สูจิบตั ร
การแสดงผลสมั ฤทธิ์ทางการศกึ ษานาฏศลิ ป์ไทย
“วิจิตรนาฏกรรมราเดีย่ วมาตรฐาน คร้ังท่ี 2”
วันที่ 6 พฤศจกิ ายน 2562 เวลา 09.00 – 17.00 น.
ณ ห้องประชุม อาคาร 100 ปี ศูนย์ภาษาและคอมพิวเตอร์
มหาวทิ ยาลัยราชภัฏพระนครศรอี ยธุ ยา
สารบญั หนา้
1
การแสดงชุดท่ี 1 ฉุยฉายจินตะหราวาตี 2
- บทรอ้ งและทานองเพลง 3
4
การแสดงชดุ ที่ 2 ลาหับแต่งตัว 5
- บทรอ้ งและทานองเพลง 6
7
การแสดงชดุ ที่ 3 ฉยุ ฉายเบญกายแปลง 8
- บทร้องและทานองเพลง 9
การแสดงชดุ ที่ 4 ฉยุ ฉายวนั ทอง 10
- บทร้องและทานองเพลง 11
12
การแสดงชุดที่ 5 ฉุยฉายนางมณี 13
- บทรอ้ งและทานองเพลง 14
15
การแสดงชดุ ที่ 6 ฉยุ ฉายไกรทอง
- บทร้องและทานองเพลง
การแสดงชดุ ที่ 7 ศกนุ ตลาชมสวน
- บทรอ้ งและทานองเพลง
การแสดงชดุ ที่ 8 มโนราห์บูชายัญ
การแสดงชุดท่ี 9 พลายชุมพลแต่งตวั 16
- บทร้องและทานองเพลง 17
18
การแสดงชดุ ท่ี 10 คันธมาลีแตง่ ตวั 19
- บทร้องและทานองเพลง 20
21
การแสดงชดุ ท่ี 11 ลงสรงมอญ 22
- บทรอ้ งและทานองเพลง 23
24
การแสดงชดุ ท่ี 12 สามนักขาตระเวนไพร 25
- บทร้องและทานองเพลง 26
27
การแสดงชดุ ท่ี 13 ฉยุ ฉายมงั ตรา 28
- บทร้องและทานองเพลง 29
30
การแสดงชดุ ท่ี 14 ฉยุ ฉายอินทรชิตแปลง 31
- บทรอ้ งและทานองเพลง
การแสดงชุดที่ 15 รามสูรนั่งวมิ าน
- บทรอ้ งและทานองเพลง
การแสดงชดุ ที่ 16 ฉุยฉายศูรปนขา
- บทร้องและทานองเพลง
การแสดงชดุ ที่ 17 ฉยุ ฉายวันทองแตง่ ตัว 32
- บทร้องและทานองเพลง 33
34
การแสดงชดุ ท่ี 18 ฉยุ ฉายผเี ส้ือสมทุ รแปลง 35
- บทร้องและทานองเพลง 36
37
การแสดงชุดท่ี 19 ฉุยฉายยอพระกลน่ิ 38
- บทร้องและทานองเพลง 39
การแสดงชุดที่ 20 ฉยุ ฉายนางนารายณ์
- บทรอ้ งและทานองเพลง
การแสดงชุดที่ 1 ฉยุ ฉายจนิ ตะหราวาตี
นาง จิน ตะห ร า วาตี เป็ นธิ ดาท้ าว หมัน ห ย า กั บ
นางจินดาส่าหรีเกิดในปีเดียวกับอิเหนาแต่อ่อนเดือน กว่า
ด้วยความงามของนางอิเหนาจึงรักนางและเป็นความรักครั้งแรก
ข อ ง กั น แ ล ะ กั น ก า ร ร า ฉุ ย ฉ า ย จิ น ต ะ ห ร า ว า ตี จึ ง เ ป็ น ก า ร แ ส ด ง
ที่ ป ร ะ ดิษ ฐ์ ขึ้ น มา ใ ห ม่ พ ร้ อ ม กั บบ ท ร้ อ งที่ ป ร ะ พั น ธ์ ข้ึ น ให ม่ โ ด ย
ยึดรูปแบบการราฉุยฉายตัวนางเป็นแนวทางในการ สร้างสรรค์
ตามกระบวนการของการราฉุยฉาย บทกลอนเป็นการบรรยายถึง
ความงดงามของการแต่งองค์ทรงเคร่ืองเพ่ือรอคอยถึงการกลับมา
ของอิเหนาพระสวามีผูเ้ ปน็ ท่รี กั
แสดงโดย: นางสาวศิรนิ ทิพย์ ศรีทองคา
ผ้ถู ่ายทอดกระบวนท่ารา: รองศาสตราจารย์ฉันทา เอ่ียมสกุล
1
บทร้องและทานองเพลง
ฉยุ ฉายเอย จะไปเฝ้าองคอ์ เิ หนากเุ รปัน
บรรจงผดั พกั ตรผ์ ดุ ผอ่ งผิวพรรณ ดั่งบุหลนั ทรงกลดหมดมลทนิ
ทรงอหุ รบั จบั กลิ่นอบอาย กวดเกล้าเปลาปลายเลอ่ื มพรายพรรณ
งามจบั หทัยเอย งามด่ังนางนางฟ้ายากระหงนั
ทรงภูษายกทองผอ่ งอาพนั ห่มริว้ สวุ รรณ์ซบั ใน
สรอ้ ยสะอง้ิ สังวาลตาบมรกต ทองกรสดใส่ธามรงค์ใส
ทรงมงกุฎเอย ทรงมงกุฎสดุ สวยส่งหอ้ ยอุบะบุหงาทรง
นวลอนงค์งามเพรศิ พราย ลลี าศเอย
งามเยอื้ งยาตรนาฎกรกราย มุง่ ฤทัยไปคอยถวาย
มุ่งฤทัยไปคอยถวาย องค์พระเด่นมนตรีเอย
-ปี่พาทย์ทาเพลงเร็ว-ลา-
6
การแสดงชดุ ที่ 2 ลาหบั แตง่ ตัว
การแสดงชุดนี้ได้สอดแทรกอยู่ในละครเรื่องเงาะป่า
ตอนที่นางลาหับจะเขา้ พธิ แี ตง่ งานกับฮเนา พระราชนิพนธ์เรื่อง
เ ง า ะ ป่ า ใ น พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ จุ ล จ อ ม เ ก ล้ า เ จ้ า อ ยู่ หั ว
แม้นจะเป็นเร่ืองท่ีเขียนเก่ียวกับชาวป่า ซ่ึงต่าต้อยด้อยค่า
ในสายตาคนเมือง แต่ตัวละครที่โลดแล่นไปด้วยความรัก โลภ
โกรธ หลง ตามเน้ือเร่ืองน้ัน แสดงให้เห็นถึงสายพระเนตร
อันเท่าเทียมในการมองมนุษย์ ไม่ว่าจะชาติภาษาผิวพรรณ
ผิดแผกกันเช่นไร ย่อมมีจิตใจเหมือนกัน ดังจะเห็นได้ในตอนท่ี
