๔๒
ตารางที่ ๔.๒ ผลการวิเคราะห์ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรายวิชา เศรษฐศาสตร์ โดยการ
จัดการเรยี นรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๑ โรงเรียนบ้านบึงเนียมบึงใคร่
นุน่ ท่าหนิ ตาบลบึงเนยี ม อาเภอเมอื งขอนแกน่ จังหวดั ขอนแก่น (ตอ่ )
เลขท่ี กอ่ นเรยี น (๓๐) หลังเรยี น (๓๐)
๑๘ ๘ ๒๒
๑๙ ๙ ๒๐
๒๐ ๙ ๒๒
๒๑ ๑๐ ๒๓
๒๒ ๑๐ ๒๔
๒๓ ๙ ๒๗
๒๔ ๙ ๒๖
รวม ๒๒๙ ๕๗๔
๙.๐๕
x ๓๑.๐๘ ๗๙.๐๗
๑.๕๖ ๒.๐๒
รอ้ ยละ ๑.๕๖
S.D. -
T ๗ ๒๐
คะแนนตา่ สดุ ๑๔ ๒๗
คะแนนสูงสุด
จากตารางท่ี ๔.๒ พบว่า ผลการวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชา เศรษฐศาสตร์
โดยให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียนแบบปรนัย จานวน ๓๐ ข้อ โดยนักเรียนทา
แบบทดสอบก่อนเรียนได้คะแนนรวม ๒๒๙ คะแนน คิดเป็นร้อยละ ๓๑.๐๘ ของคะแนนรวม ( x =
๙.๐๕,S.D.=๑.๕๖) คะแนนตา่ สดุ ๘ และคะแนนสูงสุดคือ ๑๔ และนักเรียนทาการทดสอบแบบหลัง
เรียนไดค้ ะแนนรวม ๕๗๔ คดิ เป็นร้อยละ ๗๙.๐๗ ของคะแนนรวม ( x =๒๓.๙๒,S.D.=๒.๐๒) คะแนน
ต่าสดุ คือ ๒๐ และคะแนนสงู สุดคอื ๒๗
๔๓
๔.๓ ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อน-หลังเรียน รายวิชา เศรษฐศาสตร์ เรื่อง
เศรษฐกิจพอเพียง โดยการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี
๑ โรงเรยี นบา้ นบึงเนียมบงึ ใคร่นนุ่ ทา่ หิน ตาบลบงึ เนยี ม อาเภอเมืองขอนแก่น จงั หวัดขอนแก่น
ตารางที่ ๔.๓ ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อน-หลังเรียน รายวิชา
เศรษฐศาสตร์ เรอ่ื ง เศรษฐกิจพอเพียง โดยการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านบึงเนียมบึงใคร่นุ่นท่าหิน ตาบลบึงเนียม อาเภอเมืองขอนแก่น
จังหวดั ขอนแกน่
การทดสอบ คา่ สถติ ิ
N คะแนนเต็ม(๓๐) x SD รอ้ ยละ t P
ก่อนเรียน ๒๔ ๓๐ ๙.๐๕ ๑.๕๖ ๓๑.๐๘ ๑.๕๖ ๐.๐๐
หลังเรียน ๒๔ ๓๐ ๒๓.๙๒ ๒.๐๒ ๗๙.๐๗
**มีนยั สาคัญทางสตทิ ่รี ะดับ ๐.๐๐
จากตารางที่ ๔.๓ จากการเปรยี บเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นก่อนเรียน-หลังเรียน โดยการ
จัดการเรียนรู้แบบหอ้ งเรียนกลับดา้ น รายวชิ า เศรษฐศาสตร์ เร่ือง เศรษฐกิจพอเพียง ของนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีท่ี ๑ โรงเรียนบ้านบึงเนียมบึงใคร่นุ่นท่าหิน ตาบลบึงเนียม อาเภอเมืองขอนแก่น
จังหวัดขอนแก่น คะแนนก่อนเรียน-หลังเรียน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ ๐.๐๐ โดยมีคะแนน
เฉลย่ี หลังเรียน ( x =๒๓.๙๒,S.D.=๒.๐๒) คิดเป็นร้อยละ ๗๙.๐๗ สูงกว่าก่อนเรียน ( x =๙.๐๕,S.D.=
๑.๕๖) คดิ เป็นร้อยละ ๓๑.๐๘
๔.๔ องคค์ วามรู้ท่ไี ดร้ บั จากการวจิ ยั
จากการศึกษา เร่ือง เศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน มี
ความเหมาะสมในระดับดีมาก เน่ืองจากนักเรียนได้มีโอกาส ทบทวนความรู้และประสบการณ์เดิม มี
ส่วนร่วมในการปฏิบัติกิจกรรมจัดให้มีวิธีการประเมินผลท่ีหลากหลายโดยเปิดโอกาสให้ นักเรียนได้มี
ส่วนร่วมในการประเมินผล และนักเรียนมีโอกาสนาผลการประเมินมาปรับปรุงและพัฒนาการเรียน
การสอนของตนเอง นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นความสนใจให้แก่ผู้เรียนให้เกิดความสนุกในการจัดการ
เรียนรู้โดยใช้ห้องเรียนกลับด้าน นักเรียน เรียนรู้อย่างมีความสุข มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการ
สอนแบบห้องเรยี นกลับดา้ นมากขน้ึ นอกจากนี้กิจกรรมสว่ นมากจะเนน้ กระบวนการทางาน นักเรียนมี
โอกาสได้แสดงความคดิ เห็น มีความกระตอื รือรน้ ในการเรียนโดยใช้ห้องเรียนกลับด้าน ทาให้นักเรียน
สามารถทางานได้อย่างมีระบบ ความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจาวันช่วยเหลือครอบครัวได้ นอกจากน้ี
การทผ่ี ูเ้ รยี นได้เรยี นรูช้ วี ติ จรงิ ตามสภาพเศรษฐกิจ สังคมของ ทอ้ งถิ่นของตนนัน้ จะทาให้ผู้เรียนมีความ
๔๔
รักและความผูกพันและภูมิใจในท้องถ่ินของตนเอง อีกท้ังการเรียน รายวิชาเศรษฐศาสตร์ เรื่อง
เศรษฐกจิ พอเพียง โดยใชก้ ารจดั การเรยี นรแู้ บบห้องเรียนกลบั ด้าน ของนกั เรียนชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๑
ผู้วิจัยสร้างข้ึนนั้นจะช่วยกระตุ้นความ สนใจให้แก่ผู้เรียนให้เกิดความสนุกในการจัดการ
เรยี นรู้โดยใช้หอ้ งเรียนกลบั ด้าน บรรยากาศในการเรียนเป็นไปอย่างสนุกสนาน นักเรียนเรียนรู้อย่างมี
ความสุข มสี ่วนร่วมในกจิ กรรมการเรียนการสอนมากขึ้น นอกจากนี้ผู้ศึกษายังส่งเสริมให้ผู้เรียนกล้าที่
จะแสดงความคิดเห็นและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืนส่งผลให้ผู้เรียนสามารถนาความรู้ที่ ได้ไปใช้
ในชีวิตประจาวันได้ พบ ว่าผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนหลังจากใช้การสอนแบบย้อนกลับร่วมกับห้องเรียน
กลับด้านของนักเรียนสูงขึ้นอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ เนื่องจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดย
ใช้การจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านส่งผลให้นักเรียนมีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลัง
เรยี นสงู กว่าคะแนนก่อนเรยี น
๔๔
บทที่ ๕
สรุปผล อภิปรายผลการวิจัย และขอ้ เสนอแนะ
การศกึ ษาวิจัยเรื่อง การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาเศรษฐศาสตร์ เรื่อง
เศรษฐกจิ พอเพียง โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๑
โรงเรียนบา้ นบึงเนียมบึงใคร่นนุ่ ทา่ หิน ตาบลบงึ เนยี ม อาเภอเมอื งขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น เป็นการ
วิจัยเชิงทดลอง มีวัตถุประสงค์ เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรายวิชาเศรษฐศาสตร์ เรื่อง
เศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑
โรงเรียนบ้านบึงเนียมบึงใคร่นุ่นท่าหิน ตาบลบึงเนียม อาเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
ผลการวิจัยท่ีได้ นาไปสู่การสรุปผลวิจัย การอภิปรายการวิจัยและข้อเสนอแนะ ท่ีได้จากการวิจัย มี
รายละเอียดดังน้ี
๕.๑ สรปุ ผลการวิจยั
๕.๑.๑ ผลการวิเคราะห์ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน รายวิชาเศรษฐศาสตร์ เร่ือง เศรษฐกิจ
พอเพยี ง โดยใช้การจดั การเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียน
บ้านบึงเนียมบึงใคร่นุ่นท่าหิน ตาบลบึงเนียม อาเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น พบว่า ผลการ
วิเคราะห์ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรายวิชา เศรษฐศาสตร์ โดยให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน-
หลังเรียนแบบปรนัย จานวน ๓๐ ข้อ โดยนักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนได้คะแนนรวม ๒๒๙
คะแนน คิดเป็นร้อยละ ๓๑.๐๘ ของคะแนนรวม ( x =๙.๐๕,S.D.=๑.๕๖) คะแนนต่าสุด ๘ และ
คะแนนสูงสุดคือ ๑๔ และนักเรียนทาการทดสอบแบบหลังเรียนได้คะแนนรวม ๕๗๔ คิดเป็นร้อยละ
๗๙.๐๗ ของคะแนนรวม ( x =๒๓.๙๒,S.D.=๒.๐๒) คะแนนต่าสุดคือ ๒๐ และคะแนนสงู สุดคอื ๒๗
๕.๑.๒ ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อน-หลังเรียน รายวิชา เศรษฐศาสตร์
เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๑ พบว่า การจัดการเรียนรู้โดยใช้ห้องเรียน
กลับด้าน รายวิชาเศรษฐศาสตร์ เร่ือง เศรษฐกิจพอเพียง คะแนนก่อน-หลังเรียน ของนักเรียนช้ัน
มัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านบึงเนียมบึงใคร่นุ่นท่าหิน ตาบลบึงเนียม อาเภอเมืองขอนแก่น
จังหวดั ขอนแก่น โดยคา่ เฉลี่ยก่อนเรียน และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน ( x =๙.๐๕,S.D.=๑.๕๖) คิดเป็น
ร้อยละ ๓๑.๐๘ และมีค่าเฉลี่ยหลังเรียน ( x =๒๓.๙๒,S.D.=๒.๐๒) คิดเป็นร้อยละ ๗๙.๐๗ ส่งผลให้
นกั เรยี นมีผลสัมฤทธิท์ างการเรียนท่สี ูงขนึ้
๔๕
๕.๒ อภิปรายผลการวจิ ัย
ผลการวเิ คราะห์ผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน รายวชิ าเศรษฐศาสตร์ เร่อื ง เศรษฐกิจพอเพียง โดย
ใชก้ ารจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๑ โรงเรียนบ้านบึงเนียม
บึงใครน่ ุ่นท่าหนิ ตาบลบึงเนียม อาเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ซ่ึงสอดคล้องกับงานวิจัยของ
