The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ A4

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pen300930, 2023-08-25 02:52:29

ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ A4

ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ A4

ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ ในราชอาณาจักร / ต่างประเทศ กลุ่มงานวิชาการ สำนักงานคลังจังหวัดตราด (ฉบับปรับปรุง 2563)


คำนำ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ ฉบับนี้ จัดทำขึ้นโดยเน้นเฉพาะค่าใช้จ่าย ที่มีการเบิกจ่ายอยู่ เป็นประจำและมีปัญหาข้อสงสัยกันเป็นส่วนใหญ่ ได้แก่ การเดินทาง ไปราชการชั่วคราวในราชอาณาจักร และต่างประเทศ รวมทั้งการเดินทางไปราชการประจำราชอาณาจักรและการเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อให้ผู้ปฏิบัติและผู้ที่สนใจโดยทั่วไปได้เข้าใจมากขึ้น ซึ่งบางครั้งการศึกษาจากกฎหมายและระเบียบต่าง ๆ อาจทำให้เกิดความสับสนเข้าใจได้ยาก ประกอบกับมีการปรับปรุง ระเบียบ กฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับ อัตราค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อยู่หลายครั้ง สรุปฉบับนี้ จึงเหมือนกับการบอกให้ทราบถึงหลักการสำคัญ ในการเบิกจ่ายเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่ผู้เกี่ยวข้องทุกคนควรทราบและเบิกจ่ายให้ถูกต้อง จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงาน และผู้สนใจโดยทั่วไป กลุ่มงานวิชาการ สำนักงานคลังจังหวัดตราด ตุลาคม 2563


สารบัญ เรื่อง หน้า กฎหมายระเบียบที่เกี่ยวข้อง 1 การอนุมัติเดินทางไปราชการ 2 ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการในราชอาณาจักร - การเดินทางไปราชการชั่วคราว 3 - การเดินทางไปราชการประจำ 12 - การเดินทางกลับภูมิลำเนา 14 ค่าใช้จ่ายการเดินทางไปราชการต่างประเทศ - การเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว 15 Flowchart การยืมเงินราชการและขอเบิกเงินที่ได้ทดรองจ่าย 22 ประเด็นที่ถามกันมาก 23


1 กฎหมายระเบียบที่เกี่ยวข้อง 1. พระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. 2526 (แก้ไขเพิ่มเติมถึงฉบับที่ 9 พ.ศ. 2560) 2. ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไข เพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2554 3. ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการอนุมัติให้เดินทางไปราชการและการจัดประชุมของทางราชการ พ.ศ. 2524 4. ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกเงินจากคลัง การรับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงินและการ นำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2562 5. หนังสือกระทรวงการคลัง ที่ กค 0502/ว 32 ลว. 3 มี.ค. 2537 6. หนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค 0409.6/ว 13 ลว. 4 ก.พ. 2546 7. หนังสือกระทรวงการคลัง ที่ กค 0409.7/ว 40842 ลว. 31 ธ.ค. 2546 8. หนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค 0409.6/ว 27 ลว. 15 ก.พ. 2548 9. หนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค 0409.6/13178 ลว. 3 พ.ค. 2548 10. หนังสือกระทรวงการคลัง ที่ กค 0409.6/ว 42 ลว. 26 ก.ค. 2550) 11. หนังสือกระทรวงการคลัง ที่ กค 0406.6/ว 104 ลว. 22 ก.ย. 2551 12. หนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค 0408.4/ว 165 ลว. 22 ธ.ค. 2559 2 11 12 13 14 15 16 17 18 19 110 111 112


การอนุมัติเดินทางไปราชการ ผู้ที่มีสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการได้ต้องเป็นผู้ได้รับอนุมัติให้เดินทางไปราชการ จากผู้มีอำนาจตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการอนุมัติให้เดินทางไปราชการ และการจัดการ ประชุมของทางราชการ พ.ศ. 2524 ซึ่งส่วนราชการสามารถเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้แก่ บุคคลภายนอกผู้ที่ได้รับอนุมัติให้ปฏิบัติราชการให้แก่ส่วนราชการนั้น ๆ ได้ด้วย สิทธิในการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ได้รับอนุมัติให้เดินทาง ผู้ที่ออก เดินทางล่วงหน้า เนื่องจากได้รับอนุญาตให้ลากิจหรือลาพักผ่อนล่วงหน้าหรือยังไม่เดินทางกลับเมื่อเสร็จสิ้น การปฏิบัติราชการ เนื่องจากได้รับอนุญาตให้ลากิจหรือลาพักผ่อน ก็ต้องขออนุมัติให้ครอบคลุมระยะเวลาที่ ลากิจหรือลาพักผ่อนนั้นในการขออนุมัติเดินทางด้วย ตัวอย่าง นายชัยสิทธิ์ รับราชการประจำที่จังหวัดตราด ได้รับคำสั่งให้ไปราชการที่กรุงเทพ ระหว่างวันที่ 10 – 11 สิงหาคม นายชัยสิทธิ์ ขอลาพักผ่อนเพื่อเดินทางไปกรุงเทพฯ ล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 7 -9 สิงหาคม และได้รับอนุญาตให้ลาพักผ่อนแล้ว นายชัยสิทธิ์ ต้องขออนุมัติเดินทางตั้งแต่วันที่ 7 – 11 สิงหาคม (ถ้าวันที่ 11 สิงหาคม ไม่สามารถกลับถึงท้องที่ตั้งสำนักงานปกติ (จังหวัดตราด) ได้ ก็สามารถขออนุมัติเดินทางตั้งแต่วันที่ 7 – 12 สิงหาคม ได้)


3 ค่าใช้จ่ายการเดินทางไปราชการในราชอาณาจักร แบ่งเป็น 3 ลักษณะ ได้แก่ เดินทางไปราชการชั่วคราว เดินทางไปราชการประจำ และเดินทางกลับ ภูมิลำเนา ❖ การเดินทางไปราชการชั่วคราว ได้แก่ 1. การเดินทางไปราชการชั่วคราวนอกที่ตั้งสำนักงานซึ่งปฏิบัติราชการปกติ ตามคำสั่ง ผู้บังคับบัญชา หรือตามหน้าที่ที่ปฏิบัติราชการโดยปกติ 2. การไปสอบคัดเลือก หรือรับการคัดเลือกตามที่ได้รับอนุมัติจากผู้บังคับบัญชา (เป็นการสอบ เลื่อนระดับภายในหน่วยงานเดียวกัน) 3. การไปช่วยราชการ ไปรักษาการในตำแหน่งหรือไปรักษาราชการแทน 4. การเดินทางไปราชการเฉพาะระหว่างเวลาที่อยู่ในราชอาณาจักรของผู้ซึ่งรับราชการประจำใน ต่างประเทศ 5. การเดินทางข้ามแดนชั่วคราว เพื่อไปปฏิบัติราชการในดินแดนต่างประเทศตามข้อตกลงระหว่าง ประเทศ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการชั่วคราว ได้แก่ 1. เบี้ยเลี้ยงเดินทาง 2. ค่าเช่าที่พัก 3. ค่าพาหนะ รวมถึงค่าเช่ายานพาหนะ ค่าเชื้อเพลิงหรือพลังงานสำหรับยานพาหนะ ค่าระวางบรรทุก ค่าจ้างคนหาบหาม และอื่น ๆ ทำนองเดียวกัน 4. ค่าใช้จ่ายอื่นที่จำเป็นต้องจ่ายเนื่องในการเดินทาง ไปราชการ 1. เบี้ยเลี้ยงเดินทาง (ตามบัญชีหมายเลข 2) 1.) ให้นับเวลาเพื่อคำนวณเบี้ยเลี้ยงเดินทางตั้งแต่เวลาออกจากสถานที่อยู่หรือสถานที่ ปฏิบัติราชการ จนกลับถึงสถานที่อยู่ หรือสถานที่ปฏิบัติราชการ 2.) กรณีมีการพักแรมให้นับ 24 ชั่วโมง เป็น 1 วัน ถ้าไม่ถึง หรือ เกิน 24 ชั่วโมง และส่วนที่ไม่ถึง หรือเกินนั้น นับได้เกิน 12 ชั่วโมง ให้ถือเป็น 1 วัน 3.) กรณีไม่มีการพักแรม นับได้ไม่ถึง 24 ชั่วโมง แต่เกิน 12 ชั่วโมง ให้ถือเป็น 1 วัน หากนับได้ ไม่เกิน 12 ชั่วโมง แต่เกิน 6 ชั่วโมง ให้ถือเป็นครึ่งวัน


