The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

01 51-01-0182 แผนฯ วิทยาศาสตร์ ป.1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by phimpinit, 2022-10-19 10:15:26

01 51-01-0182 แผนฯ วิทยาศาสตร์ ป.1

01 51-01-0182 แผนฯ วิทยาศาสตร์ ป.1

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 385

แบบวดั ความรู้สึกต่อการเรียน
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 พชื ในสวน

ชื่อ........................................................เลขท่ี..................ช้ัน............

คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขียนเคร่ืองหมาย  ทบั รูปภาพที่ตรงกบั ความรู้สึกของนกั เรียน

1. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เมื่อครูใหเ้ ล่าเร่ืองพืชในสวนใหเ้ พ่ือนฟัง

 
2. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เม่ือครูใหท้ าแบบฝึ กหดั เรื่องพืชในสวน

 
3. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เม่ือครูใหท้ างานคนเดียว

 
4. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เมื่อครูใหท้ างานเป็นกลุม่

 
5. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เม่ือครูสอนเร่ืองพืชในสวน



สรุปผลการประเมินตนเอง นกั เรียนมีความรู้สึกต่อการเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 พืชในสวน

อยใู่ นระดบั ระดบั คะแนน
 พอใจ (8–10 คะแนน)  = 2 คะแนน
 เฉย ๆ (5–7 คะแนน)  = 1 คะแนน
 ไม่พอใจ (นอ้ ยกวา่ 5 คะแนน)  = 0 คะแนน

ช่ือนกั เรียน.............................................
ประเมินเมื่อวนั ท่ี.........เดือน...................................พ.ศ. ..............

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 386

แบบวดั ความรู้สึกต่อการเรียน
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 สารวจสัตว์รอบตวั

ช่ือ........................................................เลขที่..................ช้ัน............

คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขียนเครื่องหมาย  ทบั รูปภาพท่ีตรงกบั ความรู้สึกของนกั เรียน

1. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เมื่อครูใหเ้ ลา่ เรื่องสารวจสตั วร์ อบตวั ใหเ้ พื่อนฟัง


2. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เม่ือครูใหท้ าแบบฝึ กหดั เร่ืองสารวจสัตวร์ อบตวั

 
3. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เม่ือครูใหท้ างานคนเดียว

 
4. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เม่ือครูใหท้ างานเป็นกลุม่

 
5. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เม่ือครูสอนเร่ืองสารวจสตั วร์ อบตวั



สรุปผลการประเมินตนเอง นกั เรียนมีความรู้สึกต่อการเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3

สารวจสตั วร์ อบตวั อยใู่ นระดบั ระดบั คะแนน
 พอใจ (8–10 คะแนน)  = 2 คะแนน
 เฉย ๆ (5–7 คะแนน)  = 1 คะแนน
 ไมพ่ อใจ (นอ้ ยกวา่ 5 คะแนน)  = 0 คะแนน

ช่ือนกั เรียน.............................................
ประเมินเม่ือวนั ที่.........เดือน...................................พ.ศ. ..............

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 387

แบบวดั ความรู้สึกต่อการเรียน
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ตัวเราน่ารู้

ชื่อ........................................................เลขท่ี..................ช้ัน............

คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขียนเครื่องหมาย  ทบั รูปภาพท่ีตรงกบั ความรู้สึกของนกั เรียน

1. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เมื่อครูใหเ้ ลา่ เร่ืองตวั เราน่ารู้ใหเ้ พ่ือนฟัง

 
2. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เมื่อครูใหท้ าแบบฝึ กหดั เร่ืองตวั เราน่ารู้

 
3. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เมื่อครูใหท้ างานคนเดียว

 
4. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เมื่อครูใหท้ างานเป็นกลุ่ม

 
5. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เม่ือครูสอนเร่ืองตวั เราน่ารู้



สรุปผลการประเมินตนเอง นกั เรียนมีความรู้สึกต่อการเรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4

ตวั เราน่ารู้ อยใู่ นระดบั ระดบั คะแนน
 พอใจ (8–10 คะแนน)  = 2 คะแนน
 เฉย ๆ (5–7 คะแนน)  = 1 คะแนน
 ไม่พอใจ (นอ้ ยกวา่ 5 คะแนน)  = 0 คะแนน

ช่ือนกั เรียน.............................................
ประเมินเมื่อวนั ที่.........เดือน...................................พ.ศ. ..............

คูม่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 388

แบบวดั ความรู้สึกต่อการเรียน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ของเล่นแสนสนุกและของใช้ใกล้ตวั

ช่ือ........................................................เลขท่ี..................ช้ัน............

คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขียนเครื่องหมาย  ทบั รูปภาพท่ีตรงกบั ความรู้สึกของนกั เรียน

1. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เมื่อครูใหเ้ ลา่ เรื่องของเลน่ แสนสนุกและของใชใ้ กลต้ วั ใหเ้ พื่อนฟัง


2. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เม่ือครูใหท้ าแบบฝึ กหดั เรื่องของเล่นแสนสนุกและของใชใ้ กลต้ วั

 
3. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เมื่อครูใหท้ างานคนเดียว

 
4. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เม่ือครูใหท้ างานเป็นกลุม่


5. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เมื่อครูสอนเรื่องของเลน่ แสนสนุกและของใชใ้ กลต้ วั



สรุปผลการประเมินตนเอง นกั เรียนมีความรู้สึกต่อการเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 5

ของเลน่ แสนสนุกและของใชใ้ กลต้ วั อยใู่ นระดบั ระดบั คะแนน
 พอใจ (8–10 คะแนน)  = 2 คะแนน
 เฉย ๆ (5–7 คะแนน)  = 1 คะแนน
 ไมพ่ อใจ (นอ้ ยกวา่ 5 คะแนน)  = 0 คะแนน

ชื่อนกั เรียน.............................................
ประเมินเม่ือวนั ท่ี.........เดือน...................................พ.ศ. ..............

คูม่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 389

แบบวดั ความรู้สึกต่อการเรียน
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 แรง

ชื่อ........................................................เลขที่..................ช้ัน............

คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนเขียนเครื่องหมาย  ทบั รูปภาพที่ตรงกบั ความรู้สึกของนกั เรียน

1. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เมื่อครูใหเ้ ลา่ เร่ืองแรงใหเ้ พ่ือนฟัง

 
2. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เม่ือครูใหท้ าแบบฝึ กหดั เร่ืองแรง

 
3. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เม่ือครูใหท้ างานคนเดียว

 
4. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เมื่อครูใหท้ างานเป็นกลมุ่

 
5. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เม่ือครูสอนเร่ืองแรง



สรุปผลการประเมินตนเอง นกั เรียนมีความรู้สึกต่อการเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 6

แรง อยใู่ นระดบั ระดบั คะแนน
 พอใจ (8–10 คะแนน)  = 2 คะแนน
 เฉย ๆ (5–7 คะแนน)  = 1 คะแนน
 ไมพ่ อใจ (นอ้ ยกวา่ 5 คะแนน)  = 0 คะแนน

ช่ือนกั เรียน.............................................
ประเมินเม่ือวนั ที่.........เดือน...................................พ.ศ. ..............

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 390

แบบวดั ความรู้สึกต่อการเรียน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 สารวจพนื้ ดนิ

ชื่อ........................................................เลขที่..................ช้ัน............

คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนเขียนเคร่ืองหมาย  ทบั รูปภาพท่ีตรงกบั ความรู้สึกของนกั เรียน

1. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เมื่อครูใหเ้ ลา่ เรื่องสารวจพ้ืนดินใหเ้ พื่อนฟัง

 
2. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เมื่อครูใหท้ าแบบฝึ กหดั เรื่องสารวจพ้ืนดิน

 
3. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เม่ือครูใหท้ างานคนเดียว

 
4. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เม่ือครูใหท้ างานเป็นกล่มุ

 
5. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เม่ือครูสอนเรื่องสารวจพ้ืนดิน



สรุปผลการประเมินตนเอง นกั เรียนมีความรู้สึกต่อการเรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 7

สารวจพ้ืนดิน อยใู่ นระดบั ระดบั คะแนน
 พอใจ (8–10 คะแนน)  = 2 คะแนน
 เฉย ๆ (5–7 คะแนน)  = 1 คะแนน
 ไมพ่ อใจ (นอ้ ยกวา่ 5 คะแนน)  = 0 คะแนน

ชื่อนกั เรียน.............................................
ประเมินเมื่อวนั ท่ี.........เดือน...................................พ.ศ. ..............

คูม่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 391

แบบวดั ความรู้สึกต่อการเรียน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 8 ท่องไปในท้องฟ้ า

ช่ือ........................................................เลขท่ี..................ช้ัน............

คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนเขียนเคร่ืองหมาย  ทบั รูปภาพที่ตรงกบั ความรู้สึกของนกั เรียน

1. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เม่ือครูใหเ้ ลา่ เรื่องท่องไปในทอ้ งฟ้ าใหเ้ พื่อนฟัง


2. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เม่ือครูใหท้ าแบบฝึ กหดั เร่ืองท่องไปในทอ้ งฟ้ า

 
3. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เม่ือครูใหท้ างานคนเดียว

 
4. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เม่ือครูใหท้ างานเป็นกลุม่

 
5. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร เมื่อครูสอนเร่ืองท่องไปในทอ้ งฟ้ า



สรุปผลการประเมินตนเอง นกั เรียนมีความรู้สึกต่อการเรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 8

ท่องไปในทอ้ งฟ้ า อยใู่ นระดบั ระดบั คะแนน
 พอใจ (8–10 คะแนน)  = 2 คะแนน
 เฉย ๆ (5–7 คะแนน)  = 1 คะแนน
 ไมพ่ อใจ (นอ้ ยกวา่ 5 คะแนน)  = 0 คะแนน

ช่ือนกั เรียน.............................................
ประเมินเม่ือวนั ที่.........เดือน...................................พ.ศ. ..............

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 392

เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ด้านทกั ษะ/กระบวนการ

แบบประเมนิ ทกั ษะการทางาน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ส่ิงมชี ีวติ กบั ส่ิงไม่มชี ีวติ

คาชี้แจง นกั เรียนปฏิบตั ิตนตามขอ้ ความต่อไปน้ีมากนอ้ ยเพียงใด
ใหน้ กั เรียนเขียนเครื่องหมาย  ลงในช่องวา่ งที่นกั เรียนปฏิบตั ิ

ข้อความ ประจา นาน ๆ คร้ัง ไม่เคย

1. ใชป้ ระสาทสมั ผสั (ฟัง ดู ดมกลิ่น ชิม และจบั )
เพื่อรับรู้ส่ิงต่าง ๆ

2. คิดข้นั ตอนก่อนทางาน
3. ลงมือทาตามท่ีคิดไว้
4. ฝึ กเพ่ือเพ่ิมความเก่ง
5. ฝึ กจนทาไดเ้ อง

รวมคะแนนท่ไี ด้ท้ังหมด

สรุปผลการประเมินตนเอง นกั เรียนมีทกั ษะการทางานอยใู่ นระดบั ระดบั คะแนน
 ดี (13–15 คะแนน)  = 2 คะแนน
 พอใช้ (10–12 คะแนน)  = 1 คะแนน
 ตอ้ งปรับปรุง (นอ้ ยกวา่ 10 คะแนน)  = 0 คะแนน

ชื่อนกั เรียน.............................................
ประเมินเม่ือวนั ที่.........เดือน...................................พ.ศ. ..............

