The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หน่วยการเรียนรู้ที่ 11 เกมเบ็ดเตล็ด แผน 1-5ปี 2563

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by somchai.phien, 2022-09-25 02:23:32

หน่วยการเรียนรู้ที่ 11 เกมเบ็ดเตล็ด แผน 1-5ปี 2563

หน่วยการเรียนรู้ที่ 11 เกมเบ็ดเตล็ด แผน 1-5ปี 2563

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3
กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ขุ ศกึ ษาและพลศึกษา พ 13101 เวลา 1 - 2 ช่ัวโมง
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 11 เกมเบ็ดเตล็ด
เรื่อง การออกกาลังกายและอบอุ่นร่างกาย

1. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

การออกกาลงั กายชว่ ยใหส้ ขุ ภาพแขง็ แรง ส่วนการอบอนุ่ ร่างกายเป็นการเตรยี มความพรอ้ มของร่างกาย
ก่อนออกกาลงั กาย เพอ่ื ใหร้ ่างกายเกดิ ความพรอ้ มและมีความปลอดภยั

2. ตวั ชีว้ ดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

2.1 ตวั ช้ีวดั
พ 3.1 ป.3/2 เคล่อื นไหวรา่ งกายทใ่ี ชท้ กั ษะการเคลอ่ื นไหวแบบบงั คบั ทศิ ทางในการเล่นเกมเบด็ เตลด็
พ 3.2 ป.3/1 เลอื กออกกาลงั กาย การละเลน่ พน้ื เมอื งและเลน่ เกมทเ่ี หมาะสมกบั จุดเด่น จดุ ดอ้ ย และขอ้ จากดั ของตนเอง

2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1) อธบิ ายหลกั การออกกาลงั กายทถ่ี กู ตอ้ ง
2) อบอ่นุ รา่ งกายไดอ้ ยา่ งถกู วธิ ี

3. สาระการเรียนรู้

3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

1) กจิ กรรมทางกายทใ่ี ชท้ กั ษะการเคล่อื นไหวแบบบงั คบั ทศิ ทางในการเลน่ เกมเบด็ เตลด็
2) แนวทางการเลอื กออกกาลงั กาย และเล่นเกมทเ่ี หมาะสมกบั จุดเดน่ จดุ ดอ้ ย และขอ้ จากดั ของแตล่ ะบุคคล
3) การออกกาลงั กาย และเกม

3.2 สาระการเรยี นร้ทู ้องถิน่
(พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา)

4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน

4.1 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้
2) ทกั ษะการเชอ่ื มโยง

4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. มวี นิ ยั
2. ตรงต่อเวลา
3. มนี ้าใจนกั กฬี า

493 สขุ ศกึ ษาฯ ป.3

6. กิจกรรมการเรยี นรู้
 วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการปฏิบตั ิ

 นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 11 เรอื่ ง เกมเบด็ เตลด็

ขนั้ ที่ 1 สงั เกต รบั รู้

สอ่ื การเรยี นรู้ : 1. หนงั สอื เรยี น สขุ ศกึ ษาฯ ป.3 2. เอกสารประกอบการสอน คาถามกระตุ้นความคิด

1. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุน้ ความคดิ  นักเรยี นออกกาลงั กายเพราะอะไร
2. ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละคนบอกถงึ กจิ กรรมออกกาลงั กายทช่ี ่นื ชอบ และมีความจาเป็นต่อนักเรียนหรอื ไม่
อย่างไร
พรอ้ มระบเุ หตุผลประกอบ
3. ครขู ออาสาสมคั รนกั เรยี นออกมาเลา่ ถงึ กจิ กรรมออกกาลงั กายท่ี (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยให้
อยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน)
ชน่ื ชอบใหเ้ พอ่ื นๆ ฟัง
4. ครชู แ้ี จงใหน้ กั เรยี นฟังว่า กอ่ นออกกาลงั กายหรอื เล่นกฬี าจะต้องมี

การอบอุ่นร่างกาย เพ่อื เตรยี มความพรอ้ มใหก้ บั ร่างกาย ซง่ึ การ
อบอุ่นร่างกายมหี ลายประเภท โดยจะเรมิ่ ต้นจากการเคลอ่ื นไหว
แบบชา้ ๆ ไปจนถงึ การเคล่อื นไหวทเ่ี รว็ ขน้ึ ตามลาดบั
5. นกั เรยี นศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง การออกกาลงั กายและการอบอุ่นร่างกาย
จากหนงั สอื เรยี น
6. ครสู าธติ การอบอุ่นร่างกายในท่าต่างๆ ตามลาดบั ท่าท่ี 1-6 พรอ้ มกบั
อธบิ ายประกอบในแต่ละท่า เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสามารถนาไปปฏบิ ตั ติ าม
ได้

ขนั้ ท่ี 2 ทาตามแบบ

สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ : —

1. ครแู บ่งนกั เรยี นเป็นกลมุ่ กลุ่มละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ
คอื เกง่ ปานกลางค่อนขา้ งเกง่ ปานกลางคอ่ นขา้ งอ่อน และอ่อน

2. นกั เรยี นแต่ละกลุม่ ฝึกปฏบิ ตั กิ ารอบอุ่นร่างกายในทา่ ต่างๆ ตามแบบ
ทค่ี รสู าธติ อย่างเป็นลาดบั ขนั้ ตอน ครตู รวจสอบความถูกตอ้ งของ
นกั เรยี นแต่ละคน และใหข้ อ้ เสนอแนะหากมขี อ้ บกพรอ่ ง

ขนั้ ท่ี 3 ทาเองโดยไมม่ แี บบ

สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ : —

1. นกั เรยี นแต่ละคนฝึกปฏบิ ตั กิ ารอบอุ่นรา่ งกายตามทา่ ทก่ี าหนด
โดยไม่มแี บบ แลว้ ใหเ้ พอ่ื นสมาชกิ กลุ่มสงั เกตว่า สามารถทาเอง
ไดอ้ ย่างถกู วธิ หี รอื ไม่

2. ครสู งั เกตการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมของนกั เรยี นแต่ละกลมุ่ พรอ้ มให้
คาแนะนาหากการปฏบิ ตั ขิ องนกั เรยี นมขี อ้ บกพรอ่ ง

494 สุขศกึ ษาฯ ป.3

ขนั้ ท่ี 4 ฝึกทาให้ชานาญ คาถามกระต้นุ ความคิด

สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ : —  การอบอ่นุ ร่างกายกอ่ นออกกาลงั กาย
หรือเล่นกฬี า มีประโยชน์อย่างไร
1. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคดิ
2. ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ ออกมาแสดงการอบอุ่นรา่ งกาย (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยให้
3. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรุปความรเู้ รอ่ื ง การออกกาลงั กายและการ อยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครูผูส้ อน

อบอุ่นรา่ งกาย และเน้นย้าใหน้ กั เรยี นตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของ
การออกกาลงั กายและการอบอุ่นรา่ งกาย

7. การวดั และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์

วิธีการ แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 11 (ประเมนิ ตามสภาพจรงิ )
ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 11 แบบประเมนิ ทกั ษะกระบวนการพลศกึ ษา
ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการพลศกึ ษา แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตความมวี นิ ยั ตรงต่อเวลา และมนี ้าใจนกั กฬี า ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้

8.1 สือ่ การเรยี นรู้

1) หนงั สอื เรยี น สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ป.3
2) การอบอุ่นรา่ งกายทา่ ท่ี 1-6

8.2 แหล่งการเรยี นรู้



495 สขุ ศกึ ษาฯ ป.3

เอกสารประกอบการสอน การอบอ่นุ ร่างกาย 

 

กม้ ศรี ษะ ศรี ษะตงั้ ตรง หมนุ หวั ไหล่ไปดา้ นหน้า หมนุ เอวไปทางซา้ ย
แหงนศรี ษะไปดา้ นหลงั แลว้ หมนุ หวั ไหล่ไปดา้ นหลงั สลบั กบั หมนุ เอวไป
ตงั้ ศรี ษะตรง เอยี งไป
ทางซ้าย ตงั้ ศรี ษะตรง  ทางขวา

เอยี งไปทางขวา 



ใชม้ อื จบั หวั เขา่ ยอ่ ลง สะบดั ขอ้ มอื เบาๆ หมนุ ขอ้ เทา้
ยดื ขน้ึ เป็นจงั หวะ 10 ครงั้

496 สุขศกึ ษาฯ ป.3

แบบประเมิน ทกั ษะกระบวนการพลศึกษา

ชอ่ื ชนั้

คาชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ งวา่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน
321

1 ปฏบิ ตั ไิ ดต้ ามวธิ กี าร
2 ปฏบิ ตั ไิ ดอ้ ย่างคล่องแคล่ว
3 ปฏบิ ตั ไิ ดต้ ามเวลาทก่ี าหนด
4 ปฏบิ ตั ดิ ว้ ยความระมดั ระวงั ดา้ นความปลอดภยั

5 มนี ้าใจนกั กฬี า
รวม

ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................

