
จีนและชาวญี่ปุ่นมาเป็นลูกเรือสำเภา และที่สำคัญ คนในบังคับ
ของฮอลันดาถ้ากระทำความผิดไม่ต้องขึ้นศาลอยุธยา

จากความสัมพันธ์ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและปลอดภัย
ของอาณาจักรอยุธยา ซึ่งเกิดขึ้นจากการกระทำของฮอลันดา
ทำให้สมเด็จพระนารายณ์มหาราชต้องทรงดำเนินนโยบาย หันไป
กระชับความสัมพันธ์กับฝรั่งเศสให้มากขึ้นเพื่อดึงฝรั่งเศสมาถ่วง
ดุลอำนาจ ทำให้ฮอลันดา ค่อยๆ ลดปริมาณการค้าและถอนตัว
ออกจากอยุธยาในที่สุด

ดีมากนักเรียน ลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างอยุธยากับ
อังกฤษ จะเกี่ยวกับทางด้านการค้าขาย และ
เดี๋ยวต่อไปครูจะ ในบางช่วงมีความสัมพันธ์ทางด้านการเมือง
อธิบายเอง
ด้วย

อยุธยาเริ่มมีความสัมพันธ์กับอังกฤษใน
สมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม พระองค์
ทรง อนุญาตให้อังกฤษมาตั้งสถานีการค้า

ที่กรุงศรีอยุธยาได้

แต่ได้รับการขัดขวางจากฮอลันดา ในที่สุด ต่อไปครูจะขึ้นกระดานนะจ้ะ
อังกฤษจึงปิดกิจการบริษัทอินเดียตะวันออก เตรียมจดเนื้อหาให้ดีๆ
ของอังกฤษในกรุงศรีอยุธยาเมื่อ พ.ศ. ๒๑๖๗

ต่อมาในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช อยุธยาเริ่มฟื้ นฟูความสัมพันธ์กับอังกฤษ อีก
ครั้งหนึ่ง เพราะพระองค์ทรงต้องการให้อังกฤษเข้ามาถ่วงดุลอำนาจกับฮอลันดา ซึ่ง
กำลังเข้ามา มีอิทธิพลและพยายามครอบงำการบริหารบ้านเมืองของ พระมหากษัตริย์
อยุธยา อังกฤษจึงเข้ามาตั้งสถานีการค้า ในกรุงศรีอยุธยาอีกใน พ.ศ. ๒๒๐๔ โดยมุ่ง
ค้าขายเพียง อย่างเดียว ไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่าง อยุธยากับฮอลันดา

สืบเนื่องมาจากอังกฤษไม่ประสบความ สำเร็จในการแข่งขันการค้ากับฮอลันดา ขณะ
เดียวกัน อังกฤษต้องเข้าไปจัดการแก้ไขปัญหาในทวีปยุโรปด้วย และเมื่อเรือค้าขายของ
อังกฤษถูกโจรปล้นสะดมใน น่านน้ำเมืองมะริดจนต้องสู้รบกับอยุธยาที่เมืองมะริด ทำให้
ความสัมพันธ์ระหว่างอยุธยากับอังกฤษห่างเห็น
ไปจนสิ้นสมัยอยุธยา

อย่างไรก็ตาม อังกฤษมุ่งประโยชน์ ทางด้านการค้ากับอยุธยาเป็นสำคัญ ดังนั้น
อังกฤษจึงไม่เกี่ยวข้องกับการเผยแผ่ศาสนา ดังเช่น ฝรั่งเศส

ต่อมาในเรื่องของ ความ อยุธยาเริ่มมีความสัมพันธ์กับฝรั่งเศสในสมัยสมเด็จพระ
สัมพันธ์กับฝรั่งเศส นารายณ์มหาราชที่ทรง ต้องการอาศัยฝรั่งเศสถ่วง

