แผนการจดั ประสบการณ์
ช้นั อนุบาล 2
สาระทคี่ วรเรยี นรู้ : ธรรมชาติรอบตวั
หน่วย : ผเี สื้อ
โดย
นางสาวอรยิ าพร เรอื งผล 6281107049
คณะครศุ าสตร์ สาขาการศึกษาปฐมวยั มหาวิทยาลยั ราชภฏั บ้านสมเดจ็ เจา้ พระยา
แผนการจัดประสบการณร์ ายสปั ดาห์ หนว่ ย ผเี ส้อื ช้ันอนุบาลปีที่ 2
มาตรฐาน/ตัวบ่งช้ี /สภาพที่พงึ ประสงค์ จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้
ประสบการณส์ ำคญั สาระท่ีควรเรยี นรู้
พฒั นาการดา้ นรา่ งกาย พัฒนาการดา้ นร่างกาย 1. รูปรา่ งลกั ษณะของผเี ส้ือ
มฐ. 1 ตบช. 1.3 1. การเคลือ่ นไหวอย่กู บั ท่ี ผเี สอื้ เป็นแมลงชนดิ หนง่ึ มีขา 6 ขา
1.3.1 เลน่ และทำกิจกรรมอย่างปลอดภัยดว้ ย 1. เลน่ และทำกจิ กรรมอย่างปลอดภยั ด้วยตนเอง 2. การเคล่ือนไหวเคล่ือนที่ บางชนดิ มสี สี วยงาม และมี
ตนเอง 3. การเคล่อื นไหวพร้อมวสั ดุอุปกรณ์ ส่วนประกอบที่สำคัญดังนี้
มฐ. 2 ตบช. 2.2 4. การเคลอื่ นไหวทใี่ ช้ประสานสัมพนั ธ์ - สว่ นหัวของผเี ส้ือ ประกอบไป
2.2.1 ใชก้ รรไกรตัดกระดาษตามแนวเสน้ ได้ 2. กระโดดขาเดียวอยกู่ ับที่ได้โดยไม่เสียการทรงตวั ของการใชก้ ล้ามเน้อื ใหญ่ในการโยน ด้วย ตา 2 ข้าง หนวด 2 เส้น และ
พัฒนาการด้านอารมณ์-จิตใจ 5. การเขยี นภาพและเลน่ กับสี ปากเปน็ ท่อเรยี วยาวสามารถม้วนได้
มฐ.3 ตบช. 3.1 3. ว่งิ หลบหลกี สิ่งกีดขวางได้ 6. การปัน้ ซ่งึ คอื ทอ่ ดูดน้ำหวาน
3.1.1 แสดงอารมณ์ ความรู้สกึ ได้ตามสถานการณ์ 4. รับลูกบอลโดยใชม้ ือทั้ง 2 ข้าง 7. การประดิษฐ์ส่งิ ตา่ ง ๆ ด้วยเศษวัสดุ - ลำตวั ของผเี สื้อ ประกอบไปดว้ ย
มฐ 3 ตบช. 3.2 8. การหยบิ จับ และการร้อยวัสดุ ส่วนหวั สว่ นลำตวั และส่วนทอ้ งมี
3.2.1 กลา้ พดู กล้าแสดงออกอย่างเหมาะสมบาง 5. ใช้กรรไกรตัดกระดาษตามแนวเส้นได้ 9. การเล่นเครื่องเล่นอย่างปลอดภัย ลักษณะเป็นปลอ้ งๆ และขาจำนวน 6
สถานการณ์ 6. ร้อยวัสดุทมี ีรขู นาดเส้นผ่านศนู ยก์ ลาง 0.5 พฒั นาการด้านอารมณ์-จิตใจ ขา มีลกั ษณะเป็นข้อ ๆ
มฐ 4 ตบช 4.1 เซนตเิ มตรได้ 1. การฟงั เพลง การร้องเพลง และการ - ปีกและสขี องผีเส้ือ ปีกของผีเสอื้
4.1.1 สนใจ มีความสุข และแสดงออกผ่านงาน แสดงปฏกิ ิรยิ าโต้ตอบเสียงดนตรี มี 2 คู่ ปกี คบู่ นมีขนาดใหญ่กว่าคู่ล่าง
ศิลปะ 2. การเคล่ือนไหวตามเสียงเพลง/ บนปกี มีสีสันและลวดลายท่ตี ่างกัน
4.1.2 สนใจมคี วามสขุ และแสดงออกผ่าน 7. แสดงอารมณ์ ความร้สู ึกได้ตามสถานการณ์ ดนตรี 2. ประเภทของผเี ส้ือ
เสยี งเพลงดนตรี 3. การทำกจิ กรรมศิลปะต่าง ๆ ผเี สื้อแบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท คอื
4.1.3 สนใจ มคี วามสขุ และแสดงท่าทาง/ 8. กล้าพดู กล้าแสดงออกอยา่ งเหมาะสมบาง 4. การสรา้ งสรรคส์ ่งิ สวยงาม ผีเส้ือกลางวัน และผีเสอ้ื กลางคนื
เคล่อื นไหวประกอบเพลง จังหวะ และดนตรี สถานการณ์ 5. การเล่นอิสระ - ผเี ส้อื กลางวันจะมสี ีสันสดใสกวา่
มฐ 5 ตบช 5.1 6. การเลน่ รายบุคคล กล่มุ ย่อย และ หากนิ เฉพาะกลางวนั ปากมีลักษณะ