ผู้เฒ่าเงาะ อวยพรงานแต่งงานให้แก่ลาหับ และคนัง
โดยเปรียบเทยี บการใชช้ วี ิตคู่กบั สตั วต์ ่างๆ ไวอ้ ยา่ งงดงามลกึ ซึง้
แสดงโดย: นางสาวรตั นาวดี ทาปลัด
3 ผถู้ ่ายทอดกระบวนท่ารา: นายสรวีย์ อาษาไชย
บทรอ้ งและทานองเพลง
ใหอ้ าบนา้ ชาระกายใหห้ มดจด ขมน้ิ สดปรุงประทินกลิน่ บปุ ผา
หอมช่ืนรื่นรวยสวยกายา นงุ่ ผา้ ฮอลสี ีแดง
ห่มซใิ บไวร้ อบอุระรดั สาวกาดดั ครัดเคร่งเปล่งปราบแสง
สวมกาไลกมะลา่ นอ้ ยร้อยพลกิ แพลง แลว้ ตกแตง่ มาลยั ใส่สวมตวั
วงกระหวดั รัดเอวแลว้ โอบบา่ ลว้ นบุปผากลิน่ กลบตลบท่วั
หวีไมไ้ ผ่หลายช่องไม่หมองมวั สอดแซมหัวสาหรบั รับผมมวย
ฮาปองป่าจัดมาสอดแซมผม ของนยิ มแดงเด่นเห็นสระสวย
ดอกจาปูนเป็นตุ้มหดู รู ื่นรวย แล้วทอดกรอ่อนระทวยดาเนนิ มา ฯ
4
การแสดงชุดท่ี 3 ฉุยฉายเบญกายแปลง
ราฉุยฉายเบญกายแปลง เป็นลีลาการร่ายราของตัว
นางเบญกาย บุตรีของพิเภกพญายักษ์ ซึ่งเป็นน้องของทศกัณฐ์
ครั้งหนึ่งทศกัณฐ์วางอุบายท่ีจะล่อลวงพระรามว่านางสีดาตาย
เสียแล้ว จึงใช้ให้เบญกายแปลงเป็นสีดา ด้วยเหตุน้ีจึงให้กาเนิด
ชุดนาฏศลิ ปท์ ่ีงดงาม คอื ฉยุ ฉายเบญกายแปลง
บทร้องประกอบการรา ปรากฏอยู่ในบทคอนเสิร์ต
พระนิพนธ์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยา
นริศรานวุ ตั ติวงศ์ เปน็ ครง้ั แรกในชุดตับนางลอย
กระบวนการลีลาท่าราสันนิษฐานว่า หม่อมครู
ท่านต่าง ๆ ของเจ้าพระยาเทเวศร์วงศ์วิวัฒน์ เป็นผู้คิด
ประดิษฐข์ น้ึ และถา่ ยทอดสบื ต่อมา
แสดงโดย: นางสาววราภรณ์ เทยี นสงิ ห์
5 ผถู้ า่ ยทอดกระบวนทา่ รา: อาจารย์วนั ทนา เหมสมิติ
บทรอ้ งและทานองเพลง 6
-รอ้ งเพลงฉยุ ฉาย-
ฉยุ ฉายเอย จะเข้าไปเฝา้ เจา้ กก็ รดี กราย
เยอ้ื งยา่ งเจ้าชา่ งแปลงกาย ใหล้ ะเมยี ดละม้ายสีดานงลกั ษณ์
ถึงพระรามเหน็ ทรามวยั จะฉงนพระทยั ใหอ้ ะเหล่ืออะหลัก
งามนักเอย ใครเหน็ พิมพ์พักตรก์ ็จะรกั จะใคร่
หลับกจ็ ะฝนั ครน้ั ตน่ื กจ็ ะคดิ อยากจะเห็นอีกสกั นิดหนง่ึ ใหช้ นื่ ใจ
งามคมดุจคมศรชัย ถูกนอกทะลใุ นให้เจ็บอรุ า
-รอ้ งแมศ่ รี-
แม่ศรเี อย แมศ่ รีรากษส
แม่แปลงอนิ ทรยี ์ เป็นแมศ่ รีสดี า
ทศพักตรม์ าลกั เหน็ จะตน่ื เต้นในวิญญา
เหมอื นล้อเล่นให้เปน็ บ้า ระอาเจ้าแมศ่ รเี อย ฯ
อรชรเอย อรชรออ้ นแอ้น
เอวขาแขนแมน แม้นเหมือนกนิ นรี
ระทวยนวยนาด วิลาสจรลี
ข้นึ ปราสาทมณี เฝา้ พระปิตุลาเอย ฯ
การแสดงชดุ ที่ 4 ฉยุ ฉายวนั ทอง
ฉุยฉายวันทอง เป็นราเดี่ยว ท่ีอยู่ในการแสดงละคร
เร่ืองขุนช้างขุนแผน ตอนพระไวยแตกทัพ กล่าวถึง ความรัก
ความผูกพันของผู้เป็นมารดาที่ถ่ายทอดออกมาทางลีลาท่ารา
เมื่อแปลงร่างเป็นหญิงสาวงาม เนื้อเรื่องกล่าวถึงนางวันทองที่
ตายไปเป็นเปรต สงสารลูกชายที่จะต้องไปออกรบจึงแปลงกาย
เป็นหญิงสาวแรกรุ่นเพื่อจะห้ามทัพ แต่เม่ือพระไวยเห็นหญิงงาม
จึงเกิดหลงรักและเข้ามาเกี้ยวพาราสี นางวันทองจึงกลายกลับ
เปน็ ร่างเดิมและสารภาพวา่ เป็นมารดาของพระไวยเอง
แสดงโดย: นายคนิน โตแ้ ย้ม
7 ผู้ถา่ ยทอดกระบวนท่ารา: อาจารยก์ ลมลกั ษณ์ บญุ ธรรม
บทรอ้ งและทานองเพลง
ฉุยฉายเอย -ป่พี าทยท์ าเพลงรัว-
โอพ้ ระไวยสายใจ -รอ้ งฉยุ ฉาย-
แลลอดสอดหา เสร็จจาแลงแปลงกายเยื้องกายมาในป่า
อกี สักเมื่อไรจงึ จะมา
แมศ่ รเี อย เดนิ ไปคอยทา่ ทางโนน้ เอย
เยื้องย่างมากลางดง -รอ้ งแมศ่ รี-
ผิวเจา้ งามเมอื่ ยามพิศ แม่ศรีเสาหงส์
ออ่ นระทวยนวยนาฎ เหมือนหนึ่งหงสเ์ หมราช
งามจริตเม่ือยามผาด
ลลี าศมาเอย
-ปีพ่ าทย์ทาเพลงเร็ว – ลา-
8
การแสดงชุดท่ี 5 ฉยุ ฉายนางมณี
ฉุยฉายนางมณีถูกประดิษฐ์ท่าราแทรกอยู่ในการแสดง
ละครนอกเร่ืองแก้วหน้าม้ากล่าวถึงนางแก้วหน้าม้าถูกท้าวภูวดลและ
พระปิ่นทองกลั่นแกล้งจนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด แต่นางโชคดีได้รับ
การช่วยเหลือจากพระฤษี ช่วยเหลือโดยถอดรูปม้าให้กลายเป็น
