15/05/61 1 Creative Commons What’s Creative Commons • องค์กรไม่แสวงหากําไรที่เปิดทางเลือกใหม่ให้มีการแบ่งปันและ แบ่งใช้งานสร้างสรรค์และข้อมูลความรู้ผ่านช่องทางของกฎหมาย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็นสัญญาแบบอนุญาตให้ใช้สิทธิที่ใช้ง่ายและ เป็นมาตรฐานสากล โดยมีขอบเขตการอนุญาตตามที่เจ้าของ ลิขสิทธิ์ประสงค์
15/05/61 2 What’s Creative Commons • เครื่องมือที่ช่วยสร้างความเข้าใจที่ตรงกันระหว่างเจ้าของลิขสิทธิ์ กับผู้ใช้งาน ว่าสามารถนําไปใช้งานได้ในขอบเขตใดได้บ้าง โดยที่ เจ้าของลิขสิทธิ์สามารถกําหนดเงื่อนไขไว้ What’s Creative Commons • ผู้ใช้ “สัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิของครีเอทีฟคอมมอนส์” หรือ “Creative Commons licenses” สามารถใช้สัญญาอนุญาต ให้ใช้สิทธิของครีเอทีฟคอมมอนส์ควบคู่ไปกับการบังคับสิทธิตาม กฎหมายลิขสิทธิ์ได้ทั้งนี้ครีเอทีฟคอมมอนส์ก็ประสงค์ให้ผู้ อนุญาตให้ใช้สิทธิเลือกใช้กฎเกณฑ์ของลิขสิทธิ์ที่สมประโยชน์ที่สุด
15/05/61 3 What’s Creative Commons • ตัวอย่างเช่น อาจอนุญาตให้ผู้อื่นนํางานเพลงไปใช้ได้พร้อมกันนั้น ก็เรียกค่าใช้สิทธิในเชิงพาณิชย์จากค่ายเพลงที่ประสงค์จะนําเพลง เดียวกันไปจัดจําหน่าย โดยไม่มีการตัดสิทธิว่าต้องใช้เพียงอย่างใด อย่างหนึ่ง หรือใช้สัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิแล้วบังคับตามกฎหมาย ลิขสิทธิ์ไม่ได้ Concept of Creative Commons • แนวคิดของ ครีเอทีฟคอมมอนส์เป็นเรื่องเกี่ยวกับการคุ้มครอง งานลิขสิทธิ์ในเบื้องต้น กฎหมายลิขสิทธิ์กําหนดงานอันมีลิขสิทธิ์ ไว้มากมายและหลากหลาย ครอบคลุมงานวรรณกรรมต่างๆ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทุกประเภท ไปจนถึงงานนาฏกรรม ศิลปกรรม ดนตรีภาพยนตร์แผ่นดีวีดีและงานแพร่เสียงแพร่ ภาพทุกอย่าง รวมทั้งงานอีกมากมายหลายอย่างตามที่กฎหมาย กําหนด
15/05/61 4 Concept of Creative Commons • งานอันมีลิขสิทธิ์ทั้งหมด กฎหมายกําหนดแบบการคุ้มครองไว้ อย่างเดียวเหมือนกันหมด โดยเอาไปใช้กับงานทุกอย่างของ ผู้สร้างสรรค์งานทุกคน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะตรงกับความต้องการ ของผู้สร้างสรรค์งานแต่ละคน แนวคิดของครีเอทีฟคอมมอนส์ มองว่ารูปแบบการคุ้มครองลิขสิทธิ์แบบเดียวที่กล่าวมาขาดความ ยืดหยุ่นและก่อให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้งานลิขสิทธิ์ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตในปัจจุบัน Concept of Creative Commons • ในความเป็นจริง ผู้สร้างสรรค์งานแต่ละคนอาจมีแรงจูงใจในการ สร้างสรรค์งานแตกต่างกัน บางคนต้องการสิทธิผูกขาดมาก เพราะเป็นนายทุนหรือองค์กรธุรกิจที่หารายได้จากงานลิขสิทธิ์ • ในขณะที่ผู้สร้างสรรค์บางคนอาจไม่ต้องการบังคับสิทธิผูกขาด บางอย่างในงานบางชิ้น เพราะเห็นว่าไม่มีความจําเป็นหรืออาจจะ ประสงค์ให้งานบางชิ้นได้รับการเผยแพร่มากกว่า เช่น งานวิจัย สาธารณะ
15/05/61 5 Concept of Creative Commons • ครีเอทีฟคอมมอนส์เกิดขึ้นเพื่อสนองความต้องการของผู้ สร้างสรรค์งานที่คิด หรือมีความประสงค์แตกต่างไปจาก “สูตร สําเร็จ” ที่กฎหมายบังคับไว้ว่า “ทุกอย่างทําไม่ได้” เว้นแต่ขอ อนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมายก่อน โดยครีเอทีฟคอมมอนส์เสนอ ให้เป็นทางเลือกที่จะกําหนดขอบเขตการให้อนุญาตงานแต่ละชิ้น ได้ตามที่ต้องการผู้สร้างสรรค์อาจยอมให้ทําได้เกือบทุกอย่างโดย ไม่ต้องขออนุญาต หรืออาจยอมให้ทําได้บางอย่างเท่านั้นก็ได้โดย การให้อนุญาตดังกล่าวเป็นไปตามกรอบกฎหมายลิขสิทธิ์ Layer of Creative Commons "ชั้นที่หนึ่ง" เป็นชั้นที่แสดงสิทธิหน้าที่ใน กรอบของกฎหมาย ซึ่งอธิบายเป็นภาษา กฎหมายอย่างที่นักกฎหมายใช้กันทั่วไป โดยอาจเรียกชั้นที่หนึ่งนี้ว่า เป็นชั้นของ ความหมายทางกฎหมาย
