The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

อธิบายวัฒนธรรมประเทศเวียดนาม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Sasiprapa Yaimyat, 2022-09-13 10:04:28

ศิลปะวัฒนธรรมประเทศเวียดนาม

อธิบายวัฒนธรรมประเทศเวียดนาม

ศิ ล ป ะ วั ฒ น ธ ร ร ม ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ

เวียดนาม

ศิ ล ป วั ฒ น ธ ร ร ม ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ เ วี ย ด น า ม



ศิลปวัฒนธรรม
ของเวียดนาม

ศิลปวัฒนธรรม ของเวียดนามส่วนใหญ่มีอิทธิพลของจีนและ
ฝรั่งเศสผสมผสาน โดยมีเทศกาลที่สำคัญๆ ได้แก่ เทศกาลเต็ด
หรือ ตรุษญวน เป็นเทศกาลสำคัญทางศาสนา เรียกว่า
"เต็ดเหวียนดาน" หมายถึง เทศกาลแห่งรุ่งอรุณแรกของปี
เป็นการเฉลิมฉลองความเชื่อในเทพเจ้า ลัทธิเต๋า ขงจื้อ และ
ศาสนาพุทธ

ศิลปะการแสดง ละครที่เป็นที่นิยมในแทบทุกภาคของเวียดนาม คือ
"ฮัตบอย" (Hat Boi) หรืออุปรากรจีนตามแบบฉบับเวียดนาม ฮัต-ร้อง
เพลง และ บอย-การแสดงท่าทาง หมายถึงการแสดงที่มีการขับร้อง
และลีลาท่าทางที่เป็นแบบแผนมาแต่โบราณ ฮัตบอยพัฒนารูปแบบเป็น
ของเวียดนามมากขึ้น เช่น คำร้องแปลเป็นภาษาเวียดนาม ประพันธ์
เพลงและทำนองขึ้นใหม่ หรือผสมผสานประวัติศาสตร์เวียดนามมา
แสดง แต่ส่วนประกอบอื่นๆ ยังคงลักษณะของจีนไว้ด้วย เช่น เครื่อง
แต่งกาย การแต่งหน้ า การจัดฉากและอุปกรณ์การสร้างฉาก

นอกกจากนี้ยัง มีการแสดงตามแบบฉบับราชสำนักพื้นบ้าน และการ
แสดงในอีกหลากหลายรูปแบบตามพื้นถิ่น รวมทั้งการแสดงหุ่นน้ำที่
มีชื่ อเสียงและมีเอกลักษณ์โดดเด่นเป็ นที่รู้จัก

ศิ ล ป วั ฒ น ธ ร ร ม ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ เ วี ย ด น า ม



เทศกาล"เต็ดเหวียนดาน"
หรือ ตรุษญวน


ตรุษญวนใน ภาษาเวียดนาม เรียกว่า เต๊ตเงวียนด๊าน ( Tết Nguyên Đán )

แปลว่าเทศกาลต้อนรับแสงรุ่งอรุณของปีใหม่ ในการเฉลิมฉลองเทศการตรุษญวน

จะเริ่มขึ้นในวันที่ 23 เดือน 12 ตาม ปฏิทินจันทรคติของเวียดนาม (เจ็ดวัน
ก่อนตรุษญวน) วันนี้จะมีการไหว้เทพเจ้าแห่งเตาไฟ ในภาษาเวียดนามเรียกว่า
องต๊าว ( Ông Táo ) หรือ ต๊าวเกวิน ( Táo Quân ) เทพเจ้าเตาเป็นเทพเจ้าที่
คอยสอดส่องดูแลความเป็นไปทุกอย่างภายในบ้าน เทพเจ้าเตาของเวียดนามมี
สามองค์ ซึ่ง แตกต่างกับของจีน พอถึงวันที่ 23 เดือน 12 จะมีการเซ่นไหว้
เทพเจ้าโดยวัตถุประสงค์คือเพื่อส่งเทพเจ้าขึ้นสวรรค์ ในพิธีจะมีการไหว้ปลาคร๊าฟ
ซึ่งเทพเจ้าจะขึ้นสวรรค์โดยขี่ปลาคร๊าฟนี้ พอไหว้เสร็จก็จะนำ ปลาคร๊าฟ ไปปล่อย
ใน แม่น้ำ หรือ หนองน้ำ เพราะเชื่อว่าปลาคร๊าฟจะแปลงกลายเป็นมังกรพาเทพเจ้า
ขึ้นสู่สวรรค์ หลังจากนั้นจะมีการทำความสะอาดบ้านเรือนประดับตกแต่งสวยงาน
เพื่อต้อนรับเทศกาลตรุษญวนที่จะมาถึง

