สัตว์ในวรรณคดีไทย
นางสาวสิริรัตน์ สละบาป รหัส 013 สาขาวิชาภาษาไทย
คำนำ
หนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมสัตว์ในวรรณคดีไทยมาให้ผู้อ่านได้ชมอย่าง
หลากหลาย ซึ่งเป็นสัตว์ที่เกิดจากจินตนาการของผูกวีไทยผู้แต่งวรรณคดี
หรือบางตัวอาจจะมาจากความเชื่อของคนโบราณว่าสัตว์ชนิดนี้มีอยู่จริง
เช่น พญานาค ครุฑ เป็นต้น ซึ่งผู้จัดทำหวังเป็นอย่างงยิ่งว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็น
ประโยชน์แก่นักเรียน นักศึกษา คุณครู อาจารย์ และผู้ที่มีความสนใจในเรื่องนี้
สืบไป
สิริรัตน์ สละบาป
ผู้จัดทำ
กิเลน
กิเลนเป็นสัตว์หิมพานต์ที่ได้รับมาจาก ประเทศจีน เช่นเดียวกับสัตว์หลายชนิดในจีน กิเลนตัวผู้กับตัวเมีย
มีชื่อเรียก ไม่เหมือนกัน ตัวผู้มีชื่อเรียกว่า “กิ” ส่วนตัวเมียเรียกว่า “เลน” โดยทั่วไปเรียกโดยรวมว่า กิเลน
ในตำนานจีน กิเลนมีหัวเป็นมังกร มีเขาเดียว (เขาแบบกวาง) มีร่างกายแบบกวาง แต่ผิวปกคลุมไปด้วยเกล็ด
หางเหมือนหางวัว และมีกีบเหมือนม้า สัตว์วิเศษนี้ประกอบไปด้วบเบญจธาตุ ดิน น้ำ ไฟ ไม้ และ โลหะ กล่าวกันว่า
กิเลนมีชีวิตยืนยาวหลายพันปี บางตำนานก็กล่าวว่า ตัวผู้เท่านั้นที่มีเขา บ้างก็ว่ามีหลายเขา แทนที่จะเป็นเขาเดี่ยว
กิเลนเป็นสัตว์นำโชค และเป็นหนึ่งในสี่ สัตว์วิเศษของจีน สัตว์วิเศษอีก 3 ชนิดของจีนคือ นกหงส์ มังกร และ เต่า
ตำนานเกี่ยวกับสัตว์ชนิดนี้มีอยู่ในประเทศอื่นด้วยเช่น ประเทศญี่ปุ่น และ เกาหลี ในญี่ปุ่น เรียกสัตว์ชนิดนี้ว่า
คิริน คือม้าเขาเดี่ยวของญี่ปุ่น เป็นสัตว์เทวะที่ปราบปรามความชั่ว คอยปกป้องคนดี และมอบความโชคดีให้กับ
คนเหล่านั้น การได้เห็นคิริน นับว่าเป็นโชคอย่างมหาศาล ในไทยเองก็มีรูปกิเลนตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3
และมีรูปลักษณ์ต่างออกไป โดยมี 3 แบบคือ กิเลนจีน กิเลนไทย และ กิเลนปีก
มารีศ
มารีศ เป็นหนึ่งในตัวละครยักษ์ในเรื่อง รามายนะ (รามเกียรติ์). มารีศเป็นบุตรของ
นางยักษ์ชื่อ กากนาสูร และเป็นญาติของทศกัณฑ์ (ตัวร้ายหลักของเรื่อง) ในเรื่อง ทศกัณฑ์
ต้องการจับตัวนางสีดา จึงสั่งให้มารีศให้จำแลงกาย เป็นกวางทองไปล่อนาง แผนนี้เกือบ
สำเร็จลุล่วง แต่ท้ายที่สุด มารีศก็โดนพระรามแผลงศรใส่ ในรูปวาดมารีศจึงเป็นรูปสัตว์
ประหลาด กึ่งยักษ์กึ่งกวาง
พานรมฤค
พานรมฤคมีร่างท่อนบนเป็นลิงและมีกายท่อนล่างเป็นกวาง สัตว์นี้มีคุณสมบัติ
ความคล่องตัวเหมือนกวาง แต่สามารถที่จะใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่การทำงานของมือ
สำหรับโลภวัตถุ Panorn Marueks ยังมีความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมของการได้ยินเป็นลักษณะ
จากลิง เหมือนลิง Panorn Marueks ต้องการผลไม้เช่นกล้วยและมะพร้าวเพื่อหญ้า
