The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานประมาณการเศรษฐกิจจ.ปัตตานี ไตรมาส 2-66 ณ มิ.ย.66

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by joob20teeii, 2023-07-17 09:35:48

รายงานประมาณการเศรษฐกิจจ.ปัตตานี ไตรมาส 2-66 ณ มิ.ย.66

รายงานประมาณการเศรษฐกิจจ.ปัตตานี ไตรมาส 2-66 ณ มิ.ย.66

ส ำนักงำนคลังจังหวัดปัตตำนี ศำลำกลำงจังหวัดปัตตำนีถนนเดชำ ต.สะบำรัง อ.เมือง จ.ปัตตำนี รหัสไปรษณีย์ 94000 Tel. 0-7333-3006, 0-7334-9592 Facebook : ส ำนักงำนคลังจังหวัดปัตตำนี E-mail : ptn@cgd.go.th


ประมาณการเศรษฐกิจจังหวัดปัตตานี ปี 2566 บริการ + 4.9% อุตสาหกรรม + 1.9% เกษตร + 1.7% ส ำนักงำนคลังจังหวัดปัตตำนี Web : http://www.cgd.go.th/cs/ptn Tel : 0 7334 9592 0 7333 3006 ด้านการใช้จ่ายภาครัฐ ขยายตัว จากรายจ่ายประจ าและรายจ่ายลงทุน จากส่วนราชการที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณได้มีการก่อหนี้ผูกพันไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ด าเนินการเบิกจ่าย อาทิ หน่วยงานที่ได้รับงบประมาณจัดสรร ตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป มีการก่อหนี้ผูกพันไว้แล้ว คิดเป็นร้อยละ 38.76 การบริโภคภาคเอกชน ขยายตัว จากการฟื้นตัวของภาคบริการและ การท่องเที่ยว ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และมาตรการบรรเทาภาระ ค่าครองชีพแก่ประชาชนของรัฐ อาทิ โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 เป็นปัจจัยหนุนเพิ่มก าลังซื้อให้ประชาชน กระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย สินค้าอุปโภคบริโภคในร้านค้าปลีกและค้าส่งเพิ่มขึ้น การลงทุนภาคเอกชน ขยายตัว ตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ประกอบกับมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่ อาทิ โครงการให้ความช่วยเหลือ ทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (Soft Loan) โดย ปรับปรุงคุณสมบัติของผู้ขอรับสินเชื่อ โดยขยายความช่วยเหลือให้ผู้ที่เคยได้รับสินเชื่อ ของโครงการมาเกิน 5 ปี ให้สามารถเข้าร่วมโครงการฯ ได้ คาดว่าจะมีส่วนช่วยในการ ตัดสินใจลงทุนของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น ภาคการบริการ ขยายตัว จากการจัดกิจกรรมส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจ ของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนภายในจังหวัดอย่างต่อเนื่อง อาทิ งานแสดงสินค้า ศิลปวัฒนธรรมและงานประจ าปีจังหวัดปัตตานี วิถีใหม่ ประจ าปี 2566 และการ จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองเทศกาลวันฮารีรายออีดิ้ลอัฎฮา สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งไทยและต่างประเทศ อาทิ มาเลเซีย เดินทางมาท่องเที่ยวภายในจังหวัดเพิ่มขึ้น ภาคอุตสาหกรรม ขยายตัว จากความต้องการที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง และความต้องการบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้น จากการฟื้นตัวของ ภาคการท่องเที่ยว ภาคเกษตรกรรม ขยายตัว จากสภาพอากาศที่เอื้ออ านวย เกษตรกร เริ่มเข้าสู่ฤดูเปิดการกรีดยาง สามารถกรีดยางได้ตามปกติและความต้องการใช้ใน อุตสาหกรรมยานยนต์มีแนวโน้มขยายตัว ประเทศผู้ผลิตยางพารา อาทิ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย มีผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง ภาคการประมงทะเล หดตัว จากราคาสัตว์น้ าขึ้นท่าปรับตัวลดลง จากความต้องการอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูปหดตัว ผลจากการชะลอตัวของ เศรษฐกิจโลก ท าให้เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่ส าคัญชะลอตัว เสถียรภำพทำงเศรษฐกิจ คาดการณ์ ณ เดือน มิถุนายน 2566 อัตรำเงินเฟ้ อ + 0.4% กำรจ้ำงงำน + 14,050 คน รำยได้เกษตรกร -6.2% การใช้จ่ายภาครัฐ + 4.7% การบริโภคภาคเอกชน + 4.4% การลงทุนภาคเอกชน + 2.2% อุปทำน อุปสงค์ ส านักงานคลังจังหวัดปัตตานี กลุ่มงานนโยบายและเศรษฐกิจจังหวัด


รายงานประมาณการเศรษฐกิจจังหวัดปัตตานี ส านักงานคลังจังหวัดปัตตานี ศาลากลางจังหวัด ถ.เดชา ต.สะบารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี 94000 โทรศัพท์. 0 7334 9592 โทรสาร. 0 7334 9592 http: //klang.cgd.go.th/ptn/ ฉบับที่ 2/2566 วันที่30 มิถุนายน 2566 รายงานประมาณการเศรษฐกิจจังหวัดปัตตานีปี 2566 “เศรษฐกิจจังหวัดปัตตานีปี2566 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 4.3 ตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง” เศรษฐกิจจังหวัดปัตตานีในปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวในอัตราร้อยละ 4.3 ช่วงคาดการณ์อยู่ที่ ร้อยละ 3.8 – 4.8 ตามการขยายตัวจากภาคบริการ การใช้จ่ายภาครัฐ การบริโภคภาคเอกชน การลงทุน ภาคเอกชน การผลิตภาคอุตสาหกรรม และการผลิตภาคเกษตรกรรม เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ ด้านอุปทาน มีแนวโน้ม จากภาคบริการเป็นสำคัญ โดยคาดว่าจะขยายตัว จากการจัดกิจกรรมส่งเสริมและกระตุ้น เศรษฐกิจของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนภายในจังหวัดอย่างต่อเนื่อง อาทิงานแสดงสินค้า ศิลปวัฒนธรรม และงานประจำปีจังหวัดปัตตานี วิถีใหม่ ประจำปี 2566 งานมหกรรมท่องเที่ยววิถีประสบการณ์สัมผัส (Pattani Experience) กิจกรรมเทศกาลดนตรี Pattani Music Festival2023 "ดนตรีวิถีถิ่น กลิ่นอายมลายู" เป็นต้น และการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองเทศกาลวันฮารีรายออีดิ้ลอัฎฮาสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทย และ ต่างประเทศ อาทิ มาเลเซียเดินทางมาท่องเที่ยวภายในจังหวัดเพิ่มขึ้น การผลิตภาคอุตสาหกรรม คาดว่าจะ ขยายตัว จากความต้องการที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง และความต้องการบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้น จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว การผลิตภาคเกษตรกรรม คาดว่าจะขยายตัว จากสภาพอากาศที่ เอื้ออำนวย เกษตรกรเริ่มเข้าสู่ฤดูเปิดการกรีดยาง สามารถกรีดยางได้ตามปกติและความต้องการใช้ใน อุตสาหกรรมยานยนต์มีแนวโน้มขยายตัว ประเทศผู้ผลิตยางพารา อาทิ มาเลเซียและอินโดนีเซีย มีผลผลิต ออกสู่ตลาดลดลง ด้านอุปสงค์ภายในจังหวัด มีแนวโน้มขยายตัว โดยมีแรงขับเคลื่อนจากการใช้จ่ายภาครัฐ คาดว่าจะขยายตัว จากส่วนราชการที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณได้มีการก่อหนี้ผูกพันไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ ดำเนินการเบิกจ่าย เนื่องจากยังไม่ครบกำหนดตามสัญญาการก่อหนี้ผูกพัน อาทิหน่วยงานที่ได้รับงบประมาณ จัดสรรตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป มีการก่อหนี้ผูกพันไว้แล้ว คิดเป็นร้อยละ 38.76 ประกอบกับมาตรการ เร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณของส่วนราชการอย่างต่อเนื่องของจังหวัดคาดว่าในไตรมาสถัดไป จะมี การเบิกจ่ายงบรายจ่ายลงทุนเพิ่มขึ้น มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของจังหวัดเพิ่มขึ้น การบริโภค ภาคเอกชน คาดว่าจะขยายตัว จากการฟื้นตัวของภาคบริการและการท่องเที่ยว การจ้างงานที่ปรับตัวดีขึ้น จากจำนวนผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมของจังหวัดเพิ่มขึ้น ส่งผลให้รายได้และกำลังซื้อของครัวเรือน ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และมาตรการบรรเทาภาระค่าครองชีพแก่ประชาชน ของรัฐ อาทิ โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 เป็นปัจจัยหนุนเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชน ก ร ะ ตุ้ น ให้ เกิ ด ก า รจั บ จ่ าย ใช้ ส อ ยสิ น ค้ าอุ ป โภ ค บ ริ โภ ค ใน ร้ าน ค้ าป ลี ก แ ล ะ ค้ าส่ งเพิ่ ม ขึ้ น และการลงทุนภาคเอกชน คาดว่าจะขยายตัว คาดว่าขยายตัวตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว


