The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การเกิดพอลิเมอร์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Anocha Utumsakulrat, 2023-04-23 15:47:54

การเกิดพอลิเมอร์

การเกิดพอลิเมอร์

ก คำนำ ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์หน่วยพอลิเมอร์เล่มที่ 1 เรื่องการเกิดพอลิเมอร์ตามแนวคิดแบบ โยนิโสมนสิการ จัดทำเพื่อเป็นเครื่องมือในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ความพึงพอใจทางการเรียนเคมี ส่งเสริมความสามารถทางการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1-3 โรงเรียนสุวรรณารามวิทยาคม โดยในทุกกิจกรรมได้จัดลำดับขั้นตอนที่เน้นการเพิ่มพูนประสบการณ์ ทางวิทยาศาสตร์นักเรียนจะได้รับการทดสอบก่อนเรียน และศึกษาเนื้อหาความรู้ที่ส่งเสริมให้นักเรียนศึกษา และสืบค้น โดยมีความรู้เพิ่มเติมนอกเหนือจากในบทเรียน การตอบคำถาม การทำแบบฝึกหัด และทำกิจกรรม การทดลองตามขั้นตอนตลอดจนทำแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อประเมินตนเองหลังจากการเรียนรู้ในแต่ ละกิจกรรมการเรียนรู้ ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ หน่วยพอลิเมอร์ เล่มที่ 1 เรื่องการเกิด พอลิเมอร์ตามแนวคิดแบบโยนิโสมนสิการ จะทำให้ผู้เรียนมีความรู้และความสามารถในการสืบค้น การจัดระบบสิ่งที่เรียนรู้ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อสร้างองค์ความรู้ ได้เป็นอย่างดี สามารถนำความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ และเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจ ใช้เป็นแนวทาง ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ได้ต่อไป นางสาวอโนชา อุทุมสกุลรัตน์


ข เรื่อง หน้า คำนำ ก สารบัญ ข ข้อแนะนำการเรียนรู้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ ค โครงสร้างชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ ง แบบทดสอบก่อนเรียน จ ขั้นที่ 1 การหาความรู้ 1 - ปฏิบัติการ ฝึกอ่าน : ฝึกคิด 1 ทบทวนความรู้ก่อนเรียน 1 1 พอลิเมอร์และมอนอเมอร์ 2 ตรวจสอบความเข้าใจ 1 4 ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ 4 ร่วม กัน คิด 1 8 โครงสร้างและสมบัติของพอลิเมอร์ 12 กิจกรรม สืบเสาะ ค้นหา 1 12 ตรวจสอบความเข้าใจ 2 14 กิจกรรม สืบเสาะ ค้นหา 2 16 ตรวจสอบความเข้าใจ 3 18 ร่วม กัน คิด 2 19 ขั้นที่ 2 สร้างความรู้ 20 - ปฏิบัติการ ฝึกทำ : ฝึกสร้าง 20 ขั้นที่ 3 ซึมซับความรู้ 21 - ปฏิบัติการ คิดดี ผลงานดี มีความสุข 21 แบบทดสอบหลังเรียน 23 บรรณานุกรม 24 สารบัญ


ค สำหรับนักเรียน จุดประสงค์ของการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ มุ่งหวังให้นักเรียนเป็นผู้มีความสามารถทางการ จัดการความรู้ทางวิทยาศาสตร์3 ด้าน ได้แก่ 1. ด้านความรู้ความคิด 2. ด้านทักษะการจัดการความรู้ทางวิทยาศาสตร์ 3. ด้านค่านิยมต่อตนเองเพื่อสังคม ซึ่งนักเรียนจะได้เสริมสร้างความสามารถดังกล่าวดังนี้1.การหาความรู้(Operation) จาก กิจกรรมการสืบเสาะ ค้นหา กิจกรรมร่วมกันคิด และกิจกรรมร่วมกันค้น 2.การสร้างความรู้ (Combination) เป็นขั้นฝึกการวิเคราะห์ประกอบด้วยการฝึกคิดแบบสืบสาวปัจจัยเหตุและแบบ แยกแยะส่วนประกอบโดยใช้ ข้อความและสถานการณ์ เพื่อพัฒนาตนเอง 3. การซึมซับความรู้ (Assimilation) เป็นขั้นที่ให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เช่น หนังสือ อินเตอร์เน็ต ฝึกคิดอย่างมีวิจารณญาณ ฝึกทักษะการเขียนเพื่อนำเสนอแก้ไขปัญหาที่พบ ประกอบการตอบคำถามฝึกการวิเคราะห์จุดเด่น และจุดด้อยของผลงาน ตรวจสอบและปรับปรุงเพื่อ สร้างชิ้นงานใหม่ต่อไปได้และข้อเสนอแนะกับผู้อ่านได้โดยในทุกกิจกรรมได้จัดลำดับขั้นตอนที่เน้น การเพิ่มพูนประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์เพื่อเป็นผู้มีความสามารถทางการจัดการความรู้ทาง วิทยาศาสตร์ดังนี้ 1. อ่าน และทำความเข้าใจในทุกขั้นตอนของกิจกรรมการเรียนรู้ 2.รักและสนใจตนเอง สร้างความรู้สึกที่ดีให้กับตนเอง ว่าตัวเราเป็นผู้มีความสามารถมี ศักยภาพอยู่ในตัว และพร้อมที่จะเรียนรู้ทุกสิ่งที่สร้างสรรค์ 3. รู้สึกอิสระและแสดงออกอย่างเต็มความสามารถ 4. ฟัง คิด ถาม เขียน ปฏิบัติอย่างรอบคอบในทุกกิจกรรม ใช้เนื้อที่กระดาษที่จัดไว้สำหรับ เขียนให้เต็ม โดยไม่ปล่อยให้เหลือเปล่า เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับตนเอง 5. ใช้เวลาในการเรียนรู้อย่างคุ้มค่า ใช้ทุกๆ นาทีทำให้ตนเองมีความสามารถเพิ่มมากขึ้น 6. ตระหนักตนเองอยู่เสมอว่าจะเรียนรู้วิทยาศาสตร์เพื่อนำมาพัฒนาตนเองและพัฒนาสังคม จุดเด่นของการเรียนรู้วิทยาศาสตร์คือ การสร้างคุณค่าที่ดีให้กับสังคม จึงขอเชิญชวนนักเรียน มาร่วมกันเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ด้วยใจรัก และ พัฒนาตนให้เต็มขีดความสามารถ ขอส่งความปรารถนาดีให้แก่นักเรียนทุกคนได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์อย่างมีความสุขพึ่งตนเองได้ และเป็นผู้มีความสามารถทางการจัดการความรู้ทางวิทยาศาสตร์เพื่อสังคม ยิ่งๆ ขึ้น สืบไป ข้อแนะนำการเรียนรู้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์


