The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรภาษาไทย ป๔

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sukankar123, 2022-09-03 09:11:17

หลักสูตรภาษาไทย ป๔

หลักสูตรภาษาไทย ป๔

กจิ กรรมการเรียนรู้ Active Learning : I SURE MODEL

ขั้นตอน กิจกรรมการเรยี นรู้
ขน้ั การสรา้ งแรงจงู ใจ
1.นกั เรยี นคดั พยัญชนะไทยตัวเต็มบรรทัดและคร่ึงบรรทดั
2.กจิ กรรมท่องบทอาขยาน ตอน สดุ สาครเข้าเมือการเวก
3.ใช้คำถามหรอื กิจกรรมสำหรับทบทวนและตรวจสอบความร้พู นื้ ฐาน
กอ่ นเรยี น
4. ครูกำหนดสถานการณ์ให้นักเรยี นรว่ มกันปฏบิ ตั ิกจิ กรรมเพ่อื เช่ือมโยง
ความรเู้ ข้าสู่เนื้อหาตา่ งๆ ท่ีเก่ียวขอ้ งกับหลักภาษา พยัญชนะ สระ
วรรณยกุ ต์

ข้นั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครจู ดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ในรูปแบบ Active Learning ที่เน้นให้
ขั้นการวัดและประเมินผล นกั เรยี นมคี วามรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั เร่ืองการอา่ น ดังนี้

1.1 พืน้ ฐานทางภาษา
1.2 หลักการอา่ นออกเสยี งและบอกความหมายบทร้อยแก้ว
1.3 การอา่ นบทร้อยกรองเป็นทำนองเสนาะ
1.4 คำทมี่ ีพยัญชนะควบกลำ้ อกั ษรนำ คำประสม
2. นักเรยี นร่วมกันปฏิบตั กิ ิจกรรมหรือเกมท่ีเนน้ การปฏบิ ัตจิ ริง
ขนั้ ๑. คำศัพทน์ ่ารู้ STEP ๑ข้ันรวบรวมขอ้ มลู (Gathering) นักเรยี น
รวบรวมคำศพั ท์
ขนั้ ๒. ฉันถาม – เธอตอบ STEP ๒ข้ันการคิดวเิ คราะห์และสรปุ ความรู้
นักเรียนตงั้ คำถามจากเนือ้ เรือ่ งการอ่าน
ขน้ั ๓ อา่ นเร่อื งอยา่ งรอบคอบ (Processing) STEP 3 ขนั้ ปฏบิ ตั ิและ
สรปุ ความร้หู ลังการปฏิบัติ (Applying and Constructing the
Knowledge) ฝึกอา่ นจากเนื้อเรอ่ื ง
ขน้ั ๔ บอกต่อเร่อื งเลา่ STEP 4. ขั้นสอ่ื สารและนำเสนอ (Applying
the Communication Skill) เลา่ และนำเสนอใหเ้ พื่อนฟัง
ขั้น ๕ สรุปและประเมินผลSTEP 5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า (Self -
Regulating)
3.ครนู ำข้อความและประโยคกำหนดใหน้ ักเรยี นได้ฝึกษะการอ่านออก
เสยี งและและทดสอบเปน็ รายบคุ คลหรือรายกล่มุ ร่วมกนั นำเสนอ
ความหมายของคำ แลว้ รว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง

1. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมร่วมคิดร่วมทำ เป็นกิจกรรมที่ให้นักเรียน
นำ ความรู้เกี่ยวกับ ทักษะการอ่านคำ ประโยค ท่องบทอาขยาน
ปฏิบัติตามคำสั่งในกิจกรรมพร้อมตอบคำถาม จากนั้นนำเสนอการ
อ่านบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ตามที่กำหนด ครูและนักเรียน
ช่วยกันสรุปความเหน็ จากการอา่ น
2. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปองค์ความรู้พื้นฐานทางดา้ นหลกั ภาษา

ขั้นตอน กจิ กรรมการเรียนรู้
ขนั้ การใหร้ างวัล
3. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด/ใบงาน/ชิ้นงาน เพื่อให้นักเรียนได้นำ
ความรจู้ ากทีไ่ ด้เรียนมาตลอดบทเรยี นไปแก้ปญั หา
4. ทดสอบหลังเรียน/ประเมินตวั ชวี้ ดั ประจำหนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1

1. ทุกขั้นตอนในการจัดการเรียนรู้ครูมีการเสริมแรงเชิงบวกเม่ือ
นักเรียนสามารถปฏิบัติกิจกรรมหรือคิดหาคำตอบได้อย่างถูกต้องตาม
หลักการทางหลักภาษา เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้
มากยิ่งข้ึน
2. ในช่วงการจัดการเรียนการสอน ครูคอยให้คำแนะนำ อธิบาย
เพิ่มเติมหรือช่วยเหลือนักเรียนเป็นรายบุคคล และหลังการจัดการ
เรียนการสอน หรือหลังการวัดและประเมินผล ครูนำผลการประเมิน
มาให้ขอ้ มลู ย้อนกลับเชงิ บวกแก่ผ้เู รยี น
3. บูรณาการสอดแทรกคุณธรรม และการพัฒนาคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ ให้แกน่ กั เรียนในการปฏิบัตกิ ิจกรรม

สื่อและแหล่งเรียนรู้

1) หนังสือเรยี น ภาษาพาที ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔ ขนมไทยไร้เทยี มทาน
2) หนงั สอื เรียน ภาษาพาที ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๔ ออมไว้กำไรชีวติ
3) หนงั สือเรียน ภาษาพาที ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ ผกั สมนุ ไพรใบหญ้ามคี ุณคา่ ท้ังนน้ั
4) หนังสอื เรียน วรรณคดลี ำนำ ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๔ ผจญภยั ของสดุ สาคร
5) แบบฝกึ หดั ทักษะภาษา ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 ขนมไทยไรเ้ ทียมทาน

ออมไว้กำไรชวี ติ ผกั สมนุ ไพรใบหญา้ มีคุณคา่ ทัง้ นั้น และ ผจญภัยของสดุ สาคร
๖) ใบงาน
๗) ใบกจิ กรรม
๘) บัตรภาพ
๙) แถบบัตรคำ
๑๐) หนงั สือนิทานพ้นื บ้าน
๑๑) แถบประโยค
๑๒) เกมทางภาษา

หนว่ ยการจัดการเรียนรอู้ ิงมาตรฐาน

หน่วยการเรยี นที่ ๒ เร่ือง วาจาไพเราะเสนาะทำนอง
รายวิชา ภาษาไทย
ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๔ รหัสวิชา ท ๑๔๑๐๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย

ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒๐ ชว่ั โมง

มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชีว้ ัด

มาตรฐานการเรยี นรู้ การอ่าน

มาตรฐาน ท ๑.๑ :ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละความคดิ เพ่ือนำไปใชต้ ัดสนิ ใจ แกป้ ัญหาใน
การดำเนินชีวิต และมนี ิสัยรักการอ่าน

ตวั ชี้วดั
มาตรฐาน ท 1.1 ป.4/1 อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรองไดถ้ กู ต้อง
มาตรฐาน ท 1.1 ป.4/๘ มีมารยาทในการอา่ น
มาตรฐานการเรยี นรู้ การเขียน
มาตรฐาน ท ๒.๑ : ใชก้ ระบวนการเขยี นสือ่ สาร เขยี นเรียงความ ยอ่ ความและเขยี นเรื่องราวใน

รปู แบบตา่ งๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ ควา้
อย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ตัวชว้ี ดั
มาตรฐาน ท ๒.๑ ป.4/๒ เขียนสอ่ื สารโดยใช้คำได้ถกู ตอ้ งชดั เจนและเหมาะสม
มาตรฐาน ท ๒.๑ ป.4/๘ มมี ารยาทในการเขียน
มาตรฐานการเรยี นรู้ การฟงั ดูและพดู

มาตรฐาน ท ๓.๑ : สามารถเลอื กฟังและดูอย่างมวี จิ ารณญาณและพูดแสดงความรู้ ความคดิ และ
ความรสู้ กึ ในโอกาสต่างๆอย่างมวี ิจารณญาณและสร้างสรรค์

ตัวชี้วัด
มาตรฐาน ท ๓.๑ ป.4/๒ พูดสรปุ ความจากการฟงั และการดู
มาตรฐาน ท ๓.๑ ป.4/๓ พูดแสดงความรู้ ความคดิ เหน็ และความรสู้ กึ เกยี่ วกบั เรอ่ื งท่ีฟงั และดู
มาตรฐาน ท ๓.๑ ป.4/๔ ตัง้ คำถามและตอบคำถามเชงิ เหตผุ ล
มาตรฐาน ท ๓.๑ ป.4/๖ มมี ารยาทในการฟัง การดูและการพดู
มาตรฐานการเรียนรู้ หลกั การใช้ภาษา

มาตรฐาน ท ๔.๑ : เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย และเปลยี่ นแปลงของภาษาและพลงั
ของภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัตขิ องชาติ

ตวั ช้ีวัด
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.4/๒ ระบุชนดิ และหน้าทีข่ องคำในประโยค
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.4/๓ ใชพ้ จนานุกรมคน้ หาความหมายของคำ

มาตรฐานการเรยี นรู้ วรรณคดีและวรรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ : เข้าใจและแสดงความคดิ เหน็ วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น

คุณค่าและนำมาประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตประจำวัน
มาตรฐาน ท ๕.๑ ป.4/๑ ระบขุ อ้ คดิ จากนทิ านพืน้ บ้านหรือนทิ านคติธรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ ป.4/๒ อธบิ ายข้อคดิ จากการอา่ นเพือ่ นำไปใชใ้ นชวี ติ จริง
สาระสำคัญ

มาตราตวั สะกด คือ กลุ่มพยญั ชนะทป่ี ระกอบอยทู่ า้ ยคำหรอื พยางคใ์ น มาตรา ก กา ทำใหเ้ สยี งของคำ
แตกต่างกันตามพยญั ชนะที่นำมาประกอบ เช่น นา เมื่อประกอบกับ น กลายเป็น นาน การอ่านออกเสยี ง
และฝกึ เขยี นรวมทั้งบอกความหมายของคำท่ีมีตัวสะกดในมาตรา กง กม กก กด ซ่ึงเป็นคำที่มตี วั สะกดตรง
ตามมาตราและไม่ตรงตามมาตรา ชว่ ยใหน้ ักเรยี นเข้าใจหลักภาษาไทยมากข้ึน

การท่องบทอาขยานส่วนใหญเ่ ป็นการท่องออกเสยี ง การทอ่ งบทอาขยานเป็นทำนองเสนาะช่วยใหบ้ ท
อาขยานนั้นมคี วามไพเราะ ผู้ทอ่ ง เกิดความสนใจจดจำบทอาขยานไดด้ ี บทอาขยานชว่ ยจรรโลงใจและให้
ขอ้ คิด การท่องจำบทอาขยานทำให้จิตใจเบิกบาน เปน็ เคร่ืองเตือนใจ และสามารถนำไปใช้อ้างอิงในการ
ส่อื สารได้
สาระการเรยี นรู้
ความรู้
สาระที่ ๑ การอ่าน

การอ่านจับใจความจากสอื่ ต่างๆ เช่น เรอ่ื งสั้น, เรอื่ งเล่าจากประสบการณ,์ นทิ านชาดก, บทความ,
บทโฆษณา, ขา่ วและเหตกุ ารณป์ ระจำวัน, งานเขยี นประเภทโนม้ นา้ วใจ, สารคดีและบนั เทิง
สาระที่ ๒ การเขยี น

๑. การนำแผนภาพโครงเร่อื งและแผนภาพความคิดไปพฒั นางานเขยี น
๒. การเขยี นยอ่ ความจากสือ่ ตา่ งๆเช่น นทิ าน ความเรียงประเภทต่างๆ ประกาศ จดหมาย

คำสอน
๓. การเขยี นเร่ืองตามจินตนาการ
๔. มารยาทในการเขยี น
สาระท่ี ๓ การฟัง การดู และการพูด การรายงาน เชน่
- การพดู ลำดบั ข้นั ตอนการปฏบิ ัตงิ าน
- การพูดลำดับเหตุการณ์
สาระที่ ๔ หลกั การใชภ้ าษา
- คำในแม่ ก กา
- มาตราตัวสะกด
- การผนั อักษร
- คำเป็น คำตาย
- คำพอ้ ง
สาระท่ี ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม เชน่
- นทิ านพืน้ บา้ น ,นทิ านคติธรรม

- เพลงพน้ื บ้าน
- วรรณคดแี ละวรรณกรรมในบทเรยี นและตามความสนใจ
ทกั ษะ / กระบวนการ

มีทักษะอ่านออกเสียงออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง อธิบายความหมายของคำ ประโยค
และสำนวนจากเรื่องที่อ่าน อ่านเรื่องสั้น ๆ ตามเวลาที่กำหนดและตอบคำถามจากเรื่องที่อ่าน มีทักษะการ
เขียนสื่อสารโดยใช้คำได้ถูกต้อง ชัดเจนและเหมะสม มีทักษะการฟัง การดู และการพูด การสื่อสาร และ
ท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนดและบทร้อยกรองที่มีคุณค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน
กระบวนการเขียน กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการกล่มุ และกระบวนการคิดวเิ คราะห์
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
๑. มีวนิ ยั
๒. ใฝ่เรยี นรู้
๓. ซื่อสตั ยส์ ุจริต
๔. รักความเปน็ ไทย
๕. อยู่อยา่ งพอเพยี ง
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น/จดุ เน้นคณุ ภาพของผ้เู รยี น

3. ความสามารถในการสื่อสาร (อ่านออกเสยี งคำข้อความ บทร้อยกรองท่ีมคี วามยากง่าย อ่านออก
เสียงถูกต้องชัดเจน)

4. ความสามารถในการคิด(ทักษะการคิดขน้ั พนื้ ฐานทกั ษะการส่ือสาร/คดิ เปน็ แกนทกั ษะการตัง้ คำถาม การแปล

ความ การตีความ ทักษะการให้เหตผุ ล ทักษะการนำความรู้ไปใช้)
๓. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต (ความสามารถในการปรบั ตัว เห็นคุณคา่ ในตนเอง เชือ่ ม่นั ใน
ตนเองเคารพสทิ ธิของตนเองและผ้อู น่ื )
การประเมินความคดิ รวบยอด
ช้ินงานหรอื ภาระงาน
๑. การพูดแนะนำตนเองหนา้ ชนั้ เรยี นและอา่ นบทรอ้ ยกรอง
๒. การตั้งคำถามกระตุ้นความคิด
๓. การเขียนแผนภาพโครงเรื่อง

๔. มารยาทในการฟัง การดูและการพดู
๕. ตอบคำถามจากเรื่องที่อ่าน
การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้

การท่องบทอาขยานสุดสาครตอนเข้าเมืองการเวก

การเขยี นแผนภาพโครงเรือ่ ง

การตง้ั คำถามกระตุ้นความคิด

การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้

วธิ ีการ เครื่องมือ เกณฑ์ผ่าน

ตรวจใบงาน/แบบฝกึ หดั ใบงาน/แบบฝกึ หดั รอ้ ยละ 60 ข้นึ ไป
การทดสอบ แบบทดสอบ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

การประเมนิ ช้นิ งาน แบบประเมินชนิ้ งาน ร้อยละ 60 ขนึ้ ไป

ประเมนิ ทักษะกระบวนการ แบบประเมนิ ทกั ษะกระบวนการ ระดบั คุณภาพ 3 ขึน้ ไป
ประเมนิ คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ แบบประเมนิ คุณลักษณะท่ีพึง ระดบั คุณภาพ 2 ขึ้นไป
ของนักเรียนรายบคุ คล ประสงค์ของนักเรียนรายบุคคล

เกณฑก์ ารประเมนิ

ประเดน็ ระดบั คุณภาพ
การประเมนิ
การตัง้ คำถาม ๔ ๓๒ ๑
- ใช้ภาษาถูกต้อง - ใช้ภาษาถูกต้อง
การเขียน เหมาะสม - ใชภ้ าษาถกู ตอ้ ง - ใชภ้ าษาถูกต้องส่วน เป็นส่วนนอ้ ย
แผนภาพโครง - เข้าใจง่าย ไม่ - คอ่ นขา้ งวกวน
เรือ่ ง วกวน เหมาะสม ใหญ่ เขา้ ใจยาก
- สามารถปฏบิ ัติ - ปฏิบัตติ ามได้
ทอ่ งบทอาขยาน ตามได้ - คอ่ นข้างวกวน เข้าใจ - คอ่ นขา้ งวกวน เข้าใจ ยาก
- ใชภ้ าษาถกู ต้อง
เหมาะสม ยาก ยาก - ใช้ภาษาถูกต้อง
- อธบิ ายขัน้ ตอน เหมาะสม เป็น
ครบถว้ น - สามารถปฏบิ ัติตามได้ - ปฏบิ ัติตามได้ยาก ส่วนน้อย
- เป็นไปตามลำดับ - อธบิ ายขนั้ ตอน
ขัน้ ตอน - ใช้ภาษาถูกตอ้ ง - ใชภ้ าษาถกู ตอ้ ง ไม่ครบถ้วน
เหมาะสม เหมาะสม เป็นสว่ น - ไมเ่ ป็นไป
เวน้ จังหวะวรรค - อธบิ ายขัน้ ตอน ใหญ่ ตามลำดับขน้ั ตอน
ตอนถูกตอ้ ง ไม่ขา้ ม ครบถ้วน - อธบิ ายขั้นตอนไม่ มีความตง้ั ใจ
ไม่ตคู่ ำ - ไม่เป็นไปตามลำดบั ครบถว้ น
ออกเสยี งคำถกู ต้อง ขน้ั ตอน - ไม่เป็นไปตามลำดบั
ตามอักขรวิธี ขนั้ ตอน
เนน้ นำเสียง เว้นจังหวะวรรคตอน
ทอดเสยี ง ไพเราะ ถูกต้อง ไม่ข้าม ไมต่ ู่คำ เว้นจงั หวะวรรคตอน
มีความตง้ั ใจ ถูกต้อง ไม่ข้าม ไม่ตู่คำ

