ประวัติของศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน อุดรธานี ประวัติความเป็นมาของศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน อุดรธานี ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน เริ่มก่อต้งัข้ึน โดยมีวตัถุประสงคเ์พอื่เป็นจุดศูนยร์วมการอนุรักษศ์ิลปะ วฒันธรรม วถิีบรรพชนและหลกัปรัชญาของพนี่อ้งชาวไทยเช้ือสายจีนในจงัหวดัอุดรธานีโดยเริ่มมีแนวคิดการ จัดสร้างในสมัยคณะกรรมการศาลเจ้าปู่-ยา่สมยัที่58และไดเ้ริ่มรวบรวมกา ลงัทรัพยจ์ากผมู้ีจิตศรัทธาเพอื่ซ้ือ ที่ดินบริเวณดา้นหนา้ทางเขา้ศาลเจา้ดา้นทิศตะวนัออก ซ่ึงเป็นโรงน้า แขง็เก่าราคา 15,500,000 บาท ท าการ ออกแบบก่อสร้างและทา พธิีวางศิลาฤกษ์เมื่อวนัที่4 สิงหาคม 2552และท าพธิีเปิดอยา่งเป็นทางการเมื่อวนัที่6 มกราคม 2556 โดยมีร้อยเอกหญิง ดร.พระเจา้หลานเธอ พระองคเ์จา้พชัรกิติยาภา ทรงเสด็จเป็นองคป์ระธานท้งั 2คร้ัง และดว้ยสา นึกในพระมหากรุณาธิคุณน้ีมูลนิธิศาลเจา้ปู่-ยา่อุดรธานีจึงไดส้ร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติ พระองคข์้ึน เพอื่เก็บรวบรวมขอ้มูลส่วนพระองค์และพระราชกรณียกิจในขณะทรงดา รงตา แหน่งอยัการจงัหวดั อุดรธานีภายในศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน มูลนิธิศาลเจ้าปู่-ยา่อุดรธานีถูกออกแบบเป็นกลุ่มอาคาร ประกอบดว้ย อาคารเฉลิมพระเกียรติพระเจา้หลานเธอพระองคเ์จา้พชัรกิติยาภาอาคารพิพิธภัณฑ์คุณธรรม อาคารการเรียนรู้ หอประชุมปรีชา ชัยรัตน์ ส านักงาน ต าหนักเทพเจ้า 3องค์หอ้งอาหารมงคลและร้านคา้ต่างๆ การออกแบบตกแต่งสวน ออกแบบในแนวสวนจีนที่มีความวจิิตรตระการตา ภายใตช้ื่อ"สวนคุณธรรม พันปี 24 กตญัญู" ตกแต่งดว้ยไม้ มงคลของจีนอนัไดแ้ก่ ต้นเครา มงักร ตน้หลิว ตน้ไผ่ประทัดจีน ฟงส์ฟู่ โป๊ ยเซียน พุดศุภโชค เทียนหอม บวัจีน และบ่อปลา คาร์ฟพันธุ์จักรพรรดิ รอบๆสระบวัตกแต่งดว้ย ประติมากรรมนูนสูง บอกเล่า เรื่องราวสุดยอดต านาน 24 กตัญญูของแผน่ดินจนี พร้อมค าบรรยายเพอื่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของอนุชนคนรุ่นหลงั
The Centre of Thai-Chinese Cultures. Udonthani, was established with the objectives of being a centre of conserving art, cultures, ways of life and philosophical princip of antecedents of the Thai-Chinese people in Udonthani, Thailand. The construction project initiative was proposed during the administration of the 58th Committee of the PUYA Foundation. The mobilization of funds among the benevolent followed. Aprice of land, which used to be an old ice factory in front of the east entrance to the downtown shrine, was bought at a price of 15,500,00 Baht. The contruction of the centre was started wiht the foundation stone laying ceremony on August 4ᵗʰ, 2009. After the completion on january 6ᵗʰ, 2013. Both ceremonies were graciously presided over by Capt. Dr.Priness Bajrakitiyaha, the Royal Granddaughter. With the sense of gratitude towards her royal grace, the PUYA Foundation, Udonthani. has built up a building in the honor of the princess for the purpose of collecting her personal data and royal duties while maintaing the position of prosecutor to the County Court of Udonthani.
