The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

8.รายงานผลการฝึกงาน-บมจ.ซีพีเอฟ(ประเทศไทย) ฟาร์มหนองคาย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by neeranootsp, 2023-06-29 10:58:26

8.รายงานผลการฝึกงาน-บมจ.ซีพีเอฟ(ประเทศไทย) ฟาร์มหนองคาย

8.รายงานผลการฝึกงาน-บมจ.ซีพีเอฟ(ประเทศไทย) ฟาร์มหนองคาย

รายงาน การฝึกงานทางสัตวศาสตร์3 จัดทำโดย นางสาวณีรนุช สุพล 633030115-4 นางสาวปวิตรา คุ้มบัณฑิตย 633030120-1 นางสาววันวิสาฆ์ ฤทธิ์มนตรี 633030126-9 นางสาวณัฐวิภา แสงสว่าง 633030317-2 นางสาวพนิดา คลังสมบัติ 633030543-3 นางสาววิไลวรรณ จันทน์ไพสณฑ์ 633030551-4 นางสาวเหนือนภา เฉลิมรัมย์ 633030552-2 เสนอ ผศ.ดร. ยุพิน ผาสุข รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา AG173708 การฝึกงานทางสัตวศาสตร์ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 สาขาสัตวศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น


ก คำนำ รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา AG173798 การฝึกงานทางสัตวศาสตร์ 3 จัดทำขึ้นเพื่อ แลกเปลี่ยนข้อมูลและองค์ความรู้ ประสบการณ์ที่ได้จากการฝึกงาน รายงานเล่มนี้ได้เขียนถึงข้อมูล ของทางฟาร์มและข้อมูลของกิจกรรมที่นักศึกษาปฏิบัติระหว่างฝึกงาน ผู้จัดทำคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานฉบับนี้จะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจต่อน้องๆ รุ่นถัดไป คณะผู้จัดทำ


ข สารบัญ เรื่อง หน้า ข้อมูลฟาร์ม 1 ระบบควบคุมโรค 1 1. ระบบการป้องกันโรคก่อนเข้าฟาร์ม 2 2. ระบบการป้องกันโรคภายในฟาร์ม 3 เล้าผสม 5 1. สุกรสาว 5 2. การเช็คสัด + เช็คกลับสัด 6 3. การกระตุ้นสัด 5 ขั้นตอน 7 4. ขั้นตอนการผสม 7 5. สุกรนาง 9 6. การวัดค่า P2 10 7. การเช็คกลับสัดและการตรวจท้อง 11 8. การแยกขนาดแม่สุกรก่อนย้ายไปคอกรวม 11 9. คอกขังรวม 11 10. ตีหลังขึ้นคลอด 12 เล้าคลอด 13 1. การเตรียมแม่สุกรขึ้นคลอด 13 2. การคลอด 13 3. ขั้นตอนในการคลอด 13 4. การจัดการแม่สุกรหลังคลอด 14


ค สารบัญ เรื่อง หน้า 5. การดูแลลูกสุกรหลังคลอด 15 6. การจัดขนาดลูกสุกร 15 7. การดูแลลูกสุกรหลังคลอด 1 วัน 15 8. การเลี้ยงลูกสุกรหลังคลอด 16 9. การหย่านม 16 AI 18 1. วิธีการรีดน้ำเชื้อพ่อพันธุ์ 18 2. การเก็บน้ำเชื้อสุกร 19 3. การตรวจคุณภาพและเจืองจางน้ำเชื้อ 19 4. การกำจัดซากสุกร 21 5. การกำจัดกลิ่นภายในฟาร์ม 21 สิ่งที่ได้เรียนรู้เพิ่มเติม 21 ปัญหาและอุปสรรค 22 รูปภาพกิจกรรมภายในฟาร์ม 23 ภาพรวมภายในฟาร์ม 26


1 ข้อมูลฟาร์ม ฟาร์มหนองคาย ที่อยู่เลขที่ 89 หมู่ 9 ตำบลหนองปลาปาก อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย เนื้อที่ทั้งหมด 600 ไร่ ก่อตั้งเมื่อปี 2560 พ.ศ. 2560-2561 ประกอบด้วยทั้งหมด 26 เล้า แบ่งเป็นเล้าคลอด 10 เล้า เล้าผสม 11 เล้า เล้าพ่อพันธุ์ 1 เล้า และเล้ากักโรค 4 เล้า มีแม่สาวทดแทน(GDU) 3,000 ตัว แม่พันธุ์จำนวน 6,000 จำนวนผสม 320 ตัว/สัปดาห์ กำลังการผลิตลูกสุกรหย่านม 174,000 ตัว/ปี ดำเนินงานภายใต้รูปแบบฟาร์มสีเขียว (GREEN FARM) ภาพที่1 ฟาร์มหนองคาย ระบบควบคุมโรค ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ เป็นระบบการป้องกันหรือลดโอกาสในการนำเชื้อโรคเข้าและออก จากฟาร์มหรือโรงเรือน สถานที่เลี้ยงสัตว์โรงฆ่าสัตว์ โรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์จากสัตว์รวมไปถึงรถขนส่ง ภาชนะอุปกรณ์การจัดการขยะ ซากสัตว์และน้ำทิ้ง เป็นวิธีการควบคุมโรคที่ถูกที่สุดและได้ผลดีที่สุด ซึ่งโปรแกรมควบคุมโรคทุกโปรแกรมจำเป็นต้องอาศัย biosecurity เพื่อให้เกิดประสิทธิผลและประสิทธิภาพ ที่สำคัญของระบบนี้คือ ต้องมีการแยกส่วนระหว่างบริเวณที่ไม่ปลอดเชื้อและบริเวณที่ปลอดเชี้อโรคออกจากกัน เนื่องจากการระบาดของโรคที่เกิดขึ้นเกิดจากเชื้อโรคที่เข้ามาในฟาร์ม ซึ่งมาได้ทั้งทางบก ทางน้ำและ ทางอากาศ หรืออาจปนเปื้อนเข้ามากับแหล่งของวัตถุดิบที่เข้ามาสู่ฟาร์ม ยานพาหนะ คน ฝุ่นละออง หรือแม้แต่สัตว์พาหะ ดังนั้นจะต้องมีการควบคุมบุคคลที่จะเข้ามาสู่ฟาร์มอย่างเข้มงวด โดยอาจจะผ่าน การรมควันฆ่าเชื้อด้วยวิธีการที่ถูกต้องตามระบบควบคุมโรค