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 393

แบบประเมินทกั ษะการทางาน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 พชื ในสวน

คาชี้แจง นกั เรียนปฏิบตั ิตนตามขอ้ ความต่อไปน้ีมากนอ้ ยเพียงใด
ใหน้ กั เรียนเขียนเคร่ืองหมาย  ลงในช่องวา่ งที่นกั เรียนปฏิบตั ิ

ข้อความ ประจา นาน ๆ คร้ัง ไม่เคย

1. ใชป้ ระสาทสมั ผสั (ฟัง ดู ดมกลิ่น ชิม และจบั )
เพื่อรับรู้สิ่งต่าง ๆ

2. คิดข้นั ตอนก่อนทางาน
3. ลงมือทาตามท่ีคิดไว้
4. ฝึ กเพ่ือเพิ่มความเก่ง
5. ฝึ กจนทาไดเ้ อง

รวมคะแนนท่ีได้ท้ังหมด

สรุปผลการประเมินตนเอง นกั เรียนมีทกั ษะการทางานอยใู่ นระดบั ระดบั คะแนน
 ดี (13–15 คะแนน)  = 2 คะแนน
 พอใช้ (10–12 คะแนน)  = 1 คะแนน
 ตอ้ งปรับปรุง (นอ้ ยกวา่ 10 คะแนน)  = 0 คะแนน

ชื่อนกั เรียน.............................................
ประเมินเม่ือวนั ที่.........เดือน...................................พ.ศ. ..............

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 394

แบบประเมนิ ทกั ษะการทางาน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 สารวจสัตว์รอบตัว

คาชี้แจง นกั เรียนปฏิบตั ิตนตามขอ้ ความต่อไปน้ีมากนอ้ ยเพียงใด
ใหน้ กั เรียนเขียนเคร่ืองหมาย  ลงในช่องวา่ งที่นกั เรียนปฏิบตั ิ

ข้อความ ประจา นาน ๆ คร้ัง ไม่เคย

1. ใชป้ ระสาทสมั ผสั (ฟัง ดู ดมกลิ่น ชิม และจบั )
เพื่อรับรู้สิ่งต่าง ๆ

2. คิดข้นั ตอนก่อนทางาน
3. ลงมือทาตามที่คิดไว้
4. ฝึ กเพ่ือเพิ่มความเก่ง
5. ฝึ กจนทาไดเ้ อง

รวมคะแนนที่ได้ท้ังหมด

สรุปผลการประเมินตนเอง นกั เรียนมีทกั ษะการทางานอยใู่ นระดบั ระดบั คะแนน
 ดี (13–15 คะแนน)  = 2 คะแนน
 พอใช้ (10–12 คะแนน)  = 1 คะแนน
 ตอ้ งปรับปรุง (นอ้ ยกวา่ 10 คะแนน)  = 0 คะแนน

ชื่อนกั เรียน.............................................
ประเมินเม่ือวนั ที่.........เดือน...................................พ.ศ. ..............

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 395

แบบประเมนิ ทกั ษะการทางาน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ตัวเราน่ารู้

คาชีแ้ จง นกั เรียนปฏิบตั ิตนตามขอ้ ความต่อไปน้ีมากนอ้ ยเพียงใด
ใหน้ กั เรียนเขียนเครื่องหมาย  ลงในช่องวา่ งที่นกั เรียนปฏิบตั ิ

ข้อความ ประจา นาน ๆ คร้ัง ไม่เคย

1. ใชป้ ระสาทสมั ผสั (ฟัง ดู ดมกลิ่น ชิม และจบั )
เพ่ือรับรู้สิ่งต่าง ๆ

2. คิดข้นั ตอนก่อนทางาน
3. ลงมือทาตามที่คิดไว้
4. ฝึ กเพ่ือเพ่ิมความเก่ง
5. ฝึ กจนทาไดเ้ อง

รวมคะแนนทไี่ ด้ท้ังหมด

สรุปผลการประเมินตนเอง นกั เรียนมีทกั ษะการทางานอยใู่ นระดบั ระดบั คะแนน
 ดี (13–15 คะแนน)  = 2 คะแนน
 พอใช้ (10–12 คะแนน)  = 1 คะแนน
 ตอ้ งปรับปรุง (นอ้ ยกวา่ 10 คะแนน)  = 0 คะแนน

ชื่อนกั เรียน.............................................
ประเมินเมื่อวนั ท่ี.........เดือน...................................พ.ศ. ..............

คูม่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 396

แบบประเมินทกั ษะการทางาน
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 ของเล่นแสนสนุกและของใช้ใกล้ตัว

คาชี้แจง นกั เรียนปฏิบตั ิตนตามขอ้ ความต่อไปน้ีมากนอ้ ยเพียงใด
ใหน้ กั เรียนเขียนเครื่องหมาย  ลงในช่องวา่ งท่ีนกั เรียนปฏิบตั ิ

ข้อความ ประจา นาน ๆ คร้ัง ไม่เคย

1. ใชป้ ระสาทสมั ผสั (ฟัง ดู ดมกลิ่น ชิม และจบั )
เพ่ือรับรู้สิ่งต่าง ๆ

2. คิดข้นั ตอนก่อนทางาน
3. ลงมือทาตามท่ีคิดไว้
4. ฝึ กเพ่ือเพ่ิมความเก่ง
5. ฝึ กจนทาไดเ้ อง

รวมคะแนนท่ไี ด้ท้ังหมด

สรุปผลการประเมินตนเอง นกั เรียนมีทกั ษะการทางานอยใู่ นระดบั ระดบั คะแนน
 ดี (13–15 คะแนน)  = 2 คะแนน
 พอใช้ (10–12 คะแนน)  = 1 คะแนน
 ตอ้ งปรับปรุง (นอ้ ยกวา่ 10 คะแนน)  = 0 คะแนน

ช่ือนกั เรียน.............................................
ประเมินเม่ือวนั ที่.........เดือน...................................พ.ศ. ..............

คูม่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 397

แบบประเมนิ ทกั ษะการทางาน
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 แรง

คาชีแ้ จง นกั เรียนปฏิบตั ิตนตามขอ้ ความต่อไปน้ีมากนอ้ ยเพียงใด
ใหน้ กั เรียนเขียนเคร่ืองหมาย  ลงในช่องวา่ งท่ีนกั เรียนปฏิบตั ิ

ข้อความ ประจา นาน ๆ คร้ัง ไม่เคย

1. ใชป้ ระสาทสมั ผสั (ฟัง ดู ดมกลิ่น ชิม และจบั )
เพ่ือรับรู้สิ่งต่าง ๆ

2. คิดข้นั ตอนก่อนทางาน
3. ลงมือทาตามที่คิดไว้
4. ฝึ กเพ่ือเพ่ิมความเก่ง
5. ฝึ กจนทาไดเ้ อง

รวมคะแนนท่ีได้ท้ังหมด

สรุปผลการประเมินตนเอง นกั เรียนมีทกั ษะการทางานอยใู่ นระดบั ระดบั คะแนน
 ดี (13–15 คะแนน)  = 2 คะแนน
 พอใช้ (10–12 คะแนน)  = 1 คะแนน
 ตอ้ งปรับปรุง (นอ้ ยกวา่ 10 คะแนน)  = 0 คะแนน

ช่ือนกั เรียน.............................................
ประเมินเม่ือวนั ที่.........เดือน...................................พ.ศ. ..............

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 398

แบบประเมนิ ทกั ษะการทางาน
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 7 สารวจพนื้ ดนิ

คาชีแ้ จง นกั เรียนปฏิบตั ิตนตามขอ้ ความต่อไปน้ีมากนอ้ ยเพียงใด
ใหน้ กั เรียนเขียนเครื่องหมาย  ลงในช่องวา่ งท่ีนกั เรียนปฏิบตั ิ

ข้อความ ประจา นาน ๆ คร้ัง ไม่เคย

1. ใชป้ ระสาทสมั ผสั (ฟัง ดู ดมกล่ิน ชิม และจบั )
เพ่ือรับรู้สิ่งต่าง ๆ

2. คิดข้นั ตอนก่อนทางาน
3. ลงมือทาตามท่ีคิดไว้
4. ฝึ กเพื่อเพิ่มความเก่ง
5. ฝึ กจนทาไดเ้ อง

รวมคะแนนทีไ่ ด้ท้ังหมด

สรุปผลการประเมินตนเอง นกั เรียนมีทกั ษะการทางานอยใู่ นระดบั
 ดี (13–15 คะแนน)
 พอใช้ (10–12 คะแนน)
 ตอ้ งปรับปรุง (นอ้ ยกวา่ 10 คะแนน)

ช่ือนกั เรียน.............................................
ประเมินเมื่อวนั ที่.........เดือน...................................พ.ศ. ..............

คูม่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 399

แบบประเมินทกั ษะการทางาน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 8 ท่องไปในท้องฟ้ า

คาชี้แจง นกั เรียนปฏิบตั ิตนตามขอ้ ความต่อไปน้ีมากนอ้ ยเพียงใด
ใหน้ กั เรียนเขียนเคร่ืองหมาย  ลงในช่องวา่ งท่ีนกั เรียนปฏิบตั ิ

ข้อความ ประจา นาน ๆ คร้ัง ไม่เคย

1. ใชป้ ระสาทสมั ผสั (ฟัง ดู ดมกลิ่น ชิม และจบั )
เพ่ือรับรู้ส่ิงต่าง ๆ

2. คิดข้นั ตอนก่อนทางาน
3. ลงมือทาตามที่คิดไว้
4. ฝึ กเพ่ือเพิ่มความเก่ง
5. ฝึ กจนทาไดเ้ อง

รวมคะแนนท่ไี ด้ท้ังหมด

สรุปผลการประเมินตนเอง นกั เรียนมีทกั ษะการทางานอยใู่ นระดบั ระดบั คะแนน
 ดี (13–15 คะแนน)  = 2 คะแนน
 พอใช้ (10–12 คะแนน)  = 1 คะแนน
 ตอ้ งปรับปรุง (นอ้ ยกวา่ 10 คะแนน)  = 0 คะแนน

ชื่อนกั เรียน.............................................
ประเมินเมื่อวนั ที่.........เดือน...................................พ.ศ. ..............

