ก
คำนำ
จากนโยบายของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร ที่ดาเนนิ การ
ผลักดันใหม้ กี ารตอ่ ตา้ นทจุ ริตคอร์รปั ชน่ั ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติโดยมโี ครงการเสรมิ สร้างคุณธรรม จริยธรรม
และธรรมาภบิ าลในสถานศกึ ษา ภายใต้ชอ่ื “โรงเรยี นสุจริต” ซง่ึ ภายในโครงการโรงเรยี นสุจรติ ประกอบไป
ดว้ ยโครงการตา่ งๆที่สง่ เสรมิ คุณธรรมม จริยธรรมและธรรมาภบิ าลในสถานศกึ ษา เพอ่ื ให้นักเรยี นสามารถนา
กิจกรรมตา่ งๆไปประยุกต์ใช้ในวิถีชวี ิตประจาวนั ได้ คมู่ อื การจดั การเรยี นรู้ หลักสูตรต้านทจุ ริตศึกษาฉบบั น้ี
จัดทาขนึ้ เพ่ือเป็นแนวทางในการศกึ ษาและดาเนินงานโครงการต่างๆของโรงเรยี นสจุ รติ จึงหวงั เป็นอย่างยง่ิ
ว่าจะมปี ระโยชนแ์ ก่ผ้สู นใจและศกึ ษาทกุ ท่าน
โรงเรยี นพระยำประเสรฐิ สนุ ทรำศรยั (กระจำ่ ง สิงหเสนี)
สำรบัญ ข
เรอื่ ง หน้ำ
คานา ก
สารบัญ ข
หน่วยที่ 1 การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม 1
หนว่ ยท่ี 2 ความละอายและความไมท่ นต่อการทจุ รติ 4
หน่วยที่ 3 STRONG / จิตพอเพียงต่อต้านการทุจรติ 9
หนว่ ยท่ี 4 พลเมอื งกบั ความรับผดิ ชอบต่อสงั คม 11
1
หน่วยที่ 1 การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม
ประโยชนส์ ว่ นตนกับประโยคส่วนรวม ถา้ เราจะคิดถึงประโยชน์เพียงแงเ่ ดียว คือ ประโยชนข์ องเราส่วนตัวต่างคน
ตา่ งกต็ อ้ งการประโยชน์สว่ นตวั แล้วจะเปน็ ประโยชน์สว่ นร่วมได้อย่างไร
เพราะฉะน้ันประโยชน์ของส่วนตน กับประโยชน์ของส่วนรวมก็ต้องสอดคล้องกัน คือประโยชน์ของเราก็จะต้อง
เก่ยี วข้องกับประโยชนข์ องคนอ่ืนด้วย ไมใ่ ชเ่ ราไดป้ ระโยชนแ์ ล้วคนอื่นเสียประโยชน์ แลว้ ประโยชนส์ ว่ นรวมเสยี ไปแล้วจะทา
ให้เรานน้ั ไดป้ ระโยชนอ์ ยคู่ นเดียวน้นั เป็นส่ิงทเ่ี ป็นไปไม่ได้
ประโยชน์ท่ีแท้จริง คือ ประโยชน์ส่วนรวมก็ต้องมาจากประโยชน์ส่วนตัวของแต่ละคนด้วยถ้าแต่ทุกคนได้รับ
ประโยชนส์ ่วนหมดทุกคน ก็ทาให้ส่วนรวมได้ประโยชน์น้ันดว้ ย ถ้าประโยชน์ส่วนตนนั้นเป็นไปเพอื่ ประโยชน์ส่วนรวม ก่อน
อ่นื กต็ ้องเข้าใจว่า ประโยชนส์ ว่ นของเราส่วนตัวทาให้ส่วนรวมได้ประโยชนห์ รือเปล่า หรอื ถ้าประโยชนส์ ่วนตัวของเรานนั้ ไม่
ทาให้เกิดประโยชน์แก่ส่วนรวมเลย อันน้ันก็ไม่มีทางสาเร็จได้ แต่ถ้าประโยชน์ของเราซ่ึงเป็นส่วนตัว เป็นประโยชน์ของ
สว่ นรวมด้วย ต่างคนต่างช่วยกนั ทาให้ไดป้ ระโยชน์ส่วนรวมและประโยชนส์ ่วนตวั ด้วยอันนั้นกจ็ ะเป็นประโยชนท์ ้ัง 2 ฝ่าย
กิจกรรมทีน่ กั เรียนโรงเรียนพระยาประเสรฐิ สนุ ทราศรยั (กระจ่าง สงิ หเสนี) ได้มีสว่ นรว่ มในการคดิ แบบแยกแยะ
ระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตนกบั ผลประโยชนส์ ว่ นร่วม มีดังตอ่ ไปน้ี
1. กจิ กรรมโต๊ะน้ไี ม่มีเจ้าของ คือ กิจกรรมที่สง่ เสริมให้นักเรยี นสามารถคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตนและ
สว่ นร่วมได้ กล่าวคือ นักเรียนสามารถรับรู้ได้เลยทันทีว่า โต๊ะท่ีสาธารณะหรือโต๊ะโรงอาหารไม่ได้เปน็ ของบุคคลใดบุคคล
หนง่ึ ดงั นนั้ ทุกคนสามารถน่งั ไดโ้ ดยไมต่ ้องมีการจอง
2. กจิ กรรมพื้นทีน่ ้ีเราใช้ร่วมกัน คือ กิจกรรมท่ีส่งเสริมให้นักเรียนสามารถคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตน
และส่วนร่วมได้ และนอกจากน้ียังส่งเสริมในเรื่องของการเสียสละและความมีวินัย ยกตัวอย่างเช่น สนามฟุตบอลของ
โรงเรยี น นักเรยี นมีสิทธิ์เล่นได้ทุกคน แต่ในขณะที่มนี กั เรยี นกลุ่มแรกเล่นฟุตบอลอยู่ นักเรียนกลมุ่ ทส่ี องจะตอ้ งต่อควิ หรือ
ขอเข้าไปเลน่ ด้วย
3. กจิ กรรมวยั ใส ใสใ่ จพลงั งาน คอื กิจกรรมที่สง่ เสรมิ ให้นกั เรียนตระหนักถึงความสาคญั ของแนวทางการใชพ้ ลังงาน
ของประเทศ โดยกิจกรรมนี้มุง่ สร้างนักเรยี นเหน็ ประโยชน์ของสว่ นรวมเปน็ สาคัญ รู้จักใชพ้ ลังงานอย่างมคี ุณค่า และรักษา
สิ่งแวดล้อม โดยบูรณาการเข้ากับการเรียนการสอนของโรงเรียน เพ่ือสร้างแนวทางการป้องกันและบรรเทาปัญหาอย่าง