เขียนในตำนานหิมพานต์ที่ Panorn Marueks โดยทั่วไปมีร่างกายสีเขียว
อัปสรสีหะ
อัปสรสีหะ เป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์กวาง พวกเขามีความอุดมสมบูรณ์
ในป่าหิมพานต์ บางครั้งสิ่งมีชีวิตที่จะแสดงเป็นมนุษย์ที่มีร่างกายส่วนล่าง
ของสิงโต
สิงห์
นับได้ว่าสัตว์ในป่าหิมพานต์ส่วนใหญ่จัดอยู่ในหมวดสิงห์ คงเป็นเพราะสิงห์เป็นสัตว์ที่
ดูสง่า และน่าเกรงขาม สิงห์ในตำนานหิมพานต์สามารถจำแนกออกได้เป็น 2 ชนิดหลัก ๆ
คือ ราชสีห์ และ สิงห์ผสม ราชสีห์เป็นสัตว์ที่มีพละกำลังสูง ราชสีห์มีอยู่ด้วยกัน 4 ชนิดคือ
บัณฑุราชสีห์ กาฬสีหะ ไกรสรราชสีห์ และ ติณสีหะ ส่วนสิงห์ผสมนั้นมีอยู่มากมาย โดย
ปกติสิงห์ผสมคือสัตว์ประสมที่มีลักษณะของ ราชสีห์กับสัตว์ประเภทอื่น
พญานาค
พญานาคหรืองูกษัตริย์เป็น srpent เหมือนสิ่งมีชีวิตที่มีเคราและสวมมงกุฎแหลม
ในข้อความเก่านาคเป็นพี่ชายของครุฑ ฐานในตำนานทั้งสองมีพ่อเดียวกันและแม่ของพวกเขา
เป็นน้องสาว พญานาคเป็นศัตรูของครุฑเนื่องจากความขัดแย้งแม่ของพวกเขา พญานาคมักจะพบ
ในงานสถาปัตยกรรมไทยและก็มักจะเป็นภาพที่ให้ความสะดวกสบายและเงากับพระพุทธรูป
นั่งสมาธิขดลวดของงูการแสดงที่ยอดเยี่ยมเช่นเบาะในขณะที่หัวหลายทำงานเป็นร่ม
ครุฑ
ครุฑ ป็นสัตว์กึ่งเทพในปกรณัมอินเดียและปรากฏในวรรณคดีสำคัญหลายเรื่อง เช่น มหา
กาพย์ มหาภารตะ เล่าว่า ครุฑเป็นพี่น้องกับนาคและทะเลาะกันจนเป็นศัตรู นอกจากนี้ ยังมี
คัมภีร์ ปุราณะที่ชื่อว่า ครุฑปุราณะ เป็นเรื่องเล่าพญาครุฑ
ตามคติไทยโบราณ เชื่อว่าครุฑเป็นพญาแห่งนก และเป็นพาหนะของพระนารายณ์ ปกติ
อาศัยอยู่ที่วิมานฉิมพลี มีรูปเป็นครึ่งคนครึ่งนกอินทรี ได้รับพรให้เป็นอมตะ ไม่มีอาวุธใดทำลาย
ลงได้ แม้กระทั่งสายฟ้าของ พระอินทร์ ก็ได้แต่เพียงทำให้ขนของครุฑหลุดร่วงลงมาเพียงเส้นหนึ่ง
เท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ครุฑจึงมีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า "สุบรรณ" ซึ่งหมายถึง "ขนวิเศษ"
ครุฑ
ครุฑ ป็นสัตว์กึ่งเทพในปกรณัมอินเดียและปรากฏในวรรณคดีสำคัญหลายเรื่อง เช่น มหา
กาพย์ มหาภารตะ เล่าว่า ครุฑเป็นพี่น้องกับนาคและทะเลาะกันจนเป็นศัตรู นอกจากนี้ ยังมี
คัมภีร์ ปุราณะที่ชื่อว่า ครุฑปุราณะ เป็นเรื่องเล่าพญาครุฑ
ตามคติไทยโบราณ เชื่อว่าครุฑเป็นพญาแห่งนก และเป็นพาหนะของพระนารายณ์ ปกติ
อาศัยอยู่ที่วิมานฉิมพลี มีรูปเป็นครึ่งคนครึ่งนกอินทรี ได้รับพรให้เป็นอมตะ ไม่มีอาวุธใดทำลาย
ลงได้ แม้กระทั่งสายฟ้าของ พระอินทร์ ก็ได้แต่เพียงทำให้ขนของครุฑหลุดร่วงลงมาเพียงเส้นหนึ่ง
เท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ครุฑจึงมีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า "สุบรรณ" ซึ่งหมายถึง "ขนวิเศษ"
ฑิชากรจตุบท
