เทคนิคการเข ี ยนขา ่ ว และจัดท าภาพข ่ าวเพื่ อการประชาสัมพันธ์ โดย กลุ ่ มนโยบายและวิชาการ ส านักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนษุย์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
1 CHAPTER 1 เทคนิคการเขียนข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์ ความหมายของ ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าว คือ การรายงานข้อเท็จจริงหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้ น ตลอดจนความคิดเห็นจากบุคคลในระดับ ต่าง ๆ ซึ่งมีความส าคัญและเป็นที่น่าสนใจ อันมีผลกระทบต่อคนหมู่มากในชุมชนหรือสังคม ข่าวประชาสัมพันธ์คือ ข่าวสารซึ่งองค์กรจัดท าขึ้ น เพื่อจัดส่งแจกจ่ายสู่หนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนอื่น ๆ โดยจัดพิมพ์ในรูปของเอกสารข่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อให้หนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนอื่น ๆ น าไปเผยแพร่ สู่ประชาชนเพื่อให้ประชาชนได้ทราบและเข้าใจในหน่วยงาน ตลอดจนเพื่อให้เกิดการยอมรับและภาพลักษณ์ ที่ดีข่าวประชาสัมพันธ์มักเป็นข่าวที่เกี่ยวข้องกับ ▪ นโยบาย โครงการ ▪ กิจกรรมการด าเนินงาน ▪ ผลการปฏิบัติงาน ▪ ความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ขององค์กร ประเภทของข่าวประชาสัมพันธ์ ▪ ข่าวแจ้งให้ทราบ (Announcement Release) ▪ เช่น แจ้งนโยบาย การด าเนินงาน การเปิดสาขา และแนะน าผลิตภัณฑ์ใหม่ ฯลฯ ▪ เป็นการแจ้งให้ทราบรายละเอียดต่าง ๆ ของสิ่งที่เกิดขึ้ นหรือที่จะมีขึ้ น ▪ ข่าวกิจกรรมพิเศษทางการประชาสัมพันธ์ (Event Release) ▪ เช่น จัดคอนเสิร์ต แรลลี่การกุศล ข่าวกิจกรรม/โครงการรณรงค์เพื่อสังคมต่าง ๆ ฯลฯ ▪ เป็นการสร้างให้มีสีสัน ดึงดูดความสนใจ และมุ่งให้เกิดความนิยมต่อองค์กร 1 2
2 ข่าวเหตุการณ์เร่งด่วน (Spot News Release) ▪ เช่น เกิดเหตุเครื่องบินขัดข้องไม่สามารถเดินทางตามก าหนดได้ ฯลฯ ▪ เป็นการแจ้งให้ประชาชนได้ทราบอย่างรวดเร็ว ไม่เน้นเสนอรายละเอียดมาก ▪ ข่าวตอบโต้เหตุการณ์ (Response News Release) ▪ เช่น ข่าวลือเกี่ยวกับการขาดทุน ข่าวความขัดแย้งภายในองค์กร ฯลฯ ▪ เป็นการชี้ แจ้งรายละเอียดด้วยเหตุผลที่น่าเชื่อถือ ในประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ความแตกต่างระหว่างข่าวประชาสัมพันธ์VS ข่าวทั ่วไป ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวทั ่วไป - จุดมุ่งหมายของการ เผยแพร่ข่าว เพื่อเผยแพร่ข่าวสารขององค์กร เป็นหลัก มุ่งถ่ายทอดข้อเท็จจริงและสาระ ความรู้ที่เป็ นสาธารณชนเป็ นส าคัญ - ทิศทางของผลที่คาดว่า จะเกิดข้ึน คาดหวังผลด้านดีต่อองค์กรเสมอ อาจให้ผลด้านดีและด้านไม่ดีแก่ บุคคลหรือองค์กรก็ได้ - ลักษณะของแหล่งข่าว หรือการได้ข่าว นักPRจะส่งข่าวให้สื่อมวลชน หรือ เชิญสื่อร่วมฟังการแถลงข่าว นักข่าวต้องแสวงหาข้อมูลข่าวสาร ด้วยตนเอง วัตถุประสงค์ของการเขียนข่าวประชาสัมพันธ์ 1. เพื่อให้คนทั่วไปเกิดการยอมรับองค์กร 2. เพื่อบอกเล่าเหตุการณ์ต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนรับทราบ 3. เพื่อแก้ไขข่าวลือ ข่าวร้าย และป้องกันข่าวต่าง ๆ ที่ไม่ดีขององค์กร 4. เพื่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร 5. เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนภายในและภายนอกองค์กร 6. เพื่อสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ขององค์กร 3 2
3 หลกัการเขียนข่าวเบ้ืองตน้ การเขียนข่าวสารที่จะประชาสัมพันธ์หรือสารที่จะสื่อออกไปยังสื่อมวลชนหรือประชาชน จะต้องมี รายละเอียดที่จะตอบค าถามว่า ใคร? ท าอะไร? ท าเมื่อไหร่? ท าที่ไหน? ท าท าไม? และท าอย่างไร? หรือที่เรียกกันว่า ใช้หลัก 5 W + 1 H ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ ปัญหาหรือสาเหตทุี่เกิดข้ึน - เกิดอะไรขึ้ นบ้าง - มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ - หลักฐานที่ส าคัญที่สุด คืออะไร - สาเหตุที่ท าให้เกิดเหตุการณ์นี้ คืออะไร สถานที่หรือต าแหน่งที่เกิดเหตุ - เรื่องนี้ เกิดขึ้ นที่ไหน - เหตุการณ์นี้ น่าจะเกิดขึ้ นที่ใดมากที่สุด เวลาที่เหตุการณน์้ันเกิดข้ึน หรือจะเกิดข้ึน - เหตุการณ์นี้ น่าจะเกิดขึ้ นเมื่อไหร่ - เวลาใดบ้างที่สถานการณ์เช่นนี้ จะเกิดขึ้ น สาเหตุหรือมูลเหตุที่ท าให้เกิดข้ึน - ท าไมต้องเป็ นคนนี้ เวลานี้ สถานที่นี้ - เพราะเหตุใดเหตุการณ์นี้ จึงเกิดขึ้ น - ท าไมจึงเกิดเรื่องนี้ ขึ้ น บุคคลที่เกี่ยวขอ้งท้งัทางตรงและทางอ้อม - ใครอยู่ในเหตุการณ์บ้าง - ใครน่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ - ใครน่าจะท าให้สถานการณ์นี้ เกิดขึ้ นมากที่สุด - เหตุการณ์นี้ ใครได้ประโยชน์ เสียประโยชน์ รายละเอียดของสิ่งที่เกิดข้ึนหรือก าลังเกิด - เขาท าสิ่งนั้นได้อย่างไร - ล าดับเหตุการณ์นี้ ดูว่าเกิดขึ้ นได้อย่างไร