สาวงาม การแสดงชุดนี้กล่าวถึงนางมณีรัตนาหรือนางแก้วหน้าม้า
แตง่ องค์ทรงเคร่อื ง ชมโฉมตัวเองเพือ่ จะไปเข้าเฝ้าพระปน่ิ ทอง
โดยคุณครูบุนนาค ทรรทรานนท์ เป็นผู้ประดิษฐ์ท่ารา
และคณุ ครูพัฒน์ พรอ้ มสมบตั ิ ประพนั ธ์บทฉยุ ฉาย
แสดงโดย: นางสาวณฏั ฐณิชา มงคลคูณ
ผู้ถา่ ยทอดกระบวนท่ารา: นายสิทธศิ ักดิ์ กล่อมเดช
9
บทร้องและทานองเพลง
-ปพ่ี าทยท์ าเพลงรัว-
-ร้องฉุยฉาย-
ฉุยฉายเอย รปู ม้ากลับหายกลับหายกลายเปน็ นางมณี
อรชรออ้ นแอน้ งามแมน้ กนิ รี ตามพรพระมุนี ดงั เช่นเยาวนติ ย์
ท่วงทาพาไปยา่ งไวจ้ รติ ผันหนา้ กล้าชิด ชอบตดิ ใจเอย
-ร้องแม่ศรี-
แมศ่ รเี อยแมศ่ รีพโนมยั นุ่งผ้าผืนใหม่หม่ สไบสีตอง
แต่งองค์นงลักษณ์ผัดพกั ตรผ์ ุดผ่อง เตรียมเฝ้าพระปิ่นทองทใี่ นบรุ ีเอย
-เพลงเร็ว-ลา-
10
การแสดงชดุ ที่ 6 ฉยุ ฉายไกรทอง
การแสดงละครนอกเรื่องไกรทอง ตอนไกรทอง
ปราบชาละวัน เป็นท่ีนิยมต่อผู้ชมมากจึงจัดการแสดงอยู่เนือง ๆ
ต่อมาในราวปี พ.ศ. ๒๕๓๗ กรมศิลปากรจัดแสดงละครเร่ืองนี้
ณ โรงละครแห่งชาติ นายปัญญา นิตยสุวรรณ ได้จัดทาบทใหม่
ได้แต่งบทราฉุยฉายไกรทองแทรกเอาไว้ ในตอนท่ีไกรทองแต่งกาย
รัดกุม สวมมงคลบนศีรษะเพื่อจะไปปราบจระเข้ชาละวัน
เนื้อร้องน้ันมุ่งหมายให้ ผู้ชมรู้จักตัวไกรทองในแง่มุมต่าง ๆ
ทัง้ รูปรา่ งหน้าตาและอปุ นิสัย
แสดงโดย: นายธนากร เบ็ญมาศ
ผู้ถ่ายทอดกระบวนทา่ รา: นายสทิ ธิศักด์ิ กลอ่ มเดช
11
บทร้องและทานองเพลง
ฉุยฉายเอย เจ้าไกรทองแคลว่ คล่องกรดี กราย
แตง่ ตัวรดั กมุ เปน็ หนุ่มสมชาย สวมมงคลมนต์กาจายบนศีรษะ
ใครเห็นเป็นหลงงวยงงเสน่ห์ กรุม่ กร่ิมย้ิมเผลป้ ราบจระเข้ด้วยเดชะ
ชื่นอารมณ์สมคเนย์จะกาลาปชาละวนั
แม่ศรเี อยแมศ่ รหี มอจระเข้ สาวหลงงันอยากสัมพันธไ์ กรทองเอย
วางปีง่ ผ่ึงผายสมชายฉกรรจ์
12
การแสดงชุดท่ี 7 ศกุนตลาชมสวน
การแสดงชุดศกุนตลาชมสวน เป็นการแสดงราเด่ียว
ในบทชมสวนของนางศกุนตลา เน้ือความการแสดงตอนน้ีกล่าวถึง
นางศกุนตลากาลังเที่ยวชม สวนรุกขชาติ บริเวณ ใกล้อาศรม
ของพระกันวะดาบส ด้วยอารมณ์เบิกบานใจ บทร้องบรรยายถึง
ความงดงาม และกล่ินหอมของดอกไม้นานาพันธ์ุ และความร่มร่ืน
เยน็ สบายของสถานท่ีนน้ั
แสดงโดย: นางสาวกันตศิ า สินธสุ วุ รรณ
ผู้ถ่ายทอดกระบวนท่ารา: นายมณี อ่อนคูณ
13
บทร้องและทานองเพลง
เม่อื เอย่ เมือ่ นั้น ยพุ เยาว์นารีสใี ส
พาชมบุปผาพนาไพร อรทยั เรอ่ื ยร้องราพรรณเอย
รืน่ ร่นื ชน่ื กลิน่ กรรณิการ์ หอมช่ืนทาษาเกษมสันต์
รื่นร่ืนสารภีประคนกัน กลน่ิ สุครรณเย็นรนื่ ชื่นใจเอย
เรื่อยเรอ่ื ยลมพัด มาออ่ นออ่ นโชยกลน่ิ เกสรเข้ามาใกล้
เร่ือยเรอื่ ยรสรกั เยา้ ฤทยั พาให้ปลื้มเปรมปรดี าเอย
14
แสดงโดย: นางสาวจฑุ าทพิ ย์ ชัยสุระ การแสดงชดุ ที่ 8 มโนราหบ์ ชู ายัญ
ถ่ายทอดกระบวนทา่ รา: อาจารย์สุนันท์ลนิ ี เช้อื สุวรรณ การแสดงชุดมโนราห์บูชายัญ อยู่ในตอนหนึ่งของ
ละครเร่ืองพระสุธน-มโนราห์ เป็นการราเด่ียวของ
15 นางมโนราห์ ธิดาองค์เล็กของท้าวทุมราชผู้เป็นพญากินนร
เมื่อครั้งนางมโนราห์ถูกพรานบุณฑริกจับตัวไปถวายแด่
พระสุธน พระสุธนและนางมโนราห์จึงได้อภิเษกสมรสกัน
ต่อมาพระสุธนต้องออกไปทาศึกสงคราม ปุโรหิตซ่ึงมีความ
เคียดแค้นต่อพระสุธนอยู่แล้ว ได้ใส่ความนางมโนราห์ต่อ
ท้าวอทิตยวงศ์ เจ้าเมืองปัญจนคร ผู้เป็นพระบิดาของ
พระสุธน ว่านางมโนราห์เป็นกาลกิณีแก่บ้านเมืองต้องนามา
บูชายัญ นางมโนราห์จึงแสร้งกราบทูลขอพระราชทานอภัย
แก่ท้าวอทิตยวงศ์ และขอพระราชทานปีกหางของตนคืนเพื่อ
ร่ายราถวายต่อหน้าประพักตร์เป็นคร้ังสุดท้าย ในขณะร่ายรา
อยู่น้ัน เม่ือได้จังหวะนางก็ได้บินหนีกลับไปยังเมืองของตน
ใช้เพลงแขกบูชายัญ โดยอาจารย์มนตรี ตราโมท ได้นา
เพลงเร็วของคุณครูหลวงประดิษฐ์ไพเราะ มาบรรเลงร่วมกับ
โทนและกลองชาตรี ไมม่ ีเนื้อร้อง ผ้แู สดงจะรา่ ยราตามจังหวะ
