The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

บทเรียนสำเร็จรูป

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by npgamekak, 2021-03-31 11:40:39

Parts of Speech

บทเรียนสำเร็จรูป

บทเรยี นสำเร็จรปู เรือ่ ง Part of speech จัดทำข้นึ เพือ่ ใช้ในกำรพฒั นำควำม
เขำ้ ใจในโครงสร้ำงของประโยควชิ ำภำษำองั กฤษแก่ผูเ้ รยี น โดยมีจุดมงุ่ หมำยเพ่ือให้
นกั เรียนได้พฒั นำกำรเรยี นรู้ด้วยตนเองตำมควำมสำมำรถของแตล่ ะบุคคลอย่ำงละเอียด
จำกบทเรียนสำเร็จรูปทลี ะขั้นตอนจนจบเนอ้ื หำ ซงึ่ ประกอบไปดว้ ย 8 ส่วนหลักของ
Part of speech คอื noun, pronoun, verb, adjective, adverb, preposition,
conjunction และ interjection

ทำงผจู้ ัดทำโครงงำนมคี วำมคำดหวังเปน็ อยำ่ งยงิ่ ว่ำบทเรียนสำเร็จรปู เลม่ นี้
สำมำรถชว่ ยพฒั นำควำมรคู้ วำมเขำ้ ใจให้แกน่ กั เรยี นและผทู้ ่ีสนใจตอ้ งกำรศกึ ษำไดเ้ ป็น
อยำ่ งดี ส่งผลให้เกิดประโยชนส์ ูงสดุ ผเู้ รยี นเกดิ ควำมสนใจและสนุกกบั บทเรยี นมำกขึ้น

ขอบคณุ ผทู้ รงคณุ วฒุ ทิ ี่ไดต้ รวจสอบผลงำนให้มคี วำมสมบรู ณ์

นำย บญุ รตั น์ ดุกหล่ิม อำจำรยป์ ระจำสำขำภำษำตำ่ งประเทศ คณะศลิ ปศำสตร์
มหำวทิ ยำลยั เทคโลยรี ำชมงคลศรีวิชัย นำงสำวจณิสตำ ชีวะพนั ธ์ พนักงำนท่ปี รึกษำ
คณะครบู ุคลำกรทำงกำรศึกษำในโรงเรียนแจง้ วทิ ยำ ตลอดจนผ้เู กี่ยวขอ้ งทกุ คนท่ีได้
กรณุ ำให้คำแนะนำชแ้ี นวทำงตลอดจนให้ขอ้ คดิ อันเป็นประโยชน์จนกระทัง่ บทเรยี น
สำเร็จรปู เรื่อง part of speech ชุดน้สี ำเรจ็ ลลุ ว่ งด้วยดี

หำกมีขอ้ ผดิ พลำดประกำรใด ผ้จู ัดทำต้องกรำบขออภยั มำ ณ ที่น้ี

ณฐั พงศ์ ศิรหิ ลำ้

เรื่อง หนา้
คำนำ ก
สำรบญั ข
สำระสำคญั / จุดประสงค์ ค
คำช้แี จงสำหรับนกั เรียน ง
แบบทดสอบก่อนเรียน 1
เฉลยแบบทดสอบ 6
กรอบที่ 1 Noun 7
กรอบท่ี 2 Pronoun 13
กรอบที่ 3 Verb 18
กรอบที่ 4 Adjective 23
กรอบที่ 5 Adverb 28
กรอบที่ 6 Preposition 32
กรอบที่ 7 Conjunction 36
กรอบที่ 8 Interjection 39

แบบทดสอบหลงั เรยี น 44
เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน 48
บรรณำนกุ รม 44

Part of speech คอื อกี หนึง่ บทเรยี นท่มี คี วำมสำคัญมำกในภำษำองั กฤษ ซึง่
ประกอบไปดว้ ย 8 ส่วนดว้ ยกนั คือ noun, pronoun, verb, adjective, adverb,
preposition, conjunction, และ interjection โดยแตล่ ะส่วนจะเป็นตวั บ่งชีว้ ำ่ คำศพั ท์
แต่ละคำนั้นสำมำรถนำไปใช้งำนในประโยคได้อย่ำงไรจงึ จะถกู ต้อง มคี วำมสมบูรณต์ ำม
โครงสรำ้ งทถี่ กู ต้อง กำรจะนำคำศพั ทไ์ ปใช้ ควรมีควำมเข้ำใจเรอ่ื ง Part of speech เป็น
พน้ื ฐำนสำคัญ

1.นักเรียนมคี วำมเขำ้ ใจเรื่อง Part of speech มำกขึน้
2.นักเรยี นสำมำรถนำควำมเขำ้ ใจเร่อื ง Part of speech ไปใช้ได้จริง

1. บทเรยี นสำเร็จรูปเลม่ นนี้ ักเรียนสำมำรถศึกษำเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง

2. นักเรยี นอำ่ นคำชแ้ี จงให้เขำ้ ใจ

3. นกั เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนแล้วตรวจคำตอบ

4. นกั เรียนจะต้องซ่ือสตั ย์ต่อตนเองโดยไมเ่ ปดิ ดูคำตอบกอ่ น

5. เร่ิมศึกษำบทเรยี นสำเร็จรปู นี้ต้ังแตก่ รอบแรก เรยี งไปตำมลำดับโดยไม่ขำ้ ม กรอบใด
กรอบหนึง่

6. เม่ือศกึ ษำบทเรียนสำเรจ็ รูปครบทกุ กรอบแลว้ ให้นกั เรียนทำแบบทดสอบ หลงั เรยี น
และตรวจคำตอบจำกเฉลยเพอ่ื ดคู วำมก้ำวหนำ้ ในกำรเรียนของตนเอง โดยตอ้ งมคี ะแนน
ผำ่ น 60 % หรือ 18 คะแนน

7. ถำ้ นักเรียนมีปัญหำหรือมขี อ้ สงสยั ใหถ้ ำมครผู ู้สอนทันที

Part of speech หำกแปลแบบตรงตัวจะมีควำมหมำยถงึ “สว่ น
ของคำพดู ” ซง่ึ ในกำรเรยี นภำษำอังกฤษนั้น Part of speech คือเรอ่ื ง
พื้นฐำนทีส่ ุด ที่เรำตอ้ งทำควำมเข้ำใจ เพรำะคำพูด วลี หรอื ประโยค
ภำษำองั กฤษต่ำงๆ ท่ีเรำใช้สอ่ื สำรกันน้ัน เกิดจำกกำรนำส่วนประกอบ
เหลำ่ นม้ี ำรวมเข้ำด้วยกัน โดย Part of speech ประกอบไปด้วย 8 สว่ น
ด้วยกัน คือ noun, pronoun, verb, adjective, adverb,
preposition, conjunction และ interjection โดยแตล่ ะสว่ นจะเป็นตัว
บ่งชีว้ ำ่ คำศพั ทแ์ ต่ละคำนน้ั มหี นำ้ ทีใ่ ดในประโยคและควรอยใู่ นตำแหนง่ ใด
จงึ จะสำมำรถนำไปใชไ้ ด้อย่ำงถูกตอ้ งตำมหลักไวยำกรณ์ในภำษำอังกฤษ

