41 4.2 ผลการวิเคราะห์เชิงคุณภาพ สำหรับข้อมูลเชิงคุณภาพ ผู้วิจัยได้ดำเนินการเก็บข้อมูลโดยใช้การสัมภาษณ์เชิงลึก การประชุมแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญที่เป็นตัวแทนกลุ่มนักศึกษา ผู้ซึ่งได้รับการประชาสัมพันธ์จากมหาวิทยาลัยราชภัฏ หมู่บ้านจอมบึง เพื่อค้นหาคำตอบเกี่ยวกับจุดเด่นและจุดด้อยของสื่อประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏ หมู่บ้านจอมบึง และแนวทางในการพัฒนาพัฒนาการให้บริการให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในวัตถุประสงค์สำคัญ ของการศึกษาครั้งนี้ ทั้งนี้รายละเอียดผลการศึกษาปรากฏ ดังนี้ 4.2.1 สื่อต่างๆที่มีบทบาทประชาสัมพันธ์ข้อมูล/ข่าวสาร/งาน/กิจกรรมอื่นๆของมหาวิทยาลัยราชภัฏ หมู่บ้านจอมบึง นักศึกษาคิดว่าเป็นประโยชน์อย่างไรต่อตนเอง และในด้านใดได้บ้าง ความคิดเห็นที่หนึ่ง “ได้รับรู้ข่าวสารสำคัญที่ทางมหาวิทยาลัยแจ้ง รวมไปถึงกิจกรรมต่างๆ ใน มหาวิทยาลัย ทำให้ตัวผมได้มีโอกาสที่จะเข้าร่วมกิจกรรมที่สนใจได้มากยิ่งขึ้นและสามารถหาประสบการณ์ความรู้ ต่างๆ ได้กับการเข้าร่วมกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็น 1.ด้านการศึกษา การจัดอบรมกิจกรรมต่าง ๆ เช่น - กิจกรรม Exit Exam 2.ด้านการมีมนุษยสัมพันธ์การจัดกิจกรรมที่ต้องเข้า ร่วมกับนักศึกษาหลายคณะหลายสาขา เช่น - กิจกรรมประกวดนักศึกษาต้นแบบ - กิจกรรมของชมรมต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัย 3.ด้านจิตอาสา กิจกรรมที่ให้ความช่วยเหลือกสถานที่ต่าง ๆ ทั้งในและนอกมหาวิทยาลัย - กิจกรรมปลูกป่านอกสถานที่ - กิจกรรมรับบริจาคเพื่อมูลนิธิเด็กกำพร้า ” ความคิดเห็นที่สอง “ทำให้เราเข้าใจข้อมูลเเละกิจกรรมต่างๆที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนด ในด้านต่างๆ เช่น กิจกรรมวันสำคัญ หรือ ข้อมูลสำคัญต่างๆ” ความคิดเห็นที่สาม “สื่อต่างๆทั้งสื่อประชาสัมพันธ์ สื่อข่าวสารรวมถึงสื่อเพื่อการรณรงค์ ทุกๆสื่อในรั้ว สถาบันทั้งสื่อภายใน และภายนอก เปรียบเสมือนแรงขับเคลื่อนที่สามารถพัฒนาตัวนักศึกษาและมหาวิทยาลัยให้มี ความก้าวหน้า มีความสำคัญต่อนักศึกษาและองค์กรในสถานศึกษาเป็นอย่างยิ่ง ทั้งในด้านการชี้แจงข่าวสาร เพื่อ อำนวยความสะดวก เพราะนอกจากสื่อเหล่านี้จะสามารถแจ้งข่าวสารประชาสัมพันธ์แก่นักศึกษาแล้ว ยังเป็น ช่องทางในการให้นักศึกษาได้มีบทบาทและสะท้อนความต้องการเกี่ยวกับงานนั้นๆ สามารถตรวจสอบความสนใจ ความสามารถของนักศึกษาในการพัฒนากิจกรรมโครงการดีๆออกมาเพื่อจุดประสงค์ในการพัฒนาองค์กรให้ดี ยิ่งขึ้น”
42 ความคิดเห็นที่สี่ “มีประโยชน์ต่อตนเองเป็นอย่างมาก เพราะเป็นศูนย์กระจายข่าวสารได้อย่างดีเยี่ยม และ นักศึกษาส่วนใหญ่มักจะได้รับข่าวสารจากทางเพจกองพัฒนา หรือ เพจของทางมหาวิทยาลัย ดังนั้นสื่อเหล่านี้จึงมี อิทธิพลอย่างมากทั้งทางด้านกิจกรรมนักศึกษา และด้านวิชาการ” ความคิดเห็นที่ห้า “สามารถรับรู้ข่าวสารได้ง่ายจากการอยู่ที่บ้าน เเละสามาขาข้อมูลด่วยตนเอง การใช้ ชิวิตได้ง่ายมากขึ้น ในด้านการเดินทาง การขอข้อมูล เเละการการติดต่อสื่อสาร” ความคิดเห็นที่หก “การประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง โดยใช้สื่อชนิดต่าง ๆ มี ประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน ได้แก่ 1.ด้านการตัดสินใจและแก้ปัญหา คือ การที่นักศึกษาได้รับรู้ข่าวสารงานกิจกรรมต่าง ๆ ที่ถูกต้อง รวดเร็ว(รู้ล่วงหน้าหลาย ๆ วัน) ก็จะทำให้นักศึกษาสามารถจัดการกับตัวเองเพื่อที่จะวางแผนการต่าง ๆ (การ เดินทาง,การเข้าร่วมกิจกรรม) อันจะทำให้สิ่งที่มหาวิทยาลัยต้องการสื่อสารมีประสิทธิภาพสูงสุด 2.ด้านการติดต่อสื่อสาร คือ การที่ได้ทราบข้อมูลข่าวสารจากสื่อเหล่านี้จะทำให้นักศึกษาที่เกิด ปัญหา สามารถที่จะติดต่อกับทางมหาวิทยาลัยอย่างได้ทันท่วงที และ 3.ด้านการเรียน การทำงานและการพัฒนา คือ การที่นักศึกษาทราบข้อมูลประชาสัมพันธ์จากสื่อ ที่หลากหลายของมหาวิทยาลัยนี้ อันจะทำให้นักศึกษาสามารถนำตัวอย่างการประชาสัมพันธ์เหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ ได้ในอนาคต.” ความคิดเห็นที่เจ็ด “ทำให้ติดตามข่าวสารได้ไวขึ้นและสะดวกรวดเร็ว ด้านการจัดเวลา นัดหมายนักศึกษา ในการอบรม ด้านกิจกรรมจิตอาสาต่างๆ ที่นักศึกษาทุกชั้นปีสามารถเข้าร่วมได้” ความคิดเห็นที่แปด “เป็นประโยชน์ต่อตัวดิฉันในเรื่องของการรับข้อมูลข่าวสารที่ทำให้ดิฉันและนักศึกษา คนอื่นๆได้ทราบว่าในมหาวิทยาลัยของเรามีข่าวสารสำคัญๆอะไรเพื่อที่ดิฉันและคนอื่นๆจะได้รู้ทันข่าวสารของ มหาวิทยาลัย และเป็นประโยชน์ในด้าน การรับข้อมูลข่าวสารเพื่อที่จะได้ตามข่าวสารของมหาวิทยาลัยได้ทันและ ทราบถึงข่าวสารต่างๆของมหาวิทยาลัย” ความคิดเห็นที่เก้า “สื่อต่างๆจะช่วยทำให้เนื้อหาของการประชาสัมพันธ์มีความน่าสนใจ มีลูกเล่นที่ดีทำให้ น่ามอง และช่วยทำให้เข้าใจเนื้อหามากขึ้น ทำให้สื่อสารออกมาได้ดี ผู้รับสาร สามารถรับสารได้อย่างดี มีประโยชน์ ทั้งด้านการเรียน คือ จะทำให้เข้าใจเนื้อหามากขึ้น เรียนรู้ได้ดีขึ้น และประโยชน์ด้านกิจกรรม ที่สื่อเข้ามาช่วยทำให้ กิจกรรมต่างๆมีความน่าสนใจ” ความคิดเห็นที่สิบ “ทำให้ทราบถึง กิจกรรม ต่างๆที่จะเกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย ทำให้สามารถมีการเตรียม ตัวเพื่อเตรียมความพร้อมได้ล่วงหน้า” ความคิดเห็นที่สิบเอ็ด “สามารถติดตามข่าวสารได้ง่ายขึ้น รู้ทันทุกข่าวสารที่ทางมหาวิทยาลัยประกาศ” ความคิดเห็นที่สิบสอง “เป็นประโยชน์ต่อต่อตัวดิฉันในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกิจกรรมที่ต้องเข้าร่วม ของมหาวิทยาลัย เรื่องการกู้กยศ. เพื่อเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและส่งตรงเวลาที่ทางมหาลัยกำหนด หากไม่มี