เกณฑก์ ารให้คะแนน

ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมนิ สมบูรณ์ชดั เจน ให้ 3 คะแนน
2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมนิ เป็นสว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน

ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมนิ บางสว่ น ให้

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

12 - 15 ดี
8 - 11 พอใช้
ต่ากว่า 8 ปรบั ปรงุ

497 สขุ ศกึ ษาฯ ป.3

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

คาชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ งวา่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ ้าน 321

1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และบอกความหมายของ
กษตั ริย์ เพลงชาติ

1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธหิ น้าท่ี

1.3 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทเ่ี ป็นประโยชน์ต่อโรงเรยี นและปฏบิ ตั ติ นเป็นตวั อย่างทด่ี ี
ในการสรา้ งความสามคั คี ปรองดองในหม่เู พ่อื น

1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา
อย่างสม่าเสมอ เป็นตวั อย่างทด่ี ขี องศาสนิกชน

1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมและมสี ่วนร่วมในการจดั กจิ กรรมทเ่ี ก่ยี วกบั สถาบนั
พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี นและชมุ ชนจดั ขน้ึ

2. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกต้อง และเป็นจรงิ

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผดิ ทาตาม
สญั ญาทต่ี นให้ไวก้ บั พอ่ แมห่ รอื ผปู้ กครอง และครู

2.3 ปฏบิ ตั ติ นตอ่ ผอู้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง

3. มีวินัย รบั ผิดชอบ 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และ
โรงเรยี น มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั

4. ใฝ่ เรยี นรู้ 4.1 รจู้ กั ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้

4.2 รจู้ กั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม

4.3 เช่อื ฟังคาสงั่ สอนของบดิ า-มารดา โดยไม่โต้แยง้

4.4 ตงั้ ใจเรยี น

4.5 รจู้ กั ปรบั ปรุงตนเองในขอ้ ผดิ พลาด

4.6 รจู้ กั มธั ยสั ถ์ และเกบ็ ออม

4.7 รจู้ กั อดทน กลา้ แสดงสง่ิ ทถ่ี ูกต้อง รกั ษากฎ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของชุมชน

498 สุขศกึ ษาฯ ป.3

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (ต่อ)

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ งวา่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ ้าน 321

5. อย่อู ย่างพอเพียง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ และสง่ิ ของของโรงเรยี นอย่างประหยดั
5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรยี นอย่างประหยดั และรคู้ ุณค่า
6. ม่งุ มนั่ ในการ 5.3 ใชจ้ ่ายอยา่ งประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงนิ
ทางาน 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออุปสรรคเพอ่ื ใหง้ านสาเรจ็
7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาไทย
7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย
8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน
8.2 อาสาทางาน และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ อู้ ่นื
8.3 รจู้ กั การดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสง่ิ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น

เขา้ ร่วมกจิ กรรมของโรงเรยี น

เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสม่าเสมอ
พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน
พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั บิ างครงั้ ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน

499 สขุ ศกึ ษาฯ ป.3

บนั ทึกหลงั แผนการสอน

 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

 ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

 ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล (ถ้าม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

ขอ้ เสนอแนะ ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย

ลงชอ่ื )
(
ตาแหน่ง

500 สุขศกึ ษาฯ ป.3

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3
กลุ่มสาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา พ 13101 เวลา 1 - 2 ช่ัวโมง
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 11 เกมเบ็ดเตล็ด
เรื่อง เกมแขง่ รถ

1. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

การเล่นเกมแขง่ รถ เป็นการเคลอ่ื นไหวร่างกายทใ่ี ชท้ กั ษะการเคลอ่ื นไหวแบบบงั คบั ทศิ ทาง เพอ่ื สรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ
ร่างกายใหแ้ ขง็ แรง ซง่ึ ตอ้ งปฏบิ ตั ใิ หถ้ ูกตอ้ งตามกฎ กตกิ า และขอ้ ตกลงในการเลน่

2. ตวั ชีว้ ดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

2.1 ตวั ช้ีวดั
พ 3.1 ป.3/2 เคล่อื นไหวร่างกายทใ่ี ชท้ กั ษะการเคล่อื นไหวแบบบงั คบั ทศิ ทางในการเลน่ เกมเบด็ เตลด็
พ 3.2 ป.3/2 ปฏบิ ตั ติ ามกฎ กตกิ า และขอ้ ตกลงของการออกกาลงั กาย การเลน่ เกม การละเล่นพน้ื เมอื งไดด้ ว้ ยตนเอง

2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1) อธบิ ายวธิ เี ลน่ เกมแขง่ รถได้
2) เล่นเกมแขง่ รถไดอ้ ย่างถกู วธิ ี

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง

1) กจิ กรรมทางกายทใ่ี ชท้ กั ษะการเคลอ่ื นไหวแบบบงั คบั ทศิ ทางในการเลน่ เกมเบด็ เตลด็
2) กฎ กตกิ า และขอ้ ตกลงในการออกกาลงั กาย และการเล่นเกม

3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่
(พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา)

4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน

4.1 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้
2) ทกั ษะการเชอ่ื มโยง

4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. มวี นิ ยั
2. ตรงตอ่ เวลา
3. มนี ้าใจนกั กฬี า

501 สขุ ศกึ ษาฯ ป.3

6. กิจกรรมการเรยี นรู้ คาถามกระต้นุ ความคิด
 การเล่น จดั เป็นการเรยี นร้ไู ดห้ รอื ไม่ อย่างไร
 วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการปฏิบตั ิ
(พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยให้
ขนั้ ที่ 1 สงั เกต รบั รู้ อยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน)

สอ่ื การเรยี นรู้ : หนงั สอื เรยี น สขุ ศกึ ษาฯ ป.3 คาถามกระตุ้นความคิด
 นักเรียนคิดว่า การเล่นเกมเบด็ เตลด็ ให้
7. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุน้ ความคดิ
8. ครใู หน้ กั เรยี นช่วยกนั ยกตวั อยา่ งเกมเบด็ เตลด็ ทร่ี จู้ กั หรอื เคยเลน่ ประโยชน์ต่อนักเรยี นอย่างไร
(พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยให้
แลว้ สุ่มเรยี กนกั เรยี น 2-3 คน ออกมาเลา่ ถงึ วธิ กี ารเล่นใหเ้ พ่อื นฟัง อยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน)
9. ครแู นะนาเกมเบด็ เตลด็ ใหน้ กั เรยี นรจู้ กั จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นศกึ ษา

ความรเู้ รอ่ื ง เกมแขง่ รถ จากหนงั สอื เรยี น

ขนั้ ที่ 2 ทาตามแบบ

สอ่ื การเรยี นรู้ : เอกสารประกอบการสอน

1. ครอู ธบิ ายวธิ กี ารเล่นเกมแข่งรถ จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นรวมกลุ่มเดมิ
(จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1) แลว้ ขออาสาสมคั รนกั เรยี น 1-2
คน ออกมานาเพ่อื นอบอุ่นร่างกายก่อนการฝึกเล่นเกม

2. ครเู ลอื กนกั เรยี น 1 กลมุ่ ออกมาเลน่ เกมแข่งรถใหเ้ พอ่ื นดู โดยครู
อธบิ ายประกอบในแต่ละขนั้ ตอน เพ่อื ใหก้ ลมุ่ ตวั อยา่ งสามารถ
ปฏบิ ตั ไิ ดอ้ ย่างถูกต้อง และคลอ่ งแคลว่

3. นกั เรยี นแต่ละกลุม่ ฝึกปฏบิ ตั ติ ามแบบใหถ้ กู ต้อง หากไม่เขา้ ใจให้
สอบถามครผู สู้ อน หรอื ศกึ ษาเพมิ่ เตมิ จากเอกสารประกอบ
การสอน

ขนั้ ท่ี 3 ทาเองโดยไม่มีแบบ

สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ : —

1. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มฝึกเลน่ เกมแข่งรถ โดยไม่มแี บบ แลว้ ใหเ้ พ่อื น
สมาชกิ ในกลุ่มสงั เกตวา่ สามารถทาไดอ้ ยา่ งถกู วธิ หี รอื ไม่ จากนนั้
ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ แขง่ ขนั กนั เองภายในกลุ่ม

2. ครสู งั เกตการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล และ
เน้นย้าใหน้ กั เรยี นคานงึ ถงึ ความปลอดภยั ของตนเองและผอู้ ่นื

3. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคดิ

502 สขุ ศกึ ษาฯ ป.3

ขนั้ ที่ 4 ฝึกทาให้ชานาญ

สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ : —

1. ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั แข่งขนั เล่นเกมแขง่ รถ จากนนั้
สรปุ ผลการแข่งขนั และใหค้ าชมเชยกบั นกั เรยี นแต่ละกล่มุ

2. นกั เรยี นร่วมกนั อบอุ่นร่างกายหลงั การเล่นเกมแข่งรถพรอ้ มกนั
3. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายเกย่ี วกบั ประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั จากการ

เลน่ เกมแข่งรถ

7. การวดั และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์

วิธีการ แบบประเมนิ ทกั ษะกระบวนการพลศกึ ษา ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการพลศกึ ษา แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตความมวี นิ ยั ตรงต่อเวลา และมนี ้าใจนกั กฬี า

8. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้

8.1 สือ่ การเรยี นรู้

1) หนงั สอื เรยี น สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ป.3
2) วธิ กี ารเล่นเกมแขง่ รถ

8.2 แหล่งการเรียนรู้


503 สขุ ศกึ ษาฯ ป.3

เอกสารประกอบการสอน

เกมแข่งรถ

เสน้ ชยั

จดุ เรมิ่ ตน้

เสน้ ชยั

จุดเรม่ิ ต้น

10 เมตร

เกมแข่งรถ มวี ิธีเล่น ดงั นี้

 ใหน้ กั เรยี นจบั คกู่ นั โดยใหค้ นหน่งึ ใชผ้ า้ ปิดตาเป็น “รถ” อกี คนหน่งึ ยนื ขา้ งหลงั เป็น “คนขบั ”
 ขดี เสน้ ซกิ แซก็ ทม่ี คี วามยาว 10 เมตร ใหแ้ ตล่ ะคยู่ นื เขา้ แถวอย่หู น้าเสน้ ทเ่ี ป็นจดุ เรม่ิ ตน้
 ใหแ้ ตล่ ะคู่เดนิ ตามเสน้ โดยให้ “รถ” เดนิ นาหน้า และ “คนขบั ” คอยบงั คบั รถดว้ ยการจบั ไหลท่ งั้ สองขา้ ง

ของ “รถ” ใหเ้ ดนิ ไปตามทางทก่ี าหนดจนถงึ เสน้ ชยั
 ผเู้ ลน่ คใู่ ดเดนิ ถงึ เสน้ ชยั ก่อนเป็นฝ่ายชนะ

504 สุขศกึ ษาฯ ป.3

แบบประเมิน ทกั ษะกระบวนการพลศึกษา

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ งวา่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลาดบั ที่ ชื่อ – สกลุ ปฏิบตั ิได้ตาม ปฏิบตั ิได้ ปฏิบตั ิได้ตาม ปฏิบตั ิด้วย มีน้าใจ รวม
ของผ้รู บั การ วิธีการ อย่าง เวลาที่กาหนด ความ นักกีฬา 15
คะแนน
ประเมิน 321 คล่องแคล่ว 321 ระมดั ระวงั 321
ด้านความ
321 ปลอดภยั

321

ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................

