รายงานผลโครงงาน เรื่อง ผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต จัดทำโดย นางสาวญาณิศา สายหลาน นางสาวศุภรางค์ แก้วติ๊บ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพขั้นสูง (ปวส.) ชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาอาหารและโภชนาการ รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายงานวิชา 30404-8501 โครงงาน (Project) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงใหม่ สถาบันการอาชีวศึกษาภาคเหนือ 1 สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
รายงานผลโครงงาน เรื่อง ผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต จัดทำโดย 64304040160 นางสาวญาณิศา สายหลาน 64304040171 นางสาวศุภรางค์ แก้วติ๊บ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพขั้นสูง (ปวส.) ชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาอาหารและโภชนาการ รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายงานวิชา 30404-8501 โครงงาน (Project) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงใหม่ สถาบันการอาชีวศึกษาภาคเหนือ 1 สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
ก กิตติกรรมประกาศ รายงานผลโครงงานเรื่อง ผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต ฉบับนี้ ผู้จัดทำได้รับความอนุเคราะห์ จากนางภาชณุมาศ ทองคำ ครูที่ปรึกษาผลงานให้คำแนะนำ ชี้แนะแนวทางในการดำเนินงานให้บรรลุ วัตถุประสงค์ และการเขียนรายงานมีความสมบูรณ์ การจัดทำโครงงานครั้งนี้ สำเร็จได้ด้วยความร่วมมือของเพื่อนร่วมงาน ซึ่งเป็นนักศึกษาระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาอาหารและโภชนาการ วิทยาลัยอาชีวศึกษา เชียงใหม่ ส่งเสริมสนับสนุนให้การดำเนินงานบรรลุผลสำเร็จ ผู้จัดทำขอขอบคุณไว้ ณ โอกาสนี้ ผู้จัดทำ นางสาวญาณิศา สายหลาน นางสาวศุภรางค์ แก้วติ๊บ
ข หัวข้อโครงงาน ผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต ประเภทโครงงาน โครงงานสิ่งประดิษฐ์ ผู้จัดทำ นางสาวญาณิสา สายหลาน 64304040160 ระดับชั้น ปวส.2 อาหารและโภชนาการ นางสาวศุภรางค์ แก้วติ๊บ 64304040171 ระดับชั้น ปวส.2 อาหารและโภชนาการ ครูที่ปรึกษาผลงาน นางภาชนุมาศ ทองคำ ปีการศึกษา 2566 บทคัดย่อ การจัดทำโครงงานทำไข่นกกระทาดองคีโต มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสูตรมาตรฐานผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทา ดองคีโต เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต และเพื่อเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ไข่นกกระทาดองคีโต โดยดำเนินงานศึกษาสูตรมาตรฐาน 3สูตร ประเมินความพึงพอใจต่อผู้บริโภคต่อสูตร 3 สูตร เพื่อให้ ได้สูตรมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต 3 สูตรมีความแตกต่างกันที่ซอส สูตรที่1 ขาว ร้อยละ 20.55 สูตรที่ 2 ใช้ซีอิ๊วโลโซเดียม 20.55 สูตรที่ 3 ใช้คิโคแมน 20.55 ผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้บริโภคต่อ ผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต ด้วยการทดสอบการยอมรับทางประสาทสัมผัส (9 Point Hedonic Scale Test) โดยใช้ผู้ทดสอบ จำนวน 100 คน พบว่า ผู้บริโภคให้การยอมรับผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต สูตรที่ 1ใช้ซีอิ๊วขาว 20.55 ผลการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต โดยสอบถามการบริโภคไข่นกกระทาดองในชีวิตประจำวันของ ผู้บริโภค 100 คน พบว่าผู้บริโภคดูแลสุขภาพร้อยละ44 รับประทานไข่นกกระทาบางครั้งร้อยละ 37 และยอมรับ ผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโตร้อยละ 98
ค Project name Keto pickled quail eggs Project type Invention Project Developers Miss Yanisa Sailan 64304040160 Dip.2 Food and Nutrition faculty Miss Suparang Kaewtib 64304040171 Dip.2 Food and Nutrition faculty Project metor teacher Mrs. Pachanumas Tongkam Academic year 2022 Abstrat The preparation of a project to make 3 formulas of keto pickled quail eggs has the objective To study the standard formula for keto pickled quail eggs To assess consumer satisfaction towards Keto pickled quail eggs. and the development of keto pickled quail eggs Study the acceptance of the testers who tried all 3 formulas of quail eggs. Formula 1: 300 grams of quail eggs, 200 grams of sodium soy sauce. 150 grams of water Irythol sugar 50 grams 15 grams of garlic Onion 50 grams Chili 15 grams Formula 2 1 Quail eggs 300 grams Kikomen 200 grams 150 grams of water Irythol sugar 50 grams 15 grams of garlic Onion 50 grams Chili 15 grams Formula 3 Quail eggs 300 grams Soy sauce 200 grams 150 grams of water Irythol sugar 30 grams 15 grams of garlic Onion 50g. Chili 15g. Tested for proper taste. Sensory test. From a sample of 100 people, it was found that most people accepted the formula. 1Odor acceptance result is the average.
ง สารบัญ เรื่อง หน้า กิตติกรรมประกาศ ก บทคัดย่อ ข บทที่ 1 บทนำ - ที่มาและความสำคัญของโครงงาน 1 - วัตถุประสงค์ของโครงงาน 2 - ขอบเขตการดำเนินการ 2 - เป้าหมายการดำเนินการ 2 - การบูรณาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3 บทที่ 2 เอกสารและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง - ความรู้เกี่ยวกับไข่นกกระทาดองคีโต 4 - ความรู้เกี่ยวกับ คีโตเจนิค (Ketogenic Diet) 4 - บรรจุภัณฑ์ 11 - งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 12 - หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 13 บทที่ 3 วิธีดำเนินการ - ระยะเวลาดำเนินงาน 15 - สถานที่ดำเนินงาน 15 - งบประมาณ 15 - ขั้นตอนการดำเนินงาน 15 - รายละเอียกวิธีการดำเนินการ 16 - การประเมินผลการดำเนินการ 17
จ สารบัญ (ต่อ) เรื่อง หน้า บทที่ 4 ผลการดำเนินการ/ผลการศึกษา - ผลการศึกษาสูตรมาตรฐานของไข่นกกระทาดองคีโต 31 - ผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต 31 - ผลการศึกษาผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต 31 บทที่5 สรุปผลและอภิปรายผลการดำเนินงาน - สรุปผลการดำเนินการ 37 - ประโยชน์ที่ได้รับ 37 - ปัญหาและอุสรรค 37 - ข้อเสนอแนะ 37 บรรณานุกรม ภาคผนวก
ฉ สารบัญตาราง ตารางที่ หน้า ตารางที่ 3.1 ขั้นตอนการดำเนินงาน 15 ตารางที่ 3.2 แสดงปริมาณส่วนผสม ไข่นกกระทาดองคีโต 17 ตารางที่ 3.3 แบบสอบถามความพึงพอใจผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต 19 ตารางที่ 3.4 แบบสำรวจเพศ 20 ตาราง 3.5 แบบสำรวจอายุ 20 ตาราง 3.6 แบบสำรวจพฤติกรรมการคุมน้ำหนักของผู้บริโภค 21 ตาราง 3.7 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีอาการแพ้ไข่ 21 ตาราง 3.8 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อ 22 ตาราง 3.9 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เคยรับประทาไข่ดอง 22 ตาราง 3.10 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคทีรับประทานไข่ดองบ่อย 23 ตาราง 3.11 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เลือกรับประทานไข่ดองตรงมื้อไหน 23 ตารางที่ 3.12 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคกับบรจุภัณฑ์ 24 ตารางที่ 3.13 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความสนใจต่อผลิตภัณฑ์ 24 ตารางที่ 3.14 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความสนใจต่อโลโก้ 25 ตารางที่ 3.15 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เลือกซื้อไข่นกกระทาดองคีโต 25 ตารางที่ 3.16 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ไข่นกกระทาควรมีปริมาณเท่าไหร่ 26 ตารางที่ 3.17 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เคยรับประทานไข่นกกระทาดองคีโต 26 ตารางที่ 3.18 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เคยซื้ไข่ดองจากที่อื่น 27 ตารางที่ 3.19 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ยอมรับไข่นกกระทาดองเป็นของทานเล่น 27 ตารางที่ 3.20 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีต่อราคาของไข่นกกระทาดองคีโต 28 ตารางที่ 3.21 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคมีความรู้เกี่ยวกับสารให้ความหวานอิริทอลหรือไม่ 28 ตารางที่ 3.22 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคมีความคิดเห็นอย่างไรต่อผลิตภัณฑ์ 29 ตารางที่ 3.23 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่จะพิจารณาในการซื้อไข่นกกระทาดองคีโต 29 ตารางที่ 4.1 ผลการสำรวจความพึงพอใจของผู้บริโภคต่อสูตรมาตรฐาน 3 สูตร 32 ตารางที่ 4.2 แสดงจำนวนและร้อยละ ของผู้ตอบแบบสอบถาม 32 ตารางที่ 4.3 ผลการสำรวจข้อมูลพฤติกรรมของผู้ตอบแบบสอบถาม 33 ตารางที่ 4.3 ผลการสำรวจข้อมูลพฤติกรรมของผู้ตอบแบบสอบถาม (ต่อ) 34 ตารางที่ 4.3 ผลการสำรวจข้อมูลพฤติกรรมของผู้ตอบแบบสอบถาม (ต่อ) 35
