4.สาระการเรียรีนรู้ หินอัคนี หินตะกอน หินแปร มีการเปลี่ยนแปลงจากประเภทหนึ่งไปเป็นอีกประเภทหนึ่ง หรือรืประเภทเดิมได้ โดยมีรูปแบบการเปลี่ยนแปลงคงที่และต่อเนื่องเป็นวัฏวัจักร 1 .หินเป็นวัสวัดุแข็งเกิดขึ้นเองตามธรรมชำ ติ ประกอบ ด้วยแร่ตั้งแต่หนึ่งชนิดขึ้นไป สามารถจำ แนกหินตำ มกระบวนการเกิดได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ หินอัคนี หินตะกอน และ หินแปร - หินอัคนีเกิดจากการเย็นตัวของแมกมา เนื้อหิน มีลักษณะเป็นผลึก ทั้งผลึกขนาดใหญ่ และขนาดเล็ก บางชนิดอาจเป็นเนื้อแก้ว หรือรืมีรูพรุน - หินตะกอน เกิดจากการทับถมของตะกอนเมื่อถูกแรงกดทับและมีสารเชื่อมประสานจึง เกิดเป็นหิน เนื้อหินกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นเม็ดตะกอน มีทั้งเนื้อหยาบและเนื้อ ละเอียด บางชนิดเป็นเนื้อผลึกที่ยึดเกาะกันเกิดจากการตกผลึกหรือรืตกตะกอนจากน้ำ โดย เฉพาะน้ำ ทะเล บางชนิดมีลักษณะเป็นชั้น ๆ จึงเรียรีกอีกชื่อว่าว่หินชั้น - หินแปร เกิดจากการแปรสภาพของหินเดิมซึ่งอาจเป็นหินอัคนี หินตะกอน หรือรืหินแปร โดยการกระทำ ของความร้อน ความดัน และปฏิกิริยริาเคมี เนื้อหินของหินแปรบางชนิดผลึก ของแร่เรียรีงตัวขนานกัน เป็นแถบ บางชนิดแซะออกเป็นแผ่นได้ บางชนิด เป็นเนื้อผลึกที่มี ความแข็งมาก - หินในธรรมชาติทั้ง ประเภท มีการเปลี่ยนแปลงจากประเภทหนึ่งไปเป็นอีกประเภทหนึ่ง หรือรืประเภทเดิมได้ โดยมีแบบรูปการเปลี่ยนแปลงคงที่และต่อเนื่องเป็นวัฏวัจักร สมรรถนะสำ คัญของผู้เรียรีน 1.ความสามารถในการสื่อสาร -การอธิบาย การเขียน การพูดหน้าชั้นเรียรีน 2.ความสามารถในการคิด -การสังเกต การคิดวิเวิคราะห์ การสร้างคำ อธิบาย การอภิปราย การสื่อความหมาย การ สืบสอบโดยใช้กระบวนการทางวิทวิยาศาสตร์ 3.ความสามารถในการแก้ปัญหา 4.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิตวิ -กระบวนการกลุ่ม
5.ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี -การสืบสอบข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1.ใฝ่เรียรีนรู้ 2.มุ่งมั่นในการทำ งาน 3.มีวินัวินัย 5.กระบวนการจัดการเรียรีนรู้ 1.นักเรียรีนสังเกตลักษณะเนื้อหินของตัวอย่างหินอัคนี หินตะกอน และหินแปร แล้วเข้าสู่ บทเรียรีนเกี่ยวกับวัฏวัจักรของหิน โดยร่วมกันตอบคำ ถามกระตุ้นความคิด ดังนี้ 1.1นักเรียรีนบอกได้หรือรืไม่ว่าว่หินเกิดขึ้นได้อย่างไร และมีความเป็นมาอย่างไร 1.2หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร มีลักษณะเหมือนกันหรือรืแตกต่างกันอย่างไร 2.นักเรียรีนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละเพศ และคละนักเรียรีนเก่ง ปานกลาง และอ่อน (หรือรืจะแบ่งกลุ่มด้วยวิธีวิธีการต่าง ๆ เพิ่มเติมได้) โดยแต่ละกลุ่มปฏิบัติกิจกรรมตามขั้น ตอน ดังนี้ 2.1ทบทวนบทบาทหน้าที่ของสมาชิกในกลุ่มว่าว่ต้องทำ หน้าที่อย่างไรบ้าง ในการดำ เนิน การ ด้วยกระบวนการทำ งานกลุ่ม เช่น หัวหน้ากลุ่ม มีหน้าที่ ........................... ผู้จดบันทึก มีหน้าที่ ......................... ผู้เสนอรายงาน มีหน้าที่ ..............................อื่น ๆ ...........................
