The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

4 ดี วิถีพอเพียง 9 หมู่บ้าน 9 อำเภอ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by soraya.an, 2021-03-23 02:09:25

4 ดี วิถีพอเพียง 9 หมู่บ้าน 9 อำเภอ

4 ดี วิถีพอเพียง 9 หมู่บ้าน 9 อำเภอ

“หมูบ า นตวั อยา ง 4 ดี วิถีพอเพยี ง”
9 หมบู าน 9 อำเภอ จงั หวดั สระแกว

จงั หวัดสระแกว
รว มกับ

มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏวไลยอลงกรณ ในพระบรมราชูปถัมภ สระแกว
ภายใตโครงการสระแกวเมืองแหง ความสุขดว ยวถิ พี อเพียง
กจิ กรรมพฒั นาศนู ยการเรยี นรสู ระแกว 4 ดี วิถีพอเพยี ง

“หม่บู า้ นตวั อยา่ ง 4 ดี วถิ ีพอเพยี ง”

“หมู่บ้านตัวอยา่ ง 4 ดี วิถีพอเพียง”
9 หมู่บ้าน 9 อำ� เภอ จังหวดั สระแกว้

“หมบู่ า้ นตัวอย่าง 4 ดี วถิ พี อเพยี ง”
9 หม่บู ้าน 9 อำ� เภอ จงั หวดั สระแกว้

ข้อมูลทางบรรณานุกรมของหอสมุดแห่งชาติ

“หม่บู า้ นตัวอย่าง 4 ดี วถิ ีพอเพียง” 9 หมู่บ้าน 9 อ�ำเภอ จังหวดั สระแกว้ . -- พมิ พค์ ร้งั ที่ 2.
-- สระแก้ว : มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ สระแก้ว, 2564.
120 หนา้ .
1.การพัฒนาชุมชน. 2. เศรษฐกิจพอเพียง. I. ชัยวฒุ ิ เทโพธิ์ II. ชอื่ เร่ือง
307.14
ISBN 978-974-337-259-9

สงวนลิขสทิ ธ์ติ ามพระราชบัญญตั ิ
หา้ มทำ� การลอกเลียนแบบไม่ว่าสว่ นใดสว่ นหนง่ึ ของหนงั สอื เลม่ นี้ นอกจากจะได้รับอนุญาต

พมิ พ์ครง้ั ที่ 2 มกราคม 2564
บรรณาธิการอำ� นวยการ ผ้ชู ่วยศาสตราจารย์ ดร.สพุ จน์ ทรายแก้ว
รองศาสตราจารย์ ดร.นฤมล ธนานนั ต์
อาจารยป์ ยิ ะ สงวนสิน
อาจารยช์ ัยวฒุ ิ เทโพธิ์
ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารยเ์ ศกพร ตันศรปี ระภาศริ ิ
คณะผู้จัดทำ� อาจารยช์ ัยวุฒิ เทโพธิ์
อาจารย์ฉตั รชยั เสนขวัญแก้ว
อาจารย์กีรฉตั ร วันชว่ ย
อาจารย์ปณุ ณานันท์ พนั ธแ์ กน่
อาจารย์เพ็ญศรี ชติ บตุ ร
อาจารย์เฉลิมพงษ์ จันทร์สุขา
อาจารยเ์ ทอดเกยี รติ แกว้ พวง
อาจารยว์ ราวฒุ ิ คำ� พานุช
ศลิ ปกรรม พิจิตร พรมลี
ออกแบบปก พจิ ติ ร พรมลี
ประสานงานการผลิต อาจารย์ปุณณานันท์ พันธ์แก่น
จัดพิมพโ์ ดย มหาวิทยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถมั ภ์ สระแก้ว
เลขที่ 1177 หมูท่ ่ี 2 ต�ำบลท่าเกษม อ�ำเภอเมอื งสระแก้ว
จังหวัดสระแก้ว 27000 โทรศัพท์ : 037-447-043
http://www.sk.vru.ac.th
พมิ พ์ท ี่ บรษิ ทั ดีไซน์ ดไี ลท์ จ�ำกัด
เลขท่ี 69/18 หมู่ที่ 7 ถนนรตั นาธิเบศร์ ตำ� บลเสาธงหิน
อำ� เภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี 11140 โทรศพั ท์ 089-812-2140

“หมู่บา้ นตวั อยา่ ง 4 ดี วิถพี อเพยี ง”



สารบญั ค
1
คำ� นำ� 6
บทนำ� 28
ประวตั ิหมูบ่ ้าน 30
ด้านคนดี 32
บ้านวงั หนิ ต�ำบลบ้านแก้ง อำ� เภอเมอื งสระแกว้ 34
บา้ นพระเพลิง ต�ำบลพระเพลงิ อ�ำเภอเขาฉกรรจ์ 36
บา้ นตาหลังใน ตำ� บลตาหลังใน อ�ำเภอวงั นำ�้ เย็น 38
บา้ นวังทอง ต�ำบลวงั ทอง อ�ำเภอวังสมบูรณ ์ 40
บา้ นบอ่ นางชงิ ต�ำบลห้วยโจด อำ� เภอวัฒนานคร 42
บ้านคลองไกเ่ ถ่อื น ตำ� บลคลองไก่เถื่อน อ�ำเภอคลองหาด 44
บ้านเขาสารภี ตำ� บลทับพริก อำ� เภออรัญประเทศ 48
บ้านหนองแวง ตำ� บลหนองแวง อำ� เภอโคกสงู 50
บ้านทัพไทย ต�ำบลทพั ไทย อ�ำเภอตาพระยา 52
ดา้ นสุขภาพดี 54
บา้ นวงั หิน ตำ� บลบ้านแก้ง อ�ำเภอเมืองสระแกว้ 56
บา้ นพระเพลิง ต�ำบลพระเพลิง อ�ำเภอเขาฉกรรจ์ 58
บ้านตาหลงั ใน ตำ� บลตาหลงั ใน อ�ำเภอวงั น้�ำเยน็ 60
บา้ นวงั ทอง ตำ� บลวังทอง อ�ำเภอวงั สมบูรณ์ 62
บ้านบ่อนางชิง ตำ� บลห้วยโจด อำ� เภอวฒั นานคร 64
บา้ นคลองไก่เถือ่ น ต�ำบลคลองไก่เถื่อน อ�ำเภอคลองหาด
บา้ นเขาสารภี ตำ� บลทับพรกิ อ�ำเภออรัญประเทศ
บา้ นหนองแวง ตำ� บลหนองแวง อ�ำเภอโคกสูง
บา้ นทพั ไทย ตำ� บลทัพไทย อำ� เภอตาพระยา

ก “หม่บู า้ นตวั อย่าง 4 ดี วิถีพอเพยี ง”

ดา้ นรายได้ดี 68
บา้ นวงั หิน ต�ำบลบ้านแก้ง อ�ำเภอเมอื งสระแกว้ 70
บา้ นพระเพลงิ ตำ� บลพระเพลงิ อำ� เภอเขาฉกรรจ ์ 72
บา้ นตาหลงั ใน ต�ำบลตาหลังใน อำ� เภอวังนำ�้ เย็น 74
บา้ นวังทอง ตำ� บลวงั ทอง อำ� เภอวังสมบรู ณ ์ 76
บา้ นบอ่ นางชิง ต�ำบลหว้ ยโจด อ�ำเภอวัฒนานคร 78
บ้านคลองไกเ่ ถ่อื น ตำ� บลคลองไก่เถอ่ื น อำ� เภอคลองหาด 80
บ้านเขาสารภี ต�ำบลทับพรกิ อ�ำเภออรัญประเทศ 82
บ้านหนองแวง ต�ำบลหนองแวง อ�ำเภอโคกสูง 84
บ้านทัพไทย ตำ� บลทพั ไทย อำ� เภอตาพระยา 88
ด้านส่ิงแวดล้อมดี 90
บ้านวงั หิน ต�ำบลบ้านแกง้ อำ� เภอเมืองสระแกว้ 92
บ้านพระเพลงิ ต�ำบลพระเพลิง อำ� เภอเขาฉกรรจ์ 94
บา้ นตาหลงั ใน ตำ� บลตาหลังใน อ�ำเภอวงั น้�ำเย็น 96
บ้านวังทอง ตำ� บลวงั ทอง อ�ำเภอวังสมบรู ณ์ 98
บ้านบ่อนางชิง ตำ� บลห้วยโจด อ�ำเภอวฒั นานคร 100
บา้ นคลองไกเ่ ถ่อื น ต�ำบลคลองไก่เถอื่ น อ�ำเภอคลองหาด 102
บ้านเขาสารภี ต�ำบลทับพริก อำ� เภออรญั ประเทศ 104
บ้านหนองแวง ตำ� บลหนองแวง อำ� เภอโคกสูง
บา้ นทัพไทย ต�ำบลทพั ไทย อ�ำเภอตาพระยา

“หมบู่ า้ นตวั อยา่ ง 4 ดี วถิ พี อเพียง” ข

คำ� น�ำ

โครงการสระแก้วเมืองแห่งความสุขภายใต้ 4 ดี วิถีพอเพียง
(Sa Kaeo Happiness Model) ประจ�ำปี 2562 มีพื้นที่ในจังหวัด
สระแก้วเข้าร่วมโครงการทั้ง 9 อ�ำเภอ 9 หมู่บ้าน ประกอบด้วย
1) บ้านวังหิน หมู่ท่ี 10 ต�ำบลบ้านแก้ง อ�ำเภอเมืองสระแก้ว 2) บ้าน
พระเพลิง หมู่ท่ี 1 ต�ำบลพระเพลิง อ�ำเภอเขาฉกรรจ์ 3) บ้านตาหลังใน
หมู่ท่ี 1 ต�ำบลตาหลังใน อ�ำเภอวังน�้ำเย็น 4) บ้านวังทอง หมู่ที่ 1 ต�ำบล
วังทอง อ�ำเภอวังสมบูรณ์ 5) บ้านบ่อนางชิง หมู่ที่ 4 ต�ำบลห้วยโจด
อ�ำเภอวัฒนานคร 6) บ้านคลองไก่เถื่อน หมู่ที่ 1 ต�ำบลคลองไก่เถ่ือน
อ�ำเภอคลองหาด 7) บ้านเขาสารภี หมู่ท่ี 3 ต�ำบลทับพริก อ�ำเภอ
อรัญประเทศ 8) บ้านหนองแวง หมู่ที่ 1 ต�ำบลหนองแวง อ�ำเภอโคกสูง
และ 9) บ้านทัพไทย หมู่ท่ี 1 ต�ำบลทัพไทย อ�ำเภอตาพระยา ถูกคัดเลือก
เป็นตัวแทนหม่บู า้ นตวั อยา่ ง 4 ดี วถิ ีพอเพียงของจงั หวัดสระแก้ว