2 1. ระบบการป้องกันโรคก่อนเข้าฟาร์ม 1.1 พักโรคนอกฟาร์ม 1 วัน และพักโรคในฟาร์ม 2 วัน การพักโรคเป็นการหยุดการนำเอาเชื้อโรค จากนอกฟาร์มเข้าสู่ฟาร์มได้เป็นอย่างดี อย่างน้อยต้องมีการพักโรค 24 ชั่วโมง ก่อนที่จะเข้าสู่เขตเลี้ยงสัตว์ได้ 1.2 ตรวจ Swab เส้นผม ใบหู คอและโทรศัพท์มือถือ ซึ่งทุกคนที่จะเข้าฟาร์มจะต้องตรวจทุกคน เพื่อนำไปตรวจหาเชื้อ ASF หากผลเป็น negative (-) จึงจะสามารถเข้าสู่เขตเลี้ยงสัตว์ได้ ภาพที่2 ตรวจ Swab ก่อนเข้ายในฟาร์ม 1.3 ก่อนเข้าภายในฟาร์มต้องผ่านสเปรย์ฆ่าเชื้อโรค อาบน้ำและสระผม ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ในการป้องกันโรค คนที่จะเข้าฟาร์มทุกคนต้องผ่านการอาบน้ำสระผมและใส่ชุดกักโรคทุกครั้ง ภาพที่3 การปฏิบัติตัวก่อนเข้าสู่ภายในฟาร์ม 1.4 สิ่งของต่างๆ ต้องผ่านตู้ UV ก่อนนำเข้าไปภายในฟาร์มเสมอ


3 2. ระบบการป้องกันโรคภายในฟาร์ม 2.1 ต้องผ่านสเปรย์บุคคล อาบน้ำและสระผม ก่อนจะเข้าสู่เขตเลี้ยงสัตว์ทุกครั้ง และใส่ชุดที่ทางฟาร์ม เตรียมให้ จะมีคนตรวจทุกครั้งเช่นเดียวกันกับก่อนเข้าฟาร์ม เป็นการป้องกันโรคได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ภาพที่4 การแต่งกายเมื่อเข้าสู่เขตเลี้ยงสัตว์ 2.2 นำสิ่งของจำเป็นใส่ในกระเป๋าใสเพื่อนำเข้าตู้ UV เพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อนเข้ามาในเขตเลี้ยงสัตว์ ภาพที่5 ตู้ UV 2.3 ระบบการป้องกันโรคภายในเขตเลี้ยงสัตว์ 2.3.1 การสวมรองเท้าบูท จะมีการแยกรองเท้าบูทในแต่โซนเป็นสีต่างๆ เป็นการลด การนำพาเชื้อโรคจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง จึงมีการแบ่งสีรองเท้าบูทอย่างชัดเจน ดังนี้


4 - รองเท้าบูทสีขาว ใส่เดินเข้าเลี้ยงสัตว์ - รองเท้าบูทสีน้ำเงิน ใส่เดินใน Walkway - รองเท้าบูทสีดำและสีเขียว ใส่เดินในโรงเรือน 2.3.2 จุ่มเท้าด้วยน้ำเปล่าและน้ำยาฆ่าเชื้อ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ น้ำยาฆ่าเชื้อที่ใช้จะใช้ น้ำยา BIOSAL ใช้ผสมในน้ำและตีให้เกิดฟองจะได้ประโยชน์สูงสุด 2.3.3 หากออกนอกฟาร์มต้องพักโรคนอกเขตเลี้ยงสัตว์ 2 วัน และพักโรคในเขตเลี้ยงสัตว์ 1 วัน 2.3.4 ห้ามนำอาหารไปรับประทานในเขตเลี้ยงสัตว์