3.นักเรียรีนแต่ละกลุ่มร่วมกันอย่างรวมพลังศึกษา อ่านเนื้อหา สืบสอบและรวบรวม ข้อมูลเกี่ยวกับ วัฏจักรของหิน จากหนังสือเรียรีนและแหล่งการเรียรีนรู้ที่หลากหลาย พร้อมทั้งออกแบบการนำ เสนอ ผลการสืบสอบในแบบที่น่าสนใจ 4.นักเรียรีนแต่ละกลุ่มบันทึกผลการศึกษาค้นคว้าในรูปผังกราฟิกแบบต่าง ๆ ตาม ความเหมาะสมของข้อมูล และแลกเปลี่ยนเรียรีนรู้ร่วมกัน 5.นักเรียรีนแต่ละกลุ่มนำ ข้อมูลที่ได้จากการศึกษา สืบสอบมาร่วมกันวิเวิคราะห์ อภิปรายเปรียรีบเทียบวัฏจักรของหิน เพื่อฝึกฝนตนเองให้เป็นผู้มีความรู้อย่างเข้าใจ และมีทักษะ แล้วสรุปเป็น ความคิดรวบยอด 6.นักเรียรีนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็นความรู้ร่วมกันเกี่ยวกับวัฏจักรของ หินว่า วัฏจักร ของหินเป็นการเปลี่ยนแปลงไปมาของหินอัคนี หินตะกอน และ หินแปร ซึ่งเกิดขึ้นต่อเนื่องกันตลอดเวลา 7.นักเรียรีนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปผลการทำ กิจกรรมและสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็นความรู้ ร่วมกันว่า วัฏจักรน้ำ หมายถึง การหมุนเวียวีนของน้ำ จากแหล่งน้ำ ผ่านไปยัง บรรยากาศ และกลับลงสู่แหล่งน้ำ อีก โดยทางพื้นดินหรือรืใต้ดิน 6.สื่อการเรียรีนรู้/แหล่งการเรียรีนรู้ 1.หนังสือเรียรีนรายวิชวิาพื้นฐานวิทวิยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2. มือถือในการสืบค้นข้อมูล 3.แบบฝึกหัดเรื่อรื่งวัฏจักรของหิน 4.ภาพวัฏจักรของหิน 5.แหล่งการเรียรีนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียรีน 7.การประเมินการเรียรีนรู้ 1.ประเมินความรู้ เรื่อรื่ง วัฏจักรของหิน (K) ด้วยแบบทดสอบ 2.ประเมินการสืบสอบข้อมูล (P) ด้วยแบบประเมิน 3.ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านใฝ่เรียรีนรู้ มุ่งมั่นในการทำ งาน (A) ด้วยแบบประเมิน 8.บันทึกหลังการสอน ลงชื่อ หัทยา คำ นาค (ผู้สอน)
แผนการจัดการเรียรีนรู้โดยใช้นวัตวักรรม Active Learning โรงเรียรีนสาธิตภาคตะวันวัออกเฉียงเหนือ หน่วยการเรียรีนรู้ที่1เรื่อรื่ง สิ่งเเวดล้อม ชั้นประถมศึกษาปีที่6 กลุ่มสาระการเรียรีนรู้วิทวิยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชวิาว16101จำ นวน15ชั่วโมง แผนการเรียรีนรู้ที่1เรื่อรื่ง ชีวิตวิของน้ำ (วัฏวัจักรของน้ำ ) วันวัที่16กุมภาพันธ์พ.ศ.2566 เวลา2ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวรุจิเรศ อิ่มแมน อาจารย์ที่ปรึกรึษา อ.สมหวังวันิลพันธ์ อาจารย์พี่เลี้ยง 1.มาตรฐานการดเรียรีนรู้/ตัวชี้วัดวั สาระที่3วิทวิยาศาสตร์โลกและอวกาศ มาตรฐานการเรียรีนรู้ ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายใน โลกและบนผิว โลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก รวมทั้งผลต่อสิ่งมีชีวิตวิและสิ่งแวดล้อม ตัวชี้วัดวัว 3.2 ป.5/3 สร้างแบบจำ ลองที่อธิบายการหมุนเวียวีนของน้ำ ในวัฏวัจักรน้ำ 2.สาระสำ คัญ น้ำ เป็นสิ่งจำ เป็นต่อการดำ รงชีวิตวิทุกชนิด น้ำ จากแม่น้ำ ลำ ธาร ทะเล มหาสมุทร จากการคายน้ำ ของพืช จากการขับถ่ายของเสียของสิ่ง มีชีวิตวิระเหยกลายเป็น ไอ ลอยขึ้นสู่บรรยากาศ แล้วกลายเป็นฝน ตกลงสู่พื้นโลก และไหลกลับคืนสู่แหล่งน้ำ ต่างๆ เหล่านั้นอีก เรียรีกว่าว่วัฏวัจักรของน้ำ 3.จุดประสงค์การเรียรีนรู้ 1.อธิบายการหมุนเวียวีนของน้ำ ในวัฏวัจักรน้ำ ได้ (K) 2.สืบสอบข้อมูลเกี่ยวกับการหมุนเวียวีนของน้ำ ในวัฏวัจักรน้ำ อย่างรวมพลัง ด้วยความมุ่งมั่น และตั้งใจได้ (P) 3.มีความมุ่งมั่นและตั้งใจ (A)