ช สารบัญตาราง (ต่อ) ตารางที่ 4.3 ผลการสำรวจข้อมูลพฤติกรรมของผู้ตอบแบบสอบถาม (ต่อ) 36
ซ สารบัญภาพ รูปภาพที่ หน้า รูปภาพที่ 2.1 ไข่นกกระทา 8 รูปภาพที่ 2.2 ซีอิ๊วขาว 8 รูปภาพที่ 2.3 พริกแดงจินดา 9 รูปภาพที่ 2.4 กระเทียม 9 รูปภาพที่ 2.5 หัวหอม 10 รูปภาพที่ 2.6 สารให้ความหวานอิริททอล รูปภาพที่ 3.3 ผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต 10 30
1 บทที่ 1 บทนำ 1.1 ที่มาและความสำคัญ ซีอิ๊วเป็นอาหารที่ชาวจีนคิดค้นผลิตขึ้นมากว่า 3,000 ปีแล้ว แรกเริ่มใช้ถั่วเหลืองเป็นวัตถุดิบเพียงอย่าง เดียว ต่อมาจึงค้นพบวิธีเอาข้าวสาลีเข้าผสมด้วยในขั้นตอนการหมัก ซีอิ๊วก็เช่นเดียวกับอาหารและเครื่องดื่มหลาย ชนิดที่ได้รับการค้นพบและค้นคว้าพัฒนาโดยพระสงฆ์ จากนั้นกรรมวิธีการผลิตซีอิ๊วได้แพร่หลายไปยังญี่ปุ่นและ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จนในที่สุดกลายมาเป็นเครื่องปรุงรสประจำวันที่จะขาดเสียมิได้เลย และซีอิ๊วได้พัฒนา รูปแบบไปต่างๆนาๆตามแต่สถานที่ที่ได้เดินทางไปถึง ที่เห็นชัดเจนคือในประเทศญี่ปุ่นได้พัฒนาแตกต่างออกไป จากจีนมาก ทั้งรสชาติ ความข้นใส และการใช้งาน หากแต่พื้นฐานก็มาจากการผลิตของจีนเมื่อ 3,000 กว่าปี มาแล้ว ไข่ดองเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นวัตถุดิบสามัญ ประจำบ้าน สามารถหาวัตถุดิบได้ตามตลาด หรือซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป และยังมีวิธีการทำที่ไม่ยาก แต่การ รับประทานไข่ดองดิบอาจจะส่งผลให้ผู้บริโภคมีความเสี่ยงในการติดเชื้อซัลโมเนลลา ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียที่พบได้ จากอาหารที่ไม่ได้รับการปรุงสุก หากผู้บริโภคได้รับเชื้อเข้าไปอาจะทำให้มีอาการ อาเจียน คลื่นไส้ ท้องร่วงได้ ผู้จัดทำจึงได้มีความคิดริเริ่มที่จะทำไข่นกกระทาดอง และรสชาติของไข่นกกระทาเหมือนไข่ไก่ แต่มีขนาดที่เล็กกว่า เต็มไปด้วยสารอาหารไข่นกกระทาหนึ่งฟอง (9 กรัม) อุดมไปด้วยสารอาหารมากมายและสารต้านอนุมูลอิสระที่ ส่งเสริมสุขภาพ ซึ่งช่วยลดความเสียหายของเซลล์และรักษาอาการภูมิแพ้ด้วย เช่นโปรตีน, ไขมัน, โคลีน, ไรโบฟลา วิน, โฟเลต, วิตามิน A, วิตามิน B12, เหล็ก, ฟอสฟอรัสและซีลีเนียมค่ะ ซึ่งซีลีเนียมและไรโบฟลาวินเป็นสารอาหาร สำคัญที่ช่วยให้ร่างกายย่อยอาหารที่กินเข้าไปและเปลี่ยนเป็นพลังงาน ซีลีเนียมยังช่วยให้การทำงานของต่อม ไทรอยด์มีสุขภาพดีด้วยนะ ในขณะเดียวกันวิตามินบีสิบสองและธาตุเหล็ก ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบ ประสาทที่แข็งแรงและช่วยรักษาระดับพลังงานที่เหมาะสม ผ่านบทบาทในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงอีกด้วย นอกจากนี้โคลีนมีความสำคัญต่อการช่วยให้ร่างกายของคุณสร้าง acetylcholine สารสื่อประสาทที่ส่งข้อความ จากระบบประสาทของคุณไปยังกล้ามเนื้อ ข้อควรระวังของไข่นกกระทาคือ ผู้บริโภคที่เป็นหญิงตั้งครรภ์และผู้ที่มี ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง ควรหลีกเลี่ยงไข่นกกระทา หรือปรุงจนสุกก่อนกิน นอกจากนี้ทางผู้จัดทำได้มีการใช้สาร ให้ความหวานแทนน้ำตาลอิริทอล ที่เป็นสารให้ความหวานที่ให้พลังงานต่ำ ให้ความหวานได้ใกล้เคียงกับการใช้ น้ำตาลปกติ จึงอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก การใช้อิริทริทอลในการปรุงอาหารแทน น้ำตาลทรายอาจช่วยให้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีและอาจช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อน จากโรคเบาหวานได้ เพราะให้พลังงานต่ำและไม่ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดเท่ากับการรับประทานอาหารที่มี น้ำตาลทราย แต่ไม่ควรรับประทานในปริมาณมากเกินไป เพราะอาจทำให้บางคนท้องเสียได้ไม่ควรรับประทานอิริ
2 ทอลเกิน 68 กรัม หรือประมาณ 13 ช้อนชาต่อวัน ผู้บริโภคที่ตั้งครรภ์และกำลังให้นมบุตรสามารถรับประทานอิริ ททอลได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทาน เพราะการรับประทานอิริทริทอลอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ โปรตีน, ไขมัน, โคลีน, ไรโบฟลาวิน, โฟเลต, วิตามิน A, วิตามิน B12, เหล็ก, ฟอสฟอรัสและซีลีเนียม ซึ่งซีลีเนียม และไรโบฟลาวินเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายย่อยอาหารที่กินเข้าไปและเปลี่ยนเป็นพลังงาน ซีลีเนียมยัง ช่วยให้การทำงานของต่อมไทรอยด์มีสุขภาพดี ในขณะเดียวกันวิตามินบีสิบสองและธาตุเหล็ก ช่วยส่งเสริมการ ทำงานของระบบประสาทที่แข็งแรงและช่วยรักษาระดับพลังงานที่เหมาะสม ผ่านบทบาทในการสร้างเซลล์เม็ด เลือดแดงอีกด้วย นอกจากนี้โคลีนมีความสำคัญต่อการช่วยให้ร่างกายของคุณสร้าง acetylcholine สารสื่อ ประสาทที่ส่งข้อความจากระบบประสาทของคุณไปยังกล้ามเนื้อ 1.2 วัตถุประสงค์ของโครงงาน 1.2.1 เพื่อศึกษาสูตรมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต 1.2.2 เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต 1.2.3 เพื่อเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต 1.3 ขอบเขตการศึกษาของโครงงาน 1.3.1 เริ่มโครงงานวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ 2565 สิ้นสุดวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ 2566 1.3.2 สินค้านี้สามารถรับประทานได้ในทุกเพศทุกวัยและคนที่รับประทานคีโตสามารถรับประทานได้ 1.3.3 การใช้กลุ่มเป้าหมายในการทดลองชิมนักศึกษาและบุคคลากรวิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงใหม่ 1.4 เป้าหมายการดำเนินงาน ศึกษาเกี่ยวกับ เรื่อง ผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต มีรายละเอียดที่ศึกษาประกอบด้วย ศึกษา ประกอบด้วย ศึกษาหาข้อมูลจากแหล่งความรู้ที่น่าเชื่อถือ เพื่อนำข้อมูลมาวางแผนการทดลองในการทำไข่นก กระทาดองคีโต เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต ที่มีคุณภาพตรงตามมาตรฐาน 1.4.1ด้านปริมาณ 1.4.1.1 ทำผลิตภัณฑ์ออกมาให้ได้ 3 สูตรมาตรฐานเพื่อเปรียบเทียบ 4.1.1.2 ผู้ทดลองชิมประเมิณคุณภาพรสชาติ100 คน
3 1.4.2 ด้านคุณภาพ 4.2.1.1 ทำให้มีคุณภาพเทียบเท่ากับผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองที่มีจำหน่ายในตลาด 4.2.2.2 ทำให้คุณภาพคงที่ทุกครั้งที่มีการผลิตจำหน่าย 1.5 การบูรณาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดำรงอยู่และปฎิบัติตนของประชาชนในทุกระดับตั้งแต่ระดับ ครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะ การพัฒนาเศรษฐกิจ 1.5.1 หลักการใช้ 3 ห่วง 1.5.1.1 ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป โดยไม่ เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เช่น การนำสารให้ความหวานอิริททอลที่มีราคาสูงมาใช้แทนน้ำตาลธรรมดา 1.5.1.2 ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่าง มีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกรทำนั้นๆอย่าง รอบคอบ เช่น การใช้น้ำตาลอิริททอลเพื่อลดคอแลสตอรอลในน้ำตาลที่มีมาก 1.5.1.3 ระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับต่อผลกระทบและการ เปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม เพื่อให้สามารถปรับตัว และรับมือได้อย่างทันท่วงทีเช่นใช้น้ำตาลอิริททอลเพื่อให้ร่างกาได้รับคอแลเตอรอลน้อยลง 1.5.2 หลักการใช้ 2 เงื่อนไข 1.5.2.1 เงื่อนไขความรู้ หมายถึง ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่างๆที่เกี่ยวข้อง และมีความรู้ใน การตัดสินใจได้ถูกต้อง ซึ่งสอดคล้องกับพุทธเศรษฐศาสตร์ที่เน้นการใช้ปัญญา เช่น การนำความรู้เกี่ยวกับประ โชยชน์ของเรื่องการเลือกรับประทานอาหารแบบคีโตเจนิคมาประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต 1.5.2.2 เงื่อนไขคุณธรรม หมายถึงการยึดหลักคุณธรรมเป็นแนวทาง มีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่โลภ รู้จักแบ่งปันให้ผู้อื่น มีความสามัคคี ดำเนินชีวิตด้วยความอดทน พากเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต ซึ่ง เป็นไปตามพุทธเศรษฐศาสตร์เช่น การมีจุดระสงค์ ให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดีขึ้น และใช้วัตถุดิบที่เป็นประโยชน์ต่อ ร่างกายของผู้บริโภค ที่มา : [1]
