The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ใบความรู้ เรื่อง เสภาสามัคคีเสวก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by นงลักษณ์ ใจกล้า, 2019-08-28 22:56:58

ใบความรู้ เรื่อง เสภาสามัคคีเสวก

ใบความรู้ เรื่อง เสภาสามัคคีเสวก

บทเสภาสามัคคเี สวก

ผู้แต่ง พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกล้าเจ้าอยู่หวั

ประวัติผู้แตง่
พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเดจ็ พระ

จุลจอมเกล้าเจา้ อยหู่ วั ไดเ้ สดจ็ ไปศกึ ษาวชิ าท่ปี ระเทศอังกฤษ พระองคท์ รงเป็นพระมหากษัตรยิ ์องค์
ที่ 6 ในพระบรมราชจกั รีวงศ์ พระองค์ทรงเป็นทง้ั นักปราชญแ์ ละจนิ ตกวี ทรงเชย่ี วชาญท้งั อกั ษร
ศาสตร์ โบราณคดี ทรงพระราชนพิ นธง์ านวรรณคดีประเภทตา่ งๆ ทัง้ ร้อยแก้วและรอ้ ยกรอง
มากกวา่ 200 เร่อื ง ชาวไทยได้ถวายสมญั ญาแด่พระองคว์ า่ “สมเด็จพระมหาธีรราชเจา้ ” ผลงาน
พระราชนิพนธท์ ่ีสาคญั ๆ เช่น หวั ใจนักรบ มัทนะพาธา เวนสิ วาณิช สาวติ รี ธรรมาธรรมะสงคราม
เปน็ ต้น
ที่มาของเรอื่ ง

มาจากเรือ่ ง “บทเสภาขับระหวา่ งชดุ ระบาสามคั คีเสวก”

จุดมงุ่ หมายในการแต่ง

เป็นบทเสภาสาหรบั ขบั อธบิ ายนาเร่ืองในการฟอ้ นราตอนต่างๆ เพ่อื ใหพ้ ณิ พาทยไ์ ดพ้ กั
เหนอ่ื ย

ลกั ษณะคาประพันธ์

เป็นกลอนสภุ าพ

๑. บท บทหนึง่ มี ๔ วรรค
วรรคที่หนงึ่ เรยี กวรรคสดบั วรรคที่สองเรียกวรรครับ วรรคทสี่ ามเรยี กวรรครอง วรรคทีส่ ่เี รยี ก
วรรคสง่ แตล่ ะวรรคมีแปดคา จึงเรียกวา่ กลอนแปด

๒. เสยี งคา กลอนทกุ ประเภทจะกาหนดเสยี งคาทา้ ยวรรคเป็นสาคัญ กาหนดได้ ดังนี้

คาทา้ ยวรรคสดับ กาหนดให้ใช้ได้ทุกเสยี ง

คาท้ายวรรครบั กาหนดหา้ มใชเ้ สียงสามัญกบั ตรี

คาท้ายวรรครอง กาหนดใหใ้ ช้เฉพาะเสียงสามญั กบั ตรี

คาทา้ ยวรรคส่ง กาหนดให้ใชเ้ ฉพาะเสยี งสามญั กบั ตรี

๓. สมั ผัส
ก. สมั ผสั นอก หรอื สมั ผัสระหวา่ งวรรค อนั เป็นสัมผัสบงั คบั มีดังนี้

คาสุดทา้ ยของวรรคท่ีหนึ่ง (วรรคสดบั ) สัมผัสกับคาทีส่ ามหรือทห่ี า้ ของวรรคทสี่ อง (วรรครบั )
คาสุดทา้ ยของวรรคทสี่ อง (วรรครับ) สมั ผสั กบั คาสดุ ทา้ ยของวรรคท่สี าม (วรรครอง) และคาทีส่ าม
หรอื ท่หี ้าของวรรคที่ส่ี (วรรคส่ง)