ออกเสียงคำถกู ต้อง มีความต้ังใจ
ตามอักขรวธิ ี

มีความต้ังใจ

ประเดน็ การประเมิน ระดบั คุณภาพ

๑. ความถกู ต้องในการอ่าน ๓ ๒๑

๒. คณุ ลกั ษณะ สามารถอ่านได้ถกู ต้อง สามารถอ่านได้เกือบ พยายามอ่านได้บ้าง
(มคี วามมน่ั ใจในการอ่าน )
๓. การสะกดคำศพั ท์ ท้ังหมด ถกู ตอ้ งทงั้ หมด ผดิ ไม่เกิน ผดิ มากกว่า 3 คำ
๔.อธบิ ายความหมาย
ของคำศัพท์ 3 คำ

มีความม่นั ใจในการอา่ น มีความมั่นใจในการอ่าน ขาดความมั่นใจใน

ดีมกี ารเตรียมตัวมาอย่าง พอใช้ เตรียมตัวมาอย่าง ตนเอง เตรียมตัวมา

ดี ม่นั ใจตนเอง ดี ยังประหมา่ บ้างแต่ไมม่ ากนัก

การสะกด การสะกด สะกดคำผดิ มาก

คำศัพทถ์ ูกตอ้ ง คำศพั ทผ์ ดิ เลก็ น้อย

อธบิ ายความหมายได้ อธิบายความหมายได้ อธิบายความหมาย

ถกู ต้องสมบรู ณ์ เกือบถกู ตอ้ ง ไมไ่ ด้

เกณฑก์ ารให้คะแนนด้านทกั ษะและกระบวนการ

สมรรถนะ : ความสามารถในการสื่อสาร

สมรรถนะดา้ น รายการประเมนิ ดีมาก ระดบั คุณภาพ
(๓) ดี พอใช้ ปรบั ปรุง
๑.ความสามารถ 1.1 มคี วามสามารถในการรบั -สง่ สาร (๒) (๑) (๐)
ในการส่ือสาร 1.2 มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ระดบั คุณภาพ
ดี พอใช้ ปรับปรุง
ความคิด ความเข้าใจของตนเอง โดยใชภ้ าษา (๒) (๑) (๐)
อยา่ งเหมาะสม
1.3 ใช้วธิ กี ารสอ่ื สารทเี่ หมาะสม มีประสทิ ธภิ าพ
1.4 เจรจาต่อรอง เพื่อขจดั และลดปญั หาความ
ขัดแย้งต่าง ๆ ได้
1.5 เลอื กรบั และไม่รับข้อมูลข่าวสารดว้ ยเหตุผล
และถูกตอ้ ง
สมรรถนะ : ความสามารถในการคิด

สมรรถนะด้าน รายการประเมิน ดมี าก
๒.ความสามารถ 2.1 มีความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ (๓)
ในการคดิ 2.2 มที กั ษะในการคิดนอกกรอบอย่างสรา้ งสรรค์
2.3 สามารถคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ
2.4 มีความสามารถในการสรา้ งองคค์ วามรู้
2.5 ตดั สนิ ใจแกป้ ัญหาเก่ียวกับตนเองไดอ้ ยา่ ง
เหมาะสม

สมรรถนะ : ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

สมรรถนะด้าน รายการประเมิน ระดบั คุณภาพ
ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรงุ
(๓) (๒) (๑) (๐)
๔.ความสามารถ 4.1 เรยี นรู้ด้วยตนเองได้เหมาะสมตามวัย
ในการใช้ทกั ษะ 4.2 สามารถทำงานกลุม่ ร่วมกบั ผู้อน่ื ได้
ชวี ติ 4.3 นำความรู้ท่ไี ดไ้ ปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจำวัน
4.4 จัดการปญั หาและความขัดแยง้ ได้เหมาะสม
4.5 หลีกเลย่ี งพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ท่ีสง่ ผล
กระทบตอ่ ตนเอง
เกณฑ์การให้คะแนนระดบั คุณภาพ

ดมี าก - พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ิชดั เจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน

ดี - พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัตชิ ัดเจนและบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน

พอใช้ - พฤติกรรมทป่ี ฏิบัตบิ างครง้ั ให้ 1 คะแนน

ต้องปรับปรุง - ไม่เคยปฏบิ ัตพิ ฤติกรรม ให้ 0 คะแนน

เกณฑ์การให้คะแนนดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ : มีวนิ ยั

พฤตกิ รรมบ่งช้ี พอใช้ (1) ดี (2) ดีมาก (3)

ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง ปฏิบัติตนตามข้อตกลง ปฏบิ ตั ติ นตามข้อตกลง -ปฏบิ ัติตนตามข้อตกลง

กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบียบ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คบั ของ

ขอ้ บังคับของ ขอ้ บังคบั ของโรงเรยี น ขอ้ บงั คบั ของโรงเรยี น โรงเรยี น และ ไม่ละเมดิ สิทธขิ อง

ครอบครัว โรงเรยี น ตรงต่อเวลาในการ ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั ิ ผูอ้ นื่

และสงั คม ปฏบิ ัตกิ จิ กรรม กจิ กรรมและรับผิดชอบ -ตรงต่อเวลาในการปฏิบตั ิ
ในการทำงาน กิจกรรมและรับผดิ ชอบในการ

ทำงาน

คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ : ใฝ่เรยี นรู้

พฤติกรรมบ่งชี้ พอใช้ (1) ดี (2) ดมี าก (3)

ต้ังใจ เพียรพยายาม เขา้ เรยี นตรงเวลา เข้าเรียนตรงเวลา ตงั้ ใจ เข้าเรยี นตรงเวลา ตงั้ ใจเรียน เอา
ในการเรยี น และเขา้ ตง้ั ใจเรยี น เอาใจใส่ใน เรยี น เอาใจใสใ่ นการ ใจใสใ่ นการเรียน และมีสว่ นร่วม
รว่ มกจิ กรรมการ การเรียน และมสี ่วน เรยี น และมีส่วนร่วมใน ในการเรียนรู้ และเขา้ รว่ ม
เรียนรู้ ร่วมในการเรียนรู้ การเรียนรู้ และเข้าร่วม กจิ กรรมการเรยี นรตู้ ่างๆ ทั้ง
และเข้ารว่ มกิจกรรม กิจกรรมการเรยี นรู้ตา่ งๆ ภายในและภายนอกโรงเรยี นเป็น
แสวงหาความรู้จาก การเรียนรตู้ า่ งๆ เปน็ บ่อยครั้ง ประจำ
แหล่งเรยี นรูต้ า่ งๆ ท้งั บางครั้ง
ภายในและภายนอก
โรงเรยี น ดว้ ยการ
เลือกใชส้ ่ืออยา่ ง
เหมาะสม บันทึก
ความรู้ วิเคราะห์ สรปุ
เป็นองค์ความรู้
แลกเปลยี่ นเรียนรู้
และนำไปใช้ใน
ชวี ติ ประจำวนั ได้

คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ : ซอื่ สัตย์

พฤติกรรมบ่งช้ี พอใช้ (1) ดี (2) ดมี าก (3)

ประพฤตติ รงตาม ประพฤตติ นโดยเกรง ประพฤติตนโดยเกรง ประพฤติตนโดยเกรงกลัวต่อการ
ความเป็นจรงิ ตอ่ กลวั ตอ่ การกระทำผิด
ตนเองทั้งทางกาย และไม่มี กลวั ตอ่ การกระทำผดิ กระทำผดิ และไมม่ ี
วาจา ใจ พฤติกรรมนำส่งิ ของ
และผลงานของผู้อื่นมา และไมม่ ี พฤติกรรมนำส่งิ ของและผลงาน
ประพฤตติ รงตาม เป็นของตนเอง
ความเป็นจริงต่อ พฤติกรรมนำส่ิงของและ ของผู้อน่ื มาเปน็ ของตนเอง
ผูอ้ นื่ ทัง้ ทางกาย
วาจา ใจ ผลงานของผู้อ่ืนมาเป็น ปฏบิ ัตติ นต่อผ้อู นื่ ดว้ ยความ

ของตนเอง ปฏบิ ตั ติ น ซื่อตรง

ต่อผู้อื่นดว้ ยความซ่อื ตรง เปน็ แบบอย่างท่ดี ีดา้ นความ

ซือ่ สตั ย์

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ : รักความเปน็ ไทย

พฤติกรรมบ่งชี้ พอใช้ (1) ดี (2) ดมี าก (3)

ภาคภูมิใจใน มีสัมมาคารวะตอ่ ครู มีสมั มาคารวะตอ่ ครู มีสมั มาคารวะ ต่อครูอาจารย์
ขนบธรรมเนยี ม อาจารย์ ใช้ภาษาไทย อาจารย์ ปฏิบัติตนเป็นผู้มี ปฏบิ ตั ิตนเป็นผู้มมี ารยาทแบบ
ประเพณี ศิลปะ เลขไทยในการส่ือสาร มารยาทแบบไทยใช้ ไทยใชภ้ าษาไทย เลขไทยในการ
วฒั นธรรมไทย และ ได้ถูกต้อง ภาษาไทย เลขไทยในการ ส่อื สารได้ถูกต้องเขา้ รว่ ม
มีความกตัญญู สือ่ สารไดถ้ ูกต้อง กจิ กรรมทเี่ กี่ยวข้องกับ
กตเวที ภมู ิปัญญาไทยและมสี ่วนร่วมใน
เขา้ รว่ มกจิ กรรมที่ การสบื ทอดภมู ิปญั ญาไทย
เห็นคณุ ค่าและใช้ เกีย่ วข้องกับ
ภาษาไทยในการ ภมู ปิ ญั ญาไทย
สอ่ื สารได้อย่าง
ถูกต้องเหมาะสม

อนุรักษ์และสบื
ทอดภูมิปญั ญาไทย

คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ : อยู่อยา่ งพอเพียง

พฤตกิ รรมบ่งช้ี พอใช้ (1) ดี (2) ดีมาก (3)

ดำเนนิ ชีวติ อย่าง ใช้ทรัพยส์ ินของ ใช้ทรพั ย์สินของตนเองและ ใชท้ รัพย์สนิ ของตนเองและ
ทรพั ยากรของสว่ นรวมอยา่ ง ทรัพยากรของส่วนรวมอย่าง
พอประมาณ มี ตนเองและ ประหยัด คุ้มคา่ เก็บรักษา ประหยัด คุ้มค่า เก็บรักษา
ดแู ลอยา่ งดี ไม่เอาเปรยี บ ดแู ลอยา่ งดี ไม่เอาเปรยี บ
เหตผุ ล รอบคอบ มี ทรัพยากรของ ผอู้ นื่ ผู้อนื่ และไม่ทำใหผ้ ู้อืน่
เดือดรอ้ น
คุณธรรม สว่ นรวมอยา่ ง ใช้ความรขู้ ้อมลู ข่าวสารใน
การ ใช้ความรขู้ ้อมูลข่าวสารใน
มภี ูมคิ มุ้ กนั ในตวั ทด่ี ี ประหยดั ค้มุ ค่า การ วางแผนการเรียน การ
ปรับตัวเพ่อื อยูใ่ น เก็บรกั ษาดแู ล วางแผนการเรยี น และการ ทำงาน และใช้ใน
สังคมได้อยา่ งมี อย่างดี ทำงาน ชีวติ ประจำวัน

ความสุข

กิจกรรมการเรยี นรู้ ๒๐ ชว่ั โมง

๑. มาตราตวั สะกด ๔ ชั่วโมง

๒. การเขยี นแผนภาพโครงเรื่อง ๕ ชวั่ โมง

๓. ฉันทลกั ษณบ์ ทกลอน ๔ ชว่ั โมง

๔. การอ่านออกเสียงจากหนังสอื ภาษาพาที ๓ ชั่วโมง

๕. การอา่ นบทรอ้ ยกรอง จากหนงั สอื วรรณคดีลำนำ ๔ ชวั่ โมง

กิจกรรมการเรียนรู้ Active Learning : I SURE MODEL

ขนั้ ตอน กิจกรรมการเรยี นรู้
ขนั้ การสรา้ งแรงจูงใจ 1.นักเรียนรอ้ งเพลงมาตราตวั สะกด
2.กิจกรรมทอ่ งบทอาขยาน ตอน สดุ สาครเข้าเมอื การเวก
ขัน้ กิจกรรมการเรียนรู้ 3.ใช้คำถามหรอื กิจกรรมสำหรับทบทวนและตรวจสอบความรู้พ้ืนฐาน
กอ่ นเรยี น
4. ครูกำหนดสถานการณใ์ หน้ ักเรียนรว่ มกนั ปฏบิ ัติกิจกรรมเพือ่ เชื่อมโยง
ความรูเ้ ขา้ สเู่ นื้อหาตา่ งๆ ที่เกี่ยวขอ้ งกบั หลักภาษา อักษรนำ คำควบกล้ำ
1. ครจู ดั กิจกรรมการเรียนรู้ ในรปู แบบ Active Learning ท่เี นน้ ให้
นักเรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจเกยี่ วกับเรือ่ งการอ่าน ดังน้ี
ขั้น ๑. คำศัพท์นา่ รู้ STEP ๑ข้นั รวบรวมขอ้ มูล (Gathering)

อา่ นบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองเร่อื งท่ีครูกำหนดให้

ขนั้ ๒. ฉนั ถาม – เธอตอบ STEP ๒ขนั้ การคิดวิเคราะห์และสรปุ ความรู้

การตั้งคำถามกระตุ้นความคิด

ขั้น ๓ อ่านเรอื่ งอย่างรอบคอบ (Processing) STEP 3 ขน้ั ปฏบิ ตั ิและ

สรุปความรู้หลังการปฏบิ ตั ิ (Applying and Constructing the

Knowledge) การสรุปใจความสำคญั เปน็ แผนภาพความคิด

ขัน้ ๔ บอกต่อเรือ่ งเลา่ STEP 4. ขั้นส่อื สารและนำเสนอ (Applying

the Communication Skill) นำเสนอแสดงผลงาน

ขั้น ๕ สรุปและประเมินผลSTEP 5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า (Self -
Regulating) ทอ่ งบทอาขยานดว้ ยสำเนียงอนั ไพเราะ

ขั้นการวัดและประเมินผล 2. นกั เรยี นรว่ มกนั ปฏิบัติกิจกรรมท่ีเนน้ การปฏบิ ัตจิ ริง ศึกษา คน้ คว้า
หลกั การท่องบทอาขยาน โดยครกู ระตุ้นทกั ษะกระบวนการคิดของ
นกั เรยี น ด้วยการให้ฝกึ กล้าแสดงออก
3.ครนู ำบทความ บทร้อยกรองใหน้ ักเรยี นไดฝ้ กึ ษะการอ่านออกเสยี ง
และท่องบทอาขยานทดสอบเป็นรายบุคคลหรอื รายกลมุ่ รว่ มกันนำเสนอ
ความหมายของคำ แล้วร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง

1. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมร่วมคิดร่วมทำ เป็นกิจกรรมที่ให้นักเรียน
นำ ความรู้เกี่ยวกับ ทักษะการอ่านคำ ประโยค ท่องบทอาขยาน
ปฏิบัติตามคำสั่งในกิจกรรมพร้อมตอบคำถาม จากนั้นนำเสนอการ

ขั้นตอน กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขั้นการให้รางวลั
อ่านบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ตามที่กำหนด ครูและนักเรียน
ช่วยกันสรปุ ความเห็นจากการอ่าน
2. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรปุ องค์ความรู้พืน้ ฐานทางด้านหลักภาษา
3. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด/ใบงาน/ชิ้นงาน เพื่อให้นักเรียนได้นำ
ความรูจ้ ากท่ีได้เรียนมาตลอดบทเรยี นไปแก้ปญั หา
4. ทดสอบหลงั เรียน/ประเมินตัวชว้ี ัด ประจำหนว่ ยการเรียนรู้

1. ทุกขั้นตอนในการจัดการเรียนรู้ครูมีการเสริมแรงเชิงบวกเม่ือ
นักเรียนสามารถปฏิบัติกิจกรรมหรือคิดหาคำตอบได้อย่างถูกต้องตาม
หลักการทางหลักภาษา เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้
มากยิ่งข้นึ
2. ในช่วงการจัดการเรียนการสอน ครูคอยให้คำแนะนำ อธิบาย
เพิ่มเติมหรือช่วยเหลือนักเรียนเป็นรายบุคคล และหลังการจัดการ
เรียนการสอน หรือหลังการวัดและประเมินผล ครูนำผลการประเมิน
มาให้ข้อมลู ยอ้ นกลับเชิงบวกแกผ่ ้เู รยี น
3. บูรณาการสอดแทรกคุณธรรม และการพัฒนาคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ ให้แก่นักเรียนในการปฏิบัติกจิ กรรม

สอื่ และแหล่งเรียนรู้

๑. หนงั สือเรยี น ภาษาพาที ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ สารพิษในชีวติ ประจำวนั
๒. หนังสือเรยี น ภาษาพาที ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๔ ธรรมชาตนิ ีม้ คี ุณ
๓. หนงั สือเรียน วรรณคดีลำนำ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔ บทที่ ระบำสายฟา้
๔. แบบฝึกหดั ทกั ษะภาษา ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ สารพษิ ในชีวิตประจำวนั ธรรมชาติน้มี คี ุณ และ