ศาลเจ ้ าปู่ย่า ศูนย ์ วฒันธรรมไทย-จีน อุดรธานี เคล็ดลับการกราบไหว้ขอพร -เคล็ดลับการกราบไหว้ขอพรนอกจากการกราบไหว้ด้วยธูป 30 ดอก แลว้การกราบไหวศ้าลเจา้ปู่ยา่ตอ้งถวายสม้4 ลูก -พอกราบไหวค้รบท้งั6จุดแลว้ ใหเ้ดินไปที่สะพาน 9เล้ียวเชื่อกนัวา่เป็นจุดเชื่อมต่อโลกมนุษยก์ บสวรรค์และ ั สวรรคจ์ะรับรู้วา่ขอพรอะไรไป -เสร็จแลว้ก็มากราบลาที่ศาลเจา้ปู่-ยา่พร้อมเอาสม้กลบับา้นดว้ย2ลูก
ศาลปู่ยา่อุดรธานี นบัต้งัแต่วนัที่เริ่มมีศาลเจา้ปู่ยา่มาถึงปัจจุบนัสายธารแห่งความศรัทธาของมหาชนในจงัหวดัอุดรธานี พ้นืที่ใกลเ้คียงและชาวต่างประเทศต่างพากนัมากราบไหวส้กัการบูชาขอพรจากองคเ์จา้ปู่เจา้ยา่เพมิ่ข้ึนอยา่ง ต่อเนื่องกนัทุกๆปีอนัเป็นประโยชน์แก่บา้นเมืองศาลเจ้าปู่-ยา่น้ีเป็นศูนยก์ลางยดึเหนี่ยวของชาวอุดรธานีและ พ้นืที่ใกลเ้คียงหล่อหลอมกนัเป็นน้า หน่ึงใจเดียวกนัแน่นแฟ้นมากข้ึนและเป็นจุดศูนยร์วมใจของชาวเมือง อุดรธานีก่อใหเ้กิดแต่ความรักความสามคัคีปรองดองฉนัทพ์ -ี่นอ้งทุกๆเช้ือชาติและยงัใหค้วามเจริญรุ่งเรืองความ มงั่คงั่ประโยชน์สุขของส่วนรวมมากข้ึนเป็นลา ดบั โดยเฉพาะอยา่งยงิ่ในปีพ.ศ. 24922493 ดว้ยบารมีองคเ์จา้ปู่- ยา่และพลงัศรัทธาที่หล่อหลอมจนเป็นน้า หน่ึงใจเดียวกนักลุ่มพอ่คา้ชาวเมืองอุดรธานีจึงไดเ้ริ่มก่อต้งั คณะกรรมการศาลเจ้าปู่-ยา่ข้ึนมาเพอื่ทา หนา้ที่ปรบั ปรุงบูรณะและพัฒนาศาลเจ้าปู่-ยา่เพอื่จดัการสิ่งอา นวยความ สะดวกในงานพธิีกราบไหวเ้ทศกาลต่างๆ โดยมีการคดัเลือกคณะกรรมการข้ึนในเดือนธนัวาคมของทกุปีมีระยะเวลาทา งานชุดละ1 ปีและทุกวนัที่1-10 ธนัวาคมที่คณะกรรมการจดัจดัใหม้ีการไหว้(เซียซ่ึงโจยั)และมีการแสดงงิ้วใหมุ้่งเถ่ากงมุ่งเก่าม่าไดช้มทุกปีซ่ึง ตรงกบังานประประจา ปีทุ่งศรีเมืองอุดรธานีคณะกรรมการฯและชาวเมืองไดร้่วมใจอญัเชิญเจา้ปู่-ยา่ (ทุ่งเถ่ากงมุ่งเก่าม่าพกุนิ้ว) เที่ยวชมเมืองโดยจดัริ้วขบวนแห่ที่ยงิ่ใหญ่มโหฬารงดงามตระการตาอันประกอบด้วย คณะสิงโตคณะมงักรคณะเองกอคณะหล่อโกวฮวยนา้และริ้วขบวนธงในวนัที่25ธนัวาคมชาวเมืองต่างพร้อมใจ กนัต้งัโตะ๊บูชาองคเ์จา้ปู่ปู่เจา้ยา่ที่หนา้ร้านตามที่เสน้เสน้ทางขบวนแห่ผา่นเพอื่เป็นสิริมงคลแก่ครอบครัวและ ความเจริญรุ่งเรืองของกิจการ
