โคลงโลกนิติ ภาษาไทย ม.๑
อ่านว่า โคลง – โลก – กะ – นิด มีที่มาจากคัมภีร์อินเดียโบราณ “โลกนีติ” ภาษาไทย ม.๑ โคลงโลกนิติ
โคลง + โลก + นิติ ภาษาไทย ม.๑ ความหมายของโคลงโลกนิติ
ภาษาไทย ม.๑ ความหมายของโคลงโลกนิติ ค าประพันธ์ประเภทหนึ่งมีจ านวนค า ในวรรคสัมผัสและบังคับเอกโท ตามต าราฉันทลักษณ์ โคลง
ภาษาไทย ม.๑ ความหมายของโคลงโลกนิติ โลก ชาวโลกหรือมนุษย์
ภาษาไทย ม.๑ ความหมายของโคลงโลกนิติ นิติ (นีติ) แนวทางในการด าเนินชีวิต
ภาษาไทย ม.๑ ความหมายของโคลงโลกนิติ โคลงที่เป็นแนวทางการด าเนินชีวิตของมนุษย์ หรือแนวทางการด าเนินชีวิตบนโลกมนุษย์ โคลงโลกนิติ
ภาษาไทย ม.๑ ผู้แต่ง สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร
ภาษาไทย ม.๑ ผู้แต่ง พระนามเดิมว่าพระองค์เจ้าชายมั่ง ประสูติเมื่อวันเสาร์ ๑๑ พฤษภาคม ๒๓๓๖ พระโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธ เลิศหล้านภาลัยกับเจ้าจอมมารดานิ่ม สิ้นพระชนม์ พ.ศ. ๒๔๐๒ พระชันษาได้ ๖๗ ปี
ภาษาไทย ม.๑ ความเป็นมาของโคลงโลกนิติ โคลงโลกนิติเป็นค าสอนที่เก่าแก่และแพร่หลายมาก ในสมัยโบราณเนื้อหาส่วนมากมีที่มาจากคาถาภาษาบาลีที่ปรากฏ อยู่ในคัมภีร์ต่างๆ เช่น คัมภีร์โลกนิติ คัมภีร์ธรรมนิติ คัมภีร์ราชนีติ พระไตรปิฎก
ภาษาไทย ม.๑ ความเป็นมาของโคลงโลกนิติ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชด าเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดพระเชตุพน วิมลมังคลาราม ได้ทอดพระเนตรเห็นพระอาราม มีความทรุดโทรม จึงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์ใหม่
ภาษาไทย ม.๑ ความเป็นมาของโคลงโลกนิติ และให้รวบรวมความรู้หลายสาขาวิชา จารึกไว้บนแผ่นหินอ่อนประดับไว้ภายในบริเวณวัด เพื่อเป็นแหล่งศึกษาศิลปวิทยาการแขนงต่าง ๆ
ภาษาไทย ม.๑ ความเป็นมาของโคลงโลกนิติ รัชกาลที่ ๓ จึงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จ พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาเดชาดิศร รวบรวมโคลงโลกนิติของเก่ามาช าระใหม่
ภาษาไทย ม.๑ ความเป็นมาของโคลงโลกนิติ โดยจารึกไว้บนแผ่นศิลาประดับศาลา ทั้ง ๔ โดยรอบพระมณฑป (หอไตรจตุรมุข) โคลงโลกนิติจึงปรากฏแพร่หลายตั้งแต่นั้น เป็นต้นมา
ภาษาไทย ม.๑ ความเป็นมาของโคลงโลกนิติ เนื่องด้วยโคลงโลกนิติมีเนื้อหา ที่ท าให้ผู้อ่านเข้าใจเกี่ยวกับการด าเนินชีวิต ที่ถูกต้องดีงามและมีความไพเราะ จึงได้รับ ยกย่องให้เป็นหนังสือดี ๑๐๐ เล่มที่คนไทย ควรอ่าน
