The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชุดที่ 4 เรื่องการเข้าร่วมประชุมวิชาการ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Anocha Utumsakulrat, 2022-10-25 11:26:51

ชุดที่ 4 เรื่องการเข้าร่วมประชุมวิชาการ

ชุดที่ 4 เรื่องการเข้าร่วมประชุมวิชาการ





คำนำ

ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์หน่วยที่ 4 การเข้าร่วมประชุมวิชาการ ตามแนวคิดแบบ
โยนิโสมนสิการ จดั ทำเพ่อื เปน็ เคร่ืองมือในการพฒั นาผลสมั ฤทธิ์ความพงึ พอใจทางการเรียนเคมี
ส่งเสรมิ ความสามารถทางการคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ สำหรบั นกั เรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 6/1-3
โรงเรียนสุวรรณารามวิทยาคม โดยในทกุ กิจกรรมไดจ้ ัดลำดับข้นั ตอนที่เน้นการเพมิ่ พนู
ประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์ นักเรียนจะไดร้ บั การทดสอบกอ่ นเรียน และศกึ ษาเน้ือหาความร้ทู ี่
สง่ เสริมให้นกั เรียนศกึ ษาและสบื ค้น โดยมคี วามร้เู พ่ิมเตมิ นอกเหนือจากในบทเรียน การตอบคำถาม
การทำแบบฝกึ หดั และทำกิจกรรมการทดลองตามข้นั ตอนตลอดจนทำแบบทดสอบหลงั เรยี น เพือ่
ประเมนิ ตนเองหลงั จากการเรียนรู้ในแต่ละกจิ กรรมการเรยี นรู้

ผจู้ ดั ทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ หน่วยที่ 4 การเข้าร่วมประชุม
วิชาการ ตามแนวคิดแบบโยนิโสมนสิการจะทำใหผ้ เู้ รยี นมีความรูแ้ ละความสามารถในการ
สืบคน้ การจัดระบบส่งิ ทเ่ี รียนรู้ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อสรา้ งองค์ความรู้ ได้
เป็นอยา่ งดีสามารถนำความรู้ท่ีได้จากการเรยี นรู้ไปปรบั ใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้ และเปน็
ประโยชน์สำหรับผ้ทู ส่ี นใจใช้เปน็ แนวทาง ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์ได้ต่อไป

นางสาวอโนชา อทุ ุมสกุลรัตน์



สารบัญ

เร่ือง หน้า
คำนำ ก
สารบญั ข
ข้อแนะนำการเรยี นรชู้ ุดกิจกรรมวทิ ยาศาสตร์ ค
โครงสร้างชดุ กจิ กรรมวทิ ยาศาสตร์ ง
แบบทดสอบก่อนเรียน จ
ขั้นที่ 1 การหาความรู้ ปฏิบตั กิ าร ฝึกอา่ น : ฝกึ คดิ 1
1
- การเข้าร่วมประชมุ วิชาการ 2
- การนำเสนอผลงานด้วยการบรรยายในงานประชุมวิชาการ 5
- ประโยชน์ของการเข้าประชุมวิชาการ 6
ขั้นที่ 2 สร้างความรู้ ปฏิบตั กิ าร ฝึกทำ : ฝกึ สร้าง 6
- ฝกึ ทำ : ฝึกสร้างเร่ือง การนำ สบื คน้ ข้อมลู งานประชุมวชิ าการการบรู ณาการ
10
ความรู้ 10
ขน้ั ท่ี 3 ซึมซบั ความรู้ ปฏิบตั กิ าร คดิ ดี ผลงานดี มีความสุข
13
- นกั วิทย์ฯ คิดอย่างมีวจิ ารณญาณ การเข้าร่วมและการสรุปรายงานการเข้า 17
ประชมุ วิชาการ

แบบทดสอบหลังเรียน
บรรณานุกรม



ขอ้ แนะนำการเรียนรู้ชุดกิจกรรมวทิ ยาศาสตร์วิทยาศาสตร์

สำหรับนกั เรยี น
จุดประสงค์ของการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ มุ่งหวังให้นักเรียนเป็นผู้มีความสามารถทางการจัดการความรู้ทาง
วิทยาศาสตร์ 3 ดา้ น ไดแ้ ก่

1. ดา้ นความรู้ ความคดิ
2. ด้านทกั ษะการจัดการความรูท้ างวทิ ยาศาสตร์
3. ดา้ นค่านิยมต่อตนเองเพ่ือสงั คม
ซึ่งนักเรียนจะได้เสริมสร้างความสามารถดังกล่าวดังน้ี 1.การหาความรู้ (Operation) จากกิจกรรมการ
สืบเสาะ ค้นหา กิจกรรมร่วมกันคิด และกิจกรรมร่วมกันค้น 2.การสร้างความรู้ (Combination) เป็นขั้นฝึกการ
วิเคราะห์ประกอบด้วยการฝึกคิดแบบสืบสาวปัจจัยเหตุและแบบแยกแยะส่วนประกอบโดยใช้ ข้อความและ
สถานการณ์ เพื่อพัฒนาตนเอง 3. การซึมซับความรู้ (Assimilation) เป็นขั้นที่ให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าข้อมูลจาก
แหล่งข้อมูลต่าง ๆ เช่น หนังสือ อินเตอร์เน็ต ฝึกคิดอย่างมีวิจารณญาณ ฝึกทักษะการเขียนเพื่อนำเสนอแก้ไข
ปัญหาที่พบ ประกอบการตอบคำถามฝึกการวิเคราะห์จุดเด่น และจุดด้อยของผลงาน ตรวจสอบและปรับปรุงเพื่อ
สร้างชิ้นงานใหม่ต่อไปได้ และข้อเสนอแนะกับผู้อ่านได้ โดยในทุกกิจกรรมได้จัดลำดับขั้นตอนที่เน้นการเพิ่มพูน
ประสบการณท์ างวทิ ยาศาสตร์ เพ่อื เป็นผ้มู ีความสามารถทางการจดั การความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์ ดังนี้
1. อ่าน และทำความเข้าใจในทุกขัน้ ตอนของกจิ กรรมการเรยี นรู้
2.รักและสนใจตนเอง สร้างความรู้สึกที่ดีให้กับตนเอง ว่าตัวเราเป็นผู้มีความสามารถมีศักยภาพอยู่ในตัว
และพรอ้ มทจ่ี ะเรยี นรูท้ กุ สงิ่ ท่ีสร้างสรรค์
3. รสู้ กึ อสิ ระและแสดงออกอยา่ งเตม็ ความสามารถ
4. ฟัง คิด ถาม เขียน ปฏิบัติ อย่างรอบคอบในทุกกิจกรรม ใชเ้ นอื้ ท่ีกระดาษที่จัดไว้สำหรับเขยี นให้เต็ม โดย
ไม่ปลอ่ ยใหเ้ หลอื เปลา่ เพอ่ื ให้เกิดประโยชน์สงู สุดกบั ตนเอง
5. ใช้เวลาในการเรยี นรู้อยา่ งค้มุ ค่า ใช้ทุกๆ นาทีทำให้ตนเองมีความสามารถเพมิ่ มากข้ึน
6. ตระหนักตนเองอยู่เสมอว่าจะเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์เพ่ือนำมาพัฒนาตนเองและพฒั นาสังคม

