ทักษะเบอ้ื งตน้ การเป็นผรู้ ักษาประตู
1. การยืนเตรียมพรอ้ ม ในเกมการแขง่ ขนั ฟตุ ซอล ไมว่ ่าจะรุก หรอื รับ
ผ้รู ักษาประตตู ้องมคี วามระมดั ระวัง สายตาต้องจอ้ งมองลกู ฟตุ ซอล หรือ
มองเกมตลอดเวลา ถา้ ฝ่ายเดยี วกันไดค้ รอบครองลกู ฟตุ ซอล ท่าการยืน
อาจจะยนื ในท่าปกติทว่ั ไป แตต่ ้องไมล่ ะสายตาจากลูกฟุตบอล แตถ่ ้าฝา่ ย
ตรงขา้ มได้ ครอบครองลูกฟุตซอล การเตรยี มพร้อมในการปอ้ งกนั ประตู
ตอ้ งมเี พ่ิมมากข้นึ โดยเฉพาะท่ายืนต้องมี ความพร้อมและทะมัดทะแมง มี
สายตาทแี่ หลมคม ทา่ ยืนเตรียมพรอ้ มของผูร้ กั ษาประตูมวี ธิ ีการยืน
ดังน้ี เปน็ ทา่ ที่เตรยี มรบั ลกู ฟุตบอล โดยยืนแยกเท้าห่างกัน
พอประมาณ ยอ่ เขา่ เลก็ น้อย ก้มตัวยนื เปิดส้นเท้าเลก็ นอ้ ย น้ำหนกั ตวั อยู่ท่ี
ปลายเท้าท้ังสอง ยกแขนกางออกเล็กน้อย และงอขอ้ ศอก
กางนวิ้ มอื ออก สายตาจ้องมองทลี่ กู ฟตุ บอล พร้อมทจ่ี ะเคล่ือนที่ไดอ้ ย่าง
รวดเร็ว
2 .เทคนิคการจบั ลกู ฟุตซอล
จุดสำคญั อย่างย่งิ ในการเปน็ ผรู้ กั ษาประตูคอื การควบคุมลูกฟุตซอลใหอ้ ยู
ในมอื โดยอาศยั หลักพ้นื ฐาน 3 ตัวคอื
- นว้ิ มอื ตอ้ งกางน้ิวมือออกใหก้ ว้างที่สดุ ถา้ รบั ลกู สองมอื ลา่ ง ตอ้ งให้
ปลายนิ้วกอ้ ย
ท้งั สองขา้ งอยูช่ ดิ กันแตถ่ า้ รบั ลูกฟุตบอลสองมอื บน ตอ้ งให้น้วิ หัวแมม่ อื ชิด
กัน
- อุ้งมือ เมอื่ ลูกฟตุ บอลอยใู่ นการครอบครอง โดยอยู่ในอุ้งมือทง้ั สองตอ้ ง
ไมม่ ชี ่องวา่ งระหว่าง
- ฝ่ามือกบั ลกู ฟตุ บอล เพือ่ ใชเ้ กดิ การสัมผัสกนั มากท่ีสดุ ระหว่างฝ่ามือกับ
ลกู ฟตุ บอล แขนตอ้ งขนานกนั ทั้งสองขา้ ง และไมก่ ว้างกว่าขนาดของลกู
ฟตุ บอล เพื่อที่จะไม่ใหล้ กู ฟตุ บอลลอดระหว่างแขน
โดยมวี ิธกี ารแสดง ดงั น้ี
3. การรบั ลูกฟตุ ซอลดว้ ยลกู เรยี ด การนง่ั รบั ลกู ฟตุ ซอลท่ีมากับพื้น ใชก้ ับ
การรบั ลูกฟตุ ซอลทพี่ ่งุ มากับพ้นื ในทิศทาง ตรงตัว ผู้รักษาประตูเน่อื งจาก
ลกู ฟตุ ซอลทีพ่ ุ่งมาแรง ถา้ หากลกู ฟุตซอลปลิ้น หรอื หลุดออกจากมอื อย่าง