ค “หมบู่ ้านตวั อย่าง 4 ดี วิถพี อเพยี ง”

เอกสารเล่มนี้ เป็นการถอดบทเรียนความส�ำเร็จและกิจกรรม โดยมี
วัตถุประสงค์เพ่ือเรียนรู้กระบวนการ แนวความคิด แนวปฏิบัติ องค์ความรู้
ของชุมชนเพื่อเป็นแบบอย่างให้แก่ชุมชนอื่น ๆ ได้ และสามารถน�ำไป
ปฏิบัติ และพัฒนาหมู่บ้านของตนให้เป็นหมู่บ้านแห่งความสุข ด้วย 4 ดี
วิถีพอเพียง ได้เช่นเดียวกับหมู่บ้านตัวอย่าง 4 ดี วิถีพอเพียง จัดท�ำขึ้น
โดยจังหวัดสระแก้ว ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์
ในพระบรมราชูปถัมภ์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มน้ีจะเป็นประโยชน์
ในการพัฒนาหมู่บ้าน ชุมชน หรือผู้สนใจข้อมูลในการน�ำไปประยุกต์ใช้
ในระดับหมู่บ้าน ระดับต�ำบล หรือระดับอ�ำเภอ ในการด�ำเนินงานไม่มาก
กน็ ้อย

คณะผจู้ ัดทำ�

“หม่บู ้านตัวอย่าง 4 ดี วิถพี อเพียง” ง

“หม่บู า้ นตวั อยา่ ง 4 ดี วถิ ีพอเพยี ง”

โครงการสระแกว้ เมืองแห่งความสขุ ด้วย 4 ดี วิถีพอเพยี ง

จังหวัดสระแก้ว มีนโยบายพัฒนา “สระแก้วเมืองแห่งความสุข
ภายใต้ 4 ดี วิถีพอเพียง” (Sa Kaeo Happiness Model) โดยให้
ประชาชนเป็นศูนย์กลาง สร้างความสุข ด้วยการเป็น คนดี สุขภาพดี
สิ่งแวดล้อมดี และรายได้ดี ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้
หลักทฤษฎีการขับเคลื่อนแบบสามเหล่ียมเขยื้อนภูเขา คือ (1) การใช้
องค์ความรู้หรือวิชาการโดยภาคราชการและภาควิชาการ (2) การใช้พลัง
ประชาสังคม ที่เป็นภาคีต่าง ๆ ได้แก่ บ้าน วัด โรงเรียน สถานีอนามัย/
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต�ำบล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ
(3) การก�ำหนดเป็นนโยบายสาธารณะระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
กระบวนการท�ำงานที่ต้องเน้นการบูรณาการงาน คน และการจัดการ
ร่วมกัน โดยเร่ิมด�ำเนินการต้ังแต่เดือนตุลาคม 2556 มีพื้นที่น�ำร่อง
เต็มรูปแบบอ�ำเภอละ 1 ต�ำบล ต�ำบลที่เหลือให้น�ำนโยบายไปปรับใช้
ตามบริบท และมีปรับปรุงกระบวนการพัฒนาแบบมีส่วนร่วมกับพ้ืนท่ี
เพ่ือให้สอดคล้องกับบริบทอย่างต่อเน่ือง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 เพ่ิม
พื้นที่เป้าหมายโดยความสมัครใจ รวมท้ังส้ิน 33 ต�ำบล และปีงบประมาณ
พ.ศ. 2559 มีนโยบายเน้นพัฒนาระบบให้มีคุณภาพในพ้ืนท่ีเป้าหมายเดิม
และใหต้ �ำบลท่เี หลอื น�ำรปู แบบไปพฒั นาตามบรบิ ทของพืน้ ท่ี

“หมู่บา้ นตวั อยา่ ง 4 ดี วิถีพอเพยี ง” 1

มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะ
ท่ีเป็นภาคีภาควิชาการในพ้ืนที่จังหวัดสระแก้วตามแนวคิดการขับเคลื่อน
แบบสามเหล่ียมเขย้ือนภูเขาที่กล่าวมาแล้วข้างต้น จึงต้องการที่จะร่วม
ขับเคลื่อนนโยบาย “สระแก้วเมืองแห่งความสุข ภายใต้ 4 ดี วิถีพอเพียง”
(Sa Kaeo Happiness Model) ผ่านรูปแบบของด�ำเนินกิจกรรมเพ่ือสร้าง
การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน นอกจากนั้นยังส่งเสริมให้มีการวิจัยเพื่อ
พัฒนา (Research and Development) ในเชิงพื้นที่อีกด้วยการด�ำเนิน
การดังกล่าวน้ันมีความสอดคล้องกับทิศทางและยุทธศาสตร์ด้านการวิจัย
ของมหาวิทยาลัยฯ (2560 - 2564) ในเป้าหมายท่ี 2 วิจัยนวัตกรรมเพื่อ
การแก้ไขปัญหาท้องถ่ิน ซ่ึงถือเป็นพันธกิจส�ำคัญของมหาวิทยาลัยท่ีจะต้อง
ด�ำเนินการร่วมกันกับภาคีเครือข่ายต่าง ๆ เพื่อให้สามารถสร้างองค์ความ
รู้อันจะน�ำไปสู่การขยายผลสู่ชุมชนท้องถิ่นต่าง ๆ ท้ังในจังหวัดสระแก้ว
และจังหวัดอ่ืน ๆ ต่อไปเพื่อให้เกิดการพัฒนาท่ี “ม่ันคง มั่งค่ัง ย่ังยืน”
วัตถปุ ระสงค์
1. เพ่ือพัฒนา ปรับปรุง และฟื้นฟูทางกายภาพของศูนย์การเรียนรู้
4 ดี วิถีพอเพยี ง จังหวัดสระแก้ว
2. เพื่อสร้างชุมชนต้นแบบด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตท่ียั่งยืน
โดยด�ำเนินการผา่ นกิจกรรมการถอดบทเรียนชมุ ชนตน้ แบบเครอื ข่าย
3. เพ่ือบูรณาการและเสริมสร้างเครือข่ายโครงการพัฒนาคุณภาพ
ชีวิตอย่างยั่งยืนตามโครงการสระแก้วเมืองแห่งความสุข โดยยึดหลัก
ไตรภาคีเพอ่ื ใหเ้ กิดการมีสว่ นรว่ มหลากหลายภาคส่วน
4. เพ่ือเสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้และสภาพแวดล้อมของ
ประชาชนให้สามารถปรับตัวประกอบอาชีพและมีสภาพแวดล้อมและ
คณุ ภาพชวี ติ ที่ดี

2 “หมู่บ้านตัวอยา่ ง 4 ดี วถิ ีพอเพียง”

4 ดี ประกอบด้วย

หมวดคนดี

1. ครอบครวั ในชุมชนเขา้ ปฏบิ ัตธิ รรมและฟงั ธรรมะอย่างสมำ�่ เสมอ
2. ทอ้ งถนิ่ และชมุ ชนมีกจิ กรรมการสง่ เสริมเชิดชูคนดี
3. ชมุ ชนมีกติกา และมาตรการทางสังคมในการงดเหลา้ และเครอ่ื งดืม่
แอลกอฮอลล์ในงานประเพณีท่ีส�ำคัญ รวมทั้ง ลด ละเลิกอบายมุข
ยาเสพตดิ และการทะเลาะวิวาท
4. ชุมชนมีการจัดตั้งเครือข่ายจิตอาสาระบบสวัสดิการชุมชนในการ
ชว่ ยเหลือเกือ้ กลู กนั
5. โรงเรียนมเี ด็กและเยาวชนตน้ แบบคนดี
6. ชมุ ชนมีการป้องกนั และแกป้ ญั หายาเสพติด

“หมู่บ้านตัวอยา่ ง 4 ดี วิถีพอเพียง” 3

หมวดสุขภาพดี

1. ชุมชนมีการจัดการเพ่ือแก้ไขปัญหาโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง
และโรคอ่นื ท่เี ป็นปัญหาชมุ ชนให้ลดลงอยา่ งเปน็ รูปธรรม
2. ชุมชนมีการแก้ไขปัญหาสารเคมีตกค้างในอาหารและกระแสเลือด
จนอยู่ในระดับความปลอดภัย
3. ชุมชนมีกิจกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการมีเพศสัมพันธ์และ
การตง้ั ครรภ์ในวัยรนุ่
4. ศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชนมีโครงสร้างและการจัดบริการผ่าน
เกณฑ์ท่ีกำ� หนด
5. ชุมชนมีการส่งเสริมและใช้สมุนไพร ภูมิปัญญาไทยในการดูแล
สุขภาพ

หมวดรายไดด้ ี

1. ครัวเรือนสามารถผลิตอาหารได้ด้วยตนเอง ด้วยการปลูกพืชผัก
เลยี้ งสตั ว์ มีอาหารพอกินตลอดปี
2. ครัวเรือนมีความสามารถในการลดต้นทุนการผลิต หรือลดการใช้
พลงั งาน/ ใชพ้ ลังงานทดแทน
3. ครัวเรือนมีการแสวงหารายได้พอเพียงส�ำหรับการด�ำรงชีวิตของ
ครอบครัวตลอดปี
4. มีการบันทกึ ขอ้ มลู บัญชีรายรับรายจา่ ยของครวั เรือน
5. มีการสร้างผลผลิตในชุมชนและความเข้มแข็งของกลุ่มผู้ผลิต/
ผปู้ ระกอบการ
6. การสร้างเครือข่ายทางเศรษฐกิจนอกพ้ืนที่ชุมชน เพ่ือจ�ำหน่ายหรือ
แลกเปลีย่ นผลผลิต
7. ชุมชนมีครอบครัวเข้มแข็งเป็นต้นแบบลด ปลดหน้ี และครอบครัว
อบอุ่น

4 “หมู่บา้ นตัวอยา่ ง 4 ดี วิถพี อเพยี ง”

หมวดสิ่งแวดล้อมดี

1. มพี น้ื ทีส่ เี ขยี วในชุมชน เพือ่ บรกิ าร ได้แก่ สวนสุขภาพ ลานกฬี า
2. ชุมชนมีสภาพแวดล้อมท่ีสะอาด เป็นระเบียบท้ังในครัวเรือน และ
บริเวณบา้ นตามหลักสุขาภบิ าล
3. ชมุ ชนมกี ารรวมกลุ่มลดการใชส้ ารเคมีทางการเกษตร
4. ชมุ ชนมีสว่ นรว่ มสร้างจติ สำ� นึกดา้ นสง่ิ แวดล้อม

