เล่มท่ี ๑ ย้อยรอยประวตั ศิ าสตร์ควนเนยี ง ก
คำนำ
หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด ควนเนียงบ้านฉัน มีทั้งหมด ๗ เล่ม คือ ย้อนรอยประวัติศาสตร์
ควนเนียง ช่ือเสียงศิลปินแห่งชาติ ภาพวาดวัดคงคา ความเป็นมาการทาเทริด เลอเลิศขนมซั้ง
ชื่อดังองค์ฤาษี และของดีน้าแข็งขูด โดยเป็นหนังสืออ่านเพ่ิมเติมท่ีผู้แต่งจัดทาขึ้นเพื่อใช้ในการจัด
กระบวนการเรียนรู้เพ่ือพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความด้วยวิธีการสอนแบบ ๕ STEP เน้ือเร่ืองแต่ง
เป็นบทร้อยแก้ว มีภาพประกอบเพ่ือให้อ่านเข้าใจง่าย มีแบบฝึกทักษะตามกระบวนการ ๕ STEP
ให้กับนักเรียนได้ฝึกอ่านฝึกเขียน และปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน โดยใช้เนือ้ หาสอดแทรกความรู้กล่าวถึง
เรอื่ งราวในทอ้ งถิน่ ของนกั เรียน
เพื่อให้นักเรยี นไดต้ ระหนักและเห็นความสาคัญในถ่ินฐานบ้านเกิด หวงแหน และภาคภูมิใจ
ในทอ้ งถิ่นของตน สาหรับเรอ่ื งย้อนรอยประวตั ิศาสตรค์ วนเนียง เปน็ เร่ืองราวของอาเภอควนเนยี ง
รสิตา พงษจ์ ีน
เล่มท่ี ๑ ย้อยรอยประวตั ศิ าสตรค์ วนเนยี ง ข
คำแนะนำสำหรับนักเรียน
๑. นักเรียนทาความเข้าใจจดุ ประสงค์การเรียนรขู้ องกิจกรรมสง่ เสริมการอา่ น
หนังสืออา่ นเพม่ิ เตมิ ชดุ “ควนเนยี งบา้ นฉนั ” เลม่ ที่ ๑ เรอ่ื ง ยอ้ นรอย
ประวัติศาสตร์ควนเนียง
๒. นักเรียนอ่านหนงั สือเพิ่มเตมิ ศึกษาพ้นื ฐานความร้คู วามเข้าใจก่อนการเรียนรู้มาก
นอ้ ยเพยี งใด
๓. ใหน้ กั เรยี นศึกษาใบความรแู้ ละทากจิ กรรมอย่างตง้ั ใจ
๔. อ่านคาช้ีแจงหรือคาถามในแต่ละกจิ กรรมใหอ้ ่านอย่างรอบคอบ
๕. สง่ ผลงานการทากิจกรรมแต่ละแบบฝกึ ทกั ษะเพอ่ื ใหค้ รูตรวจและบนั ทึกผล
๖. เมื่อนักเรยี นทากจิ กรรมครบทกุ กิจกรรมแลว้ ให้นกั เรยี นทาแบบทดสอบ
หลงั เรยี น ด้วยความตง้ั ใจและซอื่ สัตย์
๗. รบั ฟงั การบอกคะแนน คาชมเชย และคาแนะนาเพมิ่ เตมิ จากครู
๘. ในการเขา้ ร่วมกจิ กรรมทกุ คร้ังนักเรยี นตอ้ งใหค้ วามรว่ มมอื ตั้งใจทากิจกรรม
และตรงตอ่ เวลาเสมอ
เล่มท่ี ๑ ยอ้ ยรอยประวตั ิศาสตรค์ วนเนยี ง ค
สำระและมำตรฐำนกำรเรยี นรู้
สำระท่ี ๑ กำรอำ่ น
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความร้แู ละความคดิ เพอื่ นาไปใช้
ตดั สินใจ แก้ปัญหาในการดาเนนิ ชวี ิตและมีนสิ ยั รักการอา่ น
