The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

นายธนากร สารการ รหัสนิสิต 62680005

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 12345678, 2021-03-14 23:52:20

เรื่อง ป่าชายเลน

นายธนากร สารการ รหัสนิสิต 62680005

ปา่ ชายเลนในประเทศไทย

ป่าชายเลนเป็นระบบนิเวศที่ประกอบด้วยพืชและสัตว์นานา
ชนิด ดำรงชีวิตร่วมกันในสภาพแวดล้อมที่เป็นดินเลน น้ำกร่อย หรือมี
น้ำทะเลท่วมถึงสม่ำเสมอ พบทั่วไปตามที่ราบปากแม่น้ำ อ่าว บริเวณ
ชายฝั่งทะเลในเขตน้ำขึ้นน้ำลง ทะเลสาบ และบริเวณรอบเกาะแก่ง
ต่างๆ

ป่าชายเลนประกอบดว้ ยพนั ธ์ุไม้หลายชนิดหลายตระกูล และ
เป็นพันธุ์ไม้ไม่ผลัดใบ (evergreen species) ซึ่งมีลักษณะทาง
สรีรวิทยาและความต้องการสิ่งแวดล้อมที่คล้ายกัน ส่วนใหญ่
ประกอบด้วยพันธุ์ไม้สกุลโกงกาง (Rhizophora sp.) เป็นไม้สำคัญ
และมีไม้ตระกูลอื่นบ้าง ตัวอย่างเช่น ถั่วดำ ถั่วขาว พังกาหัวสุมดอก
แดง โปรงขาว โปรงแดง ตะบูนดำ ตะบูนขาว แสมขาว แสมทะเล
ลำพู ลำพูทะเล ตาตุ่มทะเล เหงือกปลาหมอ เป็นตน้

ประโยชน์ของปา่ ชายเลน

1. เป็นแหลง่ พลังงาน อาหาร และทอี่ ย่อู าศัยของพืชและ
สัตวต์ ามธรรมชาติ

2. เป็นแนวชายปอ้ งกนั ฝง่ั ทะเลจากการกัดเซาะพงั ทลาย
กำบังคลน่ื ลม กระแสน้ำและพายุ

3. เป็นท่ีดดู ซบั นำ้ เสยี จากบ้านเรอื น
4. เปน็ แหลง่ วัตถดุ บิ ผลิตภณั ฑ์จากไม้ ที่ใชใ้ นการก่อสร้าง
และอุตสาหกรรมอนื่ ๆ เช่น ส่ิงทอและหนงั สตั ว์
5. เปน็ แหลง่ เชอ้ื เพลงิ เชน่ การทำถ่านจากไม้ในป่าชายเลน
6. เปน็ แหล่งวัตถุดิบในการผลติ อาหาร ยา และเครือ่ งดื่ม
7. เปน็ แหล่งแร่ดีบุก
8. เป็นแหลง่ ประมงใกล้ชายฝง่ั แหลง่ อาศยั ของลกู ปลา ลกู
ก้งุ และสตั ว์น้ำวัยออ่ นอ่ืนๆ
9. เปน็ ทีเ่ หมาะสมในการเพาะเลย้ี งสัตว์น้ำชายฝั่ง เชน่
หอยแมลงภู่ กุง้ ปลาในกระชงั เปน็ ตน้

การแบ่งเขตป่าชายเลน (Mangrove Zonation)

ตามชนิดของไม้นำเขตต่างๆของพันธุ์ไม้ชายเลนในแต่ละแห่งท่ี
พบในประเทศไทยมีความแตกต่างกันบ้าง โดยทั่วไปสามารถแบ่งได้
เป็น 4 เขตดงั นี้

1. เขตปา่ โกงกาง ประกอบด้วย "โกงกางใบเลก็ (Rhizophora
apiculata) ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นและมีต้น "โกงกางใบใหญ่"
(R. mucronata) ขึ้นอยู่ทางด้านนอกริมฝั่งแม่น้ำ โดยมากมักขึ้นเป็น
กลุ่มๆ ส่วน แสม มักขึ้นแซมตามชายป่าด้านนอกหรือถัดเข้าไปเพียง
เล็กน้อย ซึ่งมองเห็นได้ชัดเพราะมีต้นสูงใหญ่กว่าโกงกางนอกจากนี้ยัง
มี ประสัก และ พังกาหัวสุม

