รายงานผลการใช้หลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย 65

๑ รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1

ก รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 ค ำน ำ กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศให้สถานศึกษาหรือสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยทุกสังกัด ใช้หลักสูตร การศึกษาปฐมวัย ตามค าสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ที่ สพฐ. 1223/2560 ลงวันที่ 3 สิงหาคม 2560 เรื่อง ให้ใช้ หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 โดยน าหลักสูตรนี้ไปใช้ และปรับปรุงให้เหมาะสมกับเด็กและสภาพ ท้องถิ่น โรงเรียนบ้านร่องปอ จึงได้จัดท าหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2562 (ปรับปรุง 2563) ตาม หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 โดยใช้หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 เป็นแกนหลัก เพื่อก าหนดการจัดท าโครงสร้างและสาระหลักสูตรสถานศึกษาให้สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา และ สอดคล้องกับสภาพการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน ขอขอบคุณท่านผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง คณะครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้น พื้นฐานและผู้ปกครองที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาเด็ก พัฒนาโรงเรียน พัฒนาหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยให้เหมาะสม สอดคล้องกับสภาพสังคมในยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลง ตลอดเวลาและสอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษา แห่งชาติ พ.ศ. 2542 ได้เป็นอย่างดี โรงเรียนจะพัฒนาเด็กทุกคนให้มีมาตรฐานและมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตามที่หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 ที่ได้ก าหนดไว้ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศ เรื่อง ให้ ใช้มาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัย เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2561 ดังนั้น เพื่อให้การด าเนินการประกันคุณภาพ การศึกษาภายในของโรงเรียนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพตามกฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2561 บัดนี้สิ้นปีการศึกษาแล้ว ทางโรงเรียนบ้านร่องปอ จึงได้จัดท ารายงานผลการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ปฐมวัย พุทธศักราช 2562 (ปรับปรุง 2564) ซึ่งประกอบไปด้วยข้อมูลพื้นฐาน การบริหารจัดการหลักสูตร และ ผล การพัฒนาและการใช้หลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย เพื่อจะได้น าข้อมูลที่ได้ไปใช้ในการพัฒนา ปรับปรุงหลักสูตรในปี การศึกษาต่อไป โรงเรียนบ้านร่องปอ พฤษภาคม 2565

ข รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 สำรบัญ เรื่อง หน้ำ ค าน า สารบัญ ก ข บทที่ 1 ข้อมูลพื้นฐานของโรงเรียน................…………………………………………………………….…….. 1. ข้อมูลทั่วไป........................................…….…………………………………………….……….. 1.1 ประวัติโรงเรียนบ้านร่องปอ……………………………………………..…………….……… 1.2 สภาพทั่วไป…………………………………..……………………………………………….……. 1.3 ตราประจ าโรงเรียน.....…………………………………………………………………….……. 1.4 สีประจ าโรงเรียน..............……………………………………………………………….…….. 1.5 อักษรย่อของโรงเรียน..................................................................................... 2. ข้อมูลผู้บริหาร............................................................………………………………...…… 3. ข้อมูลนักเรียน..............................…………………………………………………………………. 4. ข้อมูลครูและบุคลากร............................................................................................ 5. แหล่งเรียนรู้.........................................................…………………………………….……… 6. ภูมิปัญญาท้องถิ่น............................................................................................. ...... 7. ผลงานดีเด่นในรอบปีการศึกษา.............................................................................. 8. งาน/โครงการ/กิจกรรมส่งเสริมด้านการจัดการศึกษาระดับปฐมวัย ในรอบ ปีการศึกษา 2563....................................................................................................................... 1 1 1 2 2 2 2 3 3 4 5 6 7 8 บทที่ 2 การบริหารจัดการหลักสูตรของสถานศึกษาระดับปฐมวัย………………….…….…………….. 1. คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและงานวิชาการ.…………………………………………….. 2. ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เพื่อวิเคราะห์สภาพปัญหา จุดเน้น ความต้องการของชุมชน และสถานศึกษา..............................................................................……………………………………… 3. องค์ประกอบหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย…………………………………..…………….…… 15 15 15 16 บทที่ 3 ผลการพัฒนาและการใช้หลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัย...……………..…………………. 3.1 การพัฒนาและการใช้หลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัย...……………..……………… 3.2 โรงเรียนมีการจัดท าหลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัยให้สอดคล้องกับบริบท และความต้องการของท้องถิ่น คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง และชุม………………………. 40 40 41

ค รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 สำรบัญ (ต่อ) เรื่อง หน้ำ 3.3 ปัญหา/อุปสรรคในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัย และแนวทาง แก้ไข…………………………………………………………………………………………………………………………….. 3.4 หลังจากที่มีการใช้หลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัยไปแล้ว ในปีการศึกษา 2563 โรงเรียนได้ด าเนินการปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษาเพิ่มเติม……………………………..………. 3.5 รูปแบบหลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัยที่ด าเนินการอยู่นั้น มีประโยชน์ต่อ ประเด็นการด าเนินงานของสถานศึกษา……………………………………………………………………………. 3.6 กระบวนการนิเทศติดตามการใช้หลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัยของผู้บริหาร สถานศึกษา…………………………………………………………………………………………………………………… 3.7 ปัจจัยส าคัญของโรงเรียนที่มีผลต่อการใช้หลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัย ตามแนวทางหลักสูตร การจัดการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2563…………………………..……….… 3.8 แนวคิด/แนวทางการพัฒนาหลักสูตรระดับปฐมวัยของโรงเรียนในครั้งต่อไป.…... 3.9 ความต้องการในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัย…………….…………. 41 42 42 43 44 44 45 บทที่ 4 ผลการประเมินพัฒนาการเด็ก ตามหลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัย……………………. 1. ผลการประเมินพัฒนาการเด็ก .........................................................…………………. 2. จุดเน้นการพัฒนาเด็กเพื่อการขับเคลื่อนหลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัย ………. 3. การเชื่อมต่อของการศึกษาระดับปฐมวัยกับระดับประถมศึกษาปีที่ 1 ……………….. 46 46 47 50 ภาคผนวก ค าสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารหลักสูตร เอกสารต่างๆ ในรูปแบบ QR-CODE 38

1 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 บทที่ 1 ข้อมูลพื้นฐำนโรงเรียน 1. ข้อมูลทั่วไป โรงเรียนบ้านร่องปอ ตั้งอยู่เลขที่ 99 หมู่ 14 บ้านร่องปอใต้ ต าบลดงเจน อ าเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา รหัสไปรษณีย์ 56000 สังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 ส านักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน โทรศัพท์ 080-5174442 รหัสโรงเรียน (10 หลัก) : 1056320281 email : [email protected] ปัจจุบันเปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นก่อนประถมศึกษา ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีเนื้อที่ 5 ไร่ 3 งาน 64 ตารางวา เขตพื้นที่บริการจ านวน 2 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 7 บ้านร่องปอ และหมู่ที่ 14 บ้านร่องปอใต้ ต าบลดงเจน อ าเภอ ภูกามยาว จังหวัดพะเยา 1.1 ประวัติโรงเรียนบ้ำนร่องปอ โรงเรียนบ้านร่องปอ เริ่มเปิดเรียนครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2504 โดยอาศัยศาลาวัดร่องปอ เป็นที่เรียน มีพระอธิการสมฐิตปัญโญ เป็นผู้สอน มีนักเรียนทั้งสิ้น 86 คน ต่อมา พ.ศ. 2506 ได้ย้ายมาเรียนอาคาร เรียนชั่วคราว ในปีเดียวกันชาวบ้านได้ร่วมกันสร้างอาคารเรียน แบบ ป.1 ก ขนาด 4 ห้องเรียน พ.ศ. 2517 ได้รับงบประมาณจากทางราชการ จ านวน 25,000 บาท สร้างบ้านพักครูแบบกรมสามัญขึ้น 1 หลัง พ.ศ. 2522 ได้รับงบประมาณ สร้างอาคารเรียน แบบ พย.01 ขนาด 4 ห้องเรียน พร้อมโต๊ะนักเรียน 60 ชุด พ.ศ. 2524 ได้รับงบประมาณจ านวน 172,000 บาท สร้างบ้านพักครู พย.06 จ านวน 1 หลัง พ.ศ. 2526 ได้รับงบประมาณจ านวน 44,000 บาท สร้างส้วมนักเรียนแบบ สปช.601/2526 ขนาด 4 ที่นั่ง พ.ศ. 2527 ได้รับงบประมาณจ านวน 30,000 บาท สร้างถังเก็บน้ าฝนแบบ ฝ.30 พิเศษ จ านวน 4 ถัง พ.ศ. 2528 ได้รับงบประมาณจ านวน 420,000 บาท สร้างอาคารเรียน แบบ สปช.102/2526 ขนาด 3 ห้องเรียน และในปีเดียวกันได้รับงบประมาณจ านวน 200,000 บาท สร้างอาคารเอนกประสงค์ แบบ สปช. 202/2526 ขนาด 10x20 เมตร จ านวน 1 หลัง พ.ศ. 2531 ได้รับงบประมาณจ านวน 36,000 บาท สร้างถังเก็บน้ าฝนแบบ ฝ.30 พิเศษ จ านวน 1 ชุด พ.ศ. 2544 นายจิรวัฒน์ นางพวงเพ็ญ จิรังรักษ์วัฒนา ราษฎรบ้านร่องปอ ได้จัดสร้างห้องสมุดขนาด 7x8 เมตร ให้แก่โรงเรียน ใช้เงินในการก่อสร้าง 100,000 บาท และสร้างส้วมครู 1 หลัง ใช้เงินก่อสร้างจ านวน 30,000 บาท พ.ศ. 2546 ได้รับงบประมาณจ านวน 690,300 บาท สร้างอาคารเรียนแบบ สปช.02/2526 ขนาด 3 ห้องเรียน จ านวน 1 หลัง ปัจจุบันโรงเรียนบ้านร่องปอ เปิดการสอนระดับก่อนประถมศึกษา ถึงระดับประถมศึกษาปีที่ 6 1.2 สภำพทั่วไป โรงเรียนบ้านร่องปอ อยู่ห่างจากอ าเภอภูกามยาว 10 กิโลเมตร อยู่ห่างจากอ าเภอเมืองพะเยา 22 กิโลเมตร อยู่ห่างจากจังหวัดพะเยา 22 กิโลเมตร สภาพชุมชนรอบบริเวณโรงเรียนมีลักษณะเป็นพื้นที่ราบลุ่ม ทิศเหนือ ติดกับต าบลห้วยแก้ว อ าเภอภูกามยาว ทิศใต้ ติดกับบ้านเจน ต าบลดงเจน อ าเภอภูกามยาว ทิศตะวันออก ติดกับต าบลห้วยแก้ว อ าเภอภูกามยาว ทิศตะวันตกติดกับ ภูเขาป่าสงวนแห่งชาติ ต าบลแม่ปืม อ าเภอเมือง จังหวัดพะเยา ประชากรในเขตพื้นที่บริการมี 2 หมู่บ้านได้แก่ หมู่ 7 บ้านร่องปอ มี 221 ครัวเรือน

2 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 ประชากรชาย 281 คน ประชากรหญิง 293 คน รวม 574 คน หมู่ 14 บ้านร่องปอใต้ มี 181 ครัวเรือน ประชากร ชาย 257 คน ประชากรหญิง 250 คน รวม 507 คน รวมประชากรในเขตบริการทั้งสิ้น 1,081 คน ประชากรส่วน ใหญ่เป็นชาวพื้นเมือง นับถือศาสนาพุทธ ประกอบอาชีพ เกษตรกรรม มีฐานะทางเศรษฐกิจระดับปานกลาง ผู้ปกครองนักเรียนส่วนใหญ่จบการศึกษาในระดับประถมศึกษา มีวิถีชีวิตร่วมกันในชุมชนอย่างสงบสุข มีความ ผูกพันกันแบบเครือญาติ มีความเป็นอยู่เรียบง่าย มีความรักสามัคคีในหมู่คณะ เป็นชุมชนที่เข้มแข็ง และร่วมกัน สืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามตามวิถีของชนชาวพื้นเมือง 1.3 ตรำประจ ำโรงเรียน ตรา สพฐ. ล้อมรอบด้วยข้อความ โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 1.4 สีประจ ำโรงเรียน ฟ้า-ชมพู 1.5 อักษรย่อของโรงเรียน ร.ป. 2. ข้อมูลผู้บริหำร ชื่อ - สกุล ผู้บริหาร นางเบญยวรรณ์ ก๋าซ้อน วุฒิการศึกษาสูงสุด ปริญญาโท การศึกษามหาบัณฑิต สาขา การบริหารการศึกษา โทรศัพท์โทรศัพท์ 080-5174442 e - mail : [email protected] ด ารงต าแหน่งในโรงเรียนนี้ ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2559 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 5 ปี5 เดือน

3 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 3. ข้อมูลนักเรียน ปัจจุบันโรงเรียนมีข้อมูลเกี่ยวกับจ านวนนักเรียนดังนี้ ตำรำงที่ 1 แสดงข้อมูลจ านวนนักเรียน ประจ าปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ ชั้นอนุบำล ชั้นประถมศึกษำปีที่ 1 -6 รวมจ ำนวนนักเรียนทั้งสิ้น 45 คน 4. ข้อมูลครูและบุคลำกร ตำรำงที่ 2 แสดงข้อมูลครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนบ้านร่องปอ ประจ าปีการศึกษา 2564 ที่ ชื่อ-สกุล ต ำแหน่ง ระดับ วุฒิกำรศึกษำ ป.ตรี /ป.โท 1 นางเบญยวรรณ์ ก๋าซ้อน ผู้อ านวยการสถานศึกษา คศ. 2 วท.บ./ศษ.ม. 2 ว่าที่ ร.ต. ศักดิ์ กาติ๊บ ครูช านาญการพิเศษ คศ. 3 ศษ.บ. 3 นางสาวนันท์นภัส ภาชนะ ครู คศ. 1 ศษ.บ. 4 นางสาวแสงดาว ศรีกุลณะรุ่งเรือง ครู คศ. 1 ศษ.บ. 5 นางสาวขนิษฐา ขัติธิ ครูผู้ช่วย - ศษ.บ. 6 นางสาวเสาวณิต อินต๊ะ ครูอัตราจ้าง - ศศ.บ. 7 นางสาวชไมพร เชียงมูล พี่เลี้ยงเด็กพิการ - ศศ.บ. 8 ว่าที่ ร.ต. หญิงสุกัญญา ดวงเงิน เจ้าหน้าที่ธุรการ - วท.บ. 9 นายสมเดช ชอบจิต นักการภารโรง - ป. 6 ระดับชั้น จ ำนวนนักเรียน รวม ชำย หญิง อนุบาล 2 5 4 9 อนุบาล 3 2 2 4 รวม 7 6 13 ระดับชั้น จ ำนวนนักเรียน รวม ชำย หญิง ป. 1 - - - ป. 2 5 2 7 ป. 3 3 4 7 ป. 4 2 6 8 ป. 5 5 3 8 ป. 6 2 1 3 รวมทั้งสิ้น 17 16 33

4 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 5. แหล่งเรียนรู้ ปัจจุบันโรงเรียนมีอาคาร 3 หลัง อาคารประกอบ 2 หลัง รวมจ านวนห้องเรียนทั้งหมด 7 ห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ 2 ห้องเรียน ห้องพิเศษต่างๆ เช่น ห้องสมุด 1 ห้องเรียน ห้องคอมพิวเตอร์ 1 ห้องเรียน โรงเรียนมีคอมพิวเตอร์ให้นักเรียนใช้เรียน จ านวน 10 เครื่อง และมีแหล่งเรียนรู้ภายในและภายนอก โรงเรียน ตำรำงที่ 3 แสดงจ านวนแหล่งเรียนรู้ และสถิติการใช้ แหล่งเรียนรู้ภำยใน สถิติกำรใช้ ครั้ง/ปี แหล่งเรียนรู้ภำยนอก สถิติกำรใช้ ครั้ง/ปี 1. ห้องสมุด 2. ห้องคอมพิวเตอร์ 3. แปลงเกษตร 100/ปี 100/ปี 100/ปี 1. วัดร่องปอ 2. ดงพระเจ้า 3. อ่างเก็บน้ าร่องปอ 4. ป่าชุมชนร่องปอ 5. ม่อนผาขัน 6. วัดพระเจ้าตนหลวง 7. สถานีประมงพะเยา 12/ปี 2/ปี 2/ปี 4/ปี 1/ปี 1/ปี 1/ปี 6. ภูมิปัญญำท้องถิ่น ปราชญ์ชาวบ้าน/ภูมิปัญญาท้องถิ่น ผู้ทรงคุณวุฒิที่สถานศึกษาเชิญมาให้ความรู้แก่ครูนักเรียน ใน ปีการศึกษา 2564 6.1 ชื่อ-สกุล นายค ามี ดวงเงิน ให้ความรู้เรื่อง การเล่นดนตรีพื้นบ้านภาคเหนือ ซึง สถิติการให้ความรู้ ในโรงเรียนแห่งนี้จ านวน 2 ครั้ง/ปี 6.2 ชื่อ-สกุล นางค าป้อ ปิดตาฝ้าย ให้ความรู้เรื่อง การเย็บผ้าด้วยมือ เย็บกระเป๋า สถิติการให้ความรู้ใน โรงเรียนแห่งนี้จ านวน 2 ครั้ง/ปี 6.3 ชื่อ-สกุล นายค าปัน รินฟอง ให้ความรู้เรื่อง จักสานไม้ไผ่ สถิติการให้ความรู้ในโรงเรียนแห่งนี้ จ านวน 2 ครั้ง/ปี 6.4 ชื่อ-สกุล พระกิตตชัยกิตติเมธี (สีวิไชย) เจ้าอาวาสวัดร่องปอ ให้ความรู้เรื่อง คุณธรรม จริยธรรม ที่ดีงาม สถิติการให้ความรู้ในโรงเรียนแห่งนี้จ านวน 10 ครั้ง/ปี 6.5 ชื่อ-สกุล นางพุธ สอนใจ ให้ความรู้เรื่อง การทอผ้า สถิติการให้ความรู้ในโรงเรียนแห่งนี้จ านวน 2 ครั้ง/ปี 6.6 ชื่อ-สกุล นายอาทิตย์ ดวงตา ให้ความรู้เรื่อง การท าเกษตรพอเพียง สถิติการให้ความรู้ในโรงเรียน แห่งนี้จ านวน 2 ครั้ง/ปี

5 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 7. ผลงำนดีเด่นในรอบปีกำรศึกษำ 2564 ตำรำงที่ 4 ผลงานดีเด่นของโรงเรียนบ้านร่องปอ ในรอบปีการศึกษา 2564 ประเภท ระดับรำงวัล/ชื่อรำงวัลที่ได้รับ หน่วยงำนที่มอบรำงวัล สถานศึกษา ตราพระราชทานบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย สพฐ. โรงเรียนคุณธรรม สพฐ. ระดับ 2 ดาว สพป. พะเยา เขต 1 ผลการปฏิบัติงานที่เป็นเลิศ (Best Practice) ประเภท โรงเรียนสุจริต สพป. พะเยา เขต 1 รางวัลโครงการส่งเสริมกิจกรรมสหกรณ์ในสถานศึกษา ระดับดีเยี่ยม สหกรณ์ออมทรัพย์ครู พะเยา จ ากัด ผู้บริหาร นางเบญยวรรณ์ ก๋าซ้อน รางวัลทรงคุณค่า สพฐ. (OBEC AWARDS) รองชนะเลิศระดับเหรียญทอง ผู้อ านวยการ สถานศึกษายอดเยี่ยมระดับประถมศึกษาขนาดเล็ก ด้านวิชาการ สพฐ. นางเบญยวรรณ์ ก๋าซ้อน ผลการปฏิบัติงานที่เป็นเลิศ (Best Practice) ประเภท โรงเรียนสุจริต สพป. พะเยา เขต 1 นางเบญยวรรณ์ ก๋าซ้อน รางวัลคุรุชนคนคุณธรรม สพป. พะเยา เขต 1 นางเบญยวรรณ์ ก๋าซ้อน รางวัลเพชรน้ าหนึ่ง สพป. พะเยา เขต 1 ครู ว่าที่ร้อยตรีศักดิ์ กาติ๊บ รางวัลคุรุชนคนคุณธรรม สพป. พะเยา เขต 1 ครู นางสาวนันท์นภัส ภาชนะ รางวัลคุรุชนคนคุณธรรม สพป. พะเยา เขต 1 นางสาวแสงดาว ศรีกุลณะรุ่งเรือง รางวัลคุรุชนคนคุณธรรม สพป. พะเยา เขต 1 นักเรียน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 รางวัลเหรียญทองแดง การแข่งขันห้องเรียน ลายมือสวย ประจ าปี 2564 สพป. พะเยา เขต 1 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 รางวัลเหรียญเงิน การแข่งขันห้องเรียน ลายมือสวย ประจ าปี 2564 สพป. พะเยา เขต 1 ล าดับที่ 4 กิจกรรมบริษัทสร้างการดีวิถีพอเพียง โรงเรียนสุจริต ระดับดีเยี่ยม สพป. พะเยา เขต 1

