Warfarin แก้ครั้งที่ 1 230765

Warfarin

ยาละลายลิ่มเลือด

วาร์ฟาริน : Warfarin

ยาต้านการแข็งตัวของเลือดชนิดรับประทาน
(Oral anti-coagulant)




ข้อบ่งใช้ที่สำคัญ

1.รักษาการเกิดลิ่มเลือดอุดตันใน
หลอดเลือดดำ

2.รักษาการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในปอด

3.ป้องกันลิ่มเลือดอุดตันจากโรคลิ้นหัวใจ
และภาวะหัวใจห้องบนสั่นพริ้ว

ขนาดที่ใช้




ควรตรวจสอบยาที่ได้รับทุกครั้งโดยดูสี ลักษณะเม็ดยา
และวิธีการรับประทานยา

การหักแบ่งเม็ดยา

1 เม็ด 3/4 เม็ด 1/2 เม็ด 1/4 เม็ด

(สามในสี่) (หนึ่งในสอง) (หนึ่งในสี่)

การออกฤทธิ์ของยา

ยาวาร์ฟารินเป็นยาต้านการแข็งตัวของเลือด โดยเข้าไป
ยับยั้งการทำงานของวิตามินเค ซึ่งวิตามินเคมีส่วนช่วยใน


กระบวนการแข็งตัวของเลือดส่งผลให้เลือดแข็งตัวช้าลง

ระยะเวลาที่ยาออกฤทธิ์

ยาวาร์ฟาริน จะอยู่ในกระแสเลือด 2-8
ชั่วโมงหลังรับประทาน

และระยะเวลาการออกฤทธิ์ของยาวาร์ฟาริน คือ
2-5 วัน โดยยาวาร์ฟาริน จะออกฤทธิ์สูงสุดหลัง

รับประทานยาประมาณ 5 วัน

การติดตามผลการรักษาของ
ยาวาร์ฟาริน

เนื่องจากยาวาร์ฟาริน มีค่าดัชนีในการรักษาแคบ
ดังนั้นจึงต้องมีการติดตามผลการรักษา
โดยใช้วิธีการตรวจ INR (international
normalized ratio)

ค่า INR ในผู้ที่ใช้ยาวาร์ฟารินที่ต้องการ คือ 2-3
ค่า INR ที่สูง >3 มีความเสี่ยงเลือดออกผิดปกติ
ค่าINRที่ต่ำ <2 มีความเสี่ยงลิ่มเลือดอุดตัน

ควรตรวจค่า INR บ่อยแค่ไหน

ควรตรวจเลือดทุกวัน จนกว่าระดับ INR จะ
อยู่ในช่วงที่ต้องการ

ถ้าอาการคงที่ ทิ้งระยะห่างในการตรวจเลือด
1-4 สัปดาห์/ครั้ง หรือ 1-3 เดือน/ครั้ง

แจ้งแพทย์ทุกครั้งถ้าพบอาการ
เลือดออกผิดปกติ

ข้อควรปฏิบัติในผู้ป่วยที่ได้รับยาวาร์ฟาริน

ขณะที่ผู้ป่วยรับประทานยาวาร์ฟารินควรปฏิบัติดังนี้


1.มาตรวจตามแพทย์นัด เพื่อตรวจค่า lNR และปรับยา

ตามคำสั่งแพทย์ กรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถมาพบแพทย์ได้
ตามนัด ให้รับประทานยาในขนาดเดิมไว้ก่อนจนกว่าจะ
มาพบแพทย์ในครั้งต่อไป

2.สังเกตอาการผิดปกติหรืออาการข้างเคียงจากยา
ดังต่อไปนี้
ภาวะเลือดออกผิดปกติ
ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน

อาการข้างเคียง
ยาวาร์ฟารินทำให้มีอาการข้างเคียง ได้แก่
อาการเลือดออกผิดปกติ เช่น

จ้ำเลือดออกตามตัว

เลือดออกตามไรฟัน ปัสสาวะเป็นเลือด

ภาวะเลือดออกผิดปกติ

เมื่อเกิดแผลแล้วเลือด อุจจาระเป็น
ไหลไม่หยุด เลือดหรือสีดำ

ประจำเดือนมา ไอหรืออาเจียน

มากผิดปกติ เป็นเลือด

อาการข้างเคียง
ยาวาร์ฟารินทำให้มีอาการข้างเคียง ได้แก่
ลิ่มเลือดอุดตัน

ลิ่มเลือดอุดตันที่ขา

ทำให้มีอาการปวดขาอย่างเฉียบพลัน

ลิ่มเลือดอุดตันที่ปอด

ทำให้มีอาการหอบเหนื่อยเฉียบพลัน

ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน

ลิ่มเลือดอุดตันที่หลอดเลือดสมอง

ทำให้อาการแขนขาชา อ่อนแรงครึ่งซีก ปากเบี้ยว
พูดไม่ชัด ตามัว มองไม่เห็น หรือเดินเซ

