The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Parichat Promkaew, 2022-10-08 02:00:51

เทคนิคการสอน 9 ขั้นตอน แบบ Active Learning

ฉบับเต็ม

โรงเรียนบ้านคุระ
BANKURA SCHOOL

RESEARCH

การใช้เทคนิคการสอน 9 ขั้นตอน แบบ
ACTIVE LEARNING เพื่อพัฒนา
ทักษะการอ่านและการเขียน ในรายวิชา

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

นางสาวปาริฉัตร พรหม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพังงา
แคกรู้ผวู้ช่วย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ

การใช้เทคนคิ การสอน 9 ขัน้ ตอน แบบ Active Learning
เพ่อื พัฒนาการอ่านและการเขยี นของนกั เรียนในรายวชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565

นางสาวปาริฉตั ร พรหมแก้ว
ครผู ชู้ ่วย

โรงเรยี นบา้ นคุระ

สานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศกึ ษาพงั งา
สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน

กระทรวงศึกษาธกิ าร

ช่ือวิจัย การใชเ้ ทคนิคการสอน 9 ขั้นตอน แบบ Active Learning เพอ่ื พฒั นาทกั ษะทางด้านการอา่ น
และการเขยี นของผ้เู รียนในรายวชิ าวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4
ชอ่ื ผวู้ ิจยั ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
ตาแหน่ง นางสาวปาริฉัตร พรหมแก้ว
วชิ าเอก ครูผชู้ ว่ ย
วทิ ยาศาสตร์

บทคดั ย่อ
การวิจัยคร้ังนี้มีวัตถุประสงค์ เพ่ือ (1) พัฒนาทักษะทางด้านการอ่านและการเขียนของนักเรียน ช้ัน

ประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้เทคนิคการสอน 9 ขั้นตอน แบบ Active Learning (2) ศึกษาความพึงพอใจของ
ผเู้ รียนทมี่ ีต่อเทคนิคการสอน 9 ขนั้ ตอน แบบ Active Learning

ประชากรที่ใช้ในการวิจัย เป็นนักเรียนโรงเรียนบ้านคุระ กลุ่มตัวอย่างท่ีใช้ในการวิจัยนักเรียนชั้น
ประถมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรยี นบ้านคุระ ประจาปีการศึกษา 2565 จานวน 19 คน โดยวิธเี ฉพาะเจาะจง

ผลการวิจยั พบวา่
1. ผู้เรียนมีทักษะการอ่านและการเขียน หลังจากใช้เทคนิคการสอน 9 ขั้นตอน แบบ Active
Learning สูงขน้ึ
2. ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรยี นการสอนโดยใช้เทคนิคการสอน 9 ข้นั ตอน แบบ Active
Learning ระดบั มาก

ความสาคัญและความเปน็ มาของปัญหา
ในศตวรรษท่ี 21 ความกา้ วหน้าทางเทคโนโลยสี ารสนเทศ ทาให้การสอื่ สารไร้พรมแดน จึงสง่ ผลให้

ผู้เรยี นสามารถเรียนรู้ไดด้ ้วยตนเองอยา่ งต่อเน่ืองและตลอดเวลา ดังนัน้ การจดั การศึกษาจงึ ตอ้ งมีรูปแบบท่ี
เหมาะสม สอดคลอ้ งกบั การเปล่ียนแปลงของสงั คม เทคโนโลยี และการเรยี นรู้ของผู้เรียน โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ
ในยคุ Education 4.0 ที่องค์ความรู้ใหมๆ่ เกดิ ข้นึ อยมู่ ากมายเกนิ กว่าทีจ่ ะเรียนรู้อย่แู คใ่ นห้องเรยี น ดังน้ันการ
จดั การเรยี นการสอนจึงต้องใช้วิธีการสอนท่หี ลากหลายเพ่ือส่งเสริมใหผ้ ู้เรยี นรู้จักประยุกต์ใชค้ วามรแู้ บบ
องค์รวม มีทักษะในการปฏิบัติ รู้จักวิธีการแก้ไขปัญหา และมีความคิดสร้างสรรค์ มีคุณธรรมจริยธรรม และ
วัฒนธรรมในการดารงชวี ิต สามารถอย่รู ่วมกับผู้อนื่ ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ สามารถนาความร้ไู ปใชไ้ ดจ้ รงิ ใน
ชีวิตประจาวันและประกอบอาชีพในอนาคต และเป็นไปตามพระราชบัญญตั กิ ารศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542
และ ฉบบั พ.ศ. 2545 หมวด 22 – 24 มาตรา 4 ที่ยดึ หลัก “ผูเ้ รียนทกุ คนมคี วามสามารถเรยี นรู้ และพัฒนา
ตนเองได้ และถือวา่ ผู้เรียนมคี วามสาคัญทีส่ ุด” ถือเป็นการจดั การเรียนรู้เพอ่ื ให้ผูเ้ รยี นมีความสมบรู ณ์ท้งั
ทางด้านร่างกาย จติ ใจ สติปัญญา ความรู้ มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม

