หลักธรรมของ
พระพุทธศาสนา
พระรัตนตรัย หรือพระไตรรัตน์
- "รัตน" แปลว่า แก้วหรือสิ่งประเสริฐ เพราะ
ว่าเป็นสิ่งที่ประเสริฐ มีค่าสูง และหาได้ยาก
เทียบด้วยดวงแก้วมณี
- "ตรัย" แปลว่า สาม เมื่อรวมกันจึงเรียกว่า
“แก้วอันประเสริฐสามประการ”
พระรัตนตรัยเป็นองค์ประกอบสำคัญของ
พระพุทธศาสนา ถือว่าเป็นสิ่งประเสริฐ เป็น
มงคลสูงสุด และเป็นแหล่งรวมความดีงามทั้ง
ปวง
พระรัตนตรัย คือ พระพุทธเจ้า, พระธรรม
และพระสงฆ์ ซึ่งเรียกเต็มว่าพุทธรัตนะ, ธรรม
รัตนะ, สังฆรัตนะ หรือ แก้วอันประเสริฐสาม
ประการ ซึ่งได้แก่
1. พระพุทธ คือ ท่านผู้ตรัสรู้ธรรมด้วย
พระองค์เอง แล้วสอนประชุมชนให้ประพฤติ
ชอบด้วยกาย, วาจา, ใจ ตามพระธรรมวินัย
2. พระธรรม คือ พระธรรมวินัยอันเป็นคำ
สั่งสอนของพระพุทธเจ้า
3. พระสงฆ์ คือ หหมู่สาวกของ พระพุทธเจ้า
ผู้ซึ่งฟังคำสั่งสอนของ พระพุทธเจ้า แล้ว
เลื่อมใส สละเรือนออกบวช ถือวัตร ปฏิบัติ
ตามพระธรรมวินัย ที่พระบรมศาสดาสั่งสอน
และกำหนดไว้
หลักกรรม
• หลักกรรมเป็นหลักธรรม
• กรรม หมายถึง
คำสอนที่สำคัญประการ
การกระทำทางกาย
หนึ่งของพระพุทธศาสนา
ทางวาจา หรือทางใจ
พระพุทธเจ้าทรงสอนและ
ที่ประกอบด้วยเจตนา
เน้นเรื่องกรรมดังพระบาลี
ดีก็ตาม เจตนาชั่ว
ที่ว่า กลฺยาณการี กลฺยาณํ
ก็ตาม กรรมเป็นคำ
ปาปการี จ ปาปกํ แปลว่า
กลาง ๆ แบ่งเป็น ๒
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ประเภท คือ
• กุศลกรรม หรือ กรรมดี
คือ การกระทำที่ประกอบ
ด้วย
• ความไม่โลภ
• ความไม่โกรธ
• ความไม่หลงงมงาย
• อกุศลกรรม หรือ กรรมชั่ว
• คือ การกระทำที่ประกอบด้วย
• ความโลภ
• ความโกรธ
• ความหลงงมงาย
ฉะนั้น คำว่า กฎแห่งกรรม จึงหมายถึง ความเป็นไปตามหลักเหตุ
และผลของการกระทำ สามารถอธิบายได้ง่าย ๆ ว่า ผู้ใดกระทำสิ่ง
ใดไว้ย่อมจะได้รับผลแห่งการกระทำนั้น ถ้าทำดีย่อมได้รับผลดี
ตอบแทนแต่ถ้าทำชั่วย่อมได้รับผลชั่วตอบแทนเช่นกัน
ศรัทธา 4
ศรัทธา หมายถึง ความเชื่อ ศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็น
ความเชื่อที่ ไม่ งมงาย ประกอบด้วยปัญญาหรือเหตุผล ซึ่ง
เรียกว่า ศรัทธาเพื่อปัญญา ศรัทธาในพระพุทธศาสนามี 4
ประการ ได้แก่
1. กัมมสัทธา เชื่อกรรม เชื่อกฎแห่งกรรม เชื่อว่ากรรมมีอยู่จริง
คือ เชื่อว่า เมื่อทำอะไรโดยมีเจตนา คือ จงใจทำทั้งรู้ ย่อมเป็น
กรรม คือ เป็นความชั่วความดีมีขึ้นในตนเป็นเหตุปัจจัยก่อให้
เกิดผลดีผลร้ายสืบเนื่องต่อไป การกระทำไม่ว่างเปล่า และเชื่อ
ว่าผลที่ต้องการ จะสำเร็จได้ด้วยการกระทำ มิใช่ด้วยอ้อนวอน
หรือนอนคอยโชค
2. วิปากสัทธา เชื่อผลของกรรม เชื่อว่าผลของกรรม
มีจริง คือ เชื่อว่ากรรมที่ทำแล้วย่อมมีผล และผลต้อง
มีเหตุ ผลดีเกิดจากกรรมดี ผลชั่วเกิดจากกรรมชั่ว
3. กัมมัสสกตาสัทธา เชื่อว่าสัตว์ มีกรรมเป็นของตน