รปู คำนำม
ท่ีมำ https://www.pinterest.co.uk/pin/366410119664354515/
สืบค้นเมอ่ื วนั ท่ี 1 มีนำคม 2564

แค่เหน็ ภำพกร็ แู้ ล้วใช่มยั้ ครับ
วำ่ คำนำมนัน้ คืออะไร แต่เพื่อควำมมน่ั ใจ

เรำไปดูคำอธิบำยกันเถอะ

บทเรยี นสำเร็จรูป เรอ่ื ง Part of speech

Noun หรือคำนำม คอื ชื่อท่ีใช้เรียกแทน คน สตั ว์ สิ่งของ สถำนท่ี เหตกุ ำรณ์
คุณสมบตั ิ นำมธรรมทีจ่ บั ตอ้ งไม่ได้อยำ่ ง อำรมณ์ ควำมคิด ควำมรสู้ กึ รวมถึงชอ่ื ของคน
สัตวแ์ ละส่ิงของตำ่ งๆ ดว้ ย เช่น

คน : man, woman, boy, girl, doctor, John, Anna

สัตว์ : dog, cat, bird, pig. tiger,

ส่ิงของ : pen, book. laptop, bag, cup, Mazda, Samsung

สถานท่ี : temple. library, garden, supermarket, laundry, Bangkok, Thailand

โดยคำนำมสำมำรถจำแนกได้หลำยแบบแล้วแตต่ ำรำ ในบทเรียนนี้ จะแบง่ ออกเป็น 3
แบบสำคัญๆคอื Common Nouns, Proper Nouns และ Abstract Nouns

1. Common Noun (นำมทัว่ ไป) เปน็ คำนำมทีใ่ ช้เรียกคน สตั ว์ สิ่งของ สถำนที่
ท่ัวๆไป ควำมคดิ (person, animal, place, thing, idea) โดยไมเ่ ฉพำะเจำะจง กล่ำว
โดยสรปุ คือ คำนำมทั้งหลำยทไี่ มใ่ ช่ proper nouns คอื common nouns เช่น

ส่ิงของ boy, sign, table, hill, water, sugar, atom, elephant
สถำนท่ี city, hill, road, stadium, school, company
เหตุกำรณ์ revolution, journey, meeting
ควำมรู้สกึ fear, hate, love

Common Nouns เป็นไดท้ ้ัง นำมนบั ไดแ้ ละนำมนับไม่ได้ 8
Countable Nouns (นำมนบั ได)้ สำมำรถอยทู่ ง้ั ในรูปเอกพจนห์ รอื
พหูพจน์
มีตัวตน เชน่ dog, man, coin , note, dollar, table, suitcase
ไม่มีตวั ตน เชน่ day, month, year, action, feeling
Uncountable Nouns (นำมนบั ไมไ่ ด้) หรือ Mass Nouns อยู่ในรูปเอกพจน์
เทำ่ นน้ั
มีตวั ตน เชน่ furniture, luggage, rice, sugar , water ,gold, money, salt
ไม่มีตวั ตน เชน่ music, love, happiness, knowledge, advice , information

2. Proper Nouns (นำมเฉพำะ) จะตอ้ งข้ึนต้นดว้ ยตวั ใหญ่เสมอไมว่ ่ำจะอยทู่ ี่ใด
ของประโยค เปน็ คำนำมทเ่ี ป็นชอ่ื เฉพำะของ Common Noun เชน่

ชื่อคน (Person Name) เชน่ Somsak, Tom, Daeng

ช่ือสถำนท่ี ( Place Name) เช่น Australia, Bangkok, Sukhumvit Road, Toyota
ชอ่ื บอกระยะเวลำ (Time name ) เชน่ Saturday, January, Christmas

Proper Nouns จะตอ้ งเขียนข้ึนต้นดว้ ยตัวพิมใหญ่เสมอ

(Capital letter)

3. Abstract Nouns คอื คำนำมทเ่ี กี่ยวกับสภำพอำกำร หรอื เป็นคำนำมที่ไมม่ ี
รปู ร่ำง จบั ตอ้ งไม่ได้ มองไม่เหน็ มลี ักษณะเปน็ นำมธรรม แสดงถึงภำวะ คุณสมบัติ กำร
กระทำ ควำมคดิ เม่ือแปลเป็นภำษำไทยมกั จะมีคำวำ่ ความ หรือ การ นำหน้ำอยดู่ ้วย
เชน่
Decide ตดั สินใจ (verb)  Decision กำรตัดสินใจ (noun)
Imagine จินตนำกำร (verb)  imagination กำรจินตนำกำร (noun)
Happy มีควำมสุข (adj)  Happiness ควำมสุข (noun)
Beautiful สวย (adj)  Beauty ควำมสวย (noun)

โดยหนา้ ทข่ี องคานาม มีดงั นคี้ อื
1. ทาหนา้ ท่ีเป็นประธานของประโยค เชน่

- สมภพชอบกำรวำ่ ยน้ำ
- Sompob likes swimming

2. ทาหน้าที่เป็นกรรมหรือผู้ถูกกระทา เชน่
- สนุ ขั ของฉนั ตีแมว
- My dog hits a cat.

3. ทาหนา้ ที่ขยายนาม เพ่อื ทาใหน้ ามทถ่ี กู ขยายชัดเจนข้นึ เชน่
- สมศรเี ป็นครู
- Somsri is a teacher

4.ทาหนา้ ที่เปน็ ส่วนสมบรู ณ์หรอื ส่วนเตมิ เตม็ เช่น
- เขำเป็นทหำรแตแ่ ฟนของเขำเปน็ พยำบำล

- He is a soldier, but his girlfriend is a nurse.