เคร่อื งดนตรี
การแสดงชดุ ที่ 9 พลายชุมพลแตง่ ตัว
ราพลายชุมพลแต่งตัว เป็นราเด่ียวท่ีอยู่ในละคร
เร่ืองขุนช้างขุนแผน ตอนพระไวยแตกทัพ กล่าวถึงพลายชุมพล
จ ะ อ อ ก ไ ป ท า ศึ ก กั บ พ ร ะ ไ ว ย โ ด ย ป ล อ ม ตั ว เ ป็ น ม อ ญ
ร้อง ปร ะ ก อบ กา ร แ ต่ ง กา ยแ ส ด ง ให้ เห็ นถึ งค วา มส ง่า งา ม
ของพลายชุมพล
โ ด ย ก ร ะ บ ว น ท่ า ร า พ ล า ย ชุ ม พ ล แ ต่ ง ตั ว
นายแพทย์ อนุชา พลายชุม ได้รับการถ่ายทอดท่าราจาก
คุณครูวันทนีย์ ม่วงบุญ ในช่วง พ.ศ. 2547 ซ่ึงท่าราพลายชุมพล
แต่งตัวทางน้ีคุณครู วันทนีย์ ม่วงบุญ ได้เล่าว่าได้รับการถ่ายทอดมา
จาก ท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนีย์ (หม่อมอาจารย์) เพื่อนาไป
ถวายการสอน พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา
(พระยศในขนาดนั้น) ในสมัยยังทรงพระเยาว์ ประกอบด้วย
เพลงมอญดดู าว ออกเพลงพญาลาพอง ไม่มีออกม้ายอ่ ง
แสดงโดย: นายวรี ศิ เสร็จแตง
ผถู้ า่ ยทอดกระบวนทา่ รา: นายแพทย์อนุชา พลายชุม
16
บทรอ้ งและทานองเพลง
-ป่ีพาทยท์ าเพลงมอญดดู าว-
-รอ้ งเพลงมอญดดู าว-
แล้วจดั แจงแต่งกายพลายชุมพล ปลอมตนเปน็ มอญใหมด่ ูคมสนั
นุง่ ผ้าตาหมากรกุ ของรามญั ใส่เสอื้ ลงยันต์ย้อมว่านยา
-รบั -
คอผกู ผ้าประเจียดของอาจารย์ โอมอ่านเกผงผดั หนา้
คาดตะกรุดโทนทองของบดิ า โพกผา้ สที ับทิมริมขลิบทอง
-รบั -
ถือหอกสตั ตะโลหะชนะชัย เหมอื นสมิงมอญใหม่ดูไววอ่ ง
ขนุ แผนข่ีสีหมอกออกลาพอง ชุมพลขนึ้ กะเลียวผยองนาโยธา ฯ
-รับ-
-ปีพ่ าทย์ทาเพลงมอญดูดาวและเพลงพญาลาพอง-
17
การแสดงชดุ ท่ี 10 คันธมาลแี ต่งตัว
การแสดงชุด คันธมาลีแต่งตัว เป็นการแสดงอยู่ใน
ละครนอก เร่ือง คาวี ตอนคันธมาลีข้ึนเฝ้า เป็นบทพระราชนิพนธ์
ในส มเด็จพ ร ะพุท ธเลิ ศหล้ านภาลั ย มีเนื้อเร่ืองย่อดังนี้
เมอื่ นางคนั ธมาลีทราบข่าวว่า ท้าวสันนุราชสามารถชุบตัวเป็นหนุ่ม
ได้จึงต่ืนเต้นและหลงใหลในรูปโฉมของ ท้าวสันนุราชปลอม มีแต่
ยายเฒ่าทัศประสาทผู้เดียวที่จาได้ว่าคาวีชุบตัวเป็นท้าวสันนุราช
คาวีหาโอกาสเข้าพบนางจันทร์สุดาเพ่ือบอกความจริง และ
นางคันธมาลีเห็นนางจันทร์สุดาอยู่กับ ท้าวสันนุราชปลอม
นางคันธมาลีก็เข้าใจว่านางจันทร์สุดายินยอมปลงใจกับพระสวามี
ของนางท่ีชุบตัวใหม่ก็เกิดริษยานางจันทร์สุดาขึ้น จึงแต่งองค์
ทรงเคร่ืองอย่างงดงามพร้อมข้าไทไปเข้าเฝ้า ท้าวสันนุราชและ
ตง้ั ใจจะไปเยาะเย้ยถากถางหาเรื่องกับนางจันทรส์ ุดา
แสดงโดย: นายณฐั วัฒน์ มัน่ คง 18
ผู้ถ่ายทอดกระบวนท่ารา: นายสรวีย์ อาษาไชย
บทรอ้ งและทานองเพลง
-ปี่พาทยท์ าเพลงสนี วล- -ร้องเพลงเขมรกาปอ-
-รอ้ งเพลงสนี วล- หวีกระจายรายเส้นขนเม่นสอย ผดั หนา้ นัง่ ตะบอยบบี สวิ
เมือ่ น้นั นางคันธมาลีมเหสี เสกขีผ้ งึ้ สพี ลางทางวาดคว้ิ น่งุ ผา้ ยกรว้ิ มรี าคา
รู้ว่าจันทร์สดุ านารี ยนิ ดดี ้วยองคพ์ ระทรงฤทธ์ิ เอาสไบปักทองเข้าลองห่ม นึกชมตัวเองเปน็ หนักหนา
-ร้องเพลงสนี วลนอก- จะแตง่ ไปอวดมนั จนั ทร์สดุ า น้าหน้าอจี ัญไรไหนจะมี
นางใหแ้ คน้ ขดั กลัดกลมุ้ เหมือนบา้ หลังคลง่ั คลุ้มเคลม้ิ จติ ต์ คาดเข็มขดั ประจายามงามล้า ทองคาน้าหนักสกั สิบสี่
นั่งน่ิงหน้าบงึ้ ราพึงคิด อเี จ้ากรรมมนั จะปิดประตูค้า กาไลลงยาราชาวดี ม่ังมีมาแตต่ ายาย
หมายได้ด้วยกาลงั ยังสาว เหน็ ทที ้าวเธอจะรกั หนกั หนา ใส่แหวนเพชรเมด็ แดงหวั แมงปอ เขามาตอ่ หา้ ชง่ั ยงั ไมข่ าย
ตวั กกู เ็ ปน็ โสดโปรดปรานมา คงจะคิดเมตตาปรานี พศิ ดูตวั พลางทางย้มิ พราย กรุยกรายออกจากตาหนกั นาง
จาจะขึน้ ไปเฝ้าฟงั ดู จะเป็นอยา่ งไรอยู่ให้รู้ที่ -ร้องร่าย-
เมียนอ้ ยเมียหลวงทว่ งที ข้างไหนใครจะดกี ว่ากนั เรียกหาขา้ ไทอยอู่ งึ มี่ ใส่เกือกกามะหยี่หกั ทองขวาง
-ร้องเพลงชมตลาด- ถือพระกลดคนั สน้ั กน้ั กาง เยอื้ งย่างมาปราสาทพระทรงธรรม์