ย่ังยืนด้วยการปลูกจิตสานึก สร้างความรู้ ความเข้าใจ ให้นักเรียนมีทัศนคติที่มุ่งมั่นในการอนุรักษ์พลังงาน เน้นการมีส่วน
ร่วม
4. กิจกรรมของใชส้ ่วนตัว เป็นของเรา คือ กจิ กรรมท่ีปลูกฝงั ให้นกั เรียนสามารถคดิ แยกแยะได้ว่าของใชส้ ่วนตวั คือ
ของใช้ท่ีเราไม่ควรใช้ร่วมกับผู้อ่นื เพราะอาจจะทาใหต้ ิดเชือ้ โรคได้ เช่น แปรงสีฟนั แก้วน้า เป็นตน้ และของใช้ส่วนรวมหรือ
ท่สี ามารถแบ่งปันได้ ได้แก่ ดนิ สอ ยางลบ ไม้บรรทัด ซึ่งกจิ กรรมน้ีจะสอดแทรกในการจดั การเรยี นรู้ตัง้ แต่ชั้นอนบุ าลเป็นต้น
ไป
2
5. กจิ กรรมโต๊ะเรียนไร้รอยขดี เขียน คือ กิจกรรมทีป่ ลูกฝังใหน้ ักเรียนรักษาความสะอาดสมบตั ขิ องส่วนรวม กล่าวคือ
โต๊ะเรยี นของนกั เรยี นจะตอ้ งไม่มีรอยขีดเขยี น จะตอ้ งเหน็ สมบัติส่วนรวมเปน็ เสมือนสมบัตสิ ่วนตวั กจิ กรรมโตะ๊ เรียนไร้รอย
ขดี เขียนจะบรู ณาการหลกั 5 ซง่ึ เปน็ หลักเบอ้ื งต้นและเปน็ พื้นฐานทท่ี าให้โรงเรียนและหอ้ งเรียนสะอาด ปลอดภัย น่าอยู่ น่า
เรียน
6. กจิ กรรมลูกพระยาปันสุข เป็นแนวคิดของนักเรียนและผู้ปกครอง ท่ีต้องการช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน ในช่วงท่ี
ผ้คู นเดอื ดร้อนจากวกิ ฤตโควดิ -19 ไดจ้ ัดทาตู้ไปติดตั้งไว้ในโรงเรียน เพ่ือให้ครู นักเรียนและผ้ปู กครองแบง่ ปันเครื่องอุปโภค-
บริโภค โดยคนที่ขาดแคลนสามารถมาหยิบไปได้ รวมถึงผู้ท่ีมีจิตศรัทธาก็สามารถนาสิ่งของมาเติมในตู้ได้เช่นกัน เป็น
หลักการของการให้และการรับที่ดีงาม และทุกครั้งที่เปิดตู้แบ่งปัน ทุกคนจะตระหนักว่า หยิบไปแต่พอดี ถ้าท่านมีใส่ตู้
แบ่งปันบา้ ง
7. กจิ กรรมเพือ่ นช่วยเพื่อน คอื กจิ กรรมเพ่ือแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดอื ดร้อนของประชาชนจากภยั แลง้ และ
อทุ กภัยอย่างเร่งด่วน ให้สามารถดารงชีวิตอยู่ได้ในช่วงระหว่างเกิดภัยแล้งและอุทกภัยและกลับมาดาเนินชีวิตได้เป็นปกติ
โดยเร็ว โยโรงเรียนพระยาประเสรฐิ สุนทราศรัย(กระจ่าง สิงหเสนี) ได้เปน็ ส่วนหนึ่งในการใหค้ วามช่วยเหลือพี่นอ้ งชาวไทยที่
จงั หวัดอุยลราชธานีและจังหวัดอ่ืน ๆ ท่ีประสบภัย ดว้ ยการจัดกิจกรรมร้องเพลงเปิดหมวก ขอรับบริจาค เพื่อนารายได้ใน
ส่วนนี้ไปชว่ ยเหลอื
8. กจิ กรรม ฟ.ฟัน สะอาดจัง เป็นกิจกรรมการส่งเสริมสุขภาพท่ีสาคัญและจาเป็นมากในโรงเรียนเพราะการที่เด็ก
และเยาวชนมีสขุ ภาพสมบรู ณแ์ ข็งแรง ทั้งรา่ งกายและจิตใจน้ันเป็นสทิ ธขิ น้ั ต้นของมนุษย์ ท่ีผู้อ่นื ไมส่ ามารถหยิบย่ืนใหไ้ ด้ ซ่ึง
ในยุคปัจจุบันเด็กมีการบริโภคขนมคบเค้ียวกันอย่างแพร่หลาย ขนมแต่ละชนิดมีส่วนผสมของน้าตาลในปริมาณมาก
โดยเฉพาะลูกกวาด ลกู อม ซึ่งมีสสี ันสวยงาม ทาให้เด็กชอบซอื้ มากินอย่เู สมอ หากนักเรยี นกินลูกอม และขนมขบเค้ียวแล้ว
ไมร่ ักษาดแู ล สุขภาพในชอ่ งปาก ไม่มีการแปรงฟันท่ถี ูกวิธอี าจสง่ ผลทาให้สุขภาพในช่องปากเสีย ฟนั ผุ ซึ่งเป็นโรคทีส่ ามารถ
ป้องกันได้โดยการแปรงอย่างถูกวิธี ปฏิบัติอย่างต่อเน่ืองคือ แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 คร้ัง ถ้าเดก็ นักเรียนมสี ุขภาพช่อง
ปากทไี่ มด่ ี ฟนั ผุ ส่งผลต่อการพัฒนาการ และโภชนาการของเดก็ สุดทา้ ยส่งผลตอ่ การเรยี นของเด็กในอนาคต
9. กจิ กรรมเก็บจานเขา้ ท่ี สร้างความมีวินยั คือ ต้นแบบในการเรียนรู้และเปน็ แบบอย่างในการรักความสะอาดและ
มีความรับผิดชอบ มวี นิ ัยและรู้จักรักษาความสะอาด
10. กิจกรรมรรู้ ักษ์ รู้หน้าที่ มคี วามรบั ผิดชอบ กจิ กรรมเวรประจาวนั ของนกั เรยี นทุกคนทมี่ หี นา้ ท่รี ับผิดชอบตามวัน
ของตนเอง นักเรียนท่ีมีหน้าท่ีรับผิดชอบทาความสะอาดห้องเรยี นในแต่ละวันจะชว่ ยกนั ทาความสะอาด รักษาความสะอาด
ความเป็นระเบียบเรยี บร้อย ส่งเสริมให้นักเรียนมีความรับผดิ ชอบต่อหน้าทแี่ ละงานทไี่ ด้รับมอบหมาย ซึ่งสอดคล้องกบั พระ
บรมราโชวาทของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู ัวรัชกาลท่ี 9 ในวันพระราชทานปรญิ ญาบตั รของมหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์
16 กรกฎาคม 2519 ว่า “การจาทางานให้มีประสิทธิผล และให้ดาเนินไปได้อย่างราบร่ืนจาเป็นอย่างย่ิงที่จะต้องทาด้วย