4 4.) กรณีเดินทางล่วงหน้าเนื่องจากลากิจ / ลาพักผ่อนก่อนปฏิบัติราชการให้นับเวลาเพื่อคำนวณ เบี้ยเลี้ยงเดินทางตั้งแต่เริ่มปฏิบัติราชการจนถึงเวลากลับถึงสถานที่อยู่หรือสถานที่ปฏิบัติราชการ 5.) กรณีลากิจ / ลาพักผ่อน หลังเสร็จสิ้นปฏิบัติราชการ (ไม่เดินทางกลับท้องที่ตั้งสำนักงานปกติ เมื่อเสร็จสิ้นการปฏิบัติราชการ) ให้นับเวลาเพื่อคำนวณเบี้ยเลี้ยง ตั้งแต่เวลาออกจากสถานที่อยู่หรือสถานที่ ปฏิบัติราชการจนถึงเวลาสิ้นสุดการปฏิบัติราชการ การเบิกเบี้ยเลี้ยงเดินทางในการเดินทางไปปฏิบัติราชการในสถานที่ปฏิบัติราชการแห่งเดียวกัน เบิกได้ไม่เกิน 120 วัน นับแต่วันที่ออกเดินทาง ถ้าเกินต้องได้รับอนุมัติจากปลัดกระทรวงหรือผู้บังคับบัญชา ที่มีอำนาจเช่นเดียวกับปลัดกระทรวง ผู้เดินทางที่ได้รับเบี้ยเลี้ยงประจำจะเบิกเบี้ยเลี้ยงเดินทางได้ต่อเมื่องดเบิกเบี้ยเลี้ยงประจำ ประเภทของเบี้ยเลี้ยงเดินทาง อัตราเบี้ยเลี้ยงเดินทางไปราชการในราชอาณาจักร ในลักษณะเหมาจ่าย (บัญชีหมายเลข 2) บาท : วัน : คน ข้าราชการ อัตรา ผู้ดำรงตำแหน่งระดับ 9 ขึ้นไป 270 ผู้ดำรงตำแหน่งระดับ 8 ลงมา 240


5 2. ค่าเช่าที่พัก 2.1 จำเป็นต้องพักแรม ยกเว้นการพักแรมในยานพาหนะหรือทางราชการจัดที่พักให้แล้ว ต้องงดเบิก ตัวอย่าง น.ส. สุดา รับราชการประจำที่ จ.ยะลา ได้รับอนุมัติให้เดินทางไปปฏิบัติราชการ ที่กรุงเทพฯ น.ส. สุดา เดินทางโดยรถไฟใช้เวลา 2 วัน จึงจะถึงกรุงเทพฯ ระหว่างที่ น.ส. สุดา นอนพัก ค้างคืนในรถไฟ ถือว่าพักในยานพาหนะไม่สามารถเบิกค่าเช่าที่พักได้ 2.2 อัตราค่าเช่าที่พัก (ตามบัญชีหมายเลข 3) ประเภท/ระดับ เหมาจ่าย จ่ายจริง พักเดี่ยว พักคู่ ทั่วไป : ปฏิบัติงาน,ชำนาญงาน,อาวุโส 800 1,500 850 วิชาการ : ปฏิบัติการ,ชำนาญการ,ชำนาญ การพิเศษ อำนวยการ :ต้น กรณีเดินทางเป็นหมู่คณะให้พัก 2 คน/หนึ่งห้อง ยกเว้นเป็นกรณีไม่เหมาะสม,จำเป็น ทั่วไป : ทักษะพิเศษ วิชาการ : เชี่ยวชาญ 1,200 2,200 1,200 อำนวยการ :สูง บริหาร :ต้น จะเบิกได้ในอัตราค่าเช่าห้องพักคนเดียว หรือพักคู่ก็ได้ วิชาการ : ทรงคุณวุฒิ 1,200 2,500 1,400 บริหาร :สูง


6 กรณีเดินทางเป็นหมู่คณะต้องเลือกเบิกลักษณะเดียวกันทั้งคณะ การเบิกค่าเช่าที่พักให้เบิกได้ไม่เกิน 120 วัน นับแต่ออกเดินทาง ถ้าเกินต้องได้รับอนุมัติจาก ปลัดกระทรวงเจ้าสังกัด หลักฐานการเบิกค่าเช่าที่พักเท่าที่จ่ายจริง ❖ กรณีติดต่อกับโรงแรม หรือที่พักแรม - ใช้ใบเสร็จรับเงิน หรือใบแจ้งรายการของโรงแรม (ระเบียบ ก. การคลัง ข้อ 23) ❖ กรณีติดต่อกับตัวแทนจำหน่าย - ใช้ใบเสร็จรับเงินของตัวแทนจำหน่าย หรือพิมพ์ที่ออกจากอิเล็กทรอนิกส์ (ด่วนที่สุด ที่ กค 0408.4/ว 165 ลว. 22 ธ.ค. 59) 3. ค่าพาหนะ (มาตรา 22) 3.1 โดยปกติให้ใช้ยานพาหนะประจำทาง เบิกเท่าที่จ่ายจริงโดยประหยัด 3.2 ในเส้นทางนั้นไม่มียานพาหนะประจำทาง หรือมีแต่ต้องการความรวดเร็ว เพื่อประโยชน์ แก่ทางราชการ ให้ใช้พาหนะอื่นได้ (รถรับจ้าง , เรือรับจ้าง , ช้าง , ม้า) โดยผู้เดินทางต้องชี้แจงเหตุผล ความจำเป็น 3.3 การเบิกค่าพาหนะรับจ้าง ให้เบิกได้สำหรับกรณีดังต่อไปนี้(ว42) (1) การเดินทางไป – กลับ ระหว่างสถานที่อยู่ ที่พัก หรือสถานที่ปฏิบัติราชการกับสถานี ยานพาหนะประจำทางหรือสถานที่จัดพาหนะที่ต้องใช้ในการเดินทางไปยังสถานที่ปฏิบัติราชการ ภายในเขตจังหวัดเดียวกันเบิกได้เท่าที่จ่ายจริง ถ้าข้ามเขตจังหวัดเบิกได้ดังนี้ ก. เขตติดต่อหรือผ่านกรุงเทพฯ เที่ยวละไม่เกิน 600 บาท ข. เขตติดต่อจังหวัดอื่น เที่ยวละไม่เกิน 500 บาท (2) การเดินทางไป – กลับ ระหว่างสถานที่อยู่ ที่พัก กับสถานที่ปฏิบัติราชการภายในเขต จังหวัดเดียวกัน วันละไม่เกินสองเที่ยว (3) การเดินทางไปราชการในเขตกรุงเทพฯ