ภาษาไทย ม.๑ โคลงโลกนิติแต่งด้วยค าประพันธ์ประเภท โคลงสี่สุภาพมีบางบทเป็นโคลงกระทู้ ลักษณะค าประพันธ์
ภาษาไทย ม.๑ เป็นโคลงชนิดหนึ่งที่กวีนิยมแต่งมากที่สุดปรากฏ ในสมัยต้นอยุธยา วรรณคดีไทยฉบับที่แต่งด้วยโคลงสี่สุภาพที่เก่า และมีชื่อเสียงมากฉบับหนึ่งคือ “ลิลิตพระลอ” โคลงสี่สุภาพ
ภาษาไทย ม.๑ แผนผังโคลงสี่สุภาพ ( ) ( )
ภาษาไทย ม.๑ ตัวอย่างโคลงสี่สุภาพ พระสมุทรสุดลึกล้น คณนา สายดิ่งทิ้งทอดมา หยั่งได้ เขาสูงอาจวัดวา ก าหนด จิตมนุษย์นี้ไซร้ ยากแท้หยั่งถึง
ภาษาไทย ม.๑ โคลงกระทู้ คือ โคลงสี่สุภาพที่มีการตั้งข้อความหรือหัวข้อ (กระทู้) วางไว้หน้าโคลงทั้ง ๔ บาท แล้วแต่งถ้อยค าต่อไปให้มี เนื้อความอธิบายหรือขยายความกระทู้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ประเภทของโคลงกระทู้ ได้แก่ โคลงกระทู้ ๑ ค า (กระทู้เดี่ยว) โคลงกระทู้ ๒ ค า โคลงกระทู้ ๓ ค า และโคลงกระทู้ ๔ ค า โคลงกระทู้
ภาษาไทย ม.๑ แผนผังโคลงกระทู้ ๑ ค า ( ) ( )
ภาษาไทย ม.๑ ตัวอย่างโคลงกระทู้ ๑ ค า ห้าม เพลิงไว้อย่าให้ มีควัน ห้าม สุริยแสงจันทร์ ส่องไซร้ ห้าม อายุให้หัน คืนเล่า ห้าม ดั่งนี้ไว้ได้ จึ่งห้ามนินทา
ภาษาไทย ม.๑ แผนผังโคลงกระทู้ ๒ ค า ( ) ( )
ภาษาไทย ม.๑ ตัวอย่างโคลงกระทู้ ๒ ค า เพื่อนกิน สิ้นทรัพย์แล้ว แหนงหนี หาง่าย หลายหมื่นมี มากได้ เพื่อนตาย ถ่ายแทนชี- วาอาตม์ หากยาก ฝากผีไข้ ยากแท้จักหา
ภาษาไทย ม.๑ ค าเอกโทษ ค าเอกโทษ คือการน าค าที่ปกติใช้วรรณยุกต์โทก ากับ มาใช้วรรณยุกต์เอกก ากับแทน เพื่อใช้แทนที่ค าเอก ในต าแหน่ง บังคับของโคลง เช่น หมั้นหมาย เขียนเป็น มั่นหมาย เขี้ยวคม เขียนเป็น เคี่ยวคม
ภาษาไทย ม.๑ ค าโทโทษ ค าโทโทษ คือการน าค าที่ปกติใช้วรรณยุกต์เอกก ากับ มาใช้วรรณยุกต์โทก ากับแทน เพื่อให้ใช้แทนค าโทในต าแหน่งบังคับ เช่น หยอกเล่น เขียนเป็น หยอกเหล้น มั่นคง เขียนเป็น หมั้นคง ชมพู่ เขียนเป็น ชมผู้
ภาษาไทย ม.๑ เนื้อเรื่องโคลงโลกนิติ
ภาษาไทย ม.๑ ถอดความ มิตรพาลอย่าคบให้ สนิทนัก พาลใช่มิตรอย่ามัก กล่าวใกล้ ครั้นคราวเคียดคุมชัก เอาโทษ ใส่นา รู้เหตุสิ่งใดไซร้ ส่อสิ้นกลางสนาม อย่าชิดใกล้สนิทกับคนพาล เพราะคนพาล จะไม่มีความเป็นเพื่อน นึกเคืองเราเมื่อใดก็จะหาเรื่องเรา รู้ความลับใดของเราก็จะเอาไปเปิดเผยให้คนอื่น ๆ รู้
ภาษาไทย ม.๑ ถอดความ รู้น้อยว่ามากรู้ เริงใจ กลกบเกิดอยู่ใน สระจ้อย ไป่เห็นชเลไกล กลางสมุทร ชมว่าน ้าบ่อน้อย มากล ้าลึกเหลือ คนรู้น้อยแต่หลงคิดว่ารู้มาก ก็เหมือนกับกบที่อยู่ ในสระไม่เคยเห็นทะเล จึงคิดว่าน ้าในสระนี้มีมากแล้ว
