กาพย์เห่เรือ เห่ชมปลา
ศึกษาค้นคว้า คำ ศัพท์ แบบฝึกหัดที่ 1
เพ่งดู,จ้องดู,ดูอย่างพิจารณา พิศ มัสยา ปลา
คางเบือน นวลจันทร์ ปลาชนิดหนึ่งที่รูปร่างผอมเพรียวยาว ปากเล็กตาโต ปัจจุบันได้สูญพันธุ์ไป แล้ว ปลาชนิดหนึ่ง ลำ ตัวแบน หน้างอนขึ้น ปากเชิด
เบือน ตาดพราย หัน,เห,เบน,หันหน้าหนี สไบ โดนทอด้วยไหมควบกับ เงินแล่งหรือทองแล่ง
กระแห สำ อาง ปลากระแห มีรูปร่างป้อมสั้น ลำ ตัวแบนข้าง หัวและตาเล็ก ปากสั้น สะอาดหมดจด,งามสะอาดหมดจด
เงินยวง เคล้า เนื้อเงินบริสุทธิ์ที่ละลายคว้างอยู่ในเบ้า มีสีขาวเงินเป็นมันวาว คลอเคลีย
หางไก่ สุดา ปลาชนิดหนึ่ง ลำ ตัวแบนข้าง ปลายปาก ถึงครีบหลังเป็นรูปสามเหลี่ยม เกร็ดเล็ก หลุดง่าย ก้านครีบยาวคล้ายหนวด หญิงสาว
เกศ หวีเกศ ผม,หัว ปลาชนิดหนึ่ง ไม่มีเกล็ด มีหนวดคล้าย กับเส้นผมของผู้หญิง
นาฏ หญิงสาวสวยที่เป็นนางละคร
การถอดความ คำ ประพันธ์ แบบฝึกหัดที่ 2
บทที่ 1 พิศพรรณปลาว่ายเคล้า ถวิลสุดาดวงจันทร์ มัตสยาย่อมพัวพัน ควรฤพรากน้องช้า คลึงกัน แจ่มหน้า พิศวาส ชวดเคล้าคลึงชม เมื่อกวีเห็นปลาสายพันธุ์ต่าง ๆ ว่ายปะปนกัน ทำ ให้นึกถึง นางอันเป็นที่รักที่เปรียบเป็นดวงจันทร์ของกวี ทั้งที่หมู่ปลายัง ได้อยู่ใกล้ชิดคลอเคลียกันแต่ตัวกวีต้องพรากจากนางอันเป็นที่รัก
บทที่ 2 พิศพรรณปลาว่ายเคล้า มัตสยายังรู้ชม คิดถึงเจ้าเศร้าอารมณ์ สมสาใจไม่พามา เมื่อกวีมองดูปลาที่ว่ายคลอเคลียกัน ทำ ให้นึกถึงนางอัน เป็นที่รักจนเศร้าใจ นึกคิดว่าขนาดปลายังได้อยู่เชยชมกัน ส่วนตัวกวีได้แต่ สมน้ำ หน้าตนเองที่ไม่พานางอันเป็นที่รักมาด้วยกัน
บทที่ 3 นวลจันทร์เ ร์ ป็นนวลจริง คางเบือนเบือนหน้ามา เจ้างามพริ้มยิ่งนวลปลา ไม่งามเท่าเจ้าเบือนชาย เมื่อกวีเห็นปลานวลจันทร์ก็ ร์ ก็ บอกว่ามีสีนวลสมชื่อ แต่นาง อันเป็นที่รักนั้นกลับสวยงามนวลยิ่งกว่า เมื่อกวีเห็นปลาคางเบือนที่หันหน้ามา ก็บอกว่าไม่งาม เท่านางอันเป็นที่รักเมื่อเบือนหน้ามามองกวี
บทที่ 4 เพียนทองงามดั่งทอง กระแหแหห่างชาย ไม่เหมือนน้องห่มตาดพราย ดั่งสายสวาทคลาดจากสม เมื่อกวีเห็นปลาตะเพียนก็เปรียบว่ามีสีงามดั่งทอง แต่ ไม่งามเท่านางอันเป็นที่รักเมื่อห่มสไบ เมื่อกวีเห็นปลากระแหที่ว่ ที่ ว่ ายอยู่ห่างจากกวี ก็เปรียบดัง ตัวกวีที่ต้องห่่างจากนางอันเป็นที่รัก
