The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ใยไหมได้จากรังของตัวไหม ในไทยมีการเลี้ยงไหมกันมากทางภาคอีสาน ใยไหมได้รับสมญาว่าเป็นราชินีแห่งเส้นใย มีความงามหรูหรา เนื้อผ้าเป็นมันแวววาว ทำความพึงพอใจให้แก่ผู้สวมใส่ แต่ผ้าไหมมีราคาค่อนข้างแพง คนเรารู้จักใช้ผ้าไหมกันมานานหลายพันปีแล้ว ประเทศจีนเป็นประเทศแรกที่รู้จักเลี้ยงไหม และนำเส้นใยมาผลิตเป็นผ้าไหม ด้วยคุณสมบัตินอกจากจะมีเนื้อมันแวววาวสวยงามมากแล้ว ยังเหนียวมาก สวม-ใส่สบาย ปรับให้เหมาะกับอากาศร้อนเย็นได้ดี คือ จะรู้สึกเย็นเมื่ออากาศร้อน และจะรู้สึกอุ่นเมื่ออากาศหนาว ผ้าไหม ย้อมสีติดง่าย พิมพ์ลวดลายได้สวยงาม เวลาสวมใส่ไหมจะเสียดสีกันทำให้เกิดเสียง เราเรียกกันว่าเสียง ส่ายไหม ผ้าไหมนิยมนำมาตัดเป็นเสื้อผ้า เครื่องใช้ที่ให้ความงามหรูหราและใช้เป็นครั้งคราว ทั้งนี้เพราะผ้าไหมราคาค่อนข้างแพง ซักรีดยาก ผ้าไหมที่ฟอกเอาขี้ผึ้งที่ติดมากับเส้นใยออกหมด น้ำหนักจะเบาและค่อนข้างยับง่าย ผ้าไหมจะเก่าเร็วถ้าซักรีดบ่อยๆ ไม่ทนต่อสารซักฟอกที่มีส่วนผสมของด่างเข้มข้นและไม่ทนต่อแสงแดด เวลาซักรีดผ้า-ไหมจึงต้องทำอย่างระมัดระวังมากกว่าการซักผ้าชนิดอื่น

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by SACIT, 2023-08-08 23:31:07

กระบวนการย้อมสีธรรมชาติ (เส้นไหม)

ใยไหมได้จากรังของตัวไหม ในไทยมีการเลี้ยงไหมกันมากทางภาคอีสาน ใยไหมได้รับสมญาว่าเป็นราชินีแห่งเส้นใย มีความงามหรูหรา เนื้อผ้าเป็นมันแวววาว ทำความพึงพอใจให้แก่ผู้สวมใส่ แต่ผ้าไหมมีราคาค่อนข้างแพง คนเรารู้จักใช้ผ้าไหมกันมานานหลายพันปีแล้ว ประเทศจีนเป็นประเทศแรกที่รู้จักเลี้ยงไหม และนำเส้นใยมาผลิตเป็นผ้าไหม ด้วยคุณสมบัตินอกจากจะมีเนื้อมันแวววาวสวยงามมากแล้ว ยังเหนียวมาก สวม-ใส่สบาย ปรับให้เหมาะกับอากาศร้อนเย็นได้ดี คือ จะรู้สึกเย็นเมื่ออากาศร้อน และจะรู้สึกอุ่นเมื่ออากาศหนาว ผ้าไหม ย้อมสีติดง่าย พิมพ์ลวดลายได้สวยงาม เวลาสวมใส่ไหมจะเสียดสีกันทำให้เกิดเสียง เราเรียกกันว่าเสียง ส่ายไหม ผ้าไหมนิยมนำมาตัดเป็นเสื้อผ้า เครื่องใช้ที่ให้ความงามหรูหราและใช้เป็นครั้งคราว ทั้งนี้เพราะผ้าไหมราคาค่อนข้างแพง ซักรีดยาก ผ้าไหมที่ฟอกเอาขี้ผึ้งที่ติดมากับเส้นใยออกหมด น้ำหนักจะเบาและค่อนข้างยับง่าย ผ้าไหมจะเก่าเร็วถ้าซักรีดบ่อยๆ ไม่ทนต่อสารซักฟอกที่มีส่วนผสมของด่างเข้มข้นและไม่ทนต่อแสงแดด เวลาซักรีดผ้า-ไหมจึงต้องทำอย่างระมัดระวังมากกว่าการซักผ้าชนิดอื่น