ศิ ล ป วั ฒ น ธ ร ร ม ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ เ วี ย ด น า ม



เต๊ดจุงทู (Tet Trung Thu)

หรือ

เทศกาลไหว้พระจันทร์

เต๊ดจุงทู (Tet Trung Thu) หรือเทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง คล้ายกับ
เทศกาลไหว้พระจันทร์ของจีน ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน8 ตามปฏิทิน
จันทรคติ หรืออยู่ในช่วงเดือนกันยายน ในเทศกาลนี้ชาวเวียดนามจะจัด
ประกวดขนมแบ๋ญจุงทู (Banh Trung Thu) หรือ ขนมไหว้พระจันทร์ รูปร่าง
กลม ผิวหน้ าประดับลวดลายสวยงาม ใส่ไส้ถั่วและผลไม้ แต่ละบ้านจะมีโคม
ไฟประดับเพื่อเฉลิมฉลอง มีขบวนแห่เชิดสิงโตและมังกร ซึ่งในขบวนนี้จะ
อนุญาตให้เด็กๆร่วมร้องเพลงเต้นรำไปด้วย ในช่วงที่เวียดนามยังอยู่ภายใต้
การปกครองของฝรั่งเศส รัฐบาลฝรั่งเศสเกรงว่าหากปล่อยให้ชาวเวียดนาม
ชุมนุมกันมากเข้าจะนำไปสู่การปฏิวัติ จึงไม่อนุญาตให้ผู้ใหญ่เข้าร่วมเต้นรำใน
ขบวนแห่ของเทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง นับแต่นั้นมา เทศกาลนี้จึงมีชื่อเรียก
อีกอย่างหนึ่งว่า เทศกาลของเด็ก

ศิ ล ป วั ฒ น ธ ร ร ม ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ เ วี ย ด น า ม



เทศกาลดอกไม้ดาลัด

เทศกาลดอกไม้ดาลัด (เวียดนาม: เทศกาล Hoa Đà LAT) เป็น
เทศกาลวัฒนธรรมซึ่งจะมีขึ้นทุก ๆ ปีในĐàเขตเมืองLâmĐồng ,
เวียดนามและบางเมืองอื่น ๆ ในLâmĐồngจังหวัด เทศกาลนี้จัดขึ้นโดย
มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดแสดงดอกไม้ผักและไม้ประดับจากท้องถิ่นตลอดจน
ภูมิภาคอื่น ๆ ภายในประเทศและอีกหลายประเทศในโลกเพื่อดึงดูดนัก
ท่องเที่ยวให้มาที่ĐàLạtส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจของเมือง .
เทศกาลดอกไม้ดาลัดยังเป็ นกิจกรรมที่ยกย่องคุณค่าของดอกไม้และการ
ปลูกดอกไม้โดยเรียกร้องให้มีการลงทุนในอุตสาหกรรม
ดอกไม้ĐàLạtตลอดจนส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของเมืองวัฒนธรรมและ
ผู้คนในĐàLạt

ศิ ล ป วั ฒ น ธ ร ร ม ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ เ วี ย ด น า ม