การจัดการเรยี นการสอนในรายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การสอนโดยการจัดกิจกรรมแค่ในช้ัน
เรียนไม่สามารถส่งผลให้ผเู้ รียนเกิดการเรียนรูแ้ ละพัฒนาตนเองได้อย่างเต็มศักยภาพ เน่ืองจากเป็นการเรยี นรู้
แคต่ ามหนังสอื เรียน

Active Learning เป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างสรรค์ทางปัญญา
(Constructivism) ท่เี น้นกระบวนการเรยี นรมู้ ากกว่าเน้ือหาวชิ า เพ่ือช่วยใหผ้ ู้เรยี นสามารถเช่อื มโยงความรู้
หรือสร้างความรใู้ ห้เกดิ ขน้ึ ในตนเอง ดว้ ยการลงมือปฏบิ ัตจิ ริงผา่ นสือ่ หรอื กิจกรรมการเรยี นรู้ ทม่ี คี รผู ู้สอนเปน็
ผู้แนะนา กระต้นุ หรอื อานวยความสะดวกให้ผเู้ รียนเกิดการเรยี นรขู้ ึน้ โดยกระบวนการคิดขนั้ สูง กลา่ วคือ
ผูเ้ รียนมกี ารวเิ คราะห์ สังเคราะห์ และการประเมินค่าจากส่ิงที่ไดร้ บั จากกจิ กรรมการเรยี นรู้ ทาให้การเรียนรู้
เปน็ ไปอยา่ งมีความหมายและนาไปใช้ในสถานการณอ์ ่นื ๆ ไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ (สถาพร พฤฑฒกิ ุล, 2558)

ดังน้ันผู้วิจัยจึงมีแนวความคิดเก่ียวกับการสอนโดยใช้เทคนิคการสอน 9 ข้ันตอน แบบ Active
Learning ในรายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อให้มีรูปแบบกิจกรรมที่หลากหลาย เหมาะสมกับการ
เรียนรู้ของผูเ้ รียน และลดบทบาทของครผู ู้สอนลงโดยเป็นเพียงผู้อานวยความสะดวกสาหรับการเรียนรู้ในด้าน
ต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ในสิ่งที่ตนเองสนใจจากแหล่งการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย รวมทั้งทางาน
ร่วมกับผ้อู ่ืนอย่างมีความสขุ ซงึ่ จะชว่ ยใหผ้ เู้ รียนสรา้ งองค์ความรไู้ ดด้ ว้ ยตนเอง มีการเชื่อมโยงวิธีการเรยี นรู้ใน
เนื้อหาวชิ าที่เรยี นเข้ากบั รายวิชาอืน่ ๆ และเขา้ กับชวี ติ ประจาวัน ซงึ่ สอดคล้องกับแนวการจดั การศกึ ษาตาม
พระราชบญั ญตั ิการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2545) และเหมาะสมกบั การศกึ ษาในยคุ
4.0 (Education 4.0)