3
ความรับผิดชอบอย่างสงู ไม่บิดเบือนขอ้ เท็จจริง ไม่บดิ เบือน จุดประสงคท์ ีแ่ ท้จริงของงานสาคัญทส่ี ุด ต้องเข้าใจความหมาย
ของคาว่า ความรับผดิ ชอบ ให้ถกู ต้อง”
11. กิจกรรมเช้านีท้ ี่เสาธง คือ กิจกรรมที่สง่ เสริมให้นักเรียนมคี วามรักชาติ ศาสนา พระมาหากษตั ริย์ ซึ่งเป็นหนา้ ท่ี
ท่ีต้องกระทาอย่างต่อเน่ืองทุกวัยของผู้เรียน และนอกจากน้ียังเป็นกิจกรรมท่ีส่งเสริมภาวะผู้นาของนักเรียน ด้านความ
คิดเหน็ ในสิ่งทีถ่ ูกตอ้ งและกลา้ แสดงออก
12. กิจกรรมกระดุมแห่งวินัย คือ กาติดกระดุมเพ่ือแสดงให้เห็นถึงสัญลักษณ์การเดินทางกลับบ้านของนักเรียน
เพือ่ ให้มีระเบยี บ วนิ ยั โดยจะแบ่งกระดมุ เป็น 3 สี คือ
12.1 ซึ่งสแี ดง หมายถึง นักเรียนกลับบ้านเอง
12.2 สเี ขยี ว หมายถงึ นักเรยี นจะตอ้ งกลบั บ้านโดยรถตู้
12.3 สีเหลือง หมายถึง นกั เรียนทีร่ อผู้ปกครองมารบั
13. กจิ กรรมฝึกความคิดฐานสอง คือ กิจกรรมที่สอดแทรกในการจัดการเรียนรู้ ซ่ึงนักเรียนจะได้วิเคราะห์ข้อมูลท่ี
สามารถเลือกได้เพียง 2 ทางเท่าน้ัน คือ 0 กับ 1 และอาจจะหมายถึงโอกาสท่จี ะเลือกได้เพียง 2 ทาง เชน่ ใช้กับไม่ใช้,จริง
กบั เทจ็ เป็นต้น
4
หน่วยท่ี 2 ความละอายและความไมท่ นตอ่ การทุจรติ
ความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ ริต
การสร้างสังคมท่ีไม่ทนต่อการทุจริต เป็นปรับเปล่ียนสภาพสังคมให้เกิดภาวะ “ท่ีไม่ทนต่อการทุจริต” โดยเริ่ม
ต้ังแต่กระบวนการกล่อมเกลาสังคมในทุกช่วงวัย เพื่อสร้างวัฒนธรรมต่อต้านการทุจริต และปลูกฝังความพอเพียงมีวินัย
ซอ่ื สัตย์สุจริต ความเป็นพลเมืองดี มีจิตสาธารณะผ่านทางสถาบันหรือกลุ่มตัวแทนท่ีทาหน้าที่ในการกล่อมเกลาทางสังคม
เพอื่ ให้เด็ก เยาวชนผ้ใู หญ่ เกิดพฤตกิ รรมทีล่ ะอายตอ่ การกระทาความผิด การไม่ยอมรับและต่อต้านการทจุ รติ ทกุ รปู แบบ
1.2.1 ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจรติ คืออะไร
คาว่า “ความละอาย” และ ”ความไม่ทน” ไดม้ กี ารใหค้ วามหมายไว้ดงั น้ี
พจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน ให้ความหมายของคาว่า ละอาย หมายถึง การรู้สกึ อายที่จะทาในส่ิงทีไ่ ม่ถูก ไม่ควร เช่น
ละอายทจ่ี ะทาผดิ ละอายใจ
ความละอาย คอื ความความละอายและความเกรงกลวั ตอ่ สิ่งทไ่ี มด่ ี ไมถ่ ูกต้อง ไมเ่ หมาะสม เพราะเหน็ ถึงโทษหรือ
ผลกระทบท่ีจะได้รับจากการกระทานั้น จึงไมก่ ล้าทจี่ ะทาทาให้ตนเองไม่หลงทาในสง่ิ ท่ีผิด น่ันคือ มีความละอายใจละอาย
ตอ่ การกระทาความผิด
พจนานกุ รมราชบัณฑิตยสถาน ให้ความหมายของคาว่า ทน หมายถึง การอดกลั้นได้ ทานอยู่ได้ เช่น ทนด่า ทน
ทุกข์ ทนหนาว ไม่แตกหักไมบ่ ุบสลายงา่ ย
ความอดทน คือ การรู้จักรอคอย และคาดหวัง เป็นการแสดงให้เห็นถงึ ความม่นั คง แน่วแน่ตอ่ ส่ิงทร่ี อคอย หรือสิ่ง
ท่จี งู ใจใหก้ ระทาในสิง่ ไม่ดี
ไม่ทน หมายถงึ ไมอ่ ดกลน้ั ไมอ่ ดทน ไมย่ อม
ดงั นั้น ความไมท่ น หมายถงึ การแสดงออกต่อการกระทาทเี่ กิดต่อการกระทาที่เกิดขึน้ กบั ตนเอง บคุ คลที่เก่ียวขอ้ ง
หรือสงั คมในลักษณะท่ีไม่ยินยอม ไม่ยอมรับในส่ิงทเี่ กิดข้ึน ความไม่ทนสามารถแสดงออกได้หลายลักษณะ ท้ังรูปแบบของ
ปรยิ าท่าทางหรือคาพูด
ความไม่ทนต่อการทจุ รติ หรือการกระทาที่ไม่ถูกต้อง ต้องมีการแสดงออกอย่างใดอยา่ งหน่ึงเกดิ ขนึ้ เช่น การแซง
ควิ เพอื่ ซื้อของ การแซงควิ เป็นการกระทาทไ่ี ม่ถูกตอ้ ง ผู้ถูกแซงคิวจึงตอ้ งแสดงออกใหผ้ ู้ทีแ่ ซงคิว รับรู้ว่าตนเองไมพ่ อใจ โดย
แสดงกิริยาหรือบอกล่าวให้ทราบ เพื่อให้ผู้ท่ีแซงคิวยอมท่ีจะต่อท้ายแถว กรณีนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ท่ีถูกแซงคิวไม่ทนต่อการ
กระทาทไ่ี ม่ถกู ต้อง และหากผทู้ ่ีแซงคิวไปต่อแถวก็จะแสดงให้เห็นว่าผูบ้ ุคคลน้ันมคี วามละอายต่อการกระทาทีไ่ มถ่ กู ต้อง เป็น
ต้น
ความไม่ทนต่อการทุจริต บุคคลจะมีความไม่ทนต่อการทุจริตมาก – น้อย เพียงใดขึ้นอยู่กับจิตสานึก ของแต่ละ
บุคคล และผลกระทบท่ีเกิดขึ้นจากการกระทาน้ันๆ แล้วมีพฤติกรรมท่ีแสดงออกมา ซ่ึงแสดงกริยา หรือการกระทาจะมี