-2- และมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 เห็นชอบปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการให้ความ ช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (Soft Loan) ซึ่งเป็นการทบทวน มติ ครม.เมื่อวันที่20 ธันวาคม 2565 โดยปรับปรุงคุณสมบัติของผู้ขอรับสินเชื่อ โดยขยายความช่วยเหลือให้ ผู้ที่เคยได้รับสินเชื่อของโครงการมาเกิน 5 ปี ให้สามารถเข้าร่วมโครงการฯ ได้ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้รายเดิมที่ เคยได้รับสินเชื่อมาแล้วเกิน 5 ปีให้มีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอเสริมสภาพคล่องในการลงทุน และดำเนินธุรกิจ ได้อย่างต่อเนื่อง คาดจะเป็นปัจจัยหนุนให้เกิดการลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้น ทำให้เม็ดเงินหมุนเวียน ในระบบเศรษฐกิจจังหวัดเพิ่มขึ้น เสถียรภาพเศรษฐกิจภายในจังหวัดปัตตานีอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2566 ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีปัจจัยสำคัญจากการลดลงของราคาค่ากระแสไฟฟ้าลดลงตามมาตรการ ช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับประชาชน รวมทั้งราคาน้ำมันเชื้อเพลิงลดลงตามสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ในตลาดโลก ส่งผลให้หมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มลดลงซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 26 เดือน นับจากเดือนมีนาคม 2564 ประกอบกับราคาสินค้า หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์สูงขึ้น ในอัตราที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีจากการลดลงของราคาเนื้อสุกร และน้ำมันพืช เป็นสำคัญ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มจะชะลอตัว เนื่องจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงยังมีแนวโน้มทรงตัว และ อยู่ระดับต่ำเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมทั้งราคาอาหารบางชนิดโดยเฉพาะเนื้อสัตว์ ที่คาดว่าจะลดลง ตามผลผลิตที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การประมาณการเศรษฐกิจมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ได้แก่ ความแปรปรวนของสภาพอากาศที่อาจส่งผลต่อปริมาณผลผลิตทางการเกษตรและประมง ผลผลิตยางพารา ราคายางพารา ความผันผวนของค่าเงินบาท การฟื้นตัวของประเทศคู่ค้า เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ราคาพลังงานที่ยังคงผันผวน ต้นทุนการผลิตที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ทั้ง ค่าไฟฟ้า ค่าจ้างแรงงาน และ อัตราดอกเบี้ย การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เศรษฐกิจปัตตานีในปี 2566 ด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เศรษฐกิจจังหวัดปัตตานีในปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวในอัตราร้อยละ 4.3 ช่วงคาดการณ์อยู่ที่ ร้อยละ 3.8 – 4.8 ตามการขยายตัวจากภาคบริการ การใช้จ่ายภาครัฐ การบริโภคภาคเอกชน การลงทุน ภาคเอกชน การผลิตภาคอุตสาหกรรม และการผลิตภาคเกษตรกรรม เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ ด้านอุปท าน มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 4.2 ช่วงคาดการณ์ อยู่ที่ร้อยละ 3.7 - 4.7 จากภาคบริการเป็นสำคัญ โดยคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 4.9 ช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 4.4 – 5.4 จากการ จัดกิจกรรมส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนภายในจังหวัดอย่างต่อเนื่อง อาทิ งานแสดงสินค้า ศิลปวัฒนธรรมและงานประจำปีจังหวัดปัตตานี วิถีใหม่ ประจำปี 2566 งานมหกรรม ท่องเที่ยววิถีประสบการณ์สัมผัส (Pattani Experience) กิจกรรมเทศกาลดนตรี Pattani Music Festival 2023 "ดนตรีวิถีถิ่น กลิ่นอายมลายู" เป็นต้น และการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองเทศกาลวันฮารีรายออีดิ้ลอัฎฮา สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทย และต่างประเทศ อาทิ มาเลเซีย เดินทางมาท่องเที่ยวภายในจังหวัดเพิ่มขึ้น การผลิตภาคอุตสาหกรรม คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 1.9 ช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 1.4 – 2.4 จากความต้องการที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง และความต้องการบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้น จากการฟื้นตัวของ


