The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by katbnk48, 2021-12-28 02:18:46

21377_0

21377_0

สถาบนั คลงั สมองของชาติ

การเชอื่ มงานวจิ ยั สกู่ ารใชป้ ระโยชนเ์ ชงิ นโยบาย

การประชมุ วชิ าการดา้ นเศรษฐศาสตรเ์ กษตร เศรษฐศาสตรท์ รพั ยากร
เศรษฐศาสตรอ์ าหาร และธรุ กจิ เกษตร ครง้ั ที่ 7

เรอ่ื งการขบั เคลอ่ื น BCG ความทา้ ทายและบทบาทใหมข่ องเศรษฐศาสตรเ์ กษตรไทย
วนั ที่ 17 มกราคม 2563 เวลา 13.00-13.45 น. ณ โรงแรมฟรู ามา่ เชยี งใหม่

รศ.สมพร อศิ วลิ านนท์
สถาบนั คลงั สมองของชาติ

Email address: [email protected]

การประชมุ วชิ าการดา้ นเศรษฐศาสตรเ์ กษตร เศรษฐศาสตรท์ รพั ยากร เศรษฐศาสตรอ์ าหาร และธรุ กจิ เกษตร
ครงั้ ท่ี 7 เรอื่ งการขบั เคลอื่ น BCG ความทา้ ทายและบทบาทใหมข่ องเศรษฐศาสตรเ์ กษตรไทย
วนั ท่ี 17 มกราคม 2563 เวลา 13.00-13.45 น. ณ โรงแรมฟรู ามา่ เชยี งใหม่

หวั ขอ้ การนาเสนอ
1. The Know-Do-Gap: between Research

and Policy
2. Policy Brief เครอ่ื งมอื สอ่ื สารสรา้ งทางเลอื กเชงิ

นโยบาย
3. การใชป้ ระโยชน์ Policy Brief สกู่ ารสรา้ ง

ผลลพั ธแ์ ละผลกระทบ

2

การประชมุ วชิ าการดา้ นเศรษฐศาสตรเ์ กษตร เศรษฐศาสตรท์ รพั ยากร เศรษฐศาสตรอ์ าหาร และธุรกจิ เกษตร
ครงั้ ท่ี 7 เรอ่ื งการขบั เคลอ่ื น BCG ความทา้ ทายและบทบาทใหมข่ องเศรษฐศาสตรเ์ กษตรไทย
วนั ที่ 17 มกราคม 2563 เวลา 13.00-13.45 น. ณ โรงแรมฟรู ามา่ เชยี งใหม่

1. The Know-Do-Gap: between Research
and Policy

3

ทาไมงานวจิ ยั จงึ ไมส่ ง่ ผลเชอื่ มโยงสนู่ โยบาย
Research evidence is not relevant (production).
Research evidence is not easy to use (translation).

4

ทาไมงานวจิ ยั จงึ ไมส่ ง่ ผลเชอ่ื มโยงสนู่ โยบาย
Research results are not available at timely manner.

 The divide between researchers and policy makers.

ขอ้ ปญั หานาไปสชู่ อ่ งวา่ งความรแู้ ละการนาไปใชป้ ฎบิ ตั ิ

6

ใครคอื กลมุ่ ผกู้ าหนดนโยบาย (Who are the Policy
Makers?)

7

 ชอ่ งวา่ งทเ่ี กดิ กบั กลมุ่ ผคู้ นทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การตดั สนิ ใจ
เชงิ นโยบาย

เหตผุ ล 4 ประการทเ่ี ป็ นชอ่ งวา่ ง(Know-do gap)ในกลมุ่
คนทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั การตดั สนิ ใจเชงิ นโยบาย

Don’t know – that the information exists, or
what action to take, or

Don’t understand – the information, what it
means, why it is important, or
Don’t care – see the information as irrelevant,
not beneficial to their agenda, or
 Don’t agree – think the information is
misguided or false.