Keywords: ย้อม,ไหม,เส้นไหม,ชาต

51 11. นา ขึน้บดิหมาด 12. กระตกุเส้นไหม นา ไปผึ่ง


52 13. นา เส้นไหมล้างนา ้เปล่า 2 ครั้ง 14. เส้นไหมทยี่้อมคราม แช่นา ้สารส้ม 15 นาที


53 จากซ้าย สีทไี่ด้1.สีม่วง 2.สีเขียว 3.สีฟ้าคราม 4.สีนา ้เงนิ วิธีท า ทดสอบสีจากน ้าครามที่ก่อไว้ โดยใช้มือช้อนน ้าเช็คสีครามในอ่างที่จะใช้ย้อมเส้นไหม ครามที่ก่อขึ้นดีน ้า จะเป็นสีเหลือง จากนั้นน าเส้นไหม ประกอบด้วยสีเหลืองมะพูด สีชมพู และเส้นไหมที่ยังไม่ได้ย้อมสีลงย้อมบนน ้าคราม ชั้นบน นวดให้เนื้อครามเข้าไปในเส้นใยให้ทั่ว ถ้าหากครามไม่แน่น หรือสียังไม่ได้ตามที่ต้องการให้ลงย้อมอีกทับคราม ไปเรื่อยๆ ให้สีสม ่าเสมอ สีที่ได้ สีเขียว เหลืองมะพูดทับคราม สีม่วง จากครั่งทับคราม และสีฟ้าคราม ไหมปกติย้อม ครามทับ 2 ครั้ง และสีน ้าเงิน สีครามย้อมทับคราม 2 ครั้ง ในกระบวนการย้อม ต้องคอยเช็คสีติดเสมอหรือไม่ หากต้องการย้อมทับครามอีกครั้ง ไม่ต้องน าเส้นไหมล้างน ้า สามารถย้อมทับได้เลย เมื่อได้ตามที่ต้องการแล้ว น าขึ้นบิดหมาด กระตุกให้เส้นไหมโดนอากาศทั้งด้านในด้านนอก จากนั้นน าตากในร่มให้โดนอากาศ ประมาณ 15 นาที น ามาล้างด้วยน ้าเปล่าให้สีส่วนเกินและเศษปูนที่เกาะเส้นไหม ออกให้หมด หรือจนกว่าน ้าล้างจะใส และแช่ด้วยน ้าสารส้ม เพื่อให้สีสว่างในขั้นตอนสุดท้าย ก่อนน าไปทอ เทคนิค - หากต้องการย้อมครามให้สีเข้ม เส้นไหมย้อมรองพื้นด้วยสีชมพูก่อน แล้วย้อมด้วยครามอีก 2 รอบ จะได้สีน ้า เงินเข้ม - แช่สารส้ม จะช่วยให้เส้นไหมที่ย้อมติดสี สีสว่าง และเงาขึ้น - สังเกตเส้นไหมที่ย้อมติดสีดี เวลาแช่สารส้ม น ้าจะใสไม่มีน ้าย้อมสีตกปนเปื้อน ข้อควรระวัง - ไม่ควรจุ่มเส้นไหมลงไปถึงก้นของภาชนะ จะท าให้เนื้อครามที่ขุ่นติดเส้นไหม ท าให้สีของไหมด่าง หมองไม่เงางาม