4 โครงสร้างของข่าวประกอบด้วย 1. พาดหัวข่าว (Headline) ข้อความสั้น คม กระตุ้นความสนใจของผู้รับสาร 2. ความน า (Lead) ข้อความส าคัญครบถ้วน แต่ไม่มีรายละเอียด 3. เน้ือข่าว (Body หรือ Contents) เพิ่มเติมรายละเอียดตามล าดับความส าคั ข้นัตอนในการเขียนข่าว 1. ศึกษา หาข้อมูล รวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุด 2. ต้องมีการร่างเนื้ อหาคร่าวๆ ก าหนดหัวข้อที่จะเขียน เลือกประเด็นหลักๆมาใช้ในการเขียน 3. เขียนข่าวโดยใช้รูปแบบการเขียนข่าวต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น 4. จัดรูปแบบ ตรวจทานการเขียนหลายๆรอบ โดยเฉพาะเรื่องของการใช้ภาษาในการเขียน ควรสะกด ให้ถูกต้อง 5. อ่านทบทวนอีกครั้งหรือให้ผู้อื่นช่วยอ่าน เพื่อให้ได้มาซึ่งข่าวที่สมบูรณ์ ครบถ้วน รูปแบบและโครงสร้างของข่าวประชาสัมพันธ์ การเขียนข่าวประชาสัมพันธ์ใช้หลักการเขียนข่าวเช่นเดียวกับข่าวทั่วไป โดยมีวิธีการเขียน 3 รูปแบบ ได้แก่ การเขียนข่าวแบบพีระมิดหัวกลับ การเขียนข่าวแบบพีระมิดหัวตั้ง และการเขียนข่าวแบบผสม รูปแบบการเขียนข่าวในปัจจุบัน นิยมเขียนข่าวแบบปี รามิดหัวกลับ - การเขียนข่าวตามโครงสร้างแบบปี รามิดหัวกลับ เป็ นการน าเสนอข่าวโดยล าดับประเด็นส าคัญจาก มากไปหาน้อย ซึ่งสอดคล้องกับธรรมชาติของมนุษย์ ในการอยากรู้อยากเห็นสิ่งส าคัญก่อน ส่วนรายละเอียดไว้ทีหลัง ประกอบด้วย ข่าวพาดหัว วรรคน า ส่วนเชื่อม และส่วนของเนื้ อเรื่อง Headline Lead Body
5 การเขียนข่าวแจกแบบพีระมิดหัวกลับ โครงสร้างของการเขียนข่าวแจก สามารถแบ่งออกเป็น 5 ส่วน คือ 1. พาดหัวข่าว (Headline) เป็ นส่วนส าคัญ ที่เรียกร้องความสนใจให้ผู้อ่านติดตามอ่านข่าวนั้นต่อไป และช่วยให้รู้ว่าข่าวนั้นมี ประเด็นอะไรน่าสนใจ ลักษณะของพาดหัวข่าวที่ดี คือ ควรสั้น กระชับ เข้าใจง่ายและตรงจุด 2. ความน า หรือ โปรย (Lead) เป็ นส่วนที่เขียนขึ้ นในย่อหน้าแรกของข่าว เป็ นข้อความที่เป็ นเนื้ อข่าวโดยย่อทั้งหมดว่าใคร ท าอะไร ที่ไหน เพราะเหตุใดหรือท าไม และอย่างไร (5Ws+1H) 3. ส่วนเชื่อม (Neck) เป็ นส่วนเชื่อมข้อความระหว่างความน ากับเนื้ อหาที่ต่อเนื่องกัน เพื่อให้รายละเอียดเพิ่มเติมหรือให้ เข้าใจเรื่องราวได้กระจ่างยิ่งขึ้ น เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับที่มาหรือภูมิหลังของเหตุการณ์ 4. เน้ือหาข่าว (Body) เป็ นส่วนที่ให้เนื้ อหารายละเอียดของเรื่องราวทั้งหมด การน าเสนอเนื้ อหาข่าวมักจะเสนอตามล าดับ ความส าคัญของเรื่องราว จากส าคัญสุดไปถึงส าคัญน้อยที่สุด หรืออาจจ าเสนอข่าวตามล าดับเวลาหรือ เหตุการณ์ก็ได้ 1.5 สรุป (Conclusion) ส่วนท้ายของข่าวแจกอาจจะมีการสรุปไว้ก็ได้ อาจจะเป็ นจุดใดจุดหนึ่งของข่าว หรือเขียนย ้าข้อเท็จจริง เด่น ๆ ที่ได้เสนอไปแล้วก็ได้ ข้อดีของการเสนอข่าวรูปแบบพีระมิดหัวกลับ ✓สะดวกในการอ่าน ✓สะดวกแก่การท างานของบรรณาธิการข่าว ✓สะดวกในการจัดหน้าหรือเข้าหน้าหนังสือพิมพ์
