รายงานสรุปผลการดำเนินงาน โครงการ Kick Off นโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” วันอาทิตย์ ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2567 ณ จังหวัดร้อยเอ็ด
ก คำนำ นโยบายกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2567 ให้ความสำคัญกับการยกระดับ 30 บาท พลัสเพิ่มคุณภาพชีวิต ประชาชน ดังนั้น นโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” เป็นนโยบายที่สะท้อนการเข้าถึง บริการ สะท้อนการลดความเหลื่อมล้ำ ด้วยบริบทประชาชนคนไทย ต้องประสบกับความยากลำบากในการเข้าถึง การรักษาพยาบาล เกิดจากความแออัดของสถานพยาบาล การขาดแคลนของบุคลากร ปัญหาความยากจน ของประชาชน ส่งผลต่อการเข้าถึงบริการด้านค่ารักษาพยาบาล เพื่อปรับเปลี่ยนระบบบริการสาธารณสุข ของประเทศ มีเป้าหมายให้ ประชาชนคนไทยทุกคน มีหลักประกันสุขภาพ สามารถรับบริการรักษาโรคได้“โครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค” มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จากนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค พัฒนาสู่ 30 บาท รักษาทุกที่ มีการเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบข้อมูลดิจิทัลสุขภาพประชาชน เริ่มนำร่องใน 4 จังหวัด คือ ร้อยเอ็ด เพชรบุรี แพร่ และ นราธิวาส วันที่ 7 มกราคม 2567 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้รับเอานโยบายดังกล่าว ของรัฐบาลแปลงสู่การปฏิบัติด้วยความเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุขที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง พร้อมรองรับ นโยบายทันที ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลดิจิตัลสุขภาพเข้าสู่ระบบคลาวด์ (Cloud) เพื่อให้บัตรประชาชนใบเดียว สามารถใช้บริการรักษาพยาบาลในสถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง ตั้งแต่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ. สต.) โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) โรงพยาบาลทั่วไป (รพท.) และโรงพยาบาลศูนย์ (รพศ.) รวมไปถึงร้านยาใกล้บ้าน คลินิกเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อความสะดวกสบายของประชาชน ลดความแออัดในโรงพยาบาล เป้าหมาย สำคัญเพื่อให้ ความมีสุขภาพดีถ้วนหน้า เป็นสิทธิประโยชน์ของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ดังนั้นการจัดโครงการ กิจกรรม Kick off บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ เน้นให้เกิดการสื่อสารกับประชาชนเพื่อให้รับทราบนโยบาย พร้อมทั้งกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วม และตระหนักรู้ของประชาชนในการเข้าถึงการบันทึกข้อมูลสุขภาพ (Health ID) เพื่อให้ประชาชนได้มีประวัติสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ และสมุดสุขภาพเป็นของตนเอง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะเป็น ประโยชน์กับประชาชนผู้รับบริการและประโยชน์ต่อการรับบริการสุขภาพทุกมิติ การสรุปผลการดำเนินโครงการ Kick Off นโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จำเป็นต้องถอดบทเรียนและพัฒนาการดำเนินงานเพื่อประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง โดยมีเป้าหมายสูงสุด คือ เพิ่มคุณภาพชีวิตประชาชน
ข บทสรุปผู้บริหาร นโยบายกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2567 ให้ความสำคัญกับการยกระดับ 30 บาท พลัส เพื่อเพิ่มคุณภาพ ชีวิตประชาชน ดังนั้น นโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” เป็นนโยบายที่สะท้อนการเข้าถึง บริการ สะท้อนการลดความเหลื่อมล้ำ โครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค” มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จากนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค พัฒนาสู่ 30 บาท รักษาทุกที่ มีการเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบข้อมูลดิจิทัลสุขภาพประชาชน เริ่มนำ ร่องใน 4 จังหวัด คือ ร้อยเอ็ด เพชรบุรี แพร่ และ นราธิวาส วันที่ 7 มกราคม 2567 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้รับเอานโยบายดังกล่าวของรัฐบาลแปลงสู่การปฏิบัติ ด้วยการเชื่อมโยง ข้อมูลดิจิตัลสุขภาพเข้าสู่ระบบคลาวด์ (Cloud) เพื่อให้บัตรประชาชนใบเดียว สามารถใช้บริการรักษาพยาบาล ในสถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง