The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by เกวลิน นนทะนำ, 2021-04-07 01:05:49

แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะรายวิชาพฤติกรรนันทนาการและการพัฒนาตน

แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ

แผนการสอน/การจดั การเรียนร้แู บบมุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพ
และบูรณาการตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง

รหัสวชิ า 3000-1603 รายวชิ าพฤติกรรมนันทนาการกับการพัฒนาตน ท-ป-น 3-0-3
หลักสูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชีพชั้นสูง
ประจาภาคเรยี นที่2 ปีการศกึ ษา 2563
ประเภทวิชา/หมวดวชิ าทกั ษะชีวิต

จดั ทาโดย

นางสาวเกวลนิ นนทะนา
ตาแหนง่ ครูพิเศษสอน
แผนกวชิ า สามญั สมั พันธ์

ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2563
วิทยาลัยเทคนิคสว่างแดนดนิ

สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา

แบบคำขออนมุ ัตใิ ชแ้ ผนกำรจัดกำรเรียนรู้

รำยวิชำพฤตกิ รรมนนั ทนำกำรกบั กำรพฒั นำตน รหัสวิชำ 3000-1603

ลงชอื่ ...........................................
(นำงสำวเกวลนิ นนทะนำ)
ครูประจำวิชำ

ควำมเหน็ หัวหน้ำแผนกวิชำสำมญั สมั พนั ธ์ ควำมเห็นหัวหน้ำงำนพฒั นำหลกั สูตรฯ
.................................................................. ...............................................................

ลงช่อื ............................................... ลงช่ือ...............................................
(นำงมณีกำนต์ โคตรโสภำ) (นำยคมุ ดวง พรมอนิ ทร์)

หัวหนำ้ แผนกวชิ ำสำมัญสมั พันธ์ งำนพฒั นำหลักสูตรกำรเรยี นกำรสอน

ควำมเหน็ รองผู้อำนวยกำรฝ่ำยวิชำกำร
………………………………………………

ลงช่ือ……………………………………...
(นำยทินกร พรหมอินทร)์
รองผูอ้ ำนวยกำรฝำ่ ยวิชำกำร

ควำมเห็นผอู้ ำนวยกำรวิทยำลัยกำรอำชีพสวำ่ งแดนดิน
……………………………………………………….……….

ลงชอ่ื ...........................................
(นำงวรรณภำ พว่ งกุล)

ผ้อู ำนวยกำรวทิ ยำลัยกำรอำชีพสวำ่ งแดนดนิ

สารบญั

หนา้

คานา ............................................................................................................................. ................ ค
สารบญั ......................................................................................................................................... ง
หลกั สตู รรายวชิ า ........................................................................................................................... จ
หนว่ ยการเรยี นรู้ ............................................................................................................................ ฉ
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ีส่ อดคล้องกับสมรรถนะรายวิชา ...................................................................... ช
โครงการจดั การเรียนรู้ .................................................................................................................. ซ
สมรรถนะย่อยและจดุ ประสงค์การปฏบิ ัติ ..................................................................................... ฌ
ตารางวิเคราะหห์ ลักสตู รรายวิชา .................................................................................................. ถ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 ความรเู้ บ้ืองต้นเกย่ี วกบั กิจกรรมนันทนาการ................................................. 1
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 คณุ ค่าของกจิ กรรมนนั ทนาการ.................................................................. 4
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 ธรรมชาตขิ องมนุษย…์ …………………………………………………………………….. 7
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 การสรา้ งมนุษยสมั พนั ธ์........................................................................... 10
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 ผนู้ ากจิ กรรมนันทนาการ.......................................................................... 13
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 6 โการจดั กจิ กรรมนันทนาการ.................................................................... 16

พฤตกิ รรมนนั ทนาการกับการพฒั นาตน 3-0-3

3000-1603 พฤติกรรมนันทนาการกับการพฒั นาตน

จดุ ประสงค์รายวชิ า เพอื่ ให้
1. มีความรู้ความเข้าใจเกีย่ วกับพฤติกรรมมนษุ ย์ การพัฒนาตนเองและหลักการนันทนาการ
2. มีทักษะพืน้ ฐานทางด้านนันทนาการ
3. มสี ขุ ภาพสมบูรณแ์ ข็งแรงทั้งร่างกายและจติ ใจ มีบุคลกิ ภาพท่ีดี
4. สามารถจัดกิจกรรมกลมุ่ ใหส้ อดคล้องกับงานอาชพี
5. มที ักษะการส่ือสารเพื่อสรา้ งความสมั พนั ธก์ ับบุคคลในสังคม

สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความร้เู กี่ยวกบั พฤติกรรมมนุษย์ การพฒั นาตนเองและหลกั การนันทนาการ
2. เลือกปฏิบตั ิกจิ กรรมท่ีเป็นประโยชนต์ ่อชมุ ชนตามหลกั การนันทนาการ
3. ให้คาปรึกษาเกี่ยวกบั การไมล่ ะเมิดสิทธิ
4. เผยแพร่ความรูเ้ รื่องสทิ ธใิ นเรอ่ื งสุขภาพที่เกยี่ วกับการทางาน
5. เป็นผูน้ าและมสี ว่ นร่วมในการจัดกจิ กรรมเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย
6. วางแผนดาเนนิ ชีวิตใหส้ อดคลอ้ งกับวิชาชพี
7. ปฏิบัตงิ านโดยคานึงถึงความปลอดภัย

คาอธิบายรายวชิ า
ศกึ ษาและปฏิบัติเก่ียวกับแนวคิดพฤตกิ รรมมนษุ ยแ์ ละปัจจัยทมี่ ผี ลกระทบต่อสขุ ภาพของการทางาน

วางแผนแก้ไขปัญหาเพอ่ื ให้มีสุขภาวะ อาชีวอนามยั และความปลอดภัยจากการประกอบอาชพี การพฒั นา
บคุ ลิกภาพ การตดิ ต่อสอื่ สาร การทางานเปน็ ทีม มนุษยสัมพนั ธ์ส่งเสริมภาวะผ้นู าดว้ ยการออกแบบและจัด
กิจกรรม นนั ทนาการตามหลกั การ นาหลกั การมนี า้ ใจนักกีฬาประยุกต์ใช้เปน็ แนวทางในการประกอบอาชพี

โครงการสอน
รหัสรายวชิ า 3000-1603 ชอ่ื วิชา พฤตกิ รรมนนั ทนาการกับการพัฒนาตน

จานวน 3 หนว่ ยกิต 3 คาบ/สปั ดาห์

สัปดาหท์ ่ี หน่วยท่ี ชอื่ หน่วย/รายการสอน จานวนคาบ
1-2 1 ความรู้เบ้ืองตน้ เกยี่ วกับกจิ รรมนนั ทนาการ 6
3-4 2 คุณค่าของกจิ กรรมนนั ทนาการ 6
5-8 3 ธรรมชาติของมนษุ ย์ 12
9 เกบ็ คะแนนระหว่างเรยี น 3
10-12 4 การสร้างมนุษยสมั พันธ์ 9
13-15 5 ผู้นากจิ กรรมนนั ทนาการ 9
16-17 6 การจดั กจิ กรรมนันทนาการ 6
18 ทบทวนเน้ือหาท่ที าการเรยี นการสอน 3
54
รวม

เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล

รหสั 3000-1503 3(3)

คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
ความมมี นุษย์สมั พันธ์ ความมวี ินยั ความรับผดิ ชอบ ความเชื่อมน่ั ในตนเอง ความสนใจ ใฝ่รู้

ความรกั สามัคคี ความคดิ รเิ ร่ิมสร้างสรรค์ และการพงึ่ ตนเอง

การวดั ผล

1. เก็บคะแนนระหว่างการเรียน 60 %

2. สอบปลายภาค 20%

3. คะแนนบรูณาการคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 20%

การประเมินผล ได้เกรด 4
กาหนดค่าระดับคะแนนตามเกณฑ์ดังนี้ ได้เกรด 3.5
คะแนนร้อยละ 80-100 ไดเ้ กรด 3
คะแนนร้อยละ 75-79 ไดเ้ กรด 2.5
คะแนนร้อยละ 70-74 ไดเ้ กรด 2
คะแนนร้อยละ 65-69 ไดเ้ กรด 1.5
คะแนนร้อยละ 60-64 ได้เกรด 1
คะแนนร้อยละ 55-59 ได้เกรด 0
คะแนนร้อยละ 50-54
คะแนนรอ้ ยละ 0-49

การวัดผลและการประเมินผล
วิธีวัดผล
1. ปฏบิ ตั ติ ามแบบทดสอบ/แบบฝึก
2. สงั เกตและประเมินผลด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 1
วิชา พฤติกรรมนันทนาการกบั การพฒั นาตน (3000-1603) จานวน 1-6 ชวั่ โมง

ช่อื หนว่ ย ความรเู้ บอ้ื งต้นเกี่ยวกับกจิ กรรมนันทนาการ สัปดาหท์ ่ี 1-2

สาระสาคญั

นนั ทนาการเป็นกจิ กรรมที่ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ จะต้องเขา้ ร่วมกิจกรรมด้วยความสมัครใจตามความต้องการ
ของแต่ละบุคคล โดยไม่ส่งผลกระทบต่อบุคคลรอบขา้ งหรอื สงั คมน้ัน ๆ โดยไม่หวังผลตอบแทนแต่อย่างใด จึงจะทาให้การเข้า
ร่วมกจิ กรรมนนั ทนาการของบคุ คลในแต่ละครัง้ มีความสขุ และสนุกสนาน

