The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Tawanrst Baokaew, 2019-09-14 10:12:47

เลขที่ 25-26

เลขที่ 25-26

พระมหาชนก
ตอน ความเพียร

บทพระราชนิพนธ์ ใน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั ภูมิพลอดลุ ยเดชฯ (รชั กาลที่ ๙)
พระเจา้ มหาชนกกษัตริย์แห่งกรุงมิถิลา มีพระราชโอรส ๒ พระองคพ์ ระนามว่า อรฏิ ฐชนก

และ โปลชนก เมื่อสวรรคตแล้ว พระอริฏฐชนกได้ครองราชสมบัติและทรงตั้งพระโปลชนก
เปน็ อุปราช

อมาตยผ์ ู้ใกล้ชิดได้กราบทลู ใส่รา้ ยว่า พระอปุ ราชโปลชนกคดิ ไม่ซื่อ พระอรฏิ ฐชนกก็หลงเชื่อ
สั่งจองจำพระโปลชนก แต่พระโปลชนกตั้งจิตอธิษฐานและหลบหนีไปได้ ภายหลังได้
รวบรวมพลมาพร้อมส่งสาส์นขอเจรจา แต่อมาตย์ชั่วร้ายแปลงสาส์นเป็นขอท้ารบ ทำให้
พระอริฏฐชนกแต่งทัพออกรบ ทั้งสองพระองค์รู้ความจริงในระหว่างการรบ แต่พระอริฏฐ
ชนกส้นิ พระชนมใ์ นสนามรบ

พระเทวีของพระอริฏฐชนก ที่กำลังทรงครรภ์จึงปลอมตัวหนีออกนอกเมืองด้วยความ
ช่วยเหลือของท้าวสักกเทวราชจึงเสด็จหนีไปจนถึงเมือง กาลจัมปากะ ได้พราหมณ์ผู้หนึ่ง
อุปการะไว้ในฐานะน้องสาว ต่อมามีพระประสูติกาล ตั้งพระนามพระโอรสตามพระอัยยิกา
วา่ "มหาชนก"

พระมหาชนกเติบใหญ่ และได้ทราบความจริง ก็คิดจะไปค้าขายตั้งตัว แล้วจะไปเอาราช
สมบตั คิ นื จึงนำสมบัตกิ ึ่งหนึ่งของพระมารดาไปขาย แลกเปน็ สนิ ค้าออกเรอื ไปยงั สวุ รรณภมู ิ

ระหว่างทางในมหาสมุทร เรือตอ้ งพายุล่มลง ลูกเรือตายหมดยังแต่พระมหาชนกรอดเพียงผู้
เดียว ทรงอดทนว่ายน้ำในมหาสมุทรด้วยความเพียร 7 วัน 7 คืน จนได้พบนางมณีเมขลา
นางมณีเมขลาเมื่อได้สนทนากนั นางเข้าใจในการบำเพ็ญวิรยิ บารมี จึงไดอ้ มุ้ พระมหาชนกไป
ส่งยังมิถิลานคร

ที่นครมิถิลา พระเจ้าโปลชนกทรงประชวรหนัก มีแต่พระธิดาพระนามว่า "สิวลี" พระโปล
ชนกตรัสส่ังอำมาตย์วา่ ผู้ใดสามารถไขปริศนาขมุ ทรัพย์ได้กย็ กบ้านเมืองให้แกผ่ ู้นนั้

อำมาตย์จึงตั้งพิธีเสี่ยงราชรถ ราชรถได้มาหยุดอยู่หน้าศาลาที่พระมหาชนกกุมารทรง
ประทบั อยู่ พระองค์ทรงไขปรศิ นาได้ท้ังหมด พระองคจึงได้

อภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงสิวลี และขึ้นครองราชย์สมบัติแคว้นวิเทหะ พระมหาชนกทรง
ครองราชยด์ ้วยความผาสกุ มาโดยตลอด เนื่องด้วยทรงอย่ใู น
ทศพิธราชธรรม ต่อมาพระนางสิวลีประสูติพระโอรส ทรงนามว่า "ทีฆาวุกุมาร" ครั้นเมื่อ
เจริญวัยขึน้ พระบดิ าทรงโปรดให้ดำรงตำแหน่งมหาอปุ ราช

อยู่มาวนั หนึง่ พระราชามหาชนกได้เสด็จอทุ ยานทอดพระเนตร
เหน็ มะมว่ งต้นหนึ่งมีผล มีรสชาติอร่อย
ตน้ หนึ่งไมม่ ีผล

พระองค์ได้ทรงชิมต้นที่มีผล รสชาติอร่อย และทรงตั้งใจว่าจะกลับมาเสวยอีกครั้งในยาม
เย็น

ทว่าต่อมามะม่วงต้นที่มีผลรสชาติดีก็เสียหายจนหมดเพราะผู้คนพากันมาโค่นเพื่อเอาผล
มะม่วง สว่ นต้นทไ่ี มม่ ีผลยังอย่รู อดได้

พระมหาชนก จึงทรงคิดได้ว่า ราชสมบัติ ก็เปรียบเหมือนต้นไม้มีผลที่อาจถูกทำลาย แม้จะ
ไม่ถกู ทำลายก็ตอ้ งคอยระวงั รกั ษา ทำให้เกดิ ความกงั วล

พระองค์ประสงค์จะทำตนเป็นผู้ไม่มีกังวลเหมือนต้นไม้ไม่มีผล แต่ก็ไม่ทรงทำเช่นนั้นเพราะ
คิดว่าเป็นหน้าที่ของพระราชาที่จะทำให้สังคมอยู่รอดพ้นก่อน ทั้งนี้เนื่องด้วยเพราะผู้คนใน
สังคมยังขาดสติปัญญาเห็นแก่ประโยชน์เฉพาะหน้า ดุจดังผู้ที่ทำลายต้นมะม่วงเพียงเพราะ
ตอ้ งการผลมะมว่ งโดยไมค่ ดิ เก็บไว้กนิ ในวนั ข้างหนา้

พระมหาชนก ทรงคิดดังนั้นแล้ว จึงให้ผู้รู้วิชามาทำนุบำรุงต้นมะม่วงด้วยหลักวิชาการทาง
การเกษตร และจัดตั้งสถานศึกษาชื่อ ปูทะเลย์มหาวิชชาลัย เพื่อสร้างคนผู้เป็นคนดีมี
สติปัญญาให้แกส่ งั คม เพ่อื สงั คมจะไดเ้ จริญรุ่งเรอื งและดำรงอยู่อย่างผาสกุ สบื ไป

พระราชนพิ นธ์ "พระมหาชนก"
เป็นหนงั สือท่สี วยงาม ทรงคุณคา่ ในหลวง ร.๙ ทรงใช้ระยะเวลาค้นคว้า และพระราชนิพนธ์
ประมาณ ๑๙ ปี (พ.ศ. ๒๕๒๐-๒๕๓๙)
และจัดพิมพเ์ สร็จสมบรู ณ์
ในโอกาสเฉลิมฉลองกาญจนาภิเษกแหง่ รัชกาล

ทรงมีพระราชดำรัสเกีย่ วกับพระราชนิพนธ์
"พระมหาชนก" ..

"หนงั สอื นเี้ ป็นที่รกั ของข้าพเจา้
หนงั สือนีไ้ ม่มีที่เทยี ม
และจะเป็นที่เริงใจของผู้อ่าน
ตอ้ งการให้เห็นวา่ สำคญั ทส่ี ดุ
คนเราทำอะไรต้องมีความเพียร
ขอจงมีความเพยี รที่บริสุทธ์ิ
ปญั ญาท่ีเฉยี บแหลม กำลงั กายท่ีสมบรู ณ”์


Click to View FlipBook Version