5. ใชต้ ามหลงั คาบพุ บทเพอ่ื ทาหน้าที่บอกสถานท่ี หรือขยายกริยาให้มเี น้ือความบอก
สถานทีช่ ัดเจนขน้ี เชน่

- พ่อของแซลลี่เปน็ ตำรวจ
- Sally’s father is a police man

6. ใชบ้ อกเวลาโดยขยายคากรยิ าหรอื คานามอ่ืน เช่น
- คุณลงุ ของฉนั จะไปประเทศจนี วันเสำร์

- My uncle will go to China on Thursday

7. ใชเ้ ป็นคาเรยี กขานได้ เชน่
- คณุ ตำรวจ ชว่ ยฉนั ดว้ ย
- Police ! Please help me

เมอ่ื ทราบถงึ คานามแล้ว ตอ่ ไปคอื เรื่องคา
สรรพนามทจ่ี ะมาเป็นตวั ชว่ ยเราในการ

เรียกแทนคานามได้งา่ ยขนึ ้ นน่ั เอง

Pronoun หรอื คำสรรพนำม คือคำท่ีใชเ้ รยี กแทนคำนำม เพอื่ ทเี่ รำจะไดไ้ มต่ ้อง
เรียกช่อื ซำ้ ไปซ้ำมำ เวลำพูดถงึ อกี ในประโยคอน่ื ๆ คำสรรพนำมกอ็ ยำ่ งเชน่ I, You, We,
They, He, She และ It เปน็ ต้น
โดยแบ่งออกเปน็ 2 หมวดหมตู่ ำมประธำน เอกพจน์ และประธำนพหพู จน์
ประธำนเอกพจน์ ไดแ้ ก่ I, you, he, she, it
I แปลวำ่ ฉนั
สำมำรถใชแ้ ทนตัวผพู้ ูดในขณะนั้น
My name is Izzy, I can run very fast. ฉันช่ืออซิ ซี่ ฉนั สำมำรถว่งิ ไดเ้ ร็วมำก

You แปลว่ำ คุณ
ใช้แทนคสู่ นทนำ ผทู้ ่กี ำลังฟังอยใู่ นขณะน้นั
Hello Sarah long time no see, you looks more beautiful.
สวสั ดซี ำร่ำไมเ่ จอกันนำนเลย คุณดสู วยขน้ึ นะ
See you on Monday, hope you enjoy your trip.
เจอกนั วนั จนั ทร์ครบั หวังว่ำคณุ จะสนุกกับกำรเดินทำงนะ

He แปลวำ่ เขำ
สำมำรถใช้แทนสรรพนำมบรุ ษุ ที่ 3 ทีก่ ำลงั กลำ่ วถึงโดย he จะใชแ้ ทนผชู้ ำย
I don’t like Jacky, he always touch my head.
ฉันไม่ชอบแจค็ ก้ีเลย เขำชอบจับหัวฉนั
That man is John, he’s my brother.
ชำยคนนน้ั คอื จอห์น เขำเปน็ นอ้ งชำยฉันเอง

She แปลวำ่ หลอ่ น
สำมำรถใช้แทนสรรพนำมบุรษุ ท่ี 3 ท่ีกำลงั กลำ่ วถึงโดย he จะใชแ้ ทนผ้หู ญงิ
Elizabeth loves watching horror movies because she think it’s exciting.
อลซิ ำเบทรกั กำรดูภำพยนตร์แนวสยองขวญั เพรำะหลอ่ นคดิ วำ่ มันนำ่ ตน่ื เต้น

It แปลว่ำ มัน
It เปน็ สรรพนำมใชแ้ ทน สัตว์ ส่ิงของ หรอื สถำนที่
I like this house, it is the place where I was born.

ประธานพหพู จน์ ไดแ้ ก่ we, you, they
We แปลว่ำ พวกเรำ
We จะใช้แทนตัวผพู้ ดู ทก่ี ล่ำวรวมผูอ้ ่นื ในกลมุ่ ดว้ ย ก็คือ พวกเรำ สะดวกไม่ต้องระบุชอ่ื
ทกุ คนเมอ่ื ตอ้ ง กำรกลำ่ วถงึ บคุ คลทั้งหมดในกลุ่ม
We come from Spain
พวกเรำมำจำกสเปน
We will build a big statue for you.
พวกเรำจะสรำ้ งรูปป้นั ใหญ่โตไว้เพือ่ คุณ

You แปลวำ่ คุณ
You จะเป็นพหูพจน์ แปลว่ำ พวกคณุ ในกรณีทม่ี ีหลำยคนยนื หนำ้ ผพู้ ูด
Everyone do not walk this way, you will be punished
ทกุ คนหำ้ มเดินผำ่ นทำงนี้ไมง่ ั้นจะโดนทำโทษ

They แปลวำ่ พวกเขำ
เปน็ คำสรรพนำมแทนกลมุ่ บคุ คลทส่ี ำม ทีก่ ล่ำวถึงใน ระหว่ำงสนทนำกนั
They walk along this road.
พวกเขำเดินไปตำมถนนเส้นน้ี
They are here now.
พวกเขำอยูท่ ่ีนี่ในขณะน้ี

อกี หนึง่ สว่ นสำคัญที่จำเป็นตอ้ งใช้ในกรณีที่
Pronoun เหล่ำน้ี อยู่ในกรณีท่ีเปน็ กรรม หรอื

ถกู กระทำ ตอ้ งเปล่ียนใหถ้ ูกต้องนะครับ
ตำมตำรำงดำ้ นล่ำงนเ้ี ลย

Pronoun Object Pronoun
I Me
You
You Us
We Them
They Him
He Her
She it
it

และนี่ก็คือตวั อยา่ งประโยคท่ีนาคา
สรรพนามไปใช้ในกรณีท่เี ป็น
object pronoun ครับ

- Don’t forget to tell he about our trip. 
- Don’t forget to tell him about our trip.

- Please take this box to she .
- Please take these box to her. 

- She loves I. 
- She loves me. 

- They told we about the final exam. 
- They told us about the final
exam. 

- My dogs are running in the garden with
they. 

- My dogs are running in the garden with
them. 

Asd

รูป Adverb
ที่มำ https://whatistheurl.com/action-verbs-charts/
สบื คน้ เมอ่ื วันที่ 1 มนี ำคม 2564

ในบทเรียนนจ้ี ะเปน็ เร่ืองของ Verb
หรือคำกริยำน่ันเอง

Verb (กรยิ ำ) คือคำทแี่ สดงถงึ กำรกระทำหรอื ถกู กระทำของคำทที่ ำหนำ้ ที่เป็น
ประธำน(หรือคำทีท่ ำหนำ้ ท่ชี ว่ ยกริยำดว้ ยก็ได)้ เพือ่ บอกถึง Tense (ชว่ งเวลำท่ีกระทำ)
Voice (ผู้พดู ) Mood (อำรมณ)์

โดย Verb แบง่ ออกเป็น 3 ชนดิ คือ
1. Transitive Verb กริยำท่ีต้องมีกรรมมำรับ
2. Intransitive Verb กริยำท่ไี ม่ต้องมีกรรมำรบั
3. Auxiliary Verb กริยำที่บอก Tens, Voice, Mood.

