อำนาจ นาคแก้ว

[50]

(1) ประชุมประจาเดอื น ทกุ วันที่ 5 ของเดอื น
(2) ประชมุ งานตา่ งๆ ตามวาระเร่งด่วน
1.11) จัดให้มีบุคลากรรับผิดชอบงานบุคลากรโดยตรงทา
หน้าทป่ี ระสานงานกับฝ่ายบรหิ ารในเรอ่ื งตา่ งๆ ดังนี้
(1) จดั ทาทะเบียนประวตั ิ
(2) จัดทารายงานประจาเดอื น
(3) จัดทาสมดุ ลงเวลาการปฏบิ ตั งิ าน
(4) จดั ทาบัญชคี วบคมุ วนั ลา
(5) เสนอขอการเล่ือนระดับ ปรบั ตาแหน่ง โอน(ย้าย)
(6) เสนอขอเคร่อื งราชอิสริยาภรณ์
(7) จัดทาบัญชีเงินเดือนเพื่อเสนอพิจารณาความดี
ความชอบ
1.12) ส่งเสริมให้บุคลากรไดเ้ ขา้ รว่ มประชุมอบรมสัมมนา เพอ่ื
เป็นการพฒั นาบคุ ลากร
1.13) ให้ความรู้แก่บุคลากรในด้านการปฏิบัติงาน ปฏิบัติตน
สิทธิ หน้าที่ การรักษาวินัย และสร้างขวัญกาลังใจในการปฏิบัติงาน
ตลอดเวลา
1.14) การแก้ไขปัญหาความขัดแย้ ง โดยให้คาปรึกษา
ข้อเสนอแนะต่างๆ ท่ีมีประโยชน์ อันซ่ึงจะนาไปสู่การแก้ไขปัญหาความ
ขัดแย้ง ซึ่งจะทาให้เกิดความรู้สึกท่ีดีต่อกัน สร้างสรรค์บรรยากาศแห่ง
ความสขุ และเสรมิ สร้างพลงั ในการทางาน

[51]

1.15) พจิ ารณาความดีความชอบของบุคลากร ให้เป็นไปด้วย
ความบรสิ ทุ ธิย์ ุตธิ รรมแกท่ กุ ฝา่ ย

1.16) ใช้วิธีการทางานตามแนวคิด ความขัดแย้ง (Conflict
Theory) ในรูปแบบวิภาษวิธี(Dialectic) ตามแนวคิดของ จอร์จ เฮเกล
(George Hegel) ซึ่งเริ่มต้นด้วยการเสนอ (Thesis) แล้วตามด้วยความ
คิดเห็นข้อเสนอแนะข้อโต้แย้งต่างๆ (Antithesis) หลังจากน้ันก็จะนามา
สังเคราะห์ (Sythesis) ซึ่งก็จะนาไปสู่บทสรุป (Absolute) อันจะนาไปสู่
ปฏิบัติ ขา้ พเจ้ามคี วามเชือ่ วา่ โรงเรยี นจะเปลีย่ นแปลงและพัฒนาไปในทางท่ี
ดีข้ึนได้อย่างรวดเร็ว โดยนาทฤษฎีความขัดแย้งไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม
กบั การบรหิ ารงานโรงเรียน

ผลกำรบรหิ ำรงำนบคุ คล
(1) ครูและบุคลากรทุกคนได้รับการพัฒนาให้ตระหนัก มี
ความสามารถในการปฏริ ปู กระบวนการเรียนรู้ ท่ีเนน้ ผู้เรียนเป็นสาคัญ และ
เปน็ ผู้มคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรม ปฏบิ ตั งิ านมปี ระสทิ ธภิ าพ เป็นระบบมากขึ้น
(2) จัดกิจกรรมการพัฒนาบุคลากรให้มีความสอดคล้องเหมาะสม
กับความต้องการของผู้ปฏิบัติงาน สร้างให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้คู่
คุณธรรม ทางานเป็นทีม งานทกุ อย่างของโรงเรียนมคี ณุ ภาพอยา่ งย่งิ
(3) ครูทาวิจัยในช้ันเรียน สร้างส่ือและนวัตกรรมมากข้ึนและจัด
การศกึ ษารว่ มกบั สถาบนั อืน่ ตลอดจนใช้แหลง่ ทรัพยากรในท้องถิน่ ทุกคน
(4) คุณภาพชีวิตครูดีขึ้น ทุกคนมีเงินวิทยฐานะ มีสวัสดิการและ
สทิ ธปิ ระโยชนเ์ ก้ือกูลในโรงเรยี น

[52]

กำรบริหำรงำนทวั่ ไป
เป็นงานท่ีเกี่ยวข้องกับการจัดระบบบริหารองค์กร ให้การ
บรหิ ารงานอ่ืนๆ บรรลุผล ตามมาตรฐาน คณุ ภาพและเป้าหมายท่ีกาหนดไว้
เป็นการบริหารงานท่ีมุ่งเน้นผลสัมฤทธ์ิของงานเป็นหลักโดยเน้นความ
โปร่งใส ความรบั ผดิ ชอบทีต่ รวจสอบได้ มีแนวทางการบริหาร ดังนี้
1) งานธรุ การ

งานธุรการเป็นงานท่ีจะต้องให้บริการประสานงานกับฝ่าย
ต่างๆ ทั้งภายในโรงเรียน หน่วยงานภายนอก ชุมชน เอกชนและบุคคล
ทว่ั ไป ซ่ึงจะต้องเปน็ ไปด้วย ความถูกต้อง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ โดย
ยึดระเบียบและแนวปฏิบัติของทางราชการเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน
โดยเฉพาะตอ้ งเนน้ การบรกิ ารสนบั สนุนและการรักษาสทิ ธปิ ระโยชน์ของทุก
ฝ่ายอย่างทั่วถึง การดาเนินการของงานธุรการ ต้องอาศัยความรู้
ความสามารถ ความรอบคอบ ความรบั ผดิ ชอบ ความเสียสละ ความซือ่ สัตย์
เป็นอย่างสูง จึงจะทาให้การทางานบรรลุตามวัตถุประสงค์ โดยข้าพเจ้าได้
ปฏิบตั ิหน้าท่ีงานธุรการ ดังน้ี

1.1) การวางแผนและการบริหารงานธุรการ
ดาเนินการแต่งต้ังคณะทางาน โดยการดาเนินงานที่

ประสานงานกนั ซงึ่ เน้นการบริการ สนับสนุนและรักษาสทิ ธิประโยชน์ให้ทุก
ฝ่ายอย่างต่อเนื่อง มีการสอบถามกันตลอดเวลา เพื่อให้ทราบถึงปัญหาใน
การปฏิบัติงานต่างๆ เพ่ือเก็บรวบรวมข้อมูลปัญหานาไปวิเคราะห์หาแนว
ทางแก้ไข ซึ่งทาใหก้ ารดาเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถูกต้อง และมี

[53]

ประสิทธิภาพ และเป็นข้อมูลเพื่อใช้ในการวางแผนการบริหารงานธุรการ
ต่อไป เนื่องจากงานธุรการ จะต้องยึดถือระเบียบและแนวทางการ
ปฏิบัติงานของทางราชการเป็นสาคัญ เพ่ือไม่ให้เกิดความเสียหายจากการ
ปฏิบัติงานจงึ ต้องยดึ ถือระเบียบตา่ งๆ เป็นแนวทางการปฏบิ ตั ิงาน

1.2) การบริหารงานสารบรรณ
งานสารบรรณเป็นงานท่ีเก่ียวกับการบริหารเอกสาร เร่ิม

ต้ังแต่การจัดทา การรับ การส่ง การเก็บรักษา การยืม และการทาลาย ซ่ึง
ขา้ พเจา้ ได้ปฏิบัติหน้าท่ีในการบรหิ ารงานสารบรรณ ดงั นี้

(1) จัดให้มีบุคลากรในการจัดทางานสารบรรณใน
โรงเรยี น

(2) จัดหาให้มีวัสดุอุปกรณ์ ครุภัณฑ์ เอกสารคู่มือในการ
ปฏบิ ตั งิ านสารบรรณ เชน่ ตู้เอกสาร แฟ้ม ทะเบียนรับ ทะเบียนส่ง ระเบียบ
ต่างๆ เปน็ ต้น

(3) จดั ให้มีการจัดเกบ็ หนงั สือราชการอยา่ งมรี ะบบ ดงั น้ี
(3.1) การรับ การส่งหนังสือ ให้มีการรับ–ส่งหนังสือ

โดยมีทะเบยี นคมุ หนงั สือรบั และส่งหนังสอื ให้เป็นปจั จุบัน
(3.2) การเก็บหนังสือราชการ เมื่อหนังสือราชการ

เรื่องใดได้ปฏิบัติเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ให้นาไปจัดเก็บให้เป็นระบบ เป็น
หมวดหมตู่ ามระเบียบ

(3.3) การยืมหนังสือราชการ จัดใหม้ ีทะเบยี นคุมการ
ยมื หนังสอื ราชการให้เป็นปจั จุบนั

[54]

(3.4) การทาลายหนังสือ จัดให้มีการทาลายหนังสือ
โดยยึดถือระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526
เป็นแนวปฏิบตั ิ