-3- ภาคการท่องเที่ยว การผลิตภาคเกษตรกรรม คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 1.7 ช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 1.2 – 2.2 จากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย เกษตรกรเริ่มเข้าสู่ฤดูเปิดการกรีดยาง สามารถกรีดยางได้ตามปกติ และความต้องการยางพาราใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์มีแนวโน้มขยายตัว ประเทศผู้ผลิตยางพารา อาทิ มาเลเซียและอินโดนีเซีย มีผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง ด้านอุปสงค์ ภายในจังหวัด มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 3.9 โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ ร้อยละ 3.4 – 4.4 โดยมีแรงขับเคลื่อนจากการใช้จ่ายภ าค รัฐ ค าดว่าจะขยายตัวร้อยล ะ 4.7 ช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 4.2 – 5.2 จากส่วนราชการที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณได้มีการก่อหนี้ ผูกพันไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ดำเนินการเบิกจ่าย เนื่องจากยังไม่ครบกำหนดตามสัญญาการก่อหนี้ผูกพัน อาทิ หน่วยงานที่ได้รับงบประมาณจัดสรรตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป มีการก่อหนี้ผูกพันไว้แล้ว คิดเป็น ร้อยละ 38.76 ประกอบกับมาตรการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณของส่วนราชการอย่างต่อเนื่องของจังหวัด คาดว่าในไตรมาสถัดไป จะมีการเบิกจ่ายงบรายจ่ายลงทุนเพิ่มขึ้น มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของ จังหวัดเพิ่มขึ้น การบริโภคภาคเอกชน คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 4.4 ช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 3.9 – 4.9 จากการฟื้นตัวของภาคบริการและการท่องเที่ยว การจ้างงานที่ปรับตัวดีขึ้นจากจำนวนผู้ประกันตนในระบบ ประกันสังคมของจังหวัดเพิ่มขึ้น ส่งผลให้รายได้และกำลังซื้อของครัวเรือนปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจ และมาตรการบรรเทาภาระค่าครองชีพแก่ประชาชนของรัฐ อาทิ โครงการลงทะเบียนเพื่อ สวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 เป็นปัจจัยหนุนเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชน กระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยสินค้า อุปโภคบริโภคในร้านค้าปลีกและค้าส่งเพิ่มขึ้น และการลงทุนภาคเอกชน คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.2 ช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 1.7 – 2.7 คาดว่าขยายตัวตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และมติของ คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 เห็นชอบปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการให้ความช่วยเหลือ ทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (Soft Loan) ซึ่งเป็นการทบทวนมติ ครม. เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2565 โดยปรับปรุงคุณสมบัติของผู้ขอรับสินเชื่อ โดยขยายความช่วยเหลือให้ผู้ที่เคย ได้รับสินเชื่อของโครงการมาเกิน 5 ปี ให้สามารถเข้าร่วมโครงการฯ ได้ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้รายเดิม ที่เคยได้รับสินเชื่อมาแล้วเกิน 5 ปีให้มีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอเสริมสภาพคล่องในการลงทุน และ ดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง คาดจะเป็นปัจจัยหนุนให้เกิดการลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้น ทำให้เม็ดเงิน หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจจังหวัดเพิ่มขึ้น เสถียรภาพเศรษฐกิจภายในจังหวัดปัตตานีอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2566 อยู่ที่ร้อยละ 0.4 ช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ -0.1 – 0.9 ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีปัจจัยสำคัญจากการลดลงของ ราคาค่ากระแสไฟฟ้า ตามมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับประชาชน รวมทั้งราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ลดลงตามสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลก ส่งผลให้หมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มลดลง ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 26 เดือน นับจากเดือนมีนาคม 2564 ประกอบกับราคาสินค้า หมวดอาหาร และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์สูงขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีจากการลดลงของราคา เนื้อสุกร และน้ำมันพืช เป็นสำคัญ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มจะชะลอตัว เนื่องจากราคาน้ำมัน เชื้อเพลิงยังมีแนวโน้มทรงตัว และอยู่ระดับต่ำเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมทั้งราคาอาหารบางชนิด โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ที่คาดว่าจะลดลง ตามผลผลิตที่เพิ่มขึ้น


-4- 1. ความเสี่ยงจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดน ภาคใต้ยังเป็นปัญหาที่สำคัญ ซึ่งส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในจังหวัด เนื่องจากปัจจัยความรุนแรง ที่เกิดขึ้นทำให้นักลงทุนจากนอกพื้นที่ไม่กล้าเข้ามาลงทุน เพราะหวั่นเกรงปัญหาเรื่องความไม่ปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน แม้ว่าปัจจุบันรัฐบาลจะพยายามมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นพิเศษ แต่นักลงทุนใหม่ที่เข้ามาน้อยมาก ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการ ขาดความเชื่อมั่น การเลิกกิจการอย่างต่อเนื่อง เกิดปัญหาการว่างงานสูง ธุรกิจบางส่วนขาดแคลนแรงงาน เพราะแรงงานในพื้นที่ไม่เพียงพอ ต้องอาศัยแรงงานต่างถิ่นและแรงงานต่างด้าว 2. ราคาสินค้าเกษตร ราคาสินค้าเกษตรโดยเฉพาะยางพาราที่ราคาปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้ลดลง 3. ความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ ปรากฏการณ์เอลนีโญที่เกิดขึ้นอาจส่งผลให้ฝนตกน้อย อากาศร้อน ส่งผลต่อปริมาณผลผลิตทางการเกษตรและประมงในพื้นที่ อาทิ ปริมาณผลผลิตยางพารา 4. ความผันผวนของระบบเศรษฐกิจการเงินโลก ทำให้เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่สำคัญชะลอตัวลง ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรของจังหวัด 5. ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย จากหนี้สินภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และความเชื่อมั่น ผู้บริโภคที่ปรับลดลงจากความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจ 6. การลงทุนภาครัฐ ที่ชะลอตัวจากการเปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลใหม่ 7. 1. การจัดกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดปัตตานีทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เป็นการ กระตุ้นเศรษฐกิจให้ผู้ผลิตสินค้าบริโภค อุปโภค บริการ และการท่องเที่ยว สร้างรายได้จากสินค้าและบริการ ในพื้นที่เพิ่มขึ้น 2. มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อาทิ โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 เป็นปัจจัยหนุนเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชน กระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยสินค้าอุปโภคบริโภคในร้านค้าปลีก และค้าส่งเพิ่มขึ้น กระจายรายได้สู่ผู้ประกอบการในพื้นที่ ถือเป็นเศรษฐกิจฐานรากที่สำคัญของจังหวัด 3. การใช้จ่ายภาครัฐ การเบิกจ่ายเงินงบประมาณของส่วนราชการผ่านมาตรเร่งรัดการเบิกจ่ายของ จังหวัดปัตตานี ทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น 4. มาตรการส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ อาทิ โครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน แก่ผู้ประกอบกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (Soft Loan) โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) Re-Open ธุรกิจโรงแรมและ Supply Chain กระตุ้นและจูงใจให้นักลงทุนในพื้นที่และนอกพื้นที่ลงทุนเพิ่มขึ้น 8. ปัจจัยสนับสนุนที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจจังหวัดปัตตานี ปัจจัยเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจังหวัดปัตตานี


-5- ตารางสรุปสมมติฐานและผลการประมาณการเศรษฐกิจจังหวัดปัตตานี ปี 2566 (ณ เดือนมิถุนายน 2566) เฉลี่ย ชว่ง สมมติฐานหลัก สมมติฐานภายนอก 1) ปริมาณยางพารา (ปรับฤดกูาล) (ร้อยละตอ่ ปี) -35.2 29.8 -5.3 1.6 1.1-2.1 2) ปริมาณสัตว์น้้าขนึ้ท่า (ปรับฤดกูาล) (ร้อยละตอ่ ปี) -1.3 -16.0 -17.3 2.1 1.6-2.6 3) ราคายางพารา (เฉลยี่ ) (บาทตอ่ก.ก.) 40.3 49.1 50.1 45.4 45.1-45.6 4) ราคาสัตว์น้้าขนึ้ท่า (บาทตอ่กก.) 47.0 55.6 55.0 53.8 53.5-59.4 5) ปริมาณการใช้ไฟฟ้าในโรงงาน (ร้อยละตอ่ ปี) -1.0 3.0 2.4 2.0 1.5-2.5 6) จ้านวนโรงงานในจังหวัด(โรง) 210 197 174 178 177-179 7) ทุนจดทะเบียนของรง.อุตสาหกรรม (ร้อยละตอ่ ปี) 3.4 1.9 0.6 1.7 1.2-2.2 8) จ้านวนนักท่องเทยี่ว (ปรับฤดกูาล) (ร้อยละตอ่ ปี) -1.4 -70.6 206.6 8.3 7.8-8.8 9) รายไดข้องกิจการโรงแรม (ร้อยละตอ่ ปี) 14.1 -65.7 157.9 7.2 6.7-7.7 10) ยอดขายสินคา้ของร้านคา้ปลีก (ร้อยละตอ่ ปี) 142.3 -21.2 -16.4 6.5 6-7 11) ภาษีมูลคา่เพิ่มประเภทกิจการคา้ส่งคา้ปลีก(ร้อยละตอ่ ปี) 50.8 16.1 -16.4 4.9 4.4-5.4 12) รถยนตจ์ดทะเบียนใหม่ (คนั) 1,664 1,568 1,691 1,738 1,729-1,746 13) รถจักรยานยนตจ์ดทะเบียนใหม่ (คนั) 20,012 17,849 19,317 20,148 20,051-20,244 14) ทุนจดทะเบียนธุรกิจนิตบิุคคลใหม่ (ล้านบาท) 17.1 12.8 20.4 20.9 20.8-21 15) เงินลงทุนเพื่อการก่อสร้าง (ล้านบาท) 106.3 146.4 157.9 161.4 160.6-162.2 15) เงินลงทุนเพื่อการก่อสร้าง (ร้อยละ) -8.9 37.8 7.9 2.2 1.7-2.7 สมมติฐานด้านนโยบาย 16) รายจ่ายประจ้ารัฐบาลกลาง (ล้านบาท) 533.8 547.1 543.4 568.7 566-571.4 (ร้อยละตอ่ ปี) 9.5 2.5 -0.7 4.7 4.2-5.2 17) รายจ่ายลงทุนรัฐบาลกลาง (ล้านบาท) 275.6 355.7 335.8 352.1 350.4-353.8 (ร้อยละตอ่ ปี) 5.1 29.1 -5.6 4.9 4.4-5.4 ผลการประมาณการ 1) อัตราการขยายตวัทางเศรษฐกิจ (ร้อยละตอ่ ปี) 13.8 -1.9 -4.1 4.3 3.8-4.8 2) อัตราการขยายตวัของภาคเกษตรกรรม (ร้อยละตอ่ ปี) -24.2 10.1 -9.1 1.7 1.2-2.2 3) อัตราการขยายตวัของภาคอุตสาหกรรม (ร้อยละตอ่ ปี) -15.1 4.3 8.6 1.9 1.4-2.4 4) อัตราการขยายตวัของภาคบริการ (ร้อยละตอ่ ปี) 28.0 -7.0 -4.2 4.9 4.4-5.4 5) อัตราการขยายตวัของการบริโภคภาคเอกชน (ร้อยละตอ่ ปี) 22.9 8.0 -8.7 4.4 3.9-4.9 6) อัตราการขยายตวัของการลงทุนภาคเอกชน (ร้อยละตอ่ ปี) -4.9 28.1 12.1 2.2 1.7-2.7 7) อัตราการขยายตวัของรายไดเ้กษตรกร (ร้อยละตอ่ ปี) -21.9 33.0 -7.8 -6.2 -7.1--3.3 8) อัตราเงินเฟ้อ (ร้อยละตอ่ ปี) -1.4 -1.9 2.9 0.4 -0.1-0.9 9) จ้านวนผมู้ีงานท้า (คน) 300,317 305,331 338,734 352,784 351,158-354,410 เปลยี่นแปลง (คน) 1,452 5,014 33,403 14,050 12,424-15,676 2563 2564 2566f 2565


-6- สมมติฐานหลักในการประมาณการเศรษฐกิจในปี 2566 1.ด้ าน อุป ท าน ในปี 2566 ค าดว่ าจะข ย ายตั วร้อ ย ล ะ 4.2 เป็ น ผ ลม าจ ากกา รผ ลิต ภาคบริการ ภาคอุตสาหกรรม และภาคเกษตรกรรม ขยายตัวร้อยละ 4.9 1.9 และ 1.7 โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.1 ป ริมาณ ผลผลิตยางพ ารา คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบกับปี2565 จากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย เกษตรกรเริ่มเข้าสู่ฤดูเปิดการกรีดยาง สามารถกรีดยางได้ ตามปกติและเพิ่มจำนวนวันกรีดยาง ส่งผลให้ผลผลิตออกสู่ตลาดได้เพิ่มขึ้น ปรับคาดการณ์ปริมาณยางพาราเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2566


-7- 1.2 ปริมาณผลผลิตสัตว์น้ำขึ้นท่า คาดว่าในปี 2566 จะขยายตัวในอัตราร้อยละ 2.1 เมื่อเทียบ กับปีก่อน จากการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำของภาครัฐ และ ภาคเอกชนให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน ประกอบกับสภาพอากาศ ที่เอื้ออำนวย เรือประมงสามารถออกหาปลาได้เพิ่มขึ้น ปรับคาดการณ์ปริมาณสัตว์น้ำขึ้นท่าเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2566


-8- 1.3 จำนวนโรงงานอุตสาหกรรม คาดว่าจะขยายตัวเล็กน้อยจากปี 2565 โดยคาดว่าสิ้นปี 2566 จะมีโรงงานรวมทั้งหมดจำนวน 178 โรง ลดลงจากไตรมาสก่อน จากสถานการณ์การชะลอตัว ของเศรษฐกิจโลก ทำให้เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่สำคัญชะลอตัว ประกอบกับต้นทุนการผลิต ยังอยู่ในระดับสูง อาทิค่าไฟฟ้า ค่าจ้างแรงงาน และต้นทุนดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ประกอบการชะลอการลงทุน หมายเหตุ : จำนวนโรงงานอุตสาหกรรมมีการปรับการนับเกณฑ์จำนวนโรงงานใหม่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 1.4 ปริมาณการใช้ไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรม ขยายตัวร้อยละ 2.0 ลดลงจากปี 2565 จาก ความต้องการอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูปหดตัว ผลจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่สำคัญชะลอตัว ปรับคาดการณ์จำนวนโรงงานอุตสาหกรรมลดลง เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2566 ปรับคาดการณ์ปริมาณการใช้ไฟฟ้าในโรงงานลดลง เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2566


-9- 1.5 จำนวนนักท่องเที่ยว คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 8.3 จากการจัดกิจกรรมส่งเสริมและกระตุ้น เศรษ ฐกิจขอ งห น่ วย งาน ภ าครัฐและเอก ชน ภ าย ใน จังห วัดอ ย่างต่ อเนื่ อ ง อาทิ งานแสดงสินค้า ศิลปวัฒนธรรมและงานประจำปีจังหวัดปัตตานี วิถีใหม่ ประจำปี 2566 งานมหกรรมท่องเที่ยววิถีประสบการณ์สัมผัส (Pattani Experience) กิจกรรมเทศกาลดนตรี Pattani Music Festival 2023 "ดนตรีวิถีถิ่น กลิ่นอายมลายู" เป็นต้น และการจัดกิจกรรม เฉลิมฉลองเทศกาลวันฮารีรายออีดิ้ลอัฎฮา สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทย และต่างประเทศ จากมาเลเซีย เดินทางมาท่องเที่ยวภายในจังหวัดเพิ่มขึ้น 1.6 ยอดขายสินค้าของร้านค้าปลีก คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 6.5 จากมาตรการบรรเทา ภาระค่าครองชีพแก่ประชาชนของรัฐ อาทิ โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 การต่ออายุมาตรการช่วยเหลือค่ากระแสไฟฟ้าให้กับผู้ใช้ไฟฟ้า 1 - 300 หน่วยต่อเดือน การให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า 150 บาทต่อครัวเรือน สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้า ไม่เกิน 500 หน่วย การปรับลดค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (Ft) รอบเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2566 และการ ปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลงอีก50 สตางค์ต่อลิตร ส่งผลให้ราคาขายปลีกดีเซลอยู่ที่ 32 บาทต่อลิตร ช่วยประคับประคองค่าครองชีพประชาชน และพยุงกำลังซื้อของประชาชน ก่อให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยสินค้าอุปโภคบริโภคในร้านค้าปลีกและค้าส่งเพิ่มขึ้น ปรับคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2566