43 ด้านประชาสัมพันธ์เรื่องกยศ ดิฉันคงพลาดข้อมูลข่าวสารหลายๆอย่าง และเนื่องจากดิฉันเรียนอยู่ที่ศูนย์ในเมือง ซึ่ง การจะทราบได้นั้นก็มาจากการประชาสัมพันธ์ทางสื่อออนไลน์ค่ะ” ความคิดเห็นที่สิบสาม “ทำให้ทราบถึงกิจกรรมที่ต้องเข้าร่วมของมหาวิทยาลัย ทำให้ทราบถึง กิจกรรม ต่างๆ” ความคิดเห็นที่สิบสี่ “ทำให้ติดตามข่าวสารได้ไวขึ้นและสะดวกรวดเร็ว รู้ถึงการจัดกิจกรรมต่างๆ” ความคิดเห็นที่สิบห้า “ทำให้สามารถมีการเตรียมตัวเพื่อเตรียมความพร้อมได้ล่วงหน้าทำให้ทราบถึง กิจกรรมที่ต้องเข้าร่วมของมหาวิทยาลัย” ความคิดเห็นที่สิบหก “ทำให้เราเข้าใจข้อมูลเเละกิจกรรมต่างๆที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนด” ความคิดเห็นที่สิบเจ็ด “เป็นประโยชน์ในเรื่องของสิทธิที่ผมจะได้รับและทราบข้อมูลสำคัญต่างๆใน มหาวิทยาลัย และในด้านต่างๆ เช่น ด้านกิจกรรม ผมได้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆได้ทันทุกกิจกรรมเพราะได้รับ ข่าวสารกิจกรรมจากเพจประชาสัมพันธ์” สรุปผลด้านความคิดเห็นการรู้ข้อมูลข่าวสารจากสื่อประชาสัมพันธ์ ข้อมูลการประชาสัมพันธ์โดยภาพรวมยังถือว่าอยู่ในระดับที่ดี โดยผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ให้ความคิด เห็นว่าสื่อประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยให้ข้อมูลได้ครบถ้วน และนักศึกษาได้รับข้อมูลอย่างทั่วถึง 4.2.2 นักศึกษาคิดว่า สื่อประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยควรมีลักษณะการนำเสนอออกมาในรูปแบบ ใดถึงจะมีนักศึกษาให้ความสนใจมากขึ้นและทั่วถึง ความคิดเห็นที่หนึ่ง “ควรนำเสนอสื่อประชาสัมพันธ์อย่างไรให้มีความน่าสนใจ ปัจจุบันโลกได้มีการ พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ คนยุคใหม่ให้ความสนใจกับโซเชียวมีเดียมากขึ้น ควรใช่โอกาสทางโซเชียว ให้เกินประโยชน์มาก ยิ่งขึ้น จัดทำการนำเสนอ ข้อมูล ข่าวสาร ในรูปแบบใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ข่าวสารราชการสำคัญควรนำเสนอออกมา ในรูปแบบราชการไม่ควรเปลี่ยนแปลง แต่ข่าวสารที่เกี่ยวกับกิจกรรมของนักศึกษา ควรจัดหารูปแบบการนำเสนอที่ ทันสมัย การใช้คำสื่อความหมายของกิจกรรมที่ดูตื่นตาตื่นใจ หรือการนำเสนอผลดีของกิจกรรมที่นักศึกษาจะได้สิ่ง เหล่านี้คือการสร้างแรงจูงใจที่จะทำให้นักศึกษาสนใจข้อมูล ข่าวสาร รวมไปถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทางมหาวิทยาลัย ได้แจ้ง และจะทำให้เกิดผลดีทั้งสองผ่านทั้งตัวนักศึกษาเอก และการประสบความสำเร็จของทางมหาวิทยาลัย” ความคิดเห็นที่สอง “รูปแบบ infographic เพราะมีความทันสมัยละน่าดึงดูด” ความคิดเห็นที่สาม “สื่อการประชาสัมพันธ์ควรมีลักษณะที่น่าอ่าน กระชับ ชัดเจน ไม่เยิ่นเย้อหรือซับซ้อน มีหัวข้อการประชาสัมพันธ์ที่สอดคล้องและครอบคลุมเนื้อหา และประชาสัมพันธ์ในระยะเวลาที่เหมาะสมไม่กระชั้น ชิด หรือยาวนานเกินไป ประชาสัมพันธ์ลงบนแพลตฟอร์มที่สะดวกและเข้าถึงง่าย”
44 ความคิดเห็นที่สี่ “คิดว่าสื่อควรมีลักษณะที่น่าเชื่อถือ มีการนำเสนอที่โดดเด่น ไม่จำเจ อัพเดทและทันสมัย เสมอ และนักศึกษาสามารถพูดคุยหรือเข้าถึงง่าย” ความคิดเห็นที่ห้า “การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์เเละปรับการประชาสัมพันธ์ไห้เข้ากับยุคสมัยมาก ขึ้นเเละสามารถเข้าถึงได้ง่ายไม่ซับซ้อนมากจนเกินไป” ความคิดเห็นที่หก “การประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร งานกิจกรรมต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย หากจะ ต้องการให้มีคนสนใจเข้ามาชมและเผยแพร่ได้อย่างทั่วถึง มหาวิทยาลัยต้องประชาสัมพันธ์ในสื่อโซเชียลมีเดีย ที่เข้า มามีบทบาทในสังคมไทยในตอนนี้ ที่เห็นได้ชัดและคิดว่านักศึกษา 98% ต้องมี TikTok ในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเรา อาจจะใช้ช่องทางนี้ในการประชาสัมพันธ์ ร่วมกับแพลตฟอร์มอื่นด้วย เช่น Facebook , Instagram , website , line open chat เป็นต้น และสำหรับการนำเสนอข้อมูลอาจจะต้องเป็นแบบคลิปวิดีโอสั้น ๆ (ตรงประเด็นสำคัญที่ ต้องการจะสื่อสาร) หรือ โปสเตอร์ (สวยงามตรงประเด็นตัวหนังสือไม่เยอะเกินไป).” ความคิดเห็นที่เจ็ด “การทำรูปแบบการนำเสนอสื่อที่มีความน่าสนใจ ใช้คำศัพท์สมัยใหม่ และ โปสเตอร์มี ลูกเล่นที่ดึงดูดความน่าสนใจ” ความคิดเห็นที่แปด “ทำในรูปแบบอินโฟกราฟฟิกเพราะทำให้เข้าใจได้สั้นกระชับแล้งทำให้เห็นถึงภาพรวม อีกด้วยและยังทำให้สื่อน่าสนใจด้วยการมีภาพมาประกอบคำบรรยาย” ความคิดเห็นที่เก้า “ควรเป็นการประชาสัมพันธ์ที่ทันต่อเหตุการณ์ รับรู้ได้อย่างรวดเร็ว สามารถมองเห็น และสามารถได้ยินได้ด้วย เพื่อนักศึกษาจะได้รับรู้ข่าวสารหลายช่องทาง สื่อที่จะนำเสนอต้องมีสีสันสดใส มีรูปภาพ น่ารักเหมาะกับช่วงวัย สามารถมองเห็นได้ชัดเจน” ความคิดเห็นที่สิบ “มีเนื้อหาใจความ ที่อ่านแล้วเข้าใจและทราบถึงสิ่งที่จะประชาสัมพันธ์อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์ในระบบออนไลน์ สามารถติดตามและรับรู้ได้อย่างทั่วถึงมากกว่าการทำสื่อเป็น เอกสารหรือกระดาษ” ความคิดเห็นที่สิบเอ็ด “มีการติดป้ายแบบสร้างสรรค์ ตามจุดต่างๆ เพื่อดึงดูดความสุดใจของนักศึกษา ติดตามอาคารจุดเด่น ๆของที่นักศึกษา ชอบไปอย่างเช่นโรงอาหาร ใต้ตึกอำนวยการ ค่ะ” ความคิดเห็นที่สิบสอง “ต้องมีความชัดเจน และเข้าใจง่าย ทันสมัย อาจจะทำเป็นวิดีโอที่น่าสนใจ content ที่น่าสนใจ หรืออาจจะเสริมโดยการใช้เพลงที่กำลังฮิตหรือเป็นกระแส เพราะสมัยนี้ต้องทำให้เข้าใจง่าย ทันสมัยและน่าสนใจ และตัวหนังสือไม่ควรเยอะเกินไป ควรเน้นแค่ส่วนที่สำคัญๆค่ะ” ความคิดเห็นที่สิบสาม “มีเนื้อหาใจความ ที่อ่านแล้วเข้าใจและทราบถึงสิ่งที่จะประชาสัมพันธ์อย่าง ชัดเจน” ความคิดเห็นที่สิบสี่ “ปรับการประชาสัมพันธ์ไห้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้นเเละสามารถเข้าถึงได้ง่ายไม่ซับซ้อน มากจนเกินไป”