คูม่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 400

เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ สมรรถนะทางวทิ ยาศาสตร์และภาระงานของนักเรียน
โดยใช้มติ ิคุณภาพ (Rubrics)

การสังเกต (Observation) เป็นวธิ ีการหาขอ้ มูลโดยตรงโดยใชป้ ระสาทสมั ผสั ท้งั หา้ ไดแ้ ก่ การดู การดม
การฟัง การชิม และการสมั ผสั

ตวั อย่าง
แบบประเมนิ กจิ กรรมการสังเกต
เรื่อง...............................................................................................กล่มุ ท่ี...........
ภาคเรียนท่ี.......................ช้ัน...................................................

รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ
1234

1. การดาเนินการสงั เกต

2. การใชป้ ระสาทสมั ผสั

3. การบอกรายละเอียดของส่ิงที่สงั เกต

4. บนั ทึกผลการสงั เกตอยา่ งตรงไปตรงมาตามความเป็นจริง

5. ความปลอดภยั ขณะสงั เกต

เกณฑ์การประเมนิ แยกตามองค์ประกอบย่อย 5 ด้าน

1. การดาเนินการสังเกต

4 หมายถึง ดาเนินการสงั เกตตามลาดบั ข้นั ตอนไดด้ ีและทนั ตามเวลาท่ีกาหนด
3 หมายถึง ดาเนินการสงั เกตไดต้ ามลาดบั ข้นั ตอน ตอ้ งการความช่วยเหลือจากครูเป็นบางคร้ัง
2 หมายถึง ดาเนินการสงั เกตค่อนขา้ งจะผดิ พลาด ไม่สามารถปฏิบตั ิไดบ้ างข้นั ตอน ทาให้

ดาเนินการเสร็จไมท่ นั เวลา

1 หมายถึง ดาเนินการสงั เกตผิดพลาด ตอ้ งใหค้ วามช่วยเหลือตลอดเวลา

2. การใช้ประสาทสัมผสั

4 หมายถึง การใชป้ ระสาทสมั ผสั อยา่ งใดอยา่ งหน่ึงหรือหลายอยา่ งรวมกนั ไดเ้ หมาะสมกบั ส่ิงที่

สงั เกต ทาใหไ้ ดข้ อ้ มูลมากท่ีสุด

3 หมายถึง การใชป้ ระสาทสมั ผสั อยา่ งใดอยา่ งหน่ึงหรือหลายอยา่ งรวมกนั ไดค้ ่อนขา้ งเหมาะสม

กบั สิ่งท่ีสังเกต แต่ตอ้ งไดร้ ับคาแนะนาจากครูเป็นบางคร้ัง
2 หมายถึง การใชป้ ระสาทสมั ผสั อยา่ งใดอยา่ งหน่ึงหรือหลายอยา่ งรวมกนั ไมเ่ หมาะสมกบั ส่ิงท่ี

สงั เกต ทาใหไ้ ดข้ อ้ มูลท่ีไมถ่ กู ตอ้ งเป็นส่วนใหญ่

1 หมายถึง ใชก้ ารคาดเดามากกวา่ ใชป้ ระสาทสมั ผสั

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 401

3. การบอกรายละเอยี ดของส่ิงทีส่ ังเกต
4 หมายถึง บอกหรืออธิบายลกั ษณะของสิ่งที่สงั เกตไดอ้ ยา่ งสมบูรณ์และครบถว้ น
3 หมายถึง บอกหรืออธิบายองคป์ ระกอบหลกั ของสิ่งที่สงั เกตได้
2 หมายถึง บอกหรืออธิบายองคป์ ระกอบหลกั ของส่ิงที่สงั เกตไดเ้ พียงบางส่วน
1 หมายถึง บอกหรืออธิบายส่ิงที่สงั เกตไดน้ อ้ ยมาก

4. บนั ทกึ ผลการสังเกตอย่างตรงไปตรงมาตามความเป็ นจริง
4 หมายถึง มีการบนั ทึกผลการสงั เกตอยา่ งตรงไปตรงมาตามความเป็นจริง ไมแ่ สดงความคิดเห็น
หรือใชเ้ หตุผลประกอบ
3 หมายถึง มีการบนั ทึกผลการสงั เกตอยา่ งตรงไปตรงมาตามความเป็นจริงและแสดงความคิดเห็น
หรือใชเ้ หตุผลประกอบบา้ งเลก็ นอ้ ย
2 หมายถึง มีการบนั ทึกผลการสงั เกตตามความเป็นจริงบางส่วนและแสดงความคิดเห็นหรือให้
เหตุผลประกอบเป็ นส่วนใหญ่
1 หมายถึง มีการบนั ทึกผลการสงั เกตตามความคิดเห็นของตนเอง

5. ความปลอดภยั ขณะสังเกต
4 หมายถึง สงั เกตดว้ ยความระมดั ระวงั และสามารถแนะนาเพ่ือนเพื่อใหเ้ กิดความปลอดภยั ได้
3 หมายถึง สงั เกตดว้ ยความระมดั ระวงั ครูตอ้ งดูแลและช้ีแนะเป็นบางคร้ัง
2 หมายถึง สงั เกตดว้ ยความระมดั ระวงั ครูตอ้ งดูแลและช้ีแนะบ่อยคร้ัง
1 หมายถึง ขาดความระมดั ระวงั ทาใหเ้ กิดอนั ตรายขณะที่สงั เกต

เกณฑ์การประเมนิ กจิ กรรมการสังเกตโดยภาพรวม

ระดบั คุณภาพ รายการประเมนิ

4 ดาเนินการสงั เกตตามลาดบั ข้นั ตอนไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ใชป้ ระสาทสมั ผสั ไดเ้ หมาะสมกบั สิ่งที่

สงั เกต คานึงถึงความปลอดภยั ขณะท่ีสงั เกต บอกรายละเอียดของส่ิงท่ีสงั เกตไดส้ มบรู ณ์

ครบถว้ น และบนั ทึกผลการสงั เกตอยา่ งตรงไปตรงมาตามความเป็นจริง

3 ดาเนินการสงั เกตไดต้ ามลาดบั ข้นั ตอน ใชป้ ระสาทสมั ผสั ไดค้ ่อนขา้ งเหมาะสมกบั ส่ิงที่สงั เกต

สงั เกตดว้ ยความระมดั ระวงั เพ่ือความปลอดภยั บอกรายละเอียดของส่ิงท่ีสงั เกตไดเ้ พียง

องคป์ ระกอบหลกั และบนั ทึกผลการสงั เกตตามความเป็นจริง แสดงความคิดเห็นบา้ งเลก็ นอ้ ย

2 ดาเนินการสงั เกตไดบ้ างข้นั ตอน ใชป้ ระสาทสมั ผสั ไมเ่ หมาะสมกบั ส่ิงที่สงั เกต ตอ้ งการความ

ช่วยเหลือ แนะนาเพื่อใหเ้ กิดความปลอดภยั บอกรายละเอียดของส่ิงท่ีสงั เกตไดเ้ พียง

องคป์ ระกอบหลกั บางส่วน และบนั ทึกผลการสงั เกตตามความเป็นจริงบางส่วน รวมท้งั ใส่

ความคิดเห็นเพ่ิมเติม

1 ดาเนินการสงั เกตผิดพลาด ใชก้ ารคาดเดามากกวา่ ใชป้ ระสาทสมั ผสั ตอ้ งคอยดูแลเพ่ือใหเ้ กิด

ความปลอดภยั บอกรายละเอียดของสิ่งที่สงั เกตไดน้ อ้ ยมาก และบนั ทึกผลการสงั เกตตาม

ความคิดเห็นของตนเอง ขาดการสงั เกตท่ีน่าเช่ือถือ

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 402

การสารวจ (Exploration) เป็นวธิ ีการหาขอ้ มลู เก่ียวกบั สิ่งต่าง ๆ โดยใชว้ ธิ ีการและเทคนิคต่าง ๆ เช่น การ
สงั เกต การสมั ภาษณ์ และการเกบ็ ตวั อยา่ ง เพื่อนามาวเิ คราะห์ จาแนกหรือหาความสมั พนั ธ์

ตวั อย่าง
แบบประเมนิ กจิ กรรมการสารวจ
เร่ือง...............................................................................................กล่มุ ที่...........
ภาคเรียนท่ี.......................ช้ัน...................................................

รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ
1234

1. การเลือกใชอ้ ุปกรณ์/เคร่ืองมือในการสารวจ

2. การดาเนินการสารวจ

3. การจดั จาแนกประเภทขอ้ มูล

4. การบนั ทึกผลการสารวจตามขอ้ เทจ็ จริง

5. ความปลอดภยั ขณะทาการสารวจ

เกณฑ์การประเมนิ แยกตามองค์ประกอบย่อย 5 ด้าน

1. การเลอื กใช้อุปกรณ์/เคร่ืองมอื ในการสารวจ

4 หมายถึง เลือกใชอ้ ุปกรณ์ไดถ้ กู ตอ้ ง เหมาะสม และสอดคลอ้ งกบั วธิ ีการสารวจทุกข้นั ตอน

3 หมายถึง เลือกใชอ้ ปุ กรณ์ไดถ้ กู ตอ้ งและสอดคลอ้ งกบั วธิ ีการสารวจเป็นส่วนใหญ่

2 หมายถึง เลือกใชอ้ ุปกรณ์ไดถ้ กู ตอ้ งบางส่วนและสอดคลอ้ งกบั วธิ ีการสารวจเป็นบางข้นั ตอน

1 หมายถึง เลือกใชอ้ ปุ กรณ์ไม่ถกู ตอ้ งและไม่สอดคลอ้ งกบั วิธีการสารวจ

2. การดาเนินการสารวจ

4 หมายถึง สามารถดาเนินการสารวจตามลาดบั ข้นั ตอนไดใ้ นเวลาท่ีกาหนด รวมท้งั ใชเ้ ทคนิค

หรือวิธีการที่เหมาะสมทาการสารวจ

3 หมายถึง สามารถดาเนินการสารวจตามลาดบั ข้นั ตอนและนาเทคนิคหรือวธิ ีการมาใชท้ าการ

สารวจ แต่ตอ้ งไดร้ ับความช่วยเหลือแนะนาจากครูเป็นบางคร้ัง

2 หมายถึง การดาเนินการไมเ่ ป็นไปตามลาดบั ข้นั ตอน ใชเ้ วลามาก และครูตอ้ งใหค้ วาม

ช่วยเหลือหรือแนะนาบ่อยคร้ัง
1 หมายถึง การดาเนินการผดิ พลาด ใชเ้ วลาเกินท่ีกาหนดไว้ และครูตอ้ งใหค้ วามช่วยเหลือหรือ