5 เล้าผสม เล้าผสมจะแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ สุกรนางและสุกรสาว สุกรนางคือสุกรที่ผ่านการมีลูกแล้ว อย่างน้อย 1 ครั้ง และสุกรสาวคือสุกรที่ยังไม่ผ่านการมีลูกหรือท้องมาก่อน โดยมีข้อแตกต่างกัน ดังนี้ 1. สุกรสาว เล้าสุกรสาวแบ่งทั้งหมดเป็น 5 เล้า คือ เล้า I, เล้า G, เล้า R, เล้า M6 และ M1 1.1 เล้า Isolate (เล้า I) สุกรสาวทดแทน ไว้สำหรับพักโรค 1.2 เล้า GDU (เล้า G) จะเป็นเล้าสุกรสาวทดแทนอายุ 35 สัปดาห์ 1.3 เล้า R จะรับสุกรสาวทดแทนจากเล้า G - ภายในเล้าจะทำการแยกขังเป็นคอกรวม - เช็คสัดและกระตุ้นสัดเช้า-บ่าย และเมื่อสุกรเป็นสัดจะย้ายสุกรไปไว้ที่ซองยืน M6 ภาพที่6 เล้า R 1.4 เล้า M6 จะรับสุกรที่เป็นสัดจากเล้า R มารอผสม - สุกรจะยืนซองเป็นเวลา 35 วัน หลังผสมเสร็จแล้ว 18-21 วัน หากมีการพบสุกรกลับสัด จะย้ายไปผสมใหม่ - วันที่ 28 ทำการตรวจท้อง หากมีสุกรที่สงสัยว่าท้องหรือไม่จะเขียนหลังว่า ส (สงสัย) ถ้ามี ส จะต้องตรวจท้องรอบที่สองนับอีก 14 วันหลังตรวจท้องครั้งแรก และวันที่ 35 ไล่ขึ้นคอกรวม M1 1.5 เล้า M1 รอรับสุกรอุ้มท้องจาก M6 โดยการเตรียมเล้า M1 ก่อนรับสุกรจะทำการพ่นแป้ง 3 วัน และละลายยา Pracetam และ Nopstres ในถังละลายน้ำ


6 - แยกขังคอกละ 9 ตัว - สังเกตอาการสุกรอยู่เสมอหากมีสุกรป่วยจะย้ายไปขังเดียวและให้ยาตามอาการ - ก่อนย้ายสุกรไปเล้าคลอดจะทำการตีหลังขึ้นคลอด เพื่อเช็คจำนวนสุกรขึ้นคลอด - เขียนเบอร์หูและลำดับตัวลงในสมุดขึ้นคลอด - ก่อนครบกำหนดคลอดจะทำการไล่สุกรขึ้นคลอดไปก่อน 1 สัปดาห์เพื่อป้องกัน การคลอดก่อนกำหนด 2. การเช็คสัด + เช็คกลับสัด 2.1 ใช้พ่อพันธุ์ในการเดินหน้าซองเพื่อเป็นการกระตุ้นให้สุกรเป็นสัด 2.2 ทำการกระตุ้นสุกรเพื่อเช็คสุกรที่เป็นสัดและสุกรกลับสัด ทำเช้า-บ่าย 2.3 สังเกตหม้อต้องมีลักษณะบวมแดงและมีเมือก หูตั้ง หางชี้ และนิ่งยอมให้ขึ้นขี่ 2.4 สุกรสาวที่เป็นสัดและกลับสัดจะทำการผสมทันที ภาพที่7 ลักษณะสุกรเป็นสัด


7 3. การกระตุ้นสัด 5 ขั้นตอน 3.1 กดสวาป 3.2 ยกสวาป 3.3 กดใต้อวัยวะเพศ 3.4 กดบริเวณซี่โครงซี่สุดท้าย 3.5 ขึ้นนั่ง 4. ขั้นตอนการผสม 4.1 ทำความสะอาดบริเวณภายนอกอวัยวะสืบพันธุ์แม่สุกร โดยการใช้น้ำเกลือ 0.9% ล้างให้สะอาด ใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ 70% เช็ด 4.2 นำพ่อพันธุ์มาเดินกระตุ้น 4.3 นำ AI-buddy มาใส่ที่หลังสุกร 4.4 สุกรสาวจะใช้เดือยผสมเทียมหัวโฟมสุกรสาว โดยสอดเข้าไป ทำมุม 45 องศา จนรู้สึกว่าเดือยล็อค คอมดลูกแล้ว 4.5 นำน้ำเชื้อไปเสียบกับเดือยและรอน้ำเชื้อไหลลงจนหมด 4.6 สุกรสาวผสม 3 ครั้ง คือถ้านิ่งเช้าผสม เช้า-เย็น-เช้า หรือนิ่งเย็นผสม เย็น-เช้า-เย็น ภาพที่8 AI-buddy และเดือยผสมสุกรสาว


8 ภาพที่9 การล้างหม้อสุกร และเสียบเดือย ตารางงานสุกรสาว เวลา โปรแกรมงาน 07:30-08:00 ปั่นอาหาร, ให้อาหาร, ตรวจสอบสภาพแวดล้อม, ทำความสะอาดเล้า 09:00-10:00 เช็คสัด, เช็คสุกรกลับสัด 11:00-12:00 ผสมเทียมสุกรสาว, สุกรสาวตกค้าง, สุกรกลับสัด, สุกรแท้ง 12:00-13:30 พักกลางวัน 13:30-14:00 ตรวจสภาพแวดล้อม, ตามยา, ทำความสะอาดเล้า 14:00-15:00 เช็คสุกรกลับสัด, กระตุ้นสัด 15:00-16:00 ผสมเทียมสุกรสาว, สุกรสาวตกค้าง, สุกรกลับสัด, สุกรแท้ง 16:00-17:00 ทำกิจกรรม 5 ส