ง สาระส าคัญ พอลิเมอร์เป็นสารที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ ได้จากปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ของโมเลกุลขนาด เล็กที่เรียกว่า มอนอเมอร์ สมบัติทางกายภาพของพอลิเมอร์จึงต่างจากมอนอเมอร์ที่เป็นสารตั้งต้น พอ ลิเมอร์มีทั้งพอลิเมอร์ธรรมชาติและพอลิเมอร์สังเคราะห์ พอลิเมอร์อาจเกิดจากปฏิกิริยาการเกิดพอลิ เมอร์แบบเติมหรือแบบควบแน่น ขึ้นอยู่กับหมู่ฟังก์ชันที่ทำปฏิกิริยา จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ระบุมอนอเมอร์ของพอลิเมอร์ 2. ระบุประเภทของปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์จากโครงสร้างของมอนอเมอร์หรือพอลิเมอร์ การจัดกระบวนการเรียนรู้ใช้รูปแบบการจัดการความรู้ทางวิทยาศาสตร์มี3 ขั้น คือ 1. การหาความรู้(Operation) 2. การสร้างความรู้(Combination) 3. การซึมซับความรู้(Assimilation) เวลาที่ใช้ 4 ชั่วโมง การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ นักเรียนประเมินผลตนเองโดยใช้แบบประเมินผลตนเองก่อนเรียน-หลังเรียน โครงสร้างชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ หน่วยพอลิเมอร์ เล่มที่ 1 เรื่องการเกิดพอลิเมอร์


จ แบบทดสอบก่อนเรียน เล่มที่ 1 เรื่อง การเกิดพอลิเมอร์ วิชาเคมี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 15 นาที ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… คำสั่ง 1.ให้นักเรียนเขียนเครื่องหมาย X ลงในข้อที่นักเรียนคิดว่าถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 2.ข้อสอบมีทั้งหมด 10 ข้อให้นักเรียนทำทุกข้อ ใช้เวลาในการทำ 5 นาที ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1. “พอลิไวนิลคลอไรด์เกิดจากโมเลกุลของไวนิลคลอไรด์มาต่อกันด้วยพันธะโคเวเลนต์” จากข้อความดังกล่าว อะไรคือพอลิเมอร์ ก. ไวนิล ข. โคเวเลนต์ ค. ไวนิลคลอไรด์ ง. พอลิไวนิลคลอไรด์ 2. จากข้อ 1 อะไรคือมอนอเมอร์ ก. ไวนิล ข. โคเวเลนต์ ค. ไวนิลคลอไรด์ ง. พอลิไวนิลคลอไรด์ 3. วัสดุหรือสารประเภทใดเป็นพอลิเมอร์สังเคราะห์ ก. ผ้าฝ้าย ข. พลาสติก ค. ยางพารา ง. คาร์โบไฮเดรต 4. วัสดุหรือสารประเภทใดเป็นโคพอลิเมอร์ธรรมชาติ ก. โปรตีน ข. เซลลูโลส ค. ยางพารา ง. คาร์โบไฮเดรต 5. ข้อใดเป็นลักษณะของปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันแบบเติม ก. ได้พอลิเมอร์ที่เสถียร ข. ได้สารโมเลกุลเล็กเป็นผลพลอยได้ ค. มอนอเมอร์มีหมู่ฟังก์ชันมากกว่าหนึ่งหมู่ ง. เกิดปฏิกิริยาบริเวณพันธะคู่ของคาร์บอน 6. ข้อใดเป็นลักษณะของปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันแบบควบแน่น ก. ได้พอลิเมอร์ที่ไม่เสถียร ข. ได้สารโมเลกุลเล็กเป็นผลพลอยได้ ค. มอนอเมอร์มีพันธะคู่ระหว่างคาร์บอน ง. เกิดปฏิกิริยาบริเวณพันธะคู่ของคาร์บอน 7. พอลิเมอร์ใดเกิดจากปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันแบบเติม ก. พอลิเอไมด์ ข. พอลิคาร์บอเนต ค. พอลิไวนิลคลอไรด์ ง. พอลิเอทิลีนเทเรฟทาเลต 8. พอลิเมอร์ใดเกิดจากปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันแบบควบแน่น ก. พอลิเอไมด์ ข. พอลิเอทิลีน ค. พอลิสไตรีน ง. พอลิไวนิลคลอไรด์ 9. พอลิเมอร์ใดมีโครงสร้างแบบเส้น ก. เมลามีน ข. เบกาไลต์ ค. พอลิไวนิลคลอไรด์ ง. พอลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นต่ำ 10. พอลิเมอร์ที่มีพันธะที่เชื่อมระหว่างโซ่หลักจำนวนมากจะมีสมบัติอย่างไร


ฉ ก. แข็ง ขุ่น และเหนียว ข. แข็ง ไม่ยืดหยุ่น จุดหลอมเหลวสูง ค. ยืดหยุ่น อ่อนตัวเมื่อได้รับความร้อน ง. ยืดหยุ่น ความหนาแน่นและจุดหลอมเหลวต่ำ คะแนนเต็ม 10 คะแนน ได้ ........... คะแนน