เกณฑก์ ารให้คะแนน

ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมนิ สมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 3 คะแนน
2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมนิ เป็นส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน

ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมนิ บางส่วน ให้

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
12 - 15 ดี
8 - 11
ต่ากวา่ 8 พอใช้
ปรบั ปรงุ

505 สุขศกึ ษาฯ ป.3

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

คาชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ งวา่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ ้าน 321

1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และบอกความหมายของ
กษตั ริย์ เพลงชาติ

1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธหิ น้าท่ี

1.3 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทเ่ี ป็นประโยชน์ต่อโรงเรยี นและปฏบิ ตั ติ นเป็นตวั อย่างทด่ี ี
ในการสรา้ งความสามคั คี ปรองดองในหม่เู พ่อื น

1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา
อยา่ งสม่าเสมอ เป็นตวั อย่างทด่ี ขี องศาสนกิ ชน

1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมและมสี ่วนร่วมในการจดั กจิ กรรมทเ่ี ก่ยี วกบั สถาบนั
พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี นและชมุ ชนจดั ขน้ึ

2. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ต้อง และเป็นจรงิ

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผดิ ทาตาม
สญั ญาทต่ี นให้ไวก้ บั พอ่ แมห่ รอื ผปู้ กครอง และครู

2.3 ปฏบิ ตั ติ นตอ่ ผอู้ ่นื ดว้ ยความซ่อื ตรง

3. มีวินัย รบั ผิดชอบ 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และ
โรงเรยี น มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั

4. ใฝ่ เรยี นรู้ 4.1 รจู้ กั ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้

4.2 รจู้ กั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม

4.3 เชอ่ื ฟังคาสงั่ สอนของบดิ า-มารดา โดยไม่โต้แยง้

4.4 ตงั้ ใจเรยี น

4.5 รจู้ กั ปรบั ปรุงตนเองในขอ้ ผดิ พลาด

4.6 รจู้ กั มธั ยสั ถ์ และเกบ็ ออม

4.7 รจู้ กั อดทน กลา้ แสดงสงิ่ ทถ่ี ูกต้อง รกั ษากฎ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของชุมชน

506 สุขศกึ ษาฯ ป.3

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (ต่อ)

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ งวา่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ ้าน 321

5. อย่อู ย่างพอเพียง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ และสงิ่ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั
5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรยี นอยา่ งประหยดั และรคู้ ุณค่า
6. ม่งุ มนั่ ในการ 5.3 ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงนิ
ทางาน 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออุปสรรคเพอ่ื ใหง้ านสาเรจ็
7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย
7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย
8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ช่วยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน
8.2 อาสาทางาน และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ อู้ ่นื
8.3 รจู้ กั การดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น

เขา้ รว่ มกจิ กรรมของโรงเรยี น

เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสม่าเสมอ
พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน
พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั บิ างครงั้ ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน

507 สุขศกึ ษาฯ ป.3

บนั ทึกหลงั แผนการสอน

 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

 ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

 ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถ้าม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

ขอ้ เสนอแนะ ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย

ลงชอ่ื )
(
ตาแหน่ง

508 สุขศกึ ษาฯ ป.3

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3 ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3
กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ุขศึกษาและพลศกึ ษา พ 13101 เวลา 1 - 2 ช่วั โมง
หน่วยการเรียนรู้ที่ 11 เกมเบด็ เตลด็
เรอื่ ง เกมเบ็ดเตลด็ / เกมบอกเรียกชือ่

1. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

การเลน่ เกมบอลเรยี กชอ่ื เป็นการเคลอ่ื นไหวร่างกายทใ่ี ชท้ กั ษะการเคลอ่ื นไหวแบบบงั คบั ทศิ ทาง เพอ่ื สรา้ งเสรมิ
สุขภาพร่างกายใหแ้ ขง็ แรง ซง่ึ ตอ้ งปฏบิ ตั ใิ หถ้ ูกตอ้ งตามกฎ กตกิ า และขอ้ ตกลงในการเล่น

2. ตวั ชีว้ ดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

2.1 ตวั ช้ีวดั
พ 3.1 ป.3/2 เคลอ่ื นไหวรา่ งกายทใ่ี ชท้ กั ษะการเคลอ่ื นไหวแบบบงั คบั ทศิ ทางในการเล่นเกมเบด็ เตลด็
พ 3.2 ป.3/2 ปฏบิ ตั ติ ามกฎ กตกิ า และขอ้ ตกลงของการออกกาลงั กาย การเล่นเกม การละเล่นพน้ื เมอื งไดด้ ว้ ยตนเอง

2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1) อธบิ ายวธิ เี ล่นเกมบอลเรยี กชอ่ื ได้
2) เลน่ เกมบอลเรยี กชอ่ื ไดอ้ ย่างถกู วธิ ี

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

1) กจิ กรรมทางกายทใ่ี ชท้ กั ษะการเคลอ่ื นไหวแบบบงั คบั ทศิ ทางในการเลน่ เกมเบด็ เตลด็
2) กฎ กตกิ า และขอ้ ตกลงในการออกกาลงั กาย และการเลน่ เกม

3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่
(พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา)

4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

4.1 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้
2) ทกั ษะการเชอ่ื มโยง

4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. มวี นิ ยั
2. ตรงตอ่ เวลา
3. มนี ้าใจนกั กฬี า

509 สุขศกึ ษาฯ ป.3

6. กิจกรรมการเรยี นรู้ คาถามกระต้นุ ความคิด

 วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการปฏิบตั ิ  นักเรยี นชอบเล่นเกมหรอื ไม่ และชอบเล่น
เกมแบบใด เพราะเหตุใด
ขนั้ ที่ 1 สงั เกต รบั รู้
(พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยให้
สอ่ื การเรยี นรู้ : หนังสอื เรยี น สขุ ศกึ ษาฯ ป.3 อยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน)

10.นกั เรยี นตอบคาถามกระตุน้ ความคดิ
11.ครถู ามวา่ นกั เรยี นเคยเลน่ เกมลงิ ชงิ บอลหรอื ไม่ จากนนั้ ครแู จง้ วา่ จะ

ใหน้ กั เรยี นเลน่ เกมบอลเรยี กช่อื ซง่ึ จดั เป็นเกมเบด็ เตลด็ ทม่ี ลี กั ษณะ
การเล่นคล้ายๆ ลงิ ชงิ บอล แต่จะตอ้ งอาศยั การใชส้ มาธแิ ละความ
ว่องไวในการเลน่
12.นกั เรยี นศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง เกมบอลเรยี กช่อื จากหนงั สอื เรยี น

ขนั้ ท่ี 2 ทาตามแบบ

สอ่ื การเรยี นรู้ : 1. หนงั สอื เรยี น สขุ ศกึ ษาฯ ป.3 2. เอกสารประกอบการสอน
3. ลกู บอล

1. ครอู ธบิ ายวธิ เี ลน่ และอุปกรณ์ทใ่ี ชใ้ นการเล่นเกมบอลเรยี กช่อื
จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นรวมกลุม่ เดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2)
แลว้ รวมกลุ่มกบั เพ่อื นอกี 1 กล่มุ ( 2 กลมุ่ รวมเป็น 8 คน)

2. ครขู ออาสาสมคั รนกั เรยี นออกมานาเพ่อื นอบอุ่นร่างกายกอ่ นการ
ฝึกเลน่ เกม

3. ครเู ลอื กนกั เรยี น 1 กลุ่ม ออกมาเลน่ เกมบอลเรยี กชอ่ื ใหเ้ พ่อื นดู โดย
ครอู ธบิ ายประกอบในแต่ละขนั้ ตอน เพ่อื ใหก้ ล่มุ ตวั อยา่ งสามารถ
ปฏบิ ตั ไิ ดอ้ ยา่ งถกู ต้อง และคล่องแคลว่

4. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มฝึกปฏบิ ตั ติ ามแบบใหถ้ กู ต้อง หากไมเ่ ขา้ ใจให้
สอบถามครผู สู้ อน หรอื ศกึ ษาเพมิ่ เตมิ จากเอกสารประกอบการสอน

ขนั้ ท่ี 3 ทาเองโดยไม่มแี บบ

สอ่ื การเรยี นรู้ : ลกู บอล

1. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มฝึกเล่นเกมบอลเรยี กช่อื โดยไมม่ แี บบ แลว้ ให้
เพ่อื นสมาชกิ ในกลมุ่ สงั เกตว่า สามารถทาไดอ้ ยา่ งถูกวธิ หี รอื ไม่

2. ครสู งั เกตการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมของนกั เรยี นเป็นกลุ่ม พรอ้ มให้
คาแนะนาหากการปฏบิ ตั ขิ องนกั เรยี นมขี อ้ บกพรอ่ ง

510 สขุ ศกึ ษาฯ ป.3

ขนั้ ท่ี 4 ฝึกทาให้ชานาญ คาถามกระต้นุ ความคิด

สอ่ื การเรยี นรู้ : ลกู บอล  การเล่นเกมชว่ ยให้นักเรียนมสี ขุ ภาพท่ีดี
หรือไม่ เพราะเหตใุ ด
4. ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั แขง่ ขนั เล่นเกมบอลเรยี กช่อื จากนนั้
สรปุ ผลการแขง่ ขนั และใหค้ าชมเชยกบั นกั เรยี นแต่ละกลุม่ (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยให้
อยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน)
5. นกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายเกย่ี วกบั ประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั จากการเลน่ เกม
บอลเรยี กชอ่ื