Source: The Knowledge Translation Toolkit Bridging the Know-Do Gap: A Resource for Researchers edited by Gavin Bennett and Nasreen 8
Jessani, IDRC; https://idl-bnc-idrc.dspacedirect.org/bitstream/handle/10625/46152/IDL-46152.pdf

ความหลากหลายปจั จยั ทม่ี ผี ลในกระบวนการนโยบาย
 การจัดทานโยบายมคี วามสลบั ซบั ซอ้ น (complexity) ใน
มติ ติ า่ งๆของปัจจัยทเี่ ป็ นองคป์ ระกอบ

9

ทาอยา่ งไรจะใหข้ อ้ คน้ พบ(Evidence) จากงานวจิ ยั
นาไปสกู่ ารใชป้ ระโยชนเ์ ชงิ นโยบาย

10

 Effort to Bridge the Know-Do Gap
Research-policy initiative.
Supporting use of research evidence or policy.
Participatory Action research (การวจิ ัยแบบมสี ว่ นรว่ ม).

Evidence Vs Democracy: what are
we doing to bridge the divide?

11

 Effort to Bridge the Know-Do Gap(ตอ่ )

12

ชอ่ งทางการสอื่ สารเชงิ นโยบายสู่ Policy-Makers

13

กลไกการขบั เคลอ่ื นงานเชงิ นโยบายดา้ นสขุ ภาพ
ของ HITAP

14

การพฒั นาขดี ความสามารถของบคุ คลากรกลมุ่ ตา่ งๆ
เพอ่ื สรา้ งภาคหี นุ้ สว่ นในการพฒั นาขอ้ มลู และใชข้ อ้ มลู

15

การพฒั นาโครงสรา้ งพน้ื ฐานการวจิ ยั เพอื่ สนบั สนนุ
ขอ้ ความรใู้ นการจดั ทาการประเมนิ ความคมุ้ คา่

16

การเชอื่ มตอ่ งานวจิ ยั สนู่ โยบายมรี ปู แบบทง้ั direct
influence และ indirect influence

งานวจิ ัย “การประเมนิ ความคมุ ้ คา่ เพอื่ สนับสนุนการพัฒนาชดุ สทิ ธิ
ประโยชน์ ระบบประกนั สขุ ภาพถว้ นหนา้ ” ของ HITAP

ทม่ี า: ปิยะทัศน์ พาฬอนุรักษ์ (2561) สงั เคราะหจ์ ากโครงการประเมนิ เทคโนโลยแี ละนโยบายดา้ นสขุ ภาพ(HITAP)”

การประชุมวชิ าการดา้ นเศรษฐศาสตรเ์ กษตร เศรษฐศาสตรท์ รพั ยากร เศรษฐศาสตรอ์ าหาร และธรุ กจิ เกษตร
ครงั้ ท่ี 7 เรอื่ งการขบั เคลอื่ น BCG ความทา้ ทายและบทบาทใหมข่ องเศรษฐศาสตรเ์ กษตรไทย
วนั ท่ี 17 มกราคม 2563 เวลา 13.00-13.45 น. ณ โรงแรมฟรู ามา่ เชยี งใหม่

2. Policy Brief เครอ่ื งมอื สอ่ื สารทางเลอื กเชงิ
นโยบาย

18

บทสรปุ เชงิ นโยบาย(Policy Brief)หมายถงึ อะไร?
A form of report designed to facilitate policy-making
( Eisele, 2006) or a clear massage tailored for policy
audience(Young and Quinn, 2007).
เป็ นเอกสารสรปุ ทม่ี เี นอ้ื หากระชบั ชดั เจนเนน้ ถงึ ขอ้ ประเด็น
สาคญั ทต่ี อ้ งการสอื่ สารสรา้ งความสนใจเชงิ นโยบายตอ่
ผเู ้ กยี่ วขอ้ งและขอ้ เสนอแนะทดี่ าเนนิ การได(้ actionable)

19

บทสรปุ เชงิ นโยบาย(Policy Brief) เป็ นการสงั เคราะห์
สรปุ ประเด็นเชงิ นโยบายจากงานวจิ ยั

20

Policy brief ใชท้ าอะไร( What should a policy
brief do?)