1 ขั้นที่1 การหาความรู้ Operation 1. ใส่เครื่องหมาย หน้าข้อความที่ถูกต้อง และใส่เครื่องหมาย หน้าข้อความที่ไม่ถูกต้อง ….… 1.1 หมู่ฟังก์ชันของเอไมด์ คือ –NH2 ….… 1.2 ปฏิกิริยาการเติมของแอลคีน ทำให้พันธะคู่เปลี่ยนเป็นพันธะเดี่ยว ….… 1.3 ปฏิกิริยาการควบแน่นระหว่างแอลกอฮอล์กับกรดคาร์บอกซิลิกได้เอสเทอร์และน้ำ ….… 1.4 ปฏิกิริยาการสังเคราะห์เอไมด์จากเอมีนและกรดคาร์บอกซิลิกจัดเป็นปฏิกิริยาการเติม ….… 1.5 เอไมด์มีจุดเดือดสูงกว่าเอสเทอร์ที่มีมวลโมเลกุลใกล้เคียงกัน เพราะเอไมด์มีพันธะไฮโดรเจนระหว่าง โมเลกุล ….… 1.6 พันธะไฮโดรเจนระหว่างโมเลกุลของแอลกอฮอล์ทำให้แอลกอฮอล์ละลายน้ำได้ ….… 1.7 โครงสร้างเรโซแนนซ์เกิดจากการเคลื่อนย้ายตำแหน่งของอะตอมในโมเลกุล ….… 1.8 พลาสติกที่มีสัญลักษณ์รีไซเคิลทุกชนิดสามารถรีไซเคิลร่วมกันได้ โดยไม่ต้องคัดแยก 2. วงกลมล้อมรอบโครงสร้างที่เป็นสารเดียวกัน ก. ข. เล่มที่ 1 เวลา 10 ชั่วโมง ปฏิบัติการ ฝึกอ่าน : ฝึกคิด จงยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ที่นักเรียนรู้จัก ............................................................................................................................. ......................................................... ...................................................................................................................................................................................... ทบทวนความรู้ก่อนเรียน 1


2 ค. ง. จ. “สารพอลิเมอร์ (polymer) คือ โมเลกุลขนาดใหญ่มากประกอบด้วยอะตอม เป็นจำนวนหลายร้อยหลาย พันอะตอมต่อกันด้วยพันธะเคมี พอลิเมอร์ธรรมชาติเป็นพื้นฐานของขบวนการแห่ง ชีวิตทั้งหมด ” พอลิเมอร์มาจากภาษากรีกสองคำคือ poly แปลว่า หลายๆ หรือ มาก และ mer แปลว่า หน่วย หรือ ส่วน ดังนั้น พอลิเมอร์แปลว่าสารที่มีโมเลกุลยาวมาก และโมเลกุลเหล่านี้ประกอบด้วยหน่วยที่ซ้ำๆ กันเป็นจำนวน มาก ตัวอย่างพอลิเมอร์ได้แก่ พอลิเอทีลีน พอลิสไตรีน เป็นต้น และพอลิเมอร์เกิดจากหน่วยซ้ำๆ เรียกว่า มอนอ เมอร์ เกิดปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชัน เป็นพอลิเมอร์เกิดขึ้น ❖ ประเภทของพอลิเมอร์ประเภทของพอลิเมอร์ แบ่งตามเกณฑ์ต่าง ๆ ดังนี้ 1. แบ่งตามการเกิดเป็นเกณฑ์ เป็น 2 ชนิด คือ 1 . พอลิเมอร์ธรรมชาติ เป็นพอลิเมอร์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น โปรตีน แป้ง เซลลูโลส ไกโคเจน กรดนิวคลีอิก และยางธรรมชาติ (พอลีไอโซปรีน) มอนอเมอร์ พอลิเมอร์ ……………………………. ลูกปัด


3 2 . พอลิเมอร์สังเคราะห์ เป็นพอลิเมอร์ที่เกิดจากการสังเคราะห์เพื่อใช้ประโยชน์ต่าง ๆ เช่น พลาสติก ไนลอน ดาครอน และลูไซต์ เป็นต้น 2. แบ่งตามชนิดของมอนอเมอร์ที่เป็นองค์ประกอบ เป็น 2 ชนิด คือ 1 . โฮมอลิเมอร์ (Homopolymer) เป็นพอลิเมอร์ที่ประกอบด้วยมอนอเมอร์ชนิดเดียวกัน เช่น แป้ง (ประกอบด้วยมอนอเมอร์ที่เป็นกลูโคสทั้งหมด) พอลิเอทิลีน PVC (ประกอบด้วยมอนอเมอร์ที่เป็นเอทิลีนทั้งหมด) 2 . โคพอลิเมอร์ หรือ เฮเทอโรพอลิเมอร์ (Heteropolymer) โคพอลิเมอร์ เป็นพอลิเมอร์ที่ ประกอบด้วยมอนอเมอร์ต่างชนิดกัน เช่น โปรตีน (ประกอบด้วยมอนอเมอร์ที่เป็นกรดอะมิโนต่างชนิดกัน) พอลิเอส เทอร์ พอลิเอไมด์ เป็นต้น โคพอลิเมอร์มีการเรียงตัวของมอนอเมอร์ได้หลายชนิด ดังนี้ · แบบเรียงสลับกัน (alternating copolymer) [A-B-A-B-A-B-A-B-A] n · แบบเรียงสุ่ม (random copolymer) [A-B-A-B-B-B-A-A-B] n · แบบเรียงบล็อก (block copolymer) [A-A-A-B-B-B-A-A-A] n พอลิเมอร์มีขนาดโมเลกุลใหญ่กว่ามอนอเมอร์ซึ่งส่งผลให้สมบัติทางกายภาพของพอลิเมอร์ต่างกับมอนอ เมอร์ ส่วนใหญ่มีจุดหลอมเหลวสูงกว่ามอนอเมอร์มากและละลายในตัวทำละลายได้น้อยกว่า สาร สถานะ จุดหลอมเหลว ( ๐ c) สภาพการละลายในน้ำ ( g/L) เอทิลีน (มอนอเมอร์) แก๊ส -169.2 0.035 (17๐ c) พอลิเอทิลีน (พอลิเมอร์) ของแข็ง 115-135 ไม่ละลายในน้ำ กลูโคส (มอนอเมอร์) ของแข็ง 146 909 (25๐ c) พอลิแซกคาไรด์ในแป้ง (พอลิเมอร์) ของแข็ง สลายตัว ไม่ละลายในน้ำ โดยทั่วไปพอลิเมอร์มีความแข็งแรงและเหนียวมากกว่ามอนอเมอร์ เมื่อพอลิเมอร์ละลายในตัวทำละลาย สารละลายพอลิเมอร์จะมีความหนืดมากกว่าสารละลายของมอนิเมอร์ เนื่องจากพอลิเมอร์มีโมเลกุลขนาดใหญ่จึงมี แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลมากกว่ามอนอเมอร์