6. นกั เรยี นร่วมกนั อบอุ่นรา่ งกายหลงั การเล่นเกมบอลเรยี กช่อื พรอ้ มกนั
7. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคดิ

7. การวดั และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์

วิธีการ แบบประเมนิ ทกั ษะกระบวนการพลศกึ ษา ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการพลศกึ ษา แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตความมวี นิ ยั ตรงต่อเวลา และมนี ้าใจนกั กฬี า

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้

8.1 สือ่ การเรยี นรู้

1) หนงั สอื เรยี น สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ป.3
2) วธิ กี ารเล่นเกมบอลเรยี กช่อื
3) ลกู บอล

8.2 แหล่งการเรยี นรู้



511 สขุ ศกึ ษาฯ ป.3

เอกสารประกอบการสอน

เกมบอลเรียกชื่อ

นงลกั ษณ์

เกมบอลเรียกช่ือ มีวิธีเล่น ดงั นี้
 ใหผ้ เู้ ล่นยนื เขา้ แถวเป็นวงกลม แลว้ เลอื กนกั เรยี นมา 1 คน มาเป็นผถู้ อื ลกู บอลอยกู่ ลางวง
 เรม่ิ เลน่ โดยใหผ้ ทู้ อ่ี ยกู่ ลางวงทมุ่ ลกู บอลลงบนพน้ื เพอ่ื ใหก้ ระดอนขน้ึ พรอ้ มกบั เรยี กชอ่ื ผเู้ ลน่ หน่งึ คน
ใหอ้ อกมารบั ลูกบอล
 ผเู้ ลน่ ทถ่ี กู เรยี กชอ่ื ตอ้ งวงิ่ ออกมารบั ลูกบอลใหไ้ ดก้ อ่ นทล่ี กู บอลทก่ี ระดอนขน้ึ จะตกพน้ื อกี ครงั้ ส่วนผทู้ ่ี
เรยี กชอ่ื ใหว้ ง่ิ ไปยนื ในทข่ี องผถู้ ูกเรยี กชอ่ื แทน
 เม่อื ผถู้ กู เรยี กรบั ลูกบอลไดแ้ ลว้ ใหท้ ุม่ ลกู บอลพรอ้ มกบั เรยี กชอ่ื ผู้เล่นคนตอ่ ไป ถา้ ผทู้ ถ่ี กู เรยี กชอ่ื
รบั ลูกบอลไวไ้ มไ่ ด้ ใหอ้ อกจากการแขง่ ขนั ผเู้ ลน่ ทเ่ี หลอื คนสดุ ทา้ ย จะเป็นผชู้ นะ

512 สขุ ศกึ ษาฯ ป.3

แบบประเมิน ทกั ษะกระบวนการพลศึกษา

ชอ่ื ชนั้

คาชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ งวา่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน
321

1 ปฏบิ ตั ไิ ดต้ ามวธิ กี าร
2 ปฏบิ ตั ไิ ดอ้ ย่างคล่องแคล่ว
3 ปฏบิ ตั ไิ ดต้ ามเวลาทก่ี าหนด
4 ปฏบิ ตั ดิ ว้ ยความระมดั ระวงั ดา้ นความปลอดภยั

5 มนี ้าใจนกั กฬี า
รวม

ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................

เกณฑก์ ารให้คะแนน

ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมนิ สมบูรณ์ชดั เจน ให้ 3 คะแนน
2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมนิ เป็นสว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน

ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมนิ บางสว่ น ให้

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

12 - 15 ดี
8 - 11 พอใช้
ต่ากว่า 8 ปรบั ปรงุ

513 สขุ ศกึ ษาฯ ป.3

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ งวา่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ ้าน 321

1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และบอกความหมายของ
กษตั ริย์ เพลงชาติ

1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธหิ น้าท่ี

1.3 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทเ่ี ป็นประโยชน์ต่อโรงเรยี นและปฏบิ ตั ติ นเป็นตวั อย่างทด่ี ี
ในการสรา้ งความสามคั คี ปรองดองในหม่เู พอ่ื น

1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา
อย่างสม่าเสมอ เป็นตวั อยา่ งทด่ี ขี องศาสนิกชน

1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมและมสี ่วนร่วมในการจดั กจิ กรรมทเ่ี ก่ยี วกบั สถาบนั
พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี นและชมุ ชนจดั ขน้ึ

2. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกต้อง และเป็นจรงิ

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผดิ ทาตาม
สญั ญาทต่ี นให้ไวก้ บั พอ่ แม่หรอื ผปู้ กครอง และครู

2.3 ปฏบิ ตั ติ นตอ่ ผอู้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง

3. มีวินัย รบั ผิดชอบ 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และ
โรงเรยี น มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั

4. ใฝ่ เรียนรู้ 4.1 รจู้ กั ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้

4.2 รจู้ กั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม

4.3 เช่อื ฟังคาสงั่ สอนของบดิ า-มารดา โดยไม่โต้แยง้

4.4 ตงั้ ใจเรยี น

4.5 รจู้ กั ปรบั ปรุงตนเองในขอ้ ผดิ พลาด

4.6 รจู้ กั มธั ยสั ถ์ และเกบ็ ออม

4.7 รจู้ กั อดทน กลา้ แสดงสงิ่ ทถ่ี ูกต้อง รกั ษากฎ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของชุมชน

514 สุขศกึ ษาฯ ป.3

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (ต่อ)

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ งวา่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ ้าน 321

5. อย่อู ย่างพอเพียง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ และสง่ิ ของของโรงเรยี นอย่างประหยดั
5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรยี นอย่างประหยดั และรคู้ ุณคา่
6. ม่งุ มนั่ ในการ 5.3 ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงนิ
ทางาน 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออุปสรรคเพอ่ื ใหง้ านสาเรจ็
7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาไทย
7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย
8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน
8.2 อาสาทางาน และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ อู้ ่นื
8.3 รจู้ กั การดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสง่ิ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น

เขา้ รว่ มกจิ กรรมของโรงเรยี น

เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสม่าเสมอ
พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน
พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั บิ างครงั้ ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน

515 สขุ ศกึ ษาฯ ป.3

บนั ทึกหลงั แผนการสอน

 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

 ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

 ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล (ถ้าม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

ขอ้ เสนอแนะ ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย

ลงชอ่ื )
(
ตาแหน่ง

516 สุขศกึ ษาฯ ป.3

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 4 ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี3
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา พ 13101 เวลา 1 - 2 ช่วั โมง
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 11 เกมเบด็ เตลด็
เรือ่ ง เกมเบ็ดเตลด็ /เกมตารวจไลจ่ บั ขโมย

1. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

เกมตารวจไล่จบั ขโมย เป็นการเคลอ่ื นไหวรา่ งกายทใ่ี ชท้ กั ษะการเคลอ่ื นไหวแบบบงั คบั ทศิ ทางเพอ่ื สรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ
ร่างกายใหแ้ ขง็ แรง ซ่งึ ตอ้ งปฏบิ ตั ใิ หถ้ กู ตอ้ งตามกฎ กตกิ า และขอ้ ตกลงในการเลน่

2. ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

2.1 ตวั ช้ีวดั
พ 3.1 ป.3/2 เคลอ่ื นไหวร่างกายทใ่ี ชท้ กั ษะการเคลอ่ื นไหวแบบบงั คบั ทศิ ทางในการเล่นเกมเบด็ เตลด็
พ 3.2 ป.3/2 ปฏบิ ตั ติ ามกฎ กตกิ า และขอ้ ตกลงของการออกกาลงั กาย การเลน่ เกม การละเลน่ พน้ื เมอื งไดด้ ว้ ยตนเอง

2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1) อธบิ ายวธิ กี ารเลน่ เกมตารวจไลจ่ บั ขโมยได้
2) เลน่ เกมตารวจไล่จบั ขโมยไดอ้ ยา่ งถกู วธิ ี

3. สาระการเรียนรู้

3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง

1) กจิ กรรมทางกายทใ่ี ชท้ กั ษะการเคล่อื นไหวแบบบงั คบั ทศิ ทางในการเลน่ เกมเบด็ เตลด็
2) กฎ กตกิ า และขอ้ ตกลงในการออกกาลงั กาย และการเล่นเกม

3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่
(พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา)

4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

4.1 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้
2) ทกั ษะการเชอ่ื มโยง

4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. มวี นิ ยั
2. ตรงต่อเวลา
3. มนี ้าใจนกั กฬี า

517 สขุ ศกึ ษาฯ ป.3

6. กิจกรรมการเรยี นรู้ คาถามกระต้นุ ความคิด

 วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการปฏิบตั ิ  การเคลื่อนไหวร่างกายที่คล่องแคล่ว
วอ่ งไว มผี ลต่อการเล่นเกมหรอื ไม่
ขนั้ ท่ี 1 สงั เกต รบั รู้ อย่างไร

สอ่ื การเรยี นรู้ : หนังสอื เรยี น สขุ ศกึ ษาฯ ป.3 (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยให้
อยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน)
13.นกั เรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคดิ
14.ครสู มุ่ นกั เรยี น 1-2 คน ออกมานาเพอ่ื นอบอุ่นร่างกาย จากนนั้ ครสู งั่

ใหน้ กั เรยี นเขา้ แถวหน้ากระดานและเขา้ แถวตอนลกึ เพอ่ื ทดสอบ
ความคลอ่ งแคล่วในการเคลอ่ื นไหวร่างกาย
15.ครถู ามนกั เรยี นวา่ การเขา้ แถวไดถ้ กู ต้อง คล่องแคลว่ ตามคาสงั่
แสดงวา่ นกั เรยี นมที กั ษะทด่ี ใี นการเคล่อื นไหวหรอื ไม่ เพราะเหตุใด
16.ครแู จง้ ใหน้ กั เรยี นทราบวา่ จะใหน้ กั เรยี นเล่นเกมตารวจไล่จบั ขโมย
จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาวธิ กี ารเล่นเกมตารวจไล่จบั ขโมย จาก
หนงั สอื เรยี น