ชลยา เมาะราศี (๒๕๕๑,๒๑)๓๙ พบว่า ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหลังจากใช้การสอนแบบย้อนกลับ
ร่วมกับห้องเรียนกลับด้านของนักเรียนสูงขึ้นอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ เนื่องจากการจัดกิจกรรมการ
เรียนการสอนโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านส่งผลให้นักเรียนมีคะแนนผลสัมฤทธิ์
ทางการเรยี นหลงั เรียนสงู กวา่ คะแนนกอ่ นเรียนอยา่ งมนี ยั สาคัญทางสถิติท่รี ะดับ ๐.๐๕
การเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อนเรียน-หลังเรียน โดยการจัดการเรียนรู้แบบ
ห้องเรียนกลบั ด้าน รายวิชา เศรษฐศาสตร์ เร่ือง เศรษฐกิจพอเพียง ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๑
โรงเรียนบ้านบงึ เนียมบึงใคร่นนุ่ ท่าหนิ ตาบลบึงเนียม อาเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น คะแนน
ก่อนเรียน-หลังเรียน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ ๐.๐๐ โดยมีคะแนนเฉล่ียหลังเรียน( x =
๒๓.๙๒,S.D.=๒.๐๒) คิดเป็นร้อยละ ๗๙.๐๗ สูงกว่าก่อนเรียน ( x =๙.๐๕,S.D.=๑.๕๖) คิดเป็นร้อย
ละ ๓๑.๐๘ ส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ดี นอกจากนี้กิจกรรมการเรียนการสอนและ
การทดสอบย่อยทาให้ผู้ศึกษาได้ทราบถึงว่านักเรียนแต่ละคนไม่เข้าใจในเร่ืองใดได้ปรับปรุง และ
พัฒนาเสริมความรู้และความสามารถให้แก่นักเรียนในระหว่างเรียนอย่างสม่าเสมอ ทาให้นักเรียนมี
โอกาสนาผลการประเมิน มาปรับปรุงและพัฒนาการเรียนการสอนของตนเอง ซึ่งการวัดและ
ประเมินผลท่มี ปี ระสทิ ธิภาพน้ที าให้คะแนนผลสมั ฤทธิ์ของนกั เรียนบ่งบอกถึงสภาพความเป็นจริง และ
ทาให้นักเรยี นมผี ลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนท่ีดีข้ึนอย่างมีนัยสาคัญ นอกจากน้ีผู้ศึกษายังส่งเสริมให้ผู้เรียน
กล้าทจ่ี ะแสดงความคิดเหน็ และยอมรับฟงั ความคิดเห็นของผู้อื่นส่งผลให้ผู้เรียนสามารถนาความรู้ท่ีได้
ไปใช้ในชีวิตประจาวันได้ซ่ึงสอดคล้องกับงานวิจัยของ จิรัชญา ทิขัตติ (๒๕๕๐,๒๒)๔๐. พบว่า การ
เปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนและความรับผิดชอบ. ทางการเรียน วิชาภาษาไทยที่ได้รับการสอนแบบ
ร่วมมือ แบบ เอส ทีเอ ดี
๓๙ ชลยา เมาะราศี, ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังจากใช้การสอนแบบย้อนกลับร่วมกบั ห้องเรยี นกลับ
ดา้ นของนกั เรียนสงู ขน้ึ อย่างมนี ัยสาคญั ทางสถิติ.(วทิ ยานิพนธ์ปริญญามหาบณั ฑติ , มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีพระ
จอมเกลา้ ธนบรุ ี, ๒๕๕๖) , หน้า ๒๑.
๔๐ จิรัชญา ทิขัตติ, การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความรับผิดชอบ, ทางการเรียน วิชา
ภาษาไทยท่ีได้รับการสอนแบบร่วมมือ แบบ (STAD) กับการสอนแบบปกติ ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๓
โรงเรยี นอัสสัมชัญธนบรุ ี, (สารนิพนธ์ปริญญา มหาบัณฑติ , มหาวทิ ยาลัยศรนี ครินทรวิโรฒ, ๒๕๕๐), หน้า ๒๒.
๔๖
๕.๓ ข้อเสนอแนะจากการวจิ ยั
๕.๓.๑ ข้อเสนอแนะสาหรบั งานวจิ ัยไปใช้
๑. การจัดการเรียนรแู้ บบห้องเรียนกลบั ด้าน ครผู ูส้ อนจะต้องสร้างความเข้าใจ ในการ
ใช้งานสอ่ื ออนไลน์ให้ชัดเจน และทาความเข้าใจกับการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน ให้มาก
ที่สุด เพ่ือให้เกิดความเข้าใจและวางแผนการจัดการเรียนรู้ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม รวมทั้ง การ
เตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนก่อนการใช้การจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน ทั้งด้านการ
เข้าถงึ สอื่ การเรยี นรู้ ด้านความพรอ้ มของอุปกรณแ์ ละเทคโนโลยีทั้งท่ีบ้านของนักเรยี นและที่โรงเรยี น
๒.จากการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน พบว่า เวลาเรียนในชั้นเรียนน้ันเพ่ิม
มากข้ึน ลดขั้นตอนการใช้เวลาในการสอนเน้ือหามาเป็นการสรุปความรู้ และการทากิจกรรมร่วมกัน
ในชัน้ เรยี น ซึ่งทาให้นักเรยี นได้มีสว่ นร่วมและลงมอื ปฏิบัติจริง ครูควรเพ่ิมเอกสารเนื้อหาสาระ ใบงาน
หรือใบความรู้เพ่มิ เติมข้นึ ใหก้ บนกั เรยี น เพื่อให้เปน็ กิจกรรมตอ่ เน่ืองภายในชัน้ เรยี นได้
๕.๓.๒ ข้อเสนอแนะสาหรบั งานวจิ ยั ครัง้ ตอ่ ไป
๑.ศกึ ษาปจั จยั ท่ีสง่ ผลตอ่ ประสทิ ธิภาพของการจดั การเรยี นรแู้ บบห้องเรียน กลบั ด้าน
๒.ศึกษาผลการจดั การเรยี นร้แู บบหอ้ งเรียนกลับด้านในรายวิชาอืน่
๓.ควรมีการจัดอบรมความรู้ในการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน ผ่าน
กระบวนการ PLC ให้กับครูในกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อืน่ ในสถานศึกษาและภายนอกสถานศึกษาต่อไป
๔๗
บรรณานุกรม
กรมวิชาการ,กระทรวงศึกษาธิการ. หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐานพุทธศกั ราช ๒๕๕๑
(พิมพค์ รัง้ ท่ี ๓). กรุงเทพฯ: ครุ ุสภา ลาดพรา้ ว, ๒๕๕๑.
กระทรวงศกึ ษาธิการ. หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (พมิ พค์ ร้ังที่ ๓).
กรงุ เทพฯ: ชุมนมุ สหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย, ๒๕๕๓.
ขณษิ ฐา บุญภักด,ี การศกึ ษาปัจจัยทม่ี ีผลต่อผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนของนักศกึ ษาระดบั ปริญญา
ตรีคณะครุศาสตร์อตุ สาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยพี ระจอมเกล้า
ธนบุรี, วิทยานพิ นธป์ รญิ ญามหาบณั ฑิต, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกลา้ ธนบุรี,
๒๕๕๒.
ฆนทั ธาตทุ อง. การออกแบบการสอนแบบยอ้ นกลบั (พมิ พ์คร้ังที่ ๔). นครปฐม: เพชรเกษม.การ
พิมพ,์ ๒๕๕๒.
จนั ทวรรณ ปยิ ะวฒั น์. โมเดลต้นแบบทดลองทาหอ้ งเรยี นกลับทาง (Flipped Classroom). สืบค้น
จาก www.gotoknow.org/post/๕๓๑๕๒๐, ๒๕๕๘
ชนาธปิ พรกุล. การออกแบบการสอน การบรู ณาการการอา่ น การคิดวิเคราะห์ และการเขยี น
(พมิ พ์คร้งั ท่ี ๒). กรงุ เทพฯ: จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั , ๒๕๕๒.
ชนาธิป พรกุล, การสอนกระบวนการคดิ ทฤษฎแี ละการนาไปใช้ (พิมพค์ รง้ั ท่ี ๓), กรงุ เทพฯ:
จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย, ๒๕๕๗.
ดารานี อุดชา. การศกึ ษาความสามารถในการคิดวิเคราะห์และผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นของ
นักเรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาปี ท่ี ๒ หน่วยการเรียนรู้เร่ือง อยอู่ ยา่ งพอเพียง ในรายวชิ า
เศรษฐกิจพอเพียงโดยใช้การสอนแบบโครงงานรว่ มกบั รปู แบบวัฎจักรการสบื เสาะหา
ความรู้ (๕Es). วทิ ยานพิ นธ์ปริญญามหาบัณฑิต. มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ , ๒๕๕๕.
ทวีป อภิสทิ ธิ์, การสร้างสมรรถภาพวชิ าชีพครูโดยใชก้ จิ กรรเป็นสอ่ื . กรงุ เทพฯ:
จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลยั , ๒๕๕๑.
_______. ศาสตร์การสอนองคค์ วามรเู้ พอื่ การจัดกระบวนการเรยี นรูท้ มี่ ปี ระสิทธิภาพ
(พมิ พ์ครั้งที่ ๒). กรงุ เทพฯ: จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย. ๒๕๔๕.
_______. ศาสตร์การสอนองค์ความรู้เพือ่ การจัดกระบวนการเรยี นรู้ (พิมพ์คร้ังที่ ๑๓). กรุงเทพฯ:
จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั , ๒๕๕๓.
_______. รปู แบบการเรยี นการสอน ทางเลอื กท่ีหลากหลาย. กรงุ เทพฯ: แอคทีฟ พร้ิน,(๒๕๕๔)
บญุ ชม ศรีสะอาด. การวิจัยเบ้อื งต้น (พิมพ์ครัง้ ที่ ๙). กรุงเทพฯ: สุรีวิยาสาส์. ๒๕๕๖.
๔๘
บรรณานกุ รม (ต่อ)
ปฐมชยั ทองสุนทร. การใช้เรียนการสอนแบบ Flipped Classroom เพื่อย่นระยะเวลาในการ
เรียนรู้ของผเู้ รยี น (รายงานการวจิ ยั ในชน้ั เรยี น). กรงุ เทพฯ: โรงเรียนอสั สัมชญั ธนบรุ ี,
๒๕๕๗.
ปราณี กองจนิ ดา. การเปรียบเทยี บผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนคณติ ศาสตร์และทกั ษะการ คิดเลข ใน
ใจของนักเรยี นทีไ่ ด้รับการสอนตามรปู แบบซปิ ปา โดยใช้แบบฝึกหัดทเ่ี นน้ ทักษะการ
คิดเลขในใจกับนักเรยี นท่ีไดร้ บั การสอนโดยใช้คู่มอื ครู. วทิ ยานพิ นธ์ปริญญามหาบณั ฑิต
, มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พระนครศรีอยธุ ยา, ๒๕๔๙.