แนะนาตลอดเวลา

3. การจดั จาแนกประเภทข้อมลู

4 หมายถึง สามารถจดั จาแนกประเภทของส่ิงท่ีทาการสารวจเป็นหมวดหมู่ ทาใหง้ ่ายต่อการทา

ความเขา้ ใจ รวมท้งั ระบุเกณฑก์ ารจาแนกได้

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 403

3 หมายถึง สามารถจดั จาแนกประเภทของส่ิงที่ทาการสารวจเป็นหมวดหมไู่ ดต้ ามเกณฑท์ ่ีครู
แนะนา

2 หมายถึง สามารถจดั จาแนกประเภทของสิ่งท่ีทาการสารวจเป็นหมวดหม่ไู ดบ้ างส่วน โดยท่ีครู
และเพ่ือนตอ้ งใหค้ วามช่วยเหลือหรือแนะนาเกี่ยวกบั เกณฑก์ ารจาแนก

1 หมายถึง สามารถจดั จาแนกประเภทของสิ่งท่ีทาการสารวจไดน้ อ้ ยมาก โดยที่ครูและเพื่อน
ตอ้ งใหค้ วามช่วยเหลือหรือแนะนาเก่ียวกบั เกณฑก์ ารจาแนก

4. การบันทกึ ผลการสารวจตามข้อเท็จจริง
4 หมายถึง บนั ทึกขอ้ มลู ตามขอ้ เทจ็ จริง ทุกข้นั ตอน มีรายละเอียดครบถว้ น
3 หมายถึง บนั ทึกขอ้ มลู ตามขอ้ เทจ็ จริง แต่ขาดการอธิบายรายละเอียดบางข้นั ตอน
2 หมายถึง บนั ทึกขอ้ มลู ตามขอ้ เทจ็ จริงเป็นบางส่วนและใส่ความคิดเห็นของตนเอง รวมท้งั
รายละเอียดบางส่วนขาดหายไป
1 หมายถึง บนั ทึกขอ้ มลู ไดน้ อ้ ยมาก ขาดความน่าเช่ือถือ

5. ความปลอดภัยขณะทาการสารวจ
4 หมายถึง สารวจดว้ ยความระมดั ระวงั และสามารถแนะนาเพื่อนเพื่อใหเ้ กิดความปลอดภยั ได้
3 หมายถึง สารวจดว้ ยความระมดั ระวงั ครูตอ้ งดแู ลและช้ีแนะเป็นบางคร้ัง
2 หมายถึง สารวจดว้ ยความระมดั ระวงั ครูตอ้ งดแู ลและช้ีแนะบ่อยคร้ัง
1 หมายถึง ขาดความระมดั ระวงั ทาใหเ้ กิดอนั ตรายขณะที่สารวจ

เกณฑ์การประเมนิ กจิ กรรมการสารวจโดยภาพรวม

ระดบั คุณภาพ รายการประเมนิ

4 เลือกใชอ้ ุปกรณ์ไดถ้ กู ตอ้ ง เหมาะสม ดาเนินการสารวจไดร้ วดเร็ว ใชเ้ ทคนิคหรือ

วิธีการไดเ้ หมาะสม คานึงถึงความปลอดภยั ขณะที่ทาการสารวจ จดั จาแนกประเภท

ของสิ่งที่ทาการสารวจเป็นหมวดหมู่ รวมท้งั บอกเกณฑก์ ารจาแนกได้ และบนั ทึกผล

การสารวจตามขอ้ เทจ็ จริง มีรายละเอียดครบถว้ น

3 เลือกใชอ้ ุปกรณ์ไดถ้ กู ตอ้ งเป็นส่วนใหญ่ ดาเนินการสารวจตามลาดบั ข้นั ตอน สารวจ

ดว้ ยความระมดั ระวงั เพ่ือใหเ้ กิดความปลอดภยั สามารถจดั จาแนกประเภทของส่ิงที่

สารวจเป็นหมวดหม่ไู ด้ บนั ทึกผลการสารวจตามขอ้ เทจ็ จริง

2 เลือกใชอ้ ุปกรณ์ไดถ้ กู ตอ้ งเป็นบางส่วน การดาเนินการสารวจตอ้ งใชเ้ วลามาก ไม่

สามารถปฏิบตั ิไดบ้ างข้นั ตอน ตอ้ งคอยช่วยเหลือแนะนาเพ่ือใหเ้ กิดความปลอดภยั

ขณะที่สารวจ จดั จาแนกประเภทของขอ้ มูลไดเ้ พียงบางส่วน บนั ทึกผลการสารวจ

ตามขอ้ เทจ็ จริงบางส่วน รายละเอียดบางส่วนหายไป

1 เลือกใชอ้ ุปกรณ์ไม่สอดคลอ้ งกบั วิธีการสารวจ การดาเนินการสารวจผิดพลาด ตอ้ ง

คอยดูแลเพื่อใหเ้ กิดความปลอดภยั ขณะท่ีทาการสารวจ ไมส่ ามารถจดั จาแนก

ประเภทของส่ิงที่สารวจไดแ้ ละบนั ทึกผลการสารวจนอ้ ยมาก ขาดความน่าเช่ือถือ

คูม่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 404

การทดลอง (Experiment) เป็นกระบวนการเรียนรู้เพ่ือคน้ หาคาตอบหรือตรวจสอบสมมตุ ิฐานท่ีต้งั ไวด้ ว้ ย

การใชท้ กั ษะ/กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ประกอบดว้ ยการออกแบบวธิ ีการทดลอง กาหนดตวั แปร ต้งั สมมุติฐาน

เลือกและใชเ้ คร่ืองมือการทดลองหรือวสั ดุอปุ กรณ์ ปฏิบตั ิการทดลอง บนั ทึกผลการทดลองและสรุปผลการทดลอง

ตวั อย่าง

แบบประเมนิ กจิ กรรมการทดลอง

เร่ือง...............................................................................................กล่มุ ท่ี...........

ภาคเรียนที่.......................ช้ัน...................................................

การวางแผนและการออกแบบการทดลอง การดาเนินการ ผลการทดลอง
ทดลอง และสรุปผล

เลขที่ ชื่อ-สกลุ ื่ชอเ ื่รอง
ัปญหา
การ ้ตังสม ุมติฐาน
ตัวแปร ้ตน
ตัวแปรตาม
ตัวแปรควบ ุคม
วิ ีธการทดลอง
การทดลอง
วิ ีธการใ ้ชอุปกร ์ณ
การเก็บ ัรกษาอุปกร ์ณ
การจัดกระทา ้ขอ ูมล
ความ ูถก ้ตองของ
้ขอ ูมล

การแปลความหมาย ้ขอ ูมล

และส ุรปผลการทดลอง
รวม

22311141132 2 2 25

1

2

3

4

5

หมายเหตุ อาจลดประเดน็ ในการประเมินหรือลดคะแนนในแต่ละประเดน็ ไดต้ ามความเหมาะสม

เกณฑ์การให้คะแนน

1. การวางแผนและการออกแบบการทดลอง

1.1 ชื่อเรื่อง

– สอดคลอ้ งกบั ปัญหา ให้ 1 คะแนน

– ไม่สอดคลอ้ งกบั ปัญหา ให้ 0 คะแนน

– ช่ือเรื่องมีความชดั เจน ให้ 1 คะแนน

– ชื่อเรื่องไมช่ ดั เจน ให้ 0 คะแนน

1.2 ปัญหา

– สอดคลอ้ งกบั ชื่อเรื่อง ให้ 1 คะแนน

– ไมส่ อดคลอ้ งกบั ชื่อเรื่อง ให้ 0 คะแนน

– ครอบคลุมเร่ือง ให้ 1 คะแนน

– ไมค่ รอบคลุมเรื่อง ให้ 0 คะแนน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 405

1.3 การต้งั สมมุติฐาน

– ต้งั สมมตุ ิฐานไดส้ อดคลอ้ งกบั ปัญหา ให้ 2 คะแนน
0 คะแนน
– ต้งั สมมตุ ิฐานไมส่ อดคลอ้ งกบั ปัญหา ให้ 1 คะแนน
0 คะแนน
– ต้งั สมมุติฐานไดอ้ ยา่ งมีเหตุผล ให้
1 คะแนน
– ต้งั สมมตุ ิฐานไม่มีเหตุผล ให้ 0 คะแนน

1.4 ตวั แปรต่าง ๆ ท้งั 3 ตวั แปร 1 คะแนน
0 คะแนน
– มีตวั แปรต่าง ๆ และถกู ตอ้ งใหค้ ะแนนตวั แปรละ 1 คะแนน
0 คะแนน
– มีตวั แปรต่าง ๆ แต่ไม่ถกู ตอ้ ง หรือไม่มีตวั แปร ให้ 2 คะแนน
1 คะแนน
1.5 วิธีการทดลอง 0 คะแนน

– ระบุอุปกรณ์การทดลองครบถว้ น ให้ 1 คะแนน
0 คะแนน
– ระบุอุปกรณ์การทดลองไม่ครบถว้ น ให้
1 คะแนน
– ระบุอปุ กรณ์การทดลองเหมาะสม ให้ 0 คะแนน

– ระบุอุปกรณ์การทดลองไม่เหมาะสม ให้ 1 คะแนน
0 คะแนน
– มีวธิ ีการทดลองเหมาะสม ให้ 1 คะแนน
0 คะแนน
– วิธีการทดลองขา้ มข้นั ตอนหรือสลบั ซบั ซอ้ น ให้ 1 คะแนน
0 คะแนน
– มีวิธีการทดลองไมเ่ หมาะสม ให้
1 คะแนน
2. การดาเนินการทดลอง 0 คะแนน