เทศกาลโคมไฟที่ฮอยอัน

เทศกาลโคมไฟจัดขึ้นทุกเดือนในคืนก่อนวันพระจันทร์เต็มดวงที่
เมืองฮอยอัน ประเทศเวียดนาม โดยคืนพระจันทร์เต็มดวงนั้นถือว่า
เป็นวันสำคัญวันหนึ่งสำหรับพุทธศาสนิกชน เพราะเป็นวันที่
พระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้และปรินิพาน ด้วยเหตุนี้ ในเทศกาลโคมไฟ
ที่ฮอยอัน ชาวเวียดนามจึงพากันมาจุดโคมเพื่อแสดงความเคารพและ
ระลึกถึงพระพุทธเจ้าและบรรพบุรุษที่ได้ล่วงลับไปแล้ว

ศิ ล ป วั ฒ น ธ ร ร ม ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ เ วี ย ด น า ม



หุ่นกระบอกน้ำ (Water Puppet)

ศิลปะการแสดงหุ่นกระบอกน้ำ มีมากว่า 1,000 ปี ซึ่งยาวนานมากๆ ว่า
กันว่า มีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์หลีในตศวรรษที่ 11 บริเวณ
ดินดอนสามเหลี่ยมลุ่มแม่น้ำซงโห่ง หรือแม่น้ำแดงบริเวณที่ราบลุ่มต่ำ
พื้นที่บริเวณนี้น้ำจะท่วมภูมิภาคนี้อยู่สม่ำเสมอทุกปี ช่วงนี้ท่วมชาวบ้าน
ชาวไร่ ชาวนา ต่างไม่รู้จะทำอะไร จึงพากันคิดค้นศิลปะรูปแบบนี้ขึ้นมา
จากการแสดงเล็กๆ จนกลายเป็นสิ่งที่ทุกหมู่บ้านต้องมีศิลปะการแสดงนี้
นอกจากนั้น เนื้อเรื่องที่แสดงหุ่นกระบอกน้ำยังผสมผสานระหว่างเทพเจ้า
ในตำนานกับความรักชาติ จนเวลาผ่านไปหลายยุคสมัย ศิลปะการแสดง
นี้ได้เริ่มหายไป เพราะนักเชิดหุ่นอาวุโสทั้งหลายยังไม่มีใครยอมถ่ายทอด
วิชาให้คนรุ่นหลัง จนในที่สุดศิลปะการแสดงนี้ใกล้สูญหายจึงยอมถ่ายทอด
ให้ แต่ทุกวันนี้ มีคณะหุ่นเหลืออยู่ไม่มากนักในเวียดนาม

ศิ ล ป วั ฒ น ธ ร ร ม ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ เ วี ย ด น า ม



อ่าวฮาลอง
(VINH HA LONG)

อ่าวฮาลอง (Vinh Ha Long) หรือที่นิยมเรียกตามชื่อในภาษา
อังกฤษว่า ฮาลอง เบย์ (Halong Bay) เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่
ของอ่าวตังเกี๋ยทางตอนเหนือของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
ใกล้ชายแดนติดต่อกับสาธารณรัฐประชาชนจีน มีพื้นที่ทั้งหมด
1,500 ตารางกิโลเมตร และมีชายฝั่งยาว 120 กิโลเมตร อยู่ห่าง
จากกรุงฮานอยไปทางตะวันออก 170 กิโลเมตร ชื่อตามการออก
เสียงในภาษาเวียดนามเขียนได้ว่า "Vinh Ha Long" หมายถึง "อ่าว
แห่งมังกรผู้ดำดิ่ง"

ศิ ล ป วั ฒ น ธ ร ร ม ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ เ วี ย ด น า ม



ฮอยอัน

เป็ นเมืองขนาดเล็กริมฝั่ งทะเลจีนใต้ทางตอนกลางของสาธารณรัฐ

สังคมนิยมเวียดนาม ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดกว่างนาม มีประชากรอาศัยอยู่
ราว 80,000 คน ในอดีตเคยเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย
ตะวันออกเฉียงใต้ Trieu Chau Assembly Hall