จุดไหว้ที่1 สา หรับการบูชา (ท่ีกง) ทีท่ีแปบ้อหรือเทพยดาฟ้าดินน้ันชาวจีนมีความเชื่อถือว่าเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับ โลกมนุษยม์าก่อนสิ่งอ่ืนสิ่งใดมีความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตายเชื่อว่าสิ่งศักด์ิสิทธ์ิและดวงวิญญาณ ของบรรพบุรุษจะไปสถิตอยู่เบ้ืองบนสวรรค์เมื่อสักการบูชาแล้วจะดลบัลดาลความร่มเย็นเป็นสุข บันดาลความอุดมสมบูรณ์การสักการบูชา (ทีกง) ที่ตีแป้บ้อถือเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อดวงวิญญาณของบรรพบุรุษด้วยบ้างก็มีความเชื่อ ว่าในเวลาท่ีเราอยู่นอกเคหสถาน (ทีกง) ทีท่ีแปบ้อหรือเทพยดาฟ้าดินน้ีเป็นผู้ปกป้องคุ้มครองให้ ปลอดภัยจากภัยพิบัติท้ังหลายท้ังปวงให้กับผู้ที่บูชาสา หรับคนไทยก็มีความเชื่อในเรื่องของ บวงสรวงเทพยดาฟ้าดินเนื่องจากเป็นสังคมกสิกรรมเกี่ยวข้องกับดินฟ้าอากาศ จึงมีความเชื่อกันว่า การบวงสรวงเทพยดาฟ้าดินการสักการบูชาเทพต่างๆที่เกี่ยวกับดินน้า ลมไฟจะสามารถบันดาลความ อุดมสมบูรณ์ของพืชพนัธุ์ธัญญาหารและความร่มเย็นเป็นสุขซ่ึงก็เป็นแนวคิดทางพุทธศาสนาที่ สอดคล้องกัน
จุดไหว้ที่2 สิ่งศักด์ิสิทธ์ิที่ 2คือ จึงเถ่ากงม่า หรือเรียกเป็นภาษาไทยว่าเจ้าปู่เจ้าย่าสร้างในกรรมการสมัยที่ 41 (พ. ศ. 2534) โดยภายในศาลจะมีรูปองค์เจ้าปู่เจ้าย่าอยู่ภายใน ชาวอุดรธานีส่วนใหญ่จะมากราบ ไหว้เพื่อขอพรในความสิริมงคลอยู่เสมอในความเชื่อเรื่องความศักด์ิสิทธ์ิได้ชื่อว่ามีความศักด์ิสิทธ์ิ มากขอสิ่งใดมักสมปรารถนาตามที่ขออยู่เสมอ จุดไหว้ที่3 สิ่ งศักดิ์สิ ทธิ์ แห่ งที่ 3 คือศาลเจ้าพ่อหนองบัว นื่องจากที่ต้ังของศาลเจ้าปู่ย่าต้ังอยู่ริมสวนสาธารณะ หนองบัวในปัจจุบันมีการสร้างสวนสาธารณะหนองบัวได้มีการอัญเชิญเจ้าพ่อหนองบัวมาสถิตย์อยู่ ภายในศาลเจ้าแห่งนี้ด้วย ความเชี่อต้ังแต่ก่อต้ังศาลเจ้าปู่ย่าขึ้นใหม่ๆ
จุดไหว้ที่4 จุดไหว้ที่ 4 ยิ่งศักด์ิสิทธ์ิแห่งที่สี่คือท่ีต้ีจู่เอ้ีย ภาษาไทยคือเจ้าที่เจ้าทางซ่ึงเป็นศักด์ิสิทธ์ิที่คอยปกปัก รักษาดูแลปกปักรักษาสถานที่น้ันๆได้แก่บริเวณศาลเจ้าปู่ย่า) และบริเวณหนองบัวโดยรอบท้ังหมด