ระบำสายฟ้า
๕. ใบงาน
๖. ใบกจิ กรรม
๗. บัตรภาพ
๘. แถบบตั รคำ
๙. หนังสือนิทานพ้นื บ้าน
8) แถบประโยค
๑๐. เกมทางภาษา

หน่วยการจัดการเรยี นร้อู ิงมาตรฐาน

หนว่ ยการเรยี นที่ ๓ เร่อื ง นิทานคำกลอนย้อนวรรณคดี
รายวชิ า ภาษาไทย
ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔ รหัสวิชา ท ๑๔๑๐๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย

ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๒๐ ชั่วโมง

มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชว้ี ัด

มาตรฐานการเรียนรู้ การอ่าน

มาตรฐาน ท ๑.๑ :ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคดิ เพอ่ื นำไปใชต้ ัดสนิ ใจ แกป้ ัญหาใน
การดำเนนิ ชีวติ และมนี สิ ัยรักการอา่ น

ตวั ชี้วัด
มาตรฐาน ท 1.1 ป.4/1 อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรองได้ถกู ต้อง
มาตรฐาน ท 1.1 ป.4/๒ อธิบายความหมายของคำ ประโยคและสำนวนจากเรอ่ื งทอี่ ่าน

มาตรฐาน ท 1.1 ป.4/๗ อ่านหนงั สอื ท่มี ีคณุ คา่ ตามความสนใจอย่างสม่ำเสมอและแสดงความคดิ เหน็
เกี่ยวกบั เรอ่ื งท่ีอ่าน
มาตรฐาน ท 1.1 ป.4/๘ มีมารยาทในการอ่าน
มาตรฐานการเรียนรู้ การเขียน

มาตรฐาน ท ๒.๑ : ใช้กระบวนการเขยี นส่อื สาร เขียนเรียงความ ย่อความและเขียนเร่อื งราวใน

รูปแบบต่างๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ ควา้
อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ

ตวั ชว้ี ัด
มาตรฐาน ท ๒.๑ ป.4/๒ เขียนสอ่ื สารโดยใช้คำไดถ้ ูกต้องชัดเจนและเหมาะสม
มาตรฐาน ท ๒.๑ ป.4/๘ มมี ารยาทในการเขียน
มาตรฐานการเรียนรู้ การฟงั ดูและพดู
มาตรฐาน ท ๓.๑ : สามารถเลอื กฟังและดูอยา่ งมวี ิจารณญาณและพดู แสดงความรู้ ความคดิ และ

ความร้สู ึกในโอกาสต่างๆอยา่ งมวี จิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์
ตวั ชีว้ ดั
มาตรฐาน ท ๓.๑ ป.4/๒ พูดสรปุ ความจากการฟงั และการดู
มาตรฐาน ท ๓.๑ ป.4/๓ พูดแสดงความรู้ ความคิดเห็น และความร้สู กึ เกี่ยวกับเรอื่ งทฟ่ี ังและดู
มาตรฐาน ท ๓.๑ ป.4/๔ ตงั้ คำถามและตอบคำถามเชิงเหตผุ ล
มาตรฐาน ท ๓.๑ ป.4/๖ มีมารยาทในการฟัง การดแู ละการพูด
มาตรฐานการเรียนรู้ หลกั การใช้ภาษา

มาตรฐาน ท ๔.๑ : เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย และเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลงั
ของภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัตขิ องชาติ

ตัวชีว้ ดั
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.4/๒ ระบุชนิดและหนา้ ทข่ี องคำในประโยค
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.4/๓ ใชพ้ จนานกุ รมคน้ หาความหมายของคำ

มาตรฐานการเรียนรู้ วรรณคดแี ละวรรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ : เขา้ ใจและแสดงความคิดเหน็ วจิ ารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอย่างเห็น

คุณคา่ และนำมาประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจำวนั
มาตรฐาน ท ๕.๑ ป.4/๑ ระบขุ ้อคดิ จากนทิ านพืน้ บ้านหรือนิทานคติธรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ ป.4/๒ อธบิ ายขอ้ คดิ จากการอ่านเพื่อนำไปใชใ้ นชวี ติ จรงิ
สาระสำคัญ

นทิ านพน้ื บ้านเป็นเร่ืองเลา่ ทเ่ี ลา่ ต่อ ๆ กนั มาในท้องถิน่ ตา่ ง ๆ มักมนี ทิ านพน้ื บา้ นของตนเองและ
เผยแพร่กนั ต่อ ๆ ไปจึงมคี ำศัพท์ในนิทานเปน็ ภาษาถน่ิ การศึกษาคำศัพท์จะทำให้อ่านเน้อื หาและนิทานได้
เข้าใจยงิ่ ขน้ึ

นทิ านพนื้ บ้านเปน็ เรอื่ งเลา่ ขานกันสบื มา เม่ือพิจารณาเนอื้ หาจะได้สาระท่เี ปน็ ประโยชน์ สะท้อนให้
เหน็ ภมู ปิ ัญญาและทัศนคติของบรรพบุรษุ ในสังคมทุกดา้ นไดเ้ ป็นอย่างดี

นทิ านคำกลอน เรื่อง พระอภัยมณีเป็นวรรณคดีสำคญั ของสนุ ทรภู่ กวีเอกของไทยทมี่ ชี ่อื เสียงและ
มีผลงานดา้ นวรรณคดีและวรรณกรรมหลายเร่ือง พระอภัยมณี ตอน กำเนดิ สดุ สาครและสดุ สาครเข้าเมือง
การะเวกมีความสนุกสนานและตืน่ เตน้ อีกท้ังดำเนนิ เรื่องดว้ ยจนิ ตนาการอนั มหศั จรรย์ของผแู้ ตง่
ประกอบดว้ ย คำคม สำนวน คำสอน และคติเตือนใจท่ีมีคุณคา่

นทิ านพนื้ บา้ นภาคต่าง ๆ ของไทย จะมเี รื่องราวความเป็นมาที่แตกต่างกนั ตามสภาพความเปน็ อยู่
มีสาระแง่คดิ ในดา้ นวฒั นธรรม ประเพณี และประวัตคิ วามเปน็ มาให้ได้เรยี นรู้

การแสดงบทบาทสมมตนิ ทิ านพนื้ บา้ น เป็นการอ่านเนอื้ หาแลว้ มคี วามรู้ความเข้าใจในบทบาทของ
ตวั ละคร และเกิดจากการวเิ คราะห์เนือ้ หาของนทิ าน นำมาแสดงบทบาทสมมติ ทง้ั ยังสามารถอธบิ ายคุณคา่
และสรุปความรู้และข้อคิดทไี่ ดร้ ไู้ ปประยุกตใ์ ช้
สาระการเรยี นรู้
ความรู้
สาระท่ี ๑ การอา่ น

การอ่านออกเสียงและการมองความหมายของบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรองทป่ี ระกอบด้วย
- คำทม่ี ี ร ล เปน็ พยัญชนะต้น
- คำท่มี ีพยญั ชนะควบกลำ้
- คำทม่ี ีอักษรนำ
- คำประสม
- อกั ษรย่อและเครื่องหมายวรรคตอน
- ประโยคทม่ี ีสำนวนเปน็ คำพังเพย สภุ าษิต ปรศิ นาคำทาน และเคร่ืองหมายวรรคตอน
สาระท่ี ๒ การเขยี น
- การเขยี นเรอ่ื งตามจินตนาการ
สาระที่ ๓ การฟงั การดู และการพูด

การเล่าเรื่อง จากเรอ่ื งเลา่ บทความสัน้ ๆ

สาระที่ ๔ หลักการใช้ภาษาไทย
 คำในแม่ ก กา
 มาตราตัวสะกด
 การผันอกั ษร
 คำเปน็ คำตาย
 คำพ้อง
 ชนดิ ของคำ ได้แก่
- คำนาม
- คำสรรพนาม
- คำกริยา
- คำวิเศษณ์
 การใช้พจนานุกรม
 สำนวนทเ่ี ปน็ คำพังเพยและสภุ าษติ

สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม
 บทอาขยาน และบทร้อยกรองท่มี คี ุณค่า
- บทอาขยานและบทร้อยกรองทม่ี ีคุณคา่
- บทร้อยกรองตามความสนใจ
ทักษะ / กระบวนการ

มีทักษะอ่านออกเสียงออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง อธิบายความหมายของคำ ประโยค
และสำนวนจากเรื่องที่อ่าน อ่านเรื่องสั้น ๆ ตามเวลาที่กำหนดและตอบคำถามจากเรื่องที่อ่าน มีทักษะการ
เขียนสื่อสารโดยใช้คำได้ถูกต้อง ชัดเจนและเหมะสม มีทักษะการฟัง การดู และการพูด จำแนกข้อเท็จจริง
และข้อคิดเห็นจากเรื่องที่ฟังและดู ตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผลจากเรื่องที่ฟังและดู โดยใช้
กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการกลุ่มและกระบวนการคิด
วิเคราะห์และสรปุ ความ
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
๑. มีวินัย
๒. ใฝ่เรียนรู้
๓. ซือ่ สตั ย์สุจรติ
๔. รกั ความเปน็ ไทย
๕. อย่อู ยา่ งพอเพียง
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน/จดุ เนน้ คณุ ภาพของผู้เรียน

๑. ความสามารถในการส่ือสาร (อา่ นออกเสียงคำข้อความ บทรอ้ ยกรองท่ีมีความยากงา่ ย อ่านออก

เสียงถูกต้องชดั เจน)

๒. ความสามารถในการคิด(ทักษะการคดิ ขน้ั พ้ืนฐานทกั ษะการส่ือสาร/คิดเป็นแกนทักษะการต้งั คำถาม การแปล

ความ การตีความ ทักษะการให้เหตผุ ล ทักษะการนำความรู้ไปใช)้

๓. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต (ความสามารถในการปรับตัว เหน็ คณุ ค่าในตนเอง เชื่อมั่นใน
ตนเองเคารพสทิ ธิของตนเองและผูอ้ น่ื )
การประเมินความคดิ รวบยอด
ชิน้ งานหรือภาระงาน

๑. การพูดแนะนำตนเองหน้าชัน้ เรยี นและอา่ นบทร้อยกรอง
๒. การตงั้ คำถามกระตุ้นความคดิ
๓. การเขยี นแผนภาพโครงเร่ือง
๔.มารยาทในการฟงั การดูและการพูด
๕. ตอบคำถามจากเรื่องท่ีอา่ น
การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้

หลักภาษา
อา่ นนิทานพื้นบ้าน
การเขยี นแผนภาพโครงเรื่อง
การตั้งคำถามกระต้นุ ความคิด

การวดั และประเมินผลการเรียนรู้

วิธีการ เครอื่ งมือ เกณฑ์ผา่ น

ตรวจใบงาน/แบบฝึกหัด ใบงาน/แบบฝึกหัด ร้อยละ 60 ขึ้นไป
การทดสอบ แบบทดสอบ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

การประเมนิ ชนิ้ งาน แบบประเมินชิ้นงาน รอ้ ยละ 60 ขึน้ ไป

ประเมินทักษะกระบวนการ แบบประเมินทักษะกระบวนการ ระดับคุณภาพ 3 ข้นึ ไป
ประเมนิ คุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ แบบประเมนิ คุณลักษณะที่พงึ ระดบั คุณภาพ 2 ขน้ึ ไป
ของนักเรียนรายบุคคล ประสงค์ของนักเรยี นรายบคุ คล

รายละเอยี ดเกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมินการเขียนคำควบกล้ำและคำท่มี ีอักษรนำ (Rubrics)

ประเด็นการประเมนิ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ๑
๓๒

๑. การเขยี นคำควบกล้ำ เขียนคำควบกล้ำได้ เขียนคำควบกล้ำได้ เขยี นคำควบกลำ้ ได้

ถูกต้องทุกคำ ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ ถกู ต้องเป็นสว่ นน้อย

๒. การเขียนคำท่ีมี อักษรนำ เขยี นคำท่ีมีอักษรนำได้ เขียนคำท่ีมีอักษรนำได้ เขยี นคำท่ีมีอักษรนำ

ถูกต้องทุกคำ ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ ไดถ้ ูกตอ้ งเปน็ ส่วน

นอ้ ย

๓. การอา่ นออกเสียง อา่ นออกเสยี งคำควบ อา่ นออกเสียงคำควบ อ่านออกเสยี งคำควบ
กล้ำ และคำทม่ี ี กลำ้ และคำทม่ี ี กลำ้ และคำที่มี
อักษรนำได้ถูกต้อง อกั ษรนำได้ถกู ต้อง อักษรนำได้ถูกต้อง
ชัดเจนทุกคำ ชดั เจนเป็นสว่ นใหญ่ ชัดเจนเป็นส่วนน้อย

๔. การบอกความหมายของคำ บอกความหมายของคำ บอกความหมายของคำ บอกความหมายของ
ควบกล้ำและคำทม่ี ี และคำทีม่ อี ักษรนำได้ คำควบกล้ำและคำท่ี
อักษรนำได้ถูกต้องทุก ถกู ต้องเป็นสว่ นใหญ่ มอี ักษรนำได้ถกู ต้อง
คำ เปน็ ส่วนนอ้ ย

รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมนิ การเขยี นภาพโครงเรอื่ ง (Rubrics)

ประเด็น ระดับคุณภาพ
การประเมนิ
การต้ังคำถาม ๔ ๓๒ ๑
- ใช้ภาษาถูกต้อง - ใชภ้ าษาถูกตอ้ ง
การเขยี น เหมาะสม - ใชภ้ าษาถกู ตอ้ ง - ใช้ภาษาถกู ต้องส่วน เป็นสว่ นน้อย
แผนภาพโครง - เขา้ ใจงา่ ย ไม่ - ค่อนขา้ งวกวน
เร่ือง วกวน เหมาะสม ใหญ่ เขา้ ใจยาก
- สามารถปฏิบตั ิ - ปฏิบัตติ ามได้
ท่องบทอาขยาน ตามได้ - ค่อนขา้ งวกวน เข้าใจ - ค่อนขา้ งวกวน เข้าใจ ยาก
- ใชภ้ าษาถูกต้อง
เหมาะสม ยาก ยาก - ใช้ภาษาถกู ต้อง
- อธิบายข้นั ตอน เหมาะสม เปน็
ครบถ้วน - สามารถปฏบิ ตั ติ ามได้ - ปฏบิ ตั ติ ามได้ยาก สว่ นน้อย
- เปน็ ไปตามลำดับ - อธบิ ายขนั้ ตอน
ขัน้ ตอน - ใช้ภาษาถูกต้อง - ใช้ภาษาถกู ต้อง ไม่ครบถ้วน
เหมาะสม เหมาะสม เป็นส่วน - ไมเ่ ปน็ ไป
เว้นจังหวะวรรค - อธิบายขน้ั ตอน ใหญ่ ตามลำดับข้ันตอน
ตอนถูกตอ้ ง ไม่ข้าม ครบถว้ น - อธบิ ายขัน้ ตอนไม่ มคี วามต้งั ใจ
ไม่ตู่คำ - ไม่เป็นไปตามลำดบั ครบถ้วน
ออกเสยี งคำถูกต้อง ข้ันตอน - ไม่เป็นไปตามลำดบั
ตามอักขรวิธี ข้นั ตอน
เนน้ นำเสยี ง เวน้ จงั หวะวรรคตอน เว้นจังหวะวรรคตอน
ทอดเสียง ไพเราะ ถูกต้อง ไม่ขา้ ม ไมต่ ู่คำ ถูกต้อง ไม่ขา้ ม ไม่ตู่คำ
มีความตงั้ ใจ
ออกเสยี งคำถกู ต้อง มีความตัง้ ใจ
ตามอักขรวิธี

มีความต้งั ใจ

รายละเอียดเกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบประเมินการอ่านออกเสียง (Rubrics)

เกณฑก์ ารให้คะแนน

ประเด็นการประเมิน ๓ ๒ ๑
๑. การจบั หนงั สือ/พลกิ ลกั ษณะทา่ ทาง การวาง
หนังสอื /ทา่ ทางในการอา่ น และการจบั หนงั สือ ลักษณะท่าทาง การวาง ลักษณะท่าทาง การวาง และ
ถูกต้อง ถูกต้อง และการจบั หนังสือไม่ การจับหนังสือไม่ถูกต้อง ๒
๒. อา่ นถูกต้องตามอักขรวธิ ี อ่านถูกตอ้ งตามอกั ขรวิธี ถกู ต้อง ๑ อยา่ ง อย่างขึ้นไป
ออกเสียงชดั เจน
๓. การเวน้ วรรคตอนถกู ต้อง อา่ นเว้นวรรคตอนได้ อา่ นถูกตอ้ งตามอกั ขรวิธี อา่ นไม่ถกู ต้องตามอกั ขรวธิ ี
ถกู ต้องตลอดทงั้ เร่ือง ออกเสยี งชัดบา้ งไมช่ ัดบา้ ง ออกเสยี งไมช่ ดั เจนเลย
๔. นำ้ เสียงเหมาะสมกบั เรื่อง ตั้งแต่ตน้ จนจบเรอื่ ง
ทอ่ี ่าน อา่ นเสยี งดงั ชัดเจน อ่านเว้นวรรคตอนผดิ บา้ ง อ่านเวน้ วรรคตอนผิดตลอดท้ัง
น้ำเสียงเหมาะสมกับเร่ือง เปน็ บางคร้งั เร่อื ง ต้งั แตต่ น้ จนจบเรื่อง
๕. ไม่อ่านข้าม/อ่านเพิ่ม/ตูค่ ำ ท่อี า่ น
ออกเสียงได้ถกู ต้อง อ่านเสียงดงั ชัดเจน น้ำเสียง อ่านเสียงไมช่ ัดเจน น้ำเสียงไม่