1.3) ดาเนินการจัดทาแผนพัฒนา ระยะ 3 ปี5 ปี เพื่อ
เสนอของบประมาณสนับสนุนจากเทศบาลฯ และเงินอุดหนุนจากกรม
ส่งเสรมิ การปกครองท้องถ่นิ กระทรวงมหาดไทย

1.4) ดาเนินการจัดทาแผนพัฒนาสถานศึกษา ประจาปี
เพอ่ื ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน

1.5) จัดให้มีสมุดหมายเหตุ รายวัน เพื่อใช้บันทึกข้อมูล
ต่างๆ ของโรงเรียน ที่เกิดข้ึนในแต่ละวัน สมุดตรวจเย่ียม สมุดตรวจการ
บันทึกการตรวจเยี่ยม การตรวจการ

1.6) จัดทาคาส่ังต่างๆ เพ่ือส่ังการในการปฏิบัติหน้าที่ใน
โรงเรียน

1.7) จัดให้มีการแจกจ่ายการปฏิบัติหน้าท่ีต่างๆ ให้
ถกู ต้องตามภารกิจของงานตา่ งๆ ในโรงเรียน โดยเป็นผู้ประสานงานกับงาน
ต่างๆ จนการปฏบิ ัติงานนนั้ ๆ สาเรจ็ ลุลว่ งไปด้วยดี

1.8) จัดให้มีการจัดทาปฏิทินปฏิบัติงานประจาปี เพ่ือ
เป็นการกาหนดระยะเวลาของการปฏิบัติงานต่างๆ จะได้ปฏิบัติงานต่างๆ
ให้ทันต่อเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ มีการวางแผนการปฏิบัติงานล่วงหน้า
และปฏิบัติงานให้เปน็ ปจั จุบนั

[55]

1.9) พัฒนาเป็นเครือข่ายและจัดระบบข้อมูลของ
สถานศกึ ษาเพ่อื ใช้ในการบรหิ ารจดั การภายในสถานศกึ ษา

1.10) การจัดระบบการบริหารและพัฒนาองค์กร
วางแผนออกแบบการจดั ระบบโครงสรา้ งการแบ่งสว่ นราชการภายใน ระบบ
การท างานและการบริหารงานของสถานศึกษา ดาเนินการบริหารจัดการ
ให้เป็นไปตามโครงสร้างติดตามประเมินผลและปรับปรุงระบบบริหารให้มี
ประสทิ ธภิ าพ

1.11) การส่งเสริมสนับสนุนด้านวิชาการ งบประมาณ
บุคลากรและบริหารท่ัวไป จัดหาส่ือ วัสดุอุปกรณ์ เทคโนโลยีท่ีเหมาะสม
เพอื่ ให้การสนับสนุนและอานวยความสะดวกในดา้ นต่างๆ ใหม้ ีความยดื หย่นุ
คลอ่ งตวั และมปี ระสทิ ธภิ าพ

1 . 1 2 ) ก า ร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร อ า ค า ร ส ถ า น ที่ แ ล ะ
สภาพแวดล้อม วางแผนการบริหารจัดการอาคารสถานที่บารุง ดูแลและ
พัฒนาอาคารสถานท่ีและสภาพแวดล้อมให้อยู่ในสภาพที่ม่ันคง ปลอดภัย
พร้อมท่ีจะใช้ประโยชน์ให้เกิดความคุ้มค่าและเอ้ือประโยชน์ต่อการเรียนรู้
ประเมินผลการใชอ้ าคารสถานทแี่ ละสภาพแวดลอ้ ม

1.13) การจัดทาสามะโนผู้เรียน ประสานงานกับชุมชน
และทอ้ งถิ่นในการสารวจข้อมูล จานวนนักเรียน ท่ีจะเข้ารับการบริการทาง
การศึกษาในเขตบริการของสถานศึกษา จัดทาสามะโนผู้เรียนที่จะเข้ารับ
บริการทางการศึกษาของสถานศกึ ษา

[56]

1.14) การรับนักเรียน กาหนดแผนการรับนักเรียนของ
สถานศึกษา รายงานผลการรับเด็กนักเรียนให้หน่วยงานบังคับบัญชาท่ีสูง
กวา่ รบั ทราบ

1.15) การส่งเสริมกิจการนักเรียน จัดกิจกรรมนักเรียน
และส่งเสริมสนับสนุนให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมอย่างหลากหลายตามความ
ถนัดและความสนใจ เรียนรู้จากประสบการณ์จรงิ ฝึกปฏบิ ัตใิ หท้ าได้ คิดเป็น
ทาเป็น แก้ปัญหาได้ รักการอ่านและใฝ่เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง มีลักษณะท่ีพึง
ประสงค์ตามท่สี ถานศกึ ษากาหนด

1.16) การประชาสัมพันธ์ ดาเนินการประชาสัมพันธ์
ผลงานของสถานศกึ ษาในหลากหลายรูปแบบ โดยยึดหลักการมีสว่ นรว่ ม

1.17) การจัดระบบการควบคุมภายในหน่วยงาน
วิเคราะห์สภาพปจั จบุ ันปัญหาตามโครงสร้างและภารกจิ ของสถานศึกษาวาง
แผนการจัดระบบการควบคุมภายใน ดาเนินการควบคุมตามหลักเกณฑ์
มาตรการและวิธกี ารทีส่ านักงานตรวจเงินแผน่ ดนิ กาหนด

งำนควำมสมั พันธ์กับชมุ ชนด้านงานความสมั พันธ์กับชุมชนมี
บทบาทสาคัญมากตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ท่ี
กาหนดให้ชุมชน มีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาโดยเป็นคณะกรรมการ
สถานศึกษาข้ันพืน้ ฐานและการระดมทุนและทรพั ยากรทางการศึกษา จึงถือ
ได้ว่างานความสัมพันธ์กับชุมชน เป็นงานสาคัญอย่างหน่ึงของการบริหาร
โรงเรียน ข้าพเจ้าได้ดาเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ และให้เกิดประโยชน์
สงู สุด ดงั นี้

[57]

1) งานการใหบ้ รกิ ารชุมชนดา้ นต่างๆ
(1) วางแผนแนวทางในการใหบ้ รกิ ารแกช่ ุมชน
(2) กาหนดใหม้ ผี ู้รบั ผดิ ชอบในการใหบ้ ริการแก่ชุมชน
(3) ให้บริการด้านอาคารสถานท่ี โดยยึดระเบียบการขอ

ใชอ้ าคารสถานทขี่ องสถานศึกษา
(4) ให้บริการด้านความรู้ และวิชาการแก่ชุมชนใน

รูปแบบต่างๆ
(5) ให้บริการด้านบคุ ลากรแกช่ มุ ชนในโอกาสตา่ งๆ
(6) ใหบ้ รกิ ารดา้ นวัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ
(7) อานวยความสะดวก ในการติดต่องานต่างๆ ที่

โรงเรียน
(8) จัดระบบติดตาม ประเมินผลการให้ความช่วยเหลือ

กับชมุ ชน
2) งานการรับความช่วยเหลือสนบั สนนุ จากชมุ ชน
(1) วางแผน ประชาสัมพนั ธใ์ ห้ชุมชนเหน็ ความสาคญั ของ

โรงเรียน โดยดาเนินการประชุมผู้ปกครอง ร่วมกิจกรรมกับชุมชน จัดทา
วารสาร หรือสิ่งพิมพเ์ ผยแพร่ จดั ป้ายประกาศเผยแพร่ข่าวสาร พบปะเยี่ยม
เยยี นในโอกาสทเ่ี หมาะสม

(2) เปิดโอกาสให้ชุมชนเข้า มามีส่วนร่วมในการพัฒนา
โรงเรียนโดยชุมชนช่วยเหลือด้านทุนทรัพย์ แรงงาน ความคิดหรือวัสดุ
อปุ กรณ์

[58]

(3) จัดให้มีการยกย่อง ตอบขอบคุณ แก่ผู้ช่วยเหลือ
โรงเรยี น

(4) จัดทารายงานการได้รับความช่วยเหลือจากชุมชน
เสนอให้หน่วยงานตน้ สังกดั ทราบ

3) งานเกี่ยวกบั องค์คณะบุคคล
(1) วางแผนเก่ียวกับการสรรหาบุคคลเพื่อแต่งต้ังเป็น

คณะกรรมการฝา่ ยตา่ งๆ
(2) ดาเนิน การติดต่อบุคคลที่จะแต่งตั้งให้เป็น

คณะกรรมการ
(3) ประชุมชี้แจงบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการ

สถานศึกษาข้ันพื้นฐานแกบ่ คุ คลทีไ่ ด้รับการแต่งตงั้
(4) จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาขั้น

พ้นื ฐาน ภาคเรียนละ 1 ครั้ง เปน็ อย่างนอ้ ย
(5) จัดให้มีสมุดบันทึกการประชุม และเอกสารต่างๆ ท่ี

เกยี่ วกับคณะกรรมการสถานศกึ ษาข้ันพื้นฐาน
4) งานสร้างเสริมความสัมพันธ์กับชุมชน และหน่วยงาน