4 ปฏิกิริยาเคมีที่ทำให้มอนอเมอร์เชื่อมต่อกันเป็นพอลิเมอร์ เรียกว่า ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ (polymerization reaction) หรืออาจเรียกสั้นๆว่า การเกิดพอลิเมอร์(polymerization) ซึ่งแบ่งเป็น 2 แบบ ดังนี้ 1) ปฏิกิริยาพอลิเมอร์ไรเซชันแบบเติม (Addition polymerization reaction) เป็นพอลิเมอร์ ที่เกิดจากปฏิกิริยารวมตัว การเกิดพอลิเมอร์ชนิดนี้เกิดจากมอนอเมอร์ที่ไม่อิ่มตัวเกิดปฏิกิริยาพอลิ เมอร์ไรเซชันแล้วไม่มีโมเลกุลเล็กๆ ขาดหายไป ตัวอย่างเช่น พอลิเอทิลีน (polyethalene) ตรวจสอบความเข้าใจ 1 ขนมสายไหมทำจากน้ำตาลซูโครสซึ่งเป็นไดแซ็กคาไรด์ ส่วนสำลี เป็นพอลิแซ็กคาไรด์จงเปรียบเทียบและอธิบายสมบัติการละลายน้ำ และการทนแรงดึงของขนมสายไหมและสำลี ............................................................................................................................. ......................................................... ...................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ..................................................................................................................................................................... ................. ................................................................................................................. ..................................................................... ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์


5 พอลิสไตรีน (polystyrene,PS) ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์แบบเติม มีสมบัติและนำไปใช้เป็นผลิตภัณฑ์ที่พบในชีวิตประจำวันได้ หลากหลาย ตามข้อมูลดังตารางที่ 1 ตารางที่ 1 พอลิเมอร์ที่เตรียมได้จากปฏิกิริยาพอลิเมอร์ไรเซชันแบบเติม (Addition polymerization reaction) มอนอเมอร์ พอลิเมอร์ สมบัติ ผลิตภัณฑ์ เอทิลีน (ethylene ) พอลิเอทิลีน (polyethylene,PE) ▪ โค้งงอได้ เหนียว ▪ ป้องกันการ ผ่านของไอน้ำ ได้ดีแต่อากาศ ผ่านได้ เล็กน้อย ▪ จุดหลอมเหลว ต่ำกว่าพอลิ เมอร์ สังเคราะห์ ชนิดอื่น ▪ ถุงใส่ของเย็น ถุงหูหิ้ว ▪ กล่องพลาสติก ▪ ขวดพลาสติกขุ่น ▪ ฝาขวด โพรพิลีน (propylene) พอลิเอทิลีน (polypropylene,PP) ▪ มีสมบัติคล้าย พอลิเอทิลีน แต่ทนความ ร้อนได้ดีกว่า และแข็งแรง กว่า ▪ ทนต่อแรงดึง และการขีด ข่วน ▪ ถุงใส่ของร้อน ▪ หลอดพลาสติก ▪ ภาชนะที่ใช้กับ ไมโครเวฟ ▪ หลอดฉีดยา


6 ไวนิลคลอไรด์ (vinyl c hloride) พอลิไวนิลคลอไรด์ (vinyl chloride,PVC) ▪ แข็งและคงรูป ▪ ทนต่อ ความชื้น สารเคมีและ การขัดถู ▪ ท่อน้ำ สายยาง ▪ ไม้เทียม ▪ แผ่นยางปูพื้น ▪ หนังเทียม ▪ ปลอกฉนวนสายไฟ สไตรีน (styrene) พอลิสไตรีน (polystyrene,PS) ▪ แข็งแต่เปราะ ▪ ใส โปร่งแสง ▪ โฟมกัน กระแทก ▪ โฟมบรรจุอาหาร ▪ วัสดุช่วยพยุงให้ลอย น้ำ ▪ ช้อนส้อมพลาสติก ▪ กล่องพลาสติกใส เตตระฟลูออโรเอทิลีน (tetrafluorethylene) พอลิเตตระฟลูออโรเอทิลีน (polytetrafluorethylene, PTFE หรือ เทฟลอน) ▪ ทนความร้อน ได้สูง ▪ ทนสารเคมี และตัวทำ ละลาย ▪ สารเคลือบผิวภาชนะ เพื่อป้องกันการ เกาะติดและการกัด กร่อน ▪ ฉนวนหุ้มสายส่ง สัญญาน ▪ ภาชนะใช้ใน ห้องปฏิบัติการทาง วิทยาศาสตร์ หมายเหตุ - การเรียกชื่อมอนอเมอร์และพอลิเมอร์นิยมใช้ชื่อสามัญ - เทฟลอนเป็นชื่อทางการค้า 2) ปฏิกิริยาพอลิเมอร์ไรเซชันแบบควบแน่น (Condensation polymerization reaction) เป็นพอ ลิเมอร์ที่เกิดจากปฏิกิริยาการสังเคราะห์พอลิเมอร์แบบควบแน่น (Condensation polymerization) ซึ่งพอลิเม อร์ชนิดนี้ เกิดจากมอนอเมอร์ที่มี หมู่ฟังก์ชันมากกว่า 1 หมู่ ทำปฏิกิริยากันเกิดเป็นพอลิเมอร์ และได้สาร โมเลกุลขนาดเล็ก เช่น น้ำ แก๊สไฮโดรเจนคลอไรด์ แอมโมเนีย หรือ เมทานอล เป็นต้น