ตวั ช้ีวัด
ท ๑.๑ ป.๔/๑ อา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง
ท ๑.๑ ป.๔/๒ อธบิ ายความหมายของคา ประโยค และสานวนจากเรอื่ งทีอ่ า่ น
ท ๑.๑ ป.๔/๓ อ่านเรอื่ งสนั้ ๆ ตามเวลาทกี่ าหนดและตอบคาถามจากเรือ่ งทอ่ี า่ น
ท ๑.๑ ป.๔/๔ แยกขอ้ เท็จจริงและขอ้ คิดเหน็ จากเร่ืองทอ่ี ่าน
ท ๑.๑ ป.๔/๕ คาดคะเนเหตกุ ารณ์จากเรอื่ งทอี่ า่ นโดยระบเุ หตุผลประกอบ
ท ๑.๑ ป.๔/๖ สรปุ ความรแู้ ละขอ้ คิดจากเรอื่ งท่ีอา่ นเพ่ือนาไปใช้ในชวี ิตประจาวนั
ท ๑.๒ ป.๔/๒ เขียนสอื่ สารโดยใชค้ าไดถ้ ูกต้อง ชัดเจน และเหมาะสม
ท ๑.๒ ป.๔/๓ เขยี นแผนภาพโครงเรอ่ื งและแผนภาพความคดิ เพ่อื ใชพ้ ฒั นางานเขียน
ท ๑.๒ ป.๔/๔ เขียนย่อความจากเร่ืองสั้นๆ
เล่มท่ี ๑ ย้อยรอยประวตั ศิ าสตรค์ วนเนียง ง
จุดประสงค์กำรเรยี นรู้
๑. นกั เรียนบอกความหมายของคาศพั ท์และสามารถนาไปใชไ้ ดถ้ กู ต้อง
๒. นักเรยี นสามารถบอกข้อเท็จจริงของเน้อื เร่ืองทอี่ า่ นอย่างรอบคอบได้
๓. นักเรียนต้งั คาถามและตอบคาถามให้สมั พันธก์ ับเรอื่ งทอี่ า่ นได้
๔. นกั เรยี นจดจาเนอ้ื เร่อื งจากหนงั สอื ท่อี า่ นได้ถูกตอ้ ง
๕. นักเรียนสรปุ ใจความสาคญั และบอกข้อคดิ จากหนังสอื ทอ่ี ่านได้
เล่มที่ ๑ ยอ้ ยรอยประวตั ิศาสตรค์ วนเนียง จ
ขัน้ ตอนกำรดำเนินกิจกรรมแบบ GPAS ๕ STEPS
ขน้ั ๑ คำศัพทน์ ำ่ รู้ STEP ๑ ขน้ั รวบรวมข้อมลู (Gathering)
คือการศึกษาคน้ คว้าหาคาศพั ท์ ใจความสาคญั ของเรือ่ งที่อา่ น
ขน้ั ๒ ฉนั ถำม – เธอตอบ STEP ๒ ขั้นกำรคิดวิเครำะห์และสรุปควำมรู้
(Processing)
คือ ตง้ั คาถามให้สมั พนั ธก์ ับคาตอบท่กี าหนดใหเ้ กี่ยวกบั ความหมายของ
คาศพั ท์ และเนอ้ื เรอื่ งได้
ขั้น ๓ อ่ำนเรอื่ งอยำ่ งรอบคอบ ควำมรู้หลังกำรปฏิบัติ STEP 3 ข้นั ปฏิบัตแิ ละสรุป
(Applying and Constructing the Knowledge)
คือใหน้ ักเรยี นไดอ้ ่านอยา่ งรอบคอบเพอ่ื หาละเอยี ดตงั้ แต่ตน้ จนจบเพื่อ
ความเขา้ ใจเรื่อง สรปุ เรอ่ื งได้
ข้ัน ๔ บอกตอ่ เรื่องเลำ่ STEP 4. ขน้ั สอ่ื สำรและนำเสนอ (Applying the
Communication Skill)
คอื เมื่อเขา้ ใจคาศพั ท์ คาถามคาตอบ ให้เลา่ เรอื่ งย่อโดยใช้ภาษาของ
ตนเอง ต้ังแต่ต้นจนจบ ถ้าตอบไม่ได้ให้ทบทวนคาถามคาตอบใหม่จาจากความเข้าใจโดย
เรยี งลาดับเหตกุ ารณใ์ หถ้ กู ต้อง