9 5. สุกรนาง 5.1 รับแม่สุกรหย่านมจากเล้าคลอด รับแม่สุกรหย่านมจากเล้าคลอดสัปดาห์ละ 2 ครั้ง จะแบ่งเป็นแม่สุกรดี และแม่สุกรคัดทิ้ง แม่สุกรคัดทิ้งจะคัดตัวที่ไม่แข็งแรง มีอาการบาดเจ็บ และแม่สุกรตัวที่มี parity มากกว่า 6 หลังจากรับ แม่สุกรมาแล้วจะมีการอ่านเบอร์หูทั้งแม่สุกรดีและแม่สุกรคัดทิ้งเพื่อเป็นการเก็บบันทึกข้อมูล 5.2 การเช็คสัดและกระตุ้นแม่สุกรหย่านม - แม่สุกรหย่านมจะอยู่ในซองยืน 1-2 วัน โดยไม่นับวันที่หย่านมมา จะไม่ปิดไฟเล้า ให้อาหาร วันละ 2รอบ เช็คสัดโดยการปล่อยพ่อพันธุ์เดินข้างหน้าตัวเมียวันละ 1 ครั้งจะเช็คสัดแบบปกติ - การเช็คสัดในวันที่ 3 โดยในการเช็คสัด วันละ 1 ครั้ง - การเช็คสัดวันที่ 4 จะเอาแม่สุกรเข้าไปกระตุ้นวันละ 2 ครั้ง เช้า-บ่าย โดยจะให้แม่สุกร เข้าไปในคอกพ่อพันธุ์คอกละ 5 ตัว แล้วเริ่มกระตุ้นด้วย 5 ท่า คือ กดสวาป ยกสวาป กดใต้อวัยวะเพศ กดบริเวณซี่โครง (ซี่สุดท้าย) และการขึ้นนั่ง หากสุกรเป็นสัดทั้งวิธีการเช็คสัดและกระตุ้นสัด แม่สุกร จะยืนนิ่งพร้อมผสม หม้อจะมีลักษณะบวมแดง มีเมือก หูตั้งและหางชี้ - เช็คสัดได้ในวันที่ 1-6 ของการเช็คสัด จะใช้สัญลักษณ์ W - เช็คสัดได้หลังจากวันที่ 7 จะใช้สัญลักษณ์ JW - เขียนสัญลักษณ์ไว้บนตัวแม่สุกร ตัวอย่างเช่น ช 21 W มีความหมายดังนี้ เป็นสัดในตอนเช้า ของวันที่ 21 และเช็คสัดได้ในช่วง 1-6 วัน หลังจากเริ่มเช็คสัด - การเช็คการกลับสัดในวันที่ 18-21 วัน หลังการผสม หากมีการกลับสัดจะใช้สัญลักษณ์ RM 5.3 การผสม - แม่สุกรที่มีสัญลักษณ์ W จะผสม 2 ไม้ คือ เป็นสัดเช้าผสมเย็น-เย็น เป็นสัดเย็นผสมเช้า-เย็น - แม่สุกรที่มีสัญลักษณ์ JW จะผสม 3 ไม้ คือ เป็นสัดเช้าผสมเช้า-เย็น-เช้า เป็นสัดเย็นผสม เย็น-เช้า-เย็น - แม่สุกรที่มีการกลับสัดจะใช้สัญลักษณ์ RM จะผสม 3 ไม้ เป็นสัดเช้าผสมเช้า-เย็น-เช้า เป็นสัดเย็นผสมเย็น-เช้า-เย็น หากมีการกลับสัดมากกว่า 2 รอบ จะทำการคัดทิ้ง


10 5.4 วิธีการผสม 5.4.1 ปล่อยพ่อพันธุ์มาเดินข้างหน้าแม่พันธุ์ 5.4.2 ใส่ AI-buddy ที่ซี่โครงซี่สุดท้ายของสุกร และใช้น้ำล้างที่อวัยวะเพศของสุกร ใช้น้ำเกลือความเข้มข้น 0.9% ล้างให้สะอาด และใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ 70% ที่หม้อของสุกร 5.4.3 เสียบเดือยผสมเทียมหัวโฟมแบบลึก IUI เอียง 45 องศา เข้าไปในคอมดลูกของแม่สุกร 5.4.4 นำน้ำเชื้อที่เตรียมไว้มาตัดปลายหลอดออกแล้วเสียบเข้าไปใน IUI 5.4.5 ปล่อยให้น้ำเชื้อไหลเข้าไปเองโดยที่ไม่ต้องบีบ หากแม่สุกรรับน้ำเชื้อไม่ดีให้ใช้วิธีกระตุ้น โดยการกดที่อวัยวะเพศและกดสวาป และรอประมาณ 1-3 นาทีค่อยดึงเดือยออก ภาพที่10 ล้างหม้อของสุกร 6. การวัดค่า P2 การวัดค่า P2 เป็นการวัดปริมาณไขมัน โดยจะวัดหลังตรวจท้อง เพื่อที่จะปรับเฟสอาหาร โดยเฟส 1 2 กินอาหารวันละ 2 กิโลกรัม เฟส 3 กินอาหาร 2.2 กิโลกรัม และเฟส 4 กินอาหาร แบ่งเป็น 2 รอบ เช้า-เย็น ภาพที่11 ตรวจวัดค่า P2