-10- 2. ด้านอุปสงค์ คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.9 ในปี 2566 โดยเป็นผลมาจากการใช้จ่ายภาครัฐบาล การบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนภาคเอกชน ขยายตัวร้อยละ 4.7 4.4 และ 2.2 ตามลำดับ โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 2.1 ภาษีมูลค่าเพิ่มประเภทกิจการค้าส่งค้าปลีก ขยายตัวร้อยละ 4.9 จากปีก่อน คาดว่าจะ จัดเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น จากราคาสินค้า หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่ชะลอตัว อย่างต่อเนื่อง ตามการลดลงของราคาเนื้อสุกร และน้ำมันพืช ประกอบกับมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจ และมาตรการบรรเทาภาระค่าครองชีพแก่ประชาชนของรัฐ อาทิ โครงการ ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 เป็นปัจจัยหนุนเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชน กระตุ้น ให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยสินค้าอุปโภคบริโภคในร้านค้าปลีกและค้าส่งเพิ่มขึ้น ยอดขายสินค้าของร้านค้าปลีก ปรับคาดการณ์ยอดขายสินค้าของร้านค้าปลีกเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2566 ปรับคาดการณ์ภาษีมูลค่าเพิ่มค้าส่งค้าปลีกลดลง เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2566


-11- 2.2 จำนวนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ คาดว่า ในปี 2566 จะมีจำนวนรถยนต์ นั่งส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ จำนวน 1,738 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนปี 2565 จากการฟื้นตัว ของภาคการท่องเที่ยว ช่วยหนุนความต้องการรถเพื่อการพาณิชย์ และผู้ประกอบการมีแผน เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่เพื่อกระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าตอบรับนโยบาย อุดหนุนของภาครัฐ ตามมาตรการสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และนโนบายต่างๆ เพื่อสนับสนุนประชาชนให้มาใช้รถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เช่น การลดภาษีประจำปีสำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่เป็นรถใหม่สำเร็จรูป จากโรงงานและนำมาจดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 โดยให้ลดภาษีลงร้อยละ 80 จากอัตราที่กำหนด 2.3 จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ คาดว่า ในปี 2566 จำนวนรถจักรยานยนต์ จดทะเบียนใหม่จะมีทั้งหมด จำนวน 20,148 คัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนปี 2565 จากความนิยมยานยนต์ไฟฟ้าที่มีมากขึ้น และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจากภาคการ บริการและการท่องเที่ยว รายได้ภาคครัวเรือนปรับตัวดีขึ้น ปรับคาดการณ์จำนวนรถยนต์จดทะเบียนใหม่ลดลง เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2566


-12- 2.4 เงินลงทุนเพื่อการก่อสร้าง คาดว่าในปี 2566 เงินลงทุนเพื่อการก่อสร้างขยายตัวลดลง จากปี 2565 ร้อยละ 2.2 จากการสูงขึ้นองราคาสินค้าหมวดไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ หมวดซีเมนต์ หมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีต และหมวดวัสดุฉาบผิว ประกอบกับต้นทุนการผลิตที่ยังอยู่ใน ระดับสูงกว่าปีก่อน ทั้งค่าแรงงาน ค่ากระแสไฟฟ้า และต้นทุนดอกเบี้ยเงินกู้ที่ปรับตัวสูงขึ้น ตามทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อย่างต่อเนื่อง และจากการประชุมครั้งที่ 3/2566 เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 คณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 1.75 เป็นร้อยละ 2.00 ต่อปี คาดเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ผู้ประกอบการ ชะลอการลงทุน ปรับคาดการณ์เงินลงทุนเพื่อการก่อสร้างลดลง เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2566 ปรับคาดการณ์รถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2566


-13- 2.5 การใช้จ่ายของภาครัฐ คาดว่าจะขยายตัวจากรายจ่ายประจำ ขยายตัวร้อยละ 4.7 เมื่อกับปีก่อน จากการเบิกจ่ายเงินจากรายการผลผลิตการจัดบริการสาธารณะของเทศบาล เมืองปัตตานีและรายจ่ายลงทุน คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 4.9 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากส่วนราชการที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณได้มีการก่อหนี้ผูกพันไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ ดำเนินการเบิกจ่าย เนื่องจากยังไม่ครบกำหนดตามสัญญาการก่อหนี้ผูกพัน อาทิ หน่วยงาน ที่ได้รับงบประมาณจัดสรรตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป มีการก่อหนี้ผูกพันไว้แล้ว คิดเป็น ร้อยละ 38.76 และหน่วยงานที่มีรายจ่ายลงทุนวงเงินตั้งแต่ 10 ล้าน ถึง 100 ล้านบาท มีการก่อหนี้ผูกพันไว้แล้ว คิดเป็นร้อยละ 32.94 ทั้งนี้ มาตรการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณ ของส่วนราชการอย่างต่อเนื่องของจังหวัด คาดว่าในไตรมาสถัดไปจะมีการเบิกจ่ายงบรายจ่าย ลงทุนเพิ่มขึ้น ปรับคาดการณ์รายจ่ายประจำเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2566 ปรับคาดการณ์รายจ่ายลงทุนเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2566


-14- ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 กำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณภาพรวมไว้ที่ ร้อยละ 93.00 ของวงเงินงบป ระมาณ ในภ าพ รวม และเป้ าหมายการเบิกจ่ายงบลงทุนไว้ที่ ร้อยละ 75.00 ของวงเงินงบประมาณงบลงทุน และมีเป้าหมายการเบิกจ่ายรายไตรมาสประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ดังนี้ เป้าหมายการเบิกจ่าย ภาพรวม (ร้อยละ) งบรายจ่ายประจำ (ร้อยละ) งบลงทุน (ร้อยละ) ไตรมาส 1 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 32.00 35.00 19.00 ไตรมาส 2 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 52.00 55.00 39.00 ไตรมาส 3 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 75.00 80.00 57.00 ไตรมาส 4 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 93.00 98.00 75.00 สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไตรมาสที่ 3 รายจ่ายรัฐบาล คาดว่าจะสามารถเบิกจ่าย งบประมาณภาพรวม คิดเป็นอัตราการเบิกจ่ายร้อยละ 65.06 ของวงเงินงบประมาณในภาพรวม สำหรับรายจ่ายลงทุนสามารถเบิกจ่ายและก่อหนี้ได้ทันร้อยละ 37.96 ของวงเงินงบประมาณ งบลงทุน ทั้งนี้ เป็นผลจากมาตรการการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายเงินงบประมาณของภาครัฐ ตารางผลการเบิกจ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 รายการ งบประมาณ จัดสรร ผลการเบิกจ่าย สะสมตั้งแต่ต้นปี งปม.จนถึงเดือน พ.ค.66 ร้อยละ การ เบิกจ่าย ผลการ คาดการณ์ เบิกจ่ายปี งปม. 2566 คาดการณ์ ร้อยละการ เบิกจ่าย เป้าหมายการ เบิกจ่าย ไตรมาสที่ 3 สูงกว่า / ต่ำกว่า เป้าหมาย 1. งบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 1.1 รายจ่ายประจำ 5,390.19 4,358.87 80.87 5,282.39 98.00 80.00 1.2 รายจ่ายลงทุน 3,142.14 1,192.63 37.96 2,358.61 75.00 57.00 รายจ่ายภาพรวม 8,532.33 5,551.50 65.06 7,934.17 93.00 75.00 2. งบประมาณเหลื่อมปี 1,501.20 1,195.12 79.61 2.1 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 1,501.20 1,195.12 79.61 2.2 ก่อนปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 0.00 0.00 0.00 ที่มา : รายงาน MIS จากระบบบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ (GFMIS) ข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2566