วัตถุประสงค์
1. เพ่ือพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน โดยใช้เทคนคิ การสอน 9 ข้นั ตอน แบบ Active Learning

สาหรับนักเรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 โรงเรยี นบ้านคุระ
2. เพอ่ื ศึกษาความพงึ พอใจของนักเรยี นตอ่ การจัดการเรียนการสอนโดยใช้เทคนคิ การสอน 9 ขั้นตอน

แบบ Active Learning

สมมตฐิ านการวจิ ัย
1. นักเรยี นช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 โรงเรียนบ้านคุระ มีทักษะการอ่านและการเขียน สูงขึ้น หลงั จากใช้

เทคนคิ การสอน 9 ขน้ั ตอน แบบ Active Learning
2. นักเรียนมีความพึงพอใจตอ่ การจัดการเรยี นการสอนโดยใช้เทคนคิ การสอน 9 ข้ันตอน แบบ Active

Learning

นยิ ามศัพท์
เทคนิคการสอน 9 ขั้นตอน หมายถึง เทคนิควิธีการสอนที่สอดแทรกการเสริมสร้างแรงบันดาลใจ

ให้กับนักเรียน ซึ่งประกอบด้วย กระบวนการ 9 ขั้น ได้แก่ (1) กล่าวทักทายนักเรียน (Greetings) (2) การ
เสริมสร้างแรงบันดาลใจ (Motivation) (3) การนาเข้าสู่บทเรียน (Warm Up) (4) การใช้คาถามปลายเปิด
(Questions) (5) การค้นหาบทเรียน (Practice) (6) การนาเสนอหน้าชั้นเรียน (Presentation) (7) สะท้อน
ความคิด (Reflection) (8) สรุปร่วมกัน (Summarize) (9) ค้นหานาทาง วิเคราะหน์ ักเรยี นเป็นรายบคุ คลและ
รายกล่มุ (Evaluation)

Active Learning หมายถงึ กระบวนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคดิ การสรา้ งสรรค์
ทางปญั ญา (Constructivism) ทเี่ น้นกระบวนการเรยี นรู้มากกวา่ เน้ือหาวชิ า เพอื่ ชว่ ยให้ผเู้ รยี นสามารถ
เชือ่ มโยงความรู้ หรือสร้างความรู้ใหเ้ กิดข้ึนในตนเอง ดว้ ยการลงมือปฏิบัตจิ รงิ ผา่ นสือ่ หรือกิจกรรมการเรยี นรู้
ท่ีมีครูผู้สอนเป็นผแู้ นะนา กระตุ้น หรืออานวยความสะดวก เพ่อื ใหผ้ เู้ รียนเกดิ การพฒั นาความรู้ด้วยตนเองได้
อย่างยงั่ ยนื

ทักษะการอา่ นและการเขียน หมายถึง ผลทีเ่ กิดจากกระบวนการเรยี นการสอนที่ทาให้ผเู้ รียนเกิดการ
เปลยี่ นแปลงทางด้านทักษะ

แนวคดิ ทฤษฎีท่เี ก่ยี วข้อง
1. แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรูใ้ นยุคการศกึ ษาไทย 4.0
วทิ วัส ดวงภุมเมศ (2560) กล่าววา่ ในยุคการศกึ ษาไทย 4.0 มเี ปา้ หมายใหผ้ ู้เรยี นสามารถสร้างองค์

ความรไู้ ด้ดว้ ยตนเองและนาความร้ไู ปประยกุ ต์ให้เกดิ นวัตกรรมสสู่ งั คม การจัดกจิ กรรมการเรียนร้จู ะต้องมี
องค์ประกอบทสี่ าคญั กล่าวคอื 1) การสรา้ งสภาพแวดลอ้ มและกระตุ้นความกระหายใคร่รใู้ นปญั หา
2) ใหผ้ ู้เรยี นลงมือสรา้ งความเขา้ ใจและวางแผนในการเรยี นรู้ 3) ลงข้อสรปุ ผลการเรยี นร้แู ละสรา้ งองคค์ วามรู้
4) นาผลการเรียนรู้เขา้ สกู่ ระบวนการขยายและแปลงความรู้ลงสู่นวัตกรรมและ 5) ประเมนิ ผลการเรียนรู้