คิดแลว้ สรงนา้ ชาระกาย ขมิ้นผงลงละลายเป็นค่อนขัน
ลูบไล้ขัดสีฉววี รรณ ทรงกระแจะจวงจนั ทร์กล่นิ เกลา
น้าดอกไม้เทศทากว่าจะท่ัว ชโลมทัง้ เนื้อตัวเหมอื นปลอ่ ยเตา่
กระจกต้งั นัง่ ส่องมองดเู งา จับเขม่ากนั ไรไปลป่ ลวิ
19
การแสดงชดุ ที่ 11 ลงสรงมอญ
ล ง ส ร ง ม อ ญ เ ป็ น ก า ร แ ส ด ง ชุ ด ห น่ึ ง ใ น
ละครพันทาง เร่ืองราชาธิราชตอนพระยาน้อยชมตลาด
เน้ือเร่ืองกล่าวถึงออกชมตลาดท่ีเมืองละเลง ได้พบกับ
นางเม้ยมะนิก พระยาน้อยหลงรักนางท้ังที่รู้ว่านาง
มีสามีแล้ว ฝ่ายนางเม้ยมะนิกก็มีใจให้พระยาน้อยเช่นกัน
พระยาน้อยจึงให้นางเม้ยมะนิก เข้ามาอยู่ในพระราชวัง
การแสดงชุดน้ีเป็นการแสดงตามบทบาท อาบน้าแต่งตัว
ของตัวละคร และบรรยายการแต่งองค์ทรงเครื่องของ
พระยาน้อยอย่างงดงาม
แสดงโดย: นางสาวกัญญารตั น์ คาวงษ์
ผ้ถู ่ายทอดกระบวนทา่ รา: นายสรวยี ์ อาษาไชย
20
บทรอ้ งและทานองเพลง
เม่อื น้ันพระยาน้อยลอยเลศิ เชดิ ฉัน ยรุ ยาตนาถกรายพรายพรรณ
จอนจรัญเขา้ สรงชลสุคนธาร
เสรจ็ ทรงสุคนธ์ทพิ ยห์ อมหวาน
ชาระสระสนานสาราญองค์ สรงภษู ายโยนาน อร่ามตา
สอดสนับเพลารัดชชั วาล เขียวขลบิ แดงฉานงามนัก
รดั สะพัดห้อยหนา้ ปรางทพิ ย์ เขม็ ขดั เพชรลงยาทา่ บุรี
ฉลององคท์ รงสรอ้ ยยอ้ ยระย้า สังวาลวรรณวจิ ติ รเรอื งศรี
ตาบทพิ ย์ทบั ทรวงดวงกุดัน่ โพกผา้ สที ับทิมพลว้ิ กาย
ทรงเครท่องประดบั เกล้า มนุ่ เมารี กุมพระแสงเรืองจรัส
ผนั ผายทรงอาชาคลาไคล
ครน้ั เสร็จทรงเครือ่ งเรืองรตั น์
เชดิ ฉายออกจากฉากสุวรรณพรรณราย
21
การแสดงชุดท่ี 12 สามนักขาตระเวนไพร
นางสามนักขาเป็นน้องสาวของทศกัณฐ์ และมีชิวหา
เป็นสามี ก่อนท่ีจะถูกทศกัณฐ์ ขว้างจักรสุรกานต์ตัดล้ินขาด
เหตุด้วยเกิดความเข้าใจผิด จึงทาให้นางสามนักขากลายเป็นหม้าย
ในทันที โดยการแสดงชุดนางสามนักขาตระเวนไพร เป็นส่วนหนึ่งใน
เรื่องร า มเกียร ติ์ ต อน ส า ม นักขา ก่อศึก เป็นการ กล่าวถึง
นางสามนกั ขาท่ีเศร้าโศกเสียใจเมื่อสามีของตนตายลง จึงได้ออกจาก
กรุงลงกาและเข้าท่องเที่ยวป่า เพื่อคลายความโศกเศร้าแต่เม่ือมาถึง
ลาธารได้พบกับพระราม และตนเองก็เกิดความหลงใหลในรูปโฉม
ของพระราม ได้เพียงแต่ราพึงราพันชมรูปโฉมของพระราม
กอ่ นทีจ่ ะแปลงกายเปน็ สาวงาม เพือ่ เข้าหาพระราม
แสดงโดย: นายสุรตั น์ มีสนธ์ิ
ผู้ถา่ ยทอดกระบวนทา่ รา: ผชู้ ่วยศาสตราจารยพ์ สิ ษิ ฐ์ บัวงาม
22
บทร้องและทานองเพลง
-ปี่พาทย์ทาเพลงต้นเขา้ มา่ น- -รอ้ งร่าย-
-อา่ นทานองโคลง- ยงิ่ คิดยิ่งพิศวาสกลมุ้ รสรกั รงึ รมุ ดังเพลิงไหม้
สามนกั ขาชื่ออ้างอสรุ พันธ์ นางขนิษฐ์ทศกณั ฐ์แกน่ ไท้ สดุ จะระงบั บงั คับใจ การร่ายเวทแปลงไปในทนั ท
ฉวกี ายสกลวรรณเขียวสดสะอาดนอ เป็นเอกชาเยศไดอ้ ยู่ด้วยชิวหา -ปพี่ าทย์ทาเพลงรัว-
-ร้องเพลงสงิ โต-
เทย่ี วเตรต่ ะเวนหาคู่ ดใู ครจะตอ้ งตากห็ าไม่
ย่งิ กาหนดั กลัดกลมุ้ คลมุ้ ใจ ก็เหาะขา้ มสมุทรไปด้วยฤทธา
-ปพ่ี าทยท์ าเพลงกราวใน – เชดิ -
-รอ้ งเพลงต้อยหม้อ-
ครั้นถึงฟากฝ่งั สาคร บทจรตามแถวแนวปา่
เที่ยวเสาะส่มุ แสวงทุกแห่งมา จนถึงโคธาวา
-ปีพ่ าทย์ทาเพลงทาฉงิ่ -
-ร้องเพลงต้นวรเชษฐ์-
พนิ ิจพศิ ทว่ั ท้งั องค์ มีความพิศวงสงสยั
จะวา่ เปน็ พระอศิ วรทรงชยั ก็ไมม่ สี ังวาลย์นาคี
จะวา่ พระนารายณ์ฤทธริ อน ก็ไม่เหน็ พระกรเป็นส่ี
จะว่าทา้ วธาดาธิบดี เหตใุ ดไมม่ ี สี่พักตร์
แมน้ จะวา่ องค์ท้าวสหสั นยั น์ ใยจงึ ไม่ทรงมวี ิเชยี รจักร
จะวา่ พระสุรยิ าวรารักษ์ ใหญไ่ มช่ ักรถจากฟากเมฆา 23
ฉันจะวา่ เป็นองค์พระจันทร กผ็ ิดที่ไมจ่ รอยเู่ วหา
ชัน้ ลอยเปน็ จักรพรรดิกษัตรา ทงิ้ สมบตั ิพลดั มาเป็นชไี พร
การแสดงชุดที่ 13 ฉยุ ฉายมังตรา
การราฉุยฉายมังตราเป็นการราเมื่อตัวละครเกิดความ
ภาคภูมิใจ ท่ีสามารถแปลงกายหรือแต่งตัวได้อย่างสวยสดงดงาม