-15- กราฟผลการเบิกจ่ายงบประมาณภาพรวม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เทียบกับเป้าหมายการเบิกจ่าย ประจำเดือนพฤษภาคม 2566 ที่มา : รายงาน MIS จากระบบบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ (New GFMIS Thai) กราฟผลการเบิกจ่ายงบประมาณงบลงทุน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เทียบกับเป้าหมายการเบิกจ่าย ประจำเดือนพฤษภาคม 2566 ที่มา : รายงาน MIS จากระบบบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ (New GFMIS Thai) 18.00 22.25 32.13 40.88 47.10 54.38 59.22 65.06 32 52 75 93 0 20 40 60 80 100 ร้อยละ ผลการเบิกจ่าย เป้าหมาย 1.19 3.61 5.70 8.88 13.15 24.30 30.37 37.96 19 39 57 75 0 20 40 60 80 100 ร้อยละ ผลการเบิกจ่าย เป้าหมาย


-16- 3. ด้าน รายได้เกษตรกร คาดว่าจะหดตัวจากปีก่อนร้อยละ -6.2 จากราคายางพาราลดลง ตามอุปสงค์ที่ชะลอตัวของประเทศคู่ค้าหลักจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ประกอบกับ ต้นทุนการผลิตที่ยังคงอยู่ในระดับสูง อาทิ ค่าไฟฟ้า ค่าจ้างแรงงาน และต้นทุนดอกเบี้ยที่ปรับขึ้น อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้สุทธิของเกษตรกรหดตัว 3.1 ราคายางพาราเฉลี่ยในปี 2566 คาดว่าจะหดตัวจากปี 2565 โดยในปีนี้ราคาเฉลี่ย จะอยู่ที่ 45.4 บาทต่อกิโลกรัม จากปริมาณการผลิตถุงมือยาง คาดการณ์ว่าจะยังคงชะลอตัว ต่อเนื่อง จากความต้องการถุงมือยางในตลาดโลกที่ปรับลดลงจากในช่วงปีที่ผ่านมา 3.2 ราค าสัตว์น้ ำขึ้นท่ าในปี 2566 คาดว่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 53.8 บาทต่อกิโลกรัม ลดลงจากปี2565 จากความต้องการอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูปหดตัว ผลจาก การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่สำคัญชะลอตัว ปรับคาดการณ์ราคาสัตว์น้ำขึ้นท่าลดลงเมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2566 ปรับคาดการณ์ราคายางเฉลี่ยลดลง เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2566


-17- 4. ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจในจังหวัดปัตตานี ในปี 2566 คาดว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ ร้อยละ 0.4 ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยมีปัจจัยสำคัญจากการลดลงของราคาค่ากระแสไฟฟ้า ตามมาตรการ ช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับประชาชน รวมทั้งราคาน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง ตามสถานการณ์ราคาน้ำมัน เชื้อเพลิงในตลาดโลก ส่งผลให้หมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มลดลง ซึ่งเป็นการลดลง ครั้งแรกในรอบ 26 เดือน นับจากเดือนมีนาคม 2564 ประกอบกับราคาสินค้า หมวดอาหารและ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์สูงขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีจากการลดลงของราคา เนื้อสุกร และน้ำมันพืช เป็นสำคัญ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มจะชะลอตัว เนื่องจากราคา น้ำมันเชื้อเพลิงยังมีแนวโน้มทรงตัว และอยู่ระดับต่ำเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมทั้งราคา อาหารบางชนิดโดยเฉพาะเนื้อสัตว์ที่คาดว่าจะลดลงตามผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ปรับคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อลดลง เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2566


-18- 5. การจ้างงาน ในปี 2566 คาดว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 14,050 คน จากจำนวนผู้ประกันตน ในระบบประกันสังคมของจังหวัดเพิ่มขึ้น เป็นผลจากการจ้างงานในธุรกิจร้านอาหาร โรงแรมและ สถานบริการ และภาคเกษตรเพิ่มขึ้น โดย ณ สิ้นปีพ.ศ. 2566 คาดจะมีจำนวนผู้มีงานทำ ประมาณ 352,784 คน ปรับคาดการณ์จำนวนผู้มีงานทำเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2566


-19- ตารางสรุปภาพรวมเศรษฐกิจและแนวโน้มของจังหวัดปัตตานี ที่มา: กลุ่มงานนโยบายและเศรษฐกิจจังหวัด สำนักงานคลังจังหวัดปัตตานี Indicators Unit 2563 2564 2565 2566f Min Con sensus Max Economic Growth GPP current prices Million Baht 48,467 50,600 53,063 55,125 55,655 56,186 %yoy -3.0 4.4 4.9 3.9 4.9 5.9 GPP constant price: 1988 Million Baht 31,345 32,014 30,716 31,889 32,043 32,196 %yoy -4.6 2.1 -4.1 3.8 4.3 4.8 Population Person 645,687 647,638 648,286 648,610 648,935 649,259 %yoy 0.7 0.6 0.1 0.05 0.10 0.15 GPP per capita Baht/person/year 75,062 78,131 81,851 84,989 85,764 86,539 Supply Side %yoy 14.4 -4.1 -4.5 3.7 4.2 4.7 Agriculture (API) %yoy -24.2 10.1 -9.1 1.2 1.7 2.2 Industry (IPI) %yoy -15.1 4.3 8.6 1.4 1.9 2.4 Service (SI) %yoy 28.0 -7.0 -4.2 4.4 4.9 5.4 Demand Side %yoy 10.2 13.7 -1.3 3.4 3.9 4.4 Private Consumption (Cp) %yoy 22.9 8.0 -8.7 3.9 4.4 4.9 Private Investment (Ip) %yoy -4.9 28.1 12.1 1.7 2.2 2.7 Government Expenditure (G) %yoy 7.9 11.6 -2.6 4.2 4.7 5.2 Farm Income %yoy -21.9 33.0 -7.8 -7.1 -6.2 -3.3 average rubber prices บาท/กก. 40.3 49.1 50.1 45.1 45.4 45.6 Inflation rate %p.a. -1.4 -1.9 2.9 -0.1 0.4 0.9 GPP Deflator %yoy -1.7 1.7 8.9 0.1 0.6 1.1 Employment Person 300,317 305,331 338,734 351,158 352,784 354,410 %yoy 1,452 5,014 33,403 12,424 14,050 15,676