6 ข้อควรระวังในการเขียนข่าวประชาสัมพันธ์ 1. ชื่อและนามสกุลต้องสะกดให้ถูกต้อง เพราะว่าถ้าผิดพลาดอาจกลายเป็ นคนละบุคคลหรือเกิดความ เสียหายได้ 2. ยศต าแหน่งต้องระบุให้ตรงกับความเป็ นจริงขณะนั้น 3. คา น าหน้าชื่อและบรรดาศกัด์ิตอ้งระบุเรียงลา ดบัใหถู้กตอ้ง 4. การใช้อักษรย่อหรือตัวย่อต่าง ๆ ควรตรวจสอบให้ดี 5. ไม่สอดแทรกความคิดเห็นส่วนตัวเข้าไป 6. การเขียนตัวเลขถ้ามีจ านวนมากอาจใช้ตัวอักษรแทน ถ้าไม่ใช่ตัวเลขที่แน่นอนควรใช้ค าว่าประมาณ 7. หลีกเลี่ยงการใช้ศัพท์เทคนิคที่เข้าใจยาก ลักษณะของข่าวประชาสัมพันธ์ที่ดี 1. เขียนในรูปแบบปิรามิดหัวกลับ 2. เป็นข้อเท็จจริง ตรงไปตรงมา 3. พาดหัวข่าว ระบุเรื่องราวโดยตรง มีความยาวไม่เกิน 1 ประโยค 4. วรรคน า ระบุข้อมูลส าคัญให้ชัดเจน 5. แต่ละย่อหน้าต้องสั้นกระชับ 6. เนื้ อหาข่าวควรจบใน 1 หน้า 7. หลีกเลี่ยงการกล่าวเกินความจริงเพื่อสร้างภาพ 8. อธิบายให้ชัดเจนไม่คลุมเครือ
7 CHAPTER 2 เทคนิคการจัดท าภาพข ่ าวเพื่อการประชาสัมพันธ์ ความหมายของภาพข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์ คือ ภาพถ่ายที่ช่วยให้ข่าวมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้ น เพราะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจเนื้ อหา รายละเอียดของ เรื่องรวมทั้งนิยมชมชอบต่อบุคคลและหน่วยงานได้ดียิ่งขึ้ น ภาพถ่ายจึงเป็ นสื่อที่มีบทบาทส าคัญในการ ประชาสัมพันธ์การถ่ายภาพในงานประชาสัมพันธ์มีหลายรูปแบบหลายลักษณะ ซึ่งก็ขึ้ นอยู่กับว่าเรา ต้องการ สื่อความหมายอะไร หรือประชาสัมพันธ์ไปเพื่ออะไร เพื่อสร้างภาพลักษณ์องค์กร เพื่อโฆษณา สินค้า ผลิตภัณฑ์หรือบอกเล่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดในองค์กร ให้คนภายนอกได้รู้ โดยมีหลักง่ายๆ ดังนี้ 1.ภาพข่าวกิจกรรมองค์กร เรามักพบภาพลักษณะนี้ ในคอลัมน์ข่าวหนังสือพิมพ์ หรือวารสารภายในองค์กร บุคคลในภาพ ส่วนใหญ่มักเป็ นผู้บริหารระดับสูง ดังนั้น ขอแนะน าว่าการถ่ายภาพกิจกรรมขององค์กรช่างภาพควรรู้จัก หน้าตาของผู้บริหารรวมทั้งบุคคลส าคัญขององค์กรเป็ นอย่างดี และถ้าหากมีการเชิญสื่อมวลชนมาร่วมงาน เราควรให้การต้อนรับในฐานะเจ้าบ้านที่ดีคอยให้ความช่วยเหลือ อ านวยความสะดวกให้กับสื่อมวลชน เช่น บอกชื่อ ต าแหน่งของผู้บริหาร แนะน าว่ามีใครที่มาร่วมงานบ้าง และบอกก าหนดการของงานว่าจะมี อะไรบ้างการให้การต้อนรับที่ดีโดย การผูกมิตร ท าความรู้จักและแนะน าตัว จะช่วยลดความขัดแย้งใน ระหว่างถ่ายภาพลงได้บ้าง