ดังนน้ั การศกึ ษาไทยในยุคไทยแลนด์ 4.0 จะต้องเป็นการจดั กจิ กรรมการเรียนรทู้ ีใ่ หผ้ ้เู รยี นได้ลงมอื
ปฏบิ ัติจรงิ สามารถนาองค์ความรหู้ ลายๆ แขนงมาบรู ณาการแบบสรา้ งสรรค์ เพ่ือพฒั นานวัตกรรมต่างๆ มา
ตอบสนองความต้องการของสังคม ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในสว่ นของประเดน็ การออกแบบกจิ กรรมการ
เรยี นร้เู นน้ ภาคปฏบิ ัติ กิจกรรมการเรยี นรูค้ วรมีลักษณะยืดหย่นุ และหลากหลาย ผู้เรียนมอี ิสระในการเลือกทจ่ี ะ
เรียนรู้ มสี ่วนร่วมคิดออกแบบกจิ กรรมการเรยี นรู้ เปิดโอกาสใหผ้ ้เู รียนแสดงผลของการเรยี นรูต้ ลอดจนสามารถ
แสดงถึงการประยุกต์ความรู้ไปใช้ประโยชน์ในการรังสรรค์ชิ้นงานข้นึ มาใหม่ การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
สมควรเน้นการวดั และประเมินผลตามสภาพจรงิ ท่ผี ูเ้ รียนแสดงออกในขณะการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมและหลังทา
กิจกรรมกรรมการเรียนร้เู สรจ็ สนิ้ แล้ว ซึง่ จะสามารถสะท้อนถงึ ความรู้ ทกั ษะกระบวนการคดิ ทกั ษะ
กระบวนการแกป้ ญั หา สมรรถนะและคณุ ลักษณะของผเู้ รยี น ซงึ่ จะเปน็ การแสดงว่ากระบวนการจัดการเรยี นรู้
ให้กับผเู้ รียนน้นั จะสามารถให้ผลตอบสนองกับความต้องการของสังคม สามารถสง่ ผลให้ผูเ้ รียนเกดิ หรือมี
ทกั ษะที่จาเป็นในศตวรรษท่ี 21 และเปน็ ไปตามเปา้ หมายของการจดั การเรยี นรยู้ คุ ไทยแลนด์ 4.0 ไดอ้ ยา่ ง
แท้จริง

2. ทฤษฎแี ละแนวคิดเกี่ยวกับการเรียนการสอนแบบ Active Learning
สถาพร พฤฑฒกิ ุล (2558) กลา่ วว่า Active Learning เปน็ กระบวนการจดั การเรียนรู้ตามแนวคิดการ
สรา้ งสรรค์ทางปญั ญา (Constructivism) ที่เน้นกระบวนการเรยี นรมู้ ากกวา่ เนอื้ หาวิชา เพ่อื ช่วยให้ผู้เรียน
สามารถเชื่อมโยงความรู้ หรือสรา้ งความรูใ้ หเ้ กิดขึ้นในตนเอง ด้วยการลงมือปฏบิ ตั ิจรงิ ผ่านสือ่ หรือกิจกรรมการ
เรียนรู้ ท่ีมคี รผู ูส้ อนเป็นผู้ แนะนา กระตนุ้ หรอื อานวยความสะดวกใหผ้ ู้เรียนเกิดการเรียนรู้ข้นึ โดยกระบวนการ
คิดข้นั สูง กลา่ วคอื ผูเ้ รียนมกี ารวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการประเมินคา่ จากส่ิงท่ไี ด้รับจากกจิ กรรมการเรยี นรู้
ทาให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างมีความหมายและนาไปใช้ในสถานการณอ์ น่ื ๆ ได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ

ไชยยศ เรอื งสวุ รรณ (2553 อา้ งถงึ ใน สถาพร พฤฑฒิกลุ , 2558) กลา่ วถึงลกั ษณะของการจดั การเรียน
การสอนแบบ Active Learning ไวด้ ังน้ี