4 บทที่ 2 เอกสารและทฤษฏีที่เกี่ยวข้อง ในการศึกษาโครงงานเรื่อง ไข่นกกระทาดองคีโต มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสูตรมาตรฐานผลิตภัณฑ์ไข่นก กระทา เพื่อประเมินความพึงพอใจของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์ต่อไข่นกกระทาดองคีโต และเป็นการพัฒนาไข่นก กระทาแบบเดิมให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยคณะผู้จัดทำโครงงานได้ทำการศึกษาค้นคว้า แนวคิดทฤษฎีและ งานวิจัยที่เกี่ยวข้องโดยศึกษาและรวบรวมรายละเอียดดังต่อไปนี้ 1.) ความรู้เกี่ยวกับไข่นกกระทาดองคีโต( keto pickled quail eggs) 2.) ความรู้เกี่ยวกับ คีโตเจนิค (Ketogenic Diet) 3.) บรรจุภัณฑ์ของไข่นกกระทาดองคีโต 4.) งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 5.) หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2.1 ความรู้เกี่ยวกับไข่นกกระทาดองคีโต (Quail Egg) ไข่นกกระทา (QUAIL EGG) ข่นกกระทา เป็นไข่ของนกประเภทนกคุ่มหรือนกกระทา มีลักษณะคล้ายกับ ไข่ไก่ แต่มีขนาดเล็กกว่ามากและมีจุดเด่นคือ มีจุดแต้มหรือลายประสีต่าง ๆ บนเปลือกไข่อันเป็นสีตามธรรมชาติ ที่ ธรรมชาติสร้างไว้สำหรับให้หลบซ่อนจากสัตว์กินเนื้อที่จะมาขโมยไข่ไปกิน ไข่นกกระทามีความสำคัญต่อมนุษย์ใน ฐานะเป็นอาหารเช่นเดียวกับไข่ไก่หรือไข่เป็ด ได้รับความนิยมไปทั่วโลกทั้งอเมริกาเหนือ ยุโรปตะวันตก หรือเอเชีย ในอาหารญี่ปุ่น จะปรุงดิบหรือปรุงสุกในซุชิเป็นทะมะโกะ และพบได้ในกล่องอาหารมื้อกลางวัน ในอาหารจีน ไข่ กระทาก็นิยมใส่ในกระเพาะปลา ในเวียดนามและประเทศไทย ไข่นกกระทาสามารถปรุงเป็นขนมหรืออาหาร รับประทานเล่นที่สามารถซื้อได้ตามริมทางเท้า ไข่นกกระทาหนึ่งฟองจะให้ปริมาณพลังงาน 15–17 กิโลแคลอรี ซึ่ง นับว่าใกล้เคียงกับไข่ไก่เมื่อเทียบในปริมาณเท่ากัน (100 กรัม)[ต้องการอ้างอิง] มีโปรตีน 13.3 (กรัม) ไขมัน 12.0 (กรัม) แคลเซียม 153 (มิลลิกรัม) เหล็ก 3.5 (มิลลิกรัม) คอเลสเตอรอล 508 (มิลลิกรัม) ซึ่งเหมาะสำหรับเด็กหรือผู้ ที่มีอายุไม่เกิน 35 ปี ไข่นกกระทา อุดมไปด้วยสารอาหารมากมายและสารต้านอนุมูลอิสระที่ส่งเสริมสุขภาพ ซึ่ง ช่วยลดความเสียหายของเซลล์และรักษาอาการภูมิแพ้ด้วย เช่นโปรตีน, ไขมัน, โคลีน, ไรโบฟลาวิน, โฟเลต, วิตามิน A, วิตามิน B12, เหล็ก, ฟอสฟอรัสและซีลีเนียมค่ะ ซึ่งซีลีเนียมและไรโบฟลาวินเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยให้ ร่างกายย่อยอาหารที่กินเข้าไปและเปลี่ยนเป็นพลังงาน ซีลีเนียมยังช่วยให้การทำงานของต่อมไทรอยด์มีสุขภาพดี ด้วยนะ ในขณะเดียวกันวิตามินบีสิบสองและธาตุเหล็ก ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทที่แข็งแรงและ
5 ช่วยรักษาระดับพลังงานที่เหมาะสม ผ่านบทบาทในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงอีกด้วย นอกจากนี้โคลีนมี ความสำคัญต่อการช่วยให้ร่างกายของคุณสร้าง acetylcholine สารสื่อประสาทที่ส่งข้อความจากระบบประสาท ของคุณไปยังกล้ามเนื้อ ข้อควรระวังของไข่นกกระทาคือ ผู้บริโภคที่เป็นหญิงตั้งครรภ์และผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกัน บกพร่อง ควรหลีกเลี่ยงไข่นกกระทา หรือปรุงจนสุกก่อนรับประทาน ที่มา [2] 2.2 2.) ความรู้เกี่ยวกับ คีโตเจนิค (Ketogenic Diet) คีโต มาจากคำว่า “คีโตเจนิก ไดเอต” (Ketogenic diet) คือการลดอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล และให้ น้ำหนักกับการบริโภค “ไขมัน” และโปรตีน หลักการลดน้ำหนักด้วยการกินคีโต อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต อย่างพวกแป้ง ข้าว จะถูกย่อยให้กลายเป็นน้ำตาลเพื่อเป็นพลังงานหลักของร่างกาย แต่เมื่อเราลดการทาน คาร์โบไฮเดรตลง ร่างกายจะหันไปเผาผลาญไขมันที่สะสมไว้แทน กลายเป็น สารคีโตนบอดี้ส์ (Ketone Bodies)” ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ คีโต การกินเพื่อลดน้ำหนักแบบคีโตเน้นการกินอาหารจำพวกไขมันและโปรตีนเป็นหลัก และลด สัดส่วนการกินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต เช่น อาหารจำพวกแป้ง ข้าวและน้ำตาล ให้เหลือเพียง 5% หรือแค่ 20-50 กรัมต่อวัน หรือแทบจะไม่มีอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตในมื้ออาหารเลย เพื่อให้เกิดภาวะคีโตซิส (Ketosis) หรือ ภาวะที่ร่างกายนำพลังงานจากไขมันในร่างกายมาใช้เป็นแหล่งพลังงานหลักการกินอาหารประเภท ไขมันและโปรตีน มีส่วนทำให้รู้สึกอิ่มนาน และสารคีโตนบอดี้ส์ยังช่วยลดความอยากอาหาร ทำให้เกิดการจำกัด ปริมาณแคลอรี่ที่รับประทาน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการลดน้ำหนักตัว โดยไขมันในอาหาร แบ่งได้เป็น 2 ประเภท อาหารที่มีไขมันไม่อิ่มตัว หรือไขมันดี ส่วนใหญ่พบในพืชผักและปลาที่มีไขมันมาก เช่น ปลาทะเล แซลมอน อโวคา โด น้ำมันมะกอก น้ำมันดอกทานตะวัน ถั่วเหลือง น้ำมันงา เป็นต้น อาหารที่มีไขมันอิ่มตัว คือมีทั้งไขมันดีและไขมัน เลว ส่วนใหญ่พบได้ในเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากนมและพืชบางชนิด เช่น เนื้อสัตว์ น้ำมันหมู ไก่ โยเกิร์ต เนย ชีส กะทิ น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม เป็นต้น ไขมันทั้ง 2 ประเภทมีประโยชน์และจำเป็นต่อร่างกาย แต่หากกินอาหารที่มี ไขมันอิ่มตัวมากเกินไปจะส่งผลเสียมากกว่า เพราะอาจพบระดับไขมันในเลือดผิดปกติ เสี่ยงต่อการเกิดไขมันอุดตัน ในเส้นเลือด หลอดเลือดสมองและโรคหัวใจ เป็นต้น นอกจากการเลือกประเภทไขมันในการบริโภคให้ถูกต้องและ สมดุลแล้ว ก็ต้องระวังและเลี่ยงการกินผักและผลไม้ที่มีแป้งและน้ำตาลสูงและการปรุงรสอาหารด้วยน้ำตาล ไม่เช่นนั้นร่างกายจะไม่เกิดภาวะคีโตซิส (Ketosis) และไม่เกิดผลต่อการลดน้ำหนัก ซ้ำยังอาจจะช่วยเพิ่มน้ำหนัก และไขมันอีกด้วย ผลข้างเคียงจากการกินคีโตการกินคีโตเป็นแนวทางการกินที่มีความเฉพาะเจาะจง ลดสารอาหาร บางประเภท และไม่หลากหลาย ซึ่งหากไม่ใส่ใจให้ดีก็อาจเกิดผลข้างเคียงได้หลายอย่าง เช่น
6 - ไข้คีโต (Keto Flu) : เมื่อร่างกายเกิดภาวะคีโตซิส อาจทำให้รู้สึกเหมือนเป็นไข้ ไม่สบายตัว ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน หรืออ่อนเพลีย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอาการเหล่านี้จะค่อยๆ หายไปเอง หากรู้สึกเป็นนานกว่า 2 สัปดาห์ แนะนำให้พบแพทย์ - การขาดสารอาหาร : การกินคีโตต้องลดปริมาณอาหารบางประเภท จึงอาจทำให้ร่างกายได้รับสารอาหาร สำคัญบางชนิดไม่เพียงพอ เช่น กากใย วิตามิน เป็นต้น อาจเกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา - ท้องผูก ขาดน้ำและแร่ธาตุ : ร่างกายจะขับสารคีโตนบอดี้ส์ออกทางปัสสาวะ ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ เพิ่มขึ้น ซึ่งเสี่ยงต่อการขาดน้ำและแร่ธาตุ และการรับประทานคาร์โบไฮเดรตปริมาณต่ำมากทำให้ร่างกาย ได้รับกากใยไม่เพียงพอ ส่งผลให้เกิดอาการท้องผูก - กระหายน้ำบ่อย : เป็นอาการที่พบบ่อย เกิดจากการที่ร่างกายขับน้ำ ทำให้ผู้ที่กินอาหารแบบคีโตรู้สึก กระหายน้ำ จึงต้องคอยจิบน้ำเสมอๆ - อาการสมองล้า : อาการสมองล้า ความจำสั้นและไม่ค่อยมีสมาธิ แต่พบได้ไม่บ่อย - ผิวมันเป็นสิว : การกินไขมันบางชนิดมากๆ ทำให้เกิดการอักเสบที่ผิวหนัง อาจก่อให้เกิดสิวได้โยโย่เอฟเฟค เมื่อหยุดกินคีโต การกินคีโตสามารถทำให้น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งยังไม่รู้สึกโหย เหมือนกับการ ลดน้ำหนักแบบอื่นๆ แต่เมื่อหยุดกินคีโตแล้วกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม หรือรับประทานอาหารที่ไม่ใช่การ กินคีโตเต็มรูปแบบ น้ำหนักตัวก็อาจกลับขึ้นมาอย่างเดิม อย่างที่เรียกว่าโยโย่เอฟเฟค การรับประทานคีโตโดยการใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งโดยปัจจุบันได้มีการใช้ อิริทอล (Erythritol) เป็นสารให้ความหวานในกลุ่มน้ำตาลแอลกอฮอล์ (Polyols) ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มสารให้ความ หวานที่ให้พลังงาน (Nutritive Sweetener) โดยอิริทอลพบได้ในผลไม้ เช่น องุ่น พีช แตงโม รวมทั้งไวน์ เบียร์ และชีส หรือสังเคราะห์ขึ้นเพื่อใช้ทดแทนน้ำตาลในอาหารและเครื่องดื่ม อิริทอลเป็นสารให้ความหวานที่นิยมใช้ใน วงการอาหาร เช่น เบเกอรี่ ลูกอม หมากฝรั่ง เครื่องดื่ม และอาหารบางชนิด เพราะเป็นสารให้ความหวานที่ให้ พลังงานต่ำ แต่ให้ความหวานได้ใกล้เคียงกับการใช้น้ำตาลปกติ จึงอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ ควบคุมน้ำหนัก อิริทริทอลเป็นวัตถุให้ความหวานในกลุ่มน้ำตาลแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตประเภทหนึ่งที่มี โครงสร้างทางเคมีคล้ายกับน้ำตาล โดยเป็นสารให้ความหวานที่ยังคงให้พลังงาน แต่ให้ในปริมาณที่ค่อนข้างต่ำ เช่นเดียวกับซอร์บิทอล (Sorbitol) ไซลิทอล (Xylitol) ไอโซมอลท์ (Isomalt) และแมนนิทอล (Mannitol) อิริทอล มีลักษณะเป็นผลึกสีขาวหรือเป็นผง มีความหวานเท่ากับ 70% ของน้ำตาลทราย แต่ให้พลังงานน้อยกว่า โดย น้ำตาลทรายให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี่ต่อกรัม ขณะที่อิริทริทอลให้พลังงานเพียง 0.24 กิโลแคลอรี่ต่อกรัม อิริทอล จะถูกดูดซึมที่ลำไส้เล็กอย่างรวดเร็วและขับออกจากร่างกายทางปัสสาวะภายใน 24 ชั่วโมง จึงไม่เกิดกระบวนการ เผาผลาญและเปลี่ยนเป็นพลังงานในร่างกาย นอกจากนี้ อิริทริทอลมีค่าดัชนีน้ำตาล (Glycemic Index) เท่ากับ 0