หลายละดับ เชน่ การว่ากลา่ วตักเตือน การประกาศให้สาธารณชนรบั รู้ การแจ้งเบาะแส การร้องทกุ ข์กล่าวโทษ การชุมนุม
5
ประท้วงซ่ึงเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่รุนแรงที่สุด เน่ืองจากมีการรวมตัวของคนจานวนมาก และสร้างความเสียหายอย่างมาก
เช่นกัน
ความไม่ทนของบุคคลต่อสิ่งตา่ งๆ รอบตัวท่ีส่งผลในทางไม่ดีต่อตนเองโดยตรง สามารถเห็นได้งา่ ยซึ่งปกติ แล้วทุก
คนมักจะไม่ทนตอ่ สภาวะ สภาพแวดลอ้ มทีไ่ ม่ดีและส่งผลกระทบตอ่ ตนเองแลว้ มักจะแสดงปฏิกิรยิ าออกมา แต่การที่บคุ คล
จะไม่ทนต่อการทุจริตและ แสดงปฏิกิริยาออกมานั้นอาจเป็นเร่ืองยาก เนื่องปัจจุบันสังคมไทยมีแนวโน้มการยอมรับการ
ทจุ รติ ในสงั คมไมเวน้ แมแ้ ต่เดก็ เยาวชน และมองว่าการทจุ รติ เปน็ เรื่องไกลตัว และไมม่ ีผลกระทบกับตนเองโดยตรง
1.2.2 ลกั ษณะของความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต
ลกั ษณะของความละอายสามารถแบ่งได้ 2 ระดับ คือ ความละอายระดับต้น หมายถึง ความละอาย ไม่กล้าจะทา
ในสิง่ ทผ่ี ิด เนอ่ื งจากกลวั ว่าเมื่อตนเองได้ทาลงไปแลว้ จะมคี นรบั รู้ หากถูกจับไดจ้ ะได้รับการลงโทษ หรือไดร้ ับความเดอื ดรอ้ น
จากสิ่งท่ตี นเองได้ทาลงไป จึงไมก่ ลา้ ทจี่ ะกระทาผิด และในระดับที่สองเป็นระดับท่ีสงู คือ แม้จะไม่มีใครรับรู้ หรือเห็นในส่ิง
ท่ีตนเองได้ทาลงไป ก็ไม่กล้าท่ีจะกระทาผิด เพราะนอกจากตนเองจะได้รับผลกระทบแล้ว ครอบครัว สังคม ก็จะได้รับ
ผลกระทบตามไปด้วย ท้ังช่ือเสยี งของตนเองและครอบครัวก็จะเส่ือมเสีย บางครั้งการทุจริตบางเร่ืองเป็นส่ิงเล็ก ๆ น้อยๆ
เชน่ การลอกขอ้ สอบอาจจะไมม่ ใี ครใสใ่ จ หรอื สงั เกตเห็นแตห่ ากเป็นความละอายขัน้ สงู แลว้ บุคคลนั้นกไ็ ม่กลา้ ทา
โรงเรยี นพระยาประเสรฐิ สนุ ทราศรัย(กระจา่ ง สิงหเสนี) ได้จัดกิจกรรมให้นกั เรยี นมีความละอายและความไมท่ นต่อการ
ทุจริต ดงั ต่อไปน้ี
1. กจิ กรรมสร้างวนิ ยั ส่หู วั ใจสจุ ริต คือ กิจกรรมการเดนิ อยา่ งเปน็ ระเบยี บ หรอื การต่อแถวซือ้ อาหารอยา่ งเป็น
ระเบยี บ กจิ กรรมนจ้ี ดั ขึน้ เพ่อื ส่งเสรมิ นักเรยี นโรงเรยี นพระยาประเสรฐิ สุนทราศรัย(กระจ่าง สิงหเสนี) ให้มีคณุ
ธรรมและเปน็ พลเมอื งดใี นเรือ่ งการมีระเบียบวินยั มีความพร้อมเพียง มคี วามสามัคคี รู้จกั เสยี สละ ช่วยเหลอื ผอู้ ืน่ มที ักษะ
การอยูร่ ่วมกัน
2. กจิ กรรมหอ้ งเรียนสะอาดด้วยมอื เรา คอื กิจกรรมการอยรู่ ่วมกนั ในโรงเรยี นและในหอ้ งเรยี นอยา่ งปกติสุข โดย
สมาชิกทกุ คนจะตอ้ งปฏิบัติตามกฎกตกิ าของหอ้ งเรียน และกฎระเบยี บของโรงเรยี น
3. กจิ กรรมแต่งกายถกู ระเบยี บ คือ กจิ กรรมท่ีสร้างความตระหนกั ใหน้ กั เรยี นให้ความสนใจเรื่อง การแต่งกายให้ถกู
ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของโรงเรยี น และเพือ่ เป็นแบบอย่างท่ีดใี ห้กบั นกั เรียนทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน จงึ จัดใหม้ ีกิจกรรม
แต่งกายถกู ระเบียบขึน้ เพอ่ื ประโยชนข์ องนกั เรียนทกุ คน และเพือ่ ปลกู ฝงั การมจี ติ สานึกของสภาพความเป็นนกั เรยี น และ
การมีวินยั ในตนเอง การจัดกจิ กรรมแต่งกายถกู ระเบียบ จะกาหนดการแต่งกายประจาวนั ของโรงเรยี น ตามตารางตอ่ ไปน้ี
6
ท่ี วัน ชุด/เคร่ืองแบบ
1. วันจนั ทร์ ชุดนกั เรยี น
2. วันองั คาร ชุดนกั เรยี น
3. วันพุธ
4. วนั พฤหสั บดี ชุดลกู เสอื /เนตรนารี
5. วนั ศกุ ร์ ชุดพละ
ชดุ ผ้าไทย(เส้อื พราวพระยา)
*หมายเหตุ หากวันใดตรงกับวันพระนักเรียนจะต้องสวมชุดขาว
4. กิจกรรมปฏิญาณตนของโรงเรียนสุจริตทุกเช้าหลังเคารพธงชาติ คือ กิจกรรมเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม
ป้องกันการทุจริตประพฤติมิชอบ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ภายใต้แนวคิดต่อต้านการทุจริตตามแนวหลักปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพียง ซง่ึ ทุก ๆ เชา้ หลงั จากเคารพธงชาตแิ ล้ว คณะครแู ละนักเรียนโรงเรียนพระยาประเสรฐิ
สุนทราศรยั (กระจา่ ง สิงหเสน)ี จะรว่ มกันกล่าวคาปฏญิ าณตนของโรงเรยี นสุจริตทกุ วันเปน็ ประจา