1. สกรรมกริยา คอื กริยำทีต่ อ้ งมกี รรมมำรบั จงึ จะได้เนอ้ื ควำม
สมบูรณ์ เช่น Kick (เตะ), Eat (กิน) เปน็ ต้น.

คำทน่ี ำมำเปน็ กรรมของสกรรมกรยิ ำไดก้ ็คอื
1. นำมทุกชนิด เช่น A mango.
2 สรรพนำม เชน่ Him.
3. กรยิ ำสภำวมำลำ(สภำวะทเ่ี กดิ อยกู่ บั ชวี ิต) เชน่ To study.
4. กรยิ ำท่เี ติม ing แล้วนำมำใชเ้ ป็นนำม เช่น sleeping.
5. วลีทกุ ชนิด เชน่ I don’t know what to do.
6. อนุประโยค เชน่ I know who will come tomorrow.

2. อกรรมกรยิ า คอื กรยิ ำทีม่ เี นอ้ื ควำมอยู่ในตัวสมบรู ณ์แล้ว ไม่ต้องมีกรรมมำ
รบั เช่น Run, sleep, swim, sit. เปน็ ต้น แตอ่ กรรมกริยำบำงตัวกต็ อ้ งมีตัวขยำย
กริ ิยำเพอ่ื ใหป้ ระโยคได้ใจควำมสมบรู ณ์ ซง่ึ อกรรมกรยิ ำนั้นก็ไดแ้ ก่ Verb to be (เปน็
, อย,ู่ คอื ) Verb to have (เฉพำะแปลว่ำ ม)ี Become กลำยเปน็ ), Seem (ดู
เหมอื นว่ำ), Feel (รู้สกึ ) Look (ดูเหมือน) Taste (มรี ส) Appear (ปรำกฏ,รุ
สกึ ) Smell (มกี ลน่ิ ) , Grow (เจรญิ ) เป็นต้น.

3. กรยิ านุเคราะห์ หรือกริยำชว่ ย ไดแ้ ก่กรยิ ำท่ไี ปทำหน้ำที่ช่วยกรยิ ำตวั
อ่ืน เพอ่ื ให้เปน็ Mood, Voice, Tense ซ่ึงกริยำเหลำ่ นใ้ี ชเ้ ป็นกริยำแท้กไ็ ด้ ใช้เปน็
กริยำช่วยกไ็ ด้ มอี ยทู่ ั้งหมด 24 ตัว คอื .
Is, am, are, was, were, Have, has, had, Do, dose, did, Will, would,
Shall, should, Can, could, May, might, Must, Need, Dear,
Ought to, us to.

การทนี่ ้องๆจะสงั เกตวา่ กริยาแท้หรือเป็นกริยาชว่ ยก็ให้ดวู า่ หากกริยา
ตวั ใดตวั หนง่ึ จาก 24 ตวั นอี ้ ยลู่ าพงั โดยไมม่ กี ริยาตวั อน่ื มาร่วมด้วย ก็
แสดงวา่ เป็นกริยาแท้ แตถ่ ้าอยรู่ ่วมกบั ตวั อืน่ ก็เป็นกริยาชว่ ย เชน่

Ladda is a beautiful girl. (แท้).
Ladda is drinking water. (ช่วย).

หน้าท่ีของ Verb to do หน้าที่ Verb to be

Verb to ใชท้ ำหน้ำทชี่ ่วยกรยิ ำตวั อนื่ ได้ดงั น.ี้ Verb to be ใช้ทำหน้ำทีช่ ว่ ยกรยิ ำตัวอ่นื ไดด้ งั นี้

1. ชว่ ยทำประโยคบอกเล่ำใหเ้ ปน็ ประโยคคำถำม ตำม 1. วำงไวห้ น้ำกริยำทีเ่ ติม Ing ทำให้ประโยคน้นั
หลักท่ีว่ำ เป็น Continuous tense.

Verb to have ไม่มี 2. วำงไว้หนำ้ กริยำช่อง 3 (เฉพำะสกรรมกรยิ ำ) ทำให้
ประโยคนน้ั เป็นกรรมวำจก(เอำกรรมขน้ึ ตน้ ประโยค) มี
Verb to be ไมอ่ ยู่ สำเนยี งวำ่ ถกู เชน่ A glass is broken. แกว้ ถกู ทำให้
แตกเสยี แล้ว เปน็ ตน้ .
Verb to do มำชว่ ย
3. วำงไว้หนำ้ Infinitive แปลวำ่ จะตอ้ ง มคี วำมหมำย
2. ช่วยทำประโยคบอกเล่ำใหเ้ ปน็ ประโยคปฏิเสธเหมอื น เปน็ อนำคต เพื่อแสดงควำมจงใจ เชน่ I
กรณีขอ้ 1 (เตมิ ing หลงั do, dose ) am to see my home every year. ฉันต้องไป
เยย่ี มบ้ำนของฉันทุกๆปี เปน็ ต้น.
3. ชว่ ยหนุนกรยิ ำตวั อ่นื เพ่ือใหค้ วำมสำคญั กบั กริยำตวั
น้นั ว่ำจะต้องเป็นเชน่ นั้นจรงิ ๆ โดยเรยี งไว้หนำ้ กรยิ ำทีม่ ันไป
หนุน.

4. ใช้แทนกริยำตวั อน่ื ในประโยค เพ่อื ตอ้ งกำรมิให้กล่ำว
กรยิ ำน้นั ๆซำ้ ๆซำกๆ.

5. Verb to do ถ้ำนำมำใชเ้ ปน็ กริยำแทแ้ ปลว่ำ ทำ.

Verb to have ใช้ทำหน้ำทดี่ ังนคี้ อื
1. เรยี งไว้หน้ำกรยิ ำช่อง 3 ทำให้ประโยคนน้ั เป็น Perfect tense.
2. ใชโ้ ดยมีกรยิ ำสภำวมำลำตำมหลัง มีสำเนยี งแปลว่ำ ตอ้ ง ตลอดไป เช่น
I have to meet you tomorrow. ฉนั ต้องไปพบท่ำนวนั พรุง่ น้ี.
3. ใชใ้ นประโยคท่ีใหผ้ ้อู ่ืนทำอย่ำงใดอยำ่ งหนงึ่ ให้ ในกรณีนตี อ้ งใช้รูป
ประโยค Have + noun + Verb3
เช่น He has his house repaired. เขำให้ชำ่ งซ่อมแซมบำ้ นของเขำ.