ปางลีลา บรู พาพิชติ ภัย. The Flipped Classroom กบั การจดั การเรยี นการสอนในประเทศไทย.
กรุงเทพฯ: มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์, ๒๕๕๘.
พวงรัตน์ ทวรี ัตน์.วิธีการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสงั คมศาสตร์. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัย
ศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร, ๒๕๔๓.
พชิ ติ ฤทธจิ์ รญู . การวิจยั เพ่ือพฒั นาการเรยี นรู้ : ปฏบิ ตั ิการวิจยั ในชั้นเรียน (พมิ พค์ รัง้ ท่ี ๓).
กรงุ เทพฯ: มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร, ๒๕๔๕.
พมิ พป์ ระภา พาลพาย. การใช้ส่ือสงั คมตามแนวคดิ หอ้ งเรยี นกลบั ดา้ น เรือ่ ง ภาษาเพือ่ การส่ือสาร
เพ่อื สง่ เสรมิ ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นของนักเรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖.
(วทิ ยานพิ นธป์ ริญญามหาบณั ฑติ , มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร)์ , ๒๕๕๗.
พมิ พป์ ระภา อรัญมิตร. ปจั จยั ท่ีมีผลตอ่ ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนภาษาไทยของนกั เรยี นชัน้
ประถมศึกษาปีท่ี ๖ สานกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษาเลย เขต ๓ โดยการวเิ คราะห์พหุ
ระดบั . วทิ ยานพิ นธ์ปริญญามหาบัณฑติ . มหาวทิ ยาลัยราชภัฏเลย, ๒๕๕๒.
พิมพนั ธ์ เตชะคุปต์. การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรยี นเป็นศูนยก์ ลาง. กรุงเทพฯ: เดอะมาสเตอร์ กร๊ปุ
แมเนจเมน็ ท,์ ๒๕๔๘
พมิ พนั ธ์ เดชะคุปต์ และ พเยาว์ ยินดสี ขุ . การจดั การเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ (พมิ พค์ รั้งท่ี ๒).
กรุงเทพฯ: จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , ๒๕๕๘.
ภพ เลาหไพบลู ย์. แนวการสอนวทิ ยาศาสตร์. กรุงเทพฯ: จฬุ าลงกรณ์ มหาวิทยาลัย, ๒๕๔๒.
เยาวดี รางชยั กลุ วิบูลย์ศรี. การวัดผลและการสรา้ งแบบสอบผลสัมฤทธิ์. กรุงเทพฯ: จฬุ าลงกรณ์
มหาวทิ ยาลยั , ๒๕๕๔.
๔๙
บรรณานุกรม (ตอ่ )
วนั เฉลิม อดุ มทวี. การพฒั นาความสามารถการคิดเชงิ บรู ณาการและผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น ของ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑ และ ๒ ภมู ศิ าสตรท์ วปี อเมรกิ า
เหนือ และใต้ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน ( Problem-Based
Learning) รว่ มกับเทคนิคหอ้ งเรยี นกลับทาง (Flipped Classroom).
วทิ ยานพิ นธ์ปริญญามหาบัณฑติ , มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ , ๒๕๕๖.
วจิ ารณ์ พานชิ . ครเู พื่อศษิ ยส์ รา้ งห้องเรียนกลบั ทาง (พมิ พ์ครัง้ ที่ ๒). กรงุ เทพฯ: เอส.อาร์, พรนิ้ ต้ิง
แมสโปรดกั ส์, ๒๕๕๖.
ศศริ ินทร์ ธารพระจนั ทร์. ผลการใช้แนวทางการดาเนินการพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น
ตามรูปแบบการจดั การเรียนรู้โดยบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง กลุ่ม
สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรยี นชั้นประถมศึกษาปที ี่
๖ (รายงานการวจิ ยั ในช้ันเรยี น). นครศรธี รรมราช: โรงเรยี นเทศบาลวดั เสมาเมือง.
๒๕๕๗.
ศิริลักษณ์ คลองข่อย. การพฒั นาการ์ตนู แอนิเมช่ัน เรือ่ ง อยู่อย่างพอเพยี งสาหรบั เด็กปฐมวัย.
วิทยานิพนธป์ รญิ ญามหาบัณฑิต. มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบรุ ี, ๒๕๕๕.
ศุภพงศ์ คลา้ ยคลึง. การศึกษาผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นวชิ าวิทยาศาสตรแ์ ละทักษะการทดลอง โดย
การใช้ชดุ ปฏบิ ตั ิการทางวทิ ยาศาสตร์. สารนิพนธป์ รญิ ญามหาบณั ฑติ . มหาวิทยาลยั
ศรนี ครนิ ทรวิโรฒ, ๒๕๔๘.
สมพร เชื้อพนั ธ์. การเปรยี บเทยี บผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นคณิตศาสตร์ของ นกั เรยี นชนั้
มัธยมศึกษาปีท่ี ๓ โดยใชว้ ธิ ีการจดั การเรียนการสอนแบบสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง
กับการจดั การเรยี นการสอนตามปกติ. วทิ ยานพิ นธป์ ริญญามหาบณั ฑิต, สถาบันราชภฏั
พระนครศรอี ยุธยา. ๒๕๔๗. สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน. แนวทางการ
จดั การเรียนการสอนในโรงเรยี นมาตรฐานสากล ฉบับปรับปรุง. กรงุ เทพฯ: ชุมนุม
สหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย, ๒๕๕๕.
สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาแหง่ ชาติ. พระบัญญัตกิ ารศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และท่ี
แก้ไขเพ่มิ เตมิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๔๕, กรุงเทพฯ: พรกิ หวานกราฟฟิค.
๕๐
บรรณานกุ รม (ต่อ)
สุคนธ์ สนิ ธพานนท์. การจดั การเรียนรู้ของครูยุคใหม่เพ่ือพฒั นาทักษะผู้เรยี นในศตวรรษท่ี ๒๑.
กรุงเทพฯ: ๙๑๑๙ เทคนคิ พร้ินตงิ้ , ๒๕๕๘.
สรุ ศกั ดิ์ ปาเฮ. หอ้ งเรยี นกลบั ทาง : หอ้ งเรียนมิตใิ หม่ในศตวรรษท่ี ๒๑, ในเอกสารประกอบการ
ประชมุ ผู้บริหารโรงเรียนในสังกดั สานกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาแพร่
เขต ๒, ๒๕๕๖.
กระทรวงศกึ ษาธิการ. พระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ และแก้ไขเพม่ิ เตมิ
(ฉบับท่ี ๒ ) พ.ศ. ๒๕๔๖. กรงุ เทพฯ: องค์การรบั สง่ สินค้าและพัสดุภณั ฑ์.
จนั ทิมา ปทั มธรรมกุล. การสงั เคราะห์กรอบแนวคดิ การเรียนรู้ในหอ้ งเรยี นกลับทางร่วมกบั
เทคโนโลยกี ารเรยี นรู้ แบบภควันตภาพโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบรว่ มมือผ่าน
เครือข่าย อนิ เทอร์เน็ต. ดุษฎีนพิ นธ์ปรญิ ญาดุษฎีบณั ฑติ , มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีพระ
จอมเกล้า พระนครเหนอื , ๒๕๕๖.
จริ ัชญา ทิขัตต.ิ การเปรียบเทยี บผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นและความรับผดิ ชอบ, ทางการเรียน วิชา
ภาษาไทยที่ได้รบั การสอนแบบร่วมมอื แบบ เอส ทเี อ ดี (STAD) กับการสอนแบบ
ปกติ ของนักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรยี นอัสสัมชัญธนบรุ ี. สารนพิ นธป์ ริญญา
มหาบณั ฑิต, มหาวิทยาลยั ศรนี ครินทรวโิ รฒ, ๒๕๕๐.
ฉนั ท์ทิพย์ ลีลิตธรรม. การสงั เคราะหก์ รอบแนวคดิ การเรยี นรู้ ในห้องเรยี นกลับทางรว่ มกับ
เทคโนโลยกี ารเรยี นรู้แบบภควันตภาพโดยใชร้ ูปแบบการเรยี นรู้ แบบรว่ มมอื ผา่ น
เครอื ข่าย อินเทอรเ์ นต็ . วทิ ยานิพนธ์ปริญญาดษุ ฎีบัณฑิต, มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยพี ระ
จอมเกลา้ พระนครเหนือ, ๒๕๕๖.
ฉนั ทท์ ิพย์ ลลี ิตธรรม. The Flipped Classroom กบั การจัดการเรียนการสอนในประเทศไทย,
กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์, ๒๕๕๗.
น้าทพิ ย์ รวยรนื่ . ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นและทกั ษะการเรยี นรู้กลมุ่ สาระการเรียนรู้, สังคม ศึกษา
ศาสนา และวฒั นธรรม ของนกั เรียนชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ โดยการเรียนแบบสตอรี่
ไลน์”. วทิ ยานิพนธป์ รญิ ญามหาบณั ฑติ . มหาวิทยาลัยราชภฏั พระนคร, ๒๕๔๖.
๕๑
บรรณานกุ รม (ต่อ)
รจนา ป้อมแดง. การศึกษาผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เรือ่ ง
หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ของนักเรียนชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๔ ท่ีได้รบั การ
จัดการเรยี นรู้โดยใชผ้ ังมโนทัศน์ ภาคเรียนที่ ๒ ปี การศึกษา ๒๕๕๖.
(รายงานการวจิ ัยในช้นั เรยี น). จงั หวดั อุบลราชธานี : โรงเรียนอนุบาลนอ้ งหญิง, ๒๕๕๖.
ฐิตมิ น ทองพมิ พ,์ สภาพการใช้ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งในการจดั การเรียนรขู้ องครูวิทยาลัย
เกษตรและเทคโนโลยเี ชียงใหม่. การคน้ ควา้ แบบอสิ ระปรญิ ญามหาบณั ฑิต.
มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่, ๒๕๕๑.
