คุณค่าวรรณคดี
มนษุ ย์มไิ ดม้ คี วามต้องการสิ่งจาเป็นทางกายเทา่ นนั้ แต่ยัง
ต้องการทางใจดว้ ย คือ ความงามความไพเราะอีกด้วย ฉะนั้นมนษุ ย์
จึงตอ้ งสร้างศลิ ปะขน้ึ เพ่อื บารุงจติ ใจ เช่น
ดนตรี การแกะสลัก การป้ัน
การวาดภาพ การถ่ายภาพ
วรรณกรรมวรรณคดี
ศิลปะการประพันธ์ในวรรณคดไี ทย
การสร้างสรรคใ์ หว้ รรณคดมี คี วามไพเราะ สละสลวย
มีความหมายดีจบั ใจผอู้ า่ นเรียกว่า วรรณศิลป์ ซงึ่ มี 3 ลกั ษณะดังน้ี
๑. การเลน่ เสียง
๒. การเล่นคา
๓. การใชโ้ วหารภาพพจน์
ศิลปะการประพันธใ์ นวรรณคดไี ทย
๑. การเล่นเสียง การเล่นเสียงพยัญชนะ
การเล่นเสียงสระ
การเล่นเสยี งวรรณยุกต์
๑. การเล่นเสยี ง
๑.๑ เลน่ เสียงพยัญชนะ หรือ สมั ผัสอักษร เช่น
- ก็เรือ้ รกั รั้งรา้ งเปน็ ทางปา่ เรือ้ รกั ร้งั รา้ ง
- เสียงโก้งกา้ งก้องกงึ ไปถึงดนิ โก้งก้างกอ้ งกงึ
- เสียงคระโครมเครงคลน่ื ครัน่ คระโครมเครงคลน่ื คร่ัน
ฟ้าฝนสวรรค์ก็เฟอ่ื งฟุ้งเปน็ ฟองฝฟอ้ายฝน เฟอ่ื งฟุ้ง ฟองฝอย
๑. การเล่นเสียง
๑.๒ เล่นเสียงสระ หรอื สัมผสั สระ เชน่
ดูหนสู รู่ งู ู งสู ุดสู้หนสู งู้ ู
หนูงูสู้ดูอยู่ รูปงทู ู่หนมู ทู ู
ทกุ ตวั ทีใ่ ชส้ ระ อู สมั ผัสสระทั้งสิ้น
ยกเว้นคาวา่ “สุด”
๑. การเลน่ เสยี ง
๑.๓ เลน่ เสียงวรรณยกุ ต์ คือ การใชค้ าไลร่ ะดับ
เสียงวรรณยุกต์ เช่น
- จบิ เจา เจ่า เจา้ รังมา เจา เจ่า เจ้า
- จอกจาบจ่ันจรรจา จา่ จา้ จรรจาจ่า จา้
- จบั ปลาชอนชอ่ นช้อนสองกรถอื ชอน ช่อน ชอ้ น
ข้างละมอื ม่ือมอื้ จะมัน่ ไฉน มอื ม่ือ ม้ือ