45 ความคิดเห็นที่สิบห้า “มีการนำเสนอที่โดดเด่น ไม่จำเจ อัพเดทและทันสมัยเสมอ และนักศึกษาสามารถ พูดคุยหรือเข้าถึงง่าย” ความคิดเห็นที่สิบหก “ สร้างสรรค์มีการนำเสนอที่โดดเด่น ไม่ซับซ้อนใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ” ความคิดเห็นที่สิบเจ็ด “ควรมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในการทำสื่อเพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลต่างๆ ข้อมูล ควรมีความกระชับ อ่านง่าย เข้าใจได้ แต่มีความละเอียดอยู่ด้วยครบองค์ประกอบสื่อประชาสัมพันธ์สร้างสรรค์” สรุปแนวทางการปรับปรุงการรับรู้สื่อประชาสัมพันธ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง 1. แก้ไขรูปแบบการนำเสนอสื่อให้มีความน่าสนใจมากขึ้น 2. ปรับปรุงด้านการประชาสัมพันธ์ให้มีระยะเวลาที่เหมาะสม 3. การนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วย 4. ปรับปรุงเรื่องการประชาสัมพันธ์ในเรื่องต่าง ๆ ให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ชัดเจนมากขึ้น
46 บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ การวิจัยเรื่อง การรับรู้สื่อประชาสัมพันธ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ผู้วิจัยตั้ง วัตถุประสงค์ไว้ 4 ประการ คือ (1) เพื่อศึกษาถึงการรับรู้ข่าวสารจากสื่อประชาสัมพันธ์ของนักศึกษา มหาวิทยาลัย ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง (2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการรับรู้ข่าวสารจากสื่อประชาสัมพันธ์ของนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง (3) เพื่อศึกษาถึงการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของนักศึกษามีความสัมพันธ์กับสื่อ ประชาสัมพันธ์ของ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง (4) เพื่อเสนอแนวทางในการรับรู้ข่าวสารและการเข้าถึงสื่อ ประชาสัมพันธ์ของ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ในการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม/แบบสัมภาษณ์กับกลุ่มตัวอย่างวิจัยเชิง คุณภาพและกลุ่มตัวอย่างวิจัยเชิงปริมาณ ในการวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยได้ดำเนินการวิเคราะห์และนำเสนอ เป็น ตอน ๆ เพื่อตอบวัตถุประสงค์ของการวิจัย ดังนี้ 5.1 สรุปผลการวิจัย 5.2 อภิปรายผลการวิจัย 5.3 ข้อเสนอแนะจากการวิจัย 5.1 สรุปผลการวิจัย ผลการวิจัยเชิงปริมาณ 5.1.1 การวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม สรุปได้ว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่พบว่าเป็นนักศึกษาเพศหญิง กลุ่มอายุ21 ปีศึกษาอยู่คณะ มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ชั้นปีที่ 3 พักอาศัยอยู่หอนอกและเดินทางโดย รถส่วนตัว รับข่าวสารผ่านเพจ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง 5.1.2 การวิเคราะห์ข้อมูลความรู้ความเข้าใจของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงต่อสื่อ ประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง การวิเคราะห์ข้อมูลความรู้ความเข้าใจของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงต่อสื่อ ประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงพบว่า ความคิดเห็นความรู้ความเข้าใจของนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงต่อสื่อประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงโดยรวมอยู่ใน ระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านการเปิดรับที่มีค่าสูงสุด และด้านความรู้ความเข้าใจมีค่าต่ำ ตามลำดับ การเปิดรับ พบว่า ความคิดเห็นการเข้าใจสื่อประชาสัมพันธ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้าน จอมบึง โดยรวมด้านการเปิดรับสื่ออยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่ 1 นักศึกษาคิดว่าสื่อ
47 ประชาสัมพันธ์มีความเหมาะสมมีค่าสูงที่สุดรองลงมาเป็นข้อที่ 2 นักศึกษาเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของมหาวิทยาลัย ลำดับถัดมาคือข้อที่ 3 สาระสำคัญของสื่อประชาสัมพันธ์มีความน่าสนใจ และข้อที่ 4 สื่อประชาสัมพันธ์สามารถ ดึงดูดให้นักศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมมีค่าน้อยที่สุด ตามลำดับ ความรู้ความเข้าใจ พบว่า ความคิดเห็นการเข้าใจสื่อประชาสัมพันธ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏ หมู่บ้านจอมบึง โดยรวมด้านความรู้ความเข้าใจอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่ 3 สาระของ สื่อประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยสามารถทำให้เรานำข้อมูลไปบอกเพื่อนให้รับรู้มีค่าสูงที่สุด รองลงมาเป็นข้อที่ 1 สื่อประชาสัมพันธ์สามารถให้ข้อมูลได้ชัดเจนและข้อที่ 9 ท่านรู้สถานที่ตั้งหน่วยงานประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัย หรือไม่มีค่าต่ำที่สุดตามลำดับ 5.1.3 การวิเคราะห์ปัจจัยส่วนบุคคลมีผลต่อความรู้ความเข้าใจของนักศึกษาต่อสื่อประชาสัมพันธ์ของ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ผู้วิจัยได้ตั้งสมมติฐานการวิจัยไว้ว่านักศึกษาที่ปัจจัยส่วนบุคคลมีผลต่อความรู้ความเข้าใจของนักศึกษาต่อ สื่อประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงที่มีเพศ อายุ คณะ ระดับชั้นปี ที่พักอาศัย การเดินทาง ช่องทางการรับสื่อ ของนักศึกษามีความคิดเห็นต่อความรู้ความเข้าใจของนักศึกษาต่อสื่อประชาสัมพันธ์ของ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงแตกต่างกัน หากพิจารณาเป็นรายด้านจะพบว่า เพศ พบว่า กลุ่มตัวอย่างทั้งเพศชาย