ตั้งแต่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) โรงพยาบาลทั่วไป (รพท.) และโรงพยาบาลศูนย์(รพศ.) รวมไปถึงร้านยาใกล้บ้าน คลินิกเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ เป้าหมายสำคัญเพื่อให้ ความมีสุขภาพดีถ้วนหน้า เป็นสิทธิประโยชน์ของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ดังนั้นการจัดโครงการกิจกรรม Kick off บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ เน้นให้เกิดการสื่อสารกับประชาชน เพื่อให้รับทราบนโยบาย พร้อมทั้งกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วม และตระหนักรู้ของประชาชนในการเข้าถึงการบันทึก ข้อมูลสุขภาพ (Health ID) เพื่อให้ประชาชนได้มีประวัติสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ และสมุดสุขภาพเป็นของตนเอง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะเป็นประโยชน์กับประชาชนผู้รับบริการและประโยชน์ต่อการรับบริการสุขภาพทุกมิติ จากการประเมินโครงการ กิจกรรม Kick Off นโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” จำนวนประเมินทั้งหมด 5,146 คน แยกเป็น อสม 4,060 คน (80%), บุคลากรด้านสาธารณสุข 798 คน (16%) และ บุคลากรอื่นๆ 188 คน (4%) วิเคราะห์โดยใช้ CIPP MODEL 4 ด้าน พบว่าผลการประเมินโครงการ / กิจกรรม รายด้านทั้งด้านสภาวะแวดล้อม, ด้านปัจจัยนำเข้า, ด้านกระบวนการ ด้านผลผลิต คะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก และนำข้อเสนอแนะจากผู้ประเมินออกแบบการวิเคราะห์โดยใช้ SOAR Analysis พบว่า จุดแข็ง (Strengths) ด้านนโยบายที่กำหนดให้ประชาชนได้รับชัดเจน พร้อมมีการออกแบบการนำ นโยบายสู่การปฏิบัติและสื่อสารได้อย่างเป็นระบบ โดยทุกภาคส่วนทั้งภาคสาธารณสุขและภาคมิใช่สาธารณสุข มีส่วนร่วมในนโยบาย โอกาส (Opportunities) ที่สำคัญคือได้รับการสนับสนุนจากส่วนกลางทั้งด้านงบประมาณ ด้านบริหาร จัดการที่สอดคล้องกับนโยบาย พร้อมกำกับติดตามปรับปรุงให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องหลังกิจกรรม kick off แรงบันดาลใจ (Aspiration) กิจกรรมส่งผลให้เกิดการมีค่านิยมร่วม Shared value ของคนทำงาน ทุกภาคส่วนร่วมกัน ผลลัพธ์ที่คาดหวัง (Results) คือ การที่จะมีสมุดสุขภาพเป็นของตนเอง, การส่งต่อโดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว, การได้รับใบรับรองแพทย์ดิจิทัลใช้ได้จริง, บริการแพทย์ทางไกลและเภสัชกรรมทางไกล, บริการรับส่งยา ทางไปรษณีย์ด้วย (Health Rider)
ค กิตติกรรมประกาศ รายสรุปผลการดำเนินโครงการ Kick Off นโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” เป็นรายงานการถอดบทเรียนและพัฒนาการดำเนินงานตามนโยบายสำคัญให้เกิดความคุ้มค่าในการดำเนินโครงการ เพื่อประโยชน์และเพิ่มคุณภาพชีวิตประชาชน การดำเนินงาน Kick off ในครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์และ ความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งภาคส่วนกระทรวงสาธารณสุขและภาคส่วนนอกกระทรวงสาธารณสุขที่เป็นภาคี เครือข่ายที่เข้มแข็งในการดำเนินกิจกรรม การที่ทุกภาคส่วนมองเป้าหมายการดำเนินงานร่วมกัน คือ ประชาชนนั้น จึงทำให้การจัดกิจกรรม Kick off สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เกิดเครือข่ายที่เข้มแข็งในการพัฒนางานร่วมกัน เพื่อพัฒนาประเทศชาติต่อไป ขอกราบขอบพระคุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้มอบนโยบายและนำนโยบายสู่การปฏิบัติที่ประชาชนได้รับอย่างแท้จริง ขอกราบ ขอบพระคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด, รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด, หัวหน้าส่วนราชการ, นายแพทย์ สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด, ผู้อำนวยการโรงพยาบาลร้อยเอ็ด, บุคลากรสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ดทุกท่านที่มีส่วน ร่วมในการกระตุ้นให้ประชาชนมีส่วนร่วมในนโยบายและกิจกรรมที่จัดขึ้น และ ที่สำคัญอีกภาคีเครือข่ายที่เข้มแข็ง กระตุ้นให้ประชาชน ให้อาสาสมัครสาธารณสุข ให้ รพ.สต. มีส่วนร่วมในการดำเนินการตามนโยบายคือ องค์การ บริหารจังหวัดร้อยเอ็ด ภายใต้การนำของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ลงพื้นที่เพื่อให้ประชาชนรับรู้ และตระหนักถึงข้อมูลสุขภาพของประชาชน