7 ตัวอย่างเช่น เอทิลีนไกลคอล เกิดปฏิกิริยากับ ไดเมทิลเทเลฟทาเลต เกิดเป็น พอลิเอสเตอร์ พอลิเมอร์ที่ได้จากปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์แบบควบแน่น มีสมบัติและนำไปใช้เป็นผลิตภัณฑ์ที่พบใน ชีวิตประจำวันได้หลากหลาย ตามข้อมูลดังตารางที่ 2 ตาราง ที่ 2 พอลิเมอร์ที่เตรียมได้จากปฏิกิริยาพอลิเมอร์ไรเซชันแบบควบแน่น ((Condensation polymerization reaction) มอนอเมอร์ พอลิเมอร์ สมบัติ ผลิตภัณฑ์ กรดเทเรฟแทลิก (terephtalic acid ) + เอทิลีนไกลคอน พอลิเอทิลีนเทเรฟแทลิก (polyethylene terephthalate,PET หรือ PETE ) ▪ แข็งและเหนียว ▪ ทนต่อความชื้นและ การขัดถู ▪ ขวดน้ำดื่ม ▪ ถุงขนทขบ เคี้ยว ▪ เส้นใย สังเคราะห์ ▪ เชือกเอ็น ▪ เส้นเอ็น เฮกซะเมทิลีนไดเอมีน (hexmethylenediamine) H2N(CH2)6NH2 + กรดแอดิปิก (adipic acid) HOOC(CH2)4COOH ไนลอน 6,6 (nylon 6,6) ▪ แข็งแรงเหนียว ▪ ต้านทานแรงดึง และแรงฉีดขาด ▪ ทนต่อการกัดกร่อน และการเสียดสี ▪ ยืดหยุ่นได้ ▪ เชือก ไนลอน ▪ ถุงน่อง ถุง เท้า ไนลอน ▪ เฟือง ล้อ ลูกกลิ้ง ▪ ร่มชูชีพ


8 กรดแลกติก (lactic acid) พอลิแลกติกแอซิด (polylactic acid,PLA) หรือ ▪ สามารถย่อยสลาย ได้ในธรรมชาติ ▪ แข็ง เปราะ ▪ ไหมละลาย ▪ ถุงเพาะชำ ▪ แก้ว ช้อนส้อม พลาสติก ▪ ใช้เคลือบ แก้วกระ ดาษ 1. เขียนโครงสร้างพอลิเมอร์ที่ได้จากมอนอเมอร์ต่อไปนี้ พร้อมทั้งระบุว่าปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์เป็นแบบใด 1.1 CH2 = C(CH3)2 …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.2 CH2 = CHCN …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.3 CH2 = CHCOO CH3 …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.4 H2N – CH2-COOH …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ร่วม กัน คิด 1


9 1.5 HO – CH2– CH2– CH2– CH2-OH กับ HO2C– CH2– CO2H …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. เขียนโครงสร้างของมอนอเมอร์จากสายพอลิเมอร์ต่อไปนี้พร้อมทั้งระบุว่าปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์เป็นแบบใด 2.1 …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.2 …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.3 …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………


10 2.4 …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. โปรตีน พอลิแซ็กคาไรด์ และกรดนิวคลิอิก เป็นพอลิเมอร์ธรรมชาติซึ่งเป็นส่วนประกอบและมีหน้าที่สำคัญใน สิ่งมีชีวิต ตัวอย่างโครงสร้างดังแสดง พอลิเพปไทด์ในโปรตีน พอลิแซ็กคาไรด์ในไกลโคเจน กรดนิวคลีอิก


11 พอลิเมอร์แต่ละชนิดได้จากปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์แบบใด และเกิดจากมอนอเมอร์ที่มีสูตรโครงสร้าง อย่างไร …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. พอลิบิวทาไดอีน (polybutadiene) เป็นยางสังเคราะห์ที่ได้จากปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ดังต่อไปนี้ ยางธรรมชาติ เช่น ยางพารา มีโครงสร้างดังแสดง หากต้องการสังเคราะห์ยางที่มีโครงสร้างเหมือนกับยางพารา ควรใช้สารใดเป็นมอนอเมอร์และปฏิกิริยาการเกิด พอลิเมอร์เป็นแบบใด …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………


12 …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… ให้นักเรียนพิจารณาเปรียบเทียบโครงสร้างของ พอลิเมอร์แบบเส้น แบบกิ่ง และแบบร่างแห ดังรูปที่ 1 ต่อไปนี้แล้วบอกได้หรือไม่ว่าว่าโครงสร้างทั้งสามแบบแตกต่างกันอย่างไร พอลิเมอร์แบบเส้น พอลิเมอร์แบบกิ่ง พอลิเมอร์แบบร่างแห รูปที่ 1 โครงสร้างของพอลิเมอร์แบบต่างๆ เรื่อง ความหนาแน่นและโครงสร้างของพอลิเมอร์ จุดประสงค์ของกิจกรรม เพื่อเปรียบเทียบความหนาแน่นของพอลิเมอร์ที่มีโครงสร้างแบบเส้นและแบบกิ่ง อุปกรณ์ 1. ลวดกำมะหยี่ 100 เส้น 2. ขวดน้ำที่ตัดปากขวดแล้ว วิธีทำกิจกรรม 1. ให้ลวดกำมะหยี่ จำนวน 5 เส้น แก่นักเรียนแต่ละคน โครงสร้างและสมบัติของพอลิเมอร์ นักเรียนคิดว่าโครงสร้างของพอลิเมอร์ส่งผลต่อสมบัติอย่างไร