อน่ื ๆ
(1) วางแผนการสร้างความสัมพันธ์กับชุมชน และ

หน่วยงานอน่ื โดยการรว่ มงานการเขา้ เยีย่ มคารวะในวนั สาคญั
(2) กาหนดบุคลากรในการติดต่อประสานงานกับชุมชน

และหนว่ ยงานอ่ืนๆ

[59]

(3) ดาเนนิ การจดั กจิ กรรมร่วมกับชุมชน ทางด้านศาสนา
งานประเพณีตา่ งๆ พัฒนาท้องถน่ิ การส่งเสริมกฬี า

(4) ให้ความช่วยเหลือแก่ชุมชน และหน่วยงานอื่นตาม
โอกาสอนั ควร

5) การประชาสัมพนั ธ์ บรหิ ารจัดการ ดังน้ี
(1) ศึกษาความต้องการในการเผยแพร่ข่าวสาร ข้อมูล

และผลงานของโรงเรียน รวมท้ังความต้องการในการได้รับข่าวสารข้อมูล
ทางการศึกษาของชุมชน

(2) แตง่ ตง้ั เจ้าหน้าทีป่ ระชาสมั พันธข์ องโรงเรยี น
(3) วางแผนการประชาสัมพันธ์ของโรงเรียน โดยการมี
ส่วนร่วมของบุคคล ชุมชนโรงเรียน จัดประชาสัมพันธ์โดยทาแผ่นพับเดือน
ละ 1 ฉบบั ประชาสมั พันธข์ า่ วทกุ วนั ประชุมผู้ปกครองภาคเรียนละ 1 คร้ัง
ประกาศเกียรตคิ ุณผลงานโรงเรยี น ด้วยเสยี งตามสายของเทศบาลตาบลไทร
ม้า จัดทาป้ายไวนลิ ประชาสัมพนั ธต์ ดิ หนา้ โรงเรียน เป็นตน้
(4) พัฒนาบุคลากรผู้รับผิดชอบงานประชาสัมพันธ์ ให้มี
ค ว า ม รู้ ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร ด า เ นิ น ก า ร ป ร ะ ช า สั ม พั น ธ์ ผ ล ง า น ข อ ง
สถานศึกษา
(5) สร้างกิจกรรมการประชาสัมพันธ์ในหลากหลาย
รูปแบบ โดยยดึ หลักการมสี ว่ นรว่ มของเครอื ขา่ ยประชาสัมพันธ์
(6) ติดตาม ประเมินผล การประชาสัมพนั ธ์ เพ่ือให้ทราบ
ถึงผลทีไ่ ดร้ บั และนาไปดาเนนิ การปรับปรงุ แกไ้ ขพัฒนาใหเ้ หมาะสมตอ่ ไป

[60]

ผลกำรบรหิ ำรท่ัวไปและควำมสัมพันธ์กับชมุ ชน
(1) โรงเรียนมีแผนดาเนินงาน งบประมาณ แผนพัฒนา และ
แผนปฏิบัติการประจาปี เป็นตัวบ่งชี้ แนวทางการปฏิบัติงานได้อย่างมี
ประสิทธภิ าพ
(2) โรงเรยี นมีระบบการจัดเก็บข้อมลู การรายงานและการนาไปใช้
ในการบรหิ ารงานพฒั นาครู นักเรยี น
(3) การดาเนินการจัดสรรงบประมาณ วัสดุ อุปกรณ์ เป็นไปตาม
วตั ถุประสงค์สามารถตรวจสอบได้
(4) การเกณฑ์เดก็ เขา้ เรียนระดบั การศึกษาขนั้ พน้ื ฐานเตม็ 100 %
(5) โรงเรียนมีการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
อยา่ งนอ้ ยภาคเรียนละ 1 คร้ัง
(6) โรงเรียนใชป้ ระโยชน์ บารงุ รักษา พัฒนาอาคารสถานท่ีอย่างดี
ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตลอดจนจัดเวรยาม ดูแลทรัพย์สินของทางราชการ
ตามระเบียบ
(7) การประสานงานติดต่อขอใช้และให้บริการระหว่างโรงเรียน
องค์กรอ่ืนๆ และชมุ ชนเป็นไปดว้ ยดี
(8) บุคลากรในโรงเรียนเกิดการพัฒนาจากการนาผลการประเมิน
ทง้ั ในส่วนตน นกั เรียน และโรงเรียนอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ล
(9) ทกุ ภารกิจ ทกุ งานทโี่ รงเรียนได้รบั มอบหมายจากหน่วยงานต้น
สังกัด ดาเนินไปไดต้ ามวัตถปุ ระสงคแ์ ละเป้าหมาย

[61]

(10) โรงเรียนเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน มีส่วนให้และรับการ
สนับสนนุ จากชุมชนอยา่ งเหมาะสม

(11) มีผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนผู้ปกครอง ผู้แทนองค์กรปกครองส่วน
ท้องถ่ิน ผู้แทนชุมชน ผู้แทนพระภิกษุสงฆ์ ผู้แทนครู ผู้แทนศิษย์เก่า ร่วม
เปน็ คณะกรรมการสถานศกึ ษาข้นั พ้นื ฐานของโรงเรยี น

(12) มีการแลกเปลี่ยนความรู้ ข้อมูล ข่าวสารอย่างดียิ่งระหว่าง
โรงเรยี นและชุมชน

2) คณุ ภำพกำรปฏบิ ัติงำนตำมมำตรฐำนวิทยฐำนะ
2.1) ผลงานท่ีเกิดจากความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับการบริหารในหน้าที่

กฎหมาย กฎระเบียบท่ีเก่ียวข้องกับการปฏิบัติงานและความรอบรู้ท่ัวไปใน
ระดับตามทก่ี าหนดในมาตรฐานวิทยฐานะ

การศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐานมคี วามจาเปน็ และสาคัญต่อการจัดการศึกษา
ของประเทศมากเพราะเป็นการศึกษาสาหรับประชาชนทุกคนโดยถ้วนหน้า
และครอบคลุมการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ซ่ึงจะมีผลต่อความเจริญพัฒนาของ
ประเทศทกุ ด้าน การจัดการศึกษาในระดับน้ีผู้บริหารสถานศึกษาต้องจัดให้
เปน็ ไปตามกฎหมายและระเบยี บที่เกีย่ วขอ้ ง ดังตอ่ ไปน้ี

(1) รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ที่ได้
กาหนดแนวนโยบายด้านการ ศึกษา มาตรา 80 (3) ได้แก่ พัฒนาคุณภาพ
และมาตรฐานการ จดั การศกึ ษาในทุกระดับและทุกรปู แบบให้สอดคล้องกับ
ความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม จัดให้มีแผนการศึกษาแห่งชาติ

[62]

กฎหมายเพ่ือพัฒนาการศึกษาของชาติ จัดให้มีการพัฒนาคุณภาพครูและ
บุคลากรทางการศึกษาให้ก้าวหน้าและทันการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก
รวมทั้งปลูกฝังให้ ผู้เรียนมีจิตสานึกของความเป็นไทย มีระเบียบวินัย
คานงึ ถงึ ประโยชน์ส่วนรวม และยดึ มนั่ ในการปกครองระบอบประชาธิปไตย
อนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมุข

(2) พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และแก้ไข
เพม่ิ เตมิ (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2545 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553 กล่าวถึงการจัด
การศึกษาของโรงเรียน การศึกษาขั้นพื้นฐาน ต้องปฏิบัติตามภารกิจท่ี
กาหนดไว้ 7 เรื่อง คือ หลักการจัดการศึกษาโดยทั่วไป ความมุ่งหมายของ
การจัดการศึกษาการจัดระบบการศึกษา ลักษณะการจัดการศึกษาขั้น
พ้ืนฐาน การจัดการเรียนการสอน บทบาทของบุคคล ครอบครัว และ
สถาบนั สังคมในการจดั การศึกษา และการปฏริ ปู การเรยี นรู้

(3) แผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ.2545–2559) ได้กาหนดกรอบ
แนวทางการจัดการศึกษาอย่างต่อเน่ือง และเป็นระบบ โดยมี 3
วัตถุประสงค์ 11 แนวนโยบายเพื่อดาเนินการ

(4) หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พ .ศ. 2551 ที่
กาหนดจุดมุ่งหมายเพ่ือพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มี
คุณภาพชีวติ ดี มคี วามสามารถแข่งขนั ในเวทีโลกและใหส้ ถานศกึ ษามสี ่วนใน
การพัฒนาหลักสูตร โดยยึด วิสัยทัศน์ จุดหมายของหลักสูตร สมรรถนะ
สาคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์มาตรฐานการเรียนรู้และ
ตัวชี้วัด เพื่อใช้เป็นทิศทางในการจัดทาหลักสูตรการเรียนการสอนในแต่ละ

[63]

ระดับ จัดโครงสร้างเวลาเรียน และกระบวนการวัดและประเมินผลผู้เรียน
ตลอดจนเอกสารแสดงหลักฐานทางการศึกษาให้มีความสอดคล้องกับ
มาตรฐานการเรยี นรู้