“หมบู่ ้านตวั อย่าง 4 ดี วถิ พี อเพยี ง” 5

ประวัติ 9 หมบู่ า้ นตวั อย่าง ใน 9 อำ� เภอของจงั หวัดสระแกว้

บ้านวงั หิน หมู่ท่ี 10 ต�ำบลบา้ นแก้ง อ�ำเภอเมืองสระแกว้

บ้านตาหลังใน หมทู่ ่ี 1 ตำ� บลตาหลงั ใน อำ� เภอวังน�้ำเย็น
บา้ นวงั ทอง หมทู่ ่ี 1 ต�ำบลวงั ทอง อ�ำเภอวังสมบรู ณ์
6 “หมู่บา้ นตัวอยา่ ง 4 ดี วิถพี อเพียง”

บา้ นบอ่ นางชิง หมู่ที่ 4 ต�ำบลห้วยโจด อ�ำเภอวฒั นานคร

บ้านทัพไทย หม่ทู ี่ 1 ต�ำบลทัพไทย อำ� เภอตาพระยา
บ้านหนองแวง หมทู่ ี่ 1 ต�ำบลหนองแวง อ�ำเภอโคกสงู
บ้านเขาสารภี หมู่ท่ี 3 ต�ำบลทับพริก อ�ำเภออรญั ประเทศ
บา้ นคลองไกเ่ ถื่อน หมทู่ ่ี 1 ตำ� บลคลองไกเ่ ถอ่ื น อำ� เภอคลองหาด

“หมู่บา้ นตวั อยา่ ง 4 ดี วิถพี อเพยี ง” 7

ประวัตบิ ้านวังหิน

หม่ทู ี่ 10 ตำ� บลบ้านแกง้ อ�ำเภอเมอื งสระแกว้

8 “หมู่บา้ นตัวอย่าง 4 ดี วถิ ีพอเพยี ง”

ประวัตคิ วามเป็นมาของหมูบ่ า้ น

บ้านวังหิน หมู่ท่ี 10 อยู่ในการปกครองของต�ำบลบ้านแก้ง ซึ่งภายในต�ำบล
บ้านแก้ง มีหมู่บ้านจ�ำนวน 16 หมู่บ้าน บ้านวังหินเป็นชุมชนขนาดใหญ่ เมื่อเทียบกับ
ชุมชนโดยรอบ มีครัวเรือนท้ังส้ิน 330 ครัวเรือน คิดเป็น 8 เปอร์เซนต์ ของครัวเรือน
ในต�ำบลบ้านแก้ง และมีประชากร 953 คน แบ่งเป็น ชาย 449 คน หญิง 504 คน
หา่ งจากอ�ำเภอเมอื งสระแกว้ ประมาณ 25 กโิ ลเมตร

“หม่บู า้ นตวั อย่าง 4 ดี วิถีพอเพยี ง” 9

ประวตั ิบา้ นพระเพลิง

หมทู่ ่ี 1 ตำ� บลพระเพลิง อำ� เภอเขาฉกรรจ์

10 “หม่บู ้านตัวอย่าง 4 ดี วิถพี อเพยี ง”

ประวตั คิ วามเปน็ มาของหมู่บา้ น

บ้านพระเพลิง หมู่ที่ 1 ก่อต้ังมาประมาณ 30 กว่าปีมาแล้ว พ้ืนที่จะเป็น
ป่าดงดิบ ประชาชนมาจากหลากหลายภาค ได้แก่ ภาคเหนือ จังหวัดเชียงราย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุดรธานี ขอนแก่น ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ นครราชสีมา
ภาคตะวันออก จังหวัดระยอง จึงท�ำให้มีจ�ำนวนประชากรเพ่ิมขึ้นเร่ือย ๆ จึงมีการ
แยกหมู่บ้านออกจากบ้านพระเพลิง ซึ่งแยกออกเป็นบ้านซับมูลและบ้านนาคันหัก
อาชีพส่วนใหญ่ของชาวบ้านพระเพลิง หมู่ที่ 1 มีอาชีพเกษตรกรรม การปลูกผัก
สวนครวั โดยปจั จบุ นั มี นายจิรภัทร ปกั ครกึ เปน็ ผ้ใู หญบ่ า้ นคนปจั จบุ ัน

“หมบู่ ้านตวั อย่าง 4 ดี วิถพี อเพยี ง” 11

ประวตั บิ ้านตาหลงั ใน

หมทู่ ี่ 1 ตำ� บลตาหลงั ใน อำ� เภอวังน้ำ� เย็น

บ้านตาหลังใน อยู่ในเขตพื้นท่ีการปกครองของต�ำบลตาหลังใน เป็นหมู่บ้าน
เก่าแก่ในพื้นที่ ซึ่งในสมัยก่อนเป็นพื้นท่ีป่ารก ถนนดินแดง เป็นพ้ืนที่มีความ
อุดมสมบูรณ์ มีคลองตาหลังไหลผ่าน โดยมี นายลี แบงคอนสาร เข้ามาเป็นคนแรก
และเลือกต้ังบ้านเรือนตามแนวคลองตาหลัง และมีผู้คนทยอยอพยพมาจากทาง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้ามาจับจองพื้นที่ท�ำการเกษตร เม่ือจ�ำนวนคนเยอะขึ้น
นายอ�ำเภอวังน้�ำเย็นจึงให้จัดตั้งเป็นหมู่บ้าน โดยต้ังชื่อหมู่บ้านตามชื่อคลอง ได้ชื่อว่า
“บ้านตาหลังใน” และให้มีผู้น�ำชุมชนในการดูแลความสงบเรียบร้อยในพ้ืนท่ี
และกระจายข่าวสารเกยี่ วกบั หน่วยงานของรัฐไดอ้ ย่างท่วั ถึง

12 “หมบู่ า้ นตัวอยา่ ง 4 ดี วิถพี อเพยี ง”

ในสมัยก่อนเร่ิมก่อต้ังหมู่บ้าน มี 9 หมู่บ้าน คือ ม.1 บ้านตาหลังใน
ม.2 บา้ นหนองปรือ ม.3 บ้านทา่ ตาสี ม.4 บา้ นหนองผักหนาม ม.5 บ้านเพชรพนานคิ ม
ม.6 บ้านวงั ไทร ม.7 บา้ นทพั หลวง ม.8 บา้ นหนองแก ม.9 บ้านโนนทอง ต่อมาภายหลัง
ได้มีการแบ่งเขตการปกครอง เพ่ือให้การส�ำรวจข้อมูลพื้นฐานและการดูแล
ทุกข์สุขของประชาชนได้อย่างทั่วถึง จึงได้แบ่งเขตการปกครองเพิ่มเป็น 21 หมู่บ้าน
คือ ม.10 บ้านประตูโขง ม.11 บ้านเพชรเจริญ (แยกจาก ม.2 บ้านหนองปรือ)
ม.12 บ้านตาหลังพฒั นา (แยกจาก ม.1) ม.13 บา้ นตาหลงั ใหมช่ ัยมงคล (แยกจาก ม.1)
ม.14 บ้านวังเพชร (แยกจาก ม.5 บ้านเพชรพนานิคม) ม.15 บ้านหนองเจริญ (แยก
จาก ม.2) ม.16 บ้านชยั เจริญ (แยกจาก ม.1) ม.17 บ้านเพชรสำ� ราญ (แยกจาก ม.2)
ม.18 บ้านโนนทองพฒั นา (แยกจากโนนทอง ม.9) ม.19 บ้านวังหลวง (แยกจาก ม.7)
ม.20 บ้านศรีบูรพา (แยกจาก ม.3) และ ม.21 บ้านหนองสลักได (แยกจาก ม.5)
มี 1 องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำ� บลเปน็ ผคู้ วบคมุ ดแู ลในทอ้ งถน่ิ

“หมูบ่ ้านตวั อย่าง 4 ดี วถิ ีพอเพยี ง” 13

ประวตั ิบ้านวงั ทอง

หม่ทู ่ี 1 ต�ำบลวังทอง อำ� เภอวงั สมบรู ณ์

ความเป็นมาของชื่อบ้านวังทอง มาจากนามสกุลของนายบุญมี ถ้�ำทอง
เป็นผู้ท่ีย้ายเข้ามาอยู่ในพ้ืนที่เป็นคนแรกของหมู่บ้านและเป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรก
ของบ้านวังทอง การประชุมครั้งแรกของหมู่บ้านได้ต้ังช่ือโดยน�ำนามสกุลของผู้ใหญ่
มาตั้งจาก “ถ้�ำทอง” เป็น “วังทอง” เป็นชื่อหมู่บ้านจนถึงปัจจุบัน ในปี 2520 เป็น
หมู่บ้านขนาดเล็กมีบ้านเรือนอยู่สิบกว่าหลังคาเรือน พื้นที่ส่วนใหญ่ยังเป็นป่า ซ่ึงเดิม
บ้านวังทอง เป็นหมู่ท่ี 8 แต่เนื่องจากเป็นหมู่บ้านท่ีมีขนาดใหญ่จึงมาการแบ่งแยก
หมู่บ้านออกจนกลายเป็นบ้านวังทอง หมู่ที่ 1 บ้านเขาแหลม หมู่ท่ี 15 และหมู่บ้าน
อืน่ ๆ ตามมาจนถงึ ปัจจบุ ัน

บ้านวังทองเป็นชุมชนท่ีมีความหลากหลาย และแตกต่างทางวัฒนธรรม
จากการย้ายถ่ินฐานบ้านเรือนเข้ามาอาศัยในพ้ืนท่ีจากภูมิล�ำเนาเดิมทางภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคเหนือ แต่มีส่ิงคล้ายกันคือการนับถือ
ศาสนาพุทธ มิติการเปล่ียนแปลงของความเจริญ ของบ้านวังทองจาก มิติด้านสังคม
ของชุมชนบ้านวงั ทอง เป็นชุมชนทสี่ ร้าง “ธรรมนูญชุมชน” หรอื กฎของหมู่บา้ นตนเอง
เป็นข้อตกลงร่วมกันของคนในชุมชน ท�ำให้เกิดความสามัคคี ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
มีการพัฒนาชุมชนรปู แบบของ “บวร”

14 “หมู่บ้านตวั อย่าง 4 ดี วิถพี อเพยี ง”