จดุ เดน่ ของการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ คอื การสร้างคณุ คา่ ท่ดี ีใหก้ บั สังคม
จงึ ขอเชิญชวนนักเรียน มาร่วมกันเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์
ดว้ ยใจรัก และ พฒั นาตนให้เตม็ ขีดความสามารถ

ขอส่งความปรารถนาดีให้แก่นักเรียนทุกคนได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์อย่างมีความสุขพึ่งตนเองได้ และเป็นผู้มี
ความสามารถทางการจัดการความรทู้ างวิทยาศาสตร์เพื่อสงั คม ย่ิงๆ ขึน้ สืบไป



โครงสร้างชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ หน่วยท่ี 4 การเข้าร่วมประชุมวิชาการ

สาระสำคัญ
การสมั มนา การประชมุ วชิ าการ หรือการร่วมแสดงผลงาน สง่ิ ประดิษฐ์ในงานนทิ รรศการเป็นการเปิดโอกาส

ใหผ้ ้มู ีส่วนรว่ มไดแ้ ลกเปลีย่ นความคดิ แสดงทัศนคตติ ่อกรณศี ึกษา สถานการณ์หรอื ประเด็นสำคญั ทางเคมีซึ่งชว่ ย
ส่งเสรมิ ให้พฒั นากระบวนการคดิ ทักษะการสอ่ื สารทกั ษะการใช้เทคโนโลยเี พื่อการค้นคว้าและการส่ือสาร ซ่งึ
สามารถทำได้หลายระดับ โดยอาจเปน็ ระดับชน้ั เรียน โรงเรียน กลมุ่ โรงเรียนชุมชน ระดบั ชาตหิ รอื นานาชาติ

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายรูปแบบและความสำคญั ของการประชมุ วิชาการ (K)
2. จัดทำรายงานสรุปการประชมุ วิชาการ(P)
3. เหน็ คณุ ค่าทางวทิ ยาศาสตร์ ตง้ั ใจเรยี นร้แู ละแสวงหาความรู้ (A)

การจดั กระบวนการเรียนร้ใู ชร้ ูปแบบการจัดการความรทู้ างวิทยาศาสตร์ มี 3 ขนั้ คือ
1. การหาความรู้ (Operation)
2. การสร้างความรู้ (Combination)
3. การซมึ ซบั ความรู้ (Assimilation)
เวลาทีใ่ ช้ 3 ชั่วโมง

การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
นักเรียนประเมินผลตนเองโดยใช้แบบประเมนิ ผลตนเองก่อนเรยี น-หลงั เรยี น



แบบทดสอบก่อนเรยี น

หนว่ ยที่ 4 เรอื่ งการเข้าร่วมประชุมวิชาการ วิชาเคมี
เวลา 20 นาที
ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรียนท่ี 2

คำชแ้ี จง
1. แบบทดสอบฉบบั นี้เป็นแบบปรนยั เลอื กตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ขอ้ ใชเ้ วลาในการสอบ 20 นาที
2. ใหน้ ักเรยี นเลือกคำตอบท่ีถูกต้องทีส่ ุดเพยี งคำตอบเดียว แล้วทำเคร่ืองหมาย × ลงในกระดาษคำตอบ

1. การประชมุ หมายถงึ

ก. บุคคลมารวมกันโดยมิไดน้ ัดหมายหารอื กนั

ข. บคุ คลต้ังแต่ 2 คนข้นึ ไปรวมกันทำกจิ กรรมท่มี เี ป้าหมายชดั เจน

ค. บุคคลกลุ่มหน่งึ รว่ มปรึกษาหารือในกิจกรรมหน่งึ วัตถปุ ระสงค์คอื การแลกเปลย่ี นเรยี นรู้

ง. บคุ คล 2 คนขึ้นไปมาพบกันตามนดั หมายเพ่ือคดิ วิเคราะห์ เพื่อประโยชน์ขององค์กรตามระบอบ