7 3.4 การเดินทางไปสอบคัดเลือกหรือรับการคัดเลือก จะเบิกค่าพาหนะรับจ้าง ตามข้อ 3.3 (2) ไม่ได้ 3.5 กรณีมีความจำเป็นต้องออกเดินทางล่วงหน้าหรือไม่สามารถเดินทางกลับ ท้องที่ตั้ง สำนักงานปกติ เมื่อเสร็จสิ้นการปฏิบัติราชการ เพราะมีเหตุส่วนตัวตามมาตรา 8/1 ให้เบิกค่าพาหนะ เท่าที่จ่ายจริงตามเส้นทางที่ได้รับคำสั่งให้เดินทางไปราชการ 3.6 กรณีที่มีการเดินทางนอกเส้นทางที่ได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติราชการเนื่องจากลากิจ / ลาพักผ่อน ให้เบิกค่าพาหนะได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกินอัตราตามเส้นทางที่ได้รับคำสั่งให้เดินทางไปราชการ ตัวอย่าง น.ส. สุพัตรา ข้าราชการซี 6 รับราชการประจำที่กรุงเทพฯ ได้รับคำสั่งให้ไปราชการ ชั่วคราวที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี 2 วัน ระหว่างวันที่ 5 – 6 สิงหาคม น.ส. สุพัตรา ขอลาพักผ่อนก่อนล่วงหน้า เพื่อไปเยี่ยมคุณแม่ที่จังหวัดภูเก็ต 2 วัน ตั้งแต่วันที่ 3 - 4 สิงหาคม เดินทางโดยเครื่องบิน น.ส. สุพัตรา นำใบเสร็จรับเงิน ค่าโดยสารเครื่องบินกรุงเทพฯ – ภูเก็ต มาเบิกได้ในอัตราไม่เกินเส้นทางกรุงเทพ – สุราษฎร์ธานี พาหนะประจำทาง หมายความถึง รถไฟ รถโดยสารประจำทาง เรือ เครื่องบิน และยานพาหนะ อื่นใดที่ให้บริการขนส่งแก่บุคคลทั่วไปเป็นประจำโดยมีเส้นทางอัตราค่าโดยสาร และค่าระวางที่แน่นอน พาหนะรับจ้าง เช่น รถแท็กซี่ รถจักรยานยนต์รับจ้าง • จังหวัดชายแดน เดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว ไม่เกิน 7 วัน ขออนุมัติ ผู้ว่าราชการจังหวัด • จังหวัดชายแดน เดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว เกิน 7 วัน ขออนุมัติ ปลัดกระทรวง


8 มาตรา 23 หลักเกณฑ์การเบิกค่าพาหนะประจำทางให้เบิกได้ตามจริงแต่ไม่เกินสิทธิ ผู้มีสิทธิ สิทธิการเบิก หมายเหตุ รถโดยสาร ประจำทาง รถไฟ เครื่องบิน - ข้าราชการ ซี 1-5 - พนักงานราชการ (ยกเว้นกลุ่มเชี่ยวชาญ) - ลูกจ้าง ตามจ่ายจริง ตามจ่ายจริง ตั้งแต่ชั้นที่ 2 นั่ง นอนปรับ อากาศลงมา ไม่มีสิทธิ (ยกเว้นกรณี มีความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อประโยชน์แก่ทาง ราชการและได้รับ อนุมัติจากอธิบดี) กรมฯ มอบอำนาจ ให้ผู้อำนวยการ กอง/สำนัก/ สถาบัน/สคร. เป็น ผู้อนุมัติแทนอธิบดี - ข้าราชการ ซี 6-8 ตามจ่ายจริง ตามจ่ายจริง ชั้นประหยัด - ช้าราชการ ซี 9 ขึ้นไป - พนักงานราชการ กลุ่ม เชียวชาญพิเศษ ตามจ่ายจริง ตามจ่ายจริง ชั้นประหยัด มาตรการประหยัด ตามมติ ครม. - อธิบดี ตามจ่ายจริง ตามจ่ายจริง ชั้นธุรกิจหรือต่ำกว่า 3.7 พาหนะส่วนตัว (มาตรา 25) 3.7.1 ผู้เดินทางที่จะเดินทางโดยใช้ยานพาหนะส่วนตัว ต้องได้รับอนุญาตจาก ผู้บังคับบัญชา (ต้องใช้พาหนะนั้นตลอดเส้นทาง) ดังต่อไปนี้ (1) อธิบดีขึ้นไปหรือตำแหน่งที่เทียบเท่า สำหรับราชการบริหารส่วนกลาง (2) หัวหน้าสำนักงาน สำหรับราชการบริหารส่วนกลางที่มีสำนักงานอยู่ในส่วน ภูมิภาคหรือสำนักงานแยกต่างหากจากกระทรวง ทบวง กรม (3) หัวหน้าส่วนราชการในภูมิภาค สำหรับราชการบริหารส่วนภูมิภาค 3.7.2 ได้รับอนุญาตแล้วมีสิทธิเบิกเงินชดเชยในลักษณะเหมาจ่าย (ด่วนที่สุด ที่ กค 0409.6/ว 42 ลว. 26 ก.ค. 50) รถยนต์ส่วนบุคคล กิโลเมตรละ 4 บาท รถจักรยานยนต์ กิโลเมตรละ 2 บาท * ในกรณีผู้เดินทางไม่สามารถใช้พาหนะส่วนตัวได้ตลอดเส้นทาง ต้องชี้แจงเหตุผลความจำเป็นต่อ ผู้บังคับบัญชา ตาม (1) (2) หรือ (3) เพื่อพิจารณาอนุญาต (คำนวณระยะทางตามเส้นทางกรมทางหลวง / หน่วยงานอื่น)


9 พาหนะส่วนตัว หมายถึง รถยนต์ส่วนบุคคล / จักรยานยนต์ส่วนบุคคล 3.8 เครื่องบิน (มาตรา 27) ชั้นธุรกิจ (ก) หัวหน้าคณะผู้แทนรัฐบาล (ข) ประธานรัฐสภา และรองประธานรัฐสภา (ค) ประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภา (ง) ประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร (จ) รัฐมนตรี (ฉ) ผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ชั้นประหยัด (ก) ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง ได้แก่ - รองปลัดกระทรวง ผู้ตรวจราชการ อธิบดีหรือเทียบเท่าผู้ว่าราชการจังหวัด เอกอัครราชทูต วิชาการ ระดับทรงคุณวุฒิ บริหารระดับต้น อำนวยการระดับสูง หรือเทียบเท่าพลตรี พลเรือตรี พลอากาศตรี ขึ้นไป พลตำรวจตรีขึ้นไป (หากมีความจำเป็นต้องโดยสารเครื่องบินชั้นสูงกว่าสิทธิต้องได้รับอนุมัติ จากปลัดกระทรวงเจ้าสังกัด) (ข) ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับเชียวชาญ ทั่วไประดับทักษะพิเศษ อำนวยการระดับต้น วิชาการระดับชำนาญการพิเศษ ทั่วไประดับอาวุโส วิชาการระดับชำนาญการ ทั่วไประดับชำนาญงาน พันโท นาวาโท นาวาอากาศโทขึ้นไป ตำรวจโทขึ้นไป (ค) ผู้ดำรงตำแหน่งหรือยศต่ำกว่าที่ระบุใน (ก) หรือ (ข) เฉพาะจำเป็นเร่งด่วนเพื่อประโยชน์ แก่ ทางราชการ ❖ ไม่เข้าหลักเกณฑ์ (1) หรือ (2) เบิกค่าเครื่องบินได้ไม่เกินค่าพาหนะภาคพื้นดินในระยะ เดียวกันตามสิทธิซึ่งผู้เดินทางจะพึงเบิกได้ ❖ หลักเกณฑ์ที่ใช้ประกอบการเบิกจ่ายค่าพาหนะประจำทาง 1.) ค่าพาหนะเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง รถไฟถ้าไม่อาจเรียกเก็บ ใบเสร็จรับเงินจากผู้ให้บริการได้ให้ผู้เดินทาง ใช้ใบรับรองแทนการจ่ายเงิน (แบบ บก.111) เป็นหลักฐาน การจ่ายได้ โดยให้ระบุรายละเอียดการเดินทางด้วยพาหนะต่าง ๆ ตั้งแต่ออกเดินทางจากบ้านพักจนถึง สถานที่ปฏิบัติงาน 2.) ค่าโดยสารเครื่องบิน ให้ใช้หลักฐานการจ่าย ดังนี้ (หนังสือที่ กค 0409.6/ว 101 ลว. 9 ก.ย. 47 และ ด่วนที่สุด ที่ กค 0408.4/ว 165 ลว. 22 ธ.ค. 59) - ซื้อในนามส่วนราชการให้ใช้ใบแจ้งหนี้จากสายการบินหรือตัวแทนจำหน่าย เป็นหลักฐานการจ่าย โดยไม่ต้องรอใบเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางหรือกากบัตรโดยสารเครื่องบิน จากผู้เดินทาง