ชัดเจนทกุ คำ ทุกประโยค เหมาะสมบ้างเป็นบางครั้ง เหมาะสมกบั เร่ืองท่ีอา่ นตลอด

ทุกข้อความ ทัง้ เรื่อง

ออกเสยี งได้ถกู ต้อง ชดั เจน ออกเสยี งไมถ่ กู ต้อง ไมช่ ัดเจน

เปน็ บางคำ มีการอ่านเพิ่ม อา่ นข้ามคำ เพ่ิมคำ และตคู่ ำ
คำเปน็ บางครั้ง
มาก

๖. อา่ นเสียงดงั เหมาะสม อ่านเสียงดงั ชดั เจน ได้ อา่ นเสยี งดงั บา้ งเป็น อ่านเสยี งเบา ไดย้ ินไม่ทัว่ ถงึ

ยนิ ท่ัวถงึ กนั ท้ังสองห้อง บางครง้ั เสยี งไม่สม่ำเสมอ

เสยี งดังสมำ่ เสมอ

เกณฑก์ ารให้คะแนนด้านทกั ษะและกระบวนการทำ

สมรรถนะ : ความสามารถในการสือ่ สาร

สมรรถนะดา้ น รายการประเมนิ ระดับคุณภาพ
ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง
๑.ความสามารถ 1.1 มีความสามารถในการรบั -ส่งสาร (๓) (๒) (๑) (๐)
ในการสอื่ สาร 1.2 มีความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้

ความคดิ ความเข้าใจของตนเอง โดยใชภ้ าษา
อยา่ งเหมาะสม
1.3 ใชว้ ธิ กี ารส่ือสารทีเ่ หมาะสม มปี ระสิทธภิ าพ
1.4 เจรจาตอ่ รอง เพ่ือขจดั และลดปัญหาความ
ขดั แย้งตา่ ง ๆ ได้
1.5 เลือกรับและไมร่ ับข้อมลู ข่าวสารดว้ ยเหตุผล
และถูกตอ้ ง
สมรรถนะ : ความสามารถในการคิด

สมรรถนะด้าน รายการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ
ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง
(๓) (๒) (๑) (๐)
๒.ความสามารถ 2.1 มีความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ สังเคราะห์
ในการคดิ 2.2 มีทกั ษะในการคิดนอกกรอบอยา่ งสร้างสรรค์

2.3 สามารถคดิ อย่างมีวิจารณญาณ
2.4 มคี วามสามารถในการสรา้ งองค์ความรู้
2.5 ตดั สนิ ใจแก้ปญั หาเก่ียวกับตนเองได้อยา่ ง
เหมาะสม

สมรรถนะ : ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ

สมรรถนะดา้ น รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
(๓) (๒) (๑) (๐)
๔.ความสามารถ 4.1 เรียนรดู้ ้วยตนเองได้เหมาะสมตามวัย
ในการใชท้ กั ษะ 4.2 สามารถทำงานกล่มุ ร่วมกบั ผูอ้ ื่นได้
ชวี ิต 4.3 นำความรู้ทไี่ ด้ไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวนั
4.4 จดั การปญั หาและความขดั แยง้ ได้เหมาะสม
4.5 หลกี เล่ียงพฤตกิ รรมไม่พึงประสงค์ทีส่ ง่ ผล
กระทบต่อตนเอง
เกณฑ์การให้คะแนนระดบั คุณภาพ

ดีมาก - พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั ิชดั เจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน

ดี - พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน

พอใช้ - พฤติกรรมทป่ี ฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน
ตอ้ งปรบั ปรงุ - ไม่เคยปฏบิ ัติพฤตกิ รรม ให้ 0 คะแนน
เกณฑ์การใหค้ ะแนนดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ : มีวนิ ยั

พฤติกรรมบ่งชี้ พอใช้ (1) ดี (2) ดมี าก (3)

ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง ปฏบิ ัตติ นตามข้อตกลง ปฏบิ ัติตนตามข้อตกลง -ปฏิบัตติ นตามข้อตกลง

กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบียบ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คับของ

ขอ้ บงั คับของ ข้อบงั คับของโรงเรียน ข้อบังคับของโรงเรียน โรงเรยี น และ ไม่ละเมดิ สทิ ธิของ

ครอบครัว โรงเรยี น ตรงต่อเวลาในการ ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัติ ผู้อื่น

และสังคม ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม กจิ กรรมและรบั ผดิ ชอบ -ตรงตอ่ เวลาในการปฏิบตั ิ
ในการทำงาน กิจกรรมและรบั ผดิ ชอบในการ

ทำงาน

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ : ใฝ่เรียนรู้

พฤติกรรมบ่งชี้ พอใช้ (1) ดี (2) ดีมาก (3)

ตัง้ ใจ เพียรพยายาม เขา้ เรยี นตรงเวลา เขา้ เรยี นตรงเวลา ต้ังใจ เข้าเรียนตรงเวลา ต้ังใจเรียน เอา
ในการเรยี น และเข้า ตั้งใจเรียน เอาใจใสใ่ น เรยี น เอาใจใสใ่ นการ ใจใส่ในการเรียน และมีส่วนร่วม
รว่ มกจิ กรรมการ การเรียน และมสี ่วน เรียน และมีส่วนรว่ มใน ในการเรยี นรู้ และเข้ารว่ ม
เรียนรู้ ร่วมในการเรียนรู้ การเรยี นรู้ และเข้ารว่ ม กจิ กรรมการเรียนร้ตู า่ งๆ ทั้ง
และเขา้ รว่ มกิจกรรม กิจกรรมการเรยี นรตู้ ่างๆ ภายในและภายนอกโรงเรียนเป็น
แสวงหาความรู้จาก การเรียนรตู้ า่ งๆ เปน็ บ่อยคร้งั ประจำ
แหล่งเรยี นรตู้ า่ งๆ ทัง้ บางคร้งั
ภายในและภายนอก
โรงเรยี น ด้วยการ
เลอื กใช้ส่ืออยา่ ง
เหมาะสม บนั ทึก
ความรู้ วิเคราะห์ สรุป
เป็นองค์ความรู้
แลกเปล่ียนเรียนรู้
และนำไปใชใ้ น
ชวี ิตประจำวันได้

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ : ซอื่ สตั ยส์ จุ รติ

พฤติกรรมบ่งชี้ พอใช้ (1) ดี (2) ดมี าก (3)

ประพฤติตรงตาม ประพฤติตนโดยเกรง ประพฤติตนโดยเกรง ประพฤตติ นโดยเกรงกลัวต่อการ
ความเป็นจรงิ ต่อ กลัวตอ่ การกระทำผิด
ตนเองท้ังทางกาย และไมม่ ี กลัวตอ่ การกระทำผิด กระทำผิดและไมม่ ี
วาจา ใจ พฤติกรรมนำส่ิงของ
และผลงานของผู้อื่นมา และไม่มี พฤติกรรมนำสิง่ ของและผลงาน
ประพฤติตรงตาม เป็นของตนเอง
ความเปน็ จรงิ ต่อ พฤติกรรมนำส่ิงของและ ของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง
ผอู้ ืน่ ท้งั ทางกาย
วาจา ใจ ผลงานของผู้อ่ืนมาเป็น ปฏิบตั ติ นต่อผอู้ ่นื ด้วยความ

ของตนเอง ปฏบิ ตั ติ น ซอ่ื ตรง

ต่อผ้อู นื่ ดว้ ยความซ่อื ตรง เปน็ แบบอย่างท่ีดดี ้านความ

ซ่อื สตั ย์

คณุ ลกั ษณอ์ นั พงึ ประสงค์ : อยู่อย่างพอเพียง

พฤติกรรมบ่งชี้ พอใช้ (1) ดี (2) ดีมาก (3)

ดำเนนิ ชวี ิตอยา่ ง ใช้ทรัพย์สินของตนเอง ใชท้ รัพยส์ นิ ของตนเอง ใชท้ รัพย์สนิ ของตนเองและ
พอประมาณ มี และทรัพยากรของ และทรัพยากรของ ทรพั ยากรของสว่ นรวมอย่าง
เหตุผล รอบคอบ มี สว่ นรวมอยา่ งประหยัด ส่วนรวมอย่างประหยัด ประหยัด ค้มุ ค่า เก็บรักษาดูแล
คณุ ธรรม คุ้มคา่ เกบ็ รกั ษาดูแล คมุ้ คา่ เก็บรักษาดูแล อยา่ งดี ไม่เอาเปรยี บผูอ้ ่ืน และ
อยา่ งดี อย่างดี ไมเ่ อาเปรียบ ไมท่ ำให้ผู้อน่ื เดือดรอ้ น
มภี มู คิ ้มุ กนั ในตัวที่ดี ผอู้ นื่
ปรบั ตวั เพอื่ อย่ใู น ใช้ความรขู้ ้อมูลข่าวสารในการ
สังคมได้อย่างมี ใชค้ วามร้ขู ้อมูลขา่ วสาร วางแผนการเรยี น การทำงาน
ความสุข ในการ และใช้ในชวี ติ ประจำวัน

วางแผนการเรยี น และ
การทำงาน

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ : รกั ความเป็นไทย

พฤตกิ รรมบ่งช้ี พอใช้ (1) ดี (2) ดมี าก (3)

ภาคภมู ิใจใน มสี มั มาคารวะต่อครู มีสมั มาคารวะต่อครู มสี มั มาคารวะ ต่อครอู าจารย์
ขนบธรรมเนยี ม อาจารย์ ใชภ้ าษาไทย อาจารย์ ปฏบิ ัติตนเปน็ ผมู้ ี ปฏิบัติตนเปน็ ผู้มีมารยาทแบบ
ประเพณี ศลิ ปะ เลขไทยในการสอื่ สาร มารยาทแบบไทยใช้ ไทยใช้ภาษาไทย เลขไทยในการ
วัฒนธรรมไทย และ ไดถ้ ูกตอ้ ง ภาษาไทย เลขไทยในการ สอ่ื สารไดถ้ ูกต้องเขา้ ร่วม
มคี วามกตัญญู สือ่ สารไดถ้ ูกต้อง กจิ กรรมทีเ่ กย่ี วข้องกบั
กตเวที ภูมปิ ญั ญาไทยและมสี ว่ นร่วมใน
เขา้ รว่ มกิจกรรมท่ี การสืบทอดภมู ิปญั ญาไทย
เหน็ คณุ คา่ และใช้ เก่ยี วข้องกบั
ภาษาไทยในการ ภมู ิปัญญาไทย
สื่อสารได้อย่าง
ถูกต้องเหมาะสม

อนุรกั ษแ์ ละสบื
ทอดภมู ปิ ัญญาไทย

กิจกรรมการเรยี นรู้ ๒๐ ชั่วโมง
กจิ กรรมการเรียนรู้ ๒๐ ช่ัวโมง

๑. ชนดิ ของคำ ๕ ชัว่ โมง
๒. ประโยค ๔ ชว่ั โมง
๓. การใช้พจนานกุ รม ๓ ชว่ั โมง
๔. การเขียนแผนภาพโครงเรื่อง ๖ ชว่ั โมง
๕. เครอ่ื งหมายวรรคตอนและอักษรย่อ ๒ ชั่วโมง

กิจกรรมการเรยี นรู้ Active Learning : I SURE MODEL

ขั้นตอน กจิ กรรมการเรียนรู้
ขั้นการสรา้ งแรงจงู ใจ
1.นักเรียนแบง่ กล่มุ ตามความสมคั รใจกลมุ่ ละ ๔ - ๖ คน เลา่ นทิ านใหค้ รู
ฟงั กลุ่มละ ๑ เรื่อง
2.นักเรยี นหมุนเวยี นเลา่ เร่ืองของกลมุ่ ทนี่ ำเสนอ โดยหมุนเวยี นกนั
๓. ครูกำหนดสถานการณใ์ หน้ ักเรียนรว่ มกนั ปฏิบตั ิกจิ กรรมเพ่อื เช่ือมโยง
ความรูเ้ ข้าสูเ่ นื้อหาต่างๆ ท่ีเกี่ยวข้องนิทานพื้นบ้าน

ข้ันกิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครูจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ในรูปแบบ Active Learning ที่เนน้ ให้
นักเรียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั เรือ่ งการอา่ น ดงั น้ี
ขน้ั ๑. คำศัพท์นา่ รู้ STEP ๑ขนั้ รวบรวมข้อมลู (Gathering)อ่านนิทาน
พืน้ บา้ นของอำเภอควนเนยี ง
ขั้น ๒. ฉันถาม – เธอตอบ STEP ๒ข้นั การคดิ วเิ คราะห์และสรปุ ความรู้
การตัง้ คำถามกระตนุ้ ความคิด
ขน้ั ๓ อา่ นเรอ่ื งอยา่ งรอบคอบ (Processing) STEP 3 ข้นั ปฏบิ ตั แิ ละ
สรุปความรู้หลังการปฏิบตั ิ (Applying and Constructing the
Knowledge) นักเรยี นสรุปใจความสำคัญเปน็ แผนภาพความคิด
ขน้ั ๔ บอกต่อเร่ืองเลา่ STEP 4. ขน้ั ส่ือสารและนำเสนอ (Applying
the Communication Skill) เลา่ เรอื่ งให้คนอน่ื ฟัง
ขั้น ๕ สรุปและประเมินผลSTEP 5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า (Self -
Regulating)นักเรียนแต่งนิทานเองได้
2. นกั เรยี นรว่ มกันปฏิบตั กิ จิ กรรมทีเ่ น้นการปฏิบตั ิจรงิ ศึกษา ค้นหา
ข้อคิดที่ได้ โดยครกู ระต้นุ ทกั ษะกระบวนการคิดของนักเรียน ดว้ ยการให้
ฝึกกล้าแสดงออกมาเลา่ ให้เพื่อนๆฟัง
3.ครนู ำสภุ าษติ คำพังเพย บทรอ้ ยกรองใหน้ ักเรยี นได้ฝึกษะการอ่าน
ร่วมกนั นำเสนอความหมายนิทาน เพิ่มเติม

ขั้นการวดั และประเมนิ ผล 1. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมร่วมคิดร่วมทำ เป็นกิจกรรมที่ให้นักเรียน
นำ ความรู้เกี่ยวกับ ทักษะการอ่านคำ ประโยค ท่องบทอาขยาน
ปฏิบัติตามคำสั่งในกิจกรรมพร้อมตอบคำถาม จากนั้นนำเสนอการ
อ่านบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ตามที่กำหนด ครูและนักเรียน
ช่วยกนั สรุปความเหน็ จากการอ่าน
2. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรุปองค์ความรู้พนื้ ฐานทางดา้ นหลักภาษา
3. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด/ใบงาน/ชิ้นงาน เพื่อให้นักเรียนได้นำ
ความรูจ้ ากทไ่ี ดเ้ รยี นมาตลอดบทเรียนไปแก้ปัญหา
4. ทดสอบหลงั เรยี น/ประเมนิ ตัวชีว้ ดั ประจำหน่วยการเรยี นรู้

ขนั้ ตอน กิจกรรมการเรยี นรู้
ขัน้ การใหร้ างวลั
1. ทุกขั้นตอนในการจัดการเรียนรู้ครูมีการเสริมแรงเชิงบวกเม่ือ
นักเรียนสามารถปฏิบัติกิจกรรมหรือคิดหาคำตอบได้อย่างถูกต้องตาม
หลักการทางหลักภาษา เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้
มากยง่ิ ขน้ึ
2. ในช่วงการจัดการเรียนการสอน ครูคอยให้คำแนะนำ อธิบาย
เพิ่มเติมหรือช่วยเหลือนักเรียนเป็นรายบุคคล และหลังการจัดการ
เรียนการสอน หรือหลังการวัดและประเมินผล ครูนำผลการประเมิน
มาใหข้ ้อมลู ยอ้ นกลับเชิงบวกแกผ่ ูเ้ รียน
3. บูรณาการสอดแทรกคุณธรรม และการพัฒนาคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ ใหแ้ กน่ กั เรยี นในการปฏิบัตกิ จิ กรรม

สอ่ื และแหล่งเรยี นรู้

๑. หนงั สือเรยี น ภาษาพาที ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔ ภูมิใจมรดกโลก
๒. หนังสอื เรียน ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ ชวี ติ ท่ถี กู เมิน
๓. หนงั สือเรยี น วรรณคดีลำนำ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ น้ำผึง้ หยดเดียว
๔. แบบฝึกหดั ทกั ษะภาษา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔ ภูมิใจมรดกโลก ชีวติ ทีถ่ กู เมนิ น้ำผึง้ หยดเดยี ว
๕. ใบงาน
๖. ใบกิจกรรม
๗. บัตรภาพ
๘. แถบบัตรคำ
๙. หนงั สอื นิทานพืน้ บา้ น
แถบประโยค
๑๐. เกมทางภาษา

หน่วยการจดั การเรยี นร้อู ิงมาตรฐาน

หนว่ ยการเรยี นท่ี ๔ เรอ่ื ง โครงเรือ่ งดีมีปัญญา
รายวิชา ภาษาไทย
ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ รหัสวิชา ท ๑๔๑๐๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย

ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๑๘ ชัว่ โมง

มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชี้วัด

มาตรฐานการเรยี นรู้ การอ่าน
มาตรฐาน ท ๑.๑ :ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละความคิดเพ่ือนำไปใช้ตดั สนิ ใจ แกป้ ญั หาใน