(5) มาตรฐานการศึกษาของโรงเรียน ตามกฎกระทรวง ว่าด้วย
ระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ .ศ. 2553 ข้อ
14 (1) ให้สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาของชาติ เอกลักษณ์ของ
โรงเรียน และมาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐานตามท่ี
กระทรวงศึกษาธิการกาหนด มาตรฐานการศึกษาที่ใช้ในการประเมิน
คุณภาพภายในสถานศึกษา สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน
กระทรวงมหาดไทย ตอ้ งครอบคลมุ สาระการเรียนรู้และกระบวนการเรียนรู้
รวมท้ังคานงึ ถึงศักยภาพผเู้ รียน ชุมชน และท้องถิน่

(6) ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการนา
เงินรายได้ของสถานศึกษาไปจัดสรรเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาใน
สถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2551 ระเบียบ
กระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วน
ท้องถ่ิน พ .ศ. 2535 และระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การ
เบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงินและการตรวจเงินขององค์กร
ปกครองส่วนท้องถ่ิน พ.ศ. 2547 กฎหมาย ระเบียบ และหนังสือส่ังการท่ี
เก่ียวข้องเป็นจานวนมากนอกเหนือจากดังกล่าวข้างต้น ข้าพเจ้าได้เรียนรู้
พัฒนาตนเองต้ังแต่เร่ิมรับราชการ โดยได้ดาเนินการศึกษาหาความรู้จาก
หลายๆ แหลง่ ทั้งเปน็ การศกึ ษาดว้ ยตนเองจากตารา อินเตอร์เน็ต เอกสารที่

[64]

เผยแพร่ จากการเข้าอบรม หรือจากการศึกษาดูงาน ตลอดจนการ
แลกเปล่ยี นเรยี นรู้กับผูบ้ ริหารสถานศึกษา ศกึ ษานิเทศก์ครู ผู้มีความรู้ความ
เชยี่ วชาญเฉพาะด้านหลายทา่ น ทาให้ปฏิบตั ิงานได้อย่างถูกตอ้ ง มีประสิ ทธิ
ภาพ ครอบคลุมภารกิจหน้าท่ีในการจัดการศึกษาทั้งการศึกษาในระบบ
การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย ทาให้เด็ก เยาวชน และ
ประชาชนไดเ้ รยี นรู้ตลอดชวี ติ โดยได้พัฒนาตนเองอยา่ งตอ่ เน่ือง ดงั นี้

(1) การประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทาผลงานทางวิชาการเพ่ือเลื่อน
วทิ ยฐานะเชย่ี วชาญ วันท่ี 5–8 มกราคม 2554 โรงแรมเวล จงั หวัดนครปฐม

(2) การประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการช้ีแจงการใช้เคร่ืองมือ
ประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษาและเตรียมความพร้อมในการประเมิน
คณุ ภาพการศึกษารอบสาม วันที่ 19–21 มกราคม 2554 โรงแรมเชียงใหม่
ภูคา จังหวัดเชียงใหม่

(3) การสัมมนาเชงิ ปฏบิ ัติการว่าดว้ ยแนวทางการบรหิ ารงานบุคคล
ทางการศึกษาสาหรับข้าราชการ พนักงานครูและบุคลากรทางการศึกษา
ท้องถ่ิน พ .ศ. 2554 วันท่ี 4 – 6 พฤษภาคม 2554 โรงแรมอเล็กซานเดอร์
กรุงเทพฯ

(4) โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพการจัดทา
แผนพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินและแผนพัฒนาการศึกษาของ
สถานศึกษาในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ประจาปีงบประมาณ
2555 วนั ที่ 1 – 3 กมุ ภาพนั ธ์ 2555 ณ โรงแรมอเล็กซานเดอร์ กรงุ เทพฯ

[65]

(5) โครงการอบรมเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารงานคลัง
ขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ประจาปีงบประมาณ 2555 วันที่ 14 – 16
มถิ นุ ายน 2555 ณ โรงแรมอเลก็ ซานเดอร์ กรงุ เทพฯ

(6) โครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพ่ือพัฒนาศักยภาพการ
บริหารงบประมาณทางการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและ
สถานศึกษาประจาปีงบประมาณ 2556 วันที่ 29 มกราคม–1 กุมภาพันธ์
2556

(7) โครงการประชมุ เชิงปฏบิ ตั ิการเพ่มิ ทักษะการจัดทาผลงานทาง
วิชาการประจา ปีงบประมาณ พ.ศ.2556 วันท่ี 1–4 มีนาคม 2556 ณ
โรงแรมคมุ้ ภคู า อาเภอเมืองเชยี งใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

2.2) ผลงานที่เกิดจากความสามารถในการบริหารจัดการสถานศึกษา
ด้านวิชาการ งบประมาณ การบริหารงานบุคคลและการบริหารงานทั่วไป
งานใดงานหน่ึงหรือหลายงานที่ได้รับมอบหมาย ท่ีแสดงให้เห็นถึง
ความสามารถในการบริหารจดั การสถานศกึ ษา มคี วามคิดรเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์ มี
การปรับประยุกต์หรือมีการสังเคราะห์หรือสร้างองค์ความรู้ใหม่ตามที่
กาหนดในมาตรฐานวทิ ยฐานะ ดังน้ี

(1) ดา้ นวชิ าการ
(1.1) ทาวิจัยเพื่อพัฒนาการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรม

เพ่ือพัฒนาคุณธรรมสาหรับเด็กปฐมวัย สถานศึกษาขนาดเล็กในสังกัดกรม
ส่งเสริมการปกครองทอ้ งถ่นิ

(1.2) การประเมนิ โครงการ SAIMA MINI SCOUT

[66]

(1.3) พัฒนาครูจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็น
สาคัญ แนวการจัดการเรียนรู้แบบย้อนกลับ (Backward Design) โดยยึด
มาตรฐานและผลการเรียนรูท้ ค่ี าดหวังเป็นตวั ต้งั

(2) ด้านงบประมาณ
(2.1) บริหารงานการเงินและงบประมาณ กากับดูแลและ

นิเทศทุกฝา่ ยทเ่ี ก่ยี วข้อง
(2.2) จัดทาคู่มือและแนวทางการบริหารการเงินและ

งบประมาณ ขัน้ ตอนการดาเนนิ การพัสดขุ องโรงเรยี น
(2.3) สนบั สนนุ งบประมาณและวสั ดุอปุ กรณก์ ารจัดการศึกษา

โดยจัดแบง่ งบรายหัว งบพฒั นาผเู้ รียน และวัสดอุ ปุ กรณ์อยา่ งเหมาะสม
(2.4) ระดมทรัพยากรด้านงบประมาณ วัสดุ ครุภัณฑ์ และ

บคุ ลากรเพือ่ การจดั การศกึ ษาของโรงเรียน จากบุคคล หน่วยงานท่เี ก่ยี วข้อง
อยา่ งต่อเนอื่ ง

(3) ด้านการบริหารงานบุคคล
(3.1) จัดทาคู่มือการปฏิบัติงานครู แต่ละปีการศึกษา จัดทา

คมู่ อื ครูส่มู าตรฐานตาแหน่ง/มาตรฐานวิทยฐานะการประเมินผลงานเพ่ือให้
มีหรอื เลื่อนวทิ ยฐานะที่สงู ขนึ้

(3.2) จัดประชุมทางวิชาการของโรงเรียนและประชุมครู
บุคลากรทางการศึกษา เดอื นละ 1 ครง้ั

[67]

(3.3) ส่งเสริมครูให้มีการนานวัตกรรม เทคโนโลยี บริการสื่อ
ใหศ้ กึ ษาคน้ คว้าจากห้องสมุดและทางอินเตอร์เน็ต เพ่ือให้การจัดการศึกษา
มีคุณภาพ รวดเรว็ ทนั สมัยและถูกต้อง

(3.4) ส่งเสรมิ ครใู นการทาวจิ ัยในชั้นเรียนเพ่ือพัฒนาการเรียน
การสอน

(3.5) ส่งครูหรือเจ้าหน้าท่ีท่ีเกี่ยวข้องกับงานต่างๆ เข้าร่วม
ประชุม อบรม กับโครงการ กิจกรรมต่างๆ ของกองการศึกษา เทศบาล
ตาบลไทรมา้ กรมสง่ เสริมการปกครองท้องถิ่นหรอื หนว่ ยงานอื่นๆ

(3.6) สง่ เสริมสนับสนุนให้ครูไดพ้ ัฒนาตนเองใหม้ คี ณุ วฒุ สิ งู ขึน้
(3.7) จัดทาเกณฑ์และดาเนินการประเมินผลการปฏิบัติงาน
ของครู
(3.8) จัดสรรทรัพยากรสนบั สนุน ส่งเสรมิ การพัฒนาครู โดยมี
การจัดต้ังกองทุนเพื่อส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ หรือผลงานดีเด่น
และมีรางวัลเชิดชเู กียรติ
(3.9) ระดมทรัพยากรบุคคลและภูมิปัญญาท้องถิ่นในชุมชน
ให้มสี ่วนร่วมในการจัดการศึกษา เพ่ือประโยชน์ทางการศึกษา และส่งเสริม
สนับสนนุ การจดั การศึกษา
(3.10) เป็นแบบอย่างที่ดีเป็นผู้นา เร่ืองของความรู้
ความสามารถ ความประพฤติ โดยเฉพาะด้านความขยันหม่ันเพียร รัก
ความก้าวหน้า จึงส่งเสริม สนับสนุนให้ครูจัดทาผลงานเพ่ือพัฒนาตนเองให้
มีวิทยฐานะสงู ข้ึน