ขน้ั ๕ สรุปและประเมนิ ผล STEP 5 ข้นั ประเมินเพอ่ื เพิม่ คุณค่ำ (Self -
Regulating)
คอื นกั เรียนทบทวนเร่ืองที่อา่ นอีกครงั้ รว่ มอภปิ รายเร่อื งท่ีอ่านโดยสรปุ
ย่อใจความสาคญั ในหัวข้อ ตัวละครมใี ครบา้ ง เหตกุ ารณเ์ กิดขน้ึ ที่ไหน เหตกุ ารณข์ องเรอื่ ง
เปน็ อย่างไร ขอ้ คิดหรอื ประโยชนจ์ ากเรอื่ งที่อา่ น
ชุด “ควนเนยี งบา้ นฉนั ” ยอ้ นรอยประวตั ศิ าสตร์ควนเนียง ๑
ย้อนประวัติศาสตร์อาเภอควนเนยี ง
ประวัตคิ วนเนียง
จะมาบอกเล่าเรื่องราวในสมัยก่อนถึงความเป็นมาของ "ควนเนียง" จากคา
เล่าขานของบรรพบรุ ุษทีถ่ ่ายทอดกนั มา ประกอบกบั หลกั ฐานทางประวัตศิ าสตร์ กลา่ วไว้
ว่า ควนเนียงเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ มีทาเลต้ังอยู่บนภูเขาเต้ีย ๆ หรือเนินดินท่ีสูง เรียงกัน
เป็นควนติดต่อกันเป็นพืด ชาวบ้านท่ีอยู่อาศัยเรียกชื่อหมู่บ้านน้ีว่า “ ควนเรียง ” ตาม
ลักษณะของควนที่เรียงติดต่อกัน บนเนินดินนี้มีพันธุ์ไม้ชนิดหน่ึง คือ ต้นเนียงข้ึนอยู่เป็น
จานวนมาก เมื่อมีการสญั จรไปมา ชาวบา้ นก็จะนาเอาลูกเนยี งเป็นของฝากติดมอื กลบั ไป
ทาให้ประชาชนในท้องถิ่นอื่น ๆ รู้กันว่า “ บ้านควนเรียง “ มีลูกเนียงจานวนมาก
จากนนั้ ชือ่ ของหม่บู า้ นควนเรียง ถูกเรยี กให้เพ้ยี นเป็น “ ควนเนียง ” จนติดปากชาวบา้ น
มาจนทกุ วันน้ี
ชุด “ควนเนียงบ้านฉัน” ย้อนรอยประวัตศิ าสตรค์ วนเนยี ง ๒
ควนเนียง แต่เดิมเคยมีฐานะเป็นก่ิงอาเภอมาครั้งหนึ่งแล้วชื่อ “ รัฐภูมี “ ตั้งอยู่ท่ี
บ้านปากบางภูมี กิ่งอาเภอรัฐภูมีในสมัยนั้น การปกครองข้ึนอยู่กับอาเภอปากพะยูน
จังหวัดพัทลุง เม่ือประมาณ พ.ศ. 2435 ได้ยกฐานะขึ้นเป็นอาเภอ ช่ือว่าอาเภอ รัฐภูมี
ใชส้ ถานท่ตี ัง้ ทวี่ ่าการอาเภออย่ทู ีบ่ า้ นปากบางเชน่ เดมิ
ชุด “ควนเนยี งบา้ นฉัน” ยอ้ นรอยประวตั ิศาสตรค์ วนเนยี ง ๓
ในปี พ.ศ. 2466 ได้ย้ายที่ว่าการอาเภอรัฐภูมีจากบ้านปากบางไปตั้งอยู่ท่ี
หมู่ที่ 1 ตาบลกาแพง อาเภอรัฐภูมี เป็นท่ีว่าการอาเภอในปัจจุบันและได้เปล่ียนช่ือเป็น
ท่ีว่าการอาเภอรัตตภูมิ ต่อมาได้เปลี่ยนช่ือเป็น “ ที่ว่าการอาเภอรัตภูมิ ” เม่ือปี
พ.ศ. 2509 ข้ึนตรงตอ่ จงั หวัดสงขลา
ชุด “ควนเนียงบา้ นฉัน” ย้อนรอยประวตั ิศาสตรค์ วนเนียง ๔
ในปี พ.ศ. 2525 สภาตาบลรัตภูมิ บางเหรียง ควนโสและห้วยลึก ได้มีมติเห็น