7 ซึ่งเป็นค่าที่ช่วยให้ผู้ป่วยคาดคะเนการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือดหลังรับประทานอาหารประเภท คาร์โบไฮเดรต การใช้อิริทริทอลที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำในการปรุงอาหารจึงอาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ควบคุม ระดับน้ำตาลในเลือด อย่างผู้ที่มีภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes) และเบาหวาน (Diabetes) มากกว่าอาหารที่มี น้ำตาลทรายอิริทริทอลช่วยลดการเติบโตของแบคทีเรียซึ่งก่อให้เกิดฟันผุ จึงนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในหมากฝรั่ง ที่ไม่ผสมน้ำตาล ยาสีฟัน และน้ำยาบ้วนปาก เช่นเดียวกับไซลิทอลและซอร์บิทอล อิริทริทอลสามารถใช้ผสมใน อาหารแทนการใช้น้ำตาลทราย เช่น ชา กาแฟ หรือผสมในอาหารคาวและหวานได้หลายเมนู โดยในปัจจุบันยังไม่มี ข้อมูลของปริมาณสูงสุดที่บริโภคได้ต่อวันอย่างแน่ชัด แต่ปริมาณที่คนส่วนใหญ่รับประทานอิริทริทอลแล้วมักไม่มี อาการข้างเคียงอยู่ที่ไม่เกิน 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เช่น ผู้ที่มีน้ำหนักตัว 68 กิโลกรัม ไม่ควรรับประทานอิ ริทริทอลเกิน 68 กรัม หรือประมาณ 13 ช้อนชาต่อวัน การใช้อิริทริทอลในการปรุงอาหารแทนน้ำตาลทรายอาจ ช่วยให้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีและอาจช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานได้ เพราะให้พลังงานต่ำและไม่ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดเท่ากับการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลทราย แต่ไม่ควร รับประทานในปริมาณมากเกินไป เพราะอาจทำให้บางคนท้องเสียได้ ทั้งนี้ผู้ป่วยเบาหวานควรอ่านฉลากผลิตภัณฑ์ อาหารและเครื่องดื่มที่ปราศจากน้ำตาลเสมอ เพราะอาจได้รับคาร์โบไฮเดรตหรือพลังงานจากส่วนประกอบอื่น ๆ ซึ่งทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นได้ ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรับประทานอาหาร และตรวจวัด ระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม อิริทริทอลจะถูกดูด ซึมก่อนจะเข้าสู่ลำไส้และถูกขับออกทางปัสสาวะ คนทั่วไปสามารถรับประทานอิริทริทอลได้อย่างปลอดภัย แต่การ ได้รับอิริทริทอลในปริมาณมากเกินไปอาจทำให้บางคนเกิดอาการผิดปกติเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารเช่นเดียวกับ น้ำตาลแอลกอฮอล์ชนิดอื่น เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องเสีย หรือถ่ายบ่อยกว่าปกติ ทำให้อาการของโรคลำไส้ แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome) โรคโครห์น (Crohn's Disease) และโรคลำไส้อักเสบ (Ulcerative Colitis) แย่ลง ผู้ที่ตั้งครรภ์และกำลังให้นมบุตรสามารถรับประทานอิริทริทอลได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการ รับประทาน เพราะการรับประทานอิริทริทอลอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดผื่นแดงคัน ปากและ ใบหน้าบวม และหายใจลำบาก หากมีอาการดังกล่าวควรไปพบแพทย์ อิริทริทอลเป็นสารให้ความหวานแทน น้ำตาลที่ให้ความหวานใกล้เคียงกับน้ำตาลทราย แต่ให้พลังงานต่ำ อีกทั้งไม่ส่งผลต่อระดับอินซูลินและน้ำตาลใน เลือด ผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักหรือผู้ป่วยเบาหวานจึงสามารถรับประทานได้ในปริมาณที่เหมาะสม ผู้ป่วย เบาหวานควรสังเกตอาการและตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ หากระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงหรือ ลดลงมากผิดปกติ ที่มา [3,4,]
8 ส่วนผสมของไข่นกกระทาดอง 2.2.1 ไข่นกกระทา รูปภาพที่ 2.1 ไข่นกกระทา [5] ไข่นกกระทา (QUAIL EGG) ไข่นกกระทาหนึ่งฟองจะให้ปริมาณพลังงาน 15–17 กิโลแคลอรี ซึ่งนับว่า ใกล้เคียงกับไข่ไก่เมื่อเทียบในปริมาณเท่ากัน (100 กรัม)[ต้องการอ้างอิง] มีโปรตีน 13.3 (กรัม) ไขมัน 12.0 (กรัม) แคลเซียม 153 (มิลลิกรัม) เหล็ก 3.5 (มิลลิกรัม) คอเลสเตอรอล 508 (มิลลิกรัม) ซึ่งเหมาะสำหรับเด็กหรือผู้ที่มี อายุไม่เกิน 35 ปี ไข่นกกระทา อุดมไปด้วยสารอาหารมากมายและสารต้านอนุมูลอิสระที่ส่งเสริมสุขภาพ ซึ่งช่วย ลดความเสียหายของเซลล์และรักษาอาการภูมิแพ้ด้วย 2.2.2 ซีอิ๊วขาว รูปภาพที่ 2.2 ซีอิ๊วขาว [6] ซีอิ๊วขาว ซอสถั่วเหลืองหรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ “ซีอิ๊วขาว” (Soy Sauce) เป็นผลิตภัณฑ์ของเหลวที่ได้ จากการย่อยสลายโปรตีนของถั่วเหลือง หรือส่วนผสมของถั่วเหลือง กับ แป้งข้าวสาลี หมักด้วยเชื้อจุลินทรีย์ ใน พื้นที่ที่มีการควบคุมความชื้น ความสะอาด และอุณหภูมิที่เหมาะสม จนทำให้เกิดการย่อยสลายโปรตีนและแป้ง ออกมาเป็นน้ำตาลและกรดอมิโน ซีอิ๊วขาวจึงให้กลิ่นและรสชาติ เค็มและหวานอ่อนๆ
9 2.2.3 พริกแดงจินดา รูปภาพที่ 2.3 พริกแดงจินดา [7] การทานพริกช่วยลดน้ำหนักได้ เนื่องจากแคปไซซินในพริกมีสาร thermogenic ซึ่งเป็นสารก่อความร้อน ในร่างกาย ส่งผลดีต่อระบบเผาผลาญ ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญได้ดี จึงมีส่วนช่วยให้น้ำหนักของเราลดเร็วขึ้น อีก ทั้งพริกยังมีกรดแอสคอร์บิก ที่ช่วยเร่งให้ร่างกายเปลี่ยนไขมันเป็นพลังงานได้ โดยมีการศึกษาจากประเทศญี่ปุ่น พบว่า การทานพริก 10 กรัม ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญในร่างกายได้อย่างรวดเร็ว และนานถึง 30 นาที 2.2.4 กระเทียม รูปภาพที่ 2.4 กระเทียม [8] เป็นพืชสมุนไพรไทยชนิดหนึ่ง มักถูกจัดอยู่ในประเภทเครื่องเทศ มีลักษณะกลมแป้น ประกอบด้วยกลีบที่ ห่อหุ้มด้วยเปลือกสีขาว คนไทยนิยมนำมาใช้ทำอาหาร เนื่องจากช่วยดับกลิ่นคาวและเพิ่มรสชาติให้เมนูอาหารมี ความเข้มข้นยิ่งขึ้น
10 2.2.5 หัวหอม รูปภาพที่ 2.5 หัวหอม [9] หัวหอมใหญ่ ช่วยลดคอเลสเตอรอล เพราะการรับประทานอาหารในแต่ละวันที่เราได้รับเข้าไป ไม่ว่าจะ เป็น ไข่ เนื้อ ต่างๆทำให้เกิดการเพิ่มของ คอเลสเตอรอล ได้ ดังนั้นสรรพคุณของหอมใหญ่สามารถช่วยลดปริมาณ คอเลสเตอรอลในเส้นเลือด กำจัดคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) หัวหอมใหญ่สามารถลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีได้ การบริโภคหัวหอมดิบทุกวันจะช่วยเพิ่มระดับของคอเลสเตอรอลที่ดี (HDL) เพิ่มขึ้นถึง 30% จึงช่วยควบคุมระดับ คอเลสเตอรอล 2.2.6 สารให้ความหวานอิริทริทอล รูปภาพที่ 2.6 สารให้ความหวานอิริททอล [10] อิริทริทอลมีลักษณะเป็นผลึกสีขาวหรือเป็นผง มีความหวานเท่ากับ 70% ของน้ำตาลทราย แต่ให้พลังงาน น้อยกว่า โดยน้ำตาลทรายให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี่ต่อกรัม ขณะที่อิริทริทอลให้พลังงานเพียง 0.24 กิโลแคลอรี่ต่อ กรัม อิริทริทอลจะถูกดูดซึมที่ลำไส้เล็กอย่างรวดเร็วและขับออกจากร่างกายทางปัสสาวะภายใน 24 ชั่วโมง
