มัทนะพาธา
บทละครพดู คาฉันท์
เรือ่ ง มทั นะพาธา
ผ้แู ต่ง
พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกล้าเจา้ อยู่หวั (รชั กาลท่ี ๖)
ลักษณะคาประพันธ์
ใช้คาประพนั ธ์หลายชนิดแตเ่ นน้ แต่งดว้ ยฉันท์
- บางตอนใช้กาพยย์ านี กาพย์ฉบังและกาพย์สรุ างคนางค์
- บทเจรจาร้อยแกว้ ในสว่ นของตวั ละครทไี่ ม่สาคญั
- บางตอนต้องการจงั หวะเสยี งและความคล้องจองก็ใช้กาพย์
- บางตอนต้องการทเ่ี น้นอารมณม์ ากกม็ ักจะใช้ฉันท์
ความเปน็ มา
มทั นะพาธาเป็นบทละครพูดคาฉนั ท์ ๕ องค์ พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎ
เกลา้ เจา้ อย่หู วั ไดเ้ ร่มิ ทรงพระราชนิพนธ์เมอ่ื วนั ที่ ๒ กนั ยายน ๒๔๖๖ ขณะทรง
พระประชวรและประทับอยู่ ณ พระราชวังพญาไท ตอ่ มาเมือ่ เสด็จพระราชดาเนิน
ประทับแรมตามทต่ี ่าง ๆ ก็ได้ทรงพระราชนพิ นธ์เรื่องมัทนะพาธาไปดว้ ยจนจบ
สมบรู ณ์ เมื่อวนั ที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๖ นบั ได้ว่าใชไ้ ดเ้ วลาพระราชนพิ นธเ์ พียง
๑ เดือน ๑๗ วันเท่าน้ัน
ความเปน็ มา
ตอ่ มาในเดือนมกราคม ๒๔๖๗ ไดท้ รงแปลบทละครพดู คาฉนั ท์เร่อื งมทั นะ
พาธาเปน็ รอ้ ยแก้วภาษาอังกฤษ พร้อมด้วยอภิธานศพั ท์ เม่ือทรงแปลเสรจ็ ในเดือน
พฤษภาคม ๒๔๖๘ กไ็ ด้พระราชทานแก่ กรมหมื่นทิพยลาภพฤฒิยากร เพื่อให้
พิจารณาทูลเกล้าฯ ถวายความเหน็ มัทนะพาธา เป็นบทละครพูดทพ่ี ระบาทสมเด็จ
พระมงกฏุ เกล้าเจ้าอยู่หัวทรงคดิ เรือ่ งขนึ้ เอง ไม่ไดน้ าเนอื้ เรอ่ื งหรือตัดตอนมาจาก
เรอื่ งใด (โดยสมมุตวิ ่าเกิดในอนิ เดยี โบราณ)
ความเป็นมา
โดยทรงพยายามหาคาบาลีสนั สกฤตสาหรบั ชอ่ื ดอกกหุ ลาบ
พระสารประเสริฐ (ตรี นาคะประทปี ) ค้นได้ศพั ท์ภาษาสนั สกฤตวา่
“กพุ ชฺ ก” แตไ่ ด้ทรงพระราชวินจิ ฉัยวา่ ถา้ จะใหเ้ ป็นชอ่ื นางเอกอาจตอ้ ง
เปล่ยี นเสียงพยางคห์ ลงั เปน็ “กพุ ชฺ กา” ซ่ึงมีเสียงนา่ ฟงั แต่จะไปตรงกบั
ศพั ทท์ ี่แปลว่า “นางคอ่ ม”
ความเปน็ มา
จงึ ทรงเลือกใชค้ าว่า “มทั นา” เป็นช่ือนางเอก มัทนา มาจาก
“มทน” แปลวา่ “ความลุ่มหลงหรอื ความรัก” เมอื่ ทรงพบศัพท์
“มทนพาธา” จากพจนานุกรมสนั สกฤต ซึ่งมคี วามหมายวา่ “ความเจ็บ
