พัฒนาการทางด้านสั งคมสมัยอยุธยา
รายวิชาประวัติศาสตร์ 4 (ส22106)
เสนอ
คุณครู ญานี อนั นตอาจ
นี่ ๆ งานกลุ่มของพวกเราหน่ ะ จริงหรอ? งั้นเราก็ต้องรีบ
เราได้หัวข้อพัฒนาการด้าน ไปหาข้อมูลกันแล้วล่ะ
สั งคมของอาณาจักรอยุธยานะ
งั้นเราแยกย้ายกันไปหา (วันรุ่งขึ้น)
ข้อมูลเลยนะ เดี๋ยววันพรุ่งนี้ เยี่ยมเลย! เราหาข้อมูลกันครบ
เรามาแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน แล้ว งั้นจั๊มนายพูดข้อมูลที่สืบค้น
มาคนแรกเลยก็แล้วกัน
ความเป็ นมาของสังคมสมัยอยุธยา
ในสมัยอยุธยา โครงสร้างสังคมไทยมีลักษณะเป็ นสังคมศั กดินา เพราะได้มี
การตรากฎหมายแจกแจงหน้ าที่และความรับผิดชอบของผู้คนในสังคมตาม
ฐานะ ทำให้สังคมไทยดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและเจริญก้าวหน้ าเป็ นลำดับ
๑). ความเป็ นมาของสังคมศั กดินาสมัยอยุธยา
ศั กดินา หมายถึง เครื่องกำหนดสิทธิและหน้ าที่ของบุคคลในสังคม
เป็ นการจำแนกให้เห็นถึงความแตกต่างในเรื่องสิทธิและหน้ าที่ของบุคคลตามศั กดินา
เช่น ผู้มีศั กดินา ๔๐๐ ขึ้นไปมีสิทธิเข้าเฝ้ าได้ และมีสิทธิในการถือครองที่ดินเหนื อ
กว่าผู้มีศั กดินาต่ำลงไป
ความเป็ นมาของสังคมสมัยอยุธยา
ในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถแห่งกรุ งศรีอยุธยา ได้ทรงตราพระไอ
ยการตำแหน่ งนายพลเรือนและพระไอยการตำแหน่ งนาทหารหัวเมือง หรือ
เรียกว่า กฎหมายศั กดินา มาบังคับใช้เมื่อ พ.ศ. ๑๙๙๗ โดยกำหนดให้บุคคล
ทุกประเภทในสังคมไทยมีศั กดินา ยกเว้นพระมหากษัตริย์
ระบบศั กดินาอำนวยประโยชน์ ในการควบคุมบังคับบัญชาผู้คนตามลำดับ
ชั้นของศั กดินาและการมอบหมายให้คนมีหน้ าที่รับผิดชอบตามที่กำหนด
เอาไว้เมื่อบุคคลทำผิดต่อกันก็สามารถใช้เป็ นหลักในการปรับใหม่ได้
ทั้งนี้ เพื่อเป็ นการป้ องกันมิให้ผู้ใหญ่รังแกผู้น้ อยและไม่ให้ผู้น้ อยละเมิดผู้ใหญ่
การใช้ศั กดินาเป็ นตัวกำหนดความ
รับผิดชอบตามฐานะของบุคคลใน
สังคมเพราะคนไทยสมัยนั้ นมี
“นา” เป็ นเครื่องมือสำหรับการ
ยังชีพในชีวิตประจำวันทั่วทุกคน
เยี่ยมเลยจั๊ม นายหาข้อมูลมา ไม่มีใครอาสาเลยหรอ
ได้เยอะมากเลย งั้นคนต่อไป
มีใครอาสามาอธิบายข้อมูลมั้ย งั้นเราอธิบายเองก็ได้!!!!