[68]

(4) การบรหิ ารงานทว่ั ไป
(4.1) ภายใต้การบริหารงานโดยยึดหลักการบริหารและการ

จัดการตามหลกั ธรรมาภบิ าลพรอ้ มบูรณาการจดั การเชิงกลยุทธ์และใช้วงจร
คณุ ภาพ PDCA ควบคมุ

(4.2) กาหนดงานที่รับผิดชอบด้านการจัดการศึกษา ไว้ใน
โครงสร้างขององค์กร โดยแบง่ ออกเปน็ 4 ฝ่าย 6 งาน เพ่ือใหบ้ ุคลากรและผู้
ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการบริหารงาน กระจายอานาจการบริหาร
จดั การ และมอบอานาจการตัดสินใจในแต่ละฝา่ ยหรอื งาน

(4.3) พัฒนาระบบและเครือข่ายข้อมูลสารสนเทศ โดย
จัดระบบฐานข้อมูลของโรงเรยี น เพอ่ื ใช้ในการบริหารจดั การภายในโรงเรียน
จัดระบบเครือข่ายข้อมูลสารสนเทศ เชื่อมโยงกับต้นสังกัด นาเสนอและ
เผยแพร่ข้อมูลและสารสนเทศ เพ่อื การประชาสมั พันธ์

(4.4) การส่งเสริมงานกิจการนักเรียน ได้ดาเนินการจัด
กิจกรรมนักเรียนและส่งเสริมสนับสนุนให้นักเรียน ได้มีส่วนร่วมในการจัด
กจิ กรรมอยา่ งหลากหลายตามความสนใจและความถนดั ของนักเรยี น

(4.5) พัฒนาแหล่งเรียนรู้ จัดการเรียนรู้ภายในและนอก
โรงเรียน ดงั น้ี

(4.5.1) แหลง่ เรยี นรูภ้ ายในโรงเรียน มี ศูนย์การเรียนรู้ 1
หอ้ ง หอ้ งนาฏศิลป์ 1 ห้อง หอ้ งสมดุ เสมอื นจรงิ 1 หอ้ ง

[69]

(4.5.2) แหล่งเรียนรู้ภายนอกโรงเรยี นที่ร่วมจัดการเรยี นรู้
กับโรงเรียน ทุกปีการศึกษา เช่น แหล่งเรียนรู้ในชุมชน และแหล่งเรียนรู้ที่
นักเรยี นรว่ มกันพจิ ารณา

(4.6) วางแผนการศึกษา โดยจดั ทาแผนพัฒนาการศึกษา 3 ปี
จัดทาแผนพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาหรือแผนกลยุทธ์สถานศึกษา ให้
สอดคล้องกับเป้าหมายและทิศทางของต้นสังกัดและสนองความต้องการ
ของชุมชนและสังคม ด้วยการมีส่วนร่วมของบุคคล ชุมชน องค์กร สถาบัน
แ ล ะ จั ด ท า แ ผ น ป ฏิ บั ติ ก า ร ป ร ะ จ า ปี ต า ม ง บ ป ร ะ ม า ณ ที่ ไ ด้ รั บ จั ด ส ร ร
นอกจากน้ันได้จัดทาคู่มือครู และคู่มือนักเรียนเพ่ือเป็นแนวทางปฏิบัติงาน
ทกุ ปกี ารศึกษา

(4.7) จัดต้ังคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน โดยเชิญ
ชวนและสรรหาผู้มีความรคู้ วามสามารถ และเห็นความสาคัญของการศึกษา
มาร่วมในการบรหิ ารสถานศึกษา

(5) ดา้ นความสัมพนั ธก์ ับชุมชน
(5.1) จดั กิจกรรมให้ชมุ ชน ไดม้ ีส่วนรว่ มกบั โรงเรียนในวัน

สาคัญของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เช่น การทาบุญ ตักบาตรทุกวัน
พระ ทุกวนั สาคัญทางพทุ ธศาสนา วนั แม่ วนั พอ่ แหง่ ชาติ เป็นตน้

(5.2) ออกเสียงตามสายเวลา 07.00 - 08.00 น. เพื่อ
ประชาสมั พนั ธส์ าระน่ารูท้ ี่ผู้ปกครองและบคุ คลในชมุ ชนควรร้หู รือต้องรู้ตาม
สถานการณ์

[70]

(5.3) การเคาะประตูบ้านแลกเปล่ียนการจัดการเรียนรู้
ของนักเรียนกบั คนในชุมชน

(5.4) ผู้บริหาร ครูและบุคลากรของโรงเรียนตลอดจน
นักเรยี น เข้ารว่ มกจิ กรรมกับทางชมุ ชนอยา่ งสม่าเสมอ หลากหลายบทบาท

(5.5) ประสานงานและพัฒนาเครือข่ายการศึกษาในเขต
เทศบาลตาบลเสนา และเมอื งสงิ ห์บุรี เชน่ วดั บา้ นแพน วัดสกี ุก วัดโพธ์ิแก้ว
นพคณุ กองบรรเทาสาธารณภยั กองสวัสดกิ ารสังคม ประสานงานกบั ชมุ ชน
ทุกชุมชนในเขตเทศบาล เป็นต้น

(5.6) นาภูมิปัญญาท้องถิ่น ร่วมจัดการศึกษาอย่าง
หลากหลาย เช่น กฎหมายจราจรและการใชร้ ถ– ใช้ถนน ยาเสพตดิ เปน็ ตน้

(5.7) การทัศนศึกษา นานักเรียนและครูไปทัศนศึกษา
นอกสถานท่ี อยา่ งน้อยปลี ะ 1 ครง้ั

2.3) ผลงานที่แสดงให้เห็นถึงทักษะในการบริหารจัดการศึกษาท่ี
ส่งผลให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมี
คุณภาพตามทกี่ าหนดในมาตรฐานวทิ ยฐานะ

ข้าพเจ้าได้เข้าศึกษาอบรมตลอดจนค้นคว้าหาความรู้ นา
ความรู้ ทักษะและประสบการณ์มาเป็นแนวทางในการบริหารจัดการ
สถานศกึ ษา จงึ ทาให้ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาของโรงเรยี นเปน็ บคุ คลที่
มีคุณภาพเปน็ ทป่ี รากฏ ดังน้ี

(1) ครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาทุกคน มีคุณธรรมจริยธรรม
และปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชพี

[71]

(2) ครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคน มีปฏิสัมพันธ์ท่ีดีกับ
ผู้เรียน ผูป้ กครองและชมุ ชน

(3) ครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคน มีความมุ่งม่ันและ
อทุ ิศตนในการสอนและพัฒนาผู้เรียนโดย ครูทุกคนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
การจัดการเรียนรู้ จัดทาแผนการเรียนรู้ท่ีตอบสนองความถนัดและ
ความสามารถของผเู้ รยี น มปี ระสิทธภิ าพการสอนทเ่ี น้นผ้เู รยี นเปน็ สาคญั

(4) ครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคน มีการแสวงหา
ความรู้และเทคนิควิธีการใหม่ๆ เป็นประจา เฉล่ียทุกคนเข้ารับการอบรม 2
ครงั้ /ปี ไดร้ บั การนิเทศงานและนาผลไปปรับปรงุ การสอนอยเู่ สมอ

(5) ครูทุกคนมีมาตรฐานวิชาชีพทางการศึกษาทุกคน ท้ังด้าน
มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ มาตรฐานการปฏิบัติงาน และ
มาตรฐานการปฏบิ ัตติ น

(6) ครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคน มีความสุขในการ
ปฏิบตั ิงานสอนตรงตามวชิ าเอกหรือตรงตามความถนัด ความสามารถ ตาม
หนา้ ทท่ี ่รี บั ผิดชอบ

(7) ครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคน พัฒนานวัตกรรม
และสื่อการเรียนการสอนปรับปรุง จัดตกแต่งห้องเรียนให้มีความสะอาด
สวยงามเอ้ือต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทุกห้องเรียน ตลอดเวลา ตาม
หลักการ 5 ส

(8) ครแู ละบุคลากรทางการศึกษาทุกคนมีการนาแหล่งเรียนรู้
และภมู ปิ ญั ญาท้องถน่ิ มาใช้ในการเรยี นการสอน

[72]

(9) ครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคนทาวิจัยพัฒนาการ
เรียนรแู้ ละใช้ผลเพอื่ พัฒนาผเู้ รียนใหเ้ ต็มตามศักยภาพ

2.4) ข้าพเจ้าเป็นผู้มีวินัย คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณ
วิชาชีพ ข้าพเจ้าปฏิบัติงานอย่างเต็มกาลังความสามารถอย่างมีความสุข
พร้อมรกั ษาวนิ ยั และจรรยาบรรณวิชาชพี โดยประพฤติดีเป็นทีย่ อมรับในหมู่
คณะและบุคคลท่ัวไป รักษาความสามัคคี อุทิศตนให้กับทางราชการและ
งานการศึกษาได้ผลดี จนถือเป็นแบบอย่างได้ เป็นที่รักและศรัทธาแก่
ผบู้ ังคับบัญชา ผูใ้ ตบ้ ังคบั บญั ชาและหน่วยงานอืน่ ๆ
3) ผลทเ่ี กิดกบั ผู้เรียน ครู ผู้ปกครอง ชุมชนและสถานศึกษา