คือ การพัฒนาบ้านให้มีความน่าอยู่ สะอาด ปลอดภัยและสวยงาม การพัฒนาวัด
บ้านวังทองซ่ึงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชุมชน สร้างคนดีของชุมชนและสังคม
การพัฒนาโรงเรียนให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของเยาวชน ซ่ึงเป็นก�ำลังส�ำคัญในอนาคต
เป็นแนวคิดท่ีมองถึงอนาคตข้างหน้าจากการปลูกจิตส�ำนึกของเยาวชนและ
คนในชุมชน ให้เกิดความรักและหวงแหนบ้านเกิดเมืองนอน มิติด้านการเมือง
การสร้างการบริหารอย่างมีระบบเพ่ือให้ง่ายต่อการบริหารและปกครอง การมอบ
อ�ำนาจการตัดสินใจกับหัวหน้าคุ้มบ้าน เพื่อให้เกียรติ ความไว้เน้ือเช่ือใจ และการ
ส่งเสริมประชาธิปไตย ธรรมาภิบาลเสมอ ให้ความส�ำคัญต่อทุกเสียง ไม่ละทิ้งเสียง
ส่วนนอ้ ย และการลำ� ดบั ความส�ำคัญปญั หาเร่งด่วนของคนในชมุ ชน มติ ิด้านเศรษฐกจิ
การน้อมน�ำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของ “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร” มาเป็นหลักของการด�ำเนินชีวิต
เกษตรทฤษฎีใหม่สร้างความเป็นอยู่ท่ีดีขึ้น น�ำเรียนรู้พัฒนาตนเองอยู่เสมอ และ
ท�ำบัญชีครัวเรือน เรียนรู้ความพอเพียงของตนเอง มิติด้านสิ่งแวดล้อม ของ
บ้านวังทองจากการจัดกิจกรรมท�ำความสะอาดของครัวเรือนและหมู่บ้านเป็นประจ�ำ
ปลูกจิตส�ำนึกและนิสัยจากการจัดการขยะต้นทางเร่ิมจากคัดแยกขยะ ขวดพลาสติก
เก็บไว้ขาย เศษอาหารทิ้งถังตัดก้นฝังดิน เพื่อให้เกิดการย่อยสลายเป็นปุ๋ย
ตามธรรมชาติ จึงท�ำให้ไม่มีถังขยะภายในชุมชน ส่งเสริม สนับสนุนทุกครัวเรือน
น�ำไปปฏิบัติ เกิดสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม พ้ืนท่ีสีเขียวเกิดโครงการ “หน้าบ้าน
น่ามอง” ของบ้านวังทอง มิติด้านเทคโนโลยี ระบบ Quantum GIS หรือ QGIS
เป็นโปรแกรม Desktop GIS ประเภทหนึ่งท่ีบ้านวังทองได้น�ำมาเข้ามาช่วย
ในการจัดการระบบการดูแลผู้ป่วย การแก้ไขปัญหา และพัฒนาหมู่บ้าน สร้างเป็น
ฐานข้อมูลของคนในชุมชนบ้านวังทอง ประกอบด้วย จ�ำนวนประชากร การประกอบ
อาชีพ ด้านการศึกษา ด้านคุณธรรม จริยธรรม ด้านเศรษฐกิจ ด้านสุขภาพ แสดง
ต�ำแหน่งแผนการปรับปรุง ซ่อมแซมภายในหมู่บ้าน และด้านแรงงานต่างด้าว ท�ำให้
เห็นภาพรวมของชมุ ชนชดั เจนและครอบคลุม

“หมู่บ้านตัวอย่าง 4 ดี วิถพี อเพียง” 15

ประวัตบิ ้านบ่อนางชิง

หมู่ท่ี 4 ต�ำบลห้วยโจด อ�ำเภอวฒั นานคร

บ้านบ่อนางชิง โดยต�ำนานบอกเล่าของคนเก่าแก่ในหมู่บ้านจากรุ่นสู่รุ่นและ
ข้อค้นพบจากหลักฐานที่มีอยู่ได้เล่าขานที่มาของชื่อหมู่บ้าน “ บ่อนางชิง ” ว่าเมื่อ
300 กว่าปีท่ีผ่านมา สภาพทางภูมิศาสตร์ของหมู่บ้านยังเป็นป่าดงดิบมีสัตว์ป่า
มากมายหลายชนิดอาศัยอยู่ มีความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรธรรมชาติและมี
ชาวบ้านอพยพมาอยู่อาศัย 10 กว่าครัวเรือน ท�ำให้มีการเข้ามาท�ำการค้าขายจึงเกิด
กจิ การการคา้ ด้านเศรษฐกจิ
โดยบริบททั่วไปของบ้านบ่อนางชิงในมิติด้านสังคม พบว่าบ้านบ่อนางชิง
เป็นความสัมพันธ์ของคนในชุมชนมีลักษณะเป็นเครือญาติ และเป็นครอบครัวขยาย
ท�ำให้คนในชุมชนมีความใกล้ชิดสนิทสนมเกื้อกูลกันมีการร่วมมือร่วมใจกัน เช่น
การสักการะศาลศักด์ิสิทธ์ิของหมู่บ้านเป็นประจ�ำทุก ๆ ปี รวมถึงกิจกรรมทางด้าน
ศาสนาอื่น ๆ อย่างต่อเน่ือง ตลอดจนชุมชนมีกิจกรรมการเชิดชูคนดีของชุมชน
ท่ีร่วมมือกับโรงเรียนในชุมชนจัดท�ำข้ึนเพ่ือก่อให้เกิดก�ำลังใจที่จะเป็นพลังให้กับ
บุคคลน้ันท�ำความดีต่อไป ขณะที่มิติด้านการเมือง พบว่าบ้านบ่อนางชิงเป็นหมู่บ้าน
ขนาดกลาง มีการปกครองโดยผู้ใหญ่บ้านมีความใกล้ชิดกับสมาชิกในชุมชน โดยตัว
ผู้น�ำจะมีการท�ำงานในเชิงการพัฒนาและแก้ไขปัญหาของสมาชิกในชุมชนเพื่อก่อ
ใหเ้ กิดความสขุ อยา่ งยง่ั ยนื ตลอดจนการดแู ลและปกครองเยาวชนในชุมชน เป็นหนา้ ท่ี
ของผู้ใหญ่ทุกคนในหมู่บ้านที่จะเป็นผู้ควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดเพ่ือป้องกันปัญหา
ของวัยรุ่น รวมถึงมิติด้านเศรษฐกิจ พบว่าสมาชิกบ้านบ่อนาชิงเกือบทุกหลังคาเรือน

16 “หมู่บา้ นตัวอยา่ ง 4 ดี วถิ ีพอเพยี ง”

มีการปลูกผักไว้บริโภคเอง เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย โดยมีการน�ำผลผลิตที่เหลือจาก
การบริโภคไปจ�ำหน่ายท�ำให้มีรายได้เข้าสู่ครัวเรือน อาชีพที่ส�ำคัญของชุมชน
บ้านบ่อนางชิงคือ การท�ำการเกษตรแปลงใหญ่รวมถึงการเลี้ยงสัตว์ และการขุด
แร่ทองค�ำ ที่เป็นขุมทรัพย์อันเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชน ตลอดจนมิติด้าน
สิ่งแวดล้อม พบว่าบ้านบ่อนางชิงถือเป็นหมู่บ้านที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางด้าน
ธรรมชาติเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยสภาพภูมิประเทศ ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาส่งผลท�ำให้
มีฝนตกต้องตามฤดูกาล สมาชิกในชุมชนรวมกลุ่มกันปลูกป่าบนภูเขาเพ่ือสร้างสภาพ
แวดล้อมให้กับหมู่บ้าน และเป็นการป้องกันการพังทลายของหน้าดินบริเวณภูเขา
ท้ังน้ีได้มีการปลูกพืชสมุนไพรเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และใช้ประโยชน์จากสมุนไพร
ชนิดต่าง ๆ ในชุมชน รวมถึงสมาชิกในชุมชนมีความร่วมใจกันท�ำเกษตรแบบไม่ใช้
สารเคมี จึงท�ำให้ระบบนิเวศในชุมชนมีความสมบูรณ์เป็นอย่างมาก และสุดท้ายมิติ
ดา้ นเทคโนโลยี พบว่าชุมชนบ้านบอ่ นางชงิ ได้รับอิทธิพลจากการพัฒนาดา้ นเทคโนโลยี
และมีการบูรณาการให้เข้ากับวิถีชีวิตอย่างลงตัว โดยมีการใช้เคร่ืองทุ่นแรงเข้ามา
ร่วมกับการท�ำการเกษตรต่าง ๆ ตลอดจนมีการใช้เคร่ืองสูบน�้ำใต้ดินเพ่ือการใช้
อุปโภคและบริโภคในครัวเรือน รวมถึงมีการจัดตั้งเคร่ืองออกก�ำลังกายสมัยใหม่ใน
ชุมชนเพื่อการกระตุ้นและสร้างเสริมสุขภาพให้กับสมาชิกในชุมชนให้มีความแข็งแรง
นอกจากนี้เขตพื้นท่ีของหมู่บ้านบ่อนางชิงยังมีทรัพยากรทางธรรมชาติ คือ
แร่ทองคำ� จากหลักฐานท่คี ้นพบท�ำให้ทราบวา่ อดตี ในยุคลา่ อาณานคิ มไดม้ ชี าวตา่ งชาติ
เข้ามาท�ำเหมืองแร่ทองค�ำ ในบริเวณหมู่บ้านและในสมัยน้ันจะสังเกตได้จากหลักฐาน
ท่ีชาวบ้านได้ค้นพบบ่อทองโบราณขนาดใหญ่ถึง 2 บ่อและอุปกรณ์เครื่องมือในการ
ขุดทอง เช่น รางรถไฟ – โบกี้ขนแร่ทองค�ำ และเคร่ืองมืออุปกรณ์ในการขุดทอง
ต่อจากนน้ั เป็นต้นมา หากใครได้เข้ามาที่บา้ นบ่อนางชงิ แลว้ น้นั เช่ือเหลือเกินวา่ จะเกดิ
ความหลงใหลและประทบั ใจอย่างมิรู้ลมื