การดำเนินชีวติ และมีนสิ ัยรักการอา่ น
ตัวชี้วัด
มาตรฐาน ท 1.1 ป.4/1 อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองไดถ้ กู ตอ้ ง
มาตรฐาน ท 1.1 ป.4/๔ แยกข้อเทจ็ จรงิ และข้อคดิ เห็นจากเรื่องท่อี า่ น
มาตรฐานการเรยี นรู้ การเขยี น
มาตรฐาน ท ๒.๑ : ใช้กระบวนการเขียนสอ่ื สาร เขยี นเรยี งความ ย่อความและเขยี นเรอ่ื งราวใน

รปู แบบตา่ งๆ เขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้า
อย่างมปี ระสิทธิภาพ
ตวั ชี้วดั
มาตรฐาน ท ๒.๑ ป.4/๓ เขียนแผนภาพโครงเรอ่ื งและแผนภาพความคิดเพอ่ื ใชพ้ ัฒนางานเขยี น
มาตรฐาน ท ๒.๑ ป.4/๘ มมี ารยาทในการเขยี น
มาตรฐานการเรียนรู้ การฟงั ดูและพูด
มาตรฐาน ท ๓.๑ : สามารถเลอื กฟังและดูอยา่ งมีวิจารณญาณและพูดแสดงความรู้ ความคดิ และ

ความร้สู กึ ในโอกาสตา่ งๆอย่างมวี ิจารณญาณและสรา้ งสรรค์
ตวั ชี้วัด
มาตรฐาน ท ๓.๑ ป.4/๑ การจำแนกขอ้ เท็จจรงิ และข้อคดิ เห็นจากเรอ่ื งที่ฟังและดู
มาตรฐาน ท ๓.๑ ป.4/๓ พูดแสดงความรู้ ความคดิ เห็น และความรู้สกึ เก่ียวกบั เร่อื งทีฟ่ ังและดู
มาตรฐาน ท ๓.๑ ป.4/๔ ตง้ั คำถามและตอบคำถามเชงิ เหตผุ ล
มาตรฐาน ท ๓.๑ ป.4/๖ มีมารยาทในการฟงั การดูและการพดู
มาตรฐานการเรียนรู้ หลกั การใช้ภาษา
มาตรฐาน ท ๔.๑ : เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย และเปลย่ี นแปลงของภาษาและพลัง

ของภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัตขิ องชาติ
ตวั ชว้ี ัด
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.4/๑ สะกดคำและบอกความหมายของคำในบรบิ ทต่างๆ
มาตรฐานการเรยี นรู้ วรรณคดีและวรรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ : เข้าใจและแสดงความคดิ เห็น วิจารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเหน็

คุณค่าและนำมาประยุกต์ใช้ในชวี ติ ประจำวัน
มาตรฐาน ท ๕.๑ ป.4/๔ ทอ่ งจำบทอาขยานตามท่ีกำหนดและบทร้อยกรองที่มีคุณคา่ ตามความสนใจ

สาระสำคญั

การเขยี นแผนภาพโครงเรอ่ื งเพอื่ พัฒนางานเขยี นประเภทนิทานสัน้ ๆ เปน็ การวางโครงเรื่อง

โดยรวมของนทิ าน กำหนดตวั ละครสำคัญ เหตุการณ์สำคญั และความคิดรวบยอด รวมถึงขอ้ คดิ จากเร่ือง

เพอ่ื นำโครงเรือ่ งท้งั หมดมาผูกเป็นเรื่องราว

สำนวนที่เป็นสุภาษิต ถือเปน็ สำนวนไทยที่ข้อความส้ัน ๆ กะทดั รัด แตม่ คี วามหมายชดั เจนลกึ ซง้ึ

มีคติสอนใจ หรือความจริงเกี่ยวกับความคิด และแนวปฏิบัติ ซึ่งสามารถพิสูจน์ เชื่อถือได้ เช่น แพ้เป็นพระ

ชนะเปน็ มาร มีความหมายเกย่ี วกบั การยอมแพท้ ำใหเ้ รือ่ งสงบลงงา่ ย การไมย่ อมแพท้ ำให้เรื่องไมส่ งบ

สาระการเรียนรู้

ความรู้

สาระท่ี ๑ การอ่าน

การอา่ นออกเสียงและการบอกความหมายของบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองที่ประกอบด้วย
คำทม่ี ี ร ล เป็นพยญั ชนะตน้ คำทมี่ ีพยญั ชนะควบกลำ้ คำทม่ี ีอักษรนำ คำประสม
อกั ษรย่อและเคร่ืองหมายวรรคตอน ประโยคที่มสี ำนวนเปน็ คำพังเพย สภุ าษิต ปรศิ นาคำทาย และ
เครือ่ งหมายวรรคตอน การอ่านบทรอ้ ยกรองเปน็ ทำนองเสนาะ
สาระท่ี ๒ การเขยี น

๑. การนำแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคดิ ไปพฒั นางานเขยี น

๒. การเขียนยอ่ ความจากสอื่ ต่างๆเชน่ นทิ าน ความเรียงประเภทตา่ งๆ ประกาศ จดหมาย

คำสอน

๓. การเขียนเรอ่ื งตามจนิ ตนาการ

๔. มารยาทในการเขียน

สาระท่ี ๓ การฟัง การดู และการพูด การรายงาน เช่น

- การพดู ลำดับขนั้ ตอนการปฏิบตั งิ านการจบั ใจความและพดู แสดงความคดิ เหน็ ความรู้สึกจาก
เรื่องที่ฟงั และดจู ากสื่อตา่ งๆ เชน่ เรือ่ งเลา่ บทความสน้ั ๆ ข่าวและเหตุการณ์ประจำวัน โฆษณา
ส่อื อีเลก็ ทรอนิกส์ เร่ืองราวจากบทเรียนในกลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทยและกลุ่มสาระการเรยี นร้อู ่นื

- การพูดลำดบั เหตุการณ์

สาระท่ี ๔ หลักการใชภ้ าษา

ชนิดของคำ ไดแ้ ก่ คำนาม คำสรรพนาม คำกรยิ า คำวเิ ศษณ์
- การใชพ้ จนานกุ รม
สาระท่ี ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม เช่น

- นทิ านพ้ืนบ้าน ,นทิ านคติธรรม

- เพลงพื้นบา้ น

- วรรณคดีและวรรณกรรมในบทเรยี นและตามความสนใจ

ทักษะ / กระบวนการ
มีทักษะอ่านออกเสียงออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง อธิบายความหมายของคำ ประโยค

และสำนวนจากเรื่องที่อ่าน อ่านเรื่องสั้น ๆ ตามเวลาที่กำหนดและตอบคำถามจากเรื่องที่อ่าน มีทักษะการ

เขยี นสอ่ื สารโดยใช้คำได้ถูกต้อง ชดั เจนและเหมะสม เขียนแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิดเพื่อใช้

พฒั นางานเขยี น เขยี นยอ่ ความจากเร่ืองสัน้ ๆ มที ักษะการฟัง การดู และการพดู ตั้งคำถามและตอบคำถาม

เชิงเหตุผลจากเรื่องที่ฟังและดู โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการแสวงหาความรู้
กระบวนการกล่มุ และกระบวนการคดิ วเิ คราะห์และสรุปความ กระบวนการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ
คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
๑. มีวินัย
๒. ใฝเ่ รียนรู้
๓. ซอื่ สัตย์สุจริต
๔. รกั ความเปน็ ไทย
๕. อยู่อยา่ งพอเพยี ง
สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น/จดุ เน้นคณุ ภาพของผเู้ รียน

๑. ความสามารถในการสื่อสาร (อา่ นออกเสียงคำข้อความ บทรอ้ ยกรองท่ีมีความยากง่าย อา่ นออก

เสียงถูกต้องชัดเจน)

๒. ความสามารถในการคิด(ทกั ษะการคดิ ขั้นพื้นฐานทกั ษะการสื่อสาร/คิดเปน็ แกนทกั ษะการตงั้ คำถาม การแปล

ความ การตีความ ทักษะการใหเ้ หตุผล ทักษะการนำความรู้ไปใช้)
๓. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ (ความสามารถในการปรับตวั เหน็ คุณคา่ ในตนเอง เชอ่ื ม่นั ใน
ตนเองเคารพสิทธิของตนเองและผอู้ ื่น)
การประเมนิ ความคิดรวบยอด
ชิน้ งานหรือภาระงาน
๑. การพูดแนะนำตนเองหน้าช้นั เรียนและอา่ นบทร้อยกรอง

๒. การตงั้ คำถามกระตุ้นความคิด

๓. การเขยี นแผนภาพโครงเร่อื ง

๔. มารยาทในการฟัง การดูและการพูด

๕. ตอบคำถามจากเรือ่ งท่ีอ่าน
การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้

การท่องบทอาขยานสดุ สาครตอนเข้าเมืองการเวก
การเขยี นแผนภาพโครงเรื่อง
การตั้งคำถามกระตนุ้ ความคิด

การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้

วธิ ีการ เครื่องมือ เกณฑ์ผา่ น

ตรวจใบงาน/แบบฝกึ หัด ใบงาน/แบบฝึกหดั ร้อยละ 60 ขนึ้ ไป
การทดสอบ แบบทดสอบ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

การประเมินช้นิ งาน แบบประเมนิ ช้นิ งาน ร้อยละ 60 ขึ้นไป

ประเมนิ ทักษะกระบวนการ แบบประเมนิ ทักษะกระบวนการ ระดบั คุณภาพ 3 ข้นึ ไป
ประเมินคุณลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ แบบประเมนิ คุณลักษณะท่ีพึง ระดับคุณภาพ 2 ขนึ้ ไป
ของนักเรยี นรายบคุ คล ประสงคข์ องนักเรียนรายบคุ คล

เกณฑ์การให้คะแนนรวบรวมสุภาษิตสำนวนไทย

ประเดน็ การ ระดับคุณภาพ ๑ คะแนน

ประเมิน ๓ ๒

สภุ าษติ สำนวน ครบถ้วนตามที่กำหนด ครบถว้ นตามท่ีกำหนด ไม่ครบตามที่กำหนด มี ๓
เขียนมรี ะเบยี บสวยงาม เขียนมรี อยลบบ้าง รอยลบหลายแห่ง

วาดภาพได้ตรงประเดน็ มี วาดภาพได้ตรงประเด็น วาดได้ตรงประเด็น

ภาพประกอบ สีสนั สวยงาม มคี วามคิด สสี ันสวยบา้ งบางจดุ ระบายสไี ม่สวย ไมส่ ะอาด ๒

สรา้ งสรรค์

เกณฑ์การให้คะแนนการเขยี นแผนภาพโครงเรื่อง

ประเดน็ ระดับคณุ ภาพ
การประเมิน
การตงั้ คำถาม ๔ ๓๒ ๑
- ใช้ภาษาถูกตอ้ ง
การเขยี น เหมาะสม - ใชภ้ าษาถูกตอ้ ง - ใชภ้ าษาถูกตอ้ งสว่ น - ใชภ้ าษาถกู ต้อง
แผนภาพโครง - เข้าใจง่าย ไม่ เป็นส่วนนอ้ ย
เรื่อง วกวน เหมาะสม ใหญ่ - ค่อนขา้ งวกวน
- สามารถปฏิบัติ เขา้ ใจยาก
ทอ่ งบทอาขยาน ตามได้ - คอ่ นขา้ งวกวน เข้าใจ - ค่อนขา้ งวกวน เข้าใจ - ปฏบิ ตั ิตามได้
- ใชภ้ าษาถูกต้อง ยาก
เหมาะสม ยาก ยาก
- อธบิ ายขนั้ ตอน - ใช้ภาษาถูกตอ้ ง
ครบถ้วน - สามารถปฏิบตั ิตามได้ - ปฏบิ ตั ติ ามได้ยาก เหมาะสม เป็น
- เปน็ ไปตามลำดับ ส่วนน้อย
ข้ันตอน - ใชภ้ าษาถกู ตอ้ ง - ใช้ภาษาถูกตอ้ ง - อธบิ ายขั้นตอน
เหมาะสม เหมาะสม เป็นส่วน ไม่ครบถว้ น
เวน้ จงั หวะวรรค - อธบิ ายขน้ั ตอน ใหญ่ - ไมเ่ ป็นไป
ตอนถูกต้อง ไม่ข้าม ครบถ้วน - อธิบายขน้ั ตอนไม่ ตามลำดบั ข้ันตอน
ไม่ตู่คำ - ไมเ่ ป็นไปตามลำดับ ครบถว้ น
ออกเสยี งคำถกู ต้อง ข้ันตอน - ไมเ่ ปน็ ไปตามลำดบั มีความตง้ั ใจ
ตามอักขรวธิ ี ข้ันตอน
เน้นนำเสยี ง เว้นจงั หวะวรรคตอน
ทอดเสยี ง ไพเราะ ถูกต้อง ไม่ขา้ ม ไมต่ ู่คำ เว้นจงั หวะวรรคตอน
มีความตงั้ ใจ ออกเสยี งคำถกู ต้อง ถกู ต้อง ไม่ขา้ ม ไม่ตู่คำ
ตามอักขรวธิ ี มคี วามตง้ั ใจ
มีความต้งั ใจ

เกณฑ์การใหค้ ะแนนด้านทกั ษะและกระบวนการทำ

สมรรถนะ : ความสามารถในการสอื่ สาร

สมรรถนะดา้ น รายการประเมิน ดีมาก ระดบั คุณภาพ
(๓) ดี พอใช้ ปรบั ปรุง
๑.ความสามารถ 1.1 มคี วามสามารถในการรบั -ส่งสาร (๒) (๑) (๐)
ในการส่ือสาร 1.2 มคี วามสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ระดบั คณุ ภาพ
ดี พอใช้ ปรบั ปรุง
ความคิด ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใชภ้ าษา (๒) (๑) (๐)
อยา่ งเหมาะสม
1.3 ใช้วธิ ีการส่อื สารท่เี หมาะสม มีประสทิ ธภิ าพ
1.4 เจรจาตอ่ รอง เพื่อขจัดและลดปัญหาความ
ขัดแยง้ ต่าง ๆ ได้
1.5 เลอื กรบั และไม่รบั ข้อมูลขา่ วสารดว้ ยเหตผุ ล
และถูกตอ้ ง
สมรรถนะ : ความสามารถในการคดิ

สมรรถนะดา้ น รายการประเมิน ดีมาก
๒.ความสามารถ 2.1 มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ (๓)
ในการคดิ 2.2 มที ักษะในการคดิ นอกกรอบอยา่ งสรา้ งสรรค์
2.3 สามารถคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ
2.4 มคี วามสามารถในการสร้างองค์ความรู้
2.5 ตดั สนิ ใจแก้ปัญหาเกี่ยวกับตนเองไดอ้ ยา่ ง
เหมาะสม

สมรรถนะ : ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

สมรรถนะด้าน รายการประเมิน ระดับคณุ ภาพ
ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
(๓) (๒) (๑) (๐)
๔.ความสามารถ 4.1 เรียนรู้ดว้ ยตนเองได้เหมาะสมตามวยั
ในการใช้ทกั ษะ 4.2 สามารถทำงานกลุ่มร่วมกบั ผูอ้ นื่ ได้
ชวี ติ 4.3 นำความรทู้ ี่ไดไ้ ปใชป้ ระโยชน์ในชวี ติ ประจำวนั
4.4 จดั การปญั หาและความขัดแยง้ ได้เหมาะสม
4.5 หลีกเลยี่ งพฤตกิ รรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผล
กระทบตอ่ ตนเอง

เกณฑ์การให้คะแนนระดับคุณภาพ

ดมี าก - พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ชิ ัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ดี - พฤติกรรมทปี่ ฏิบัติชดั เจนและบอ่ ยครั้ง ให้ 1 คะแนน
ให้ 0 คะแนน
พอใช้ - พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั ิบางครัง้
ดีมาก (3)
ตอ้ งปรบั ปรุง - ไม่เคยปฏบิ ตั ิพฤตกิ รรม

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ : มีวินัย

พฤติกรรมบ่งช้ี พอใช้ (1) ดี (2)

ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง ปฏบิ ตั ติ นตามข้อตกลง ปฏิบัติตนตามข้อตกลง -ปฏิบตั ิตนตามข้อตกลง

กฎเกณฑ์ ระเบียบ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบียบ กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คับของ

ข้อบังคับของ ขอ้ บงั คบั ของโรงเรยี น ข้อบงั คับของโรงเรียน โรงเรยี น และ ไม่ละเมิดสทิ ธิของ

ครอบครัว โรงเรียน ตรงต่อเวลาในการ ตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัติ ผู้อ่นื

และสงั คม ปฏิบัตกิ จิ กรรม กิจกรรมและรับผดิ ชอบ -ตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัติ
ในการทำงาน กิจกรรมและรบั ผดิ ชอบในการ

ทำงาน

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ : ใฝเ่ รยี นรู้

พฤติกรรมบ่งชี้ พอใช้ (1) ดี (2) ดีมาก (3)