10 - ผู้เดินทางจ่ายเงินไปก่อนและขอเบิกจากทางราชการในภายหลัง ให้ใช้ ใบเสร็จรับเงินของสายการบินหรือบริษัทตัวแทนจำหน่าย หรือผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว หรือใบเสร็จรับเงิน ที่แสดงรายละเอียดการเดินทางที่พิมพ์จากระบบ กรณีซื้อผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลักฐานการจ่าย เบิกเท่าที่สายการบินเรียกเก็บได้ ยกเว้น ถ้าเลือกที่นั่ง ค่าอาหาร และเครื่องดื่ม ค่าประกันชีวิตหรือค่า ประกันภัยภาคสมัครใจ - ผู้เดินทางไปราชการที่ต้องนำสัมภาระเครื่องใช้ของทางราชการไปด้วยให้เบิกค่า พาหนะสำหรับสิ่งของเครื่องใช้นั้นได้โดยประหยัด 4. ค่าใช้จ่ายอื่นที่จำเป็นต้องจ่ายเนื่องในการเดินทางไปราชการ (ว 42 ลว. 26 ก.ค. 50) 4.1 จำเป็นต้องจ่าย หากไม่จ่ายไม่อาจเดินทางถึงจุดหมายได้ เช่น ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง ค่าปะยางรถยนต์ เป็นต้น 4.2 ต้องไม่เป็นค่าใช้จ่ายที่มีกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ข้อบังคับฯ หรือหนังสือสั่งการของ กระทรวงการคลัง กำหนดไว้เป็นการเฉพาะ 4.3 ต้องไม่ใช่ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับเนื้องานที่ไปปฏิบัติราชการ ซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน ของส่วนราชการ เช่น ค่าถ่ายเอกสาร ค่าวัสดุ ข้อควรระวัง 1. การเดินทางไปราชการถ้าผู้เดินทางหยุดที่ใดโดยไม่มีเหตุอันควรไม่มีสิทธิได้รับค่าใช้จ่าย ในการเดินทางสำหรับระยะเวลาที่หยุดนั้น 2. ผู้เดินทางไปราชการที่เกิดเจ็บป่วยและต้องพักเพื่อรักษาพยาบาลเบิกเบี้ยเลี้ยงเดินทาง และค่าเช่าที่พัก สำหรับที่พักได้ไม่เกิน 10 วัน และถ้าต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลให้งดเบิก ค่าเช่าที่พัก เว้นแต่กรณีจำเป็น และ ต้องมีใบรับรองแพทย์ประกอบ ถ้าไม่มีผู้เดินทางต้องชี้แจง กรณีซื้อบัตรโดยสารเครื่องบินโดยใช้สิทธิข้าราชการแบบ Govement เป็นการส่งเสริมการขาย (Promotion) ของบริษัทสายการบินที่ให้สิทธิพิเศษโดยการเพิ่มบริการเสริมให้แก่ผู้เดินทาง โดยไม่คิดมูลค่า กรณีดังกล่าวถือเป็นค่าพาหนะที่ผู้เดินทางเบิกได้


11 ตารางการเทียบสิทธิลูกจ้างและพนักงานราชการ หนังสือกระทรวงการคลังที่ กค 0406.6/ว 104 ลว. 22 ก.ย. 51 ประเภท เทียบเท่าข้าราชการประเภท ลูกจ้างทุกประเภท ทั่วไป – ระดับปฏิบัติงาน (ซี 1-4) พนักงานราชการ - กลุ่มงานบริการ/เทคนิค ทั่วไป – ระดับปฏิบัติงาน (ซี 1-4) - กลุ่มงานบริหารทั่วไป-วิชาชีพเฉพาะ (เริ่มรับราชการ – 9 ปี) (รับราชการ 10-17 ปี) (รับราชการ 17 ปีขึ้นไป) (ผู้ที่ได้รับค่าตอบแทนในอัตราสูงสุด ของบัญชีอัตราค่าตอบแทน) วิชาการ – ระดับปฏิบัติการ (ซี 3-5) วิชาการ – ระดับชำนาญการ (ซี 6-7) วิชาการ – ระดับชำนาญการพิเศษ (ซี 8) วิชาการ – ระดับเชี่ยวชาญ (ซี 9) - กลุ่มงานเชี่ยวชาญเฉพาะ (เริ่มรับราชการ – 4 ปี) (รับราชการ 5-10 ปี) (รับราชการ 10 ปีขึ้นไป) (ผู้ที่ได้รับค่าตอบแทนในอัตราสูงสุด ของบัญชีอัตราค่าตอบแทน) วิชาการ – ระดับปฏิบัติการ (ซี 3-5) วิชาการ – ระดับชำนาญการ (ซี 6-7) วิชาการ – ระดับชำนาญการพิเศษ (ซี 8) วิชาการ – ระดับเชี่ยวชาญ (ซี 9) - กลุ่มงานเชี่ยวชาญพิเศษ วิชาการ – ระดับเชี่ยวชาญ (ซี 9)


12 ❖ การเดินทางไปราชการประจำ การเดินทางไปราชการประจำ ได้แก่ 1. การเดินทางไปประจำต่างสำนักงาน ไปรักษาการในตำแหน่งหรือรักษาราชการแทนเพื่อดำรง ตำแหน่งใหม่ ณ สำนักงานแห่งใหม่ 2. การเดินทางไปประจำสำนักงานแห่งเดิมในท้องที่แห่งใหม่ กรณีย้ายสำนักงาน 3. การเดินทางไปปฏิบัติงานตามโครงการ ไปช่วยราชการ ซึ่งมีกำหนดเวลา ตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป 4. การเดินทางไปช่วยราชการที่ไม่อาจกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดหรือไม่ถึง 1 ปี แต่ภายหลังส่วนราชการมีความจำเป็นให้อยู่ช่วยราชการ ณ สถานที่แห่งเดิมให้ถือเวลาที่ครบ 1 ปี เป็นต้นไป การเดินทางไปราชการประจำ สิทธิและค่าใช้จ่าย 1. ผู้มีสิทธิเบิกต้องไม่ใช่ผู้ซึ่งได้รับคำสั่งให้เดินทางไปประจำสำนักงานแห่งใหม่ตามคำร้องขอ ของตนเอง 2. เบี้ยเลี้ยงเดินทาง 2.1 ให้นับเวลาเพื่อคำนวณเบี้ยเลี้ยงเดินทางตั้งแต่เวลาออกจากสถานที่อยู่จนถึง สถานที่พักไปราชการแห่งใหม่ 2.2 บุคคลในครอบครัว ได้แก่ คู่สมรส บุตร บิดามารดาของผู้เดินทาง ผู้ติดตาม ซึ่งอยู่ใน อุปการะและร่วมอาศัยอยู่กับผู้เดินทางไปราชการ ไม่มีสิทธิเบิกเบี้ยเลี้ยงเดินทาง (เบี้ยเลี้ยงเป็นสิทธิ เฉพาะตัวของข้าราชการ) 3. ค่าเช่าที่พัก 3.1 กรณีไม่อาจเข้าบ้านพักที่ทางราชการจัดให้ หรือหาบ้านเช่าไม่ได้ให้เบิกค่าเช่าที่พัก สำหรับตนเองและบุคคลในครอบครัวได้ไม่เกิน 7 วัน นับแต่วันไปถึงท้องที่ตั้งสำนักงาน เมื่อผู้บังคับบัญชา ต่อไปนี้อนุญาตแล้ว