2. เขตป่าตะบูนและโปรงประกอบด้วย "ตะบูน"
(Xylocarpus) ข้นึ ตอ่ จากเขตต้นโปรงเข้าไป และมีต้นฝาดขึ้นอยู่อย่าง
หนาแนน่ บางบรเิ วณอาจมี ลำแพน แทรกอยู่ด้วย

3. เขตป่าตาตุ่ม และฝาด เป็นบริเวณที่มีดินเลนแข็งขึ้นอยู่ใน
ระดับที่น้ำจะท่วมถึงในช่วงน้ำเกิด อยู่ถัดจากป่าตะบูนและโปรงขึ้นไป
โดยมีต้น ฝาด ขึ้นอยู่หนาแน่นปะปนกบั ต้น ตาตุ่ม โดยบางแห่งจะมีต้น
ลำแพน ข้ึนแทรกอย่ดู ว้ ย

4. เขตป่าเสม็ดประกอบด้วย "เสม็ด" ขน้ึ อย่หู นาแนน่ เปน็ เขต
สุดท้ายของป่าชายเลนที่น้ำท่วมถึงในช่วงน้ำเกิดหรือท่วมไม่ถึง ติดต่อ
กบั ป่าบกหรือทุง่ นา

ปจั จัยสำคัญท่ีทำให้พันธ์ไุ มข้ องป่าชายเลนขน้ึ อยเู่ ปน็ เขตหรอื เปน็ โซน

1. ปัจจัยทางกายภาพและเคมีของดิน โกงกางใบใหญ่ชอบดินที่มี
สภาพเป็นโคลนนิ่ม ๆ โกงกางใบเล็กชอบดินเลนที่ไม่นิ่มเกินไป ไม้แสมชอบ
บริเวณชายหาดที่มีความลาดชันต่ำ สามารถทนต่อสภาพดินทรายได้เม่ือ
บริเวณนั้นมีน้ำทะเลท่วมถึง ไม้ถั่วขาวจะขึ้นในบริเวณดินเหนียวที่มีลักษณะ
ค่อนข้างแข็ง มีชั้นของฮิวมัสและมีการระบายน้ำที่ดี ต้นจากจะเป็น
สว่ นประกอบที่สำคัญตามบริเวณป่าชายเลนที่มีสภาพอ่ิมตัวด้วยน้ำ พวกปรง
ทะเลจะมกี ระจายมากในบรเิ วณดนิ แฉะและน้ำกร่อย

2. ความเค็มของน้ำในดิน โกงกางใบใหญ่ ลำพู ลำแพน เป็นพวก
ซึ่งต้องการความเค็มสูงจึงมักพบขึ้นอยู่บริเวณติดกับทะเล สำหรับไม้แสม
ทะเลจะมีความทนทานต่อความเค็มในช่วงกว้างโดยเจริญเติบโตได้ดี ตั้งแต่
บริเวณ ที่มีความเค็มต่ำจนถึงสูง ความเค็มไม่ใช่เป็นสิ่งสำคัญต่อการ
เจริญเติบโต แต่มีอิทธิพลต่อการลด การแก่งแย่งของพันธุ์ไม้ต่างชนิดกัน ใน
ประเทศไทย พบว่า เขตการขึ้นอยู่ของพันธุ์ไม้จะแตกต่างกันออกไปในแต่ละ
พื้นที่ เช่น ในจังหวัดจันทบุรีเขตนอกสุดที่ติดริมฝั่งทะเล จะมีไม้โกงกางทั้งใบ
ใหญ่และโกงกางใบเล็ก ถัดเข้าไปเป็นเขตของไม้แสมและไม้ถั่ว ถัดจากกลุ่ม
พวกนจ้ี ะเป็นไมต้ ะบูน และตามด้วยกลุม่ ไมโ้ ปรงและฝาด เขตสดุ ท้ายเป็นแนว
ต่อระหว่างป่าชายเลนกับป่าบก จะมีกลุ่มไม้เสม็ดขึ้นอยู่ สำหรับจังหวัดพังงา
จากริมน้ำเป็นกลุ่มไม้ลำพู แสม และกลุ่มไม้โกงกางใบใหญ่ ตามด้วยกลุ่ม
โกงกางใบเล็ก-ถั่ว ถัดจากกลุ่มนี้เป็นกลุ่มไม้โปร่ง และกลุ่มไม้โปรง-ตะบูน
สำหรบั เขตสดุ ทา้ ยจะเป็นกลุ่มไม้ตาตุ่ม-เป้ง