3.1) ผ้เู รยี นมคี ุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้
ผลท่ีครูปรับเปล่ียนวิธีสอนโดยเน้นนักเรียนเป็นสาคัญ ผู้ปกครอง

ร่วมมือกับโรงเรียนในการพัฒนาการเรียนรู้เต็มศักยภาพ ชุมชนสนับสนุน
การจัดการศึกษาของโรงเรียน ทาให้นักเรียนมีความสุขสุขภาพสมบูรณ์ มี
คุณธรรม จริยธรรม และมีความรู้ความสามารถ และคุณธรรมจนได้ รับ
รางวลั ประกาศนียบตั ร เกยี รติคุณบัตรตา่ งๆ มากมาย

[73]

ผลงำนทปี่ ระสบผลสำเรจ็ ในอดีต

ผลงำนดีเด่น
พ.ศ.2540 - รางวลั ครพู ัฒนางานการกีฬาดีเด่น คุรุสภาอาเภอห้วยแถลง

จงั หวดั นครราชสีมา
พ.ศ.2541 - รางวัลครูดีเด่นด้านการพัฒนาและจัดทาส่ือการสอนวิชา

คอมพวิ เตอร์ คุรุสภาอาเภอห้วยแถลง จงั หวดั นครราชสมี า
พ.ศ.2542 - รางวัลครูผู้สอนดีเด่น คุรุสภาอาเภอห้วยแถลง จังหวัด

นครราชสีมา
- โล่รางวัลผู้ฝึกสอนรักบ้ีฟุตบอลเยาวชนอายุไม่เกิน 16 ปี
ดีเด่น โซนภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ สมาคมรักบ้ีฟุตบอลแห่ง
ประเทศไทยในพระบรมราชปู ถมั ภ์
พ.ศ.2543 - โล่รางวัลหัวหน้าหมวดวิชาพลานามัยดีเด่น และหมวดวิชา
พลานามัยดีเด่น หน่วยศึกษานิเทศก์ กรมสามัญศึกษา เขต
การศกึ ษา 11
- โล่รางวัลผู้ฝึกสอนรักบ้ีฟุตบอลเยาวชนอายุไม่เกิน 14 ปี
และ 16 ปี ดีเด่น โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สมาคมรักบ้ี
ฟตุ บอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชปู ถัมภ์
พ.ศ.2544 - โล่รางวัลครูดีท่ีหนูรัก โรงเรียนเมืองพลับพลาพิทยาคม
สานกั งานสามญั ศึกษาจงั หวดั นครราชสีมา

[74]

พ.ศ.2545 - โล่รางวัลครูพลานามัยดีเด่น ศูนย์พัฒนาการเรียนการสอน
พลานามยั สานกั งานสามญั ศกึ ษาจงั หวดั นครราชสีมา

พ.ศ.2546 - เกียรติบัตรรางวัลผู้ประสานงานดีเด่นรักบี้ฟุตบอลเยาวชน
ภูมิภาค สมาคมรักบ้ีฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรม
ราชปู ถัมภ์

พ.ศ.2547 - เกียรติบัตรรางวัล “ครูดีในดวงใจ” ด้านการส่งเสริมและ
พัฒนากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โรงเรียนเมืองพลับพลาพิทยา
คม เนื่องในวันครแู หง่ ชาติ

พ.ศ.2548 - รางวัล “แหวนพลศึกษาทองคา” ผู้ทาคุณประโยชน์ด้าน
กีฬาจังหวัดนครราชสีมา โดยชมรมครูพลศึกษาจังหวัด
นครราชสีมา

พ.ศ.2549-51- เกียรติบัตรรางวัล “ครูดีในดวงใจ” โรงเรียนชุมชนเทศบาล
วดั ปาโมกข์ (นรสหี ว์ ทิ ยาคาร) เนอื่ งในวันครแู ห่งชาติ

พ.ศ. 2559 - เกียรติบัตร “ศิษย์เก่าดีเด่น” ประจาปี ๒๕๕๙ สถาบันการ
พลศึกษา วทิ ยาเขตอา่ งทอง

ผลงำนด้ำนกำรเป็นผู้ฝกึ สอนกฬี ำ
พ.ศ.2539 - ชนะเลิศฟุตบอลนักเรียนรุ่นอายุ 13 ปี มหกรรมกีฬา

นกั เรียนตาบลเมืองพลับพลาอาเภอหว้ ยแถลง นครราชสมี า
- ชนะเลิศฟุตบอลรุ่นนักเรียนอายุ 13 ปี กีฬานักเรียนอาเภอ
ห้วยแถลง นครราชสีมา

[75]

พ.ศ.2540 - ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนรักบ้ีฟุตบอลเยาวชนอายุ 14 ปี ทีมชาติไทย
พ.ศ.2541 ชุดแข่งขันรักบ้ีฟุตบอล เยาวชนนานาชาติ ณ เขตปกครอง
พ.ศ.2542 พเิ ศษฮ่องกง
- รองชนะเลิศรักบี้ฟุตบอลเยาวชนอายุ 14 ปี ภาค
ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื
- รองชนะเลิศอันดับที่ 3 รักบ้ีฟุตบอลนักเรียนชิงชนะเลิศ
ประเทศไทย ระดบั ดีวีชนั่ 1 “Bangkok Sevens 1998”
- ชนะเลิศรกั บ้ฟี ตุ บอลรุ่นอายุ 14 และ 16 ปี ชิงชนะเลิศภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ กลุ่มตอนล่าง สมาคมรักบ้ีฟุตบอลแห่ง
ประเทศไทยในพระบรมราชปู ถมั ภ์
- โล่รางวัลผู้ฝึกสอนยอดเย่ียม รุ่นอายุ 16 ปี สมาคมรักบี้
ฟตุ บอลแหง่ ประเทศไทยในพระบรมราชปู ถมั ภ์
- ชนะเลิศรักบี้ฟุตบอลรุ่นอายุ 14 ปี,16 ปีหญิง และรอง
ชนะเลิศรุ่นอายุ 16 ปี ชิงชนะเลิศภาคตะวันออก ณ จังหวัด
ระยอง โดยสมาคมรกั บ้ฟี ตุ บอลฯ
- ชนะเลิศรักบ้ีฟุตบอล 7 คน รุ่นอายุ 14 ปี,16 ปี ชาย และ
รุ่นอายุ 16 ปีหญงิ “โคราชเซเวน่ 1999” จังหวดั นครราชสีมา
- รองชนะเลิศรักบี้ฟุตบอลรุ่นอายุ 14 ปี “สิงห์ภูเก็ต
นานาชาติ” ณ จังหวดั ภเู ก็ต
- รองชนะเลิศอันดับท่ี 2 รักบี้ฟุตบอลนักเรียนชิงชนะเลิศ
ประเทศไทย ระดบั ดีวชี ั่น1 “Bangkok Sevens 1999”

[76]

พ.ศ.2543 - ชนะเลิศรักบี้ฟตุ บอลรนุ่ อายุ 14 และ 16 ปี ชิงชนะเลิศภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ กลุ่มตอนล่าง สมาคมรักบ้ีฟุตบอลแห่ง
ประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
- โล่รางวัลผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม รุ่นอายุ 14 ปี และ 16 ปี
สมาคมรักบฟ้ี ตุ บอลแหง่ ประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
- ชนะเลิศรุ่นอายุ 15 ปี และรองชนะเลิศรุ่นอายุ 18 ปี กีฬา
นักเรยี นกรมสามัญศึกษาจงั หวดั นครราชสมี า ครงั้ ท่ี 9
- ชนะเลศิ รุ่นอายุ 15 ปี, 17 ปี, เกิน 17 ปี ชาย และ เกิน 17
ปีหญงิ กีฬานักเรยี นมัธยมศึกษาจังหวดั นครราชสมี า กลุ่มที่ 5

-รองชนะเลศิ กฬี าเยาวชนแห่งชาติ รอบคัดเลือกเขต 3 ณ จังหวัด
สรุ ินทร์

- ผชู้ ่วยผ้ฝู กึ สอนรักบีฟ้ ุตบอลเยาวชนจงั หวัดนครราชสีมา
พ.ศ.2544 - ชนะเลิศรักบี้ฟุตบอลรุ่นอายุ 15 และ 18 ปี ชาย กีฬานักเรียน

กรมสามญั ศกึ ษาจังหวัดนครราชสมี า คร้งั ที่ 10
- รองชนะเลิศอันดับที่ 2 ระดับดีวีช่ัน2 รักบี้ฟุตบอลนักเรียน