11 2.3 บรรจุภัณฑ์ของไข่นกกระทาดอง 2.3.1 ถุงสูญญากาศ ถุงสูญญากาศ หรือถุงซีลสูญญากาศ ในปัจจุบันถุงชนิดนี้ได้รับความนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เพราะช่วย อำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งการบรรจุ การจัดส่ง และ ประหยัดต้นทุน ในการเก็บสินค้าได้ดี ซึ่งถุงชนิดนี้ สามารถ จำแนกถุงซีลได้ 2 ประเภทหลักๆ คือ ถุงซีลสูญญากาศแบบเรียบ และ ถุงซีลสูญญากาศลายนูน - ถุงซีลสูญญากาศแบบเรียบ ทำมาจาก พลาสติก ชนิด PE/PET โดยที่การผลิตจะเป็นการซ้อนกันของเลเยอร์ (layer) ถุงเป็นชั้นๆ โดย PE จะ เด่นเรื่องของการทนอุณหภูมิ ส่วน PET จะช่วยในเรื่องของป้องกันการรั่วซึม เนื้อถุงจะมีความหนา 160 ไมครอน ขึ้นไป คุณสมบัติของ ถุงซีลสูญญากาศแบบเรียบ ผลิตมาจากพลาสติกชนิด ไนรอน (Nylon Film : NL) มาตรฐาน ปลอดภัยสำหรับอาหาร (Food Grade) .ปลอดภัยไม่มีสารก่อมะเร็ง เมื่อโดนความร้อน ฟิล์มจะละลายที่ (Melting point) 200-250 องศา C’ ด้วยคุณสมบัติของ (Nylon Film : NL) จะเหนียว ยืดหยุ่น ทนต่อการเสียดสีและ กระแทกและทนต่อการ แช่เเข็ง(Flashing Point) ได้ต่ำกว่า – 440 องศา C’ ค่าความหนาแน่น ของฟิล์ม (Relative density) = 1.14 – 1.16 (Water =1) เนื้อฟิล์มจึงมีความทนทานกว่าเนื้อฟิล์มชนิดอื่น - ถุงซีลสูญญากาศลายนูน ทำมาจาก พลาสติก ชนิด PA/PE โดย PE จะเด่นเรื่องของการทนอุณหภูมิ ส่วน PA จะช่วยในเรื่องของป้องกันการ รั่วซึม ซึ่งถุงชนิดนี้จะ สามารถใช้งานได้กับ เครื่องซีลสูญญากาศขนาดเล็ก แต่ก็จะมีราคาสูงกว่าถุงประเภทแรกและ ลักษณะ ถุงสูญญากาศ ลายนูน มีไว้เพื่อช่วยให้อากาศไหลออกมาขณะทำการดูดสูญญากาศ โดยทั่วไปมักมีความ หนา 180 ไมครอนขึ้นไป โดยมีทั้งแบบม้วน (ตัดขนาดตามต้องการเอง) และแบบไซส์สำเร็จ ทนต่อการกระแทก และการกัดกร่อนของแอลกอฮอลทุกชนิด คุณสมบัติของ ถุงซีลสูญญากาศลายนูน.ยืดหยุ่นสูงทนต่อการฉีกขาดและ รั่วจากการทิ่มแทง เนื่องจากผลิตจาก ไนรอน + และเคลือบด้วยลามิเนท ปลอดภัยจากสารก่อมะเร็งเมื่อรับความ ร้อนที่สูง จากการ ต้ม นึ่ง เวฟ หรือแช่แข็ง (BPA FREE) ทนความร้อนสูงสุด 150 องศา ทนต่อการแช่ฟิต ( FOZEN ) ได้ถึง -40 องศาเซลเซียส ทนต่อการกระแทก และการกัดกร่อนของแอลกอฮอลทุกชนิด ที่มา [11]
12 2.3.2 การซีลสูญญากาศ ปัจจุบันการบรรจุแบบสุญญากาศเป็นที่นิยมเพราะ เป็นวิธีการยืดอายุของอาหาร โดยดูดอากาศออกจาก บรรจุภัณฑ์ก่อนปิดผนึก วิธีการนี้เกี่ยวข้องกับการวางสิ่งของด้วยตนเองหรือแบบอัตโนมัติบรรจุอากาศจากภายใน และปิดผนึกบรรจุภัณฑ์ ฟิล์มหด บางครั้งถูกนำมาใช้เพื่อให้พอดีกับสินค้า จุดประสงค์ของการบรรจุสุญญากาศคือ การนำออกซิเจนออกจากภาชนะเพื่อยืดอายุการ เก็บรักษา ของอาหารและด้วยรูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่ยืดหยุ่นทำให้ สามารถลดปริมาณของสินค้าและบรรจุภัณฑ์ การซีลสุญญากาศเป็นการลดปริมาณออกซิเจนในถุง ยับยั้งการ เจริญเติบโตของ แบคทีเรียแอโรบิก หรือ เชื้อรา และป้องกันการ ระเหย ของส่วนประกอบที่ ระเหย ได้ นอกจากนี้ ยังใช้เพื่อเก็บอาหารแห้งเป็นระยะเวลานานเช่น ซีเรียล, ถั่ว, เนื้อสัตว์ , ชีส, ปลา รมควัน, กาแฟ และมันฝรั่งทอด ในระยะเวลาอันสั้นการบรรจุสุญญากาศยังสามารถใช้ในการเก็บอาหารสดเช่นผักเนื้อสัตว์และของเหลวเพราะ ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย การบรรจุสุญญากาศช่วยลดปริมาณของสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร ยกตัวอย่างเช่น เสื้อผ้าและเครื่องนอนสามารถเก็บไว้ในถุงสุญญากาศด้วย เครื่องดูดฝุ่น หรือเครื่องปิดผนึกสุญญากาศโดยเฉพาะ บางครั้งเทคนิคนี้ใช้ในการบีบอัด ขยะในครัวเรือน ตัวอย่างเช่นมีการเก็บประจุสำหรับถุงเต็มถุงแต่ละใบ ผลิตภัณฑ์ ที่รองรับการสุญญากาศมีหลากหลายเช่น ถุงพลาสติก, ถัง, ขวด หรือ ไห รองรับการใช้งานในครัวเรือน สำหรับ อาหารที่แตกหักง่ายซึ่งอาจถูกบดทำลายโดยกระบวนการบรรจุสุญญากาศ (เช่นมันฝรั่งทอด) ทางเลือกคือการอัด ก๊าซแทนที่ภายในด้วยก๊าซไนโตรเจน การอัดก๊าซไนโตรเจนในสินค้าส่งผลเช่นเดียวกับการซีลสุญญากาศคือชะลอ การเสื่อมสภาพของอาหาร ที่มา : [12] 2.4 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง อรรนพ เรืองกัลป์ปวงศ์ และสราวรรณ์ เรืองกัลปวงศ์ (2558) การศึกษาปัจจัยที่มี ความสัมพันธ์กับ การตัดสินใจเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพของผู้สูงอายุในกรุงเทพมหานคร ผลการวิจัยพบว่า การตัดสินใจ เลือกบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพในภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดย ปัจจัยทั้ง 7 ด้านอธิบายการผันแปรได้ร้อยละ 53.5 ที่มา : [13] วรันพร นางาม (2561) ศึกษาอิทธิพลของปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อความตั้งใจซื้ออาหารคลีน ผล การศึกษาพบว่า อิทธิพลทางอ้อมจากปัจจัยคาดหวังของลูกค้า การรับรู้คุณภาพอาหารคลีนส่งผ่านจากการรับรู้ คุณค่าของอาหารคลีนส่งผลต่อความ ตั้งใจซื้ออาหารคลีนของผู้บริโภค ที่มา : [14]
13 นายกฤษฎากล่าว (2559) ปัจจุบัน มีการใช้อีริทริทอล และไซลีทอล เป็นสารให้ความหวานแคลอรีต่ำกัน แพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆ ในผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งเป็นเครื่องปรุงรสบนโต๊ะอาหารในร้านจำหน่าย ผลิตภัณฑ์อาหารจากธรรมชาติ การร่วมเป็นพันธมิตรระหว่างมิตรผลและ DFI ครั้งนี้จะส่งผลให้เกิดผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในเรื่องรสชาติที่ดีควบคู่กับประโยชน์ต่อสุขภาพ ทั้งสำหรับผู้ที่ต้องการ สุขภาพที่ดี และผู้ที่มีความจำเป็นด้วยเหตุผลด้านปัญหาสุขภาพ เทคโนโลยีสิทธิบัตรของ DFI จะเป็นมิติใหม่ในการ สร้างกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับผลิตภัณฑ์ซึ่งผู้บริโภคให้การ ยอมรับอย่างแพร่หลายอยู่แล้ว นอกจากนั้น การร่วมมือกันครั้งนี้ยังมีการพัฒนาวัตถุดิบซึ่งสามารถลดการใช้ยา ปฏิชีวนะในอาหารสัตว์ และสารเคมีที่หมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ได้ ที่มา [15] ณัชญ์ธนัน พรมมา (2558) ได้ศึกษาเกี่ยวกับ ปัจจัยที่มีอิทธิพลตั่อความตั้งใจซื้ออาหารเพื่อสุขภาพของ ผู้บริโภค พบว่า ความกังวลสุขภาพเป็นตัวบ่งงชี้ว่าผู้บริโภคมีความห่วงใยสุขภาพมากขึ้น และมีการดูแลปัญหา สุขภาพที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ถ้าความกังวลสุขภาพมีมาก จะสั่งผลให้ความตั้งใจซื้ออาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น ไม่ ว่าทัศนคติที่มีต่ออาหารเพื่อสุขภาพจะเป็นดีหรือลบ ซึ่งเชื่อมโยงกบพฤติกรัมความตั้งใจที่มีความสนใจออกมา ที่มา [16] 2.5 หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในเรื่องของสามารถพึ่งพาตัวเองได้ รวมถึงการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น จนเกิด ความยั่งยืน การดำเนินชีวิตแบบทางสายกลาง โดยตั้งอยู่บนหลักสำคัญสามประการ คือ ความพอประมาณ ความมี เหตุผล และการมีภูมิคุ้มกันที่ดี เพื่อช่วยในการทำงานการวางแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน การค้นคว้าหาความรู้ เพิ่มเติม ช่วยในเรื่องการใช้งบประมาณในการจัดทำโครงงาน การตัดสินใจเลือกซื้อเลือกใช้วัตถุดิบอย่างรอบคอบ 2.5.1 หลักการใช้ 3 ห่วง 2.5.1.1 ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบียนตนเอง และผู้อื่น เช่น การนำสารให้ความหวานอิริททอลที่มีราคาสูงมาใช้แทนน้ำตาลธรรมดา 2.5.1.2 ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกรทำนั้นๆอย่างรอบคอบ เช่น การใช้น้ำตาลอิริททอลเพื่อลดคอแลสตอรอลในน้ำตาลที่มีมาก
14 2.5.1.3 ระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับต่อผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงใน ด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม เพื่อให้สามารถปรับตัวและรับมือได้อย่าง ทันท่วงที เช่นใช้น้ำตาลอิริททอลเพื่อให้ร่างกาได้รับคอแลเตอรอลน้อยลง 2.5.2 หลักการใช้ 2 เงื่อนไข 2.5.2.1 เงื่อนไขความรู้ หมายถึง ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่างๆที่เกี่ยวข้อง และมีความรู้ใน การตัดสินใจได้ถูกต้อง ซึ่งสอดคล้องกับพุทธเศรษฐศาสตร์ที่เน้นการใช้ปัญญา เช่น การนำความรู้เกี่ยวกับประ โชยชน์ของเรื่องการเลือกรับประทานอาหารแบบคีโตเจนิคมาประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต 2.5.2.2 เงื่อนไขคุณธรรม หมายถึงการยึดหลักคุณธรรมเป็นแนวทาง มีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่โลภ รู้จักแบ่งปันให้ผู้อื่น มีความสามัคคี ดำเนินชีวิตด้วยความอดทน พากเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต ซึ่ง เป็นไปตามพุทธเศรษฐศาสตร์ เช่น การมีจุดประสงค์ ให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดีขึ้น ที่มา : [1]