ง สารบัญ หน้า คำนำ ก บทสรุปผู้บริหาร ข กิตติกรรมประกาศ ค สารบัญ ง สารบัญตาราง จ สารบัญภาพประกอบ ฉ 1. ผลการดำเนินงานตามแนวทางการพัฒนานโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว 1 2. รายงานสรุปผลการดำเนินงาน โครงการ Kick Off นโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” 4 การประเมินสภาวะแวดล้อม (Context) 5 การประเมินปัจจัยนำเข้า (Input) 5 การประเมินกระบวนการ (Process) 6 การประเมินผลผลิต (Product) 6 3. การวิเคราะห์โดยใช้ SOAR Analysis 7 ภาคผนวก ก. ภาพกิจกรรมโครงการ Kick Off นโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” 10 ข. แผนงานและโครงการ Kick Off นโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” 29 ค. ภาพบรรยากาศ Kick Off นโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” 39
จ สารบัญตาราง หน้า ตารางที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม (n = 5,046) 4 2 การประเมินสภาวะแวดล้อม (Context) 5 3 การประเมินปัจจัยนำเข้า (Input) 5 4 การประเมินกระบวนการ (Process) 6 5 การประเมินผลผลิต (Product) 6 6 ผลการประเมินโครงการ/กิจกรรม รายด้าน 7
ฉ สารบัญภาพประกอบ หน้า ภาพที่ 1-2 การประชุมเตรียมความพร้อม โครงการ Kick Off นโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตร ประชาชนใบเดียว” ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ณ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ร้อยเอ็ด 11 3-4 ประชุมเตรียมความพร้อมการจัดโครงการ Kick off ตามนโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ฯ ณ โรงพยาบาลร้อยเอ็ด 12 5-6 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อมการดำเนินงาน หน่วยนวัตกรรม 13 7-8 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อมระบบการเชื่อมข้อมูล PHR โรงพยาบาลจุรีเวช 14 9-10 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อมการดำเนินงาน “30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชน ใบเดียว” ที่แผนกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลจตุรพักตรพิมาน 15 11-12 การซักซ้อม / การเตรียมพื้นที่ การจัดโครงการ Kick off ตามนโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ฯ 16 13-14 การตรวจสอบความพร้อมของระบบ IT ณ หน่วยนวัตกรรมที่เข้าร่วมโครงการ 17 15-16 การลงพื้นที่ ร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อดูความเรียบร้อยหน้างาน ก่อนวันจัดกิจกรรม Kick Off ณ ลานหอโหวด 18 17-18 คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประชุมหารือเพื่อเตรียมความพร้อม กิจกรรม Kick Off ณ ห้องประชุมทางไกลชั้น 5 รพ.ร้อยเอ็ด 19 19-20 คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่เตรียมความพร้อมกิจกรรม Kick Off ณ ลานหอโหวด จังหวัดร้อยเอ็ด 20 21-22 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่เตรียมความพร้อมกิจกรรม Kick Off ณ ลานหอโหวด จังหวัดร้อยเอ็ด 21 23-24 งาน Kick Off นโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” ณ โรงพยาบาลจตุรพักตรพิมาน 22 25-34 งาน Kick Off นโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” ณ ลานหอโหวด 23 35-36 พิธีมอบใบประกาศแก่ผู้ส่วนเกี่ยวข้องในการจัดกิจกรรม Kick Off นโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” โดยผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด 28
1 ผลการดำเนินงานตามแนวทางการพัฒนา นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว นโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว เป็นนโยบายที่ได้ให้ความสำคัญกับด้านสังคมและ ความมั่นคง โดยประชาชนคนไทยจะต้องมีสุขภาวะที่ดีทั้งสุขภาพกาย สุขภาพใจ สามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุข ได้อย่างสะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยรัฐให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพทั้งระบบ เพื่อพัฒนาระบบ 30 บาท รักษาทุกโรค ให้ดียิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ที่ทันสมัยซึ่งการดำเนินการดังกล่าว ถือเป็นนโยบายสำคัญของ กระทรวงสาธารณสุข และเป็นประเด็นที่ต้องเร่งขับเคลื่อน ให้เห็นเป็นรูปธรรมสำหรับพี่น้องประชาชน โดยวางภาพ อนาคตระบบสาธารณสุขรูปแบบใหม่ เพื่อปิดช่องว่าง ลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มการเข้าถึงบริการของประชาชน ภายใต้เป้าประสงค์หลัก “ยกระดับ 