แผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการโรงเรยี นวถิ ีพุทธ
รหสั วชิ า ว33206 ชอ่ื วิชาฟิสกิ ส์ 6 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 6/1 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564
หนว่ ยการเรยี นรู้ เร่ือง ทฤษฎจี ลนข์ องแก๊ส เวลา 2 ชั่วโมง
วันทส่ี อน.......................................................................
ผู้สอน นายชนิ ภัทธ์ เดชผล
1. ผลการเรียนรู้
อธิบายแบบจำลองของแก๊สอุดมคติ ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส และอตั ราเร็วอาร์เอ็มเอสของโมเลกุลของแก๊ส
รวมทัง้ คำนวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ที่เก่ียวขอ้ ง
2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายความสมั พันธร์ ะหว่างความดันและพลังงานจลนเ์ ฉลี่ยของโมเลกุลของแกส๊ ได้ (K)
2. คำนวณหาความดันและพลังงานจลน์เฉลี่ยของโมเลกุลของแก๊ส และอัตราเรว็ อาร์เอ็มเอสของโมเลกุล
ของแกส๊ จากปริมาณทีเ่ ก่ยี วข้องได้ (P)
3. มีความสนใจใฝ่รู้หรอื อยากรู้อยากเหน็ และทำงานรว่ มกบั ผ้อู ่ืนอย่างสร้างสรรค์ (A)
3. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรู้เพ่ิมเติม สาระการเรียนรู้ท้องถน่ิ
- จากแบบจำลองของแก๊สอุดมคติ กฎการเคลื่อนที่ของ พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา
นิวตัน และจากกฎของแก๊สอุดมคติ ทำให้สามารถ
ศกึ ษาสมบตั ิทางกายภาพบางประการของแก๊สได้ ได้แก่
ความดนั พลังงานจลน์เฉลี่ย และอตั ราเรว็ อาร์เอ็มเอส
ของโมเลกุลของแก๊สได้
- จากทฤษฎีจลน์ของแก๊ส ความดันและพลังงานจลน์
เฉลย่ี ของโมเลกุลของแก๊สมคี วามสัมพันธต์ ามสมการ
= 2 ส่วนอัตราเรว็ อารเ์ อ็มเอสของโมเลกุล
3
ของแก๊สคำนวณได้จากสมการ = √3
ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551
รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ อยู่อย่างพอเพียง ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
มีวินัย รักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มจี ิตสาธารณะ
4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
ทฤษฎจี ลน์ของแก๊ส เปน็ ทฤษฎีทพ่ี ยายามอธิบายสมบัติต่าง ๆ ของแก๊ส โดยศกึ ษาจากทิศทางการเคลื่อนที่
ของโมเลกลุ ของแก๊สและลกั ษณะของโมเลกลุ ของแกส๊ โดยการใช้แบบจำลองหรือทฤษฎใี นระดับจลุ ภาค คือ
พจิ ารณาคณุ สมบัติของโมเลกลุ ของแก๊สเพียง 1 หรอื 2 โมเลกุล เพอ่ื เปน็ ตัวแทนของโมเลกุลล้าน ๆ โมเลกุลใน
ระดับมหภาค ดังนัน้ การพิจารณาพลงั งานทเ่ี กิดจากการเคลื่อนท่ขี องโมเลกุลของแกส๊ (พลังงานจลน์) และ
อตั ราเร็วในการเคลอ่ื นท่ี จึงจำเปน็ ต้องให้หลกั การทางคณติ ศาสตรใ์ นการหาค่าเฉล่ยี และความน่าจะเปน็