-20- คำนิยามตัวแปรและการคำนวณในแบบจำลองเศรษฐกิจจังหวัดปัตตานี GPP constant price ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด ณ ราคาปีฐาน GPP current prices ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด ณ ราคาปีปัจจุบัน GPPS ดัชนีผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด ณ ราคาปีฐาน ด้านอุปทาน GPPD ดัชนีผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด ณ ราคาปีฐาน ด้านอุปสงค์ API ดัชนีปริมาณผลผลิตภาคเกษตร IPI ดัชนีปริมาณผลผลิตภาคอุตสาหกรรม SI ดัชนีปริมาณผลผลิตภาคบริการ Cp Index ดัชนีการบริโภคภาคเอกชน Ip Index ดัชนีการลงทุนภาคเอกชน G Index ดัชนีการใช้จ่ายภาครัฐบาล GPP Deflator ระดับราคาเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดปัตตานี CPI ดัชนีราคาผู้บริโภคจังหวัดปัตตานี PPI ดัชนีราคาผู้ผลิตระดับประเทศ Inflation rate อัตราเงินเฟ้อจังหวัดปัตตานี Farm Income Index ดัชนีรายได้เกษตรกร Population จำนวนประชากรของจังหวัดปัตตานี Employment จำนวนผู้มีงานทำของจังหวัดปัตตานี %yoy อัตราการเปลี่ยนแปลงเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน Base year ปีฐาน (2548 = 100) การคำนวณดัชนี ดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจด้านอุปทาน(Supply Side หรือ Production Side:GPPS) ประกอบไปด้วยดัชนี 3 ด้าน ได้แก่ - ดัชนีปริมาณผลผลิตภาคเกษตร - ดัชนีปริมาณผลผลิตภาคอุตสาหกรรม - ดัชนีปริมาณผลผลิตภาคบริการ การกำหนดน้ำหนักของแต่ละองค์ประกอบของดัชนี โดยหาสัดส่วนจากมูลค่าเพิ่มราคาปีปัจจุบันของ เครื่องชี้เศรษฐกิจภาคเกษตรกรรม (สาขาเกษตร + สาขาประมง) เครื่องชี้เศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรม (สาขาเหมืองแร่อุตสาหกรรมและสาขาไฟฟ้า) และเครื่องชี้เศรษฐกิจภาคบริการ (11 สาขาตั้งแต่สาขาก่อสร้าง ถึงสาขาลูกจ้างในครัวเรือน) จากข้อมูลGPP ของสศช. เทียบกับGPP รวมราคาปีปัจจุบันของสศช.


-21- ดัชนีผลผลิตภาคเกษตรกรรมจังหวัด (Agriculture Production Index: API (Q)) จัดทำขึ้นเพื่อใช้ติดตามภาวะการผลิตภาคเกษตรกรรมของจังหวัด เป็นรายเดือน ซึ่งจะล่าช้าประมาณ 1เดือนครึ่ง (45 วัน) การคำนวณ API (Q) ได้กำหนดปีฐาน 2548 โดยคำนวณจากเครื่องชี้ผลผลิตภาคเกษตรกรรมของ จังหวัดรายเดือน ประกอบด้วยเครื่องชี้หลัก5 ตัว คือ (1) ปริมาณสัตว์น้ำขึ้นท่า (2) ปริมาณยางพารา (3) ปริมาณอาชญาบัตรโค (4) ปริมาณอาชญาบัตรสุกร (5) ปริมาณอาชญาบัตรไก่เนื้อ การกำหนดน้ำหนักขององค์ประกอบในการจัดทำ API(Q) ให้น้ำหนักของเครื่องชี้จากสัดส่วนมูลค่าเพิ่ม ของเครื่องชี้ ณ ราคาปีปัจจุบัน กับ GPP แบบ Bottom up ณ ราคาปีปัจจุบันภาคเกษตรกรรม (สาขาเกษตร และสาขาประมง) โดยมีข้อมูล API(Q) อนุกรมเวลาย้อนหลังไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 เป็นต้นมา ดัชนีราคาผลผลิตภาคเกษตรกรรมจังหวัด (Agriculture Price Index: API (P)) จัดทำขึ้นเพื่อใช้ติดตามภาวะราคาผลผลิตภาคเกษตรกรรมของจังหวัด เป็นรายเดือน ซึ่งจะล่าช้า ประมาณ 1เดือนครึ่ง (45 วัน) การคำนวณ API(P) ได้กำหนดปีฐาน 2548 โดยคำนวณจากเครื่องชี้ราคาผลผลิตภาคเกษตรกรรม ของจังหวัดรายเดือน ประกอบด้วยเครื่องชี้หลัก5 ตัว คือ (1) ราคาสัตว์น้ำขึ้นท่า (2) ราคายางพารา (3) ราคาโค (4) ราคาสุกร (5) ราคาไก่เนื้อ การกำหนดน้ำหนักขององค์ประกอบในการจัดทำ API(P) ให้น้ำหนักของเครื่องชี้จากสัดส่วนมูลค่าเพิ่ม ของเครื่องชี้ ณ ราคาปีปัจจุบัน กับ GPP แบบ Bottom up ณ ราคาปีปัจจุบันภาคเกษตรกรรม (สาขาเกษตร และสาขาประมง) โดยมีข้อมูล API(P) อนุกรมเวลาย้อนหลังไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 เป็นต้นมา


-22- ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจังหวัด (Industrial Production Index: IPI) จัดทำขึ้นเพื่อใช้ติดตามภาวะการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจังหวัด เป็นรายเดือน ซึ่งจะล่าช้าประมาณ 1เดือนครึ่ง (45 วัน) การคำนวณ IPI ได้กำหนดปีฐาน 2548 โดยคำนวณจากเครื่องชี้ผลผลิตอุตสาหกรรมของจังหวัด รายเดือน ประกอบด้วยองค์ประกอบทั้งสิ้น 4 ตัว คือ (1) ปริมาณการใช้ไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรม (2) จำนวนโรงงานในจังหวัด (3) ทุนจดทะเบียนของโรงงานอุตสาหกรรม (4) ภาษีมูลค่าเพิ่มตามประเภทกิจการอุตสาหกรรม การกำหนดน้ำหนักขององค์ประกอบในการจัดทำ IPI ให้น้ำหนักของเครื่องชี้จากหาความสัมพันธ์ Correlation ระหว่าง เครื่องชี้เศรษฐกิจผลผลิตอุตสาหกรรมรายปี กับ GPP (สศช.) ณ ราคาคงที่ ภาคอุตสาหกรรม (สาขาเหมืองแร่ สาขาอุตสาหกรรม และสาขาไฟฟ้า) โดยมีข้อมูล IPI อนุกรมเวลาย้อนหลังไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 เป็นต้นมา ดัชนีผลผลิตภาคบริการจังหวัด (Service Index: SI) จัดทำขึ้นเพื่อใช้ติดตามภาวะการผลิตภาคบริการของจังหวัด เป็นรายเดือน ซึ่งจะล่าช้าประมาณ เดือนครึ่ง (45 วัน) การคำนวณ SI ได้กำหนดปีฐาน 2548 โดยคำนวณจากเครื่องชี้ผลผลิตภาคบริการของจังหวัด รายเดือน ประกอบด้วยองค์ประกอบ 6 ตัว คือ (1) จำนวนนักท่องเที่ยว (ปรับฤดูกาล) (2) ยอดขายของโรงแรมที่พัก (ปรับฤดูกาล) (3) ปริมาณการใช้ไฟฟ้าในโรงแรมที่พัก (4) ยอดขายสินค้าของร้านค้าปลีกและส่ง (5) สัดส่วน GPP สาขาการศึกษา (6) สัดส่วน GPP สาขาการบริการสุขภาพ การกำหนดน้ำหนักขององค์ประกอบในการจัดทำ SI ให้น้ำหนักของเครื่องชี้ โดยเครื่องชี้ภาคบริการ จาก สัดส่วนของ GPP สาขา ณ ราคาปีปัจจุบัน (สศช.) (สาขาโรงแรม สาขาการศึกษา สาขาสุขภาพ และสาขา ค้าส่งค้าปลีก) เทียบ GPP รวมภาคบริการ ณ ราคาปีปัจจุบัน (สศช.) โดยมีข้อมูล SI อนุกรมเวลาย้อนหลังไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 เป็นต้นมา ดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจด้านอุปสงค์(Demand Side : GPPD) ประกอบด้วย 3 ดัชนีได้แก่ (1) ดัชนีการบริโภคภาคเอกชนจังหวัด (2) ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนจังหวัด (3) ดัชนีการใช้จ่ายภาครัฐจังหวัด