Provide enough background for the reader to
understand the problem; เลา่ ทมี่ าของปัญหาใหผ้ อู ้ า่ นเขา้ ใจ
Convince the reader that problem must be addressed
urgently; โนม้ นา้ วใหเ้ ห็นวา่ ปัญหานัน้ จาเป็ ตอ้ งแกไ้ ขเร่งดว่ น
Provide information about alternatives or provide
evidence to support alternatives; ชที้ างเลอื กเชงิ นโยบาย
Stimulate the reader to make a decision; กระตนุ ้ ใหเ้ กดิ

การตดั สนิ ใจ.
Executive Summary ตา่ งไปจาก Policy Brief

21

เป้ าประสงคข์ องการจดั ทา Policy Brief
เป็ นเครอ่ื งมอื เพอ่ื การสอ่ื สารขอ้ ประเด็นในเรอื่ งใดเรอื่ งหนงึ่
และทางเลอื กเชงิ นโยบายจากงานวชิ าการ/งานวจิ ัย เพอ่ื
นาเสนอใหก้ บั ผเู ้ กย่ี วขอ้ งไดร้ ับรแู ้ ละผลกั ดันใหเ้ กดิ เป็ นนโยบาย

The main purpose is to “succinctly evaluate policy

option regarding a specific issues, for a specific policy-
maker audience” ( Eisele, 2006)
22

จดั ทา Policy Brief เพอื่ Policy Audiences กลมุ่ ไหน

กลมุ่ บคุ คลทเ่ี ป็ น non-specialists แตม่ บี ทบาทและ
หนา้ ทสี่ าคญั เกย่ี วขอ้ งกบั การนาเสนอความคดิ เห็นเรอื่ งราว
ในประเด็นทน่ี าเสนอ เชน่ เลขานุการรัฐมนตรี เป็ นตน้
ทป่ี รกึ ษา คณะทางาน ทท่ี าหนา้ ทใ่ี นการจัดทารา่ ง
แนวนโยบายเสนอแนะตอ่ ประธานคณะกรรมการตา่ งๆ ที่
จัดตงั้ ขน้ึ และหรอื ตอ่ คณะรัฐมนตรี
ผตู ้ ดั สนิ ใจเชงิ นโยบาย(นักการเมอื ง รัฐมนตร)ี
Policy Analysist
นักสอื่ สารมวลชนตา่ งๆ อน่ื ๆ

23

 รปู แบบเอกสารทผี่ ตู้ ดั สนิ ใจเชงิ นโยบายตอ้ งการ
เนอ้ื หาทป่ี รากฏในเอกสารมคี วามเกย่ี วขอ้ งกบั แนวทางท่ี
ตอ้ งการสรา้ งการเปลย่ี นแปลงขน้ึ กบั ประชากรเป้าหมายและ
คณุ ประโยชนห์ รอื คณุ คา่ ทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ หากไดม้ กี ารนาไปใช ้

24

 รปู แบบเอกสารทผี่ ตู้ ดั สนิ ใจเชงิ นโยบายตอ้ งการ(ตอ่ )
เนอื้ หาของเอกสารมคี วามกระชบั ไดใ้ จความชดั เจน สามารถ
ใชเ้ วลาชว่ งสนั้ ๆในการตดิ ตามทาความเขา้ ใจไดง้ า่ ย

Source: FAO ( 2019) 25

 รปู แบบเอกสารทผี่ ตู้ ดั สนิ ใจเชงิ นโยบายตอ้ งการ(ตอ่ )
ปรากฎหลักฐานเชงิ ประจักษ์ ชดั เจนในประเด็นขอ้ ปัญหาและ
ทางเลอื กเชงิ นโยบายทไ่ี ดน้ าเสนอ

26

 รปู แบบเอกสารทผี่ ตู้ ดั สนิ ใจเชงิ นโยบายตอ้ งการ(ตอ่ )
มขี อ้ มลู ทด่ี สี นับสนุนใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลง: ในขอ้
กฎหมาย หรอื ขอ้ บงั คบั , public health policy, organization
practice เป็ นตน้

27
27

สงิ่ ทพี่ งึ ตระหนกั ถงึ ในการจดั เตรยี ม Policy brief

28

 กรอบขอ้ ประเด็นทไ่ี มค่ วรละเลยในการเตรยี มPolicy
Brief

29

The RAPID Framework: Context, Evidence and
Links

30

 Policy Brief Main Text: แนวคดิ ในการจดั เตรยี ม

การใชต้ รรกะอธบิ ายเชอ่ื มโยงใหเ้ ห็นถงึ ความเป็ นเหตเุ ป็ นผล องิ
ขอ้ มลู เชงิ ประจักษ์ เนอ้ื หากระชบั
โดยชใ้ี หเ้ ห็นขอ้ ประเด็นปัญหาอนั นาไปสคู่ วามลม้ เหลวทเี่ กดิ ขนึ้