8 2.ภาพโฆษณา เป็นภาพที่สื่อความหมายเพื่อต้องการสร้างแรงจูงใจ เช่น ภาพโฆษณาสินค้าหรือบริการต่าง ๆ การ ถ่ายภาพลักษณะนี้ ต้องใช้ความพิถีพิถันกับรายละเอียดและองค์ประกอบต่าง ๆ ของภาพ เช่น สถานที่ การ จัดแสงการจัดฉาก เพื่อให้ภาพถ่ายมีความสวยงามและสื่อความหมายชัดเจนและจูงใจ 3.ภาพงานพิธีการ สิ่งส าคัญในการถ่ายภาพงานพิธีการคือ ช่างภาพต้องรู้ก าหนดการ หรือล าดับขั้นตอนของงานเป็ น อย่างดี ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับพิธีการทางศาสนา หรือเกี่ยวข้องกับประเพณีวัฒนธรรมต่างๆ การถ่ายภาพ ก็จะด าเนินไปตามขั้นตอนของพิธี 4.การถ่ายภาพภาวะวิกฤติ ภาวะวิกฤติเป็ นภาวะที่สร้างความตึงเครียด เป็ นภาวะที่ไม่พึงปรารถนาให้เกิดขึ้ น ซึ่งเหตุการณ์อาจ มีความรุนแรงมากหรือน้อยก็ตามอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์หรือมีผลกระทบกับคนส่วนใหญ่ ในด้านการ ประชาสัมพันธ์การถ่ายภาพจะต้องใช้กลยุทธ์และวิธีการออกข่าวเชิงรุก และพยายามควบคุมข่าวให้เป็ นไป ในทิศทางเดียวกัน การถ่ายภาพควรบันทึกเรื่องราว เหตุการณ์หรือรายละเอียดต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด เมื่อถ่ายภาพมาแล้วจะต้องวางแผนการประชาสัมพันธ์โดยให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบก่อนน าไปเผ ยแพร่ วัตถุประสงค์ในการใช้ภาพเพื่อการประชาสัมพันธ์ เพื่อแนะน า เพื่อให้เกิดทัศนคติที่ดี เพื่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดี เพื่อให้เกิดความนิยม ความศรัทธา เพื่อแกไ้ขภาพพจนป์ัญหาที่เกิดข้ึน
9 แนวทางในการถ่ายภาพเพื่อการประชาสัมพันธ์ 1. ภาพบุคคล ▪ "ใคร" คือ คนส าคัญที่คุณต้องการเน้นให้เห็น ให้รู้จัก คนนั้นต้องเป็นจุดเด่นของภาพ ▪ บุคลิกภาพต้องออกมาดีที่สุด โดยส่วนเสริมคือ เครื่องแต่งกาย ท่าทาง ▪ การจัดท่า ไม่ควรจัดในท่านิ่งเฉย ▪ อาจมีบุคคลอื่นมาเสริมเพื่อขับเน้น แต่ต้องไม่มาบดบังความโดดเด่น ▪ อาจมีอุปกรณ์ประกอบ ที่ท าให้บุคคลนั้นมีภาพลักษณ์ที่โดดเด่นยิ่งขึ้ น ▪ ต้องท าให้คนที่เห็นภาพ แม้ไม่เคยรู้จัก แต่ก็รู้สึกชื่นชม ศรัทธา *ระวังอย่าให้ภาพที่บุคลิกไม่ดีออกมา เช่น ปรือตา หลับตา 2. ภาพสถานที่ ▪ "ที่ไหน" เป็นสิ่งส าคัญ จุดเด่นอยู่ที่ตัวสถานที่อย่างชัดเจนโดยอาจเน้นภูมิทัศน์ชื่อสถานที่ ▪ ต้องเลือกมุมกล้องเพื่อให้สถานที่ออกมาดูสง่างาม ยิ่งใหญ่ โดยใช้มุมต่า ▪ แสงเป็นสิ่งส าคัญ แสงเช้า เที่ยง เย็น กลางคืน ล้วนให้ความหมายและความรู้สึกที่แตกต่าง ▪ ความเรียบร้อย ความสะอาด เป็นเรื่องส าคัญ ▪ อาจใช้ภาพต้นไม้ดอกไม้ประกอบ และปิดแผลในภาพ 3. ภาพกิจกรรม ▪ “อะไรเกิดขึ้ น” คือหัวใจส าคัญ เป็นการเล่าเรื่องว่าเกิดอะไรขึ้ นในภาพ ▪ เน้นภาพหลายๆมุม หรือให้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้ น ▪ ท่าทางของบุคคลต่าง ๆ ต้องเสริมแต่ง ด้วยการโพสต์ท่าช่วย * ประชาสัมพันธ์= สร้างภาพลักษณ์ที่ดี