2.1 การทดลอง

– ดาเนินการทดลองสอดคลอ้ งกบั แผนการทดลอง ให้

– ดาเนินการทดลองไมส่ อดคลอ้ งกบั แผนการทดลอง ให้

2.2 วธิ ีการใชอ้ ปุ กรณ์

– มีวิธีการใชอ้ ุปกรณ์ถกู ตอ้ ง ให้

– มีวธิ ีการใชอ้ ุปกรณ์ไมถ่ กู ตอ้ ง ให้

2.3 การเกบ็ รักษาอุปกรณ์

– อปุ กรณ์มีความสะอาด ให้

– อุปกรณ์ไม่มีความสะอาด ให้

– จดั เกบ็ อุปกรณ์เป็นระเบียบเรียบร้อย ให้

– จดั เกบ็ อุปกรณ์ไมเ่ ป็นระเบียบเรียบร้อย ให้

– อุปกรณ์ไมช่ ารุด ให้

– อปุ กรณ์ชารุด ให้

3. ผลการทดลองและสรุปผล

3.1 การจดั กระทาขอ้ มลู

– นาเสนอขอ้ มูลเขา้ ใจง่าย ให้

– นาเสนอขอ้ มลู ไม่เหมาะสม ให้

คูม่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 406

– นาเสนอขอ้ มลู เป็นลาดบั ข้นั ตอน ให้ 1 คะแนน
– นาเสนอขอ้ มลู ไม่เป็นลาดบั ข้นั ตอน ให้ 0 คะแนน
3.2 ความถกู ตอ้ งของขอ้ มลู
– ขอ้ มลู ท่ีนาเสนอมีความถกู ตอ้ ง ให้ 2 คะแนน
– ขอ้ มลู ที่นาเสนอมีความเป็นไปได้ ให้ 1 คะแนน
– ขอ้ มลู ที่นาเสนอไม่ถกู ตอ้ ง ให้ 0 คะแนน
3.3 การแปลความหมายขอ้ มลู และสรุปผลการทดลอง
– แปลความหมายขอ้ มลู ไดถ้ กู ตอ้ ง ให้ 1 คะแนน
– แปลความหมายขอ้ มลู ไม่ถกู ตอ้ ง ให้ 0 คะแนน
– สรุปผลขอ้ มลู ไดส้ อดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารทดลอง ให้ 1 คะแนน
– สรุปผลการทดลองไมส่ อดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารทดลอง ให้ 0 คะแนน

เกณฑ์การประเมนิ แยกตามองค์ประกอบย่อย 4 ด้าน

ระดบั คุณภาพ รายการประเมนิ

1. การวางแผนวธิ ีดาเนินการทดลอง

4 – วางแผนการทดลองและออกแบบการทดลองไดถ้ กู ตอ้ ง เหมาะสมกบั เวลา

สามารถเลือกใชเ้ ครื่องมือและวสั ดุอุปกรณ์ในการทดลองไดถ้ กู ตอ้ ง เหมาะสม

และครบถว้ น

3 – วางแผนการทดลองและออกแบบการทดลองไดถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสมกบั เวลา แต่

การเลือกใชเ้ ครื่องมือและวสั ดุอปุ กรณ์ยงั ไม่เหมาะสมหรือไมค่ รบถว้ น

2 – วางแผนการทดลองและออกแบบการทดลองไม่ถกู ตอ้ งและไม่เหมาะสมกบั เวลา

ตอ้ งไดร้ ับความช่วยเหลือในการเลือกใชเ้ ครื่องมือและวสั ดุอปุ กรณ์

1 – ไม่สามารถวางแผนและออกแบบการทดลองไดเ้ อง ตอ้ งไดร้ ับความช่วยเหลืออยา่ ง

มากในการวางแผนการทดลองการออกแบบการทดลอง และการเลือกใช้

เครื่องมือและวสั ดุอปุ กรณ์

2. การปฏิบัตกิ ารทดลอง

4 – ดาเนินการทดลองเป็นข้นั ตอนและใชเ้ คร่ืองมือและวสั ดุอุปกรณ์ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง

3 – ดาเนินการทดลองไดเ้ อง แต่ตอ้ งการคาแนะนาการใชเ้ คร่ืองมือและวสั ดุอุปกรณ์

เป็ นบางคร้ ัง

2 – ตอ้ งไดร้ ับความช่วยเหลือเป็นบางคร้ังในการดาเนินการทดลองและการใช้

เคร่ืองมือและวสั ดุอุปกรณ์

1 – ตอ้ งไดร้ ับความช่วยเหลือตลอดเวลาในการดาเนินการทดลองและการใชเ้ ครื่องมือ

และวสั ดุอปุ กรณ์

ระดบั คุณภาพ คูม่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 407
4
3 รายการประเมนิ
2 3. ความคล่องแคล่วในการทาการทดลอง
1 – ดาเนินการทดลองและใชอ้ ปุ กรณ์ทาการทดลองไดเ้ หมาะสม มีความปลอดภยั และ
ทาไดเ้ สร็จทนั เวลา
4 – ทาการทดลองและใชอ้ ุปกรณ์ไดท้ นั เวลาท่ีกาหนด แต่ยงั ตอ้ งการคาแนะนาการใช้
3 อปุ กรณ์บา้ งเป็นคร้ังคราว
2 – ทาการทดลองไม่ทนั เวลาที่กาหนด แต่ใชเ้ ครื่องมือและวสั ดุอปุ กรณ์ไดถ้ กู ตอ้ ง
1
และไมเ่ กิดความเสียหาย
– ทาการทดลองไม่ทนั เวลาที่กาหนดและทาเคร่ืองมือและวสั ดุอุปกรณ์เครื่องใชบ้ าง

ชิ้นชารุดเสียหาย
4. การนาเสนอ (บนั ทกึ ผลการทดลองและเขยี นรายงานการทดลอง)

– บนั ทึกผลการทดลองและสรุปผลการทดลองถูกตอ้ ง รัดกุม เขียนรายงานการ
ทดลองไดอ้ ยา่ งสมบรู ณ์เป็นข้นั ตอนที่ชดั เจน
– บนั ทึกผลการทดลองและสรุปผลการทดลองไดเ้ อง เขียนรายงานการทดลอง
ยงั ไม่เป็นข้นั ตอนที่สมบรู ณ์
– ตอ้ งไดร้ ับคาแนะนาเป็นบางคร้ังในการบนั ทึกผลการทดลอง การสรุปผลการ
ทดลอง รวมท้งั การเขียนรายงานการทดลอง
– ตอ้ งไดร้ ับความช่วยเหลืออยา่ งมากในการบนั ทึกผลการทดลอง การสรุปผล
การทดลอง รวมท้งั การเขียนรายงานการทดลอง

เกณฑ์การประเมนิ กจิ กรรมการทดลองโดยภาพรวม

ระดบั คุณภาพ รายการประเมนิ

4 วางแผนวธิ ีการทดลองและปฏิบตั ิการทดลองไดค้ ลอ่ งแคล่ว ใชเ้ คร่ืองมือและวสั ดุ

อปุ กรณ์ไดถ้ กู ตอ้ งเหมาะสม ผลการทดลองที่ไดถ้ ูกตอ้ งสมบรู ณ์

3 วางแผนวิธีการทดลองและปฏิบตั ิการทดลองไดค้ ล่องแคล่ว ใชเ้ ครื่องมือและวสั ดุ

อปุ กรณ์ไดถ้ กู ตอ้ งเหมาะสม ผลการทดลองที่ไดถ้ กู ตอ้ งแต่ยงั ไม่ครบถว้ น

2 วางแผนวธิ ีการทดลองและปฏิบตั ิการทดลองไดบ้ า้ ง แต่ไมค่ ล่องแคล่ว ตอ้ งการ

ความช่วยเหลือแนะนาการใชเ้ ครื่องมือและวสั ดุอปุ กรณ์ใหถ้ กู ตอ้ งและปลอดภยั

1 ไม่สามารถวางแผนวิธีการทดลองและปฏิบตั ิการทดลองไดเ้ อง

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 408

การสืบค้นข้อมูล (Search) เป็นการหาขอ้ มลู หรือขอ้ สนเทศท่ีมีผรู้ วบรวมไวแ้ ลว้ จากแหล่ง
ต่าง ๆ เช่น หอ้ งสมุด เครือข่ายอินเทอร์เนต็ และภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน

ตวั อย่าง
แบบประเมนิ รายงานการสืบค้นข้อมลู
เร่ือง...............................................................................................กล่มุ ที่...........
ภาคเรียนท่ี.......................ช้ัน...................................................

รายการประเมิน สรุป
เ ้ืนอหาครบถ้วนตรงตามประเด็น
เลขที่ ชื่อสกลุ ความถูกต้องของเ ้ืนอหาสาระ ผา่ น ไม่
ภาษาถูกต้องเหมาะสม ผา่ น
ค้นคว้าจากแห ่ลงการเ ีรยน ู้ร ่ีท
หลากหลาย
ูรปแบบการนาเสนอ ่นาสนใจ
ประเ ิมนป ัรบป ุรงและแสดง
ความ ู้ร ึสก ่ตอ ิ้ชนงาน

รวมจานวนรายการ ่ีทผ่านเกณฑ์ ้ขัน ่ตา

1
2
3
4
5

เกณฑ์การประเมนิ แยกตามองค์ประกอบย่อย 6 ด้าน
1. เนอื้ หาสาระครบถ้วนตรงตามประเดน็
4 หมายถึง มีเน้ือหาสาระครบถว้ นตามประเดน็ ท่ีกาหนดท้งั หมด
3 หมายถึง มีเน้ือหาสาระค่อนขา้ งครบถว้ นตามประเดน็ ที่กาหนดท้งั หมด
2 หมายถึง มีเน้ือหาสาระไมค่ รบถว้ นตามประเดน็ แต่ภาพรวมของสาระท้งั หมดอยใู่ นเกณฑพ์ อใช้
1 หมายถึง มีเน้ือหาสาระไมค่ รบถว้ น ภาพรวมของสาระท้งั หมดอยใู่ นเกณฑต์ อ้ งปรับปรุง
2. ความถูกต้องของเนือ้ หาสาระ
4 หมายถึง เน้ือหาสาระท้งั หมดถกู ตอ้ งตามขอ้ เทจ็ จริงและหลกั วชิ า
3 หมายถึง เน้ือหาสาระเกือบท้งั หมดถกู ตอ้ งตามขอ้ เทจ็ จริงและหลกั วชิ า
2 หมายถึง เน้ือหาสาระบางส่วนถูกตอ้ งตามขอ้ เทจ็ จริง หลกั วชิ าตอ้ งแกไ้ ขบางส่วน
1 หมายถึง เน้ือหาสาระส่วนใหญ่ไม่ถกู ตอ้ งตามขอ้ เทจ็ จริง หลกั วชิ าตอ้ งแกไ้ ขเป็นส่วนใหญ่