มาตรฐาน/ตัวบ่งช้ี /สภาพท่ีพึงประสงค์ จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้
ประสบการณส์ ำคัญ สาระท่ีควรเรยี นรู้
5.1.1 ขออนญุ าตหรอื รอคอยเมื่อต้องการสิง่ ของ 9. สนใจ มีความสุข และแสดงออกผา่ นงานศลิ ปะ กล่มุ ใหญ่ เปน็ งวง
ของผู้อนื่ เม่ือมผี ู้ช้แี นะ 7. การเล่นตามมุมประสบการณ/์ มุม - ผีเสื้อกลางคืน จะมลี กั ษณะ
มฐ 5 ตบช 5.2 10. สนใจมคี วามสุขและแสดงออกผ่านเสียงเพลง เล่นตา่ ง ๆ ตรงกนั ขา้ ม คอื มักมสี ีน้ำตาล และไม่
5.2.2 แสดงความรกั เพ่ือน และมเี มตตาสตั ว์เล้ยี ง ดนตรี 8. การเลน่ นอกห้องเรียน มีลายเด่นชัด หากนิ กลางคืน
มฐ 5 ตบช 5.3 11. สนใจ มีความสขุ และแสดงท่าทาง/เคล่อื นไหว 9. การพดู สะทอ้ นความรู้สกึ ของตนเอง 3. อาหารของผีเสื้อ
5.3.1 แสดงสีหนา้ และท่าทางรับรคู้ วามรูส้ กึ ผู้อ่นื ประกอบเพลง จงั หวะ และดนตรี และผอู้ นื่ อาหารของผีเส้อื ทัว่ ไป คือ นำ้ หวาน
มฐ 5 ตบช 5.4 10. การเล่นบทบาทสมมติ และเกลือแร่ นำ้ หวานได้มาจาก
5.4.1 ทำงานท่ีได้รับ มอบหมายจนสำเรจ็ เมอื่ มผี ู้ 12. ขออนญุ าตหรือรอคอยเมื่อตอ้ งการส่งิ ของของ 11. การรอ้ งเพลง ดอกไม้ ผลไม้หรือยางไม้ สำหรบั
ชี้แนะ ผอู้ น่ื เม่อื มผี ชู้ แี้ นะ 12. การทำงานศลิ ปะ เกลอื แร่นั้นอาจเกิดไดจ้ ากสะสมที่
พัฒนาการดา้ นสงั คม 13. การปฏบิ ตั ิกิจกรรมต่าง ๆ ตาม ทรายชื้น เปน็ ต้น
มฐ.6 ตบช. 6.2 13. แสดงความรักเพ่ือน และมีเมตตาสตั วเ์ ลย้ี ง ความสามารถของตนเอง 4. วงจรชวี ิตผเี สื้อ
6.2.1 เก็บของเลน่ ของใช้เข้าทีด่ ว้ ยตนเอง พัฒนาการด้านสงั คม วงจรชวี ติ ผีเส้อื ผีเสื้อมีการ
มฐ.6 ตบช. 6.3 14. แสดงสหี น้าและทา่ ทางรับรู้ความรสู้ ึกผูอ้ ่ืน 1. การปฏบิ ตั ติ ามแนวทางหลักปรชั ญา เจริญเตบิ โต4ระยะ คอื ระยะไข่
6.3.1 ใชส้ งิ่ ของเคร่ืองใชอ้ ย่างประหยดั และ เศรษฐกจิ พอเพียง ระยะหนอน ระยะดกั แด้ ระยะตวั
พอเพยี งเม่ือมผี ู้ช้แี นะ 15. ทำงานท่ีได้รบั มอบหมายจนสำเรจ็ เมื่อมผี ู้ 2. การใช้วัสดุและสิง่ ของอยา่ งคมุ้ ค่า เตม็ วยั ในระยะไข่ ผเี สื้อเม่อื หลังจาก
มฐ.7 ตบช.7.1 ช้ีแนะ 3. การทำงานศลิ ปะที่นำวัสดุหรอื ผา่ นการผสมพันธุ์ จะไปวางไข่ในที่ท่ี
7.1.1 มสี ่วนรว่ มดแู ลรกั ษาธรรมชาติและ สิ่งของเครือ่ งใชท้ ใี่ ชแ้ ลว้ มาใช้ชำ้ หรอื เปน็ พชื อาหาร ไขข่ องผเี สอ้ื มี
ส่ิงแวดล้อมเม่ือมผี ้ชู ี้แนะ แปรรปู แลว้ นำกลับมาใช้ใหม่ ระยะเวลาเฉล่ีย 3 - 5 วัน แลว้ จะ
มฐ.8 ตบช. 8.2 16. เก็บของเล่นของใชเ้ ขา้ ทด่ี ้วยตนเอง 4. การศกึ ษานอกสถานที่ กลายเป็นตวั หนอน ในช่วงน้ีใชเ้ วลา
8.2.1 เล่นหรอื ทำงานรว่ มกับเพื่อนเปน็ กลมุ่ 5. การให้ความรว่ มมือในการปฏบิ ัติ ประมาณ 7 - 20 และจะกลายเปน็
มฐ.8 ตบช. 8.3 17. ใชส้ ่ิงของเคร่อื งใชอ้ ยา่ งประหยดั และพอเพยี ง กิจกรรมตา่ ง ๆ ดักแด้ ในเปลือกดักแดน้ ้นั จะมกี าร
มาตรฐาน/ตัวบ่งช้ี /สภาพท่ีพงึ ประสงค์ จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้