15 บทที่ 3 วิธีการดำเนินงาน ในการศึกษาโครงงานเรื่อง ผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสูตรมาตรฐานของ เพื่อศึกษาสูตรมาตรฐานของ ผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต เพื่อศึกษาตวามพึงพอใจของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์ไข่ นกกระทาดองคีโต เพื่อเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต โดยผู้จัดทำโครงงานมีขั้นตอนและวิธีการ ดำเนินงาน ดังต่อไปนี้ 3.1 ระยะเวลาดำเนินงาน วันที่17 เดือน ตุลาคม พ.ศ.2565 ถึงวันที่ 17 เดือน กุมภาพันธ์พ.ศ.2566 3.2 สถานที่ดำเนินงาน ณ ห้อง K.3/1 แผนกอาหารและโภชนาการ วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงใหม่ 3.3 งบประมาณ เป็นเงิน 900 บาท วัสดุ อุปกรณ์ 1.) ค่าใช้จ่ายในการทำผลิตภัณฑ์และซื้ออุปกรณ์ต่างๆ เป็นเงิน 800 บาท 2.) คาใช้จ่ายในการจัดทำรายงาน เป็นเงิน 100 บาท 3.4 ขั้นตอนการดำเนินงาน ตารางที่ 3.1 ขั้นตอนการดำเนินงาน ครั้งที่ วัน เดือน ปี กิจกรรม/รายกาปฎิบัติงาน หมายเหตุ 1 2 3 4 5 6 7 18 ตุลาคม 2565 25 ตุลาคม 2565 1 พฤศจิกายน 2565 8 พฤศจิกายน 2565 15 พฤศจิกายน 2565 22 พฤศจิกายน 2565 29 พฤศจิกายน 2565 เสนอหัวข้อโครงงาน ทำโครงร่างโครงงาน ทำโครงร่างโครงงาน ส่งโครงร่างโครงงาน แก้โครงร่างโครงงาน ตรวจความเรียบร้อยของโครงงาน ส่งโครงร่างโครงงาน
16 3.5 การประเมินผลการดำเนินการ 3.5.1 วัตถุดิบ 1. ไข่นกกระทา 2. ซีอิ๊วโลโซเดียม 3. คิโคเมน 4. ซีอิ๊วขาว 5. น้ำเปล่า 6. สารให้ความหวานอิริททอล 7. กระเทียม 8. หัวหอม 9. พริก 3.5.2 อุปกรณ์ 1. ช้อน 2. ถ้วยตวง 3. เขียง 4. เครื่องชั่ง 5. หม้อ 6. เตาแก๊ส 7. ทัพพี 8 9 10 11 12 13 14 15 16 13 ธันวาคม 2565 20 ธันวาคม 2565 27 ธันวาคม 2565 3 มกราคม 2566 10 มกราคม 2566 17 มกราคม 2566 24 มกราคม 2566 31 มกราคม 2566 7 กุมภาพันธ์ 2566 ออกแบบโลโก้ และออกแบบฉลากสิงค้า เริ่มทำรูปเล่มรายงาน ทำรูปเล่มรายงาน ทำรูปเล่มรายงาน ทำรูปเล่มรายงาน ทำรูปเล่มรายงาน ตรวจความถูกต้องของรายงาน ทำผลิตภัณฑ์ และเตรียมบรรจุภัณฑ์ นำเสนอโครงงาน
17 8. เครื่องซีลสูญญากาศ 9. ถุงพลาสติก 10. กล่องทัปเปอร์แวร์ 11. มีด 12. อ่างผสม 3.6 การประเมินผลการดำเนินงาน 3.6.1 เครื่องมือ ที่ใช้ในการประเมินผลการดำเนินการ 3.6.1.1 ผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต 3.6.1.2 แบบทดสอบการให้คะแนนทางประสาทสัมผัส 3.6.1.3 อุปกรณ์สำหรับวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ 3.6.2 วีการเก็บรวบรวมข้อมูลการประเมินผลการดำเนินการ 3.6.2.1 สร้างสูตรมาตรฐานไข่นกกระทาดองคีโต ตารางที่ 3.2 ตารางแสดงปริมาณของส่วนผสมของไข่นกกระทาดอง ส่วนผสม สูตรที่ 1 (ร้อยละ) สูตรที่ 2 (ร้อยละ) สูตรที่ 2 (ร้อยละ) 1.ไข่นกกระทา 2.สารให้ควาหวานอิริทอล 3.ซีอิ๊วโลโซเดียม 4.คิโคเมน 5.ซีอิ๊วขาว 6.น้ำเปล่า 7.กระเทียม 8.พริกแดงจินดา 9.หัวหอม 41.1 6.85 20.55 - - 20.55 2.05 2.05 6.85 41.1 6.85 - 20.55 . 20.55 2.05 2.05 6.85 41.1 6.85 . . 20.55 20.55 2.05 2.05 6.85
18 วิธีทำ รูปภาพที่ 3.1 กระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต เตรียมและชั่งตวงส่วนผสม ทั้งหมดให้ครบถ้วน ต้มไข่นกกระทา 40 นาที ผสม ซีอิ๊วโลโซเดียม น้ำเปล่า สารให้ความหวานอิริททอล ใส่ใน หม้อตั้งไฟ ให้เดือด จนกว่าสาร ให้ความหวานอิริททอลละลายดี แล้วพักไว้ในเย็น ผสม ซีอิ๊วขาว น้ำเปล่า สารให้ ความหวานอิริททอล ใส่ในหม้อ ตั้งไฟ ให้เดือด จนกว่าสารให้ ความหวานอิริททอลละลายดี แล้วพักไว้ในเย็น ผสม คิโคเมน น้ำเปล่า สารให้ ความหวานอิริททอล ใส่ในหม้อ ตั้งไฟ ให้เดือด จนกว่าสารให้ ความหวานอิริททอลละลายดี แล้วพักไว้ในเย็น ลวกภาชนะสำหรับดองในน้ำเดือดจัด เพื่อฆ่าเชื้อ โรค แกะไข่นกกระทา ลวกด้วยน้ำร้อนอีกรอบ นำไข่แช่ลงในน้ำดองที่เย็นตัวลงแล้ว พร้อมกับใส่พริก หัวหอม และกระเทียม แช่ไข่ไว้ในตู้เย็นอุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียสนาน 2-3 สัปดาห์ น ำไข่นกกระทำที่ได้แล้วไปเข้ำเครื่องซีล สำมำรถเก็บไว้ในตู้เย็นช่องปกติได้ 3-4 สัปดำห์
19 3.6.2.2 สร้างแบบประเมินผลผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต ตาราง 3.3 แบบสอบถามความพึงพอใจผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต จากการทดลองไข่นกกระทาดองคีโต โดยการทดลองชิมและจัดเก็บ ผลิตภัณฑ์สูตรที่ทดลองแล้วได้ผลตอบ รับที่ดีที่สุดคือ สูตรที่ 1 ไข่นกกระทาดองคีโต มีรสชาติที่อร่อย มีความเค็มแต่ไม่เค็มโดดจนเกินไป หอมกลิ่นซีอิ๊ว และเครื่องเทศที่ใส่ลงไป ไข่แดงไม่เละ และ สีของไข่ขาวเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ ทำให้เป็นสูตรที่ดีที่สุดเนื่องจากได้รับ ความพึงพอใจมากที่สุด จากนักศึกษา ครูและบุคลากรทั่วไป ในการประเมิณคุณภาพและรสชาติ จำนวน 100 คน 3.6.2.3 สร้างแบบประเมินผลความพึงพอใจของผู้บริโภคต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทา ดองคีโตจากกการสอบถามผู้บริโภค 100 คน โดยการใช้การาอบถามผ่าน Google form ตาม QR code 8.32 8.5 8.27 8.32 8.34 8.16 8.08 7.88 7.32 8.08 7.32 7.46 7.97 7.5 6.42 6.26 5.58 5.64 5.76 6.42 5.92 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 สูตรที่ 1 สูตรที่ 2 สูตรที่ 3
20 3.6.2.4 เก็บรวบรวมแบบประเมินผลความพึงพอใจของผู้บริโภคต่อการพัมนา ผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต นำ ผลมาวิเคราะห์ข้อมูล และสรุปผลการประเมินผล โดยการวิเคราะห์ค่าเฉลี่ยเป็นร้อยละ 3.6.3 การวิเคราะห์ผลการประเมินผลการดำเนินการ 3.6.3.1 ตรวจสอบความสมบูรณ์ และความถูกต้องของแบบประเมินผล 3.6.3.2 วิเคราะห์ผลการประเมินโดยใช้วิธีการค่าร้อยละ และนำเสนอเป็นแบบตารางความเรียง ตารางที่ 3.4 แบบสำรวจเพศ ตาราง 3.5 แบบสำรวจอายุ 57 46 0 10 20 30 40 50 60 หญิง ชำย เพศ 16 53 22 9 0 10 20 30 40 50 60 16-18ปี 19-22ปี 23-25ปี 25ปีขึ้นไป อำยุ
21 การสำรวจเพศและอายุของผู้บริโภค พบว่า ผู้ตอบแบบสำรวจจำนวนร้อยละ 46 เป็นเพศชาย 54ง ผู้ตอบ แบบสำรวจจำนวนร้อยละ 16 มีอายุ16-18ปี ผู้ตอบแบบสำรวจจำนวนร้อยละ 53 มีอายุ 19-22ปี ผู้ตอบแบบ สำรวจร้อยละ 22 มีอายุ23-25 ปี และผู้ตอบแบบสำรวจร้อยละ 9 คน มีอายุ25ปีขึ้นไป ตาราง 3.6 แบบสำรวจพฤติกรรมการคุมน้ำหนักของผู้บริโภค ตาราง 3.7 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีอาการแพ้ไข่ 44 56 0 10 20 30 40 50 60 ใช่ ไม่ใช่ ท่านคุมน้้าหนัก ดูแลสุขภาพอยู่หรือไม่ 2 98 0 20 40 60 80 100 120 แพ้ ไม่แพ้ ผู้บริโภคมีอาการแพ้ไข่หรือไม่
22 ตาราง 3.8 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อ ตาราง 3.9 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เคยรับประทาไข่ดอง 15 30 27 28 0 5 10 15 20 25 30 35 เพื่อน ตนเอง โปรโมชั่น สื้อ/โฆษณำ สิ่งที่มีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อของผู้บริโภค 92 8 0 10 20 30 40 50 60 70 80 90 100 เคย ไม่เคย ท่านเคยรับประทานไข่ดองหรือไม่
23 ตาราง 3.10 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคทีรับประทานไข่ดองบ่อย ตาราง 3.11 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เลือกรับประทานไข่ดองตรงมื้อไหน 12 7 37 44 1 0 5 10 15 20 25 30 35 40 45 50 1-2 ครั้ง/สัปดำห์ 3-4 ครั้ง/สัปดำห์ 1-2 ครั้ง/เดือน 3-4 ครั้ง/เดือน ทุกวัน ท่ำนรับประทำนไข่ดองบ่อยครั้งเพียงใด 1 27 72 0 10 20 30 40 50 60 70 80 เช้ำ กลำงวัน เย็น ท่านรับประทานไข่ดองมื้อไหน
24 ตารางที่ 3.12 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคกับบรรจุภัณฑ์ ตารางที่ 3.13 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความสนใจต่อผลิตภัณฑ์ 44 30 26 0 5 10 15 20 25 30 35 40 45 50 ขวดแก้ว ถุงซีลพลำสติก กระป๋ อง บรรจุภัณฑ์ไข่ดองที่ท่านพบเห็นบ่อย 98 2 0 20 40 60 80 100 120 ต้องกำร ไม่ต้องกำร ท่านมีความต้องการที่จะซื้อหรือทดลองสินค้าของเราหรือไม่
25 ตารางที่ 3.14 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความสนใจต่อโลโก้ ตารางที่ 3.15 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เลือกซื้อไข่นกกระทาดองคีโต 63 38 1 0 10 20 30 40 50 60 70 น้อย ปำนกลำง มำก โลโก้ของเรามีผลต่อการเลือกซื้อของท่านมากเพียงใด 57 38 7 0 10 20 30 40 50 60 ชอบรับประทำน มีรำคำถูก รับประทำนเพรำะมีประโยชน์ เหตุผลที่เลือกซื้อไข่นกกระทาดองคีโต