6 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 1. งำน/โครงกำร/กิจกรรมส่งเสริมด้ำนกำรจัดกำรศึกษำระดับปฐมวัย ในรอบปีกำรศึกษำ 2563 มำตรฐำนด้ำนคุณภำพผู้เรียน 8.1 ด้ำนร่ำงกำย ที่ ชื่องำน / โครงกำร / กิจกรรม กิจกรรม / กำรด ำเนินงำน 1 มฐ.ที่ 1 โครงการส่งเสริมให้เด็ก มีพัฒนาการ ด้านร่างกาย 1. โครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ 2. โครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาวะใน โรงเรียนด้วยกระบวนการคุณธรรม จริยธรรม 3. กิจกรรมความปลอดภัยในวัยเด็ก 4. กิจกรรมรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด โรงเรียนมีการจัดโครงการส่งเสริมให้เด็ก มีพัฒนาการด้านร่างกาย โดยครูประจ าชั้น มีบันทึกการตรวจสุขภาพของเด็ก การชั่งน้ าหนัก การวัดส่วนสูง อย่างสม่ าเสมอ และน าข้อมูลมา วิเคราะห์พัฒนาการว่าเจริญ เติบโตสมวัย และมี น้ าหนัก ส่วนสูง เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน ส่งเสริมให้เด็กรู้จักเลือกรับประทานอาหารที่มี ประโยชน์ การรับประทานอาหารเสริม (นม) มีสุขนิสัยที่ดีในการดูแลสุขภาพของตน การแปรง ฟันหลังอาหารกลางวัน ล้างมือหลังเข้าห้องน้ าอีก ทั้งโรงเรียนจัดประสบการณ์ในลักษณะบูรณา การตามหน่วยการเรียน กิจกรรมเคลื่อนไหวและ จังหวะ กิจกรรมกลางแจ้ง กิจกรรมตามตาราง กิจกรรมประจ าวัน กิจกรรมกายบริหารเพื่อออก ก าลังตอนเช้า การเข้าร่วมแข่งขันกีฬานักเรียน ของกลุ่มโรงเรียนภูกามยาว ประจ าปีการศึกษา 2563 เพื่อส่งเสริมให้เด็กมีร่างกายที่สมบูรณ์ แข็งแรงตามวัย หลีกเลี่ยงต่อสภาวะที่เสี่ยงต่อ โรค อุบัติเหตุ ภัยและสิ่งเสพติด และพัฒนาการ ทางด้าน ร่างกายที่สมวัย

7 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 8.2 ด้ำนอำรมณ์– จิตใจ ที่ ชื่องำน / โครงกำร / กิจกรรม กิจกรรม / กำรด ำเนินงำน 2 มฐ.ที่ 2 โครงการส่งเสริมให้ เด็กมีพัฒนาการ ด้าน อารมณ์ และจิตใจ 1. กิจกรรมส่งเสริมความคิด และ จินตนาการ 2. กิจกรรม หนูน้อยจิต อาสา 3. กิจกรรม ไหว้สวย รวยน้ าใจ พูดไพเราะ โรงเรียนมีการจัดโครงการส่งเสริมให้เด็ก มีพัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจ มีความสนใจ ด้ านศิลป ะ ด้ าน ดน ต รี ต าม วิสัยทั ศน์ ของ โรงเรียน ส่งเสริมให้เด็กมีพฤติกรรมมั่นใจใน ตนเอง กล้าแสดงออกในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ เหม าะสมกับ วัย แล ะเปิดโอก าสให้เด็กได้ แสดงออกในการร้องเพลง การแสดงบนเวที การจัด ประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ ด้ านศิลป ะ ดนต รีและกีฬ า โดยก ารจัดมุม ประสบการณ์ในห้องเรียน เพื่อให้เด็กปฏิบัติ กิจกรรมทุกวันอย่างอิสระ และจัดที่ติดแสดง ผลงานทั้งในและนอกชั้นเรียนให้กับผู้ปกครอง หรือบุคคลทั่วไปได้ชื่นชมผลงาน ส่งเสริมให้เด็ก ได้งานกลุ่มร่วมกับผู้อื่น และพัฒนาการด้าน อารมณ์และจิตใจที่เหมาะสมกับวัย

8 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 8.3 ด้ำนสังคม ที่ ชื่องำน / โครงกำร / กิจกรรม กิจกรรม / กำรด ำเนินงำน 3 มฐ.ที่ 3 โครงการส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการ ด้านสังคม 1. กิจกรรมส่งเสริมค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ 2. กิจกรรมสวดมนต์ก่อนนอน 3. กิจกรรมวันส าคัญ 4. กิจกรรมกลุ่ม 5. กิจกกรมไหว้สวย รวยน้ าใจ พูดไพเราะ โรงเรียนมีการจัดโครงการส่งเสริมให้เด็ก มีพัฒนาการด้านสังคม มีการจัดกิจกรรมส่งเสริม ค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ กิจกรรม เสริมประสบการณ์ที่เน้นการบูรณาการ เพื่อ ส่งเสริมให้เด็กได้ท างานกลุ่ม มีการยอมรับฟัง ความคิดเห็นของผู้อื่น กิจกรรมตอนเช้า เคารพ ธงชาติ สวดมนต์ไหว้พระ การแสดงความเคารพ เมื่อพบผู้ใหญ่หรือครูในโรงเรียน และกิจกรรมยิ้ม ไหว้ทักทายและให้เกียรติกันด้วยการไหว้รุ่นพี่ที่ หน้าเสาธงทุกวัน ฝึกให้นักเรียนมีระเบียบวินัย โดยจัดวางรองเท้าไว้บนชั้นวางรองเท้า ก่อนเข้า ห้องเรียน การเข้าแถวส่งงาน เข้าแถวรับประทาน อาหาร การขออนุญาตไปเข้าห้องน้ าการกล่าว ขอบคุณ และขอโทษ การเสริมแรงทางบวก การให้รางวัล การชมเชย เช่น การคัดแยกขยะ ก่อนน าไปทิ้งลงถังขยะ การจัดเก็บสิ่งของเข้าที่ และการจัดกิจกรรมวันส าคัญ เพื่อเป็นการระลึก ถึงความส าคัญของวันนั้นๆ ตามแผนการจัด ประสบการณ์ระดับปฐมวัย และตามแผนงาน และโครงการวันส าคัญของโรงเรียน เพื่อให้เด็กมี ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ ที่จัด เพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนให้เด็กได้ตระหนัก และ ระลึกถึงเหตุการณ์ส าคัญในวันนั้นด้วยความ ภาคภูมิใจ เพื่อเป็นแบบอย่างในการประพฤติ ปฏิบัติที่ดีงามสืบทอดต่อกันมา

9 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 8.4 ด้ำนสติปัญญำ ที่ ชื่องำน / โครงกำร / กิจกรรม กิจกรรม / กำรด ำเนินงำน 4 มฐ.ที่ 4 โครงการส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการ ด้านสติปัญญา โครงการศึกษาแหล่งเรียนรู้ ระดับปฐมวัย 1. กิจกรรมโครงงานระดับปฐมวัย 2. กิจกรรมพัฒนาทักษะกระบวนการเรียนรู้ ปฐมวัย 3. กิจกรรมส่งเสริมรักการอ่าน 4. กิจกรรมเรียนรู้ค าพื้นฐาน พัฒนาการด้าน ภาษา โรงเรียนมีการจัดโครงการส่งเสริมให้เด็กมี พัฒนาการด้านสติปัญญา พัฒนาทักษะการคิด ความสามารถในการคิดรวบยอด คิดแก้ปัญหา คิด ริเริ่มสร้างสรรค์ รู้จักการแก้ปัญหาต่างๆ โดย จัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการตามหน่วย การจัดกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ตาม โครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยประเทศไทย การท าโครงงานตามรูปแบบวัฏจักรสืบเสาะของ เด็กปฐมวัย กิจกรรมส่งเสริมคณิตศาสตร์และ ภาษา โดยการจัดท าแบบฝึกเสริมประสบการณ์ และส่งเสริมให้เด็กได้น าเสนอผลงานของตนผ่าน การสื่อสาร การเล่าเรื่อง โรงเรียนจัดหาและผลิต เกมการศึกษา สื่อ จัดมุมประสบการณ์ให้เด็กได้ เล่นเสรี และเล่นร่วมกับผู้อื่น รวมถึงการจัด กิจกรรมทัศนศึกษานอกสถานที่ ทั้งแหล่งเรียนรู้ ใน ชุมชน และแหล่งเรียนรู้ภายนอก เพื่อให้เด็ก ได้ เรียนรู้จากสถานที่จริง และเกิดการเรียนรู้ด้วย ตนเอง จัดกิจกรรมอ่านค าพื้นฐานในช่วงตอนเช้า ทุกๆ เช้า

10 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 8.5 อื่นๆ มำตรฐำนด้ำนกำรจัดกำรศึกษำ ที่ ชื่องำน / โครงกำร / กิจกรรม กิจกรรม / กำรด ำเนินงำน 5 มฐ.ที่ 5 โครงการส่งเสริมให้ครูปฏิบัติงานตาม บทบาทหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพและเกิด ประสิทธิผล 1.จัดท าแผนจัดประสบการณ์ 2. การวิเคราะห์เรียนรายบุคคล 3. การจัดท าสื่อปฐมวัย 4. การประเมินพัฒนาการของเด็ก 5. การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของเด็ก ปฐมวัย 5. สารนิทัศน์สานสัมพันธ์ มฐ.ที่ 7 โครงการส่งเสริมให้ครูมีแนวการจัด การศึกษาระดับปฐมวัย 1. การจัดท าหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย 2. การวิเคราะห์หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย 3. การจัดท าแผนการจัดประสบการณ์ 4. การจัดสภาพแวดล้อมที่ดี มฐ.ที่ 8 โครงการส่งเสริมการประกันคุณภาพ ภายในของสถานศึกษาระดับปฐมวัย 1. การประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา 2. การจัดท าข้อมูลสารสนเทศ 3. การรายงานผลการประเมินคุณภาพภายใน ของสถานศึกษา โรงเรียนได้วิเคราะห์หลักสูตร จัดท า แฟ้มข้อมูลเด็กเป็นรายบุคคล จัดท าแผนการจัด ประสบการณ์การเรียนรู้ การผลิตสื่อการเรียน การสอน นิเทศการสอน วิจัยในชั้นเรียน อบรม ศึกษาดูงาน การจัดห้องเรียนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ จัดท าวารสารประชาสัมพันธ์ ผู้บริหารได้ปฏิบัติงาน ตามบทบาทหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพและเกิด ประสิทธิผล โดยกระบวนการประชุมการมีส่วนร่วม ของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ชุมชน และคณะครูมีความตระหนักและก าหนดวิสัยทัศน์ ปรัชญา พันธกิจ เป้าหมาย แผนพัฒนาการศึกษา และมาตรการต่างๆ ของโรงเรียนเพื่อเป็นแนวทาง ในการบริหารจัดการปฐมวัย รายงานผลพัฒนา การศึกษาประจ าปี (SAR) สู่สาธารณชน จัดประชุม ผู้ปกครองทุกภาคเรียน พัฒนาวิธีการจัดการเรียนรู้ โด ย จัดให้ ค รูศึ กษ าห ลั ก สู ต รแ ล ะออก แบ บ การจัดการเรียนรู้โดยใช้หลักการและธรรมชาติของ การจัดการศึกษาปฐมวัยและประยุกต์ใช้พร้อมทั้ง จัดท าแผนการจัดประสบการณ์ จัดชั้นเรียนที่สร้าง วินัยเชิงบวก ใช้สื่อเทคโนโลยีที่เหมาะสม วัดและ ประเมินผลด้วย วิธีการที่หลากหลายและ สรุปผล รายงานให้ผู้ปกครองทราบ จัดโครงการปรับ สภาพแวดล้อมเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย สถานศึกษามีการประกันคุณภาพภายในของ สถานศึกษาตามที่ก าหนดในกฎกระทรวงโดยมี การก าหนดมาตรฐานการศึกษาปฐมวัย จัดท าและ ด าเนินการตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษาปฐมวัย

11 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 มำตรฐำนด้ำนกำรสร้ำงสังคมแห่งกำรเรียนรู้ ที่ ชื่องำน / โครงกำร / กิจกรรม กิจกรรม / กำรด ำเนินงำน 6 มฐ.ที่ 9 โครงการส่งเสริมให้สถานศึกษา เป็น สังคมแห่งการเรียนรู้ 1. กิ จ ก ร ร ม ศึ ก ษ า แ ห ล่งเรี ย น รู้ใน สถานศึกษา 2. กิจกรรมการจัดท าวารสารสายใย สัมพันธ์ครู โรงเรียน ถึงผู้ปกครอง คณ ะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ชุมชน ผู้บริหารโรงเรียนและคณะครูมีความตระหนักและ มีส่วน ร่วมในการก าหนดวิสัยทัศน์ ปรัชญา พันธกิจ เป้าหมาย แผนพัฒนาการศึกษาและมาตรการต่างๆ ของโรงเรียน เพื่อให้สถานศึกษาเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้โดยจัดให้ สถานศึกษาเป็นแหล่งเรียนรู้ในการพัฒนาการเรียนรู้ของ เด็ก โรงเรียนมีการส่งเสริมและสนับสนุน ให้สถานศึกษา เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ โดยด าเนินการสร้างและพัฒนา แหล่งเรียนรู้ภายในเพื่อเอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็ก ส่งเสริม ให้เด็กเรียนรู้ด้วยตนเอง สามารถน า ความรู้มาใช้ ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสม มีการ พัฒนาห้องเรียนและ ห้องปฏิบัติก ารต่ างๆ มี คอมพิ วเตอร์แล ะ อินเตอร์เน็ตให้เพียงพอพร้อมใช้งานต่อการสืบค้นหา ข้อมูลของเด็กและครู จัดแหล่งเรียนรู้ที่น้อมน าหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ เช่น โรงเลี้ยงไก่ไข่ แปลงเกษตร การปลูกผักสวนครัวหน้าห้องอาคารเรียน อีกทั้งโรงเรียนยัง สนับสนุนการใช้ประโยชน์จากแหล่ง เรียน รู้ ทั้งภ ายใน แล ะภ ายน อกสถ านศึกษ า เพื่ อ พัฒนาการ เรียนรู้ของเด็กและบุคลากรของสถานศึกษา โดยมี การวิเคราะห์ข้อมูลแหล่งเรียนรู้ต่างๆ และจัด กิจกรรมทัศนศึกษาให้เด็กได้ใช้แหล่งเรียนรู้ ภายนอก

12 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 มำตรฐำนด้ำนอัตลักษณ์ของสถำนศึกษำ ที่ ชื่องำน / โครงกำร / กิจกรรม กิจกรรม / กำรด ำเนินงำน 7 มฐ. 10 โครงการนักวิทยาศาสตร์น้อย 1. การจัดท าแผนการจัดประสบการณ์ 2. การจัดเตรียมสื่อในการปฏิบัติกิจกรรม 3. จัดกิจกรรมการเรียนรู้โครงการบ้าน นักวิทยาศาสตร์น้อย โรงเรียนมีการจัดโครงการส่งเสริมให้เด็ก มี พัฒนาการด้านสติปัญญา พัฒนาทักษะการคิด ความสามารถในการคิดรวบยอด คิดแก้ปัญหา คิดริเริ่มสร้างสรรค์ รู้จักการแก้ปัญหาต่างๆ โดย จัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการตามหน่วย การจัดกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ตาม โครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยประเทศไทย และการท าโครงงานตามรูปแบบวัฏจักรสืบเสาะ ของเด็กปฐมวัย มำตรฐำนด้ำนมำตรกำรส่งเสริม ที่ ชื่องำน / โครงกำร / กิจกรรม กิจกรรม / กำรด ำเนินงำน 8 มฐ.ที่ 11 โครงการอยู่อย่างพอเพียง 1. กิจกรรมออมทรัพย์ออมความดี 2. จัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ชุมชน ผู้บริหารโรงเรียนและคณะครูมีความ ตระหนักและ มีส่วนร่วมในการก าหนดวิสัยทัศน์ ปรัชญา พันธกิจ เป้าหมาย แผนพัฒนาการศึกษา และมาตรการต่างๆ ของโรงเรียนเพื่อให้มีการ พัฒนาสถานศึกษาตามนโยบายและแนวทาง ปฏิรูปการศึกษาโดย จัดท าโครงการและกิจกรรม ส่งเสริมสนับสนุน ให้ความรู้เกี่ยวกับหลัก ปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง และจัดกิจกรรม การออม ทรัพย์ โดยให้เด็กเรียนรู้เกี่ยวกับ หลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง และปฏิบัติ กิจกรรมด้วย ตนเอง และท าให้เด็กเกิดความคิดรวบยอดใน การเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง คือกิจกรรมดังนี้ ก า รป ลู กผั ก ก า ร รับ ป ระท าน อ าห า ร ที่ มี ประโยชน์การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การคัดแยก ขยะก่อนทิ้ง การเก็บใบไม้เพื่อท าปุ๋ยหมัก การใช้ ของใช้ส่วนตัว และอุปกรณ์การเรียน อย่าง ประหยัด

13 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 บทที่ 2 วิธีกำรบริหำรจัดกำรหลักสูตรของสถำนศึกษำ กำรบริหำรจัดกำรหลักสูตรสถำนศึกษำระดับขั้นพื้นฐำน 1. คณะกรรมกำรบริหำรหลักสูตรและงำนวิชำกำรของสถำนศึกษำ มีดังนี้ ที่ ชื่อ – สกุล ต าแหน่ง 1 นางเบญยวรรณ์ ก๋าซ้อน ผู้อ านวยการโรงเรียนบ้านร่องปอ 2 นายอินสอน ไชยองค์การ ประธานกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 3 นางสาวนันท์นภัส ภาชนะ ครูผู้สอนระดับประถมศึกษาโรงเรียนบ้านร่องปอ 4 ว่าที่ร้อยตรีหญิงสุกัญญา ดวงเงิน ประธานคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองระดับปฐมวัย 2. ข้อมูลจำกแหล่งต่ำงๆ เพื่อวิเครำะห์สภำพ ปัญหำ จุดเน้น ควำมต้องกำรของชุมชนและ สถำนศึกษำ 2.1 วิธีกำรวิเครำะห์และ แหล่งข้อมูล 2.1.1 ด้านคุณภาพผู้เรียน ส่งเสริมให้เด็กมีสุขนิสัยในการดูแลสุขภาพตนเอง ส่งเสริมให้มี ความคิด รวบยอดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดจากประสบการณ์การเรียนรู้ และเด็กบางส่วนยังไม่มีความพร้อม ด้านทักษะทาง ภาษาที่เหมาะสมกับวัย 2.1.2 ด้านการจัดการศึกษา ครูควรมีการวัดผลประเมินผลด้วยวิธีการที่หลากหลายตาม สภาพจริง และบันทึกพฤติกรรมเด็กเป็นรายบุคคล ให้สอดคล้องกับพัฒนาการเด็กแต่ละบุคคล มีสิ่งอ านวย ความสะดวกเพื่อ พัฒนาเด็กอย่างรอบด้านไม่เพียงพอ ส่งเสริมการน าสื่อเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการจัดการ เรียนการสอนให้มากขึ้น 2.1.3 ด้านการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ควรมีการปรับปรุงสภาพแวดล้อม จัดปรับปรุง ซ่อมแซม อาคารเรียนอนุบาล ห้องศูนย์สื่อ ห้องสมุด มุมประสบการณ์ต่างให้ห้องเรียน สนามเด็กเล่น ให้เอื้อต่อการเรียนรู้ และแหล่งเรียนรู้ตลอดจนเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้เหมาะสมกับการเรียนรู้ 2.1.4 ด้านอัตลักษณ์ของสถานศึกษาการปลูกฝังให้นักเรียนมีระเบียบวินัย และได้เรียนรู้หลัก ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง และสามารถน าประสบการณ์ไปใช้ในชีวิตประจ านของตนเองได้ 2.1.5 ด้านมาตรการส่งเสริม ควรจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนที่ส่งเสริมความสามารถ ความถนัด ความ สนใจของผู้เรียนอย่างหลากหลาย 2.1.6 ด้านความเป็นท้องถิ่นระดับอ าเภอภูกามยาว และจังหวัดพะเยา การปลูกฝังให้และฝึกให้เด็กมี ส านึกรัก บ้านเกิดร่วมกิจกรรมประเพณีวัฒนธรรมในท้องถิ่น และรู้จักอนุรักษ์แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น 2.2 ผลสรุปกำรวิเครำะห์เพื่อได้จุดเน้นและควำมต้องกำรในกำรจัดท ำหลักสูตรสถำนศึกษำ 2.2.1 ส่งเสริมการน าสื่อเทคโนโลยี นวัตกรรมเข้ามาใช้ในการจัดการเรียนการสอน 2.2.2 ส่งเสริมให้ครูเข้ารับการอบรม/ศึกษา/ดูงาน/เข้าถึงข่าวสาร งานด้านวิชาการ อย่างต่อเนื่อง 2.2.3 ปรับหลักสูตร การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมความสามารถ ความสนใจของ ผู้เรียนอย่าง หลากหลายการปลูกฝังให้นักเรียนได้เรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2.2.4 ฝึกให้ผู้เรียนมีวินัยในตนเอง โดยสถานศึกษาควรจัดโครงการและกิจกรรมที่กระตุ้นให้ผู้เรียน ได้แสดงออกถึงพฤติกรรมดังกล่าวให้ชัดเจน 2.2.5 การสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียนอนุบาล

14 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 2.2.6 ปรับปรุง สนามเด็กเล่น และจัดหาเครื่องเล่นสนามเพิ่มเติม 2.2.7 จัดหาสื่อการเรียนการสอนส าหรับเด็กปฐมวัย 3. องค์ประกอบหลักสูตรสถำนศึกษำปฐมวัย 3.1 ปรัชญาการศึกษาปฐมวัยของโรงเรียน โรงเรียนบ้านร่องปอ ได้จัดการศึกษาระดับปฐมวัย เพื่อมุ่ง พัฒนาเด็กอายุ 4-5 ปี ให้เกิดการ เรียนรู้ ควบคู่คุณธรรม โดยผ่านประสบการณ์ตรงจากแหล่งการเรียนรู้ที่ หลากหลาย ด้วยความรัก เอื้ออาทร ความเข้าใจและส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ ที่สนองต่อ พัฒนาการของเด็กทั้งด้าน ร่างกาย ด้านอารมณ์ จิตใจ ด้านสังคมและด้านสติปัญญา ตามศักยภาพโดย การ ประสานสัมพันธ์ระหว่าง บ้าน โรงเรียนและชุมชน เพื่อให้เด็กพัฒนาไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ เกิดคุณค่าต่อ ตนเองและสังคม 3.2 วิสัยทัศน์พันธกิจ เป้ำหมำย หลักสูตรสถำนศึกษำระดับปฐมวัย 3.2.1 วิสัยทัศน์ภายในปีการศึกษา 2563 โรงเรียนบ้านร่องปอ มุ่งเน้นพัฒนาเด็กอายุ 4-6 ปี ให้มี พัฒนาการ ด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญาเหมาะสมกับวัย เน้นให้เด็กเป็นคนดี มีวินัย และ เรียนรู้ ผ่านการเล่น การลงมือปฏิบัติ มุ่งเน้นให้นักเรียนมีคุณธรรม น าความรู้ สู่เศรษฐกิจพอเพียงและ มี คุณภาพตามาตรฐานเหมาะสมกับวัยและ บริบทของตน โดยผู้ปกครอง ชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาเด็กให้มี พัฒนาการรอบด้านอย่างสมดุล เต็มศักยภาพ มีเจตคติที่ดี สนใจใฝ่รู้ และเรียนรู้อย่างมีความสุข 3.2.2 พันธกิจระดับปฐมวัย โรงเรียนบ้ำนร่องปอ ได้ก าหนดพันธกิจในการพัฒนาเด็ก ดังนี้ 1. พัฒนาเด็กโดยองค์รวมทั้งด้านร่างกาย ด้านอารมณ์ จิตใจ ด้านสังคม และด้าน สติปัญญา 2. จัดประสบการณ์การเรียนรู้ ผ่านการเล่นหรือประสบการณ์ตรงจากแหล่งการเรียนรู้ ที่ หลากหลาย 3. จัดกิจกรรมตามตารางกิจกรรมประจ าวัน โดยน านวัตกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย และ การจัดประสบการณ์แบบโครงการมาใช้ส าหรับเด็กเพื่อส่งเสริมทักษะและพัฒนาการทางด้านต่างๆ 4. จัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยยึดเด็กเป็นส าคัญและบูรณาการกิจกรรมต่างๆ ทั้งใน หลักสูตร และชีวิตจริง เพื่อส่งเสริมพัฒนาการในทุกๆ ด้าน 5. เปิดโอกาสและกระตุ้นให้ผู้ปกครองและชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาเด็ก 6. จัดสภาพแวดล้อมทั้งในและภายนอกห้องเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้แหล่งเรียนรู้ของเด็ก 3.2.3 เป้ำหมำย 1. บุคลากรผู้สอนระดับปฐมวัยมีความรู้ในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ 2. เด็กมีความพร้อมในพัฒนาการครบทุกด้าน เต็มตามศักยภาพ เหมาะสมกับวัย และ เหมาะสมกับความแตกต่างระหว่างบุคคล 3. เด็กมีคุณธรรม จริยธรรม รู้จักช่วยเหลือแบ่งปัน ประหยัดและซื่อสัตย์ และ ด ารงชีวิตโดย ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง 4. ผู้ปกครอง ชุมชน มีส่วนร่วมในการพัฒนา 5. สภาพแวดล้อม บรรยากาศทั้งภายในชั้นเรียนและนอกชั้นเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ 6. เด็กมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 3.2.4 จุดมุ่งหมำย หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย มุ่งให้เด็กมีพัฒนาการตามวัยเต็มตามศักยภาพ และมีความพร้อม ใน การเรียนรู้ต่อไป จึงก าหนดจุดหมายเพื่อให้เกิดกับเด็กเมื่อเด็กจบการศึกษาระดับปฐมวัย ดังนี้ 1. ร่างกายเจริญเติบโตตามวัย แข็งแรง และมีสุขนิสัยที่ดี

15 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 2. สุขภาพจิตดี มีสุนทรียภาพ มีคุณธรรม จริยธรรมและจิตใจที่ดีงาม 3. มีทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีวินัย และอยู่ร่วมกับ ผู้อื่นได้อย่างมีความสุข 4. มีทักษะการคิด การใช้ภาษาสื่อสาร และการแสวงหาความรู้ได้เหมาะสมกับวัย 3.2.5 มำตรฐำนคุณลักษณะที่พึงประสงค์ หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยก าหนดมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์จ านวน 12 มาตรฐาน ประกอบด้วย 1. พัฒนำกำรด้ำนร่ำงกำย ประกอบด้วย 2 มำตรฐำนคือ มาตรฐานที่ 1 ร่างกายเจริญเติบโตตามวัยและมีสุขนิสัยที่ดี มาตรฐานที่ 2 กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กแข็งแรงใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว และประสาน สัมพันธ์กัน 2. พัฒนำกำรด้ำนอำรมณ์ จิตใจ ประกอบด้วย 3 มำตรฐำนคือ มาตรฐานที่ 3 มีสุขภาพจิตดีและมีความสุข มาตรฐานที่ 4 ชื่นชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี และการเคลื่อนไหว มาตรฐานที่ 5 มีคุณธรรม จริยธรรม และมีจิตใจที่ดีงาม 3. พัฒนำกำรด้ำนสังคม ประกอบด้วย 3 มำตรฐำนคือ มาตรฐานที่ 6 มีทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาตรฐานที่ 7 รักธรรมชาติสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และความเป็นไทย มาตรฐานที่ 8 อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขและปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม ในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 4. พัฒนำกำรด้ำนสติปัญญำ ประกอบด้วย 4 มำตรฐำนคือ มาตรฐานที่ 9 ใช้ภาษาสื่อสารได้เหมาะสมกับวัย มาตรฐานที่ 10 มีความสามารถในการคิดที่เป็นพื้นฐานการเรียนรู้ มาตรฐานที่ 11 มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ มาตรฐานที่ 12 มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้และมีความสามารถในการแสวงหาความรู้ได้ เหมาะสม กับวัย 3.2.6 ระยะเวลำเรียน หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยก าหนดกรอบโครงสร้างเวลาในการจัดประสบการณ์ให้กับเด็ก 1-2 ปีการศึกษา โดยประมาณ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับอายุของเด็กที่เริ่มเข้าสถานศึกษาหรือสถาบันพัฒนาเด็ก ปฐมวัย เวลาเรียนส าหรับ เด็กปฐมวัยขึ้นอยู่กับสถานศึกษาแต่ละแห่ง โดยมีเวลาเรียนไม่น้อยกว่า 180 วัน ต่อ 1 ปีการศึกษา ในแต่ละวันจะ ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 5 ชั่วโมง โดยสามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมตาม บริบทของสถานศึกษาและสถาบันพัฒนา เด็กปฐมวัย

16 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 โรงเรียนบ้านร่องปอ จัดเวลาเรียนส าหรับเด็กปฐมวัยเป็น 2 ภาคเรียนๆ ละ 100 วัน ในแต่ละวันจะใช้ เวลาเรียนประมาณ 5 - 6 ชั่วโมง ในหนึ่งปีการศึกษาก าหนดเวลาเรียน 2 ภาคเรียน ดังนี้ ภำคเรียนที่ 1 วันเปิดภาคเรียน วันที่ 17 พฤษภาคม 2564 ถึง วันที่ 8 ตุลาคม 2564 วันปิดภาคเรียน วันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ถึง วันที่ 31 ตุลาคม 2564 ภำคเรียนที่ 2 วันเปิดภาคเรียน วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ถึง วันที่ 31 มีนาคม 2565 วันปิดภาคเรียน วันที่ 1 เมษายน 2565 ถึง วันที่ 16 พฤษภาคม 2565 หมำยเหตุ เปิดท าการสอน สัปดาห์ละ 5 วัน คือ วันจันทร์ ถึง วันศุกร์ เวลา 08.30 น. - 15.30 น. (หยุดวันเสาร์, อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) 3.2.7 สำระกำรเรียนรู้รำยปี สาระการเรียนรู้ใช้เป็นสื่อกลางในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้กับเด็กเพื่อส่งเสริมพัฒนาการ ทุกด้าน ให้เป็นไปตามจุดหมายของหลักสูตรที่ก าหนด ประกอบด้วย ประสบการณ์ส าคัญและสาระที่ควร เรียนรู้ ดังนี้ สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้เป็นสื่อกลางในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้กับเด็ก เพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็ก ทุกด้าน ให้เป็นไปตามจุดหมายของหลักสูตรที่ก าหนด ประกอบด้วย ประสบการณ์ส าคัญ และสาระที่ควรเรียนรู้ ดังนี้ 1. ประสบการณ์ส าคัญ ประสบการณ์ส าคัญเป็นแนวทางส าหรับผู้สอนน าไปใช้ในการออกแบบ การ จัดประสบการณ์ให้เด็กปฐมวัยเรียนรู้ ลงมือปฏิบัติ และได้รับการส่งเสริมพัฒนาการครอบคลุมทุก ด้าน ดังนี้ 1.1 ประสบการณ์ส าคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย เป็นการสนับสนุนให้เด็กได้มี โอกาสพัฒนาการใช้กล้ามเนื้อใหญ่ กล้ามเนื้อเล็ก และการประสานสัมพันธ์ระหว่างกล้ามเนื้อและระบบ ประสาท ในการท ากิจวัตรประจ าวันหรือท ากิจกรรมต่างๆ และสนับสนุนให้เด็กมีโอกาสดูแลสุขภาพและ สุขอนามัย สุขนิสัย และการรักษาความปลอดภัย ดังนี้ ด้ำนร่ำงกำย ประสบกำรณ์ส ำคัญ 1.1.1 การใช้กล้ามเนื้อใหญ่ (1) การเคลื่อนไหวอยู่กับที่ (2) การเคลื่อนไหวเคลื่อนที่ (3) การเคลื่อนไหวพร้อมวัสดุอุปกรณ์ (4) การเคลื่อนไหวที่ใช้การประสานสัมพันธ์ของการใช้ กล้ามเนื้อใหญ่ ในการขว้าง การจับ การโยน การเตะ (5) การเล่นเครื่องเล่นสนามอย่างอิสระ

17 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 ด้ำนร่ำงกำย ประสบกำรณ์ส ำคัญ 1.1.2 การใช้กล้ามเนื้อเล็ก (1) การเล่นเครื่องเล่นสัมผัสและการสร้างจากแท่งไม้ บล็อก (2) การเขียนภาพและการเล่นกับสี (3) การปั้น (4) การประดิษฐ์สิ่งต่างๆ ด้วย เศษวัสดุ (5) การหยิบจับ การใช้กรรไกร การฉีก การตัด การปะ และการร้อยวัสดุ 1.1.3 การรักษาสุขภาพ อนามัยส่วนตน (1) การปฏิบัติตนตามสุขอนามัย สุขนิสัยที่ดีในกิจวัตรประจ าวัน 1.1.4 การรักษาความ ปลอดภัย 1) การปฏิบัติตนให้ปลอดภัยในกิจวัตรประจ าวัน (2) ฟังนิทาน เรื่องราว เหตุการณ์ การป้องกันรักษาความปลอดภัย (3) การเล่นเครื่องเล่นอย่างปลอดภัย (4) การเล่นบทบาทสมมติเหตุการณ์ต่างๆ 1.1.5 การตระหนักรู้เกี่ยวกับ ร่างกายตนเอง (1) การเคลื่อนไหวโดยควบคุมตนเองไปในทิศทาง ระดับ และพื้นที่ (2) การเคลื่อนไหวข้ามสิ่งกีดขวาง 1.2 ประสบกำรณ์ส ำคัญ ที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจเป็นการสนับสนุนให้เด็กได้ แสดงออก ทางอารมณ์และความรู้สึกของตนเองที่เหมาะสมกับวัย ตระหนักถึงลักษณะพิเศษเฉพาะที่เป็น อัตลักษณ์ความเป็น ตัวของตัวเอง มีความสุข ร่าเริงแจ่มใส การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ได้พัฒนาคุณธรรม จริยธรรม สุนทรียภาพ ความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง และความเชื่อมั่นในตนเองขณะปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ดังนี้ ด้ำนอำรมณ์ ประสบกำรณ์ส ำคัญ 1.2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี (1) การฟังเพลง การร้องเพลง และการแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบ เสียงดนตรี (2) การเล่นเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ (3) การเคลื่อนไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี (4) การเล่นบทบาทสมมติ (5) การท ากิจกรรมศิลปะต่างๆ (6) การสร้างสรรค์สิ่งสวยงาม 1.2.2 การเล่น (1) การเล่นอิสระ (2) การเล่นรายบุคคล กลุ่มย่อย กลุ่มใหญ่ (3) การเล่นตามมุมประสบการณ์ (4) การเล่นนอกห้องเรียน 1.2.3 คุณธรรม จริยธรรม (1) การปฏิบัติตนตามหลักศาสนาที่นับถือ (2) การฟังนิทานเกี่ยวกับคุณธรรม จริยธรรม (3) การร่วมสนทนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงจริยธรรม

18 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 ด้ำนอำรมณ์ ประสบกำรณ์ส ำคัญ 1.2.4 การแสดงออกทางอารมณ์ (1) การพูดสะท้อนความรู้สึกของตนเองและผู้อื่น (2) การเล่นบทบาทสมมติ (3) การเคลื่อนไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี (4) การร้องเพลง (5) การท างานศิลปะ 1.2.5 การมีอัตลักษณ์เฉพาะตน และเชื่อว่าตนเอง มีความสามารถ (1) การปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ตามความสามารถของตนเอง 1.2.6 การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น 1) การแสดงความยินดีเมื่อผู้อื่นมีความสุข เห็นใจเมื่อผู้อื่นเศร้า หรือ เสียใจและการช่วยเหลือปลอบโยนเมื่อผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ 1.3 ประสบกำรณ์ส ำคัญ ที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม เป็นการสนับสนุนให้เด็กได้มี โอกาส ปฏิสัมพันธ์กับบุคคลและสิ่งแวดล้อมต่างๆ รอบตัวจากการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ผ่านการเรียนรู้ทาง สังคม เช่น การเล่น การท างานกับผู้อื่น การปฏิบัติกิจวัตรประจ าวัน การแก้ปัญหาข้อขัดแย้งต่างๆ ด้ำนสังคม ประสบกำรณ์ส ำคัญ 1.3.1 การปฏิบัติกิจวัตร ประจ าวัน 1) การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจ าวัน (2) การปฏิบัติตนตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 1.3.2 การดูแลรักษา ธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม 1) การมีส่วนร่วมรับผิดชอบดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและ ภายนอก ห้องเรียน (2) การใช้วัสดุและสิ่งของเครื่องใช้อย่างคุ้มค่า (3) การท างานศิลปะที่น าวัสดุหรือสิ่งของเครื่องใช้ที่ใช้แล้วมาใช้ซ้ า หรือแปรรูป แล้วน ากลับมาใช้ใหม่ (4) การเพาะปลูกและดูแลต้นไม้ (5) การเลี้ยงสัตว์ (6) การสนทนาข่าวและเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมใน ชีวิตประจ าวัน 1.3.3 การปฏิบัติตาม วัฒนธรรมท้องถิ่น และ ความเป็นไทย (1) การเล่นบทบาทสมมติการปฏิบัติตนในความเป็นคนไทย (2) การปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมท้องถิ่นที่อาศัยและประเพณีไทย (3) การประกอบอาหารไทย (4) การศึกษานอกสถานที่ (5) การละเล่นพื้นบ้านของไทย 1.3.4 การมีปฏิสัมพันธ์ มีวินัย มีส่วนร่วม และ บทบาทสมาชิก ของสังคม (1) การร่วมก าหนดข้อตกลงของห้องเรียน (2) การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของห้องเรียน (3) การให้ความร่วมมือในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ (4) การดูแลห้องเรียนร่วมกัน (5) การร่วมกิจกรรมวันส าคัญ

19 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 ด้ำนสังคม ประสบกำรณ์ส ำคัญ 1.3.5 การเล่นและ ท างาน แบบร่วมมือร่วมใจ (1) การร่วมสนทนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น (2) การเล่นและท างานร่วมกับผู้อื่น (3) การท าศิลปะแบบร่วมมือ 1.3.6 การแก้ปัญหา ความขัดแย้ง (1) การมีส่วนร่วมในการเลือกวิธีการแก้ปัญหา (2) การมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง 1.3.7 การยอมรับใน ความ เหมือนและความ แตกต่างระหว่างบุคคล (1) การเล่นหรือท ากิจกรรมร่วมกับกลุ่มเพื่อน 1.4 ประสบกำรณ์ส ำคัญที่ส่งเสริมพัฒนำกำรด้ำนสติปัญญำ เป็นการสนับสนุนให้เด็กได้รับรู้ และ เรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวผ่านการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม บุคคลและสื่อต่างๆ ด้วยกระบวนการเรียนรู้ที่ หลากหลาย เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กพัฒนาการใช้ภาษา จินตนาการความคิดสร้างสรรค์การแก้ปัญหา การคิดเชิง เหตุผล และการคิดรวบยอดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ รอบตัวและมีความคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์ที่เป็น พื้นฐานของ การเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้นต่อไป ด้ำนสติปัญญำ ประสบกำรณ์ส ำคัญ 1.4.1 การใช้ภาษา (1) การฟังเสียงต่างๆ ในสิ่งแวดล้อม (2) การฟังและปฏิบัติตามค าแนะน า (3) การฟังเพลง นิทาน ค าคล้องจอง บทร้อยกรองหรือเรื่องราวต่างๆ (4) การพูดแสดงความคิด ความรู้สึก และความต้องการ (5) การพูดกับผู้อื่นเกี่ยวกับประสบการณ์ของตนเอง หรือพูดเล่า เรื่องราว เกี่ยวกับตนเอง (6) การพูดอธิบายเกี่ยวกับสิ่งของ เหตุการณ์ และความสัมพันธ์ ของสิ่งต่างๆ (7) การพูดอย่างสร้างสรรค์ในการเล่น และการกระท าต่างๆ (8) การรอจังหวะที่เหมาะสมในการพูด (9) การพูดเรียงล าดับค าเพื่อใช้ในการสื่อสาร (10) การอ่านหนังสือภาพ นิทาน หลากหลายประเภท/รูปแบบ (11) การอ่านอย่างอิสระตามล าพัง การอ่านร่วมกัน การอ่าน โดยมีผู้ชี้แนะ (12) การเห็นแบบอย่างของการอ่านที่ถูกต้อง (13) การสังเกตทิศทางการอ่านตัวอักษร ค า และข้อความ (14) การอ่านและชี้ข้อความ โดยกวาดสายตาตามบรรทัด จากซ้ายไปขวา และ จากบนลงล่าง (15) การสังเกตตัวอักษรในชื่อของตน หรือค าคุ้นเคย (16) การสังเกตตัวอักษรที่ประกอบเป็นค าผ่านการอ่านหรือเขียน ของผู้ใหญ่ (17) การคาดเดาค า วลี หรือประโยค ที่มีโครงสร้างซ้ าๆกัน จากนิทาน เพลง ค าคล้องจอง