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

- บอกความเปน็ มาของกิจกรรมนนั ทนาการในประเทศไทยได้
- ใหเ้ หตผุ ลถงึ ความสาคัญของกจิ กรรมนันทนาการได้
- จาแนกลกั ษณะของกจิ กรรมนนั ทนาการไดถ้ กู ตอ้ ง
- ให้เหตุผลเกย่ี วกับอทิ ธพิ ลของส่ิงแวดลอ้ มท่มี ผี ลตอ่ การเขา้ ร่วมกจิ กรรมนนั ทนาการได้
- บอกแรงจูงใจท่ที าใหบ้ ุคคลเข้ารว่ มกิจกรรมนันทนาการได้
- ยกตัวอยา่ งองค์กรทเ่ี กยี่ วขอ้ งกับการจดั กจิ กรรมนันทนาการได้

สาระการเรยี นรู้

- ความเปน็ มาของกจิ กรรมนันทนาการในประเทศไทย
- ความสาคญั ของกจิ กรรมนันทนาการ
- ลักษณะของกจิ กรรมนนั ทนาการ
- อทิ ธิพลของส่ิงแวดล้อมกบั การเข้าร่วมกิจกรรมนนั ทนาการ
- แรงจูงใจท่ที าใหบ้ คุ คลเข้าร่วมกิจกรรมนันทนาการ
- องคก์ รที่เกยี่ วข้องกับการดาเนินกจิ กรรมนนั ทนาการ

กจิ กรรมการเรียนการสอน

ปฐมนิเทศ ช้แี จงรายละเอยี ดเกยี่ วกบั การเรยี นการสอน ดงั นี้
1. ขอบขา่ ยและจดุ ประสงค์รายวชิ า
2. การจดั เตรยี มสื่อและอุปกรณก์ ารเรยี น
3. การกาหนดเวลาการเข้าชน้ั เรยี น
4. การวัดผลและประเมินผล
5. งานมอบหมาย (โครงงาน หรือจัดป้ายนิเทศ หรือจดั กิจกรรมนันทนาการ)

ขัน้ นา ผ้สู อนนาเขา้ สบู่ ทเรยี น โดยให้ผู้เรยี นทกุ คนทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยท่ี 1 เรอ่ื ง ความรูเ้ บื้องต้นเกี่ยวกับกจิ กรรม
นนั ทนาการ และรว่ มกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับเนื้อหาท่จี ะเรียนในชัว่ โมงนนั้ ๆ โดยมผี ู้สอนชว่ ยสรปุ ความคดิ เหน็
ร่วมกับผเู้ รียน

ขน้ั สอน ผู้สอนแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ พร้อมกบั อธบิ ายเน้ือหา โดยใช้รูปภาพ หุ่นจาลอง หรือ Power Point ประกอบ และ
แบง่ กลมุ่ ผเู้ รียนให้มสี ่วนร่วมในกิจกรรมที่ผู้สอนกาหนดไว้ ตามตวั อยา่ งกิจกรรมเสนอแนะ โดยให้ผู้เรยี นศกึ ษาข้อมูล
จากหนงั สือแบบเรียนวิชา พฤติกรรมนันทนาการกับการพัฒนาตน หนว่ ยที่ 1 เร่อื ง ความรู้เบ้ืองตน้ เก่ยี วกับกิจกรรม
นันทนาการ เรียบเรียงโดย นายบรรเทิง เกดิ ปรางค์ และเอกสารหรือสื่อต่าง ๆ ทผี่ ู้สอนจดั เตรยี มไว้

กจิ กรรมเสนอแนะ
1. ชว่ั โมงท่ี 4 แบ่งผ้เู รยี นออกเป็น 4 กลมุ่ ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มเลือกประธาน และเลขาฯ ตาแหนง่ ละ 1 คน ช่วยกันศึกษา
เนื้อหา หน่วยท่ี 1 ความรู้เบื้องต้นเก่ียวกับกิจกรรมนันทนาการ แล้วช่วยกันทา ใบงานท่ี 1 เร่ือง สาคัญอย่างไร
โดยร่วมอภิปรายตามประเด็นที่ได้รับมอบหมาย พร้อมกับส่งตัวแทนกลุ่มออกไปนาเสนอผลงานหน้าช้ันเรียน
ตามลาดบั
2. ชั่วโมงที่ 5 แบ่งผู้เรียนออกเป็น 6 กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มเลือกประธานและเลขาฯ ตาแหน่งละ 1 คน ช่วยกันศึกษา
เน้ือหา หน่วยท่ี 1 ความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับกิจกรรมนันทนาการ แล้วช่วยกันทา ใบงานที่ 2 เร่ือง เหตุผลแท้จริง
โดยร่วมอภิปรายตามประเด็นที่ได้รับมอบหมาย พร้อมกับส่งตัวแทนกลุ่มออกไปนาเสนอผลงานหน้าช้ันเรียน
ตามลาดบั
3. ควรมกี ารประเมินผลการเรยี นรู้ ในชัว่ โมงเรยี นครง้ั สดุ ทา้ ยของแต่ละหน่วย โดยใช้แบบฝกึ หดั
ท้ายหน่วย หรอื แบบทดสอบทผี่ ู้สอนสร้างข้นึ เพ่อื ทดสอบระดบั ความรู้ ความเข้าใจของผเู้ รียน
4. เมือ่ เสรจ็ ส้ินการจดั กิจกรรมใด ๆ ในแต่ละบท ควรมกี ารประเมินพฤตกิ รรมทางดา้ นคณุ ธรรม
และจริยธรรมของผู้เรียนด้วยทุกคร้ัง โดยมีผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันประเมิน ดังตัวอย่างรูปแบบ
ทเ่ี สนอไวใ้ นทา้ ยแผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1

ขน้ั สรุป

1. ผ้สู อนสรปุ เนอื้ หาการนาเสนอผลงานของทุกกลุ่ม โดยเปิดโอกาสให้ผเู้ รียนไดส้ รปุ เนือ้ หารว่ มกนั
2. ผสู้ อนซักถามความรู้ ความเข้าใจเป็นรายบคุ คล เพ่ือประเมนิ ผลการเรียนรู้ และเปิดโอกาสให้ผู้เรียนซักถามเพ่ือ

ทาความเขา้ ใจที่ถกู ตอ้ ง
3. ผู้สอนแนะนาวิธีการทาโครงงานพร้อมกับให้ดูตัวอย่าง และมอบหมายงานให้ผู้เรียนทาโครงงานเกี่ยวกับ

สมรรถภาพทางกาย มาคนละ 1 โครงงาน โดยกาหนดส่งในสปั ดาห์สดุ ท้ายกอ่ นสอบปลายภาคเรยี น
4. ผสู้ อนมอบหมายงานใหผ้ ู้เรียนแตล่ ะกลุ่มจดั ป้ายนิเทศ หรือจัดกิจกรรมนนั ทนาการ ตามเนื้อหาและระยะเวลาที่

กาหนดให้
5. ผ้สู อนแจกแบบทดสอบหลังเรียน (แบบฝึกหัดท้ายหนว่ ยที่ 1 ตอนท่ี 1) ให้ผู้เรียนคนละ 1 ชุด ในช่ัวโมงเรียนท่ี 6

เม่ือทาเสร็จแล้วให้จับคู่กับเพ่ือน เพ่ือแลกเปล่ียนการประเมินผลงานให้แก่กัน แล้วนาผลงานเปรียบเทียบกับ
แบบทดสอบกอ่ นเรียนเสร็จแลว้ ให้นาส่งผ้สู อน
6. ผสู้ อนแจกแบบประเมินพฤติกรรมทางดา้ นคุณธรรม และจริยธรรม ในชวั่ โมงท่ี 6 ให้ผ้เู รียน
คนละ 1 ชุด แล้วให้จับคกู่ บั เพื่อน เพื่อแลกเปลี่ยนการประเมนิ พฤตกิ รรม ฯ ให้แก่กัน เสรจ็ แลว้
ใหน้ าสง่ ผูส้ อน
7. ผสู้ อนนดั หมายการเรียนในครัง้ ต่อไป

ส่ือการเรียนรู้

1. ตัวอยา่ งโครงงาน (ภาคผนวก)
2. รูปภาพหรือหนุ่ จาลอง
3. หนงั สอื พิมพ์ และโทรทัศน์
4. แผ่นโปร่งใส และเครอื่ งฉายขา้ มศรี ษะ
5. คอมพวิ เตอร์ โปรเจกเตอร์ แผน่ ซดี ี และจอรบั ภาพ
6. ใบงาน และแบบทดสอบ

แหลง่ การเรยี นรู้

หนงั สอื
บรรเทิง เกดิ ปรางค.์ พฤติกรรมนนั ทนาการกับการพฒั นาตน. กรงุ เทพมหานคร : สานกั พมิ พศ์ นู ย์

ส่งเสริมวชิ าการ, 2558.
เว็บไกด์

www.bds.osrd.go.th
www.kapook.com
www.moph.go.th

การวดั ผลและประเมินผล
1. การสังเกตการมีสว่ นรว่ มแสดงความคดิ เหน็ /การอภปิ รายกล่มุ

2. การประเมนิ ผลการรายงานกลมุ่
3. การสงั เกตและซักถามความเขา้ ใจ
4. การทดสอบกอ่ นเรยี นและหลังเรียน
การประเมนิ พฤตกิ รรมทางด้านคณุ ธรรม จริยธรรม
บันทึกหลังสอน

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………
…………………………………………….……………………………………………………………………………………………………………
……….…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

1. ปจั จยั ทห่ี า้ ของมนษุ ย์คืออะไร แบบทดสอบกอ่ น/หลงั เรยี น บทท่ี 1
ก. เคร่อื งนุง่ ห่ม ความรู้เบอ้ื งตน้ เก่ยี วกับนนั ทนาการ
ข. ยารักษาโรค
ค. ทอ่ี ยูอ่ าศัย 6. ขอ้ ใดไม่ใช่ เหตผุ ลของการเขา้ ร่วมกิจกรรมนันทนาการ
ง. การพกั ผอ่ น ก. เพื่อสขุ ภาพร่างกาย
ข. เพอ่ื มนุษย์สมั พันธ์
ค. เพอ่ื ให้ผอู้ น่ื ยอมรับ
ง. เพื่อสรา้ งเสริมอาชพี