26 ตารางที่ 3.16 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ไข่นกกระทาควรมีปริมาณเท่าไหร่ ตารางที่ 3.17 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เคยรับประทานไข่นกกระทาดองคีโต 12 28 42 19 0 5 10 15 20 25 30 35 40 45 50 กรัม 75 กรัม 100 กรัม 125 กรัม ท่านคิดว่าปริมาณไข่นกกระทาควรมีปริมาณเท่าใด 34 68 0 10 20 30 40 50 60 70 80 เคย ไม่เคย ท่านเคยรับประทานผลิตภัณฑ์ใกล้เคียงไข่นกกระทาดองคีโตหรือไม่
27 ตารางที่ 3.18 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เคยซื้ไข่ดองจากที่อื่น ตารางที่ 3.19 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ยอมรับไข่นกกระทาดองเป็นของทานเล่น 15 16 68 1 0 10 20 30 40 50 60 70 80 ห้ำงสรรพสินค้ำ ซื้อตำมท้องตลำด ซื้อผ่ำนทำงออนไลน์ อื่นๆ ท่านเคยซื้อไข่ดองจากที่ใดเป็นส่วนใหญ่ 98 2 0 20 40 60 80 100 120 ยอมรับ ไม่ยอมรับ หากน้าไข่นกกระทาดองคีโตเป็นของทานเล่นท่านจะยอมรับหรือไม่
28 ตารางที่ 3.20 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีต่อราคาของไข่นกกระทาดองคีโต ตารางที่ 3.21 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคมีความรู้เกี่ยวกับสารให้ความหวานอิริทอลหรือไม่ 62 24 10 4 0 10 20 30 40 50 60 70 59 บำท 69 บำท 79 บำท 89 บำท หากมีผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโตบรรจุพร้อมรับประทานวางขาย ราคาที่ท่าน ต้องการจับต้องได้อยู่ในราคาประมาณเท่าใด 60 40 0 10 20 30 40 50 60 70 ทรำบ ไม่ทรำบ ท่านทราบประโยชน์ของสารให้ความหวานอิริททอลหรือไม่
29 ตารางที่ 3.22 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคมีความคิดเห็นอย่างไรต่อผลิตภัณฑ์ ตารางที่ 3.23 แบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่จะพิจารณาในการซื้อไข่นกกระทาดองคีโต 31 28 26 15 0 5 10 15 20 25 30 35 ท่ำนมีควำมคิดเห็นอย่ำงไรต่อผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทำดองคีโต 61 38 1 0 10 20 30 40 50 60 70 ซื้อ ไม่ซื้อ พิจำรณำก่อน หำกมีผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทำดองคีโตวำงขำย ท่ำนสนใจหรือไม่
30 รูปภาพที่ 3.3 ผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต จากการสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคพบว่า ผู้บริโภคคุมน้ำหนัก / ดูแลสุขภาพร้อยละ 44 ผู้บริโภคมี อาการแพ้ไข่ไก่ร้อยละ 2 สิ่งที่มีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อของผู้บริโภคเป็นตนเองร้อยละ 30 ผู้บริโภคเคยรับประทาน ไข่ดองร้อยละ 92 ผู้บริโภครับประทานไข่ดองบ่อยครั้งสูงสุดพบว่า รับประทาน 3-4 ครั้งต่อเดือนร้อยละ 44 ผู้บริโภครับประทานไข่ดองมื้อสูงสุดพบว่า มื้อเย็นร้อยละ 72 บรรจุภัณฑ์ที่ผู้บริโภคพบเห็นบ่อยสูงสุดพบว่า ขวด แก้วร้อยละ ผู้บริโภคมีความต้องการที่จะซื้อหรือทดลองสินค้าร้อยละ 98 โลโก้ของเรามีผลต่อการเลือกซื้อของ ผู้บริโภคร้อยละ 1 เหตุผลที่เลือกซื้อไข่นกกระทาดองคีโตสูงสุด พบว่าชอบรับประทานร้อยละ 57 ปริมาณในการ รับประทานไข่นกกระทาดองคีโตสูงสุด พบว่าทานปริมาณ 100 กรัมร้อยละ 42 ผู้บริโภครับประทานไข่นกกระทา ดองคีโต หรือผลิตภัณฑ์ใกล้เคียงสูงสุด พบว่าไม่เคยทานร้อยละ 68 สถานที่ที่ผู้บริโภคซื้อสูงสุด พบว่าเป็นซื้อทาง ออนไลน์ ร้อยละ 68 ความคิดเห็นถ้านำไข่นกกระทาดองคีโตมาเป็นของทานเล่นสูงสุด พบว่ายอมรับ ร้อยละ 98 หากมีผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโตบรรจุพร้อมรับประทาน วางขายราคาที่ผู้บริโภคจับต้องได้สูงสุด พบว่าใน ราคา 59 บาทร้อยละ 62 ประโยชน์ของน้ำตาลอิริททอลที่ผู้บริโภคทราบสูงสุด พบว่าร้อยละ 61 ความคิดเห็นที่ ผู้บริโภคมีต่อผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโตสูงสุด พบว่าเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่น่าลอง ร้อยละ 33 ผู้บริโภคสนใจซื้อ ผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโตสูงสุด พบว่า สนใจซื้อร้อยละ 61 3.6.4 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ผลการประเมินผลการดำเนินการ 3.6.4.1 ค่าร้อยละ สูตรการหาค่าร้อยละ 100 ×= จำนวนเต็ม 3.6.4.2 ค่าเฉลี่ย สูตรการหาค่าเฉลี่ย ค่าเฉลี่ย = ข้อมูลทั้งหมด จำนวนของข้อมูล
31 บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน / ผลการศึกษา จากการศึกษาโครงงานเรื่อง ผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสูตรมาตรฐานของ ไข่นกกระทาดองคีโต เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต และเพื่อเป็นการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต โดยผู้จัดทำโครงงานมีผลกำดำเนินงานและวิเคราะห์ข้อมูลดังต่อไปนี้ 4.1 ผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต ผลการศึกษาสูตรมาตรฐานของ ผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต ซีอิ๊วขาวร้อยละ 20.55 ไข่นกกระทาร้อย ละ 41.10 สารให้ความหวานอิริทอลร้อยละ 6.85 น้ำเปล่าร้อยละ 20.55 หัวหอมร้อยละ 6.85 กระเทียมร้อยละ 2.05พริกแดงจินดาร้อยละ 2.05 คือสูตรมาตรฐานที่ 1 ที่ได้รับความพึงพอใจมากที่สุด 4.2 ผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต คัดเลือกสูตรมาตรฐานและวิธีการผลิตผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต ผลการคัดเลือกสูตร มาตรฐานของกระบวนการผลิตเหมาะสมจำนวน 3 สูตร โดยใช้สูตรที่มีปริมาณของ ซอสที่แตกต่างกัน สูตรที่ 1 ใช้ ซีอิ๊วขาวตราเด็กสมบูณร์ร้อยละ 20.547 สูตรที่ 2 ใช้ซีอิ๊วขาวแบบโลวโซเดียมร้อยละ 20.547 สูตรที่ 3 ใช้ติโคแมน ร้อยละ 20.547 ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้บริโภคผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต สูตร ด้วยการทดลอง การยอมรับทางประสาทสัมผัส (9 Point Hedonic Scale Test) ทางด้าน ลักษณะปรากฏ สี กลิ่น รสชาติ ความ เด้งของไข่ขาว ความเนียบนนุ่มของไข่แดง ความเค็มของน้ำดอง ความหวาน ความเผ็ด โดยใช้ผู้ทดสอบ จำนวน 100 คน พบว่า ผู้บริโภคให้การยอมรับผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต สูตรที่ 1 ใช้ซีอิ๊วขาวตราเด็ก สมบูรณ์ร้อยบละ 20.547 รายงานผลดังตารางที่ 4.1
32 ตารางที่ 4.1 ผลการสำรวจความพึงพอใจของผู้บริโภคต่อสูตรมาตรฐาน 3 สูตร รายการ สูตรที่ 1 สูตรที่ 2 สูตรที่ 3 1. สี 2. กลิ่น 3. ความเด้งของไข่ขาว 4. ความเนียนของไข่แดง 5. ความเค็ม 6. ควาหมวาน 7. ความเผ็ด 8.32 8.5 8.27 8.32 8.34 8.16 8.08 7.88 7.32 80.8 7.32 7.46 7.97 7.5 6.42 6.26 5.58 5.64 5.76 6.42 5.92 รวม 57.99 53.53 42 4.3 ผลการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต ผลการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโตจากผู้บริโภค 100 คน ส่วนที่ 1 แบบสำรวจข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม คือกลุ่มนักเรียน นักศึกษา บุคคลทั่วไป จำนวน 100 คน เป็นแบบสอบถามประเภทเลือกตอบ โดยการหาค่าเฉลี่ยร้อยละ และนำเสนอในรูปตารางประกอบความเรียงได้แก่ เพศ และอายุ รายงานผลดังแสดงในตาราง 4.2 ตารางที่ 4.2 แสดงจำนวนและร้อยละ ของผู้ตอบแบบสอบถาม รายการ จำนวน (คน) ร้อยละ 1. เพศ ชาย หญิง 50 50 50.00 50.00 รวม 100 100 2. อายุ 16-18 ปี 19-22 ปี 23-25 ปี 25 ปีขึ้นไป 16 53 22 9 16.00 53.00 22.00 9.00 รวม 100 100
33 ส่วนที่ 2 ข้อมูลเชิงพฤติกรรมของผู้ตอบแบบสอบถาม ข้อมูลเชิงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ตอบแบบสอบถาม เป็นข้อมูลที่ดำเนินการสำรวจเพื่อนำไปใช้เกี่ยวกับ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต รายงานสำรวจได้ดังแสดงตารางที่ 4.3 ตารางที่ 4.3 ผลการสำรวจข้อมูลพฤติกรรมของผู้ตอบแบบสอบถาม ข้อมูลเชิงพฤติกรรมผู้ตอบแบบสอบถาม ความถี่ ร้อยละ 3. ท่านคุมน้ำหนัก/ ดูแลสุขภาพอยู่หรือไม่ ใช่ ไม่ใช่ 44 56 44.00 56.00 รวม 100 100.00 4. ท่านมีอาการแพ้ไข่หรือไม่ แพ้ ไม่แพ้ 2 98 2.00 98.00 รวม 100 100.00 5. อิทธิพลต่อการเลือกซื้อของผู้บริโภค เพื่อน ตนเอง โปรโมชั่น สื่อโฆษณา 15 30 27 28 15.00 30.00 27.00 28.00 รวม 100 100.00 6.ท่านเคยรับประทานไข่ดองหรือไม่ เคย ไม่เคย 92 8 92.00 8.00 รวม 100 100.00 7. ท่านรับประทานไข่ดองบ่อยครั้งเพียงใด 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ 3-4 ครั้ง/สัปดาห์ 1-2 ครั้ง/เดือน 3-4 ครั้ง/เดือน 12 7 37 44 12.00 7.00 37.00 44.00 รวม 100 100.00