13 (1) อธิบดีขึ้นไปหรือตำแหน่งที่เทียบเท่า สำหรับราชการบริหารส่วนกลาง (2) หัวหน้าสำนักงาน สำหรับราชการบริการส่วนกลางที่สำนักงานอยู่ในส่วนภูมิภาค หรือมีสำนักงานแยกต่างหากจากกระทรวง ทบวง กรม (3) หัวหน้าส่วนราชการในภูมิภาค สำหรับราชการบริหารส่วนภูมิภาค 4. ค่าพาหนะ 4.1 บุคคลในครอบครัวเบิกในอัตราเดียวกับผู้เดินทางไปราชการประจำ ยกเว้นผู้ติดตาม เบิกได้เท่ากับข้าราชการในตำแหน่งระดับต่ำสุด 4.2 กรณีเดินทางโดยเครื่องบินให้บุคคลในครอบครัวเดินทางได้ด้วย (ผู้ติดตามที่เดินทาง พร้อมผู้มีสิทธิก็สามารถเบิกค่าเครื่องบินสำหรับผู้ติดตามได้ในชั้นประหยัด) 5. ค่าขนย้ายสิ่งของส่วนตัว กรณีผู้เดินทางไปราชการประจำมีความจำเป็นต้องย้ายที่อยู่ใหม่ให้เบิกค่าขนย้ายสิ่งของส่วนตัว ในลักษณะเหมาจ่ายได้ ภายในอัตราที่กำหนด (บัญชีหมายเลข 4) กรณีไปประจำสำนักงานต่างสังกัดให้เบิกค่าใช้จ่ายจากสังกัดใหม่ กรณีได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางล่วงหน้าไปแล้วถ้าไม่ได้เดินทาง ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ ได้รับเงินไปให้ส่งคืนทันที กรณีบุคคลในครอบครัวไม่อาจเดินทางพร้อมกับผู้มีสิทธิให้ขออนุมัติเลื่อนการเดินทาง และให้เลื่อน การเดินทางได้ไม่เกิน 1 ปี นับแต่วันที่มีคำสั่งให้เดินทางไปราชการ


14 ผู้มีอำนาจอนุมัติ (1) ราชการบริหารส่วนกลาง ได้แก่ อธิบดีหรือปลัดกระทรวงแล้วแต่กรณี (2) ราชการบริหารส่วนภูมิภาค ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัด (3) ถ้าผู้เดินทางดำรงตำแหน่งอธิบดี หรือผู้ว่าราชการจังหวัดให้เสนอผู้บังคับบัญชาเหนือกว่าขึ้นไป อีกชั้นหนึ่ง ❖ การเดินทางกลับภูมิลำเนา - ภูมิลำเนา : ท้องที่ที่เริ่มรับราชการ / กลับเข้ารับราชการใหม่ - เบิกจ่ายในกรณีออกจากราชการหรือถูกสั่งพักราชการ - ค่าใช้จ่ายที่มีสิทธิเบิกสำหรับตนเองและบุคคลในครอบครัว 1.) ค่าเช่าที่พัก 2.) ค่าพาหนะ 3.) ค่าขนย้ายสิ่งของส่วนตัว ให้เบิกเช่นเดียวกับการเดินทางไปราชการประจำ - กรณีขอเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปยังท้องที่อื่นซึ่งมิใช่ภูมิลำเนาเดิม และค่าใช้จ่ายไม่สูงกว่า ให้เบิกได้เมื่อได้รับอนุญาตจากอธิบดีขึ้นไป สำหรับราชการบริหารส่วนกลาง หรือ ผู้ว่าราชการจังหวัด สำหรับราชการบริหารส่วนภูมิภาค ตัวอย่าง นายจักรภพ เป็นคนจังหวัดกาญจนบุรี เริ่มรับราชการครั้งแรกที่ จ.ตราด (ถือเป็นภูมิลำเนาตาม พรฎ. เดินทางฯ ในวันที่เกษียณอายุ นายจักรภพ ปฏิบัติราชการ อยู่ที่ จ.เชียงใหม่ และจะขอเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับภูมิลำเนา โดยระบุขออนุญาตไปยังท้องที่อื่นซึ่งมิใช่ภูมิลำเนา (ระบุไป จ.กาญจนบุรี) สามารถขอได้ แต่การเบิกค่าใช้จ่ายให้เบิกได้ตามระยะทาง เชียงใหม่ – กาญจนบุรี แต่ต้องไม่เกินค่าใช้จ่ายตามระยะทาง เชียงใหม่ – ตราด - ให้เดินทางและขนย้ายภายใน 180 วัน นับแต่วันออกจากราชการ เลิกจ้าง หรือตาย ถ้าเกิน ต้องได้รับความตกลงจากกระทรวงการคลัง


15 ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศ แบ่งเป็น 3 ลักษณะ ได้แก่ เดินทางไปราชการชั่วคราว เดินทางไปราชการประจำ เดินทางกลับภูมิลำเนา ❖ การเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว ได้แก่ (1) ผู้รับราชการประจำในประเทศไทยเดินทางไปราชการนอกราชอาณาจักร เพื่อปฏิบัติงาน การประชุม เจรจาธุรกิจ ดูงาน ตรวจสอบบัญชีหรือปฏิบัติหน้าที่อย่างอื่นเป็นครั้งคราวตามความจำเป็น (2) ผู้รับราชการประจำในต่างประเทศ ซึ่งเดินทางไปราชการ ณ ที่ใด ๆ ในต่างประเทศหรือมายัง ประเทศไทยเฉพาะเวลาที่เดินทางอยู่นอกราชอาณาจักร เพื่อปฏิบัติงานนอกที่ตั้งสำนักงานในเขตอาณา หรือเขตพื้นที่รับผิดชอบ (3) ผู้รับราชการประจำต่างประเทศ ซึ่งเดินทางไปช่วยราชการรักษาการในตำแหน่ง หรือรักษา ราชการแทนต่างสำนักงานในต่างประเทศเฉพาะเวลาที่ออกเดินทางจากที่พักซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานแห่งเดิม จนถึงที่พักซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานแห่งใหม่ ระยะเวลาในการขออนุมัติเดินทาง (บัญชีหมายเลข 1) - ประเทศในทวีปเอเชียเดินทางล่วงหน้าก่อนปฏิบัติราชการได้ไม่เกิน 24 ชั่วโมง และเดินทางกลับ เมื่อเสร็จสิ้นปฏิบัติราชการไม่เกิน 24 ชั่วโมง - ประเทศในทวีปออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ยุโรป อเมริกาเหนือ เดินทางล่วงหน้าก่อนปฏิบัติราชการ ได้ไม่เกิน 48 ชั่วโมง และเดินทางกลับเมื่อเสร็จสิ้นปฏิบัติราชการไม่เกิน 48 ชั่วโมง - ประเทศในทวีปอเมริกาใต้ ทวีปแอฟริกา เดินทางล่วงหน้าก่อนปฏิบัติราชการ ได้ไม่เกิน 72 ชั่วโมง และเดินทางกลับเมื่อเสร็จสิ้นการปฏิบัติราชการไม่เกิน 72 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว ได้แก่ (1) เบี้ยเลี้ยงเดินทาง (2) ค่าเช่าที่พัก