ประเภทของป่าชายเลนที่พบแพรก่ ระจายในประเทศไทย
ป่าชายเลนสามารถแบ่งตามลักษณะกายภาพของพื้นที่และการ

ท่วมถึงของน้ำทะเลมี 4 ชนดิ คอื
Basin forest เป็นชนิดป่าชายเลนที่ขึ้นติดกับผืนแผ่นดินใหญ่

(main land) ตามลำแม่น้ำเล็กๆ จะได้รับอิทธิพลจากน้ำทะเลน้อยมาก
กลา่ วคือ นำ้ ทะเลจะท่วมถงึ เฉพาะเวลาที่มีน้ำทะเลขึ้นสูงสุด (extreme high
tide) เท่านั้น และมอี ิทธิพลจากน้ำจืดมาก ลักษณะพันธุ์ไม้จะเป็นต้นเตี้ยและ
พวกเถาวลั ย์

Riverine forest เป็นชนิดป่าชายเลนที่ขึ้นอยู่บริเวณชายฝั่งแม่น้ำ
ใหญ่ๆที่ติดต่อกับอ่าว ทะเล และทะเลสาบ ป่าประเภทนี้ได้รับอิทธิพลจากน้ำ
ทะเลอยู่อย่างสม่ำเสมอ คือจะมีกระแสน้ำท่วมอยู่เป็นประจำวัน โดยพันธุ์ไม้
จะเจรญิ เติบโตคอ่ นขา้ งสมบูรณ์ดี

Fringe forest เปน็ ชนดิ ป่าชายเลนที่ข้ึนตามชายฝ่ังทะเลติดกับผืน
แผ่นดินใหญ่ หรือบริเวณชายฝั่งที่เป็นเกาะใหญ่ๆ ได้รับอิทธิพลจากน้ำทะเล
อยู่สม่ำเสมอ คือน้ำทะเลจะท่วมถึงอยู่เป็นประจำวัน พันธุ์ไม้ของป่าจะ
เจริญเติบโตไดด้ ี และเปน็ ปา่ ทีค่ อ่ นขา้ งอุดมสมบูรณ์

Overwash forest เป็นชนิดป่าชายเลนที่ขึ้นอยู่บนเกาะเล็กๆ จะ
ถูกน้ำทะเลท่วมทั้งหมดเมื่อระดับน้ำทะเลขึ้นสูงสุด การเจริญเติบโตของป่า
ชนิดนี้ต่ำ เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากลมและน้ำทะเลมาก อีกประการหนึ่งคือ
พวกปุ๋ยและธาตุอาหารในป่าชนิดนี้จะถูกชะไปโดยกระแสน้ำออกจากป่าเป็น
ส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้การเจริญเติบโตของป่าชนิดนี้ไม่ดีและป่าจะมี
ลกั ษณะ เตย้ี

การกระจายของพืน้ ทีป่ า่ ชายเลนในประเทศไทย
ป่าชายเลนของประเทศไทยขึ้นอยู่กระจัดกระจายตามชายฝ่ังทะเล

ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ โดยจะพบทั้งทางด้านฝั่งอ่าวไทย และ
ฝ่งั ดา้ นทะเลอนั ดามัน