4.สาระการเรียรีนรู้ วัฏวัจักรน้ำ เป็นการหมุนเวียวีนของน้ำ ที่มีแบบรูปซ้ำ เดิม และต่อเนื่อง ระหว่าว่งน้ำ ในบรรยากาศ น้ำ ผิวดิน และน้ำ ใต้ดิน โดยพฤติกรรมการดำ รงชีวิตวิของพืช และสัตว์ส่ว์ ส่งผลต่อวัฏวัจักรน้ำ 1. วัฎวัจักรของน้ํา (Hydrological Cycle) มีผู้ประมาณการว่าว่บนโลกของเรานีมีปริมริาณ นา 3 ใน 4 ส่วนของโลก หรือรืปริมริาณนาบนผิวโลก ทังหมดประมาณ 1.3 – 1.4 พันล้าน ลูกบาศก์กิโลเมตร เป็นนาทะเลประมาณ 97.5 เปอร์เซ็นต์ เป็นนาแข็งที่ จับตามขัวโลก เหนือและขัวใต้ประมาณ 1.75 เปอร์เซ็นต์ เป็นนาจืดบนผิวโลกและใต้ผิวโลกทังหมด ประมาณ 0.73 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือเป็นนาที่อยู่ในบรรยากาศในรูปของไอนา เมฆ หมอกต่าง ๆ นำ้ บางส่วนจะถูกต้นไม้ และผิวดินกักเก็บไว้ ส่วนที่เหลือก็จะรวมตัวกันไหลลง ตามแรงดึงดูดของโลก สู่ แม่นา ห้วย หนอง คลอง บึง บางส่วนก็จะไหลลงสู่ใต้ดินก็จะ กลายเป็นนาใต้ และไหลลงสู่ทะเล มหาสมุทร และเมื่อถูกความร้อนก็จะระเหยขึนในอากาศ ต่อไป การหมุนเวียวีนของนาที่ไม่มีที่สินสุดนีเรียรีก Water Cycle หรือรื Hydrologic Cycle ส่วนที่ระเหยไป จากมหาสมุทร แม่นาลาธาร ผิวดิน และจากพืชจะกลับลงสู่ผิวโลก ในปริมริาณที่สมดุลกัน สมรรถนะสำ คัญของผู้เรียรีน 1.ความสามารถในการสื่อสาร -การอธิบาย การเขียน การพูดหน้าชั้นเรียรีน 2.ความสามารถในการคิด -การสังเกต การคิดวิเวิคราะห์ การสร้างคำ อธิบาย การ อภิปราย การสื่อความหมาย การสืบสอบโดยใช้กระบวนการทางวิทวิยาศาสตร์ 3.ความสามารถในการแก้ปัญหา 4.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิตวิ -กระบวนการกลุ่ม 5.ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี -การสืบสอบข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1.ใฝ่เรียรีนรู้ 2.มุ่งมั่นในการทำ งาน 3.มีวินัวินัย 5.กระบวนการจัดการเรียรีนรู้
1.นักเรียรีนสังเกตภาพ แอ่งน้ำ ขังบนพื้น แล้วร่วมกันสนทนาทบทวนประสบการณ์เดิมและร่วมกันตอบคำ ถาม ดังนี้ แอ่งน้ำ 1.1นักเรียรีนเคยสังเกตแอ่งน้ำ ขังบนพื้นหรือรืไม่ (เคย/ไม่เคย)
1.2นักเรียรีนคิดว่าว่เมื่อเวลาผ่านไป น้ำ ในแอ่งนั้นหายไปหรือรืไม่ (น้ำ ในแอ่งหายไป) 1.3นักเรียรีนสงสัยหรือรืไม่ว่าว่น้ำ ในแอ่งนั้นมาจากที่ใด แล้วหายไปที่ใด และหายไปได้ อย่างไร (น้ำ ในแอ่งมาจากฝน เมื่อได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์ น้ำ ในแอ่งจะระเหย ไปในอากาศ) 2.นักเรียรีนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน โดยใช้เกมการนับเลข โดยแต่ละกลุ่มปฏิบัติ กิจกรรม ตามขั้นตอน ดังนี้ 2.1ทบทวนบทบาทหน้าที่ของสมาชิกในกลุ่มว่าว่ต้องทำ หน้าที่อย่างไรบ้างในการดำ เนิน การ ด้วยกระบวนการทำ งานกลุ่ม เช่น หัวหน้ากลุ่ม มีหน้าที่ .................. ผู้จดบันทึก มีหน้าที่ ......................... ผู้เสนอรายงาน มีหน้าที่ .............. อื่น ๆ ................................. 