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 409

3. ภาษาถูกต้องเหมาะสม
4 หมายถึง สะกดการันตถ์ ูกตอ้ ง ถอ้ ยคาสานวนเหมาะสมดีมาก ลาดบั ความไดช้ ดั เจน เขา้ ใจง่าย
3 หมายถึง สะกดการันตถ์ กู ตอ้ งเป็นส่วนใหญ่ ถอ้ ยคาสานวนเหมาะสมดี ลาดบั ความไดด้ ีพอใช้
2 หมายถึง สะกดการันตม์ ีผิดอยบู่ า้ ง ถอ้ ยคาสานวนเหมาะสมพอใช้ ลาดบั ความพอเขา้ ใจ
1 หมายถึง สะกดการันตผ์ ิดมาก ถอ้ ยคาสานวนไม่เหมาะสม ลาดบั ความไดไ้ มช่ ดั เจน
4. ค้นคว้าจากแหล่งการเรียนรู้ทหี่ ลากหลาย
4 หมายถึง คน้ ควา้ จากแหล่งการเรียนรู้ท่ีหลากหลายต้งั แต่ 4 แหลง่ ข้ึนไป
3 หมายถึง คน้ ควา้ จากแหล่งการเรียนรู้ 3 แหล่ง
2 หมายถึง คน้ ควา้ จากแหล่งการเรียนรู้ 2 แหล่ง
1 หมายถึง คน้ ควา้ จากแหล่งการเรียนรู้เพียงแหลง่ การเรียนรู้เดียว
5. รูปแบบการนาเสนอน่าสนใจ
4 หมายถึง รูปแบบการนาเสนองานแปลกใหม่ น่าสนใจดี ลาดบั เรื่องราวไดด้ ีมาก
3 หมายถึง รูปแบบการนาเสนองานน่าสนใจ ลาดบั เร่ืองราวไดด้ ี
2 หมายถึง รูปแบบการนาเสนองานน่าสนใจพอใช้ ลาดบั เร่ืองราวไดพ้ อใช้
1 หมายถึง รูปแบบการนาเสนอผลงานไมน่ ่าสนใจ ลาดบั เร่ืองราวไดไ้ มด่ ี
6. ประเมนิ ปรับปรุงและแสดงความรู้สึกต่อชิน้ งาน
4 หมายถึง วิเคราะห์ขอ้ เด่น ขอ้ ดอ้ ยของงานไดช้ ดั เจน ปรับปรุงพฒั นางานไดเ้ หมาะสม และแสดง

ความรู้สึกต่องานท้งั กระบวนการทางานและผลงานไดอ้ ยา่ งชดั เจน
3 หมายถึง วเิ คราะหข์ อ้ เด่น ขอ้ ดอ้ ยของงานไดบ้ างส่วน ปรับปรุงพฒั นางานไดบ้ า้ ง แสดงความรู้สึก

ต่องานไดแ้ ต่ไม่ครบถว้ น
2 หมายถึง วเิ คราะห์ขอ้ เด่น ขอ้ ดอ้ ยของงานไดเ้ ลก็ นอ้ ย ปรับปรุงพฒั นางานดว้ ยตนเองไมไ่ ดต้ อ้ ง

ไดร้ ับคาแนะนาจากผอู้ ื่น แสดงความรู้สึกต่องานไดแ้ ต่ไม่ครบถว้ น
1 หมายถึง วเิ คราะห์ขอ้ เด่น ขอ้ ดอ้ ยของงานไมไ่ ด้ ไม่ปรับปรุงพฒั นางาน แสดงความรู้สึกต่องานได้

เลก็ นอ้ ยหรือไมแ่ สดงความรู้สึกต่องาน
เกณฑ์การตดั สินผลการประเมนิ

นกั เรียนตอ้ งมีพฤติกรรมในแต่ละรายการอยา่ งนอ้ ยระดบั 2 ข้ึนไป จานวน 4 ใน 5 รายการ

เกณฑ์การประเมนิ รายงานการสืบค้นข้อมลู โดยภาพรวม

ระดบั คุณภาพ รายการประเมนิ

4 – บนั ทึกผลงานไดถ้ กู ตอ้ งตามจุดประสงค์ เขียนบนั ทึกไดช้ ดั เจน แนวคิดหลกั

ถกู ตอ้ ง มีประเดน็ สาคญั ครบถว้ น

– ใชภ้ าษาไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ศพั ทว์ ิทยาศาสตร์ถกู ตอ้ ง

คูม่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 410

ระดบั คุณภาพ รายการประเมนิ
3 – บนั ทึกผลงานไดต้ รงตามจุดประสงค์ เขียนบนั ทึกที่มีบางส่วนยงั ไมช่ ดั เจน
แนวคิดหลกั ถูกตอ้ ง มีประเดน็ สาคญั ครบถว้ น
2 – ใชภ้ าษา ศพั ทว์ ทิ ยาศาสตร์ไมถ่ กู ตอ้ งในบางส่วน
– บนั ทึกผลงานยึดตามจุดประสงค์ เขียนบนั ทึกไม่ชดั เจน แนวคิดหลกั บางส่วนไม่
1
ถกู ตอ้ ง ส่วนที่เป็นประเดน็ สาคญั มีไม่ครบถว้ น
– ใชภ้ าษา ศพั ทว์ ทิ ยาศาสตร์ไมถ่ กู ตอ้ งในบางส่วน
– บนั ทึกผลงานไม่สอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์ เขียนบนั ทึกไม่ชดั เจน และแนวคิด

หลกั ส่วนใหญไ่ ม่ถกู ตอ้ ง
– ใชภ้ าษา ศพั ทว์ ทิ ยาศาสตร์ไมถ่ กู ตอ้ ง

โครงงานวทิ ยาศาสตร์ (Scientific Project) เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีมีการสืบเสาะหาความรู้ การปฏิบตั ิ
จริง และการสร้างความรู้ดว้ ยตนเอง โดยผทู้ าโครงงานมีอิสระในการนาความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์เดิม
และกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์มาใชใ้ นการแกป้ ัญหา โครงงานวิทยาศาสตร์จาแนกเป็น 4 ประเภท คือ โครงงาน
ประเภทสารวจ โครงงานประเภททดลอง โครงงานประเภทสิ่งประดิษฐ์ และโครงงานประเภททฤษฎี

การประเมนิ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ได้กาหนดเป้ าหมายการเรียนรู้และจดุ ประสงค์ของการประเมนิ ไว้ ดงั น้ี

เป้ าหมายการเรียนรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. ความรู้ความคิด 1.1 มีความเขา้ ใจหลกั การ แนวคิดหลกั ทางวิทยาศาสตร์

1.2 ใชศ้ พั ทเ์ ฉพาะทางวิทยาศาสตร์ไดถ้ กู ตอ้ ง

1.3 มีความรู้เกิดข้ึนใหมแ่ ละสร้างความรู้ดว้ ยตนเอง

ฯลฯ

2. กระบวนการเรียนรู้ที่เกิดจาก

การทาโครงงาน

2.1 โครงงานประเภทสารวจและ 1) สามารถกาหนดปัญหาและสมมตุ ิฐานที่สอดคลอ้ งกนั

โครงงานประเภททดลอง 2) สามารถออกแบบการสารวจหรือทดลอง การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู

และการควบคุมตวั แปร

3) สามารถจดั กระทาและนาเสนอขอ้ มูลท่ีเขา้ ใจง่าย

4) สามารถแปลผลสอดคลอ้ งกบั ขอ้ มลู ที่รวบรวมได้

5) สามารถบนั ทึกการทางานอยา่ งมีเหตุผล

ฯลฯ

คูม่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 411

2.2 โครงงานประเภทส่ิงประดิษฐ์ 1) สามารถเลือกวสั ดุท่ีนามาใชป้ ระดิษฐ์
2) สามารถออกแบบตรงตามวตั ถุประสงค์ การใชป้ ระโยชน์ ความ
2.3 โครงงานประเภททฤษฎี
คงทน ความประณีต และน่าสนใจ
3. ความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ ฯลฯ
4. การเขียนรายงานหรือการแสดง
ผลงาน 1) สามารถเสนอแนวคิดท่ีมีเหตุผล
2) สามารถอธิบายและสรุปแนวคิดหลกั บนพ้ืนฐานของขอ้ ตกลง

เบ้ืองตน้
ฯลฯ

3.1 มีความแปลกใหม่ ก่อใหเ้ กิดประโยชน์
3.2 มีความแปลกใหมใ่ นการออกแบบ

ฯลฯ
4.1 ความถกู ตอ้ งของขอ้ มลู ศพั ทว์ ทิ ยาศาสตร์ การเรียบเรียงขอ้ ความ

และรูปแบบการนาเสนอตาราง แผนภมู ิ กราฟ รูปภาพ
4.2 สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ไดอ้ ยา่ งชดั เจน เหมาะสม น่าสนใจ

ฯลฯ

เกณฑ์การประเมนิ โครงงานวทิ ยาศาสตร์โดยภาพรวม

ระดบั คุณภาพ รายการประเมนิ

4 มีการแสดงออกถึงความเขา้ ใจปัญหา การวางแผนวิธีการทาโครงงาน โดยออกแบบ

หรือคิดคน้ ข้ึนเอง ลงมือปฏิบตั ิจนทาโครงงานไดเ้ สร็จและประสบความสาเร็จ เขียน

รายงานเป็นลาดบั ไดช้ ดั เจนและครบถว้ น

3 มีหลกั ฐาน ร่องรอยที่แสดงถึงความเขา้ ใจปัญหา การวางแผนวิธีการทาโครงงานได้

ถกู ตอ้ ง ลงมือปฏิบตั ิจนเสร็จและประสบความสาเร็จ และเขียนรายงานไดช้ ดั เจน

2 มีหลกั ฐาน ร่องรอยท่ีแสดงถึงความเขา้ ใจปัญหา การวางแผนวิธีการทาโครงงาน

ถกู ตอ้ งบางส่วน ลงมือปฏิบตั ิประสบความสาเร็จบางส่วน และเขียนรายงานยงั ไม่

ชดั เจน

1 ใชเ้ วลานานมากในการทาความเขา้ ใจปัญหา ตอ้ งอาศยั การแนะนาเกี่ยวกบั การวางแผน

วิธีการทาโครงงาน มีความยากลาบากในการลงมือปฏิบตั ิและเขียนรายงานสบั สนไม่

ชดั เจน

คูม่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 412

แบบบันทึกผลการประเมนิ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ คะแนนทไี่ ด้ หมายเหตุ
4321
รายการประเมนิ

1. การกาหนดปัญหาและการต้งั สมมุติฐาน
2. ขอ้ มลู หรือขอ้ เทจ็ จริงประกอบการทาโครงงาน
3. การออกแบบการทดลอง
4. อุปกรณ์และเคร่ืองมือในการทดลอง
5. การดาเนินการทดลอง
6. การบนั ทึกขอ้ มลู
7. การจดั กระทาขอ้ มลู
8. การแปลความหมายขอ้ มูลและการสรุปผลของขอ้ มลู
9. ความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์
10. การเขียนรายงานหรือการแสดงผลงาน

รวม

หมายเหตุ การประเมินโครงงานวทิ ยาศาสตร์ทาไดโ้ ดยการสงั เกต การสมั ภาษณ์ และการบนั ทึกการ
ปฏิบตั ิงานหรือบนั ทึกพฤติกรรมของนกั เรียนเป็นรายบุคคลและเป็นรายกลุ่มอยา่ งต่อเน่ือง
และผปู้ ระเมินหลายคน รวมท้งั การประเมินตนเองของนกั เรียน

เกณฑ์การประเมนิ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ แยกตามองค์ประกอบย่อย 10 ด้าน โครงงานประเภททดลอง