ภาคกลาง: จังหวัดที่พบได้แก่ บริเวณที่ติดกับชายฝั่งทะเลของ
จังหวัดสมุทรปราการ กรุงเทพฯ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี และ
ประจวบครี ขี ันธ์

ภาคตะวนั ออก: แพร่กระจายอยูต่ ามชายฝงั่ ทะเลของจงั หวัดชลบุรี
ระยอง จันทบรุ ี ตราด และฉะเชงิ เทรา

ภาคใต้: ส่วนมากจะเกิดเป็นแนวยาวติดต่อกันทางชายฝั่งทะเล
ดา้ นตะวันตกหรอื ด้านทะเลอันดามัน ในเขตจังหวัดระนอง พงั งา ภเู ก็ต กระบี่
ตรัง และสตลู

ส่วนชายฝั่งด้านตะวันออกหรือด้านอ่าวไทย จะพบตามปากน้ำ
และลำน้ำใหญ่ๆ ในจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา
และปตั ตานี

จังหวัดที่มีพื้นที่ป่าชายเลนมากที่สุดของประเทศไทย ได้แก่
จังหวัดพังงา สตลู กระบ่ี และ ตรัง

สถานภาพปา่ ชายเลน

จากการสำรวจพื้นที่ป่านชายเลนของประเทศไทยในปี 2504 พบว่ามี

พื้นที่รวมทั้งสิ้น 2,299,375 ไร่ หรือร้อยละ 0.72 ของพื้นที่ประเทศ ในระยะ 25

ปีต่อมาพื้นที่ป่าชายเลนได้ลดลงอย่างรวดเร็ว จากการสำรวจเมื่อ พ.ศ. 2529

ปรากฏว่ามีพื้นที่ป่าชายเลนประมาณ 1,227,674 ไร่ หรือลดลงเกือบครึ่งหนึ่ง

ต่อมาป่าชายเลนยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มอัตราการบุกรุกเพิ่มมาก

ยิ่งขึ้น โดยในปี 2536 พื้นที่ป่าชายเลนคงเหลือเพียง 1,054,266 ไร่ หรือร้อยละ

0.33 ของพื้นที่ประเทศ ซึ่งคิดเป็นพื้นที่ถูกทำลาย 1,245,109 ไร่ หรือร้อยละ

54.15 เมื่อเทยี บกับปี 2504 สถานการณป์ ่าชายเลน ปี 2504-2547

ในช่วงหลังจากปี 2536 สถานะการณ์ป่าชายเลนเริ่มดีขึ้น จากการ

สำรวจช่วงปี พ.ศ.2543-2557 ปรากฏว่ามีปี 2557 ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าชาย

เลนประมาณ 1,534,584 ไร่ และพนื้ ทีป่ ่าชายเลนในประเทศไทยสว่ นใหญ่จะมีมาก

ทางภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามัน ในช่วง พ.ศ. 2504 - 2539 ป่าชายเลนที่คงสภาพใน

ประเทศไทยมแี นวโนม้ ลดลง โดย พ.ศ. 2504 มพี นื้ ทปี่ า่ ชายเลนท่คี งสภาพ

2,299,375.00 ไร่ ในขณะที่ พ.ศ. 2539 มีพื้นที่เพียง 1,047,390.00 ไร่ตั้งแต่

พ.ศ. 2539 - 2557 ป่าชายเลนที่คงสภาพในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดย

พ.ศ. 2557 มีพื้นที่เป็น 1,534,584.74 ไร่ โดยเพิ่มขึ้นจาก พ.ศ. 2539 เป็น

1.5 เท่าใน พ.ศ. 2557 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้สำรวจพื้นที่ป่าชาย

เลนทั้งหมด จากภาพถ่ายดาวเทียม ซึ่งพบว่า มีพื้นที่ป่าชายเลนรวมทั้งสิ้น

2,869,489.12 ไร่ โดยแบง่ พื้นท่ตี ามสภาพการใช้ประโยชนไ์ ด้ดังตอ่ ไปนี้

- ป่าชายเลนทค่ี งสภาพจำนวน 1,534,584.74 ไร่ ซง่ึ เปน็ พ้ืนท่ที ่นี อกเขตป่า
ชายเลนตามมตคิ ณะรฐั มนตรี พ.ศ. 2543 จำนวน 162,983.63 ไร่