5. การบูรณาการ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง โรงเรยี นมาตรฐานสากล โรงเรียนสขี าว
โรงเรียนปลอดบหุ รี่ ศาสตร์พระราชา โรงเรียนวิถพี ทุ ธ
โรงเรียนคณุ ภาพประจำตำบล ระดบั มธั ยมศกึ ษา โรงเรียนคุณธรรม
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนิค : เนน้ มโนทัศน์ (Concept Based Teaching)
ขน้ั สรา้ งความสนใจ (Engagement)
1. ครูเปิดภาพตอ่ ไปน้ี แลว้ ให้นักเรยี นรว่ มกนั ทายว่าแตล่ ะภาพ สารอยใู่ นสถานะใด
2. ครทู บทวนความรู้เกี่ยวกบั สมบัติของแก๊สอุดมคติ โดยให้นักเรยี นรว่ มกันตอบคำถามว่า “แบบจำลอง
ของแกส๊ อุดมคติประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง”
(แนวตอบ : 1. แก๊สประกอบด้วยโมเลกุลจำนวนมาก โมเลกุลเหล่านั้นอยูห่ ่างกันมากและไม่มีแรง
กระทำต่อกัน 2. โมเลกุลของแก๊สมีมวลแตม่ ีขนาดเล็กมากจนถือว่ามีปริมาตรเป็นศูนย์ 3. โมเลกุล
ของแก๊สเคล่ือนที่อย่างอสิ ระด้วยอัตราเร็วคงตัวตลอดเวลาในแนวเส้นตรง 4. เมื่อโมเลกุลของแก๊ส
ชนกันหรอื ชนกับผนังภาชนะจะมีการถ่ายโอนพลังงานจลน์ระหว่างกนั ได้แต่ไม่มีการเปลี่ยนรูปเป็น
พลงั งานรปู อื่น)
3. ครูถามคำถาม Key Question กับนักเรียนว่า “ทฤษฎีจลน์ของแก๊สน่าจะศึกษาเกี่ยวกับสิ่งใด มีตัว
แปรใดที่น่าจะเกี่ยวข้องบ้าง” โดยนักเรียนร่วมกนั ตอบคำถามและแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับคำตอบ
ของคำถามเพอื่ เช่อื มโยงเขา้ สเู่ น้ือหาทกี่ ำลงั จะศกึ ษาเรยี นรู้ตอ่ ไป
(แนวตอบ : ศกึ ษาสมบัตติ ่าง ๆ ของแก๊สโดยศึกษาจากทิศทางเคลื่อนท่ีของโมเลกุลแก๊สและลักษณะ
ของโมเลกลุ แกส๊ )
ข้นั สำรวจและค้นหา (Exploration)
1. ครใู ห้นกั เรยี นจับคูก่ ับเพ่อื นทน่ี ง่ั ข้าง ๆ จากนน้ั รว่ มกนั ศกึ ษา เรือ่ ง ทฤษฎจี ลน์ของแก๊ส ในหัวข้อท่ี
เกย่ี วกับความดนั และพลงั งานจลนเ์ ฉลยี่ ของโมเลกลุ ของแกส๊ จากหนงั สอื เรยี น
2. ครูมอบหมายให้นกั เรยี นจดบนั ทึกและเขยี นสรปุ ความรู้เกีย่ วกบั ความดันและพลังงานจลนเ์ ฉล่ียของ
โมเลกุลของแกส๊ ลงในกระดาษ A4 คนละ 1 แผน่ พร้อมท้ังตกแตง่ ให้สวยงาม
3. ครสู ุ่มตัวแทนนกั เรยี นออกมานำเสนอผลงานของตนเองหนา้ ชั้นเรียน 2-3 คน จากน้นั ตัวแทนนักเรียน
เก็บรวบรวมผลงานสง่ ครเู พือ่ ตรวจใหค้ ะแนน
4. ครูและนกั เรยี นสรุปเปน็ ทฤษฎีไดว้ า่
1. แก๊สประกอบด้วยอนุภาคจำนวนมากที่มีขนาดเล็กมาก จนถือได้ว่าอนุภาคของแก๊สไม่มี
ปริมาตรเมื่อเทียบกับขนาดภาชนะที่บรรจุ โมเลกุลของแก๊สอยู่ห่างกันมาก ทำให้แรงดึงดูด
และแรงผลักระหวา่ งโมเลกุลน้อยมาก จนถอื ได้วา่ ไม่มแี รงกระทำต่อกนั
2. โมเลกลุ ของแก๊สเคลอ่ื นทอ่ี ยา่ งรวดเร็วในแนวเส้นตรง เป็นอิสระ ด้วยอัตราเรว็ คงท่ี และไมเ่ ป็น
