The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by wawapimwalan1506, 2023-09-05 11:59:28

คณิตหลัก 7 9 10 21 29

คณิตหลัก 7 9 10 21 29

รายงานวิชาคณิตศาสตร์ 5 เรื่อง การส ารวจปัจจัยที่ส่งผลความพึงพอใจ ต่อวิชาที่ชอบเรียน นางสาวณัฐพร จุลยาเมือง เลขที่ 7 นางสาวมลธิดา ต่ายสกุลทิพย์ เลขที่ 9 นางสาวโศภิษฐา ฉันนิวัต เลขที่ 10 นางสาวชนิกานต์ ถวิลเมธาวี เลขที่ 21 นางสาวพิมพ์วลัญช์ วงศ์วิจิตรเกษร เลขที่ 29 จัดท าโดย ช้นัม.6/1 เสนอ มิส ธนัฐพร ธรรมโฆษก รายงานน้ีเป็นส่วนหน่ึงของวิชาคณิตศาสตร์5 (ค33101) ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2566 โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์


ค ำน ำ รายงานน้ีเป็นส่วนหน่ึงของวิชาคณิตศาสตร์5 ช้ นัมธัยมศึกษาปีที่6โดยมีจุดประสงคเ์พื่อความรู้ทไี่ดจ้าก การส ารวจปัจจยัที่ส่งผลกบัความพึงพอใจต่อวิชาที่ชอบเรียนของนกัเรียนช้ นัมธัยมศึกษาตอนปลาย ซ่ึงรายงานน้ีมี เน้ ือหาเกี่ยวกบัการศึกษาของนกัเรียน ผู้จัดท าได้เลือกหัวขอ้ในการทา งานน้ีเนื่องจากเป็นเรื่องที่น่าสนใจรวมถึงมีขอบเขตค่อนขา้งกวา้งและตอ้ง ขอขอบคุณมิส ธนัฐพร ธรรมโฆษก ผู้ให้ความรู้ และแนวทางการศึกษา เพื่อนๆน้องๆ ทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือมา โดยตลอด คณะผูจ้ดัทา หวงัเป็นอย่างยิ่ งว่ารายงานฉบบัน้ีจะให้ความรู้และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้อ่าน คณะผู้จัดท ำ


การส ารวจปัจจัยที่ส่งผลกับความพอใจต่อวิชาที่ชอบเรียนของนักเรียนโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ ที่มาและความส าคัญ ในระบบการศึกษาปัจจุบัน รายวิชาศึกษาเป็นปัจจัยที่ส าคัญในการพัฒนาทักษะและองค์ความรู้ของผู้เรียน โดยการได้ทราบถึงรายวิชาที่ชื่นชอบจะส่งผลให้ผู้เรียนได้รับรู้ถึงจุดประสงค์และความหมายของสาระการเรียนรู้ น าไปสู่การศึกษาที่มีเป้าหมายและมีคุณภาพ เพื่อผู้เรียนประสบความส าเร็จตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยระบบการศึกษาในปี2566 เช่นน้ีการจดัการเรียนการสอนรายวิชาอย่างเหมาะสมและครอบคลุมกบั ผู้เรียน จะน าไปสู่การเรียนรู้ที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และท าให้ผู้เรียนได้รับประโยชน์สูงสุดในการศึกษาเล่า เรียน จากข้อมูลที่กล่าวมาท้ งัหมดในขา้งตน้น้ นัทา ให้ทางคณะผูจ้ดัทา มีความสนใจตอ้งการทราบถึงสภาพปัญหา และเหตุผลความชื่นชอบที่มีต่อรายวิชาโดยไดท้า การส ารวจผ่านนกัเรียนในระดบัช้นัมธัยมศึกษาตอนปลายของ โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ ปี การศึกษาที่ จ านวน 105คน วัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสถิติและการน าเสนอข้อมูล 2. เพื่อให้ผูเ้รียนไดต้่อยอดจากความชอบในวิชาที่เรียนไปสู่คณะหรือสาขาในร้ัวมหาวิทยาลยัที่ตอบโจทยก์บั ความชอบและความถนัดของตนเอง ขอบเขตของการศึกษา 1. ศึกษาเกี่ยวกับความชอบรายวิชาของนักเรียนโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ 2. กลุ่มตัวอย่างนักเรียนโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ 105 คน 3. ระยะเวลาในการท างาน เดือนมิถุนายน -กันยายน 2566 วิธีการด าเนินงาน ในการจดัทา รายงานการส ารวจปัจจยัที่ส่งผลต่อความพึงพอใจต่อวิชาที่ชอบเรียนของนกัเรียนช้นัมธัยมศึกษา ตอนปลาย ดงัต่อไปน้ี