20 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 ด้ำนสติปัญญำ ประสบกำรณ์ส ำคัญ (18) การเล่นเกมภาษา (19) การเห็นแบบอย่างของการเขียนที่ถูกต้อง (20) การเขียนร่วมกันตามโอกาส และการเขียนอิสระ (21) การเขียนค าที่มีความหมายกับตัวเด็ก/ค าคุ้นเคย (22) การคิดสะกดค าและเขียนเพื่อสื่อความหมายด้วยตนเอง อย่างอิสระ 1.4.2 การคิดรวบยอด การ คิดเชิงเหตุผล การตัดสินใจ และ แก้ปัญหา (1) การสังเกตลักษณะ ส่วนประกอบ การเปลี่ยนแปลงและ ความสัมพันธ์ของ สิ่งต่างๆ โดยใช้ประสาทสัมผัสอย่างเหมาะสม (2) การสังเกตสิ่งต่างๆ และสถานที่จากมุมมองที่ต่างกัน (3) การบอกและแสดงต าแหน่ง ทิศทาง และระยะทางของสิ่งต่างๆ ด้วยการกระท า ภาพวาด ภาพถ่าย และรูปภาพ (4) การเล่นกับสื่อต่างๆ ที่เป็นทรงกลม ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ทรงกระบอก กรวย (5) การคัดแยก การจัดกลุ่ม และการจ าแนกสิ่งต่างๆ ตามลักษณะ และรูปร่าง รูปทรง (6) การต่อของชิ้นเล็กเติมในชิ้นใหญ่ให้สมบูรณ์และการแยกชิ้นส่วน (7) การท าซ้ า การต่อเติม และการสร้างแบบรูป (8) การนับและแสดงจ านวนของสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจ าวัน (9) การเปรียบเทียบและเรียงล าดับจ านวนของสิ่งต่างๆ 10) การรวมและการแยกสิ่งต่างๆ (11) การบอกและแสดงอันดับที่ของสิ่งต่างๆ (12) การชั่ง ตวง วัดสิ่งต่างๆ โดยใช้เครื่องมือและหน่วยที่ไม่ใช่หน่วยมาตรฐาน (13) การจับคู่ การเปรียบเทียบ และการเรียงล าดับ สิ่งต่างๆ ตามลักษณะ ความยาว/ความสูง น้ าหนัก ปริมาตร (14) การบอกและเรียงล าดับกิจกรรมหรือเหตุการณ์ตามช่วงเวลา (15) การใช้ภาษาทางคณิตศาสตร์กับเหตุการณ์ในชีวิตประจ าวัน (16) การอธิบายเชื่อมโยงสาเหตุและผลที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์หรือ การกระท า (17) การคาดเดาหรือการคาดคะเนสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น อย่างมีเหตุผล (18) การมีส่วนร่วมในการลงความเห็นจากข้อมูลอย่างมีเหตุผล (19) การตัดสินใจและมีส่วนร่วมในกระบวนการแก้ปัญหา 1.4.3 จินตนาการและ ความคิดสร้างสรรค์ (1) การรับรู้ และแสดงความคิดความรู้สึกผ่านสื่อ วัสดุ ของเล่น และชิ้นงาน (2) การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผ่านภาษา ท่าทาง การเคลื่อนไหว และศิลปะ (3) การสร้างสรรค์ชิ้นงานโดยใช้รูปร่างรูปทรงจากวัสดุที่หลากหลาย 1.4.4 เจตคติที่ดีต่อการ เรียนรู้และการ แสวงหา ความรู้ 1) การส ารวจสิ่งต่างๆ และแหล่งเรียนรู้รอบตัว (2) การตั้งค าถามในเรื่องที่สนใจ (3) การสืบเสาะหาความรู้เพื่อค้นหาค าตอบของข้อสงสัยต่างๆ (4) การมีส่วนร่วมในการรวบรวมข้อมูลและน าเสนอข้อมูลจากการสืบเสาะหา ความรู้ในรูปแบบต่างๆ และแผนภูมิอย่างง่าย

21 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 2. สำระที่ควรเรียนรู้ สำระที่ควรเรียนรู้ เป็นเรื่องราวรอบตัวเด็กที่น ามาเป็นสื่อกลางในการจัดกิจกรรมให้ เด็กเกิด แนวคิดหลังจากน าสาระที่ควรรู้นั้นๆ มาจัดประสบการณ์ให้เด็ก เพื่อให้บรรลุจุดหมายที่ก าหนดไว้ ทั้งนี้ ไม่ เน้นการท่องจ าเนื้อหา ผู้สอนสามารถก าหนดรายละเอียดขึ้นเองให้สอดคล้องกับวัย ความต้องการ และความสนใจ ของเด็ก โดยให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ส าคัญ ทั้งนี้ อาจยืดหยุ่นเนื้อหาได้ โดยค านึงถึงประสบการณ์และ สิ่งแวดล้อมในชีวิตจริงของเด็ก ดังนี้ 2.1 เรื่องรำวที่เกี่ยวกับตัวเด็ก เด็กควรเรียนรู้ชื่อ นามสกุล รูปร่างหน้าตา อวัยวะต่างๆ วิธีระวังรักษา ร่างกายให้สะอาดและมีสุขภาพอนามัยที่ดี การรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ การระมัดระวังความปลอดภัย ของตนเองจากผู้อื่นและภัยใกล้ตัว รวมทั้งการปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างปลอดภัย การรู้จักประวัติความเป็นมาของ ตนเองและครอบครัว การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัวและโรงเรียน การเคารพสิทธิของตนเองและผู้อื่น การรู้จักแสดงความคิดเห็นของตนเองและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น การก ากับตนเอง การเล่นและท าสิ่งต่างๆ ด้วยตนเองตามล าพังหรือกับผู้อื่น การตระหนักรู้เกี่ยวกับตนเอง ความภาคภูมิใจในตนเอง การสะท้อน การรับรู้ อารมณ์และความรู้สึกของตนเองและผู้อื่น การแสดงออกทาง อารมณ์และความรู้สึกอย่างเหมาะสม การแสดง มารยาทที่ดี การมีคุณธรรมจริยธรรม 2.2 เรื่องรำวเกี่ยวกับบุคคลและสถำนที่แวดล้อมเด็ก เด็กควรเรียนรู้เกี่ยวกับครอบครัว สถานศึกษา ชุมชน และบุคคลต่างๆ ที่เด็กต้องเกี่ยวข้องหรือใกล้ชิดและมีปฏิสัมพันธ์ในชีวิตประจ าวัน สถานที่ส าคัญ ส าคัญ อาชีพของคนในชุมชน ศาสนา แหล่งวัฒนธรรมในชุมชน สัญลักษณ์ส าคัญของชาติไทยและการปฏิบัติตาม วัฒนธรรมท้องถิ่นและความเป็นไทย หรือแหล่งเรียนรู้จากภูมิปัญญาท้องถิ่นอื่นๆ 2.3 ธรรมชำติรอบตัว เด็กควรเรียนรู้เกี่ยวกับชื่อ ลักษณะ ส่วนประกอบ การเปลี่ยนแปลงและ ความสัมพันธ์ของมนุษย์ สัตว์ พืช ตลอดจนการรู้จักเกี่ยวกับดิน น้ า ท้องฟ้า สภาพอากาศ ภัยธรรมชาติ แรงและ พลังงานในชีวิตประจ าวันที่แวดล้อมเด็ก รวมทั้งการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการรักษา สาธารณสมบัติ 2.4 สิ่งต่ำงๆ รอบตัวเด็ก เด็กควรเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ภาษาเพื่อสื่อความหมายใน ชีวิตประจ าวัน ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการใช้หนังสือและตัวหนังสือ รู้จักชื่อ ลักษณะ สี ผิวสัมผัส ขนาด รูปร่าง รูปทรง ปริมาตร น้ าหนัก จ านวน ส่วนประกอบ การเปลี่ยนแปลงและความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ รอบตัว เวลา เงิน ประโยชน์ การ ใช้งาน และการเลือกใช้สิ่งของเครื่องใช้ ยานพาหนะ การคมนาคม เทคโนโลยีและการสื่อสารต่างๆ ที่ใช้อยู่ใน ชีวิตประจ าวันอย่างประหยัด ปลอดภัยและรักษาสิ่งแวดล้อม 3.2.8 กำรจัดประสบกำรณ์ โรงเรียนบ้านร่องปอ สังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 ได้จัดประสบการณ์ ให้เด็กอายุ 4- 5 ปี โดยจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการผ่านการเล่น การลงมือกระท าจาก ประสบการณ์ตรงอย่าง หลากหลาย เกิดความรู้ ทักษะ คุณธรรม จริยธรรม รวมทั้งเกิดการพัฒนาทั้งด้าน ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา ไม่จัดเป็นรายวิชา โดยมีหลักการ และแนวทางการจัด ประสบการณ์ ดังนี้ 1. หลักกำรจัดประสบกำรณ์ 1.1 จัดประสบการณ์การเล่นและการเรียนรู้อย่างหลากหลาย เพื่อพัฒนาเด็กโดยองค์รวม อย่างสมดุลและ ต่อเนื่อง 1.2 เน้นเด็กเป็นส าคัญ สนองความต้องการ ความสนใจ ความแตกต่างระหว่างบุคคลและ บริบทของ สังคมที่เด็กอาศัยอยู่ 1.3 จัดให้เด็กได้รับการพัฒนาโดยให้ความส าคัญกับกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาการของเด็ก

22 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 1.4 จัดการประเมินพัฒนาการให้เป็นกระบวนการอย่างต่อเนื่อง และเป็นส่วนหนึ่งของ การจัด ประสบการณ์ พร้อมทั้งน าผลการประเมินมาพัฒนาเด็กอย่างต่อเนื่อง 1.5 ให้พ่อแม่ ครอบครัว ชุมชน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการพัฒนาเด็ก 2. แนวทำงกำรจัดประสบกำรณ์ 2.1 จัดประสบการณ์ให้สอดคล้องกับจิตวิทยาพัฒนาการและการท างานของสมอง แนวคิดที่เหมาะสม กับอายุวุฒิภาวะและระดับพัฒนาการ เพื่อให้เด็กทุกคนได้พัฒนาเด็กเต็มตามศักยภาพ ประกอบด้วยทฤษฎี การ เรียนรู้ กลุ่มพฤติกรรมนิยมของ B.F.Skinner (การเสริมแรง) ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมของ Bandura (การ เรียนรู้จากการสังเกตหรือเลียนแบบ) เพียเจต์ กีเซล อีริคสัน ไวก๊อตสกี้ บรูนเนอร์ พหุปัญญา ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง การจัดการเรียนรู้ตามหลักการพัฒนาสมอง หรือ BBL (BrainBased Learning) 2.2 จัดประสบการณ์ให้สอดคล้องกับการเรียนรู้ของเด็ก ได้ลงมือกระท าเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า ได้เคลื่อนไหวส ารวจ เล่น สังเกต สืบค้น ทดลอง และคิดแก้ปัญหาด้วยตนเอง โดยใช้กิจกรรมและรูปแบบ การ เรียนการสอน ดังนี้ - กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่ผู้เรียนได้ลงมือกระท า (Active Learning) - การจัดการเรียนรู้แบบเรียนปนเล่น (Play and Learn) - การจัดการเรียนรู้ตามหลักการพัฒนาสมอง BBL (Brain-Based Learning) - การจัดการศึกษาโดยการบูรณาการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์(STEM) - บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย แห่งประเทศไทย 2.3 จัดประสบการณ์แบบบูรณาการ โดยบูรณาการทั้งกิจกรรม ทักษะ และสาระการเรียนรู้ จากหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และองค์ความรู้ในท้องถิ่น 2.4 จัดประสบการณ์ให้เด็กได้ริเริ่มคิด วางแผน ตัดสินใจลงมือกระท าและน าเสนอ ความคิด โดยผู้สอน หรือผู้จัดประสบการณ์เป็นผู้สนับสนุนอ านวยความสะดวก และเรียนรู้ร่วมกับเด็ก 2.5 จัดประสบการณ์ให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กอื่น กับผู้ใหญ่ ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เอื้อ ต่อการเรียนรู้ ในบรรยากาศที่อบอุ่นมีความสุข และเรียนรู้การท ากิจกรรมแบบร่วมมือในลักษณะต่างๆ กัน 2.6 จัดประสบการณ์ให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับสื่อและแหล่งการเรียนรู้ที่หลากหลายและอยู่ในวิถีชีวิต ของเด็ก สอดคล้องกับบริบท สังคม และวัฒนธรรมที่แวดล้อมเด็ก 2.7 จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมลักษณะนิสัยที่ดีและทักษะการใช้ชีวิตประจ าวัน ตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม และการมีวินัยให้เป็น ส่วนหนึ่งของการจัดประสบการณ์ การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง 2.8 จัดประสบการณ์ทั้งในลักษณะที่มีการวางแผนไว้ล่วงหน้าและแผนที่เกิดขึ้นในสภาพจริง โดยไม่ได้ คาดการณ์ไว้ 2.9 จัดท าสารนิทัศน์ด้วยการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กเป็นรายบุคคล น ามาไตร่ตรองและใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเด็กและการวิจัยในชั้นเรียน 2.10 จัดประสบการณ์โดยให้พ่อแม่ ครอบครัว และชุมชนมีส่วนร่วมทั้งการวางแผนการสนับสนุนสื่อ แหล่งเรียนรู้ การเข้าร่วมกิจกรรม และการประเมินพัฒนาการ 3. กำรจัดกิจกรรมประจ ำวัน กิจกรรมส าหรับเด็กอายุ 4 - 6 ปีบริบูรณ์ สามารถน ามาจัดเป็นกิจกรรมประจ าวันได้หลายรูปแบบ เป็น การช่วยให้ผู้สอนหรือผู้จัดประสบการณ์ทราบว่าแต่ละวันจะท ากิจกรรมอะไร เมื่อใดและอย่างไร ทั้งนี้การจัด กิจกรรมประจ าวันสามารถจัดได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการน าไปใช้ ของแต่ละหน่วยงานและ

23 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 สภาพชุมชน ที่ส าคัญผู้สอนต้องค านึงถึงการจัดกิจกรรมให้ครอบคลุมพัฒนาการทุก ด้านการจัดกิจกรรมประจ าวัน มีหลักการจัดและขอบข่ายของกิจกรรมประจ าวัน ดังนี้ 3.1 หลักกำรจัดกิจกรรมประจ ำวัน 1. ก าหนดระยะเวลาในการจัดกิจกรรมแต่ละกิจกรรมให้เหมาะสมกับวัยของเด็กในแต่ละวัน สามารถยืดหยุ่นได้ตามความต้องการและความสนใจของเด็ก เช่น วัย 3 - 4 ปี มีความสนใจประมาณ 8 - 12 นาที วัย 4 - 5 ปี มีความสนใจประมาณ 12 - 15 นาที วัย 5 - 6 ปี มีความสนใจประมาณ 15 - 20 นาที 2. กิจกรรมที่ต้องใช้ความคิดทั้งในกลุ่มเล็กและกลุ่มใหญ่ ไม่ควรใช้เวลาต่อเนื่องนาน เกิน 20 นาที 3. กิจกรรมที่เด็กมีอิสระเลือกเล่นเสรี เพื่อช่วยให้เด็กรู้จักเลือกตัดสินใจ คิดแก้ปัญหา คิดสร้างสรรค์ เช่น การเล่นตามมุม การเล่นกลางแจ้ง ฯลฯ ใช้เวลาประมาณ 40-60 นาที 4. กิจกรรมควรมีความสมดุลระหว่างกิจกรรมในห้องและนอกห้อง กิจกรรมที่ใช้ กล้ามเนื้อใหญ่ และกล้ามเนื้อเล็ก กิจกรรมที่เป็นรายบุคคล กลุ่มย่อยและกลุ่มใหญ่ กิจกรรมที่เด็กเป็นผู้ริเริ่ม และผู้สอนหรือผู้จัด ประสบการณ์เป็นผู้ริเริ่ม และกิจกรรมที่ใช้ก าลังและไม่ใช้ก าลัง จัดให้ครบทุกประเภท ทั้งนี้ กิจกรรมที่ต้อง ออก ก าลังกายควรจัดสลับกับกิจกรรมที่ไม่ต้องออกก าลังมากนัก เพื่อเด็กจะได้ไม่เหนื่อยเกินไป 3.2 ขอบข่ำยของกิจกรรมประจ ำวัน การเลือกกิจกรรมที่จะน ามาจัดในแต่ละวันสามารถจัดได้หลายรูปแบบ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความ เหมาะสมในการน าไปใช้ของแต่ละหน่วยงานและสภาพชุมชน ที่ส าคัญผู้สอนต้องค านึงถึงการจัดกิจกรรมให้ ครอบคลุมพัฒนาการทุกด้าน ดังต่อไปนี้ 3.2.1 การพัฒนากล้ามเนื้อใหญ่ เป็นการพัฒนาความแข็งแรง การทรงตัว การ ยืดหยุ่น ความ คล่องแคล่วในการใช้อวัยวะต่างๆ และจังหวะการเคลื่อนไหวในการใช้กล้ามเนื้อใหญ่ โดยจัด กิจกรรมให้เด็กได้เล่น อิสระกลางแจ้ง เล่นเครื่องเล่นสนาม ปีนป่ายเล่นอิสระ เคลื่อนไหวร่างกายตามจังหวะ ดนตรี 3.2.2 การพัฒนากล้ามเนื้อเล็ก เป็นการพัฒนาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเล็ก กล้ามเนื้อมือ นิ้วมือ การประสานสัมพันธ์ระหว่างกล้ามเนื้อมือและระบบประสาทตามือได้อย่างคล่องแคล่ว และประสาน สัมพันธ์กัน โดยจัดกิจกรรมให้เด็กได้เล่นเครื่องเล่นสัมผัส เล่นเกมการศึกษา ฝึกช่วยเหลือ ตนเองในการแต่งกาย หยิบจับช้อนส้อม และใช้วัสดุอุปกรณ์ศิลปะ เช่น สีเทียน กรรไกร พู่กัน ดินเหนียว ฯลฯ 3.2.3 การพัฒนาอารมณ์ จิตใจ และปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม เป็นการปลูกฝัง ให้เด็กมี ความรู้สึกที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น มีความเชื่อมั่น กล้าแสดงออก มีวินัย รับผิดชอบ ซื่อสัตย์ ประหยัด เมตตา กรุณา เอื้อเฟื้อ แบ่งปัน มีมารยาทและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทยและศาสนาที่นับถือโดยจัด กิจกรรมต่างๆ ผ่านการ เล่นให้เด็กได้มีโอกาสตัดสินใจเลือก ได้รับการตอบสนองความต้องการ ได้ฝึกปฏิบัติ โดยสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม อย่างต่อเนื่อง 3.2.4 การพัฒนาสังคมนิสัย เป็นการพัฒนาให้เด็กมีลักษณะนิสัยที่ดี แสดงออก อย่างเหมาะสม และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ช่วยเหลือตนเองในการท ากิจวัตรประจ าวัน มีนิสัยรักการท างาน ระมัดระวัง ความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น โดยรวมทั้งระมัดระวังอันตรายจากคนแปลกหน้า ให้เด็กได้ปฏิบัติกิจวัตร ประจ าวันอย่างสม่ าเสมอ รับประทานอาหาร พักผ่อนนอนหลับ ขับถ่าย ท าความสะอาดร่างกาย เล่นและท างาน ร่วมกับผู้อื่น ปฏิบัติตามกฎกติกาข้อตกลงของส่วนรวม เก็บของเข้าที่เมื่อเล่น หรือท างานเสร็จ 3.2.5 การพัฒนาการคิด เป็นการพัฒนาให้เด็กมีความสามารถในการคิดแก้ปัญหา ความคิด รวบยอด และคิดเชิงเหตุผลทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ โดยจัดกิจกรรมให้เด็กได้สนทนา อภิปราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เชิญวิทยากรมาพูดคุยกับเด็ก ศึกษานอกสถานที่ เล่นเกมการศึกษา ฝึก การแก้ปัญหาใน ชีวิตประจ าวัน ฝึกออกแบบและสร้างขึ้นงาน และท ากิจกรรมทั้งเป็นกลุ่มย่อย กลุ่มใหญ่ และรายบุคคล