-23- การกำหนดน้ำหนักของแต่ละองค์ประกอบของดัชนี โดยหาค่าเฉลี่ยในแต่ละดัชนี เทียบกับGPP constant price โดยเฉลี่ยเพื่อหาสัดส่วนและคำนวณหาน้ำหนักจากสัดส่วนของแต่ละดัชนีเทียบผลรวม สัดส่วนดัชนีรวมทั้งหมด ดัชนีการบริโภคภาคเอกชนจังหวัด (Private Consumption Index: Cp Index) จัดทำขึ้นเพื่อใช้ติดตามภาวะการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคภาคเอกชนของจังหวัด เป็นรายเดือน ซึ่งจะ ล่าช้าประมาณ 1 เดือนครึ่ง (45 วัน) การคำนวณ Cp Index ได้กำหนดปีฐาน 2548 โดยคำนวณจากเครื่องชี้การใช้จ่ายเพื่อการบริโภค ภาคเอกชนของจังหวัด เป็นรายเดือน ประกอบด้วยองค์ประกอบทั้งสิ้น 4 ตัว คือ (1) ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้ประเภทค้าส่งค้าปลีก (2) ปริมาณรถยนต์จดทะเบียนใหม่ (3) ปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ (4) ปริมาณการใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน การกำหนดน้ำหนักขององค์ประกอบในการจัดทำCp Index ให้น้ำหนักของเครื่องชี้ จากการหา ค่าเฉลี่ยของเครื่องชี้ในการจัดทำCp Index และแปลงเป็นมูลค่าหน่วยเดียวกัน (บาท) แล้วหาน้ำหนักจาก สัดส่วนมูลค่าเครื่องชี้ฯ เทียบกับมูลค่ารวมของเครื่องชี้ทั้งหมด โดยมีข้อมูล Cp Index อนุกรมเวลาย้อนหลังไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 เป็นต้นมา ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนจังหวัด (Private Investment Index: Ip Index) จัดทำขึ้นเพื่อใช้ติดตามภาวะการใช้จ่ายเพื่อการลงทุนภาคเอกชนของจังหวัด เป็นรายเดือน ซึ่งจะ ล่าช้าประมาณ 1 เดือนครึ่ง (45 วัน) การคำนวณ Ip Index ได้กำหนดปีฐาน 2548 โดยคำนวณจากเครื่องชี้การใช้จ่ายเพื่อการลงทุน ภาคเอกชนของจังหวัด เป็นรายเดือน ประกอบด้วยองค์ประกอบทั้งสิ้น 3 ตัว คือ (1) พื้นที่ขออนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัย (2) ทุนจดทะเบียนธุรกิจนิติบุคคลใหม่ (3) เงินลงทุนประเภทการก่อสร้าง การกำหนดน้ำหนักขององค์ประกอบในการจัดทำ Ip Index ให้น้ำหนักของเครื่องชี้ จากการหา ค่าเฉลี่ยของเครื่องชี้ในการจัดทำIp Index และแปลงเป็นมูลค่าหน่วยเดียวกัน (บาท) แล้วหาน้ำหนักจาก สัดส่วนมูลค่าเครื่องชี้ฯ เทียบกับมูลค่ารวมของเครื่องชี้ทั้งหมด โดยมีข้อมูล Ip Index อนุกรมเวลาย้อนหลังไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 เป็นต้น ดัชนีการใช้จ่ายภาครัฐจังหวัด (Government Expenditure Index: G Index) จัดทำขึ้นเพื่อใช้ติดตามภาวะการใช้จ่ายภาครัฐของจังหวัด เป็นรายเดือน ซึ่งจะล่าช้าประมาณ 1 เดือน ครึ่ง (45 วัน)


-24- การคำนวณ G Index ได้กำหนดปีฐาน 2548 โดยคำนวณจากเครื่องชี้การใช้จ่ายภาครัฐของจังหวัด เป็นรายเดือน ประกอบด้วยองค์ประกอบ 4 ตัว คือ (1) รายจ่ายประจำภาครัฐ ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค (2) รายจ่ายลงทุนภาครัฐ ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค (3) รายจ่ายประจำ - ท้องถิ่น (4) รายจ่ายลงทุน - ท้องถิ่น การกำหนดน้ำหนักขององค์ประกอบในการจัดทำ G Index ให้น้ำหนักของเครื่องชี้ จากการหา ค่าเฉลี่ยของเครื่องชี้ในการจัดทำ G Index และแปลงเป็นมูลค่าหน่วยเดียวกัน (บาท) แล้วหาน้ำหนักจาก สัดส่วนมูลค่าเครื่องชี้ฯ เทียบกับมูลค่ารวมของเครื่องชี้ทั้งหมด โดยมีข้อมูล G Index อนุกรมเวลาย้อนหลังไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 เป็นต้นมา ดัชนีชี้วัดด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ GPP Deflator :ระดับราคา คำนวณโดยใช้ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)และดัชนีราคาผู้บริโภคจังหวัดปัตตานี(CPI) การเปลี่ยนแปลงของจำนวนผู้มีงานทำ คำนวณจาก GPP constant price X อัตราการพึ่งพาแรงงาน อัตราการพึ่งพาแรงงาน คำนวณจากการวิเคราะห์การถดถอยเชิงเส้นอย่างง่าย (Simple Linear Regression Analysis) โดยมีรูปแบบความสัมพันธ์คือ ln(Emp) = +(ln(GPP)) โดยที่ Emp = จำนวนผู้มีงานทำจำแนกตามอุตสาหกรรมและเพศของจังหวัด (ข้อมูลWebsite) สำนักงานสถิติแห่งชาติซึ่งใช้ปี2549 – 2563 GPP = ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด ณ ราคาคงที่(cvm) ข้อมูลจากสศช. ใช้ปีพ.ศ.2549 – พ.ศ.2561 หน่วยงานผู้สนับสนุนข้อมูลในการประมาณการเศรษฐกิจประกอบด้วย ส่วนราชการภาครัฐ ท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนในจังหวัด สำนักงานคลังจังหวัดปัตตานีจึงขอขอบคุณหน่วยงานดังกล่าวข้างต้นในการสนับสนุนข้อมูล


Click to View FlipBook Version