เพศหญิง และเพศทางเลือกมีความเห็นว่าความรู้ความเข้าใจของ นักศึกษาต่อสื่อประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงแตกต่างกันจำแนกตามเพศโดยภาพรวมกลุ่ม ตัวอย่างที่มีเพศที่แตกต่างกันมีความเห็นที่ไม่แตกต่างกัน ซึ่งไม่เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ อายุพบว่า กลุ่มตัวอย่างทั้งอายุต่ำกว่า 18 ปีอายุ 19 ปี อายุ 20 ปี อายุ 21 ปี และอายุ 22 ปี มีความเห็น ว่าความรู้ความเข้าใจของนักศึกษาต่อสื่อประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงแตกต่างกันจำแนก ตามอายุโดยภาพรวมกลุ่มตัวอย่างที่มีอายุที่แตกต่างกันมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ คณะ พบว่า กลุ่มตัวอย่างทั้งคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์คณะวิทยาการจัดการ คณะเทคโนโลยี อุตสาหกรรม คณะครุศาสตร์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีความเห็นว่าความรู้ความเข้าใจของนักศึกษาต่อ สื่อประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงแตกต่างกันจำแนกตามคณะโดยภาพรวมกลุ่ม ตัวอย่างที่มีคณะที่แตกต่างกันมีความเห็นที่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่ง เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ชั้นปีพบว่า กลุ่มตัวอย่างทั้งชั้นปีที่ 1 ชั้นปีที่ 2 ชั้นปีที่ 3 และชั้นปีที่ 4 มีความเห็นว่าความรู้ความเข้าใจ ของนักศึกษาต่อสื่อประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงแตกต่างกันจำแนกตามชั้นปีโดย ภาพรวมกลุ่มตัวอย่างที่มีชั้นปีที่แตกต่างกันมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่ง เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
48 ที่พักอาศัย กลุ่มตัวอย่างทั้งนักศึกษาที่พักอาศัยอยู่หอพักนอก และหอพักใน มีความเห็นว่าความรู้ความ เข้าใจของนักศึกษาต่อสื่อประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงแตกต่างกันจำแนกตามที่พักอาศัย โดยภาพรวมกลุ่มตัวอย่างที่มีที่พักอาศัยแตกต่างกันมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ การเดินทาง กลุ่มตัวอย่างทั้งนักศึกษาที่เดินทางด้วยรถส่วนตัว และรถประจำทาง มีความเห็นว่าความรู้ ความเข้าใจของนักศึกษาต่อสื่อประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงแตกต่างกันจำแนกตามการ เดินทางโดยภาพรวมกลุ่มตัวอย่างที่มีที่การเดินทางแตกต่างกันมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .01 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ช่องทางรับสื่อประชาสัมพันธ์กลุ่มตัวอย่างทั้งนักศึกษาที่รับสื่อประชาสัมพันธ์จาก ป้ายโฆษณา แผ่นพับ/ ใบปลิว/โปสเตอร์เพจมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง และช่องทางอื่นๆ มีความเห็นว่าความรู้ความเข้าใจของ นักศึกษาต่อสื่อประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงแตกต่างกันจำแนกตามช่องทางที่ใช้รับสื่อ ประชาสัมพันธ์โดยภาพรวมกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ช่องทางในการรับสื่อประชาสัมพันธ์แตกต่างกันมีความเห็นที่แตกต่าง กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ผลการวิจัยเชิงคุณภาพ สำหรับข้อมูลเชิงคุณภาพ ผู้วิจัยได้ดำเนินการเก็บข้อมูลโดยใช้การสัมภาษณ์เชิงลึก การประชุม แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญที่เป็นตัวแทนกลุ่มนักศึกษา ผู้ซึ่งได้รับการประชาสัมพันธ์จาก มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง เพื่อค้นหาคำตอบเกี่ยวกับจุดเด่นและจุดด้อยของสื่อประชาสัมพันธ์ของ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง และแนวทางในการพัฒนาพัฒนาการให้บริการให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งใน วัตถุประสงค์สำคัญของการศึกษาครั้งนี้ ทั้งนี้รายละเอียดผลการศึกษาปรากฏ ดังนี้ 1. สื่อต่างๆที่มีบทบาทประชาสัมพันธ์ข้อมูล/ข่าวสาร/งาน/กิจกรรมอื่นๆของมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้าน จอมบึง นักศึกษาคิดว่าเป็นประโยชน์อย่างไรต่อตนเอง และในด้านใดได้บ้าง สรุปผลด้านความคิดเห็นการรู้ข้อมูลข่าวสารจากสื่อประชาสัมพันธ์ ข้อมูลการประชาสัมพันธ์โดยภาพรวมยังถือว่าอยู่ในระดับที่ดี โดยผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ให้ ความคิดเห็นว่าสื่อประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยให้ข้อมูลได้ครบถ้วน และนักศึกษาได้รับข้อมูลอย่างทั่วถึง 2.นักศึกษาคิดว่า สื่อประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยควรมีลักษณะการนำเสนอออกมาในรูปแบบใดถึงจะ มีนักศึกษาให้ความสนใจมากขึ้นและทั่วถึง สรุปแนวทางการปรับปรุงการรับรู้สื่อประชาสัมพันธ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง 1. แก้ไขรูปแบบการนำเสนอสื่อให้มีความน่าสนใจมากขึ้น
49 2. ปรับปรุงด้านการประชาสัมพันธ์ให้มีระยะเวลาที่เหมาะสม 3. การนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วย 4. ปรับปรุงเรื่องการประชาสัมพันธ์ในเรื่องต่าง ๆ ให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ชัดเจนมากขึ้น 5.2 อภิปรายผลการวิจัย การวิเคราะห์ข้อมูลความรู้ความเข้าใจของนักศึกษาต่อสื่อประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้าน จอมบึงพบว่า การเข้าใจสื่อประชาสัมพันธ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงโดยรวมอยู่ในระดับ มาก (̅= 3.82, S.D. = 0.673) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านการเปิดรับ (̅= 3.90, S.D. = 0.727) รองลงมาเป็นด้านความรู้ความเข้าใจมีค่าต่ำที่สุด (̅=3.75, S.D. =0.710) ตามลำดับ ซึ่งผลการศึกษาในครั้งนี้ สอดคล้องกับ สุนิทรา วงศ์แสนสุข (2561) ได้ศึกษาเรื่อง " สื่อประชาสัมพันธ์ที่มีผลต่อกระบวนการ เปิดรับสื่อ" ผลการวิจัยพบว่า (1) ระดับพฤติกรรมการรับรู้ข่าวสารภายในองค์กรของกลุ่มตัวอย่าง 500คน พบว่าช่องทางการประชาสัมพันธ์ที่กลุ่มตัวอย่างทราบมากที่สุดคือ เว็บไซต์/เฟสบุ๊ก/ไลน์ คิดเป็นร้อยละ 39.77 ช่องทางการประชาสัมพันธ์ประเภทเว็บไซต์/เฟสบุ๊ก/ไลน์ มีกลุ่มตัวอย่างเข้า ไปติดตามมากที่สุดคือ ร้อยละ 85.32 บอร์ดประชาสัมพันธ์หน้าลิฟต์ได้รับความสนใจจากกลุ่ม ตัวอย่างมากที่สุดคือ ร้อยละ 34.84 ความถี่ในการอ่านสื่อประชาสัมพันธ์ของกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ จะติดตามข่าวสารทุกวัน อยู่ที่ร้อยละ 52.20 และได้รับประโยชน์จากสื่อประชาสัมพันธ์ในด้านการ เรียนการสอนมากที่สุด คือร้อยละ 35.19 และช่วงเวลาที่กลุ่มตัวอย่างเข้าไปติดตามมากที่สุดคือ ช่วงเวลา 08.00-12.00 น. คิดเป็นร้อยละ 28.65 (2) ระดับความพึงพอใจต่อสื่อประชาสัมพันธ์ ภายในองค์กร พบว่าความพึงพอใจต่อช่องทางในการประชาสัมพันธ์ มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.96ส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐาน อยู่ที่ 0.54 ระดับความพึงพอใจมาก ความพึงพอใจต่อประโยชน์ที่ได้รับค่าเฉลี่ย รวมอยู่ที่ 3.90 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.72 มีระดับความพึงพอใจมาก ส่วนความพึงพอใจต่อ เนื้อหาของสื่อประชาสัมพันธ์มีค่าเฉลี่ย 3.94 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.72 มีระดับความพึงพอใจ มาก และแนวคิดที่กล่าวมาข้างต้น ผู้ศึกษาได้นำมาเป็นแนวทางในการศึกษางานวิจัยเรื่องการรับรู้ ข่าวสาร จากสื่อประชาสัมพันธ์ ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ตามวัตถุประสงค์ ของงานวิจัยในด้านต่างๆเพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาสื่อประชาสัมพันธ์ต่อไป การวิเคราะห์ข้อมูลความรู้ความเข้าใจของนักศึกษาต่อสื่อประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้าน จอมบึงพบว่า การเข้าใจสื่อประชาสัมพันธ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงโดยรวมอยู่ในระดับ มาก (̅= 3.82, S.D. = 0.673) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านการเปิดรับ (̅= 3.90, S.D. = 0.727) รองลงมาเป็นด้านความรู้ความเข้าใจมีค่าต่ำที่สุด (̅=3.75, S.D. =0.710) ตามลำดับ ซึ่งผลการศึกษาในครั้งนี้ สอดคล้อง สุไบ ซะจานงลักษณ์(2561) ได้ศึกษาเรื่อง "พฤติกรรม การ รับ รู้ ข่าวสาร และความพึง พอใจต่อสื่อ
50 ประชาสัมพันธ์ภายในองค์กร คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลธัญบุรี ผลการวิจัยพบว่า (1) ระดับพฤติกรรมการรับรู้ข่าวสารภายในองค์กรของกลุ่มตัวอย่าง 500 คน พบว่าช่องทางการ ประชาสัมพันธ์ที่กลุ่มตัวอย่างทราบมากที่สุดคือ เว็บไซต์/เฟสบุ๊ก/ไลน์ คิดเป็นร้อยละ 39.77 ช่องทางการ ประชาสัมพันธ์ ประเภทเว็บไซต์/เฟสบุ๊ก/ไลน์ มีกลุ่มตัวอย่างเข้าไปติดตามมากที่สุด คือ ร้อยละ 85.32 บอร์ด ประชาสัมพันธ์หน้าลิฟต์ได้รับความสนใจจากกลุ่มตัวอย่างมากที่สุด คือ ร้อยละ 34.84 ความถี่ในการอ่านสื่อ ประชาสัมพันธ์ของกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่จะติดตามข่าวสารทุกวัน อยู่ที่ร้อยละ 52.20 และได้รับประโยชน์จากสื่อ ประชาสัมพันธ์ในด้านการเรียนการสอนมากที่สุด คือร้อยละ 35.19 และช่วงเวลาที่กลุ่มตัวอย่างเข้าไปติดตามมาก ที่สุดคือ ช่วงเวลา 08.00-12.00 น. คิดเป็นร้อยละ 28.65 (2) ระดับความพึงพอใจต่อสื่อประชาสัมพันธ์ภายใน องค์กร พบว่าความพึงพอใจต่อช่องทางในการประชาสัมพันธ์ มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.96ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน อยู่ที่ 0.54 ระดับความพึงพอใจมาก ความพึงพอใจต่อประโยชน์ที่ได้รับ ค่าเฉลี่ยรวมอยู่ที่ 3.90 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.72 มีระดับความพึงพอใจมาก ส่วนความพึงพอใจต่อเนื้อหาของสื่อประชาสัมพันธ์ มีค่าเฉลี่ย 3.94 ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน 0.72 มีระดับความพึงพอใจมาก การวิเคราะห์ข้อมูลความรู้ความเข้าใจของนักศึกษาต่อสื่อประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้าน จอมบึงพบว่า การเข้าใจสื่อประชาสัมพันธ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงโดยรวมอยู่ในระดับ มาก (̅= 3.82, S.D. = 0.673) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านการเปิดรับ (̅= 3.90, S.D. = 0.727) รองลงมาเป็นด้านความรู้ความเข้าใจมีค่าต่ำที่สุด (̅=3.75, S.D. =0.710) ตามลำดับ ฉันทนา ปาปัดถา. (2561). ได้ศึกษาเรื่อง "การรับรู้ข่าวสารผ่านสื่อ ประชาสัมพันธ์ ของ นักศึกษาคณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร" ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษาส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 51.67 และสาขาวิชา เทคโนโลยีมัลติมีเดีย ร้อยละ 47.00 นักศึกษามีการรับรู้ข่าวสารผ่านสื่อประชาสัมพันธ์อยู่ในระดับมาก โดยรับรู้ ข่าวสารจากสื่อบุคคลสื่อโฆษณา และจากสื่อสิ่งพิมพ์ และนักศึกษามีการเปิดรับข่าวสารผ่านสื่อประชาสัมพันธ์อยู่ ในระดับมาก ซึ่งสามารถเข้าถึงสื่อประชาสัมพันธ์ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และเนื้อหามีประโยชน์ 5.3 ข้อเสนอแนะจากการวิจัย 5.3.1 ข้อเสนอแนะที่ได้จากการศึกษาวิจัย การเปิดรับ จุบันโลกได้มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ คนยุคใหม่ให้ความสนใจกับโซเชียลมีเดียมากขึ้น ควรใช่โอกาสทางโซเชียล ให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้น จัดทำการนำเสนอ ข้อมูล ข่าวสาร ในรูปแบบใหม่ ๆ ที่ น่าสนใจ ควรจัดหารูปแบบการนำเสนอที่ทันสมัย การใช้คำสื่อความหมายของกิจกรรมที่ดูตื่นตาตื่นใจ หรือการ นำเสนอผลดีของกิจกรรมที่นักศึกษาจะได้สิ่งเหล่านี้คือการสร้างแรงจูงใจที่จะทำให้นักศึกษาสนใจข้อมูล ข่าวสาร รวมไปถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทางมหาวิทยาลัยได้แจ้ง