5. กิจกรรมยิ้มใส ไหว้สวย คือ กิจกรรมท่ีส่งเสริมวัฒนธรรมไทยท่ีมีสืบทอดกันอย่างยาวนาน การปลูกฝังคุณธรรม
จริยธรรมด้วยการย้ิม การไหว้ และการทักทาย จะเป็นผลให้สามารถจัดระบบชีวิตความเป็นอยู่ในสังคมให้ผู้ท่ีพบเห็นมี
ความชื่นชมรกั ใคร่เอ็นดูเพราะเสริมสร้างคุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์ของนกั เรยี นทเ่ี ป็นรูปธรรมสามารถแสดงถงึ พฤติกรรมที่
เปลย่ี นแปลงไปในทางท่ดี ีข้นึ
6. กิจกรรมพูดสวย รวยเสน่ห์ คือ กิจกรรมสร้างจิตสานึกโดยเป็นแบบอย่างที่ดีดว้ ยการพูดจาสุภาพ เรียบร้อย นิ่ม
นวล มีหางเสียง ใหน้ กั เรยี นฝึกปฏบิ ตั ิการพดู จาสุภาพในการทากจิ กรรมประจาวันจนเป็นนิสยั
นกั เรยี นพดู จาไพเราะออ่ นหวาน สุภาพ เรยี บร้อย นักเรียนเปน็ เดก็ ทน่ี ่ารัก ออ่ นโยน
7. กิจกรรมเดินสวย ด้วยเท้าเรา คือ กิจกรรมเดินแถว เพื่อฝึกให้นักเรียนมีวินัยในการเดินแถว ปลูกฝังคุณธรรม-
จริยธรรมให้นักเรียนโรงเรียนพระยาประเสริฐสุนทราศรัย(กระจ่าง สิงหเสนี) ทุกคน มีระเบียบวินัย มีความสามัคคี มี
จติ สานกึ ทด่ี ี มคี วามเป็นระเบยี บเรียบร้อย
8. กิจกรรมวยั ใสใสใ่ จการมาโรงเรียน คอื กิจกรรมหน้าเสาธงทุกวนั ในตอนเช้า เปน็ กิจกรรมการรวมนกั เรยี นตอนเช้า
ก่อนการเรยี นการสอน และเพอื่ ส่งเสรมิ การแสดงออกถงึ ความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์
นอกจากน้ียังมีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ท่ีหลากหลายรปู แบบ เชน่ การสาธติ การฝกึ ปฏบิ ัติ บทบาทสมมติ โดยกจิ กรรม
ตา่ ง ๆ นักเรียนจะต้องเป็นผู้ดาเนนิ การเอง โดยใช้กระบวนการกลุ่ม ในแต่ละวนั มีกิจกรรมนาเสนอ ดงั ต่อไปน้ี
7
วนั กิจกรรม วตั ถปุ ระสงค์
วันจนั ทร์ Word a day เพ่อื ฝกึ ทกั ษะการฟงั พูด อา่ นและสนทนา
ภาษาองั กฤษในชวี ิตประจาวนั
วันองั คาร ภาษาจนี เพือ่ ฝึกทักษะการฟงั พดู อา่ นและสนทนาภาษาจีน
ในชวี ิตประจาวัน
วนั พธุ สง่ เสรมิ การใชภ้ าษาไทย เพ่ือสง่ เสริมการใช้ภาษาไทย เช่น สานวน สภุ าษิต
พังเพย
วันพฤหสั บดี แคข่ ยับกเ็ ทา่ กบั ออกกาลังกาย เพอื่ ส่งเสรมิ การออกกาลงั กายและเพื่อสุขภาพท่ี
แข็งแรง
วนั ศุกร์ สวดมนต์สรภัญญะ เพื่อปลูกฝงั คณุ ธรรม จรยิ ธรรมให้เกิดขึน้ กบั ผู้เรียน
9. กิจกรรมสอบนี้ไม่มีสายลอก คือ กิจกรรมส่งเสริมความซ่ือสัตย์ เป็นคุณสมบัติท่ีสังคมต้องการ ดังน้ัน โรงเรียน
พระยาประเสริฐสนุ ทราศรัย(กระจ่าง สงิ หเสนี) จึงเล็งเห็นความสาคญั และไดจ้ ัดใหม้ กี ิจกรรมนขี้ นึ้ เพอื่ ทาให้สังคมเกดิ ความ
สงบสุข ผู้เรียนสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างสงบสุข ไม่เอารัดเอาเปรียบ มีความเห็นอกเห็นใจ และมีความรับผิดชอบ
ยกตัวอย่างเช่น การสอบประเมินความสามารถทางการเรียนนักเรียนทุกคนมีการเตรียมตัวสอบที่ดี จะช่วยให้นักเรียน
ประสบผลสาเรจ็ ทางการเรียน มีความมั่นใจในการทาข้อสอบด้วยตนเอง ไม่เอาเปรยี บเพอ่ื น และไม่ใช้วิธีการทุจริตในการ
ทาข้อสอบ มีความละอายใจตอ่ การทีจ่ ะทาผิด
10. กจิ กรรมเดินตามกฎ งดวง่ิ บนอาคารเรยี น คือ กจิ กรรมเดินลงบนั ไดให้ชิดขวา โดยฝ่ายอาคารสถานท่ขี องโรงเรียน
พระยาประเสริฐสนุ ทราศรยั (กระจา่ ง สิงหเสนี) ไดด้ าเนินการตดิ ลกู ศร เพ่อื ให้นักเรียนโรงเรยี นพระยาประเสริฐสุนทราศรัย
(กระจ่าง สงิ หเสนี) ได้ทราบวธิ ขี ้ึน-ลงบันไดที่ถกู ตอ้ ง โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์ ดงั น้ี
10.1 เพื่อใหน้ กั เรียนโรงเรยี นพระยาประเสริฐสนุ ทราศรัย(กระจา่ ง สิงหเสน)ี เดนิ ข้นึ – ลงบนั ไดไดอ้ ยา่ งถูกต้อง
10.2 เพอ่ื เปน็ การฝึกระเบยี บวนิ ัยของนักเรยี นโรงเรยี นพระยาประเสริฐสนุ ทราศรัย(กระจา่ ง สงิ หเสน)ี
10.3เพื่อช่วยลดเวลาในกรเดินข้นึ -ลงบันไดระหว่างเปล่ยี นคาบเรียน
11 กิจกรรมของหายได้คืน คอื กจิ กรรมท่สี ่งเสรมิ ให้นักเรียนโรงเรยี นพระยาประเสริฐสุนทราศรัย(กระจ่าง สิงหเสนี)
มีคณุ ธรรมพื้นฐานท่มี นษุ ยท์ ุกคนควรปฏบิ ัติให้เกิดคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ นกั เรยี นโรงเรียนพระยาประเสริฐสุนทราศรัย