ภาษาไทย ม.๑ ถอดความ พระสมุทรสุดลึกล้น คณนา สายดิ่งทิ้งทอดมา หยั่งได้ เขาสูงอาจวัดวา ก าหนด จิตมนุษย์นี้ไซร้ ยากแท้หยั่งถึง แม้มหาสมุทรจะลึกเพียงใดก็ตาม มนุษย์ก็สามารถวัดความลึกได้ ขุนเขาแม้จะสูงสุดฟากฟ้าก็วัดความสูงของยอดได้ แต่จิตมนุษย์นี้ คาดเดาได้ยาก
ภาษาไทย ม.๑ ถอดความ รักกันอยู่ขอบฟ้า เขาเขียว เสมออยู่หอแห่งเดียว ร่วมห้อง ชังกันบ่แลเหลียว ตาต่อ กันนา เหมือนขอบฟ้ามาป้อง ป่าไม้มาบัง คนที่รักกันแม้จะอยู่ห่างกันสุดหล้าฟ้าเขียว ก็เหมือนอยู่ใกล้กัน ผิดกับคนที่เกลียดกัน แม้จะอยู่ ใกล้กัน ก็เหมือนมีขอบฟ้าป่าเขามาบดบัง
ภาษาไทย ม.๑ ถอดความ สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อ ในตน กินกัดเนื้อเหล็กจน กร่อนขร ้า บาปเกิดแต่ตนคน เป็นบาป บาปย่อมท าโทษซ ้า ใส่ผู้บาปเอง ผลที่เกิดขึ้นกับเราย่อมมีเหตุจากการกระท าของเราทั้งสิ้น ดีย่อมได้รับผลดีตอบแทน ท าชั่วผลที่เกิดจากการท าชั่วนั้น ย่อมกัดกร่อนใจซึ่งเปรียบได้กับสนิมกัดกร่อนเนื้อเหล็กให้ผุพังไป
ภาษาไทย ม.๑ ถอดความ นกน้อยขนน้อยแต่ พอตัว รังแต่งจุเมียผัว อยู่ได้ มักใหญ่ย่อมคนหัว ไพเพิด ท าแต่พอตัวไซร้ อย่าให้คนหยัน นกตัวเล็ก ๆ เรี่ยวแรงย่อมมีน้อย จึงเสาะแสวงหากิ่งไม้ ใบหญ้าท ารังพอได้อยู่อาศัยสองตัวเมียผัว เกิดมาเป็นคน จะท าสิ่งใดก็ให้พอเหมาะกับก าลังทรัพย์ก าลังความสามารถ อย่าให้ใคร ๆ ดูถูกดูหมิ่นได้ว่าไม่รู้จักประมาณตน
ภาษาไทย ม.๑ ถอดความ เห็นท่านมีอย่าเคลิ้ม ใจตาม เรายากหากใจงาม อย่าคร้าน อุตสาห์พยายาม การกิจ เอาเยี่ยงอย่างเพื่อนบ้าน อย่าท้อท ากิน เมื่อเห็นผู้อื่นมั่งมีกว่าก็ไม่ควรโลภ ไม่ควรอยากมี อยากได้ตามคนอื่น แม้จะยากจนก็ให้หมั่นท ามาหากิน อย่าเกียจคร้านและท้อแท้ ให้รู้จักใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
ภาษาไทย ม.๑ ถอดความ คุณแม่หนักหนาเพี้ยง พสุธา คุณบิดรดุจอา- กาศกว้าง คุณพี่พ่างศิขรา เมรุมาศ คุณพระอาจารย์อ้าง อาจสู้สาคร พระคุณของมารดานั้นยิ่งใหญ่เปรียบได้กับแผ่นดิน พระคุณของบิดา เปรียบได้กับอากาศ พระคุณของพี่นั้นสูงเท่ากับยอดเขาพระสุเมรุ และพระคุณของครูบาอาจารย์ก็ล ้าลึกเปรียบได้กับน ้าในแม่น ้าทั้งหลาย