๕๒
ภาคผนวก ก
รายนามผูเ้ ช่ยี วชาญตรวจเคร่อื งมอื วจิ ยั
๕๓
รายนามผ้เู ชยี่ วชาญตรวจเครื่องมือวิจัย
๑. ผู้ช่วยศาสตราจารย์อนุสรณ์ นางทะราช ประธานหลักสตู รครุศาสตร์บัณฑิต
สาขาวชิ า สังคมศึกษา คณะกรรมการ
บริหารศนู ย์ฝึก ประสบการณ์วชิ าชีพครู
มหาวิทยาลัยมหาจฬุ า ลงกรณราช
วิทยาลัย วทิ ยาเขตขอนแก่น
๒. อาจารย์บุญสง่ นาแสวง อาจารย์ประจาหลกั สตู รครุศาสตรบ์ ัณฑติ
สาขาวชิ าสังคมศึกษา มหาวทิ ยาลยั มหา
จุฬา ลงกรณราชวิทยาลัย วทิ ยาเขต
ขอนแกน่
๓.คุณครู ประภาณ กริ ิยะ โรงเรยี นบ้านบึงเนียมบึงใคร่น่นุ ทา่ หิน
ตาบลบงึ เนียม อาเภอเมืองขอนแกน่
จังหวัดขอนแก่น
๕๔
ภาคผนวก ข
ค่าดชั นคี วามสอดคลอ้ งท่ีไดจ้ ากการประเมินแผนการจดั การเรยี นรู้
คา่ ดชั นคี วามสอดคลอ้ งแบบทดสอบเปรยี บเทยี บผลสัมฤทธท์ิ างการเรียน
๕๕
ตารางท่ี ๔.๔ ค่าดัชนีความสอดคล้องที่ได้จากการประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา
เศรษฐศาสตร์ เร่ือง เศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๑ โรงเรียนบ้านบึงเนียมบึงใคร่นุ่นท่าหิน ตาบลบึงเนียม อาเภอเมืองขอนแก่น
จังหวัดขอนแกน่
รายการประเมนิ ค่าความสอดคลอ้ ง IOC แปล
คนท่ี คนท่ี คนที่ ∑R ผล
๑๒๓
๑. แผนการจัดการเรียนรสู้ อดคลอ้ งกับ +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐ ๑.๐๐ ใช้ได้
หน่วยการจัดการเรียนรู้
๒. แผนการจัดการเรยี นรู้มอี งค์ประกอบ +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐ ๑.๐๐ ใชไ้ ด้
สาคญั ครบถว้ น และ เช่อื มโยงสมั พันธ์กัน
๓. ความสอดคลอ้ งของสาระสาคญั กับ +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐ ๑.๐๐ ใช้ได้
มาตรฐานการเรยี นรู้/ ผลการเรยี นรู้/
จุดประสงค์การเรยี นรู้
๔. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้พฒั นาผู้เรียน +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐ ๑.๐๐ ใช้ได้
ครอบคลุมดา้ นความรู้ ดา้ นทักษะ
กระบวนการ และด้านจติ พสิ ัย
๕. จุดประสงคก์ ารเรยี นรมู้ ีความสัมพันธ์ +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐ ๑.๐๐ ใช้ได้
กับเน้ือหา และ กจิ กรรมการเรียนรู้
๖. สาระสาคญั มคี วามสอดคล้องกับหน่วย +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐ ๑.๐๐ ใช้ได้
กาเรียนรู้
๗. สาระสาคญั แสดงความคิดรวบยอดหรอื +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐ ๑.๐๐ ใช้ได้
แกน่ ของเนื้อหา
๘. สาระการเรียนรู้เหมาะสมกับเวลา/ผล +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐ ๑.๐๐ ใช้ได้
การเรยี นรู/้ จุดประสงค์ การเรียนรู้
๙. กจิ กรรมการเรยี นรู้มีข้ันตอน +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐ ๑.๐๐ ใช้ได้
กระบวนการครบถ้วนตามวธิ ีการจดั การ
เรยี นรู้แบบแนวคดิ หอ้ งเรียนกลับด้าน
๕๖
รายการประเมนิ ค่าความสอดคล้อง แปล
คนท่ี คนที่ คนที่ ∑R IOC ผล
๑๐. กิจกรรมการเรียนรสู้ ่งเสริม และ ๑๒๓ ใช้ได้
พฒั นาความสามารถของ ผ้เู รยี นในกา
ศกึ ษาบทเรยี นล่วงหน้าตามแนวคดิ +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐ ๑.๐๐ ใช้ได้
หอ้ งเรียน กลับดา้ น
ใช้ได้
๑๑. กจิ กรรมการเรยี นรสู้ ง่ เสรมิ ใหน้ กั เรียน +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐ ๑.๐๐
มสี ว่ นร่วมในการจดั กิจกรรมตามวธิ กี าร ใชไ้ ด้
จดั การเรียนร้แู บบแนวคดิ ห้องเรียน กลับ
ดา้ น ใช้ได้
๑๒. กจิ กรรมการเรยี นรูห้ ลากหลาย +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐ ๑.๐๐ ใชไ้ ด้
เหมาะสมและสอดคล้องกับ ความสามารถ ใช้ได้
ของผู้เรียนตามวิธกี ารจัดการเรยี นรูแ้ บบ ใชไ้ ด้
แนวคิดห้องเรยี นกลับดา้ น
๑๓. สื่อการเรยี นรู้ วสั ดุ อุปกรณ์ และ +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐ ๑.๐๐
แหล่งเรยี นรู้ มีความ สอดคลอ้ งเหมาะสม
กับจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการ เรียนรู้
และกจิ กรรมการเรียนรู้
๑๔. สื่อการเรยี นรู้ วสั ดุ อปุ กรณ์ และ +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐ ๑.๐๐
แหล่งเรียนรู้ มีความ สอดคลอ้ งเหมาะสม
กับวยั วฒุ ภิ าวะและความสามารถของ
ผเู้ รยี น
๑๕. วธิ กี ารวัดและประเมินผลการเรียน +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐ ๑.๐๐
สอดคล้องกบั มาตรฐาน การเรยี นร/ู้ ผลการ
เรยี นรู/้ จุดประสงค์การเรียนรู้
๑๖. เครอื่ งมือการวดั และการประเมินผล +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐ ๑.๐๐
การเรียนรู้มีความ หลากหลาย
๑๗. เกณฑ์การวัดและประเมินผลชดั เจน +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐ ๑.๐๐
๕๗
ตารางที่ ๔.๕ ค่าดัชนีความสอดคล้องแบบทดสอบเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนกับ
จุดประสงค์การเรียนรู้ รายวิชา เศรษฐศาสตร์ เร่ือง เศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ
ห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๑ โรงเรียนบ้านบึงเนียมบึงใคร่นุ่นท่าหิน ตาบล
บงึ เนียม อาเภอเมอื งขอนแก่น จังหวดั ขอนแก่น
รายการประเมิน ค่าความสอดคล้อง
คนท่ี ๑ คนท่ี ๒ คนที่ ๓ ∑R IOC
๑. ขอ้ ใดคือความหมายของเศรษฐกจิ พอเพียง +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐ ๑.๐๐
ก. การดารงชีวติ อยู่อยา่ งหรหู ราและ
ฟุมเฟอื ย
ข. การดารงชวี ิตโดยสันโดษไม่ยงุ เกย่ี วกบั
ผอู้ ื่น
ค. การดารงชีวติ อย่โู ดยอาศยั เทคโนโลยี
สมัยใหม่
ง. การดารงชวี ติ อยา่ งประหยดั และเลีย้ ง
ตนเองได้
เฉลย ง.
๒. ขอ้ ใดไมใ่ ชห่ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐ ๑.๐๐
ก. การพึง่ ตนเองเป็นสาคัญ
ข. การสรา้ งนสิ ยั นยิ มไทย
ค. การบรกิ ารดนิ และน้าอย่างเหมาะสม
ง. การลงทุนขนาดใหญ่เพ่ือการผลิตสินคา้
เฉลย ง.
๓. สาเหตใุ ดจงึ ต้องมีการประกาศใช้เศรษฐกิจ +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐ ๑.๐๐
พอเพียง
ก. สินค้าเกษตรมรี าคาสงู
ข. เศรษฐกจิ มกี ารขยายตวั สงู ขึ้น
ค. ปรมิ าณสินคา้ ในการบริโภคมากเกนิ ไป
ง. เกิดภาวะขาดแคลนสนิ ค้าอุปโภคบรโิ ภค
เฉลย ก.
๕๘
รายการประเมิน คา่ ความสอดคลอ้ ง
คนที่ ๑ คนท่ี ๒ คนที่ ๓ ∑R IOC
๔. แนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพียงตรงกบั สานวน +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐ ๑.๐๐
ไทยในขอ้ ใด
ก. น้าข้นึ ให้รีบตกั
ข. ตนเป็นท่พี ่ึงแห่งตน
ค. ชา้ ๆ ไดพ้ รา้ สองเล่มงาม
ง. งานหลวงไมใ่ ห้ขาด งานราษฎรไ์ ม่ให้เกนิ
เฉลย ข.
๕. “เมอ่ื จะทาอะไรสมชายมักคานงึ ถงึ ผลที่คาด +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐ ๑.๐๐
ว่าจะ เกดิ ขน้ึ จากการกระทานัน้ ๆ อยา่ ง
รอบคอบ” จาก ข้อความนส้ี มชายมีคุณลกั ษณะ
ตามข้อใด
ก. ความพอเพียง
ข. ความมีเหตผุ ล
ค. ความพอประมาณ
ง. การมีภมู ิคมุ้ กนั ในตวั ทดี่ ี
เฉลย ข.
๖. “ปอู มดารงชพี ด้วยการไมเ่ บยี ดเบยี นตนเอง +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐ ๑.๐๐
และผูอ้ ื่น” วธิ ีการดังกลา่ วตรงกับหลักการของ
ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี งในขอ้ ใด
ก. ความรู้
ข. ความมีเหตผุ ล
ค. ความพอประมาณ
ง. การมีภูมิคมุ้ กนในตวั ทด่ี ี
เฉลย ค.
๕๙
รายการประเมนิ ค่าความสอดคลอ้ ง
คนที่ ๑ คนที่ ๒ คนที่ ๓ ∑R
IOC
๗. บคุ คลใดนาแนวคิดเศรษฐกจิ พอเพียงมาเป็น +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐ ๑.๐๐
แนว ปฏิบตั ิไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ๑.๐๐
ก. อาคมซอ้ื เส้ือผ้ามือสองมาใส่เพ่ือประหยัด ๑.๐๐
รายจ่าย
ข. อาทติ ย์ทางานหนกั โดยไมไดพ้ ักผอ่ นเพ่ือ
เก็บเงิน ไว้ซื้อรถยนต์
ค. อารยี าใช้จ่ายอย่างประหยัดโดยตัดทอน
ค่าใชจ้ า่ ยท่ไี มจ่ าเปน็ ออก
ง. อธิคมใชจ้ า่ ยอยางตระหนถ่ี ี่เหนียวจนทา
ให้เปน็ โรคขาด
เฉลย ค.
๘. บคุ คลใดไม่ได้ดาเนินชีวติ ตามปรชั ญาของ +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐
เศรษฐกจิ พอเพยี ง
ก. มานะต้งั ใจเรียนจนสอบไดท้ ่ี ๑ ทุกปี
ข. วีระพทั รเป็นคนทันสมัยสวมใสเ่ สือ้ ผ้าตาม
แฟช่นั
ค. ณฐั พงษ์นาเงนิ ท่ีเก็บได้สง่ ตารวจเพื่อตาม
หาเจ้าของ
ง. ดวงพรเกบ็ เงินท่พี ่อแม่ให้ไวส้ ว่ นหนง่ึ เพอ่ื
ใชจ้ ่ายในยามจาเปน็
เฉลย ข.