สมั ผสั ระหว่างบท ของกลอนแปด คือ
คาสุดท้ายของวรรคทีส่ ่ี (วรรคส่ง) เป็นคาทส่ี ่งสมั ผัสบังคับใหบ้ ทต่อไปต้องรบั สัมผสั ที่คาสดุ ท้ายของ
วรรคทส่ี อง (วรรครับ)

ข. สมั ผสั ใน ในแตล่ ะวรรคของกลอนแปด แบง่ ช่วงจังหวะออกเปน็ สามช่วง ดังน้ี
หนง่ึ สองสาม – หนงึ่ สอง – หนึ่งสองสาม ฉะนนั้ สมั ผสั ในจงึ กาหนดไดต้ ามชว่ งจงั หวะในแตล่ ะวรรค
นนั่ เอง ดังตัวอยา่ ง
อันกลอนแปด – แปด คา – ประจาวรรค
วางเป็นหลกั – อกั ษร – สุนทรศรี

เน้ือเรื่อง

บทเสภาสามัคคีเสวก ตอน วิศวกรรมา

ชาตใิ ดทีม่ ีศกึ สงครามไม่มคี วามสงบสขุ ในแผ่นดนิ ประชาชนยอ่ มไม่มีจืตใจสนใจความ
งดงามของศลิ ปะแตห่ ากประเทศใด(ชาตใิ ด)บา้ นเมอื งสงบสขุ ปราศจากสงคราม ประชาชนกจ็ ะ
ทานบุ ารุงการศลิ ปกรรมท้งั ปวงให้เจรญิ ร่งุ เรือง ชาติใดทปี่ ราศจากชา่ งศลิ ป์ กเ็ ปรียบเสมอื น
หญิงสาวทไ่ี มม่ คี วามงามไม่เปน็ ท่ตี อ้ งตาตอ้ งใจของใคร มแี ต่จะถกู เยาะเย้ยให้ได้อาย อนั
ศลิ ปกรรมน้ันชว่ ยทาใหจ้ ิตใจคลายเศรา้ ช่วยทาให้ความทุกขห์ มด ทาให้จติ ใจของเรามี
ความสุขซ่ึงจะส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงไปด้วย(ทาให้สขุ ภาพ ใจและกายด)ี ตรงกนั ข้าม หาก
ใครไมเ่ ห็นคุณคา่ ความงามของศลิ ปะ เมอ่ื เผชญิ ความทุกขก์ ไ็ ม่มสี ่งิ ใดมาเปน็ ยาช่วยรสมาน
บาดแผลของจติ ใจ เขาเหลา่ นัน้ จงึ เปน๋ คนท่นี า่ สงสารย่ิงนัก เพราะความรทู้ างช่างศลิ ป์สาคญั
เช่นน้ี นานาประเทศจงึ นิยมยกยอ่ งคณุ ค่าของศิลปะและความสามารถเชงิ ชา่ งของชา่ งศิลป์ ว่า
เป็นเกียรตยิ ศ ความรุง่ เรืองของแผ่นดิน คนท่ไี มเ่ ห็นคุณคา่ ของศลิ ปะกเ็ หมอื นคนป่าคน
ดง ป่วยการอธิบาย พดู ดว้ ยก็เปลอื งนา้ ลายเปลา่ แต่ประเทศไทยของเราน้นั เห็นคุณค่าของงาน
ชา่ งศลิ ป์ เช่น ชา่ งปั้น ชา่ งเขยี น ช่างสถาปตั ย์ ชา่ งทองรูปพรรณ ช่างเงิน ชา่ งถมและชา่ งอญั
มณี ซง่ึ เราควรสนับสนุนงานชา่ งศิลป์ไทยให้กา้ วหนา้ รงุ่ เรืองอย่าให้ดอ้ ยนอ้ ย หนา้ กวา่ นานา
ประเทศ ชาวต่างชาติเมอ่ื มาเยอื นเมืองไทยจะได้ซ้อหางานศลิ ปะเหล่านกี้ ลบั ไปเพราะเหน้ ใน

