โรงเรียนสันป่าตองวิทยาคม
การซ่อมแซม
เสื้อผ้า
ชั้นเรียนของคุณครูเนส
ความแข็งแรงทนทานของเนื้อผ้าแต่ละชนิดต่างกัน
เพราะผลิตจากวัสดุ และผ่านกระบวนการผลิตที่ต่างกัน
สาเหตุของการชำรุดของเสื้อผ้า เช่น การเคลื่อนไหวของ
ร่างกายที่เร็ว แรง และไม่ระมัดระวัง การเย็บที่ไม่เรียบร้อย เนื้อ
ผ้าเก่าจนเส้นใยลดความเหนียวลงทำให้ฉีกขาดง่าย เป็นต้น
ความหมาย การซ่อมแซมเสื้อผ้า
หมายถึง การทำให้เสื้อผ้าที่ชำรุด
กลับมามีสภาพที่ใกล้เคียงของเดิมมาก
ที่สุด และสามารถนำกลับมาสวมได้
ประโยชน์ของการซ่อมแซมเสื้อผ้า
ปกปิดรอยชำรุด ลดการขยาย
ตัว
บนเสื้อผ้า ของรอยชำรุด
ยืดอายุการใช้งาน
ลดค่าใช้จ่ายใน ลดการผลิตเสื้อผ้า ซึึ่ง
การซื้อเสื้อผ้าใหม่ เป็นการลดภาวะโลกร้อน
ประโยชน์ของการซ่อมแซมเสื้อผ้า
มีพื้นฐานในงาน ใช้เวลาว่างให้เ
กิด
ตัดเย็บเสื้อผ้า ประโยชน์
เกิดความภาค
ภูมิใจในฝีมือตัวเอง
หลักการในการซ่อมแซมเสื้อผ้า คือ...
1.เมื่อพบรอยชำรุดควรซ่อมแซมทันที ก่อนจะนำไปซักทำความสะอาด
2. เลือกใช้วิธีการซ่อมแซมที่เหมาะสมกับรอยชำรุด
3. เลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับรอยชำรุด
4.เลือกใช้สีของด้ายที่เหมือน หรือคล้ายคลึงกับเนื้อผ้า
5.เตรียมเครื่องมือ และอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนปฏิบัติงาน
6.คำนึงถึงความคุ้มค่าของเวลา ว่าควรซ่อมแซม หรือนำไปดัดแปลง
เครื่องมือ และอุปกรณ์
ที่ใช้ในการซ่อมแซมเสื้อผ้า
สายวัด
สายวัดที่ดีต้องไม่หด ไม่ยืด มีลักษณะเป็น
แถบผ้า หรือพลาสติกยาว 150 เซ็นติเมตร หรือ
60 นิ้ว หลายหุ้มด้วยโลหะ
ใช้วัดตัวเพื่อทราบขนาดสัดส่วนของบุคคล
และสร้างแบบเสื้อผ้า
ไม้บรรทัด
เลือกใช้ความยาวของไม้บรรทัดให้เหมาะสม
กับความยาวของเส้นที่จะขีดเขียน
ควรเลือกใช้ไม้บรรทัดที่เป็นพลาสติกใส และ
ดัดโค้งงอได้ เพราะสามารถเห็นเส้นลายที่อยู่ใต้
ไม้บรรทัดได้
ลูกกลิ้ง
เป็นวงล้อที่มีขอบแหลมคมสม่ำเสมอกัน
ใช้กลิ้งกดรอยเพื่อลอกเล้นตามแบบลงบน
เนื้อผ้า ใช้ร่วมกับกระดาษกดรอบ
กระดาษกดรอย
เป็นกระดาษที่เคลือบด้วยไข มีหลายสี ควร
เลือกใช้
ใช้รองใต้ผ้า หรือสอดไว้ระหว่างเนื้อผ้าด้าน
ผิดก่อนกดลูกกลิ้งเพื่อลอกแบบบนลงบนเนื้อผ้า
ชอล์กเขียนผ้า
เป็นแผ่นสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยมบางๆ หรือแท่ง