ประชาธิปไตย

2. ข้อดขี องเทคนคิ การฝกึ อบรมทางการประชมุ ทางวิชาการ

ก. ได้เนื้อหาตามท่ีกำหนดครบถ้วน ข. ไดค้ วามรู้จากวิทยากรหลายคน หลายด้าน

ค. เกิดความรูค้ วามเขา้ ใจ ง. เพ่ิมทกั ษะการฝึกอบรมไดด้ ี ไมเ่ บื่อหนา่ ย

3. เพราะเหตใุ ดจงึ กลา่ ววา่ การประชุมมปี ระโยชน์อย่างมากตอ่ การทำงานเปน็ ทมี

ก. ช่วยให้เกดิ ความความคิดร่วมกนั ข. ช่วยใหเ้ กดิ ความผกู พนั

ค. เปน็ การรวบรวมขอ้ มลู ง. ถูกทงั้ 3 ข้อที่กลา่ วมา

4. ข้อใดกล่าวถูกต้องเก่ียวกับการนำเสนอ

ก. การนำเสนอข้อมูลเป็นการสอ่ื สารระหว่างผพู้ ดู กับผู้ฟงั

ข. การนำเสนอที่ดีตอ้ งมผี รู้ บั ฟังไม่นอ้ ยกว่า 10 คน

ค. ส่ือประสม คือ การนำส่ือหลาย ๆ ประเภทมารวมกนั

ง. โปรเจคเตอรเ์ ปน็ อปุ กรณ์ทจ่ี ำเปน็ ในการนำเสนอข้อมูล

5. ข้อใดมบี ทบาทในการนำเสนองานมากที่สุด

ก. ส่อื ข. งาน

ค. ผู้รบั ข้อมลู ง. ผู้นำเสนองาน

6. ข้อใด ไมใ่ ช่ องค์ประกอบในการนำเสนอ

ก. คำถาม ข. ผนู้ ำเสนอ

ค. ผู้รับข้อมูล ง. โพรโทคอล

7. ขอ้ ใดคือวตั ถุประสงค์ของการบรรยายสรปุ

ก. เพือ่ ใหผ้ รู้ บั ข้อมูลแสดงความเหน็ ชอบ ข. เพอ่ื ให้ผูร้ บั ข้อมลู ปฏิบัตติ ามส่งิ ทนี่ ำเสนอ

ค. เพอ่ื ให้ผู้รบั ขอ้ มูลคล้อยตามในสง่ิ ท่นี ำเสนอ ง.เพอ่ื ใหผ้ รู้ บั ข้อมูลมีพฤติกรรมท่ีเปล่ยี นแปลง

8. กราฟเหมาะกบั การนำเสนอข้อมลู ประเภทใด

ก. รปู ภาพ ข. ตัวอักษร



ค. ตวั เลข ง. เสยี ง

9. ขอ้ ใดถูกต้องเกี่ยวกับการใชร้ ูปภาพประกอบการนำเสนองาน

ก. เลือกรปู ภาพใหญ่เกือบเต็มจอแต่ไม่เต็มจอ ข. เลอื กรปู ภาพท่ีไม่ได้รับอนุญาต

ค. ขยายรปู ภาพใหม้ ีขนาดใหญ่ ง. เลอื กรปู ภาพทเ่ี หมาะกับเน้ือหา

10. บคุ ลกิ ภาพขณะนำเสนอที่ควรทำคือข้อใด

ก. ควรสบตาให้ท่ัวถงึ ข. ใช้เสียงให้ดังจะได้ฟงั ชัด

ค. แต่งกายสบาย ๆ แต่ต้องสะอาด ง. ใช้ภาษาไทยและภาษาอังกฤษเทา่ น้นั

11. ข้อใดคอื บุคลิกภาพของผู้นำเสนอทีป่ ระสบความสำเร็จ

ก. มคี วามเช่อื มั่นในตนเอง ข. มีภาพลกั ษณท์ ด่ี ี

ค. มคี วามรอู้ ยา่ งถ่องแท้ ง. ถูกทุกข้อ

12. ข้อใดไมใ่ ชว่ ตั ถปุ ระสงค์ในการนำเสนอข้อมูล

ก. เพือ่ ใหผ้ รู้ ับการนำเสนอข้อมลู ไดร้ ับความรจู้ ากข้อมูลท่ีนำเสนอ

ข. เพือ่ ใหผ้ รู้ ับการนำเสนอขอ้ มูลรบั ทราบความคดิ เห็น

ค. เพื่อบรรยายข้อมลู ทางด้านวชิ าการ

ง. เพ่อื เผยแพรป่ ระชาสัมพนั ธ์

13. การกำหนดขนาดตัวอักษรเนือ้ หาภาษาไทยควรใช้ขนาดเทา่ ใด

ก. 16-20 พอยต์ ข. 21-35 พอยต์

ค. 36-50 พอยต์ ง. 51-53 พอยต์

14. ข้อใดหมายถึงส่ิงทไี่ มค่ วรทำในการออกแบบ

ก. อย่าใส่ข้อความจำนวนมาก

ข. อย่าใสร่ ูปภาพมากหรือพื้นหลังเป็นภาพทีไ่ ม่ชัด ทำให้อ่านยาก

ค. แสดงตารางขนาดเลก็

ง. ถูกทั้งข้อ ก. และขอ้ ข.

15. หลกั การใช้แบบอักษรจดั ทำสไลด์ทีถ่ ูกต้อง

ก. ไม่ใชอ้ ักษรมากกวา่ 2 แบบในสไลดเ์ รื่องหน่ึง ข. ควรใช้อกั ษรมากกวา่ 3 แบบในสไลด์เรอ่ื งหน่ึง

ค. ควรใชเ้ ฉพาะตัวหนาหรอื ตัวเอนแทน ง. ถูกทง้ั ข้อ ก. และขอ้ ค.