“หม่บู ้านตัวอยา่ ง 4 ดี วถิ ีพอเพยี ง” 17

ประวัตบิ า้ นคลองไก่เถ่อื น

หมู่ที่ 1 ต�ำบลคลองไก่เถ่อื น อำ� เภอคลองหาด

บ้านคลองไก่เถ่ือน ในอดีตพ้ืนทบี่ รเิ วณน้เี ปน็ ปา่ ท่มี คี วามอุดมสมบูรณ์ ลำ� คลอง
มีน้�ำไหลตลอดท้ังปี มีต้นน�้ำจากเขาเหลื่อม เขากกมะม่วงและเขาตาง็อก ซึ่งไหล
ไปทางทิศตะวันตกและมีไก่ป่าอาศัยอยู่ในช่วงฤดูแล้งเดือนเมษายน-พฤษภาคม
ซงึ่ ในช่วงเวลาดงั กล่าวจะมไี ก่ป่าเยอะมากมาอาศัยอยูต่ ามรมิ แนวชายคลองจนผู้ทีผ่ ่าน
ไปมาเหน็ เป็นประจำ� ชาวบ้านจึงไดเ้ รยี กคลองน้ีวา่ “คลองไก่ป่า”หรือ“คลองไกเ่ ถื่อน”
ประมาณปี พ.ศ. 2513 เร่ิมมผี ู้คนอพยพมาอาศัย ทำ� มาหากินในพื้นท่ี ถางป่า
จับจองทดี่ นิ เพอื่ ทำ� นา ทำ� ไร่ ทำ� สวน
ต่อมาในปี พ.ศ. 2516 พ้ืนท่ีบริเวณน้ีมีขบวนการคอมมิวนิสต์เข้ามามีบทบาท
และปลุกระดมชาวบ้านร่วมกันต่อต้านรัฐบาล ท�ำให้ชาวบ้านมีความเป็นอยู่อย่าง
หวาดระแวง ต่อมาทางการก็เข้ามากวาดล้างขบวนการคอมมิวนิสต์ และจัดตั้งเป็น
หมบู่ า้ นขน้ึ มา เพอื่ ใหช้ าวบา้ นไดม้ ที อี่ ยแู่ ละพนื้ ทที่ ำ� มาหากนิ โดยกำ� หนดใหเ้ ปน็ “หมทู่ ่ี 5
บ้านคลองไก่เถื่อน ตำ� บลไทยอดุ ม อำ� เภอวฒั นานคร จังหวดั ปราจนี บรุ ”ี

18 “หมู่บา้ นตัวอยา่ ง 4 ดี วถิ ีพอเพยี ง”

วันท่ี 15 มกราคม พ.ศ. 2528 ต�ำบลคลองหาดได้แยกออกจากอ�ำเภอ
วัฒนานคร ยกระดบั เป็นกงิ่ อ�ำเภอคลองหาด
ในวันท่ี 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2533 กิ่งอ�ำเภอคลองหาด ได้ยกระดับเป็น
อำ� เภอคลองหาด และจำ� นวนประชากรไดเ้ พ่มิ มากขึ้น ทำ� ใหห้ มู่ท่ี 5 บ้านคลองไก่เถ่อื น
แยกออกเป็น 2 หมู่ โดยเพ่มิ หม่ทู ี่ 1 บ้านคลองไกเ่ ถ่ือน ต�ำบลคลองไกเ่ ถือ่ น อ�ำเภอ
คลองหาด จงั หวัดปราจีนบรุ ี
ต่อมาเมื่อ 1 ธันวาคม 2536 ได้มีพระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัดสระแก้วข้ึน
ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาฉบับพิเศษ เล่มที่ 110 ตอนที่ 125 ลงวนั ท่ี 2 กนั ยายน
2536 เป็นผลให้จังหวัดสระแก้ว ได้เปิดท�ำการใน วันท่ี 1 ธันวาคม 2536 โดยเป็น
จังหวัดท่ี 74 ของประเทศไทย หมู่ที่ 1 บ้านคลองไก่เถื่อนจึงเปล่ียนเป็น หมู่ท่ี 1
บ้านคลองไก่เถื่อน ต�ำบลคลองไก่เถื่อน อ�ำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว ในเวลา
ต่อมา

“หมู่บา้ นตัวอยา่ ง 4 ดี วิถีพอเพยี ง” 19

ประวัติบ้านเขาสารภี

หมทู่ ่ี 3 ตำ� บลทับพริก อำ� เภออรญั ประเทศ

ประวัตศิ าสตร์ตำ� บลทบั พริก ไดม้ าจากคำ� บอกเลา่ ของชมุ ชนทอ่ี ยู่อาศยั ในพ้นื ท่ี
ตั้งแต่ช่วงเริ่มจัดตั้งหมู่บ้านและชาวชุมชนท่ีเป็นรุ่นลูกรุ่นหลานที่ช่วยกันเล่าเร่ืองราว
ของหมู่บ้าน ท้ังจากประสบการณ์ตรงและจากท่ีได้ยินมา ประวัติศาสตร์ต�ำบลทับพริก
แบ่งออกเป็นยุคตา่ ง ๆ ตามการเปลย่ี นแปลงที่เกดิ ขึ้นในหมบู่ ้านเป็น 8 ยุค โดยบรบิ ท
ท่ัวไปของบ้านทับพริกในมิติด้านสังคม พบว่าบ้านเขาสารภีเป็นชุมชนที่มีขนาด
ไม่ใหญ่มาก เนื่องจากมีการแยกตัวของหมู่บ้านเพื่อการวางระบบบริหารจัดการ
ซึ่งการอยู่ร่วมกันในชุมชนจะเป็นลักษณะของเครือญาติท่ีคอยให้ความช่วยเหลือ
ระหว่างกัน ขณะเดียวกันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกัมพูชาซ่ึงเป็นอาณาเขต
ติดต่อกนั โดยสมาชกิ ในชุมชนมักเรยี กว่าเปน็ เมืองพเ่ี มอื งนอ้ ง มิตดิ า้ นการเมือง พบว่า
บา้ นเขาสารภเี ป็นชุมชนปกครองโดยผู้ใหญแ่ ละคณะผู้ช่วย ซึง่ เป็นผู้ท่ปี ระสานระหวา่ ง
หน่วยราชการและประชาชนในเร่ืองของการสื่อสารต่าง ๆ ตลอดจนบ้านเขาสารภี
เป็นชุมชนท่ีมีประวัติศาสตร์อันยาวนานและเป็นที่น่าสนใจอย่างย่ิง ท้ังน้ี ในยุคต่าง ๆ
ของการก่อตั้งชุมชนน้ันเต็มไปด้วยเรื่องราว ความสัมพันธ์ตลอดจนเหตุการณ์ส�ำคัญ ๆ
ไว้หลายเหตุการณ์ ขณะที่มิติด้านเศรษฐกิจ พบว่าบ้านเขาสารภีเป็นหมู่บ้านท่ีมีทุน
ทางเศรษฐกิจดีมาก เน่ืองจากมีตลาดการค้าพรมแดนขนาดเล็ก สามารถสร้างรายได้
ให้กับชุมชน โดยสมาชิกในชุมชนบ้านเขาสารภีมีการน�ำผลผลิตไปจ�ำหน่าย ณ บริเวณ

20 “หมบู่ ้านตัวอย่าง 4 ดี วิถพี อเพียง”

จดุ พรมแดนไทย – กมั พูชา ท�ำใหเ้ กิดรายไดต้ ่อชมุ ชนอยา่ งต่อเนอื่ ง นอกจากนี้ชาวบา้ น
ได้มีการรวมกลุ่มด้านการสร้างอาชีพสามารถสร้างอ�ำนาจการต่อรองและลดราคา
สินค้าได้รวมถึงมิติด้านสิ่งแวดล้อม พบว่าบ้านเขาสารภีเป็นชุมชนที่มีความ
อุดมสมบรู ณ์ทางดา้ นทรัพยากรธรรมชาติเนือ่ งจากในพื้นทส่ี ภาพภมู อิ ากาศ และสภาพ
ภูมิประเทศที่เอื้อให้พ้ืนท่ีส่วนใหญ่มีความพร้อมท้ังด้านการตกของฝนเนื่องจากมีภูเขา
ที่เป็นแหล่งรองรับน้�ำ กล่าวคือ เม่ือมีพายุเข้าจากฝั่งทะเลอ่าวไทย ก็จะเคล่ือนตัว
เข้ามาทางจังหวัดจันทบุรี และอ่อนก�ำลังลงบริเวณบ้านเขาสารภี ท�ำให้ชุมชนมีความ
อุดมสมบูรณ์ด้านน�้ำและดิน และสุดท้ายมิติด้านเทคโนโลยี พบว่าบ้านเขาสารภีเป็น
ชมุ ชนเกษตรกรรม ทีม่ ีการใช้เทคโนโลยเี พอ่ื ชว่ ยทนุ่ แรงในการทำ� การเกษตร เช่น รถไถ
รถตัดอ้อย และรถบรรทุกขนาดใหญ่ โดยบูรณาการกับภูมิปัญญาท้องถ่ิน เช่น
การปลูกหม่อน การเล้ียงไหมตามวิถีธรรมชาติ โดยชุมชนจะด�ำเนินการสร้างโรงเรือน
เล้ยี งไหมทม่ี ีความสะอาด ปลอดภัยและต้นทนุ การสร้างไม่สงู มากนกั
ทง้ั นภี้ เู ขาบา้ นเขาสารภตี งั้ อยบู่ รเิ วณภายในวดั เขาสารภี ซงึ่ อดุ มไปดว้ ยพชื พรรณ
ตา่ ง ๆ ทง้ั ไมย้ ืนต้นและพชื คลุมดนิ ซ่งึ เป็นแหล่งอนุรกั ษ์พันธ์หุ อยหอมท่ีเปน็ ทรัพยากร
ธรรมชาติอันทรงคุณค่าของชุมชน โดยสมาชิกมีความรักและหวงแหนธรรมชาติเป็น
อย่างมาก เมื่อพิจารณาจากกิจกรรมท่ีสมาชิกในชุมชนได้ด�ำเนินการอย่างต่อเน่ือง คือ
การอนุรกั ษพ์ นั ธห์ุ อยหอม การปลกู ปา่ ทดแทนเพือ่ รกั ษาสภาพระบบนเิ วศในธรรมชาติ
ภายในชุมชนนั้นเกิดความย่ังยืนสืบไป โดยครั้นท่ีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า
กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชด�ำเนิน
ตรวจเยีย่ มโรงเรียนต�ำรวจตระเวนชายแดนบ้านเขาสารภีทรงมีพระราชด�ำริให้ชาวบา้ น
“บ้านเขาสารภีควรให้ความส�ำคัญและอนุรักษ์หอยหอมไว้” ซึ่งเป็นสิ่งท่ีสร้างขวัญ
และกำ� ลังใจให้กับชมุ ชนบา้ นทับพริกอย่างหาท่สี ุดมไิ ด้