ขนั้ ที่ 2 ทาตามแบบ

สอ่ื การเรยี นรู้ : เอกสารประกอบการสอน

3. ครอู ธบิ ายวธิ กี ารเล่นเกมตารวจไลจ่ บั ขโมยใหน้ กั เรยี นฟัง จากนนั้ ขอ
อาสาสมคั รนกั เรยี น 2 คน มาเล่นเป็นตารวจและขโมย แลว้ ใหเ้ พ่อื น
ทเ่ี หลอื เขา้ แถวหน้ากระดาน 4 แถว

4. ครอู ธบิ ายประกอบในแต่ละขนั้ ตอน เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสามารถปฏบิ ตั ิ
ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง และคลอ่ งแคลว่

5. นกั เรยี นฝึกปฏบิ ตั ติ ามแบบใหถ้ ูกต้อง หากไม่เขา้ ใจให้สอบถาม
ครผู สู้ อน หรอื ศกึ ษาเพม่ิ เตมิ จากเอกสารประกอบการสอน

ขนั้ ท่ี 3 ทาเองโดยไม่มแี บบ

สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ : —

1. นกั เรยี นฝึกเลน่ เกมตารวจไล่จบั ขโมย โดยไม่ต้องดแู บบ แลว้
ผลดั เปลย่ี นกนั เป็นตารวจ โจร และผกู้ าหนดคาสงั่ รปู แบบแถว
ในการเลน่ เกม (เป็นคนใหค้ าสงั่ แทนคร)ู

2. ครสู งั เกตการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมของนกั เรยี น และใหข้ อ้ เสนอแนะใน
การปฏบิ ตั ทิ ถ่ี กู ต้อง

518 สขุ ศกึ ษาฯ ป.3

ขนั้ ที่ 4 ฝึกทาให้ชานาญ

สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ : —

4. ครใู หน้ กั เรยี นเล่นเกมตารวจไล่จบั ขโมย โดยผลดั เปลย่ี นกนั เป็น
ตารวจ โจร และผกู้ าหนดคาสงั่ รปู แบบแถวในการเล่นเกม

5. ครนู านกั เรยี นอบอุ่นร่างกายพรอ้ มกนั หลงั เลน่ เกมจบ
6. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั จากการเล่นเกม

ตารวจไล่จบั ขโมย

7. การวดั และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์

วิธีการ แบบประเมนิ ทกั ษะกระบวนการพลศกึ ษา ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการพลศกึ ษา แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตความมวี นิ ยั ตรงต่อเวลา และมนี ้าใจนกั กฬี า

8. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้

8.1 สือ่ การเรียนรู้

1) หนงั สอื เรยี น สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ป.3
2) วธิ กี ารเล่นเกมตารวจไล่จบั ขโมย

8.2 แหล่งการเรยี นรู้



519 สขุ ศกึ ษาฯ ป.3

เอกสารประกอบการสอน

เกมตารวจไลจ่ ับขโมย

รปู แบบ “ถนน”

รปู แบบ “ซอย”

เกมตารวจไล่จบั ขโมย มีวิธีเล่น ดงั นี้
 เลอื กผเู้ ล่นหน่งึ คนเป็น “ตารวจ” อกี คนหน่งึ เป็น “ขโมย” ส่วนผเู้ ล่นทเ่ี หลอื เขา้ แถวหน้ากระดาน 4 แถว
 ใหผ้ เู้ ล่นทเ่ี ขา้ แถวอยูใ่ นแนวนอนกางแขนตอ่ กนั ในระดบั ไหล่ ซ่งึ จะเรยี กวา่ “ซอย” แตถ่ า้ ผเู้ ล่นเอามอื
แตะไหลผ่ เู้ ล่นคนอน่ื ทอ่ี ย่ใู นแถวแนวตงั้ จะเรยี กวา่ “ถนน”
 เรม่ิ เลน่ ใหต้ ารวจวงิ่ ไล่จบั ขโมยไปตาม “ถนน” โดยเรมิ่ วงิ่ ไลก่ นั จากคนละแถว และใหว้ งิ่ ไปมาอยู่ใน
แนวแถว แต่ถา้ ไดย้ นิ ครสู งั่ วา่ “ซอย” ใหผ้ เู้ ล่นเปลย่ี นมาจบั มอื กนั เป็น “ซอย” เพ่อื เปลย่ี นแนวการวง่ิ ไลจ่ บั
 ถา้ ตารวจจบั ขโมยได้ กใ็ หเ้ ปลย่ี นตวั ตารวจและขโมยใหม่

520 สขุ ศกึ ษาฯ ป.3

แบบประเมิน ทกั ษะกระบวนการพลศึกษา

ชอ่ื ชนั้

คาชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ งวา่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน
321

1 ปฏบิ ตั ไิ ดต้ ามวธิ กี าร
2 ปฏบิ ตั ไิ ดอ้ ย่างคลอ่ งแคล่ว
3 ปฏบิ ตั ไิ ดต้ ามเวลาทก่ี าหนด
4 ปฏบิ ตั ดิ ว้ ยความระมดั ระวงั ดา้ นความปลอดภยั

5 มนี ้าใจนกั กฬี า
รวม

ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................

เกณฑก์ ารให้คะแนน

ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมนิ สมบูรณ์ชดั เจน ให้ 3 คะแนน
2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมนิ เป็นส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน

ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมนิ บางสว่ น ให้

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

12 - 15 ดี
8 - 11 พอใช้
ต่ากว่า 8 ปรบั ปรงุ

521 สขุ ศกึ ษาฯ ป.3

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ งวา่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ ้าน 321

1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และบอกความหมายของ
กษตั ริย์ เพลงชาติ

1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธหิ น้าท่ี

1.3 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทเ่ี ป็นประโยชน์ต่อโรงเรยี นและปฏบิ ตั ติ นเป็นตวั อย่างทด่ี ี
ในการสรา้ งความสามคั คี ปรองดองในหม่เู พอ่ื น

1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา
อย่างสม่าเสมอ เป็นตวั อย่างทด่ี ขี องศาสนิกชน

1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมและมสี ่วนร่วมในการจดั กจิ กรรมทเ่ี ก่ยี วกบั สถาบนั
พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี นและชุมชนจดั ขน้ึ

2. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกต้อง และเป็นจรงิ

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผดิ ทาตาม
สญั ญาทต่ี นให้ไวก้ บั พอ่ แมห่ รอื ผปู้ กครอง และครู

2.3 ปฏบิ ตั ติ นตอ่ ผอู้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง

3. มีวินัย รบั ผิดชอบ 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และ
โรงเรยี น มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั

4. ใฝ่ เรียนรู้ 4.1 รจู้ กั ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้

4.2 รจู้ กั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม

4.3 เช่อื ฟังคาสงั่ สอนของบดิ า-มารดา โดยไม่โต้แยง้

4.4 ตงั้ ใจเรยี น

4.5 รจู้ กั ปรบั ปรุงตนเองในขอ้ ผดิ พลาด

4.6 รจู้ กั มธั ยสั ถ์ และเกบ็ ออม

4.7 รจู้ กั อดทน กลา้ แสดงสงิ่ ทถ่ี ูกต้อง รกั ษากฎ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของชุมชน

522 สขุ ศกึ ษาฯ ป.3

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (ต่อ)

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ งวา่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ ้าน 321

5. อย่อู ย่างพอเพียง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ และสง่ิ ของของโรงเรยี นอย่างประหยดั
5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรยี นอย่างประหยดั และรคู้ ุณค่า
6. ม่งุ มนั่ ในการ 5.3 ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงนิ
ทางาน 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออุปสรรคเพอ่ื ใหง้ านสาเรจ็
7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาไทย
7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย
8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ช่วยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน
8.2 อาสาทางาน และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ อู้ ่นื
8.3 รจู้ กั การดูแล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสง่ิ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น

เขา้ รว่ มกจิ กรรมของโรงเรยี น

เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสม่าเสมอ
พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน
พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั บิ างครงั้ ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน

523 สขุ ศกึ ษาฯ ป.3

บนั ทึกหลงั แผนการสอน

 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

 ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล (ถ้าม)ี )

 ปัญหา/อุปสรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

ขอ้ เสนอแนะ ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผทู้ ี่ได้รบั มอบหมาย

ลงชอ่ื )
(
ตาแหน่ง

524 สขุ ศกึ ษาฯ ป.3

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 5 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3
กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา พ 13101 เวลา 1 - 2 ชั่วโมง
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 11 เกมเบ็ดเตล็ด
เรือ่ ง เกมเบ็ดเตล็ด/เกมกระโดดฮ้อป

1. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

เกมกระโดดฮอ้ ป เป็นการเคลอ่ื นไหวร่างกายทใ่ี ชท้ กั ษะการเคล่อื นไหวแบบบงั คบั ทศิ ทาง เพ่อื สรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ
รา่ งกายใหแ้ ขง็ แรง ซง่ึ ตอ้ งปฏบิ ตั ใิ หถ้ ูกตอ้ งตามกฎ กตกิ า และขอ้ ตกลงในการเลน่
2. ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

2.1 ตวั ช้ีวดั
พ 3.1 ป.3/2 เคล่อื นไหวรา่ งกายทใ่ี ชท้ กั ษะการเคล่อื นไหวแบบบงั คบั ทศิ ทางในการเลน่ เกมเบด็ เตลด็
พ 3.2 ป.3/1 เลอื กออกกาลงั กาย การละเลน่ พน้ื เมอื งและเล่นเกมทเ่ี หมาะสมกบั จุดเดน่ จุดดอ้ ย และขอ้ จากดั ของตนเอง
ป.3/2 ปฏบิ ตั ติ ามกฎ กตกิ า และขอ้ ตกลงของการออกกาลงั กาย การเล่นเกม การละเล่นพน้ื เมอื งได้ดว้ ยตนเอง