16. การเตรยี มการนาํ เสนอจริงหมายถงึ ข้อใด

ก. การใสเ่ ทคนิคการเปลีย่ นแผน่ สไลด์ ข. การพมิ พ์เอกสารประกอบการบรรยาย

ค. เทคนิคการเปลีย่ นแผน่ สไลด์ ง. ตอ้ งซอ้ มการพดู

17. ขอ้ ใดคือหลักการเพม่ิ ความน่าสนใจในการนําเสนอ

ก. แบบอกั ษร ข. การใส่เทคนิคการเปลี่ยนแผ่นสไลด์

ค. กำหนดหวั ข้อต่างๆ ง. ศกึ ษากลุ่มผ้ฟู ัง

18. ข้อใด ไมใ่ ช่ การออกแบบพนื้ หลงั สไลด์

ก. เรียบง่าย มองสบายตา ข. เนน้ ทีต่ วั ขอ้ ความเปน็ สำคัญ

ค. หลีกเล่ยี งการใช้สแี วววาว ง. ชนดิ ของแผ่นสไลด์



19. ข้อใดไมจ่ ำเปน็ ต้องปรากฏบนโปสเตอรน์ ำเสนอโครงงาน

ก. บทคดั ยอ่ ข. วิธดี ำเนินการ

ค. ผลการวิจัย ง. การอภิปรายผล

20. สิง่ ทตี่ อ้ งกำหนดและวางแผนกอ่ นการออกแบบโปสเตอร์ คืออะไร

ก. องคป์ ระกอบการจัดวาง ข. การกำหนดขนาดและรูปแบบของโปสเตอร์

ค. การกำหนดกระดาษ ง. รูปแบบปกของโปสเตอร์

21. ข้อใดเตรียมการนำเสนอได้ถกู ต้อง

ก. สรปุ ประเดน็ วิเคราะห์เน้ือหา ศกึ ษาข้อมูล วางแผนการนำเสนอ

ข. กำหนดวิธีการนำเสนอ วางแผนการนำเสนอ ศกึ ษาข้อมูล เตรยี มวัสดอุ ุปกรณ์

ค. ศกึ ษาข้อมูล วางแผนการนำเสนอ เตรยี มวัสดุอุปกรณ์ เตรียมสถานท่ี

ง. วางแผนการนำเสนอ ศึกษาขอ้ มลู สรปุ ประเดน็ เตรียมวัสดอุ ุปกรณ์22. ข้อใดถูกตอ้ ง

23. ข้อมลู วิธกี ารทดลอง ควรจัดทำข้อมูลในรูปแบบใดเพ่ือความเหมาะสม

ก. แผนภาพ ข. แผนภมู ิ

ค. กราฟ ง. ตาราง

24. ข้อใดเป็นจุดประสงคห์ ลกั ของการนำเสนอและเผยแพร่ผลงาน

ก. เพ่อื ป้องกนั ไม่ให้ผอู้ ่ืนเลียนแบบผลงานของตน

ข. เพือ่ เป็นเกยี รตติ ่ออาจารย์ท่ปี รึกษา

ค. เพอ่ื ปฏิบตั ติ ามกฎหมายลขิ สทิ ธิเ์ ก่ียวกับการทำผลงาน

ง. เพือ่ ใหผ้ อู้ ่ืนนำผลงานดงั กล่าวไปพัฒนาและใช้ในชีวิตประจำวนั

25. ขอ้ ใดกล่าวถูกต้อง

ก. การใชต้ วั อกั ษรที่เล็กลงจะทำให้ใส่เนอื้ หาลงในโปสเตอร์ได้มากข้ึน

ข. การใช้สพี น้ื หลงั ฟา้ ควรใช้ตวั อกั ษรสีเขยี ว

ค. การนำเสนอโปสเตอรเ์ ป็นการนำเสนอจากสง่ิ ท่เี ราทำจงึ ไมจ่ ำเป็นต้องซักซ้อม

ง. การจัดเรยี งเนอ้ื หาในโปสเตอร์ควรมีลักษณะเปน็ การเล่าเรือ่ ง

26. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ข้อพงึ ระวงั ที่ทำให้การนำเสนอดอ้ ยประสิทธิภาพ

ก. ความลังเล ข. พูดงมึ งำ

ค. ระดบั เสียง ง. ใชค้ ำพดู และประโยคสั้นงา่ ย ๆ

27. ผู้นำเสนอควรยืนห่างจากแท่นพดู โดยประมาณเทา่ ไร

ก. ประมาณ 1 เมตร ข. ประมาณ 0.5 เมตร

ค. ประมาณ 1 คืบ ง. ประมาณ 1 ศอก

28. จังหวะทด่ี ีในการพูดคอื ข้อใด

ก. เป็นเสียงทีม่ ลี ักษณะสงู ต่ำ หนัก เบา ข. เสยี งเหมาะกบั ตำแหน่งการงาน

ค. ไม่รัวหรอื ลัดคำ ง. พดู ดว้ ยความรสู้ ึกทีจ่ รงิ ใจ

29. ข้อใด ไมใ่ ช่ หลกั การพื้นฐานของการนำเสนอข้อมูล

ก. การดงึ ดูดความสนใจ ข. เน้นการนำเสนอข้อมูลดว้ ยขอ้ ความ



ค. ความเหมาะสมกบั กลุ่มเปา้ หมาย ง. ความชดั เจนและความกระชับของเนื้อหา

30. ข้อใดคือความหมายของการนำเสนอขอ้ มลู

ก. การสรปุ ข้อมูล

ข. การวางโครงร่างไสลด์

ค. การบรรยายข้อมูลท่ีต้องการสือ่ สารใหผ้ ฟู้ งั ได้รบั รู้

ง. การสรา้ งงานนำเสนอโดยใชโ้ ปรแกรมคอมพวิ เตอร์

คะแนนเต็ม 10 คะแนน
ได้ ........... คะแนน

1

เล่มที่ 4 การเข้ารว่ มประชุมวชิ าการ

เวลา 3 ชว่ั โมง

ขน้ั ท่ี 1 การหาความรู้ ปฏบิ ตั กิ าร ฝึกอา่ น : ฝึกคดิ
Operation

การสัมมนา การประชุมวิชาการ หรือการร่วมแสดงผลงานสิ่งประดิษฐ์ในงานนิทรรศการเป็นการเปิด
โอกาสให้ผู้มีส่วนร่วมได้แลกเปล่ียนความคิด แสดงทัศนคติต่อกรณีศึกษา สถานการณ์หรือประเด็นสำคัญทางเคมีซึง่
ช่วยส่งเสริมให้พัฒนากระบวนการคิด ทักษะการสื่อสารทักษะการใช้เทคโนโลยีเพื่อการค้นคว้าและการสื่อสาร ซ่ึง
สามารถทำได้หลายระดบั โดยอาจเป็นระดับชัน้ เรยี น โรงเรยี น กลมุ่ โรงเรียนชมุ ชน ระดับชาตหิ รือนานาชาติ