พ้องกันว่าควรรวม 4 ตาบล ยกฐานะข้ึนเป็นก่ิงอาเภอ และได้เสนอเร่ืองไปยัง
กระทรวงมหาดไทย ต่อมากระทรวงมหาดไทยจึงได้ประกาศแบ่งเขตท้องท่ีอาเภอรัตภูมิ
จังหวัดสงขลา ตั้งเป็น “ กิ่งอาเภอควนเนียง ” ลงวนั ท่ี 17 ธันวาคม พ.ศ. 2527 โดย
ให้ 4 ตาบลดังกล่าวมีฐานะเป็นก่ิงอาเภอควนเนียง ต้ังแต่วันที่ 2 มกราคม 2528 เป็น
ต้นไป
ชุด “ควนเนยี งบา้ นฉัน” ยอ้ นรอยประวัตศิ าสตรค์ วนเนียง ๕
กิ่งอาเภอควนเนียง มีเขตการปกครอง 4 ตาบล 41 หมู่บ้าน มีประชากรกว่า
3 หม่ืนคน มีเนื้อที่ 209 ตารางกิโลเมตร เดิมได้ใช้สถานท่ีห้องสมุดประชาชนซึ่งตั้งอยู่
หมู่ที่ 2 ตาบลรัตภูมิ เป็นท่ีตั้งที่ว่าการอาเภอควนเนียงชั่วคราว ต้ังแต่วันที่ 2 มกราคม
พ.ศ. 2528 เร่ือยมาจนกระท่ังได้ก่อสร้างที่ว่าการอาเภอควนเนียงแล้วเสร็จจึงได้ย้ายท่ี
ทาการมาอยู่ ณ ท่ีว่าการก่ิงอาเภอควนเนียง ต้ังแต่วันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2529
ตอ่ จากน้ัน ก็ได้มพี ระราชกฤษฎีกายกฐานะก่ิงอาเภอควนเนียงเป็น “อาเภอควนเนียง”
พ.ศ. 2533 ซ่ึงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 107 ตอนที่ 83 ลงวันที่ 21
พฤษภาคม 2533 มีผล ตัง้ แต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2533 เปน็ ต้นมา
ชุด “ควนเนียงบ้านฉัน” ยอ้ นรอยประวตั ิศาสตรค์ วนเนียง ๖
ขน้ั ๑ คาศพั ทน์ า่ รู้
STEP ๑ ขน้ั รวบรวมข้อมูล
(Gathering)
ชุด “ควนเนยี งบ้านฉัน” ย้อนรอยประวัติศาสตร์ควนเนยี ง ๗
เรียนรคู้ าศพั ท์
คา คาอา่ น ความหมาย
กระทรวงมหาดไทย กระ – ซวง – มะ – น. ชื่อกรมท่ปี กครองหวั เมืองฝา่ ยเหนอื
ในสมยั โบราณ มีสมุหนายกเปน็ ประธาน
กิ่งอาเภอ หาด - ไท ช่อื กระทรวงท่มี อี านาจหน้าท่เี กย่ี วกบั
การปกครองทอ้ งท่ี บาบัดทุกขบ์ ารงุ สุข
ชวั่ คราว กิง่ – อา - เภอ การพฒั นาชนบทและชมุ ชน การสง่ เสรมิ
การศึกษาและการประกอบอาชพี การ
ชั่ว - คราว รกั ษาความสงบเรยี บร้อยของประชาชน
การปอ้ งกนั สาธารณภยั การผังเมอื ง
การโยธา และการราชทณั ฑ์
น. ท้องทที่ ม่ี คี วามจาเปน็ ในการปกครอง
แยกมาจากอาเภอท่ีมเี ขตทอ้ งที่
กวา้ งขวางแตจ่ านวนประชากรไม่มาก
หรอื ท่ีทมี่ ชี ุมชนมากแตท่ ้องที่ไม่
กวา้ งขวางพอทจี่ ะตั้งข้นึ เปน็ อาเภอ มี
ปลดั อาเภอผู้เป็นหวั หนา้ ประจากงิ่
อาเภอเป็นหวั หนา้ ปกครอง.