ระเบียบ จนกระทั่งชนกับโมเลกุลอื่น ๆ หรือชนกับผนังภาชนะจึงจะเปลี่ยนทิศทางและ
อตั ราเรว็
3. โมเลกลุ ของแก๊สท่ีชนกนั เองหรอื ชนกบั ผนงั ภาชนะจะเกดิ การถา่ ยโอนพลงั งานให้แกก่ ันได้ แต่
พลังงานรวมของระบบคงท่ี ณ อุณหภูมิเดยี วกนั โมเลกุลของแกส๊ แตล่ ะโมเลกลุ เคลือ่ นที่ดว้ ย
อัตราเร็วไม่เท่ากัน แต่จะมีพลังงานจลน์เฉลี่ยเท่ากัน โดยที่พลังงานจลน์เฉลี่ยของแกส๊ จะแปร
ผนั ตรงกบั อณุ หภมู ิเคลวิน
ข้นั อธบิ ายและลงข้อสรุป (Explanation)
1. นกั เรยี นและครรู ว่ มกันอภปิ รายเกี่ยวกับความดนั และพลงั งานจลน์เฉล่ียของโมเลกุลของแก๊สหลังจาก
ทีไ่ ดร้ ่วมกันศึกษาเนอ้ื หาจากหนังสอื เรยี นแลว้ โดยครูเสรมิ ใหส้ มบูรณด์ ังนี้
2. นักเรียนรว่ มกนั ตอบคำถาม Concept Question จากหนงั สือเรียนที่ถามว่า “การหาสมการพลงั งาน
จลน์เฉล่ียของโมเลกุลของแก๊ส สามารถพิจารณาไดจ้ ากสิง่ ใด”
(แนวตอบ : พิจารณาไดจ้ ากอตั ราเร็วในการเคลื่อนท่ีของโมเลกลุ ของแก๊สและกฎของแก๊สอดุ มคติ)
3. ครูนำนักเรียนอภิปรายเกีย่ วกับสมการความสัมพนั ธ์ของพลังงานจลนเ์ ฉล่ียของโมเลกุลของแก๊สว่า
ณ อณุ หภมู ิเดยี วกัน โมเลกุลของแก๊สแต่ละโมเลกุลจะมกี ารเคลอ่ื นท่ีดว้ ยอตั ราเร็วท่ไี ม่เท่ากัน แต่
จะมีพลังงานจลน์เฉลี่ยเท่ากัน โดยที่พลังงานจลน์เฉลี่ยของโมเลกุลของแก๊สจะแปรผันตรงกับ
อุณหภูมสิ มั บูรณ์หรอื อณุ หภูมขิ องแกส๊ ในหนว่ ยเคลวิน
4. ครอู ธิบายเกี่ยวกับการหาอัตราเรว็ ของโมเลกลุ และพลงั งานจลนแ์ กส๊ ดังนี้
ครใู ห้นักเรียนค่เู ดิมทีเ่ คยรว่ มกันศึกษาเนื้อหามาแลว้ ก่อนหน้าน้ี ร่วมกนั ศกึ ษา เร่ือง ทฤษฎีจลน์ของแกส๊ ในหวั ขอ้ ที่
เกี่ยวกบั อตั ราเร็วของโมเลกลุ ของแกส๊ จากหนังสือเรยี น
5. ครูใช้คำถามเพื่อทดสอบความสนใจของนักเรียนว่า “การบอกค่าอัตราเร็วเฉลี่ยของโมเลกุลของ
แก๊สสามารถบอกไดด้ ้วยส่ิงใด” โดยครูอาจสุ่มนกั เรียนจากการสังเกตการณ์เป็นรายบุคลลเพ่ือตอบ
คำถาม
(แนวตอบ : ค่ารากทส่ี องของกำลังสองเฉลย่ี ของอตั ราเรว็ หรือเรียกว่า อัตราเรว็ อารเ์ อม็ เอส)
ขนั้ ขยายความรู้ (Elaboration)
1. ครยู กตวั อยา่ งโจทย์ดังตอ่ ไปน้ี
ตัวอย่าง 1 แก๊สอะตอมเดี่ยวชนิดหนึ่งที่อุณหภูมิ 227 องศาเซลเซียส อยากทราบว่า พลังงาน
จลน์เฉล่ียของโมเลกุลของแก๊สจะมีค่าเท่ากับเท่าใด
วธิ ที ำ จากสมการ ̅ = 3
2
3
̅ = 2 (1.38 × 10−23 J/K)(227 + 273 K)
̅ = 3 (1.38 × 10−23 J/K)(500 K)
2
̅ = 3(1.38 × 10−23 J/K)(250 K)
̅ = (1.38 × 10−23 J/K)(750 K)
̅ = 1,035 × 10−23 J
̅ = 1.035 × 10−20 J
ดงั นั้น พลงั งานจลนเ์ ฉลี่ยของโมเลกุลของแกส๊ จะมีคา่ เทา่ กับ 1.035 × 10-20 จูล
2. ครูยกตัวอย่างโจทย์บูรณาการความรูก้ บั เรอ่ื งบุหร่ดี ังน้ี