การเข้ารว่ มประชมุ วชิ าการ

การประชุมวิชาการหรือการประชุมทางวิทยาศาสตร์ (เช่นการประชุมสัมมนา , การประชุมเชิงปฏิบัติการ
หรือการประชุม ) เป็นเหตุการณ์สำหรับนักวิจัย (ไม่จำเป็นต้องนักวิชาการ ) เพื่อนำเสนอและหารือเกี่ยวกับการ
ทำงานของพวกเขา ร่วมกับวารสารทางวิชาการหรือวิทยาศาสตร์ เป็นช่องทางสำคัญสำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูล
ระหว่างนักวิจัย

การนำเสนอทเี่ กีย่ วข้องกับวิชาเคมี
ส่วนใหญเ่ ปน็ งานในลกั ษณะใดบา้ ง

……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………

เพราะเหตุใด?? จึงต้องเขา้ รว่ ม ……………………………………………………
ประชมุ วิชาการ ……………………………………………………
…………………………………………….………

หรือจะกลา่ วไดว้ า่ ประชมุ ทางวชิ าการหรือวชิ าชีพ คอื การประชุมของนกั วิชาการ หรือ นกั วชิ าชีพ จดั งานอยา่ งเปน็
ทางการ เพอื่ นำเสนอผลงาน , วิจยั , ดว้ ยวิธปี าฐกถา , ปฏบิ ตั ิการ รวมทัง้ ดว้ ยวิธีอ่ืนๆอกี มากมาย

2

ก่อนเขา้ ร่วมการประชุมวชิ าการเพ่อื นำเสนอผลงานผเู้ ขา้ รว่ มจะต้องเตรยี มความพร้อมดังน้ี

1. จัดทำข้อมูลทีจ่ ะนำเสนอ
2. ใช้ความคิดสรา้ งสรรค์
3. ใชเ้ ทคโนโลยใี นการนำเสนอ
4. ฝกึ ทกั ษะการสอื่ สาร
5. ฝกึ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

ในปจั จบุ นั มีงานประชุมวชิ าการในรูปแบบออนไลน์ซึง่ สามารถนำเสนอหรอื เข้าฟงั ออนไลนไ์ ด้ ซึ่งจะต้องเตรยี ม
ความพร้อมดังนี้

1. ศึกษาขอ้ มลู รายละอยั ดของการประชมุ
2. ฝกึ ใชโ้ ปรแกรมหรอื แอปพิเคลชนั สำหรบั การเข้ารว่ มประชมุ

การนำเสนอผลงานด้วยการบรรยาย
ในงานประชุมวชิ าการ

การนำเสนอด้วยการบรรยายเป็นการนำเสนอผลงานในรูปแบบที่ผู้นำเสนอใช้วาจาและสื่อประกอบในการ
ถา่ ยทอดข้อมูลหากนำเสนอได้ดจี ะสามารถดงึ ดดู ความสนใจและสร้างความจดจำได้ซงึ่ ในการประชมุ วชิ าการจะมีการ
เปิดโอกาสให้มีการซักถามหลังการบรรยายด้วยเนื้อหาการบรรยายควรปรับให้เหมาะสมกั บกลุ่มผู้ฟังและอยู่ใน
ระยะเวลาท่ีกำหนดโดยมีข้อควรคำนึงถึงดังตอ่ ไปนี้

การจัดเตรียมเน้ือหาและสื่อประกอบ

1. ศกึ ษารายละเอยี ดและข้อกำหนดของแต่ละเวทีการนำเสนอ เช่น กลมุ่ ผ้ฟู ังระยะเวลาในการนำเสนอ
2. เตรียมข้อมูลและเนื้อหาซึ่งประกอบด้วย ความเป็นมาและความสำคัญ ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

วัตถุประสงค์ กระบวนการหรือวิธีดำเนินการ ผลการดำเนินการ การวิเคราะห์และการอภิปรายผล และการ
สรปุ ผล
3. เตรยี มสไลดโ์ ดยจัดสรรจำนวนสไลด์หรือเวลาท่ีนำเสนอให้เหมาะสมกับความสำคญั ของแต่ละเนื้อหา เช่น ควรมี
เนื้อหาในส่วนของผลการดำเนินการ การวิเคราะห์และการอภิปรายผล มากกว่าเนื้อหาในส่วนของความเป็นมา
และความสำคัญ ทฤษฎีและงานวิจัยท่ีเกี่ยวข้อง และวตั ถุประสงค์ นอกจากน้คี วรเตรียมสไลด์นำท่ีแสดงชื่อเรื่อง
ผู้นำเสนอ รวมท้งั สไลดป์ ดิ ทกี่ ลา่ วขอบคุณหรอื กติ ติกรรมประกาศด้วย
4. ควรนำเสนอความคิดหลักเพยี งประเด็นเดยี วในแต่ละสไลด์ ไม่ควรมีข้อความหรือภาพแน่นเกนิ ไป และควรมีเลข
ระบุลำดบั สไลด์

3

5. ใช้แผนภูมิ แผนภาพ ตาราง หรือรูปภาพ ท่สี อ่ื ความหมายได้ถูกต้อง ชดั เจน และนา่ สนใจ มขี นาดที่เหมาะสมไม่
ใหญ่หรือเลก็ จนเกินไป ส่วนขอ้ ความให้แสดงเฉพาะข้อความสำคัญ

6. ใช้ตวั อกั ษรที่เหมาะสมทีผ่ ู้ฟงั ทกุ คนสามารถมองเห็นได้ชดั เจนและอา่ นไดง้ ่าย ไมค่ วรใช้รูปแบบของตัวอักษรมาก
เกนิ กว่า 2 รูปแบบสำหรับขอ้ ความภาษาอังกฤษ หลีกเลี่ยงการใชต้ วั พมิ พ์ใหญท่ ัง้ หมด ควรใช้ตวั พิมพใ์ หญ่เฉพาะ
พยัญชนะแรกของคำ