ลักษณะโครงสร้างสั งคมสมัยอยุธยา ประกอบด้วย
๑.พระมหากษัตริย์ ๓.ขุนนาง ๕.ทาส
๒.พระบรมวงศานุวงศ์ ๔.ไพร่ ๖.พระภิกษุ สงฆ์
ไพร่หลวง ไพร่สม
ลักษณะโครงสร้างสั งคมไทยสมัยอยุธยา
โครงสร้างทางสังคมไทยสมัยอยุธยามีองค์ประกอบที่สำคัญ ดังต่อไปนี้
๑).พระมหากษัตริย์
ทรงเป็ นประมุขของราชอาณาจักร เปรียบเสมือนพระเจ้าเเผ่นดินเเละสมมติ
เทพ นอกจากนี้ ยังทรงเป็ นธรรมราชา เพราะพระมหากษัตริย์ทรงเป็ นพุทธ
ศาสนู ปถัมภกเพราะทำให้ ราษฎรเกิดความผาสุ ก
๒).พระบรมวงศานุวงศ์
คือ บรรดาเจ้านาย ซึ่งเป็ นเครือญาติกับพระมหากษัตริย์ บรรดา
เจ้านายก็มีศั กดินาเเตกต่างกันไปตามฐานะ บรรดาพระบรมวงศา
นุวงศ์ จะได้รับรายได้ภาษีอากรของเเผ่นดินโดยกษัตริย์ทรง
พระราชทานให้ ส่ วนสิ ทธิตามกฎหมายของเจ้านายจะถูกพิจารณา
จากศาลใดๆไม่ได้นอกจากศาลของกรมวัง
เราอธิบายเสร็จแล้ว ต่อไปก็ถึง เราขอก่อน ไม่ได้นะ
ต้องเราก่อนสิ !!
ตาของโดนั ทกับฟ้ าแล้วนะ
แล้ว....ใครจะเริ่มก่อนหล่ะ???
หยุดดดด!! จะเถียงกันทำไม โอเค โดนั ทชนะ หลังจากที่
งั้นพวกเธอเป่ ายิ้งฉุบกัน โดนั ทอธิบายจบต่อไปก็เป็ น
ใครชนะได้เริ่มก่อนละกันนะ ข้อมูลของฟ้ าน้ า
โอเคจ้า
ลักษณะโครงสร้างสั งคมไทยสมัยอยุธยา
๓)ขุนนาง
คือ บุคคลรับราชการแผ่นดินสนองพระเดชพระคุณของพระมหากษัตริย์
ขุนนางมีฐานะตั้งอยู่บนเกณฑ์ ๔ ประการ ได้แก่ ศั กดินา ยศราชทินนาม
และตำแหน่ ง ขุนนางจะมีศั กดินาลดหลั่นกันลงไปตามยศที่ได้รับ และได้รับ
การโปรดเกล้าฯ เเต่งตั้งจากพระมหากษัตริย์เท่านั้ น
๔)ไพร่
คือ ราษฎรทั้งหลายที่ต้องถูกเกณฑ์แรงงานให้กับทางราชการทั้งในยาม
ปกติเเละในยามสงครามไพร่จะต้องสังกัดมูลนาย ถ้าไม่สังกัดมูลนายจะมี
ความผิด
ลักษณะโครงสร้างสั งคมไทยสมัยอยุธยา
ไพร่เเบ่งออก ๒ ประเภทตามสังกัด ดังนี้
ไพร่หลวง หมายถึง ไพร่ที่สังกัดกรมกองต่างๆ เป็ นไพร่ของพระมหากษัตริย์โดยตรง หน้ าที่
ของไพร่หลวงจะแตกต่างกันไปตามหน้ าที่ของกรมกองนั้ นๆ ไพร่หลวงมี ๒ ลักษณะ คือ
ประเภทที่ต้องถูกเกณฑ์แรงงานมาทำงานตามที่ทางราชการกำหนด และประเภทที่ต้องส่งเงิน
หรือสิ่ งของมาแทนการเกณฑ์แรงงาน ที่เรียกว่า ไพร่ส่วย