15/05/61 6 Layer of Creative Commons "ชั้นที่สอง“ เป็นชั้นที่เขียนไว้ให้ผู้ใช้งานที่ ไม่ต้องเป็นนักกฎหมายอ่าน เป็นสัญญา ของคนทั่วไป ซึ่งมีไว้ให้ทั้งผู้อนุญาตให้ใช้ งานและผู้ใช้งานสามารถเข้าใจตรงกัน ทั้ง ส่วนของสาระสําคัญและเงื่อนไขต่างๆ ของ แบบสัญญา ชั้นที่สองนี้ทําให้สิทธิหน้าที่ ตามกฎหมายอยู่ในรูปที่อ่านและเข้าใจง่าย แม้ว่าโดยรูปแบบของชั้นที่สองไม่สามารถ ทําให้เกิดการอนุญาตให้ใช้สิทธิและเกิดผล ทางกฎหมายโดยตัวเอง Layer of Creative Commons "ชั้นที่สาม“ เป็นชั้นที่ทําให้เครื่องและ ซอฟต์แวร์ต่างๆ อ่านและเข้าใจแบบสัญญา อนุญาตให้ใช้สิทธิได้ซึ่งประกอบด้วย สาระสําคัญของการอนุญาตและสิทธิหน้าที่ ต่างๆ ในสัญญา วิธีการอธิบายให้เครื่อง เข้าใจตามที่กล่าวมาถูกพัฒนาออกเป็น ภาษาที่เรียกว่า CC Rights Expression Language หรือ CC REL
15/05/61 7 Creative Commons Symbol of Creative Commons
15/05/61 8 Symbol of Creative Commons Creative Commons • สัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิของครีเอทีฟคอมมอนส์สามารถใช้ได้ กับงานทุกชนิดที่ยังได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์อยู่ เช่น ข้อมูลการศึกษา ดนตรีภาพถ่าย ฐานข้อมูล เป็นต้น อย่างใด ก็ตาม งานประเภทเดียวที่ครีเอทีฟคอมมอนส์ไม่แนะนําให้ใช้แบบ ของสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิที่กล่าวมาคือ “คอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์”
15/05/61 9 Creative Commons • งานลิขสิทธิ์ที่เป็นคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ไม่ควรใช้ แบบสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิของครีเอทีฟคอมมอนส์โดยแนะนํา ต่อว่าควรใช้แบบสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิที่ออกแบบเฉพาะ สําหรับซอฟต์แวร์แทน ยกตัวอย่างเช่น แบบสัญญาของ Free Software Foundation หรืออาจระบุให้งานซอฟต์แวร์นั้นเป็น Open Source ในกรอบของ Open Source Initiative Creative Commons • อย่างใดก็ตาม การนําสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิของครีเอทีฟคอม มอนส์ไปใช้กับซอฟต์แวร์ที่ถูกทําให้อยู่ในลักษณะของงานเอกสาร รวมทั้งงานศิลปกรรมที่สร้างสรรค์แยกออกมา ยกตัวอย่างเช่น เกมหรือดนตรีเป็นต้น เหล่านี้สามารถใช้แบบสัญญาอนุญาตให้ใช้ สิทธิของครีเอทีฟคอมมอนส์ไดเหม้ ือนงานลิขสิทธิ์อื่น
15/05/61 10 Creative Commons • สําหรับงานที่เป็นฐานข้อมูลก็สามารถใช้แบบสัญญาอนุญาตให้ใช้ สิทธิของครีเอทีฟคอมมอนส์ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในแบบสัญญา อนุญาตให้ใช้สิทธิเวอร์ชัน 4.0 ล่าสุด มีแบบสัญญาอนุญาตให้ใช้ สิทธิที่ออกแบบเพื่อใช้กับ สิทธิในฐานข้อมูล • โดยเฉพาะปัจจุบัน หน่วยราชการและผู้ให้อนุญาตจํานวนมากใช้ แบบสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิของครีเอทีฟคอมมอนส์กับข้อมูล และฐานข้อมูลด้วย Apply of Creative Commons ตัวอย่างของเว ็บไซต์ ท ี่ม ี การนําเอาการนําสัญญาอนุญาตให้ใช้ สิทธิ ของคร ี เอท ีฟคอมมอนส์มาใช้
15/05/61 11 Apply of Creative Commons www.thaicert.or.th/ Apply of Creative Commons
15/05/61 12 Finals of Creative Commons • ประโยชน์ในส่วนเจ้าของสิทธิ์ ป้องกันไม่ให้เจ้าของลิขสิทธิ์ถูกนําผลงานไปใช้หรือเผยแพร่ ในช่องทาง ต่างๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต และถ้าหากใครนําผลงานไปใช้งานผิดเงื่อนไขที่ อนุญาตไว้ก็สามารถดําเนินการทางกฎหมายได้ทันที • ประโยชน์ในส่วนผู้ใช้งาน จะได้ทราบตั้งแต่ต้นว่า งานชิ้นนั้นๆ ตนเองสามารถนําไปใช้งานต่อใน รูปแบบใดได้บ้าง ลดความกังวลว่า จะมีความเสี่ยงในการถูกเรียกร้องว่า “ละเมิดลิขสิทธิ์” Refer of Creative Commons • https://www.etda.or.th/ • http://www.thailibrary.in.th/2014/10/14/creativecommons-licence/ • https://creativecommons.org/ • https://www.thaicert.or.th/ • http://www.greennet.or.th/