7. ใช้โทนสีของพื้นหลังที่ช่วยให้ผู้ฟังมองเห็นตัวอักษรและภาพได้อย่างชัดเจนและสบายตาและไม่ควรใช้พื้นหลัง
หลายรูปแบบ

8. กำหนดจำนวนสไลด์ทั้งหมดให้เหมาะสมกับเวลา ไม่ควรมีมากเกินไป เช่น การนำเสนอ 10 นาที ควรมีไซส์
ประมาณ 10-15 สไลด์ เนอื่ งจากผฟู้ ังสว่ นใหญ่มีความ สนใจและสามารถทำความเข้าใจกับเนื้อหาในแต่ละสไลด์
ในช่วงเวลาประมาณ 40 - 60 วินาที

9. หลกี เล่ยี งการใชภ้ าพเคลอื่ นไหวที่ไม่เกย่ี วข้องกับเน้ือหาที่อาจทำให้ผูฟ้ ังขาดความสนใจ หรือเสยี สมาธิ แต่ควรใช้
ภาพเคลื่อนไหวท่ีส่งเสรมิ การนำเสนอใหเ้ ขา้ ใจงา่ ยข้นึ

10. ตรวจสอบการสะกดคำ การใช้เครอ่ื งหมายรวมทงั้ การเวน้ วรรคให้ถูกต้อง

ตัวอย่างสไลด์ท่ไี มเ่ หมาะสมและท่ีปรบั ปรุงใหเ้ หมาะสม ดงั รูป

ก) สไลดด์ ้านขวาสรุปเป็นแผนภาพท่ีเหน็ ลำดับข้ันไดช้ ัดเจนกวา่ สไลด์ด้านซ้ายซึ่งเป็นข้อความบรรยาย

4

ข) สไลดด์ า้ นขวาเลือกสีตวั อักษรท่แี ตกต่างจากสพี ืน้ หลงั ทำให้มองเหน็ อักษรชัดเจนกว่าสไลด์ดา้ นซา้ ย

ค) สไลด์ด้านขวาแสดงเน้อื หาทส่ี ำคญั ทำใหข้ ้อความน้อยลงจึงใชต้ ัวอักษรใหญข่ น้ึ ไดแ้ ละเห็นชดั เจนกว่า
สไลด์ดา้ นซา้ ย
ง) สไลด์ดา้ นขวาแสดงเฉพาะขอ้ มลู ท่สี ำคัญซ่ึงเป็นคา่ ของตัวแปรตน้ และตัวแปรตามไว้ในตารางและแสดง
ขอ้ มูลเกย่ี วกับตวั แปรทต่ี ้องควบคมุ ให้คงท่ไี วน้ อกตารางทำใหผ้ ู้ฟงั พจิ ารณาข้อมลู ได้งา่ ยกว่าสไลด์ด้านซา้ ย

ง) สไลดด์ า้ นขวาแสดงเฉพาะขอ้ มลู ทีส่ ำคัญซ่งึ เป็นคา่ ของตัวแปรต้นและตวั แปรตามไวใ้ นตารางและแสดง
ข้อมลู เก่ียวกบั ตัวแปรทต่ี ้องควบคมุ ให้คงที่ไวน้ อกตารางทำใหผ้ ู้ฟงั พิจารณาข้อมลู ไดง้ ่ายกว่าสไลด์ด้านซ้าย

รูป 1 ตัวอยา่ งสไลด์ทีไ่ มเ่ หมาะสมและท่ีปรับปรงุ ใหเ้ หมาะสม
ท่มี า หนงั สอื เรยี นรายวชิ าเพ่ิมเตมิ วทิ ยาศาสตรเ์ คมี เล่ม 2 สสวท

การพูดนำเสนอ

1. ควรมีการซักซ้อมก่อนการนำเสนอจนมั่นใจว่าสามารถบรรยายเนื้อหาได้อย่างถูกต้องครบถ้วนภายใน
ระยะเวลาท่กี ำหนด

2. พดู ออกเสยี งให้ชัดไมช่ ้าหรือเรว็ เกินไปเวน้ วรรคตอนและจงั หวะใหฟ้ ังง่ายเพ่ือใหผ้ ู้ฟังสามารถรับข้อมูลที่
ต้องการสื่อสารได้อย่างถูกต้องไม่ควรพูดโทนเสียงที่ราบเรี ยบแต่ควรเน้นเสียงหนักในส่วนที่เป็น
สาระสำคญั หรือจุดสำคัญเพอื่ ให้นา่ สนใจ

3. สบตาผู้พดู อยา่ งทั่วถึงระหว่างการนำเสนอไม่อ่านสไลดห์ รอื บทพดู
4. วางท่าทางด้วยบุคลิกที่แสดงความมั่นใจเป็นมิตรมีการชี้สไลด์ด้วยอุปกรณ์และอาจใช้ท่าทาง

ประกอบการบรรยายเช่นการบอกทิศทางขนาดรปู ร่างจำนวน
5. แตง่ กายให้เรยี บร้อยและเหมาะสมกับกาละเทศะ