ขั้นตอนการด าเนินงาน 1. เริ่มจบักลุ่ม กลุ่มละ5คน 2. คิดหัวข้อที่ผู้จัดท ำสนใจจะศึกษำและน ำเสนอครูที่ปรึกษำ 3. ศึกษำค้นคว้ำข้อมูลและหัวข้อที่ต้องกำรท ำ 4. น ำเสนอหัวข้อให้แก่ครูที่ปรึกษำ 5. แก้ไขในจุดต่ำงๆที่ครูที่ปรึกษำแนะน ำมำ 6. จัดท ำแบบฟอร์มส ำรวจใน Google form ให้แก่ผู้ประเมิน 7. รวบรวมขอ้มูลท้ งัหมดและนำ มำสรุปผล 8. รำยงำนควำมคืบหน้ำให้แกค่รูที่ปรึกษำและนำ ขอ้เสนอแนะมำปรบัแกเ้น้ ือหำให้ถูกตอ้งสมบูรณ์และ น่ำสนใจยิ่ งข้ึน 9. นำ ขอ้มูลท้ งัหมดมำรวบรวมและจดัทำ เอกสำรนำ เสนอในรูปแบบของ E-book วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ หรือโปรแกรมที่ใช้ ได้แก่ 1. แอพพลิเคชนั่ Excelในกำรท ำตำรำง 2. แอพพลิเคชนั่ Microsoft Word ในกำรท ำรูปเล่มรำยงำน 3. แอพพลิเคชนั่ Google ในกำรสร้ำงแบบฟอร์มส ำรวจ 4. iPad ตารางที่ 1 ข้อมูลทั่วไป เกี่ยวกับผู้ตอบแบบสอบถาม ระดับชั้น ม. 4 19 % ม. 5 22.9 % ม. 6 58.1 %


จำกแผนภูมิวงกลม สรุปมำไดว้่ำนกัเรียนช้ นัมธัยมศึกษำปีที่4 จ ำนวน 20คน คิดเป็น 19 เปอร์เซ็นต์ มัธยมศึกษำปี ที่ 5 จ ำนวน 24 คน คิดเป็น 22.9 เปอร์เซ็นต์ และ มัธยมศึกษำปี ที่ 6 จ ำนวน 61 คน คิดเป็น 58.1 เปอร์เซ็นต์ แผนการเรียน วิทยาศาสตร์ - คณิตศาสตร์ 39 % คณิตศาสตร์ - ภาษาอังกฤษ 37.1 % ภาษาอังกฤษ - ภาษาจีน 18.1 % ภาษาอังกฤษ - ฝรั่งเศส 5.7 % จำกแผนภูมิวงกลมจะแบ่งออกเป็นแผนกำรเรียนวิทยำศำสตร์ –คณิตศำสตร์จ ำนวน 41 คน คิดเป็น 39 เปอร์เซ็นต์แผนกำรเรียนคณิตศำสตร์ – ภำษำอังกฤษจ ำนวน 39 คน คิดเป็น 37.1 เปอร์เซ็นต์ภำษำอังกฤษ – ภำษำจีน จ ำนวน 19 คน คิดเป็น 18.1 เปอร์เซ็นต์ ภำษำอังกฤษ –ฝรั่ งเศส จ ำนวน 6 คน คิดเป็น 5.7 เปอร์เซ็นต์