2. กจิ กกรมนนั ทนาการช่วยพัฒนาตัวบุคคลทางดา้ นใด 7. กลุม่ บคุ คลใด ควรเข้าร่วมกจิ กรรมนนั ทนาการ
ก. สงั คม ก. นักศกึ ษา
ข. ชื่อเสียง ข. ตารวจ
ค. ฐานะ ค. ทหาร
ง. รายได้ ง. พยาบาล

3. กจิ กรรมนนั ทนาการช่วยพฒั นาครอบครวั ทางด้านใดมากท่สี ุด 8. กิจกรรมนนั ทนาการของไทยเรม่ิ มมี าตัง้ แตส่ มยั ใด
ก. ความร่ารวย ก. สโุ ขทยั
ข. ความสัมพนั ธ์ ข. อยุธยา
ค. ความซ่ือสตั ย์ ค. อูท่ อง
ง. ความยตุ ธิ รรม ง. ธนบุรี

4. ข้อใด ไม่ใช่ ลักษณะของกิจกรรมนนั ทนาการ 9. อะไรเปน็ ตัวช่วยตดั สนิ ใจเข้าร่วมกิจกรรมนนั ทนาการมากทสี่ ุด
ก. เป็นสิง่ ทีม่ ีจุดมงุ่ หมาย ก. ฐานะ
ข. เปน็ การบาบัดรักษา ข. วฒุ ภิ าวะ
ค. เป็นส่ิงที่ทาให้มีชื่อเสียง ค. ประเพณี
ง. เป็นส่ิงท่ีพงึ ประสงค์ของสังคม ง. สภาพแวดลอ้ ม

5. ขอ้ ใดมีอทิ ธพิ ลตอ่ การเข้าร่วมกจิ กรรมนนั ทนาการมากทส่ี ุด 10. วัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาเผยแพรใ่ นประเทศไทยตัง้ แตร่ ชั กาลใด
ก. ท่อี ยู่อาศยั ก. รัชกาลที่ 3
ข. วฒั นธรรมประเพณี ข. รัชกาลท่ี 4
ค. ฐานะครอบครัว ค. รชั กาลท่ี 5
ง. สภาพแวดล้อม ง. รชั กาลท่ี 6

แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยที่ 2
วชิ า พฤตกิ รรมนันทนาการกบั การพฒั นาตน (3000-1603) จานวน 6 ชวั่ โมง

ช่ือหน่วย คณุ ค่าของกจิ กรรมนนั ทนาการ สปั ดาห์ท่ี 3-4

สาระสาคญั
กิจกรรมนันทนาการมคี ณุ คา่ สาหรบั บุคคลทไ่ี ดเ้ ข้าร่วมกจิ กรรม ท้ังด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สตปิ ัญญา และสงั คม

แต่ท้ังน้ีจะต้องทาความเข้าใจจุดมุ่งหมายและหลักการของกิจกรรมนันทนาการให้ถ่องแท้เสียก่อน รวมทั้งการเลือกกิจกรรมท่ี
จะเข้าร่วมไดอ้ ยา่ งเหมาะสมกบั ตนเอง จงึ จะเกิดผลดีแกบ่ คุ คลทเ่ี ข้าร่วมไดเ้ ปน็ อย่างดี

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายความหมายของกิจกรรมนนั ทนาการได้
2. บอกจดุ มงุ่ หมายของกิจกรรมนนั ทนาการได้
3. บอกประโยชน์ของกิจกรรมนนั ทนาการได้
4. ยกตัวอย่างกิจกรรมนันทนาการในแต่ละวัยได้

สาระการเรยี นรู้
1. ความหมายของกิจกรรมนนั ทนาการ
2. จุดมุ่งหมายของกิจกรรมนันทนาการ
3. ประโยชนข์ องกิจกรรมนนั ทนาการ
4. กจิ กรรมนันทนาการในแต่ละวยั

กิจกรรมการเรยี นการสอน

ข้ันนา ผู้สอนนาเข้าสู่บทเรียน โดยให้ผู้เรียนทุกคนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ 2 เร่ือง คุณค่าของกิจกรรม

นันทนาการ และร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเน้ือหาที่จะเรียนในช่ัวโมงน้ัน ๆ โดยมีผู้สอนช่วยสรุป

ความคดิ เหน็ ร่วมกบั ผู้เรียน

ขั้นสอน ผู้สอนแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ พร้อมกับอธิบายเนื้อหา โดยใช้รูปภาพ หุ่นจาลอง สื่อของจริงหรือ Power

Point ประกอบ และแบ่งกลุ่มผู้เรียนให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมท่ีผู้สอนกาหนดไว้ ตามตัวอย่างกิจกรรม

เสนอแนะ โดยใหผ้ ูเ้ รียนศกึ ษาข้อมลู จากหนังสือแบบเรยี น วชิ า พฤติกรรมนนั ทนาการกับ

การพัฒนาตน หน่วยท่ี 2 เร่ือง คุณค่าของกจิ กรรมนันทนาการ เรียบเรยี งโดย นายบรรเทงิ เกิดปรางค์ และ

เอกสารหรอื ส่ือต่าง ๆ ทีผ่ สู้ อนจัดเตรียมไว้

กิจกรรมเสนอแนะ
1. ช่ัวโมงที่ 11 แบ่งผู้เรียนออกเป็น 8 กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มเลือกประธานและเลขา ฯ ตาแหน่งละ 1

คน ชว่ ยกนั ศึกษาเนอ้ื หา หนว่ ยท่ี 2 คณุ คา่ ของกิจกรรมนันทนาการ แล้วชว่ ยกันทา ใบงานท่ี 3 เร่ือง จดุ มุ่งหมาย
โดยรว่ มกนั อภิปรายตามประเดน็ ที่ได้รับมอบหมาย พรอ้ มกบั ส่งตัวแทนกลุ่มออกไปนาเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน
ตามลาดบั

2. ชั่วโมงที่ 12 แบ่งผู้เรียนออกเป็น 4 กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มเลือกประธานและเลขา ฯ ตาแหน่งละ 1
คน ช่วยกันศึกษาเนื้อหา หน่วยที่ 2 คุณค่าของกจิ กรรมนันทนาการ แล้วชว่ ยกันทา ใบงานท่ี 4 เร่ือง คุณค่าแท้
โดยร่วมกนั อภปิ รายตามประเด็นทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย พร้อมกับสง่ ตวั แทนกลุ่มออกไปนาเสนอผลงานหน้าชนั้ เรียน
ตามลาดบั

ข้ันสรปุ
1. ผู้สอนสรปุ เนอ้ื หาการนาเสนอผลงานของทกุ กลุ่ม โดยเปิดโอกาสให้ผ้เู รียนได้สรุปเนื้อหารว่ มกนั
2. ผสู้ อนซักถามความรู้ ความเข้าใจ เป็นรายบุคคล เพื่อประเมินผลการเรียนรู้ และเปดิ โอกาส ใหผ้ ู้เรียน ซักถาม

เพอ่ื ทาความเขา้ ใจท่ถี ูกต้อง
3. ผู้สอนแจกแบบทดสอบหลงั เรียน (แบบฝึกหัดท้ายหน่วยที่ 2 ตอนที่ 1) ให้ผเู้ รยี นคนละ 1 ชุดในชัว่ โมงเรียนท่ี 12

เม่ือทาเสร็จแล้วให้จับคู่กับเพื่อน เพ่ือแลกเปลี่ยนการประเมินผลงานให้แก่กัน แล้วนาผลงานเปรียบเทียบกับ
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เสรจ็ แลว้ ใหน้ าส่งผู้สอน
4. ผสู้ อนแจกแบบประเมนิ พฤติกรรมทางด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ในชัว่ โมงท่ี 12 ให้ผูเ้ รยี นคนละ 1 ชดุ แลว้ ให้จับคู่
กบั เพ่อื น เพอ่ื แลกเปล่ยี นการประเมนิ พฤตกิ รรม ฯ ใหแ้ ก่กนั เสร็จแล้วใหน้ าสง่ ผสู้ อน
5. ผู้สอนนัดหมายการเรยี นในครั้งต่อไป

สอื่ การเรียนรู้
1. รปู ภาพ หุ่นจาลอง ส่อื ของจริง หนังสือพมิ พ์ และโทรทศั น์
2. แผ่นโปร่งใส และเคร่ืองฉายขา้ มศรี ษะ
3. คอมพิวเตอร์ โปรเจกเตอร์ แผน่ ซดี ี และจอรบั ภาพ
4. ใบงาน
5. แบบทดสอบ

แหลง่ การเรียนรู้
หนังสอื
บรรเทงิ เกิดปรางค.์ พฤติกรรมนันทนาการกับการพัฒนาตน. กรงุ เทพมหานคร : สานักพิมพศ์ ูนย์
ส่งเสริมวชิ าการ, 2558.
เวบ็ ไกด์

1. www.bds.osrd.go.th
2. www.news.sanook.com
3. www.news.thaipick.com
4. www.thaigoodview.com
5. www.truez.co.cc

การวัดผลและประเมินผล
1. การสังเกตการมสี ่วนรว่ มแสดงความคิดเห็น/การอภปิ รายกลุ่ม
2. การประเมนิ ผลการรายงานกลุ่ม
3. การสังเกตและซกั ถามความเข้าใจ
4. การทดสอบกอ่ นเรยี นและหลังเรยี น
5. การประเมินพฤตกิ รรมทางด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม

บันทกึ หลงั สอน

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………………………
…………………………………………….…………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