(กระจ่าง สงิ หเสนี) ไดร้ บั การปลกู ฝงั คุณธรรมจริยธรรมในหลาย ๆ ด้าน ซง่ึ กิจกรรมของหายได้คนื นก้ี เ็ ป็นอีกหนง่ึ กจิ กรรมท่ี
ช่วยให้นกั เรยี นของโรงเรียนพระยาประเสรฐิ สนุ ทราศรยั (กระจ่าง สิงหเสนี) มีความละอาย ไม่กล้าท่ีจะเอาของของผอู้ น่ื มา
8
เปน็ ของตน ดังน้นั นักเรยี นทเี่ กบ็ ของของคนอน่ื ได้ จะนามาประกาศหาเจ้าของ โดยมาตดิ ตอ่ ทห่ี ้องธุรการเพือ่ ใหเ้ จ้าหนา้ ที่
ประชาสัมพนั ธ์ตามหาผู้ท่ีทาของสิง่ น้นั สูญหาย
12 กิจกรรมตักบาตรรุ่งอรุณ คอื กจิ กรรมสง่ เสริมให้นักเรียนมีการคิดวิเคราะห์ เขา้ ใจ และนามาใช้ในชวี ิตประจาวัน
ให้เป็นการดาเนินชวี ิตที่ดีงาม และช่วยสร้างสรรค์สังคม ดังน้ัน การจัดการเรียนการสอนท่ีเช่ือมโยงระหว่างชีวิตประจาวัน
กับวชิ าสังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม จะช่วยให้นักเรียนสามารถใช้ชวี ิตได้อย่างถูกต้อง อยู่อย่างมีความสุข โดยเรียนรู้
ผา่ นสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นในหอ้ งเรยี นหรอื ในโรงเรยี น หรือสามารถเรียนรไู้ ด้จากเหตกุ ารณป์ ัจจุบัน ร้ทู ันการเปลยี่ นแปลง
สามารถใชช้ วี ติ ร่วมกบั ผอู้ น่ื ไดอ้ ยา่ งมีความสขุ อีกทั้งยังเปน็ กิจกรรมทสี่ ง่ เสริมให้นกั เรยี นได้แสดงออกถึงความเปน็ ไทย
13 กิจกรรมนง่ั สมาธิ วถิ ไี ทย คือ กิจกรรมส่งเสรมิ การปฏบิ ัติธรรมในชีวิตประจาวัน ด้วยวัฒนธรรม บ้าน วัด
โรงเรียน เพ่อื ใหน้ ักเรียนมคี ณุ ลกั ษณะทด่ี ตี ามวิถีพทุ ธ เตบิ โตอย่างมคี ุณธรรม มีความรู้เท่าทนั โลกท่ีเปลย่ี นแปลงเพื่อให้
เปน็ พลังยงิ่ ใหญ่ท่ชี ว่ ยสร้างสงั คมทดี่ ี สงบและสนั ติโดยมีข้ันตอนการดาเนนิ งาน ดังน้ี
1. สอดแทรกการดาเนินงานโครงการวถิ พี ทุ ธในหลกั สูตรสถานศึกษาของโรงเรียน จดั การเรียนการสอน โดยนา
หลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการบรหิ ารและการพฒั นาผูเ้ รียน เน้นกรอบการพฒั นาตามหลกั ไตรสกิ ขา
อยา่ งบรู ณาการ
2. พัฒนาผูเ้ รียนโดยใช้หลกั ไตรสกิ ขา คอื ศีล สมาธิ ปญั ญา อยา่ งบรู ณาการให้ผู้เรยี นไดเ้ รยี นรูผ้ า่ นการพฒั นา
“การกิน อยู่ ดู ฟงั เป็น ” คือมีปญั ญารูเ้ ข้าใจในคุณค่าแท้ ใชก้ ระบวนการทางวฒั นธรรมแสวงปัญญา และมวี ฒั นธรรม
เมตตา เปน็ ฐานการดาเนินชวี ติ ผู้บริหารและคณะครูเปน็ กัลยาณมิตรในการ
พฒั นานักเรยี น อย่างตอ่ เน่ือง ดว้ ยความร่วมมอื อยา่ งใกลช้ ดิ ของโรงเรยี นบา้ น วดั และสถาบันตา่ งๆในชุมชนดว้ ยศรัทธา
และฉันทะ ท่จี ะพัฒนาท้ังนกั เรียนและสังคม ตามวิถีแหง่ พทุ ธธรรมเพอ่ื ประโยชน์สขุ ร่วมกนั โดยผูบ้ ริหาร และครจู ะ
ประพฤตติ นเป็นแบบอย่างท่ดี ีในวิถชี วี ติ จรงิ ในลักษณะ สอนให้รู้ทาใหด้ ู อยู่ใหเ้ ห็น
14 กิจกรรมคูปองความดี คือ ตลาดนัดความดี โรงเรียนพระยาประเสริฐสุนทราศรัยได้จัดกิจกรรมนขี้ ึ้น เมื่อวนั ท่ี 8
มีนาคม 2564 โดยใหน้ ักเรยี นทไี่ ด้รับคูปองความดีทีไ่ ดร้ บั จากการกระทากจิ กรรมทีเ่ ป็นความดี และไดร้ ับการเห็นชอบจาก
คณะครูของโรงเรยี นสะสมเก็บไว้ ในแต่ละเดือนเม่ือมีการเปิดตลาดนัดความดี ก็นาคูปองที่สะสมไวม้ าแลกเป็นสงิ่ ของตาม
จานวนคูปองใบความดีที่นักเรียนมี โดยมีข้อแม้ในการแลกเปล่ียนคือต้องกล่าวทักทายหรือสนทนากับครูผู้สอนวิชา
ภาษาต่างประเทศ เพือ่ เป็นการฝกึ ทกั ษะทางภาษาไปอกี ทางหน่งึ ด้วย
9
หนว่ ยที่ 3 STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ตา้ นการทจุ รติ
การคิดค้น STRONG model เกดิ ขึ้นจากการตกผลึกทางความคิดของความหมายของ “จติ พอเพียงต้าน ทุจรติ ” ที่
ประกอบด้วยคาสาคัญ 3 คา คอื จิต พอเพียง ตา้ นทจุ ริต
จติ พอเพยี งตา้ นทจุ รติ ต้องเป็นจติ ท่ีมีความแขง็ แกร่ง ทาให้คดิ ถึงคาภาษาองั กฤษ คอื Strong ท่เี ปน็ คางา่ ย ๆ มีการ
ใช้บ่อย ๆ ความหมายเป็นท่ีรับรู้กันโดยท่ัวไป แต่ต้องคิดให้ตกผลึกในตัวอักษรท้ัง 6 ตัว ให้สามารถเช่ือมโยงกับคาว่า
พอเพียง และคาว่า ต้านทจุ ริต จึงเป็นการตั้งตน้ ในการหาความหมายในตัวอกั ษรภาษาอังกฤษท้ัง 6 ตัว ท่ีมีความเช่ือมโยง