ตัง้ ใจ เพียรพยายาม เข้าเรียนตรงเวลา เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจ เขา้ เรยี นตรงเวลา ต้ังใจเรียน เอา
ในการเรยี น และเข้า ตัง้ ใจเรยี น เอาใจใส่ใน เรียน เอาใจใส่ในการ ใจใสใ่ นการเรียน และมีส่วนรว่ ม
รว่ มกิจกรรมการ การเรยี น และมีสว่ น เรียน และมีส่วนร่วมใน ในการเรยี นรู้ และเขา้ รว่ ม
เรียนรู้ ร่วมในการเรียนรู้ การเรยี นรู้ และเข้ารว่ ม กจิ กรรมการเรยี นร้ตู ่างๆ ทั้ง
และเขา้ รว่ มกิจกรรม กจิ กรรมการเรยี นรูต้ ่างๆ ภายในและภายนอกโรงเรยี นเปน็
แสวงหาความรจู้ าก การเรียนรู้ตา่ งๆ เปน็ บอ่ ยครง้ั ประจำ
แหลง่ เรียนรูต้ ่างๆ ทง้ั บางครงั้
ภายในและภายนอก
โรงเรียน ดว้ ยการ
เลอื กใชส้ อื่ อยา่ ง
เหมาะสม บนั ทึก
ความรู้ วิเคราะห์ สรปุ
เป็นองค์ความรู้
แลกเปลี่ยนเรยี นรู้
และนำไปใช้ใน
ชวี ิตประจำวันได้

เกณฑ์การใหค้ ะแนน : ซื่อสัตยส์ ุจริต

พฤติกรรมบ่งช้ี พอใช้ (1) ดี (2) ดมี าก (3)

ประพฤติตรงตาม ประพฤติตนโดยเกรง ประพฤติตนโดยเกรง ประพฤติตนโดยเกรงกลัวตอ่ การ
ความเปน็ จรงิ ต่อ กลัวตอ่ การกระทำผดิ
ตนเองท้ังทางกาย และไม่มี กลวั ตอ่ การกระทำผดิ กระทำผดิ และไม่มี
วาจา ใจ พฤติกรรมนำสิ่งของ
และผลงานของผอู้ น่ื มา และไม่มี พฤติกรรมนำส่งิ ของและผลงาน
ประพฤตติ รงตาม เป็นของตนเอง
ความเป็นจรงิ ต่อ พฤติกรรมนำสงิ่ ของและ ของผู้อ่นื มาเป็นของตนเอง
ผอู้ นื่ ทัง้ ทางกาย
วาจา ใจ ผลงานของผู้อ่นื มาเป็น ปฏบิ ัติตนต่อผ้อู นื่ ด้วยความ

ของตนเอง ปฏิบตั ติ น ซอ่ื ตรง

ตอ่ ผอู้ นื่ ดว้ ยความซ่ือตรง เปน็ แบบอย่างที่ดดี ้านความ

ซื่อสตั ย์

คณุ ลกั ษณ์อนั พงึ ประสงค์ : อยู่อย่างพอเพียง

พฤติกรรมบ่งช้ี พอใช้ (1) ดี (2) ดีมาก (3)

ดำเนินชีวติ อยา่ ง ใชท้ รพั ย์สินของตนเอง ใชท้ รัพย์สนิ ของตนเอง ใชท้ รพั ยส์ ินของตนเองและ
พอประมาณ มี และทรัพยากรของ และทรัพยากรของ ทรัพยากรของส่วนรวมอยา่ ง
เหตุผล รอบคอบ มี ส่วนรวมอย่างประหยัด ส่วนรวมอยา่ งประหยัด ประหยดั คุม้ ค่า เกบ็ รักษา
คุณธรรม คุ้มคา่ เกบ็ รกั ษาดูแล คมุ้ ค่า เกบ็ รกั ษาดูแล ดแู ลอยา่ งดี ไม่เอาเปรยี บ
อย่างดี อยา่ งดี ไมเ่ อาเปรยี บ ผูอ้ ่ืน และไมท่ ำใหผ้ ู้อนื่
มภี มู คิ ้มุ กันในตวั ที่ดี ผ้อู ่ืน เดอื ดรอ้ น
ปรบั ตัวเพื่ออยู่ใน
สงั คมได้อยา่ งมี ใช้ความรู้ขอ้ มูลขา่ วสาร ใชค้ วามรขู้ อ้ มลู ขา่ วสารในการ
ความสุข ในการ วางแผนการเรยี น การทำงาน
และใช้ในชวี ิตประจำวัน
วางแผนการเรียน และ
การทำงาน

คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ : รักความเป็นไทย

พฤติกรรมบ่งชี้ พอใช้ (1) ดี (2) ดีมาก (3)

ภาคภมู ิใจใน มสี ัมมาคารวะตอ่ ครู มีสมั มาคารวะต่อครู มีสมั มาคารวะ ต่อครอู าจารย์
ขนบธรรมเนยี ม อาจารย์ ใชภ้ าษาไทย อาจารย์ ปฏบิ ัตติ นเป็นผู้มี ปฏิบตั ติ นเปน็ ผู้มมี ารยาทแบบ
ประเพณี ศลิ ปะ เลขไทยในการสือ่ สาร มารยาทแบบไทยใช้ ไทยใชภ้ าษาไทย เลขไทยในการ
วัฒนธรรมไทย และ ได้ถูกตอ้ ง ภาษาไทย เลขไทยในการ ส่ือสารได้ถูกต้องเข้าร่วม
มคี วามกตัญญู สอื่ สารได้ถูกต้อง กิจกรรมที่เก่ียวข้องกบั
กตเวที ภูมปิ ัญญาไทยและมีส่วนรว่ มใน
เขา้ รว่ มกจิ กรรมท่ี การสบื ทอดภูมิปัญญาไทย
เห็นคุณคา่ และใช้ เกย่ี วข้องกบั
ภาษาไทยในการ ภูมิปัญญาไทย
สื่อสารได้อยา่ ง
ถกู ต้องเหมาะสม

อนุรกั ษ์และสืบ
ทอดภูมปิ ญั ญาไทย

กจิ กรรมการเรียนรู้ ๑๘ ช่วั โมง

๑. แยกข้อเทจ็ จริงและข้อคิดเหน็ ๔ ชวั่ โมง
๒. การเขียนแผนภาพโครงเรื่อง ๕ ชวั่ โมง
๓. การตั้งคำถาม ๓ ชั่วโมง
๔. การอา่ นออกเสียงจากหนังสือภาษาพาที ๔ ชั่วโมง
๕. การอ่านบทรอ้ ยกรอง จากหนังสอื วรรณคดลี ำนำ ๒ ชั่วโมง

กิจกรรมการเรียนรู้ Active Learning : I SURE MODEL

ขนั้ ตอน กิจกรรมการเรยี นรู้
ขั้นการสร้างแรงจงู ใจ
1.นกั เรียนพูดแนะนำตนเอง
ขน้ั กจิ กรรมการเรียนรู้ 2.นกั เรยี นฝกึ เปรียบเทียบของสองอย่าง การวิเคราะห์ความจรงิ ความ
คิดเหน็
3.นักเรยี นอา่ นบัตรคำและบตั รภาพของตนเอง กิจกรรมตามหาคสู่ ำหรับ
ทบทวนและตรวจสอบความรู้พืน้ ฐานก่อนเรยี น
4. ครูกำหนดใหน้ ักเรียนร่วมกนั ปฏิบัติกจิ กรรมตามหาคเู่ พื่อเช่ือมโยง
ความรเู้ ขา้ สู่เน้ือหาต่างๆ ที่เก่ียวขอ้ งกับเร่ืองการแยกข้อเท็จจรงิ
ข้อคิดเห็น

1. ครจู ดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ในรูปแบบ Active Learning ท่เี นน้ ให้
นกั เรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจเก่ยี วกบั เร่ืองการอ่าน ดังน้ี
ขั้น ๑. คำศัพทน์ า่ รู้ STEP ๑ข้นั รวบรวมข้อมลู (Gathering)อ่านบทร้อย
แกว้ และบทร้อยกรองเรื่องท่ีครูกำหนดให้
ขั้น ๒. ฉนั ถาม – เธอตอบ STEP ๒ขนั้ การคดิ วิเคราะหแ์ ละสรปุ ความรู้
การตัง้ คำถามกระตนุ้ ความคิด
ข้นั ๓ อ่านเร่อื งอยา่ งรอบคอบ (Processing) STEP 3 ข้นั ปฏบิ ตั ิและ
สรุปความรู้หลังการปฏิบัติ (Applying and Constructing the
Knowledge) แยกข้อเท็จจรงิ และข้อคดิ เหน็ การสรปุ ใจความสำคญั เป็น
แผนภาพความคิด
ขน้ั ๔ บอกต่อเรอ่ื งเล่า STEP 4. ข้นั สื่อสารและนำเสนอ (Applying
the Communication Skill) แสดงผลงานใหเ้ พื่อนดู
ขั้น ๕ สรุปและประเมินผลSTEP 5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า (Self -
Regulating)นกั เรียนเขียนแผนภาพโครงเรือ่ งอยา่ งเหมาะสม
2. นักเรียนรว่ มกนั ปฏิบัติกิจกรรมทเี่ น้นการปฏิบัตจิ รงิ ศึกษา ค้นหา
หลกั การของการเขยี นโครงเรื่อง โดยครูกระต้นุ ทักษะกระบวนการคดิ
ของนักเรยี น ด้วยการใหฝ้ กึ กลา้ แสดงออก
3.ครนู ำแผนภาพโครงเร่ืองรายบคุ คลหรือรายกลุ่ม ร่วมกนั นำเสนอ
ความหมายของคำ แล้วร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง

ขัน้ การวัดและประเมนิ ผล 1. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมร่วมคิดร่วมทำ เป็นกิจกรรมที่ให้นักเรียน
นำ ความรู้เกี่ยวกับการเขียนแผนภาพโครงเรื่อง นักเรียนสามารถเล่า
เร่ืองส้ัน ๆ บอกขอ้ คดิ ที่อา่ นและฟังได้
2. ครูและนักเรียนร่วมกันต้นหา สำนวน สุภาษิต คำพังเพยเพื่อ
อธิบายความหมายและยกตัวอย่างเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ใน
ชีวิตประจำวันได้
3. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด/ใบงาน/ชิ้นงาน เพื่อให้นักเรียนได้นำ
ความรู้จากท่ีได้เรยี นมาตลอดบทเรยี นไปแกป้ ญั หา

ขนั้ ตอน กิจกรรมการเรยี นรู้
ขน้ั การให้รางวลั
4. ทดสอบหลังเรียน/ประเมนิ ตวั ชว้ี ัด ประจำหน่วยการเรยี นรู้

1. ทุกขั้นตอนในการจัดการเรียนรู้ครูมีการเสริมแรงเชิงบวกเมื่อ
นักเรียนสามารถปฏิบัติกิจกรรมหรือคิดหาคำตอบได้อย่างถูกต้องตาม
หลักการทางหลักภาษา เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้
มากย่ิงขน้ึ
2. ในช่วงการจัดการเรียนการสอน ครูคอยให้คำแนะนำ อธิบาย
เพิ่มเติมหรือช่วยเหลือนักเรียนเป็นรายบุคคล และหลังการจัดการ
เรียนการสอน หรือหลังการวัดและประเมินผล ครูนำผลการประเมิน
มาใหข้ ้อมลู ย้อนกลับเชิงบวกแก่ผเู้ รียน
3. บูรณาการสอดแทรกคุณธรรม และการพัฒนาคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ ใหแ้ ก่นักเรียนในการปฏิบตั กิ จิ กรรม

ส่ือและแหล่งเรยี นรู้

๑. หนงั สอื เรียน ภาษาพาที ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๔ โอมพินิจพจิ ารณา
๒. หนงั สอื เรียน ภาษาพาที ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ สนุกสนานกับการเลน่
๓. แบบฝกึ เสริมทักษะการอา่ นจบั ใจความสำคัญ เรื่องเล่า
๔.แบบฝกึ หัด ทักษะภาษา ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ โอมพินิจพจิ ารณา สนุกสนานกบั การเลน่
๕. ใบงาน
๖. ใบกิจกรรม
๗. บัตรภาพ
๘. แถบบตั รคำ
๙. หนงั สือนทิ านพื้นบ้าน
8) แถบประโยค
๑๐. เกมทางภาษา

หน่วยการจดั การเรียนร้อู ิงมาตรฐาน

หน่วยการเรยี นที่ ๕ เรอ่ื ง พจนาเรียงรอ้ ยถ้อยใจความ
รายวิชา ภาษาไทย
ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๔ รหสั วิชา ท ๑๔๑๐๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย

ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๑๘ ชั่วโมง

มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด

มาตรฐานการเรยี นรู้ การอ่าน
มาตรฐาน ท ๑.๑ :ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรูแ้ ละความคดิ เพือ่ นำไปใชต้ ัดสนิ ใจ แกป้ ญั หาใน

การดำเนินชวี ติ และมีนสิ ัยรักการอ่าน
ตัวช้ีวัด
มาตรฐาน ท 1.1 ป.4/๕ คาดคะเนเหตกุ ารณ์จากเรื่องทีอ่ า่ นโดยระบุเหตุผล
มาตรฐาน ท 1.1 ป.4/๖ สรุปความรู้และข้อคิดจากเรื่องท่ีอ่าน
มาตรฐาน ท 1.1 ป.4/๘ มีมารยาทในการอา่ น

มาตรฐานการเรยี นรู้ การเขยี น
มาตรฐาน ท ๒.๑ : ใช้กระบวนการเขียนสื่อสาร เขยี นเรยี งความ ย่อความและเขียนเร่อื งราวใน

รปู แบบตา่ งๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้
อย่างมีประสทิ ธภิ าพ
ตวั ชวี้ ดั
มาตรฐาน ท ๒.๑ ป.4/๓ เขยี นแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคดิ เพ่ือใช้พฒั นางานเขียน
มาตรฐาน ท ๒.๑ ป.4/๔ เขยี นยอ่ ความจากเรือ่ งสัน้ ๆ
มาตรฐาน ท ๒.๑ ป.4/๘ มมี ารยาทในการเขยี น
มาตรฐานการเรียนรู้ การฟัง ดูและพูด
มาตรฐาน ท ๓.๑ : สามารถเลอื กฟังและดูอย่างมวี ิจารณญาณและพดู แสดงความรู้ ความคิดและ

ความรูส้ ึกในโอกาสตา่ งๆอย่างมวี ิจารณญาณและสร้างสรรค์
ตวั ชีว้ ัด
มาตรฐาน ท ๓.๑ ป.4/๑ การจำแนกข้อเทจ็ จริงและขอ้ คดิ เหน็ จากเรือ่ งท่ีฟังและดู
มาตรฐาน ท ๓.๑ ป.4/๕ รายงานเรือ่ งหรอื ประเด็นที่ศึกษาคน้ ควา้ จากการฟัง การดูและการสนทนา

มาตรฐานการเรียนรู้ หลกั การใช้ภาษา
มาตรฐาน ท ๔.๑ : เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย และเปล่ียนแปลงของภาษาและพลัง

ของภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัติของชาติ
ตวั ชว้ี ัด
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.4/๔ แต่งประโยคให้ถูกต้องตามหลกั ภาษา
มาตรฐานการเรยี นรู้ วรรณคดีและวรรณกรรม

มาตรฐาน ท ๕.๑ : เข้าใจและแสดงความคดิ เห็น วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเหน็

คณุ คา่ และนำมาประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจำวัน

มาตรฐาน ท ๕.๑ ป.4/๓ รอ้ งเพลงพ้ืนบา้ น
สาระสำคัญ

การอ่านตำนาน นิทาน นิทานพืน้ บา้ นเมืองสงขลา เขยี นบันทึก พูดสรปุ ความจากเร่อื งราวตา่ งๆ

เปน็ การใช้ภาษาสอื่ สารอยา่ งเห็นคณุ ค่า

การอ่านจบั ใจความสำคญั จากบทความส้ัน ๆ จากหนงั สือเรือ่ งสน้ั เป็นการอา่ นเพื่อคน้ หา

สาระสำคญั ของเร่ืองการตอบคำถามจากการอ่าน สรปุ ความรู้จากการอ่านและนำความรู้ท่ีไดจ้ ากการอ่านไป

ปรับใช้ในชีวิตประจำวนั ได้

การพดู ลำดบั ข้ันตอน เป็นการพูดรายงานเรื่องหรือประเดน็ ที่ศกึ ษาคน้ ควา้ จากการฟงั การดแู ละ

การสนทนาอย่างหนงึ่ ถือเป็นวิธีการทเี่ หมาะสำหรบั แลกเปล่ียนความรขู้ ัน้ ตอนการปฏบิ ตั ิงาน หรือการตอน

การทำสิง่ ต่าง ๆ เช่น การประกอบอาหาร เปน็ การนำเสนอวิธกี ารหรอื นำเสนอเร่ืองราวต่าง ๆ ให้ผอู้ ืน่ ทราบ

สาระการเรียนรู้

ความรู้

สาระที่ ๑ การอ่าน

การอ่านออกเสียงและการบอกความหมายของบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองที่ประกอบด้วย
คำที่มี ร ล เป็นพยัญชนะต้น คำท่มี พี ยญั ชนะควบกลำ้ คำที่มีอักษรนำ คำประสม
อักษรย่อและเครื่องหมายวรรคตอน ประโยคท่มี ีสำนวนเปน็ คำพังเพย สภุ าษติ ปรศิ นาคำทาย และ
เครอื่ งหมายวรรคตอน การอา่ นบทรอ้ ยกรองเปน็ ทำนองเสนาะ
สาระที่ ๒ การเขยี น

๑. การเขยี นย่อความจากส่อื ต่างๆเชน่ นทิ าน ความเรียงประเภทต่างๆ ประกาศ จดหมาย

คำสอน

๒. มารยาทในการเขยี น

สาระที่ ๓ การฟัง การดู และการพูด การรายงาน เช่น

- การพูดลำดับขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ านการจบั ใจความและพูดแสดงความคดิ เห็น ความรู้สึกจาก
เรื่องท่ีฟังและดจู ากสื่อต่างๆ เช่น เรอื่ งเล่า บทความส้นั ๆ ขา่ วและเหตกุ ารณ์ประจำวนั โฆษณา
สื่ออีเล็กทรอนิกส์ เรื่องราวจากบทเรยี นในกล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทยและกลุ่มสาระการเรียนร้อู ื่น

