The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ประวัติพระบรมครูแพทย์หมอชีวก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Anocha Utumsakulrat, 2021-06-26 23:29:58

ประวัติพระบรมครูแพทย์หมอชีวก

ประวัติพระบรมครูแพทย์หมอชีวก

ประวตั พิ ระบรมครูแพทย์หมอชวี โกโมรรัจั จ์

กำเนดิ ชวี กโกมำรภัจจ์

นางสาลวดี มารดาของหมอชีวกโกมารภัจจ์เป็น
หญิงโสเภณีประจาเมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ นางสาลว
ดีต้ังครรภ์โดยบังเอิญ หากทารกเป็นหญิงจะถูกเลี้ยงไว้
เพ่ือเป็นโสเภณีต่อไป แต่หากเป็นชายจะถูกนาไปทิ้ง
นอกเมือง เมื่อบุตรของนางสาลวดีเป็นชายจึงถูกนาไป
ทิ้งทน่ี อกเมอื ง แต่อภัยราชกุมารพระราชโอรสของพระ
เจ้าพิมพิสารได้มาพบ จึงนาไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม
ตัง้ ชอ่ื ให้ “ชีวก” แปลว่า “ยงั มีชีวิตอยู่” ส่วนคาว่า “โก
มารภจั จ์” แปลว่า “กุมารที่ได้รับการเลี้ยงดู หรือกุมาร
ในราชสานัก” หรือหมายถงึ “บุตรบุญธรรม”

กำเนดิ ชีวกโกมำรภัจจ์

อายุได้ 16 ปี ชวี กโกมารภจั จ์ได้เดินทางไปเมื่องตักกสิลา
เพื่อไปฝากตัวเป็นศิษย์นายแพทย์ทิศาปาโมกข์ ซึ่งตั้งสานักอยู่ที่
เมืองตักกสิลา ชีวกโกมารภัจจ์ เรียนวิชาต่าง ๆ ได้รวดเร็ว เข้าใจ
ได้ดแี ละจดจาไดอ้ ย่างแม่นยา ขณะท่ีคนท่ัวไปใช้เวลาศึกษา 16 ปี
แต่ชีวกโกมารภัจจ์ ใช้เวลาเรียนแค่ 7 ปี และเมื่อชีวกโกมารภัจจ์
เข้าไปหาอาจารย์เพ่ือสอบถามว่า เรียนมาเป็นเวลา 7 ปีเม่ือไรจะ
สาเร็จ อาจารย์ของชวี กโกมารภจั จ์ได้ให้นาเสียมเท่ียวไปรอบเมือง
ตกั กสลิ า ระยะทาง 1 โยชน์ ให้ขดุ ส่ิงที่ไม่ใช่ตัวยา ชีวกโกมารภัจจ์
รับคาอาจารย์ แล้วถือเสียมเดินรอบเมืองตักกสิลาระยะทาง 1
โยชน์ ก็มิเห็นสิ่งท่ีไม่เป็นตัวยา จึงนามาเรียนอาจารย์ ซ่ึงอาจารย์
ได้กล่าวกับชีวกโกมารภัจจ์ วา่ เรยี นสาเรจ็ แลว้

ต้นไม้ใบหญ้ำทุกตน้ และสมนุ ไพรใดๆ ในชมพู
ทวีปทใี่ ช้ทำยำไม่ได้นั้นไมม่ เี ลย ทกุ อยำ่ งเปน็ ยำ

ท้ังน้นั .......

พระบรมครูชีวกโกมำรภัจจ์



หมอชวี โกโมรรัจั จม์ คี ุณธรรมทคี่ วรถอื เป็นแบบอย่รง ดงั น้ี

1. เป็นผู้มีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิสูงย่ิง หมอชีวกโกมารภัจจ์มีความต้ังใจแน่วแน่ตั้งแต่เด็กแล้วว่า
จะศึกษาวิชาการเพ่ือให้เป็นท่ีนับหน้าถือตาของคนอื่น จึงเดินทางไปศึกษาวิชาแพทย์จนสาเร็จสม
ความตั้งใจการที่เขาได้เคลื่อนย้ายสถานภาพจากเด็กกาพร้า กลายมาเป็นนายแพทย์ ผู้เป็นท่ีเคารพ
นับถอื ของคนส่วนใหญ่ในประเทศได้เช่นน้ี เป็นเพราะเขามีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์สูงมาต้ังแต่สมัยยังเด็ก
น้ันเอง

2. เป็นผู้ใฝ่รู้และมีควำมพำกเพียรสูงยิ่ง หมอชีวกโกมารภัจจ์เม่ือต้ังใจจะศึกษาวิชาใด ก็ได้
พยายามหาทางให้ได้เรียนวิชาน้ัน แม้ไม่มีเงินค่าเดินทางก็พยายามตีสนิทกับพวกพ่อค้าต่างเมือง ขอ
อาศัยเดินทางไปยังกรุงตักศิลาแห่งรัฐคันธาระจนได้รวมท้ังได้ใช้แรงงานโดยการอยู่รับใช้งานของ
อาจารย์ แลกกับสิทธิการได้ศกึ ษาเล่าเรียน และตง้ั ใจศกึ ษาวชิ าการจากอาจารย์ด้วยความเคารพและ
อดทน จนกระท่งั สาเรจ็ การศกึ ษา