54 ขัน้ตอนการและเทคนิคการย้อม มัดหมี่ สีแดง จากคร่ัง การเตรียมนา ้สีแดงสกัด จาก “คร่ัง” ย้อม “มัดหมี่” อัตราส่วน : น ้าสีสกัดจากครั่ง 20 ลิตร / ใบเหมียดแอ 1 ก ามือ/ ใบชงโค 1 ก ามือ / ใบมะขาม 1 ก ามือ / มัดหมี่ 0.5 กิโลกรัม 1.นา ใบเหมียดแอ ใบชงโค และใบมะขาม อย่างละ 1 กา มือ ใส่ลงหม้อตม้สีจากคร่ัง 2.ใช้พายกดใหใ้บไม้ทใี่ส่ให้จมลง เคยี่วดว้ยไฟแรง


55 3.แบ่งนา ้สีทสี่กัด ใส่ภาชนะทเี่ตรียมไว้ย้อมข้างนอก วิธีท า น ้าสีจากครั่งที่สกัดไว้ก่อนหน้า ตั้งไฟให้เดือด ใส่ใบเหมียดแอ ใบชงโค และใบมะขาม (มอร์แดนท์ ธรรมชาติ) อย่างละ 1 ก ามือ เพื่อให้มัดหมี่ที่ย้อม ติดสีสีเข้มข้น และสีเข้าข้อ เคี่ยวจนเดือด น าน ้าสีมาย้อมข้างนอก เพื่อให้สีเข้าข้อก่อน ตักน ้าสีใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ให้น ้าย้อมท่วมมัดหมี่ ขัน้ตอนการย้อมมัดหมี่สีแดง จากคร่ัง 1.มัดหมี่แช่สารส้ม 1 คนืบดิหมาด


56 2.เปิดหน้ามัดหมี่ดว้ยวิธีการ “ต า” 3.เช็คสีข้อมัดหมี่ (สังเกตนา ้สีจะใส)


57 4.ย้อมและแช่ทงิ้ไว้ 5.มัดหมที่ไี่ดจ้ากาการย้อม


58 วิธีท า น ามัดหมี่ที่แช่สารส้มทิ้งไว้ 1 คืน บิดหมาด จากนั้น จุ่มลงภาชนะที่แบ่งน าน ้าสีมาย้อมข้างนอก เพื่อให้สี เข้าข้อก่อน (ถ้าย้อมในหม้อต้มเลยสีจะติดแต่ด้านนอก) เปิดหน้ามัดหมี่ที่ถูกมัดแน่นอยู่ ใช้วิธีที่ง่ายที่สุด คือ การนวด หรือ ต า โดยใช้ไม้ปลายมน หรือสาก ช่วยพาสีอัดเข้าไปในข้อได้ง่ายขึ้น ต าแล้วยกพลิกมัดหมี่กลับไปมาให้ทั่ว สังเกตว่า มัดหมี่กินสีแล้วน ้าจะใส ใช้นิ้วขยี้ข้อมัดหมี่ เพื่อเช็คสี เมื่อน ้าสีเข้าข้อดีแล้ว น ามาลงในหม้อต้มสีแดงจากครั่งให้ติดสี และเข้มขึ้น ใช้เวลาในการย้อม ประมาณ 1 วัน เมื่อได้สีแดงตามที่ต้องการ น าไปผึ่งให้เย็น จากนั้นน ้าไปย้อมทับสีตาม ต้องการ เทคนิค - น ามัดหมี่แช่น ้าสารส้ม ไว้ 1 คืน - การเตรียมน ้าสีจากครั่งเพื่อย้อมมัดหมี่แตกต่างจากการย้อมไหม นั่นคือการใส่ใบมะขามเพิ่ม เพื่อให้สีเข้มข้น และเข้าข้อ - ใช้วิธีการ “ต า” เปิดหน้ามัดหมี่ เวลาลงย้อม เพื่อให้สีเข้าข้อได้ง่าย - การย้อมมัดหมี่ ต้องย้อมสีแดงก่อนสีอื่นๆ - การย้อมมัดหมี่น ้าสีต้องเดือด และต้องย้อมต่อเนื่อง - ใช้มือขยี้ดูมัดหมี่ที่ย้อม เพื่อเช็คสี ข้อควรระวัง - ต้องมัด มัดหมี่แต่ละข้อให้แน่น เพื่อไม่ให้สีเข้าไปในส่วนที่เราไม่ต้องการ