จุดไหว้ที่5 สิ่งศักด์ิสิทธ์ิแห่งที่ 5 คือพระสังกัจจายน์ซ่ึงได้ขุดพบใต้ต้นไทรในบริเวณศาลเจ้าปู่ย่าเมื่อพ. ศ. 2530 (คณะกรรมการสมัยที่ 37) พระสังกัจจายน์(หมีเล่อฝอ)“ พระสังกัจจายน์” หรื อ“ หมีเล่อ ฝอ (3)) "หรือที่นิยมเรียกกันว่า“ พระสังกัจจายน์โพธิสัตว์” เป็นคา เรียกกันทางพุทธศาสนาฝ่าย มหายานซ่ึงเป็นองค์เดียวกันกับคา เรียกทางพุทธศาสนาฝ่านหินยานคือ“ พระอาริ ย์” (พระศรี อารย เมตไตรย)อันเป็นคติความเชื่อทางพุทธศาสนาที่หมายถึงพระพุทธเจ้าองค์ใหม่ที่จะบังเกิดมาใน อนาคตกาล ณ เวลาน้ันเชื่อกันว่าสันติสุขอันแท้จริงจะบังเกิดข้ึนแก่มวลมนุษยชาติรูปลักษณะ ของพระสังกัจจายน์(พระศรีอาริย)์ตามแบบคติแบบจีนน้ันจะเป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะอ้วนพลุ้ย เปลือยอกมีใบหน้าที่สดชื่นร่าเริงสีหน้ายิ้มแยม้แจ่มใสและมักหัวเราะเริงร่าอยู่เสมอสองหูยาวจรด บ่ามักเห็นท่านในลักษณะท่าทางนั่งอย่างสบายอารมณ์และปรากฏรูปเด็ก ๆ วิ่งรายล้อมอยู่รอบตัว พระสังกัจจายน์เด็ก ๆ ที่ปีนป่ายอยู่รอบตัวท่านจะต้องเป็นเด็กผู้ชายจ านวน 5 คนเด็กชายคนเป็ น ความหมายแฝงที่หมายถึง“ อู่ฟู” หรื อความสุข 5 ประการ
จุดไหว้ที่6 สิ่งศักด์ิสิทธ์ิแห่งที่ 6 คือนั่งง่วนส่วยเป็นองค์เทพที่เชี่ยวชาญในการปราชญ์เป็นอย่างยิ่งเป็นที่นิยม สักการะของนักเรียนนักศึกษาในการไปสมัครสอบคร้ังสา คัญแต่ละคร้ัง นอกจากความโดดเด่นของสถานที่ที่สวยงามและความศักด์ิสิทธ์ิขององค์เจ้าปู่เจ้าย่าแล้วทาง คณะกรรมการของที่นี่ยงัได้จัดให้มีคณะมังกรทองคณะเอ็งกอคณะหล่อโก้วและคณะการแสดง ต่างๆเพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมจีนที่สวยงามไว้ให้ดา รงอยู่เพื่อที่จะให้ลูกๆหลานๆชาวอุดรได้ สืบทอดประเพณีที่ดีงามเหล่าน้ีสืบต่อไปซ่ึงประชาชนชาวจังหวัดอุดรธานีจะได้เห็นการแสดง เหล่าน้ีเป็นประจา ทุกๆปีในงานประจา ปีทุ่งศรีเมืองและในช่วงประเพณีตรุษจีนของจังหวัดอุดรธานี
ความสมัพนัธร์ะหวา่งประเทศข้ึนอยกู่บัความใกลช้ิดของประชาชน ความใกลช้ิดของประชาชน ข้ึนอยกู่บัความเขา้ใจระหวา่งกนั
วัฒนธรรมของสองประเทศมีส่วนคล้ายคลึงกัน คนไทยกับคนจีนจึงมีความเข้าใจอันดี ต่อกัน และไปมาหาสู่กันตลอดเวลา นับจากอดีตมีคนจีนอพยพเข้ามาอยู่ในเมืองไทยเป็นจา นวนมาก ผ่านจากรุ่นสู่รุ่น จนปัจจุบันกลายเป็นคนไทยอย่างเต็มตัว ซ่ึงไม่ได้มีการแบ่งแยกเช้ือชาติออกจาก กันอย่างเด่นชัดเหมือนในบางประเทศ อ้างอิง http://www.puyafoundation.com/pages/history.php