“หมูบ่ ้านตัวอย่าง 4 ดี วิถีพอเพียง” 21

ประวตั บิ า้ นหนองแวง

หม่ทู ี่ 1 ตำ� บลหนองแวง อำ� เภอโคกสูง

บ้านหนองแวง ประวัติความเป็นมาไม่ปรากฏหลักฐานยืนยันได้ว่าจัดต้ัง
หมู่บ้านตั้งแต่ พ.ศ. ใด แต่จากการบอกเล่าต่อ ๆ กันมาของผู้เฒ่าผู้แก่ท่ีอยู่ในหมู่บ้าน
ท�ำให้สามารถสันนิษฐานได้ว่าราวประมาณปี พ.ศ. 2376 ซึ่งผู้ที่มาตั้งรกรากช่ือ
หลวงสุวรรณ์ (ซ่ึงเป็นขุนนางเก่าของเจ้านครเวียงจันทน์) เน่ืองจากเกิดสงคราม
กลางเมือง จึงได้อพยพพาเหล่าไพร่พลราษฎรไปหาถิ่นฐานใหม่เร่ือยลงมาทางตอนใต้
เข้าสู่อาณาจักรเขมร และเข้ามายังอาณาจักรสยาม จนกระท่ังมาพบแหล่งน�้ำ
ธรรมชาติ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณธัญญาหาร เป็นภูมิประเทศเหมาะสมแก่
การก่อตั้งหมู่บ้าน ซึ่งในหนองน�้ำนั้นมีต้นหญ้าแวง (ต้นพืชชนิดหน่ึงคล้ายกับต้นกก)
ขึ้นอยู่เต็มไปหมด หลวงสุวรรณ์ จึงเรียกว่า “หนองแวง” และได้ตั้งหลักปักฐาน
ณ บา้ นหนองแวง (ในปัจจุบนั ) อยา่ งเปน็ การถาวร หลวงสุวรรณ์ จงึ ถือเป็นตน้ ตระกลู
ของคนบ้านหนองแวง โดยมีนามสกุลว่า เชื้อสุวรรณ์ และเป็นผู้น�ำหมู่บ้านคนแรก
กาลเวลาผ่านไปหมบู่ า้ นมกี ารพฒั นา ผา่ นผนู้ ำ� หลายร่นุ จวบจนมา ถงึ ปัจจบุ นั นี้

22 “หม่บู ้านตวั อยา่ ง 4 ดี วถิ พี อเพียง”

ต้นแวง ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่บ้าน ผู้ก่อตั้งบ้านได้น�ำมาตั้งช่ือบ้าน
สมัยก่อนจะข้ึนอยู่ท่ีสระน้�ำใหญ่หมู่บ้าน เมื่อมีการขุดลอกเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
เร่ิมสูญหายไปจากหมู่บ้าน คงเหลือไว้ให้คนรุ่นหลังได้เห็นอยู่หน้ากุฏิเจ้าอาวาสวัด
หนองแวง
ปจั จุบนั บ้านหนองแวง มีทั้งหมด 129 ครัวเรอื น อย่จู รงิ 90 ครวั เรอื น ประชากร
ทง้ั หมด 469 คน แบง่ เป็น ชาย 247 คน หญิง 222 คน โดยมี นายทองสา ถาวรสาลี
เปน็ ก�ำนนั ต�ำบลหนองแวง และผู้ใหญ่บ้าน หมทู่ ่ี 1 สำ� หรบั ศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี
ความเชอ่ื สว่ นใหญน่ บั ถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 100


“หมูบ่ ้านตวั อย่าง 4 ดี วิถพี อเพียง” 23

ประวตั ิบ้านทัพไทย

หมทู่ ่ี 1 ตำ� บลทัพไทย อ�ำเภอตาพระยา

เมื่อปี พ.ศ. 2522 บ้านทพั ไทย หมทู่ ี่ 1 ต�ำบลทพั ไทย อ�ำเภอตาพระยา จงั หวดั
สระแกว้ เป็นทอ่ี ยู่อาศัยของชาวกัมพชู าทห่ี ลบหนีภยั สงครามเขา้ มาในเขตประเทศไทย
ตามบริเวณแนวชายแดน โดยรัฐบาลไทยได้จัดพ้ืนท่ีให้และเปิดเป็นศูนย์อพยพ
ตามแนวชายแดน ซึ่งโครงการเดิมเป็นที่ตั้งของศูนย์รับผู้อพยพล้ีภัยจากสงคราม
เขมรแดง (SITE 2) ในปี พ.ศ. 2523 หลังจากที่ได้ส่งตัวผู้อพยพกลับราชอาณาจักร
กัมพูชาหมด กองก�ำลังบูรพา โดยพลเอกพิจิตร กุลละวณิชย์ ในสมัยพลเอกเปรม
ติณสูลานนท์ ด�ำรงต�ำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีการจัดตั้งเป็นหมู่บ้านป้องกัน
ตัวเองตามแนวชายแดน (อพป.) หรือหมู่บ้านทัพไทยในปัจจุบัน และย้ายชาวบ้าน
จากศนู ยร์ บั อพยพอพยพเข้ามาอยอู่ าศัย ซ่ึงสว่ นใหญ่เปน็ ชาวบา้ นสันลอชงัน
จากค�ำบอกเล่าของคณุ เกยี สิงห์สราญรมย์ ผู้ใหญบ่ า้ นคนแรกของบา้ นทพั ไทย
ได้เล่าว่า “ในช่วงสงครามได้พบคนล้มตายจากสงครามมากมาย แม้กระทั่งสัตว์
ตา่ ง ๆ เช่น ววั ควาย ทำ� ให้ตอ้ งย้ายจากหมู่บา้ นสนั ลอชงันไปอยใู่ นศนู ยอ์ พยพหม่บู ้าน
โคกเพร็กเป็นเวลา 3 ปี หลังจากน้ันทางรัฐบาลจึงได้จัดสรรท่ีดินเพ่ือก่อต้ังหมู่บ้าน
ทัพไทยข้ึน ในช่วงระยะแรกหมู่บ้านยังอยู่ในภาวะสงคราม ชาวบ้านมีการติดอาวุธ

24 “หมบู่ า้ นตวั อยา่ ง 4 ดี วิถพี อเพยี ง”

เพ่ือดูแลตนเอง การเดินทางออกจากหมู่บ้านท�ำได้ยากเน่ืองจากมีความอันตรายมาก
และมีการลักขโมยสินค้าทางการเกษตรของชาวบ้าน แต่คนท่ีมาขโมยก็จะน�ำเงินใส่ถุง
และไปห้อยไว้กับกิ่งไม้เพ่ือให้เจ้าของสวน ไม่ได้เอาไปฟรี ๆ แค่ไม่ได้แจ้งเจ้าของสวน
ล่วงหนา้ เทา่ น้นั ”
ผลของสงครามได้ท้ิงร่องรอยความเสียหาย บาดแผลทางจิตใจ และทาง
ร่างกายให้กับชาวบ้าน ชาวบ้านหลายคนสูญเสียสมาชิกในครอบครัว บางคนต้อง
พกิ ารหรือมบี าดแผลตามรา่ งกาย
แต่ก็มีเร่ืองราวดี ๆ ที่เกิดข้ึน คือมิตรภาพของคนในชุมชนเกิดความรัก
ความผูกพันจากที่ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มาด้วยกัน รวมท้ังความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง
ชาวบ้านฝั่งไทยและกัมพูชา มีการเดินทางไปมาหาสู่กันฉันพี่น้อง และบางคนเป็น
พี่น้องกันทางสายเลือดจริง ๆ มี ปู่ ย่า ตา ยายร่วมกัน แต่ถูกพลัดพรากจากสงคราม
ซ่ึงยังมีประเพณีวัฒนธรรมท่ีผสมผสานกันระหว่างไทยและกัมพูชา เช่น โคมลม
โคมไฟ รดน้�ำด�ำหัวผู้สูงอายุ โยนสะบ้า ร�ำกระทบ แซนโฎนตา มีการใช้ภาษาเขมร
ในการส่ือสาร และนับถือศาสนาพุทธ

คุณเกยี สิงหส์ ราญรมย์
ผ้ใู หญบ่ า้ นคนแรกของบา้ นทัพไทย

“หมู่บา้ นตัวอยา่ ง 4 ดี วิถพี อเพยี ง” 25

26 “หม่บู ้านตวั อย่าง 4 ดี วถิ ีพอเพยี ง”

ดา้ นคนดี

“หมบู่ ้านตัวอยา่ ง 4 ดี วิถีพอเพยี ง” 27

กจิ กรรมดา้ นคนดีบา้ นวังหิน

หมู่ที่ 10 ตำ� บลบา้ นแก้ง อำ� เภอเมอื งสระแกว้

การจะเป็นต้นแบบหรือการท�ำให้คนในชุมชนนั้นยอมรับ ต้องเร่ิมต้นจาก
การปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างท่ีดีและเป็นท่ีเคารพของคนในชุมชน โดยได้น�ำหลักการ
แนวทางการน้อมน�ำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงในการด�ำเนินชีวิต ร่วมกับพัฒนาพื้นที่
การรักษาความสะอาดของชุมชนอย่างต่อเน่ือง ตลอดจนส่งเสริมกิจกรรมภายใน
ชุมชนอย่างต่อเน่ือง เพื่อสร้างความรักและความสามัคคีภายในชุมชน เช่น วัฒนธรรม
ประเพณีประจ�ำปี ปีใหม่ เข้าพรรษา ออกพรรษา และอื่น ๆ เพื่อเป็นการอนุรักษ์
วัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม และปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมให้แก่เด็กและเยาวชน
ของหมู่บา้ นวงั หนิ เพอื่ เป็นกำ� ลงั สำ� คญั ของหมู่บ้านในอนาคตของบ้านวังหิน
ชมุ ชนบา้ นวงั หนิ หม่ทู ี่ 10 เป็นหมบู่ ้านมีบรรยากาศทีน่ า่ อย่เู งียบสงบเรยี บง่าย
ผู้คนมีอัธยาศัยดี มีน้�ำใจงาม เอื้อเฟื้อและรู้จักแบ่งปัน การให้ความร่วมมือเข้าร่วม
ประชุมประจ�ำเดือน และการเคารพกฎระเบียบที่ได้ตั้งร่วมกันเอาไว้ จากการลงพื้น
ท่ีการส�ำรวจสามารถแบ่งข้อมูลออกเป็น 4 ด้าน ได้แก่ ด้านคนดี ด้านสุขภาพดี
ด้านรายได้ดี และดา้ นสงิ่ แวดล้อมดี