นอ้ ย กย็ ังติดขาท่วี างขวางลกู ฟุตซอลอยู่ด้านขา้ ง การน่งั รับลกู ฟตุ ซอลทม่ี า
กับพืน้ มีวธิ กี ารรับแสดง ดังน้ี
นง่ั ย่อลงนำ้ หนักตวั ตกลงปลายเท้าทั้งสอง ย่อเขา่ เล็กนอ้ ย กม้ ตัวเลก็ น้อย
ยกแขนกางข้นึ กางนว้ิ มือออก สายตาจ้องมองท่ีลกู ฟตุ ซอล บดิ ตัวไป
ทางซา้ ยหรือด้านขวา ยอ่ ตัวตั้งเขา่ ซา้ ย และวางเขา่ ขวาใกลพ้ ื้น ใกลเ้ ทา้
ซา้ ย (อยา่ ให้หัวเขา่ ถกู พ้ืน) ใหเ้ ทา้ ขวาวางขวางทางลกู บอล หงายฝ่ามอื
รบั ลูกฟุตซอล ดงึ ลกู ฟตุ ซอลกอดไว้กับอก และยดื ตวั ขน้ึ
สรปุ
ตำแหน่งผู้รักษาประตูเป็นตำแหนง่ ท่ีสำคญั ของทีม ต้องมี
ความสามารถในการใชม้ อื และเท้า ได้เป็นอย่างดี ทส่ี ำคัญในทีมจะมีแคค่ นเดยี ว
ภายในทมี ทักษะของผู้รักษาประตแู บง่ ออกได้ 2 ลักษณะ คอื ทักษะการรบั
และทักษะการส่งของผู้รักษาประตู ทักษะการรบั ก็สามารถบางออกไปไดอ้ ีก
ทักษะการรบั ลูกฟตุ ซอลดว้ ยลูกเรยี ด และลกู โด่ง ด้วยวิธีการยืนรับ นั่งยอ่ รบั และ
นอนรบั ถ้าลกู ฟตุ ซอลเคลอื่ นที่เข้าหาผรู้ ักษาประตดู ว้ ยลูกเรียดก็จะใชว้ ธิ ีการนง่ั
ยอ่ รับ ถา้ ลกู ฟตุ ซอลลอยมาใน ระดบั ความสงู ไม่เกนิ ศีรษะกจ็ ะใชว้ ธิ กี ารรบั ดว้ ย
การยืน โดยใหล้ กู ฟตุ ซอลอยู่ด้านหน้าใช้ลำตวั บงั ลกู ฟตุ ซอลเอาไว้ ป้องกนั ไมใ่ ห้
ลูกฟุตซอลหลุดไหลเข้าประตู ทกั ษะการสง่ ลูกฟุตซอลแบง่ ออกไดเ้ ป็น 2
ลกั ษณะ การส่งดว้ ยลูกเรียด และการสง่ ด้วยลกู โดง่ การสง่ ท้ังสองแบบจะใชใ้ น
โอกาสท่ีแตกตา่ งกัน ถา้ ผรู้ ักษาประตจู ะสง่ ลูกฟตุ ซอลใหก้ ับผเู้ ล่นทอ่ี ยู่ ใน
ระยะใกล้กจ็ ะส่งดว้ ยลูกเรียด เพราะจะทำใหผ้ เู้ ลน่ สามารถเลน่ ตอ่ เนอ่ื งไดเ้ ลย
ส่วนการสง่ ลกู ฟตุ ซอลดว้ ยลูกโด่งนั้นมักใชใ้ นโอกาสโต้กลับเรว็ และมีระยะทางท่ี
ไกลระหวา่ งผรู้ ักษากับผูเ้ ลน่ ในชว่ งเวลาของการฝึกซอ้ มและแข่งขันควรจะมี
ช่วงเวลาใหผ้ ู้รักษาประตไู ด้มกี ารฝึกทักษะ เฉพาะดา้ นในแตล่ ะวัน เพอื่ ให้ผู้รกั ษา
ไดเ้ กดิ ทักษะความชำนาญ และที่สำคญั จะเกดิ ความมนั่ ใจในการแขง่ ขัน