มีหลายสี
ใช้ขีดเป็นแนว หรือทำเครื่องหมาย เพื่อ
กำหนดตำแหน่งตัด หรือเย็บ
เมื่อใช้แล้วควรเก็บให้เรียบร้อย ระวังอย่าให้
ตกเพราะจะทำให้แตกหัก หลีกเลี่ยงแสงแดด
เวลาชอล์กไม่ติดเนื้อผ้า ควรใช้โลชั่น หรือน้ำมัน
จักรถูบชอล์กก่อนนำไปเก็บเพื่อป้องกันไม้ให้
ชอล์กแห้ง
ดินสอเขียนผ้า
ใช้ขีดเป็นแนว หรือทำสัญญาลักษณ์ เพื่อ
กำหนดตำแหน่งตัด หรือเย็บ เช่นเดียวกับชอล์ก
เขียนผ้า
ควรเก็บให้เรียบร้อย ระวังอย่าให้แตก เพราะ
จะทำให้ไส้ดินสอแตกหัก
ที่เลาะผ้า
มีด้ามจับเป็นไม้ หรือพลาสติก ตรงปลายที่
เลาะทำด้วยโลหะเคลือบไม่เป็นสนิม มีปลอก
สวมเพื่อป้องกันอันตรายจากปลายแหลม
ใช้เลาะรอยเย็บผ้าที่ไม่ต้องการ หรือเมื่อมี
การแก้ไขตะเข็บ หรือใช้เลาะด้ายเนา
เข็มหมุด
มีหลายขนาด เลือกใช้ให้เหมาะกับเนื้อผ้า
แต่ละชนิด เลือกที่ปลายแหลมคมไม่เป็นสนิม
หัวหุ้มด้วยพลาสติกใสใช้กลัดผ้าให้ติดกันเพื่อ
สะดวกในการสอย หรือเนา
เข็มมือ
มีหลายขนาดให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม
ขนาดเล็กสุดเบอร์ 10, 11 ขนาดกลางเบอร์ 9 และ
ขนาดใหญ่เบอร์ 8 เข็มสอยใช้ขนาดเล็กค่อนข้าง
ยาวมีปลายแหลมคม คือเบอร์ 10, 11 เข็มเนาใช้
เบอร์ 8, 9
เลิกใช้งานควรปักไว้บนหมอนปักเข็ม หรือห่อ
ด้วยกระดาษตะกั่ว
เข็มจักร
มีหลายขนาด เลือกใช้ให้เหมาะสมกับเนื้อผ้า
และเส้นด้าย เข็มจักรขนาดเล็กที่สุด เบอร์ 9, 11
ขนาดกลางเบอร์ 13, 14 และขนาดใหญ่เบอร์ 16,
18 เข็มจักรเบอร์ 9, 11 ใช้เย็บผ้าเนื้อบาง เบอร์ 13,
14 ใช้เย็บผ้าเนื้อไม่หนามากเกินไป ส่วนเบอร์ 16,
18ใช้เย็บผ้าที่มีเนื้อหนา
ด้าย
มี 2 ชนิด คือ ด้ายเย็บผ้า และด้ายเนา ด้าย
เย็บผ้าจะเหนียว ราคาแพงกว่า ใช้เย็บผ้า หรือ
ส่วนประกอบตกแต่งให้ติดกับเสื้อผ้า
กรรไกร
ใช้ตัดส่วนที่ต้องการในงานตัดซ่อมแซม
ดัดแปลง และตกแต่งเสื้อผ้า
ไม่ควรนำกรรไกรตัดผ้าไปตัดของแข็ง เพราะ
จะทำให้เสัยคม
ปลอกนิ้ว
ทำจากวัสดุต่างๆ เช่น โลหะ หนังสัตว์ ยาง ซิ
ลิโคน ใช้สำหรับสวมนิ้ม เพื่อป้องกันไม่ให้เข็ม
แทงมือใรขณะเย็บ
จักรเย็บผ้า
ใช้สำหรับเย็บผ้าซึ่งสามารถทำงานได้เร็วกว่า
การเย็บมือ มีทั้งชนิดจักรธรรมดา ลักไฟฟ้า
ควรบำรุงรักษาโดยเช็ดทำความสะอาด
หยอดน้ำมันจักร แล้วใช้ผ้าคลุมกันฝุ่นละอองทุก
ครั้งหลังใช้งาน