ข้อควรปฏิบัติในผู้ป่วยที่ได้รับยาวาร์ฟาริน

ขณะที่ผู้ป่วยรับประทานยาวาร์ฟารินควรปฏิบัติดังนี้

3.เมื่อไปพบทันตแพทย์หรือแพทย์ที่อื่น ต้องแจ้งให้
ทราบว่าท่านกำลังรับประทานยาวาร์ฟารินอยู่ โดย
เฉพาะกรณีที่ต้องผ่าตัด หรือถอนฟัน

4.ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ โปรดแจ้งให้พยาบาล
หน่วยตรวจที่เกี่ยวข้องและแพทย์ประจำตัวของท่าน
ทราบ เพื่อติดต่อสอบถามอาการ และให้คำแนะนำใน
การรักษาเพิ่มเติมได้

ข้อควรปฏิบัติของผู้ป่วยที่
รับประทานยาวาร์ฟาริน

เพื่อป้องกันการเกิดบาดแผล
การบาดเจ็บที่ส่งผลให้เลือดออกมาก

หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาที่มีการ สวมถุงมือที่มีความหนา

กระแทก เช่น ตะกร้อ มวย วิ่ง เมื่อใช้ของมีคม

ระวังการลื่นล้ม หลีกเลี่ยงการนวดที่รุนแรง

สวมหมวกกันน็อคทุกครั้ง
ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์

ข้อควรปฏิบัติของผู้ป่วยที่
รับประทานยาวาร์ฟาริน

ลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

แอลกอฮอล์สามารถแย่งที่กับยาวาร์ฟารินในการจับ
กับโปรตีนในเลือด จึงทำให้มียาวาร์ฟารินอยู่ในรูปอิสระมาก
ขึ้น ส่งผลให้เพิ่มการออกฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือดได้
จึงทำให้เลือดออกได้มาก

ยาเสริมฤทธิ์วาร์ฟาริน

คือ ยาที่รับประทานร่วมกับยาวาร์ฟารินแล้วส่งผล
ให้ยาวาร์ฟารินออกฤทธิ์เพิ่มขึ้น

1.ยารักษาโรคหัวใจ (Cardiovascular Drugs)
- อะมิโอดาโลน Amiodarone
- โพรพาฟีโนน propafenone
- ฟลูวาสะแตติน Fluvastatin

ตัวอย่าง
อะมิโอดาโลน Amiodarone
ยับยั้งกระบวนการเมตาบอลิซึมของยาวาร์ฟาริน
เพิ่มผลในการต้านการแข็งตัวของ เลือดของยา
วาร์ฟาริน ผลการต้าน การแข็งตัวของเลือดนาน
ขึ้น ทำเลือดออกมากขึ้น

ยาเสริมฤทธิ์วาร์ฟาริน

คือ ยาที่รับประทานร่วมกับยาวาร์ฟารินแล้วส่งผล
ให้ยาวาร์ฟารินออกฤทธิ์เพิ่มขึ้น

2.ยารักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรีย (Antibiotics)
- อิริโทรมัยซิน Erythromycin
- คลาริโทรมัยซิน Clarithromycin
- โคไตรมอกซาโซล Cotrimoxazole
- ไซโปรฟลอกซาซิน Ciprofloxacin
- เซโฟเพอราโซน Cefoperazone
- เมโทรนิดาโซล Metronidazole

ตัวอย่าง
อิริโทรมัยซิน Erythromycin
ยับยั้งกระบวนการเมตาบอลิซึมของยาวาร์ฟาริน เพิ่ม
ผลในการต้านการแข็งตัวของ เลือดของยาวาร์ฟาริน
ผลการต้าน การแข็งตัวของเลือดนานขึ้น ทำเลือด
ออกมากขึ้น

ยาเสริมฤทธิ์วาร์ฟาริน

คือ ยาที่รับประทานร่วมกับยาวาร์ฟารินแล้วส่งผล
ให้ยาวาร์ฟารินออกฤทธิ์เพิ่มขึ้น

3.ยารักษาโรคติดเชื้อรา (Antifungals)
- คีโตโคนาโซล Ketoconazole
- ไอทราโคนาโซล Itraconazole
- ฟลูโคนาฌซล Fluconazole