30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของ ประชาชน” การยกระดับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ให้ประชาชนสามารถใช้บัตรประชาชนใบเดียว เข้ารับการ รักษาในสถานพยาบาลทุกเครือข่ายทั้งรัฐและเอกชน เป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลที่ได้ให้ความสำคัญกับการเพิ่ม คุณภาพชีวิตของประชาชนทุกคน ทุกกลุ่ม ในทุกพื้นที่ และผลักดันให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ จากหน่วย บริการทุกระดับ ทุกสังกัด เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพที่สะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยบัตรประชาชน เพียงใบเดียว อีกทั้งยังอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลของบุคลากรทางการแพทย์ นอกจากนี้ ยังมีการยกระดับหน่วยบริการ ให้เป็นโรงพยาบาลอัจฉริยะ (Smart Hospital) ที่นำเทคโนโลยี ดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการจัดบริการสุขภาพแก่ประชาชน อาทิ ประวัติสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ การออกใบรับรอง แพทย์ดิจิทัล ใบสั่งยาและใบสั่งแล็บออนไลน์ การแพทย์และเภสัชกรรมทางไกล การนัดหมายออนไลน์ ส่งยาและ เวชภัณฑ์ที่บ้านผ่าน Health Rider และการส่งยาทางไปรษณีย์ เป็นต้น ซึ่งการนำเทคโนโลยีดิจิทัล มายกระดับ ระบบบริการสุขภาพดิจิทัล โดยคำนึงถึงความปลอดภัยทางไซเบอร์และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสำคัญ เพื่อ ความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน และช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล ลดระยะเวลารอคอย และลดค่าใช้จ่าย ด้านสุขภาพของประชาชน จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นจังหวัดที่มีความพร้อมในการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพในหน่วยบริการทุกระดับเป็นระบบ เดียวกัน และบุคลากรทางการแพทย์สามารถออก ประวัติสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ ออกไปรับรองแพทย์ดิจิทัลบัตรทอง โดยประชาชนผู้รับบริการมีการลงทะเบียนยืนยันตัวตน Health ID ผ่านแอปพลิเคชันหมอพร้อม และสามารถใช้ บริการที่คลินิกเวชกรรม คลินิกทันตกรรม ร้านแล็บ ร้านยาเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ ส่วนคนที่ยืนยันตัวตนในแอป พลิเคชันหมอพร้อม สามารถจองคิวเข้าบริการได้ โดยมีเป้าหมายการพัฒนาระบบตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว คือ 1) เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพหน่วยบริการทุกระดับ 2) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ ประชาชนในการรับบริการ และ 3) เพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพการให้บริการ ผลการดำเนินงานตามแนวทางการพัฒนา นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว แบ่งเป็น 4 ส่วน ดังนี้
2 1. พัฒนาระบบบันทึกข้อมูล หน่วยบริการในจังหวัดร้อยเอ็ดที่เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย หน่วยบริการสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 20 แห่ง, อปท. (รพ.สต.) 229 แห่ง, ศูนย์บริการเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด 2 แห่ง, โรงพยาบาลค่ายสมเด็จพระพุทธยอด ฟ้าจุฬาโลกมหาราช สังกัดกระทรวงกลาโหม 1 แห่ง, โรงพยาบาลเอกชน 1 แห่ง ร้านยา/LAB 187 แห่ง, คลินิก เวชกรรม 184 แห่ง และคลินิกทันตกรรม 54 แห่ง (ที่มา : สสจ.ร้อยเอ็ด ข้อมูล ณ วันที่ 16 มกราคม 2567) เมื่อเริ่มต้นนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ข้อมูลด้านสุขภาพทั้งหมดของประชาชน ที่มีการลงทะเบียน Health ID จะถูกบันทึกไว้ในแอพลิเคชันหมอพร้อม สามารถออนไลน์เชื่อมโยงถึงกัน ทุกโรงพยาบาล เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ในการตรวจสอบประวัติผู้ป่วย เพื่อวางแผนรักษา หรือรับส่งต่อเพื่อทำการรักษา สามารถเข้ารับบริการได้ทุกที่ ทั้งสถานพยาบาลของรัฐ - เอกชน (ที่เข้าร่วมโครงการ) 2. พัฒนาระบบยืนยันตัวตน จังหวัดร้อยเอ็ด มีประชากรทั้งหมด 1,291,131 คน มีประชาชนผู้รับบริการได้ลงทะเบียนยืนยันตัวตน Health ID ผ่านแอปพลิเคชันหมอพร้อมมมีจำนวนทั้งหมด 600,566 คน คิดเป็นร้อยละ 75.07 โดยมีเป้าหมายการ ลงทะเบียน 800,000 คน (ที่มา : สสจ.