5

ในการนำเสนอจะแบ่งช่วงการนำเสนอออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนนำเรือ่ ง ส่วนเนื้อหา และสว่ นทา้ ยเรื่อง
1. สว่ นนำเร่อื ง (10%) ส่วนเปิดรายการเพื่อแนะนำตนเอง บอกหัวเร่อื ง หัวข้อที่จะบรรยาย
ประกอบดว้ ย
• การกลา่ วทักทาย และสร้างความสมั พนั ธ์กบั ผูร้ บั ฟงั
• เชอ่ื มโยงเรื่องที่จะนำเสนอก่อน หรือแนะนำประเดน็ /หวั ข้อสำคญั เรอ่ื งทจ่ี ะนำเสนอ
• กระตุน้ หรือเรา้ ความสนใจของผรู้ ับฟังตัง้ แตห่ นา้ แรกของการนำเสนอ
2. สว่ นเนอื้ หา (75%) เป็นส่วนหลักของการนำเสนอ ซงึ่ ควรดำเนินไปอย่างต่อเน่ืองตามหัวขอ้ ที่
กำหนดไว้ มรี ายละเอยี ดดังน้ี
• นำเสนอตามลำดบั เรื่องทไี่ ดเ้ ตรยี มการไว้
• อธิบาย ยกตัวอย่างประกอบ ย้ำประเดน็ สำคัญ
• ตลอดระยะเวลาการนำเสนอต้องสรา้ งความสมั พนั ธท์ ีด่ ีกับผูร้ บั ฟัง
• ประเมนิ หรือสังเกตปฏกิ ิรยิ าของผู้รับฟัง และตรวจสอบความเข้าใจ
• บรรยายหรอื น าเสนออย่างมีสติ ควบคมุ บรรยากาศของการนำเสนอใหอ้ ยู่ในเนอ้ื หา
• เชื่อมโยงสาระ เนื้อหาระหว่างหัวข้อให้สมั พนั ธ์และสอดคล้องกนั
• เปดิ ประเด็นหรือเปดิ โอกาสใหม้ กี ารซักถามในหัวขอ้ สำคญั หรอื เม่ือมคี นถาม
3. สว่ นทา้ ยเรื่อง (15%) ส่วนปิดทา้ ยเรื่องเปน็ การสรุปเนื้อหา ตอบข้อซักถาม ให้คำแนะนำ
• ตรวจสอบความเข้าใจของผู้รับฟงั อีกครัง้
• สรปุ ประเดน็ เคา้ โครงหรือภาพรวมของเรื่องทีน่ ำเสนอ
• เนน้ ย้ำประเดน็ หรอื สาระสำคัญหรือสิง่ ที่เป็นหวั ใจของเรื่อง
• เช่อื มโยง ฝากข้อคดิ สร้างความสมั พนั ธ์ แนะนำการนำไปพฒั นาหรือนำไปบูรณาการ
• ควบคมุ เวลา และพยายามจบให้ตรงเวลา

ประโยชนข์ องการเข้าประชุมวชิ าการ

1. ไดฝ้ ึกจัดทำข้อมลู ท่จี ะนำเสนอ
2. ไดใ้ ช้ความคดิ สรา้ งสรรค์
3. ไดฝ้ ึกใชเ้ ทคโนโลยีในการนำเสนอ
4. ไดฝ้ กึ ทักษะการส่ือสาร
5. ไดฝ้ ึกการแกป้ ัญหาเฉพาะหน้า
6. มจี ติ วิทยาศาสตร์ด้านการใจกว้าง และยอมรับฟงั ความเหน็ ต่าง

6

เรือ่ ง สืบคน้ ข้อมูลงานประชุมวิชาการ
จุดประสงค์ของกจิ กรรม

สืบคน้ ขอ้ มลู งานประชุมวิชาการทางเคมี วิทยาศาสตร์ หรือเทคโนโลยที ี่เก่ียวข้อง
วธิ ที ำกิจกรรม

ให้นักเรยี นสบื ค้นข้อมูลลว่ งหนา้ แลว้ นำเสนอสิ่งทีไ่ ด้จากการสบื ค้นในหอ้ งเรยี น

ผลการสืบค้น
ชอื่ งานประชุม

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ชอ่ื หัวข้อหลกั (theme)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ช่วงเวลาทจี่ ัดงาน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
สถานที่จัดงาน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
หน่วยงานหลกั ทจ่ี ัด
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

7

รปู แบบของกจิ กรรม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ชื่องานประชุม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ชื่อหัวข้อหลัก (theme)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ชว่ งเวลาท่ีจัดงาน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

สถานทจ่ี ัดงาน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

หน่วยงานหลกั ที่จัด
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

รปู แบบของกิจกรรม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

8

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ชื่องานประชุม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ชื่อหัวข้อหลัก (theme)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ช่วงเวลาทจี่ ัดงาน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

สถานทจี่ ัดงาน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

หน่วยงานหลักทจ่ี ดั
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

รูปแบบของกจิ กรรม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

9

เกณฑ์การให้คะแนนสืบคน้ ข้อมลู งานประชุมวิชาการ

สง่ิ ทตี่ ้องการประเมิน เกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั
เนอ้ื หาของรายงาน คุณภาพ
มขี อ้ มูลงานประชมุ วชิ าการอย่างน้อย 2 การประชุมและมี
การสง่ รายงาน เน้ือหาครบตามหัวขอ้ ทก่ี ำหนด ดี
มขี ้อมูลงานประชุมวชิ าการอย่างนอ้ ย 2 การประชมุ แต่มี
เนอ้ื หาไมค่ รบตามหวั ขอ้ ท่ีกำหนด พอใช้
มขี อ้ มลู งานประชุมวชิ าการเพียง 1 การประชุม และมีเนื้อหา
ไมค่ รบตามหวั ขอ้ ทก่ี ำหนด ตอ้ งปรบั ปรุง
สง่ ทนั ตามกำหนดเวลา
สง่ ไมท่ นั ตามกำหนดเวลา ดี
ตอ้ งปรบั ปรงุ

10

นักวทิ ย์ฯ คดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ

ขัน้ ท่ี 3 ซึมซบั ความรู้ ปฏบิ ัติการ คดิ ดี ผลงานดี มคี วามสขุ
Assimlation

กิจกรรม การเข้ารว่ มและการสรุปรายงานการเข้าประชมุ วิชาการ
จดุ ประสงค์ของกจิ กรรม
1. เข้าร่วมการประชมุ วชิ าการ
2. จดั ทำสรุปรายงานการเข้าร่วมประชุมวชิ าการ
วิธกี ารทำกจิ กรรม