บทที่ 5 แก้มช้ำ ช้ำ ใครต้อง ปลาทุกทุกข์อกกรม อันแก้มน้องช้ำ เพราะชม เหมือนทุกข์ที่พี่จากนาง เมื่อกวีมองเห็นปลาแก้มช้ำ ก็คิดว่า ช้ำ เพราะเหตุใด แต่ แก้มของนางอันเป็นที่รักนั้นช้ำ เพราะถูกเชยชม ปลาทุก ชื่อเหมือนทุกข์ระทมใจ เหมือนตัวกวีที่ต้องห่าง จากนางอันเป็นที่รัก
บทที่ 6 น้ำ เงินคือเงินยวง ไม่เทียบเปรียบโฉมนาง ขาวพรายช่วงสีสำ อาง งามเรืองเรื่อเนื้อสองสี เมื่อกวีมองเห็นปลาน้ำ เงินมีสีขาวผ่องเป็นมันเงาวับ ดูสวยงาม แต่ไม่งามเท่าตัวของนางอันเป็นที่รักที่มี ผิวสองสี
บทที่ 7 ปลากรายว่ายเคียงคู่ แต่นางห่างเหินพี่ เคล้ากันอยู่ดูงามดี เห็นปลาเคล้าเศร้าใจจร เมื่อกวีมองเห็นปลากรายที่ว่ายมาเป็นคู่นั้นดูสวยงาม แต่ตัวกวีที่ต้องมาอยู่ห่างจากนางอันเป็นที่รัก เมื่อมอง เห็นปลาที่ว่ายมาคู่กันแล้ว ทำ ให้รู้ ห้รู้สึกเศร้าใจ
บทที่ 8 หางไก่ว่ ก่ ว่ ายแหวกว่าย คิดอนงค์องค์เอวอร หางไก่คล้ายไม่มีหงอน ผมประบ่าอ่าเอี่ยมไร เมื่อกวีมองเห็นปลาหางไก่ที่ ก่ ที่ แหวกว่ายไปมา ถึงจะชื่อ หางไก่แต่ไม่มีหงอน เมื่อมองแล้วก็คิดถึงนางอันเป็นที่รักที่ผมยาวประบ่า สวยงาม
บทที่ 9 ปลาสร้อยลอยล่องชล เหมือนสร้อยทรงทรามวัย ว่ายเวียนวนปนกันไป ไม่เห็นเจ้าเศร้าบ่วาย เมื่อกวีมองเห็นปลาสร้อยที่ว่ายปะปนกันในน้ำ เหมือน สร้อยที่นางอันเป็นที่รักเคยสวมใส่ แต่เพราะไม่ได้เห็น หน้านางอันเป็นที่รักจึงทำ ให้กวีเ วี ศร้าเสียใจ
บทที่ 10 เนื้ออ่อนอ่อนแต่ชื่อ ใครต้องข้องจิตชาย เนื้อน้องฤๅอ่อนทั้งกาย ไม่วายนึกตรึกตรึงทรวง เมื่อกวีมองเห็นปลาเนื้ออ่อน อ่อนแค่เพียงชื่อ แต่เนื้อ กายของนางอันเป็นที่รักนั้น อ่อนไปทั้งตัว หายชายใดได้สัมผัส จะตราตรึงอยู่ในใจไม่หาย
บทที่ 11 ปลาเสือเหลือที่ตา เหมือนตาสุดาดวง เลื่อมแหลมกว่าปลาทั้งปวง ดูแหลมล้ำ ขำ เพราคม เมื่อกวีมองเห็นปลาเสือเป็นปลาที่ตาแหลมคมกว่าปลา อื่นทั้งปวง เหมือนกับดวงตาน้องนางที่ตาแหลมคม สวยงาม
บทที่ 12 แมงภู่คู่ภู่ คู่เคียงว่าย คิดความยามเมื่อสม เห็นคล้ายคล้ายน่าเชยชม สนิทเคล้าเจ้าเอวบาง เมื่อกวีมองเห็นปลาแมลงภู่ว่ภู่ ว่ ายเคียงคู่เหมือนกำ ลัง เชยชมกัน ทำ ให้คิดถึงเมื่อตอนกวีและนางอันเป็นที่รัก อยู่ใกล้ชิดกัน