หรอื เดอื ดรอ้ นแหง่ ความรกั ” ซึ่งตรงกบั แกน่ เร่อื งของบทละครเรอื่ งนี้
จึงใช้ชอื่ ว่า มทั นะพาธาหรือตานานแหง่ ดอกกุหลาบ
แก่นของเร่ือง
ความเจ็บปวดหรอื ความเดือดรอ้ นแห่งความรกั
ภาคสวรรค์
กลา่ วถงึ “สเุ ทษณ”์ เทพบุตรบนสรวงสวรรคเ์ ปน็ ทุกขด์ ว้ ย
หลงรักนางฟ้า “มัทนา” แต่นางไมร่ กั ตอบสุเทษณใ์ หว้ ทิ ยาธร
ช่อื “มายาวิน” ใช้เวทยม์ นตรเ์ รยี กนางมทั นาใหม้ าหา
เมอ่ื นางมัทนามาถึงแลว้ นางก็เหม่อลอยไมม่ ีสตเิ พราะตก
อยใู่ นฤทธ์มิ นตรา สเุ ทษณม์ ติ อ้ งการไดน้ างด้วยวธิ ีนี้จึงให้
มายาวนิ คลายมนตร์ให้เปน็ เชน่ เดิม
มายาวินคลายมนตร์ให้กบั มัทนา เมื่อนางมทั นาไดส้ ติ
นางมทั นากป็ ฏิเสธสุเทษณ์ สเุ ทษณ์ทาอยา่ งไรนางกไ็ มย่ อมรบั
รักตน สุเทษณจ์ ึงโกรธนางมทั นามาก
สเุ ทษณจ์ ึงสาปนางใหไ้ ปเกิดในโลกมนุษย์ นางจึงขอให้ไป
เกิดเปน็ ดอกไมม้ ีกล่นิ หอมและไม่เคยปรากฏบนโลกมนษุ ย์
มายาวินจงึ บอกว่า ดอกไม้นั้นเรียกวา่ ”ดอกกพุ ชะกะ”
สเุ ทษณจ์ ึงสาปใหไ้ ปเกิดเปน็ “ดอกกุหลาบ” ท่งี ามท้ังกลน่ิ
งามทงั้ รูป และมีแต่เฉพาะบนสวรรค์เท่าน้ัน โดยทใี่ นทกุ ๆ หน่ึงเดือน
นางจะกลายร่างเปน็ คนได้ช่ัว ๑ วัน ๑ คนื เฉพาะวันเพ็ญ
ของแต่ละเดือนเทา่ น้ัน
หากนางมัทนามรี ักแท้เมื่อใด นางจะกลบั ไปเปน็ มนุษย์ตลอดกาล
แต่หากนางไดร้ ับความทกุ ข์ทรมานเพราะความรัก จนมิอาจทนอย่ไู ด้
และเมือ่ นั้นหากนางออ้ นวอนขอความช่วยเหลอื ตน ตนจงึ จะยกโทษ
ทัณฑ์นใ้ี ห้แก่นาง
ภาคพ้ืนดนิ
ณ กลางป่าหมิ พานต์
นางมทั นาไปจตุ เิ ปน็ ดอกกหุ ลาบดอก
ใหญส่ แี ดง ชชู อ่ สวยงาม ส่งกล่ินหอม
ไปทว่ั ป่า
วันหน่ึงมีลกู ศิษยข์ องพระฤาษีกาละทรรศินมาพบ จึงนาไปแจง้
ใหฤ้ าษีกาละทรรศนิ ทราบวา่ พบดอกไม้งามกลางป่า
ฤาษีกาละทรรศินจึงสง่ั ใหล้ กู ศิษยไ์ ปขดุ มาปลกู ไวท้ อี่ าศรมของตน
ขณะท่ีขดุ ก็มเี สยี งผหู้ ญงิ ร้อง ฤาษีเลง็ ญาณดูก็รูว้ า่ เป็นเทพธิดามาจตุ ิ
จึงได้เอ่ยเชญิ และสัญญาว่าจะคอยดูแลปกป้องนาง
ลูกศษิ ย์จึงลองขุดตน้ กุหลาบอีกคร้งั
แลว้ นามาปลูกไว้ทีอ่ าศรมของ
พระฤาษีกาละทรรศนิ
เมอ่ื ถงึ วันเพญ็ ดอกกุหลาบกลายเป็นมนษุ ย์