ร้อยเอ็ด ข้อมูล ณ วันที่ 16 มกราคม 2567) และยังเปิดยืนยันตัวตนได้ ต่อเนื่องที่ศูนย์ราชการสะดวก โรงพยาบาลร้อยเอ็ด ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพชนเมือง ศูนย์บริการสาธารณสุข เทศบาล เมืองร้อยเอ็ด รพ.สต.ทุกแห่ง ไม่เว้นวันหยุดราชการ เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ ทุกสิทธิการรักษา การยืนยันตัวตนผู้ให้บริการ (Provider ID) บุคลากรจังหวัดร้อยเอ็ด มียืนยันตัวตนผู้ให้บริการ (Provider ID) 2841 คน (ข้อมูล ณ 15 มกราคม 2567 : https://provider.id.th/) ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) หน่วยบริการ (โรงพยาบาล คลินิกเวชกรรม ร้านยา) ที่มีลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 35 แห่ง บุคลากรที่มีลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ประกอบด้วย แพทย์ 190 คน ทันตแพทย์ 86 คน เภสัชกร 176 คน เทคนิค การแพทย์ 120 คน จำนวนใบรับรองแพทย์ที่มีการออกเป็นแบบออนไลน์ ทั้งหมด 257 ใบ (ที่มา : สสจ.ร้อยเอ็ด ข้อมูล ณ วันที่ 16 มกราคม 2567) การยืนยันเข้ารับบริการ (Authen Code) เมื่อประชาชนเข้ารับบริการ จะมีการยืนยันการเข้ารับบริการ ผ่าน Kiosk หรือ Smart Card Reader ผ่าน HOSxP ณ ห้องเวชระเบียน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้บันทึกข้อมูลของหน่วยบริการ ได้ทำการยืนยันตัวตน ของประชาชนที่เข้ารับบริการ ณ หน่วยบริการ
3 3. การพัฒนาระบบ MOPH Data Hub 1. เชื่อมโยงข้อมูล PHR ครบทุกแห่งในเครือข่ายสุขภาพ ประวัติสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์, สมุดสุขภาพประชาชน ได้ 100 % 2. ผ่านการทดสอบระบบ ใบรับรองแพทย์ดิจิทัล, ใบสั่งยา / สั่ง LAB - ใบรับรองแพทย์ดิจิทัล ผู้รับบริการสามารถขอรับใบรับรองแพทย์ดิจิทัล เมื่อมารับบริการ ซึ่งข้อมูลจะเชื่อมโยงกับโรงพยาบาลที่รักษาและปรากฏในแอปพลิเคชันหมอพร้อม - ใบสั่งยาดิจิทัล ผู้รับบริการสามารถขอรับใบสั่งยาดิจิทัล พบแพทย์เสร็จสามารถกลับบ้านได้ เลย ไม่ต้องรอรับยาที่โรงพยาบาล นำใบสั่งยาดิจิทัลในแอปพลิเคชันหมอพร้อมและบัตร ประชาชนไปรับยา ที่ร้านขายยาในเครือข่าย - ใบสั่งแล็ปดิจิทัล สามารถนำไปตรวจที่คลินิกแล็ป ในเครือข่าย ข้อมูลจะเชื่อมโยงกับ โรงพยาบาลที่รักษาและปรากฏในแอปพลิเคชันหมอพร้อม 3. การแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ผ่านแอปพลิเคซันหมอพร้อม ในปี 2566 จังหวัดร้อยเอ็ดสามารถ ให้บริการการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) เภสัชกรรมทางไกล จำนวน 5,636 ครั้ง (ข้อมูล ณ 15 มกราคม 2567 : https://hdcservice.moph.go.th/hdc/reports) สำหรับผู้ป่วยที่มีประวัติการรักษาที่ โรงพยาบาล สามารถจองคิว นัดหมาย ล่วงหน้า เพื่อรักษากับแพทย์ผ่านแอปพลิเคชันหมอพร้อม และยัง สามารถเลือกรับยาเองที่โรงพยาบาล หรือรับยาทางไปรษณีย์หรือร้านยาในเครือข่าย สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้อง รอคิวนาน เป็นการประหยัดเวลา ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เพื่อเข้าถึงข้อมูลสุขภาพบนมือถือผ่านแอปพลิ เคซันหมอพร้อม 4. ผลการดำเนินงาน การรับยาที่บ้าน ปี 2566 = 3,722 Visit (ที่มา : รพ.ร้อยเอ็ด, 15 มกราคม 2567) ร้านยา ที่ร่วมโครงการ ส่งยาถึงบ้านผู้ป่วย ติดตามการใช้ยาผ่านระบบ Tele pharmacy ในแอปพลิเคชันหมอพร้อม โดยเภสัชกร 5. ผลการสั่งยาออนไลน์ผ่าน Application หมอพร้อมภาพรวมจังหวัดร้อยเอ็ด ปี 2566 จำนวน 725 ใบ (ข้อมูล ณ 15 มกราคม 2567 : https://hdcservice.moph.go.th/hdc/reports) 6. การส่งยาแบบ Health Rider ของจังหวัดร้อยเอ็ด มีการดำเนินการ 15 โรงพยาบาล จาก 20 โรงพยาบาล คิดเป็นร้อยละ 75 (ข้อมูล ณ 15 มกราคม 2567 : https://hdcservice.moph.go.th/hdc/reports) 7. การนัดหมายออนไลน์ ผู้รับบริการสามารถเลือกวัน เวลานัดหมายล่วงหน้า สำหรับจองคิวออนไลน์เพื่อเข้า รับบริการได้ ซึ่งจะมีระบบการแจ้งเตือนบนโทรศัพท์มือถือ ผ่านแอพลิเคชันหมอพร้อม หน่วยบริการที่ สามารถให้บริการนัดหมายออนไลน์ ได้แก่ แผนกทันตกรรม, แพทย์แผนไทย, Wellness Center, SMC (กุมารเวชกรรม) 8. สามารถทำการส่งข้อมูลการเบิกจ่ายกับทองทุนสุขภาพ ผ่านระบบ Financial Data Hub ได้ 100% 4. การพัฒนาระบบเชื่อมต่อประชาชน เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ Application หมอพร้อม เชื่อมต่อการเข้ารับบริการกับสถานบริการที่สะดวก รวดเร็ว ได้จัดตั้งจุดรับเรื่องร้องเรียน กรณีเกิดปัญหาการเข้าใช้บริการระบบ 30 บาท Plus (Call Center 24 ชม.)