๙. ข้อใดเป็นการปฏิบัตติ นตามหลักปรัชญาของ +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐
เศรษฐกจิ พอเพียง
ก. ประหยัดอดออม
ข. ยืมเงินเพอื่ นและผ่อนใช้ทีหลัง
ค. อดอาหารกลางวนั เพ่ือเก็บเงินใส่ออมสิน
ง. ทางานหลงั เลกิ เรยี นเก็บเงนิ ไว้ซ้ือสิ่งของท่ี
อยากได้
เฉลย ก.
๖๐
รายการประเมิน ค่าความสอดคล้อง IOC
คนที่ ๑ คนที่ ๒ คนท่ี ๓ ∑R ๑.๐๐
๑๐. ความพอเพยี งดา้ นสงั คมตามหลักการ +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐
เศรษฐกจิ พอเพยี งหมายถงึ ส่ิงใด ๑.๐๐
+๑ +๑ +๑ ๓.๐๐
ก. สังคมเข้มแขง็ ๑.๐๐
ข. สงั คมมีหลากหลาย +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐
ค. คนในสังคมมคี วามเป็นอยูท่ ด่ี ี
ง. คนในสังคมไม่ตอ้ งการความชว่ ยเหลือ
จากใคร
เฉลย ค.
๑๑. หลักการทรงงานท่ีว่า “ระเบดิ จากขา้ งใน”
คาว่า ขา้ งใน หมายถงึ ข้อใด
ก. ชุมชนหรอื คนในหมู่บ้าน
ข. บุคคลท่มี ีแนวคิดทแ่ี ตกตา่ งกัน
ค. กลุ่มบุคคลที่มคี วามรูเ้ กี่ยวกับระเบิด
ง. บุคคลทีไ่ ดร้ ับการยอมรบั จากสงั คม
ภายนอก
เฉลย ก.
๑๒. การแกไ้ ขปัญหาเก่ียวกับขยะมลู ฝอยและ
น้าเสียใน จงั หวัดเพชรบรุ ีเป็นโครงการอนั
เนื่องมาจาก พระราชดาริ โครงการใด
ก. โครงการตามพระราชประสงค์หบุ กะพง
ข. โครงการศูนย์สาธิตสหกรณด์ อนขนุ ห้วย
ค. โครงการพฒั นาห้วยแมเ่ พรียงตามพระ
ราช ประสงค์
ง. โครงการศกึ ษาวจิ ยั และพัฒนา
ส่งิ แวดลอ้ มแหลมผักเบีย้
เฉลย ง.
๖๑
รายการประเมนิ ค่าความสอดคลอ้ ง IOC
คนท่ี ๑ คนที่ ๒ คนท่ี ๓ ∑R ๑.๐๐
๑๓. ทฤษฎใี หม่กับหลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐
ต้องการพฒั นา ความเปน็ อยู่ของประชาชนใน ๑.๐๐
ระดับใดมากทีส่ ุด +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐ ๑.๐๐
+๑ +๑ +๑ ๓.๐๐
ก. ประชาชนท่มี ฐี านะยากจน ๑.๐๐
ข. ประชาชนท่มี ีฐานะค่อนขา้ งร่ารวย +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐
ค. ประชาชนทีม่ ฐี านะค่อนข้างยากจน
ง. ประชาชนทม่ี ฐี านะระดบั ปานกลาง
เฉลย ง.
๑๔. ในการจดั สรรพื้นที่ตามแนวคิดทฤษฎีใหม่
ส่วนท่ี แบง่ ร้อยละ ๑๐ มีไวส้ าหรับทาอะไร
ก. ปลูกขา้ ว ข. ท่ีอยอู่ าศัย
ค. ขดุ สระนา้ ง. ปลกู พชื สวน
เฉลย ข.
๑๖. โครงการใดถอื เป็นต้นแบบของทฤษฎีใหม่
ก. โครงการทับทิมสยาม
ข. โครงการศนู ยพ์ ฒั นาการเกษตรภสู งิ ห์
ค. โครงการพฒั นาพื้นท่ีบริเวณวดั มงคลชยั
พัฒนา
ง. โครงการพฒั นาพืน้ ท่เี กษตรน้าฝนบ้าน
แดนสามัคคี
เฉลย ค.
๑๗. ขอ้ ใดคือทฤษฎีใหม่ที่มุ่งเน้นความพอเพียง
ในระดบั ชุมชน
ก. การรวมกลมุ่
ข. เศรษฐกิจพอเพียง
ค. การผลิตเพอื่ พ่ึงตนเอง
ง. การดาเนนิ การดา้ นธรุ กจิ
เฉลย ก.
๖๒
รายการประเมิน คา่ ความสอดคลอ้ ง IOC
คนท่ี ๑ คนที่ ๒ คนท่ี ๓ ∑R ๑.๐๐
๑๘. แนวทางการปฏบิ ตั ติ นตามแนวคิด +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐
เศรษฐกจิ พอเพียง ข้อใดทนี่ กั เรียนควรยึดถอื ๑.๐๐
เปน็ แบบอย่างในการดาเนินชีวิต +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐
๑.๐๐
ก. การประกอบอาชพี ที่สจุ รติ +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐
ข. นาทรพั ยากรมาใช้อย่างร้คู ณุ ค่า
ค. ใช้ความร้ใู นการพัฒนาภูมิปญั ญา
ทอ้ งถ่ิน
ง. มีความประหยดั ลดความ
ฟุมเฟือยในการ ดารงชีวติ
เฉลย ง.
๑๙. บคุ คลทัว่ ไปจะนาหลักปรชั ญาของ
เศรษฐกิจพอเพยี ง ไปใช้ในการดารงชวี ติ
ประจาวันได้หรือไม่
ก. ไม่ได้ เพราะไม่ไดเ้ ปน็ เกษตรกร
ข. ได้ เพราะจะทาให้เป็นคนทันสมัย
ค. ไม่ได้ เพราะจะไมเ่ กดิ การกระจาย
รายได้
ง. ได้ เพราะจะช่วยให้ชีวติ ความเป็นอยู่ดี
ขึ้น
เฉลย ง.
๒๐. ขอ้ ใดไม่ใชห่ ลักการของเศรษฐกจิ พอเพียง
ก. การพึ่งตนเองเปน็ สาคัญ
ข. การสรา้ งนิสัยนิยมไทย
ค. การบริหารดนิ และนา้ อย่างเหมาะสม
ง. การลงทุนขนาดใหญเ่ พ่ือการผลิตสนิ คา้
เฉลย ข.
๖๓
รายการประเมิน ค่าความสอดคล้อง IOC
คนที่ ๑ คนที่ ๒ คนที่ ๓ ∑R ๑.๐๐
๒๑. นางสมหมายอายุ ๔๐ ปี ถกู บริษัทจ้างให้ +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐
ออกจากงาน พร้อมทั้งใหเ้ งนิ สดจานวนหนง่ึ ถา้ ๑.๐๐
นกั เรยี นเป็น สมหมาย จะทาอยา่ งไรจึงจะไดช้ อ่ื +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐
ว่าดาเนินชวี ติ ่ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจ ๑.๐๐
พอเพยี ง +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐
ก. เปดิ ร้านขายของชา
ข. นาเงนิ ไปลงทนุ ในตลาดห้นุ
ค. นาเงนิ ไปซอื้ รถใหมป่ ูายแดง
ง. นาเงนิ ไปฝากธนาคารเพ่อื กินดอกเบ้ีย
เฉลย ก.
๒๒. ขอ้ ใดตอ่ ไปนไี้ ม่ใช่หลกั การพงึ่ พาตนเอง
ตาม แนวทางของเศรษฐกิจพอเพยี ง
ก. การพง่ึ ตนเองทางดา้ นสงั คม
ข. การพึ่งตนเองทางด้านจิตใจ
ค. การพึง่ ตนเองทางดา้ นเศรษฐกิจ
ง. การพง่ึ ตนเองทางดา้ นการเมืองการ
ปกครอง
เฉลย ง.
๒๓. “ความพอดีทไ่ี ม่น้อยเกนิ ไปและไมม่ าก
เกนิ ไป โดย ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อ่นื ”
ข้อความท่กี ล่าวมา ขา้ งตน้ ช้ใี หเ้ ห็นหลักปรชั ญา
ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ในข้อใด
ก. ความพอเพยี ง
ข. ความมีเหตุผล
ค. ความพอประมาณ
ง. การมภี ูมคิ มุ้ กันในตัวที่ดี
เฉลย ค.
๖๔
รายการประเมนิ คา่ ความสอดคลอ้ ง IOC
คนท่ี ๑ คนที่ ๒ คนที่ ๓ ∑R ๑.๐๐
๒๔. โครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดาริเป็น +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐
โครงการที่ มงุ่ พัฒนาสิง่ ใด ๑.๐๐
+๑ +๑ +๑ ๓.๐๐
ก. คน ๑.๐๐
ข. ส่งิ แวดล้อม +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐
ค. หนว่ ยงานของรฐั
ง. ทรพั ยากรธรรมชาติ
เฉลย ก.
๒๕. บุคคลท่ยี ึดหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี งใน การดาเนินชีวิตจะเป็นอยา่ งไร
ก. มเี พ่อื นมาก
ข. พงึ่ พาตนเองได้
ค. เป็นผ้มู คี วามเข้มแขง็
ง. มชี ่ือเสยี งและเงนิ ทอง
เฉลย ข.
๒๖. ข้อใดคือผลท่ีคาดวา่ จะได้รับจากการนา
ปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียงมาประยุกตใ์ ชใ้ น
การดาเนนิ ชีวติ
ก. ชีวิตอย่เู ย็น สังคมเปน็ สขุ
ข. ความมัน่ คงในชีวติ และการงาน
ค. การพฒั นาทที่ ดั เทียมกับนานาประเทศ
ง. การมีสานึกด้านคุณธรรมของคนในชาติ
เฉลย ก.
๖๕
รายการประเมิน ค่าความสอดคล้อง IOC
คนท่ี ๑ คนท่ี ๒ คนที่ ๓ ∑R ๑.๐๐
๒๗. ขอ้ ใดคือทฤษฎใี หมท่ ี่มุ่งเน้นความ +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐
พอเพียงในระดบั ชุมชน ๑.๐๐
+๑ +๑ +๑ ๓.๐๐
ก. การรวมกล่มุ ๑.๐๐
ข. เศรษฐกิจพอเพยี ง +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐
ค. การผลิตเพ่อื พึง่ ตนเอง
ง. การดาเนนิ การด้านธรุ กิจ
เฉลย ก.
๒๘. เศรษฐกิจพอเพยี งเนน้ เรื่องใดเป็นหลัก
ก. การพงึ่ ตนเอง
ข. การรวมกล่มุ ของชาวบา้ น
ค. การชว่ ยเหลอื กนั ในชมุ ชน
ง. การจดั สรรทรัพยากรทีม่ อี ยู่
เฉลย ก.
๒๙. ขอ้ ใดคือประโยชนท์ ีไ่ ด้รับจากการ
ดาเนนิ ชวี ติ ตาม ปรัชญาของเศรษฐกจิ
พอเพียง
ก. สามารถพึง่ ตนเองได้
ข. ช่วยใหเ้ ป็นคนประหยดั
ค. มีเงนิ ออมไวใ้ ช้ในอนาคต
ง. ถกู ทกุ ข้อ
เฉลย ง.