2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1) อธบิ ายวธิ กี ารเล่นเกมกระโดดฮอ้ ปได้
2) เล่นเกมกระโดดฮอ้ ปไดอ้ ย่างถกู วธิ ี

3. สาระการเรียนรู้

3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

1) กจิ กรรมทางกายทใ่ี ชท้ กั ษะการเคลอ่ื นไหวแบบบงั คบั ทศิ ทางในการเลน่ เกมเบด็ เตลด็
2) แนวทางการเลอื กออกกาลงั กาย และเลน่ เกมทเ่ี หมาะสมกบั จุดเด่น จดุ ดอ้ ย และขอ้ จากดั ของแต่ละบุคคล
3) กฎ กตกิ า และขอ้ ตกลงในการออกกาลงั กาย และการเลน่ เกม

3.2 สาระการเรยี นร้ทู ้องถิน่
(พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา)

4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน

4.1 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้
2) ทกั ษะการเชอ่ื มโยง

4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. มวี นิ ยั
2. ตรงต่อเวลา
3. มนี ้าใจนกั กฬี า

525 สขุ ศกึ ษาฯ ป.3

6. กิจกรรมการเรียนรู้

 วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการปฏิบตั ิ

ขนั้ ท่ี 1 สงั เกต รบั รู้

สอ่ื การเรยี นรู้ : หนังสอื เรยี น สขุ ศกึ ษาฯ ป.3

17.ครนู านกั เรยี นอบอุ่นรา่ งกาย แลว้ ใหป้ ฏบิ ตั กิ จิ กรรม ดงั น้ี
1) กระโดดเท้าค่ไู ปขา้ งหน้า 5 ครงั้
2) กระโดดเทา้ เดยี วโดยใชเ้ ทา้ ซ้ายไปขา้ งหน้า 5 ครงั้
3) กระโดดเทา้ เดยี วโดยใชเ้ ทา้ ขวาไปขา้ งหน้า 5 ครงั้

18.นกั เรยี นสงั เกตการทรงตวั วา่ การกระโดดแบบใดทน่ี ักเรยี นถนดั
มากทส่ี ดุ และกระโดดแบบใดทถ่ี นัดน้อยทส่ี ดุ

19.ครแู จง้ ใหน้ กั เรยี นทราบวา่ จะใหน้ กั เรยี นเลน่ เกมกระโดดฮอ้ ป เพ่อื
ฝึกกลา้ มเน้อื ขาและการทรงตวั โดยจะตอ้ งใชท้ กั ษะทงั้ 3 แบบ

20.นกั เรยี นศกึ ษาวธิ กี ารเล่นเกมกระโดดฮอ้ ป จากหนงั สอื เรยี น

ขนั้ ที่ 2 ทาตามแบบ

สอ่ื การเรยี นรู้ : เอกสารประกอบการสอน

6. ครอู ธบิ ายวธิ กี ารเลน่ เกมกระโดดฮอ้ ป จากนนั้ ขออาสาสมคั ร
นกั เรยี น 1 คน ออกมาสาธติ วธิ กี ารเลน่ โดยครอู ธบิ ายประกอบใน
แต่ละขนั้ ตอน เพ่อื ใหน้ กั เรยี นสามารถปฏบิ ตั ไิ ดอ้ ยา่ งถกู ต้อง และ
คล่องแคล่ว หรอื ใหศ้ กึ ษาเพมิ่ เตมิ จากเอกสารประกอบการสอน

7. นกั เรยี นรวมกลุม่ เดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1) แลว้ รว่ มกนั
ฝึกเล่นเกมกระโดดฮอ้ ปตามแบบ และสงั เกตความถูกตอ้ ง หาก
สมาชกิ ในกลุ่มปฏบิ ตั ไิ ม่ถูกต้อง ใหร้ ว่ มกนั เสนอแนะเพ่อื แกไ้ ข
ขอ้ บกพรอ่ งในการปฏบิ ตั ิ

ขนั้ ที่ 3 ทาเองโดยไม่มแี บบ

สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ : —

1. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มฝึกการเล่นเกมกระโดดฮอ้ ป โดยไม่ต้องดแู บบ
แลว้ ใหเ้ พ่อื นสมาชกิ ในกลุ่มสงั เกตวา่ สามารถทาไดอ้ ยา่ งถกู วธิ ี
หรอื ไม่

2. ครสู งั เกตการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมของนกั เรยี นเป็นกลุ่ม พรอ้ มให้
คาแนะนาหากการปฏบิ ตั ขิ องนกั เรยี นมขี อ้ บกพรอ่ ง

526 สุขศกึ ษาฯ ป.3

ขนั้ ท่ี 4 ฝึกทาให้ชานาญ คาถามกระตุ้นความคิด

สอ่ื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 5.1  นักเรยี นชอบเล่นเกมเบด็ เตลด็ ชนิ ดใด
มากท่ีสุด เพราะเหตุใด
7. ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั แขง่ ขนั เล่นเกมกระโดดฮอ้ ป
จากนนั้ สรปุ ผลการแข่งขนั และใหค้ าชมเชยกบั นกั เรยี นแต่ละกลุ่ม (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยให้
อยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน)
8. นกั เรยี นอบอุ่นรา่ งกายพรอ้ มกนั หลงั เลน่ เกมจบ แลว้ ตอบคาถาม
กระตุ้นความคดิ

9. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั จากการเลน่ เกม
กระโดดฮอ้ ป

10. นกั เรยี นทาใบงานท่ี 5.1 เรื่อง การเล่นเกมเบด็ เตลด็ เสรจ็ แลว้
นาส่งครตู รวจ

(เกมทสี่ ามารถเลน่ ดว้ ยสมาชกิ กลมุ่ เพยี ง 4 คน คอื เกมแขง่ รถ เกมกระโดดฮอ้ ป สว่ น
เกมบอลเรยี กชอื่ เลน่ ได้ 2 กลมุ่ รวมกนั และเกมตารวจไลจ่ บั ขโมย จะตอ้ งเลน่ ทงั้ ชนั้ เรยี น
ใหค้ รพู จิ ารณาตามความเหมาะสม)

 ครมู อบหมายให้นักเรียนแต่ละกล่มุ รายงานผลการเล่นเกมเบด็ เตลด็ ทงั้ 4 เกม ที่ได้ปฏิบตั ิ

ในแผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 2-5 โดยใหค้ รอบคลุมประเดน็ และเกณฑต์ ามทก่ี าหนด ดงั น้ี

1) การอบอุ่นรา่ งกาย
2) การเคลอื่ นไหวรา่ งกายขณะเลน่ เกม
3) การปฏบิ ตั ติ ามกฎ กตกิ า และขอ้ ตกลงในการเลน่ เกม
4) ความร่วมมอื ของสมาชกิ ในกลุ่ม

 นักเรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 11 เรอื่ ง เกมเบด็ เตลด็

7. การวดั และประเมินผล

วิธีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์

ตรวจใบงานท่ี 5.1 ใบงานท่ี 5.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการพลศกึ ษา แบบประเมนิ ทกั ษะกระบวนการพลศกึ ษา ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตความมวี นิ ยั ตรงต่อเวลา และมนี ้าใจนกั กฬี า แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 11 แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 11 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจรายงานผลการเล่นเกมเบด็ เตลด็ แบบประเมนิ รายงานผลการเลน่ เกมเบด็ เตลด็ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้

8.1 สือ่ การเรยี นรู้

1) หนงั สอื เรยี น สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ป.3
2) วธิ กี ารเลน่ เกมกระโดดฮอ้ ป
3) ใบงานท่ี 5.1 เร่อื ง การเลน่ เกมเบด็ เตลด็
8.2 แหล่งการเรยี นรู้ —

527 สขุ ศกึ ษาฯ ป.3

ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุม่ เลน่ เกมเบด็ เตลด็ ตามทเ่ี รยี นมา และใหเ้ พอ่ื นต่างกลมุ่ ประเมนิ ผล แลว้ ตอบคาถาม

รายการประเมิน ผลการประเมิน ข้อเสนอแนะ
3 21
1. เกมแขง่ รถ
2. เกมบอลเรยี กชอ่ื
3. เกมตารวจไลจ่ บั ขโมย
4. เกมกระโดดฮอ้ ป

ลงชอ่ื ผปู้ ระเมนิ

1) จากการประเมนิ ผล นกั เรยี นอยใู่ นเกณฑ์

2) นกั เรยี น  ไดท้ า  ไม่ไดท้ า การอบอนุ่ ร่างกายกอ่ นเล่นเกม
เล่นเกม เพราะ
3) นกั เรยี น  ชอบ  ไม่ชอบ

4) นกั เรยี นมขี อ้ ควรปรบั ปรุงแกไ้ ข ดงั น้ี

528 สุขศกึ ษาฯ ป.3

การประเมนิ ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

แบบประเมินรายงานผลการเล่นเกมเบด็ เตลด็

ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1
32

1 การอบอนุ่ ร่างกาย
2 การเคลอ่ื นไหวรา่ งกายขณะเล่นเกม
3 การปฏบิ ตั ติ ามกฎ กตกิ า และขอ้ ตกลงในการเล่นเกม
4 ความร่วมมอื ของสมาชกิ ในกลุ่ม

รวม

ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................