59 สีเหลืองทอง จากแก่นเข ผสมเปลือกมะพดู การเตรียมนา ้สเหลืองทองสกัด จาก ี “แก่นเข ผสม เปลือกมะพดู” อัตราส่วน : น ้าสีเหลืองสกัดจากแก่นเข และ เปลือกมะพูด 15 ลิตร / สารส้ม 2 ช้อนโต๊ะ / มัดหมี่ 0.5 กิโลกรัม 1.นา ้สีสกัดจาก“แก่นเข ผสม เปลือกมะพดู” 2. ใส่สารส้มลงในนา ้ย้อม 3.คนใหน้า ้ย้อมใหเ้ข้ากัน สีนา ้ย้อมทไี่ด้เป็น สีเหลืองทอง


60 วิธีท า น าน ้าสีสกัดจาก แก่นเข ผสม เปลือกมะพูด ตั้งไฟแรง ใส่สารส้ม คนให้น ้าสีกับสารส้มละลายเข้ากัน น ้า สีที่ได้จะเป็น สีเหลืองทอง สามารถมัดหมี่ที่ย้อมสีแดงลงย้อมสีเหลืองทองเป็นสีที่ 2 ได้ ขั้นตอนการย้อมมัดหมี่สีเหลืองทอง จาก“แก่นเข ผสม เปลือกมะพดู” 1.เตรียมมัดหมี่ทยี่้อมสีแดง สีแรกลงย้อม


61 2. มัดหมลี่งย้อมใหใ้ช้ไม้พายกดมัดหมี่ใหจ้มนา ้ยอ้ม 3. รีบยกขนึ้เช็คสี 4. แช่มัดหมี่ในหม้อ - ต้มทงิ้ไว้ 4.มัดหมี่ทไี่ดจ้ากการย้อม สีเหลืองทอง วิธีท า น าหม้อน ้าสกัดสีเหลืองทอง ตั้งไฟแรง รอเดือด น ามัดหมี่ที่ย้อมสีแดงจากครั่งแล้วมาย้อม ขณะน า มัดหมี่ลงย้อมให้ใช้ไม้พายกดมัดหมี่ให้จมน ้าย้อม แล้วรีบยกขึ้น มัดหมี่สีขาวจะติดติดสีเหลือง สีแดงจะเป็นสีเดิมหรือ อาจจะเปลี่ยนสีเล็กน้อย (ล้างด้วยน ้าด่างเป็นขั้นตอนสุดท้าย สีแดงจะกลับมาเข้มเหมือนเดิม) น าลงย้อมใหม่ ท าซ ้า อย่างต่อเนื่อง จากนั้นแช่มัดหมี่ทิ้งไว้ จนกว่ามัดหมี่จะกินน ้าสีจนหมด สังเกตสีน ้าย้อมจะใส จากนั้นน ามัดหมี่ขึ้น ผึ่งให้ เย็น แล้วย้อมซ ้าอีก 1 รอบ (ท าตามกระบวนการย้อมมัดหมี่ตั้งแต่ต้น) ที่ได้จะสีเหลืองทอง


62 เทคนิค - น าสีเหลืองจากแก่นเข และสีเหลืองจากเปลือกมะพูดผสมกัน ใส่สารส้ม เพื่อให้สีสว่าง ได้เป็นสีเหลืองทอง - การย้อมมัดหมี่ต้องรีบย้อม รีบยกขึ้นให้พ้นน ้าย้อม และท าอย่างต่อเนื่อง สีจะได้สม ่าเสมอ - น ้าย้อมสีต้องเดือดจัด - สังเกตสีน ้าย้อม ถ้าน ้าย้อมสีใส แสดงว่ามัดหมี่ดูดสีเรียบร้อยแล้ว - ล้างด้วยน ้าด่างเป็นขั้นตอนสุดท้าย จะช่วยให้สีแดงกลับมาเข้มเหมือนเดิม ทมี่าข้อมูล : ครูสุรโชติตามเจริญ จังหวัดสุรินทร์


Click to View FlipBook Version