51 ความรู้ความเข้าใจ การประชาสัมพันธ์ควรจะประชาสัมพันธ์ก่อนที่กิจกรรมจะเริ่มอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ไม่ควรประชาสัมพันธ์ในระยะเวลาที่กระชั้นชิด เพราะจะทำให้ผู้ที่จะต้องร่วมกิจกรรมบริหารเวลาไม่ได้ และควรที่จะแน่ชัดทั้งเรื่องลักษณะของกิจกรรม เวลา และสถานที่ที่แน่นนอน และชัดเจน 5.3.2 ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย (1) มหาวิทยาลัยควรมีการเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้แสดงความสามารถ โดยการออกแบบสื่อ ประชาสัมพันธ์ในรูปแบบสร้างสรรค์ ในรูปแบบของการจัดประกวดสื่อสร้างสรรค์ (2) มหาวิทยาลัยควรมีการสร้างหรือออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์ที่ให้น่าสนใจ มีความแปลกใหม่ และข้อมูลมีความกระชับแต่เข้าถึงรายละเอียดของข้อมูลได้ง่าย (3) พัฒนารูปแบบการประชาสัมพันธ์ในสื่อต่างๆอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการอัปเดตข้อมูลเพจให้มี ความเคลื่อนไหวอยู่ตลอด เช่น เพจมหาวิทยาลัย ป้ายประชาสัมพันธ์ วิทยุกระจายเสียงของมหาวิทยาลัย 5.3.3 ข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติการ (1) ปรับให้มีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารไม่ให้มีความกระทันหันหรือล่าช้าจนเกินไป ข้อมูลมี ความชัดเจน เพื่อให้นักศึกษาได้รับข้อมูลอย่างละเอียดและสามารถเตรียมตัวได้ทันท่วงที (2) ปรับปรุงการทำสื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบของแอปพลิเคชัน แอปMCRU HUP ให้มีการอัป เดตข้อมูลและปรับปรุงแอปให้มีความรวดเร็วและเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น (3) ปรับปรุงให้มีการจัดระเบียบหน้าเว็ปไซต์ของมหาวิทยาลัยไม่ให้มีข้อมูลที่แทรกกันมาก จนเกินไป ควรปรับให้ข้อมูลมีความกระชับมากขึ้น 5.3.4 ข้อเสนอแนะในการศึกษาวิจัยครั้งต่อไป (1) ควรมีการศึกษาประเมินผลที่ได้จากงานวิจัยการศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อสื่อ ประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ที่ได้จากการศึกษาเพื่อจะเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงและ พัฒนาแนวทางต่อไป (2) ควรมีการศึกษาผลที่ได้รับจากการรับรู้ข่าวสารจากสื่อประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏ หมู่บ้านจอมบึงเพื่อจะได้นำผลที่ได้รับนั้นไปปรับปรุงแก้ไข (3) ควรมีการศึกษาเกี่ยวกับการรับรู้ข่าวสารจากสื่อประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏ หมู่บ้านจอมบึงให้มีความครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งจะได้นำเอาข้อมูลที่ได้รับนั้นไปปรับปรุงแก้ไขการให้บริการให้ดี ยิ่งขึ้น
ฌ บรรณานุกรม
52 บรรณานุกรม ปรเมศวร์ จรัสเมธากุล. (2563) การรับรู้สื่อประชาสัมพันธ์ของบุคลากรคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น. วิทยานิพนธ์ปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น ฉันทนา ปาปัดถา. (2018). การรับรู้ข่าวสารผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ของนักศึกษาของนักศึกษาคณะเทคโนโลยี สื่อสารมวลชนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร. วารสารนวัตกรรมการบริหารและการ จัดการ, 6(2), 10-15. นิติยา ชุ่มอภัย. (2019). การศึกษาการรับรู้ข่าวสารและความพึงพอใจต่อการประชาสัมพันธ์ของสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยขอนแก่น. Information-อินฟอร์เมชั่น, 26(2), 19-28. สุไบ ซะจานงลักษณ์. (2561) พฤติกรรมการรับรู้ข่าวสารและความพึงพอใจต่อสื่อประชาสัมพันธ์ภายในองค์กร คณะ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี. คณะวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ภาณุรุจ ไทรจำปา. (2018). กลยุทธ์การสื่อสารการตลาด ดิจิทัลผ่านแอพพลิเคชันไลน์แอดของธุรกิจประเภท ร้านอาหารกรณีศึกษาร้าน Four Boys Oysters. รายงานการประชุม Graduate School Conference (Vol. 1, No. 1, pp. 799-806). สุกัญญา บูรณเดชาชัย. (2557). กระบวนการสร้างนวัตกรรมการสื่อสารเพื่อ เตรียมความพร้อมของประชาชน ในภาคตะวันออกในการเป็นประเทศประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน. มหาวิทยาลัยบูรพาชลบุรี. อรทัย หมื่นภิรมย์. (2014). พฤติกรรมการเปิดรับสื่อของผู้ที่อาศัยอยู่คนเดียวในเขตกรุงเทพมหานครและ ปริมณฑล. ปริญญาการจัดการมหาบัณฑิตวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล Taya, K., & Ngamsantivongsa, P. (2022). การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือในการ แบ่งปัน และการจัดการความรู้ในองค์กร. Defence Technology Academic Journal, 3(9), 4-15. วลีรัตน์ ใจสูงเนิน. (2551). การศึกษาการรับรู้ และการจดจำโฆษณาแฝงประเภทน้ำแร่ในละครซิทคอมของ กลุ่ม Generation X. (Doctoral dissertation, มหาวิทยาลัยมหิดล). 36 อรุณชาติ วงษ์ทับทิม. (2547). การศึกษาการเข้าร่วม และการรับรู้ข้อมูลข่าวสารประเภทกิจกรรมด้านการ แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมกับความพึงพอใจต่อปัจจัยด้านความสัมพันธ์ของประชาชน. นิเทศ ศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพ. กุลภรณ์ หงส์ทอง. (2550). การศึกษาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ประโยชน์การรับรู้ความสะดวกใน การ ใช้งานการรับรู้ทัศนคติในการใช้งาน. (Doctoral dissertation, มหาวิทยาลัยมหิดล).