ประสบการณส์ ำคัญ สาระทคี่ วรเรียนรู้
8.3.2 ปฏิบตั ิตนเปน็ ผู้นำและผตู้ ามได้ดว้ ยตนเอง เมือ่ มีผู้ชี้แนะ 6. การสนทนาและแลกเปล่ียนความ พฒั นาตา่ ง ๆ เกิดขึ้น ใช้เวลา
มฐ.9 ตบช. 9.1 คดิ เหน็ ประมาณ 5 - 20วนั ผเี สอ้ื จะดนั
9.1.1 ฟงั ผ้อู ่นื พดู จนจบและสนทนาโตต้ อบ 18. มีสว่ นร่วมดูแลรักษาธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม 7. การเล่นและทำงานร่วมกับผู้อ่ืน ตัวเองออกมาจากดักแด้ และ
สอดคลอ้ งกับเรืองฟงั เมื่อมีผู้ชี้แนะ 8. การทำศลิ ปะแบบรว่ มมือ กลายเปน็ ผเี สือ้ ตวั เต็มวยั และมีชีวติ
9.1.2 เล่าเรือ่ งเป็นประโยคอย่างต่อเนอ่ื ง 9. การเลน่ หรือทำกจิ กรรมรว่ มกบั กลุ่ม อยูป่ ระมาณ 10 - 20วัน
มฐ.10 ตบช. 10.1 19. เล่นหรือทำงานร่วมกับเพื่อนเป็นกลุ่ม เพ่อื น 5. ประโยชนแ์ ละโทษของผเี ส้ือ
10.1.1 บอกลักษณะและส่วนประกอบของสิ่งต่าง พฒั นาการด้านสตปิ ัญญา 1) ประโยชน์
ๆ จากการสังเกตโดยใชป้ ระสาทสัมผสั 20. ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผู้นำและผตู้ ามไดด้ ้วยตนเอง 1. การฟังและปฏบิ ัตติ ามคำแนะนำ - การผลิตไหม ซ่งึ สรา้ งโดยตวั นอน
10.1.3 จำแนกและจัดกลุ่มสงิ่ ต่าง ๆ โดยใชอ้ ย่าง 2. การฟังเพลง นทิ าน คำคล้องจอง ไหม นำมาทอผ้าได้ดี
นอ้ ย 1 ลักษณะเป็นเกณฑ์ 21. ฟังผ้อู ่ืนพูดจนจบและสนทนาโตต้ อบสอดคลอ้ ง บทร้อยกรอง หรอื เร่อื งราวตา่ ง ๆ - ความสวยงาม ความสวยงามของ
10.1.4 เรยี งลำดบั ส่ิงของหรือเหตุการณ์อย่าง กับเรอื งฟงั 3. การสังเกตลกั ษณะ ส่วนประกอบ ผีเสอ้ื อยทู่ ีป่ ีก
นอ้ ย 4 ลำดับ 22. เลา่ เรื่องเป็นประโยคอย่างต่อเนื่อง การเปลยี่ นแปลง และความสัมพนั ธ์ - การผสมเกสรของพชื ดอก ผีเสอ้ื จะ
พัฒนาการด้านสตปิ ญั ญา ของสง่ิ ต่าง ๆ โดยใช้ประสาทสมั ผัส ช่วยผสมเกสรดอกไมไ้ ด้ดี
มฐ.11 ตบช. 11.1 23. บอกลักษณะและสว่ นประกอบของผเี ส้ือ จาก อยา่ งเหมาะสม 2) โทษของผีเส้ือ
11.1.1 สรา้ งผลงานศลิ ปะเพ่อื ส่ือสารความคิด การสงั เกตโดยใช้ประสาทสมั ผสั 4.การคัดแยก การจัดกลมุ่ และการ - การกดั กินใบ หนอนเจาะลำต้นและ
ความรูส้ กึ ของตนเองโดยมีการดดั แปลงและแปลก 24. จำแนกและจัดกลุ่มประเภทของผีเสอ้ื ได้ จำแนกสิง่ ต่าง ๆ ตามลกั ษณะและ ก่ิงก้านของตน้ ไม้
ใหมจ่ ากเดิมหรือมีรายละเอียดเพมิ่ ข้ึน รูปรา่ ง รปู ทรง - หนอนและผีเสอ้ื กินผลและเมลด็
มฐ. 11 ตบช. 11.2 25.. เรียงลำดับวงจรชีวติ ผเี สอื้ ได้ 5.การต่อของชิน้ เลก็ เตมิ ในชิน้ ใหญ่ให้ - ผีเส้ือกินนำ้ ตา พบในววั ควาย ใน
11.2.1 เคลื่อนไหวทางเพื่อสื่อสารความคิด สมบรู ณ์ และ การแยกช้นิ สว่ น
6.การบอกและเรียงลำดับกจิ กรรมหรือ เวลากลางวัน
ความรสู้ ึกของตนเองอย่างหลากหลายหรือแปลก
ใหม่ เหตกุ ารณต์ ามช่วงเวลา
มาตรฐาน/ตวั บ่งช้ี /สภาพท่ีพงึ ประสงค์ จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ สาระท่ีควรเรียนรู้
26. สรา้ งผลงานศิลปะเพื่อส่ือสารความคิดความรู้สึก