ชายผหู้ นงึ่ สูบบุหรี่ในทท่ี ่มี อี ณุ หภูมิ 7 องศาเซลเซียส ปรากฎวา่ อัตราเร็วเฉลี่ยของแกส๊ คาบอนมอน
อกไซด์ทีเ่ กดิ จากการเผาไหมข้ องบุหร่ี มคี วามเร็ว 400 เมตร/วินาที ถ้าชายผู้นี้ไปสบู บุหรใี่ นสถานท่ี
ทีม่ ีอุณหภมู ิ 35 องศาเซลเซยี ล ควนั บหุ ร่จี ะมีอัตราเรว็ เท่าใด และมลี กระทบตอ่ ผู้ท่ีอยใู่ กลเ้ คียง
อย่างไร
จาก V = √3
ได้ว่า 2 = √ 12
1
2 = √308
1 280
2 = 400 (1.05)
2 = 420 m/s
3. ครูชวนนักเรียนอภิปรายคำตอบดังนี้
- นักเรียนจะสรุปความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งอณุ หภูมแิ ละความเร็วของแกส๊ ไดอ้ ย่างไร
ยิง่ อณุ หภูมิสูงขนึ้ อัตราเรว็ แกส๊ จะย่งิ มากข้นึ
- เมอื่ เปรียบเทยี บระเทศไทยกบั ประเทศในแถบยโุ รป นกั เรียนจะเปรยี บเทยี บไดอ้ ย่างไร
ประเทศไทย (เมืองร้อน) พบว่าอัตราเร็วของควันบุหรี่มีค่ามาก ทำใหเ้ ดนิ ทางไดไ้ กล และทำ
อนั ตรายตอ่ สุขภาพคนรอบข้าง
4. ครูแบ่งกลุ่ม ให้นักเรียนศึกษาความรู้เกี่ยวกับโทษของบุหรี่ และแนวทางการรณรงค์ แล้วทำ
โปสเตอร์ส่งในคาบถัดไป
ตวั อย่างช้ินงานท่ีคาดหวัง
5. ครูใช้ภาพต่อไปนี้เพ่ือนำเสนอราคาของบุหรี่ เพื่อให้นักเรียนร่วมกันวเิ คราะหค์ วามคุ้มค่าในการท่จี ะ
สูบบหุ รี่ เทยี บกบั ค่าครองชพี
6. ครอู ธบิ ายแนวทางการดำเนินชวี ิตตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง ดังนี้
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 3 หว่ ง
หว่ ง 1. ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดที ี่ไมน่ อ้ ยเกนิ ไปและไม่มากเกนิ ไป โดยไมเ่ บยี ดเบยี น
ตนเองและผูอ้ ่ืน เชน่ การผลติ และการบรโิ ภคที่อยู่ในระดบั พอประมาณ
ห่วง 2. ความมีเหตุผล หมายถงึ การตัดสินใจเก่ียวกับระดับของความพอเพยี งนน้ั จะตอ้ งเป็นไป
อย่างมเี หตผุ ล โดยพจิ ารณาจากเหตุปัจจยั ที่เกี่ยวข้องตลอดจนคำนงึ ถึงผลท่คี าดว่าจะเกิดขน้ึ จาก
การกระทำนั้น ๆ อย่างรอบคอบ
หว่ ง 3. การมีภมู ิคมุ้ กนั ทด่ี ใี นตัว หมายถึงการเตรยี มตวั ใหพ้ รอ้ มรับผลกระทบ และการ
เปลย่ี นแปลงด้านต่าง ๆ ทจ่ี ะเกิดขน้ึ โดยคำนึงถึงความเป็นไปไดข้ องสถานการณ์ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะ
เกิดขน้ึ ในอนาคตทง้ั ใกล้และไกล
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 2 เงือ่ นไข
1. เง่ือนไข ความรู้ ประกอบดว้ ย ความรอบรู้เก่ียวกับวชิ าการตา่ ง ทเ่ี ก่ียวขอ้ งอย่างรอบด้าน ความ
รอบคอบทีจ่ ะนำความรูเ้ หล่าน้ันมาพจิ ารณาให้เช่ือมโยงกนั เพอ่ื ประกอบการวางแผนและความ
ระมัดระวงั ในขัน้ ปฏิบตั ิ
2. เง่ือนไข คุณธรรม ที่จะต้องเสริมสรา้ งประกอบดว้ ย มคี วามตระหนกั ในคณุ ธรรม มีความชอ่ื สัตย์