13 2. แบ่งนักเรียนเป็น 2 กลุ่ม ในกลุ่มที่ 1 ให้นักเรียนแต่ละคนต่อลวดกำมะหยี่ทั้ง 5 เส้นเป็น โครงสร้างแบบเส้น ส่วนกลุ่มที่ 2 ต่อเป็นโครงสร้างแบบกิ่ง 3. ให้นักเรียนแต่ละคนนำลวดกำมะหยี่ที่ต่อแล้วมาหย่อนลงในขวดตามประเภท โครงสร้างและหยุดเมื่อ ลวดกำมะหยี่เต็มขวด 4. นับจำนวนโครงสร้างที่อยู่ในแต่ละขวด ตารางบันทึกผลการทำกิจกรรม โครงสร้าง จำนวนลวดกำมะหยี่ที่อยู่ในขวด (เส้น) แบบเส้น แบบกิ่ง สรุปผลการทำกิจกรรม …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………….………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……..………………………………………………………………………………………………………………………………………….… โครงสร้างของพอลิเมอร์มีผลต่อแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลและสมบัติ บางประการ เช่น ความหนาแน่น จุดหลอมเหลว ความแข็ง ความเหนียว ของพอลิเมอร์ต่างกันอย่างไร


14 ❖ โครงสร้างและสมบัติของพอลิเมอร์ 1.พอลิเมอร์แบบเส้น (Chain length polymer) เป็นพอลิเมอร์ที่เกิดจากมอนอเมอร์สร้างพันธะต่อกันเป็นสาย ยาว โซ่พอลิเมอร์เรียงชิดกันมากว่าโครงสร้างแบบอื่น ๆ จึงมีความหนาแน่น และจุดหลอมเหลวสูง มีลักษณะแข็ง ขุ่นเหนียวกว่าโครงสร้างอื่นๆ ตัวอย่าง PVC พอลิสไตรีน พอลิเอทิลีน ดังภาพ 2. พอลิเมอร์แบบกิ่ง (Branched polymer) เป็นพอลิเมอร์ที่เกิดจากมอนอเมอร์ยึดกันแตกกิ่งก้านสาขา มีทั้งโซ่ สั้นและโซ่ยาว กิ่งที่แตกจาก พอลิเมอร์ของโซ่หลัก ทำให้ไม่สามารถจัดเรียงโซ่พอลิเมอร์ให้ชิดกันได้มาก จึงมีความ หนาแน่นและจุดหลอมเหลวต่ำยืดหยุ่นได้ ความเหนียวต่ำ โครงสร้างเปลี่ยนรูปได้ง่ายเมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น ตัวอย่าง พอลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นต่ำ ดังภาพ 3. พอลิเมอร์แบบร่างแห (Croos -linking polymer) เป็นพอลิเมอร์ที่เกิดจากมอนอเมอร์ต่อเชื่อมกันเป็น ร่างแห พอลิเมอร์ชนิดนี้มีความแข็งแกร่ง และเปราะหักง่าย ตัวอย่างเบกาไลต์ เมลามีนใช้ทำถ้วยชาม ดังภาพ 1. ฟีนอล-ฟอร์แมลดีไฮด์ (phenol-formaldehyde) หรือเบเคอไลต์ (bakelite) เป็นพอลิเมอร์ที่แข็ง ทนไฟ ไม่ หลอมเหลว เป็นตัวนำความร้อนที่ไม่ดี นิยมใช้ทำด้ามหรือหูจับของอุปกรณ์เครื่องครัว แผงวงจร สวิทช์ไฟฟ้า โครงสร้างของฟีนอล-ฟอร์แมลดีไฮด์เป็นแบบใด ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ตรวจสอบความเข้าใจ 2


15 3. ฟิล์มยืดห่ออาหารและถุงหูหิ้วทำมาจากพอลิเอทิลีน ผลิตภัณฑ์ใดทำจาก HDPE และผลิตภัณฑ์ใดทำจาก LDPE เพราะเหตุใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………….…………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………….…………………………………………………………………………………………………………………………………………… รูปที่ 2 โครงสร้างเมลามีน-ฟอร์แมลดีไฮด์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………….…………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………….…………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………….…………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… เมลามีน-ฟอร์แมลดีไฮด์ (melamine-formaldehyde) โครงสร้าง ดังรูป ได้จากการทำปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ระหว่างเมลามีน กับฟอร์แมลดีไฮด์ ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์นี้เป็นแบบใด เพราะ เหตุใด


16 กิจกรรมที่ 2 เรื่อง การทดสอบการเปลี่ยนแปลงของพอลิเมอร์เมื่อได้รับความร้อน จุดประสงค์ของกิจกรรม เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงของพอลิเมอร์เมื่อได้รับความร้อน วัสดุ อุปกรณ์ และสารเคมี สารเคมี 1. ชิ้นพอลิเมอร์จากผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อย่างน้อย 4 ชนิด เช่นขวดน้ำดื่ม หลอดพลาสติก ภาชนะเมลามีน ยางลบ อย่างละ 1 ชิ้น วัสดุและอุปกรณ์ 1. ตะเกียงแอลกอฮอล์พร้อมที่กั้นลม 1 ชุด 2. แผ่นกระเบื้อง 1 แผ่น 3. คีมคีบ 1 อัน วิธีทำกิจกรรม 1. สังเกตลักษณะของชิ้นพอลิเมอร์และบันทึกผล 2. คีบชิ้นพอลิเมอร์แล้วนำไปไว้เหนือเปลวไฟประมาณ 2 cm ดังรูป ประมาณ 3-5 วินาที สังเกตลักษณะและ บันทึกผล หากชิ้นพอลิเมอร์อ่อนตัวหรือหลอมเหลวให้รีบนำชิ้นพอลิเมอร์ออก กิจกรรม สืบเสาะ ค้นหา 2 ชิ้นพอลิเมอร์ คีมคีบ ที่กั้นลม ตะเกียงแอลกอฮอล์ กระเบื้อง