16 (3) ค่าพาหนะรวมทั้งค่าเช่ายานพาหนะค่าเชื้อเพลิงหรือพลังงานสำหรับยานพาหนะ ค่าระวางบรรทุก ค่าจ้างคนหาบหาม และอื่น ๆ ทำนองเดียวกัน (4) ค่ารับรอง (5) ค่าใช้จ่ายอื่นที่จำเป็นเนื่องในการเดินทางไปราชการ (6) ค่าเครื่องแต่งตัว 1. เบี้ยเลี้ยงเดินทาง 1.1 การนับเวลาให้นับตั้งแต่ประทับตราหนังสือเดินทางออกจากประเทศไทยถึงเวลา ที่ประทับตราหนังสือเดินทางเข้าประเทศไทย และให้นับเวลาเพื่อคำนวณเบี้ยเลี้ยงและกรณีที่มีการลา เช่นเดียวกับเดินทางไปราชการชั่วคราวในประเทศ (นับ 24 ชม. เป็น 1 วัน เศษที่เกิน 12 ชม. นับเป็น 1 วัน) 1.2 อัตราเบี้ยเลี้ยงเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราวให้เบิกได้ในลักษณะเหมาจ่าย (บัญชีหมายเลข 6) ผู้ดำรงตำแหน่งระดับ 8 ลงมา ไม่เกินคนละ 2,100 บาท/วัน ผู้ดำรงตำแหน่งระดับ 9 ขึ้นไป ไม่เกินคนละ 3,100 บาท/วัน กรณีไม่เบิกเบี้ยเลี้ยงเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราวในลักษณะเหมาจ่าย ให้มีสิทธิ เบิกค่าใช้จ่าย ดังนี้ -ค่าอาหาร –เครื่องดื่ม เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 4,500 บาท / วัน / คน - ค่าทำความสะอาดเสื้อผ้าสำหรับส่วนที่เกิน 7 วัน เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 500 บาท / วัน / คน - ค่าใช้จ่ายทั้งสองรายการนี้ให้เบิกจ่ายในแต่ละวัน เงินส่วนที่เหลือจ่ายในแต่ละวัน จะนำมาสมทบเบิกในวันถัดไปไม่ได้ - ค่าใช้สอยเบ็ดเตล็ด เหมาจ่ายได้ไม่เกิน 500 บาท / วัน / คน 2. ค่าเช่าที่พักในการเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว (บัญชีหมายเลข 7) 2.1 จำเป็นต้องพักแรมในยานพาหนะหรือพักแรมในสถานที่ที่ราชการจัดไว้ให้ห้ามเบิก 2.2 เบิกได้เท่าที่จ่ายจริง ดังนี้


17 อัตราค่าเช่าที่พักในต่างประเทศ (บัญชีหมายเลข 7) (บาท : วัน : คน) ข้าราชการ อัตราสำหรับประเทศ รัฐ เมือง ประเภท ก. ประเภท ข. ประเภท ค. ประเภท ง. ประเภท จ. ระดับ 8 ลงมา ไม่เกิน 7,500 ไม่เกิน 5,000 ไม่เกิน 3,100 เพิ่มขึ้นจาก ประเภท ก. อีกไม่เกิน ร้อยละ 40 เพิ่มขึ้นจาก ประเภท ก. อีกไม่เกิน ร้อยละ 25 ระดับ 9 ขึ้นไป ไม่เกิน 10,000 ไม่เกิน 7,000 ไม่เกิน 4,500 เพิ่มขึ้นจาก ประเภท ก. อีกไม่เกิน ร้อยละ 40 เพิ่มขึ้นจาก ประเภท ก. อีกไม่เกิน ร้อยละ 25 ดูรายละเอียดรายชื่อประเทศได้จาก : บัญชีหมายเลข 7 ของระเบียบกระทรวงการคลังฯ พ.ศ. 2554) ผู้ดำรงตำแหน่งระดับ 8 ลงมา พัก 2 คนขึ้นไปต่อหนึ่งห้อง ยกเว้น มีเหตุจำเป็น หรือไม่เหมาะสม ผู้ดำรงตำแหน่งระดับ 9 ขึ้นไป เบิกเท่าที่จ่ายจริงไม่เกินอัตราที่กำหนด ผู้ดำรงตำแหน่งระดับ 10 ขึ้นไป จะเบิกค่าเช่าห้องเพิ่มอีกหนึ่งห้อง หรือเบิกค่าเช่าห้องชุด แทนก็ได้แต่อัตราต้องไม่เกิน 2 เท่าของอัตราค่าเช่าห้องพัก 3. ค่ายานพาหนะ 3.1 โดยปกติให้ใช้ยานพาหนะประจำทางเบิกเท่าที่จ่ายจริงโดยประหยัด 3.2 ถ้าเส้นทางนั้นไม่มียานพาหนะประจำทางหรือมีแต่ต้องการความรวดเร็ว เพื่อประโยชน์แก่ทางราชการ ให้ใช้พาหนะอื่นได้ 3.3 กรณีมีการเดินทางออกนอกเส้นทางที่ได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติราชการ เนื่องจากลากิจ / ลาพักผ่อน ให้เบิกค่าพาหนะได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกินอัตราตามเส้นทางที่ได้รับคำสั่งให้เดินทางไปราชการ 3.4 การเดินทางโดยเครื่องบิน (เน้นการบินไทยเป็นหลัก ยกเว้นสายการบินอื่นถูกกว่า)


6 กรณีเดินทางเป็นหมู่คณะต้องเลือกเบิกลักษณะเดียวกันทั้งคณะ การเบิกค่าเช่าที่พักให้เบิกได้ไม่เกิน 120 วัน นับแต่ออกเดินทาง ถ้าเกินต้องได้รับอนุมัติ จากปลัดกระทรวงเจ้าสังกัด หลักฐานการเบิกค่าเช่าที่พักเท่าที่จ่ายจริง ❖ กรณีติดต่อกับโรงแรม หรือที่พักแรม - ใช้ใบเสร็จรับเงิน หรือใบแจ้งรายการของโรงแรม (ระเบียบ ก. การคลัง ข้อ 23) ❖ กรณีติดต่อกับตัวแทนจำหน่าย - ใช้ใบเสร็จรับเงินของตัวแทนจำหน่าย หรือพิมพ์ที่ออกจากอิเล็กทรอนิกส์ (ด่วนที่สุด ที่ กค 0408.4/ว 165 ลว. 22 ธ.ค. 59) 3. ค่าพาหนะ (มาตรา 22) 3.1 โดยปกติให้ใช้ยานพาหนะประจำทาง เบิกเท่าที่จ่ายจริงโดยประหยัด 3.2 ในเส้นทางนั้นไม่มียานพาหนะประจำทาง หรือมีแต่ต้องการความรวดเร็ว เพื่อประโยชน์ แก่ทางราชการ ให้ใช้พาหนะอื่นได้ (รถรับจ้าง , เรือรับจ้าง , ช้าง , ม้า) โดยผู้เดินทางต้องชี้แจงเหตุผล ความจำเป็น 3.3 การเบิกค่าพาหนะรับจ้าง ให้เบิกได้สำหรับกรณีดังต่อไปนี้(ว42) (1) การเดินทางไป – กลับ ระหว่างสถานที่อยู่ ที่พัก หรือสถานที่ปฏิบัติราชการกับสถานี ยานพาหนะประจำทางหรือสถานที่จัดพาหนะที่ต้องใช้ในการเดินทางไปยังสถานที่ปฏิบัติราชการ ภายใน เขตจังหวัดเดียวกันเบิกได้เท่าที่จ่ายจริง ถ้าข้ามเขตจังหวัดเบิกได้ดังนี้ ก. เขตติดต่อหรือผ่านกรุงเทพฯ เที่ยวละไม่เกิน 600 บาท ข. เขตติดต่อจังหวัดอื่น เที่ยวละไม่เกิน 500 บาท (2) การเดินทางไป – กลับ ระหว่างสถานที่อยู่ ที่พัก กับสถานที่ปฏิบัติราชการภายในเขต จังหวัดเดียวกัน วันละไม่เกินสองเที่ยว (3) การเดินทางไปราชการในเขตกรุงเทพฯ