หมอชวี โกโมรรัจั จม์ คี ุณธรรมทค่ี วรถอื เป็นแบบอย่รง ดงั น้ี

3. เป็นอุบำสกทด่ี ี หมอชวี กโกมารภจั จ์มคี วามเคารพในพระพทุ ธเจ้าและยึดม่ันใน
พระรัตนตรัย โดยสังเกตตัวอย่างได้จากการที่เขาถวายสวนมะม่วงให้เป็นของวัด และได้
สงิ่ ทดี่ ี เช่น ผา้ เนอ้ื ละเอยี ดมาก กน็ ึกถงึ พระพุทธเจา้ และนาไปถวาย

4. เป็นผู้เสียสละอย่ำงย่ิง หมอชีวกโกมารภัจจ์เป็นท้ังแพทย์หลวงแพทย์ประจา
พระองค์ของพระพทุ ธเจ้า ขณะเดยี วกนั ก็ยงั ตอ้ งดแู ลประชาชนอีกด้วย หาเวลาพักผ่อนได้
ยาก

กำรรกั ษำคร้งั สำคญั ของของหมอชวี กโกมำรภจั จ์

1.รกั ษาอาการปวดศรี ษะภรรยาเศรษฐีทเ่ี มอื งสาเกต ซงึ่ เป็นโรค
ปวดศีรษะเร้ือรังอยู่ 7 ปี โดยการปรุงยาและให้การรักษาเพียง
ครัง้ เดียว
2. ถวายการรักษาโรคริดสีดวงทวารหนักพระเจ้าพิมพิสาร ด้วย
การทายาเพียงคร้ังเดียว พระโรคก็หายสนิทเป็นปกติ โดยชีวก
โกมารภัจจป์ ฏเิ สธไมร่ บั ของรางวัลจากพระเจา้ พมิ พสิ าร โดยทูล
ว่า “เป็นหน้าท่ีของข้าพระพุทธเจ้า” พระเจ้าพิมพิสารจึงตรัส
ใ ห้ ชี ว ก โ ก ม า ร ภั จ จ์ ท า ห น้ า ที่ รั ก ษ า พ ร ะ อ ง ค์ พ ร ะ พุ ท ธ เ จ้ า
ตลอดจนพระภิกษุสงฆ์ และข้าราชบริพารฝ่ายใน และ ซึ่งชีวก
โกมารภจั จ์รับสนองพระบรมราชโองการ

3. ผ่าตัดรักษาอาการปวดศีรษะของเศรษฐีชาวพระนครราชคฤห์ ท่ีป่วยเป็น
โรคปวดศีรษะอยู่ 7 ปี

4. ผา่ ตัดรกั ษาโรคเน้ืองอกทีล่ าไส้ เศรษฐบี ุตรชาวพระนครพาราณสใี หห้ าย

5. บาบดั โทษในกายพระผมู้ ีพระภาคเจ้าจากการไม่ถ่าย ด้วยการอบก้านบัว 3
ก้านด้วยยาต่าง ๆ ถวายพระพุทธองค์เพ่ือสูดดม แทนการให้ถวายพระโอสถ
หยาบให้เสวย ซงึ่ พระผมู้ พี ระภาคเจ้าสามารถขบั ถ่ายได้ปกติหลังได้สูดดมก้าน
อบุ ลอบยา

หมอชวี กโกมารภัจจ์ เปน็ บคุ คลสาคญั ระดบั พุทธสาวกท่ี
ได้รบั ยกยอ่ งจากพระพทุ ธเจา้ ว่า “เปน็ เลศิ กวำ่ สำวก

อุบำสกท้งั หลำยทปี่ วงชนรักใคร่”

ประวตั แิ พทยแ์ ผนไทย

❖ ตั้งแตส่ มัยพทุ ธกาล หมอชีวกโกมารภัจจ์แพทย์
❖ สมัยก่อนรตั นโกสินทร์ ตัง้ แต่พระเจา้ ชยั วรมนั ท่ี 7 ไดท้ รงสรา้ ง

สถานพยาบาลเรยี กวา่ อโรคยาศาลา
-สมยั สุโขทัยไดบ้ ันทึกไวว้ า่ พ่อขนุ รามได้ทรงสร้างสวนสมนุ ไพร ขนาด
ใหญ่บนเขาหลวงหรอื เขาสรรพยา
-สมัยอยธุ ยาสมเด็จพระนารายณไ์ ด้รวบรวมตาหรับยา เป็นคร้ังแรกใน
ประวัติศาสตร์การแพทย์แผนโบราณ เรียกว่าตาราพระโอสถพระนารายณ์

❖การแพทย์แผนโบราณในสมัยรตั นโกสินทร์
-สมยั รชั กาลที่ 1 ไดป้ ฏสิ งั ขรณว์ ัดโพธ์ิเป็นพระอารามหลวงให้ช่ือวา่ วัดพระเชตพุ น