28 “หมูบ่ ้านตัวอยา่ ง 4 ดี วถิ ีพอเพียง”

“การท�ำงาน ม่งุ เนน้
และยดึ ประโยชน์
ของชมุ ชนเปน็ ที่ต้งั ”

สมพงษ์ หงษโ์ สภาพ

ผู้ใหญ่บา้ นวังหิน หมูท่ ่ี 10

“หมบู่ า้ นตัวอย่าง 4 ดี วถิ ีพอเพียง” 29

กิจกรรมดา้ นคนดีบา้ นพระเพลิง

หมทู่ ่ี 1 ตำ� บลพระเพลิง อ�ำเภอเขาฉกรรจ์

การเริ่มต้นเป็นคนดีนั้น เร่ิมจากการปฏิบัติตนเองเป็นแบบอย่าง การมุ่งม่ัน
ในการท�ำงานเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับประชาชน โดยเร่ิมจากการเป็นเกษตรกร
จนได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานศูนย์เรียนรู้ข้าวอินทรีย์ เป็นเกษตรกรแบบเกษตร
อินทรีย์ตัวอย่าง ไม่ใช้สารเคมี ปลอดภัยต่อชีวิต คืนชีวิตสู่เกษตรกร เป็นผู้น�ำ
เกษตรกรในชุมชนเข้าร่วมโครงการ การปลูกข้าวระบบอินทรีย์ การใช้ปุ๋ยอินทรีย์
การบรรจุข้าวกล้องระบบสูญญากาศ การท�ำนาอินทรีย์ท่ีมีการรวมตัวกันของ
ประชาชน 3 หมู่บ้าน คือ บ้านพระเพลิง หมู่ท่ี 1, บ้านนาคันหัก หมู่ที่ 2 และ
บ้านซับมูล หมู่ที่ 12 โดยใช้พ้ืนท่ีสาธารณะของหมู่บ้าน ในการท�ำนาอินทรีย์
ข้าวไรท์เบอร์รี่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานราชการ เช่น ที่ท�ำการปกครอง
อ�ำเภอเขาฉกรรจ์ องค์การบริหารส่วนต�ำบลพระเพลิงในการเข้าร่วมการด�ำเนินงาน
ตามช่วงระยะเวลาตา่ ง ๆ เป็นประจำ� กลมุ่ เกษตรกรที่เข้ารับการอบรมโครงการสง่ เสรมิ
และพฒั นาการผลิตขา้ วปลอดภัย/ ข้าวอนิ ทรยี ์ ซง่ึ มีสมาชิกท้งั หมด 20 คน

30 “หมบู่ ้านตวั อย่าง 4 ดี วถิ พี อเพยี ง”

บุคคลต้นแบบ

คุณจิรภัทร ปกั ครึก (ผูใ้ หญบ่ ้าน บ้านพระเพลิง)

คนดีบ้านพระเพลิงเร่ิมต้นจากการสร้างกฎระเบียบให้กับตนเองและปฏิบัติตน
ตามกฎข้อบังคับของชุมชนและสังคม การเป็นคนดีได้ต้องเร่ิมต้นจากเด็กและเยาวชน
ปลูกจิตส�ำนึก จากการเข้าวัดปฏิบัติธรรม ฟังธรรมะอย่างสมำ่� เสมอ การน�ำหลักธรรม
ค�ำสอน หรือน�ำศีล 5 ไปปฏิบัติอย่างน้อยตามเทศกาลส�ำคัญ มีคุณธรรม จริยธรรม
มีจิตส�ำนึกสาธารณะ ยิ้มแย้มแจ่มใส มีการช่วยเหลือเก้ือกูลกัน ส่งเสริมการอนุรักษ์
พฒั นาศิลปวัฒนธรรมและประเพณี สร้างกิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ เพ่อื ปลกู จติ ส�ำนกึ
ต่อสาธารณะ มีน้�ำใจ และเสียสละ ยึดหลักธรรมของศาสนาเป็นที่ต้ัง และส่งเสริม
ให้มีการเชิดชูคนดี สนับสนุน ปกป้องคนดี ให้ท�ำความดีต่อไป เพื่อประโยชน์แก่สังคม
คนในชมุ ชนบา้ นพระเพลิง

“หมบู่ า้ นตัวอยา่ ง 4 ดี วถิ พี อเพียง” 31

กิจกรรมดา้ นคนดีบา้ นตาหลังใน

หมทู่ ่ี 1 ตำ� บลตาหลังใน อ�ำเภอวงั นำ�้ เยน็

กิจกรรมเกี่ยวกับโครงการ สระแก้วเมืองแห่งความสุขด้วย 4 ดี วิถีพอเพียง
ในหมู่บ้านตาหลังในว่า การส่งเสริมในด้าน “คนดี” ในหมู่บ้านตาหลังใน ท�ำโดยใช้
วิธีการชักชวนให้คนรุ่นใหม่มาให้ความส�ำคัญและสนใจการท�ำนุบ�ำรุงศาสนา พอถึง
ช่วงเทศกาลงานบุญต่าง ๆ ทางผู้น�ำชุมชน และผู้เฒ่าผู้แก่ในชุมชนจะออกจากบ้าน
มารวมตัวกัน โดยส่วนใหญ่แล้ว จะมีวัดเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชุมชนอยู่แล้ว
และเปน็ สถานท่ีในการปฏบิ ตั ิธรรมในชว่ งวันสำ� คญั ทางศาสนา ในทกุ ๆ ปี วัดตาหลงั ใน
จะจัดกิจกรรมท�ำบุญปริวาสกรรม เพ่ือเป็นการท�ำบุญ รักษาศีลของผู้ที่ศรัทธา
และนับถือในพุทธศาสนาได้ปฏิบัติธรรม โดยผู้เข้าร่วมปฏิบัติธรรม เชื่อว่า เป็นการ
ท�ำบุญเพื่อท�ำให้จิตใจของตนเองสงบข้ึนและมีสมาธิกับตัวเองมากข้ึน ในส่วนของ
ชาวบ้านท่ัวไปท่ีไม่ได้เข้าร่วมปฏิบัติธรรม รักษาศีลท่ีวัด จะเข้ามามีส่วนร่วมในการ
ช่วยท�ำอาหารเล้ียงพระสงฆ์และแม่ชีที่เดินทางมาร่วมปฏิบัติธรรม และช่วยอ�ำนวย
ความสะดวกให้ผู้ที่เดินทางมาร่วมท�ำบุญภายในวัด โดยก�ำหนดการจัดงานท�ำบุญ
ปริวาสกรรมจะจัดขึ้นในช่วงวันขึ้น 15 คำ�่ เดือน 6 ของทุกปี และจัดเป็นเวลา 9 วัน
9 คนื
นอกจากนั้นบ้านตาหลังใน ได้รณรงค์งานบุญปลอดเหล้า ปลอดการพนัน
ซ่ึงชุมชนได้เข้าร่วมกับส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
ต้ังแต่ ปี พ.ศ. 2553 จนถึงปัจจุบัน ผลจากการรณรงค์งานบุญปลอดเหล้า ปลอด
การพนันที่ชุมชนด�ำเนินการมาอย่างต่อเน่ือง ส่งผลให้สถานการณ์การด่ืมเคร่ืองดื่ม
แอลกอฮอล์ในงานพิธีกรรมต่าง ๆ ของชุมชนลดลงได้ถึงร้อยละ 80 และท�ำให้
การทะเลาะววิ าทของคนในชุมชนลดลงตามไปดว้ ย

32 “หมบู่ ้านตวั อยา่ ง 4 ดี วิถพี อเพยี ง”

บุคคลท่ีเป็นต้นแบบ

พ่อสมจติ สีลาธร

ในการปฏิบัติตัวเป็นคนดีในหมู่บ้านตาหลังใน ได้กล่าวไว้ว่า คนทุกคนเป็น
คนดีในตัวเอง ทุกคนในชุมชนมีจิตอาสาท่ีจะช่วยเหลือผู้อ่ืน จะเห็นได้จากงานบุญ
งานพิธีกรรมต่าง ๆ ท่ีจัดขึ้นโดยชุมชน ทุกคนจะเข้ามาช่วยเหลือกันอยู่เสมอ และสิ่ง
ที่สำ� คญั ในการเป็นคนดี คือ การรกั ษาศีลอยา่ งงา่ ย ๆ คือ รักษาศลี 5 ในการดำ� รงชีวิต
ก็พอเพียงแล้ว และมีเคล็ดลับในการใช้ชีวิตคู่กับคุณแม่ได้อย่างยาวนานคือ
การพูดความจริง ซื่อสัตย์ต่อตัวเองและต่อคู่ครองของเรา และท่ีส�ำคัญคือ เม่ือภายใน
ครอบครัวมีปัญหากจ็ ะใชว้ ิธกี ารหันหน้ามาพูดคยุ กนั เพอื่ หาทางออกรว่ มกนั ทำ� ให้เรา
อยูด่ ้วยกันดว้ ยความเขา้ ใจมาตลอด

“หมบู่ ้านตวั อยา่ ง 4 ดี วถิ ีพอเพียง” 33

กจิ กรรมด้านคนดีบา้ นวังทอง

หมู่ท่ี 1 ตำ� บลวังทอง อ�ำเภอวงั สมบูรณ์

“คนดี” บา้ นวงั ทอง หมู่ท่ี 1 ต�ำบลวงั ทอง อำ� เภอวังสมบรู ณ์ จังหวัดสระแก้ว
คนดี แห่งบ้านวังทองเริ่มต้นจากการสร้างกฎระเบียบให้กับตนเองและ
ปฏิบัติตนตามกฎข้อบังคับของชุมชนและสังคม การเป็นคนดีได้ต้องเร่ิมต้นจาก
เด็กและเยาวชน ปลูกจิตส�ำนึก จากการเข้าวัดปฏิบัติธรรม ฟังธรรมะอย่างสม�่ำเสมอ
การน�ำหลักธรรม ค�ำสอน หรือน�ำศีล 5 ไปปฏิบัติอย่างน้อยตามเทศกาลส�ำคัญ
มีคุณธรรม จริยธรรมมีจิตส�ำนึกสาธารณะ ยิ้มแย้มแจ่มใส มีการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
นอกจากน้ีบ้านวังทองส่งเสริมการอนุรักษ์ พัฒนาศิลปวัฒนธรรมและประเพณี
สร้างกิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ เพ่ือปลูกจิตส�ำนึกต่อสาธารณะ มีน�้ำใจ และเสียสละ
ยึดหลักธรรมของศาสนาเป็นท่ีตั้ง และส่งเสริมให้มีการเชิดชูคนดี สนับสนุน ปกป้อง
คนดี ให้ท�ำความดตี อ่ ไป เพ่ือประโยชนแ์ ก่สังคมคนในชุมชนวงั ทอง