18 1. กรณีตั้งแต่ 9 ชม. ขึ้นไป บริหารระดับสูง วิชาการ (ทรงคุณวุฒิ) เท่าที่จ่ายจริง ชั้นหนึ่ง บริหารระดับต้น อำนวยการ ระดับสูง เท่าที่จ่ายจริง ชั้นธุรกิจ ตำแหน่งอื่น ๆ เท่าที่จ่ายจริง ชั้นประหยัด 2. กรณีต่ำกว่า 9 ชม. เลขาธิการ ฯ เท่าที่จ่ายจริง ชั้นหนึ่ง บริหารระดับสูง วิชาการ (ทรงคุณวุฒิ) เท่าที่จ่ายจริง ชั้นธุรกิจ ตำแหน่งอื่น ๆ เท่าที่จ่ายจริง ชั้นประหยัด 4. ค่ารับรอง 4.1) ผู้ดำรงตำแหน่งต่อไปนี้ เบิกเงินค่ารับรองได้เท่าที่จ่ายจริง - ประธานองคมนตรี / องคมนตรี – นายกรัฐมนตรี / รองนายกฯ / รัฐมนตรี / ประธาน / รองประธาน สภานิติบัญญัติ / ประธาน / รองประธานศาลฎีกา / ประธานศาลอุทธรณ์ 4.2) ผู้ดำรงตำแหน่งนอกจาก 4.1 เบิกได้เท่าที่จ่ายจริง ดังนี้ - เดินทางไม่เกิน 15 วัน เบิกได้ไม่เกิน 67,000 บาท - เดินทางเกิน 15 วัน เบิกได้ไม่เกิน 100,000 บาท และเบิกในกรณีใด กรณีหนึ่ง ดังต่อไปนี้ 1.) เป็นผู้เดินทางไปเข้าร่วมประชุมระหว่างประเทศในฐานะผู้แทนรัฐบาลหรือรัฐสภา หรือผู้แทนส่วนราชการ แต่ไม่รวมถึงการประชุมการสัมมนาทางวิชาการ 2.) เป็นผู้เดินทางไปเจรจาธุรกิจเจรจากู้เงินหรือขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ในฐานะผู้แทนรัฐบาล 3.) เป็นผู้เดินทางไปปรึกษาหารือหรือเข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่าง หน่วยงานของรัฐบาลไทยกับหน่วยงานต่างประเทศ


19 4.) เป็นผู้เดินทางไปเยือนต่างประเทศในฐานะทูตสันถวไมตรีหรือในฐานะแขกของรัฐบาล ต่างประเทศ 5.) เป็นผู้เดินทางไปร่วมในงานรัฐพิธีตามคำเชิญของรัฐบาลต่างประเทศ 6.) เป็นผู้เดินทางไปจัดงานแสดงสินค้าไทยหรือส่งเสริมสินค้าไทยในต่างประเทศ หรือส่งเสริมการลงทุนของต่างประเทศในประเทศไทย หรือส่งเสริมการลงทุนของไทยในต่างประเทศ 7.) เป็นผู้เดินทางไปเผยแพร่ศิลปะหรือวัฒนธรรมไทยในต่างประเทศ 5. ค่าใช้จ่ายอื่นที่จำเป็นเบิกได้เท่าที่จ่ายจริง 6. ค่าเครื่องแต่งตัวไปราชการต่างประเทศชั่วคราว (บัญชีหมายเลข 8) 6.1) การเดินทางไปราชการครั้งใหม่ต้องห่างจากการเดินทางไปราชการชั่วคราว ครั้งสุดท้ายเกินกว่า 2 ปี นับแต่วันที่เดินทางออกจากประเทศไทย หรือห่างจากการเดินทางไปราชการ ประจำในต่างประเทศครั้งสุดท้ายเกินกว่า 2 ปี นับแต่วันที่เดินทางกลับถึงประเทศไทย 6.2) ต้องมิใช่การเดินทางไปประเทศดังต่อไปนี้ (บัญชีหมายเลข 9) 1. สหภาพพม่า 8. สาธารณรัฐสิงคโปร์ 2. บรูไน 9. สาธารณรัฐศรีลังกา 3. สาธารณรัฐอินโดนีเชีย 10. สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม 4. ราชอาณาจักรกัมพูชา 11. สาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ 5. สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 12. ปาปัวนิวกีนี 6. มาเลเซีย 13. รัฐเอกราชซามัว 7. สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ 14. สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต


20 6.3) ผู้ดำรงตำแหน่งระดับ 5 ลงมา เหมาจ่ายคนละ 7,500 บาท ผู้ดำรงตำแหน่งระดับ 6 ขึ้นไป เหมาจ่ายคนละ 9,000 บาท 6.4) ผู้เดินทางที่จะเบิกค่าเครื่องแต่งตัวของคู่สมรส ต้องได้รับอนุญาตจากกระทรวงเจ้าสังกัด ให้คู่สมรสติดตามไปราชการต่างประเทศชั่วคราวได้ โดยเบิกในอัตราเดียวกับข้าราชการ 7. ค่าใช้จ่ายสมทบ ถ้าได้รับความช่วยเหลือจากต่างประเทศหรือจากหน่วยงานใด ๆ แล้ว ไม่มีสิทธิ เบิก แต่ถ้าได้รับ น้อยกว่าสิทธิให้เบิกได้ ดังนี้ 7.1) ค่าเครื่องบิน - ได้รับความช่วยเหลือ ไป – กลับ แล้ว งดเบิก (แม้จะต่ำกว่าสิทธิ) - ได้รับความช่วยเหลือเที่ยวเดียวเบิกอีกหนึ่งเที่ยวชั้นเดียวกับที่ได้รับความช่วยเหลือ แต่ต้องไม่สูงกว่าสิทธิที่พึงได้รับ 7.2) ค่าเช่าที่พัก - ให้เบิกสมทบเฉพาะส่วนที่ขาดตามจำนวนที่จ่ายจริง รวมแล้วต้องไม่เกินสิทธิที่พึงได้รับ - ผู้ให้ความช่วยเหลือ จัดที่พักให้แล้ว ให้งดเบิก 7.3) เบี้ยเลี้ยงเดินทาง - ได้รับเบี้ยเลี้ยงต่ำกว่าสิทธิ ให้เบิกสมทบเฉพาะส่วนที่ขาดรวมแล้วไม่เกินสิทธิที่พึงได้รับ - ผู้ให้ความช่วยเหลือเลี้ยงอาหารทุกมื้อ งดเบิก ผู้ให้ความช่วยเหลือเลี้ยงอาหาร 2 มื้อ เบิกเบี้ยเลี้ยงได้ไม่เกิน 1 ใน 3 ของอัตราเบี้ยเลี้ยง เดินทางเหมาจ่าย