24 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 3.2.6 การพัฒนาภาษา เป็นการพัฒนาให้เด็กใช้ภาษาสื่อสารถ่ายทอดความรู้สึก นึกคิด ความรู้ ความเข้าใจในสิ่งต่างๆ ที่เด็กมีประสบการณ์โดยสามารถตั้งค าถามในสิ่งที่สงสัยใคร่รู้ จัด กิจกรรมทางภาษาให้มี ความหลากหลายในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้มุ่งปลูกฝังให้เด็กได้กล้าแสดงออกในการฟัง พูด อ่าน เขียน มีนิสัยรักการอ่าน และบุคคลแวดล้อมต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในการใช้ ภาษา ทั้งนี้ต้องค านึงถึงหลักการจัดกิจกรรม ทางภาษาที่เหมาะสมกับเด็กเป็นส าคัญ 3.2.7 การส่งเสริมจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ เป็นการส่งเสริมให้เด็กมีความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ ได้ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกและเห็นความสวยงามของสิ่งต่างๆ โดยจัดกิจกรรมศิลปะ สร้างสรรค์ ดนตรี การเคลื่อนไหวและจังหวะตามจินตนาการ ประดิษฐ์สิ่งต่างๆ อย่างอิสระ เล่นบทบาทสมมติ เล่นน้ า เล่น ทราย เล่นบล็อก และเล่นก่อสร้าง 3.2.8 การจัดสภาพแวดล้อม สื่อ และแหล่งเรียนรู้ โรงเรียนบ้านร่องปอ มีการจัด สภาพแวดล้อมในสถานศึกษา โดยเห็นความส าคัญต่อเด็กเนื่องจาก ธรรมชาติของเด็กในวัยนี้สนใจที่จะเรียนรู้ ค้นคว้า ทดลอง และต้องการสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมรอบๆตัว ดังนั้น การจัดเตรียมสิ่งแวดล้อมอย่างเหมาะสมตาม ความต้องการของเด็ก จึงมีความส าคัญที่เกี่ยวข้องกับ พฤติกรรมและการเรียนรู้ของเด็ก เด็กสามารถเรียนรู้จาก การเล่นที่เป็นประสบการณ์ตรงที่เกิดจากการรับรู้ ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้าจึงจ าเป็นต้องจัดสิ่งแวดล้อมใน สถานศึกษาให้สอดคล้องกับสภาพ และความ ต้องการของหลักสูตร เพื่อส่งผลให้บรรลุจุดหมายในการพัฒนาเด็ก กำรจัดสภำพแวดล้อม ค านึงถึงสิ่งต่อไปนี้ 1. ความสะอาด ความปลอดภัย 2. ความมีอิสระอย่างมีขอบเขตในการเล่น 3. ความสะดวกในการท ากิจกรรม 4. ความพร้อมของอาคารสถานที่ เช่น ห้องเรียน ห้องน้ าห้องส้วม สนามเด็กเล่น ฯลฯ 5. ความเพียงพอเหมาะสมในเรื่องขนาด น้ าหนัก จ านวน สีของสื่อและเครื่องเล่น 6. บรรยากาศในการเรียนรู้ การจัดที่เล่นและมุมประสบการณ์ต่าง ๆ สภาพแวดล้อมภายใน ห้องเรียน หลักส าคัญในการจัดต้องค านึงถึงความปลอดภัย ความสะอาด เป้าหมายการพัฒนาเด็ก ความเป็น ระเบียบ ความเป็นตัวของเด็กเอง ให้เด็กเกิดความรู้สึกอบอุ่น มั่นใจ และมีความสุข ซึ่งอาจจัดแบ่งพื้นที่ให้ เหมาะสมกับการประกอบกิจกรรมตามหลักสูตร ดังนี้ 1. พื้นที่อ านวยความสะดวกเพื่อเด็กและผู้สอน 1.1 ที่แสดงผลงานของเด็ก อาจจัดเป็นแผ่นป้าย หรือที่แขวนผลงาน 1.2 ที่เก็บแฟ้มผลงานของเด็ก อาจจัดท าเป็นกล่องหรือจัดใส่แฟ้มรายบุคคล 1.3 ที่เก็บเครื่องใช้ส่วนตัวของเด็ก อาจท าเป็นช่องตามจ านวนเด็ก 1.4 ที่เก็บเครื่องใช้ของผู้สอน เช่น อุปกรณ์การสอน ของส่วนตัวผู้สอน ฯลฯ 1.5 ป้ายนิเทศตามหน่วยการสอนหรือสิ่งที่เด็กสนใจ 2. พื้นที่ปฏิบัติกิจกรรมและการเคลื่อนไหว ต้องก าหนดให้ชัดเจน ควรมีพื้นที่ที่เด็กสามารถ ท างานได้ ด้วยตนเอง และท ากิจกรรมด้วยกันในกลุ่มเล็ก หรือกลุ่มใหญ่ เด็กสามารถเคลื่อนไหวได้อย่าง อิสระจากกิจกรรม หนึ่งไปยังกิจกรรมหนึ่งโดยไม่รบกวนผู้อื่น 3. พื้นที่จัดมุมเล่นหรือมุมประสบการณ์สามารถจัดได้ตามความเหมาะสมขึ้นอยู่กับสภาพของ ห้องเรียนจัดแยกส่วนที่ใช้เสียงดังและเงียบออกจากกัน เช่น มุมบล็อกอยู่ห่างจากมุมหนังสือ มุมบทบาท สมมติอยู่ ติดกับมุมบล็อก มุมวิทยาศาสตร์อยู่ใกล้มุมศิลปะ ฯลฯ ที่ส าคัญจะต้องมีของเล่น วัสดุอุปกรณ์ในมุม อย่างเพียงพอ

25 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 ต่อการเรียนรู้ของเด็ก การเล่นในมุมเล่นอย่างเสรี มักถูกก าหนดไว้ในตารางกิจกรรมประจ าวัน เพื่อให้โอกาสเด็กได้ เล่นอย่างเสรีประมาณวันละ 60 นาทีการจัดมุมเล่นต่างๆ ผู้สอนค านึงถึงสิ่งต่อไปนี้ 3.1 ในห้องเรียนควรมีมุมเล่นอย่างน้อย 3-5 มุม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นที่ของห้อง 3.2 มีการผลัดเปลี่ยนสื่อของเล่นตามมุมบ้าง ตามความสนใจของเด็ก 3.3 จัดมุมประสบการณ์ที่เด็กได้เรียนรู้ไปแล้วปรากฏอยู่ในมุมเล่น เช่น เด็กเรียนรู้เรื่องผีเสื้อ ผู้สอนจะจัดให้มีการจ าลองการเกิดผีเสื้อไว้ให้เด็กดูในมุมธรรมชาติศึกษาหรือมุมวิทยาศาสตร์ ฯลฯ 3.4 โอกาสให้เด็กมีส่วนร่วมในการจัดมุมเล่น ทั้งนี้เพื่อจูงใจให้เด็กรู้สึกเป็นเจ้าของอยากเรียนรู้ อยากเข้าเล่น 3.5 มีการเสริมสร้างวินัยให้กับเด็ก โดยมีข้อตกลงร่วมกันว่าเมื่อเล่นเสร็จแล้วจะต้องจัดเก็บ อุปกรณ์ทุกอย่างเข้าที่ให้เรียบร้อย สภาพแวดล้อมนอกห้องเรียน การจัดสภาพแวดล้อมภายในอาณาบริเวณ รอบๆ สถานศึกษา รวมทั้งจัดสนามเด็กเล่น พร้อม เครื่องเล่นสนาม จัดระวังรักษาความปลอดภัยภายใน บริเวณสถานศึกษาและบริเวณรอบนอกสถานศึกษา ดูแลรักษาความสะอาด ปลูกต้นไม้ให้ความร่มรื่นรอบๆ บริเวณสถานศึกษา สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่ ส่งผลต่อการเรียนรู้และพัฒนาการของเด็ก บริเวณสนามเด็ก เล่น สนามเด็กเล่น มีพื้นผิวหลายประเภท เช่น ดิน ทราย หญ้า พื้นที่ส าหรับเล่นของเล่นที่มีล้อ รวมทั้ง ที่ร่ม ที่โล่งแจ้ง พื้นดินส าหรับขุด ที่เล่นน้ า บ่อทราย พร้อมอุปกรณ์ประกอบการเล่น เครื่องเล่นสนามส าหรับปีนป่าย ทรงตัว ฯลฯ และไม่ติดกับบริเวณที่มีอันตราย และหมั่นตรวจตราเครื่องเล่นให้อยู่ในสภาพแข็งแรง ปลอดภัยอยู่ เสมอ และหมั่นดูแลเรื่องความสะอาด ที่นั่งเล่นพักผ่อน จัดที่นั่งไว้ใต้ต้นไม้มีร่มเงา อาจใช้กิจกรรมกลุ่มย่อยๆ หรือกิจกรรมที่ต้องการ ความสงบ หรืออาจจัดเป็นลานนิทรรศการให้ความรู้แก่เด็กและผู้ปกครอง บริเวณ ธรรมชาติ ปลูกไม้ดอก ไม้ประดับ ไว้ในกระถาง และปลูกพืชผักสวนครัวไว้หน้าอาคารเรียน สื่อ สื่อประกอบการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัยทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และ สติปัญญา มีสื่อทั้งที่เป็นประเภท 2 มิติ และ/หรือ 3 มิติ ที่เป็นสื่อของจริง สื่อธรรมชาติ สื่อที่อยู่ใกล้ตัวเด็ก สื่อ สะท้อนวัฒนธรรม สื่อที่ปลอดภัยต่อตัวเด็ก สื่อเพื่อพัฒนาเด็กในด้านต่างๆให้ครบทุกด้านสื่อที่เอื้อให้เด็ก เรียนรู้ ผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า โดยการจัดการใช้สื่อเริ่มต้นจาก สื่อของจริง ภาพถ่าย ภาพโครงร่าง และสัญลักษณ์ทั้งนี้ การใช้สื่อต้องเหมาะสมกับวัย วุฒิภาวะ ความแตกต่างระหว่างบุคคล ความสนใจและความ ต้องการของเด็กที่ หลากหลาย ตัวอย่างสื่อประกอบการจัดกิจกรรม มีดังนี้ กิจกรรมเสรี /การเล่นตามมุม 1. มุมบทบำทสมมติจัดเป็นมุมเล่น ดังนี้ 1.1 มุมบ้ำน - ของเล่นเครื่องใช้ในครัวขนาดเล็ก หรือของจ าลอง เช่น เตา กระทะ ครก กาน้ า เขียง มีด พลาสติก หม้อ จาน ช้อน ถ้วยชาม กะละมัง ฯลฯ - เครื่องเล่นตุ๊กตา เสื้อผ้าตุ๊กตา เตียง เปลเด็ก ตุ๊กตา - เครื่องแต่งบ้านจ าลอง เช่น ชุดรับแขก โต๊ะเครื่องแป้ง หมอนอิง กระจกขนาดเห็นเต็มตัว หวี ตลับแป้ง ฯลฯ - เครื่องแต่งกายบุคคลอาชีพต่าง ๆ ที่ใช้แล้ว เช่น ชุดเครื่องแบบทหาร ต ารวจ ชุดเสื้อผ้าผู้ใหญ่ ชายและหญิง รองเท้า กระเป๋าถือที่ไม่ใช้แล้ว ฯลฯ - โทรศัพท์ เตารีดจ าลอง ที่รีดผ้าจ าลอง - ภาพถ่ายและรายการอาหาร

26 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 1.2 มุมหมอ - เครื่องเล่นจ าลองแบบเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์การรักษาผู้ป่วย เช่น หูฟัง เสื้อคลุมหมอ - อุปกรณ์ส าหรับเลียนแบบการบันทึกข้อมูลผู้ป่วย เช่น กระดาษ ดินสอ ฯลฯ 1.3 มุมร้ำนค้ำ - กล่องและขวดผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ใช้แล้ว - อุปกรณ์ประกอบการเล่น เช่น เครื่องคิดเลข ลูกคิด ธนบัตรจ าลอง ฯลฯ 2. มุมบล็อก - ไม้บล็อกหรือแท่งไม้ที่มีขนาดและรูปทรงต่างๆกัน จ านวนตั้งแต่ 50 ชิ้นขึ้นไป - ของเล่นจ าลอง เช่น รถยนต์ เครื่องบิน รถไฟ คน สัตว์ ต้นไม้ ฯลฯ - ภาพถ่ายต่างๆ - ที่จัดเก็บไม้บล็อกหรือแท่งไม้อาจเป็นชั้น ลังไม้หรือพลาสติกแยกตามรูปทรง ขนาด 3. มุมหนังสือ - หนังสือภาพนิทาน สมุดภาพ หนังสือภาพที่มีค าและประโยคสั้นๆ พร้อมภาพ - ชั้นหรือที่วางหนังสือ - อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการสร้างบรรยากาศการอ่าน เช่น เสื่อ พรม หมอน ฯลฯ - สมุดเซ็นยืมหนังสือกลับบ้าน - อุปกรณ์ส าหรับการเขียน - อุปกรณ์เสริม เช่น เครื่องเล่นเทป ตลับเทปนิทานพร้อมหนังสือนิทาน หูฟัง ฯลฯ 4. มุมวิทยำศำสตร์ หรือมุมธรรมชำติศึกษำ - วัสดุต่างๆ จากธรรมชาติ เช่น เมล็ดพืชต่างๆ เปลือกหอย ดิน หิน ฯลฯ - เครื่องมือเครื่องใช้ในการส ารวจ สังเกต ทดลอง เช่น แว่นขยาย แม่เหล็ก เข็มทิศ เครื่องชั่ง ฯลฯ 5. มุมอำเซียน - ธงของแต่ละประเทศในกลุ่มประเทศอาเซียน ค ากล่าวทักทายของแต่ละประเทศ - ภาพการแต่งกายประจ าชาติในกลุ่มประเทศอาเซียน กิจกรรมสร้างสรรค์ควรมีวัสดุ อุปกรณ์ ดังนี้ 1. กำรวำดภำพและระบำยสี - สีเทียนแท่งใหญ่ สีไม้ สีชอล์ก สีน้ า - พู่กันขนาดใหญ่ (ประมาณเบอร์ 12 ) - กระดาษ - เสื้อคลุม หรือผ้ากันเปื้อน 2. กำรเล่นกับสี - การเป่าสี มี กระดาษ หลอดกาแฟ สีน้ า - การหยดสี มี กระดาษ หลอดกาแฟ พู่กัน สีน้ า - การพับสี มี กระดาษ สีน้ า พู่กัน - การเทสี มี กระดาษ สีน้ า - การละเลงสี มี กระดาษ สีน้ าแป้งเปียก

27 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 3. กำรพิมพ์ภำพ - แม่พิมพ์ต่างๆ จากของจริง เช่น นิ้วมือ ใบไม้ ก้านกล้วย ฯลฯ - แม่พิมพ์จากวัสดุอื่นๆ เช่น เชือก เส้นด้าย ตรายาง ฯลฯ - กระดาษ ผ้าเช็ดมือ สีโปสเตอร์ (สีน้ า สีฝุ่น ฯลฯ) 4. กำรปั้น เช่น ดินน้ ามัน ดินเหนียว แป้งโดว์ แผ่นรองปั้น แม่พิมพ์รูปต่างๆ ไม้นวดแป้ง ฯลฯ 5. กำรพับ ฉีก ตัดปะ เช่น กระดาษ หรือวัสดุอื่นๆที่จะใช้พับ ฉีก ตัด ปะ กรรไกรขนาดเล็ก ปลายมน กาวน้ าหรือแป้งเปียก ผ้าเช็ดมือ ฯลฯ 6. กำรประดิษฐ์เศษวัสดุเช่น เศษวัสดุต่าง ๆ มีกล่องกระดาษ แกนกระดาษ เศษผ้า เศษไหม กาว กรรไกร สี ผ้าเช็ดมือ ฯลฯ 7. กำรร้อย เช่น ลูกปัด หลอดกาแฟ หลอดด้าย ฯลฯ 8. กำรสำน เช่น กระดาษ ใบตอง ใบมะพร้าว ฯลฯ 9. กำรเล่นพลำสติกสร้ำงสรรค์พลาสติกชิ้นเล็กๆ รูปทรงต่างๆ ผู้เล่นสามารถน ามาต่อเป็น รูปแบบต่างๆ ตามความต้องการ 10. กำรสร้ำงรูป เช่น จากกระดานปักหมุด จากแป้นตะปูที่ใช้หนังยางหรือเชือกผูกดึงให้เป็นรูปร่าง ต่างๆ เกมกำรศึกษำ ตัวอย่างสื่อประเภทเกมการศึกษา มีดังนี้ 1. เกมจับคู่ - จับคู่รูปร่างที่เหมือนกัน - จับคู่ภาพเงา - จับคู่ภาพที่ซ่อนอยู่ในภาพหลัก - จับคู่ภาพสัมพันธ์แบบตรงกันข้าม 2. เกมภำพตัดต่อ - ภาพตัดต่อที่สัมพันธ์กับหน่วยการเรียนต่าง ๆ เช่น ผลไม้ ผัก ฯลฯ 3. เกมจัดหมวดหมู่ - ภาพสิ่งต่าง ๆ ที่น ามาจัดเป็นพวก ๆ - ภาพเกี่ยวกับประเภทของใช้ในชีวิตประจ าวัน - ภาพจัดหมวดหมู่ตามรูปร่าง สี ขนาด รูปทรงเรขาคณิต 4. เกมวำงภำพต่อปลำย (โดมิโน) - โดมิโนภาพเหมือน - โดมิโนภาพสัมพันธ์ 5. เกมเรียงล ำดับ - เรียงล าดับภาพเหตุการณ์ต่อเนื่อง - เรียงล าดับขนาด 6. เกมศึกษำรำยละเอียดของภำพ (ล็อตโต้) 7. เกมจับคู่แบบตำรำงสัมพันธ์ (เมตริกเกม) 8. เกมพื้นฐำนกำรบวก กิจกรรมเสริมประสบกำรณ์ ตัวอย่ำงสื่อมีดังนี้ 1. สื่อของจริงที่อยู่ใกล้ตัวและสื่อจากธรรมชาติหรือวัสดุท้องถิ่น เช่น ต้นไม้ ใบไม้ เปลือกหอย เสื้อผ้า ฯลฯ 2. สื่อที่จ าลองขึ้น เช่น ลูกโลก ตุ๊กตาสัตว์ ฯลฯ

28 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 3. สื่อประเภทภาพ เช่น ภาพพลิก ภาพโปสเตอร์ หนังสือภาพ ฯลฯ 4. สื่อเทคโนโลยี เช่น วิทยุ เครื่องบันทึกเสียง เครื่องขยายเสียง โทรศัพท์ กิจกรรมกลางแจ้ง ตัวอย่างสื่อมีดังนี้ 1. เครื่องเล่นสนาม เช่น เครื่องเล่นส าหรับปีนป่าย เครื่องเล่นประเภทล้อเลื่อน ฯลฯ 2. ที่เล่นทราย มีทรายละเอียด เครื่องเล่นทราย เครื่องตวง ฯลฯ 3. ที่เล่นน้ า มีภาชนะใส่น้ าหรืออ่างน้ าวางบนขาตั้งที่มั่นคง ความสูงพอที่เด็กจะยืนได้พอดีเสื้อคลุม หรือผ้ากันเปื้อนพลาสติก อุปกรณ์เล่นน้ า เช่น ถ้วยตวง ขวดต่างๆ สายยาง กรวยกรอกน้ า ตุ๊กตายาง ฯลฯ กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ ตัวอย่างสื่อมีดังนี้ 1. เครื่องเคาะจังหวะ เช่น ฉิ่ง เหล็กสามเหลี่ยม กรับ ร ามะนา กลอง ฯลฯ 2. อุปกรณ์ประกอบการเคลื่อนไหว เช่น หนังสือพิมพ์ ริบบิ้น แถบผ้า ฯลฯ การเลือกสื่อ มีวิธีการเลือก ดังนี้ 1. เลือกให้ตรงกับจุดมุ่งหมายและเรื่องที่สอน 2. เลือกให้เหมาะสมกับวัยและความสามารถของเด็ก 3. เลือกให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของท้องถิ่นที่เด็กอยู่หรือสถานภาพของสถานศึกษา 4. มีวิธีการใช้ง่าย และน าไปใช้ได้หลายกิจกรรม 5. มีความถูกต้องตามเนื้อหาและทันสมัย 6. มีคุณภาพดี เช่น ภาพชัดเจน ขนาดเหมาะสม ไม่ใช้สีสะท้อนแสง 7. เลือกสื่อที่เด็กเข้าใจง่ายในเวลาสั้น ๆ ไม่ซับซ้อน 8. เลือกสื่อที่สามารถสัมผัสได้ 9. เลือกสื่อเพื่อใช้ฝึก และส่งเสริมการคิดเป็น ท าเป็น และกล้าแสดงความคิดเห็นด้วยความมั่นใจ การจัดหาสื่อ สามารถจัดหาได้หลายวิธี คือ 1. จัดหาโดยการขอยืมจากแหล่งต่างๆ เช่น โรงเรียนต้นแบบปฐมวัย ห้องสมุด ห้องวิทยาศาสตร์ 2. จัดซื้อสื่อและเครื่องเล่นโดยวางแผนการจัดซื้อตามล าดับความจ าเป็น เพื่อให้สอดคล้องกับ งบประมาณที่ทางสถานศึกษาสามารถจัดสรรให้และสอดคล้องกับแผนการจัดประสบการณ์ 3. ผลิตสื่อและเครื่องเล่นขึ้นใช้เองโดยใช้วัสดุที่ปลอดภัยและหาง่ายเป็นเศษวัสดุเหลือใช้ที่มีอยู่ ในท้องถิ่นนั้นๆ เช่น กระดาษแข็งจากลังกระดาษ รูปภาพจากแผ่นป่ายโฆษณา รูปภาพจากหนังสือ นิตยสารต่างๆ เป็นต้น ขั้นตอนการด าเนินการผลิตสื่อส าหรับเด็ก มีดังนี้ 1. ส ารวจความต้องการของการใช้สื่อให้ตรงกับจุดประสงค์ สาระการเรียนรู้และกิจกรรมที่จัด 2. วางแผนการผลิต โดยก าหนดจุดมุ่งหมายและรูปแบบของสื่อให้เหมาะสมกับวัยและ ความสามารถ ของเด็ก สื่อนั้นจะต้องมีความคงทนแข็งแรง ประณีตและสะดวกต่อการใช้ 3. ผลิตสื่อตามรูปแบบที่เตรียมไว้ 4. น าสื่อไปทดลองใช้หลาย ๆ ครั้งเพื่อหาข้อดี ข้อเสียจะได้ปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น 5. น าสื่อที่ปรับปรุงแก้ไขแล้วไปใช้จริง การใช้สื่อ ด าเนินการดังนี้ 1. การเตรียมพร้อมก่อนใช้สื่อ มีขั้นตอน คือ 1.1 เตรียมตัวผู้สอน ผู้สอนจะต้องศึกษาจุดมุ่งหมายและวางแผนว่าจะจัดกิจกรรม อะไรบ้าง - เตรียมจัดหาสื่อและศึกษาวิธีการใช้สื่อ - จัดเตรียมสื่อและวัสดุอื่นๆ ที่จะต้องใช้ร่วมกัน