บทที่ 13 หวีเกศเพศชื่อปลา หวีเกล้าเจ้าสระสาง คิดสุดาอ่าองค์นาง เส้นเกศสลวยรวยกลิ่นหอม เมื่อกวีมองเห็นปลาหวีเกศก็ทำ ให้นึกถึงเมื่อนางอัน เป็นที่รักสางผม เส้นผมของนางอันเป็นที่รักสลวยและ มีกลิ่นหอม
บทที่ 14 ชะแวงแฝงฝั่งแนบ เหมือนพี่แอบแนบถนอม ชะวาดแอบแปบปนปลอม จอมสวาทนาฏบังอร เมื่อกวีเห็นฝูงปลาชะแวงที่ว่ายอยู่ตามริมน้ำ ที่มีปลา ชะวาดว่ายปนอยู่ด้วย เหมือนกวีที่แอบใกล้ชิดดูแลนางอันเป็นที่รัก
บทที่ 15 พิศดูหมู่มัจฉา คะนึงนุชสุดสายสมร ว่ายแหวกมาในสาคร มาด้วยพี่จะดีใจ เมื่อกวีมองดูหมู่ปลาแหวกว่ายอยู่ในน้ำ ทำ ให้กวีคิดถึง นางอันเป็นที่รัก ถ้าหากนางอันเป็นที่รักได้มาด้วยกัน กับกวี กวีคงรู้สึกดีใจ
วิเคราะห์คุณค่า วรรณศิลป์ แบบฝึกหัดที่ 3
อุปมา บาทเเรก กวีได้เปรียบเทียบว่าปลาตะเพียนทองนั้นงามเหมือน ทอง เเต่ก็ไม่งามเหมือนน้องยามห่มสไบ บาทที่สอง เปรียบเทียบปลากระเเหที่อยู่ห่างกายเหมือนตัวเองที่ ห่างจากนางอันเป็นที่รัก โดยปรากฎคำ ที่ใช้อุปมา คือคำ ว่า ดั่ง เเละ เหมือน เพียนทองงามดั่งทอง กระแหแหห่างชาย ไม่เ ม่ หมือนน้องห่มตาดพราย ดั่งสายสวาทคลาดจากสม
อุปมา ในบาทที่สอง กวีเปรียบเทียบว่าปลาทุก ที่ชื่อทุกนั้น ก็เปรียบกับ ความทุกข์ที่ต้องจากน้องมา ใช้คำ อุปมาคือคำ ว่า เหมือน แก้มช้ำ ช้ำ ใครต้อง ปลาทุกทุกข์อกกรม อันแก้มน้องช้ำ เพราะชม เหมือนทุกข์ที่พี่จากนาง
อุปลักษณ์ กวีได้เปรียบหญิงสาวเป็นดวงจันทร์ โดยการกล่าวให้ผู้อ่านได้ เข้าใจว่า นางอันเป็นที่รักเปรียบเสมือนเป็นดวงจันทร์ของกวี พิศพรรณปลาว่ายเคล้า ถวิลสุดาดวงจันทร์ มัตสยาย่อมพัวพัน ควรฤพรากน้องช้า คลึงกัน แจ่มหน้า พิศวาส ชวดเคล้าคลึงชม
อุปลักษณ์ กวีได้เปรียบปลาน้ำ เงินเป็นดั่งเงินยวง คือมีสีขาวเงินเป็นมันวาว ปรากฎคำ ที่เเสดงภาพพจน์คือคำ ว่า คือ น้ำ เงินคือเงินยวง ไม่เทียบเปรียบโฉมนาง ขาวพรายช่วงสีสำ อาง งามเรืองเรื่อเนื้อสองสี
การเล่นคำ หวีเกศเพศชื่อปลา หวีเ วี กล้าเจ้าสระสาง คิดสุดาอ่าองค์นาง เส้นเกศสลวยรวยกลิ่นหอม ในบาทเเรก หวีเกศ หมายถึง ปลาหวีเกศ ในบาทที่สอง หวี หมายถึง การแต่งผม สางผม และคำ ว่า เกศ หมายถึง เส้นผม