ตารางที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับความชอบรายวิชา วิชำวิทยำศำสตร์ คิดเป็น 16 คน คิดเป็น 15.2 เปอร์เซ็นต์ วิชำคณิตศำสตร์ คิดเป็น 23 คน คิดเป็น 21.9 เปอร์เซ็นต์ วิชำภำษำอังกฤษ คิดเป็น 29 คน คิดเป็น 27.6 เปอร์เซ็นต์ วิชำสังคม และประวัติศำสตร์ คิดเป็น 10 คน คิด เป็น 9.5 เปอร์เซ็นต์ วิชำศิลปะ นำฏศิลป์ พละศึกษำ คิดเป็น 15 คน คิดเป็น 14.4 เปอร์เซ็นต์ และอื่นๆ คิดเป็น 12 คน คิด เป็น 11.5 เปอร์เซ็นต์ รายวิชาที่ชอบ วิทยาศาสตร์ (ฟิ สิกส์ เคมี ชีวะวิทยา) 15.2 % คณิตศาสตร์ 21.9 % ภาษาอังกฤษ 27.6 % สังคมศึกษา และประวัติศาสตร์ 9.5 % ศิลปะ นาฏศิลป์ พละศึกษา 11.5% อื่นๆ 14.4 %


ตารางที่ 3 ปัจจัยที่มีผลต่อความชอบรายวิชา ปัจจัยที่มีผลต่อควำมชอบรำยวิชำ ส่วนใหญ่มีควำมถี่อยู่ที่ มีวิชำเรียนตำมควำมเหมำะสม ร้อยละ 47.62 จ ำนวน นักเรียนเหมำะสมในแต่ละห้อง ร้อยละ 44.76 กำรเรียนกำรสอนทวั่ถึงร้อยละ40.95 มีกำรจดักิจกรรมให้ผูเ้รียนได้ เรียนรู้จำกประสบกำรณ์จริง ร้อยละ 39.05 มีครูหรือเจ้ำหน้ำที่ท ำหน้ำที่แนะแนวกำรศึกษำโดยเฉพำะ ร้อยละ 42.86 โรงเรียนมีกำรจัดกลุ่มกำรเรียนโดยให้นักเรียนมีโอกำสเลือกเรียนตำมควำมสนใจเพื่อประกอบอำชีพ ร้อยละ 42.86 โรงเรียนมีกำรจดัทำ ตำรำงเรียนที่ชดัเจนให้นกัเรียน ร้อยละ48.57 โรงเรียนจดัเน้ ือหำสำระและกิจกรรมให้สอดคลอ้ง กบัควำมสนใจของนกัเรียนท้ งัดำ้นทกัษะและกระบวนกำร รอ้ยละ40 มีกำรจดักิจกรรมส่งเสริมพฒันำดำ้นคุณธรรม และจริยธรรม ร้อยละ 40.95 ครูผู้สอนเปิ ดโอกำสให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกำรสอน ร้อยละ 41.9 มีกำรจัดครูเข้ำสอน พิเศษโดยคำ นึงถึงควำมสำมำรถและควำมถนดัของนกัเรียน รอ้ยละ40.95 โรงเรียนมีกำรแนะแนววิชำควำมรู้เพิ่ มเติม เพื่อให้นักเรียนสำมำรถไปใช้ได้ในอนำคต ร้อยละ 43.81 มีกำรจัดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนำด้ำนควำมรับผิดชอบต่อสังคม ร้อยละ 37.14 ครูมีกำรใช้สื่อที่หลำกหลำยในกำรสอน ร้อยละ 46.67 โรงเรียนมีกำรจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมทำงด้ำนกำร แข่งขันในระดับประเทศ ร้อยละ 45.71