รูป Adjective
ที่มา www.islcollective.com
สืบคน้ เมื่อวนั ท่ี 14 มีนาคม 2564

Adjective (คุณศพั ท์) คือคำ ( word ) วลี ( phrase ) หรือประโยค
(sentence) ซง่ึ ใช้อธิบำยหรอื ขยำยคำนำม หรอื สรรพนำม ใหไ้ ด้ ควำมชัดเจนยิ่งขึ้น
กล่ำวคอื เป็นกำรบอกใหร้ ลู้ กั ษณะคณุ สมบัติของนำมหรอื สรรพนำมนนั้ ว่ำเปน็ อยำ่ งไร
เช่น good, bad, new, hot, my

เวลานาไปใช้นั้นปรกติมีวิธีใชอ้ ยู่ 2 วิธคี ือ

1. เรยี งไวห้ นา้ นามที่ Adj. นนั้ ไปขยายโดยตรงกไ็ ด้ เช่น

The fat man can’t run quick.

A clever boy can answer a difficult problem.

2. เรยี งไวห้ ลัง Verb to be ก็ได้ เช่น.

Somsri is beautiful.

My dog is black.

โดยทั่วไปแบง่ ออกได้ 8 ชนิดคอื

1. Proper adjective 2. Descriptive adjective

3. Quantitative adjective 4. Numeral adjective

5. Demonstrative adjective 6. Distributive adjective

7. Possessive adjective 8. Interrogative adjective

1. Proper adjective (คณุ ศพั ท์แสดงสญั ชำต)ิ เป็นคำคณุ ศพั ทท์ ่ขี ยำยนำมเพือ่
บอกสญั ชำติ มีรูปเปลย่ี นแปลงมำจำก Proper noun และตอ้ งขึน้ ตน้ ดว้ ยตวั ใหญเ่ สมอ
โดยแบ่งตำมคำลงทำ้ ยดงั น้ี

Proper noun Proper adjective

ลงท้ำยดว้ ย -ese

China Chinese

Japan Japanese

Lebanon Lebanese

ลงท้ำยดว้ ย -an

Germany German

Laos Laotian

Mexico Mexican

Brazil Brazilian

Proper noun Proper adjective

ลงท้ำยดว้ ย –I

Iraq Iraqi

Israel Israeli

Pakistan Pakistani

คำพิเศษ

Thailand Thai

Greece Greek

ประเทศซึ่งคำคุณศพั ท์ กับคำทเ่ี รียกคนของประเทศนนั้ ไมเ่ หมอื นกัน

Holland Dutch
Ireland Irish

2. Descriptive Adjective (คณุ ศัพทแ์ สดงคณุ สมบตั ิ) เป็นคำคณุ ศพั ท์บอก
ลกั ษณะ คอื จะไปขยำยนำมเพอ่ื บอกใหร้ ูว้ ำ่ นำมนัน้ มีลักษณะ คณุ สมบตั ิ หรอื ควำม
พิเศษอย่ำงไร เปน็ ชนดิ ทใ่ี ชม้ ำกที่สดุ เชน่

Descriptive Adjective Meaning
Large ใหญ่
Fat อ้วน
Cheap
ถูก (รำคำ)
Expensive แพง
Handsome หลอ่
เล็ก
Small

ตัวอย่ำง เชน่

- A handsome man ผู้ชำยหลอ่ คนหนง่ึ

- An expensive car รถรำคำแพง

3. Quantitative Adjective (คณุ ศัพท์แสดงปริมำณที่นับไม่ได้) เปน็
คำคณุ ศพั ท์บอกปริมำณ คือไปขยำยนำมทนี่ ับไม่ได้ (uncountable noun) เพ่ือบอกให้
ทรำบปรมิ ำณของสิ่งนัน้ วำ่ มีมำกหรอื น้อย แต่ไมบ่ อก จำนวนแน่นอน เชน่

Quantitative Adjective Meaning
Much มำก
Any
Half บำ้ ง,ใดๆ
Enough คร่งึ
Little
All เพียงพอ
เลก็ นอ้ ย
ทง้ั หมด

Some บ้ำง
Sufficient เพยี งพอ

4. Numeral Adjective เปน็ คำคณุ ศพั ทท์ บ่ี อกจำนวนมำกน้อยของนำมที่นับ
ได้ (countable noun) หรือบอกลำดับกอ่ นหลงั (order) ของคำนำม แบง่ เปน็ 2 พวก

1. บอกจำนวนทีแ่ น่นอน (Definite Numeral) อำจจะแบ่งออกได้เป็น 3
ชนดิ

(1) บอกจำนวนนับ (Cardinal) one, two, three, four ………..

(2) บอกลำดับท่ี (Ordinal) first, second, third…………….

(3) บอกจำนวนเท่ำ (Multiplicative) single, double, triple…

2. บอกจำนวนท่ไี มแ่ น่นอน (Indefinite Numeral) เช่น many, no,
few, some, several, any, all, enough

5. Demonstrative Adjective เป็นคำคณุ ศพั ทช์ ้เี ฉพำะคำนำม ซ่ึงระบเุ จำะจง
ไปโดยชดั แจ้งว่ำเปน็ คำนำมอนั ไหน ส่งิ ไหน หรอื คนใด แบ่งเป็น 2 ชนิด

1. Definite Demonstrative ชเี้ ฉพำะโดยชดั แจง้ ได้แก่ the this these
that those such the same the other

2. Indefinite Demonstrative ช้ีใหเ้ ห็นอยำ่ งกว้ำง ไดแ้ ก่ a, one, such,
any, other, an, certain, some, other, any, another

6. Distributive Adjective เป็นคำคณุ ศพั ท์ซงึ่ ไปขยำยคำนำมเพอ่ื แยกคำนำม
นนั้ ๆออกจำกกัน เชน่

each แตล่ ะ ใชส้ ำหรบั 2 สง่ิ หรือมำกกวำ่ ขึ้นไป

every ทุกๆ ใช้เฉพำะนำมท่ีมำกกวำ่ 2 ส่ิงข้ึนไป

either อันใดอันหนง่ึ ใน 2 ส่ิง

neither ไมใ่ ช่ทัง้ 2 ส่ิง

7. Possessive Adjective เปน็ คำคณุ ศพั ท์ประกอบหนำ้ นำมเพอื่ แสดงควำม
เป็นเจ้ำของ เช่น

Possessive Adjective Meaning
My ของฉนั
Yours ของคณุ
His ของเขำ
Her ของหล่อน
Its ของมัน
Their ของพวกเขำ
Our ของพวกเรำ

8. Interrogative Adjective เป็นคำคณุ ศพั ทข์ ยำยคำนำมเพอ่ื แสดงคำถำม
เชน่ what which whose หมำยเหตุ คำคุณศพั ทเ์ หล่ำน้ีจะตอ้ งมคี ำนำมตำมหลงั
เพรำะหำกไมม่ คี ำนำมตำมหลัง จะกลำยเปน็ สรรพนำม ( pronoun ) ไมใ่ ช่คุณศพั ท์ เชน่

What book is he reading in the room? (เขำกำลังอำ่ นหนงั สอื อะไร
อยู่ในหอ้ ง)

Which way shall we go? (เรำจะไปทำงไหนกนั นี่?)