เกณฑก์ ารให้คะแนน 3
2
ดี = 1
พอใช้ =
ปรบั ปรงุ =

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
10 - 12 ดี
6-9
ต่ากวา่ 6 พอใช้
ปรบั ปรงุ

529 สุขศกึ ษาฯ ป.3

เอกสารประกอบการสอน

เกมกระโดดฮอ้ ป

เสน้ กลบั ตวั เสน้ เรมิ่

รอบที่ 1 ใหว้ งิ่ กระโดดเทา้ คไู่ ปถงึ เสน้ กลบั ตวั 25 ซม. 50 ซม. 75 ซม.
โดยเมอ่ื ถงึ วงกลมตอ้ งกระโดดขา้ มไปใหไ้ ด้
เสน้ กลบั ตวั 10 เมตร เสน้ เรมิ่
รอบที่ 2 กระโดดเทา้ เดยี วโดยใชเ้ ทา้ ซ้ายเทา้ เดยี ว
โดยเมอ่ื ถงึ วงกลมตอ้ งกระโดดขา้ มไปใหไ้ ด้

รอบที่ 3 กระโดดเทา้ เดยี วโดยใชเ้ ทา้ ขวาเทา้ เดยี ว เสน้ กลบั ตวั เสน้ เรมิ่
โดยเม่อื ถงึ วงกลมตอ้ งกระโดดขา้ มไปใหไ้ ด้

เกมกระโดดฮ้อป มีวิธีเล่น ดงั นี้

 ขดี เสน้ 2 เสน้ ขนานกนั ใหห้ า่ งกนั ประมาณ 10 เมตร แลว้ เขยี นวงกลม 3 วง โดยใหม้ เี สน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง
75 เซนตเิ มตร 50 เซนตเิ มตร และ 25 เซนตเิ มตร ในแนวทางวง่ิ

 ใหผ้ เู้ ลน่ แตล่ ะคนยนื เขา้ แถวหลงั เสน้ เรมิ่ และใหต้ รงกบั แถววงกลม
 ใหผ้ เู้ ล่นแตล่ ะคนกระโดดไป-กลบั 3 รอบ ตามทก่ี าหนด
 ผเู้ ล่นทเ่ี หยยี บถกู วงกลมตอ้ งออกจากการแขง่ ขนั ผเู้ ล่นทก่ี ระโดดไดเ้ สรจ็ เป็นคนแรกเป็นผชู้ นะ

530 สุขศกึ ษาฯ ป.3

ใบงานท่ี 5.1 เรื่อง การเล่นเกมเบด็ เตล็ด

ตอนที่ 1
คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นนาพยญั ชนะหน้าชอ่ื เกม เตมิ หน้าขอ้ ความทส่ี มั พนั ธก์ นั

ก. เกมแขง่ รถ
ข. เกมบอลเรยี กชอ่ื
ค. เกมตารวจไลจ่ บั ขโมย
ง. เกมกระโดดฮอ้ ป

1) ใหน้ กั เรยี นจบั คกู่ นั โดยใหค้ นหน่งึ ใชผ้ า้ ปิดตาเป็น “รถ” อกี คนหน่งึ ยนื ขา้ งหลงั เป็น
“คนขบั ”

2) ใหผ้ เู้ ลน่ ยนื เขา้ แถวเป็นวงกลม แลว้ เลอื กนกั เรยี นมา 1 คน เป็นผถู้ อื ลกู บอลอยกู่ ลางวง
3) เลอื กผเู้ ลน่ หน่งึ คนเป็น “ตารวจ” อกี คนหน่งึ เป็น “ขโมย” สว่ นผเู้ ลน่ ทเ่ี หลอื เขา้ แถวหนา้

กระดาน 4 แถว
4) ถา้ ตารวจจบั ขโมยได้ กใ็ หเ้ ปลย่ี นตวั ตารวจและขโมยใหม่
5) ใหผ้ เู้ ล่นแต่ละคนยนื เขา้ แถวหลงั เสน้ เรม่ิ และใหต้ รงกบั แถววงกลม
6) ใหผ้ เู้ ลน่ แตล่ ะคนกระโดดไป-กลบั 3 รอบ ตามทก่ี าหนด
7) ผเู้ ล่นทถ่ี ูกเรยี กชอ่ื ตอ้ งวง่ิ ออกมารบั ลกู บอลใหไ้ ดก้ ่อนทล่ี กู บอลทก่ี ระดอนขน้ึ จะตกพน้ื

อกี ครงั้ ส่วนผทู้ เ่ี รยี กชอ่ื ใหว้ ง่ิ ไปยนื ในทข่ี องผถู้ ูกเรยี กชอ่ื แทน
8) ผเู้ ลน่ ทเ่ี หยยี บถกู วงกลมตอ้ งออกจากการแขง่ ขนั ผเู้ ล่นทก่ี ระโดดไดเ้ สรจ็ เป็นคนแรก

เป็นผชู้ นะ
9) ขดี เสน้ ซกิ แซก็ ทม่ี คี วามยาว 10 เมตร ใหแ้ ตล่ ะคเู่ ขา้ แถวอยหู่ น้าเสน้ ทเ่ี ป็นจดุ เรม่ิ ตน้
10) ใหผ้ เู้ ล่นทเ่ี ขา้ แถวอยใู่ นแนวนอนกางแขนตอ่ กนั ในระดบั ไหล่ ซ่งึ จะเรยี กวา่ “ซอย” แตถ่ า้

ผเู้ ลน่ คนอน่ื แตะไหลผ่ เู้ ล่นคนอน่ื ทอ่ี ยูใ่ นแถวแนวตงั้ จะเรยี กว่า “ถนน”

531 สุขศกึ ษาฯ ป.3

ตอนที่ 2
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั คดิ เกมเบด็ เตลด็ ทใ่ี ชท้ กั ษะการบงั คบั ทศิ ทางมากลมุ่ ละ 1 เกม และบนั ทกึ ขอ้ มลู

แลว้ นามาเล่นกบั กลมุ่ เพ่อื น จากนนั้ ตอบคาถาม
ชื่อเกม

(วาดภาพ)

 จานวนผเู้ ลน่
 สถานทเ่ี ลน่
 วธิ กี ารเลน่

1) นกั เรยี นเลน่ เกมน้ีแลว้ รสู้ กึ อย่างไร
2) เกมน้ใี ชท้ กั ษะการเคลอ่ื นไหวใดบา้ ง
3) กลมุ่ นกั เรยี นมขี อ้ ปรบั ปรุงแกไ้ ขอยา่ งไร

532 สุขศกึ ษาฯ ป.3

ใบงานที่ 5.1 เรื่อง การเล่นเกมเบ็ดเตล็ด เฉลย

คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นนาพยญั ชนะหน้าชอ่ื เกม เตมิ หน้าขอ้ ความทส่ี มั พนั ธก์ นั

ก. เกมแขง่ รถ
ข. เกมบอลเรยี กชอ่ื
ค. เกมตารวจไลจ่ บั ขโมย
ง. เกมกระโดดฮอ้ ป
จ.

ก 1) ใหน้ กั เรยี นจบั คกู่ นั โดยใหค้ นหน่งึ ใชผ้ า้ ปิดตาเป็น “รถ” อกี คนหน่งึ ยนื ขา้ งหลงั เป็น
“คนขบั ”

ข 2) ใหผ้ เู้ ล่นยนื เขา้ แถวเป็นวงกลม แลว้ เลอื กนกั เรยี นมา 1 คน เป็นผถู้ อื ลูกบอลอยกู่ ลางวง
ค 3) เลอื กผเู้ ลน่ หน่งึ คนเป็น “ตารวจ” อกี คนหน่งึ เป็น “ขโมย” สว่ นผเู้ ลน่ ทเ่ี หลอื เขา้ แถวหน้า

กระดาน 4 แถว
ค 4) ถา้ ตารวจจบั ขโมยได้ กใ็ หเ้ ปลย่ี นตวั ตารวจและขโมยใหม่
ข 5) ใหผ้ เู้ ลน่ แตล่ ะคนยนื เขา้ แถวหลงั เสน้ เรมิ่ และใหต้ รงกบั แถววงกลม
ง 6) ใหผ้ เู้ ลน่ แตล่ ะคนกระโดดไป-กลบั 3 รอบ ตามทก่ี าหนด
ข 7) ผเู้ ลน่ ทถ่ี ูกเรยี กชอ่ื ตอ้ งวงิ่ ออกมารบั ลกู บอลใหไ้ ดก้ ่อนทล่ี ูกบอลทก่ี ระดอนขน้ึ จะตกพน้ื

อกี ครงั้ ส่วนผทู้ เ่ี รยี กชอ่ื ใหว้ ง่ิ ไปยนื ในทข่ี องผถู้ กู เรยี กชอ่ื แทน
ข 8) ผเู้ ลน่ ทเ่ี หยยี บถกู วงกลมตอ้ งออกจากการแขง่ ขนั ผเู้ ล่นทก่ี ระโดดไดเ้ สรจ็ เป็นคนแรก

เป็นผชู้ นะ
ก 9) ขดี เสน้ ซกิ แซก็ ทม่ี คี วามยาว 10 เมตร ใหแ้ ตล่ ะคู่เขา้ แถวอยหู่ น้าเสน้ ทเ่ี ป็นจุดเรม่ิ ตน้
ค 10) ใหผ้ เู้ ล่นทเ่ี ขา้ แถวอยใู่ นแนวนอนกางแขนต่อกนั ในระดบั ไหล่ ซ่ึงจะเรยี กวา่ “ซอย” แต่ถา้

ผเู้ ลน่ คนอน่ื แตะไหลผ่ เู้ ลน่ คนอน่ื ทอ่ี ยู่ในแถวแนวตงั้ จะเรยี กวา่ “ถนน”

533 สขุ ศกึ ษาฯ ป.3

ตอนที่ 2
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกล่มุ ร่วมกนั คดิ เกมเบด็ เตลด็ ทใ่ี ชท้ กั ษะการบงั คบั ทศิ ทางมากลุ่มละ 1 เกม และบนั ทกึ ขอ้ มลู

แลว้ นามาเลน่ กบั กลมุ่ เพอ่ื น จากนนั้ ตอบคาถาม
ชื่อเกม

(วาดภาพ)

 จานวนผเู้ ล่น
 สถานทเ่ี ลน่
 วธิ กี ารเล่น

1) นกั เรยี นเลน่ เกมน้ี แลว้ รสู้ กึ อยา่ งไร
2) เกมน้ใี ชท้ กั ษะการเคล่อื นไหวใดบา้ ง
3) กล่มุ นกั เรยี นมขี อ้ ปรบั ปรุงแกไ้ ขอยา่ งไร

(พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน)

534 สขุ ศกึ ษาฯ ป.3

แบบประเมิน ทกั ษะกระบวนการพลศึกษา

ชอ่ื ชนั้

คาชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ งวา่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน
321

1 ปฏบิ ตั ไิ ดต้ ามวธิ กี าร
2 ปฏบิ ตั ไิ ดอ้ ย่างคล่องแคล่ว
3 ปฏบิ ตั ไิ ดต้ ามเวลาทก่ี าหนด
4 ปฏบิ ตั ดิ ว้ ยความระมดั ระวงั ดา้ นความปลอดภยั

5 มนี ้าใจนกั กฬี า
รวม

ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................