- พ้ืนทท่ี ีถ่ ูกแปลงสภาพแปลงเปน็ พื้นท่ีเพาะเลีย้ งสตั ว์นำ้ 439,234.38 ไร่
- พ้ืนทที่ ถ่ี ูกแปลงสภาพแปลงเป็นพ้ืนทเี่ กษตรกรรม 340,525.21 ไร่

การปลูกป่าชายเลน

1. การปลกู ป่าชายเลนโดยใชเ้ งนิ งบประมาณแผน่ ดนิ
กรมป่าไม้ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2482 ในท้องที่จังหวัดจันทบุรีใน
บรเิ วณพื้นท่ปี ่าท่เี สอื่ มโทรม โดยดำเนินการปลกู ไมโ้ กงกางเพื่อเป็นการทดลองปลูกใน
เนือ้ ที่เพยี งเล็กนอ้ ย และไม่ไดม้ โี ครงการทจี่ ะปลูกเพม่ิ ขึ้นในทอ้ งทจ่ี ังหวัดอื่นด้วย แต่ก็
ดำเนินการเพียงพื้นที่เล็กน้อย และเริ่มปลูกเพิ่มมากขึ้นในระยะหลังแต่พื้นที่ก็ยังไม่
มาก ไม้ที่ปลูกส่วนใหญ่เป็นไม้โกงกาง มีไม้โปรง ไม้ถั่วบ้าง แต่ก็เป็นส่วนน้อย การ
ปลกู ปา่ ชายเลน ทผ่ี า่ นมาเพียงปลกู เพอ่ื ฟนื้ ฟูสภาพป่าในบริเวณป่าทเ่ี ส่ือมโทรมยังไม่
มีแผน การจัดการทีจ่ ะนำไมอ้ อกมาใช้ประโยชน์ เน้ือท่สี วนปา่ ชายเลนท่ไี ด้ดำเนินการ
ปลูกโดยใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2482 ถึงปี พ.ศ. 2534 มีการ
ดำเนินการในทอ้ งท่ีจังหวัดจนั ทบุรี นครศรีธรรมราช ตรัง สตูล ปัตตานี กระบี่ ชุมพร
ได้เนอ้ื ทรี่ วมกนั ประมาณ 56,660 ไร่
2. การปลูกป่าชายเลนตามเงอ่ื นไขสมั ปทานทำไมป้ า่ ชายเลน
การทำไม้ตามสัมปทานได้เริ่มออกสัมปทานทำให้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 โดยให้
สัมปทานระยะยาว 15 ปี ขณะนป้ี ่าโครงการทใ่ี ห้สมั ปทานอย่ใู นรอบทีส่ อง (สมั ปทาน
ฉบบั ใหม)่ จำนวน 248 ปา่ เนอื้ ที่ประมาณ 899,755.07 ไร่ ซง่ึ เมอ่ื ทำไม้ออกตาม
สมั ปทานแลว้ แตล่ ะปีผู้รบั สัมปทานจะตอ้ งทำการปลูกบำรุง ป่า ทดแทน ตามเง่ือนไข
สัมปทานทำไม้รอบแรกกำหนดให้ผู้รับสัมปทานปลูกป่าทดแทนเพียง 1 เท่า
ค่าภาคหลวง เท่านั้น จึงทำให้ปลูกป่าทดแทนได้ไม่เต็มพื้นที่ที่มีการทำไม้ออก ฉะน้ัน
ตามสัมปทานทำไม้ฉบบั ใหม่ทีท่ ำไม้ออก ตามสมั ปทานในรอบทส่ี อง ได้มีการปรบั ปรุง
เงื่อนไขสัมปทานให้เหมาะสมยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการปลูกบำรุงได้กำหนดให้ผู้รับ
สัมปทานดำเนนิ การปลกู ปา่ ชายเลนทดแทน ให้เต็มพื้นที่ในแนวตัดฟันไม้ท่ีทำไมอ้ อก
ทง้ั หมด แลว้ ยังต้องดำเนนิ การปลกู ปา่ เขตสมั ปทานตามวธิ กี ารที่กรมป่าไม้กำหนดอีก
ภายใน วงเงิน 3 เท่าค่าภาคหลวง พร้อมทั้งขุดแพรกเพื่อช่วยเหลือการเจริญเติบโต
ของพันธไ์ุ ม้ป่าชายเลนทปี่ ลกู อกี ดว้ ย ดงั น้ันพน้ื ที่ป่าชายเลน ทใ่ี ห้สัมปทานทำไม้แล้ว
รัฐจึงไม่ต้องทำการปลูกป่าชายเลนเอง เพียงแต่ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ

ควบคุมให้ผู้รับสัมปทาน ทำการปลูกป่าชายเลนให้เป็นไปตามเงื่อนไขสัมปทานโดย
เคร่งครัด

3. การปลกู ปา่ ชายเลนโดยภาคเอกชน
การปลูกสร้างสวนป่าชายเลนหรือสวนป่าไม้โกงกางโดยเอกชน อยู่ในบริเวณ
ชายฝงั่ ทะเลก้นอ่าวไทยในทอ้ งท่ีจงั หวัดเพชรบุรี สมทุ รสงคราม สมทุ รปราการ จนถึง
ชลบรุ ี ซงึ่ ส่วนใหญ่เปน็ การปลูกสรา้ งสวนป่าไมโ้ กงกางเป็นอาชีพในครวั เรอื น ในทด่ี นิ
กรรมสิทธ์ิซึ่งเปน็ มรดกตกทอดต่อ ๆ กันมา จากการสอบถามประวตั คิ วามเปน็ มาของ
ราษฎรบางรายในท้องที่บ้านตะบูน อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรีและที่บ้านยี่
สาร อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งได้เริ่มปลูกป่าไม้โกงกางใบเล็กเพื่อเผา
ถ่านและทำไม้ฟืนมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2480 และมีราษฎร รายอื่น ๆ ทำตามติดต่อกัน
มาจนถึงปัจจุบัน โดยจำนวนเนื้อทีท่ ี่แท้จริงของสวนป่าไม้โกงกางท่ีราษฎรไดป้ ลูกขึ้น
ทบ่ี า้ น ยี่สาร อำเภออัมพวา จังหวดั สมุทรสงคราม มเี น้อื ทป่ี ระมาณ 16,000 ไร่ โดย
ดำเนนิ การอยหู่ ลายเจา้ ของ และใช้ประโยชนไ์ ม้จากสวนป่าทป่ี ลูก ในการเผาถ่านเปน็
ส่วนใหญ่ เมื่อสวนป่ามีอายุ 8 - 12 ปี แต่ขณะนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่สวนป่า
ดังกล่าวทำเป็นนากงุ้ ไปเปน็ จำนวน มากแลว้
4. การปลูกปา่ ชายเลนตามโครงการปลกู ปา่ เฉลิมพระเกียรติ
รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหน่วยงานหลัก
ร่วมกับภาคเอกชนจัดทำโครงการปลูกป่า ถาวรเฉลิมพระเกยี รติพระบาทสมเด็จพระ
เจา้ อยู่หวั เนื่องในวโรกาสทรงครองราชปีที่ 50 นั้น กรมปา่ ไมใ้ นฐานะท่ี หน่วยงานท่ี
มีหน้าที่รับผิดชอบในการปลูกป่าได้รับมอบหมายให้จัดทำพื้นที่ เป้าหมายขึ้นเพื่อใช้
เป็นพื้นที่ปลูกป่า โดยในส่วนที่เป็นพื้นที่ป่าชายเลนนั้น กรมป่าไม้ได้จัดทำพื้นท่ี
เป้าหมายไว้ 31,724 ไร่ จำนวน 57 แห่ง อยู่ในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ จำนวน 12
จังหวดั

การปลกู ป่าชายเลน


Click to View FlipBook Version