34 ตารางที่ 4.3 ผลการสำรวจข้อมูลพฤติกรรมของผู้ตอบแบบสอบถาม (ต่อ) ข้อมูลเชิงพฤติกรรมผู้ตอบแบบสอบถาม ความถี่ ร้อยละ 8. ท่านรับประทานไข่ดองมื้อไหน เช้า กลางวัน เย็น 1 27 72 1.00 27.00 72.00 รวม 100 100.00 9. บรรจุภัณฑ์ไข่ดองที่ท่านพบเห็นบ่อยๆ ขวดแก้ว ถุงซีลพลาสติก กระป๋อง 44 30 26 44.00 30.00 26.00 รวม 100 100.00 10. ท่านมีความต้องการที่จะซื้อหรือทดลองสินค้า ของเราหรือไม่ ต้องการ ไม่ต้องการ 98 2 98.00 2.00 รวม 100 100.00 11. โลโก้ของเรามีผลต่อการเลือกซื้อของท่านมาก เพียงใด น้อย ปานกลาง มาก 63 38 1 63.00 38.00 1.00 รวม 100 100.00 12. เหตุผลที่เลือกซื้อไข่นกกระทาดองคีโต ชอบรับประทาน มีราคาถูก รับประทานเพราะมีประโยชน์ 57 38 7 57.00 38.00 7.00 รวม 100 100.00
35 ตารางที่ 4.3 ผลการสำรวจข้อมูลพฤติกรรมของผู้ตอบแบบสอบถาม (ต่อ) ข้อมูลเชิงพฤติกรรมผู้ตอบแบบสอบถาม ความถี่ ร้อยละ 13. ท่านคิดว่าปริมาณไข่นกกระทาดองคีโต ควรมีปริมาณ เท่าใด 50 กรัม 75 กรัม 100 กรัม 125 กรัม 12 28 42 19 12.00 28.00 42.00 19.00 รวม 100 100.00 14.ท่านเคยรับประทานผลิตภัณฑ์ใกล้เคียงไข่นกระทาดองคีดต หรือไม่ เคย ไม่เคย 34 68 34.00 68.00 รวม 100 100.00 15.ท่านเคยซื้อไข่ดองจากที่ใดเป็นส่วนใหญ่ ห้างสรรพสินค้า ซื้อตามท้องตลาด ซื้อผ่านทางออนไลน์ อื่นๆ 16 16 68 1 16.00 16.00 68.00 1.00 รวม 100 100.00 16.หากนำไข่นกกระทามาเป็นของทานเล่นท่าจะยอมรับหรือไม่ ยอมรับ ไม่ยอมรับ 98 2 98.00 2.00 รวม 100 100.00 17.หากมีผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโตวางจำหน่าย ราคาที่ ท่าต้องการอยู่ในราคาใด 59 บาท 69 บาท 79 บาท 89 บาท 62 24 10 4 62.00 24.00 10.00 4.00
36 รวม 100 100.00 ตารางที่ 4.3 ผลการสำรวจข้อมูลพฤติกรรมของผู้ตอบแบบสอบถาม (ต่อ) 13. ท่านทราบประโยชน์ของสารให้ความหวานอิริทริทอล หรือไม่ ทราบ ไม่ทราบ 60 40 60.00 40.00 รวม 100 100 14. ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรต่อผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคี โต ผลิตภัณฑ์ใหม่น่าลอง ผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าทางโภชนาการ ผลิตภัณฑ์ทางเลือก ผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพ 31 28 26 15 31.00 28.00 26.00 15.00 รวม 100 100.00 20.หากมีผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโตวางขาย ท่านสนใจที่ จะซื้อหรือไม่ ซื้อ ไม่ซื้อ พิจารราก่อน 61 38 1 61.00 38.00 1.00 รวม 100 100.00
37 บทที่ 5 สรุปผลและอภิปรายผลการดำเนินงาน การศึกษาโครงงานเรื่อง ผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสุตรมาตรฐานของ ผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโตเพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต และ เพื่อเป้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโตสามารถสรุปผลการดำเนินการได้ดังนี้ 5.1 สรุปผลการดำเนินงาน ผลการศึกษาสูตรมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต 3 สูตรมีความต่างกันที่รสชาติของซอสโดย ใช้ในปริมาณที่เท่ากัน สูตรที่ 1 ใช้ซีอิ๊วขาวตราเด็กสมบูณร์ร้อยละ 20.547 สูตรที่ 2 ใช้ซีอิ๊วขาวโลโซเดียมร้อยละ 20.547 สูตรที่ 3 ใช้คิโคแมนร้อยละ 20.547 ผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทา ดองคีโตคัดเลือกสูตรมาตรฐานผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต ด้วยการทดสอบการยอมรับทางประสาทสัมผัส ( 9 point Hedonic Scale Test) โดยผู้ทดสอบ จำนวน 100 คน พบว่า ผุ้บริโภคให้การยอมรับผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทา ดองคีโต สูตรที่ 1 ใช้ ซีอิ๊วขาวตราเด็กสมบูรณ์ ร้อยละ 20.547 ผลการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต โดย สอบถามการบริโภคการรับประทานไข่นกกระทาดองคีโต ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคดูแลสุขภาพร้อยละ 44 รับประทานไข่นกกระทาดองบางครั้งร้อยละ 44 และยอมรับในผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต ร้อยละ 61 5.2 ประโยชน์ทีได้รับ 5.2.1 ได้สูตรมารตฐารของผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต 5.2.2 ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโต 5.2.3 เป็นแนวทางการศึกษาพัฒนาผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาดองคีโตเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่รับประทาน อาหารแบบคีโต เจนิค 5.3 ปัญหาและอุปสรรค การต้มไข่ที่นานเกินไป ไข่จะเกิดสีเขียวเทา (greenish-gray) ที่ผิวนอกของไข่แดง เนื่องจากมีการเกาะตัว รวมกันของซัลเฟอร์หรือกำมะถันที่มาจากกรดแอมิโนซิสเตอีนและเมไทโอนีนในไข่ขาวกับเหล็กไอออนที่อยู่ในไข่ แดงได้เป็นเฟอรัสซัลไฟด์ (ferrous sulfide) อยู่รอบๆ ไข่แดง 5.4 ข้อเสนอแนะ ควรศึกษาประโยชน์ ส่วนผสมของตัวผลิตภัณฑ์ให้มากกว่านี้ ควรศึกษาระยะการดองของไข่นกกระทาดอง ให้แน่ชัด
บรรณานุกรม [1] “การบูรณาการกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” (ออนไลน์)สืบค้นจาก: https://sites.google.com/site/krathangtnmi/ka-rbu-rna-kar-kab-hlak-prachya-khxngsersthkic-phx-pheiyng (สืบค้นวันที่ 20 ธันวาคม 2565) [2] “ไข่นกกระทา – คลังทรัพยากรการศึกษาแบบเปิด (ออนไลน์)สืบค้นจาก https://oer.learn.in.th/search_detail/result/269319 (สืบค้นวันที่ 20 ธันวาคม 2565) [3] “การกินแบบ Ketogenic - อนามัยมีเดีย” (ออนไลน์)สืบค้นจาก: https://multimedia.anamai.moph.go.th/help-knowledgs/ketogenic-diet/ (สืบค้นวันที่ 29 ธันวาคม 2565) [4] “กินคีโตลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี - จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” https://www.chula.ac.th/highlight/67885/ (สืบค้นวันที่ 29 ธันวาคม 2565 [5] “ไข่นกระทา- วิกิพีเดีย” (ออนไลน์)สืบค้นจาก: https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8 %81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B2 (สืบค้นวันที่ 29 ธันวาคม 2565) [6] “ซีอิ๊วขาว” (ออนไลน์) สืบค้นจาก https://www.goldenmountainsauce.com/product-detail.php?id=61 (สืบค้นวันที่ 3 มกราคม 2565) [7] “ประโยชน์ของพริก Archives - มติชนอคาเดมี่” (ออนไลน์)สืบค้นจาก: https://www.matichonacademy.com/tag/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9 %82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87 %E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81 (สืบค้นวันที่ 3 มกราคม 2565) [8] “รู้จัก 10 ประโยชน์ของกระเทียม สรรพคุณทางยา และข้อควรระวัง” (ออนไลน์)สืบค้นจาก: https://www.thairath.co.th/lifestyle/health- and-beauty/2011805 (สืบค้นวันที่ 3 มกราคม 2565)
บรรณานุกรม (ต่อ) [9] “ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ของหอมหัวใหญ่ - Thai Chef” (ออนไลน์)สืบค้นจาก: http://www.thaichef.in.th/mobile/article_herbdetail.php?aid=22 (สืบค้นวันที่ 3 มกราคม 2565) [10] “อิริทริทอล สารให้ความหวานกับเรื่องที่ควรรู้ก่อนรับประทาน - Pobpad” (ออนไลน์)สืบค้นจาก: https://www.pobpad.com/%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8 %97%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%B2 %E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0 %B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%A7 (สืบค้นวันที่ 3 มกราคม 2565) [11] “ถุงสูญญากาศแบบเรียบ และแบบนูน มีคุณสมบัติแตกต่างกันอย่างไร ?”(ออนไลน์)สืบค้นจาก: https://packingdd.com/blogs/news/%E0%B8%96%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%AA %E0%B8%B9%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0 %B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8 %9%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%99% E0%B8%B9%E0%B8%99- %E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0 %B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8 %95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AD %E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3 (สืบค้นวันที่ 25 มกราคม 2565) [12] “เครื่องซีลสูญญากาศ คืออะไร มีกี่ประเภท? - knpacking” (ออนไลน์)สืบค้นจาก: https://www.shopat24.com/blog/home-garden/what-are-the-benefits-of-a-vacuumsealer/ (สืบค้นวันที่ 25 มกราคม 2565) [13] “ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความตั้งใจในการเลือกซื้ออาหาร - ThaiJO” (ออนไลน์)สืบค้นจาก: http://digital_collect.lib.buu.ac.th/dcms/files/58750045.pdf (สืบค้นวันที่ 25 มกราคม 2565)