แบบทดสอบกอ่ น/หลงั เรยี น บทที่ 2
คุณค่าของกิจกรรมนนั ทนาการ

1. กจิ กรรมนันทนาการท่ชี ่วยบารงุ ขวญั และกาลังใจใหแ้ กบ่ คุ ลากรใน 6. การจดั กิจกรรมนนั ทนาการในชว่ งวยั ใด ท่ีไม่ต้องคานึงถงึ
หน่วยงาน คือขอ้ ใด ความละเอยี ดออ่ นมากนัก

ก. การประชุม ก. อนบุ าล
ข. การจาหนา่ ยสินคา้ ข. ประถมศกึ ษา
ค. การเล้ียงสงั สรรค์ ค. มัธยมศึกษา
ง. การทาบญุ เล้ยี งพระ ง. อุดมศึกษา

2. แหล่งทอ่ งเท่ยี วท่ชี ่วยอนรุ กั ษศ์ ิลปวฒั นธรรมของชาติ คอื ขอ้ ใด 7. ควรจดั กจิ กรรมนันทนาการกับช่วงวยั ใดมากทสี่ ดุ
ก. อุทยานประวัตศิ าสตร์ ก. วยั เด็ก
ข. อทุ ยานสวนหนิ ข. วัยรนุ่
ค. อุทยานสตั วน์ า้ จืด ค. วยั ผใู้ หญ่
ง. อุทยานดอกไม้ ง. วัยสงู อายุ

3. กิจกรรมนันทนาการข้อใดที่กอ่ ใหเ้ กิดความสามคั คมี ากทส่ี ดุ 8. กิจกรรมนนั ทนาการทเ่ี หมาะกบั วยั ผใู้ หญ่ คอื ขอ้ ใด
ก. งานเลยี้ งสงั สรรค์ ก. ทัศนศึกษา
ข. อาสาพัฒนา ข. แขง่ ขันกฬี า
ค. ประกวดขวัญใจ ค. อาสาพัฒนา
ง. ทาบญุ เลย้ี งพระ ง. พบปะสงั สรรค์

4. ข้อใด ไมใ่ ช่ ความหมายของกจิ กรรมนันทนาการ 9. กจิ กรรมนันทนาการท่ีเหมาะสมกบั ไวสูงอายคุ อื ข้อใด
ก. เขา้ รว่ มดว้ ยความสมคั รใจ ก. ดานาดปู ะการงั
ข. เข้ารว่ มในเวลาว่าง ข. ซ่อมแซมอาคาร
ค. เข้าร่วมโดยไมไ่ ดถ้ กู บงั คับ ค. ทาบญุ ตักบาตร
ง. เข้าร่วมตามกระแสสังคม ง. ปลูกตน้ ไม้

5. กิจกรรมนนั ทนาการทสี่ ่งเสริมการอนรุ กั ษท์ รัพยากรธรรมชาติ 10. กิจกรรมนันทนาการที่เหมาะสมกบั รุน่ คือข้อใด
ก. บาเพญ็ ประโยชน์
คอื ขอ้ ใด ข. งานจักรสาน
ค. การละเลน่ พื้นบา้ น
ก. โบราณสถาน ง. อาสาพัฒนา
ข. ค่ายพักแรม
ค. โบราณวตั ถุ
ง. กฬี าพนื้ บา้ น

แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 3
วิชา พฤตกิ รรมนันทนาการกับการพัฒนาตน (3000-1603) จานวน 12 ช่วั โมง

ชอ่ื หน่วย ธรรมชาตขิ องมนษุ ย์ สัปดาหท์ ี่ 5 – 8

สาระสาคญั
มนุษย์เป็นสัตว์สังคมชนิดหน่ึงท่ีชอบอาศัยรวมกันเป็นกลุ่ม การเรียนรู้และทาความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติของ

มนษุ ย์ จนสามารถนาไปปฏิบัติตามกฎกตกิ าของสงั คมได้อยา่ งเหมาะสม ก็จะทาให้สงั คมน้ันอย่รู ว่ มกันได้อย่างมีความสขุ อยา่ ง
ย่ังยืน

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. นาเสนอแนวคดิ ของตนเองเกยี่ วกบั ธรรมชาติของมนษุ ยไ์ ดอ้ ย่างสมเหตสุ มผล
2. เขียนคาจากดั ความของ “บุคลิกภาพ” และ “ความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล” ได้
3. จาแนกประเภทของบุคลกิ ภาพ และความแตกต่างระหวา่ งบุคคลได้
4. บอกประโยชน์ที่เกิดจากการท่ีคนเรามีบคุ ลกิ ลกั ษณะท่แี ตกตา่ งกนั ได้
5. เปรยี บเทยี บแนวคดิ ของนักจติ วิทยาเร่ืองความตอ้ งการของมนุษยไ์ ด้
6. วิเคราะห์วจิ ารณ์บคุ ลิกภาพของตนเองตามแนวคดิ ของนกั จติ วทิ ยาท่ีให้ความสนใจได้

สาระการเรียนรู้ แนวคดิ เกยี่ วกับธรรมชาตขิ องมนษุ ย์
บุคลกิ ภาพ
1. ความแตกต่างระหวา่ งบคุ คล
2. ความตอ้ งการพืน้ ฐานของมนุษย์
3. แรงจงู ใจ
4.
5.

กจิ กรรมการเรียนการสอน
ขัน้ นา ผสู้ อนนาเข้าสบู่ ทเรียน โดยให้ผเู้ รียนทกุ คนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยที่ 3 เร่อื ง ธรรมชาติของมนษุ ย์ และ
ร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเน้ือหาท่ีจะเรียน ในช่ัวโมงนั้น ๆ โดยมีผู้สอนช่วยสรุปความคิดเห็น
รว่ มกบั ผ้เู รยี น
ขน้ั สอน ผสู้ อนแจง้ จุดประสงค์การเรียนรู้ พรอ้ มกบั อธิบายเน้ือหา โดยใช้รปู ภาพ หุน่ จาลอง สื่อของ จริงหรือ Power
Point ประกอบ และแบ่งกลุ่มผู้เรียนให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมท่ีผู้สอนกาหนดไว้ ตามตัวอย่างกิจกรรม
เสนอแนะ โดยให้ผู้เรียนศึกษาข้อมูลจากหนังสือแบบเรียน วิชา พฤติกรรมนันทนาการกับการพัฒนาตน
ผู้สอนที่ 3 เรื่อง ธรรมชาติของมนุษย์ เรียบเรียง โดย นายบรรเทิง เกิดปรางค์ และเอกสารหรือส่ือต่าง ๆ
ตามทผี่ สู้ อนจัดเตรยี มไว้
กจิ กรรมเสนอแนะ

1. ช่ัวโมงที่ 18 แบ่งผู้เรียนออกเป็น 6 กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มเลือกประธานและเลขา ฯ ตาแหน่งละ 1 คน
ช่วยกันศึกษาเนื้อหา หน่วยท่ี 3 ธรรมชาติของมนุษย์ แล้วช่วยกันทา ใบงานที่ 5 เรื่อง ตัวตนของเรา
โดยร่วมกนั อภิปรายตามประเด็นทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย พรอ้ มกบั ส่งตัวแทนกลุ่มออกไปนาเสนอผลงานหนา้
ชัน้ เรยี น ตามลาดับ

2. ชั่วโมงท่ี 24 แบ่งผู้เรียนออกเป็น 4 กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มเลือกประธานและเลขา ฯ ตาแหน่งละ 1 คน
ช่วยกันศึกษาเนื้อหา หน่วยท่ี 3 เร่ือง กีฬาสร้างเสริมสุขภาพ แล้วช่วยกันทา ใบงานที่ 6 เร่ือง อะไรที่
ต่างกัน โดยร่วมกันอภิปรายตามประเด็นท่ีได้รับมอบหมาย พร้อมกับส่งตัวแทนกลุ่มออกไปนาเสนอ
ผลงานหนา้ ชัน้ เรียน ตามลาดับ

ข้นั สรปุ
1. ผ้สู อนสรุปเนอ้ื หาการนาเสนอผลงานของทกุ กลุ่ม โดยเปดิ โอกาสให้ผูเ้ รียนได้สรุปเนอ้ื หาร่วมกัน
2. ผู้สอนซักถามความรู้ ความเข้าใจ เป็นรายบุคคล เพ่ือประเมินผลการเรียนรู้และเปิดโอกาสให้ผู้เรียน
ซักถามเพ่ือทาความเขา้ ใจทถ่ี กู ต้อง
3. ผู้สอนแจกแบบทดสอบหลังเรียน (แบบฝึกหัดท้ายหน่วยท่ี 3 ตอนที่ 1) ให้ผู้เรียนคนละ 1 ชุด ในช่ัวโมง
เรียนที่ 24 เม่ือทาเสร็จแล้วให้จับคู่กับเพื่อน เพื่อแลกเปล่ียน การประเมินผลงานให้แก่กัน แล้วนา
ผลงานเปรียบเทียบกบั แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เสร็จแล้วใหน้ าส่งผ้สู อน
4. ผู้สอนแจกแบบประเมินพฤติกรรมทางด้านคุณธรรม จริยธรรม ในชั่วโมงท่ี 24 ให้ผู้เรียนคนละ 1 ชุด
แลว้ ให้จบั คกู่ ับเพอื่ น เพือ่ แลกเปลีย่ นการประเมินพฤตกิ รรม ฯ ใหแ้ กก่ นั เสร็จแล้วให้นาส่งผ้สู อน
5. ผ้สู อนนัดหมายการเรยี นในครงั้ ต่อไป

สื่อการเรยี นรู้

1. รูปภาพ หุ่นจาลอง สือ่ ของจริง หนังสอื พิมพ์ และโทรทัศน์
2. แผ่นโปรง่ ใส และเครือ่ งฉายข้ามศรี ษะ
3. คอมพวิ เตอร์ โปรเจกเตอร์ แผน่ ซดี ี และจอรบั ภาพ
4. ใบงาน
5. แบบทดสอบ