ว. ชัว่ ระยะเวลาไมน่ าน ไม่ประจา
ไมต่ ลอดไป
ชุด “ควนเนยี งบา้ นฉนั ” ย้อนรอยประวัติศาสตรค์ วนเนยี ง ๘
เรยี นร้คู ำศพั ท์
คำ คำอำ่ น ควำมหมำย
ฐานะ ถา - นะ [ถาน ถานะ] น. ตาแหนง่ หน้าท่ี
หลักฐาน ลาดบั ความเปน็ อยใู่ นสงั คม เช่น
ทุกคนยอมรับรฐู้ านะในสงั คมของเขา. (ป.).
ต้นเนียง ต้น - เนียง น. คารวมเรยี กพืชทั่วไปโดยปรกติชนิดมีลาตน้
ติดปาก ติด - ปาก ใชใ้ นความหมายท่แี คบกว่า คาว่า ตน้ หมายถึง
พืชชนิดท่ีมีลาตน้ ใหญ่มกี ิง่ แยกออกไป
ใชค้ าใดคาหนง่ึ บ่อยๆ จนเปน็ นสิ ัย
ตวั อยา่ งประโยค
เขาตดิ ปากกับการสบถคาหยาบ แม้แตก่ ับลูกเขา
ก็พูด
บรรพบุรษุ บัน - พะ - บุ - หรดุ น. ผ้เู ปน็ ตน้ วงศ์ตระกูลซึ่งมีผู้สบื สายโลหิตมา
บุคคลทน่ี บั ต้ังแตป่ ู่ย่าตายายขนึ้ ไป
ประวัติศาสตร์ ประ – หวดั - ติ - [ปรฺ ะหวฺ ัดติสาด ปฺระหฺวัดสาด] น. วิชาว่าด้วย
สาด หรอื ประ - หวดั เหตกุ ารณ์ท่เี ปน็ มาหรือเร่ืองราวของประเทศชาติ
- สาด เปน็ ตน้ ตามทบ่ี นั ทึกไวเ้ ป็นหลกั ฐาน
พระราชกฤษฎกี า พระ – ราด -ชะ - (กฎ) น. บทบญั ญตั ิแหง่ กฎหมายท่ี
กริด - สะ - ดี - กา พระมหากษัตริย์ทรงตราขึ้นโดยอาศยั อานาจตาม
รฐั ธรรมนูญ พระราชบัญญตั ิ หรือพระราช
กาหนดเพื่อใช้ในการบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ
ชุด “ควนเนียงบ้านฉัน” ย้อนรอยประวัตศิ าสตร์ควนเนียง ๙
เรยี นรู้คาศพั ท์
คา คาอ่าน ความหมาย
พนั ธ์ุไม้ พนั - ไม้ พืชพันธ์ุไม,้ พนั ธพุ์ ชื
หมายเหตุ
เมล็ดพนั ธไ์ุ ม,้ สิง่ ทีจ่ ะเปน็ พันธ์ตุ ่อไป
ตวั อย่างประโยค
คณุ ตาชอบเสาะหาพนั ธไ์ุ มแ้ ปลกๆ ท่หี า
ยากๆ มาปลกู ที่บา้ น
พืด พืด น. แผ่นหรือแนวแหง่ ส่ิงทต่ี ิดเนอื่ งกันไปยาว
ยืด เช่น พืดเขา โดยปรยิ ายหมายถงึ อาการ
ของส่ิงทมี่ ีลกั ษณะคลา้ ยคลงึ เช่นนั้น เช่น
รถตดิ กนั เปน็ พดื
เรยี กเหล็กเหนียวชนิดหนง่ึ ท่ีเป็นแผ่นยาว
อยา่ งเหลก็ ทาปลอกถงั วา่ แถบเหล็กพืด.