๖๖
รายการประเมิน ค่าความสอดคล้อง IOC
คนที่ ๑ คนที่ ๒ คนที่ ๓ ∑R ๑.๐๐
๓๐. ข้อใดกลา่ วถูกต้องตามหลักปรชั ญาของ +๑ +๑ +๑ ๓.๐๐
เศรษฐกิจ พอเพยี ง
ก. รู้จกั กนิ รู้จักใช้ อยู่ไดไ้ ม่เดือดร้อน
ข. ซ่อื สัตย์สจุ รติ มเี งนิ ใช้จา่ ยไม่เดือดรอ้ น
ค. ขยันทามาหากนิ รู้จักเก็บออม มเี งนิ ให้
กู้
ง. ขยนั ทามาหากนิ มีเงินใช้จ่ายไม่
เดือดรอ้ น
เฉลย ก.
๖๗
ภาคผนวก ค
แผนการจัดการเรยี นรู้
แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น
๖๘
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ ๑
การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ เรอ่ื งเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้การจัดการเรยี นรู้แบบหอ้ งเรียนกลับดา้ น
กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชาเศรษฐศาสตร์ รหัสวชิ า ส
๒๑๑๐๒
ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปี ท่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๙ เรือ่ ง ความรู้ทั่วไปเกย่ี วกบั เศรษฐกิจพอเพียง เวลา ๑ ชวั่ โมง
๑.มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชว้ี ดั
มาตรฐานการเรยี นรู้ เขา้ ใจและสามารถบรหิ ารจดั การทรัพยากรในการผลติ และการ
บริโภคการใช้ทรพั ยากรท่ีมอี ยูจ่ ากัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและ
คุม้ ค่า รวมทงั้ เข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพยี งเพ่ือการ
ดารงชวี ิตอยอู่ ย่างมีดุลยภาพ
ตัวช้วี ดั ส ๓.๑ ม.๑ อธิบายความเป็นมา หลักการ และความสาคัญของ
ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงต่อสงั คมไทย
๒. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
๒.๑ จุดประสงคท์ ั่วไป
๑. เข้าใจความเป็นมา หลักการและความสาคัญของเศรษฐกิจพอเพียงต่อสังคมไทยได้
๒. สามารถปฏบิ ัติตนตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและสง่ เสริมให้สมาชิกในครอบครวั
นาหลกั แนวความคิดของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในชวี ิตประจาวันได้
๒.๒ จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
๑. อธิบายความเป็นมา หลักการและความสาคัญของเศรษฐกิจพอเพียงต่อสังคมไทยได้ (K)
๒. ปฏบิ ตั ิตนตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้อยา่ งถูกตอ้ ง ( P)
๓. ยอมรบั และส่งเสรมิ ใหส้ มาชิกในครอบครวั นาหลักแนวความคิดของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้
ในชวี ิตประจาวันได้ (A)
๓. สาระสาคัญ
เศรษฐกจิ พอเพียง เป็นปรชั ญาที่พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัว รชั กาลที่ ๙ ทรงพระราชดารสั
ชี้แนะแนวทางการดารงอยแู่ ละการปฏบิ ตั ติ นของประชาชนในทุกระดบั ให้ดาเนินชีวติ ในทางสายกลาง
โดยเฉพาะการพฒั นาเศรษฐกิจ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณความมเี หตผุ ล มีภูมคิ มุ้
กนในตัวที่ดี ทง้ั นี้ต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบและความระมดั ระวังอยา่ งย่ิงในการน า
วชิ าการตา่ งๆ มาใช้ในการวางแผนและดาเนินการทกุ ขั้นตอน และขณะเดยี วกนต้องเสริมสรา้ งพืน้ ฐาน
จติ ใจของคนในชาติให้มสี านกึ ในคุณธรรม ความซ่ือสตั ย์สจุ ริตและให้มีความรอบรู้ทเี่ หมาะสมในการ
ดารงชวี ิตด้วยความอดทน ความเพยี ร มสี ติปญั ญาและสติรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพรอ้ มต่อการ
๖๙
รองรบั การเปลยี่ นแปลงอยา่ งรวดเรว็ และกวา้ งขวาง ทัง้ ด้านวตั ถุ สังคม สงิ่ แวดล้อมและวัฒนธรรม
จากโลกภายนอกไดเ้ ป็นอย่างดี
๔. สาระการเรยี นรู้
ความรู้ (K)
ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
๑. ความหมายความเป็นมาและองค์ประกอบของหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
๒. การปฏบิ ตั ิตนตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
๓. การนาหลักแนวความคิดของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั
ทักษะ/กระบวนการ (P)
๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร:สามารถส่ือสารความรอู้ ย่างเขา้ ใจ
๒. ความสามารถในการคิด:สามารถวิเคราะหข์ ้อมลู และคณุ ธรรมได้
๓.ความสามารถในการแก้ปัญหา:สามารถแก้ปญั หาเฉพาะหน้าได้
๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต:สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหนา้ ได้
๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี:สามารถนาข้อมลู ในอินเทอร์เนต็ มาปรับใช้ได้
คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ (A)
๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๒. มวี ินยั
๓. ใฝุ เรียนรู้
๔. อย่อู ย่างพอเพยี ง
๕. กจิ กรรมการเรียนการสอน / กระบวนการจดั การเรยี นรู้
๑. การนาเข้าส่บู ทเรยี น (Warm-up)
๑. การนาเขา้ ส่บู ทเรยี น
๑. ดาเนินการสร้างเคร่ืองมือ คือ แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาเศรษฐศาสตร์ เรื่อง
เศรษฐกิจพอเพยี ง โดยใช้การจดั การเรียนรแู้ บบหอ้ งเรยี นกลับด้าน สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี
1 จานวน ๑ แผน
๒. ผู้วิจยั ไดใ้ หน้ กั เรียนทาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้แบบทดสอบ
วดั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน ก่อนเรียน จานวน ๓๐ ขอ้
๓. ผู้วิจัยช้ีแจงจุดประสงค์และได้แนะนาการใช้งานในกรอบต่าง ๆ ของการจัดการ
เรียนรแู้ บบห้องเรียนกลับด้าน เพื่อสร้างความเข้าใจและความพร้อมให้กับนักเรียนก่อนการทดลองใช้
การจัดการเรยี นรู้ในแตล่ ะขน้ั ตอนของการจัดการเรยี นรู้แบบหอ้ งเรยี นกลบั ดา้ น
๒.ข้นั การสอน
๗๐
๔. ครูให้นักเรียนถามคาถามจากการดูวิดีโอ เรื่อง “พอเพียงตามแนวคิดของพ่อ ” ”
ท่ีได้มอบหมายให้ นักเรียนได้ไปศึกษามาก่อนล่วงหน้า ซ่ึงครู ได้ กาหนดให้นักเรียนตั้งคาถามจากการ
ดูวิดีโอมาคนละ ๑ คาถามจากน้ันร่วมกันหาคาตอบและครู อธิบาย เพ่ิมเติมให้นักเรียนได้เข้าใจใน
ความเปน็ มาและ ความสาคัญของหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
๕. ครู ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๕ คน และ มอบหมายให้แต่ละกลุ่มทาแผนผัง
ความคดิ (Mind Mapping) สรุปขอ้ คดิ สาคัญทไี่ ดเ้ รียนรู้จากวิดีโอ เร่อื ง “พอเพยี งตามแนวคิดของพ่อ
๖. ใหน้ ักเรียนสง่ ตวั แทนแตล่ ะกลุ่ม ออกมารับกระดาษ ปากกาท่ีครูแจกให้ เพ่ือนาไป
ทาแผนผังความคิด (Mind Mapping) สรุปข้อคิดสาคัญที่ได้เรียนรู้จากวิดีโอ เรื่อง “พอเพียงตาม
แนวคิดของพอ่ ”
๗. นักเรียนแต่ละกลุ่มที่ส่งตัวแทนผลัดกัน ออกมาแลกเปล่ียนเรียนรู้และร่วมกัน
สนทนา
๘. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันอภิปรายและสรปุ ถึง ความรทู้ ัว่ ไปเกีย่ วกับเศรษฐกิจพอเพียง
เพ่ือปลูกฝงั ใหน้ กั เรยี นได้นาไปประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ ่อไป
๓.ข้นั สรปุ
๙.ครูมอบหมายงานใหน้ ักเรียนไปดูวิดที ศั น์เฉลมิ พระเกยี รติ ชดุ พระเจา้ อยู่หวั ของปวง
ชน : ตอน ทฤษฎี ใหม่มาล่วงหน้าและต้งั คาถามคนละ ๑ คาถาม เพ่ือนามาเปน็ ประเด็นพดู คุยกันใน
ครั้งตอ่ ไป
๑๐.หลังจากผู้วิจัยได้ดาเนินการสอนจบแผนการจัดการเรียนรู้ ให้นักเรียนทา
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหลังเรียน
จานวน ๓๐ ข้อ โดยขอ้ เป็นขอ้ สอบชุดเดียวกนั กับกอ่ นเรียน
๖. ส่ือการสอน
๑. หนังสือเรยี น เศรษฐศาสตร์ ม.๑
๒. วดิ โี อ เรอื่ ง “พอเพยี งตามแนวคิดของ พอ่ ”
๓. เอกสารประกอบการสอน
๔. ใบงานท่ี ๙.๑ เร่อื ง ข้อคดิ สาคัญที่ไดเ้ รยี นรู้ จากวดิ ีโอ เรอ่ื ง “พอเพยี งตามแนวคิดของพ่อ”
๗. แหล่งการเรียนรู้
๑. หอ้ งสมดุ โรงเรียนบ้านบึงเนียมบึงใครน่ นุ่ ท่าหนิ
๒. แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ
๘. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ๗๑
วธิ วี ัด เคร่ืองมอื เกณฑ์การประเมิน
-ระดับคณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์
-ประเมินการเขยี นสรุปข้อคดิ -แบบประเมนิ การเขยี นและสรุป
-ระดับคณุ ภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์
ข้อคิด
-ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์
-ประเมนิ การนาเสนอผลงาน -แบบประเมินการนาเสนอผลงาน -ระดบั คุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์
เปน็ กลมุ่ เปน็ กลุม่
-แบบทดสอบก่อนเรียน -แบบทดสอบหลังเรียน
-สังเกตพฤติกรรมการทางาน -แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางาน
เปน็ กลุ่ม รายบุคคล กลมุ่ รายบคุ คล
๙. ข้อเสนอแนะ
-ครูให้นกั เรยี นทาแผนพับเกยี่ วกบั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพอื่ เผยแพร่ความรู้
๗๒
บนั ทกึ หลังสอน
ผลการจัดการเรยี นรู้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปญั หา/อุปสรรค
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แนวทางแก้ไข/ขอ้ เสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ ..…………………………………ผู้สอน
(นางสาวสมุ ิตตา บุทอง)
นิสติ ฝกึ ประสบการณ์
๗๓
ใบงานท่ี ๙.๑
ความหมาย ความเปน็ มาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
คาชี้แจง ให้นักเรยี นสรุปสาระสาคัญท่ีได้จากการดวู ิดโี อ ชุด “เศรษฐกจิ พอเพียงตามแนวคดิ ของพ่อ
”
เปน็ Mind Mapping พรอ้ มทงั้ สง่ ตัวแทนนาเสนอหนา้ ชน้ั เรยี น
๗๔
แบบบันทกึ รายบคุ คล
ช่ือ.........................................................สกลุ ...................................ช้นั ...................เล ขที่....................