กนั และสามารถคิดกจิ กรรมท่ีเปน็ รูปธรรมได้ โรงเรียนพระยาประเสริฐสนุ ทราศรัย(กระจ่าง สงิ หเสน)ี ได้จัดกิจกรรมให้
นกั เรียนมีสว่ นร่วม ดงั ต่อไปน้ี
10
1. กิจกรรมตลาดนัดหัดขาย เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริม สนับสนุนให้นักเรียนได้มีพ้ืนฐานและประสบการณ์ที่ดีในการ
พฒั นาตนเองให้มีคุณค่า โดยใช้วีการให้นักเรียนซึมซับสงิ่ ดี ๆ ไปทีละเล็กละนอ้ ย เป็นขั้นเป็นตอน รู้จักแก้ปัญหา เกิดการ
ทางานร่วมกับเพ่ือน มีความสามคั คี เป็นคนดอี ยใู่ นสังคมได้อยา่ งย่ังยนื สร้างคณุ ธรรม จริยธรรมขนึ้ ในชวี ิต โดยยึดตามแนว
หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นหลักนา กล่าวคอื กิจกรรมตลาดนัดหัดขาย ของนักเรียนโรงเรียนพระยาประเสริฐสุ
นทราศรัย(กระจา่ ง สิงหเสน)ี ไดน้ าสิ่งของที่ตนเองไม่ได้ใช้ แตอ่ ยู่ในสภาพดี มาขายตอ่ เพอื่ เป็นการสร้างมูลค่า และเป็นการ
สร้างรายได้
2. กิจกรรม Praya Paper Mache for sufficiency economy (เปเปอรม์ าเช่พอเพียงเลยี้ งชพี ได้) คอื กจิ กรรม
ศลิ ปะสร้างสรรค์ท่ีนากระดาษเหลอื ใชม้ าสร้างมลู ค่า โดยทาเปน็ เปเปอรม์ าเช่ และนาไปขายเพ่อื สร้างรายได้
3. กิจกรรมขยะทองคา คือ กิจกรรมท่ีส่งเสริมคุณภาพของสิ่งแวดล้อมภายในโรงเรียน โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อ
ส่งเสริม สนับสนนุ การลด คดั แยก และนากลบั มาใชป้ ระโยชน์ใหมใ่ นสถานศกึ ษา สร้างระบบการเรยี นรู้ผ่านกจิ กรรมต่าง ๆ
และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้เรียนในการจัดการขยะภายในสถานศึกษา เพ่อื มุ่งสู่สถานศึกษาปลอดขยะ และนอกจากน้ี
กิจกรรมขยะทองคา ยังมีวัตถุประสงค์เพ่ือกระตุ้นให้นักเรียนตระหนักถึงความสาคัญของการมีส่วนร่วมในการจัดการ
ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ มมากข้นึ
4. กจิ กรรมทานใหห้ มดลดขยะ คอื กจิ กรรมส่งเสรมิ ให้นกั เรียนตระหนักถึงความสาคัญของ ข้าว ซ่ึงเปน็ อาหารหลัก
ของคนไทย แต่ปัจจุบันคนไทยรุ่นใหม่ กลับไม่รู้จักต้นข้าว หรือข้าวเปลือก ไม่รวู้ ิธีการปลูกข้าว-ทานา จึงทาให้ไม่รู้ท่ีมา ว่า
กว่าจะเป็นข้าวอยู่ในจานนั้นมีขั้นตอนอย่างไร เป็นเหตุให้เกิดการบริโภคข้าวอย่างใส่ใจ เหลือท้ิงในจาน ทั้งๆ ที่ข้าวเป็น
อาหารพน้ื ฐาน ท่ีมีประโยชน์ และนอกจากนี้ ยังช่วยส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักการประมาณอาหาร รับประทานอยา่ งพอเพียง
ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป เพราะการตักอาหารมากเกินไปแต่รับประทานไม่หมด จะเหลือทิ้งไว้เป็นขยะ แต่ในทาง
กลบั กนั หากนักเรียนตกั อาหารมารบั ประทานน้อย หมดแลว้ ตกั ใหม่ จะเปน็ การชว่ ยลดขยะท่ีเปน็ เศษอาหารได้ดว้ ยทางหนง่ึ
5. กิจกรรมบรษิ ัทสร้างการดี คือ กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ เป็นกิจกรรมท่ีสนับสนุนให้นกัเรียนทาเปเปอร์มาเช่ ซ่ึง
เป็นการนากระดาษเหลอื ใช้มาสร้างมลู คา่ โดยทาเป็นเปเปอรม์ าเช่ และนาไปขายเพือ่ สร้างรายได้ ซ่ึงกิจกรรมน้เี กิดขึ้นในปี
การศึกษา 2562 เปน็ ต้นมา และนอกจากนที้ างโรงเรยี นยังมกี ารวางแผนกิจกรรมอื่น ๆ รว่ มดว้ ย เช่น กจิ กรรม 1 school 1
product แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 จึงทาให้โครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ดาเนินการ
ตอ่ ไปไดใ้ นขณะนี้
11
หน่วยท่ี 4 พลเมืองกับความรับผดิ ชอบต่อสงั คม
ผเู้ รียนเรียนรู้เกี่ยวกับ หน้าทขี่ องพลเมือง ความรับผดิ ชอบของพลเมืองต่อตนเอง ชุมชน สังคม ประเทศชาติ และ
โลก การเคารพสิทธิหน้าท่ีของตนเองและ ผู้อ่ืน การปฏิบัติตนตามระเบียบ กฎ กติกา กฎหมาย และการปฏิบัติตนเป็น
พลเมืองที่ดใี นการป้องกันการทุจรติ
โรงเรียนพระยาประเสริฐสุนทราศรัย(กระจ่าง สิงหเสนี) ได้จัดกิจกรรมท่ีมีความเก่ียวข้องกับพลเมืองกับความ
รบั ผดิ ชอบต่อสงั คม ดงั ตอ่ ไปนี้
1. กจิ กรรมสรา้ งสานึกพลเมือง คือ กิจกรรมสง่ เสริมการต่อต้านการใช้ยาเสพติดในเด็กนักเรียน เพ่ือให้เด็ก
นักเรยี นเข้าใจเกยี่ วกบั การต่อต้านการใช้ยาเสพตดิ และวิธีหลกี เลี่ยงการใช้ความรนุ แรง นอกจากนยี้ ังส่งเสรมิ ในเรอ่ื งของกฎ