1. เป็นการเรยี นการสอนที่พัฒนาศักยภาพทางสมอง ได้แก่ การคิด การแก้ปญั หา และการนาความรู้
ไปประยุกต์ใช้

2. เปน็ การเรยี นการสอนท่เี ปิดโอกาสให้ผเู้ รียนมีสว่ นรว่ มในกระบวนการเรียนรูส้ ูงสดุ
3. ผู้เรียนสรา้ งองคค์ วามรแู้ ละจดั กระบวนการเรียนร้ดู ้วยตนเอง
4. ผู้เรียนมีสว่ นรว่ มในการเรียนการสอนทงั้ ในด้านการสรา้ งองค์ความรู้ การสร้างปฏสิ มั พนั ธร์ ่วมกัน
รว่ มมอื กันมากกว่าการแข่งขนั
5. ผูเ้ รยี นเรยี นรู้ความรับผดิ ชอบร่วมกัน การมีวินัยในการทางาน และการแบ่งหนา้ ท่คี วามรบั ผดิ ชอบ
6. เป็นกระบวนการสรา้ งสถานการณ์ให้ผเู้ รยี นอ่าน พูด ฟงั คดิ อย่างลุ่มลึก ผเู้ รียนจะเปน็ ผ้จู ัดระบบ
การเรยี นรู้ด้วยตนเอง
7. เปน็ กิจกรรมการเรยี นการสอนทเี่ น้นทักษะการคดิ ข้ันสูง
8. เปน็ กิจกรรมทเ่ี ปิดโอกาสให้ผู้เรยี นบรู ณาการข้อมลู ข่าวสาร หรอื สารสนเทศ และหลกั การความคดิ
รวบยอด
9. ผสู้ อนจะเป็นผอู้ านวยความสะดวกในการจัดการเรยี นรู้ เพ่อื ใหผ้ ูเ้ รียนเปน็ ผปู้ ฏบิ ัตดิ ว้ ยตนเอง
10. ความรู้เกดิ จากประสบการณ์ การสร้างองค์ความรู้ และการสรุปทบทวนของผเู้ รยี น

ระเบยี บวิธีวิจัย
ประชากร

นักเรียนโรงเรียนเรียนบ้านคุระ ระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1-6 ที่เรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี จานวน 152 คน
กลมุ่ ตวั อยา่ ง

นักเรียนชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรยี นบ้านครุ ะ จานวน 19 คน ซึ่งได้มาโดยวธิ ีการสุ่มตัวอย่างแบบ
เฉพาะเจาะจง

ขอบเขตเนอ้ื หาสาระ
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 เร่ือง สิง่ มีชวี ิต

เครอื่ งมอื ที่ใชใ้ นการรวบรวมขอ้ มลู
เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลของการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

และเทคโนโลยี โดยการใช้เทคนิคการสอน 9 ข้ันตอน แบบ Active Learning 2) แบบทดสอบก่อนเรียนและ
หลงั เรยี นวิชาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เร่ือง สง่ิ มีชีวิต 3) แบบประเมินความพึงพอใจต่อการจดั การเรียนการ
สอนวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยการใช้เทคนิคการสอน 9 ขั้นตอน แบบ Active Learning ซึ่งผู้วิจัย
สร้างข้นึ ตามวตั ถปุ ระสงค์ของการวิจัย

การรวบรวม
1.การเก็บรวบรวมขอมูล สถานที่เก็บขอมูล คือ โรงเรียนบ้านคุระ การเก็บรวบรวมข้อมูลเร่ิมต้ังแต่

ดาเนินกิจกรรมจนเสรจ็ สน้ิ กิจกรรม
2. ดาเนินกิจกรรมการเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยการใช้