เพียนทองงามดั่งทอง กระแหแหห่างชาย ไม่เหมือนน้องห่มตาดพราย ดั่งสายสวาทคลาดจากสม ถึงจะชื่อปลาเนื้ออ่อน แต่ก็อ่อนแค่เพียงชื่อ เนื้อของน้องนั้นอ่อน ไปกาย หากชายใดได้มาแตะต้อง จะต้องตราตรึงอยู่ในใจไม่เลือนหาย การสรรคำ เนื้ออ่อนอ่อนแต่ชื่อ ใครต้องข้องจิตชาย เนื้อน้องฤๅอ่อนทั้งกาย ไม่วายนึกตรึกตรึงทรวง
การเล่นสัมผัสสระ-พยัญชนะ เพียนทองงามดั่งทอง กระแหแหห่างชาย ไม่เหมือนน้องห่มตาดพราย ดั่งสายสวาทคลาดจากสม สัมผัสสระ ชะแวงแฝงฝั่งแนบ เหมือนพี่แอบแนบถนอม ชะวาดแอบแปบปนปลอม จอมสวาทนาฏบังอร สัมผัสอักษร
รสวรรณคดี เสาวรจนี นารีปราโมทย์ เป็นรสความไพเราะที่เกี่ยวกับการชม ความงาม อาจเป็นความ งามของปลา หรือ รื นางอันเป็นที่รัก จากบทประพันธ์ข้างต้นนี้ใช้ลักษณะถ้อยคำ เกลี้ยงเกลาสละสลวย ไพเราะ ด้วยการสัมผัส และทำ ให้เกิดภาพพจน์ มีรสในวรรณคดีที่ปรากฏในคำ ประพันธ์คือ เป็นรสที่แสดงความรักใคร่หรือ รื บทโอ้โลม ปลาเสือเหลือที่ตา เหมือนตาสุดาดวง เลื่อมแหลมกว่าปลาทั้งปวง ดูแหลมล้ำ ขำ เพราคม ปลาเสือมีดวงตาแหลมกว่าปลาใด ๆ เหมือน ดวงตาของนางอันเป็นที่รักที่สวยดึงดูดใจ ชะแวงแฝงฝั่งแนบ เหมือนพี่แอบแนบถนอม ชะวาดแอบแปบปนปลอม จอมสวาทนาฏบังอร เมื่อกวีมองเห็นฝูงปลาชะแวงที่ว่ายอยู่ตามริมน้ำ ที่ มีปลาชะวาดว่ายปนอยู่ด้วย ้เหมือนกวีที่แอบใกล้ ชิดดูแลนางอันเป็นที่รัก
วิเคราะห์คุณค่า ด้านเนื้อห้า แบบฝึกหัดที่ 4
ปลานวลจันทร์ เป็นปลาน้ำ จืดชนิดมีเกล็ดรูปร่าง เพรียวยาว ค่อนข้างกลม ปากเล็ก ตาโต เกล็ดเล็ก ลำ ตัวสีส้มปนเทา จนถึงน้ำ ตาลปนขาว ครีบหาง สีชมพูปนแดง รายชื่อพันธุ์ปลา ปลาคางเบือน เป็นปลาน้ำ จืดชนิดไม่มีเกล็ด ลำ ตัวด้านข้างแบน หน้างอนขึ้น ท้อง สีเหลืองจางๆ มีปานสีดำ แถวช่อง เหงือก ปลาตะเพียนทอง เป็นปลาน้ำ จืดขนาดกลาง มีความ ปราดเปรียว ลำ ตัวสีเงินหรือทอง ที่ครีบท้องมีสีเหลืองส้มสลับแดง หางสีเหลืองขอบหางสีส้ม ปลากระแห เป็นปลาน้ำ จืดที่มีรูปร่างป้อมสั้น คล้ายกับปลาตะเพียน ลำ ตัวแบน ข้าง หัวมีขนาดเล็ก ปลากระแห เป็นปลาที่รักสงบ ชอบอยู่รวมกัน เป็นฝูง