เพยี้ น เพี้ยน ว. ผดิ แปลกไปเล็กน้อย เชน่ หน้าเพ้ียน
คลาดเคลอ่ื น เช่น พดู เพี้ยน เสยี งเพี้ยน
ผิดเพยี้ น ก็วา่ โบราณใช้ เพียน กม็ ี
(ปาก) ไมค่ อ่ ยปรกติ (มกั ใชแ้ ก่คน) เช่น เขา
มีทา่ ทางเพยี้ น ๆ.
ชุด “ควนเนยี งบา้ นฉัน” ย้อนรอยประวัตศิ าสตรค์ วนเนียง ๑๐
เรยี นรู้คาศพั ท์
คา คาอ่าน ความหมาย
ราชกิจจานเุ บกษา ราด – ชะ - กิด – จา น. หนังสือของทางราชการทอ่ี อกเป็นราย
– นุ – เบก - สา สปั ดาห์โดยสานกั งานราชกจิ จานุเบกษา
สานกั เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี สาหรับลง
ประกาศเก่ียวกับกฎหมาย กฎ ระเบียบ
ข้อบงั คบั ตลอดจนประกาศของกระทรวง
ทบวง กรมตา่ ง ๆ รวมทง้ั ประกาศเกย่ี วกับ
การจดทะเบยี นห้างหนุ้ สว่ น บริษทั
รัฐภมู ิ รัด - ถะ - พูม [รดั รดั ถะ–] น. แควน้ บา้ นเมือง ประเทศ
เช่น รัฐภมู ิ รัฐปาหัง บา้ นเมอื ง เช่น
กฎหมายสงู สุดของรฐั ประเทศ เชน่ รัฐ
วาตกิ ัน
เล่าขาน เล่า - ขาน กลา่ วขาน
บอกเรือ่ งราวในอดตี ตอ่ ๆ กนั มา
ตัวอยา่ งประโยค
เรื่องที่เกดิ ข้นึ ในอดตี หลายเรอ่ื งกลายเป็น
ตานานท่ีผคู้ นเลา่ ขานกนั มาถึงปัจจุบัน
สัญจร สนั - จอน [จอน] ก. ผา่ นไปมา เช่น ทางสญั จร.
น. ช่องทาง ถนน การผา่ นไปมา. (ป. ส.).
ชุด “ควนเนียงบา้ นฉนั ” ยอ้ นรอยประวัติศาสตร์ควนเนยี ง ๑๑
ขนั้ ๒ ฉันถาม – เธอตอบ
STEP ๒ ขัน้ การคดิ วเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความรู้
(Processing)
ชุด “ควนเนยี งบา้ นฉัน” ย้อนรอยประวตั ศิ าสตร์ควนเนียง ๑๒
กจิ กรรมฉนั ถาม - เธอตอบ
คาส่งั นักเรียนตอบคาถามท่กี าหนดให้ถกู ตอ้ ง
๑. จงอธิบายลักษณะของควนเรยี งตามความเข้าใจ ?
ตอบ.............................................................................................................
๒. ในอดตี อาเภอควนเนยี งอยภู่ ายใต้การปกครองของอาเภอใดบ้าง ?
ตอบ.............................................................................................................
๓. พระราชกฤษฎีกาได้ยกฐานะก่ิงอาเภอควนเนยี งเปน็ “อาเภอควนเนยี ง”
เม่อื วันทเ่ี ท่าไหร่ ?
ตอบ.............................................................................................................
๔. ทตี่ ัง้ ของทวี่ า่ การอาเภอควนเนยี งช่ัวคราว ใช้สถานท่แี หง่ ใด
ตอบ.............................................................................................................