สรุปผลและข้อเสนอแนะ จากการสา รวจปัจจยัที่ส่งผลความพึงพอใจตอ่วิชาที่ชอบเรียนของนกัเรียนระดบัช้ นัมธัยมศึกษาตอนปลาย จากนกัเรียนท้ งัหมด 105คน แบ่งเป็นช้ นัมธัยมศึกษาปีที่4 จ านวน 20 คน คิดเป็ น 19% ช้ นัมธัยมศึกษาปีที่5 จ านวน 24 คน คิดเป็ น 22.9% และ ช้ นัมธัยมศึกษาปีที่6 จ านวน 61 คน คิดเป็ น 58.1% และแบ่งออกเป็นแผนการ เรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ จ านวน 41 คน คิดเป็ น 39% แผนการเรียนคณิตศาสตร์-ภาษาอังกฤษ จ านวน 39 คน คิดเป็ น 37.1% แผนการเรียนภาษาอังกฤษ-ภาษาจีน จ านวน 19 คน คิดเป็ น 18.1% แผนการเรียนภาษาอังกฤษภาษาฝรั่ งเศส จ านวน 6 คน คิดเป็ น 5.7% โดยมีรายวิชาที่ชื่นชอบแบ่งเป็น วิชาวิทยาศาสตร์15.2% วิชาคณิตศาสตร์ 21.9% วิชาภาษาอังกฤษ 27.6% วิชาสังคมและประวัติศาสตร์ 9.5% วิชาศิลปะ ดนตรี พละ 11.5% อื่นๆอีก 14.4% และปัจจยัที่มีผลต่อความชอบรายวิชา ส่วนใหญ่มีความถี่อยทู่ ี่ มีวิชาเรียนตามความเหมาะสม ร้อยละ 47.62 จา นวนนกัเรียนเหมาะสมในแต่ละห้องร้อยละ44.76 การเรียนการสอนที่ทวั่ถึงร้อยละ40.95 มีการกิจกรรมให้ ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ร้อยละ 39.05 มีครูหรือเจ้าหน้าที่ท าหน้าที่แนะแนวการศึกษาโดยเฉพาะ ร้อย ละ42.86 โรงเรียนมีการจดักลุ่มการเรียนโดยให้นกัเรียนมีโอกาสเลือกเรียนตามความสนใจเพื่อประกอบอาชีพ


ร้อยละ42.86 โรงเรียนมีการจดัทา ตารางเรียนที่ชดัเจนให้นกัเรียน ร้อยละ48.57 โรงเรียนจดัเน้ ือหาสาระและ กิจกรรมให้สอดคลอ้งกบัความสนใจขอดงนกัเรียนท้ งัดา้นทกัษะและกระบวนการร้อยละ40 มีการจดักิจกรรม ส่งเสริมพฒันาดา้นคุณธรรมและจริยธรรม ร้อยละ40.95 ครูผสู้อนเปิดโอกาสให้นกัเรียนมีส่วนร่วมในการสอน ร้อยละ 41.9 มีการจัดครูเข้าสอนพิเศษโดยค านึงถึงความสามารถและความถนัดของนักเรียน ร้อยละ 40.95 โรงเรียนมีการแนะแนววิชาความรู้เพิ่ มเติมเพื่อให้นกัเรียนสามารถไปใชไ้ดใ้นอนาคต ร้อยละ43.81 มีการจดั กิจกรรมส่งเสริมพฒันาดา้นความรับผิดชอบต่อสงัคม ร้อยละ37.14 ครูมีการใชส้ื่อที่หลากหลายในการสอน ร้อย ละ 46.67 โรงเรียนมีการจดักิจกรรมที่ส่งเสริมทางดา้นการแข่งขนัในระดบั ประเทศร้อยละ45.71 ดงัน้นั โรงเรียน มีการจัดท าตารางเรียนที่ชัดเจนให้นักเรียน เป็ นปัจจัยที่มีผลมากที่สุด


ภาคผนวก


ตัวอย่างแบบสอบถาม


Click to View FlipBook Version