Whose shoes are these? (รองเทำ้ นี้เปน็ ของใคร)

รูป Adverb
ทม่ี ำ https://theenglishcorner3.blogspot.com/p/english_23.html
สืบค้นเมือ่ วันที่ 1 มนี ำคม 2564

Adverbs คือคำทท่ี ำหน้ำทข่ี ยำยกริยำ, คุณศัพท์, หรือ
ขยำย Adverbs ด้วยกนั กไ็ ด้ โดยมหี ลกั กำรใช้คือ

- ถ้ำขยำยกริยำให้เรียงไว้หลงั
กริยำ เช่น The old man walk slowly.

- ถ้ำขยำยคุณศัพท์ ให้เรียงไว้หน้ำคุณศัพท์ เช่น Dang
is very strong.

- ถ้ำขยำย Adverbs ให้เรียงไว้หน้ำ Adverbs เช่น The
train runs very fast.

ชนดิ ของ Adverbs

Adverbs แบ่งออกเป็นหมวดใหญๆ่ ได้ 3 หมวด คือ

1. Simple Adverbs กริยำวเิ ศษณ์สำมญั ใช้ขยำยกริยำธรรมดำนี่เอง
แบ่งได้ 6 หมวดคอื

1. Adverbs of time กรยิ ำวิเศษณ์บอกเวลำ ได้แกค่ ำวำ่ now, ago,
yesterday, ...

2. Adverbs of place กรยิ ำวิเศษณบ์ อกสถำนที่ ได้แก่คำว่ำ near,
far, in, out, …

3. Adverbs of frequency กรยิ ำวิเศษณ์บอกควำมสม่ำเสมอ

ได้แก่คำว่ำ always, often, again, usually,

4. Adverbs of Manner กรยิ ำวเิ ศษณบ์ อกอำกำร ได้แก่คำ
ว่ำ well, slowly, quickly, fast..

5. Adverbs of Quantity กริยำวิเศษณ์บอกปริมำณมำกนอ้ ย ได้แก่
คำว่ำ Many, much, very, too, quite…

6. Adverbs of affirmation or negation กรยิ ำวิเศษณ์บอกกำร
รบั หรอื ปฏเิ สธ ได้แกค่ ำวำ่ yes, no, not, not at all…

2. Interrogative Adverbs กริยำวเิ ศษณ์คำถำม ใชข้ ยำยกรยิ ำเพอื่ ให้
เป็นคำถำม (ตอ้ งวำงไวห้ น้ำประโยคเสมอ) แบ่งได้ 6 หมวด คือ

1. บอกเวลำ ได้แก่คำว่ำ When (เมอ่ื ไร), How long (นำน
เท่ำไร).

2. บอกสถำนท่ี ได้แกค่ ำว่ำ Where (ทไ่ี หน).

3. บอกจำนวน ไดแ้ กค่ ำว่ำ How many (มำกเทำ่ ไร), How
often (กี่คร้งั )..

4. บอกกรยิ ำอำกำร ได้แกค่ ำว่ำ How (อย่ำงไร) ใชก้ ับ do

5. บอกปรมิ ำณ ไดแ้ กค่ ำว่ำ How much (มำกเทำ่ ไร).

6. บอกเหตผุ ล ไดแ้ ก่คำวำ่ Why (ทำไม).

3. Conjunctive Adverbs กริยำวิเศษณส์ นั ธำน ใช้เชอื่ มประโยคหนำ้
และหลังใหส้ มั พันธ์กัน ไดแ้ กค่ ำวำ่ Why,
Where, When, How, Whenever, While , As

หมำยเหตุครับ Adverbs บำงคำมรี ูป
เชน่ เดยี วกบั Adj. แต่กำรใชต้ ่ำงกัน เช่น fast,
hard, low, right, etc ซ่ึงเรำจะสังเกตไดจ้ ำก
กำรวำง คอื

- เม่ือวำงไว้หน้ำนำม หรอื
หลัง Verb to be ก็จะเปน็ Adj.

- ถำ้ วำงไวห้ ลังกรยิ ำท่วั ๆไป กจ็ ะ
เปน็ Adverbs.

รปู Preposition
ที่มำ https://depositphotos.com/vector-images/preposition.html
สืบคน้ เมอ่ื วันที่ 1 มนี ำคม 2564

Preposition หรือคำบพุ บท คอื คำที่ใช้
เชื่อมคำนำมกบั คำนำม หรอื เช่อื มคำนำม

กบั วลี/ประโยค

ซ่งึ Preposition ทีส่ ำคัญและพบกัน
อย่เู สมอ ไดแ้ ก่

Preposition Meaning Preposition Meaning
On บน From จำก
After Among ระหว่ำง
At หลังจำก Before กอ่ น
ที่ Of ของ
Behind ระหวำ่ ง
Into ขำ้ งหลงั Between
Under เข้ำไปข้ำงใน Out of ออกจำก
Outside During ระหวำ่ ง
Over ข้ำงใต้ For สำหรับ
Against ข้ำงนอก Along ไปตำม
Without เหนอื ,บน Until จนกระท่งั
In ชิด,ติด ที่,เวลำ
ปรำศจำก At

ใน

กำรใช้ in, at, on บพุ บททีใ่ ชก้ ับเวลำมหี ลกั ดังนี้.

In: ใชบ้ อกเวลำที่เป็นช่อื เดอื น, ปี, ฤดกู ำล, และส่วนของวัน
เชน่ I like to swim in the morning. ผมชอบวำ่ ยนำ้ ในเวลำเช้ำ.

At : ใชเ้ พื่อบอกเวลำเกี่ยวกับช่วั โมง ,

noon, night, midnight, midday, Christmas, Easter เพอ่ื บอกเวลำ
เฉพำะเจำะจง เชน่ They want home at three o’clock, พวกเขำกลับบ้ำน
เวลำ 15.00 น.