เยาวชนภมู ภิ าคชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย คร้ังที่ 1 สมาคม
รักบีฟ้ ุตบอลฯ
- ผู้ฝึกสอนกีฬารักบ้ีฟุตบอลดีเด่น รุ่นอายุ 18 ปี กีฬานักเรียน
กรมสามัญศกึ ษา จังหวดั นครราชสมี า คร้ังท่ี 10
พ.ศ.2545 - ชนะเลิศรักบี้ฟุตบอลรุ่นอายุ 18 ปี ชาย กีฬานักเรียน
มัธยมศึกษาจงั หวดั นครราชสีมา กลมุ่ ที่ 5

[77]

- ชนะเลิศรักบี้ฟุตบอลรุ่นอายุ 18 ปี ชาย กีฬานักเรียนกรม
สามญั ศกึ ษาจงั หวัดนครราชสีมา คร้ังที่ 11

- หัวหน้าผู้ฝึกสอนรักบี้ฟุตบอลเยาวชนจังหวัดนครราชสีมา การ
แขง่ ขันกฬี า เยาวชนแห่งชาติ คร้ังที่ 19 รอบคดั เลือกภาค 3

- วิทยากรอบรมความรู้และกติกากีฬารักบ้ีฟุตบอล โรงเรียน
สังกัดสานักงานการประถมศึกษาอาเภอห้วยแถลง ในเขต
พนื้ ที่บรกิ ารของโรงเรยี น

พ.ศ.2546 - รองชนะเลิศรักบี้ฟุตบอล ประเภท 7 คน SUT Sevens III ณ
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีสุรนารี ระดับ Division 2

- หัวหน้าผู้ฝึกสอนรักบี้ฟุตบอลเยาวชนจังหวัดนครราชสีมา การ
แขง่ ขันกฬี า เยาวชนแห่งชาติ ครง้ั ท่ี 19 รอบคัดเลอื กภาค 3

พ.ศ.2548 - ชนะเลิศเปตองหญิงอายุไม่เกิน 18 ปี การแข่งขันกีฬา
นักเรยี นสังกัด สพท.นครราชสีมา เขต 2
- เหรียญทอง การแข่งขันกรีฑานักเรียนประเภทลาน
(กระโดดสูง ชาย/หญิง, ทุ่มน้าหนัก ชาย/หญิง และพุ่งแหลน
ชาย/หญิง) รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี การแข่งขันกีฬานักเรียน
สงั กัด สพท.นครราชสมี า เขต 2
- ประธานฝ่ายต่างประเทศ สโมสรกีฬารักบี้ฟุตบอลจังหวัด
นครราชสีมา สมาคมสง่ เสรมิ กฬี าจงั หวดั นครราชสมี า

[78]

พ.ศ. 2549 - ชนะเลิศมหกรรมมินิรักบ้ีนานาชาติ รุ่นอายุไม่เกิน 9 ปี ณ
โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและ
พฒั นา กรงุ เทพมหานคร

พ.ศ. 2550 - ชนะเลิศมหกรรมมินิรักบ้ีนานาชาติ รุ่นอายุไม่เกิน 9 ปี ณ
โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและ
พฒั นา กรุงเทพมหานคร
- รองชนะเลิศมินิรักบ้ีชิงแชมป์ประเทศไทย ครั้งที่ 1 รุ่นอายุ
ไม่เกิน 9 ปี จัดโดยสมาคมรักบี้แห่งประเทศไทยในพระบรม
ราชปู ถมั ภ์ รว่ มกับโรงเรียนเพลนิ พัฒนา

พ.ศ. 2551 - ชนะเลิศมหกรรมมินิรักบ้ีนานาชาติ รุ่นอายุไม่เกิน 9 ปี ณ
โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและ
พัฒนา กรงุ เทพมหานคร
- ปฏิบัติหน้าท่ีคณะกรรมการฝ่ายเทคนิค ผู้จัดการสนาม
แข่งขนั กฬี ารักบีฟ้ ุตบอล การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งท่ี 24 ณ
จังหวัดนครราชสีมา

- คณะกรรมการฝ่ายเทคนิคและประมวลผล การแข่งขันกีฬา
อาเซี่ยนพาราเกมส์ ครั้งท่ี 4 ณ จังหวดั นครราชสมี า

- คณะกรรมการฝ่ายเทคนิคและประมวลผล การแข่งขันกรีฑาเอ
เช่ยี นกรังค์ปรี เพอื่ คัดเลอื กไปแขง่ ขันกีฬาโอลิมปิค สนามท่ี 2
ณ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัด
นครราชสมี า

[79]

พ.ศ. 2552 - Asia Junior Mini Rugby Tournament 2009 ผลงาน
1.รองชนะเลิศ ร่นุ อายุ 8 ปี ประเภท Cup
2.ชนะเลศิ รนุ่ อายุ 9 ปี ทมี เอ (หญิง) ประเภท Plate
3.ชนะเลศิ รุน่ อายุ 9 ปี ทีมบี (ชาย) ประเภท Bowl
4.ชนะเลศิ รนุ่ อายุ 10 ปี ประเภท Bowl
29 สิงหาคม 2552ชมรมนรสีห์มินิรักบี้ได้รับเชิญจาก ทีม
บางกอกไลออนส์ ให้ร่วมแข่งขันกระชับมิตรกับทีมจากศรี
ลังกา ณ สนามบางกอกพัฒนา โดยเราได้ส่งทีมผสมชายและ
หญิง รุ่นอายุ 10 และ 11 ปี ไปร่วมแข่งขัน ถือเป็น
ความสาเร็จและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งของนักกีฬา คณะผู้
ฝึกสอน ผู้ปกครอง และเทศบาลตาบลป่าโมก ท่ีมีโอกาสเป็น
ทีมตวั แทนเข้ารว่ มในการแขง่ ขนั กระชับมติ ร
11 – 14 กันยายน 2552ชมรมนรสีห์มินิรักบี้ โรงเรียนชุมชน
เทศบาลวัดปาโมกข์ (นรสีห์วิทยาคาร) ได้รับเชิญจากชมรม
มินิรักบ้ีประเทศไทย ให้เป็นทีมตัวแทนไปร่วมแข่งขัน David
Dufall Trophy Mini Rugby Friendship Thai – Laos กับ
ทีมมินิรักบี้ชาติลาว ณ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตย
ประชาชนลาว ถือเป็นความสาเร็จอีกระดับหน่ึงของการ
พัฒนาสถานศกึ ษาที่มุ่งเน้นพัฒนาและสง่ เสริมกิจกรรมพัฒนา
ผู้เรียน โดยใช้กีฬามินิรักบ้ีเข้ามาเป็นส่ือกลาง โดยได้รับการ
สนบั สนุนจากภาครัฐและเอกชน ตลอดจนผู้ปกครองนักเรียน

[80]

พ.ศ.2553 ท่ีได้ร่วมกันสนับสนุน และถือเป็นประสบการณ์แรกในชีวิต
พ.ศ.2554 ข อ ง นั ก เ รี ย น ที่ ไ ด้ เ ดิ น ท า ง ไ ป แ ล ก เ ป ล่ี ย น แ ล ะ เ รี ย น รู้
ประสบการณ์ใหมๆ่ ในตา่ งแดน
- รองชนะเลิศ Asia Junior Mini Rugby Tournament
2010 รุ่นอายุ 8 ปี ประเภท Plate
- รองชนะเลิศ Asia Junior Mini Rugby Tournament
2011 รุ่นอายุ 8 ปี ประเภท Bolw

ดำ้ นวิทยำกร และปฏบิ ตั หิ นำ้ ทสี่ ง่ เสรมิ กิจกรรมกฬี ำ
พ.ศ.2537 - คณะกรรมการผู้ตัดสินกรีฑานักเรียนกรมสามัญศึกษา

จงั หวดั นครราชสีมา
- ผู้ตัดสินกีฬาฟุตบอลนักเรียนกรมสามัญศึกษาจังหวัด
นครราชสมี าครงั้ ท่ี 3
พ.ศ.2538 - ผู้ตัดสินกีฬาฟุตบอลนักเรียนกรมสามัญศึกษาจังหวัด
นครราชสีมา คร้งั ท่ี 4
พ.ศ.2539 - ผฝู้ กึ สอนกฬี าฟตุ บอลเยาวชนและประชาชนองค์การบริหาร
ส่วนตาบลเมืองพลับพลา อาเภอห้วยแถลง จังหวัด
นครราชสีมา
- วิทยากร ตามโครงการส่งเสริมกีฬานักเรียน นักศึกษาและ
เยาวชนอาเภอหว้ ยแถลง จงั หวัดนครราชสมี า

[81]

พ.ศ.2540 - ปฏิบัติหน้าที่ผู้ตัดสินกีฬาฟุตบอลระดับหมู่บ้าน อาเภอห้วย
แถลง จดั โดยสานกั งานศึกษาธกิ ารอาเภอห้วยแถลง
- วิทยากรอบรมทักษะกีฬา ตามโครงการสัมมนาที่ปรึกษา
ศูนย์เยาวชนตาบล (ศยต.) สานักงานพฒั นาชุมชนอาเภอห้วย
แถลง
- วิทยากรอบรมคอมพิวเตอร์ใหข้ ้าราชการครูโรงเรียนบ้านท่า
ลี่ ตาม “โครงการอบรมคอมพวิ เตอร์สาหรบั ครผู ูส้ อน
- กรรมการอานวยการ จัดแข่งขันวิ่งมินิมาราธอน โรงเรียน
หนองปรือแดง “ศิริราษฎร์บารุง” สานักงานการ
ประถมศกึ ษาอาเภอชมุ พวง นครราชสมี า
- ปฏิบัตหิ น้าท่ผี ้ตู ดั สินกีฬาวอลเลยบ์ อล,เซปักตะกร้อ เยาวชน
องคก์ ารบริหารสว่ นตาบลเมอื งพลับพลา