29 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 - ทดลองใช้สื่อก่อนน าไปใช้จริง 1.2 เตรียมตัวเด็ก - ศึกษาความรู้พื้นฐานเดิมของเด็กให้สัมพันธ์กับเรื่องที่จะสอน - เร้าความสนใจเด็กโดยใช้สื่อประกอบการเรียนการสอน - ให้เด็กมีความรับผิดชอบ รู้จักใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่ท าลาย เล่นแล้วเก็บ ให้ถูกที่ 1.3 เตรียมสื่อให้พร้อมก่อนน าไปใช้ - จัดล าดับการใช้สื่อว่าจะใช้อะไรก่อนหรือหลัง เพื่อความสะดวกในการสอน - ตรวจสอบและเตรียมเครื่องมือให้พร้อมที่จะใช้ได้ทันที - เตรียมวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกับสื่อ 2. การน าเสนอสื่อ เพื่อให้บรรลุผลโดยเฉพาะในกิจกรรมเสริมประสบการณ์ / กิจกรรมกลุ่มย่อย ปฏิบัติดังนี้ 2.1 สร้างความพร้อมและเร้าความสนใจให้เด็กก่อนจัดกิจกรรมทุกครั้ง 2.2 ใช้สื่อตามล าดับขั้นของแผนการจัดกิจกรรมที่ก าหนดไว้ 2.3 ไม่ควรให้เด็กเห็นสื่อหลายๆชนิดพร้อมๆกัน เพราะจะท าให้เด็กไม่สนใจ กิจกรรมที่สอน 2.4 ผู้สอนควรยืนอยู่ด้านข้างหรือด้านหลังของสื่อที่ใช้กับเด็ก ผู้สอนไม่ควรยืนหัน หลัง ให้เด็ก จะต้องพูดคุยกับเด็กและสังเกตความสนใจของเด็ก พร้อมทั้งส ารวจข้อบกพร่องของสื่อที่ใช้เพื่อน าไป ปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น 2.5 เปิดโอกาสให้เด็กได้ร่วมใช้สื่อ การใช้สื่อในระดับปฐมวัยควรระวังในเรื่อง ต่อไปนี้ 1. วัสดุที่ใช้ ต้องไม่มีพิษ ไม่หัก และแตกง่าย มีพื้นผิวเรียบ ไม่เป็นเสี้ยน 2. ขนาด ไม่ควรมีขนาดใหญ่เกินไป เพราะยากต่อการหยิบยก อาจจะตกลงมาเสียหาย แตก เป็นอันตรายต่อเด็กหรือใช้ไม่สะดวก เช่น กรรไกรขนาดใหญ่ โต๊ะ เก้าอี้ที่ใหญ่และสูงเกินไป และไม่ควร มีขนาด เล็กเกินไป เด็กอาจจะน าไปอมหรือ กลืนท าให้ติดคอหรือไหลลงท้องได้ เช่น ลูกปัดเล็กลูกแก้วเล็ก ฯลฯ 3. รูปทรง ไม่เป็นรูปทรงแหลม รูปทรงเหลี่ยม เป็นสัน 4. น้ าหนักไม่ควรมีน้ าหนักมาก เพราะเด็กยกหรือหยิบไม่ไหวอาจจะตกลงมาเป็นอันตรายต่อตัวเด็ก 5. สื่อหลีกเลี่ยงสื่อที่เป็นอันตรายต่อตัวเด็ก เช่น สารเคมี วัตถุไวไฟ ฯลฯ 6. สี หลีกเลี่ยงสีที่เป็นอันตรายต่อสายตา เช่น สีสะท้อนแสง ฯลฯ การประเมินการใช้สื่อ ควร พิจารณาจากองค์ประกอบ 3 ประการ คือ ผู้สอน เด็ก และสื่อ เพื่อจะได้ทราบว่าสื่อนั้นช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้มาก น้อยเพียงใด จะได้น ามาปรับปรุงการผลิตและการใช้สื่อให้ดียิ่งขึ้น โดยใช้วิธีสังเกต ดังนี้ 1. สื่อนั้นช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้เพียงใด 2. เด็กชอบสื่อนั้นเพียงใด 3. สื่อนั้นช่วยให้การสอนตรงกับจุดประสงค์หรือไม่ ถูกต้องตามสาระการเรียนรู้และทันสมัย หรือไม่ 4. สื่อนั้นช่วยให้เด็กสนใจมากน้อยเพียงใด เพราะเหตุใด การเก็บ รักษา และซ่อมแซมสื่อ การจัดเก็บสื่อ เป็นการส่งเสริมให้เด็กฝึกการสังเกต การเปรียบเทียบ การจัดกลุ่ม ส่งเสริมความ รับผิดชอบ ความมีน้ าใจ ช่วยเหลือ ผู้สอนไม่ควรใช้การเก็บสื่อเป็นการลงโทษเด็ก โดยด าเนินการดังนี้

30 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 1. เก็บสื่อให้เป็นระเบียบและเป็นหมวดหมู่ตามลักษณะประเภทของสื่อ สื่อที่เหมือนกันจัดเก็บ หรือ จัดวางไว้ด้วยกัน 2. วางสื่อในระดับสายตาของเด็ก เพื่อให้เด็กหยิบใช้ จัดเก็บได้ด้วยตนเอง 3. ภาชนะที่จัดเก็บสื่อควรโปร่งใส เพื่อให้เด็กมองเห็นสิ่งที่อยู่ภายในได้ง่ายและควรมีมือจับ เพื่อให้ สะดวกในการขนย้าย 4. ฝึกให้เด็กรู้ความหมายของรูปภาพหรือสีที่เป็นสัญลักษณ์แทนหมวดหมู่ ประเภทสื่อเพื่อเด็ก จะได้เก็บเข้าที่ได้ถูกต้อง การใช้สัญลักษณ์ควรมีความหมายต่อการเรียนรู้ของเด็ก สัญลักษณ์ควรใช้สื่อ ของ จริง ภาพถ่ายหรือส าเนา ภาพวาด ภาพโครงร่างหรือภาพประจุด หรือบัตรค าติดคู่กับสัญลักษณ์อย่าง ใด อย่างหนึ่ง 5. ตรวจสอบสื่อหลังจากที่ใช้แล้วทุกครั้งว่ามีสภาพสมบูรณ์ จ านวนครบถ้วนหรือไม่ 6. ซ่อมแซมสื่อช ารุด และต่อเติมส่วนที่ขาดหายไปให้ครบชุด แหล่งเรียนรู้ โรงเรียนบ้านร่องปอ ได้ก าหนดแหล่งเรียนรู้ที่จะใช้พัฒนาเด็กให้สอดคล้องกับจุดหมาย ครอบคลุม มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ที่ก าหนดไว้ในหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 โดยค านึงวัย พัฒนาการ และความแตกต่างของเด็ก บริบททางสังคมและวัฒนธรรมที่แวดล้อมของ เด็ก ดังนี้ ที่ ชื่อแหล่งเรียนรู้ ที่อยู่ ประโยชน์ในกำรเรียนรู้ 1 วัดร่องปอ หมู่ที่ 14 บ้านร่องปอ ต าบลดงเจน อ าเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา 1. เป็นแหล่งศึกษาปูชนียสถาน 2. เป็นแหล่งศึกษาข้อมูลทางพุทธศาสนา 3. การท าบุญในงานประเพณีท้องถิ่น 4. เป็นแหล่งศึกษาประวัติความเป็นมาของ วัดในหมู่บ้าน 5. เป็นแหล่งศึกษาศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น 2 ดงพระเจ้า หมู่ที่ 7 บ้านร่องปอ ต าบลดงเจน อ าเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา 1. เป็นแหล่งศึกษาปูชนียสถาน 2. เป็นแหล่งศึกษาข้อมูลทางประวัติศาสตร์ 3. การท าบุญในงานประเพณีท้องถิ่น 4. เป็นแหล่งศึกษาประวัติความเป็นมาของ สถานที่เคารพศรัทธาของหมู่บ้าน 5. เป็นแหล่งศึกษาศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น 3 โรงพยาบาลส่งเสริม สุขภาพต าบลบ้านเจน หมู่ที่ 8 บ้านเจน ต าบลดงเจน อ าเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา 1. เป็นที่ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโรคต่างๆ 2. เป็นที่ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุของ การป่วยและวิธีรักษาโรค 3. เป็นที่ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับยารักษาโรค 4. เป็นที่ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกัน และรักษาโรค

31 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 ที่ ชื่อแหล่งเรียนรู้ ที่อยู่ ประโยชน์ในกำรเรียนรู้ 4 องค์การบริหาร ส่วนต าต าบลดงเจน ต าบลดงเจน อ าเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา 1. เป็นแหล่งศึกษาการปฏิบัติหน้าที่ของ เจ้าหน้าที่ที่ท าการใน อบต. 2. เป็นแหล่งศึกษาเกี่ยวกับการหาข้อมูล ต่างๆ ของหมู่บ้านใน อบต.รับผิดชอบ 3. เป็นแหล่งศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ ราชการ ที่ท างานของคนในชุมชน 5 สถานีต ารวจภูกามยาว หมู่ที่ 13 บ้านกว๊าน ต าบลดงเจน อ าเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา 1. เป็นแหล่งศึกษาการปฏิบัติหน้าที่ของ เจ้าหน้าต ารวจ 2. เป็นแหล่งศึกษาเกี่ยวกับการท างาน 3. เป็นแหล่งศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ ราชการ ที่ท างานของคนในชุมชน 6 ร้านค้าชุมชน หมู่บ้าน 1. เป็นที่ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการ แลกเปลี่ยนสินค้า 2. เป็นที่ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อขาย 7 แปลงเกษตรชาวบ้าน หมู่บ้าน 1. เป็นที่ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการ แลกเปลี่ยนสินค้า 2. เป็นที่ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อขาย 8 ทุ่งนา หมู่บ้าน 1 การปลูกและการบ ารุง ตลอดถึงการเก็บ เกี่ยวผลผลิต 2. การดูแลรักษาดิน 3. การก าจัดศัตรูพืชและก าจัดวัชพืช 9 ห้องสมุดโรงเรียน โรงเรียนบ้านร่องปอ 1. เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ 10 ห้องพยาบาล โรงเรียนบ้านร่องปอ 1. เป็นแหล่งค้นคว้าศึกษาหาความรู้ เกี่ยวกับยารักษาโรค 2. เป็นสถานที่พักผ่อนส าหรับนักเรียน ที่ป่วย 3. เป็นแหล่งบริการด้านสุขภาพนักเรียน 11 สนามเด็กเล่น โรงเรียนบ้านร่องปอ 1. ใช้ในกิจกรรมการเล่นกลางแจ้ง 12 สนามกีฬาโรงเรียน บ้านร่องปอ โรงเรียนบ้านร่องปอ 1. ใช้ออกก าลังกาย เล่นกีฬา และ ท ากิจกรรมต่างๆ 13 สวนหย่อมหน้าอาคาร โรงเรียนบ้านร่องปอ 1. ใช้เป็นแหล่งศึกษาเกี่ยวกับต้นไม้ ไม้ดอกไม้ประดับ 14 ห้องคอมพิวเตอร์ โรงเรียนบ้านร่องปอ 1. เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์การสืบค้นข้อมูล 2. ใช้ฝึกประสบการณ์ทางคอมพิวเตอร์

32 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 ที่ ชื่อแหล่งเรียนรู้ ที่อยู่ ประโยชน์ในกำรเรียนรู้ 15 โรงอาหาร โรงเรียนบ้านร่องปอ 1. เป็นแหล่งค้นคว้าศึกษาหาความรู้ เกี่ยวกับอาหารและโภชนาการ 2. เป็นสถานที่ประกอบอาหารกลางวัน ส าหรับบริการนักเรียนและครู 3. เป็นสถานที่ส าหรับรับประทานอาหาร กลางวันของนักเรียนและครู 16 มุมประสบการณ์ใน และ นอกห้องเรียน โรงเรียนบ้านร่องปอ 1. เป็นแหล่งเรียนรู้ประสบการณ์ผ่านการ เล่นตามมุม เช่น มุมวิทยาศาสตร์มุมบ้าน มุมบล็อก มุมบทบาทสมมุติ มุมหนังสือ/ นิทาน มุมเกมการศึกษา มุมศิลปะ 17 สนามเด็กเล่นและ อุปกรณ์ โรงเรียนบ้านร่องปอ เป็นแหล่งพัฒนาการด้านร่างกาย พัฒนา กล้ามเนื้อใหญ่ อารมณ์ จิตใจ มีความสุข สนุกสนาน ด้านสังคม การเล่นร่วมกับผู้อื่น รู้จักรอคอย ด้านสติปัญญา คิดและ แก้ปัญหาในการเล่นได้ตามวัย 18 วัดศรีโคมค า (วัดพระเจ้าตนหลวง) โรงเรียนบ้านร่องปอ 1. เป็นแหล่งศึกษาปูชนียสถาน 2. เป็นแหล่งศึกษาข้อมูลทางพุทธศาสนา 3. การท าบุญในงานประเพณีท้องถิ่น 4. เป็นแหล่งศึกษาประวัติความเป็นมาของวัด 5. เป็นแหล่งศึกษาศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น 19 อนุสาวรีย์ พ่อขุนง าเมือง อ าเภอเมือง จังหวัดพะเยา 1. เป็นที่ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ 20 กว๊านพะเยา อ าเภอเมือง จังหวัดพะเยา 1. เป็นที่ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งน้ าที่ใช้ ในการเกษตร 2. เป็นที่ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ของสัตว์น้ า 21 อุทยานการเรียนรู้ จังหวัด พะเยา อ าเภอเมือง จังหวัดพะเยา 1. เป็นแหล่งค้นคว้าศึกษาหาความรู้ เกี่ยวกับประวัติและผลงานของ นักวิทยาศาสตร์ 2. เป็นสถานที่พักผ่อนและเป็นแหล่งให้ ความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ 22 ศูนย์วิจัยและพัฒนา ประมงน้ า จืดพะเยา อ าเภอเมือง จังหวัดพะเยา 1. เป็นที่ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์น้ า 2. เป็นที่ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ของสัตว์น้ า 3. เป็นที่ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ ในการจับสัตว์น้ า

33 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 ที่ ชื่อแหล่งเรียนรู้ ที่อยู่ ประโยชน์ในกำรเรียนรู้ 23 พิพิธภัณฑ์ปลาบึก อ าเภอเมือง จังหวัดพะเยา 1. เป็นที่ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์น้ า เช่น ซากปลาบึกขนาดใหญ่ 2. เป็นที่ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ของสัตว์น้ า 24 ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจ พอเพียงชุมชน ด้านประมง (น้ าจืด) อ าเภอเมือง จังหวัดพะเยา 1. เป็นที่ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์น้ า 2. เป็นที่ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ของสัตว์น้ า

34 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 บทที่ 3 ผลกำรใช้หลักสูตรสถำนศึกษำ 3.1 กำรพัฒนำและกำรใช้หลักสูตรสถำนศึกษำระดับปฐมวัย โรงเรียนบ้านร่องปอ ได้ติดตามการใช้หลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัย ในปีการศึกษา 2564 การประเมินการน าหลักสูตรไปใช้ โดยผู้บริหาร ครูผู้สอนระดับปฐมวัย และผู้ที่เกี่ยวข้อง ในการจัดการเรียนรู้ เมื่อวันที่ 20 – 21 เมษายน 2565 จ านวน 3 คน มีผลการประเมินตาม ตาราง ดังนี้ ตำรำงแสดง จ ำนวนร้อยละของครูผู้สอนที่มีในกำรใช้หลักสูตรสถำนศึกษำ หลักสูตร กำรด ำเนิน ร้อยละของครู ที่น ำหลักสูตร ไปใช้(%) ไม่มี มี ถูกต้อง สมบูรณ์ ก ำลัง พัฒนำ 1. หลักสูตรสถำนศึกษำระดับปฐมวัย / / 2. องค์ประกอบหลักสูตรระดับปฐมวัย / / 2.1 ปรัชญาการศึกษาปฐมวัยโรงเรียน / / 2.2 วิสัยทัศน์พันธกิจ เป้าหมาย / / 2.3 จุดหมาย / / 2.4 มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ / / 2.5 ระยะเวลาเรียน / / 2.6 สาระการเรียนรู้รายปี / / 2.7 การจัดประสบการณ / / 2.8 การจัดสภาพแวดล้อมสื่อและแหล่งเรียนรู้ / / 2.9 การประเมินพัฒนาการ / / 2.10 การบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษา ปฐมวัย / / 2.11การเชื่อมต่อของการศึกษาปฐมวัยกับระดับ ประถมศึกษาปีที่ 1 / / 3.แนวทำงกำรจัดกิจกรรมพัฒนำเด็ก / / 4. แนวทำงกำรวัดและประเมินพัฒนำกำรเด็ก / / รวม 15 15 100 จำกตำรำงที่ 1 พบว่ำ โรงเรียนบ้านร่องปอ มีการติดตามการใช้หลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัย โดย การประเมินการน าหลักสูตรไปใช้ของผู้บริหาร ครูผู้สอนระดับปฐมวัย และผู้ที่เกี่ยวข้อง ในการจัดการเรียนรู้ตาม หลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัยของโรงเรียนบ้านร่องปอ จ านวนของครูผู้สอนร้อยละ 100 ที่มีในการใช้หลักสูตร สถานศึกษา ตามองค์ประกอบหลักสูตรระดับปฐมวัย การด าเนินการมีองค์ประกอบหลักสูตรระดับปฐมวัย ดังนี้ ปรัชญาการศึกษาปฐมวัยโรงเรียนบ้านร่องปอ วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย จุดหมาย มาตรฐานคุณลักษณะที่พึง ประสงค์ระยะเวลาเรียน สาระการเรียนรู้รายปีการจัด ประสบการณ์ การจัดสภาพแวดล้อม สื่อและแหล่งเรียนรู้ การประเมินพัฒนาการ การบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย และการเชื่อมต่อของการศึกษาปฐมวัยกับ ระดับประถมศึกษาปีที่ 1