เทคนคิ การสอน 9 ขั้นตอน แบบ Active Learning เรอ่ื ง สิง่ มชี วี ิต สาหรบั นักเรียนชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4
3. เก็บขอ้ มลู กอ่ นทาการทดลองด้วยแบบทดสอบก่อนเรียน
4. ในระหวา่ งการทดลอง ทาการเก็บคะแนนระหวา่ งเรยี น โดยใหผ้ ้เู รยี นทาใบงานหลงั จากเรยี นจบ

เน้อื หาในแตล่ ะหวั ขอ้
5. เก็บข้อมูลหลังทาการทดลองด้วยแบบทดสอบหลังเรียนเพื่อเป็นข้อมูลทางสถิติเพื่อวัดผลสัมฤทธ์ิ

ทางการเรยี น ทกั ษะการอ่าน และการเขียน
6. ประเมินความพึงพอใจเกี่ยวกับรูปแบบการจัดการเรียนการสอน โดยการใช้เทคนิคการสอน 9

ขั้นตอน แบบ Active Learning ใหแ้ กน่ ักเรยี น จานวน 19 คน
7. ผวู้ ิจัยดาเนินการตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน/หลังเรยี น จดั เกบ็ ขอ้ มูลเป็นแบบการใชค้ ะแนนโดย

ใหค้ าตอบถกู เทา่ กบั 1 และคาตอบที่ผิดคือ 0
8. ดาเนนิ การบนั ทกึ ขอ้ มูลจากการตอบแบบประเมินความพึงพอใจ

สรปุ ผลการวจิ ยั
จากการวิจัย เร่ือง การใช้เทคนิคการสอน 9 ขั้นตอน แบบ Active Learning เพ่ือพัฒนาทักษะ

ทางด้านการอา่ นและการเขยี นของผู้เรียนในรายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชั้นประถมศึกษาปที ี่ 4
ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 สรุปผลการวิจยั ไดด้ งั น้ี

1. นักเรียนมีทักษะการอ่านและการเขียนรายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หลังจากการจัดการ
เรียนการสอนโดยใชเ้ ทคนิคการสอน 9 ขั้นตอน แบบ Active Learning สูงขน้ึ

2. ผลการศึกษาความพึงพอใจตอ่ การเรียนการสอนรายวิชาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยใช้เทคนิค
การสอน 9 ข้ันตอน แบบ Active Learning พบว่าผู้เรยี นมีความพึงพอใจต่อการเรยี นการสอนอยู่ในระดับมาก

อภิปรายผล
การวิจัย เรื่อง การใช้เทคนิคการสอน 9 ขั้นตอน แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะทางด้าน

การอา่ นและการเขียนของผเู้ รยี นในรายวชิ าวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดับช้ันประถมศึกษาปที ี่ 4
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ตามวัตถปุ ระสงค์และสมมติฐานของการวจิ ัย ผู้วิจัยได้ค้นพบประเด็นที่ควร
นามาอภปิ รายดังน้ี

ด้านทักษะการอ่านและการเขียนรายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยใช้เทคนิคการสอน 9
ขั้นตอน แบบ Active Learning

1. ในการศึกษาเก่ียวกับประสิทธิภาพของบทเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ท่ีส่งผลต่อ
ทักษะการอ่านและการเขียน โดยใช้เทคนิคการสอน 9 ขั้นตอน แบบ Active Learning พบว่ามีประสิทธิภาพ
เป็นไปตามสมมติฐานที่ต้งั ไว้

2. สมมตฐิ านการวิจัย ที่วา่ นักเรยี นชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรยี นบา้ นครุ ะ มที ักษะการอ่านและการ
เขยี น สูงข้ึน หลงั จากใช้เทคนคิ การสอน 9 ขั้นตอน แบบ Active Learning ซ่งึ เปน็ ไปตามสมมติฐานท่ตี ง้ั ไว้

ด้านความพึงพอใจเกี่ยวกับการเรียนการสอนรายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยใช้ใช้
เทคนิคการสอน 9 ขัน้ ตอน แบบ Active Learning