มฐ.12 ตบช. 12.1 ของตนเองโดยมีการดัดแปลงและแปลกใหมจ่ ากเดิม ประสบการณส์ ำคัญ
12.1.2 กระตอื รือร้นในการเข้าร่วมกิจกรรม หรอื มีรายละเอยี ดเพมิ่ ข้ึน 7.การแสดงความคดิ สรา้ งสรรค์ผ่าน
มฐ.12 ตบช. 12.2 ภาษา ทา่ ทาง การเคลื่อนไหว และ
12.2.1 คน้ หาคำตอบของข้อสงสัยตา่ ง ๆ ตาม 27.. เคล่ือนไหวทางเพ่ือสอ่ื สารความคิดความรูส้ กึ ศลิ ปะ
วธิ ีการของตนเอง ของตนเองอย่างหลากหลายหรอื แปลกใหม่ 8.การสรา้ งสรรคช์ ิน้ งานโดยใชร้ ูปรา่ ง
12.2.2 ใชป้ ระโยคคำถามว่า “ที่ไหน”“ ทำไม” รปู ทรงจาก วสั ดุท่ีหลากหลาย
ในการคน้ หาคำตอบ 28. กระตือรอื รน้ ในการเข้ารว่ มกจิ กรรม 9. การสำรวจส่งิ ต่าง ๆ และแหลง่
เรียนรรู้ อบตัว
10.การตัง้ คำถามในเรือ่ งที่สนใจ
29. คน้ หาคำตอบของข้อสงสัยต่าง ๆ ตามวิธีการ
ของตนเอง
30. ใช้ประโยคคำถามวา่ “ ท่ีไหน”“ ทำไม” ในการ
ค้นหาคำตอบ
แผนการจดั ประสบการณ์รายสปั ดาหร์ ายสัปดาหร์ ะดับช้ันอนุบาลปที ่ี 2
สปั ดาห์ท่ี 1 หน่วย ผเี ส้ือ สาระการเรียนรู้ ธรรมชาตริ อบตัว
วนั ท่ี กิจกรรม
เคล่ือนไหวและจงั หวะ เสรมิ ประสบการณ์ สรา้ งสรรค์ เสรี กลางแจ้ง เกมการศกึ ษา
1 1. กจิ กรรมการเคลื่อนไหว เรอื่ ง รูปรา่ งลักษณะของผเี สื้อ 1. การวาดภาพดว้ ยสีเทียน สี เลน่ ตามมมุ เสรี 1. เกมผเี สือ้ เกบ็ 1. เกมศึกษา
น้ำหวาน รายละเอียดภาพ
พืน้ ฐาน 1. ทายภาพปรศิ นา (ผีเสื้อ) น้ำ หรือมุม 2. เคร่อื งเล่นสนาม (ลอตโต)
2. เกมเรยี งลำดับ
2. การเคลอื่ นไหวตามบทเพลง 2. อธิบายรปู ร่างลักษณะของผีเสอ้ื โดยมี 2. การพบั สี ประสบการณ์ ขนาดของผเี สือ้
(เพลง หนอนผเี สื้อ) ภาพประกอบ พรอ้ มสนทนา 3. การพมิ พภ์ าพด้วยมือ
3. เล่นเกมประกอบช้ินส่วนของผเี สอ้ื
4. สนทนาสรุปเกี่ยวกบั รูปรา่ งลกั ษณะ
ของผเี สอ้ื
2 1. กจิ กรรมการเคล่ือนไหว เรือ่ ง ประเภทของผีเส้ือ 1. การพบั ผีเส้อื จากกระดาษ เล่นตามมมุ เสรี 1. ลกู บอลเตน้ ระบำ 1. เกมโดมโิ นภาพ
2. กจิ กรรมเลน่ น้ำ เลน่ ผีเสือ้ ท่ีเหมือนกัน
พื้นฐาน 1. รอ้ งเพลง “ผเี ส้ือตวั นอ้ ย” 2. การรอ้ ยหลอดกาแฟ หรอื มุม ทราย 2. เกมจัดหมวดหมู่
2. กิจกรรมการเคลื่อนไหว 2. อธบิ ายเกี่ยวกับประเภทของผีเสื้อ 3. การหยดสี ประสบการณ์ ประเภทของผเี สอ้ื
ประกอบรบิ บนิ้ โดยมีภาพประกอบการสนทนา
3. เลน่ เกมจัดหมวดหมผู่ เี สอื้ กลางวัน
ผเี สอ้ื กลางคืน
4. สนทนาสรปุ เกี่ยวกับประเภทของ
ผีเสือ้
3 1. กิจกรรมการเคลื่อนไหว เรือ่ ง อาหารของผเี สอื้ 1. การเปา่ สี เล่นตามมมุ เสรี 1. เกมผเี สือ้ ส่งอาหาร 1. เกมภาพตดั ต่อ
2. เคร่อื งเลน่ สนาม อาหารของผีเสื้อ
พื้นฐาน 1.ทายกลนิ่ ปริศนา (ดอกไม้) 2. การพมิ พ์จากใบไม้ หรือมุม 2. เกมจัดหมวดหมู่
อาหารของผเี สือ้
2. กิจกรรมเคล่ือนไหว 2.เฉลยกลน่ิ ปริศนา (ดอกไม้) 3. การร้อยลูกปัด ประสบการณ์
เลยี นแบบ
วนั ที่ กจิ กรรม
เคลอื่ นไหวและจงั หวะ เสริมประสบการณ์ สรา้ งสรรค์ เสรี กลางแจง้ เกมการศกึ ษา
3.อธบิ ายเก่ยี วกับอาหารของผีเส้ือ โดย
ใช้ภาพประกอบการสนทนา