ไพร่สม หมายถึง ไพร่ที่พระมหากษัตริย์พระราชทานให้แก่เจ้านายและขุนนางที่มีตำแหน่ ง
ทางราชการเพื่อเป็ นผลประโยขน์ ตอบแทน ไพร่สมจะตกเป็ นของมูลนายเท่าที่มูลนายยังมี
ชีวิตอยู่ในตำแหน่ งราชการ เมื่อมูลนายถึงแก่กรรมไพร่สมจะถูกโอนมาเป็ นของไพร่หลวง
นอกจากบุตรของมูลนายผู้นั้ นจะยื่นคำร้องขอควบคุมไพร่สมต่อจากบิดา
ระบบไพร่ในสมัยอยุธยา ไพร่หลวงจะต้องถูกเกณฑ์แรงงานให้กับทางราชการ(เรียกว่า การ
เข้าเวร)เป็ นเวลา ๑ เดือน และพักออกมาอยู่กับครอบครัว(เรียกว่า การออกเวร)เป็ นเวลา ๑
เดืิอน สลับกันไปตลอดปี รวมแล้วถูกเกณฑ์ไปใช้แรงงานปี ละ ๖ เดือน ฐานะของไพร่โดย
ทั่วไปจะมีศั กดินาระหว่าง ๑๐-๒๕ แล้วแต่ประเภทของไพร่
ลักษณะโครงสร้างสั งคมไทยสมัยอยุธยา
๕).ทาส
เป็ นบุคคลที่ไม่ได้มีสิทธิ์ในเเรงงานเเละชีวิตของตนเอง เเต่ตกเป็ นทาสของ
นายจนกว่าจะได้รับการไถ่ตัว นายสามารถซื้อขายทาสได้ ทาสมีศั กดินา๕ ถือ
เป็ นบุคคลต่ำต้อย
๖).พระภิกษุ สงฆ์
เป็ นบุคคลที่สืบทอดพระพุทธศาสนาซึ่งได้รับการยกย่องและศรัทธา
ในสังคมอยุธยา บุคคลทุกชนชั้นสามารถบวชได้ ดังนั้ นสถาบันพระ
สงฆ์จึงมีความสำคัญในการประสานคนในสั งคมไทยให้ สงบสุ ข
ลักษณะโครงสร้างสั งคมไทยสมัยอยุธยา
สรุ ป
สังคมไทยมีลักษณะเป็ นสังคมศั กดินาประกอบด้วยบุคคลที่มีฐานะต่างกันไป
สังคมอยุธยาเป็ นสังคมที่มีความเคลื่อนไหวไม่คงที่ เช่น ทาสสามารถเลื่อน
ฐานะเป็ นไพร่ได้หากได้รับการไถ่ตัว หรือหากขุนนางทำผิดก็อาจถูกถอนลง
เป็ นไพร่ได้ และถ้าไพร่เป็ นหนี้ สินแล้วไม่สามารถใช้หนี้ ให้นายได้ก็จะตก
เป็ นทาสของนายเงินในสุด ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนั บเป็ นลักษณะของการ
เลื่อนชั้นทางสังคมอันเป็ นลักษณะเฉพาะของสังคมไทย
จัดทำโดย
ด.ช.พลกฤต ไม้หอม ม.๒/๒ เลขที่ ๑๑
เลขที่ ๒๒
ด.ญ.ณัฏฐ์ฎาพร เเก้วเอี่ยม ม.๒/๒ เลขที่ ๒๕
เลขที่ ๓๑
ด.ญ.ปวริศา จันทรังสีวรกุล ม.๒/๒
ด.ญ.วิสุทธิพร ประภารวีวรรณ ม.๒/๒
กล่าวได้ว่า สังคมไทยมีลักษณะเป็ นสังคมศั กดินา
ประกอบด้วยบุคคลที่มีฐานะต่างกันไป
สังคมอยุธยาเป็ นสังคมที่มีความเคลื่อนไหวไม่คงที่