คุณค่า การชว่ ยสนับสนนุ งานศลิ ปกรรม และส่งเสริมชา่ งศลิ ปฺไทยให้สรา้ งสรรงานศลิ ปะขึ้นจงึ
เท่ากัยไดช้ ่วยพัฒนา ชาติ ให้เจริญพัฒนาอยา่ ถาวร

บทเสภาสามัคคีเสวก ตอน สามคั คีเสวก
สิ่งหนึง่ ที่เราควรมีไวใ้ นจิตใจคือ พระเจ้าแผ่นดนิ เปรยี บเสมอื นพอ่ บังเกดิ เกล้าที่เราควร

เกรงใจและเคารพนบั ถอื เราต้องไม่เหน็ แกป่ ระโยชน์ส่วนตวั มากเกนิ ไป ควรนึกวา่ พวกเราก็เป็น
ข้ารับใช้ของพระเจา้ แผ่นดนิ คนหนงึ่ เหมอื นลูกเรือที่ อยู่ในเรอื กลางทะเลจาเปน็ ท่ีจะต้องมคี วาม
สามคั คีตอ่ กนั และกัน ถ้าลกู เรือเช่ือฟังกปั ตันกจ็ ะต้องชว่ ยกปั ตันอยา่ งแขง็ ขัน ตอ้ งตง้ั ใจฟังคาส่ัง
ของกปั ตันเรอื กจ็ ะรอดไปถงึ จุดหมาย แตถ่ ้าลกู เรอื ไม่เชอ่ื ฟงั กปั ตนั และเริ่มแตกคอกัน เวลาคล่ืน
ลมแรงเรอื กจ็ ะโคลงเคลง ตอ่ มาเรือก็จะจม ถา้ ลกู เรือมวั แต่ทะเลาะกัน กปั ตันกจ็ ะไม่มีกาลังมา
ต่อสู้ ถ้าไมเ่ ครง่ ครัดต่อกฏระเบยี บเวลาทเ่ี กดิ ภัยอะไรขึน้ จะเดือดร้อนกัปตนั สัง่ อะไรกไ็ มฟ่ ังพอถงึ
เวลากม็ ขี อ้ ขดั แยง้ ต่อมากจ็ ะเกดิ เหตกุ ารณ์วนุ่ วายขน้ึ ในท่ีสดุ เรอื ก็จะล่มกลางทะเล ถึงจะเป็นข้า
รบั ใชข้ องพระเจ้าแผน่ ดนิ กไ็ มค่ วรขาดความสามคั คปี รองดองกนั เหตกุ ารณใ์ นพระราชสานักก็
เปรยี บเสมือนเรอื ท่ีแล่นอยู่ตามทะเลมหาสมุทร เหล่าขา้ ราชการในราชสานกั ก็เหมอื นเป็น
กะลาสีควรให้ความสาคญั กับหน้าท่ีที่ ตอ้ งทาเป็นหลัก ปฏิบัติตนตามกฏตามระเบียบวินยั อยา่ ง
เคร่งครดั และสามัคคจี งรักภกั ดีต่อพระ เจ้าแผน่ ดินไมค่ วรแยกฝา่ ยเลือกท่ีจะเคารพเชอ่ื ฟังใคร
ควรที่จะสามคั คีปรองดองกันในหมขู่ ้าราชการเพ่ือเป็นพลังในการทาความดีใหส้ ม กับท่มี ีพระ
เจา้ แผน่ ดนิ พระองคเ์ ดียวกนั

ขอ้ คิดทไ่ี ดจ้ ากเรื่อง
๑ ศลิ ปะมีความสาคญั ในฐานะเป็นเคร่ืองแสดงความเจริญและแสดงความเจริญและแสดง