สจุ รติ และมีความอดทน มีความพากเพียร ใชส้ ติปัญญาในการดำเนินชีวิต
ส่วนคำถามทวี่ ่า 3 ห่วง 2 เงอื่ นไข 4 มิติ คืออะไร
7. ครยู กตวั อยา่ งบทความ เรอื่ ง “อย่างนอ้ ยพอเลิกสูบบุหรไ่ี ด้ คนในครอบครวั ก็มคี วามสุข” จาก
เวบ็ ไซต์ สสส. ให้นกั เรียนแตล่ ะคนอ่าน และถอดหลักการของเศรษฐกิจพอเพยี งที่ปรากฏในบทความ รวมท้งั
ให้สมมุตวา่ คนในครอบครวั ติดบหุ ร่ีนักเรยี นจะเสนอวธิ เี ลกิ บหุ รีอ่ ยา่ งไร
8. ครูใหน้ กั เรียนยกตวั อย่างหลกั ธรรมทส่ี ามารถนำมาประยกุ ต์เกยี่ วกบั การเลกิ บุหร่ี โดยครูสุม่
นกั เรยี นออกมานำเสนอกบั เพือ่ นๆ
พชิ ติ บหุ ร่ี
ขัน้ ประเมนิ (Evaluation)
1. ประเมนิ ความรเู้ ก่ยี วกับเรือ่ ง ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส โดยสังเกตพฤตกิ รรมการตอบคำถาม
การทำแบบฝกึ หดั และการสรปุ สาระสำคัญ
2. ประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรจ์ ากการคำนวณหาปริมาณทเี่ กี่ยวข้อง
กับทฤษฎจี ลน์ของแกส๊ ท่ีครกู ำหนดให้ และการนำความรู้ที่ไดไ้ ปใช้ประโยชน์
3. ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยสังเกตพฤตกิ รรมความสนใจใฝ่รูห้ รืออยากรู้
อยากเหน็ การทำงานรว่ มกบั ผู้อน่ื อยา่ งสรา้ งสรรค์
4. ประเมนิ การบรู ณาการจากโปสเตอร์
7. การวดั และประเมินผล
รายการวัด วธิ วี ดั เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
7.1 การประเมนิ ระหว่าง
การจัดกิจกรรม
1) ทฤษฎจี ลน์ - ตรวจใบงานท่ี 2.3 - ใบงานที่ 2.3 - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ของแกส๊ - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝึกหดั - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
2) การนำเสนอ - ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมนิ การ - ระดับคุณภาพ 2
ผลงาน ผลงาน นำเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์
3) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ระดบั คณุ ภาพ 2
ทำงานรายบุคคล การทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์
4) พฤตกิ รรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดบั คณุ ภาพ 2
ทำงานกลุ่ม การทำงานกลมุ่
การทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์
5) คุณลักษณะ - สังเกตความมวี นิ ัย
อนั พึงประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มน่ั - แบบประเมิน - ระดับคุณภาพ 2
ในการทำงาน
คุณลักษณะ ผา่ นเกณฑ์
อันพงึ ประสงค์
8. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 สอ่ื การเรียนรู้
1) หนงั สอื เรียน ฟสิ ิกส์ ม.6 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ความร้อนและทฤษฎจี ลน์ของแกส๊