คาช้ีแจง ให้นักเรียนสรุปสาระสาคัญท่ีได้จากการดูวิดีโอ ชุด “เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวคิดของพ่อ
” แล้วต้ัง
ประเด็นคาถาม คนละ ๑ ประเด็น เพ่ือมาแลกเปลีย่ นเรยี นรู้ในห้องเรียน
๑. เศรษฐกิจพอเพยี ง หมายถงึ อะไร
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................... .........................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
๒. หลักการในการดาเนินชีวิตตามอยางเศรษฐกิจพอเพียงประกอบด้วยอะไรบ้าง นามาปรับใช้ใน
ชวี ิตประจาวันไดอ้ ย่างไร
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................. ...
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
๓. คาถามทน่ี า่ สนใจจากการดูวิดโี อ ชุด “เศรษฐกจิ พอเพียงตามแนวคดิ ของพ่อ”
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................... ..........
..................................................................................................................................................
ลงชื่อ............................................นกั เรียน ลงชือ่ ........................................ .....ผู้สอน
(...............................................) (.............................................)
๗๕
แบบประเมนิ Mind Mapping
สาระสาคญั ที่ไดจ้ ากการดูวิดีโอ ชุด “เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวคิดของพ่อ”
ลาดับ ชื่อกลุ่ม ตรงตาม ตรง ถกู ต้อง สะอาด มคี วามคดิ รวม
เวลา จดุ ประสงค์ สมบูรณ์ และเปน็ สร้างสรรค์ (๒๐)
(๔) (๔) (๔) ระเบยี บ (๔)
(๔)
๑
๒
๓
๔
๕
๖
๗
เกณฑ์การให้คะแนนมี ดงั น้ี
๔ ดีมาก
๓ ดี
๒ พอใช้
๑ ปรบั ปรุง
คะแนนรวม ๑๖-๒๐ ดมี าก
คะแนนรวม ๑๑-๑๕ ดี
คะแนนรวม ๖-๑๐ พอใช้
คะแนนรวม ๑-๕ ปรบั ปรุง
๗๖
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล
คาชี้แจง : ให้ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลง
ในช่องที่ตรงกบั ระดบั คะแนน
ชอ่ื -สกลุ ความมีนา้ ใจ การรับฟัง การแสดง การตรงตอ่ รวม
ลาดบั ของผูร้ ับ ความมีวนิ ยั เอ้อื เฟ้ือ ความ ความ เวลา ๒๐
ที่ การ เสยี สละ คดิ เหน็ คิดเหน็ คะแน
ประเมิน น
๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔๓ ๒๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔๓ ๒ ๑
ลงชือ่ ..........................................ผู้ประเมนิ
............./..................../.................
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ ๔ คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ ๓ คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ ๒ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ ๑ คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมนอ้ ยครั้ง ๙๐-๑๐๐ ดีมาก
๗๓-๘๙ ดี
๕๔-๗๒ พอใช้
ต่ากวา่ ๕๔ ปรบั ปรงุ
๗๗
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่
คาช้ีแจง : ใหผ้ สู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ลง
ในช่องท่ี
ลาดั ชื่อ-สกลุ ความร่วมมือ การแสดง การรับฟงั การต้ังใจ การแกไข้ รวม
บท่ี ของผรู้ บั การ กนั ทา ความคิดเหน็ ความคิดเหน็ ทางาน ปญั หา/หรอื ๒๐
ประเมนิ กจิ กรรม ปรบั ปรุง คะแนน
ผลงานกลุ่ม
๔ ๓๒๑ ๔๓๒ ๑ ๔๓๒๑ ๔ ๓ ๒๑ ๔ ๓ ๒๑
ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน
………………/.................../.....................
เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ ๔ คะแนน
ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ ๓ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ ๒ คะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมน้อยคร้งั ให้ ๑ คะแนน ๙๐-๑๐๐ ดมี าก
๗๓-๘๙ ดี
๕๔-๗๒ พอใช้
ต่ากว่า ๕๔ ปรบั ปรุง
๗๘
เกณฑ์การประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
ช่อื .................................................................สกุล....................................
...............................ชั้น........................เลขที่
รายการประเมิน
๑.การมีส่วนรว่ ม และความกระตือรือร้นในการทากิจกรรม
๒.การอภปิ ลายและรว่ มแสดงความคิดเหน็ ในชนั้ เรยี น
๓.มคี วามกลา้ แสดงออก
เกณฑ์การใหค้ ะแนนมี ดงั น้ี
๔ ดีมาก
๓ ดี
๒ พอใช้
๑ ปรบั ปรงุ
คะแนนรวม ๑๖-๒๐ ดีมาก
คะแนนรวม ๑๑-๑๕ ดี
คะแนนรวม ๖-๑๐ พอใช้
คะแนนรวม ๑-๕ ปรับปรงุ
ลงชอื่ ...........................................................ผู้ประเมนิ
(...........................................................)
๗๙
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิ หน่วยการเรียนรู้ เรอื่ ง เศรษฐกจิ พอเพียง รายวิชา สังคมศึกษา ๒ ส ๒๑๑๐๒
ภาคเรยี นท่ี ๓ ปี การศกึ ษา ๒๕๖๓ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี
คาชแ้ี จง
๑. แบบทดสอบเป็นแบบปรนัย ๔ ตวั เลือก จานวน ๓๐ ขอ้ เวลาในการทาข้อสอบ ๖๐ นาที
๒. ให้นกั เรียนพจิ ารณาเลือกคาตอบทถ่ี กู ต้องที่สดุ เพยี งข้อเดยี ว แล้วทาเคร่อื งหมาย X ลงบน
๑. ขอ้ ใดคือความหมายของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ก. การดารงชีวติ อยอู่ ยา่ งหรูหราและฟุมเฟือย
ข. การดารงชวี ติ โดยสันโดษไม่ยงุ เก่ียวกับผู้อน่ื
ค. การดารงชีวิตอยโู่ ดยอาศยั เทคโนโลยีสมยั ใหม่
ง. การดารงชีวิตอย่างประหยดั และเลีย้ งตนเองได้
๒. ข้อใดไม่ใชห่ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
ก. การพงึ่ ตนเองเป็นสาคัญ
ข. การสรา้ งนิสยั นิยมไทย
ค. การบรกิ ารดนิ และน้าอยา่ งเหมาะสม
ง. การลงทนุ ขนาดใหญเ่ พ่ือการผลติ สินคา้
๓. สาเหตใุ ดจงึ ต้องมีการประกาศใช้เศรษฐกจิ พอเพียง
ก. สินค้าเกษตรมรี าคาสูง
ข. เศรษฐกิจมีการขยายตวั สูงขึ้น
ค. ปริมาณสนิ คา้ ในการบริโภคมากเกนิ ไป
ง. เกิดภาวะขาดแคลนสนิ ค้าอปุ โภคบรโิ ภค
๔. แนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพียงตรงกับสานวนไทยในข้อใด
ก. น้าขน้ึ ให้รีบตัก
ข. ตนเป็นท่ีพ่ึงแห่งตน
ค. ช้า ๆ ได้พร้าสองเลม่ งาม
ง. งานหลวงไมใ่ หข้ าด งานราษฎร์ไมใ่ หเ้ กิน
๘๐
๕. “เมอื่ จะทาอะไรสมชายมกั คานงึ ถงึ ผลท่ีคาดว่าจะ เกดิ ขึ้นจากการกระทานั้น ๆ อยา่ งรอบคอบ”
จาก ขอ้ ความน้ีสมชายมีคุณลักษณะตามขอ้ ใด
ก. ความพอเพียง
ข. ความมีเหตุผล
ค. ความพอประมาณ
ง. การมภี ูมคิ มุ้ กันในตัวท่ีดี
๖. “ปอู มดารงชีพด้วยการไมเ่ บยี ดเบียนตนเองและผู้อนื่ ” วธิ กี ารดังกลา่ วตรงกับหลักการของปรัชญาของ เศรษฐกจิ
พอเพียงในขอ้ ใด
ก. ความรู้
ข. ความมเี หตผุ ล
ค. ความพอประมาณ
ง. การมีภูมคิ ้มุ กนในตัวท่ีดี
๗. บคุ คลใดนาแนวคิดเศรษฐกิจพอเพยี งมาเป็นแนว ปฏบิ ตั ิได้อย่างเหมาะสม
ก. อาคมซอ้ื เสื้อผา้ มือสองมาใสเ่ พ่ือประหยัดรายจ่าย
ข. อาทิตย์ทางานหนกั โดยไมได้พักผ่อนเพอื่ เก็บเงนิ ไวซ้ อื้ รถยนต์
ค. อารยี าใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั โดยตัดทอนค่าใช้จา่ ยทไ่ี ม่จาเปน็ ออก
ง. อธคิ มใชจ้ ่ายอยางตระหนถ่ี เ่ี หนียวจนทาใหเ้ ปน็ โรคขาด