35 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 3.2 โรงเรียนมีกำรจัดท ำหลักสูตรสถำนศึกษำระดับปฐมวัยให้สอดคล้องกับบริบทและควำมต้องกำรของ ท้องถิ่น คณะกรรมกำรสถำนศึกษำ ผู้ปกครอง และชุมชน โดยร่วมกันวิเคราะห์ สภาพปัญหา จุดเน้น และ ความต้องการของชุมชน และสถานศึกษา ร่วมกันก าหนด ปรัชญาการศึกษาปฐมวัยของโรงเรียนโรงเรียน บ้านร่องปอ โดยจัดการพัฒนาเด็กอายุ 4- 6 ปีบนพื้นฐานการ อบรมเลี้ยงดูส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ที่ สนองต่อธรรมชาติ และพัฒนาการของเด็กแต่ละคนให้เต็มตามศักยภาพ ให้เด็กมีวินัย และเรียนรู้ผ่านการ เล่น การลงมือปฏิบัติ มีทักษะในการด ารงชีวิตประจ าวันตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง ด้วยความ รัก ความเข้าใจของทุกคน และพัฒนาเด็กโดยองค์รวมเพื่อสร้างรากฐานคุณภาพชีวิต ที่ดี วิสัยทัศน์พันธ กิจ เป้าหมาย หลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัยที่มุ่งเน้นพัฒนาเด็กอายุ 4-6 ปี ให้มีพัฒนาการ ด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ วินัย สังคม และสติปัญญาเหมาะสมกับวัย เน้นให้เด็กเป็นคนดีมีวินัย และเรียนรู้ ผ่าน การเล่น การลงมือปฏิบัติ น้อมน าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้อย่างเหมาะสมกับวัยและบริบทของตน โดยผู้ปกครอง ชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาเด็กให้มีพัฒนาการรอบด้านอย่างสมดุล เต็มตาม ศักยภาพ มีเจตคติที่ ดี สนใจใฝ่รู้ และเรียนรู้อย่างมีความสุข 3.3 ปัญหำ/อุปสรรคในกำรพัฒนำหลักสูตรสถำนศึกษำระดับปฐมวัย และแนวทำงแก้ไข ปัญหำ /อุปสรรค แนวทำงแก้ไข 1. ผู้ปกครองขาดความรู้ความเข้าใจใน การส่งเสริม พัฒนาการตามช่วงวัย ของเด็ก และมีความคาดหวังที่ ต้องการเร่งเรียน เขียนอ่าน ครูปฐมวัย สร้างความเข้าใจกับผู้ปกครองเกี่ยวกับ พัฒนาการตามช่วง วัยของเด็ก และความแตกต่างระหว่าง บุคคล จัดการเรียนรู้แก่เด็ก ปฐมวัยในสอดคล้องกับ พัฒนาการ ธรรมชาติตามวัย โดยมุ่งเน้น การเล่นและ เรียนรู้ตามธรรมชาติที่อยู่รอบตัว จัดสภาพแวดล้อมที่ เหมาะสมกับการเรียน เพื่อส่งเสริมให้เด็กเกิดการเรียนรู้ 2. ด้านสื่อและแหล่งการเรียนรู้ ครูปฐมวัย วางแผน การจัดหาสื่อ และ ผลิตสื่อการจัดประสบการณ์ อย่างต่อเนื่อง กิจกรรมการเรียนการสอนให้สอดคล้อง กับความสนใจ และวัยของเด็กจัดหาสื่อของจริงที่ส่งเสริมพัฒนาการของเด็กทุกด้าน 3.4 หลังจำกที่มีกำรใช้หลักสูตรสถำนศึกษำระดับปฐมวัยไปแล้ว ในปีกำรศึกษำ 2563 โรงเรียนได้ด ำเนินกำร ปรับปรุงหลักสูตรสถำนศึกษำเพิ่มเติม ดังนี้ มุ่งเน้นพัฒนาเด็กอายุ 4-6 ปี ให้มีพัฒนาการ ด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ วินัย สังคม และ สติปัญญา เหมาะสมกับวัยเน้นให้เด็กเป็นคนดี มีวินัย และเรียนรู้ผ่านการเล่น การลงมือปฏิบัติ น้อมน าหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงมาใช้อย่างเหมาะสมกับวัยและบริบท โดยมีการจัดท าหลักสูตร สถานศึกษา ซึ่งมีองค์ประกอบ ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 ดังนี้ ปรัชญาการศึกษา ปฐมวัย วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย จุดหมาย มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ได้เพิ่มเติมตัวบ่งชี้ให้ สอดคล้องกับปรัชญาการศึกษาปฐมวัยของ สถานศึกษา วิสัยทัศน์ และอัตลักษณ์ของสถานศึกษาในด้าน ความมีวินัย และปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาตรฐานที่ 2 และมาตรฐานที่ 6 ระยะเวลาเรียน สาระ การเรียนรู้รายปี การจัดประสบการณ์ การจัด สภาพแวดล้อม สื่อและแหล่งเรียนรู้ การประเมินพัฒนาการ การบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย และ การเชื่อมต่อของการศึกษาปฐมวัยกับระดับ ประถมศึกษาปีที่ 1 3.5 รูปแบบหลักสูตรสถำนศึกษำระดับปฐมวัยที่ด ำเนินกำรอยู่นั้น มีประโยชน์ต่อประเด็นกำรด ำเนินงำนของ สถำนศึกษำ ดังนี้

36 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 1) กำรท ำงำนของครู 1.1 ร่วมวางแผน และร่วมพัฒนาหลักสูตรระดับสถานศึกษา 1.2 ตรวจสอบความสอดคล้องสัมพันธ์กันของหลักสูตรสถานศึกษาที่จัดขึ้นตามสภาพปัญหาและความ ต้องการของชุมชน กับมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย 1.3 วางแผนการจัดประสบการณ์ตามขอบข่ายสาระที่ควรเรียนรู้ มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ และหน่วยการเรียนรู้ 1.4 น าหลักสูตรไปปฏิบัติให้เกิดผลในห้องเรียน โดยเลือกใช้กระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลายสอดคล้อง กับธรรมชาติ สาระที่ควรเรียนรู้ให้เหมาะสมกับผู้เรียน 1.5 วางแผนและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนตามมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์และน าผล การประเมินมาพัฒนาผู้เรียนต่อไป 2) กำรสนับสนุนและกำรมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง 2.1 ผู้ปกครองปรับเปลี่ยนความคิดในการฝากบุตรหลานไว้ในความดูแลของครูมาเป็นผู้ร่วมพัฒนาการ เรียนรู้ของผู้เรียน 2.2 ส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมของสถานศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพ 2.3 อบรมเลี้ยงดู เอาใจใส่ ให้ความรัก ความอบอุ่น ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาการด้านต่างๆ ของ ผู้เรียน 2.4 ร่วมมือกับครู และผู้เกี่ยวข้องประสานงานปูองกันและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่พึง ประสงค์ของผู้เรียน 3) กำรพัฒนำผู้เรียน 3.1 สถานศึกษาจะต้องท าความเข้าใจกับผู้ปกครอง ชุมชน เกี่ยวกับการจัดการศึกษาปฐมวัย การ จัดการเรียนการสอน การประเมินพัฒนาการเพื่อให้เข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนเองเกิดประโยชน์ต่อผู้เรียน 3.2 การร่วมกันสนับสนุนทรัพยากรเพื่อการศึกษา โดยร่วมกันให้ความรู้ ประสบการณ์หรือภูมิปัญญา ท้องถิ่น หรือทรัพยากรอื่นๆ ที่จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาผู้เรียน 3.3 ผู้เรียนได้รับการส่งเสริมพัฒนาการทุกด้านตามวัย จัดการเรียนรู้แก่เด็กปฐมวัยใน สอดคล้องกับ พัฒนาการ ธรรมชาติตามวัย โดยมุ่งเน้นการเล่นและเรียนรู้ตามธรรมชาติที่อยู่รอบตัว จัดสภาพแวดล้อมที่ เหมาะสมกับการเรียน เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ 3.6 กระบวนกำรนิเทศติดตำมกำรใช้หลักสูตรสถำนศึกษำระดับปฐมวัยของผู้บริหำรสถำนศึกษำ 1. จัดประชุมชี้แจงการน าหลักสูตรสถานศึกษาไปใช้ และการออกแบบการจัดการเรียนรู้ 2. การเยี่ยมชั้นเรียน 3. การส่งเสริมและสนับสนุนให้ครูจัดท าแผน และใช้แผนการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับหลักสูตร สถานศึกษา 4. สาธิตการสอนโดยครูในโรงเรียน 5. สังเกตการสอนในห้องเรียน 6. การสรุปผลการสอน หรือผลงานใดๆ ของครู 7. การวัดและประเมินผลตามสภาพจริง 8. ให้ค าปรึกษาแนะน า

37 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 3.7 ปัจจัยส ำคัญของโรงเรียนที่มีผลต่อกำรใช้หลักสูตรสถำนศึกษำระดับปฐมวัย ตำมแนวทำงหลักสูตร กำรจัดกำรศึกษำปฐมวัย พุทธศักรำช 2564 มีดังนี้ ปัจจัย มี ไม่มี เหตุผล 1. หลักสูตรสถานศึกษา / มีหลักสูตรสถานศึกษาตามแนวทางหลักสูตร การศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 2. ความพร้อมด้านบุคลากร / มีครูประจ าชั้นที่จบสาขาปฐมวัย 3. ทักษะการจัดประสบการณ์ของครู / ครูมีทักษะในการจัดประสบการณ์ในการจัด กิจรรมส าหรับเด็ก ปฐมวัย และจบวิชาเอก การศึกษาปฐมวัย 4. เทคนิคการจัดกิจกรรม / ค รู เข้ า รั บ ก า ร อ บ ร ม เกี่ ย ว กั บ ก า ร จั ด ประสบการณ์ และมีเทคนิคการ จัดกิจกรรม ส าหรับเด็กปฐมวัย 5. สื่อการเรียนการสอน / มีสื่อการสอนที่ครูผลิตขึ้น และทางโรงเรียน ได้จัดหาสื่อ เทคโนโลยี เพื่อใช้ในการจัด กิจกรรมต่างๆ ส าหรับเด็ก 6. การวัดผลประเมินพัฒนาการเด็ก / ครูมีการวัดผล ประเมินผลพัฒนาการของเด็ก แ ล ะส่งผ ล ก า ร ป ระเมินพั ฒ น าก า รให้ ผู้ปกครองทราบ ปีการศึกษาละ 1 ครั้ง 7. การบริหารจัดการ / มีการบริหารจัดการตามหลักสูตรการศึกษา ปฐมวัย พ.ศ. 2560 3.8 แนวคิด/แนวทำงกำรพัฒนำหลักสูตรระดับปฐมวัยของโรงเรียนในครั้งต่อไป 1. ด้านการสร้างหลักสูตรที่เหมาะสม ผู้บริหารโรงเรียนและครูควรศึกษาเกี่ยวกับโครงสร้างและ จุดมุ่งหมายของแผนการจัดประสบการณ์ รายละเอียดของเอกสารประกอบหลักสูตร เพื่อให้สามารถในการจัด การศึกษาระดับปฐมวัยมีประสิทธิภาพและมีการพัฒนาปรับปรุงหลักสูตรให้สอดคล้องเหมาะสมกับความ ต้องการ ของท้องถิ่น 2. ด้านการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็ก ผู้บริหารโรงเรียนและครูควรจัดชั้นเรียนและ สถานที่เล่นกลางแจ้งที่เอื้อต่อการจัดประสบการณ์ให้กับเด็ก รวมถึงวัสดุครุภัณฑ์ที่จ าเป็นส าหรับ เด็กระดับปฐมวัย อย่างเพียงพอ 3. ด้านการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็ก การบูรณาการการเรียนรู้ ผู้บริหาร โรงเรียนและครูควรจัดการเรียนรู้ให้เด็กได้เรียนรู้ตามสภาพที่แท้จริง กิจกรรมการเรียนรู้แบบ บูรณาการโดยเน้น เด็กเป็นส าคัญ และตามความสนใจของเด็ก 4. ด้านความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับโรงเรียน ผู้บริหารโรงเรียนและครูควรจัดประชุมผู้ปกครอง เพื่อให้ เข้าใจพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็ก และให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในการช่วยเหลือและการพัฒนาเด็กรวมถึงการ ติดต่อสื่อสารระหว่างครูผู้สอนกับผู้ปกครองอย่างสม่ าเสมอ

38 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 3.9 ควำมต้องกำรในกำรพัฒนำหลักสูตรสถำนศึกษำระดับปฐมวัย 1. ด้านพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษาควรมีการก าหนดภารกิจในการปฏิบัติงาน ของ ครู และผู้บริหาร ในด้านการพัฒนาหลักสูตรไว้ให้ชัดเจนในการสร้างหลักสูตรที่เหมาะสมของโรงเรียน 2. โรงเรียนควรจะพัฒนาด้านความพร้อมของอาคารสถานที่ เพราะโรงเรียนส่วนใหญ่ได้รับงบประมาณ สนับสนุนไม่เพียงพอ ดังนั้น ทางโรงเรียนจึงต้องหางบประมาณจากองค์กรภายนอกมา สนับสนุนเพิ่มเติม 3. ครูปฐมวัย พ่อแม่และผู้ปกครองของเด็กจะต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูล ท าความเข้าใจพัฒนาการและ การเรียนรู้ของเด็ก ต้องยอมรับและร่วมมือกันรับผิดชอบที่จะต้องช่วยกันพัฒนาเด็กให้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการ

39 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 บทที่ 4 ผลกำรประเมินคุณภำพผู้เรียนตำมหลักสูตรสถำนศึกษำ 1. ผลกำรประเมินพัฒนำกำรเด็ก 1.1 สรุปผลกำรประเมินพัฒนำกำรทั้ง 4 ด้ำน ระดับชั้น จ ำนวนนักเรียน ทั้งหมด ( คน ) จ ำนวนนักเรียนที่ผ่ำนกำรประเมินพัฒนำกำร ตำมระดับ คุณภำพ (คน) ไม่ผ่ำน ดี พอใช้ ควรส่งเสริม ชั้นอนุบาลปีที่ 2 4 - 4 ชั้นอนุบาลปีที่ 3 9 - 9 รวม 13 - 13 1.2 สรุปผลกำรประเมินพัฒนำกำรตำมมำตรฐำนคุณลักษณะที่พึงประสงค์ อนุบำลปีที่ 2 ระดับชั้น จ านวน นักเรียน ทั้งหมด (คน) จ านวนนักเรียนที่ผ่านการประเมินพัฒนาการ ตามระดับคุณภาพ (คน) มาตรฐานคุณลักษณะที่พึง ประสงค์ตามระดับคุณภาพ ผ่าน ไม่ ผ่าน ดี พอใช้ ควร ส่งเสริม อนุบาลปีที่ 2 4 มฐ. 1 4 มฐ. 2 4 มฐ. 3 4 มฐ. 4 4 มฐ. 5 4 มฐ. 6 4 มฐ. 7 4 มฐ. 8 4 มฐ. 9 4 มฐ. 10 4 มฐ. 11 4 มฐ. 12 4

40 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 อนุบำลปีที่ 3 ระดับชั้น จ านวน นักเรียน ทั้งหมด (คน) จ านวนนักเรียนที่ผ่านการประเมินพัฒนาการ ตามระดับคุณภาพ (คน) มาตรฐานคุณลักษณะที่พึง ประสงค์ตามระดับคุณภาพ ผ่าน ไม่ ผ่าน ดี พอใช้ ควร ส่งเสริม อนุบาลปีที่ 3 9 มฐ. 1 9 มฐ. 2 9 มฐ. 3 9 มฐ. 4 9 มฐ. 5 9 มฐ. 6 9 มฐ. 7 9 มฐ. 8 9 มฐ. 9 9 มฐ. 10 9 มฐ. 11 9 มฐ. 12 9 2. จุดเน้นกำรพัฒนำเด็กเพื่อกำรขับเคลื่อนหลักสูตรสถำนศึกษำระดับปฐมวัย 2.1 กำรจัดประสบกำรณ์กำรเรียนรู้การพัฒนาเด็ก มีกิจกรรมและโครงการที่สนับสนุนในแต่ละจุดเน้น ระดับปฐมวัย ดังนี้ พัฒนำกำรด้ำนร่ำงกำย ประกอบด้วย การประเมินการมีน้ าหนักและส่วนสูงตามเกณฑ์ สุขภาพ อนามัย สุขนิสัยที่ดี การรู้จักรักษาความปลอดภัย การเคลื่อนไหวและการทรงตัว การเล่น และการออกก าลัง กาย และการใช้มืออย่าง คล่องแคล่วประสานสัมพันธ์กัน ด้ำนอำรมณ์-จิตใจ ประกอบด้วย การประเมินความสามารถในการแสดงออกทางอารมณ์อย่าง เหมาะสมกับ วัยและสถานการณ์ ความรู้สึกที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น มีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ความสนใจ ความสามารถ และมีความสุขในการท างานศิลปะ ดนตรี และการเคลื่อนไหว ความรับผิดชอบในการท างาน ความซื่อสัตย์สุจริตและรู้สึก ถูกผิด ความเมตตากรุณา มีน้ าใจและช่วยเหลือแบ่งปัน ตลอดจนการประหยัด อดออม และพอเพียง ด้ำนสังคม ประกอบด้วย การประเมินความมีวินัยในตนเอง การช่วยเหลือตนเองในการปฏิบัติ กิจวัตร ประจ าวัน การระวังภัยจากคนแปลกหน้า และสถานการณ์ที่เสี่ยงอันตราย การดูแลรักษาธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม การมีสัมมาคารวะและมารยาทตามวัฒนธรรมไทย รักษาความเป็นไทย การยอมรับความ เหมือนและความแตกต่าง ระหว่างบุคคล การมีสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น การปฏิบัติตนเบื้องต้นในการเป็นสมาชิกที่ ดีของสังคมในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ด้ำนสติปัญญำ ประกอบด้วย การประเมินความสามารถในการสนทนาโต้ตอบและเล่าเรื่องให้ผู้อื่น เข้าใจ ความสามารถในการอ่าน เขียนภาพและสัญลักษณ์ ความสามารถในการคิดแก้ปัญหา คิดเชิงเหตุผล

41 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 คิดรวบยอด การเล่น/การท างานศิลปะ/การแสดงท่าทาง/เคลื่อนไหวตามจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ของตนเอง การมีเจตคติที่ ดีต่อการเรียนรู้และความสามารถในการแสวงหาความรู้ 2.2 วิธีกำรและเครื่องมือที่ใช้ในกำรประเมินพัฒนำกำร การประเมินพัฒนาการเด็กแต่ละครั้งควรใช้ วิธีการประเมินอย่างหลากหลายเพื่อให้ได้ข้อมูลที่สมบูรณ์ที่สุด วิธีการที่เหมาะสมและนิยมใช้ในการประเมิน เด็กปฐมวัยมีด้วยกันหลายวิธีดังต่อไปนี้ 1. การสังเกตและการบันทึก การสังเกตมีอยู่ 2 แบบคือ การสังเกตอย่างมีระบบ ได้แก่ การสังเกต อย่างมีจุดมุ่งหมายที่แน่นอนตามแผนที่วางไว้ และอีกแบบหนึ่งคือ การสังเกตแบบไม่เป็นทางการ ซึ่งเป็น การสังเกตในขณะที่ เด็กท ากิจกรรมประจ าวันและเกิดพฤติกรรมที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นและผู้สอนจดบันทึกไว้ การสังเกตเป็นวิธีการที่ ผู้สอนใช้ในการศึกษาพัฒนาการของเด็ก เมื่อมีการสังเกตก็ต้องมีการบันทึก ผู้สอนควร ทราบว่าจะบันทึกอะไรการ บันทึกพฤติกรรมมีความส าคัญอย่างยิ่งที่ต้องท าอย่างสม่ าเสมอ เนื่องจากเด็ก เจริญเติบโตและเปลี่ยนแปลงอย่าง รวดเร็ว จึงต้องน ามาบันทึกเป็นหลักฐานไว้อย่างชัดเจน การสังเกตและการ บันทึกพัฒนาการเด็กสามารถใช้แบบง่ายๆ คือ 1.1 แบบบันทึกพฤติกรรม ใช้บันทึกเหตุการณ์เฉพาะอย่างโดยบรรยายพฤติกรรมเด็ก ผู้บันทึก ต้อง บันทึกวัน เดือน ปีเกิดของเด็ก และวัน เดือน ปี ที่ท าการบันทึกแต่ละครั้ง 1.2 การบันทึกรายวัน เป็นการบันทึกเหตุการณ์หรือประสบการณ์หรือประสบการณ์ที่เกิดขึ้นใน ชั้นเรียน ทุกวัน ถ้าหากบันทึกในรูปแบบของการบรรยายก็มักจะเน้นเฉพาะเด็กรายที่ต้องการศึกษา ข้อดีของ การบันทึกรายวัน คือ การชี้ให้เห็นความสามารถเฉพาะอย่างของเด็ก จะช่วยกระตุ้นให้ผู้สอนได้พิจารณาปัญหา ของเด็กเป็นรายบุคคล ช่วยให้ผู้เชียวชาญมีข้อมูลมากขึ้นส าหรับวินิจฉัยเด็กว่าสมควรจะได้รับค าปรึกษาเพื่อลด ปัญหาและส่งเสริมพัฒนาการ ของเด็กได้อย่างถูกต้อง นอกจากนั้นยังช่วยชี้ให้เห็นข้อเสียของการจัดกิจกรรม และประสบการณ์ได้เป็นอย่างดี 1.3 แบบส ารวจรายการ ช่วยให้สามารถวิเคราะห์เด็กแต่ละคนได้ค่อนข้างละเอียด 2. การสนทนา สามารถใช้การสนทนาได้ทั้งเป็นกลุ่มหรือรายบุคคล เพื่อประเมินความสามารถใน การแสดง ความคิดเห็น และพัฒนาการด้านภาษาของเด็กและบันทึกผลการสนทนาลงในแบบบันทึกพฤติกรรม หรือบันทึกรายวัน 3. การสัมภาษณ์ด้วยวิธีพูดคุยกับเด็กเป็นรายบุคคลและควรจัดในสภาวะแวดล้อมเหมาะสมเพื่อ ไม่ให้เกิดความเครียดและวิตกกังวล ครูผู้สอนควรใช้ค าถามที่เหมาะสมเปิดโอกาสให้เด็กได้คิดและตอบอย่างอิสระ จะท าให้ครูผู้สอนสามารถประเมินความสามารถทางสติปัญญาของเด็กแต่ละคนและค้นพบศักยภาพในตัวเด็กได้ โดยบันทึกข้อมูลลงในแบบสัมภาษณ์ การเตรียมการก่อนการสัมภาษณ์ ครูผู้สอนควรปฏิบัติ ดังนี้ - ก าหนดวัตถุประสงค์ของการสัมภาษณ์ - ก าหนดค าพูด/ค าถามที่จะพูดกับเด็ก ควรเป็นค าถามที่เด็กสามารถตอบโต้หลากหลาย ไม่ผิด/ถูก การปฏิบัติขณะสัมภาษณ์ - ครูผู้สอนควรสร้างความคุ้นเคยเป็นกันเอง - ครูผู้สอนควรสร้างสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นไม่เคร่งเครียด - ครูผู้สอนควรเปิดโอกาสเวลาให้เด็กมีโอกาสคิดและตอบค าถามอย่างอิสระ - ระยะเวลาสัมภาษณ์ไม่ควรเกิน 10-20 นาที 4. การรวบรวมผลงานที่แสดงออกถึงความก้าวหน้าแต่ละด้านของเด็กเป็นรายบุคคล โดยจัดเก็บ รวบรวม ไว้ในแฟ้มผลงาน (portfolio) ซึ่งเป็นวิธีรวบรวมและจัดระบบข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวกับตัวเด็กโดยใช้เครื่องมือ ต่างๆ รวบรวมเอาไว้อย่างมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน แสดงการเปลี่ยนแปลงของพัฒนาการแต่ละด้าน นอกจากนี้ยัง