- การพูดลำดับเหตุการณ์

สาระท่ี ๔ หลกั การใชภ้ าษา

ประโยคสามัญ สว่ นประกอบของประโยค - ประโยค ๒ สว่ น - ประโยค ๓ สว่ น
สาระท่ี ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม

รอ้ งพลงพื้นบ้าน

- วรรณคดแี ละวรรณกรรมในบทเรยี นและตามความสนใจ

ทักษะ / กระบวนการ
มีทักษะอ่านออกเสียงออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง อธิบายความหมายของคำ ประโยค

และสำนวนจากเรื่องที่อ่าน อ่านเรื่องสั้น ๆ ตามเวลาที่กำหนดและตอบคำถามจากเรื่องที่อ่าน มีทักษะการ
เขยี นส่อื สารโดยใช้คำได้ถกู ต้อง ชัดเจนและเหมะสม เขยี นแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิดเพื่อใช้
พัฒนางานเขียน เขียนย่อความจากเรื่องสั้น ๆ มีทักษะการฟัง การดู และการพูด พูดแสดงความรู้ ความ
คิดเห็นและความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและดู โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการ
แสวงหาความรู้ กระบวนการกลุ่มและกระบวนการคิดวิเคราะห์และสรุปความ กระบวนการคิดอย่างมี
วจิ ารณญาณ กระบวนการสือ่ ความ
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
๑. มวี นิ ัย
๒. ใฝ่เรยี นรู้
๓. ซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ
๔. รกั ความเปน็ ไทย
๕. อยู่อยา่ งพอเพยี ง
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน/จุดเน้นคณุ ภาพของผูเ้ รยี น

๑. ความสามารถในการสื่อสาร (อา่ นออกเสยี งคำข้อความ บทร้อยกรองที่มีความยากงา่ ย อา่ นออก

เสียงถกู ต้องชัดเจน)

๒. ความสามารถในการคิด(ทกั ษะการคิดขั้นพืน้ ฐานทกั ษะการสอ่ื สาร/คดิ เปน็ แกนทกั ษะการตัง้ คำถาม การแปล

ความ การตีความ ทักษะการใหเ้ หตุผล ทักษะการนำความรู้ไปใช)้
๓. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ (ความสามารถในการปรับตัว เห็นคุณคา่ ในตนเอง เชือ่ ม่ันใน
ตนเองเคารพสิทธขิ องตนเองและผอู้ ื่น)
การประเมินความคดิ รวบยอด
ชิ้นงานหรือภาระงาน
๑. การพดู แนะนำตนเองหนา้ ชนั้ เรียนและอา่ นบทรอ้ ยกรอง
๒. การตงั้ คำถามกระตนุ้ ความคดิ
๓. การเขยี นแผนภาพโครงเร่ือง
๔. มารยาทในการฟัง การดูและการพดู
๕. ตอบคำถามจากเรื่องที่อ่าน
การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

การพูดนำเสนอ
การย่อความ
การตั้งคำถามกระตุน้ ความคิด

การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

วธิ กี าร เครอื่ งมือ เกณฑ์ผ่าน

ตรวจใบงาน/แบบฝกึ หัด ใบงาน/แบบฝกึ หดั ร้อยละ 60 ข้นึ ไป
รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
การทดสอบ แบบทดสอบ รอ้ ยละ 60 ข้ึนไป
ระดบั คุณภาพ 3 ขน้ึ ไป
การประเมินช้นิ งาน แบบประเมนิ ชน้ิ งาน ระดบั คุณภาพ 2 ขน้ึ ไป

ประเมินทักษะกระบวนการ แบบประเมนิ ทกั ษะกระบวนการ

ประเมินคุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ แบบประเมนิ คุณลักษณะท่ีพึง
ของนักเรยี นรายบคุ คล ประสงค์ของนักเรยี นรายบุคคล

เกณฑ์การใหค้ ะแนนการเขียนแผนภาพโครงเรือ่ ง

ประเด็น ระดับคุณภาพ
การประเมิน
การต้งั คำถาม ๔ ๓๒ ๑
- ใช้ภาษาถูกต้อง
การเขียน เหมาะสม - ใช้ภาษาถกู ต้อง - ใช้ภาษาถูกต้องส่วน - ใชภ้ าษาถูกตอ้ ง
แผนภาพโครง - เขา้ ใจง่าย ไม่ เปน็ ส่วนนอ้ ย
เรอ่ื ง วกวน เหมาะสม ใหญ่ - ค่อนขา้ งวกวน
- สามารถปฏิบัติ เข้าใจยาก
ท่องบทอาขยาน ตามได้ - คอ่ นข้างวกวน เข้าใจ - คอ่ นขา้ งวกวน เข้าใจ - ปฏบิ ตั ิตามได้
- ใช้ภาษาถูกตอ้ ง ยาก
เหมาะสม ยาก ยาก
- อธิบายขนั้ ตอน - ใชภ้ าษาถูกตอ้ ง
ครบถว้ น - สามารถปฏิบตั ติ ามได้ - ปฏบิ ัตติ ามไดย้ าก เหมาะสม เปน็
- เปน็ ไปตามลำดับ สว่ นนอ้ ย
ขนั้ ตอน - ใชภ้ าษาถกู ตอ้ ง - ใช้ภาษาถกู ตอ้ ง - อธิบายขั้นตอน
เหมาะสม เหมาะสม เป็นส่วน ไมค่ รบถว้ น
เว้นจังหวะวรรค - อธบิ ายข้นั ตอน ใหญ่ - ไมเ่ ป็นไป
ตอนถูกต้อง ไม่ขา้ ม ครบถว้ น - อธบิ ายขน้ั ตอนไม่ ตามลำดับข้นั ตอน
ไม่ตูค่ ำ - ไม่เป็นไปตามลำดบั ครบถว้ น
ออกเสยี งคำถกู ต้อง ขัน้ ตอน - ไม่เปน็ ไปตามลำดับ มคี วามตงั้ ใจ
ตามอักขรวิธี ขนั้ ตอน
เน้นนำเสยี ง เวน้ จงั หวะวรรคตอน
ทอดเสียง ไพเราะ ถูกต้อง ไม่ข้าม ไมต่ ู่คำ เวน้ จังหวะวรรคตอน
มคี วามตงั้ ใจ ออกเสยี งคำถกู ต้อง ถูกต้อง ไม่ขา้ ม ไมต่ ู่คำ
ตามอักขรวธิ ี มคี วามตั้งใจ
มคี วามตง้ั ใจ

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนด้านทกั ษะและกระบวนการทำ

สมรรถนะ : ความสามารถในการสือ่ สาร

สมรรถนะดา้ น รายการประเมนิ ดีมาก ระดบั คณุ ภาพ
(๓) ดี พอใช้ ปรับปรงุ
๑.ความสามารถ 1.1 มีความสามารถในการรับ-ส่งสาร (๒) (๑) (๐)
ในการสื่อสาร 1.2 มีความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ระดับคณุ ภาพ
ดี พอใช้ ปรับปรงุ
ความคดิ ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใชภ้ าษา (๒) (๑) (๐)
อยา่ งเหมาะสม ระดับคุณภาพ
1.3 ใชว้ ธิ กี ารสอื่ สารทีเ่ หมาะสม มีประสทิ ธภิ าพ ดี พอใช้ ปรับปรงุ
1.4 เจรจาตอ่ รอง เพ่ือขจดั และลดปัญหาความ (๒) (๑) (๐)
ขัดแย้งตา่ ง ๆ ได้
1.5 เลือกรบั และไมร่ บั ข้อมูลขา่ วสารดว้ ยเหตผุ ล
และถูกต้อง
สมรรถนะ : ความสามารถในการคดิ

สมรรถนะด้าน รายการประเมิน ดมี าก
(๓)
๒.ความสามารถ 2.1 มีความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ สังเคราะห์
ในการคดิ 2.2 มที ักษะในการคดิ นอกกรอบอย่างสรา้ งสรรค์

2.3 สามารถคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ
2.4 มีความสามารถในการสรา้ งองคค์ วามรู้
2.5 ตดั สนิ ใจแกป้ ัญหาเก่ยี วกับตนเองไดอ้ ยา่ ง
เหมาะสม

สมรรถนะ : ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ

สมรรถนะดา้ น รายการประเมนิ ดมี าก
๔.ความสามารถ 4.1 เรียนรดู้ ้วยตนเองได้เหมาะสมตามวยั (๓)
ในการใชท้ กั ษะ 4.2 สามารถทำงานกลุ่มร่วมกบั ผู้อื่นได้
ชวี ติ 4.3 นำความรทู้ ี่ไดไ้ ปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวัน
4.4 จัดการปญั หาและความขดั แยง้ ไดเ้ หมาะสม
4.5 หลีกเลี่ยงพฤตกิ รรมไม่พึงประสงค์ท่ีส่งผล
กระทบตอ่ ตนเอง

เกณฑ์การให้คะแนนระดับคุณภาพ

ดมี าก - พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ชิ ัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ดี - พฤติกรรมทปี่ ฏิบัติชดั เจนและบอ่ ยครั้ง ให้ 1 คะแนน
ให้ 0 คะแนน
พอใช้ - พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั ิบางครัง้
ดีมาก (3)
ตอ้ งปรบั ปรุง - ไม่เคยปฏบิ ตั ิพฤตกิ รรม

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ : มีวินัย

พฤติกรรมบ่งช้ี พอใช้ (1) ดี (2)

ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง ปฏบิ ตั ติ นตามข้อตกลง ปฏิบัติตนตามข้อตกลง -ปฏิบตั ิตนตามข้อตกลง

กฎเกณฑ์ ระเบียบ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบียบ กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คับของ

ข้อบังคับของ ขอ้ บงั คบั ของโรงเรยี น ข้อบงั คับของโรงเรียน โรงเรยี น และ ไม่ละเมดิ สิทธิของ

ครอบครัว โรงเรียน ตรงต่อเวลาในการ ตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั ิ ผู้อ่นื

และสงั คม ปฏิบัตกิ จิ กรรม กิจกรรมและรับผดิ ชอบ -ตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัติ
ในการทำงาน กิจกรรมและรบั ผดิ ชอบในการ

ทำงาน

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ : ใฝเ่ รยี นรู้

พฤติกรรมบ่งชี้ พอใช้ (1) ดี (2) ดีมาก (3)

ตัง้ ใจ เพียรพยายาม เข้าเรียนตรงเวลา เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจ เขา้ เรยี นตรงเวลา ต้ังใจเรียน เอา
ในการเรยี น และเข้า ตัง้ ใจเรยี น เอาใจใส่ใน เรียน เอาใจใส่ในการ ใจใสใ่ นการเรียน และมสี ว่ นรว่ ม
รว่ มกิจกรรมการ การเรยี น และมีสว่ น เรียน และมีส่วนร่วมใน ในการเรยี นรู้ และเขา้ ร่วม
เรียนรู้ ร่วมในการเรียนรู้ การเรยี นรู้ และเข้ารว่ ม กจิ กรรมการเรยี นร้ตู ่างๆ ทั้ง
และเขา้ รว่ มกิจกรรม กจิ กรรมการเรยี นรูต้ ่างๆ ภายในและภายนอกโรงเรียนเปน็
แสวงหาความรจู้ าก การเรียนรู้ตา่ งๆ เปน็ บอ่ ยครง้ั ประจำ
แหลง่ เรียนรูต้ ่างๆ ทง้ั บางครงั้
ภายในและภายนอก
โรงเรียน ดว้ ยการ
เลอื กใชส้ อื่ อยา่ ง
เหมาะสม บนั ทึก
ความรู้ วิเคราะห์ สรปุ
เป็นองค์ความรู้
แลกเปลี่ยนเรยี นรู้
และนำไปใช้ใน
ชวี ิตประจำวันได้

เกณฑ์การให้คะแนน : ซอ่ื สัตยส์ ุจริต

พฤติกรรมบ่งชี้ พอใช้ (1) ดี (2) ดมี าก (3)

ประพฤติตรงตาม ประพฤติตนโดยเกรง ประพฤติตนโดยเกรง ประพฤติตนโดยเกรงกลัวต่อการ
ความเปน็ จรงิ ต่อ กลวั ตอ่ การกระทำผดิ
ตนเองท้ังทางกาย และไมม่ ี กลวั ตอ่ การกระทำผดิ กระทำผิดและไมม่ ี
วาจา ใจ พฤติกรรมนำสิง่ ของ
และผลงานของผู้อนื่ มา และไม่มี พฤติกรรมนำสง่ิ ของและผลงาน
ประพฤตติ รงตาม เป็นของตนเอง
ความเปน็ จริงต่อ พฤติกรรมนำสิง่ ของและ ของผู้อ่นื มาเปน็ ของตนเอง
ผอู้ น่ื ทง้ั ทางกาย
วาจา ใจ ผลงานของผู้อนื่ มาเปน็ ปฏบิ ตั ิตนตอ่ ผูอ้ ื่นด้วยความ

ของตนเอง ปฏิบัตติ น ซ่ือตรง

ต่อผูอ้ ่ืนด้วยความซือ่ ตรง เปน็ แบบอยา่ งท่ีดดี ้านความ

ซอ่ื สตั ย์

คุณลักษณ์อนั พึงประสงค์ : อยู่อยา่ งพอเพียง

พฤติกรรมบ่งชี้ พอใช้ (1) ดี (2) ดีมาก (3)

ดำเนินชวี ติ อย่าง ใช้ทรพั ยส์ นิ ของตนเอง ใช้ทรพั ยส์ ินของตนเอง ใช้ทรพั ยส์ ินของตนเองและ
พอประมาณ มี และทรัพยากรของ และทรัพยากรของ ทรพั ยากรของสว่ นรวมอยา่ ง
เหตผุ ล รอบคอบ มี สว่ นรวมอย่างประหยัด ส่วนรวมอย่างประหยดั ประหยดั คุ้มคา่ เกบ็ รักษา
คุณธรรม ค้มุ ค่า เกบ็ รักษาดแู ล คมุ้ ค่า เก็บรกั ษาดูแล ดูแลอย่างดี ไม่เอาเปรยี บ
อย่างดี อยา่ งดี ไมเ่ อาเปรียบ ผอู้ ื่น และไม่ทำใหผ้ ู้อืน่
มีภูมิคุม้ กนั ในตัวทด่ี ี ผอู้ น่ื เดือดรอ้ น
ปรับตวั เพ่อื อยใู่ น
สงั คมได้อยา่ งมี ใช้ความรู้ข้อมลู ข่าวสาร ใช้ความรู้ขอ้ มูลข่าวสารในการ
ความสขุ ในการ วางแผนการเรยี น การทำงาน
และใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน
วางแผนการเรียน และ
การทำงาน

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ : รกั ความเป็นไทย

พฤตกิ รรมบ่งช้ี พอใช้ (1) ดี (2) ดมี าก (3)

ภาคภูมิใจใน มีสัมมาคารวะตอ่ ครู มีสมั มาคารวะตอ่ ครู มสี ัมมาคารวะ ตอ่ ครอู าจารย์
ขนบธรรมเนียม อาจารย์ ใชภ้ าษาไทย อาจารย์ ปฏิบัติตนเป็นผู้มี ปฏบิ ัติตนเปน็ ผูม้ ีมารยาทแบบ
ประเพณี ศลิ ปะ เลขไทยในการส่อื สาร มารยาทแบบไทยใช้ ไทยใชภ้ าษาไทย เลขไทยในการ
วัฒนธรรมไทย และ ไดถ้ ูกตอ้ ง ภาษาไทย เลขไทยในการ ส่อื สารได้ถูกต้องเขา้ ร่วม
มีความกตัญญู สอื่ สารไดถ้ ูกต้อง กจิ กรรมที่เกย่ี วข้องกบั
กตเวที ภูมปิ ญั ญาไทยและมีส่วนรว่ มใน
เข้าร่วมกิจกรรมที่ การสืบทอดภมู ิปัญญาไทย
เห็นคุณคา่ และใช้ เก่ยี วขอ้ งกบั
ภาษาไทยในการ ภูมิปญั ญาไทย
สื่อสารได้อย่าง
ถูกต้องเหมาะสม

อนุรกั ษแ์ ละสบื
ทอดภมู ิปัญญาไทย

กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑๘ ช่วั โมง

๑. การเขียนยอ่ ความ ๔ ช่วั โมง
๒. การเขยี นแผนภาพโครงเรื่อง ๕ ชว่ั โมง
๓. การตง้ั คำถาม ๔ ชั่วโมง
๔. การอ่านออกเสยี งจากหนังสือภาษาพาที ๓ ชวั่ โมง
๕. การอ่านบทร้อยกรอง จากหนังสือวรรณคดลี ำนำ ๔ ช่ัวโมง

กิจกรรมการเรยี นรู้ Active Learning : I SURE MODEL

ข้ันตอน กจิ กรรมการเรียนรู้
ขัน้ การสรา้ งแรงจูงใจ
1.นักเรยี นคิดประโยคคนละ ๑ ประโยค
ขั้นกิจกรรมการเรยี นรู้ ๒.ครูเลา่ นิทานให้นักเรยี นฟงั เรือ่ ง ลกู เนรคุณ
๓.นักเรยี นฟงั แลว้ ตง้ั คำถามจากเร่ือง
๔.นกั เรยี นเลา่ ต่อใหเ้ พื่อนฟงั
๕. ครูกำหนดให้นักเรียนร่วมกนั ปฏบิ ตั ิกิจกรรมตามหาคู่เพื่อเชื่อมโยง
ความรเู้ ขา้ สเู่ น้ือหาต่างๆ ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั เรื่องนิทานพ้ืนบ้าน