4.เกมตามหาอาหารของผเี ส้ือ
5.สนทนาสรปุ เก่ยี วกับอาหารของผีเสื้อ
4 1. กจิ กรรมการเคลือ่ นไหว เร่ือง วงจรชีวติ ของผเี สอื้ 1. การประดษิ ฐผ์ ีเสือ้ จากวัสดุ เล่นตามมมุ เสรี 1. เกมเดนิ ตัวหนอน 1. เกมนบั จำนวน
2. โยนและรับลกู บอล ภาพผเี สื้อ
พ้ืนฐาน 1. ท่องคำคลอ้ งจอง “วงจรชีวติ ผีเสอื้ ” เหลอื ใช้ หรือมุม 2. เกมเรียงลำดับ
ภาพวงจรชวี ิตผีเสื้อ
2. กิจกรรมการเคลื่อนไหว 2. เล่นบทบาทสมมติ 2. วาดภาพต่อเติมจากภาพที่ ประสบการณ์
ท่าทางเป็นผนู้ ำ ผูต้ าม 3. สนทนาแผนภมู วิ งจรชีวติ ของผเี สือ้ กำหนด
4. เกมภาพตดั ต่อวงจรชวี ติ ของผีเส้อื 3. การเทสี
5. สนทนาสรุปเกยี่ วกบั วงจรชีวิตผเี ส้อื
5 1. กจิ กรรมเคล่ือนไหวพนื้ ฐาน เรอ่ื ง ประโยชนแ์ ละโทษของผีเสือ้ 1. ฉีก-ปะ ภาพผเี ส้ือ เลน่ ตามมมุ เสรี 1. อบอนุ่ รา่ งกาย 1. เกมจบั คูภ่ าพและ
2. เกมลมเพลมพดั เงาของผเี สือ้
2. เคล่อื นไหวตามคำบรรยาย 1. เลา่ นิทานเรอ่ื ง “หนอนผเี สื้อ” 2. ปัน้ แปง้ โดว์ หรือมมุ 2. เกมภาพตัดต่อ
ของผเี สอ้ื
2. สนทนาเก่ยี วกับประโยชน์และโทษ 3. การพมิ พ์ภาพจากก้าน ประสบการณ์
ของผีเสอ้ื โดยมบี ัตรภาพประกอบ กลว้ ย
3. เล่นเกมแยกประโยชน์หรือโทษ
4. สนทนาสรปุ เรือ่ งประโยชนแ์ ละโทษ
ของผีเส้อื ร่วมกนั
แผนการจัดประสบการณร์ ายสัปดาห์ สัปดาห์ท่ี 1 วันท่ี 3 หน่วย ผเี สื้อ เรอ่ื ง อาหารของผีเส้อื
กิจกรรม สาระการเรยี นรู้ กิจกรรม สอ่ื การประเมนิ ผล
ประสบการณส์ ำคญั สาระท่คี วรเรียนรู้
จุดประสงค์การเรยี นรู้ สังเกตพฤติกรรม
กิจกรรมเคล่อื นไหวและจังหวะ 1.การเคล่อื นไหวอยู่ 1.กิจกรรมการ ข้นั ตอนดำเนนิ กิจกรรม 1. เครื่องเคาะ 1.การ สนใจ มีความสุข
1. สนใจ มีความสุขและแสดง กบั ที่ และแสดงท่าทาง
ท่าทางเคล่อื นไหวประกอบ 2.การเคลื่อนไห เคลื่อนไหวพืน้ ฐาน 1. เด็กและครูรว่ มกันสร้างข้อตกลงในการ จงั หวะ เคล่ือนไหวประกอบ
จังหวะและดนตรี เคล่อื นที่ จังหวะและดนตรี
2.สนใจมคี วามสุขและแสดงออก 3.การเคลื่อนไหว 2.กิจกรรมเคลื่อนไหว ทำ กจิ กรรมการเคล่ือนไหวและจงั หวะ 2.ดนตรปี ระกอบ 2.การสนใจมคี วามสุข
ผ่านเสยี งเพลงดนตรี ตาม เสียงเพลง และแสดงออกผ่าน
3. มีสว่ นร่วมสร้างข้อตกลงและ 4.การร่วมมือในการ เลยี นแบบ 2. ครูเคาะจงั หวะช้า เร็ว ใหเ้ ดก็ จงั หวะ เสียงเพลงดนตรี
ปฏิบตั ติ ามข้อตกลงเม่อื มผี ้ชู แ้ี นะ ปฏิบตั กิ จิ กรรมตา่ ง 3. มสี ว่ นร่วมสรา้ ง
ๆ เคล่ือนไหวรา่ งกาย อย่างอสิ ระตามจังหวะ ขอ้ ตกลงและปฏิบัติตาม
ข้อตกลงเมื่อมีผู้ชีแ้ นะ
และสญั ญาณชา้ เรว็ หยุดไป รอบ ๆ ห้อง
3. เดก็ เคล่ือนไหวรา่ งกายประกอบดนตรี
อย่าง อสิ ระ โดยครูคอยสงั เกตการ
เคล่ือนไหวของเด็กแต่ ละคน
4. ใหเ้ ดก็ น่งั พักในท่าสบาย เพือ่ ผ่อนคลาย
กล้ามเนื้อ
กิจกรรม สาระการเรียนรู้
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ประสบการณส์ ำคัญ สาระทคี่ วรเรียนรู้ กจิ กรรม สอ่ื การประเมนิ ผล
กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์ 1การเคลื่อนไหว อาหารของผเี สอ้ื ขั้นนำ 1.กลอ่ งปรศิ นา สังเกตพฤตกิ รรม
1..ครใู ห้เดก็ ทายกลอ่ งปริศนาโดยใช้ อาหารของผีเสอ้ื 1.การกล้าพูดกล้า
1.กล้าพูดกลา้ แสดงออกอย่าง พรอ้ มวสั ดุอปุ กรณ์ ท่วั ไป คือ น้ำหวาน ประสาทสมั ผัสทางจมกู 2.ภาพอาหารของ แสดงออกอยา่ ง
2. ครูเฉลยกล่ินในกล่องปริศนา และ ผีเส้อื เหมาะสมบาง
เหมาะสมบางสถานการณ์ 2..การใช้ความ และเกลือแร่ สนทนาเกยี่ วกบั อาหารของผเี สือ้ สถานการณ์
ขน้ั สอน 2.การขออนุญาตหรือรอ
2.ขออนุญาตหรอื รอคอยเมื่อ ร่วมมอื ในกำรปฏิบตั ิ น้ำหวานไดม้ าจาก 1. ครอู ธิบายเกยี่ วกับอาหารของผเี สื้อ ครู คอยเม่ือต้องการสงิ่ ของ
ใช้อาหารของผีเส้อื ของจริง เช่น ดอกไม้ ของผู้อน่ื เมื่อมีผชู้ ้แี นะ
ต้องการสงิ่ ของของผู้อ่นื เมือ่ มีผู้ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ดอกไม้ ผลไม้หรือ ดนิ ผลไม้ในการเรียนรู้อาหารของผีเสื้อ 3.การเลน่ หรือทำงาน
2. .เด็กและครูร่วมกนั เล่นเกมกล่อง รว่ มกับเพื่อนเป็นกลุ่ม
ชแ้ี นะ 3.การสนทนาและ ยำงไม้ สำหรบั เกลือ ปรศิ นาอาหารของผเี ส้อื โดยใหเ้ ดก็ นัง่ เปน็ 4.การฟังผู้อื่นพดู จนจบ
ครง่ึ วงกลม และสนทนาโตต้ อบ
3.เล่นหรือทำงานรว่ มกับเพื่อนเปน็ แลกเปลีย่ นความ แร่น้นั อาจเกิดได้จาก ขน้ั สรปุ สอดคลอ้ งกับเรืองท่ีฟงั
1. เล่นเกม “ตามหาอาหารของผเี ส้อื ” 5.การกระตอื รือรน้ ใน
กลุม่ คดิ เห็น สะสมท่ี ทรายช้ืน ตามขน้ั ตอน ดงั นี้ การเขา้ ร่วมกิจกรรม
1.1.ครูใหเ้ ด็กสวมบทบาทเปน็ ผเี ส้ือ 6. การบอกลักษณะและ
4.ฟงั ผูอ้ นื่ พูดจนจบและสนทนา 4.การเลน่ และ เปน็ ต้น 1.2.ครูใหเ้ ดก็ บนิ ไปตามอาหารของผเี สอ้ื สว่ นประกอบของผเี สื้อ
โดยอาหารจะอยู่ตามมุมของห้อง จากการสงั เกตโดยใช้
โต้ตอบสอดคล้องกบั เรื่องที่ฟัง ทำงานรว่ มกบั ผู้อื่น 1.3.ครแู ละเด็กร่วมกนั เฉลยว่าใช่อาหาร ประสาทสมั ผัส
ของผีเสื้อหรือไม่
5.กระตือรือร้นในการเข้าร่วม 5.การฟังและปฏบิ ัติ 2.ครแู ละเด็กร่วมกนั สนทนาอาหารของ
ผเี สอ้ื
กจิ กรรม ตามคำแนะนำ
6. บอกลักษณะและ 6. . การสงั เกต
ส่วนประกอบของผีเสื้อ ลักษณะ
จากการสังเกตโดยใช้ประสาท ส่วนประกอบการ
สัมผสั เปลย่ี นแปลง และ
ความสัมพันธ์ ของสิ่ง
ต่างๆ โดยใช้
ประสาทสมั ผสั อย่าง
เหมาะสม
กิจกรรม สาระการเรียนรู้
จุดประสงค์การเรียนรู้ ประสบการณ์สำคญั สาระท่ีควรเรียนรู้ กจิ กรรม สอ่ื การประเมินผล
กิจกรรมสร้างสรรค์
1.รอ้ ยวสั ดุทม่ี ีรูขนาดเสน้ ผ่าน 1. การรอ้ ยวัสดุ 1. การเป่าสี ขั้นตอนดำเนนิ กจิ กรรม 1. กระดาษ A4 สงั เกตพฤตกิ รรม
ศูนยก์ ลาง 1 ซม.ได้ 1. ครูจัดเตรียมอปุ กรณแ์ ละแบ่งเด็ก 2. สีน้ำ จานสี 1.การรอ้ ยวัสดทุ ม่ี รี ู
2. แสดงความพอใจในผลงาน 2.การทำกจิ กรรม 2. การพมิ พจ์ ากใบไม้ ออกเปน็ 4 กล่มุ กลุม่ ละ เทา่ ๆ กัน 3.ใบไม้ ขนาดเสน้ ผา่ น
ของตนเอง - กลุม่ ท่ี 1 การเป่าสี 4. เชือก ศูนยก์ ลาง 1 ซม.ได้
3. สน ใจมีความสขุ แ ล ะ ศิลปะ ตา่ ง ๆ 3. การร้อยลกู ปดั - กล่มุ ที่ 2 การพิมพจ์ ากใบไม้ 5. ลูกปัด 2. การแสดงความ