ปลาแก้มช้ำ เป็นปลาน้ำ จืดคล้ายปลาตะเพียน แต่มีลำ ตัวยาวกว่า สีตามตัวและ ส่วนหัวเป็นสีขาวเงิน ปลาแก้มช้ำ ชอบความรักสงบ กระพุ้งแก้มมี รอยสีแดงคล้าย รอยช้ำ ปลาทุก เป็นปลาที่มีจะงอยปากสั้นและ กว้างเป็นรูปโค้ง มีหนวดที่ริม ฝีปากยาวที่ใต้คางสั้น ครีบก้นยาว ครีบหางเว้าตื้นปลายมน ลำ ตัวมีสีคล้ำ อมเขียวจางๆ รายชื่อพันธุ์ปลา ปลาน้ำ เงิน เป็นปลามีลำ ตัวยาวเรียว ท่อง หางโค้งเล็กน้อย จะงอยปาก แบน ไม่มีครีบหลัง ลำ ตัวมีสี ขาวปนน้ำ เงิน เวลาแสงกระทบ จะมีแววประกายของสีเงินเด่น ชัด ปลากราย เป็นปลาน้ำ จืดรูปร่าง ลำ ตัว ด้านข้างแบน ครีบท้องยาว เป็นแพเชื่อมกับครีบ เหนือ ครีบก้นมีจุดดำ ขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วยวงแหวนสีขาว
ปลาหางไก่ เป็นปลาทะเลขนาดเล็กที่มาอาศัย อยู่ในน้ำ จืด ครีบเชื่อมติดเป็น แนวเดียวกัน ที่มาของชื่อคือ ครีบ หูมีลักษณะคล้ายส่วนของหางไก่ จึงเรียกว่า"ปลาหางไก่" รายชื่อพันธุ์ปลา ปลาสร้อย เป็นปลาในวงศ์ปลาตะเพียน เกล็ดสีเงินหลุดง่าย ลำ ตัวเพรียว แบนข้าง ลักษณะเด่น คือมีปุ่ม กระดูกอยู่กึ่งกลางริมฝีปาก ริม ขอบปากมี หนวดเล็กมาก ปลาเนื้ออ่อน เป็นปลาน้ำ จืดชนิดไม่มีเกล็ด ปากกว้างงอนชี้ขึ้น มีฟันซี เล็กๆเรียงอยู่ใต้ปาก ไม่มีครีบ หลังและครีบมัน ครีบหางและ กลางลำ ตัวสีเหลืองอ่อน ปลาเสือ เป็นปลาน้ำ จืดตัวลาย ในเมืองไทยพบอยู่ ๓ ชนิดคือ ปลาเสือพ่นน้ำ (ขมังธนู) ปลาเสือสุมาตรา(ข้างลาย) ปลาเสือตอ(ลาด)
ปลาชะแวง เป็นปลาน้ำ จืดที่ไม่มีเกล็ด หนวดยาว มีครีบหลังแหลมคม ครีบหูทั้งสองมีเงี่ยงแหลม มี ขนาดเล็ก มีหนวด ๘ คู่ ปลาหวีเกศ หวีเกศ เป็นชื่อปลาน้ำ จืดไม่มีเกล็ด มีรูปร่างคล้ายปลาสังกะวาดและ ปลาเนื้ออ่อนผสมรวมกัน ตัวเรียว ยาว มีครีบหลัง มีหนวดยาว คล้าย กับเส้นผมของผู้หญิง จึงเป็นที่มา ของชื่อ ปลาแมลงภู่ เป็นปลาน้ำ จืด ลำ ตัวกลมยาวเป็น รูปทรงกระบอกคล้ายกับปลาช่อน โคนหางสีแดงสด ส่วนบนของ ลำ ตัว จะมีสีเขียวอมน้ำ เงินเข้ม คลายสีเปลือกหอยแมลงภู่ รายชื่อพันธุ์ปลา ปลาชะวาด เป็นชื่อปลาน้ำ จืดที่อยู่ในวงศ์ ปลาสวาย ปากแคบ ลำ ตัวแบน ท้องเป็นสัน ปลาตัวผู้มักมีรูปร่าง เพรียวยาวกว่าตัวเมีย ข้างลำ ตัวสีจางมีแถบสีคล้ำ ตาม ยาวตั้งแต่บริเวณโคนครีบอก
จัดทำ โดย นางสาวชนาธิป ศิริอวยชัย 10ก นางสาวธันย์ชนก พ่วงวงษ์ 13ก นางสาวปริยาภัทร โภคา 15ก นางสาวปุณณภา กัณหะกุล 17ก นางสาวปุณณิกา ตรุยานนท์ 18ก นางสาวภคพร โพธิ์สุนทร 19ก นางสาวเบญจรัตน์ เขียวอำ พล 13ข นางสาวสรัลพร ห้วยลึก 16ข ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2