11 7. การเช็คกลับสัดและการตรวจท้อง จะเริ่มเช็คการกลับสัดในวันที่ 18-21 วัน หลังจากผสม โดยจะใช้พ่อพันธุ์เดินข้างหน้าแม่พันธุ์ จะเช็ควันละ 1 ครั้ง หากมีการกลับสัดจะใช้สัญลักษณ์ RM และจะนำกลับมาผสมใหม่อีกครั้ง การตรวจท้อง จะตรวจในวันที่ 28-35 วัน หลังการผสม โดยในการตรวจท้องจะใช้เครื่อง Ultrasound หากมีสุกรที่ไม่มั่นใจ ว่าท้องจะใช้สัญลักษณ์ สส คือสงสัย และจะกลับมาตรวจท้องอีกใน 1 สัปดาห์ และจะครบรอบการเป็นสัดรอบ 2 คือ 42 วัน แม่สุกรจะอยู่ในซองยืน 35 วัน หลังจากการผสมแล้วจะย้ายไปคอกรวม 8. การแยกขนาดแม่สุกรก่อนย้ายไปคอกรวม ก่อนที่จะย้ายแม่สุกรไปคอกรวมจะวัดขนาดตามค่า P2 คือ 1 2 3 4 5 คือ 1 มีค่า P2 <13, 2 มีค่า P2 14-16, 3 มีค่า P2 17-19, 4 มีค่า P2 20-22 และ5 มีค่า P2 >23 เพื่อเป็นการจัดขนาดแม่สุกร ให้มีขนาดใกล้เคียงกันก่อนที่จะทำการย้ายแม่สุกรไปคอกรวม ลดการเกิดการแท้งจากปัญหาการกัดกัน 9. คอกขังรวม จะเริ่มหลังจากที่รับแม่สุกรยืนซองเป็นเวลา 35 วันหลังจากผสมและมีการตรวจท้องมาแล้ว จะทำการ ย้ายแม่สุกรมายังคอกขังรวมโดยในคอกขังรวมจะมีอยู่ 4 แถว จะแบ่งเป็นแถว A B C D ในแต่ละแถวจะมีอยู่ 15 คอกจะใส่แม่สุกร 7-9 ตัว โดยที่จะทำการแยกแม่สุกรตามขนาดตัวเพื่อไม่ให้แม่สุกรเกิดการกัดกัน โดยจะ ให้อาหารตอนเช้า 2 กิโลกรัม และตอนบ่าย 2 กิโลกรัม ตอนบ่ายจะมีการใส่ยาดำลงไปด้วยทุกครั้ง เพื่อทำให้ แม่สุกรมีระบบหายใจที่ดีขึ้นและไม่มีอาการเครียด ภาพที่12 คอกขังรวม


12 10. ตีหลังขึ้นคลอด 10.1 อ่านการ์ดและเบอร์หู แล้วเขียนลำดับบนตัวแม่สุกรตามการ์ด 10.2 ในการ์ดจะมีการบอกเบอร์แม่พันธุ์ เช่น 29-2-6425-3053 คือ 29=พันธุ์ 2=เพศ 64=ปีที่เกิด 25=สัปดาห์เกิด 3053=เบอร์หู และมีลำดับตัวที่การ์ด 10.3 การที่ตีหลังขึ้นคลอดจะทำการย้ายแม่สุกรในเวลา 6 โมงเช้า ไปยังเล้า F เพื่อทำการรอคลอด ซึ่งจะย้ายแม่สุกรไปก่อนกำหนดคลอดประมาณ 1 สัปดาห์ 10.4 หลังจากที่แม่สุกรออกจากคอกรวมไปแล้วจะมีการทำความสะอาดคอก กล่องอาหาร รางอาหาร ให้สะอาดเพื่อรอแม่สุกรชุดต่อไปที่จะเข้ามา ตารางงานสุกรนาง เวลา โปรแกรมงาน 07:30-08:30 ปั่นอาหาร, ให้อาหาร, ตรวจสอบสภาพแวดล้อม, ทำความสะอาดเล้า 08:30-10:00 เช็คสัด, เช็คกลับสัด, กระตุ้นสัด, รับแม่สุกรหย่านม 10:30-12:00 ผสมเทียมสุกรสาวตกค้าง, สุกรกลับสัด, สุกรแท้ง 12:00-13:30 พักกลางวัน 13:30-15:00 เช็คสัด, เช็คกลับสัด, นับสุกรทำรายงานประจำวัน 15:00-15:30 ล้างหม้อเตรียมผสม 15:30-16:30 ผสมเทียมสุกรนาง, สุกรสาวตกค้าง, สุกรกลับสัด, สุกรแท้ง 16:30-17:00 ทำกิจกรรม 5 ส


13 เล้าคลอด 1. การเตรียมแม่สุกรขึ้นคลอด 1.1 การเตรียมคอกคลอด (farrowing pen) มีการทำความสะอาดโรงเรือน ขัดซอง พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ประมาณ 3-5 วันแต่ไม่เกิน 7 วัน 1.2 ย้ายแม่สุกรเข้าเล้าคลอด อาบน้ำทำความสะอาดบริเวณพื้นท้อง เต้านม ขา เท้า และอวัยวะเพศ ซึ่งเป็นบริเวณที่ลูกสุกรสัมผัสมากสุด 1.3 ลดอาหารแม่สุกรลงเรื่อยๆ วันละ 0.1-0.2 กิโลกรัม จนเหลือประมาณ 2-3 กิโลกรัม/วัน 1.4 ให้วิตามิน Nopstres และ VIUSID ละลายน้ำเพื่อไม่ให้แม่สุกรเครียด 1.5 วัดค่า P2 ตรวจค่าไขมันของแม่สุกรเพื่อประมาณการการคลอดยาก ภาพที่13 การเตรียมคอกคลอด (farrowing pen) 2. การคลอด การคลอดนับจากวันที่ได้รับการผสมจนถึงวันคลอดเฉลี่ย 114 วัน ซึ่งจะมีความแตกต่างกันตั้งแต่ 109-122 วัน ขึ้นอยู่กับพันธุกรรมและการจัดการ 3. ขั้นตอนในการคลอด แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน 3.1 ระยะการเตรียมคลอด (The preparatory stage) จะมีการขยายของปากมดลูกระยะนี้แม่สุกร จะแสดงอาการกระวนกระวายอยู่ไม่เป็นสุข