อยุธยาเริ่มมีความสัมพันธ์กับฝรั่งเศสทางด้าน ศาสนา หลัง ดุลอำนาจกับฮอลันดา ท่าทีที่เป็นมิตรของอยุธยาทำให้
จากนั้นก็ขยายไปถึงความสัมพันธ์ทางด้านการค้าและ พ่อค้าชาวฝรั่งเศส เข้ามาติดต่อค้าขายด้วย

การเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อยุธยาต้องการให้ฝรั่งเศส จนบริษัทอินเดียตะวันออกของ
ถ่วงดุลอำนาจกับฮอลันดาที่เคยคุกคามอยุธยามาก่อน ฝรั่งเศสเข้ามาตั้งสถานีการค้า
แห่งแรกใน กรุงศรีอยุธยาเมื่อ

พ.ศ. ๒๒๒๓

ต่อมาฝรั่งเศสส่งคณะทูตซึ่งมีเชอวาเลียร์ เดอ โชมองต์ เพื่อ ให้ราชสำนักอยุธยาอุปถัมภ์การเผยแผ่คริสต์ศาสนาและขอ
(Chevalier de Chaumont) เป็นหัวหน้าเดินทางมาเยือนอยุธยาเป็น สิทธิพิเศษทางการค้า ขณะที่อยุธยามี วัตถุประสงค์ที่จะดึงฝรั่งเศส
ครั้งแรกใน พ.ศ. ๒๒๒๘ เพื่อเจริญ สัมพันธไมตรีและโน้มน้าว ให้ เข้ามาลงทุนให้มากขึ้น จนกระทั่งนำไปสู่การทำสัญญาต่อกันใน พ.ศ.
๒๒๒๘ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเผยแผ่คริสต์ศาสนาและความ
สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเข้ารีตเปลี่ยนไปนับถือคริสต์
ศาสนา สะดวกในการค้าของฝรั่งเศส

ต่อมาภายหลัง อยุธยาได้แต่งคณะทูตมีออกพระวิสุทธสุนทร (ปาน) เดินทางไป
ฝรั่งเศสอีกเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศสให้แน่นแฟ้นมากขึ้น แต่ราชสำนัก
ฝรั่งเศสก็ยังไม่พอใจ กับผลประโยชน์ที่ได้จากอยุธยา ประกอบกับออกญาวิไช
เยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) ตำแหน่ง เสนาบดีกรมคลังได้มีจดหมายส่วน
ตัวไปยัง ราชสำนักฝรั่งเศส ชี้แจงให้ฝรั่งเศสเห็นความ สำคัญของเมืองมะริด
พร้อมทั้งแสดงตนว่าจะ ช่วยฝรั่งเศสให้มีอิทธิพลเหนือเมืองมะริดเพื่อ แข่งขันอ่า
นาจกับฮอลันดา

นอกจากนี้ยังเสนอให้ฝรั่งเศสส่ง ทหารมาประจำการอยู่ที่อยุธยาด้วย ดังนั้น
เมื่อออกพระวิสุทธสุนทร (ปาน) เดินทางกลับ อยุธยาใน พ.ศ. ๒๒๓๐ ฝรั่งเศส
จึงส่ง ลา ลูแบร์ และเซเบเรต์ พร้อมทหารจำนวนหนึ่งเดินทาง มายังอยุธยาเพื่อ
ทำสัญญาฉบับใหม่กับอยุธยา เมื่อ พ.ศ. ๒๒๓๐ สัญญาฉบับนี้ทำให้ฝรั่งเศส
เป็นผู้ผูกขาดการค้าดีบุกที่เมืองถลาง ได้รับ สิทธิสภาพนอกอาณาเขต รวมทั้ง
ได้รับการ ยกเว้นภาษีการค้า เป็นต้น