4 2. รายงานสรุปผลการดำเนินงาน Kick Off นโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” โครงการ Kick Off นโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” ยกระดับบริการสุขภาพ ของกระทรวงสาธารณสุข ผ่านระบบดิจิทัล “แอปพลิเคชันหมอพร้อม” ลดขั้นตอน ลดความยุ่งยาก สะดวก รวดเร็ว ลดแออัดในโรงพยาบาล นำร่องใน 4 จังหวัด คือ ร้อยเอ็ด เพชรบุรี แพร่ และ นราธิวาส โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการ (กิจกรรม KICK OFF) ในวันที่ 7 มกราคม 2566 ณ ลาดหน้าหอโหวด 101 อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด มีผู้เข้าร่วมโครงการ จำนวน 10,101 คน เมื่อเสร็จสิ้นโครงการ ได้มีการประเมินความ พึงพอใจ ผ่านระบบออนไลน์ Google Form โดยใช้แบบประเมิน CIPP MODEL ทั้งหมด 4 ด้าน จำนวน 18 ข้อ ประกอบด้วย 1. การประเมินสภาวะแวดล้อม (Context) เกี่ยวกับหลักการ วัตถุประสงค์เป้าหมายของโครงการ/ กิจกรรม และการเตรียมการดำเนินโครงการ/กิจกรรม จำนวน 4 ข้อ 2. การประเมินปัจจัยนำเข้า (Input) เกี่ยวกับบุคลากร วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้และ งบประมาณ จำนวน 5 ข้อ 3. การประเมินกระบวนการ (Process) เกี่ยวกับการดำเนินงาน กิจกรรมการดำเนินงานตาม โครงการ/กิจกรรม การนิเทศติดตามผล และการประเมินผล จำนวน 5 ข้อ 4. การประเมินผลผลิต (Product) เกี่ยวกับผลการดำเนินงานตามโครงการ/กิจกรรม และคุณภาพ ผู้เข้าร่วมประชุม จำนวน 4 ข้อ เกณฑ์เฉลี่ยการประเมินโครงการ คะแนนเฉลี่ย 2.34-3.00 หมายถึง มีการดำเนินการในระดับมาก คะแนนเฉลี่ย 1.67-2.33 หมายถึง มีการดำเนินการในระดับปานกลาง คะแนนเฉลี่ย 1.00-1.66 หมายถึง มีการดำเนินการในระดับน้อย ตารางที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม (n = 5,046) ข้อมูลทั่วไป จำนวน (n=5,046) ร้อยละ 1) เพศ - ชาย - หญิง 951 4,095 23.22 76.78 2) อายุเฉลี่ย Mean = 57 , S.D. = 9.470 , Max = 85 , Min = 23 3) ตำแหน่ง (วิชาชีพ) - บุคลากรด้านสาธารณสุข - อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน - อื่นๆ 798 4,060 188 15.81 80.46 3.73
5 ตารางที่ 2 การประเมินสภาวะแวดล้อม (Context) การประเมินสภาวะแวดล้อม (Context) Mean S.D. แปลผล โครงการ/กิจกรรม สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข 2.79 0.418 มาก โครงการ/กิจกรรม สอดคล้องกับ บริบทในพื้นที่ 2.68 0.508 มาก โครงการ/กิจกรรม สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาระบบเทคโนโลยี ดิจิทัลสุขภาพ 2.77 0.440 มาก ผู้จัดมีความพร้อมในการเตรียมงานครั้งนี้ 2.75 0.450 มาก รวมเฉลี่ย 2.75 0.454 มาก จากตารางที่ 2 พบว่า การประเมินสภาวะแวดล้อม (Context) มีคะแนนความพึงพอใจเฉลี่ย (Mean = 2.75, SD. = 0.454) ความคิดเห็นที่มีคะแนนสูงสุด ได้แก่ โครงการ/กิจกรรม สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวง สาธารณสุข (Mean =2.79, SD. = 0.418) รองลงมาคือ โครงการ/กิจกรรม สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาระบบ เทคโนโลยีดิจิทัลสุขภาพ (Mean =2.77, SD. = 0.440) และ ผู้จัดมีความพร้อมในการเตรียมงานครั้งนี้ (Mean =2.75, SD. = 0.450) ตามลำดับ ตารางที่ 3 การประเมินปัจจัยนำเข้า (Input) ลำดับ การประเมินปัจจัยนำเข้า (Input) Mean S.D. แปลผล 1 สถานที่จัดงาน มีความเหมาะสม เพียงพอ ปลอดภัย 2.77 0.433 มาก 2 สิ่งอำนวยความสะดวก ระบบแสง สี เสียง มีความพร้อม เหมาะสม เพียงพอ 2.73 0.462 มาก 3 อาหารกลางวัน/อาหารเย็น เพียงพอ เหมาะสม 2.54 0.557 มาก 4 การบริการต้อนรับ และให้ข้อมูลได้ครบถ้วน ตรงตามความ ต้องการ 2.73 0.470 มาก 5 การบริหารจัดการด้านการขนส่ง มีความะสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย 2.69 0.489 มาก รวมเฉลี่ย 2.69 0.482 มาก จากตารางที่ 3 พบว่า การประเมินปัจจัยนำเข้า (Input) มีคะแนนความพึงพอใจเฉลี่ย (Mean = 2.69, SD. = 0.482) ความคิดเห็นที่มีคะแนนสูงสุด ได้แก่ สถานที่จัดงาน มีความเหมาะสม เพียงพอ ปลอดภัย (Mean = 2.77, SD. = 0.482) รองลงมาคือ สิ่งอำนวยความสะดวก ระบบแสง สี เสียง มีความพร้อม เหมาะสม เพียงพอ และ การบริการต้อนรับ และให้ข้อมูลได้ครบถ้วน ตรงตามความต้องการ (Mean = 2.73, SD. = 0.462, 0.470) และ การบริหารจัดการด้านการขนส่ง มีความะสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย (Mean = 2.69, SD. = 0.489) ตามลำดับ