เกยี รติภูมิของประเทศ
๒ ชาตไิ ทยมีศลิ ปะท่งี ดงามแขนงต่างๆ เป็นมรดกตกทอดอันทรงคุณคา่
๓ คนไทยควรสนับสนุนศลิ ปนิ และวิชาชา่ งไทยให้คงอย่ถู าวรสบื ไป
๔ ศลิ ปะเปน็ สิง่ ทมี คี ณุ ค่า ช่วยคลายความทกุ ข์โศก ทาใหจ้ ติ ใจและร่างกายสบาย

ลกั ษณะเด่นของเร่อื ง

๑.เปน็ กลอนทใี่ ชถ้ ้อยคาภาษาง่ายๆ แตฟ่ งั ไพเราะ มีการอปุ มาอุปไมย เปรียบอย่างสมเหตุ
สมผลบางตอนบางบทของเสภานี้จงึ เป็นท่ีจดจาตดิ ปากของคนไทยเรา เชน่

อนั ชาตใิ ดไรช้ ่างชานาญศลิ ป์ เหมอื นนารินไรโ้ ฉมบรรโลมสง่า

ใครๆ เหน็ ไมเ่ ป็นท่ีจาเริญตา เขาจะพากันเยย้ ใหอ้ ับอาย

๒.เป็นเร่ืองท่โี นน้ น้าวใจให้ผู้อา่ นมคี วามรัก ความนยิ มในงานศลิ ปะ ช้ีใหเ้ ห็นความสาคัญ
และคณุ คา่ ของศลิ ปะอันงดงามของไทยอันเปน็ มรดกตกทอดมาแตบ่ รรพบุรุษ

สาระสาคัญ

บทเสภาสามคั คีเสวกมีลักษณะตา่ งจากเสภาเรื่องอ่ืนๆ คอื เปน็ บทเสภาขนาดส้นั แบง่
ออกเปน็ ๔ ตอน แตล่ ะตอนมุง่ เสนอแนวคดิ มากกว่าการเล่าเรือ่ ง โดยมีความคิดสาคัญ ที่ผูกรอ้ ย
แตล่ ะตอนเขา้ ดว้ ยกนั คือ ความสมานสามคั คแี ละความจงรักภกั ดีของข้าราชการตอ่ องค์
พระมหากษตั ริยแ์ ละตอ่ ประเทศชาติ เนอ้ื หาสาระโดยสรปุ ของแตล่ ะตอนมดี ังนี้

ตอนที่ ๑ กจิ การแหง่ พระนนที มีเนือ้ ความสรรเสรญิ พระนนทผี ้เู ปน็ เทพเสวก เม่อื พระ
อิศวรจะเสดจ็ ไปแหง่ มดพระนนทีจะแปลงเป็นโคอสุ ุภราชหะพระอิศวรประทับ เมอ่ื ขับเสภาจบเปน็
การแสดงระบาซ่งึ มีเรื่องราวเกยี่ วกับพระอิศวรและพระอมุ าเสด็จออกให้เทวดาเฝา้ ยกั ษก์ าลเนมี
เข้ามากอ่ กวนไล่จบั นางฟา้ พระนนทจี งึ ใหเ้ หล่าเทพเสวกชว่ ยกันจับยกั ษ์และชาระความ จากน้ัน
พระอนิ ทรแ์ ละทา้ วจตั ุโลกบาลจงึ ออกมาเฝ้าพระอิศวร