เกณฑก์ ารให้คะแนน

ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมนิ สมบูรณ์ชดั เจน ให้ 3 คะแนน
2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมนิ เป็นส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน

ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมนิ บางสว่ น ให้

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

12 - 15 ดี
8 - 11 พอใช้
ต่ากว่า 8 ปรบั ปรงุ

535 สขุ ศกึ ษาฯ ป.3

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

คาชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ งวา่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ ้าน 321

1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และบอกความหมายของ
กษตั ริย์ เพลงชาติ

1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธหิ น้าท่ี

1.3 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทเ่ี ป็นประโยชน์ต่อโรงเรยี นและปฏบิ ตั ติ นเป็นตวั อย่างทด่ี ี
ในการสรา้ งความสามคั คี ปรองดองในหมเู่ พอ่ื น

1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา
อยา่ งสม่าเสมอ เป็นตวั อยา่ งทด่ี ขี องศาสนิกชน

1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ่วนร่วมในการจดั กจิ กรรมทเ่ี ก่ยี วกบั สถาบนั
พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี นและชมุ ชนจดั ขน้ึ

2. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกต้อง และเป็นจรงิ

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผดิ ทาตาม
สญั ญาทต่ี นให้ไวก้ บั พอ่ แม่หรอื ผปู้ กครอง และครู

2.3 ปฏบิ ตั ติ นตอ่ ผอู้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง

3. มีวินัย รบั ผิดชอบ 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และ
โรงเรยี น มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั

4. ใฝ่ เรียนรู้ 4.1 รจู้ กั ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้

4.2 รจู้ กั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม

4.3 เชอ่ื ฟังคาสงั่ สอนของบดิ า-มารดา โดยไม่โต้แยง้

4.4 ตงั้ ใจเรยี น

4.5 รจู้ กั ปรบั ปรุงตนเองในขอ้ ผดิ พลาด

4.6 รจู้ กั มธั ยสั ถ์ และเกบ็ ออม

4.7 รจู้ กั อดทน กลา้ แสดงสงิ่ ทถ่ี ูกต้อง รกั ษากฎ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของชุมชน

536 สุขศกึ ษาฯ ป.3

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (ต่อ)

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ งวา่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ ้าน 321

5. อย่อู ย่างพอเพียง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ และสง่ิ ของของโรงเรยี นอย่างประหยดั
5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรยี นอย่างประหยดั และรคู้ ณุ คา่
6. ม่งุ มนั่ ในการ 5.3 ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงนิ
ทางาน 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออุปสรรคเพอ่ื ใหง้ านสาเรจ็
7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาไทย
7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย
8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ช่วยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน
8.2 อาสาทางาน และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ อู้ ่นื
8.3 รจู้ กั การดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสง่ิ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น

เขา้ รว่ มกจิ กรรมของโรงเรยี น

เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสม่าเสมอ
พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน
พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั บิ างครงั้ ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน

537 สขุ ศกึ ษาฯ ป.3

บนั ทึกหลงั แผนการสอน

 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

 ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

 ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล (ถ้ามี))

 ปัญหา/อปุ สรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

ขอ้ เสนอแนะ ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย

ลงชอ่ื )
(
ตาแหน่ง

538 สุขศกึ ษาฯ ป.3

บนั ทึกหลงั หน่วยการเรียนร้อู ิงมาตรฐาน

ตอนที่ 1 นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามสามารถตามมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชว้ี ดั ของหน่วยการเรยี นรู้
ต่อไปน้ี พ 3.1 (ป.3/2) พ 3.2 (ป.3/1, ป.3/2)

 ดา้ นความรู้

(จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ )

 ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

 ดา้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )

สรปุ ผลจากการประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) ประจาหน่วยการเรียนรู้

 ระดบั คณุ ภาพดี จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ

 ระดบั คุณภาพพอใช้ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ

 ระดบั คุณภาพปรบั ปรงุ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ

 ปัญหา/อุปสรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

ขอ้ เสนอแนะ ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผ้ทู ่ีได้รบั มอบหมาย

ลงชอ่ื )
(
ตาแหน่ง

539 สุขศกึ ษาฯ ป.3

ตอนที่ 2 การตรวจสอบคณุ ภาพนักเรยี นเพ่ือเตรยี มความพรอ้ มรองรบั การประเมินคณุ ภาพภายนอก รอ้ ยละ
ระดบั การศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน (ด้านคณุ ภาพผ้เู รยี น)

มาตรฐานที่ 1 ผเู้ รยี นมีสขุ ภาวะทีด่ ีและมีสนุ ทรียภาพ

1.1 มสี ุขนสิ ยั ในการดูแลสุขภาพและออกกาลงั กาย สมา่ เสมอ
1.2 มนี ้าหนัก สว่ นสงู และมสี มรรถภาพทางกายตามเกณฑม์ าตรฐาน
1.3 ป้องกนั ตนเองจากสงิ่ เสพตดิ ใหโ้ ทษและหลกี เลยี่ งตนเองจากสภาวะทเี่ สยี่ งต่อความรุนแรง โรค ภยั อุบตั เิ หตุ

และปัญหาทางเพศ
1.4 เหน็ คณุ คา่ ในตนเอง มคี วามมนั่ ใจ กลา้ แสดงออกอยา่ งเหมาะสม
1.5 มมี นุษยสมั พนั ธท์ ดี่ แี ละใหเ้ กยี รตผิ อู้ นื่
1.6 สรา้ งผลงานจากการเขา้ รว่ มกจิ กรรมดา้ นศลิ ปะ ดนตร/ี นาฏศลิ ป์ กฬี า/นนั ทนาการตามจนิ ตนาการ
มาตรฐานที่ 2 ผ้เู รียนมีคณุ ธรรม จริยธรรม และค่านิยมทีพ่ ึงประสงค์
2.1 มคี ุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงคต์ ามหลกั สตู ร
2.2 เอ้อื อาทรผูอ้ นื่ และกตญั ญกู ตเวทตี ่อผมู้ พี ระคณุ
2.3 ยอมรบั ความคดิ และวฒั นธรรมทแี่ ตกต่าง
2.4 ตระหนัก รคู้ ณุ คา่ รว่ มอนุรกั ษแ์ ละพฒั นาสงิ่ แวดลอ้ ม
มาตรฐานที่ 3 ผ้เู รียนมีทกั ษะในการแสวงหาความร้ดู ้วยตนเอง รกั เรยี นรู้ และพฒั นาตนเองอย่างต่อเนือ่ ง
3.1 มนี ิสยั รกั การอา่ นและแสวงหาความรดู้ ว้ ยตนเองจากหอ้ งสมดุ แหลง่ เรยี นรู้ และสอื่ ต่างๆ รอบตวั
3.2 มที กั ษะในการอา่ น ฟัง ดู พดู เขยี น และตงั้ คาถามเพอื่ คน้ ควา้ หาความรเู้ พมิ่ เตมิ
3.3 เรยี นรรู้ ่วมกนั เป็นกลุม่ แลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ เพอื่ การเรยี นรรู้ ะหว่างกนั
3.4 ใชเ้ ทคโนโลยใี นการเรยี นรแู้ ละนาเสนอผลงาน
มาตรฐานที่ 4 ผเู้ รยี นมีความสามารถในการคิดอย่างเป็นระบบ คิดสร้างสรรค์ ตดั สินใจแก้ปัญหา

ได้อย่างมีสติสมเหตุสมผล
4.1 สรุปความคดิ จากเรอื่ งทอี่ ่าน ฟัง และดู และสอื่ สารโดยการพดู หรอื เขยี นตามความคดิ ของตนเอง
4.2 นาเสนอวธิ คี ดิ วธิ แี กป้ ัญหาดว้ ยภาษาหรอื วธิ กี ารของตนเอง
4.3 กาหนดเป้าหมาย คาดการณ์ ตดั สนิ ใจแกป้ ัญหาโดยมเี หตุผลประกอบ
4.4 มคี วามคดิ รเิ รมิ่ และสรา้ งสรรคผ์ ลงานดว้ ยความภาคภูมใิ จ
มาตรฐานที่ 5 ผ้เู รยี นมีความร้แู ละทกั ษะทีจ่ าเป็นตามหลกั สตู ร
5.1 ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นเฉลยี่ แต่ละกลุ่มสาระเป็นไปตามเกณฑ์
5.2 ผลการประเมนิ สมรรถนะสาคญั ตามหลกั สูตรเป็นไปตามเกณฑ์
5.3 ผลการประเมนิ การอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขยี นเป็นไปตามเกณฑ์
5.4 ผลการทดสอบระดบั ชาตเิ ป็นไปตามเกณฑ์
มาตรฐานที่ 6 ผเู้ รยี นมีทกั ษะในการทางาน รกั การทางาน สามารถทางานร่วมกบั ผอู้ ืน่ ได้ และมีเจตคติทีด่ ี

ต่ออาชีพสจุ ริต
6.1 วางแผนการทางานและดาเนนิ การจนสาเรจ็
6.2 ทางานอยา่ งมคี วามสขุ มุ่งมนั่ พฒั นางาน และภูมใิ จในผลงานของตนเอง
6.3 ทางานร่วมกบั ผอู้ นื่ ได้
6.4 มคี วามรสู้ กึ ทดี่ ตี ่ออาชพี สจุ รติ และหาความรเู้ กยี่ วกบั อาชพี ทตี่ นเองสนใจ

540 สุขศกึ ษาฯ ป.3

541 สุขศกึ ษาฯ ป.3


Click to View FlipBook Version