แหลง่ การเรยี นรู้
หนงั สอื
บรรเทงิ เกดิ ปรางค.์ พฤตกิ รรมนนั ทนาการกบั การพฒั นาตน. กรุงเทพมหานคร : สานักพมิ พ์ศูนย์
สง่ เสริมวชิ าการ, 2558.
เวบ็ ไกด์

1. www.bds.osrd.go.th
2. www.medical.nmd.go.th
3. www.moph.go.th
4. www.radiothailand.prd.go.th
5. www.sporthothit.blogspot.com

6. www.t-pageant.com

การวดั ผลและประเมินผล
1. การสังเกตการมสี ว่ นรว่ มแสดงความคดิ เห็น/การอภิปรายกลุม่
2. การประเมนิ ผลการรายงานกลุ่ม
3. การสงั เกตและซักถามความเข้าใจ
4. การทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรียน
5. การประเมินพฤติกรรมทางด้านคณุ ธรรม จริยธรรม

บันทกึ หลงั สอน

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………………………
…………………………………………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………….……………….
…………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………………

แบบทกสอบกอ่ น/หลงั เรียน บทท่ี 3
ธรรมชาติของมนุษย์

1. ตามหลกั จติ วิทยา ลกู คนกลางมกั มพี ฤติกรรมอย่างไร 6. ข้อใดไม่ใชส่ าเหตทุ าใหป้ ระสานวานประสบ
ก. เบี่ยงเบนทางเพศ ความสาเร็จ
ข. วา่ นอนสอนงา่ ย
ค. เรียกร้องความสนใจ ก. รางวลั ตอบแทน
ง. กระตือรือรน้ ข. ความพยายาม
ค. งานทเ่ี หมาะสม
2. Sheldon นักจิตวทิ ยากลา่ ววา่ คนที่มีรปู รา่ งผอมสงู มักจะมีพฤตกิ รรมอย่างไร ง. ความต้ังใจ
ก. กลา้ เสยี่ ง
ข. อารมณ์ดี 7. ความต้องการขั้นตน้ ของมนุษย์ คอื ข้อใด
ค. เคร่งขรมึ ก. ความเปน็ เจา้ ของ
ง. ดอื้ ร้ัน ข. ความปลอดภยั
ค. ความอสิ ระ
3. ประโยชนท์ ่ไี ด้รบั จากความแตกต่างระหวา่ งบุคคล คือขอ้ ใด ง. ความอยรู่ อด
ก. การรวมพวกพ้อง
ข. การศกึ ษาเล่าเรียน 8. ความแตกต่างระหวา่ งมนษุ ยก์ บั สตั วท์ ่ีเหน็ ได้
ค. การเลอื กคบเพอื่ น ชดั เจนคือข้อใด
ง. การพ่ึงพาอาศัยกนั
ก. จติ ใจ
4. บคุ คลทีช่ อบรกั สวยรกั งาม จดั เปน็ พวกจริต ประเภทใด ข. อารมณ์
ก. ราคจริต ค. ร่างกาย
ข. โทสจรติ ง. เครง่ ขรึม
ค. โมหจรติ
ง. ศัทธาตรติ 9. Sheldon นกั จิตวิทยากล่าววา่ คนทม่ี รี ูปรา่ ง
อว้ นเตย้ี มักจะมีพฤติกรรมอย่างไร
5. พทุ ธจริต คือพฤติกรรมข้อใด
ก. หงดุ หงิดใจรอ้ น ก. กล้าเสย่ี ง
ข. เฉ่อื ยชาเหมอ่ ลอย ข. อารมณ์ดี
ค. ทาตามความเชอ่ื ค. เคร่งขรึม
ง. รูจ้ ักการใช้เหตผุ ล ง. ด้ือร้ัน

10. อะไรเป็นตัวกาหนดลักษณะพนั ธุกรรมของ
มนุษย์

ก. Gene
ข. Cell
ค. Nucleus
ง. Hemoglobin

แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยที่ 4
วชิ า พฤติกรรมนันทนาการกับการพฒั นาตน (3000-1603) จานวน 12 ชัว่ โมง

ชื่อหน่วย การสร้างมนษุ ยสัมพนั ธ์ สัปดาห์ท่ี 10-12

สาระสาคญั
การท่ีจะเป็นผู้นากิจกรรมกีฬาได้ดีนั้น จะต้องมีองค์ประกอบอยู่หลายปัจจัย โดยเฉพาะกิจกรรม

ทมี่ ีบุคคลเข้าร่วมเป็นจานวนมาก ๆ เช่น การจัดการแข่งขันกีฬา และการทดสอบสมรรถภาพทางกาย เป็นต้น
บทบาทและหน้าท่ีสาคัญส่วนหนึ่งของการดาเนินกิจกรรมก็คือ จะต้องมีผู้นา (Leader) ฉะนั้น ผู้นา
จึงจาเป็นตอ้ งมีท้ังความรู้ ทักษะ และบุคลิกภาพที่สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี โดยมีข้อแม้ว่าผู้นาจะต้อง
นาผู้อ่ืนได้โดยไม่ใช้การบงั คับ และจะต้องทาใหส้ มาชิกเกิดการยอมรับอยา่ งเอกฉันท์ ดังน้ัน ผู้นาจึงต้องเป็นผู้ท่ี
มคี วามสามารถและรอบรเู้ ปน็ พเิ ศษในกิจกรรมกีฬานัน้ ๆ เปน็ อย่างดี

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

จดุ ประสงค์นาทาง
1. แจกแจงหลกั การสร้างมนุษยสมั พนั ธร์ ะหวา่ งบคุ คลได้
2. อธิบายหลักการสรา้ งมนุษยสมั พันธ์ระหว่างบุคคลแต่ละประเด็นได้
3. วเิ คราะหจ์ ุดแขง็ จุดอ่อนของทกั ษะการสร้างมนษุ ยสมั พนั ธข์ องตนเองได้
4. กาหนดแนวทางการปรับปรงุ ตนเองเพอื่ สร้างมนุษยสัมพันธก์ ับบุคคลอ่นื ได้
5. วิเคราะหร์ ูปแบบการส่ือสารของคสู่ นทนา และบุคคลทว่ั ไปได้
6. อธิบายหลกั ธรรมท่ีเป็นพน้ื ฐานของมนษุ ยสมั พันธท์ ก่ี าหนดใหไ้ ด้
7. ระบผุ ลของการปฏบิ ตั ิตามหลกั ธรรมท่เี ป็นพนื้ ฐานของมนุษยสมั พนั ธ์ท่กี าหนดใหไ้ ด้

จดุ ประสงค์ปลายทาง
เพื่อให้ผู้เรยี นมีความรู้มีความรู้ความเข้าใจเรื่องกระบวนการสร้างความสัมพันธร์ ะหว่างบุคคลและสามารถนา

ความร้ทู ี่ไดไ้ ปใช้ในการสร้างมนุษยสมั พนั ธก์ บั บคุ คลอ่ืน ๆ

สาระการเรียนรู้ หลกั การสร้างมนษุ ยสัมพันธร์ ะหวา่ งบุคคล
การปรบั ปรงุ ตนเอง
1. พฤติกรรมการสื่อสาร
2. หลักธรรมพ้ืนฐานในการสรา้ งมนษุ ยสัมพนั ธ์
3.
4.

กจิ กรรมการเรียนการสอน

ขัน้ นา ผู้สอนนาเข้าส่บู ทเรยี น โดยใหผ้ ู้เรียนทุกคนทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยท่ี 4 เรื่อง การสร้างมนษุ ยสมั พนั ธ์
และร่วมกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับเน้ือหาท่ีจะเรียนในชั่วโมงนั้น ๆ โดยมีครูช่วยสรุปความคิดเห็น
ร่วมกบั ผเู้ รยี น

ขั้นสอน ผู้สอนแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ พร้อมกับอธิบายเน้ือหา โดยใช้รูปภาพ หุ่นจาลอง ส่ือของจริงหรือ
Power Point ประกอบ และแบ่งกลมุ่ ผเู้ รียนให้มสี ่วนร่วมในกจิ กรรมที่ผสู้ อนกาหนดไว้ ตามตัวอยา่ งกิจกรรม
เสนอแนะ โดยให้ผู้เรียนศึกษาข้อมูลจากหนังสือแบบเรียน วิชา พฤติกรรมนันทนาการกับการพัฒนาตน
หนว่ ยท่ี 4 เร่ือง การสร้างมนษุ ยสัมพันธเ์ รียบเรียงโดย นายบรรเทิง เกิดปรางค์ และเอกสารหรือสื่อต่าง ๆ
ตามทีผ่ ้สู อนจัดเตรยี มไว้

กิจกรรมเสนอแนะ
1. ชัว่ โมงที่ 33 แบง่ ผ้เู รียนออกเป็น 4 กล่มุ ใหแ้ ต่ละกลุ่มเลือกประธานและเลขา ฯ ตาแหนง่ ละ 1 คน ช่วยกัน
ศึกษาเน้ือหา หน่วยที่ 4 การสร้างมนุษยสัมพันธ์ แล้วช่วยกันทา ใบงานที่ 7 เรื่อง ปรับปรุงอย่างไร โดย
ร่วมกันอภิปรายตามประเด็นที่ได้รับมอบหมาย พร้อมกับส่งตัวแทนกลุ่มออกไปนาเสนอผลงานหน้าช้ัน
เรยี น ตามลาดับ
2. ชวั่ โมงท่ี 35 แบง่ ผู้เรยี นออกเป็น 4 กล่มุ ให้แตล่ ะกลมุ่ เลอื กประธาน และเลขา ฯ ตาแหนง่ ละ 1 คน ช่วยกนั
ศึกษาเน้ือหา หน่วยท่ี 4 กีฬาพัฒนาบุคลิกภาพและสังคม แล้วช่วยกันทา ใบงานท่ี 8 เร่ือง สื่อสารท่ีได้ผล
โดยร่วมกนั อภปิ รายตามประเด็นทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย พรอ้ มกับส่งตัวแทนกลุ่มออกไปนาเสนอผลงานหนา้ ช้ัน
เรียน ตามลาดบั