ฤาษีกเ็ ลี้ยงดนู างเหมือนลูก
กล่าวถงึ ท้าวชัยเสน กษตั ริย์หนมุ่ แหง่ เมืองหสั ตินาปรุ ะ
ได้เสดจ็ ประพาสป่ามากับเหล่าทหารและศภุ างค์องครักษค์ นสนิท
ในคนื วนั เพญ็ ท้าวชัยเสนเสด็จมาถงึ ป่าหมิ พานตแ์ ละได้แวะ
มาพกั ท่ีอาศรมของฤาษี
เมื่อเหน็ นางมทั นาก็ตกหลมุ รกั ข้นึ ทนั ที
ในกลางดึกพระชัยเสนออกมาหน้าอาศรม ทอดพระเนตรเหน็
นางมัทนา ยิง่ เกิดความรักย่ิง
พระชยั เสนจึงทรงประกาศหมัน้ และประกาศคาสญั ญารกั
ณ ริมฝัง่ ลาธารใกลอ้ าศรมนัน้
เมอ่ื นางมัทนามคี วามรกั ก็คงรปู เป็นนารีผ้งู ดงาม ไมต่ อ้ งกลาย
รปู เป็นกหุ ลาบอกี ท้าวชยั เสนไดท้ ูลขอนางมทั นาจากฤาษี ฤาษีจึง
จดั พิธสี มรสให้ ทง้ั ๆ ที่รูว้ ่านางจะตอ้ งทนทกุ ข์เพราะความรกั
ท้าวชยั เสนพานางมัทนาไปยงั เมอื งของตน พระนางจณั ฑี
มเหสีของท้าวสยั เสนใหน้ างกานลั มาสืบดูจนรวู้ า่ พระสวามี
ของตนไดพ้ าสาวชาวปา่ มาดว้ ย จึงตามมาพบทา้ วชัยเสนเหน็ วา่
กาลังอยู่กับนางมัทนา พระนางจณั ฑีจงึ กล่าวดูหมิน่ นางมัทนา
ทา้ วชยั เสนกก็ ริว้ และทรงดดุ า่ ว่าเป็นมเหสีผู้รษิ ยา
พระนางจนั ฑแี คน้ ใจ จงึ ให้นางค่อมอราลสี ่งสารไปทลู ฟ้อง
พระบดิ าผเู้ ป็นเจ้าแหง่ มคธนครให้ยกทัพมาทาศกึ กับทา้ วชัยเสน
ทา้ วชัยเสนกับทา้ วมคธมาเผชญิ หน้ากนั สงครามแหง่ ศักดิศ์ รี
จงึ เร่ิมขนึ้ แตฝ่ ่ายทา้ วชัยเสนได้เปรียบทางสงครามในครงั้ น้ีมาก
เมอ่ื พระนางจัณฑีทรงทราบข่าววา่ บิดาใกล้แพศ้ ึกในครัง้ นี้ จึงวางแผนให้
นางค่อมสง่ สารไปแจง้ ท้าวชยั เสนว่ามัทนาป่วยหนกั ท้าวชัยเสนจงึ รีบ
กลับไปหานางมัทนา
ขณะเดียวกนั นางจณั ฑีได้ส่งสารลวงอีกฉบบั นึงไปนางมัทนาบอกวา่
ทา้ วชัยเสนประชวรหนกั นางมัทนาจึงปลอมตวั ไปหาทา้ วชัยเสนทค่ี ่าย
แต่กลบั พบกับสุภางค์ สภุ างค์จึงรีบพามทั นากลบั วัง
พระนางจณั ฑีใหพ้ ราหมณว์ ทิ รู ไปนั่งประกอบพธิ กี รรมใต้ต้นไม้
ในอุทยานหลวง เมื่อทา้ วชยั เสนมาพบ ข้าหลวงเกศินจี งึ รบี กราบทลู วา่
พระนางมัทนากาลงั ทาเสนห่ ใ์ ห้องครักษ์ศภุ างค์มาหลงรัก
นางเกศินีขา้ หลวงของนางจณั ฑจี ึงทลู วา่ นางมทั นารกั กับ “ศุภางค”์
ทหารเอกของท้าวชัยเสน ทา้ วชยั เสนหลงเช่ือ จงึ สัง่ ใหป้ ระหารนางมัทนา