พ.ศ.2541 - ปฏิบัติหน้าท่ีผู้ตัดสินกีฬาเยาวชน สานักงานพัฒนาชุมชน
อาเภอห้วยแถลง
- ปฏบิ ตั ิหนา้ ทีผ่ ู้ตัดสนิ กีฬาเยาวชน องค์การบริหารสว่ นตาบล
เมอื งพลับพลา
- ปฏิบัติหน้าท่ีผู้ตัดสินกีฬาฟุตบอลประชาชน อาเภอห้วย
แถลง

พ.ศ.2541-2548
- วิทยากรลูกเสือชาวบ้าน อาเภอห้วยแถลง จังหวัด
นครราชสมี า

[82]

- วทิ ยากรให้ความรู้ และช่วยสนบั สนุนซอ่ มบารงุ คอมพวิ เตอร์
ร.ร.บ้านโนนทอง สานักงานการประถมศึกษาอาเภอห้วย
แถลง จังหวัดนครราชสมี า
- วทิ ยากรใหค้ วามรแู้ ละช่วยสนับสนุนซ่อมบารุงคอมพิวเตอร์
สถานอี นามยั ท่าล่ี ตาบลเมอื งพลบั พลา อาเภอหว้ ยแถลง
- วทิ ยากรให้ความรู้ และชว่ ยสนบั สนุนซอ่ มบารงุ คอมพิวเตอร์
ร.ร.บ้านกู่โกสีย์วิทยาสานักงานการประถมศึกษาอาเภอห้วย
แถลง นครราชสมี า
- วิทยากรใหค้ วามรู้ และช่วยสนบั สนุนซอ่ มบารงุ คอมพิวเตอร์
ร.ร.บ้านท่าลี่ สานักงานการประถมศึกษาอาเภอห้วยแถลง
จังหวัดนครราชสีมา
- วิทยากรใหค้ วามรู้ และช่วยสนับสนนุ ซ่อมบารงุ คอมพวิ เตอร์
ร.ร.บ้านหนองม่วงหวาน สานักงานการประถมศึกษาอาเภอ
หว้ ยแถลง
- วทิ ยากรให้ความรู้ และชว่ ยสนบั สนนุ ซอ่ มบารุงคอมพิวเตอร์
ร.ร.หินดาดวทิ ยา สังกดั กรมสามัญศกึ ษา จงั หวดั นครราชสีมา
- วิทยากรเร่ืองการจัดทา Home page ให้กับโรงเรียนหิน
ดาดวิทยา กรมสามัญศึกษาจงั หวัดนครราชสีมา
พ.ศ.2544 – วิทยากรพเี่ ล้ยี งเพอ่ื จัดทาแผนปฏิบัติการประจาปี โรงเรียน
สงั กดั กรมสามัญศกึ ษาจังหวดั นครราชสมี า

[83]

พ.ศ.2546 – วิทยากรอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่อง การจัดทาแผนการ
จัดการเรียนรู้ที่เน้น บูรณาการ ตาม พรบ.การศึกษา 2542
เพ่ือการประกันคุณภาพการศึกษา ให้แก่คณะครูโรงเรียน
เมืองพลบั พลาพิทยาคม
– วิทยากรอบรมข้าราชการครู โรงเรียนเมืองพลับพลาพิทยา
คม หลักสตู รการออกแบบและพัฒนาเว็บไซท์

พ.ศ.2548 – วิทยากรอบรมครูและบุคลากรทางการศึกษา สพท.
นครราชสีมา เขต 2 ด้านการจัดทาสื่อประกอบการเรียนการ
สอนในรูปแบบ Multimedia Webpage
– ท่ีปรึกษาคณะทางานผลิตส่ือการเรียนการสอน กลุ่ม
โรงเรยี นเมืองพลับพลา, กลุ่มโรงเรียนหลุง่ ตะเคียน สานักงาน
เขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษานครราชสมี า เขต 2

พ.ศ.2549-50– วิทยากรอบรมครูโรงเรียนสังกัดเทศบาลตาบลป่าโมก
จงั หวดั อ่างทอง ด้านการจัดทาสื่อประกอบการเรียนการสอน
ในรปู แบบ Multimedia Webpage

พ.ศ.2553 – วิทยากรอบรมให้ความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ เยาวชน
ประ ชาช น ในเขตเทศ บาล ตา บลม หาร าช จัง หวั ด
พระนครศรอี ยุธยา

พ.ศ. 2558 - วทิ ยากรเครือข่ายแผนพัฒนาการศึกษาทอ้ งถิน่ กรมสง่ เสรมิ
ถึงปัจจุบนั การปกครองทอ้ งถ่นิ กระทรวงมหาดไทย

[84]
ประมวลภำพกำรดำเนินงำนระหวำ่ งปี พ.ศ. 2559-2561

เขา้ รับการอบรมเชิงปฏิบัติการจัดการเรียนรูต้ ามหลักการพฒั นาสมอง

ชนะเลิศการแข่งขันทกั ษะทางวชิ าการระดบั ภาคกลาง

[85]
ให้การต้อนรบั คณะศึกษาดงู านทมี่ าเยย่ี มชมโรงเรียน
เย่ยี มบา้ นผูป้ กครองเพอื่ สอบถามข้อมลู ผูเ้ รยี นนาไปสูก่ ารวางแผนฯ

[86]
จดั กจิ กรรมลูกเสอื อนุบาลแบบบูรณาการ
ปลกู ฝงั คา่ นยิ มของความเปน็ ไทยในประเพณตี า่ งๆ

[87]
ส่งเสริมชมรมนาฏศิลป์อนบุ าลไทรมา้
รว่ มกจิ กรรมแห่เทยี นพรรษากบั ชมุ ขนเป็นประจาทกุ ปี

[88]
จัดกจิ กรรมวนั พอ่ แหง่ ชาตใิ นสว่ นของโรงเรียน
เสริมสรา้ งความร้นู อกห้องเรียนกับกจิ กรรมอาเซียนตอนเชา้

[89]
ใหค้ วามรู้ชุมชนเกี่ยวกบั สุขภาพรว่ มกบั กองสาธารณสขุ
พฒั นาครใู หม้ ที ักษะการใช้ภาษาองั กฤษร่วมกบั สถาบนั อดุ มศกึ ษา

[90]
บาเพ็ญประโยชน์ต่อวดั และชมุ ชนในเทศกาลตา่ งๆ
ดาเนนิ การวจิ ยั พัฒนาเก่ยี วกบั สมรรถภาพทางกายของนกั เรยี น

[91]
นากีฬามนิ ริ ักบ้มี าสง่ เสริมความมีนา้ ใจและความสามคั คี

ร่วมกจิ กรรมกบั ชุมชนในพธิ ตี า่ งๆ

[92]
เสริมสรา้ งทักษะทางสงั คมแกผ่ ูเ้ รยี นใหก้ ล้าแสดงออก
เสรมิ สรา้ งทักษะทางสังคมแก่ผเู้ รยี นใหก้ ลา้ แสดงออก

[93]
บาเพ็ญประโยชน์กับชุมชนพร้อมคณะลูกเสอื อนบุ าล
รว่ มกิจกรรมคลองสวยนา้ ใสกบั คณะลูกเสืออนุบาลและชมุ ชน

[94]
พฒั นาตนเองอยา่ งสม่าเสมอเขา้ รบั การพัฒนากับ สมศ.
ปลูกฝังทศั นคตทิ ่ีดใี นการออกกาลงั กายและการมีสว่ นรว่ ม

[95]
แสดงออกถึงความเทดิ ทนู สถาบนั หลกั ของชาติ
ร่วมรณรงค์ใหผ้ ู้ปกครองมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในการดแู ลนกั เรยี น

[96]
ภมู ปิ ัญญาท้องถิน่ มารว่ มใหค้ วามร้แู กผ่ เู้ รียน
สง่ เสรมิ ให้ครผู ลิตส่อื การเรยี นการสอนด้วยตนเอง

[97]
นาคณะครูไปศกึ ษาดงู านเชงิ เปรยี บเทยี บในสถานศึกษาอื่นๆ

จดั อบรมเรอ่ื งระบบประกนั คณุ ภาพภายในใหก้ ับครู

[98]
จดั ประชมุ พฒั นาผปู้ กครองเครือข่ายของโรงเรียน
หน่ึงหอ้ งเรยี นหนึง่ ผลติ ภณั ฑ์ “ไขเ่ ค็มสมนุ ไพร”

[99]
ปลกู ฝงั ความรกั ษ์ชมุ ชนตนเองรว่ มเดนิ รณรงค์วันงดสบู บหุ ร่โี ลก

ปรบั ปรงุ พฒั นาแหลง่ เรยี นรู้ภายในโรงเรียน