On : ใช้เพอ่ื บอกเวลำทเี่ ป็นวนั ของสปั ดำห์ และวันที่ วนั สำคญั ทำง
รำชกำร และวนั สำคญั ทำง
ศำสนำ เชน่ on Sunday, On New Year’s Day , On King’s Birthday. etc
. On time แปลว่ำ ตรงเวลำพอดี (ตรง
พอด)ี . เชน่ He comes on time. เขำมำตรงเวลำพอด.ี

In time แปลวำ่ ทนั เวลำ (กอ่ นเวลำ, ก่อน
กำหนด). เช่น The train arrived at the station in time. รถไฟมำถงึ
สถำนที นั เวลำ(มำถงึ กอ่ นเวลำ).

กำรใช้ at, in บรุ พบทท่ีใช้เก่ยี วกับสถำนทมี่ หี ลกั ดงั นี้

at : ใชบ้ อกสถำนทที่ ไ่ี มใ่ หญโ่ ตนัก ท่จี ำกดั
แน่นอน เช่น at school, at the hotel….

in : ใช้บอกสถำนที่ทีใ่ หญโ่ ตกไ็ ดเ้ ชน่ in Thailand. หรือใช้บอกสถำนทีท่ ่ี
เจำะจงภำยในแห่งใดแหง่ หนึ่งไมว่ ำ่ ใหญ่หรือโตกไ็ ด้ เช่น In the house,
in a country เปน็ ต้น.

กำรใช้ During, between, among มีหลกั เกณฑด์ ังน้ี

คำท้ัง 3 แปลว่ำ “ระหวำ่ ง” แต่ใช้ตำ่ งกนั ดังนี้

During: ใช้สำหรับบอกระยะเวลำกำรกระทำชว่ งใดช่วงหนึง่ ตำมท่รี ะบไุ วใ้ น
ประโยค เชน่

During visiting Thailand, I had seen the Emerald BuddhaTemple.

ระหว่ำงกำรมำเท่ียวประเทศไทย ฉนั ไดไ้ ปชมวัดพระแกว้ เปน็ ต้น.

Between: ใช้สำหรับครนั่ ระหวำ่ งของสองอยำ่ ง หรอื คนสอง
คน เช่น She is standing between you and me. หล่อนยนื อยู่ระหวำ่ งคุณ
และผม (เมอ่ื ใช้ between ต้องมี and ตำมเสมอ).

Among : ใช้สำหรบั ครัน่ หรือเช่อื มนำม ทีม่ จี ำนวนต้งั แต่ 3 ข้ึน
ไป เชน่ The teacher is standing among us . เปน็ ตน้

รปู Conjunction
ทมี่ ำ www.inkforall.com
สืบคน้ เมอ่ื วนั ที่ 1 มนี ำคม 2564

ท่มี ำ https://deCpoositnphjoutons.ccotmi/ovenctor-im(คagำesส/pันrepธoำsiนtio)n.hคtmอื l คำท่ใี ชเ้ ชือ่ มประโยคตอ่
ประโยคสบื ค้นเมอ่ื วันที่ 1 มนี ำคม 2564 คำตอ่ คำ หรือระหวำ่ งกรยิ ำตอ่ กรยิ ำ

Conjunction แบง่ ออกเป็น 2 ชนิดคอื
1. Conjunction คำเดยี ว
2. Conjunction คำผสมหรือวลี

Conjunction ที่พบเหน็ บอ่ ย และใช้กันแพร่หลำยมดี งั น้ี

Conjunction Meaning Conjunction Meaning
And และ or หรือ
But แต่ because เพรำะว่ำ
So ดังนน้ั as เช่น, รำวกบั วำ่
for เพ่อื ,สำหรับ whether หรือไม่,หรือเปล่ำ
until จนกระท่ัง after หลงั จำก
before ก่อน If ถ้ำ
though แมว้ ำ่ That วำ่ ,นัน่ ,ซง่ึ
when เมอ่ื even if แม้วำ่

เช่น
He is sick, so he go to see doctor.
เขำไมส่ บำย ดังนัน้ เขำจึงไปหำหมอ
My brother worked hard, but he did not succeed.
พ่ีชำยของฉนั ทำงำนหนักแต่เขำกย็ งั ไม่ประสบควำมสำเรจ็
The girl cried after the boy left.
เด็กหญิงรอ้ งไห้ หลงั จำก เดก็ ชำยจำกไป

Conjunction วลี หรอื คำผสมที่พบเหน็ บ่อยๆได้แก่คำตอ่ ไปนค้ี อื

- Either….or แปลว่ำ “ไม่อนั ใดกอ็ นั หนงึ่ ” ใชเ้ ลอื กเอำอย่ำงใดอยำ่ งหน่งึ
ถำ้ ไปควบประธำน 2 คำจะใชก้ รยิ ำเปน็ รูปเอกพจนห์ รือพหพู จนน์ ้นั ขนึ้ อยูก่ บั ประธำนตวั
หลัง เช่น Either he or I am mistaken. ไมเ่ ขำก็ผมเป็นผผู้ ิด.

- Neither…..or แปลว่ำ “ไม่ท้งั สอง” ไว้สำหรับปฏเิ สธโดยสน้ิ เชงิ (กริยำถอื
ตำมประธำนตัวหลงั ).เชน่ Neither you nor he studies mathematics. ทงั้ คณุ
และเขำไมไ่ ด้เรยี นคณติ ศำสตร์.

- As well as แปลว่ำ "เช่นเดยี วกนั กับ" (กรยิ ำถือตำมประธำนตัว
หนำ้ ) เชน่ He as well as I is sick เขำก็เช่นเดียวกนั กับผมไม่สบำย.

- Not only………but also แปลว่ำ “ ไมเ่ พียงแต…่ …..เท่ำนน้ั แตย่ งั อีก
ด้วย” ใชเ้ น้นน้ำหนักข้อควำมทงั้ สองใหเ้ ดน่ ชดั (แตต่ อ้ งมคี วำมหมำยทำง
เดียวกัน) (แต่ถำ้ มีประธำน 2 ตวั ใชก้ รยิ ำตำมประธำนตวั หลงั ) เชน่ Malisa is not
only beautiful but also clever. มำลิสำไมเ่ พียงแตส่ วยเทำ่ น้ัน แตย่ ังฉลำดอกี
ด้วย.