แสดงออกผ่านงานศิลปะได้ - กลุ่มท่ี 3 และ 4 การร้อยลกู ปัด 6.ผา้ กันเปอื้ น พอใจในผลงาน ของ
4. สร้างผลงานศลิ ปะ เพ่ือสื่อสาร 3. การสร้างสรรคส์ ่ิง 2. ครอู ธบิ ายวธิ ีการใช้อุปกรณ์พร้อมสาธติ ตนเอง
ความคดิ ความรสู้ ึก ของตนเอง วิธกี ารทำใหเ้ ดก็ ดู 3. การสน ใจมคี วามสขุ
โดยมีการดัดแปลง และแปลกใหม่ สวยงาม 3. เด็กแตล่ ะกลุ่มเขา้ กลมุ่ ปฏิบัติกจิ กรรม แ ล ะ แสดงออกผ่าน
จากเดมิ หรือมีรายละเอยี ดเพ่ิมขนึ้ โดยหมนุ เวยี นและเลอื กทำกิจกรรมอย่าง งานศลิ ปะได้
5.เกบ็ ของเล่นของใช้ เข้าท่ีด้วย 4. การทำงานศิลปะ นอ้ ย 2 กิจกรรม 4. การสรา้ งผลงาน
ตนเอง 4. ครคู อยดูแลเด็กขณะปฏบิ ัติกิจกรรม ศิลปะ เพ่ือสอ่ื สาร
5. การปฏบิ ัติตนเปน็ 5. เด็กแตล่ ะกลุ่มช่วยกันเก็บอปุ กรณ์เมื่อ ความคดิ ความรู้สึกของ
ทำกจิ กรรมเสรจ็ แล้ว ตนเองได้
สมาชิกท่ีดขี อง 5. การเก็บของเลน่ ของ
ใชเ้ ข้าทด่ี ้วยตนเอง
ห้องเรยี น6. การให้
ความร่วมมือใน การ
ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตา่ ง
ๆ
กิจกรรม สาระการเรียนรู้ กจิ กรรม สอ่ื การประเมนิ ผล
ประสบการณ์สำคญั สาระทคี่ วรเรียนรู้
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
กิจกรรมเสรี 1. การเลน่ เคร่อื งเลน่ เราตดั สนิ ใจเลอื กเล่น ข้นั ตอนดำเนินกจิ กรรม ของเลน่ และอุปกรณ์ สงั เกตพฤติกรรม
1. ขออนุญาตหรอื รอคอยเม่ือ
ตอ้ งการสิ่งของของผอู้ ่ืนเม่อื มีผู้ สัมผสั และการสร้าง ตามมุม ได้ดว้ ย 1. เดก็ เลือกเล่นตามมมุ ประสบการณต์ ่าง ตามประสบการณ์ 1. การขออนญุ าตหรือ
ช้แี นะ
2. เลน่ หรอื ทำงานรว่ มกบั เพื่อน แท่ง ตนเอง เม่ือเลน่ เสรจ็ ๆ ตาม ความต้องการของแต่ละคน โดยครู ตา่ ง ๆ ในหอ้ งเรยี น รอคอยเม่ือตอ้ งการ
เปน็ กลุ่ม
3. ฟังผู้อ่นื พูดจนจบและสนทนา ไม้บลอ็ ก ควรเกบ็ ของเลน่ เขา้ ที่ สังเกต พฤติกรรมของเดก็ อยู่ห่างๆ และ ส่ิงของของผู้อ่นื เม่ือมผี ู้
โต้ตอบสอดคล้องกับเรอื งทีฟ่ ัง
4. เก็บของเลน่ ของใชเ้ ข้าท่ีด้วย 2. การเล่นอิสระ คอยดแู ลเมื่อเกิด ปัญหาท่เี ดก็ ไม่สามารถ ชแี้ นะ
ตนเอง
3. การเลน่ ตามมมุ แก้เองได้ 2. การเลน่ หรอื ทำงาน
ประสบการณ์ 2. ครดู แู ลให้เด็กจดั เกบ็ ของเล่นต่าง ๆ เข้า ร่วมกับเพ่ือนเปน็ กลุ่ม
4. การเล่นบทบาท ท่ีให้ เรียบรอ้ ยหลังจากเลน่ เสร็จแล้ว 3. การฟงั ผอู้ น่ื พูดจนจบ
สมมติ และสนทนาโต้ตอบ
5. การเลน่ และ สอดคลอ้ งกับเรืองที่ฟัง
ทำงานรว่ มกับผู้อื่น 4. การเกบ็ ของเล่นของ
6.การพูดอยา่ ง ใช้เขา้ ทดี่ ว้ ยตนเอง
สรา้ งสรรคใ์ นการเล่น
และการกระทำต่าง
ๆ
7. การเลน่ รายบุคคล
กลุม่ ยอ่ ย กลุ่มใหญ่
กิจกรรม สาระการเรียนรู้ กจิ กรรม สอ่ื การประเมินผล
ประสบการณ์สำคัญ สาระท่คี วรเรียนรู้
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สังเกตพฤตกิ รรม
กจิ กรรมกลางแจง้ 1.การเคลอ่ื นไหวท่ใี ช้ 1. เกมผีเส้อื สง่ ขั้นตอนดำเนินกิจกรรม 1.จาน 1. เลน่ และทำกิจกรรม