6 ตารางที่ 4 การประเมินกระบวนการ (Process) ลำดับ การประเมินกระบวนการ (Process) Mean S.D. แปลผล 1 รูปแบบการจัดโครงการมีความเหมาะสม สอดคล้องกับ นโยบาย และความต้องการของประชาชน 2.77 0.434 มาก 2 หน่วยนวัตกรรมที่เข้าร่วมโครงการ (ร้านยา ร้านแล็บ สหคลินิก) มี ความพร้อม นำเสนอได้ตรงตามประเด็นที่จะพัฒนา สอดคล้องกับ นโยบาย 2.69 0.493 มาก 3 ความเหมาะสมของระยะเวลาดำเนินงาน แต่ละกิจกรรม 2.66 0.495 มาก 4 วิธีการ / กิจกรรมที่ปฏิบัติ ในแต่ละขั้นตอนสอดคล้องกับ เป้าหมายของโครงการ 2.73 0.462 มาก 5 กิจกรรม Kick Off มีความพร้อม ตรงเวลา เนื้อหาการนำเสนอ มีความเหมาะสม 2.74 0.456 มาก รวมเฉลี่ย 2.718 0.468 มาก จากตารางที่ 4 พบว่า การประเมินกระบวนการ (Process) มีคะแนนความพึงพอใจเฉลี่ย (Mean = 2.72, SD. = 0.468) ความคิดเห็นที่มีคะแนนสูงสุด ได้แก่ รูปแบบการจัดโครงการมีความเหมาะสม สอดคล้องกับ นโยบาย และความต้องการของประชาชน (Mean = 2.77, SD. = 0.434) รองลงมาคือ กิจกรรม Kick Off มีความพร้อม ตรงเวลา เนื้อหาการนำเสนอมีความเหมาะสม (Mean = 2.74, SD. = 0.456) และ วิธีการ / กิจกรรมที่ปฏิบัติ ในแต่ละขั้นตอนสอดคล้องกับเป้าหมายของโครงการ (Mean = 2.73, SD. = 0.462) ตามลำดับ ตารางที่ 5 การประเมินผลผลิต (Product) ลำดับ การประเมินผลผลิต (Product) Mean S.D. แปลผล 1 ดำเนินกิจกรรมได้ครบถ้วนตามลำดับที่กำหนด 2.72 0.458 มาก 2 สอดคล้องกับการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของกระทรวง สาธารณสุข ด้านดิจิทัลสุขภาพ 2.82 0.399 มาก 3 กิจกรรมนี้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน 2.81 0.397 มาก 4 ความพึงพอใจภาพรวมในการเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ 2.79 0.421 มาก รวมเฉลี่ย 2.79 0.418 มาก จากตารางที่ 5 พบว่า การประเมินผลผลิต (Product) มีคะแนนความพึงพอใจเฉลี่ย (Mean = 2.79, SD. = 0.418) ความคิดเห็นที่มีคะแนนสูงสุด ได้แก่ สอดคล้องกับการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของกระทรวงสาธารณสุข ด้านดิจิทัลสุขภาพ (Mean = 2.82, SD. = 0.399) รองลงมาคือ กิจกรรมนี้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน (Mean = 2.81, SD. = 0.397) และ ความพึงพอใจภาพรวมในการเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้(Mean = 2.79, SD. = 0.421) ตามลำดับ
7 ตารางที่ 6 ผลการประเมินโครงการ/กิจกรรม รายด้าน ลำดับ รายด้าน Mean S.D. แปลผล 1 การประเมินสภาวะแวดล้อม (Context) 2.75 0.454 มาก 2 การประเมินปัจจัยนำเข้า (Input) 2.69 0.482 มาก 3 การประเมินกระบวนการ (Process) 2.72 0.468 มาก 4 การประเมินผลผลิต (Product) 2.79 0.418 มาก รวมเฉลี่ย 2.74 0.456 มาก จากตารางที่ 6 พบว่า ผู้เข้าร่วมโครงการมีคะแนนความพึงพอใจภาพรวมทั้ง 4 ด้าน อยู่ในระดับมาก มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ (Mean = 2.74, SD. = 0.456) 3. การวิเคราะห์โดยใช้ SOAR Analysis จุดแข็ง (Strengths) 1. นโยบายตอบโจทย์ระบบบริการสาธารณสุขและประชาชนได้รับอย่างแท้จริง 2. การมีค่านิยมร่วมในกิจกรรมส่งผลให้เกิดความร่วมมือและการประสานงานของทุกภาคส่วน 3. รูปแบบกิจกรรมถูกออกแบบได้เป็นระบบ กระชับ 4. การประชาสัมพันธ์กิจกรรมทั่วถึง 5 ระบบเชื่อมโยงข้อมูลและระบบการให้บริการที่ทันสมัยตอบโจทย์ประชาชน โอกาส (Opportunities) 1. การสนับสนุนงบประมาณจากส่วนกลางที่สอดคล้องกับนโยบาย 2. การสนับสนุนจากส่วนกลางด้านระบบ IT 3. ครอบคลุมการดำเนินงานตามนโยบายทุกจังหวัด 4. กำกับติดตามจากส่วนกลางที่แสดงถึงความยั่งยืนของนโยบาย 5. ปรับการดำเนินงานที่สอดคล้องกับบริบทแต่ละพื้นที่ แรงบันดาลใจ (Aspiration) 1. ประชาชนได้รับความสะดวก ลดระยะเวลารอคอย 2. คนทำงานมีค่านิยมร่วม Shared value 3. ระบบบริการที่ดีขึ้น 4. ลดความแออัดในโรงพยาบาลส่งผลให้เกิดสิ่งแวดล้อมในการทำงานดีขึ้น 5. การมีส่วนร่วมภาคีเครือข่ายเพิ่มมากขึ้นทั้งคลินิก, รพ. เอกชน, ร้านยา