1. ครจู ดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ในรูปแบบ Active Learning ทเ่ี น้นให้
นกั เรียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจเกย่ี วกับเร่ืองการอา่ น ดังน้ี
ขนั้ ๑. คำศพั ท์น่ารู้ STEP ๑ขัน้ รวบรวมขอ้ มูล (Gathering)อ่านนิทาน
จากเรือ่ งท่คี รูกำหนดให้
ขน้ั ๒. ฉนั ถาม – เธอตอบ STEP ๒ขน้ั การคิดวเิ คราะหแ์ ละสรุปความรู้
การตง้ั คำถามกระตุน้ ความคิด
ข้ัน ๓ อ่านเร่ืองอย่างรอบคอบ (Processing) STEP 3 ข้นั ปฏบิ ัตแิ ละ
สรปุ ความรหู้ ลงั การปฏิบัติ (Applying and Constructing the
Knowledge) เขยี นสรปุ ใจความสำคญั เป็นแผนภาพความคิด
ข้ัน ๔ บอกต่อเรื่องเล่า STEP 4. ข้นั ส่ือสารและนำเสนอ (Applying
the Communication Skill) แสดงผลงานใหเ้ พ่ือนดู
ขั้น ๕ สรุปและประเมินผลSTEP 5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า (Self -
Regulating)นกั เรยี นเลา่ เรอ่ื ง
2. นักเรียนรว่ มกนั ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมท่เี น้นการปฏิบตั จิ รงิ ศึกษา ค้นหา
หลักการของการเขยี นโครงเรื่อง โดยครูกระตนุ้ ทักษะกระบวนการคดิ
ของนักเรียน ด้วยการใหฝ้ กึ กล้าแสดงออก
3.ครนู ำแผนภาพโครงเรือ่ งรายบุคคลหรอื รายกลมุ่ ร่วมกันนำเสนอ
ความหมายของคำ แล้วรว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง

ขนั้ การวดั และประเมนิ ผล 1. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมร่วมคิดร่วมทำ เป็นกิจกรรมที่ให้นักเรียน
ขน้ั การใหร้ างวลั นำ ความรูเ้ กย่ี วกับประโยค นักเรยี นสามารถเลา่ เร่อื งสน้ั ๆ บอกขอ้ คิด
ท่ีอ่านและฟงั ได้
2. ครูและนักเรียนร่วมกันต้นหา นิทาน เพื่อยกตัวอย่างเชื่อมโยงกับ
เหตุการณ์ในชีวิตประจำวนั ได้
3. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด/ใบงาน/ชิ้นงาน เพื่อให้นักเรียนได้นำ
ความรู้จากท่ีได้เรยี นมาตลอดบทเรียนไปแกป้ ญั หา
4. ทดสอบหลงั เรยี น/ประเมินตัวชว้ี ัด ประจำหน่วยการเรยี นรู้

1. ทุกขั้นตอนในการจัดการเรียนรู้ครูมีการเสริมแรงเชิงบวกเมื่อ
นักเรียนสามารถปฏิบัติกิจกรรมหรือคิดหาคำตอบได้อย่างถูกต้องตาม

ขัน้ ตอน กิจกรรมการเรยี นรู้

หลักการทางหลักภาษา เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้
มากยงิ่ ข้นึ
2. ในช่วงการจัดการเรียนการสอน ครูคอยให้คำแนะนำ อธิบาย
เพิ่มเติมหรือช่วยเหลือนักเรียนเป็นรายบุคคล และหลังการจัดการ
เรียนการสอน หรือหลังการวัดและประเมินผล ครูนำผลการประเมิน
มาให้ข้อมลู ย้อนกลบั เชงิ บวกแก่ผ้เู รยี น
3. บูรณาการสอดแทรกคุณธรรม และการพัฒนาคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ ให้แก่นกั เรยี นในการปฏบิ ัติกิจกรรม

ส่อื และแหล่งเรียนรู้

๑. หนังสือเรยี น ภาษาพาที ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ ไวรัส วายร้าย
๒. หนังสอื เรยี น ภาษาพาที ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๔ หนเู อยจะบอกให้
๓. แบบฝึกเสรมิ ทกั ษะการอา่ นจบั ใจความสำคัญ เรื่องเลา่
๔.แบบฝกึ หดั ทกั ษะภาษา ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ ไวรัสวายรา้ ย หนเู อกจะบอกให้
๕. ใบงาน
๖. ใบกจิ กรรม
๗. บัตรภาพ
๘. แถบบตั รคำ
๙. หนังสือนิทานพ้ืนบา้ น
8) แถบประโยค
๑๐. เกมทางภาษา

หนว่ ยการจดั การเรียนรู้องิ มาตรฐาน

หนว่ ยการเรยี นที่ ๖ เรอ่ื ง ลิขิตสารงานสร้างสรรค์
รายวชิ า ภาษาไทย
ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔ รหัสวิชา ท ๑๔๑๐๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย

ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง

มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ช้ีวัด

มาตรฐานการเรียนรู้ การอ่าน
มาตรฐาน ท ๑.๑ :ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละความคิดเพอ่ื นำไปใชต้ ัดสนิ ใจ แก้ปญั หาใน

การดำเนินชวี ิต และมีนิสยั รักการอา่ น
ตวั ชว้ี ดั
มาตรฐาน ท 1.1 ป.4/๗ อ่านหนังสือทมี่ ีคุณค่าตามความสนใจอยา่ งสม่ำเสมอและแสดงความคิดเหน็
เกี่ยวกับเร่อื งทอี่ ่าน
มาตรฐาน ท 1.1 ป.4/๘ มีมารยาทในการอ่าน

มาตรฐานการเรียนรู้ การเขยี น
มาตรฐาน ท ๒.๑ : ใช้กระบวนการเขียนส่ือสาร เขยี นเรียงความ ยอ่ ความและเขยี นเรื่องราวใน

รูปแบบตา่ งๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ คว้า
อยา่ งมีประสิทธภิ าพ
ตวั ช้วี ดั
มาตรฐาน ท ๒.๑ ป.4/๒ เขียนสือ่ สารโดยใชค้ ำไดถ้ ูกตอ้ ง ชัดเจนและเหมาะสม
มาตรฐาน ท ๒.๑ ป.4/๔ เขยี นย่อความจากเรื่องสัน้ ๆ
มาตรฐาน ท ๒.๑ ป.4/๖ เขียนบนั ทึกและเขยี นรายงานจากการศกึ ษาคน้ ควา้

มาตรฐาน ท ๒.๑ ป.4/๘ เขียนเรอ่ื งตามจินตนาการ
มาตรฐานการเรยี นรู้ การฟงั ดูและพดู
มาตรฐาน ท ๓.๑ : สามารถเลอื กฟังและดูอยา่ งมวี ิจารณญาณและพดู แสดงความรู้ ความคดิ และ

ความร้สู กึ ในโอกาสตา่ งๆอย่างมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์
ตัวชีว้ ัด
มาตรฐาน ท ๓.๑ ป.4/๖ รายงานเร่ืองหรอื ประเดน็ ที่ศกึ ษาคน้ ควา้ จากการฟงั การดแู ละการสนทนา

มาตรฐานการเรยี นรู้ หลักการใช้ภาษา
มาตรฐาน ท ๔.๑ : เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย และเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลัง

ของภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัตขิ องชาติ
ตวั ช้วี ัด
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.4/๕ แต่งบทร้อยกรองและคำขวญั
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.4/๖ บอกความหมายของสำนวน

มาตรฐานการเรียนรู้ วรรณคดแี ละวรรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ : เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอย่างเหน็

คุณคา่ และนำมาประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตประจำวนั
มาตรฐาน ท ๕.๑ ป.4/๓ ร้องเพลงพื้นบ้าน

สาระสำคัญ
การเขียนเรื่องจากจินตนาการประเภทนิทาน เป็นการนำตัวละครสำคัญทไี่ ด้กำหนดเอาไวม้ าเชือ่ มโยง

กับฉากผูกเปน็ เรือ่ งราวกับเหตกุ ารณ์สำคัญท่ีไดว้ างโครงเร่ืองไว้ให้สอดคล้องกัน และสรปุ ผลของเหตกุ ารณ์
ในนทิ าน และจะต้องระบุขอ้ คิดสำคญั ของนิทานเพื่อเปน็ คติเตอื นใจดว้ ย

การเขยี นบันทึกความรู้เป็นการเขียนบนั ทึกเรื่องราวจากการอ่านหนงั สอื หรือจากการดหู รือฟงั สง่ิ ใดส่งิ
หนึ่งทีเ่ ป็นความรูท้ ี่ควรจำเพื่อเปน็ การเตอื นความจำหรือใช้อ้างอิงในวันข้างหน้า

สาระการเรียนรู้
ความรู้
สาระท่ี ๑ การอา่ น
๑. การอา่ นจบั ใจความจากส่ือต่างๆ เชน่

- เรื่องส้นั
- เรื่องเล่าจากประสบการณ์
- นทิ านชาดก
- บทความ
- บทโฆษณา
- งานเขยี นประเภทโนม้ น้าวใจ
- ข่าวและเหตกุ ารณป์ ระจำวัน
- สารคดแี ละบันทกึ คดี ฯลฯ
สาระท่ี ๒ การเขยี น
การเขยี นสื่อสาร
- คำขวัญ
- คำแนะนำ
๒. การเขยี นบันทกึ และเขยี นรายงานจากการศึกษาค้นคว้า
สาระที่ ๓ การฟัง การดู และการพูด
๑. การจบั ใจความและการพูดแสดงความรู้ ความคิดในเรื่องทฟ่ี งั และดูจากสอื่ ตา่ งๆ เช่น
- การสื่อสารอย่างสันติ
- สานเสวนา
- เร่อื งเลา่
- บทความส้นั ๆ
- ข่าวและเหตุการณป์ ระจำวัน

- บทโฆษณา
- ส่ืออเิ ล็กทรอนิกส์
- เร่ืองราวบทเรยี นกล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทยและกลุ่มสาระการเรยี นรู้อนื่ ฯลฯ
๒. การรายงาน
- การพดู ลำดบั ขน้ั ตอนการปฏบิ ตั ิงาน
- การพดู ลำดบั เหตกุ ารณ์

สาระที่ ๔ หลกั การใช้ภาษาไทย
- กลอนส่ี
- คำขวัญ

สาระท่ี ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม
๑. บทอาขยานและบทร้อยกรองที่มีคณุ คา่

- บทอาขยานตามที่กำหนด
- บทร้อยกรองตามความสนใจ
การประเมนิ ความคดิ รวบยอด
ชิน้ งานหรือภาระงาน
๑. แตง่ คำขวัญ หรือ กลอนสี่
๒. ท่องบทอาขยาน
ทักษะ / กระบวนการ
มีทักษะอ่านออกเสียงออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง อธิบายความหมายของคำ ประโยค
และสำนวนจากเรื่องที่อ่าน อ่านเรื่องสั้น ๆ ตามเวลาที่กำหนดและตอบคำถามจากเรื่องที่อ่าน มีทักษะการ
เขียนส่ือสารโดยใช้คำได้ถูกต้อง ชัดเจนและเหมะสม เขียนแผนภาพโครงเร่ืองและแผนภาพความคิดเพ่ือใช้
พัฒนางานเขียน เขียนย่อความจากเรื่องสั้น ๆ มีทักษะการฟัง การดู และการพูด พูดแสดงความรู้ ความ
คิดเหน็ และความรู้สึกเกี่ยวกับเร่ืองที่ฟังและดู ฝึกเขียนตามหลักการเขียน ระบุหนา้ ทขี่ องคำในประโยค โดย
ใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการกลุ่มและกระบวนการคิด
วเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความ กระบวนการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ กระบวนการสอื่ ความ
คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๑. มวี นิ ยั
๒. ใฝเ่ รียนรู้
๓. ซอื่ สัตย์สจุ รติ
๔. รักความเป็นไทย
๕. อยู่อย่างพอเพียง
สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น/จดุ เนน้ คณุ ภาพของผู้เรยี น
๑. ความสามารถในการสื่อสาร (อา่ นออกเสียงคำข้อความ บทร้อยกรองท่ีมคี วามยากงา่ ย อ่านออก

เสียงถกู ต้องชดั เจน)

๒. ความสามารถในการคดิ (ทักษะการคดิ ข้ันพ้นื ฐานทกั ษะการสอื่ สาร/คิดเป็นแกนทกั ษะการตงั้ คำถาม การแปล

ความ การตีความ ทักษะการใหเ้ หตุผล ทักษะการนำความรู้ไปใช)้
๓. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต (ความสามารถในการปรับตวั เหน็ คณุ คา่ ในตนเอง เชอื่ ม่นั ใน
ตนเองเคารพสทิ ธิของตนเองและผ้อู ่ืน)
การประเมินความคิดรวบยอด
ชนิ้ งานหรือภาระงาน
๑. การเขียนเร่ืองตามจินตนาการ
๒. การตงั้ คำถามกระตุ้นความคิด
๓. การเขยี นประโยค
๔. มารยาทในการฟัง การดูและการพดู
๕. ตอบคำถามจากเรื่องที่อา่ น
การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

การเขยี นบนั ทึกความรู้
การเขียนย่อความ
การแต่งกลอนส่ี
การตั้งคำถามกระต้นุ ความคิด

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

วธิ ีการ เครือ่ งมอื เกณฑผ์ ่าน

ตรวจใบงาน/แบบฝึกหัด ใบงาน/แบบฝึกหดั ร้อยละ 60 ข้ึนไป
การทดสอบ แบบทดสอบ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ร้อยละ 60 ข้นึ ไป
การประเมินช้นิ งาน แบบประเมนิ ช้นิ งาน ระดบั คุณภาพ 3 ขึ้นไป
ระดบั คุณภาพ 2 ขนึ้ ไป
ประเมนิ ทักษะกระบวนการ แบบประเมินทกั ษะกระบวนการ
ประเมนิ คุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะที่พึง
ของนักเรียนรายบคุ คล ประสงค์ของนักเรยี นรายบุคคล

รายละเอยี ดเกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบประเมินการแต่งประโยค (Rubrics)

ประเดน็ การประเมนิ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๑
๓๒
ปฏบิ ตั ไิ ดไ้ ม่
๑. ท่าทางในการเขยี น (วางสมดุ ให้ ปฏบิ ตั ิไดถ้ กู ตอ้ ง ปฏิบัตไิ ด้ถกู ต้อง ครบถ้วนตาม
ขนานกบั ขอบโต๊ะ แขนทั้งสองขา้ ง ครบถว้ นตงั้ แต่ตน้ จน ครบถ้วนแต่ไม่ กำหนด
วางบนโตะ๊ นง่ั ตัวตรง ใบหนา้ ห่าง เขียนเสร็จ ตลอดการทำงาน
จากสมุด ประมาณ ๓๐ เซนติเมตร
จบั ดินสอดว้ ยนิ้วช้ีและหวั แมม่ ือ
เท้าท้งั สองข้างราบกบั พนื้ )

ประเด็นการประเมนิ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๑
๓๒

๒. องคป์ ระกอบประโยคถูกต้อง ๑. มปี ระธาน บกพร่องข้อใดขอ้ บกพร่องตงั้ แต่ ๒
๒. มกี รยิ า หนึง่ ข้อ ขึ้นไป

๓. มสี ่วนประกอบ
สมบรู ณ์

๓. ใช้คำถกู ตอ้ งตามหนา้ ท่ี ใชค้ ำถูกต้องตามหนา้ ที่ ใช้คำถูกต้องเปน็ ใชค้ ำไม่ถูกต้อง

ทัง้ หมด ส่วนใหญ่ ตามหน้าที่มาก

๔. ความสะอาด สะอาดเรยี บร้อย ไม่มี มีรอยลบ ขดี ฆ่า มีรอยลบ ขีดฆ่า

รอยลบ ขีด ฆ่า เล็กนอ้ ย มาก

๕. แตง่ ประโยคได้ทนั เวลาทกี่ ำหนด แตง่ ประโยคได้ แตง่ ประโยคเลย แต่งประโยคเลย
ทนั เวลาท่ีกำหนด เวลาเล็กน้อย เวลาไปมาก

รายละเอยี ดเกณฑก์ ารให้คะแนนแบบประเมนิ การแตง่ ประโยคและบอกชนดิ ของประโยค (Rubrics)

ประเด็นการประเมนิ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
๓๒ ๑

๑. องคป์ ระกอบประโยคถูกต้อง ๑. มีประธาน บกพร่องข้อใดขอ้ หน่งึ บกพร่องตง้ั แต่ ๒ ขอ้
๒. มกี รยิ า ข้ึนไป

๓. มีสว่ นประกอบ
สมบูรณ์

๒. การจำแนกชนิดของประโยค จำแนกชนิดของ จำแนกชนิดของ จำแนกชนดิ ของประโยค

ประโยคได้ถูกต้อง ๕-๖ ประโยคได้ถูกต้อง ๓-๔ ได้ถูกต้อง ๑-๒ ประโยค

ประโยค ประโยค

๓. การวเิ คราะห์สว่ นประกอบ วิเคราะหส์ ว่ นประกอบ วเิ คราะหส์ ว่ นประกอบ วเิ คราะหส์ ่วนประกอบ
ของประโยค ของประโยคได้ถูกตอ้ ง ของประโยคได้ถูกต้อง ของประโยคได้ถูกตอ้ ง
ชัดเจน ๕-๖ ประโยค ชดั เจน ๓-๔ ประโยค ชัดเจน ๑-๒ ประโยค


Click to View FlipBook Version