ขน้ั สรปุ

1. ผ้สู อนสรุปเนือ้ หาการนาเสนอผลงานของทกุ กลุ่ม โดยเปิดโอกาสใหผ้ เู้ รยี นไดส้ รุปเนื้อหาร่วมกนั
2. ผสู้ อนซักถามความรู้ ความเข้าใจ เปน็ รายบุคคล เพ่อื ประเมินผลการเรยี นรู้ และเปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรียน ซกั ถาม

เพอื่ ทาความเขา้ ใจที่ถกู ต้อง
3. ผสู้ อนแจกแบบทดสอบหลังเรยี น (แบบฝกึ หดั ทา้ ยหนว่ ยท่ี 4 ตอนท่ี 1) ใหผ้ เู้ รยี นคนละ 1 ชดุ ในชัว่ โมงเรียนท่ี

36 เมอื่ ทาเสรจ็ แลว้ ใหจ้ บั คู่กบั เพื่อน เพอ่ื แลกเปลย่ี นการประเมนิ ผลงานใหแ้ กก่ นั แลว้ นาผลงานเปรยี บเทียบ
กับแบบทดสอบก่อนเรยี น เสร็จแลว้ ใหน้ าสง่ ผสู้ อน
4. ผสู้ อนแจกแบบประเมินพฤติกรรมทางด้านคณุ ธรรม จริยธรรม ในช่วั โมงท่ี 36 ใหผ้ ูเ้ รียนคนละ 1 ชดุ แลว้ ให้
จบั คูก่ ับเพอ่ื น เพอื่ แลกเปลย่ี นการประเมินพฤตกิ รรม ฯ ให้แกก่ นั เสรจ็ แล้วให้นาส่งผสู้ อน
5. ผสู้ อนนดั หมายการเรยี นในคร้งั ต่อไป

สอ่ื การเรียนรู้
1. รปู ภาพ หนุ่ จาลอง สอื่ ของจริง หนงั สือพิมพ์ และโทรทัศน์

2. แผน่ โปรง่ ใส และเครื่องฉายข้ามศรี ษะ
3. คอมพวิ เตอร์ โปรแจกเตอร์ แผน่ ซดี ี และจอรบั ภาพ
4. ใบงาน
5. แบบทดสอบ

แหลง่ การเรียนรู้

หนังสอื
บรรเทงิ เกดิ ปรางค.์ พฤติกรรมนันทนาการกับการพฒั นาตน. กรุงเทพมหานคร : สานักพิมพศ์ นู ย์

ส่งเสริมวชิ าการ, 2558.

เวบ็ ไซด์

1. www.bds.osrd.go.th
2. www.moph.go.th
3. www.radiothailand.prd.go.th
4. www.sporthothit.blogspot.com

การวดั ผลและประเมินผล
1. การสังเกตการมีส่วนร่วมแสดงความคดิ เห็น/การอภิปรายกลุ่ม

2. การประเมินผลการรายงานกล่มุ
3. การสังเกตและซกั ถามความเขา้ ใจ
4. การทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรยี น
5. การประเมินพฤติกรรมทางดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม

บันทกึ หลังสอน
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แบบฝกึ หัดทา้ ยบทที่ 4
การสร้างมนษุ ยส์ ัมพนั ธ์

1. ข้อใด ไม่ใช่ หลกั การสรา้ งมนษุ ย์สัมพันธท์ ถ่ี กู ต้อง 6. หนา้ ตา่ งโจฮารบี านใดอนั ตรายที่สดุ
ก. การยอมรับและปรบั ปรงุ ตนเอง ก. บานเปิดเผย
ข. การเกบ็ กดความรู้สกึ ทไี่ มด่ ีไว้ ข. บานจดุ บอด
ค. การยอมรบั ธรรมชาติของผ้อู ื่น ค. บานปกปดิ
ง. การเข้าใจสภาพแวดลอ้ ม ง. บานมืดมน

2. ขอ้ ใดเป็นเจตคติท่บี ุคคลควรมแี กต่ นเอง 7. บคุ คลประเภทใดทสี่ ามารถปรับตวั เข้ากับผู้อ่ืนได้ดี
ก. ใชผ้ ้อู ืน่ แสดงตนให้รับรู้ ก. คนทีร่ ับรู้ตนเองตรงกับความจริง
ข. ใช้ความรสู้ กึ ของตนเองเปน็ ทีต่ ั้ง ข. ความท่รี ับรู้ตนเองจากความรสู้ กึ
ค. ตนเองแสดงออกมาตามปกติ ค. คนที่รบั รู้ตนเองจากบคุ คลอนื่
ง. ตนเองแสดงออกตามความตอ้ งการของผ้อู ื่น ง. คนทรี่ บั รู้ตนเองจากสงิ่ แวดล้อม

3. บคุ คลท่ีมกี ารรบั รตู้ นเองได้ตรงความเป็นจริงมักจะมีพฤติกรรมเช่นใด 8. ขอ้ ใด ไม่ใช่ สงั คหวตั ถุ 4
ก. ปรับตัวเข้ากับผู้อื่นง่าย ก. ทาน
ข. มคี วามเป็นผนู้ าสงู ข. มทุ ติ า
ค. มคี วามเปฯ้ ผู้ตามสูง ค. อเุ บกขา
ง. ปรบั ตัวเขา้ กับผอู้ นื่ ยาก ง. ปยิ วาจา

4. หน้าตา่ ง “โจฮารี” บานใดควรเปิดให้กวา้ งมากทส่ี ดุ 9. ขอ้ ใด ไม่ใช่ องค์ประกอบของการสือ่ สาร
ก. บานเปดิ เผย ก. ผู้สง่ สาร
ข. บานจดุ บอด ข. ผ้รู บั สาร
ค. บานปกปดิ ค. สา
ง. บานมดื มน ง. ภาษา

5. ผเู้ รียนควรมีบคุ ลกิ ภาพอย่างไร 10. ข้อใด ไม่ใช่ ผลทเ่ี กิดจากการปรบั ตวั เข้ากับผู้อน่ื
ก. I’m O.K. / You’re O.K. และสภาพแวดลอ้ มได้ดี
ข. I’m O.K. / You’re not O.K.
ค. I’m not O.K. / You’re O.K. ก. ได้ประโยชน์รว่ มกนั
ข. สงั คมนา่ อยู่
ง. I’m not O.K. / You ‘re not O.K. ค. ได้เปรยี บคนอนื่
ง. ตนเองเป็นสุข

แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 5
วชิ า พฤติกรรมนนั ทนาการกบั การพัฒนาตน (3000-1603) จานวน 9 ชั่วโมง

ชื่อหน่วย ผ้นู ากจิ กรรมนนั ทนาการ สปั ดาหท์ ่ี 13-15

สาระสาคญั

ผ้นู า (leader) กจิ กรรมนนั ทนาการเปรยี บเสมอื นผู้กากับการแสดงละครหรอื ภาพยนตร์ ทีต่ ้องใชค้ วามสามารถในการ

กากับบทบาทการแสดงของตัวละคร ให้ดาเนินไปตามเน้ือเร่ืองที่วางไว้ ผู้นาหรือ ผู้กากับ จาเป็นต้องมีค วามรู้

ความเข้าใจ การใช้วาทศิลป์ สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี และต้องตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง จนทาให้ผู้ร่วม

กิจกรรมยอมรบั และสามารถปฏิบัตติ ามได้โดยไม่ไดถ้ กู บงั คบั จึงจะนบั ว่าเปน็ ผนู้ ากจิ กรรมนันทนาการมืออาชีพอย่างแท้จรงิ

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
จดุ ประสงค์นาทาง
1. อธบิ ายความหมายของผู้นาได้
2. บอกบทบาทหน้าทข่ี องผู้นาได้
3. ยกตวั อยา่ งบุคลิกภาพของผ้นู าท่คี วรมีได้
4. บอกปจั จัยท่เี ก่ียวข้องกบั การเป็นผ้นู ากิจกรรมนันทนาการได้
5. บอกองคป์ ระกอบของการเป็นผ้นู ากจิ กรรมนนั ทนาการได้
6. ยกตัวอย่างคุณลักษณะของผ้นู ากจิ กรรมนันทนาการได้
7. ยกตัวอยา่ งคุณสมบตั ขิ องผนู้ ากจิ กรรมนันทนาการได้
8. ปฏบิ ัตหิ นา้ ทผ่ี นู้ าและผเู้ ขา้ รว่ มกิจกรรมนันทนาการได้
จุดประสงค์ปลายทาง
เพอื่ ให้ผ้เู รยี นสามารถปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ผี ู้นาและผเู้ ข้ารว่ มกิจกรรมนันทนาการได้

สาระการเรียนรู้
1. ความหมายของผนู้ า
2. บทบาทหน้าทข่ี องผู้นา
3. บุคลิกภาพของผู้นา
4. หลกั การเป็นผู้นากจิ กรรมนันทนาการ
5. ความสาคญั ของการเป็นผ้นู ากจิ กรรมนันทนาการ
6. ปัจจัยท่เี กยี่ วขอ้ งกบั การเปน็ ผ้นู ากจิ กรรมนนั ทนาการ
7. องคป์ ระกอบของการเปน็ ผนู้ ากจิ กรรมนนั ทนาการ
8. คุณลักษณะของผ้นู ากิจกรรมนนั ทนาการ
9. คุณสมบัติของผนู้ ากจิ กรรมนันทนาการ
10. ทักษะการเป็นผูน้ ากจิ กรรมนนั ทนาการ