ภาษาไทย ม.๑ ถอดความ ก้านบัวบอกลึกตื้น ชลธาร มารยาทส่อสันดาน ชาติเชื้อ โฉดฉลาดเพราะค าขาน ควรทราบ หย่อมหญ้าเหี่ยวแห้งเรื้อ บอกร้ายแสลงดิน กิริยามารยาทบอกได้ถึงชาติตระกูลและอุปนิสัยของบุคคล เช่นเดียวกับ ความสั้น-ยาวของก้านบัวย่อมบอกระดับความลึกของหนองบึงนั้น ค าพูดสามารถแสดงระดับสติปัญญาของบุคคลได้ เปรียบเหมือนหญ้าที่ เหี่ยวแห้งย่อมบอกถึงคุณภาพหรือความอุดมสมบูรณ์ของดินบริเวณนั้น
ภาษาไทย ม.๑ ถอดความ โคควายวายชีพได้ เขาหนัง เป็นสิ่งอันยัง อยู่ไซร้ คนเด็ดดับสูญสัง ขารร่าง เป็นชื่อเสียงได้ แต่ร้ายกับดี เมื่อวัวควายตายไปเราจะได้เขาและหนัง ถ้าคนตายแล้วจะไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่ นอกจากความดี และความชั่วที่เคยท าเอาไว้ให้คนจดจ า
ภาษาไทย ม.๑ ถอดความ น ้าใช้ใส่ตุ่มตั้ง เต็มดี น ้าอบอ่าอินทรีย์ อย่าผร้อง น ้าปูนใส่เต้ามี อย่าขาด น ้าจิตอย่าให้ข้อง ขัดน ้าใจใคร น ้าใช้หมั่นตักไว้ให้เต็มตุ่ม น ้าอบชวนให้ชื่นชุ่มใช้เมื่อแต่งตัวนั้นอย่าให้พร่อง น ้าปูนจงหมั่นรองใส่เต้าไว้อย่าให้แห้ง น ้าจิตก็อย่าได้แกล้งท าให้ขุ่นขัดน ้าใจใครเขา
ภาษาไทย ม.๑ ถอดความ เพื่อนกิน สิ้นทรัพย์แล้ว แหนงหนี หาง่าย หลายหมื่นมี มากได้ เพื่อนตาย ถ่ายแทนชี วาอาตม์ หากยาก ฝากผีไข้ ยากแท้จักหา เพื่อนกินเมื่อเราสิ้นทรัพย์แล้วก็จะหายหนี ซึ่งมีอยู่มากมายหาง่ายนัก แต่เพื่อนตายที่จะฝากผี ฝากไข้นั้นหายาก
ภาษาไทย ม.๑ ถอดความ อ่อนหวานมานมิตรล้น เหลือหลาย หยาบบ่มีเกลอกราย เกลื่อนใกล้ ดุจดวงศศิฉาย ดาวดาษ ประดับนา สุริยาส่องดาราไร้ เพื่อร้อนแรงแสง คนที่พูดจาสุภาพไพเราะย่อมมีเพื่อนมาก เปรียบได้กับดวงจันทร์ที่มีดาว จ านวนมากรายล้อมประดับ ต่างกับคนพูดจากระด้างหยาบคาย ท าให้มี ไม่ใครคบหาหรือสมาคมด้วย เปรียบได้กับดวงอาทิตย์แสงร้อนแรงที่ บดบังแสงของดาวดวงอื่น
ภาษาไทย ม.๑ เนื้อเรื่องโคลงโลกนิติ
ภาษาไทย ม.๑ สอนให้ท าความดี สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อ ในตน กินกัดเนื้อเหล็กจน กร่อนขร ้า บาปเกิดแต่ตนคน เป็นบาป บาปย่อมท าโทษซ ้า ใส่ผู้บาปเอง เช่น การที่เราได้รับผลอย่างไรย่อมมีเหตุจากการกระท าของเราทั้งสิ้น ผู้ที่ท าดีย่อมได้ดีส่วนผู้ที่ ท าชั่วผลที่เกิดจากการกระท าชั่วจะกัดกร่อนใจ เปรียบได้กับสนิมที่กัดกร่อนเหล็กจนผุพัง
ภาษาไทย ม.๑ สอนให้ท าความดี โคควายวายชีพได้เขาหนัง เป็นสิ่งเป็นอันยัง อยู่ไซร้ คนเด็ดดับสูญสัง- ขารร่าง เป็นชื่อเป็นเสียงได้ แต่ร้ายกับดี เช่น วัวควายเมื่อตายไปแล้วยังมีเขาและหนังที่เป็นประโยชน์ ส่วนคนเราเมื่อ เสียชีวิตคงเหลือแต่เกียรติยศชื่อเสียง และความดีความชั่ว