ในสมัยของอาณาจักรจามปา บริเวณนี้เคยเป็นเมืองท่าบนปากแม่น้ำทู
โบน ซึ่งมีชื่อว่า ไฮโฟ โดยเป็นศูนย์กลางทางการค้าในช่วงคริสต์ศตวรรษที่
16-17 มีชาวต่างชาติมาตั้งถิ่นฐานและค้าขายในเมืองนี้เป็นจำนวนมาก ทั้ง
ชาวจีน ญี่ปุ่น ดัตช์ และอินเดีย เดิมทีเมืองนี้ถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งโดยมี
คลองสายหนึ่งคั่นอยู่กลางเมือง มีสะพานญี่ปุ่นทอดข้ามคลองเพื่อกั้นแบ่ง
เขตชุมชนของชาวญี่ปุ่นที่อีกฝั่งหนึ่งของคลอง ตัวสะพานสร้างโดยชาว
ญี่ปุ่น มีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ศิ ล ป วั ฒ น ธ ร ร ม ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ เ วี ย ด น า ม





ป้ อ ม ป ร า ก า ร ข อ ง ร า ช ว ง ศ์ โ ฮ


เป็นป้ อมปราการแห่งหนึ่งในประเทศเวียดนาม สร้างขึ้นในสมัย

ราชวงศ์โฮ (ค.ศ. 1400-1407) ตั้งอยู่ที่ Tây Giai commune ตำบล
Vĩnh Lộc จังหวัดแทงหวา ริมชายฝั่งเวียดนามเหนือตอนกลาง
ปราสาท Tây Đô มีรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ความยาวเหนือจรด
ใต้เท่ากับ 870.5 เมตร ตะวันออกจรดตะวันตกเท่ากับ 883.5 เมตร
มีประตูสี่ด้าน ประตูหน้ าคือประตูด้านทิศใต้ มีความสูง 9.5 เมตร
และกว้าง 15.17 เมตร อีกสามประตูอยู่ทางทิศเหนือ ตะวันออก
และตะวันตก ตัวปราสาทสร้างขึ้นจากก้อนหิน ซึ่งแต่ละก้อนมี
ขนาดประมาณ 2 m x 1 m x 0.70 m นอกเหนือจากประตูแล้ว ตัว
ปราสาทเกือบทั้งหมดได้พังทลายไปแล้ว

ศิ ล ป วั ฒ น ธ ร ร ม ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ เ วี ย ด น า ม



อุทยานแห่งชาติฟง งา-เค บัง



เป็ นอุทยานแห่งชาติของประเทศเวียดนามที่ได้รับลงทะเบียนเป็ นมรดกโลก
เมื่อปี พ.ศ. 2546 ตั้งอยู่ในอำเภอ โบจักห์ และ อำเภอ มินห์หัว จังหวัดควงบิน
ห์ และติดชายแดนประเทศลาว ห่างจาก ฮานอยมาทางใต้ประมาณ 500
กิโลเมตร เป็นกลุ่มหินปูนมีขนาดพื้นที่ 857.54 ตารางกิโลเมตร อุทยานนี้มีชื่อ
เสียงในความสวยงามของถ้ำที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก และยังเป็นสถานที่ 1 ใน 2
ของโลกที่เป็นหินปูนที่มีลำธารใต้ดินขนาดใหญ่ สวนพรมแดนลาว 140
กิโลเมตรทางเหนือของแพร่งแห่งชาติถนนที่ 1A และถนน 9 (เชื่อมต่อ
เวียดนาม, ลาวและไทยภาคอีสาน) ที่จอดรถมีมากกว่า 300 ถ้ำและถำกับรวม
ความยาว (หลังจากเมษายน 2009) 126 กิโลเมตร ในเดือนเมษายน 2009,
บริติชนักวิทยาศาสตร์ค้นพบใหม่ถ้ำแล้วพวกเขากล่าวว่ามันคือถ้ำใหญ่ที่สุดใน
โลก หายากหลายชนิดนี้อาศัยอยู่ในสวน

จัดทำโดย

นางสาวศศิประภา เยี่ยมญาติ
รหัสนักศึกษา 16415122

สาขาคณิตศาสตร์ 64
คณะครุศาสตร์

มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา


Click to View FlipBook Version