ภายใตน้ โยบายทเ่ี ป็ นอยเู่ ดมิ คอื อะไร?
ประเด็นดงั กลา่ วไดส้ รา้ งผลกระทบอยา่ งไร?
Policy ทเ่ี ป็ นทางเลอื กใหมส่ รา้ งผลดอี ยา่ งไร?
31

การประชมุ วชิ าการดา้ นเศรษฐศาสตรเ์ กษตร เศรษฐศาสตรท์ รพั ยากร เศรษฐศาสตรอ์ าหาร และธรุ กจิ เกษตร
ครง้ั ที่ 7 เรอ่ื งการขบั เคลอื่ น BCG ความทา้ ทายและบทบาทใหมข่ องเศรษฐศาสตรเ์ กษตรไทย
วนั ท่ี 17 มกราคม 2563 เวลา 13.00-13.45 น. ณ โรงแรมฟรู ามา่ เชยี งใหม่

3. การใชป้ ระโยชน์ Policy Brief สกู่ ระบวนการสรา้ ง
ผลลพั ธแ์ ละกระทบ

32

Policy Brief เป็ นกลไกขบั เคลอ่ื นขยายผลใหเ้ กดิ การ
ตดั สนิ ใจสกู่ ารเปลย่ี นแปลงเชงิ นโยบาย

ใชเ้ ป็ นกลไกขบั เคลอื่ นขา่ วสารหรอื ขอ้ ความรเู ้ ชงิ นโยบายจากงาน
วชิ าการเพอ่ื ใหไ้ ดร้ ับการตอบสนองจากผจู ้ ัดทานโยบายและเกดิ ผลลพั ธ์
และผลกระทบในทางทด่ี ขี น้ึ กบั ผคู ้ นในชมุ ชนและสงั คม

Source: Beynon, P. et al. (2012) What Difference does a Policy Brief Make?, Institute of Development Studies 33

การผนวกงานวชิ าการทด่ี แี ละการสอื่ สารทด่ี จี ะเป็ น
เครอื่ งมอื สาคญั ในกระบวนการขบั เคลอ่ื นขยายผล

Policy brief เป็ นกลไกขบั เคลอ่ื นเชงิ นโยบายเพอ่ื สรา้ งผลลพั ธแ์ ละ
ผลกระทบ

34

 Theory of Change: กรอบคดิ ในการขบั เคลอ่ื นสอ่ื สาร
ขอ้ ความรใู้ หเ้ กดิ เป็ นผลลพั ธแ์ ละผลกระทบเชงิ นโยบาย

การปรับเปลยี่ นดา้ นนโยบายมขี อบเขตของการจัดการทแ่ี ตกตา่ งกันทงั้
ทอ่ี ยภู่ ายใตก้ ารควบคมุ ของคณะผดู ้ าเนนิ การโดยตรงและในขอบเขตที่
คณะผดู ้ าเนนิ การอาจแทรกแซงถงึ ไดแ้ ละขอบเขตทผี่ คู ้ นสนใจ

35

35

กรอบคดิ ของการใช้ Policy Brief เป็ นเครอ่ื งมอื
ขบั เคลอื่ นแนวนโยบายทดี่ ใี หเ้ กดิ การยอมรบั และขยายผล

36

ตวั อยา่ งการขบั เคลอ่ื นงานเชงิ นโยบายดา้ นสขุ ภาพ
ของ HITAP

37

ตวั อยา่ ง Policy Brief: Marijuana& the control Substances
Act of 1970

38

ตวั อยา่ ง Policy Brief: Marijuana& the control Substances
Act of 1970(ตอ่ )

39

ตวั อยา่ งจดหมายขา่ ว

40

ตวั อยา่ งจดหมายขา่ ว(ตอ่ )

41

ตวั อยา่ งจดหมายขา่ ว(ตอ่ )

42

ขอบคณุ
Q/A

สสถถาาบบนนัั คคลลงงัั สสมมอองงขขอองงชชาาตติิ 43


Click to View FlipBook Version