17 3.นำชิ้นพอลิเมอร์ที่ออกจากไฟแล้วมาวางไว้จนเย็นตัวลง สังเกตรูปร่างเปรียบเทียบกับก่อนได้รับความร้อนและ บันทึกผล 4. ทำการทดสอบซ้ำจนครบทุกตัวอย่าง ผลการทำกิจกรรม การเปลี่ยนแปลงที่สังเกตได้จากการทดลองเป็นดังตาราง ผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ ลักษณะของผลิตภัณฑ์ ก่อนได้รับความร้อน ระหว่างได้รับความร้อน หลังได้รับความร้อน ขวดน้ำดื่ม หลอดพลาสติก เมลามีน ยางลบ คำถามท้ายกิจกรรม 1. ตัวอย่างชิ้นพอลิเมอร์ใดมีการอ่อนตัวหรือหลอมเหลวเมื่อได้รับความร้อน …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………….………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ตัวอย่างชิ้นพอลิเมอร์ในข้อ 1 เมื่ออุณหภูมิลดลงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………….………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ถ้าใช้การเปลี่ยนแปลงเมื่อได้รับความร้อนเป็นเกณฑ์จะแบ่งกลุ่มของพอลิเมอร์ได้กี่กลุ่มแต่ละกลุ่ม เปลี่ยนแปลงอย่างไรเมื่อได้รับความร้อน …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………….………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………….…………………………………………………………………………………………………………………………………


18 สรุปผลการทำกิจกรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …….………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …….…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………….………………………………………………………………………………………………………………………..………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …….………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………….…………………………………………………………………………………………………………………………………………….. พอลิเมอร์ต่างชนิดกันเมื่อได้รับความร้อนอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงต่างกัน โดยพอลิเมอร์ที่อ่อนตัวหรือ หลอมเหลวเมื่อได้รับความร้อนและแข็งตัวเมื่ออุณหภูมิลดลง เรียกว่า พอลิเมอร์เทอร์มอพลาสติก (Thermoplastic polymer) พอลิเมอร์ประเภทนี้สามารถนำมาหลอมขึ้นรูปใหม่ได้ เช่น พอลิเอทิลีน พอลิโพรพิลีน พอลิสไตรีน พอลิเมอร์เทอร์มอพลาสติกมีโครงสร้างแบบเส้นและแบบกิ่ง ซึ่งนิยมนำไปใช้เป็นผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ ขึ้นรูปได้ง่าย เช่น ภาชนะ บรรจุภัณฑ์ ของเล่นอุปกรณ์ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง ส่วนพอลิเมอร์ที่ไม่อ่อนตัวหรือไม่ หลอมเหลวเมื่อได้รับความร้อน เรียกว่า พอลิเมอร์เทอร์มอเซต (Thermosetting polymer) พอลิเมอร์ประเภท นี้จึงไม่สามารถนำมาหลอมขึ้นรูปใหม่ได้เช่น ฟีนอล-ฟอร์แมลดีไฮด์ พอลิยูรีเทน ยางวัลคาไนซ์ พอลิเมอร์เทอร์มอ เซตส่วนใหญ่มีโครงสร้างแบบร่างแห นิยมนำมาใช้ทำผลิตภัณฑ์หรืออุปกรณ์ที่ต้องการความคงทน ทนความร้อนสูง และบางกรณีมีความยืดหยุ่นและคืนรูปได้ดี เช่น ยาง อย่างไรก็ตามในปัจจุบันได้มีการพัฒนาพอลิเมอร์เทอร์มอ พลาสติกชนิดใหม่ๆที่มีสมบัติเทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับพอลิเมอร์เทอร์มอเซต เพื่อนำมาใช้แทนพอลิเมอร์เทอร์มอ เซต และสามารถทำการรีไซเคิลผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์หลังการใช้ได้ จากกิจกรรมที่ 2 ผลิตภัณฑ์ชนิดใดทำมาจากพอลิเมอร์เทอร์มอพลาสติกและชนิดใดทำมาจากพอลิเมอร์ เทอร์มอเซต ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………….………………………………………………………………………………………………………………………..…………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ตรวจสอบความเข้าใจ 3


19 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………….………………………………………………………………………………………………………………………………….……….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… ………………………………………………………………………………………………………..………………………………………………………. 1. พอลิเมอร์ A B และ C มีมวลโมเลกุลใกล้เคียงกัน สังเคราะห์จากมอนอเมอร์ชนิดเดียวกัน แต่มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างให้ต่างกัน ดังแสดง จากโครงสร้างของพอลิเมอร์ A B และ C พอลิเมอร์ใดมีสมบัติต่อไปนี้ 1.1 จุดหลอมเหลวต่ำที่สุด ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.2 ความหนาแน่นมากที่สุด ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.3 แข็งที่สุด ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.4 เป็นพอลิเมอร์เทอร์มอพลาสติก ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ยางรถยนต์มีองค์ประกอบเป็นยางธรรมชาติที่ผ่านกระบวนการเชื่อมขวาง (crosslink)ระหว่างสายพอลิเมอร์ ยางรถยนต์สามารถนำมารีไซเคิลได้หรือไม่ เพราะเหตุใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ร่วม กัน คิด 2