ภาษาไทย ม.๑ สอนให้มีความเพียรพยายามในการเรียน ความรู้ผู้ปราชญ์นั้น นักเรียน ฝนทั่งเท่าเข็มเพียร ผ่ายหน้า คนเกียจเกลียดหน่ายเวียน วนจิต กลอุทกในตระกร้า เปี่ยมล้นฤามี เช่น ในวัยที่จะต้องศึกษาเล่าเรียนควรมีความเพียรอยู่เสมอ เปรียบกับการฝนทั่งเหล็กจน กลายเป็นเข็มที่ต้องอาศัยความพยายาม ส่วนคนเกียจคร้านในการเรียน เปรียบได้กับ การตักน ้าในตะกร้า รั่วออกจนหมด
ภาษาไทย ม.๑ สอนให้รู้จักประมาณตน นกน้อยขนน้อยแต่ พอตัว รังแต่งจุเมียผัว อยู่ได้ มักใหญ่ย่อมคนหัว ไพเพิด ท าแต่พอตัวไซร้ อย่าให้คนหยัน เช่น สอนให้รู้จักประเมินตนเอง ดังนกตัวน้อยที่ท ารังแต่พอดีตัวของมัน
ภาษาไทย ม.๑ สอนให้รู้จักพิจารณาคน ก้านบัวบอกลึกตื้น ชลธาร มารยาทส่อสันดาน ชาติเชื้อ โฉดฉลาดเพราะค าขาน ควรทราบ หย่อมหญ้าเหี่ยวแห้งเรื้อ บอกร้ายแสลงดิน เช่น ก้านบัวสามารถบอกความลึกของน ้าฉันใด กิริยามารยาท และค าพูดของคนก็สามารถ บอกถึงการอบรมเลี้ยงดูจากครอบครัว เช่นเดียวกับหญ้าที่บอกสภาพของดิน
ภาษาไทย ม.๑ สอนให้รู้จักพิจารณาคน พระสมุทรสุดลึกล้น คณนา สายดิ่งทิ้งทอดมา หยั่งได้ เขาสูงอาจวัดวา ก าหนด จิตมนุษย์นี้ไซร้ ยากแท้หยั่งถึง เช่น เปรียบเทียบจิตใจคนกับความลึกของมหาสมุทรที่สามารถใช้สายดิ่งวัดได้ แต่ใจคนนั้นยากที่จะรู้ ยากที่จะหยั่งถึง
ภาษาไทย ม.๑ สอนไม่ใหท าตามผู้อื่น เห็นท่านมีอย่าเคลิ้ม ใจตาม เรายากหากใจงาม อย่าคร้าน อุตสาห์พยายาม การกิจ เอาเยี่ยงอย่างเพื่อนบ้าน อย่าท้อท ากิน เช่น เห็นผู้อื่นมั่งมีกว่าก็ไม่ควรโลภ ไม่ควรอยากมีอยากได้ตามอย่างคนอื่น แม้จะ ยากจนก็หมั่นท ามาหากิน อย่าเกียจคร้าน และท้อแท้ให้รู้จักความพอเพียง
ภาษาไทย ม.๑ สอนให้มีความกตัญญู คุณแม่หนักหนาเพี้ยง พสุธา คุณบิดรดุจอา- กาศกว้าง คุณพี่พ่างศิขรา เมรุมาศ คุณพระอาจารย์อ้าง อาจสู้สาคร เช่น กล่าวเปรียบเทียบว่าพระคุณของแม่เปรียบกับแผ่นดิน พระคุณของพ่อกว้างดังอากาศ พระคุณของพี่นั้นสูงเท่าเขาพระสุเมรุ และพระคุณของครูนั้นล ้าลึกเหมือนมหาสมุทร
ภาษาไทย ม.๑ สอนให้มีวาจาอ่อนหวาน อ่อนหวานมานมิตรล้น เหลือหลาย หยาบบ่มีเกลอกราย เกลื่อนใกล้ ดุจดวงศศิฉาย ดาวดาษ ประดับนา สุริยาส่องดาราไร้ เพื่อร้อนแรงแสง เช่น คนที่พูดจาไพเราะย่อมมีเพื่อนมาก เปรียบกับดวงจันทร์ที่มีดาวเป็นบริวาร ส่วนคนที่พูด หยาบคายจะไม่มีใครคบด้วย เปรียบกับดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงร้อนแรง