เชื่อว่าแต่ละคนเป็นเจ้าของ จะต้องรับผิดชอบเสวย
วิบาก เป็นไปตามกรรมของตน
4. ตถาคตโพธิสัทธา เชื่อว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้จริง มั่นใจใน
องค์พระตถาคต ว่าเป็นพระสัมมาสัมพุทธะ ทรงพระคุณ
ทั้ง 9 ประการ ตรัสธรรม บัญญัติวินัยไว้ด้วยดี ทรงเป็น
ผู้นำทางที่แสดงให้เห็นว่า มนุษย์ คือเราทุกคนนี้ หากฝึกตน
ด้วยดีก็สามารถเข้าถึงภูมิธรรมสูงสุด บริสุทธิ์หลุดพ้นได้
ดังที่พระองค์ทรงบำเพ็ญไว้
ศรัทธา 4
กัมมสัทธา : เชื่อในเรื่อง
กรรม = กรรมมีอยู่จริง
วิปากสัทธา :เชื่อในผลของกรรม = ทำดี
ได้ดี ทำชั่ว ได้ชั่ว ทำะไรไว้ ย่อมได้รับ
ผลอย่างนั้น
กัมมัสสกตาสัทธา : เชื่อในเรื่องที่สัตว์มีกรรม
เป็นของตนเอง = รับผิดชอบในการกระทำ
ของตนเอง
ตฤาคตโพธิสัทธา : เชื่อว่าพระพุทธเจ้า
ตรัสรู้จริง = พระองค์ทรงค้นพบหลัก
ธรรมด้วยตนเอง
ไตรสิกขา
• ไตรสิกขา หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สิกขา
๓ หมายถึง ข้อที่จะต้องศึกษา ๓ ประการ
ได้แก่ ศีล สมาธิ ปัญญา
• ๑. ศีล คือ ข้อปฏิบัติสำหรับฝึกอบรมในทาง
ความประพฤติ ในที่นี้ได้แก่ ศีล ๕ นักเรียนจะ
ต้องปฏิบัติตามศีล ๕ อย่างครบถ้วน เพื่อจะ
เป็นรากฐานสำหรับสมาธิและปัญญา
• ๒. สมาธิ คือ ข้อปฏิบัติสำหรับฝึกอบรมจิต
เพื่อให้เกิดสมาธิ และเป็นรากฐานสำหรับการ
เจริญปัญญา จิตที่มีสมาธิจะทำให้มีความสุข
ความสงบ มีความมั่นคง ว่องไวต่อการ
ทำงาน และมีความจำดี
• ๓. ปัญญา คือ ข้อปฏิบัติสำหรับฝึกอบรม
ปัญญา เพื่อให้เกิดความรู้แจ้ง คือ รู้อริยสัจ ๔
อันเป็นธรรมอันประเสริฐ
โอวาท 3
โอวาท 3 หรือหลักธรรมเรื่องโอวาท -ปาฏิโมกข์
เป็นหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสครั้งแรกแก่
พระสงฆ์ 1,250 รูป ในวันมาฆบูชา มี 3
ประการ คือ
1. การไม่ทำความชั่ว หมายถึงการละเว้นการทำ
สิ่งที่ไม่ดีทางกาย ทางวาจา และทางใจ ซึ่งหลัก
ธรรมที่สนับสนุนการไม่ทำความชั่ว ได้แก่
เบญจศีล คือ ข้อละเว้น 5 ประการ ดังนี้
1)ไม่ฆ่าสัตว์ เบียดเบียน หรือรังแกสัตว์
2) ไม่ลักขโมยหรือหยิบฉวยสิ่งที่เจ้าของไม่ได้ให้
มาเป็นของตน
3) ไม่ประพฤติผิดในกามหรือละเมิดสิทธิของผู้
อื่น
4) ไม่พูดเท็จหรือโกหก5) ไม่ดื่มสุราและของ
มึนเมา รวมทั้งสิ่งเสพติดชนิดต่างๆ
โอวาท 3
2. การทำความดี หมายถึง การประพฤติ
ปฏิบัติที่ดีทางกาย ทางวาจาและทางใจ ซึ่งหลัก
ธรรมที่สนับสนุนการทำความดี ได้แก่
เบญจธรรม หมายถึง ข้อที่ควรปฏิบัติ 5
ประการ ดังนี้
1) มีความเมตตากรุณา ช่วยเหลือคนและสัตว์
2) ประกอบอาชีพที่สุจริต ไม่ผิดกฎหมาย
3) รู้จักสำรวม ยับยั้งชั่งใจ พอใจในคู่ครองของ
ตน
4) มีความซื่อสัตย์ ซื่อตรง พูดจริงทำจริง
5) มีสติสัมปชัญญะ ไม่ประมาท
3. การทำจิตใจให้บริสุทธิ์ผ่องใส หมายถึง
การทำจิตใจของตนให้สะอาด สงบ และสว่าง