การที่ฝรั่งเศสส่งทหารเข้ามาประจำการที่อยุธยานั้นแท้จริงแล้ว
ฝรั่งเศสมีแผนการ จะยึดเมืองมะริดและเมืองบางกอกไว้เป็นของ
ตน แต่พระเพทราชาขุนนางคนสำคัญได้ทราบ การที่ฝรั่งเศสส่ง
ทหารเข้ามาประจำการที่อยุธยานั้น แท้จริงแล้วฝรั่งเศสมีแผนการ
เรื่องนี้เสียก่อน จึงได้ก่อการยึดอำนาจขณะที่ สมเด็จพระนารายณ์
มหาราชประชวรหนัก พร้อมทั้งจับออกญาวิไชเยนทร์ประหารชีวิต
จากนั้นได้สั่งคุมขังชาวฝรั่งเศสคนสำคัญและ ทหารฝรั่งเศสใน
เมืองลพบุรีเอาไว้ แต่ภายหลัง เจรจาสงบศึกกันได้โดยสมเด็จพระ

เพทราชาให้ ชาวฝรั่งเศสอพยพออกไปนอกพระราชอาณาจักร
หลังจากนั้นความสัมพันธ์ระหว่างอยุธยากับ ฝรั่งเศสก็ลดน้อยลง

และห่างเหินกันในที่สุด

ความสัมพันธ์กับสเปน อยุธยามีความสัมพันธ์ ส่วนใหญ่ก็เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ ทางด้านเศรษฐกิจ
กับสเปนค่อนข้างน้อยเมื่อ เทียบกับชาติตะวัน และการค้า ความมั่นคง แคงของราชอาณาจักร และ
วัฒนธรรม นโยบายส่วนใหญ่ มีลักษณะของการสร้าง
ตกอื่นๆ คงมีเพียงติดต่อกันทางด้านการ ความเป็นมิตรไมตรี การถ่วงดุลอำนาจ และการเผชิญ
ค้าขายบ้างเล็กน้อยเท่านั้น
หน้าทางทหาร
กล่าวโดยสรุป อาณาจักรอยุธยามีความ
สัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งกับรัฐที่อยู่ใกล้ อย่างไรก็ตาม อยุธยาต้องเผชิญปัญหาถูกรุกรานจาก
เคียง และกับรัฐที่อยู่ห่างไกลออกไปทั้งในทวีป รัฐที่อยู่ใกล้เคียงกับอยุธยาตลอด แนวพระราชอาณาเขต
ทางด้านตะวันตก ดังนั้น อยุธยาจึงต้องใช้นโยบายการ
เอเชียและทวีปยุโรป
เผชิญหน้าทางทหาร เพื่อป้องกันราชอาณาจักรให้พ้น
จากการคุกคามมากกว่าที่จะเข้าไปรุกราน

ส่วนความสัมพันธ์กับ ประเทศตะวันตก เนื่องจากมีมหาอำนาจ
ตะวันตกหลายประเทศต้องการติดต่อกับอยุธยา อยุธยา จึง
สามารถใช้นโยบายการถ่วงดุลอำนาจอย่างได้ผลพอสมควร แต่
บางครั้งเมื่อการถ่วงดุลอำนาจ ไม่ได้ผล อยุธยาก็ต้องอาศัยการ
ป้องกันการคุกคามจากมหาอำนาจตะวันตกก่อนที่สถานการณ์

ร้ายแรงจะเกิดขึ้น

จบแล้ว นักเรียน

หวังว่าจะได้ความรู้
กันน้า

สมาชิก

1.ด.ช.พีระพงศ์ เสถียรพัฒนากูล ม.2/8 เลขที่ 12
2.ด.ช.ภัทริศวร์ เวชกัลยามิตร ม.2/8 เลขที่ 14
3.ด.ญ.ชาลิสา ทองนิตย์ ม.2/8 เลขที่ 20
4.ด.ญ.พรทิพย์ รอดสัมฤทธิ์ ม.2/8 เลขที่ 28
5.ด.ญ.พิทยาภรณ์ สุวพร ม.2/8 เลขที่ 30


Click to View FlipBook Version