20 ตรวจสอบความรู้ น าสู่ปั ญญา จากที่นักเรียนได้ศึกษาเนื้อหาเกี่ยวกับพอลิเมอร์ ประเภทของปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ และ ความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างกับสมบัติของพอลิเมอร์มาแล้ว จงเติมข้อความที่ถูกต้องลงไปในตารางข้างล่าง ความเข้าใจคลาดเคลื่อน ความเข้าใจที่ถูกต้อง พอลิเมอร์คือพลาสติกเท่านั้น พลาสติกทำเป็นเส้นใยไม่ได้ พอลิเมอร์ทุกชนิดได้จากการสังเคราะห์ พอลิเมอร์แต่ละชนิดเกิดจากมอนอ เมอร์เพียงชนิดเดียวเท่านั้น พอลิสไตรีนมีโครงสร้างแบบกิ่ง เทอร์มอเซตเป็นสมบัติของพลาสติก ปฏิบัติการ ฝึ กท า : ฝึ กสร้าง ขั้นที่2 สร้าง ความรู้Combination ให้นักเรียนประเมินความเข้าใจของตัวเอง ..........คะแนน


21 นักวิทย์ฯ คิดอย่างมีวิจารณญาณ ให้นักเรียนค้นคว้า ข่าวสาร พลาสติก งานวิจัยสำหรับการใช้พอลิเมอร์ในงานด้านเวชภัณฑ์ ที่นักเรียน สนใจ มา 1 เรื่อง พร้อมระบุแหล่งที่มา ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ขั้นที่3 ซึมซับ ปฏิบัติการ คิดดี ผลงานดี มีความสุข ความรู้Assimlation ข้อมูลที่สืบค้น


22 ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... แหล่งสืบค้นข้อมูล : ....................................................................................................................................................................................... เมื่อวันที่ : .......................................................................................................................................................................................


23 แบบทดสอบหลังเรียน เล่มที่ 1 เรื่อง การเกิดพอลิเมอร์ วิชาเคมี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 5 นาที ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… คำสั่ง 1.ให้นักเรียนเขียนเครื่องหมาย X ลงในข้อที่นักเรียนคิดว่าถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 2.ข้อสอบมีทั้งหมด 10 ข้อให้นักเรียนทำทุกข้อ ใช้เวลาในการทำ 5 นาที ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1. “พอลิไวนิลคลอไรด์เกิดจากโมเลกุลของไวนิลคลอไรด์มาต่อกันด้วยพันธะโคเวเลนต์” จากข้อความดังกล่าว อะไรคือพอลิเมอร์ ก. ไวนิล ข. โคเวเลนต์ ค. ไวนิลคลอไรด์ ง. พอลิไวนิลคลอไรด์ 2. จากข้อ 1 อะไรคือมอนอเมอร์ ก. ไวนิล ข. โคเวเลนต์ ค. ไวนิลคลอไรด์ ง. พอลิไวนิลคลอไรด์ 3. วัสดุหรือสารประเภทใดเป็นพอลิเมอร์สังเคราะห์ ก. ผ้าฝ้าย ข. พลาสติก ค. ยางพารา ง. คาร์โบไฮเดรต 4. วัสดุหรือสารประเภทใดเป็นโคพอลิเมอร์ธรรมชาติ ก. โปรตีน ข. เซลลูโลส ค. ยางพารา ง. คาร์โบไฮเดรต 5. ข้อใดเป็นลักษณะของปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันแบบเติม ก. ได้พอลิเมอร์ที่เสถียร ข. ได้สารโมเลกุลเล็กเป็นผลพลอยได้ ค. มอนอเมอร์มีหมู่ฟังก์ชันมากกว่าหนึ่งหมู่ ง. เกิดปฏิกิริยาบริเวณพันธะคู่ของคาร์บอน 6. ข้อใดเป็นลักษณะของปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันแบบควบแน่น ก. ได้พอลิเมอร์ที่ไม่เสถียร ข. ได้สารโมเลกุลเล็กเป็นผลพลอยได้ ค. มอนอเมอร์มีพันธะคู่ระหว่างคาร์บอน ง. เกิดปฏิกิริยาบริเวณพันธะคู่ของคาร์บอน 7. พอลิเมอร์ใดเกิดจากปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันแบบเติม ก. พอลิเอไมด์ ข. พอลิคาร์บอเนต ค. พอลิไวนิลคลอไรด์ ง. พอลิเอทิลีนเทเรฟทาเลต 8. พอลิเมอร์ใดเกิดจากปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันแบบควบแน่น ก. พอลิเอไมด์ ข. พอลิเอทิลีน ค. พอลิสไตรีน ง. พอลิไวนิลคลอไรด์ 9. พอลิเมอร์ใดมีโครงสร้างแบบเส้น ก. เมลามีน ข. เบกาไลต์ ค. พอลิไวนิลคลอไรด์ ง. พอลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นต่ำ 10. พอลิเมอร์ที่มีพันธะที่เชื่อมระหว่างโซ่หลักจำนวนมากจะมีสมบัติอย่างไร ก. แข็ง ขุ่น และเหนียว ข. แข็ง ไม่ยืดหยุ่น จุดหลอมเหลวสูง ค. ยืดหยุ่น อ่อนตัวเมื่อได้รับความร้อน ง. ยืดหยุ่น ความหนาแน่นและจุดหลอมเหลวต่ำ คะแนนเต็ม 10 คะแนน ได้ ........... คะแนน


24 บรรณานุกรม สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2559).คู่มือครูรายวิชาเพิ่มเติม เคมีเล่ม 5.พิมพ์ ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์สกสค. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2559).หนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม เคมีเล่ม 5. พิมพ์ครั้งที่ 8.กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์สกสค. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2563).คู่มือครูรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีเคมีเล่ม 5.พิมพ์ครั้งที่ 1.กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์สกสค. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2563).หนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีเคมีเล่ม 5.พิมพ์ครั้งที่ 1.กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์สกสค.


Click to View FlipBook Version