กิจกรรมการเรียนการสอน
ขั้นนา ผู้สอนนาเข้าสู่บทเรียน โดยให้ผู้เรียนทุกคนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ 5 เร่ือง ผู้นากิจกรรม
นันทนาการ และร่วมกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับเนื้อหาที่จะเรียนในช่ัวโมงน้ัน ๆ โดยมีผู้สอนช่วยสรุป
ความคดิ เหน็ รว่ มกับผเู้ รียน
ขน้ั สอน ผู้สอนแจ้งจุดประสงค์การเรยี นรู้ พร้อมกับอธิบายเนื้อหา โดยใช้รปู ภาพ หุ่นจาลองสื่อของจริงหรือ Power
Point ประกอบ และแบ่งกลุ่มผู้เรียนให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ผู้สอนกาหนดไว้ ตามตัวอย่างกิจกรรม
เสนอแนะ โดยให้ผู้เรียนศึกษาข้อมูลจากหนังสือแบบเรียนวิชา พฤติกรรมนันทนาการกับการพัฒนาตน
หน่วยที่ 5 เร่ือง ผู้นากิจกรรมนันทนาการ เรียบเรียงโดย นายบรรเทิง เกิดปรางค์ และเอกสารหรือสื่อ
ต่าง ๆ ตามทผี่ ู้สอนจดั เตรยี มไว้

กิจกรรมเสนอแนะ
1. ชั่วโมงที่ 39 แบ่งผู้เรียนออกเป็น 6 กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มเลือกประธานและเลขา ฯ ตาแหน่งละ 1 คน
ชว่ ยกันศึกษาเนอ้ื หา หน่วยท่ี 5 ผู้นากจิ กรรมนนั ทนาการ แล้วช่วยกันทา ใบงานท่ี 9 เร่ือง ตัวตนของเรา
โดยรว่ มอภิปรายตามประเดน็ ที่ไดร้ ับมอบหมาย พร้อมกับส่งตัวแทนกลุ่มออกไปนาเสนอผลงานหน้าช้ัน
เรยี น ตามลาดบั
2. ชั่วโมงที่ 44 แบ่งผู้เรียนออกเป็น 4 กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มเลือกประธานและเลขา ฯ ตาแหน่งละ 1 คน
ช่วยกันศึกษาเน้ือหา หน่วยที่ 5 ผู้นากิจกรรมนันทนาการ แล้วช่วยกันทาใบงานที่ 10 เรื่อง นาอย่างไร
และร่วมอภิปรายตามประเด็นที่ได้รบั มอบหมาย พรอ้ มกับส่งตัวแทนกลุ่มออกไปนาเสนอผลงานหนา้ ชั้น
เรียน ตามลาดบั

ขั้นสรปุ
1. ผู้สอนสรปุ เน้ือหาการนาเสนอผลงานของทกุ กลุ่ม โดยเปิดโอกาสใหผ้ เู้ รียนได้สรุปเนื้อหาร่วมกนั
2. ผสู้ อนซักถามความรู้ ความเข้าใจ เปน็ รายบคุ คล เพื่อประเมนิ ผลการเรียนรู้ และเปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรียนซกั ถามเพือ่

ทาความเขา้ ใจท่ถี ูกต้อง
3. ผสู้ อนแจกแบบทดสอบหลงั เรียน (แบบฝกึ หัดทา้ ยหน่วยท่ี 5 ตอนที่ 1) ให้ผเู้ รยี นคนละ 1 ชุดในชัว่ โมงเรยี นที่ 45

เม่ือทาเสร็จแล้วให้จับคู่กับเพ่ือน เพ่ือแลกเปล่ียนการประเมินผลงานให้แก่กัน แล้วนาผลงานเปรียบเทียบกับ
แบบทดสอบก่อนเรยี น เสร็จแล้วใหน้ าสง่ ครู

4. ผู้สอนแจกแบบประเมนิ พฤตกิ รรมทางด้านคณุ ธรรม และจริยธรรม ในชั่วโมงท่ี 45 ใหผ้ ู้เรยี น
คนละ 1 ชุด แล้วใหจ้ ับคู่กับเพ่อื น เพอื่ แลกเปลย่ี นการประเมินพฤตกิ รรม ฯ ใหแ้ ก่กนั เสร็จแลว้ ใหน้ าส่งผสู้ อน

5. ผู้สอนนดั หมายการเรยี นในครั้งตอ่ ไป

สอื่ การเรียนรู้
1. รปู ภาพ ห่นุ จาลอง สอื่ ของจรงิ หนงั สือพมิ พ์ และโทรทศั น์
2. แผน่ โปรง่ ใส และเครื่องฉายข้ามศรี ษะ
3. คอมพวิ เตอร์ โปรแจกเตอร์ แผ่นซดี ี และจอรับภาพ
4. อุปกรณก์ ฬี า
5. ใบงาน
6. แบบทดสอบ

แหล่งการเรียนรู้
หนงั สอื
บรรเทงิ เกิดปรางค.์ พฤติกรรมนนั ทนาการกบั การพัฒนาตน. กรุงเทพมหานคร : สานักพิมพ์ศนู ย์
สง่ เสรมิ วิชาการ, 2558.
เวบ็ ไกด์

www.bds.osrd.go.th
www.pantow.com
www.ryt9.com
www.seedang.com
www.thaigoodview.com
www.thaiwebkit.com

การวัดผลและประเมินผล
1. การสงั เกตการมสี ว่ นร่วมแสดงความคิดเห็น/การอภิปรายกลุ่ม
2. การประเมนิ ผลการรายงานกลุ่ม
3. การสงั เกตและซกั ถามความเขา้ ใจ
4. การทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรยี น
5. การประเมินพฤตกิ รรมทางดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม

บนั ทกึ หลงั สอน

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แบบทดสอบก่อน/หลงั เรียน บทที่ 5
ผูน้ ากิจกรรมนันทนาการ

1. ผเู้ รียนเหมาะกับการเป็นผู้นาฐานะอะไร 6. ข้อใด ไม่ใช่ คณุ สมบตั ิของผู้นานนั ทนาการ
ก. ผ้นู าตัวอยา่ ง ก. พดู จาฉะฉาน
ข. ผู้นาสญั ลกั ษณก์ ลุ่ม ข. กล้าแสดงออก
ค. ผ้นู าตวั แทน ค. มคี วามม่ันใจในตนเองสงู
ง. ผู้นาแบบรับผิดชอบ ง.ชอบพูดภาษาไทยปนกับภาษาองั กฤษ

2. ผนู้ ากิจกรรมนันทนาการทด่ี ี ควนปฏบิ ตั ติ นอยา่ งไร 7. การใชม้ ือประกอบคาพดู ของผนู้ ากจิ กรรมนันทนาการ ควรยกมอื
ก. เด็ดขาด ขึน้ ระดับใด
ข. ยุติธรรม
ค. เคร่งขรมึ ก. ยกสงู กว่าระดับไหล่
ง. ไมพ่ ดู มาก ข. ยกตา่ กวา่ ระดบั เอว
ค. ยกไว้ระดับหน้าอก
3. ส่งิ จาเป็นอันดบั รกในการฝึกผู้นากิจกรรมนันทนาการ คือ ง. จบั มือกนั ไพลไ่ ว้ข้างหลัง
อะไร
8. ขอ้ ใด ไม่ใช่ องค์ประกอบของการเป็นผนู้ ากิจกรรมนนั ทนาการ
ก. เข้าใจความตอ้ งการของผูเ้ ขา้ ร่วม ก. การบรหิ ารกจิ กรรม
ข. เขา้ ใจความรสู้ กึ ของตนเอง ข. การประสานงานกับหนว่ ยงาน
ค. ยอมรบั ในความแตกต่างของบุคคล ค. การคิดในเชิงสร้างสรรค์
ง. ยอมรับในความตอ้ งการของตนเอง ง. การเปลย่ี นความคิดไดต้ ลอดเวลา

4. ก่อนที่จะเปน็ ผูน้ ากจิ กรรมนนั ทนาการที่ดี ควรมที กั ษะด้านใด 9. สิง่ สาคญั ทส่ี ดุ ของการเป็นผ้นู ากจิ กรรมนนั ทนาการกลางแจง้ คอื
มาก่อน ขอ้ ใด

ก. เคยเลน่ กฬี ามากอ่ น ก. ความม่ันใจในตนเอง
ข. เคยทอ่ งเท่ยี วมามาก ข. ความเปน็ กนั เอง
ค. เคยเดนิ ทางไปตา่ งประเทศ ค. ความกระตือรือร้น
ง. เคยร่วมการประท้วงมากอ่ น ง. ความมุมานะยายาม

5. ผู้เรยี นอยากไดผ้ นู้ ากิจกรรมนนั ทนาการแบบใด 10. ข้อใดไม่ใช่ทกั ษะของการเปน็ ผ้นู ากิจกรรมนนั ทนาการ
ก. เอาแต่ใจ ก. ใฝ่รู้อยู่เสมอ
ข. ก้าวร้าว ข. ติดตามผล
ค. ประชาธิปไตย ค. ทนั ตอ่ เหตุการณ์
ง. เผดจ็ การ ง. สอดรสู้ อดเห็น

แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยที่ 6
วชิ า พฤตกิ รรมนนั ทนาการกบั การพฒั นาตน (3000-1603) จานวน 6 ชั่วโมง

ชือ่ หน่วย การจัดกจิ กรรมนันทนาการ สปั ดาหท์ ี่ 16-17

สาระสาคญั
การทดสอบสมรรถภาพทางกาย เป็นตัวบ่งบอกถึงความแข็งแรงสมบูรณ์ทางร่างกายของแต่ละบุคคล

ผเู้ รียนจาเป็นต้องทาการทดสอบสมรรถภาพทางกาย เพื่อทจ่ี ะได้ทราบสมรรถภาพทางกายที่แท้จริงของตนเอง
ในขณะนน้ั