๘. บุคคลใดไม่ไดด้ าเนินชวี ิตตามปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
ก. มานะตัง้ ใจเรียนจนสอบได้ท่ี ๑ ทกุ ปี
ข. วีระพทั รเปน็ คนทันสมัยสวมใสเ่ ส้ือผา้ ตามแฟชนั่
ค. ณฐั พงษน์ าเงนิ ทเ่ี ก็บได้ส่งตารวจเพ่อื ตามหาเจ้าของ
ง. ดวงพรเก็บเงินทพ่ี ่อแม่ให้ไว้สว่ นหนึ่งเพอ่ื ใชจ้ ่ายในยามจาเปน็
๙. ขอ้ ใดเป็นการปฏิบตั ติ นตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ก. ประหยดั อดออม
ข. ยมื เงนิ เพือ่ นและผ่อนใช้ทหี ลงั
ค. อดอาหารกลางวันเพื่อเก็บเงนิ ใส่ออมสิน
ง. ทางานหลงั เลกิ เรยี นเกบ็ เงนิ ไวซ้ อื้ ส่งิ ของท่ีอยากได้
๘๑
๑๐. ความพอเพยี งด้านสงั คมตามหลกั การเศรษฐกจิ พอเพียงหมายถงึ สง่ิ ใด
ก. สังคมเขม้ แขง็
ข. สังคมมหี ลากหลาย
ค. คนในสังคมมีความเป็นอยทู่ ด่ี ี
ง. คนในสังคมไม่ต้องการความชว่ ยเหลือจากใคร
๑๑. หลักการทรงงานที่ว่า “ระเบิดจากขา้ งใน” คาว่า ขา้ งใน หมายถงึ ข้อใด
ก. ชมุ ชนหรอื คนในหมบู่ ้าน
ข. บุคคลทม่ี ีแนวคิดทีแ่ ตกต่างกัน
ค. กลมุ่ บุคคลที่มคี วามรเู้ กยี่ วกบั ระเบิด
ง. บุคคลทไ่ี ดร้ ับการยอมรับจากสงั คมภายนอก
๑๒. การแก้ไขปัญหาเกีย่ วกับขยะมูลฝอยและน้าเสยี ใน จงั หวัดเพชรบรุ ีเปน็ โครงการอันเน่อื งมาจาก พระราชดาริ
โครงการใด
ก. โครงการตามพระราชประสงค์หบุ กะพง
ข. โครงการศูนยส์ าธติ สหกรณ์ดอนขนุ ห้วย
ค. โครงการพัฒนาห้วยแมเ่ พรยี งตามพระราช ประสงค์
ง. โครงการศึกษาวิจยั และพัฒนาสง่ิ แวดล้อมแหลมผักเบ้ยี
๑๓. ทฤษฎีใหม่กับหลกั เศรษฐกจิ พอเพียงต้องการพฒั นา ความเป็นอยู่ของประชาชนในระดับใดมากท่สี ุด
ก. ประชาชนที่มฐี านะยากจน
ข. ประชาชนทมี่ ฐี านะคอ่ นข้างรา่ รวย
ค. ประชาชนทมี่ ฐี านะค่อนขา้ งยากจน
ง. ประชาชนท่มี ฐี านะระดบั ปานกลาง
๑๔. ในการจดั สรรพื้นท่ตี ามแนวคดิ ทฤษฎีใหม่ สว่ นที่ แบง่ รอ้ ยละ ๑๐ มีไว้สาหรับทาอะไร
ก. ปลูกข้าว ข. ทอ่ี ยู่อาศัย
ค. ขุดสระนา้ ง. ปลกู พืชสวน
๑๕. ขอ้ ใดคือหลกั การสาคญั ของทฤษฎีใหม่
ก. การสรา้ งความชุม่ ช้นื เปน็ กาแพงกัน้ ไฟ
ข. การเพาะเลีย้ งและขยายพนั ธพุ์ ืชสมนุ ไพร
ค. การปลูกหญ้าแฝกท้ังในที่ราบและทลี่ าดชนั
ง. การจดั การใชป้ ระโยชนท์ ี่ดนิ และแหล่งน้าใน ท่ดี นิ ขนาดเล็ก
๘๒
๑๖. โครงการใดถือเป็นตน้ แบบของทฤษฎีใหม่
ก. โครงการทับทมิ สยาม
ข. โครงการศนู ยพ์ ัฒนาการเกษตรภสู ิงห์
ค. โครงการพัฒนาพน้ื ท่ีบรเิ วณวัดมงคลชัยพัฒนา
ง. โครงการพฒั นาพื้นที่เกษตรน้าฝนบ้านแดนสามคั คี
๑๗. ข้อใดคือทฤษฎใี หม่ที่มุ่งเนน้ ความพอเพียงในระดบั ชุมชน
ก. การรวมกลมุ่
ข. เศรษฐกิจพอเพียง
ค. การผลิตเพ่ือพึง่ ตนเอง
ง. การดาเนนิ การดา้ นธุรกจิ
๑๘. แนวทางการปฏบิ ัติตนตามแนวคิดเศรษฐกจิ พอเพียง ข้อใดทน่ี ักเรยี นควรยดึ ถือเปน็ แบบอย่างในการดาเนินชีวติ
ก. การประกอบอาชพี ท่ีสจุ รติ
ข. นาทรัพยากรมาใช้อย่างรูค้ ณุ ค่า
ค. ใชค้ วามรใู้ นการพฒั นาภูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ
ง. มีความประหยดั ลดความฟุมเฟือยในการ ดารงชีวิต
๑๙. บุคคลทวั่ ไปจะนาหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ไปใช้ในการดารงชวี ติ ประจาวันไดห้ รอื ไม่
ก. ไมไ่ ด้ เพราะไม่ไดเ้ ปน็ เกษตรกร
ข. ได้ เพราะจะทาใหเ้ ป็นคนทนั สมัย
ค. ไม่ได้ เพราะจะไมเ่ กดิ การกระจายรายได้
ง. ได้ เพราะจะชว่ ยใหช้ วี ิตความเปน็ อยู่ดขี น้ึ
๒๐. ข้อใดไม่ใช่หลักการของเศรษฐกิจพอเพยี ง
ก. การพ่ึงตนเองเปน็ สาคัญ
ข. การสรา้ งนสิ ยั นยิ มไทย
ค. การบริหารดินและน้าอยา่ งเหมาะสม
ง. การลงทุนขนาดใหญ่เพ่ือการผลิตสนิ คา้
๒๑. นางสมหมายอายุ ๔๐ ปี ถูกบริษัทจา้ งให้ออกจากงาน พรอ้ มทั้งใหเ้ งนิ สดจานวนหน่งึ ถา้ นักเรียนเป็น สมหมาย
จะทาอย่างไรจึงจะไดช้ อ่ื ว่าดาเนนิ ชีวิต ่ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ก. เปิดรา้ นขายของชา
ข. นาเงนิ ไปลงทุนในตลาดหุ้น
ค. นาเงินไปซอื้ รถใหม่ปูายแดง
๘๓
ง. นาเงนิ ไปฝากธนาคารเพอื่ กนิ ดอกเบย้ี
๒๒. ขอ้ ใดตอ่ ไปนไ้ี มใ่ ช่หลักการพง่ึ พาตนเองตาม แนวทางของเศรษฐกิจพอเพยี ง
ก. การพง่ึ ตนเองทางด้านสังคม
ข. การพ่ึงตนเองทางด้านจติ ใจ
ค. การพ่งึ ตนเองทางด้านเศรษฐกจิ
ง. การพ่ึงตนเองทางดา้ นการเมืองการปกครอง
๒๓. “ความพอดีทไี่ มน่ ้อยเกินไปและไม่มากเกนิ ไป โดย ไมเ่ บียดเบียนตนเองและผู้อื่น” ขอ้ ความที่กลา่ วมา ขา้ งตน้
ชีใ้ ห้เห็นหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ในขอ้ ใด
ก. ความพอเพียง
ข. ความมีเหตผุ ล
ค. ความพอประมาณ
ง. การมภี ูมคิ ุ้มกันในตัวท่ีดี
๒๔. โครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดาริเปน็ โครงการที่ มงุ่ พัฒนาสง่ิ ใด
ก. คน
ข. สิ่งแวดล้อม
ค. หนว่ ยงานของรฐั
ง. ทรัพยากรธรรมชาติ
๒๕. บคุ คลทีย่ ดึ หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงใน การดาเนินชีวติ จะเปน็ อย่างไร
ก. มีเพ่อื นมาก
ข. พง่ึ พาตนเองได้
ค. เป็นผู้มีความเข้มแข็ง
ง. มชี ื่อเสียงและเงนิ ทอง
๒๖. ข้อใดคือผลท่ีคาดวา่ จะได้รบั จากการนาปรชั ญาของ เศรษฐกิจพอเพยี งมาประยุกต์ใชใ้ นการดาเนินชวี ิต
ก. ชวี ติ อยู่เยน็ สงั คมเปน็ สขุ
ข. ความม่นั คงในชีวติ และการงาน
ค. การพฒั นาทท่ี ัดเทยี มกับนานาประเทศ
ง. การมีสานึกดา้ นคุณธรรมของคนในชาติ
๒๗. ขอ้ ใดคือทฤษฎีใหม่ท่ีมงุ่ เน้นความพอเพยี งในระดับ ชมุ ชน
ก. การรวมกลมุ่
ข. เศรษฐกจิ พอเพียง
ค. การผลิตเพื่อพ่ึงตนเอง
๘๔
ง. การดาเนินการดา้ นธรุ กจิ
๒๘. เศรษฐกิจพอเพียงเนน้ เร่ืองใดเป็นหลัก
ก. การพง่ึ ตนเอง
ข. การรวมกลุ่มของชาวบ้าน
ค. การชว่ ยเหลือกันในชมุ ชน
ง. การจดั สรรทรพั ยากรท่มี อี ยู่
๒๙. ขอ้ ใดคือประโยชน์ท่ีได้รับจากการดาเนินชวี ิตตาม ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
ก. สามารถพ่ึงตนเองได้
ข. ช่วยใหเ้ ป็นคนประหยดั
ค. มีเงนิ ออมไว้ใช้ในอนาคต
ง. ถกู ทกุ ข้อ
๓๐. ข้อใดกลา่ วถกู ต้องตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ก. รจู้ กั กินรูจ้ กั ใช้ อยูไ่ ดไ้ มเ่ ดอื ดร้อน
ข. ซอ่ื สัตย์สุจรติ มีเงินใชจ้ ่ายไม่เดือดร้อน
ค. ขยนั ทามาหากิน รู้จักเกบ็ ออม มเี งินใหก้ ู้
ง. ขยนั ทามาหากนิ มีเงินใช้จ่ายไม่เดือดรอ้ น
๘๕
ภาคผนวก ง
ส่อื การสอน
๘๖
ส่ือการสอน
๘๗
ประวัตผิ ู้วจิ ยั
๑. ช่ือ : นางสาวสุมิตตา บทุ อง
๒. เกดิ วนั ท่ี : วนั ที่ ๐๖ มาราคม พ.ศ. ๒๕๔๑
๓. สัญชาติ : ไทย เช้ือชาติ : ไทย ศสานา : พุทธ
๔. เลขท่ี : ๑๒๕ หมูท่ ี่ ๑๒ ตาบลหนองกงุ แกว้ อาเภอศรบี ญุ เรือง จงั หวดั
๕. วฒุ ิการศึกษา หนองบวั ลาภู รหัสไปรษณยี ์ ๓๙๑๘๐ เบอร์โทร ๐๖๒๗๙๕๑๓๗๑
:พ.ศ. ๒๕๕๕ สาเร็จการศึกษาประถมศึกษาจากโรงเรียนบ้าน หนองกุงแก้ว
๖.ปจั จบุ ัน ตาบลหนองกงุ แก้ว อาเภอศรบี ญุ เรือง จังหวัดหนองบวั ลาภู
พ.ศ. ๒๕๕๗ สาเร็จการศกึ ษามัธยมศกึ ษาตอนต้นจาก โรงเรียนสนั ตวิ ทิ ยา
สรรพ์ ตาบลท่าชา้ งคล้อง อาเภอผาขาว จังหวดั เลย
พ,ศ. ๒๕๕๙ สาเร็จการศึกษามธั ยมศกึ ษาตอนปลายจาก โรงเรยี นสนั ติ
วิทยาสรรพ์ ตาบลทา่ ชา้ งคล้อง อาเภอผาขาว จงั หวัดเลย
กาลงั ศึกษาอยูท่ ี่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย วทิ ยาเขต
ขอนแกน่ คณะครศุ าสตร์ สาขาสังคมศึกษา ช้ันปีที่ ๔