จากการประเมินความพึงพอใจของนักเรียน โดยใช้ใช้เทคนิคการสอน 9 ข้ันตอน แบบ Active
Learning พบว่า ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนการสอนอยู่ในระดบั มาก ซ่งึ เปน็ ไปตามสมมติฐานที่ตง้ั ไว้
ซ่งึ เม่ือพจิ ารณาลึกลงไปจะพบว่า ผู้เรียนมคี วามสุขในการเรียนแบบกิจกรรมกล่มุ อยใู่ นระดับมาก ส่วนในด้าน
การเรยี นรู้ ผู้เรียนมีความพึงพอใจท่ีมีโอกาสแสดงความคิดเหน็ และความสามารถอยู่ในระดับมาก สาหรับด้าน
การจัดการเรียนรู้ พบว่าผู้เรียนมีความพึงพอใจที่การจัดกิจกรรมส่งเสริมให้มีการค้นพบความร้ใู หม่อยใู่ นระดับ
มาก และดา้ นประโยชน์ที่ไดร้ ับพบว่าผู้เรียนมีความเห็นว่าผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติจริงและนาความรู้ที่ได้รับไปใช้ได้
จริง อยู่ในระดับมาก

ขอ้ เสนอแนะในการนาไปใช้
1. การจัดการเรียนการสอน โดยใช้รูปแบบการสอน Active Learning เป็นการเน้นกระบวนการ

ทางานเปน็ กลุ่ม ดังนั้นจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมของผู้เรียนโดยพิจารณาถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล
โดยกระบวนการจัดกลุ่มต้องคานึงถึงความเหมาะสมทั้งด้านความรู้ ความสามารถ และมนุษยสัมพันธ์ของ
ผู้เรียนในกลุ่ม อีกทง้ั ตอ้ งสร้างความเข้าใจในกระบวนการจดั การเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการสอน Active
Learning และเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เลือกปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ ความถนัด อันจะส่งผลให้ผู้เรียน
สามารถเรยี นอย่างมคี วามสขุ และนาความรู้ทีไ่ ดร้ บั เชอ่ื มโยงไปสกู่ ารใชป้ ระโยชน์ในชวี ิตจริงอย่างเหมาะสม

2. ผู้สอนควรมีการศึกษาค้นคว้าเพ่ิมเติมเกี่ยวกับแนวทางการจดั การเรียนการสอนโดยใช้เทคนิคการ
สอน 9 ข้ันตอน แบบ Active Learning และข้อจากัดต่างๆ เช่น เวลา สถานที่ ผู้เชี่ยวชาญ และแหล่งการ
เรียนรู้ต่างๆ เพ่ือให้การจัดการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการสอน Active Learning มีประสิทธิภาพมาก
ที่สดุ

ข้อเสนอแนะในการศกึ ษาค้นควา้ คร้งั ต่อไป
1. ควรศึกษาวิธีการเรียนการสอนโดยใช้เทคนิคการสอน 9 ขั้นตอน แบบ Active Learning เพื่อ

นาไปใชใ้ นชนั้ เรียนและรายวชิ าอืน่ ๆ
2. ควรศึกษาเปรียบเทียบทักษะทางด้านการอ่านและการเขียน โดยใช้เทคนิคการสอน 9 ข้ันตอน

แบบ Active Learning กบั วิธกี ารเรยี นร้แู บบอนื่ ๆ

ผลกระทบที่เกดิ ข้นึ / การนาผลวิจัยไปใช้
1. ผลกระทบทเี่ กิดขึน้ จากการทาวิจัย สง่ ผลตอ่ การพัฒนาการเรียนการสอนและเป็นสิ่งสะทอ้ นถึงการ

พัฒนาศักยภาพของผู้เรียนตามนโยบายในการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียน เพ่ือพัฒนาผู้เรียนให้เป็น
ประชากรคณุ ภาพในยคุ Education 4.0

2. นาผลงานวจิ ัยไปเผยแพรใ่ ห้แกเ่ พื่อนรว่ มวิชาชพี เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาการสอน

โรงเรียนบ้านคุระ
BANKURA SCHOOL

RESEARCH

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพังงา
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ


Click to View FlipBook Version