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

จุดประสงคน์ าทาง
1. นาเสนอแนวคดิ การจัดกจิ กรรมนนั ทนาการไดอ้ ยา่ งสมเหตสุ มผล
2. อธบิ ายหลักการจดั กิจกรรมนนั ทนาการได้
3. จาแนกขอบขา่ ยของกจิ กรรมนนั ทนาการได้
4. บอกขัน้ ตอนการจัดกิจกรรมนันทนาการไดถ้ กู ตอ้ ง
5. จดั กจิ กรรมนันทนาการได้อย่างถกู ต้อง

จุดประสงค์ปลายทาง
เพอื่ ใหผ้ ู้เรียนสามารถจดั กิจกรรมนันทนาการไดต้ ามความเหมาะสม

สาระการเรยี นรู้

1. แนวคดิ การจดั กจิ กรรมนันทนาการ
2. หลกั การจดั กจิ กรรมนันทนาการ
3. ขอบข่ายของการจดั กจิ กรรมนนั ทนาการ
4. ข้ันตอนการจดั กจิ กรรมนันทนาการ

กิจกรรมการเรยี นการสอน
ข้ันนา ผู้สอนนาเข้าสู่บทเรียน โดยให้ผู้เรียนทุกคนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยท่ี 6 เร่ือง การจัดกิจกรรม
นันทนาการและร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเน้ือหาที่จะเรียนในช่ัวโมงน้ัน ๆ โดยมีผู้สอนช่วยสรุป
ความคดิ เห็นรว่ มกับผู้เรียน
ข้นั สอน ผูส้ อนแจ้งจดุ ประสงค์การเรียนรู้ พร้อมกับอธบิ ายเนื้อหา โดยใชร้ ูปภาพ หนุ่ จาลอง สอ่ื ของ จริงหรอื Power
Point ประกอบ และแบ่งกลุ่มผู้เรียนให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ผู้สอนกาหนดไว้ ตามตัวอย่างกิจกรรม
เสนอแนะ โดยให้ผู้เรียนศึกษาข้อมูลจากหนังสือแบบเรียนวิชา พฤติกรรมนันทนาการกับการพัฒนาตน
หน่วยท่ี 6 เรื่อง การจัดกิจกรรมนันทนาการ เรียบเรียงโดย นายบรรเทิง เกิดปรางค์ และเอกสารหรือสื่อ
ตา่ ง ๆ ตามที่ผู้สอนจัดเตรียมไว้

กจิ กรรมเสนอแนะ
1. ชั่วโมงที่ 48 แบ่งผู้เรียนออกเป็น 4 กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มเลือกประธาน และเลขา ฯ ตาแหน่งละ 1 คน ช่วยกัน
ศึกษาเนื้อหาในหน่วยท่ี 6 การจัดกิจกรรมนันทนาการ แลว้ ช่วยกนั ทา ใบงานที่ 11 เรื่อง เลน่ ต่างกัน โดยการ
ร่วมกันอภิปรายตามประเด็นท่ีได้รบั มอบหมาย พรอ้ มกบั ส่งตัวแทนกล่มุ ออกไปนาเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน
ตามลาดับ
2.ชั่วโมงท่ี 50 แบ่งผู้เรียนออกเป็น 6 กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มเลือกประธานและเลขา ฯ ตาแหน่งละ 1 คน ช่วยกัน
ศึกษาเนื้อหาในหน่วยท่ี 6 การจัดกิจกรรมนันทนาการ แล้วช่วยกันทา ใบงานท่ี 12 เรื่อง เรานาได้ โดยการ
รว่ มกันอภิปรายตามประเด็นที่ได้รับมอบหมาย พร้อมกบั สง่ ตัวแทนกลุ่มออกไปนาเสนอผลงานหน้าช้ันเรียน
ตามลาดบั

ขัน้ สรุป

1. ผู้สอนสรุปเน้อื หาการนาเสนอผลงานของทกุ กลมุ่ โดยเปดิ โอกาสให้ผเู้ รยี นไดส้ รุปเน้ือหารว่ มกัน
2. ผสู้ อนซกั ถามความรู้ ความเข้าใจ เปน็ รายบุคคล เพือ่ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และเปดิ โอกาสให้ผู้เรียนซักถาม

เพ่อื ทาความเขา้ ใจท่ถี ูกตอ้ ง
3. ผูส้ อนแจกแบบทดสอบหลังเรยี น (แบบฝึกหดั ท้ายหน่วยที่ 6 ตอนท่ี 1) ให้ผู้เรยี นคนละ 1 ชุดในชั่วโมงเรียนท่ี

51 เม่ือทาเสรจ็ แล้วให้จับคู่กบั เพ่ือน เพอ่ื แลกเปลยี่ นการประเมินผลงานให้แกก่ ัน แล้วนาผลงานเปรยี บเทียบ
กบั แบบทดสอบก่อนเรียน เสร็จแลว้ ให้นาส่งผู้สอน
4. ผู้สอนแจกแบบประเมนิ พฤตกิ รรมทางด้านคุณธรรม และจริยธรรม ในชว่ งทา้ ยชั่วโมงท่ี 51 ให้ผเู้ รียนคนละ 1
ชุด แล้วใหจ้ ับคกู่ ับเพอ่ื น เพอ่ื แลกเปลย่ี นการประเมินพฤติกรรม ฯ ให้แก่กนั เสรจ็ แล้วให้นาส่งผู้สอน
5. ผสู้ อนทบทวนเนื้อหา หน่วยท่ี 4 – 6 และนัดหมายการทดสอบปลายภาค

สือ่ การเรียนรู้
1. รูปภาพ หนุ่ จาลอง สือ่ ของจริง หนงั สอื พมิ พ์ และโทรทัศน์

2. แผน่ โปรง่ ใส และเครอื่ งฉายข้ามศรี ษะ
3. คอมพวิ เตอร์ โปรเจกเตอร์ แผ่นซดี ี และจอรบั ภาพ
4. ใบงาน
5. แบบทดสอบ
6. อปุ กรณ์ทดสอบสมรรถภาพทางกาย

แหล่งการเรยี นรู้

หนังสอื
บรรเทิง เกดิ ปรางค.์ พฤตกิ รรมนันทนาการกบั การพัฒนาตน. กรงุ เทพมหานคร : สานกั พมิ พ์ศูนย์

สง่ เสรมิ วิชาการ, 2558.
เวบ็ ไกด์

1. www.kapook.com
2. www.bds.osrd.go.th
3. www.thaihealth.or.th

การวดั ผลและประเมนิ ผล
1. การสังเกตการมสี ว่ นรว่ มแสดงความคิดเห็น/การอภิปรายกลมุ่

2. การประเมินผลการรายงานกลุม่
3. การสงั เกตและซกั ถามความเขา้ ใจ
4. การทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรียน
5. การประเมินพฤตกิ รรมทางดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม

บนั ทึกหลังสอน
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………….……………………………………………………………………………………………………………………..

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แบบทดสอบกอ่ น/หลงั เรยี น บทที่ 6
การจัดกจิ กรรมนนั ทนาการ

1. สง่ิ แรกทปี่ ฏบิ ตั ิก่อนจะจดั กิจกรรมนันทนาการคือขอ้ ใด 6. ข้อใด ไม่ใช่ แหลง่ นันทนาการสาธารณะ
ก. สารวจความตอ้ งการของกลุ่มบุคคล ก. สนามกฬี ากลาง
ข. จดั เตรยี มวสั ดุอปุ กรณ์และค่าใชจ้ า่ ย ข. ห้างสรรพสินคา้
ค. วางแผนการจดั กิจกรรมนนั ทนาการ ค. หาดชายทะเล
ง. ประชาสัมพันธก์ ารจดั กิจกรรม ง. หอ้ งสมดุ ชุมชน

2. จ้อใด ไมเ่ กย่ี วขอ้ ง กับความสาเรจ็ ในการจดั กจิ กรรม 7. นันทนาการขอ้ ใดทสี่ ามารถสรา้ งรายได้ให้กบั
นนั ทนาการ ตนเองได้

ก. ดา้ นการจดั การ ก. นนั ทนาการสารธารณะ
ข. ดา้ นบคุ ลากร ข. นันทนาการโรงพยาบาล
ค. ดา้ นสถานท่ี ค. นนั ทนาการชมุ ชน
ง. ด้านผลตอบแทน ง. นนั ทนาการออกกาลงั กาย

3. ควรจดั กิจกรรมนันทนาการเกีย่ วกบั อะไรใหแ้ กว่ ยั เด็ก 8. ข้อใด ไมใ่ ช่ ลกั ษณะของวตั ถุประสงคท์ ี่ดี
ก. การทางาน ก. มีความเปน็ ไปได้
ข. การแสดง ข. สามารถวดั ได้
ค. การเลน่ ค. ระบสุ ง่ิ ทต่ี ้องการได้
ง. การอา่ น ง. มตี วั เลอื กให้มาก ๆ

4. กจิ กรรมนนั ทนาการทเ่ี หมาะกับวยั รุ่น ควรมลี ักษณะ 9.ควรกาหนดเวลาในการวางแผนการทางาน
เชน่ ไร อย่างไร

ก. อ่อนไหว ก.ระบุเวลาเริม่ ต้นและสนิ้ สดุ ชดั เจน
ข. โลดโพน ข. ระบุเวลาเรมิ่ ใหเ้ ร็ว ๆ
ค. เร้นลับ ค. ระบเุ วลาสิน้ สดุ ออกไปนาน ๆ
ง. ใช้ความคิด ง. ระบขุ อบเขตของเวลาให้กว้าง ๆ

5. แหล่งนนั ทนาการแรกของมนษุ ยค์ อื ข้อใด 10. การเขยี นเปา้ หมายโครงการ ต้องระบุถงึ เรือ่ ง
ก. โรงเรียน ใด
ข. วดั
ค. ครอบครัว ก. เวลา
ง. ชุมชน ข. รายได้
ค. ปกรณ์
ง. คณุ ภาพ


Click to View FlipBook Version