53 ภริตพร สังข์สะนา. (2014). ศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารจากสื่อ ประชาสัมพันธ์ของนักศึกษาระดับปริญญาตรีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระ นครเหนือและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี. หน้า 154-161
54 ภาคผนวก
55 ภาคผนวก ก. แบบสอบถามการวิจัย
56 แบบสอบถาม การรับรู้สื่อประชาสัมพันธ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง คำชี้แจง 1. แบบสอบถามนี้จัดทำขึ้นเพื่อทราบความคิดเห็นและความรู้ความเข้าใจของนักศึกษามหาวิทยาลัยราช ภัฏหมู่บ้านจอมบึง ท่านเป็นบุคคลหนึ่งที่ได้รับเลือกเป็นผู้ตอบแบบสอบถาม กรุณาตอบตามความเป็นจริง และ ตอบให้ครบทุกข้อ คำตอบของท่านจะเป็นประโยชน์ในการศึกษาวิจัย เพื่อนำผลมาใช้ในการพัฒนาการจัดทำสื่อ ประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงต่อไปให้มีประสิทธิภาพ 2. ข้อมูลที่ได้จากท่านจะได้รับกรรักษาไว้เป็นความลับ ฉะนั้นแบบสอบถามทุกชุดจะไม่ระบุชื่อผู้ตอบ แบบสอบถาม และจะไม่ส่งผลต่อผู้ตอบแบบสอบถามแต่ประการใด การวิเคราะห์ข้อมูลและเสนอผลงานผู้ศึกษาจะ ทำในภาพรวม 3. แบบสอบถามฉบับนี้แบ่งออกเป็น 4 ตอน ดังนี้ ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 ปัจจัยด้านการเปิดรับสื่อประชาสัมพันธ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ตอนที่ 3 ความรู้ความเข้าใจของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงต่อสื่อประชาสัมพันธ์ของ นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ตอนที่ 4 ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม 4. ขอความกรุณาตอบแบบสอบถามทุกข้อตามความคิดเห็นของท่านตามความเป็นจริง เพื่อให้ข้อมูลที่ ได้รับเกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคมและผู้เกี่ยวข้อง คณะผู้วิจัย นักศึกษาสาขารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง
57 ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม คำขี้แจง เขียนเครื่องหมาย ลงใน ( ) ที่ตรงกับความเป็นจริง 1. เพศ ( ) เพศชาย ( ) เพศหญิง ( ) เพศทางเลือก 2. อายุ ( ) ต่ำกว่า 18 ปี ( ) 19 ปี ( ) 20 ปี ( ) 21 ปี ( ) 22 ปี ( ) มากกว่า 22 ปี 3. ระดับชั้นปี ( ) ชั้นปีที่ 1 ( ) ชั้นปีที่ 2 ( ) ขั้นปีที่ 3 ( ) ขั้นปีที่ 4 4. คณะ ( ) มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ( )วิทยาการจัดการ ( ) เทคโนโลยีอุตสาหกรรม ( ) วิทยาลัยมวยไทยและการแพทย์แผนไทย ( ) ครุศาสตร์ ( ) วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 5. ที่พักอาศัย ( ) หอพักนอก ( ) หอพักใน 6. การเดินทาง ( ) รถส่วนตัว ( ) รถประจำทาง 7. ช่องทางในการรับรู้สื่อ ( ) ป้ายโฆษณา ( ) เพจมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ( ) แผ่นพับ/ใบปลิว/โปสเตอร์ ( ) อื่น ๆ
58 ตอนที่ 2 การรับรู้ข่าวสารของนักศึกษาจากสื่อประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง คำชี้แจง ให้ท่านเลือกประเด็นต่างๆ ในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารจากสื่อประชาสัมพันธ์ของนักศึกษาอยู่ในระดับใด โดยให้ท่านทำเครื่องหมาย √ ลงในช่องว่าง ให้ตรงกับความเห็นของท่าน ลำดับที่ การเข้าใจสื่อประชาสัมพันธ์ของ นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้าน จอมบึง ระดับความคิดเห็น มากที่สุด มาก ป า น กลาง น้อย น้อย ที่สุด การเปิดรับสื่อ นักศึกษาคิดว่าสื่อประชาสัมพันธ์มีความเหมาะสม นักศึกษาเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของมหาวิทยาลัย สาระสำคัญของสื่อประชาสัมพันธ์มีความน่าสนใจ สื่อประชาสัมพันธ์สามารถดึงดูดให้นักศึกษาเข้า ร่วมกิจกรรม ความรู้ความเข้าใจ สื่อประชาสัมพันธ์สามารถให้ข้อมูลได้ชัดเจน เนื้อหาสื่อประชาสัมพันธ์ช่วยเสริมการเรียนและ การทำกิจกรรม สาระของสื่อประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัย สามารถทำให้เรานำข้อมูลไปบอกเพื่อนให้รับรู้ ประสิทธิภาพของสื่อประชาสัมพันธ์ ( การเข้าถึง เนื้อหาชัดเจน ) ถ้าท่านเห็นป้ายประชาสัมพันธ์จะยืนอ่านหรือไม่ ท่านจะเข้าไปตรวจเช็คข้อมูลใน Facebook หรือไม่ มีการถามข้อมูลข่าวสารจากเพื่อนบ่อยครั้ง เมื่อท่านมีปัญหาท่านเคยได้ติดต่อหน่วยงาน ประชาสัมพันธ์โดยตรงหรือไม่ ท่านรู้สถานที่ตั้งหน่วยงานประชาสัมพันธ์ของ มหาวิทยาลัยหรือไม่
59 ตอนที่ 4 ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................. ...................................... .................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ........... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ขอบพระคุณอย่างสูง ในความอนุเคราะห์ตอบแบบสอบถามนี้เป็นอย่างดี
60 ภาคผนวก ข. แบบสัมภาษณ์เชิงลึก
61 แบบสัมภาษณ์เพื่อการวิจัย การรับรู้สื่อประชาสัมพันธ์ของนักศึกษาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง คำชี้แจง 1. แบบสอบถามนี้จัดทำขึ้นเพื่อทราบความคิดเห็นและความรู้ความเข้าใจของนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ท่านเป็นบุคคลหนึ่งที่ได้รับเลือกเป็นผู้ตอบแบบสอบถาม กรุณาตอบตามความ เป็นจริง และตอบให้ครบทุกข้อ คำตอบของท่านจะเป็นประโยชน์ในการศึกษาวิจัย เพื่อนำผลมาใช้ใ นการ พัฒนาการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงต่อไปให้มีประสิทธิภาพ 2. ข้อมูลที่ได้จากท่านจะได้รับกรรักษาไว้เป็นความลับ ฉะนั้นแบบสอบถามทุกชุดจะไม่ระบุชื่อผู้ตอบ แบบสอบถาม และจะไม่ส่งผลต่อผู้ตอบแบบสอบถามแต่ประการใด การวิเคราะห์ข้อมูลและเสนอผลงานผู้ศึกษาจะ ทำในภาพรวม 3. แบบสอบถามฉบับนี้แบ่งออกเป็น 4 ตอน ดังนี้ ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 ความรู้ความเข้าใจของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงต่อสื่อประชาสัมพันธ์ของ นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ตอนที่ 3 ปัจจัยด้านการเปิดรับสื่อประชาสัมพันธ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ตอนที่ 4 ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม 4. ขอความกรุณาตอบแบบสอบถามทุกข้อตามความคิดเห็นของท่านตามความเป็นจริง เพื่อให้ข้อมูลที่ ได้รับเกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคมและผู้เกี่ยวข้อง คณะผู้วิจัย นักศึกษาสาขารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง
62 ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสัมภาษณ์ ชื่อ-นามสกุล.............................................................................................อายุ...............ปี ชั้นปีที่...............คณะ...................................…………………………………………………………………………………… วัน เวลา สถานที่ ในการสัมภาษณ์............................................................................................................ ตอนที่ 2 ความรู้ความเข้าใจของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงต่อสื่อประชาสัมพันธ์ของนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง 1. สื่อต่างๆที่มีบทบาทประชาสัมพันธ์ข้อมูล/ข่าวสาร/งาน/กิจกรรมอื่นๆของมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง นักศึกษาคิดว่าเป็นประโยชน์อย่างไรต่อตนเอง และในด้านใดได้บ้าง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………........................................................ .................................................................................................................................................................................... ตอนที่3 ปัจจัยด้านการเปิดรับสื่อประชาสัมพันธ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง 1. นักศึกษาคิดว่า สื่อประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยควรมีลักษณะการนำเสนอออกมาในรูปแบบใดถึงจะมี นักศึกษาให้ความสนใจมากขึ้นและทั่วถึง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………........................................................ ....................................................................................................................................................................................