โดยพระยาอนุมานราชธนได้กล่าวไว้ในหนังสืออธิบายท่ารา
ทางด้านนาฏศิลป์ การราฉุยฉายมังตราชุดนี้อยู่ในการแสดง
ล ะคร พันท างเรื่อง “ผู้ ช นะสิ บทิศ ” ตอนมัง ตร าแตกทัพ
ครูธงไชย โพธยารมย์ ผู้เช่ียวชาญทางด้านนาฏศิลป์ไทยกรมศิลปากร
เปน็ ผปู้ ระดษิ ฐ์ทา่ รา
แสดงโดย: นายวรี ะวุฒิ บัวประเสรฐิ
ผู้ถา่ ยทอดกระบวนท่ารา: นายสทิ ธศิ ักดิ์ กล่อมเดช
24
บทรอ้ งและทานองเพลง
ฉุยฉายเอย เกิดในเศวตฉัตรศรสี วัสด์เิ ลิศล้า
มงั ตราตองอูผูล้ ิน้ ดา คมขางามแทแ้ ตว่ ญิ ญาณหารฮกึ
กร้มุ กริม่ น่ิมนวลเชิงชวนรัก ลา้ ลึกคึกคักยักย้ายกระหายศึก
ร้องเริงเชิงลนเลิศล้นเชิงรัก
จอมพลเอย แตก่ บั ปรปักหกั หัน้ บัน่ คอ
เมตตาขา้ ทหารสอดประสานสามีภักด์ิ สมศกั ดิ์กษตั ริย์เฉลมิ ศักดศิ์ ิษยส์ านกั กุโสดอ
กลา้ เกง่ เพลงรบเจนจบเพลงรัก เอกบรมจักรพรรดิกษตั รยิ ์เบงชะเวต้ี
ตลอดล่มุ อริ วะดโี อนอนิ ทรยี ์นบเอย
แม่ศรีเอยแมศ่ รีเศวตฉัตร เจ้ายืดม่นั กตญั ญูเชิดชคู นดี
รอยฤทธิ์สบิ ทิศอญั ชลติ วันทนี ความเดน่ ไม่คงทแ่ี ตค่ วามดคี งทนเอย
แม่ศรีเอยแม่ศรีตองอู
รกั ษาสจั ธรรมเป็นทางนาวิถี
25
การแสดงชดุ ท่ี 14 ฉยุ ฉายอนิ ทรชติ แปลง
การราฉุยฉายอินทรชิต(แปลง) เป็นการแสดงชุดราชุดหน่ึง
ท่ีแทรกในโขนเร่ืองรามเกียรต์ิตอน ศึก พ รหมาศ กล่าวถึง
อินทรชิต(แปลง) ซึ่งเป็นโอรสของทศกัณฐ์ นาทัพออกต่อสู้กับกองทัพ
ของพระลักษมณ์ อินทรชิตได้ทาอุบาย แปลงกายเป็นพระอินทร์
ทรงช้างเอราวัณพร้อมบรรดาไพร่พลยักษ์ แปลงกายเป็นเหล่าเทวดา
นางฟ้า เพ่ือล่อลวงให้พระลักษมณ์และเหล่าบรรดาไพร่พลวานร
ว่าเป็นพระอินทร์ลงมาจากสวรรค์ พระลักษมณ์และไพร่พลได้
เผลอมองดูและเป็นจริงดังคาด คิดว่าเป็นพระอินทร์จริง จึงมองดู
อย่างเพลิดเพลิน โดยท่ีอินทรชิตคอยหาทางสังหารพระลักษณ์
และเหล่าบรรดาไพร่พลวานร อินทรชิตจึงได้แผลงศรพรมมาศ
ต้องตัวพระลักษมณจ์ นสลบไป
แสดงโดย: นางสาวศิริภรณ์ เซ็งแซ่
ผู้ถ่ายทอดกระบวนทา่ รา: สรวีย์ อาษาไชย
26
บทรอ้ งและทานองเพลง
ฉุยฉายเอย ช่างบดิ เบือนไดเ้ หมือนหมาย
โฉมเฉดิ เลศิ โฉมชาย รปู ยกั ษ์ใหไ้ ปจนหมด
อรชนอ้อนแอ้นเอวกลม ดูช่างน่าชมสมเกยี รตยิ ศ
-รอ้ งแม่ศร-ี
ยักษ์เอยยกั ษ์ แสนสวย
เอวอ่อนระทวย สารวยทัว่ ตน
ช่างเหมอื นอมรนิ ทร์ ปิ่นฟ้าเวหน
ชะชา่ งทากล จรงิ ยักษเ์ อย
-ปีพ่ าทย์ทาเพลงเร็ว – ลา-
27
การแสดงชุดท่ี 15 รามสรู นง่ั วิมาน
การแสดงชุด รามสูรนั่งวิมาน เป็นระบาเรื่องส้ัน ๆ
ก่อนการแสดงละครเร่ืองใหญ่ เป็นละครในตอนหนึ่งอยู่ในเร่ือง
รามเกียรติ์ ปัจจบุ นั น้ีจานามาเป็นการแสดงเบิกโรงแบบโบราณ
ไม่ได้แล้ว จะไม่เข้ากับสถานการณ์ท่ีแปรเปล่ียนไป จึงได้มี
วิวัฒนาการขึ้นมาใหม่ เพื่อให้มีความสัมพันธ์สอดคล้องกับ
สงั คม เศรษฐกิจ และการเมอื ง แต่ยังคงอนรุ ักษ์รูปแบบของการ
แสดงรามสรู นงั่ วิมานไวค้ งเดิม
แสดงโดย: นายธนากร เบญ็ มาศ
ผู้ถา่ ยทอดกระบวนทา่ รา: นายมณี อ่อนคณู
28
บทรอ้ งและทานองเพลง
เมอื่ น้ัน รามสูรประทบั อยบู่ นอาสน์ รามสรู สทิ ธศิ กั ด์ิยกั ษา
อาศัยในกลบี เมฆา -ร้องเพลงสมิงทองมอญ- เปน็ ที่ผาสกุ สาราญ
มศี รขวานเพชรเปน็ อาวุธ ฤทธิรทุ หยาบชา้ กล้าหาญ
ทงั้ หกทอ้ งสวรรค์ชนั้ บาดาล -ป่พี าทยท์ าเพลงคุกพาทย์- เกรงเดชจุนมารไมท่ านกร
ยง่ิ คดิ ยิ่งเอิบกาเรบิ นกั -เชดิ - ทะนงศกั ดิต์ งั หนึง่ ไกรสร
อา่ องคท์ รงทพิ ยอ์ าภรณ์ จบั ขวานฤทธิรอนแล้วเหาะมา
29
การแสดงชดุ ที่ 16 ฉุยฉายศูรปนขา
ฉุยฉายศูรปนขา เป็นชุดการแสดงราเด่ียวตัวนางใน
ลีลาของนางยักษ์ นางศูรปนขาได้ช่ือว่าเป็นผู้จุดชนวนศึกระหว่าง
ทศกัณฐ์เจ้ากรุงลงกากับฝ่ายพระรามแห่งกรุงอโยธยาจนที่สุด
ทาให้พระญาติวงศ์เผ่าพงศ์ยักษ์ต้องกาลวิบัติด้วยกิเลสตัณหา
ของตนเอง เป็นการแสดงชุดหนึ่งอยู่ในโขนเร่ืองรามเกียรต์ิ