1. เล่นและทำกิจกรรมอย่าง การประสานสัมพนั ธ์ อาหาร 1. เด็กอบอ่นุ ร่างกายดว้ ยการสะบดั มือ 2.แป้ง อยา่ งปลอดภัยดว้ ย
ปลอดภยั ด้วยตนเอง ของการใช้กลา้ มเนื้อ 2. การเลน่ เครื่องเลน่ เท้า ย่อตัว ยืดตวั 3.เคร่ืองเลน่ สนาม ตนเอง
2. เล่นหรอื ทำงานรว่ มกับเพื่อน ใหญ่ ในการขว้าง สนาม 2.ครอู ธิบายเกมผเี ส้อื ส่งอาหารใหเ้ ด็กฟัง 2. เล่นหรอื ทำงาน
เป็นกลมุ่ การจับ การโยน การ คือ ครูแบ่งเดก็ ออกเปน็ 4 กลมุ่ กลุม่ ละ ร่วมกบั เพ่ือนเป็นกลุ่ม
3. มีสว่ นร่วมสร้าง ข้อตกลงและ เตะ เทา่ ๆ กัน แต่ละกลุม่ ยืนกันเป็นแถวตอน 3. มีสว่ นร่วมสร้าง
ปฏบิ ัติตามข้อตกลงเม่อื มผี ้ชู แ้ี นะ 2. การเล่นเครอ่ื งเล่น จากนนั้ ให้สง่ อาหารของผีเสอ้ื ใหเ้ พอ่ื นใน ข้อตกลงและปฏิบัติตาม
สนาม อย่างอสิ ระ แถวตนเองไปเรื่อย ๆ จนถงึ คนสดุ ทา้ ย ขอ้ ตกลงเม่ือมีผูช้ ้ีแนะ
3. การเล่นเครื่องเล่น 3. ครูทบทวนวิธกี ารเล่นเครอ่ื งเล่นสนาม
อยา่ ง ปลอดภยั อย่างถูก วธิ แี ละปลอดภัย
4. การเล่นรายบคุ คล 4. เดก็ เลอื กเลน่ เครอื่ งเล่นสนามอย่าง
กลุ่ม ย่อย กล่มุ ใหญ่ อิสระ โดยครู คอยอำนวยความสะดวก
5. การเลน่ นอก และดแู ลให้เด็กเลน่ อย่าง ถกู วิธแี ละ
ห้องเรยี น ปลอดภัย
6. การเล่นและ 5. ครคู อยใหส้ ัญญาณหยุด เพ่ือพาเด็กไป
ทำงาน ร่วมกับผู้อืน่ ทำความสะอาดรา่ งกาย
7. การฟังและปฏิบัติ
ตาม คำแนะนำ
กิจกรรม สาระการเรียนรู้
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ประสบการณส์ ำคัญ สาระทีค่ วรเรยี นรู้ กิจกรรม สอ่ื การประเมนิ ผล
กิจกรรมเกมการศกึ ษา 1. การเล่นรายบุคคล 1. ภาพตดั ต่ออาหาร ขั้นตอนดำเนนิ กจิ กรรม 1.เกมภาพตัดตอ่ สงั เกตพฤตกิ รรม
1. การเก็บของเล่นของ
1. เกบ็ ของเล่นของใช้เข้าท่ีด้วย กล่มุ ย่อย กลุ่มใหญ่ ของผเี ส้อื 1. ครแู นะนำวธิ ีเลน่ และสาธติ การเล่นเกม อาหารของผีเสื้อ ใช้เข้าท่ดี ว้ ยตนเอง
2.การเล่นหรอื ทำงาน
ตนเอง 2. การปฏบิ ตั ิ 2. เกมจดั หมวดหมู่ และ แนะนำการเกบ็ เกมเขา้ ที่ 2.จัดหมวดหมู่ รว่ มกบั เพ่ือนเป็นกลุ่ม
3.การกระตือรือรน้ ใน
2.เล่นหรือทำงานรว่ มกับเพื่อนเปน็ กิจกรรมต่าง ๆ ตาม อาหารของผีเสื้อ 2. แบ่งเดก็ ออกเปน็ 4 กลมุ่ กลุ่มละเท่า ๆ อาหารของผีเส้อื การเขา้ รว่ มกิจกรรม
กลุม่ ความสามารถของ กนั โดยท่ี
3.กระตือรอื รน้ ในการเข้าร่วม ตนเอง กลมุ่ ที่ 1 และ 2 เล่นเกมภาพตัดตอ่ อาหาร
กิจกรรม 3.การคัดแยก การ ของผเี สื้อ
จัดกล่มุ และการ กลุ่ม ท่ี 3 และ 4 เล่นเกมจดั หมวดหมู่
จำแนกสิ่งต่างๆ ตาม อาหารของผเี สื้อ
ลกั ษณะและรปู ร่าง 3. เดก็ หมุนเวียนผลดั เปลี่ยนกันเล่นเกม
รูปทรง โดย สลับกันเลน่ จนครบทกุ เกม
4. การปฏิบตั ติ นเปน็ 4. ครูคอยช่วยเหลือและแนะนำเด็กใน
สมาชิกท่ดี ีของ ขณะทีเ่ ด็ก เลน่ เกม
ห้องเรยี น 5. ครูใหส้ ัญญาณหมดเวลา และแนะนำให้
5. การต่อของช้นิ เลก็ เด็กเก็บ เกมทเี่ ล่นเข้าท่ใี ห้เรยี บร้อย
เตมิ ในช้นิ ใหญ่ให้
สมบูรณ์และแยก
ชิน้ ส่วน