2) แบบฝึกหัด ฟิสกิ ส์ ม.6 เลม่ 1 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 ความร้อนและทฤษฎจี ลนข์ องแก๊ส
3) ใบงานที่ 2.3 เร่ือง ทฤษีจลนข์ องแก๊ส
4) PowerPoint เรื่อง ทฤษฎีจลนข์ องแกส๊
5) https://www.thaihealth.or.th/Content/16960
8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) หอ้ งเรยี น
2) หอ้ งสมดุ
3) แหล่งขอ้ มลู สารสนเท
ใบงานท่ี 2.3
เรอ่ื ง ทฤษฎีจลนข์ องแก๊ส
คำชแ้ี จง : ให้นกั เรียนตอบคำถามต่อไปนี้
1. แก๊สอะตอมเด่ียวชนิดหน่ึงท่ีอุณหภูมิ 227 องศาเซลเซียส อยากทราบว่า พลังงานจลน์เฉลี่ยของโมเลกุล
ของแก๊สจะมีค่าเท่ากับเท่าใด
2. พลังงานจลน์เฉลี่ยของโมเลกุลของแก๊สอะตอมเดี่ยวชนิดหน่งึ จะลดลงรอ้ ยละเท่าใดจากเดิม หากเดิมแก๊ส
ชนิดน้ีมีอุณหภูมิ 127 องศาเซลเซียส แล้วลดลงเหลือเพียง 27 องศาเซลเซียส
9. บนั ทึกผลหลงั การสอน
1.สรุปผลการเรยี นการสอน
นกั เรยี นท้ังหมด จำนวน.............คน
ผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ จำนวน.............คน คดิ เปน็ ร้อยละ.................
ไม่ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ จำนวน.............คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................
ได้แก่ ...........................................................................................................
• ด้านความรู้ (K)
ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)
ด้านคณุ ลกั ษณะตามตัวชี้วัด (A)
ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
2. ปัญหา/อุปสรรค
3. แนวทางการแก้ไข
ลงชื่อ..................................................
( นายชนิ ภัทธ์ เดชผล )
ตำแหน่ง ครผู ู้ชว่ ย
10. ความเห็นของผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษา
ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรียนรขู้ อง นายชนิ ภทั ธ์ เดชผล แลว้ มีความเหน็ ดังนี้
1. เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี
ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรงุ
2. การจดั กิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
เนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ยังไม่เน้นผ้เู รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป
3. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี
นำไปใชไ้ ดจ้ ริง
ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอื่นๆ
........................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
ลงชื่อ .................................
( นายอรรถพงษ์ เฟ่อื งฟู )
ตำแหน่ง ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นปา่ ซาง