ตัวอย่าง
คีโตโคนาโซล Ketoconazole
ยับยั้งกระบวนการเมตาบอลิซึมของยาวาร์ฟาริน
เพิ่มผลในการต้านการแขง็ ตัวของ เลือดของยาวาร์
ฟาริน ผลการต้าน การแข็งตัวของเลือดนานขึ้น ทำ
เลือดออกมากขึ้น

ยาเสริมฤทธิ์วาร์ฟาริน

คือ ยาที่รับประทานร่วมกับยาวาร์ฟารินแล้วส่งผล
ให้ยาวาร์ฟารินออกฤทธิ์เพิ่มขึ้น

4.ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์
เอ็นเสด (NSAIDS)

รวมถึงยาในกลุ่ม Coxibs

ตัวอย่าง
ไอบูโพรเฟน ibuprofen
เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดเลือดออก

ยาต้านฤทธิ์วาร์ฟาริน

คือ ยาที่รับประทานร่วมกับยาวาร์ฟาริน
แล้วส่งผลให้ยาวาร์ฟารินออกฤทธิ์ลดลง

1.Enzyme inducers
- ไรแฟมพิซิน Rifampicin
- เฟนิโทอิน Phenytoin
- คาร์บามาซีปีน Carbamezepine
- ฟีโนบาร์บิทัล Phenobarbital
- กริซิโอฟูลวิน Griseofulvin

ตัวอย่าง
ฟีโนบาร์บิทัล Phenobarbital
เพิ่ม metabolic clearance ของ
warfarin โดยเหนี่ยวนา hepatic
microsomal enzymes

อาหารบางชนิดที่มีผลต่อการออกฤทธิ์
ของยา warfarin

อาหารบางชนิดมีผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หากเรารับ
ประทานร่วมกันในปริมาณมากจะส่งผล รบกวนการออกฤทธิ์
ดังต่อไปนี้

1.อาหารที่มีวิตามินเคสูง มีผลลดฤทธิ์ของยาวาร์ฟาริน
ทำให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน
ลดลง



ผักใบเขียว เช่น บร็อคโครี กะหล่ำปลี

กะหล่ำดอก ชะอม ผักกาดหอม ตำลึง

กวางตุ้ง ผักบุ้ง ช้าพลู กระถิ่น

กระเฉด คะน้า สะตอ มะระขี้นก






นมถั่วเหลือง โสม ชาเขียว

2.อาหารที่มีวิตามินอีสูง มีผลเพิ่มการออกฤทธิ์ของ
ยาวาร์ฟารินทำให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะ
เลือดออกไม่หยุด

แปะก๊วย

ขิง

กระเทียม

ขมิ้นชัน

ตังกุย

โสม

มะละกอ

มะม่วง

สมุนไพรที่ห้ามใช้ร่วมกับยาวาร์ฟาริน

ฟ้าทะลายโจร จะเข้าไปยับยั้งการทำงานของ
เอนไซม์ cytochrome P450
(CYP) ส่งผลให้ลดระดับการ
เปลี่ยนแปลงของยาวาร์ฟาริน
ทำให้ยาอยู่ในร่างกายได้นานมากขึ้น
ออกฤทธิ์นานขึ้น อาจเกิดผลข้าเคียง
คือ อาจเกิดภาวะผิดปกติได้

กัญชา

เนื่องจากในกัญชามี
Tetrahydrocannabinol
(THC) และ Cannabidiol (CBD)
มีผลทำให้ฤทธิ์ของยาวาร์ฟารินลด
ลง

ทำอย่างไรหากลืมรับประทานยา

กรณีที่ลืมรับประทานยา หากยังไม่เลยเวลาที่
เคยรับประทานตามปกติ 12 ชม. ควรรีบรับ
ประทานยาทันที
กรณีที่ลืมรับประทานยาแต่เลยเวลาที่เคยรับ
ประทานตามปกติมากกว่า 12 ชม. ให้ข้ามมื้อที่
ลืมไป และรับประทานยามื้อต่อไปตามเวลา
ปกติในขนาดยาเท่าเดิม

การเก็บรักษายาวาร์ฟาริน






-เก็บให้พ้นมือเด็ก -เก็บให้พ้นแสงและความชื้น

-เก็บยาไว้ในซองหรือขวดยาที่โรงพยาบาลจัดให้