ฑิชากรจตุบทเป็นสิงห์ที่มีลักษณะของนก คำว่า จตุบท มาจากคำว่าจตุ
ซึ่งแปลว่า 4 และ คำว่า บท มาจากคำว่า บาท ซึ่งหมายถึง เท้าส่วนคำว่าฑิชากร
แปลว่านก ในตำราบรรยายว่า สัตว์ชนิดนี้มีกายสีเขียวอ่อน ส่วนหางมีสีเหลือง
ฑิชากรจตุบท
ฑิชากรจตุบทเป็นสิงห์ที่มีลักษณะของนก คำว่า จตุบท มาจากคำว่าจตุ
ซึ่งแปลว่า 4 และ คำว่า บท มาจากคำว่า บาท ซึ่งหมายถึง เท้าส่วนคำว่าฑิชากร
แปลว่านก ในตำราบรรยายว่า สัตว์ชนิดนี้มีกายสีเขียวอ่อน ส่วนหางมีสีเหลือง
ม้านิลมังกร
ม้านิลมังกร สัตว์ประหลาดในวรรณคดีไทยเรื่องพระอภัยมณี ตามจินตนาการของสุนทรภู่ เป็น
พาหนะของสุดสาคร โดยสุนทรภู่ได้รจนาถึงลักษณะของม้านิลมังกรไว้ว่า
"พระนักสิทธิ์พิศดูเป็นครู่พัก หัวร่อคักรูปร่างมันช่างขัน
เมื่อตัวเดียวเจียวกลายเป็นหลายพันธุ์ กำลังมันมากนักเหมือนยักษ์มาร
กินคนผู้ปูปลาหญ้าใบไม้ มันทำได้หลายเล่ห์อ้ายเดรฉาน
เขี้ยวเป็นเพชรเกล็ดเป็นนิลลิ้นเป็นปาน ถึงเอาขวานฟันฟาดไม่ขาดรอน
เจ้าได้ม้าพาหนะตัวนี้ไว้ จะพ้นภัยภิญโญสโมสร
ให้ชื่อว่าม้านิลมังกร จงถาวรพูนสวัสดิ์แก่นัดดา"
ลักษณะของม้านิลมังกร ตัวเป็นม้าหัวเป็น มังกร หางเหมือน นาค ลำตัวเป็นเกล็ดสีดำแวววาว
เหมือนดั่งชื่อ กินอาหารได้หลายอย่างดั่งคำกลอน จึงเชื่อว่าสุนทรภู่จินตนาการมาจากกิเลนของ
จีน ก็เป็นได้ เพราะไม่ปรากฏสัตว์ลักษณะเช่นนี้ในความเชื่อหรือวรรณคดีเรื่องใดของไทยมาก่อน
อีกทั้งตัวละครและสถานที่ต่าง ๆ ในเรื่อง ก็มีที่มาจากหลายภาคส่วนของแต่ละประเทศอีกด้วย
มักกะลีผล หรือนารีผล
นารีผล หรือมักกะลีผล หรือมัคคะลีผล เป็นพืชวิเศษชนิดหนึ่ง เกิดอยู่ในป่าหิมพานต์ ว่ากันว่า
นารีผล ขั้วลูกอยู่ด้านบนศีรษะ มีรูปร่างเป็นหญิง ผลสด รูปร่างสะโอดสะอง สมส่วน ผิวพรรณงดงาม
ปานเทพธิดา
ว่ากันว่า บางครั้ง ฤๅษีที่บำเพ็ญเพียรจนตบะกล้า กิเลสสงบรำงับ เพื่อจะทดสอบจิตตน ก็จะเหาะ
ไปที่ต้นนารีผล มองดูนารีผล ว่าตนจะตบะแตกหรือไม่... หรือบางครั้งฤๅษีผู้เป็นอาจารย์ อาจจะพาลูก
ศิษย์ไปทดสอบระดับจิต ไปฝึกควบคุมจิต ที่นั่น ก็มี และว่ากันว่า พวกนักสิทธิ์วิทยาธร มักจะเหาะไปเก็บ
นารีผล อุ้มมาเชยชมแล้ว ฝึกจิตใหม่ ค่อยเหาะกลับออกมา นารีผล เป็นที่ต้องการของสัตว์วิเศษ
(คนธรรพ์เป็นต้น) รวมถึงวิทยาธรทั้งหลายผู้ยังไม่หมดกามราคะ ดังนั้น การที่นารีผลจะเหี่ยวแห้งคาต้น
แล้วร่วงหล่นนั้น เป็นไปได้ยาก ก่อนจะโรยรา จะมีเทวดา สัตว์วิเศษ และวิทยาธร เป็นต้นมาเก็บเอาไป
บรรณานุกรม
paidusud.(2564). สัตว์ในวรรณคดีไทย.(ออนไลน์). สืบค้นเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2565,
เข้าถึงได้จาก: https://paidusud.com
นรินทร์โชติ อาจารีพิพัฒน์.(มปป). สัตว์ในวรรณคดีไทย.(ออนไลน์). สืบค้นเมื่อ
7 กุมภาพันธ์ 2565, เข้าถึงได้จาก: https://paidusud.com