ระเบยี บ และวนิ ัยจราจร
2. กจิ กรรมสภานกั เรียน ประกอบด้วย
2.1 กิจกรรมสร้างเสริมความรู้สึกรักและเห็นคุณค่าในตนเอง เป็นกิจกรรมที่มุ่งสร้างความรู้สึกรักและเห็น
คุณค่าใน ตน เอง เพ่ือช่ว ยให้นัก เรียน สาร ว จวิ เคราะ ห์ปร ะ เมิน ตน เอ ง ตามคว ามเป็น จริง จน ก ร ะ ทั่ง
รจู้ ัก เข้าใจ ยอมรับ ควบคุมและพัฒนาตนเอง มีความรสู้ ึกที่ดีต่อตนเองและผู้อ่ืน รู้ว่าตนเองกม็ ีความสามารถ มคี ุณค่า
สามารถสรา้ งส่งิ ดงี ามใหแ้ กต่ นเอง ครอบครวั สงั คมและดารงชีวิตได้อยา่ งมคี วามสขุ
2.2 กจิ กรรมเสริมสร้างนิสัยการทาประโยชน์เพ่ือสังคม เป็นกิจกรรมท่ีมุ่งสร้างเสริมนิสัยการทาประโยชน์
เพอ่ื สังคม เพือ่ ชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นร้จู กั ตนเองและเขา้ ใจตนเอง ปลูกฝงั คณุ ลกั ษณะนิสัยท่เี ออื้ ต่อการทาประโยชนเ์ พอื่ สังคม เห็น
แนวทางที่จะทาประโยชนใ์ หก้ บั สงั คมและสามารถนาไปปฏิบัติในชวี ิตประจาวนั ได้
2.3 กิจกรรมเลือกต้ังสภานักเรียน เป็นการจัดกิจกรรมให้นักเรียนเลือกตัวแทนของนักเรียนท้ังหมดใน
โรงเรียน จากการสมัครของนักเรียน ผ่านกระบวนการเลือกต้ังตามระบบประชาธิปไตย จัดเป็นคณะกรรมการสภา
นักเรียนร่วมประชุมวางแผนแบ่งคณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ โดยมีครูเป็นที่ปรึกษาร่วมประชุมปรึกษาหารือในการจัด
กจิ กรรมทเ่ี ป็นประโยชนต์ ่อนกั เรียนและชุมชน และจัดกิจกรรมทเ่ี ป็นประโยชน์ต่อสงั คม
3.กิจกรรม Because We Care ลูกพระยาห่วงใย ใส่ใจชุมชน คอื กจิ กรรมที่นกั เรียนโรงเรยี นพระยาประเสริฐสุ
นทราศรัย(กระจ่าง สิงหเสนี) ได้เข้าร่วมกับสาธารณะสุขและประชาชน ช่วยกันกาจัดลูกน้า ยุงลาย บริเวณชุมชนใกล้
โรงเรยี น
4.กจิ กรรมออกกาลงั กาย คือ กจิ กรรมทสี่ ง่ เสรมิ สขุ อนามยั และสขุ ภาพท่ีดใี ห้นักเรยี นโรงเรียนพระยาประเสริฐ
สุนทราศรัย(กระจ่าง สิงหเสนี) เน่ืองจากโรงเรียนตระหนักว่า การออกกาลังกาย เป็นส่ิงที่ช่วยพัฒนาสุขภาพกายและ
สขุ ภาพใจของนกั เรยี น
5. กิจกรรมวนั สาคัญของสถาบนั ฯ คือ กจิ กรรมทส่ี ่งเสรมิ สนับสนุนใหน้ ักเรยี นเห็นความสาคญั และรัก
สถาบนั การศึกษาของตน
12
6. กิจกรรมร้องเพลงชาติไทยให้ถูกต้อง เป็นกิจกรรมท่ีสะท้อนความนึกคิดของคนไทยในสมัยก่อนจนกระท่ัง
ปจั จบุ ันที่มคี วามรกั ชาติตอ้ งการความสามัคคีเป็นนา้ หน่งึ ใจเดยี วกนั ใหห้ วงแหนแผ่นดินไทยอยา่ ยอมให้ใครมารุกรานได้ซึง่ น่ี
เปน็ คุณคา่ ทเ่ี หน็ ไดช้ ัดเจน คณุ ค่าของเพลงชาตไิ ทยในลาดับตอ่ มาคือการประพันธเ์ พลงในสมัยกอ่ น มีความคลอ้ งจองกัน มี
การใช้ฉันทลักษณ์ในการแต่งด้วย ถือว่าเป็นเรื่องของความพิถีพิถันอย่างหน่ึงในการประพันธ์เพลงที่มีความสาคัญต่อ
ประเทศในสมยั ก่อนค่ะ คุณคา่ ที่สาคญั อีกอย่างหนงึ่ คือ เพลงชาติไทยสร้างความภาคภูมใิ จในความเป็นไทยและทาให้เกิด
ความสานึกรักบา้ น
7. กิจกรรมหนูน้อยวัยใส มีวินัยในการกิน คือ กิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
กลางวันของนกั เรียน ตั้งแต่เดินแถว รอเข้าแถว ตักอาหาร บางคนเล่นกัน ส่งเสียงดัง ระหว่างรับประทานอาหาร บางคนไม่
ค่อยมีมารยาท บ้างก็ทาเศษอาหารหกบนโต๊ะ บางคนมีอาหารเหลือในจาน ดังนั้น โรงเรียนพระยาประเสริฐสุนทราศรัย
(กระจ่าง สิงหเสนี) จึงไดจ้ ดั กจิ กรรมหนูน้อยวยั ใส มวี นิ ัยในการกินขน้ึ เพือ่ ปรับพฤติกรรมของนกั เรียน
8.กิจกรรมวัยใส ใส่ใจความสะอาด ปราศจากโรค เป็นกิจกรรมท่ีจัดข้ึนเพื่อให้นักเรียนมีความตระหนักถึง
สุขอนามัยและการป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากโรค เช่น การมาโรงเรียนจะต้องเข้าเดินแถวเข้ารับการตรวจวัดอุณหภูมิ
ร่างกายและลา้ งมือด้วยเจลแอลกอฮอล์
9.Save Me to Save Social (ดูแลตนเองให้ปลอดภัยจากโควิด เปน็ ความรบั ผิดชอบต่อสังคม) คือ กิจกรรมท่ี
ป้องกันตนเองจากโรคไวรัสโควิด19 เป็นกิจกรรมให้ความรู้เก่ียวกับการป้องกันโรค การดูแลตนเองหากได้รับเชื้อ เพื่อ
นกั เรียนจะไดม้ ีความรู้และมีความรับผิดชอบตอ่ สังคม