เนือ้ เรอื่ งกลา่ วถึงนางศูรปนขานอ้ งสาวทศกัณฐ์ หลงใหลในความงาม
ของพระรามอยากไดพ้ ระรามเป็นคู่ครองจึงได้แปลงกายเป็นสาวงาม
มาย่ัวยวนพระราม การราฉุยฉายจึงเป็นศิลปะที่แสดงถึง
ความสามารถในเชงิ ฝมี อื ราเดย่ี ว ซง่ึ สามารถแปลงกายได้สวยงาม
แสดงโดย: นางสาวชุติกาญจน์ ดนตรี
ผู้ถ่ายทอดกระบวนทา่ รา: นายสทิ ธิศกั ด์ิ กล่อมเดช
30
บทร้องและทานองเพลง
ฉุยฉายเอย เสรจ็ จาแลงแปลงกายจะตามชายไปให้ทนั
นกั พรตชา่ งงามวไิ ล แตง่ ตวั เราไซรไ้ ปใหค้ มสัน
ผา้ นุง่ ใหม่สไบหอมให้พริง้ พรอ้ มทุกส่งิ อนั อกี เพชรพรายพรรณเห็นกระนน้ั คงตดิ ใจ
อยากจะสอ่ งพระฉายหัดแยม้ พรายใหย้ ั่วยวน
เสยี ดายเอย ช่างเถดิ เจรจาและแยม้ สรวล
กระจกในไพรหาทีไ่ หนมา คงตามลามลวนมาชวนเราเอย
ใหเ้ สยี งอ่อนหวานกระบดิ กระบวน แมศ่ รีโฉมเฉลา
เจา้ หนุม่ จะได้หลง
แมศ่ รเี อย ควักคอ้ นให้งวยงง
แตง่ จริตใหพ้ รง้ิ เพรา จะสลดั ปดั กรเอย
ตอ้ งทาแสนงอน แม่จะแกล้งเล่นตวั
แมน้ มาตอ้ งองค์ เราจะหยิกจะตี
จะย่ัวให้สนิ้ ดี
แม่เลน่ ตัวเอย ทใ่ี นกฎุ ี เจยี วเลย
แมน้ มากอดพนั พัว
อยากมาหลงทาไม
แทบเป็นบา้ ครานี้
31
การแสดงชดุ ท่ี 17 ฉยุ ฉายวนั ทองแตง่ ตัว
การแสดงชุดวันทองแต่งตัว เป็นการราเดี่ยวที่ตัดตอน
มาจากละครเร่ืองขุนช้างขุนแผน ตอนพระไวย แตกทัพ ในความ
ตอนน้ันกล่าวว่า พลายงามหรือจมื่นไวยวรนาถได้รับพระราช
บัญชาให้ยกทัพไปปราบทัพมอญใหม่ เปรตวันทองจึงกลายร่าง
เป็นสาวงามแต่งตัวและใส่เคร่ืองประดับสวยงามมาดักรอลูกชาย
เพ่ือส่งข่าวว่า ทัพมอญใหม่คือ ขุนแผนผู้เป็นบิดากับน้องชาย
ช่อื พลายชุมพลน่ันเอง แต่จม่ืนไวยวรนาถไม่รู้ว่านางคือแม่ของตน
จึงเข้าไปเก้ียวพาราสี นางวันทองจึงคืนร่างเป็นเปรตและเตือน
พระไวยให้ร้ถู งึ การศึกในคร้งั น้ี
แสดงโดย: นางสาวกนกกร สุธน
ผู้ถ่ายทอดกระบวนทา่ รา: รัฐภมู ิ พงษ์อารีย์
32
บทรอ้ งและทานองเพลง
-ปพ่ี าทยท์ าเพลงรัว-
-รอ้ งเพลงชมตลาด-
นวลละอองผ่องศรฉี วขี าว เมื่อแรกร่นุ รปู ราวกบั นางห้าม
มวยกระหมวดกวดเกลา้ เหมอื นเจา้ พราหมณ์ ใส่สังวาลประจายามประดบั พลอย
น่าเอ็นดูใส่ตา่ งหูระยา้ เพชร แตล่ ะเม็ดสุกย่ิงดังนิ่งหอ้ ย
ใส่แหวนงมู รกตขตข้อย สวมสร้อยปะวะหลา่ กาไล
น่งุ สังเวยี นพนื้ มว่ งดวงทอง ห่มตาดลายองผ่องใส
ใสก่ รอบพักตรว์ เิ ชยี รเจยี ระไน ทัดดอกไมพ้ วงเพชรเมด็ พราย
กาไลเท้าทองปล่ังทง้ั คู่ แลดูงามเลศิ เฉิดฉาย
เย้อื งย่างยุรยาตรนาดกราย รอ้ งฉุยฉายเสียงเฉอ่ื ยระเร่อื ยมา
-ปพ่ี าทย์ทาเพลงเรว็ – ลา-
33
การแสดงชดุ ที่ 18 ฉุยฉายผีเส้อื สมุทรแปลง
ราฉุยฉายผีเส้ือสมุทรแปลง เป็นการราเดี่ยว
ข อ ง น า ง ผี เ ส้ื อ ส มุ ท ร จ า ก ล ะ ค ร น อ ก เ รื่ อ ง พ ร ะ อ ภั ย ม ณี
ประพันธ์บทร้องข้ึนใหม่โดยอาจารย์วันทนีย์ ม่วงบุญ
นาฏศิลปินอาวุโส สานักการสังคีต กรมศิลปากร เน้ือเรื่อง
มีอยู่ว่า พระอภัยมณีและศรีสุวรรณพระอนุชา ถูกบิดาขับไล่
ไม่ให้อยู่เมือง ท้ังสองพระองค์จึงต้องซัดเซพเนจรจนกระท่ัง
ได้พบกับสามพราหมณ์ และขอให้พระอภัยมณีเป่าป่ีให้ฟัง
จงึ ทาใหท้ ้ังหมดเคลิบเคลิ้มและหลับใหลไปด้วยเสียงอันไพเราะ
ของป่ี นางผีเส้ือได้ยินเสียงป่ีจึงเกิดเป็นความรักและหลงใหล
จึงได้ลักตัวพระอภัยมณีมาไว้ในถ้าในที่สุด เน่ืองจากนางผีเสื้อ
สมุทรหน้าตาดุร้าย นางจึงจาเป็นต้องแปลงกายเป็นหญิงงาม
แล้วร่ายราเพลงฉุยฉายเพ่ือชมโฉมก่อนที่จะเข้าไปย่ัวยวน
พระอภัยเพ่ือใหส้ นทิ เสนห่ ์หาในตนเอง
แสดงโดย: นางสาวผกามาศ ทองคามาก
ผู้ถ่ายทอดกระบวนทา่ รา: นายสิทธิศักด์ิ กลอ่ มเดช
34
บทร้องและทานองเพลง
ผีเส้ือสมุทรเอย แปลงเป็นมนุษย์ดปู ระดุจเทพธดิ า
หน้าบึ้งขงึ ร้ายกลับกลายโสภา ทงั้ ปากคอคิ้วคางยัว่ อรุ าเมือ่ ชายชน
ท่าทีมีจริตจะเข้าชดิ พระอภยั ให้ทรงหลงใหลคลง่ั ไคล้สนิทสนม
ผวิ พรรณผุดผอ่ งอล่องฉ่องดงั ทองทา