14 3.2 ระยะที่แม่สุกรเบ่งลูกออกมาตั้งแต่ตัวแรกจนถึงตัวสุดท้าย เมื่อคลอดลูกตัวแรกคลอดออกมา ให้ทำการเปิดคลอด และให้น้ำเกลือ 2 ถุง/ตัว ให้ยา Pendistrep และTolfedine เมื่อลูกสุกรออกมา 4-5 ตัว ให้ฉีดยา Oxytocin และGentamicin (เมื่อคลอดลูกตัวถัดไปนานเกินไป ประมาณ 45 นาที ลูกสุกร ตัวต่อไปยังไม่ออกมาต้องมีการล้วงคลอดช่วย) 3.3 ระยะที่แม่สุกรขับรกออกหลังจากคลอดลูกหมดแล้ว มีการให้ Oxytocin อีกครั้งหนึ่ง ภาพที่14 การล้วงเพื่อช่วยคลอด และยา Pendistep (แก้อักเสบ) 4. การจัดการแม่สุกรหลังคลอด เป็นการสังเกตสุขภาพแม่สุกร 4.1 หากแม่สุกรป่วยหลังจากการล้วงคลอดต้องฉีดยาต้านจุลชีพติดต่อกัน 3-4 วัน 4.2 หากมีหนองไหลจากช่องคลอดต้องฉีดยา Mabocyl 4.3 เริ่มให้อาหารหลังคลอดประมาณ 1-2 กิโลกรัม/ตัว แล้วเพิ่มวันละ 0.5-1 กิโลกรัม จนกินมาก เท่าที่แม่สุกรจะกินได้ภายใน 5-7 วัน 4.4 ตรวจเต้านมแม่สุกรเพื่อดูว่ามีปัญหาเต้านมหรือไม่ เช่น เต้านมอักเสบ และน้ำนมไม่ไหล ภาพที่15 แม่สุกรเป็นหนองหลังคลอด และการตรวจเต้านมแม่สุกร


15 5. การดูแลลูกสุกรหลังคลอด 5.1 ลูกสุกรควรได้รับนมน้ำเหลืองให้เร็วที่สุดภายใน 24 ชั่วโมง 5.2 การเช็ดตัวให้ลูกสุกร เอาเมือกที่อุดปากอุดจมูกของลูกสุกรออก 5.3 การตัดสายสะดือ ทำให้จำนวนลูกสุกรมีอัตราการรอดชีวิตมากขึ้น เมื่อลูกสุกรคลอดออกมาแล้ว ควรเช็ดตัวให้แห้งโดยเร็ว ป้องกันไม่ให้ลูกสุกรหนาว ทำความสะอาดสายสะดือ ควรทำทันทีที่ลูกสุกรออกมา โดยผูกสายสะดือห่างจากท้องประมาณ 1 นิ้ว และตัดให้ห่างจากที่ผูกครึ่งนิ้ว แล้วจุ่มทิงเจอร์ไอโอดีน 2.5% 6. การจัดขนาดลูกสุกร 6.1 จัดลูกสุกรที่มีขนาดเท่าๆ กันเพื่อให้ลูกสุกรโตได้พร้อมกัน 6.2 จัดลูกสุกรครอกละ 13-14 ตัว หรือตามจำนวนเต้านมแม่สุกร 6.3 สังเกตเต้านมแม่สุกรว่ามีน้ำนมให้ลูกกินหรือไม่ ภาพที่16 การจัดขนาดลูกสุกรให้มีขนาดกัน 7. การดูแลลูกสุกรหลังคลอด 1 วัน 7.1 กรอกยา Greenro 0.5 ปริมาณ 1 cc/ตัว เพื่อป้องกันลูกสุกรขี้ไหล 7.2 ฉีดธาตุเหล็ก (Ferro 10% Plus) ฉีดเข้ากล้ามเนื้อคอ 1-2 CC/ตัว ควรฉีด 2-3 วันแรกหลังคลอด 7.3 ฉีดยาต้านจุลชีพ (Pendistrep L.A.) ฉีดเข้ากล้ามเนื้อคอ 1-2 CC/ตัว 7.4 การตัดหางลูกสุกร เป็นการป้องกันการกัดหางกัน ในกรณีที่พบลูกสุกรมีอาการโทรม จะมีการให้ อาหารเสริม


16 8. การเลี้ยงลูกสุกรหลังคลอด 8.1 ให้อาหารเลียราง ไฮโกร 550 แลค เพื่อให้ลูกสุกรมีความคุ้นเคยกับอาหาร 8.2 จัดลูกแรกคลอด 12-13 ตัว หลังจากแจ้งเกิด ลูกตัวที่เกินออกมาจัดขนาดนำไปเลี้ยงเป็น 2 step 8.2.1 การทำแม่ 2 Step (1) แม่ที่คลอดแล้ว 7 วัน ไปเลี้ยงลูก 0 วัน (2) แม่ที่คลอดแล้ว 14 วัน ไปเลี้ยงลูก 7 วัน 9. การหย่านม 9.1 ตรวจสุขภาพลูกสุกรอายุประมาณ 21 วัน 9.2 ทำวัคซีน Porcilis 2 CC/ตัว 9.3 ตรวจสุขภาพลูกสุกรก่อนจำหน่าย (ลูกสุกรที่มีอาการไส้เลื่อน ขาเจ็บ โทรมขึ้นโครง ซีด ไม่สามารถจำหน่ายได้) ภาพที่17 การหย่านมลูกสุกร