10 หลักการถ่ายภาพ - วีดีโองานประชาสมัพนัธต์อ้งมีองคป์ระกอบใหค้รบ ดงัน้ี ▪ กิจกรรมหลัก What-When-Why-HOW ▪ ภาพกลาง - ใกล้บุคคลส าคัญในกิจกรรม WHO ▪ ภาพสถานที่ (ป้าย) where ▪ ภาพหมู่ (หน้าป้าย backdrop) ▪ ภาพบรรยากาศ ถ่ายสิ่งของตกแต่งในงาน (ป้ายต่าง ๆ) ▪ ถ่ายบรรยากาศการ (ลงทะเบียน การเยี่ยมชม) ▪ ถ่ายคนมีส่วนร่วม (engagement) ▪ ถ่ายเก็บอารมณ์ของผู้คน (Candid) (จะท าให้ภาพมีชีวิต) เทคนิคการถ่ายภาพเบ้ืองตน้ ข้อที่ 1 การจัดวางองค์ประกอบ การจัดวางองค์ประกอบเป็ นส่วนส าคัญของการ ถ่ายภาพที่สามารถเรียนรู้ได้โดยไม่ต้องใช้กล้องเลย แต่ว่า เกือบทุกคนบนโลกนี้ สามารถเข้าถึงกล้องได้ผ่านทาง สมาร์ทโฟน จึงนับเป็ นเรื่องที่ดีที่จะเริ่มต้นจากจุดนี้ การ จัดวางที่ถูกต้องคือการที่มั่นใจว่า subjectหรือเป้าหมายที่ เป็ นจุดสนใจและส่วนประกอบอื่น ๆ ถูกจัดในทางที่จะท า ให้ผู้ที่มาดูนั้นเข้าใจในรูปภาพได้อย่างเหมาะสมตรงตาม วัตถุประสงค์
11 ข้อที่ 1 กฎสามส่วน (Rule of thirds) ให้แบ่งรูปถ่ายเป็ นสามส่วนทั้งในแนวตั้งและแนวนอน โดยจุดที่เส้นตัดกันคือจัดที่น่าสนใจ ถ้าเป็ น ภาพของคนก็ให้ดวงตาของคนๆนั้นอยู่ในบนจุดที่เส้นตัดกัน ซึ่งควรจะเป็ นแนวข้างบนของกรอบ ถ้าถ่ายรูป ทิวทัศน์ที่เป็นภูมิประเทศก็สามารถแบ่งแยกส่วนที่เป็ นโลกกับท้องฟ้าด้วยเส้นเหล่านี้ และวางจุดสนใจที่เป็ น เป้าหมาย (เช่นพระอาทิตย์ยามพลบค ่า) ไว้ในจุดที่เส้นตัดกัน นอกจากนี้ยังสามารถให้สมาร์ทโฟนโชว์grid หรือแผ่นรูปตระแกรงมาปิ ดทับเพื่อท าให้กระบวนการนั้นง่ายดายขึ้ น ซึ่งสามารถเปิ ดการใช้งานได้ บน DSLRs หรือ ระบบ Mirrorless (ไร้กระจก) ข้อที่ 3 หาสมมาตรในการจัดวาง ในการจัดวางองค์ประกอบแบบใดแบบหนึ่ง อาจลองจัด ให้อยู่ในรูปแบบที่สมมาตร อย่างไรก็ตามการจัดเรียงในรูปแบบ สมมาตรอาจดูไม่เรียบง่ายอย่างที่คิด ในประการแรกต้องวางเป้าหมายที่ต้องการโฟกัสไว้ตรง กลาง และให้แสงสว่างน าทางตาไปยังศูนย์กลางและทุก ๆ เส้น ในรูปต้องตรงและมีสมมาตรต่อกัน ซึ่งแน่นอนว่าต้องใช้ทั้งความ ใส่ใจในรายละเอียดและความเคยชินกับการท าให้ทุกสิ่งดูตรง และขนานต่อกันในกรอบการถ่ายรูป โดยอาจใช้กฎสามส่วนนั้น เป็ นแนวทางเบื้ องต้นในการจัดภาพอย่างเหมาะสมและมีสมดุล ต่อกันและกัน