กับศภุ างค์ คาพิพากษาของท้าวชยั เสนสรา้ งความเจ็บช้าแก่มทั นายงิ่ นกั
เมือ่ พระบิดาของพระนางจัณฑียกทัพมา พระนางจัณฑจี ึงรบี เขา้ มาทูลทา้ วชัยเสน
และอาสาออกไปหา้ มศกึ พระบิดา แต่ทา้ วชัยเสนรู้ทนั อบุ ายของนาง พระองค์จึงออก
ทาศึกและตดั หัวกษตั รยิ ม์ คธพอ่ ตาเอามาใหน้ างจัณฑี
ขณะต้ังค่ายอย่ทู นี่ อกเมือง วทิ ูรพราหมณเ์ ฒา่ ได้มาขอเขา้ เฝ้า
ท้าวชยั เสน เพือ่ สารภาพวา่ พระนางจณั ฑีเปน็ ผ้วู างแผนการร้าย
ซง่ึ ในทส่ี ุดแลว้ ตนสานกึ ผิดและละอายตอ่ บาปท่ีเป็นเหตใุ หค้ น
บรสิ ุทธ์ติ อ้ งไดร้ ับโทษประหาร
ท้าวชัยเสนทราบความจรงิ แลว้ คดิ จะฆา่ ตัวตายแตอ่ ามาตยน์ นั ทิวรรธนะ
เขา้ ห้ามไว้ และสารภาพวา่ ในคืนเกดิ เหตนุ ัน้ ตนไมไ่ ด้ประหารสภุ างค์และ
นางมันนา แตไ่ ดป้ ล่อยเขา้ ป่าไป
นางมทั นาน้ันไดโ้ สมะทัตลูกศิษย์ของฤาษกี าละทรรศนิ
นากลับส่อู าศรมดังเดิม ส่วนสุภางค์น้ันตายในสนามรบ
เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม
ท้าวชัยเสนโกรธแค้นพระนางจัณฑีมากจึงสั่ง
เนรเทศออกจากเมอื ง
ฝ่ายนางมัทนาน้นั ไดท้ าพิธบี ชู าสเุ ทษณเ์ ทพบุตร
เพื่อให้ช่วยนาง
สุเทษณน์ น้ั กย็ ินดจี ะแก้คาสาปและรับนางมัทนามา
เปน็ มเหสี แตน่ างมัทนาปฏิเสธ สุเทษณจ์ งึ สาปนาง
มทั นาให้เป็นดอกกุหลาบไปตลอดกาล
เมื่อทา้ วชยั เสนตามนางมัทนามาถงึ ในปา่
นางประรยิ มั วะทาทาสทตี่ ามมาปรนนบิ ตั ดิ แู ลนางมทั นาจงึ
ได้เข้าทูลเลา่ เหตกุ ารณ์ที่เกิดขนึ้ กบั นางมัทนาให้ทา้ วชยั เสน
ทราบ
ทา้ วชัยเสนเสยี พระทัยมาก
จงึ ขอให้พระฤาษีชว่ ยใช้มนตราและ
กลา่ วเชิญนางมัทนาซึ่งกลายเป็น
ดอกกุหลาบใหย้ ินยอมกลบั วงั ไป
กับตน
เมือ่ ฤาษีทาพิธีแล้ว ท้าวชัยเสนไดน้ า
ต้นกุหลาบกลบั ไปปลูกในอุทยานและ
ขอใหฤ้ าษีกาละทรรศนิ ใหพ้ รวิเศษวา่ ให้
กุหลาบยังคงงดงามตราบจนกวา่ ตนจะ
สนิ้ อายุขัย
ฤาษีประสาทพรให้กุหลาบนนั้ ดารงอยู่คู่
โลกไมม่ สี ูญพนั ธ์ุ อกี ทง้ั ยังเป็นไม้ดอกที่
มีกลน่ิ หอมหวาน สามารถช่วยดบั ทกุ ข์
ในใจคน ชายหญิงเมื่อมคี วามรกั กใ็ ห้ใช้
ดอกกหุ ลาบเป็นสญั ลกั ษณ์แห่งความ
รักสืบต่อไป