ตอนที่ ๒ กรีนริ มติ มีเน้ือความสรรเสรญิ พระคเณศเทพเจา้ แห่งศลิ ปวทิ ยาและเปน็ ผสู้ ร้าง
ชา้ งต่างๆ ในแผน่ ดนิ เพือ่ ประดับพระยศของพระมหากษตั ริย์ การแสดงระบาเรม่ิ ต้นดว้ ยชา้ งประจา
ทิศทงั้ 8 ออกมาถวายบังคมพระคเณศและจบั ระบายกั ษ์กาลเนมีออกมาไล่จับชา้ ง พระคเณศโกรธ
จึงไลล่ งไปต่อสู้กบั ยกั ษแ์ ละขบั ไลย่ กั ษไ์ ปได้ พระคเณศได้มอบชา้ งประจาแต่ละทศิ ให้ท้าวโลกบาล
ท้ัง 8 และร่ายมนตส์ รา้ งพระยาชา้ งเผือกจากนนั้ ใหห้ มอเฒา่ จบั ช้างเผอื กแลว้ ต้งั กระบวนแห่พระยา
ชา้ งเผอื ก

ตอนท่ี ๓ วิศวกรรมา มเี นือ้ ความสรรเสรญิ พระวศิ วกรรมผู้เป็นเทพเจา้ แหง่ การกอ่ สร้าง
และการชา่ งนานาชนดิ กลา่ วถึงความสาคัญของศลิ ปะท่ีมตี ่อชาติ การแสดงระบาเรม่ิ จากพระ

วิศวกรรมออกมารา ตอ่ นางวจิ ติ รเลขามาราทาท่าวาดภาพถวาย และพระรปู การมาราทาทา่ ป้ันรปู
ถวาย จากน้ันมกี ารแสดงอาวธุ ทปี่ ระดษิ ฐ์ข้นึ อยา่ งงดงาม และปิดทา้ ยดว้ ยระบานพรัตน์

ตอนที่ ๔ สามคั คเี สวก มีเนื้อความกล่าวถึงการสมานสามคั คีในหมขู่ า้ ราชการ ใหบ้ รรดา
ขา้ ราชการเหล่าน้นั มีความจงรักภกั ดีตอ่ พระมหากษัตรยิ ์ ซ่อื ตรง รกั ษาเกียรตยิ ศและขยันทางาน
การแสดงระบาเริม่ ด้วยราชเสวก ๒๘ หมู่ เดินแถวสวนสนามและร้องเพลงแสดงความจงรักภักดี

อาขยานบทหลกั

บทเสภาสามคั คีเสวก

อันชาติใดไร้ศานตสิ ขุ สงบ ตอน วิศวกรรมา
ณ ชาตนิ ้ันนรชนไม่สนใจ ตอ้ งมัวรบราญรอนหาผอ่ นไม่
แตช่ าตใิ ดรุ่งเรอื งเมอื งสงบ ในศิลปะวิไลละวาดงาม
ยอ่ มจานงศลิ ปะสง่างาม ว่างการรบอริพลอันล้นหลาม
เพือ่ อร่ามเรอื งระยับประดบั ประดา
อันชาติใดไรช้ ่างชานาญศลิ ป์ เหมอื นนารินไร้โฉมบรรโลมสง่า
ใครใครเห็นไมเ่ ป็นท่ีจาเริญตา เขาจะพากนั เยย้ ใหอ้ ับอาย
ศลิ ปกรรมนาใจใหส้ ร่างโศก ช่วยบรรเทาทกุ ขใ์ นโลกให้เหือดหาย
จาเรญิ ตาพาใจใหส้ บาย อกี ร่างกายก็จะพลอยสุขสราญ
แม้ผใู้ ดไมน่ ยิ มชมสงิ่ งาม เมื่อถงึ ยามเศร้าอรุ าน่าสงสาร
เพราะขาดเคร่อื งระงบั ดับราคาญ โอสถใดจะสมานซ่ึงดวงใจ
เพราะการช่างนส้ี าคัญอนั วิเศษ ทกุ ประเทศนานาทัง้ น้อยใหญ่
จึงยกยอ่ งศลิ ปกรรมน์ ั้นทวั่ ไป ศรวี ิไลวลิ าศดเี ปน็ ศรีเมอื ง

พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจ้าอย่หู วั


Click to View FlipBook Version