17 ตารางงานประจำวัน เวลา โปรแกรมงาน 07:30-07:40 เช็คตะกร้ายา 07:40-07:50 เตรียมน้ำยาจุ่มบูท, เช็คอุณหภูมิกลางเล้า พร้อมถ่ายรูปส่งกลุ่มไลน์ 07:50-09:30 แซะรางอาหาร, ให้อาหารแม่สุกร, เขียนหน้าป้ายอาหาร, กวาดขี้แม่สุกร 09:30-11:00 ให้อาหารแม่ลูก, ตามยาแม่หลังคลอด, ตามยาแม่และลูกที่ป่วย 11:00-12:00 ให้อาหารแม่สุกร, กวาดขี้แม่สุกร, กวาดทางเดิน 12:00-13:30 พักกลางวัน 13:30-13:40 เตรียมน้ำยาจุ่มบูท, เช็คอุณหภูมิกลางเล้า พร้อมถ่ายรูปส่งกลุ่มไลน์ 13:40-14:30 ให้อาหารแม่สุกร, กวาดขี้แม่สุกร, กวาดทางเดิน 14:30-15:30 นับหมู, ทำใบรายงานประจำวันFM-205, ส่งตะกร้ายาห้องยา 15:30-17:00 ทำงานตามโปรแกรมหรือตามยาแม่ ตารางงานประจำสัปดาห์ วัน โปรแกรมงาน จันทร์ ทำกิจกรรม5ส อังคาร ขัดเล้า พุธ ตรวจปล่อย พฤหัสบดี ทำกิจกรรม5ส ศุกร์ ขัดเล้า เสาร์ ทำกิจกรรม5ส อาทิตย์ ตรวจปล่อย


18 AI 1. วิธีการรีดน้ำเชื้อพ่อพันธุ์ 1.1 ตัดเล็บผู้ที่ทำการรีดน้ำเชื้อให้สั้นเสมอ 1.2 นำพ่อพันธุ์ที่จะทำการรีดน้ำเชื้อเข้าคอกรีด ซึ่งในคอกจะมี Dummy สำหรับรีดน้ำเชื้ออยู่ 1.3 การรีดน้ำเชื้อจะทำได้ก็ต่อเมื่อพ่อสุกรขึ้น Dummy และยื่นอวัยวะเพศออกมา 1.4 ก่อนรีดน้ำเชื้อควรรีดน้ำปัสสาวะที่ค้างอยู่ที่ถุงหุ้มอวัยวะเพศออกให้หมด ถ้าขนที่อยู่บริเวณ ปลายถุงหุ้มอวัยวะเพศยาวควรตัดออกให้สั้น 1.5 ผู้รีดจะเข้าทางด้านข้างหันหน้าไปทางหัวหรือท้ายของสุกรก็ได้ แล้วใช้มือข้างที่ถนัดที่สุด จับส่วนปลายอวัยวะเพศ ในการจับต้องให้นิ้วมือล็อคที่เกลียวของอวัยวะเพศสุกรบีบรัดให้แน่น 1.6 ใช้น้ำเกลือ 0.9% ฉีดล้างที่ปลายอวัยวะเพศ และซับด้วยกระดาษทิชชูให้แห้ง 1.7 ขณะรีดอาจทำการกระตุ้นอวัยวะเพศโดยบีบปลายนิ้วมือเข้าออกเป็นจังหวะ เพื่อให้คล้ายกับ การบีบรัดของคอมดลูกสุกรเพศเมีย ภาพที่18 การรีดน้ำเชื้อพ่อพันธุ์ และท่าวางมือขณะจับอวัยวะเพศพ่อพันธุ์


19 2. การเก็บน้ำเชื้อสุกร 2.1 เก็บน้ำเชื้อโดยใช้ถุงพลาสติกใสที่ใส่ไว้ในกระบอกรีดน้ำเชื้อที่เตรียมกระดาษกรองใส่ไว้แล้ว ไปรองรับน้ำเชื้อสุกรที่หลั่งออกมา 2.2 น้ำเชื้อสุกรที่ออกมาส่วนแรกจะเป็นเม็ดสาคูมีปริมาณน้อย ส่วนที่สองจะเป็นน้ำใส ซึ่งสองส่วนนี้ จะทิ้งไปจะไม่เก็บไว้เพราะไม่มีตัวอสุจิอยู่ส่วนที่สามจะเป็นสีขาวขุ่น โดยผู้รีดจะรองเก็บส่วนนี้เพราะเป็นส่วนที่ มีอสุจิอยู่มาก ส่วนสุดท้ายจะใสและมีเม็ดสาคูส่วนนี้จะไม่เก็บ 2.3 เมื่อเก็บน้ำเชื้อหมดแล้ว ให้นำขวดที่ได้เก็บใส่กล่องโฟมหรือกระติก เพื่อส่งไปยังห้องปฏิบัติการ 3. การตรวจคุณภาพและเจืองจางน้ำเชื้อ 3.1 การตรวจสอบคุณภาพน้ำเชื้อจะสังเกตดูจากลักษณะภายนอกก่อน เช่น สี 3.2 การตรวจการเคลื่อนไหวของอสุจิที่มีชีวิต จะดูจากค่าที่แสดงออกมาเป็นร้อยละสามารถแบ่งได้ ตามระดับการเคลื่อนที่ การตรวจสอบนี้จะดูจากกล้องจุลทรรศน์กำลังขยาย x100 เพื่อดูเปอร์เซ็นต์ การเคลื่อนไหว และ x400 เพื่อดูการเคลื่อนไหวของอสุจิ น้ำเชื้อที่สามารถใช้ได้ต้องมีเปอร์เซ็นต์การเคลื่อนไหว ไม่น้อยกว่า 70% 3.3 การตรวจวัดความเข้มข้นของน้ำเชื้อโดยจะตรวจวัดโดยใช้เครื่อง Spermacue 3.4 การเจือจางน้ำเชื้อจะนำค่าที่ได้จากการวัดความเข้มข้นมาเจือจาง โดยความเข้มข้นที่ต้องการคือ 20-30 x 106 ตัว/1CC ภาพที่19 อุปกรณ์ละลายน้ำเชื้อ