8 ผลลัพธ์ที่คาดหวัง (Results) 1. มีสมุดสุขภาพประชาชน 2. ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว 3. ใบรับรองแพทย์ดิจิทัลใช้ได้จริง 4. มีบริการแพทย์ทางไกลและเภสัชกรรมทางไกล 5. บริการรับส่งยาทางไปรษณีย์ (Health ridder) จุดแข็ง (Strengths) นโยบายที่กำหนดประชาชนได้รับชัดเจน ออกแบบการนำนโยบายสู่การปฏิบัติรวมถถึงการสื่อสาร ได้อย่างเป็นระบบ ที่ทุกภาคส่วนทั้งภาคสาธารณสุขและภาคมิใช่สาธารณสุขมีส่วนร่วมในนโยบาย โอกาส (Opportunities) การสนับสนุนจากส่วนกลางทั้งด้านงบประมาณ ด้านบริหารจัดการที่สอดคล้องกับนโยบาย พร้อมกำกับติดตามปรับปรุงให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดความยั่งยืน แรงบันดาลใจ (Aspiration) การมีค่านิยมร่วม Shared value ของคนทำงานทุกภาคส่วนร่วมกันจะทำให้เกิดแรงบันดาลใจ ในการทำงาน ผลลัพธ์ที่คาดหวัง (Results) การที่มีสมุดสุขภาพตนเอง, ส่งต่อโดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว, ใบรับรองแพทย์ดิจิทัลใช้ได้จริง, บริการ แพทย์ทางไกลและเภสัชกรรมทางไกล, บริการรับส่งยาทางไปรษณีย์ด้วย Health Rider )
9 ภาคผนวก
10 ภาคผนวก ก ภาพกิจกรรมโครงการ Kick Off นโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว”
11 ภาพที่ 1 - 2 การประชุมเตรียมความพร้อม โครงการ Kick Off นโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ณ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
12 ภาพที่ 3 -4 ประชุมเตรียมความพร้อมการจัดโครงการ Kick off ตามนโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ฯ ณ โรงพยาบาลร้อยเอ็ด
13 ภาพที่ 5 -6 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อมการดำเนินงาน “30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” การจ่ายยา และ Tele pharmacy ที่ “ร้านยาเภสัชกร” การจัดบริการที่ “เซ็นทรัลแล็บ 101” และการจัดบริการ ตรวจรักษาโรค และทันตกรรม ที่ “สหคลินิกบ้านคุณหมอ” ภาพที่ 7 -8
14 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อมระบบการเชื่อมข้อมูล PHR โรงพยาบาลจุรีเวช
15 ภาพที่ 9 -10 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อมการดำเนินงาน “30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” ที่แผนกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลจตุรพักตรพิมาน
16 ภาพที่ 11 –12 การซักซ้อม /การเตรียมพื้นที่ การจัดโครงการ Kick off ตามนโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ฯ
17 ภาพที่ 13 -14 การตรวจสอบความพร้อมของระบบ IT ณ หน่วยนวัตกรรมที่เข้าร่วมโครงการ
18 ภาพที่ 15 -16 การลงพื้นที่ ร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อดูความเรียบร้อยหน้างาน ก่อนวันจัดกิจกรรม Kick Off ณ ลานหอโหวด
19 ภาพที่ 17-18 คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประชุมหารือเพื่อเตรียมความพร้อมกิจกรรม Kick Off ณ ห้องประชุมทางไกลชั้น 5 รพ.ร้อยเอ็ด
20 ภาพที่ 19 -20 คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่เตรียมความพร้อมกิจกรรม Kick Off ณ ลานหอโหวด จังหวัดร้อยเอ็ด
21 ภาพที่ 21 –22 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่เตรียมความพร้อมกิจกรรม Kick Off ณ ลานหอโหวด จังหวัดร้อยเอ็ด
22 ภาพที่ 23-24 Kick Off ตามนโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” 7 มกราคม 2567 ณ รพ.จตุรพักตรพิมาน
23 ภาพที่ 25-34 Kick Off ตามนโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” 7 มกราคม 2567 ณ รพ.ร้อยเอ็ด
24 งาน Kick Off นโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” 7 มกราคม 2567 ณ ลานหอโหวด
25 งาน Kick Off นโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” 7 มกราคม 2567 ณ ลานหอโหวด
26 งาน Kick Off นโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” 7 มกราคม 2567 ณ ลานหอโหวด
27 งาน Kick Off นโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” 7 มกราคม 2567 ณ ลานหอโหวด
28 ภาพที่ 35-36 พิธีมอบใบประกาศแก่ผู้ส่วนเกี่ยวข้องในการจัดกิจกรรม Kick Off นโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว”โดยผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด
29 ภาคผนวก ข แผนงานและโครงการ Kick Off นโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว”
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39 ภาคผนวก ค ภาพบรรยากาศ Kick Off นโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว”
40