๕. อาเภอควนเนยี งมีการปกครองตาบลกี่ตาบล ไดแ้ ก่ ตาบลอะไรบา้ ง
ตอบ.............................................................................................................
เกณฑ์การประเมิน คะแนนเต็ม คะแนนที่ได้ คิดเปน็ สรปุ
ผา่ น หมายถงึ ได้คะแนนรอ้ ยละ ๘๐ ขึ้นไป รอ้ ยละ ผา่ น ไมผ่ า่ น
ไม่ผ่าน หมายถึง ได้คะแนนต่ารอ้ ยละ ๘๐ ๕
ชุด “ควนเนียงบ้านฉัน” ยอ้ นรอยประวัติศาสตรค์ วนเนยี ง ๑๓
ขั้น ๓ อ่านเรอ่ื งอยา่ งรอบคอบ
STEP 3 ขั้นปฏบิ ัตแิ ละสรุป
(Applying and Constructing the Knowledge)
ชุด “ควนเนยี งบา้ นฉนั ” ยอ้ นรอยประวตั ิศาสตรค์ วนเนียง ๑๔
คาสัง่ นักเรยี นอา่ นข้อความทีก่ าหนดใหก้ าเครอื่ งหมาย ในรายการ
จริง หรอื ไม่จริง
ข้อ รายการ จริง ไม่จรงิ
จรงิ ไม่จริง
๑. เดิมชาวบา้ นที่อยอู่ าศยั เรียกชือ่ หมู่บา้ นของ
ควนเนียง วา่ “ ควนเรียง ” ตามลักษณะของ จรงิ ไมจ่ ริง
ควนทเี่ รยี งตดิ ต่อกัน
จริง ไม่จริง
๒. ควนเนียง แต่เดมิ เคยมีฐานะเป็นอาเภอ “ รัฐ
ภูมี “ ต้ังอยู่ที่บ้านปากบางภมู ี อาเภอรัฐภมู ี จริง ไมจ่ ริง
ในสมัยน้นั การปกครองขนึ้ อยู่กับอาเภอรัตภมู ิ จริง ไม่จรงิ
๓. “ อาเภอรตั ภมู ิ ”ในปจั จบุ นั มชี ื่อเดมิ วา่
อาเภอรตั ตภมู ิ เขตการปกครองของจังหวดั
สงขลา
๔. การแต่งตง้ั เป็น “อาเภอควนเนียง ” ลงวันที่
17 ธันวาคม พ.ศ. 2527
๕. หอ้ งสมดุ ประชาชนซงึ่ ตงั้ อยู่หม่ทู ่ี 2
ตาบลรตั ภูมิ เปน็ ที่ต้งั ทวี่ า่ การอาเภอควนเนยี ง
ชวั่ คราว ตง้ั แต่วนั ท่ี 2 มกราคม พ.ศ. 2528
ชุด “ควนเนียงบา้ นฉัน” ยอ้ นรอยประวตั ิศาสตรค์ วนเนยี ง ๑๕
ขน้ั ๔ บอกต่อเรอ่ื งเลา่
STEP 4. ขน้ั สอื่ สารและนาเสนอ
(Applying the Communication Skill)
ชดุ “ควนเนียงบ้านฉนั ” ย้อนรอยประวตั ิศาสตรค์ วนเนยี ง ๑๖
คำสัง่ นกั เรียนอ่านเร่ือง “ยอ้ นรอยประวตั ิศาสตร์ควนเนียง” แลว้ สรุปใจความสาคญั
เร่ืองยอ้ นรอยประวตั ิศาสตร์ควนเนียง
ใจความสาคญั : .................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
ชดุ “ควนเนียงบ้านฉัน” ย้อนรอยประวัติศาสตรค์ วนเนยี ง ๑๗
ขัน้ ๕ สรปุ และประเมินผล
STEP 5 ขนั้ ประเมินเพ่ือเพิ่มคุณคา่
(Self - Regulating)
ชุด “ควนเนยี งบ้านฉัน” ยอ้ นรอยประวตั ศิ าสตร์ควนเนยี ง ๑๘