20 ตารางงานประจำวัน (ในเล้า) เวลา โปรแกรมงาน 07:30-08:30 กวาดขี้, ให้อาหารพ่อพันธุ์ 08:30-10:00 ล้างคอก, ทำความสะอาดโซนรีดน้ำเชื้อ 10:00-12:00 รีดน้ำเชื้อ 12:00-13:30 พักกลางวัน 13:30-14:00 รีดน้ำเชื้อ 15:00-16:00 ฝึกพ่อพันธุ์ขึ้นดัมมี่ 16:00-17:00 ทำความสะอาดโซนรีดน้ำเชื้อ ตารางงานในห้องแลป เวลา โปรแกรมงาน 07:30-08:30 เตรียมสารละลายน้ำเชื้อ 08:30-09:00 เปิด water bath, เผาลูป, เตรียมแผ่นสไลด์ 09:00-10:00 รีดน้ำเชื้อ, วัดค่า pH, วัดอุณหภูมิน้ำกลั่น 10:00-12:00 ละลายน้ำเชื้อ 12:00-13:30 พักกลางวัน 13:30-15:00 ละลายน้ำเชื้อ 15:00-16:30 ทำความสะอาดห้องแลป 16:30-17:00 เขียนการ์ด


21 4. การกำจัดซากสุกร 4.1 บ่อกำจัดซากด้วยการย่อยสลายจุลินทรีย์: ทิ้งซากสุกร รก ของเสียต่างๆ ลงในบ่อ 4.2 ขุดหลุมฝัง - ขุดหลุมลึกประมาณ 2-3 เมตร - นำซากสุกรลงไปแล้วกลบดิน - โรยปูนขาวเพื่อป้องกันการกระจายของเชื้อโรค 5. การกำจัดกลิ่นภายในฟาร์ม 5.1 ใช้พัดลมดูดกลิ่นภายในเล้า ภาพที่20 พัดลมในเล้า และการวัดความเร็วลม สิ่งที่ได้เรียนรู้เพิ่มเติม 1. ทราบเกี่ยวกับระบบป้องกันโรคต่างๆภายในฟาร์ม 2. การใช้เข็มฉีดยาที่ถูกต้อง 3. ทราบวิธีการผลิตน้ำเชื้อ ก่อนส่งน้ำเชื้อมาผสมกับแม่สุกร 4. ทราบวิธีการวัดความเร็วลมภายในโรงเรือน


22 ปัญหาและอุปสรรค 1. อาหารบางเมนูที่มีเนื้อหมูอยู่ในเมนู บางครั้งเนื้อหมูมีกลิ่น แนวทางการแก้ไข: บอกปัญหาเรื่องเนื้อหมูมีกลิ่นกับผู้จัดการเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา 2. สภาพอากาศบางวันไม่เอื้อต่อการเดินทางไปทำงาน เช่น ฝนตก แนวทางการแก้ไข: เตรียมร่มไปทุกครั้งที่ไปทำงาน 3. คนงานผู้ชายเข้าหามากเกินไป แนวทางการแก้ไข: พยายามเข้าหาคนงานผู้ชายแค่ช่วงที่ทำงาน เลี่ยงการเข้าหาหลังเลิกงานไปแล้ว 4. การสั่งงานในบางครั้งบอกใกล้เวลาเกินไป ทำให้เตรียมตัวไม่ทัน แนวทางการแก้ไข: บอกพี่สัตวบาลถึงปัญหาส่วนนี้ และให้แจ้งหน้าที่การทำงานให้เร็วขึ้น บอกล่วงหน้า 5. วิธีการทำงานของพี่สัตวบาลและคนงานค่อนข้างแตกต่างกัน ทำให้ได้รับความรู้ในด้านการปฏิบัติงาน ต่างกัน แนวทางการแก้ไข: แจ้งพี่สัตวบาล มีการอบรมอธิบายงานแต่ละงานว่าทำอย่างไร แล้วลงไปปฏิบัติ


23 รูปภาพกิจกรรมภายในฟาร์ม ปฐมนิเทศฝึกงานภาคฤดูร้อน กิจกรรมกินเลี้ยงประจำเดือนพฤษภาคม


24 กิจกรรมอบรมการป้องกันโรค อบรมมาตรการฉีดยาในสุกรแม่พันธุ์


25 อบรมการพัฒนานวัตกรรม KAISEN


26 ภาพรวมภายในฟาร์ม ชุดนักศึกษาฝึกงาน บ้านผู้จัดการ


27 ห้องพักนักศึกษาฝึกงาน Fitness สำหรับออกกำลังกาย


28 ห้องประชุม อาหารในแต่ละวัน


Click to View FlipBook Version