42 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 รวมเครื่องมือ อื่นๆ เช่น แบบสอบถามผู้ปกครอง แบบสังเกตพฤติกรรม แบบบันทึกสุขภาพอนามัย ฯลฯ เอาไว้ใน แฟ้มผลงาน เพื่อ ครูผู้สอนจะได้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเด็กอย่างชัดเจนและถูกต้อง การเก็บผลงานของเด็กจะไม่ถือว่า เป็นการประเมินผลถ้างานแต่ละชิ้นถูกรวบรวมไว้โดยไม่ได้รับการประเมินจากครูผู้สอนและไม่มีการน าผลมา ปรับปรุงพัฒนาเด็กหรือปรับปรุง การสอนของครูผู้สอน ดังนั้นจึงเป็นแต่การสะสมผลงานเท่านั้น เช่นแฟ้มผลงาน ขีดเขียน งานศิลปะ จะเป็นเพียงแค่ แฟ้มผลงานที่ไม่มีการประเมิน แฟ้มผลงานนี้จะเป็นเครื่องมือการประเมิน ต่อเนื่องเมื่องานที่สะสมแต่ละชิ้นถูกใช้ในการบ่งบอกความก้าวหน้า ความต้องการของเด็ก และเป็นการเก็บสะสม อย่างต่อเนื่องที่สร้างสรรค์โดยครูผู้สอนและเด็ก ครูผู้สอนสามารถใช้แฟ้มผลงานอย่างมีคุณค่าสื่อสารกับผู้ปกครอง เพราะการเก็บผลงานเด็กอย่างต่อเนื่อง และสม่ าเสมอในแฟ้มผลงานเป็นข้อมูลให้ผู้ปกครองสามารถเปรียบเทียบ ความก้าวหน้าที่ลูกของตนมีเพิ่มขึ้น จากผลงานชิ้นแรกกับชิ้นต่อๆ มาข้อมูลในแฟ้มผลงานประกอบด้วย ตัวอย่าง ผลงานการเขียดเขียน การอ่าน และข้อมูลบาง ประการของเด็กที่ครูผู้สอนเป็นผู้บันทึก เช่นจ านวนเล่มของหนังสือ ที่เด็กอ่าน ความถี่ของการเลือกอ่านที่มุมหนังสือในช่วงเวลาเลือกเสรี การเปลี่ยนแปลงอารมณ์ ทัศนคติ เป็นต้น ข้อมูลเหล่านี้จะสะท้อนภาพของความงอกงามในเด็กแต่ละคนได้ชัดเจนกว่า การประเมินโดยการให้เกรด ครูผู้สอน จะต้องชี้แจงให้ผู้ปกครองทราบถึงที่มาของการเลือกชิ้นงาน แต่ละชิ้นงานที่สะสมในแฟ้มผลงาน เช่น เป็นชิ้นงานที่ ดีที่สุดในช่วงระยะเวลาที่เลือกชิ้นงานนั้น เป็นชิ้นงานที่แสดงความต่อเนื่องของงานโครงการ ฯลฯ ครูผู้สอนควร เชิญผู้ปกครองมามีส่วนร่วมในการคัดสรรชิ้นงานที่บรรจุลงในแฟ้ม ผลงานของเด็ก 5. การประเมินการเจริญเติบโตของเด็ก ตัวชี้ของการเจริญเติบโตในเด็กที่ใช้ทั่วๆ ไป ได้แก่ น้ าหนัก ส่วนสูง เส้นรอบศีรษะ ฟัน และการเจริญเติบโตของกระดูก แนวทางประเมินการเจริญเติบโต มีดังนี้ 5.1 การประเมินการเจริญเติบโต โดยการชั่งน้ าหนักและวัดส่วนสูงเด็กแล้วน าไปเปรียบเทียบกับ เกณฑ์ ปกติในกราฟแสดงน้ าหนักตามเกณฑ์อายุกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งใช้ส าหรับติดตามการเจริญเติบโตโดยรวม วิธีการใช้กราฟมีขั้นตอน ดังนี้ เมื่อชั่งน้ าหนักเด็กแล้ว น าน้ าหนักมาจุดเครื่องหมายกากบาทลงบนกราฟ และอ่าน การเจริญเติบโต ของเด็ก โดยดูเครื่องหมายกากบาทว่าอยู่ในแถบสีใด อ่านข้อความบนแถบสีนั้น ซึ่งแบ่งภาวะ โภชนาการเป็น 3 กลุ่ม คือ น้ าหนักที่อยู่ในเกณฑ์ปกติ น้ าหนักมากเกนเกณฑ์ น้ าหนักน้อยกว่าเกณฑ์ ข้อควรระวังส าหรับผู้ปกครองและครูผู้สอนคือ ควรดูแลน้ าหนักเด็กอย่าให้เบี่ยงเบนออกจากเส้นประเมิน มิเช่นนั้นเด็กมีโอกาสน้ าหนักมากเกินเกณฑ์หรือน้ าหนักน้อยกว่าเกณฑ์ได้ ข้อควรค านึงในการประเมิน การเจริญเติบโตของเด็ก - เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันในด้านการเจริญเติบโต บางคนรูปร่างอ้วน บางคนช่วงครึ่งหลังของ ขวบปีแรก น้ าหนักเด็กจะขึ้นช้า เนื่องจากห่วงเล่นมากขึ้นและความอยากอาหารลดลง ร่างใหญ่ บางคนร่างเล็ก - ภาวะโภชนาการเป็นตัวส าคัญที่เกี่ยวข้องกับขนาดของรูปร่าง แต่ไม่ใช่สาเหตุเดียว - กรรมพันธุ์ เด็กอาจมีรูปร่างเหมือนพ่อแม่คนใดคนหนึ่ง ถ้าพ่อหรือแม่เตี้ย ลูกอาจเตี้ยและพวกนี้อาจ มีน้ าหนักต่ ากว่าเกณฑ์เฉลี่ยได้และมักจะเป็นเด็กที่ทานอาหารได้น้อย 5.2 การตรวจสุขภาพอนามัย เป็นตัวชี้วัดคุณภาพของเด็ก โดยพิจารณาความสะอาดสิ่งปกติขอ ร่างกายที่จะส่งผลต่อการด าเนินชีวิตและการเจริญเติบโตของเด็ก ซึ่งจะประเมินสุขภาพอนามัย 9 รายการคือ ผม และศีรษะ หูและใบหู มือและเล็บมือ เท้าและเล็บเท้า ปาก ลิ้นและฟัน จมูก ตา ผิวหนังและใบหน้า และเสื้อผ้า 2.3 เกณฑ์กำรประเมินพัฒนำกำร การสร้างเกณฑ์หรือพัฒนาเกณฑ์หรือก าหนดเกณฑ์การประเมิน พัฒนาการของเด็กปฐมวัย ครูผู้สอนควรให้ ความสนใจในส่วนที่เกี่ยวข้อ ดังนี้ 1. การวางแผนการสังเกตพฤติกรรมของเด็กอย่างเป็นระบบ เช่น จะสังเกตเด็กคนใดบ้างในแต่ละวัน ก าหนด พฤติกรรมที่สังเกตให้ชัดเจน จัดท าตารางก าหนดการสังเกตเด็กเป็นรายบุคคล รายกลุ่ม ครูผู้สอนต้อง เลือกสรร พฤติกรรมที่ตรงกับระดับพัฒนาการของเด็กคนนั้นจริงๆ

43 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 2. ในกรณีที่ห้องเรียนมีนักเรียนจ านวนมาก ครูผู้สอนอาจเลือกสังเกตเฉพาะเด็กที่ท าได้ดีแล้วและเด็กที่ ยังท า ไม่ได้ ส่วนเด็กปานกลางให้ถือว่าท าได้ไปตามกิจกรรม 3. ครูผู้สอนต้องสังเกตจากพฤติกรรม ค าพูด การปฏิบัติตามขั้นตอนในระหว่างท างาน/กิจกรรม และ คุณภาพ ของผลงาน/ชิ้นงาน ร่องรอยที่น ามาใช้พิจารณาตัดสินผลของการท างานหรือการปฏิบัติ ตัวอย่างเช่น 1) เวลาที่ใช้ในการท ากิจกรรม/ท างาน ถ้าเด็กไม่ชอบ ไม่ช านาญจะใช้เวลามาก มีท่าทางอิดออด ไม่กล้า ไม่เต็มใจท างาน 2) ความต่อเนื่อง ถ้าเด็กยังมีการหยุดชะงัก ลังเล ท างานไม่ต่อเนื่อง แสดงว่าเด็กยังไม่ช านาญหรือยังไม่ พร้อม 3) ความสัมพันธ์ ถ้าการท างาน/ปฏิบัตินั้นๆมีความสัมพันธ์ต่อเนื่อง ไม่ราบรื่น ท่าทางมือและเท้า ไม่ สัมพันธ์กัน แสดงว่าเด็กยังไม่ช านาญหรือยังไม่พร้อม ท่าที่แสดงออกจึงไม่สง่างาม 4) ความภูมิใจ ถ้าเด็กยังไม่ชื่นชม ก็จะท างานเพียงให้แล้วเสร็จอย่างรวดเร็ว ไม่มีความภูมิใจในการ ท างาน ผลงานจึงไม่ประณีต 2.3.1 ระดับคุณภาพผลการประเมินพัฒนาการเด็ก การให้ระดับคุณภาพผลการประเมินพัฒนาการของ เด็กทั้งในระดับชั้นเรียนและระดับสถานศึกษาควรก าหนด ในทิศทางหรือรูปแบบเดียวกัน โรงเรียนได้ก าหนดให้ ระดับคุณภาพผลการประเมินพัฒนาการของเด็กที่สะท้อน มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตัวบ่งชี้ สภาพที่พึง ประสงค์ หรือพฤติกรรมที่จะประเมิน เป็นระดับคุณภาพ คือ 1 หรือ 2 หรือ 3 ตัวอย่างเช่น 3. กำรเชื่อมต่อของกำรศึกษำระดับปฐมวัยกับระดับประถมศึกษำปีที่ 1 การเชื่อมต่อของการศึกษาระดับปฐมวัยกับระดับประถมศึกษาปีที่ 1 มีความส าคัญอย่างยิ่งบุคลากรทุกฝ่าย จะต้องให้ความสนใจต่อการช่วยลดช่องว่างของความไม่เข้าใจในการจัดการศึกษาทั้งสองระดับ ซึ่งจะส่งผลต่อ การ จัดการเรียนการสอน ตัวเด็ก ครู พ่อแม่ ผู้ปกครอง และบุคลากรทางการศึกษาอื่นๆทั้งระบบ การเชื่อมต่อของ การศึกษาระดับปฐมวัยกับระดับประถมศึกษาปีที่ 1 จะประสบผลส าเร็จได้ต้องด าเนินการดังต่อไปนี้ 1. ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษาเป็นบุคคลส าคัญที่มีบทบาทเป็นผู้น าในการเชื่อมต่อ โดยเฉพาะระหว่างหลักสูตร การศึกษาปฐมวัยในช่วงอายุ 3-6 ปี กับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยต้อง ศึกษาหลักสูตรทั้งสองระดับ เพื่อท าความเข้าใจ จัดระบบการบริหารงานด้าน วิชาการที่จะเอื้อต่อการเชื่อมโยง การศึกษาโดยการจัดกิจกรรมเพื่อเชื่อมต่อการศึกษา ดังตัวอย่างกิจกรรมต่อไปนี้ 1.1 จัดประชุมครูระดับปฐมวัยและครูระดับประถมศึกษาร่วมกันสร้างรอยเชื่อมต่อของหลักสูตรทั้งสอง ระดับให้เป็นแนวปฏิบัติของสถานศึกษาเพื่อครูทั้งสองระดับจะได้เตรียมการสอนให้สอดคล้องกับเด็กวัยนี้ 1.2 จัดหาเอกสารด้านหลักสูตรและเอกสารทางวิชาการของทั้งสองระดับมาไว้ให้ครูและบุคลากรอื่นๆ ได้ ศึกษาท าความเข้าใจ อย่างสะดวกและเพียงพอ 1.3 จัดกิจกรรมให้ครูทั้งสองระดับมีโอกาสแลกเปลี่ยนเผยแพร่ความรู้ใหม่ๆ ที่ได้รับจากการอบรม ดูงาน ซึ่งไม่ควรจัดให้เฉพาะครูในระดับเดียวกันเท่านั้น 1.4 จัดเอกสารเผยแพร่ตลอดจนกิจกรรมสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ ระหว่างสถานศึกษา พ่อแม่ ผู้ปกครอง และบุคลากรทางการศึกษาอย่างสม่ าเสมอ 1.5 จัดให้มีการพบปะ หรือการท ากิจกรรมร่วมกับพ่อแม่ ผู้ปกครองอย่างสม่ าเสมอต่อเนื่อง ในระหว่างที่ เด็กอยู่ในระดับปฐมวัย เพื่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง จะได้สร้างความเข้าใจและสนับสนุนการเรียน การสอนของบุตร หลาน ตนได้อย่างถูกต้อง

44 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 1.6 จัดกิจกรรมให้ครูทั้งสองระดับได้ท ากิจกรรมร่วมกันกับพ่อแม่ ผู้ปกครองและเด็กในบางโอกาส 1.7 จัดกิจกรรมปฐมนิเทศพ่อแม่ ผู้ปกครองอย่างน้อย 2 ครั้ง คือ ก่อนเด็กเข้าเรียนระดับปฐมวัยศึกษา และก่อนเด็กจะเลื่อนขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เพื่อให้พ่อแม่ ผู้ปกครองเข้าใจ การศึกษาทั้งสองระดับและให้ความ ร่วมมือในการช่วยเด็กให้สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ได้ดี 2. ครูระดับปฐมวัย ครูระดับปฐมวัย นอกจากจะต้องศึกษาท าความเข้าใจหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย และจัด กิจกรรมพัฒนาเด็ก ของตนแล้ว ควรศึกษาหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน การจัดการเรียนการสอนในชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 และสร้าง ความเข้าใจให้กับพ่อแม่ ผู้ปกครองและบุคลากรอื่นๆ รวมทั้งช่วยเหลือเด็กใน การ ปรับตัวก่อนเลื่อนขึ้นชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 โดยครูอาจจัดกิจกรรมดังตัวอย่างต่อไปนี้ 2.1 เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตัวเด็กเป็นรายบุคคลเพื่อส่งต่อครูชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งจะท าให้ครู ระดับประถมศึกษาสามารถใช้ข้อมูลนั้นช่วยเหลือเด็กในการปรับตัวเข้ากับการเรียนรู้ใหม่ต่อไป 2.2 พูดคุยกับเด็กถึงประสบการณ์ที่ดีๆ เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เพื่อให้ เด็กเกิดเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ 2.3 จัดให้เด็กได้มีโอกาสท าความรู้จักกับครูตลอดจนสภาพแวดล้อม บรรยากาศของห้องเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ทั้งที่อยู่ในสถานศึกษาเดียวกันหรือสถานศึกษาอื่น 3. ครูระดับประถมศึกษา ครูระดับประถมศึกษาต้องมีความรู้ ความเข้าใจในพัฒนาการเด็กปฐมวัยและมีเจต คติที่ดีต่อการจัด ประสบการณ์ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยเพื่อนน ามาเป็นข้อมูลในการพัฒนาการจัดเรียนรู้ใน ระดับชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1 ของตนให้ต่อเนื่องกับการพัฒนาเด็กในระดับปฐมวัย ดังตัวอย่าง ต่อไปนี้ 3.1 จัดกิจกรรมให้เด็ก พ่อแม่ และผู้ปกครอง มีโอกาสได้ท าความรู้จักคุ้นเคยกับครูและห้องเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 ก่อนเปิดภาคเรียน 3.2 จัดสภาพห้องเรียนให้ใกล้เคียงกับห้องเรียนระดับปฐมวัย โดยจัดให้มีมุมประสบการณ์ภายในห้อง เพื่อให้เด็กได้มีโอกาสท ากิจกรรมได้อย่างอิสระเช่น มุมหนังสือ มุมของเล่น มุมเกมการศึกษา เพื่อช่วยให้เด็กชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 ได้ปรับตัวและเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง 3.3 จัดกิจกรรมร่วมกันกับเด็กในการสร้างข้อตกลงเกี่ยวกับการปฏิบัติตน 3.4 เผยแพร่ข่าวสารด้านการเรียนรู้และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเด็ก พ่อแม่ ผู้ปกครอง และชุมชน 4. พ่อแม่ ผู้ปกครองและบุคลากรทางการศึกษา พ่อแม่ ผู้ปกครอง และบุคลากรทางการศึกษาต้องท าความ เข้าใจหลักสูตรของการศึกษาทั้งสองระดับ และเข้าใจว่าถึงแม้เด็กจะอยู่ในระดับประถมศึกษาแล้วแต่เด็กยัง ต้องการความรักความเอาใจใส่ การดูแลและการปฏิสัมพันธ์ที่ไม่ได้แตกต่างไปจากระดับปฐมวัย และควรให้ความ ร่วมมือกับครูและสถานศึกษาในการช่วยเตรียมตัวเด็ก เพื่อให้เด็กสามารถปรับตัวได้เร็วยิ่งขึ้น การก ากับ ติดตาม ประเมิน และรายงานการจัดสถานศึกษาปฐมวัยมีลักการส าคัญในการให้สังคม ชุมชน มีส่วนร่วมในการจัด การศึกษาและกระจาย อ านาจการศึกษาลงไปยังท้องถิ่นโดยตรง โดยเฉพาะสถานศึกษาหรือสถานพัฒนาเด็ก ปฐมวัย ซึ่งเป็นผู้จัดการศึกษาใน ระดับนี้ ดังนั้น เพื่อให้ผลผลิตทางการศึกษาปฐมวัยมีคุณภาพตามมาตรฐาน คุณลักษณะที่พึงประสงค์และสอดคล้องกับความต้องการของชุมชนและสังคมจ าเป็นต้องมีระบบการก ากับ ติดตาม ประเมินและรายงานที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ ทุกกลุ่มทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมรับผิดชอบในการจัดการศึกษา เห็น ความก้าวหน้า ปัญหา อุปสรรค ตลอดจนการให้ความร่วมมือช่วยเหลือ ส่งเสริม สนับสนุน การวางแผน และ ด าเนินงานการจัดการศึกษาปฐมวัยให้มีคุณภาพอย่างแท้จริง การก ากับ ติดตาม ประเมินและรายงานผลการจัด การศึกษาปฐมวัยเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการบริหาร การศึกษาและระบบการประกันคุณภาพที่ต้องด าเนินการ อย่างต่อเนื่อง เพื่อน าไปสู่การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐาน การศึกษาปฐมวัย สร้างความมั่นใจให้ผู้เกี่ยวข้อง โดย ต้องมีการด าเนินการที่เป็นระบบเครือข่ายครอบคลุมทั้ง หน่วยงานภายในและภายนอกตั้งแต่ระดับชาติ เขตพื้นที่

45 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 ทุกระดับละทุกอาชีพ การก ากับดูแลประเมินผลต้องมีการ รายงานผลจากทุกระดับให้ทุกฝ่ายรวมทั้งประชาชน ทั่วไปทราบ เพื่อน าข้อมูลจากรายงานผลมาจัดท าแผนพัฒนา คุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาหรือสถานพัฒนา เด็กปฐมวัยต่อไป

46 รายงานการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านร่องปอ สพป. พะเยา เขต 1 ภำคผนวก