21 ผู้ให้ความช่วยเหลือเลี้ยงอาหาร 1 มื้อ เบิกเบี้ยเลี้ยงได้ไม่เกิน 2 ใน 3 ของอัตรา เบี้ยเลี้ยงเดินทางเหมาจ่าย 7.4) ค่าเครื่องแต่งตัวเบิกสมทบเฉพาะส่วนที่ขาดรวมแล้วไม่เกินสิทธิที่พึงได้รับ 7.5) ค่ารับรอง เบิกได้ตามข้อ 4 7.6) ค่าพาหนะไปกลับระหว่างสถานที่อยู่ที่พักสถานที่ปฏิบัติราชการ กับสถานี ยานพาหนะและค่าใช่จ่ายอื่นที่จำเป็นเบิกได้ตามสิทธิ ถ้าได้รับความช่วยเหลือต่ำกว่าสิทธิให้เบิกสมทบ เฉพาะส่วนที่ขาดรวมแล้วไม่เกินสิทธิที่พึงได้รับ *** ถ้าเป็นการให้ความช่วยเหลือในการดูงานวงเงินค่าใช้จ่ายสมทบที่เบิก รวมแล้ว ต้องไม่เกินวงเงินที่ได้รับความช่วยเหลือ *** ********************************* บัญชีหมายเลข 2 , 3 , 6 , 7 , 8 , 10 ประกอบระเบียบการะทรวงการคลัง ว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 การเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศ กรณีเป็นการเบิก ส าหรับการเดินทางไปราชการประจ า และการเดินทางกลับภมูิล าเนาจะเกิด ขึ ้นกับข้าราชการและลูกจ้างของหน่วยงานที่มีส านักงานตั ้งอยู่ในต่างประเทศ เท่านั้น


22 Flowchart การยืมเงินราชการและขอเบิกเงินที่ได้ทดรองจ่าย ผู้มีอำนาจอนุมัติให้เดินทางไปราชการ กรณีขอยืมเงินราชการ กรณีขอเบิกเงินที่ได้ทดรอง จ่าย ยื่นเอกสารขอยืมเงิน จนท. ตรวจสอบและ ดำเนินการขออนุมัติยืม เงิน (1วันทำการ) จนท. วางฎีกาเบิกเงิน จากกรมบัญชีกลาง/ คลังจังหวัด โอนเงินให้ผู้ยืมผ่าน ระบบ KTB corporate และแจ้งผลผ่าน SMS/ e-mail ก่อนเดินทาง เมื่อปฏิบัติราชการ เสร็จสิ้น ชดใช้เงินยืมเหลือจ่าย (ถ้ามี) พร้อมหลักฐาน การจ่ายเงินภายใน 15 วัน นับแต่วันกลับมาถึง เมื่อปฏิบัติราชการ เสร็จสิ้น ยื่นขอเบิกเงินที่ทดรอง จ่าย (รายงานการ เดินทาง) พร้อม หลักฐานการจ่ายเงิน จนท. ตรวจสอบ ค่าใช้จ่ายตามระเบียบ ขออนุมัติเบิกค่าใช้จ่าย วางฎีกาเบิกเงินจาก กรมบัญชีกลาง/ คลังจังหวัด โอนเงินให้ผู้เดินทางผ่าน ระบบ KTB corporate และแจ้งผลผ่าน SMS/ e-mail กรณีขอมีบัตรเครดิตราชการ ต้องเตรียมเอกสารเพิ่มเติม 1. แบบคำขอมีบัตรเครดิต 2. สำเนาบัตรปชช. หรือ สำเนา บัตรข้าราชการและทะเบียนบ้าน พร้อมรับรองสำเนา *โดยปกติการขอมีบัตรเครดิตใช้ เวลาในการทำบัตร 5 วันทำการ* หลักฐานการจ่ายเงิน 1. ใบเสร็จรับเงิน หรือ 2. ใบสำคัญรับเงิน หรือ 3. ใบแทนใบเสร็จรับเงิน เอกสารที่ใช้ประกอบการยืมเงินราชการ 1. หนังสือหรือบันทึกอนุมัติเดินทาง (ตัวจริง) + ประมาณการคชจ. 2. บันทึกข้อความเพื่อขอยืมเงินราชการ 3. สัญญาการยืมเงิน จำนวน 2 ฉบับ


23 ประเด็นที่ถามกันมาก • กรณีส่วนราชการผู้จัดฝึกอบรม จัดที่พักให้แก่ผู้เข้าร่วมในการฝึกอบรม และสถานที่พักแรมดังกล่าว (ค่าที่พัก) ได้มีบริการอาหารมื้อเช้าให้แล้ว ให้ถือว่า ส่วนราชการผู้จัดฝึกอบรม มิได้ดำเนินการจัดเลี้ยง อาหารให้แก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรม (หนังสือ ที่ กค 0409.6/ว 392 ลว. 3 ต.ค. 2548) • กรณีเป็นการเดินทางไปราชการเป็นหมู่คณะต้องเลือกเป็นค่าเช่าที่พักในลักษณะเดียวกันทั้งคณะ (ระเบียบกระทรวงการคลังฯ พ.ศ. 2554) • กวพ. อนุมัติให้การดำเนินการในการจัดหาอาหาร อาหารว่าง เครื่องดื่ม และค่าเช่าที่พักของส่วนราชการ ต่าง ๆ ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยค่าใช้จ่าย ในการฝึกอบรมฯ และเกณฑ์อื่น ๆ ตามที่ กระทรวงการคลังอนุมัติให้เบิกจ่ายค่าอาหาร อาหารว่าง เครื่องดื่ม และค่าเช่าที่พักได้ โดยไม่ต้องถือปฏิบัติ ตามระเบียบพัสดุ (กค (กวพ) 0421.3/ว 193 ลว. 8 มิ.ย. 2552) • การเบิกค่าขนย้าย กรณีเดินทางไปราชการประจำ ไม่ต้องมีใบเสร็จ เนื่องจากเป็นการเหมาจ่าย ตามระยะทางและเบิกเท่ากันทุกระดับ • รถยนต์ของส่วนราชการและรถยนต์ส่วนตัวซึ่งจำเป็นต้องเดินทางโดยผ่านทางด่วนพิเศษ และนำ ใบเสร็จรับเงินมาเบิกจ่ายจากทางราชการได้(หนังสือที่ กค 0409.6/ว 27 ลว. 15 ก.พ. 2548) หมายถึง (1) “รถยนต์ของส่วนราชการ” หมายความว่า รถยนต์ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรถราชการ พ.ศ. 2523 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เช่นรถยนต์ส่วนกลาง รถประจำตำแหน่ง เป็นต้น (2) ”รถยนต์ส่วนตัว” หมายความว่า รถยนต์ของข้าราชการผู้เลือกรับเงินค่าตอบแทน เหมาจ่ายแทนการ จัดหารถประจำตำแหน่งสำหรับข้าราชการผู้มีสิทธิได้รถประจำตำแหน่งที่ได้จัดหามาใช้ในการปฏิบัติ ราชการ (ถ้าเป็นข้าราชการทั่วไปที่ขออนุมัติใช้ยานพาหนะส่วนตัวไปราชการ จะได้รับเงินชดเชยตาม ระยะทางเท่านั้น ไม่สามารถเบิกอะไรได้อีก)


ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม กรมบัญชีกลาง กลุ่มงานบริหารค่าใช้จ่าย กองค่าตอบแทนและประโยชน์เกื้อกูล 0 2127 7261 2 0 2127 7000 ต่อ 4851 , 6520 สำนักงานคลังจังหวัดตราด กลุ่มงานวิชาการ 0 3951 2429 ต่อ 301 – 322


จัดทำโดย สำนักงานคลังจังหวัดตราด ถ.ราษฎร์นิยม อ.เมือง จ.ตราด 23000 โทร. 039-512429 https://www.cgd.go.th e-mail : [email protected] “กำกับดูแลและบริหารการใช้จ่ายเงิน ของแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด” Application CGD สํานักงานคลังจังหวัดตราด สํานักงานคลังจังหวัดตราด ศูนย์ข้อมูลข่าวสาร สำนักงานคลังจังหวัดตราด


Click to View FlipBook Version