63 ตอนที่4 ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม .................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... .............. ........................................................................................................................................................ ............................ .................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... .............. .................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... .............. ขอขอบพระคุณอย่างสูง ในความอนุเคราะห์ตอบแบบสอบถามนี้เป็นอย่างดี
64 รายชื่อผู้ให้สัมภาษณ์ การศึกษาวิจัยเรื่อง การรับรู้สื่อประชาสัมพันธ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง โดยผู้ให้ ข้อมูลสำคัญในการสัมภาษณ์เชิงลึก (in-depth interview) สำหรับการเก็บข้อมูลได้เก็บข้อมูลจากนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรีภาคปกติชั้นปีที่ 1-5 จำนวน 17 คน โดย แบ่งตามสัดส่วนคณะต่างๆ 5 คณะ คณะละ 3-4 คน ดังนี้ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ 1. นายอนุวัตร บุญพริ้ง สาขาวิชาภาษาไทย ปี 2 2. นางสาวทับทิม ทองแสง สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ ปี 3 3. นางสาวพัณณวดี รัศมิทัต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ ปี 1 4. นายพุฒิพงศ์ จุ้ยนิ่ม สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ ปี 1 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1. นางสาวสุพรรษา พลสิมมา สาขาวิชาวิทย์ทั่วไป ปี 2 2. นางสาวภัทรวดี โพธิ์ศรี สาขาวิชาเคมี ปี 2 3. นายบุลกิต อัตสิทธิ์ สาขาวิชาวิทย์ทั่วไป ปี3 4. นางสาววิมลพรรณ มีทอง สาขาวิชาวิทย์ทั่วไป ปี 3 คณะคุรุศาสตร์ 1. นางสาวพรพวิษญ์ ขจรกีรติกุล สาขาวิชาปฐมวัย ปี 3 2. นางสาวอสมา เจน สาขาวิชาภาษาอังกฤษ ปี 3 3. นางสาวกัญญารัตน์ พุ่มสุวรรณ สาขาวิชาปฐมวัย ปี3 คณะเทคโนโลยีอุตสาหากรรม 1. นายธีรภัทร อนุศาสตร์สัง สาขาวิชาไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิก ปี 3 2. นางสาวฐาปนี ทองรอง สาขาวิชาอาชีวะอนามัย ปี 3 3. นายเสนีย์ เกตสม สาขาวิชาเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ปี 3 คณะวิทยาการจัดการ 1. นางสาวอารียา ถิ่นโพธิ์วงศ์ สาขาวิชาบัญชี ปี3 2. นางสาว ธิดารัตน์ยอดครู สาขาวิชาบัญชี ปี 1 3. นายกิตติธัช พงศ์ทอง สาขาวิชานิเทศศาสตร์ ปี 1
65 ภาพการลงพื้นที่สัมภาษณ์
66
67 ภาคผนวก ค ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) แบบสอบถามจากความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ รายนามผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบแบบสอบถาม
68 ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) แบบสอบถามจากความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ส่วนที่ 1 ค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบสอบถามวิจัยการรับรู้สื่อประชาสัมพันธ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราช ภัฏหมู่บ้านจอมบึง หัวข้อ คะแนนความคิดเห็นของ ผู้เชี่ยวชาญ ค่า IOC แปลผล คนที่1 คนที่2 คนที่3 ด้านการเปิดรับสื่อ นักศึกษาคิดว่าสื่อประชาสัมพันธ์มีความเหมาะสม +1 +1 +1 1 ใช้ได้ นักศึกษาเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของมหาวิทยาลัย +1 +1 +1 1 ใช้ได้ สาระสำคัญของสื่อประชาสัมพันธ์มีความน่าสนใจ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ สื่อประชาสัมพันธ์สามารถดึงดูดให้นักศึกษาเข้า ร่วมกิจกรรม +1 +1 +1 1 ใช้ได้ ด้านความรู้ความเข้าใจ สื่อประชาสัมพันธ์สามารถให้ข้อมูลได้ชัดเจน +0 +1 +1 0.67 ใช้ได้ เนื้อหาสื่อประชาสัมพันธ์ช่วยเสริมการเรียนและ การทำกิจกรรม +0 +1 +1 0.67 ใช้ได้ สาระของสื่อประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัย สามารถทำให้เรานำข้อมูลไปบอกเพื่อนให้รับรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ ประสิทธิภาพของสื่อประชาสัมพันธ์ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ ถ้าท่านเห็นป้ายประชาสัมพันธ์จะยืนอ่านหรือไม่ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ ท่านจะเข้าไปตรวจเช็คข้อมูลใน Facebook หรือไม่ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ มีการถามข้อมูลข่าวสารจากเพื่อนบ่อยครั้ง +1 +1 +1 1 ใช้ได้ เมื่อท่านมีปัญหาท่านเคยได้ติดต่อหน่วยงาน ประชาสัมพันธ์โดยตรงหรือไม่ +0 +1 +1 0.67 ใช้ได้ ท่านรู้สถานที่ตั้งหน่วยงานประชาสัมพันธ์ของ มหาวิทยาลัยหรือไม่ +1 +1 +0 0.67 ใช้ได้
69 รายนามผู้เชี่ยวชาญ 1. อาจารย์ วชิรวัชร งามละม่อม อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง 2. อาจารย์ วัลภา รัศมีโชติ รองฝ่ายวิชาการ อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง 3. อาจารย์ ดร. ยุทธจักร งามขจิต ประธานสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
70 ประวัติผู้วิจัย ชื่อ –นามสกุล นาย อติวิชญ์ ทัด วัน เดือน ปีที่เกิด เกิด 17 กุมภาพันธ์2545 สถานที่เกิด จังหวัดกาญจนบุรี ที่อยู่ปัจจุบัน อยู่ บ้านเลขที่ 90/2 หมู่7 ตำบลวังศาลา อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี 71110 ประวัติการศึกษา ระดับประถมศึกษา โรงเรียนบ้านหนองสะแก ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนท่าม่วงราษฎรบำรุง ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนท่าม่วงราษฎรบำรุง กำลังศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษา ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ชื่อ –นามสกุล นาย ธนวรรศ เรืองเทศ วัน เดือน ปีที่เกิด เกิด 23 กรกฎาคม 2544 สถานที่เกิด จังหวัดกาญจนบุรี ที่อยู่ปัจจุบัน อยู่ บ้านเลขที่124 หมู่14 ตำบลหนองตากยา อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี71110 ประวัติการศึกษา ระดับประถมศึกษา โรงเรียนดิศกุล ระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนหนองตากยาตั้งวิริยะราษฎร์บำรุง ระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนท่าม่วงราษฎร์บำรุง กำลังศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษา ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ชื่อ –นามสกุล นาย โสภณ บุตรพิมพ์ วัน เดือน ปีที่เกิด เกิด 1 มิถุนายน 2544 สถานที่เกิด จังหวัดกาญจนบุรี ที่อยู่ปัจจุบัน อยู่ บ้านเลขที่23/3 หมู่ 5 ตำบลพังตรุ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี71110 ประวัติการศึกษา ระดับประถมศึกษา โรงเรียนบ้านรางสะเดา
71 ระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนท่าม่วงราษฎร์บํารุง ระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนท่าม่วงราษฎร์บํารุง กำลังศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษา ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
72