3.นักเรียรีนแต่ละกลุ่มร่วมกันอย่างรวมศึกษา วางแผน และสืบสอบข้อมูลเกี่ยวกับ การ หมุนเวียวีนของน้ำ ในวัฏวัจักรน้ำ จากเอกสาร หนังสือ และแหล่งการเรียรีนรู้ต่าง ๆ ที่ หลากหลาย 4.นักเรียรีนแต่ละกลุ่มบันทึกผลการศึกษาค้นคว้าว้ในรูปผังกราฟิกแบบต่าง ๆ ตามความ เหมาะสมของข้อมูล และแลกเปลี่ยนเรียรีนรู้ร่วมกัน 5.ผู้แทนนักเรียรีนแต่ละกลุ่มนำ เสนอผลการสืบสอบหน้าชั้นเรียรีน ขั้นคิดวิเวิคราะห์และ สรุปความรู้ 6.นักเรียรีนแต่ละกลุ่มนำ ข้อมูลที่ได้จากการศึกษา สืบสอบมาร่วมกันวิเวิคราะห์ อภิปราย เปรียรีบเทียบ เพื่อ ฝึกฝนตนเองให้เป็นผู้มีความรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะ 7.นักเรียรีนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปผลการทำ กิจกรรมและสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็นความรู้ร่วม กันว่าว่วัฏวัจักรน้ำ หมายถึง การหมุนเวียวีนของน้ำ จากแหล่งน้ำ ผ่านไปยังบรรยากาศ และกลับลงสู่แหล่งน้ำ อีก โดยทางพื้นดินหรือรืใต้ดิน 6.สื่อการเรียรีนรู้/แหล่งการเรียรีนรู้ 1. มือถือในการสืบค้ข้อมูล 2.แบบฝึกหัดเรื่อรื่งวัฏวัจักรของน้ำ 3.ภาพแอ่งน้ำ 4.แหล่งการเรียรีนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียรีน 5.ใบความรู้เรื่อรื่งวัฎวัจักรของน้ำ 7.การประเมินการเรียรีนรู้ 1.ประเมินความรู้ เรื่อรื่ง การหมุนเวียวีนของน้ำ ในวัฏวัจักรน้ำ (K) ด้วยแบบทดสอบ 2.ประเมินการสืบสอบข้อมูล (P) ด้วยแบบประเมิน 3.ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านใฝ่เรียรีนรู้ มุ่งมั่นในการทำ งาน (A) ด้วย แบบประเมิน 8.บันทึกหลังการสอน ลงชื่อ รุจิเรศ อิ่มแมน (ผู้สอน)
อ้างอิง โรงเรียรีนพิบูลอุปถัมภ์. 2020. หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551,สืบค้นเมื่อ 6 กรกฎาคม 2564.จาก. http://www.pibool.ac.th/datashow_54552 กระทรวงศึกษาธิการ. (๒๕๔๔). หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว. สำ นักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (๒๕๔๗). ข้อเสนอยุทธศาสตร์การปฏิรูปการ ศึกษา.กรุงเทพฯ:เซ็นจูรี่.รี่ สำ นักนายกรัฐมนตรี,รีสำ นักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ.(๒๕๔๒).พระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.). สำ นักผู้ตรวจราชการและติดตามประเมินผล. (๒๕๔๘). การติดตามปัญหาอุปสรรคการใช้ หลักสูตร การศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๔๔. บันทึก ที่ ศธ ๐๒๐๗/ ๒๖๙๒ ลงวันวัที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๘. สุวิมวิล ว่อว่งวาณิช และ นงลักษณ์ วิรัวิรัชชัย. (๒๕๔๗). การประเมินผลการปฎิรูปการเรียรีนรู้ ตาม พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ พหุกรณีศึกษา.เอกสารการประชุมทาง วิชวิาการการวิจัวิจัยเกี่ยวกับการปฏิรูปการเรียรีนรู้ โดยสำ นักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวง ศึกษาธิการ วันวัที่ ๑๙- ๒๐กรกฎาคม ๒๕๔๗. คู่มือการใช้หลักสูตรกลุ่มสาระวิทวิยาศาสตร์ สำ หรับหลักสูตรในอนาคต ระดับประถมศึกษา (สสวท).