รูป Interjection
ที่มา https://prowritingaid.com/Interjections
สืบคน้ เม่ือวนั ท่ี 1 มีนาคม 2564

กำรอทุ ำน (Interjection = อินเตอร์เจคช่นั ) คอื
คำพดู ทพ่ี ูดออกไปดว้ ยอำรมณ์ตำ่ งๆ เพ่อื แสดงออกถึง
ควำมรสู้ ึกท่ีเกดิ ขึ้นขณะนน้ั เช่น ดใี จ เสียใจ หรือ โกรธ เปน็
ตน้

รปู แบบของกำรอทุ ำน มี 2 ชนิด คอื
1. กำรอทุ ำนทเี่ ปน็ คำเดยี วโดดๆ หรอื เป็นกลมุ่ คำ (วล)ี เช่น
2. กำรอุทำนทอ่ี อกมำในรปู แบบของประโยค เช่น ประโยคอุทำนทขี่ น้ึ ตน้
ดว้ ย What และ How

1.การอุทานทเ่ี ปน็ คาเดยี วโดดๆ หรือเป็นกลมุ่ คำ (วลี) เช่น
ประหลาดใจ
- Oh! (โอ) = โอ! ออ! โอ้โฮ!
- Indeed (อินดีด) = จรงิ ๆ! แท้จรงิ !
- Wow (เวำ) = โอ้โฮ!
เศร้าใจ
- Alas! (อะแลส็ ) = โอย! ตำยจรงิ !
- Ah! (อำ) (= อำ! โอย!
- Alack! (อะแลค็ ) = อนิจจำ!
ดใี จ
- Hurrah (ฮรู ำ) = ไชโย!
- Ha! (ฮำ) = ฮำ!
- Bravo! (บรำโว) = ไชโย!

รงั เกยี จ
- Ugh! (อฮุ ) = ทุด! ถยุ !
เหยียดหยาม
- Dam! (แด็ม) = สมน้ำหนำ้ !
- Pooh! (พู่) = ชึ!
- Bosh! (บ็อช) = เหลวไหล!
ติเตยี น
- Fie! (ไฟ) = เชอะ! ถยุ !

เรียกหรือทักทาย
- Ho! (โฮ) = ฮำ้ !
- Hello (เฮล็ โล) = สวสั ดี!
- Hullo (ฮะโล) = ฮัลโหล!

คาอทุ านท่เี ป็นกลุ่มคาไดแ้ ก่
1. Well done! (เว็ล ดนั ) = เยี่ยมไปเลย!
2. Just my luck! (จัสท มำย ลคั ) = โชคของผมแทๆ้ !
3. O dear me! (โอ เดยี ร์ มี) = โอ่ ไดโ้ ปรดเถอะ!

2. กำรอุทำนทอ่ี อกมำในรปู แบบของประโยค เช่น ประโยคอทุ ำนทขี่ ้ึนต้น
ดว้ ย What และ How เชน่

1. What a pity! (ว็อท อะ พทิ ท)ิ
ช่ำงนำ่ สงสำรอะไรอย่ำงนนั้
2. What a mess! (วอ็ ท อะ เมส)
มนั ชำ่ งสับสนอะไรอยำ่ งนนั้
3. What a fool he is!(ว็อท อะ ฟลู ฮี อีส)
เขำช่ำงโง่อะไรอย่ำงนัน้ !
4. What a shame you can’t come!
(วอ็ ท อะ เชม ยู คำ้ นท คัม)
ชำ่ งนำ่ อำนอะไรอยำ่ งนนั้ ทคี่ ุณมำไม่ได!้
5. What an awful noise!
(ว็อท แอน ออฟลู นอยซ)
มันชำ่ งเสียงดงั อะไรอย่ำงน้นั !
นอกจำกนปี้ ระโยคอทุ ำน ยงั ใชเ้ พือ่ กำรอวยพร หรือแสดงควำมยนิ ดไี ดอ้ กี ด้วย
เช่น
1. Best of luck. (เบสท ออฟ ลกั ค)
ขอให้โชคดี

2. God save you. (กอด เซฟว ยู)
ขอใหพ้ ระเจำ้ คมุ้ ครองคณุ
3. Have a good trip.
(แฮ็ฟ อะ กดู ทรพิ )
ขอให้เดนิ ทำงโดยปลอดภยั

บรรณานุกรม

ภาษาองั กฤษออนไลน์. (2561). อธิบำยคำนำมภำษำองั กฤษอย่ำงกระจ่ำงแจ้ง. [ออนไลน]์

เขา้ ถึงไดจ้ าก https://ภาษาองั กฤษออนไลน์.com/noun-คืออะไร (วนั ที่สืบคน้
ขอ้ มูล 13 กุมภาพนั ธ์ 2564)

Krubannok. (2551). Nouns (คำนำม) Types (ชนิดของคำนำม). [ออนไลน์] เขา้ ถึงไดจ้ าก
https://krubannok/696 (วนั ที่สืบคน้ ขอ้ มูล 13 กมุ ภาพนั ธ์ 2564)

Siriporn Chitchuen. (2563). หน้ำทข่ี องคำนำม. [ออนไลน์] เขา้ ถึงไดจ้ าก
http://nkw05174.circlecamp.com/index.php?page=aboutus (วนั ท่ีสืบคน้ ขอ้ มูล 13
กมุ ภาพนั ธ์ 2564)

SiamEBook. (2564). ตวั อย่ำงประโยคบุรุษสรรพนำมภำษำองั กฤษ. [ออนไลน์] เขา้ ถึงไดจ้ าก
http://www.siamebook.com/lbro/en/english-pronoun/5089-i-you-we-he-she- they-it.

(วนั ท่ีสืบคน้ ขอ้ มูล 13 กุมภาพนั ธ์ 2564)

สุมนา สุวรรณ์. (2563). พืน้ ฐำนภำษำองั กฤษ English. [ออนไลน์] เขา้ ถึงไดจ้ าก
https://sites.google.com/site/englishprogram406/phun-than-phasa-xangkvs (วนั ท่ีสืบคน้ ขอ้ มูล 13
กมุ ภาพนั ธ์ 2564)

Krubannok. (2551). Adjective ตำแหน่งของคุณศัพท์ (Position). [ออนไลน์] เขา้ ถึงไดจ้ าก
https://www.kroobannok.com/706 (วนั ท่ีสืบคน้ ขอ้ มูล 14 กุมภาพนั ธ์ 2564)

Wall Street English. (2562). PART OF SPEECH คืออะไร? สำคญั อย่ำงไร?. [ออนไลน์] เขา้ ถึง
ไดจ้ าก https://www.wallstreetenglish.in.th/เรียนภาษาองั กฤษ/part-of-speech-คือ
อะไร/ (วนั ท่ีสืบคน้ ขอ้ มูล 14 กุมภาพนั ธ์ 2564)




Click to View FlipBook Version