วมิ ลมังคลาราม รวบรวมฤาษีดดั ตน จัดตั้งหมอหลวงและหมอเชลยศกั ดิ์
- สมัยรัชกาลท่ี 2 ใหร้ วบรวมตาราและตรากฎหมายช่อื ว่ากฎหมายพนกั งานพระ

โอสถถวาย
- สมยั รชั กาลที่ 3 จัดตงั้ โรงเรียนแพทยแ์ ผนโบราณวัดโพธิเ์ ป็นโรงเรยี นแพทยแ์ ผน

โบราณแหง่ แรก ทรงป้นั รูปฤาษีดดั ตนในทา่ ตา่ งๆ
-สมยั รชั กาลที่ 4 นาการแพทยต์ ะวนั ตกเขา้ มาเช่นการสูตกิ รรมสมัยใหมแ่ ต่ไม่สามารถให้
ประชาชนเปลีย่ นความนิยมไดเ้ พราะการรักษาพยาบาลแผนโบราณของไทย เปน็ จารีต
ประเพณีและวฒั นธรรมสืบเนื่องกนั มาและเป็นสว่ นหนงึ่ ของวิถีชีวิตคนไทย

-สมัยรัชกาลท่ี 5 ได้ มีการพิมพ์ตาราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ เป็นตารา
แห่งชาติฉบับแรก แต่ยากในการศึกษาจึงจัดพิมพ์ตาราข้ึนมาใหม่ ได้แก่ แพทย์
ศาสตร์สงเคราะห์ฉบับหลวง 2 เล่ม และตาราแพทย์ศาสตร์สังเขป 3 เล่ม (เวช
ศึกษา) โดยพระยาพิษณปุ ระสาทเวช

-สมัยรชั กาลท่ี 6 มีการยกเลิกวิชาแพทยแ์ ผนโบราณ
-รัชกาลท่ี 7 ตรากฎหมายเสนาบดี แบ่งการประกอบโรคศิลปะเป็นแผน
ปัจจุบันและแผนโบราณ
-สมัยรัชกาลที่ 9 ปีพ.ศ.2500 จดั ต้ังสมาคมของโรงเรียนแพทย์แผนโบราณที่
วดั โพธิ์ ปี 2525 กอ่ ตงั้ โรงเรยี นอายุรเวทวทิ ยาลัย

ควรมหมรยโรรแพทยแ์ ผนไทย

การแพทย์แผนไทย ความหมาย ตามพ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริม
ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542 หมายถึง กระบวนการทาง
การแพทย์เก่ียวกับการตรวจ วินิจฉัย บาบัด รักษาหรือป้องกันโรค หรือ
การสง่ เสริมฟื้นฟูสุขภาพของมนุษย์หรอื สัตว์ การผดุงครรภ์ การนวดไทย
และให้หมายความรวมถึงการเตรียมการผลิตยาแผนไทย และการ
ประดิษฐ์อปุ กรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ ท้ังนี้โดยอาศัยความรู้หรือ
ตาราทไี่ ด้ถา่ ยทอดและพัฒนาสบื ต่อกนั มา

ควรมสรคญั ของวชิ รชพี แพทยแ์ ผนไทย

องค์ประกอบของวิชาชพี แพทยแ์ ผนไทย ประกอบด้วย ความรู้ ทักษะและประสบการณ์
และคุณธรรมจริยธรรม และจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ จะเห็นว่าผู้ท่ีจะประกอบอาชีพ
ทางด้านแพทย์แผนไทยได้ต้องมีความรู้และประสบการณ์เฉพาะ อาศัยการฝึกฝนหา
ประสบการณจ์ นเกดิ ความชานาญ ความแม่นยาในศาสตร์ของตน ในกรณนี ้ีกค็ ือแพทย์ไทยท่ี
เก่งมีความสามารถ วินิจฉัยและรักษาโรคได้ถูกต้องตามหลักวิชา นอกจากนี้ยังต้องมี
คุณธรรม จริยธรรมกากับ เหมือนเป็นอาภรณ์ของแพทย์ทาให้นอกจากเป็นแพทย์ที่เก่งมี
ความชานาญ ยังเปน็ แพทย์ท่ีดีสมกับวิชาชีพแพทย์ท่ีได้รับการยกย่องและยอมรับของคนใน
สังคมเราสามารถแบ่งระดับความสาคัญของวิชาชีพแพทย์แผนไทย ได้เป็น 4 ระดับคือ
ความสาคัญในระดบั ประเทศ ระดบั สงั คม ระดับวชิ าการ และระดบั ชมุ ชน

อ้รงองิ

สืบค้น จำก https://mgronline.com/dhamma/detail/9570000013029 เมื่อวนั ท่ี 17 สงิ หำคม 2563
สืบค้น จำก https://www.mokkalana.com/2711/ เมอ่ื วนั ท่ี 17 สงิ หำคม 2563


Click to View FlipBook Version