นวลละอองเอย รีบเรง่ ไปหาพระเอกเจ้าผเู้ ป่าป่ี
พกั ตรพ์ ร้ิมยิม้ ละมยั กระหย่มิ ใจไคลคลา เจยี นจะบาดชีวนั เจยี วหนอพอ่ มณี
เสยี งตอ้ ยตะลิดให้จติ ไหวหว่ัน ลีลาศนาดนวยกระชุ่มกระชวยระรวยระรื่น
แสนชอมุ่ ชมุ่ ช่นื ทกุ ค่าคนื ในถ้าเอย
แมศ่ รีผีเส้อื สวย จะองิ แอบแนบเนื้อชาตเิ ช้อื กษตั รา
วนั นจ้ี ะมีคูไ่ ด้อยู่ยงยืน พระอภยั ราชาเปน็ ของข้าคราวนเี้ อย
สมฤดอี ผี ีเสื้อ
ดว้ ยจติ พศิ วาสมงุ่ มาตรปรารถนา
35
การแสดงชดุ ที่ 19 ฉยุ ฉายยอพระกลิน่
ฉุยฉายยอพระกล่ิน เป็นชุดการแสดงราเด่ียวตัวนาง
ท่ีสวยงามอีกชุดหนึ่ง อยู่ในการแสดง ละครดึกดาบรรพ์
เรื่องมณีพิชัย บทพระนิพนธ์ในสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรา
นุวัตติวงศ์ เนื้อเรื่องกล่าวถึง ตอนท่ีพระมณีพิชัยต้องไปเป็นข้า
รับใช้ของเจ้าพราหมณ์ (นางยอพระกลิ่นซึ่งเป็นมเหสีของพระมณี
พิชัยแปลงมา) เจ้าพราหมณ์แปลงนึกสงสารพระมณีพิชัยจึงออก
อุบายว่าตนจะไปเท่ียวป่า และจะให้น้องสาวมาอยู่เป็นเพ่ือน
เมื่อสั่งเสร็จ เจ้าพราหมณ์ก็เดินเล่ียงมา แปลงกายกลับเป็น
นางยอพระกล่ินตามเดิม ลีลาการร่ายราชุดนี้เม่ือนางยอพระกล่ิน
แปลงกายแต่งตัวใหม่จึงเกิดความภาคภูมิใจท่ีแต่งองค์ทรงเครื่อง
สวยงดงาม เพื่อให้พระมณีพิชัยตกใจและเกิดความหลงใหล
แสดงโดย: นางสาวกนกวรรณ อนุ่ จิตร ในความงาม
ผู้ถ่ายทอดกระบวนท่ารา: อาจารย์วันทนา เหมสมติ ิ
36
บทร้องและทานองเพลง 37
-ปี่พาทย์ทาเพลงรัว-
-รอ้ งเพลงฉยุ ฉาย-
ฉุยฉายเอย ชาเลอื งเย้อื งกรายเลียบชายมาในป่า
เคร่ืองประดบั วะวบั แวมแสง ขาวเขียวแดงเพชรนิลจินดา
งามสรรพงามจับนยั น์ตา พระมณีเหน็ หนา้ จะบ้าตาย
สายสวาท ระทวยนวยนาดวิลาสวิไล
นวลละอองสองแก้ม ยิ้มแย้มอยแู่ จ่มใส
พระมณเี ห็นเมอื่ ไร ใจจะขาดลงรอนรอนรอ้ งแม่ศรี
แม่ศรเี อย แมศ่ รแี สนงอน
เจรจาวา่ วอน ออดออ้ นน่าฟัง
เตรยี มจะล้อพระมณี ใหภ้ มู เี ธอจังงงั
ใจหน่มุ คงคลมุ้ คลั่ง นา่ ฟังเจา้ แม่ศรีเอย
เจ้าสไบเอย เจ้าสไบสีลน้ิ จี่
เจ้าค่อยจรลี มาท่ีศาลาลัย
เจ้าจะลวงดูทว่ งที พระมณีพิชยั
ดัดจรติ ให้ตดิ ใจ รกั เจ้าสไบสีเอย
-ปี่พาทย์ทาเพลงเร็ว – ลา-
การแสดงชุดที่ 20 ฉยุ ฉายนางนารายณ์
ฉุยฉายนางนารายณ์ ตัดตอนมาจากวรรณกรรม
เรื่องรามเกียรติ์ ตอน นารายณ์ปราบนนทก พระอิศวร
ทรงทราบถึงความเกเรของนนทก ก็กร้ิวโปรดให้พระนารายณ์
ไปปราบนนทก พระนารายณ์จึงแปลงกายเป็นนางฟ้า
มาย่ัวยวนนนทก นนทกนึกรักจึงเก้ียวนางแปลง นางแปลงจึง
ชวนให้นนทกร่ายราก่อนจึงจะรับรัก นนทกตกลงราตามไป
จนถึงท่าราที่ใช้น้ิวเพชรช้ีที่เข่าตนเอง จากน้ันนนทกก็ล้มลง
และกอ่ นตายนนทกเห็นนางแปลงปรากฏรา่ งเป็นพระนารายณ์
แสดงโดย: นางสาวจฑุ ามาศ ศรสี มัคร
ผู้ถ่ายทอดกระบวนท่ารา: อาจารย์ธวี รา รตั นศึกษา
38
บทรอ้ งและทานองเพลง
-ปพี่ าทยท์ าเพลงรัว-
-ร้องเพลงฉยุ ฉาย-
ฉยุ ฉายเอย จาแลงแปลงกายเปน็ นารายณ์เทพธิดา
จะไปสังหารนนทกยักษา
ดว้ ยปวงเทพไทได้ออ้ นวอน ผู้จอมอหังการ์ให้มว้ ยมรณ์
อัปสราเอย ใหพ้ ระสก่ี รปราบมารยกั ษ์เอย
ทั้งเอวองคข์ นงเนตร
อสรู ได้พบประสบพลัน รปู โฉมงามนกั ผ่องพักตร์ผิวพรรณ
แม่ศรีเอย งามยิ่งเยาวเรศในสรวงสวรรค์
นวยนาฏกรีดกราย
สองเนตรคมขาสีดามฤคา ฤทัยไหวหวนั่ ดว้ ยปฎิพัทธเ์ อย
นารายณ์เอย -รอ้ งเพลงแม่ศร-ี
ฟอ้ นราทาแสรง้
ดาเนินตามท่วงท่า แม่ศรีนางนารายณ์
นาคามว้ นหางวง
เยอื้ งย้ายงามสงา่
งามพกั ตร์ย่ิงกว่าเทพธิดาทงั้ ปวงเอย
นารายณ์จาแลง
แกลง้ ยกั ษใ์ ห้ไหลหลง
นาฏลีลาอนงค์
ชี้ลงตรงเพลาเอย 39
ขอขอบพระคุณ
คณะกรรมการผ้ทู รงคุณวฒุ ิ
1. รองศาสตราจารย์อัมรา กล่าเจริญ
2. ผู้ช่วยศาสตราจารยพ์ สิ ษิ ฐ์ บัวงาม
3. อาจารยฤ์ ตพชรพร ทองถนอม
อาจารย์ทป่ี รกึ ษา
อาจารย์ธดิ ารตั น์ ภมู วิ ฒั นะ
ภาพการ์ตนู ในรูปเลม่
Facebook: WorawitNu PhotoBook