“คนด”ี

ตอ้ งมีความซ่ือสตั ย์ มคี วามเสยี สละ เหน็ ประโยชนส์ ว่ นรวม
ชว่ ยเหลอื ชุมชน ไมส่ รา้ งความเดือดร้อน

34 “หมบู่ ้านตวั อย่าง 4 ดี วิถพี อเพยี ง”

บคุ คลต้นแบบ

“การเป็นผู้น�ำ ผู้ใหญบ่ ้านหรือแม้แต่หัวหนา้ งาน การจะใชค้ นอ่นื
ใช่วา่ จะออกแต่คำ� สง่ั ให้เขาท�ำงาน แต่ตอ้ งท�ำงานเปน็ ตวั อยา่ ง

ใหเ้ ขาดู เขาถงึ จะเข้าใจและทำ� ตาม”

การเป็นคนดีจ�ำเป็นต้องมีความซ่ือสัตย์ ลด ละ เลิกอบายมุขต่าง ๆ เป็นคนที่
ชว่ ยเหลือเกอื้ กูลภายในชุมชนการมนี ้�ำใจชว่ ยเหลอื กิจกรรมของชมุ ชนมคี วามเสียสละ
เพอื่ ประโยชนส์ ว่ นรวม และไมส่ รา้ งความเดอื ดรอ้ นใหก้ บั ชมุ ชน นายฉตั รชยั จนั ทรม์ งคล
สร้างกระบวนการท�ำงาน ทุ่มเทแรงกาย และเวลาในการพัฒนาชุมชนบ้านวังทอง
ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม พัฒนาและสนับสนุนโรงเรียนบ้านวังทอง นอกจากนี้ยัง
ให้เกียรติแก่ทุกคน สร้างความเสมอภาคภายในชุมชน ให้ความเคารพ และเช่ือใจ
ในการท�ำงานของทีมงานจนได้รับความไว้วางใจและความเคารพนับถือของคน
ในชุมชน ด้านการด�ำเนินชีวิตได้เป็นตัวอย่างการน้อมน�ำแนวคิดตามหลักปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพียง รัชกาลท่ี 9 มาเป็นหลักในการด�ำเนินชีวิต การท�ำการเกษตร
ปลูกพืชผสมผสาน การสร้างแหล่งกักเก็บน้�ำ เพ่ือเก็บน้�ำไว้ใช้ช่วงหน้าแล้งและ
ส่งเสริม ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการเกษตรเผยแพร่แก่คนในชุมชน และจัดโครงการ
เพื่อเพ่ิมองค์ความรู้ให้กับชาวบ้านวังทองเพื่อพัฒนาแนวคิด เพิ่มองค์ความรู้ และ
สรา้ งแรงบนั ดาลใจใหก้ ับคนในชมุ ชน

“หม่บู า้ นตัวอย่าง 4 ดี วถิ ีพอเพยี ง” 35

กิจกรรมด้านคนดบี า้ นบอ่ นางชิง

หมู่ท่ี 4 ตำ� บลหว้ ยโจด อ�ำเภอวฒั นานคร

บ้านบ่อนางชิงเป็นชุมชนท่ีอยู่กันแบบเครือญาติ จึงมีกิจกรรมประเพณีต่าง ๆ
อย่างสม�่ำเสมอและได้รับการตอบรับจากชุมชนดีเสมอมา ทั้งน้ีเนื่องจากครอบครัว
แต่ละครอบครัวได้มีการสื่อสารกันเป็นระยะ ๆ จึงท�ำให้การรับรู้ข้อมูลทางด้านการ
จัดกิจกรรมกระจายไปได้อย่างทั่วถึง เช่น สมาชิกในครอบครัวจะชักชวนกันไปท�ำบุญ
เพ่ือสานความสัมพันธ์ในครอบครัวและทำ� นุบ�ำรุงศิลปวัฒนธรรมของชุมชนให้คงอยู่ไว้
ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าในมิติด้านคนดี บ้านบ่อนางชิงเป็นชุมชนหนึ่งที่สมาชิกให้ความ
ส�ำคัญกับด้านศีลธรรมและประเพณีอันดีงาม ในขณะที่ผู้ใหญ่ในชุมชนก็เป็นบุคคลท่ี
สามารถเป็นแบบอย่างให้กับเยาวชนในชุมชนได้เป็นอย่างดี และหากผู้อ่านได้มี
โอกาสได้เข้าไปเยี่ยมเยือนบ้านบ่อนางชิง ท่านจะได้พบกับรอยย้ิมและการต้อนรับ
อันแสนอบอุ่น ของสมาชิกบา้ นบอ่ นางชิงแหง่ นอ้ี ย่างแนน่ อน

36 “หมบู่ ้านตัวอย่าง 4 ดี วิถพี อเพยี ง”

“บา้ นเราอยู่กันแบบพแี่ บบน้อง มีอะไรก็พดู คุยกนั
โดยไมย่ ดึ ติดกับตำ� แหน่งใด ๆ

โดยความคาดหวงั อยากเห็นหม่บู า้ นมกี ารเปล่ียนแปลง
ไปในทางทด่ี ขี ึ้น มีสุขภาพร่างกายสุขภาพจติ ใจ
และมรี ายไดด้ ีอย่างต่อเนอื่ ง”

สบุ นั ท์ เซยี่ มกิ่ง. 2562
(ผู้ใหญ่บ้าน บ้านบอ่ นางชงิ )

“หมู่บา้ นตัวอยา่ ง 4 ดี วถิ ีพอเพียง” 37

กิจกรรมดา้ นคนดบี า้ นคลองไก่เถอ่ื น

หมทู่ ่ี 1 ตำ� บลคลองไก่เถื่อน อำ� เภอคลองหาด

“หลักการบริหาร ให้คดิ ว่า
ทุกคนคอื พีน่ อ้ ง
การปกครองคน

ต้องปกครองแบบพแ่ี บบน้อง
เสมือนญาติ

เขาจึงจะไว้ใจและเชื่อเรา”

นายสเุ ทพ แจม่ หอม
กำ� นันตำ� บลคลองไก่เถอ่ื น
เป็นบุคคลที่น�ำหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ มาใช้ในการท�ำการเกษตรในพื้นที่
ของตนเอง และท�ำเป็นตัวอย่าง ให้ชาวบ้านดู และเมื่อชาวบ้านเห็นว่ามันได้ผลจริง
เด๋ียวชาวบ้านก็ท�ำตามเอง ซึ่งเม่ือมีผลผลิตก็เอามารวมกัน วางขายรายรับท่ีได้ก็แบ่ง
ตามสดั ส่วน กจ็ ะเกดิ กจิ กรรมและผลติ ภัณฑ์ของชุมชน

38 “หม่บู า้ นตัวอยา่ ง 4 ดี วิถีพอเพียง”

“ ทำ� ทกุ อย่างดว้ ยใจ เพ่อื พัฒนาชุมชน
ให้มคี วามอยดู่ ี กินดี แล้วความสุข
กจ็ ะตามมาเอง ภูมใิ จ ดีใจ
ทีเ่ ห็นชมุ ชนมคี วามเปน็ อยูท่ ี่ดี ”

นางล�ำดวน ก้องกลางดง เป็นท้ัง ส.อบต.คลองไก่เถ่ือน เป็นทั้งประธานกลุ่ม
จับผ้าและท�ำดอกไม้จันทน์ รวมท้ังเป็นแกนน�ำในการท�ำกิจกรรมจิตอาสาของชุมชน
และเป็นผู้ที่แสวงหาแหล่งงบประมาณ เพื่อน�ำมาสู่ชุมชน เพื่อให้ชุมชนมีรายได้เพ่ิม
มคี วามเป็นอยทู่ ่ีดขี ้นึ

“หมบู่ ้านตัวอยา่ ง 4 ดี วิถพี อเพยี ง” 39

กจิ กรรมด้านคนดบี า้ นเขาสารภี

หมู่ท่ี 3 ต�ำบลทับพริก อำ� เภออรญั ประเทศ

บ้านเขาสารภีเป็นชุมชนขนาดเล็ก มีการวางโครงสร้างการบริหารงานท้องถิ่น
ที่ต้องมีการแยกหมู่บ้านเพื่อการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ท�ำให้สมาชิก
ในชุมชนมีความผูกพันอยู่กับแบบเครือญาติ มีการติดต่อสื่อสารกันตลอดเวลา
หากพิจารณาระดับบุคคล ทางด้านคนดี พบว่า ผู้น�ำมีส่วนส�ำคัญในการขับเคลื่อน
ชุมชนให้มีความก้าวหน้าและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง บ้านเขาสารภีจะได้รับการดูแล
ช่วยเหลือ ส่งเสริมและสนับสนุน จากผู้น�ำในทุกระดับ ตั้งแต่ นายกองค์การบริหาร
ส่วนต�ำบล ผู้ใหญ่บ้าน ที่ท�ำหน้าที่อย่างเต็มก�ำลังความสามารถท่ีมาพร้อมกับความสุข
เพื่อประโยชน์ของสมาชิกในชุมชน กล่าวคือ ผลงานท่ีโดดเด่นคือ กระบวนการ
ของพ้ืนที่ท�ำกินให้กับสมาชิกในชุมชน โดยผู้น�ำมีการประสานกับทุกหน่วยงาน
ท่ีเกี่ยวข้องอันเน่ืองมาจากการท่ีสมาชิกในชุมชนไม่มีพ้ืนที่ท�ำกิน แต่คนนอกพื้นท่ี
สามารถเข้ามาจับจองพ้ืนท่ีได้อย่างอิสระ ทั้งน้ีผู้น�ำได้ย่ืนเสนอปัญหาดังกล่าวถึง
หนว่ ยงานราชการ ทง้ั ทหาร ตำ� รวจ ผูว้ ่าราชการจงั หวดั นายกรฐั มนตรี (สมัยนางสาว
ย่ิงลักษณ์ ชินวัตร) และมีการต่อสู้ทางด้านเอกสารจนกระท่ังสมาชิกบ้านบ่อนางชิง
มีพ้ืนท่ีท�ำกินเกือบครึ่งหมู่บ้าน นั้นคือความภาคภูมิใจและเป็นการท�ำเพื่อส่วนรวม

40 “หม่บู ้านตัวอยา่ ง 4 ดี วถิ พี อเพยี ง”


Click to View FlipBook Version