ระดบั คุณภาพ รายการประเมนิ

1. การกาหนดปัญหาและการต้ังสมมุตฐิ าน

4 สมมตุ ิฐานสอดคลอ้ งกบั ปัญหาและแสดงความสมั พนั ธ์ระหวา่ งเหตุและผลอยา่ งชดั เจน

3 สมมุติฐานสอดคลอ้ งกบั ปัญหาและแสดงความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งเหตุและผลแต่ยงั ไม่ชดั เจน

2 สมมตุ ิฐานสอดคลอ้ งกบั ปัญหา แต่ไม่แสดงความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งเหตุและผล

1 สมมุติฐานไม่สอดคลอ้ งกบั ปัญหา

2. ข้อมูลหรือข้อเทจ็ จริงประกอบการทาโครงงาน

4 มีการศึกษาคน้ หาขอ้ มลู หรือขอ้ เทจ็ จริงที่เกี่ยวขอ้ งกบั ปัญหาอยา่ งชดั เจนครอบคลุม

3 มีการศึกษาคน้ หาขอ้ มลู หรือขอ้ เทจ็ จริงที่เกี่ยวขอ้ งกบั ปัญหา แต่ยงั ไมค่ รอบคลมุ

2 มีการศึกษาคน้ หาขอ้ มลู หรือขอ้ เทจ็ จริงที่เกี่ยวขอ้ งกบั ปัญหาเพียงบางส่วน

1 มีการศึกษาหาขอ้ มลู หรือขอ้ เท็จจริงท่ีไม่เก่ียวขอ้ งกบั ปัญหา

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 413

3. การออกแบบการทดลอง
4 สอดคลอ้ งกบั สมมตุ ิฐาน ควบคุมตวั แปรไดถ้ ูกตอ้ งสมบรู ณ์ และมีแนวทางการเกบ็ รวบรวม

ขอ้ มลู
3 สอดคลอ้ งกบั สมมุติฐานและควบคุมตวั แปรไดค้ รบถว้ นสมบูรณ์
2 สอดคลอ้ งกบั สมมุติฐานและควบคุมตวั แปรไดบ้ างส่วน
1 สอดคลอ้ งกบั สมมุติฐานแต่ไม่มีการควบคุมตวั แปร

4. อปุ กรณ์และเครื่องมอื ในการทดลอง
4 เลือกใชอ้ ุปกรณ์และเคร่ืองมือไดถ้ กู ตอ้ งและเหมาะสม
3 เลือกใชอ้ ุปกรณ์และเคร่ืองมือไดถ้ กู ตอ้ งเป็นส่วนใหญ่
2 เลือกใชอ้ ุปกรณ์และเครื่องมือไดถ้ กู ตอ้ งเป็นบางส่วน
1 เลือกใชอ้ ุปกรณ์และเคร่ืองมือไม่เหมาะสม

5. การดาเนินการทดลอง
4 ดาเนินการทดลองไดถ้ ูกตอ้ งครบสมบูรณ์
3 ดาเนินการทดลองไดถ้ กู ตอ้ งเป็นส่วนใหญ่
2 ดาเนินการทดลองไดถ้ กู ตอ้ งเป็นบางส่วน
1 ดาเนินการทดลองไม่เหมาะสม

6. การบันทึกข้อมลู
4 บนั ทึกขอ้ มลู ตรงจุดประสงคท์ ี่ตอ้ งการศึกษาถกู ตอ้ งและครบสมบูรณ์
3 บนั ทึกขอ้ มลู ตรงจุดประสงคท์ ี่ตอ้ งการศึกษาและถูกตอ้ ง
2 บนั ทึกขอ้ มลู ตรงจุดประสงคท์ ี่ตอ้ งการศึกษา
1 บนั ทึกขอ้ มลู ไมต่ รงจุดประสงคท์ ่ีตอ้ งการศึกษา

7. การจดั กระทาข้อมลู
4 มีการจดั กระทาขอ้ มลู ถกู ตอ้ ง ชดั เจน ละเอียด และครบสมบรู ณ์
3 มีการจดั กระทาขอ้ มลู ถกู ตอ้ ง ชดั เจน แต่ยงั ไม่ครบสมบูรณ์
2 มีการจดั กระทาขอ้ มลู ถกู ตอ้ ง แต่ไมช่ ดั เจนเพียงพอ
1 มีการจดั กระทาขอ้ มลู ไมถ่ กู ตอ้ งเป็นส่วนมาก

8. การแปลความหมายข้อมลู และการสรุปผลของข้อมูล
4 แปลความหมายถกู ตอ้ งและสรุปผลสอดคลอ้ งกบั ขอ้ มลู
3 แปลความหมายถกู ตอ้ ง แต่สรุปผลไม่สอดคลอ้ งกบั ขอ้ มลู บางส่วน
2 แปลความหมายถกู ตอ้ งเป็นส่วนใหญ่ แต่สรุปผลไมส่ อดคลอ้ งกบั ขอ้ มลู
1 แปลความหมายไมถ่ กู ตอ้ งบางส่วน และไมส่ รุปผล

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 414

9. ความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์
4 โครงงานแสดงใหเ้ ห็นถึงความคิดริเริ่มสร้างสรรคแ์ ละสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชไ้ ด้
3 โครงงานแสดงใหเ้ ห็นถึงความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์
2 โครงงานบางส่วนมีความแปลกใหม่จากโครงงานที่มีผทู้ าแลว้
1 โครงงานคลา้ ยคลึงกบั สิ่งท่ีเคยทาแลว้

10. การเขยี นรายงานหรือการแสดงผลงาน
4 มีการนาเสนอเป็นข้นั ตอนสมบูรณ์และชดั เจน
3 มีการนาเสนอเป็นข้นั ตอนแต่ยงั ไมช่ ดั เจน
2 มีการนาเสนอบางส่วนเป็นข้นั ตอนแต่ยงั ไมช่ ดั เจน
1 มีการนาเสนอไม่ชดั เจน ไม่เป็นข้นั ตอน

คูม่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 415

ตวั อย่าง
แบบประเมนิ โครงงาน (ทวั่ ไป)
ช่ือโครงงาน...............................................................................กลุ่มที่...........
ภาคเรียนท่ี.......................ช้ัน...................................................

รายการประเมนิ รวม สรุป
จานวน
เลขที่ ช่ือสกลุ กาหนดประเด็น ัปญหา รายการ ผ่าน ไม่
ัชดเจน ท่ผี ่าน ผ่าน
1 วางแผนกาหนด ้ขันตอน เกณฑ์
2 การแ ้ก ัปญหาไ ้ดเหมาะสม ข้ันตา่
3 ลงมือปฏิ ับติตามแผน
4 สามารถนาไปใ ้ชแ ้ก ัปญหา
5 ใน ีชวิตประจาวัน
เขียนรายงานนาเสนอ

เกณฑ์การประเมนิ แยกตามองค์ประกอบย่อย 5 ด้าน

1. กาหนดประเดน็ ปัญหาชัดเจน
4 หมายถึง กาหนดประเดน็ ปัญหาไดด้ ว้ ยตนเอง ปัญหาที่กาหนดมีความเฉพาะเจาะจงชดั เจนดีมาก
3 หมายถึง กาหนดประเดน็ ปัญหาไดด้ ว้ ยตนเอง ปัญหาท่ีกาหนดมีความเฉพาะเจาะจงชดั เจนดี
2 หมายถึง กาหนดประเดน็ ปัญหาไดด้ ว้ ยตนเองเป็นบางส่วน ปัญหาที่กาหนดมีความเฉพาะเจาะจงชดั เจนพอใช้
1 หมายถึง กาหนดประเดน็ ปัญหาดว้ ยตนเองไมไ่ ด้

2. วางแผนกาหนดข้ันตอนการแก้ปัญหาได้เหมาะสม
4 หมายถึง ออกแบบวิธีการ ข้นั ตอนการแกป้ ัญหา ระบุควบคุมตวั แปรไดถ้ กู ตอ้ งเหมาะสม
3 หมายถึง ออกแบบวิธีการ ข้นั ตอนการแกป้ ัญหา ระบุควบคุมตวั แปรไดค้ ่อนขา้ งเหมาะสม
2 หมายถึง ออกแบบวิธีการ ข้นั ตอนการแกป้ ัญหา ระบุควบคุมตวั แปรไดเ้ หมาะสมพอใช้
1 หมายถึง ออกแบบวธิ ีการ ข้นั ตอนการแกป้ ัญหา ระบุควบคุมตวั แปรไดไ้ ม่เหมาะสม

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 416

3. ลงมอื ปฏบิ ตั ติ ามแผน
4 หมายถึง ลงมือแกป้ ัญหาตามข้นั ตอนท่ีกาหนดไวอ้ ยา่ งครบถว้ นจริงจงั สามารถคน้ พบความรู้

ขอ้ คิด แนวทางการปฏิบตั ิตามประเดน็ ปัญหาท่ีต้งั ไวด้ ว้ ยตนเองท้งั หมด
3 หมายถึง ลงมือแกป้ ัญหาตามข้นั ตอนที่กาหนดไวอ้ ยา่ งครบถว้ นจริงจงั สามารถคน้ พบความรู้

ขอ้ คิด แนวทางการปฏิบตั ิตามประเดน็ ปัญหาท่ีต้งั ไวด้ ว้ ยตนเองเป็นส่วนใหญ่
2 หมายถึง ลงมือปฏิบตั ิตามข้นั ตอนท่ีกาหนดบา้ ง แต่ไมค่ รบถว้ น สามารถคน้ พบความรู้

ขอ้ คิด แนวทางการปฏิบตั ิตามประเดน็ ปัญหาท่ีต้งั ไวด้ ว้ ยตนเองเป็นบางส่วน
1 หมายถึง ลงมือปฏิบตั ิตามข้นั ตอนที่กาหนดไดน้ อ้ ยมาก ไม่สามารถคน้ พบความรู้ ขอ้ คิด

แนวทางการปฏิบตั ิตามประเดน็ ปัญหาที่ต้งั ไว้
4. สามารถนาไปใช้แก้ปัญหาในชีวติ ประจาวนั
4 หมายถึง นาขอ้ คน้ พบ วิธีปฏิบตั ิไปใชแ้ กป้ ัญหาในชีวิตประจาวนั ไดค้ รบถว้ น ถกู ตอ้ งและต่อเนื่อง
3 หมายถึง นาขอ้ คน้ พบ วิธีปฏิบตั ิไปใชแ้ กป้ ัญหาในชีวิตประจาวนั ไดค้ รบถว้ น ถูกตอ้ งแต่ขาดความต่อเนื่อง
2 หมายถึง นาขอ้ คน้ พบ วิธีปฏิบตั ิไปใชแ้ กป้ ัญหาในชีวติ ประจาวนั ไดเ้ ป็นบางส่วน และตอ้ งกระตุน้ เตือน