12 ข้อที่ 4 เส้นน าหรือ Guiding/Leading Lines กฎนี้ สามารถใช้ร่วมกับกฎสามส่วนในข้อที่ 2 หรือ กฎ แห่งสมมาตรในข้อที่ 3 ได้ โดยเป้าหมาย คือให้เส้นเหล่านี้ (ไม่ ว่าจริงหรือเลียนแบบด้วยแสงและทริคต่าง ๆ) น าสายตาเราไปยัง จุดที่สนใจในรูป ซึ่งสามารถท าเทคนิคนี้ ไปใช้ได้ทั้งการถ่ายภาพ ทิวทัศน์และภาพคน อย่างไรก็ตาม ในรูปภาพคนนั้นควรจะเป็ น อะไรที่บาง ๆ อยู่เบื้ องหลัง ส่วนในภาพภูมิประเทศก็อาจท าให้มัน ดูเด่นชัดเพื่อแบ่งแยกพื้ นที่ได้ชัดเจน ข้อที่ 5 แสงของคุณ แสงนั้นเป็นส่วนส าคัญที่ขาดไม่ได้เลยในการถ่ายภาพ เพราะการถ่ายภาพนั้นก็คือการใช้แสงเพื่อจับ ภาพดังนั้นถ้าไม่มีแสงเราก็ถ่ายรูปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม คุณภาพและต าแหน่งของแสงก็เป็ นสิ่งที่มี ความส าคัญอย่างมากเช่นกัน เป้าหมายของการใช้แสงก็คือการเพิ่มความลึกให้กับรูป ท าให้มันดูน่ารื่นรมย์ ต่อสายตาและดึงเอาส่วนที่คุณต้องการโฟกัสให้โดดเด่นออกมา
13 เอกสารอ้างอิง มะลิ พันธุเมธา. (2562). การเขียนและการจัดท าข่าวประชาสัมพันธ์ทางหนังสือพิมพ์. สืบค้น 20 พฤษภาคม 2565. [ออนไลน์]. ได้จาก https://slideplayer.in.th/slide/16209172/ วรรณภา สุวรรณพงษ. (2563). การเขียนข่าวและจัดท าภาพข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์. สืบค้น 20 พฤษภาคม 2565. [ออนไลน์]. ได้จาก https://ga.kpru.ac.th/pdf/m012.pdf. สายทอง สุจริยาพงศ์พร. (ม.ป.ป.). การเขียนข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์. สืบค้น 20 พฤษภาคม 2565. [ออนไลน์]. ได้จาก http://www.chumphon2.mju.ac.th/km/?p=427 ส านักงานเลขานุการกรม กรมประมง. (2561). เทคนิคการเขียนข่าวและจัดท าภาพข่าวเพื่อการ ประชาสัมพันธ์. สืบค้น 20 พฤษภาคม 2565. [ออนไลน์]. ได้จาก https://www4.fisheries.go.th /local/file_document/20180531132710_1_file.pdf แหล่งรวมเทคนิคการถ่ายรูปสวย. (ม.ป.ป.). 9 เทคนิคเบื้ องต้นส าหรับผู้เริ่มถ่ายภาพ. สืบค้น 20 พฤษภาคม 2565. [ออนไลน์]. ได้จาก https://xn--n3ckubdzu4d7c1h.com/ Yochuwa Samarom. (2018). RULE OF THIRD กฎสามส่วน และ จุดตัดเก้าช่อง. สืบค้น 20 พฤษภาคม 2565. [ออนไลน์]. ได้จาก https://www.photoschoolthailand.com/basic-photography-therule-of-thirds/
ติดต่อเรา ส านักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ศาลากลางจังหวัด ชั้น 1 อาคาร 7 ชั้น ต าบลคลองสวนพลู อ าเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13000 http://ayutthaya.m-society.go.th/