ใหป้ ฏิบตั ิอยา่ งต่อเนื่อง
1 หมายถึง นาขอ้ คน้ พบ วิธีปฏิบตั ิไปใชแ้ กป้ ัญหาในชีวติ ประจาวนั ไดน้ อ้ ยมาก หรือไม่นาไปใชเ้ ลย
5. เขยี นรายงานนาเสนอ
4 หมายถึง บนั ทึกผลการศึกษาคน้ ควา้ และนาเสนอขอ้ มลู ไดถ้ กู ตอ้ งชดั เจน แสดงใหเ้ ห็นถึงข้นั ตอนการวางแผน

การลงมือแกป้ ัญหาและขอ้ คน้ พบท่ีไดค้ รบถว้ น
3 หมายถึง บนั ทึกผลการศึกษาคน้ ควา้ และนาเสนอขอ้ มลู ไดถ้ กู ตอ้ งชดั เจน แสดงใหเ้ ห็นถึงข้นั ตอนการวางแผน

การลงมือแกป้ ัญหา และขอ้ คน้ พบท่ีไดค้ ่อนขา้ งครบถว้ น
2 หมายถึง บนั ทึกผลการศึกษาคน้ ควา้ และนาเสนอขอ้ มลู ไดบ้ า้ ง แสดงใหเ้ ห็นถึงข้นั ตอนการวางแผน การลงมือ

แกป้ ัญหา และขอ้ คน้ พบท่ีไดเ้ พียงบางส่วน
1 หมายถึง บนั ทึกผลการศึกษาคน้ ควา้ และนาเสนอขอ้ มลู ไดน้ อ้ ยมาก เห็นข้นั ตอนการวางแผน การลงมือแกป้ ัญหา

และขอ้ คน้ พบที่ไดไ้ ม่ชดั เจน
เกณฑ์การตดั สินผลการประเมนิ

นกั เรียนตอ้ งมีพฤติกรรมในแต่ละรายการอยา่ งนอ้ ยระดบั 2 ข้ึนไป จานวน 3 ใน 5 รายการ

คูม่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 417

แฟ้ มสะสมผลงาน (Portfolio) เป็นแหลง่ รวบรวมผลงานของนกั เรียนอยา่ งเป็นระบบ ท่ีนามาใชป้ ระเมิน
สมรรถภาพของนกั เรียน เพื่อช่วยใหน้ กั เรียน ครู ผปู้ กครองหรือผทู้ ่ีเกี่ยวขอ้ งเกิดความเขา้ ใจและมองเห็นอยา่ งเป็น
รูปธรรมไดว้ า่ การปฏิบตั ิงานและผลงานของนกั เรียนมีคุณภาพมาตรฐานอยใู่ นระดบั ใด

แฟ้ มสะสมผลงานเป็นเคร่ืองมือประเมินผลตามสภาพจริงท่ีใหโ้ อกาสนกั เรียนไดใ้ ชผ้ ลงานจากที่ไดป้ ฏิบตั ิ
จริงส่ือสารใหผ้ อู้ ื่นเขา้ ใจถึงความสามารถที่แทจ้ ริงของตน ซ่ึงผลงานที่เกบ็ สะสมในแฟ้ มสะสมผลงานมีหลาย
ลกั ษณะ เช่น การเขียนรายงาน บทความ การศึกษาคน้ ควา้ ส่ิงประดิษฐ์ การทาโครงงาน บนั ทึกการบรรยาย บนั ทึก
การทดลอง บนั ทึกการอภิปราย บนั ทึกประจาวนั แบบทดสอบ

แบบบันทกึ ความคดิ เห็นเกย่ี วกบั การประเมนิ ชิน้ งานในแฟ้ มสะสมผลงาน
ช่ือชิ้นงาน...........................................................................วนั ท่ี.......... เดอื น................... พ.ศ. .............

หน่วยการเรียนรู้ที่.............เรื่อง................................................................

รายการประเมนิ บันทึกความคดิ เห็นของนักเรียน
1. เหตุผลที่เลือกชิ้นงานน้ีไวใ้ นแฟ้ มสะสมผลงาน .............................................................
.............................................................
2. จุดเด่นและจุดดอ้ ยของงานชิ้นน้ีมีอะไรบา้ ง .............................................................
.............................................................
3. ถา้ จะปรับปรุงงานชิ้นน้ีใหด้ ีข้ึนควรปรับปรุง .............................................................
อยา่ งไร .............................................................
.............................................................
4. งานชิ้นน้ีควรไดค้ ะแนนเท่าใด เพราะเหตุใด (ถา้ .............................................................
กาหนดใหค้ ะแนนเตม็ 10 คะแนน) .............................................................
.............................................................
..............................................................

ความเห็นของครูหรือท่ีปรึกษา ความเห็นของผ้ปู กครอง

........................................................................ ......................................................................
........................................................................ ......................................................................
........................................................................ ......................................................................
........................................................................ ......................................................................
........................ผ...ลการประเมนิ ของครูหรือทปี่ รึกษา ................................

ตวั อย่าง

.....................................................................................................................

.....................................................................................................................

.....................................................................................................................

...........................................................

คูม่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 418

แบบประเมนิ แฟ้ มสะสมผลงาน

เรื่อง...............................................................................................กล่มุ ที่...........

ภาคเรียนที่.......................ช้ัน...................................................

รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ 4
123

1. โครงสร้างและองคป์ ระกอบ

2. แนวความคิดหลกั

3. การประเมินผล

4. การนาเสนอ

เกณฑ์การประเมนิ แยกตามองค์ประกอบย่อย 4 ด้าน

ระดบั คุณภาพ รายการประเมนิ

1. โครงสร้างและองค์ประกอบ

4 ผลงานมีองคป์ ระกอบที่สาคญั ครบถว้ นและจดั เกบ็ ไดอ้ ยา่ งเป็นระบบ

3 ผลงานมีองคป์ ระกอบท่ีสาคญั เกือบครบถว้ นและส่วนใหญ่จดั เกบ็ อยา่ งเป็นระบบ

2 ผลงานมีองคป์ ระกอบท่ีสาคญั เป็นส่วนนอ้ ย แต่บางชิ้นงานมีการจดั เกบ็ ที่เป็นระบบ

1 ผลงานขาดองคป์ ระกอบที่สาคญั และการจดั เกบ็ ไมม่ ีระบบ

2. แนวความคิดหลกั

4 ผลงานสะทอ้ นแนวความคิดหลกั ของนกั เรียนที่ไดค้ วามรู้ทางวิทยาศาสตร์ มีหลกั ฐานแสดง

วา่ มีการนาความรู้ไปใชป้ ระโยชนไ์ ดม้ าก

3 ผลงานสะทอ้ นแนวความคิดหลกั ของนกั เรียนท่ีไดค้ วามรู้ทางวทิ ยาศาสตร์ มีหลกั ฐานแสดง

วา่ สามารถนาความรู้ไปใชใ้ นสถานการณ์ตวั อยา่ งได้

2 ผลงานสะทอ้ นแนวความคิดหลกั ของนกั เรียนวา่ ไดค้ วามรู้ทางวทิ ยาศาสตร์บา้ ง มีหลกั ฐาน

แสดงถึงความพยายามที่จะนาไปใชป้ ระโยชน์

1 ผลงานจดั ไม่เป็นระบบ มีหลกั ฐานแสดงวา่ มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์นอ้ ยมาก

3. การประเมนิ ผล

4 มีการประเมินความสามารถและประสิทธิภาพการปฏิบตั ิงานและผลงาน รวมท้งั มีการ

เสนอแนะโครงการท่ีเป็นไปไดท้ ี่จะจดั ทาต่อไปไวอ้ ยา่ งชดั เจนหลายโครงการ

3 มีการประเมินความสามารถและประสิทธิภาพการปฏิบตั ิงานและผลงาน รวมท้งั การ

เสนอแนะโครงการท่ีควรจดั ทาต่อไป

2 มีการประเมินความสามารถและประสิทธิภาพการปฏิบตั ิงานและผลงานบา้ ง รวมท้งั มีการ
เสนอแนะโครงการท่ีจะทาต่อไปแต่ไมช่ ดั เจน

1 มีการประเมินประสิทธิภาพการปฏิบตั ิงานและผลงานนอ้ ยมากและไม่มีขอ้ เสนอแนะใด ๆ

คูม่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ป. 1 419

ระดบั คุณภาพ รายการประเมนิ
4
3 4. การนาเสนอ
2
1 เขียนบทสรุปและรายงานท่ีมีระบบดี มีข้นั ตอน มีขอ้ มลู ครบถว้ น มีการประเมินผล
ครบถว้ น แสดงออกถึงความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์
เขียนบทสรุปและรายงานแสดงใหเ้ ห็นวา่ มีข้นั ตอนการจดั เกบ็ ผลงาน มีการประเมินผลงาน
เป็ นส่วนมาก
เขียนบทสรุปและรายงานแสดงใหเ้ ห็นวา่ มีข้นั ตอนการจดั เกบ็ ผลงาน มีการประเมินผลเป็น
บางส่วน
เขียนบทสรุปและรายงานแสดงใหเ้ ห็นวา่ มีข้นั ตอนการจดั เกบ็ ผลงาน แต่ไม่มีการ
ประเมินผล

เกณฑ์การประเมนิ แฟ้ มสะสมผลงานโดยภาพรวม

ระดบั คุณภาพ รายการประเมนิ

4 ผลงานมีรายละเอียดมากเพียงพอ ไม่มีขอ้ ผดิ พลาดหรือแสดงถึงความไม่เขา้ ใจ มีความเขา้ ใจ

ในเร่ืองท่ีศึกษาโดยมีการบูรณาการหรือเช่ือมโยงแนวความคิดหลกั ต่าง ๆ เขา้ ดว้ ยกนั

3 ผลงานมีรายละเอียดมากเพียงพอและไมม่ ีขอ้ ผดิ พลาดหรือแสดงถึงความไม่เขา้ ใจ แต่ขอ้ มลู

ต่าง ๆ เป็นลกั ษณะของการนาเสนอท่ีไม่ไดบ้ ูรณาการระหวา่ งขอ้ มลู กบั แนวความคิดหลกั

ของเร่ืองท่ีศึกษา

2 ผลงานมีรายละเอียดที่บนั ทึกไว้ แต่พบวา่ บางส่วนมีความผดิ พลาดหรือไมช่ ดั เจน หรือ

แสดงถึงความไม่เขา้ ใจเรื่องท่ีศึกษา

1 ผลงานมีขอ้ มลู นอ้ ย ไมม่ ีรายละเอียดบนั ทึกไว้


Click to View FlipBook Version