ให้นักเรียนเขา้ ร่วมประชุมวิชาการทจี่ ดั ข้ึนโดยหนว่ ยงานต่าง ๆ หรอื ครูจัดการประชมุ วิชาการในระดับช้นั
เรียน โรงเรยี น หรอื กลมุ่ โรงเรยี น เพ่อื ให้นักเรียนทุกคนไดม้ ีประสบการณ์การเข้ารว่ มประชมุ วิชาการ

ภาพถ่าย (ระบุวนั เวลาทเ่ี ขา้ ร่วม)

บนั ทึกความร้เู กี่ยวกับขอ้ ควรปฏบิ ตั ใิ นการเข้ารว่ มประชุมวิชาการ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

11

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

12

เกณฑ์การให้คะแนนรายงานผลการเข้ารว่ มประชุมวิชาการจากกจิ กรรม

สงิ่ ท่ีต้องการประเมนิ เกณฑ์การประเมิน ระดบั
คณุ ภาพ
องค์ประกอบและเนื้อหา รายงานขอ้ มลู ครบตามหวั ขอ้ ท่ีกำหนดและหวั ข้อรายงานมี
ของรายงาน ประเดน็ สำคญั ครบถว้ น ดี

การส่งรายงาน รายงานข้อมลู ครบตามหัวขอ้ ทีก่ ำหนดแต่บางหวั ขอ้ ขาด พอใช้
ประเด็นสำคญั
ตอ้ งปรบั ปรุง
รายงานข้อมลู ไม่ครบตามหวั ข้อทกี่ ำหนดและหัวข้อรายงาน
สว่ นใหญ่ขาดประเดน็ สำคัญ ดี
ตอ้ งปรบั ปรงุ
ส่งทนั ตามกำหนดเวลา

ส่งไม่ทันตามกำหนดเวลา

13

แบบทดสอบหลงั เรียน

หนว่ ยท่ี 4 เร่อื งการเข้าร่วมประชุมวิชาการ วิชาเคมี
เวลา 20 นาที
ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่ 2

คำชีแ้ จง
1. แบบทดสอบฉบับนี้เป็นแบบปรนัยเลอื กตอบ 4 ตวั เลอื ก จำนวน 30 ข้อใช้เวลาในการสอบ 20 นาที
2. ให้นักเรียนเลือกคำตอบทถ่ี ูกต้องทีส่ ุดเพยี งคำตอบเดยี ว แล้วทำเคร่ืองหมาย × ลงในกระดาษคำตอบ

1. การประชมุ หมายถึง

ก. บคุ คลมารวมกนั โดยมิไดน้ ัดหมายหารือกัน

ข. บคุ คลต้ังแต่ 2 คนขึ้นไปรวมกันทำกจิ กรรมท่ีมเี ปา้ หมายชดั เจน

ค. บคุ คลกล่มุ หนึง่ รว่ มปรึกษาหารือในกิจกรรมหน่ึงวัตถุประสงคค์ ือการแลกเปล่ยี นเรียนรู้

ง. บคุ คล 2 คนข้ึนไปมาพบกันตามนัดหมายเพื่อคดิ วเิ คราะห์ เพ่ือประโยชน์ขององค์กรตามระบอบ

ประชาธปิ ไตย

2. ขอ้ ดขี องเทคนิคการฝกึ อบรมทางการประชมุ ทางวิชาการ

ก. ไดเ้ นอ้ื หาตามท่ีกำหนดครบถ้วน ข. ไดค้ วามรู้จากวิทยากรหลายคน หลายด้าน

ค. เกดิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ ง. เพม่ิ ทักษะการฝึกอบรมไดด้ ี ไม่เบ่ือหน่าย

3. เพราะเหตใุ ดจงึ กลา่ วว่าการประชมุ มีประโยชน์อย่างมากต่อการทำงานเป็นทมี

ก. ช่วยใหเ้ กิดความความคดิ ร่วมกัน ข. ชว่ ยใหเ้ กิดความผกู พนั

ค. เปน็ การรวบรวมขอ้ มลู ง. ถูกท้ัง 3 ข้อท่ีกล่าวมา

4. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ต้องเกย่ี วกบั การนำเสนอ

ก. การนำเสนอข้อมูลเป็นการสือ่ สารระหว่างผูพ้ ดู กบั ผู้ฟัง

ข. การนำเสนอท่ีดตี อ้ งมผี ู้รบั ฟังไม่นอ้ ยกว่า 10 คน

ค. สอ่ื ประสม คือ การนำส่ือหลาย ๆ ประเภทมารวมกัน

ง. โปรเจคเตอรเ์ ป็นอุปกรณ์ทจี่ ำเปน็ ในการนำเสนอข้อมลู

5. ขอ้ ใดมบี ทบาทในการนำเสนองานมากท่สี ดุ

ก. สอ่ื ข. งาน

ค. ผู้รับข้อมูล ง. ผนู้ ำเสนองาน

6. ข้อใด ไม่ใช่ องค์ประกอบในการนำเสนอ

ก. คำถาม ข. ผู้นำเสนอ

ค. ผรู้ บั ข้อมลู ง. โพรโทคอล

7. ข้อใดคือวตั ถปุ ระสงค์ของการบรรยายสรปุ

ก. เพอื่ ใหผ้ ู้รบั ขอ้ มลู แสดงความเหน็ ชอบ ข. เพ่อื ให้ผู้รับข้อมลู ปฏบิ ตั ิตามสงิ่ ท่ีนำเสนอ

ค. เพ่อื ให้ผู้รับข้อมลู คลอ้ ยตามในส่งิ ท่นี ำเสนอ ง.เพ่อื ใหผ้ ู้รบั ข้อมูลมีพฤติกรรมทเี่ ปลยี่ นแปลง

8. กราฟเหมาะกบั การนำเสนอข้อมูลประเภทใด

ก. รปู ภาพ ข. ตัวอักษร

14

ค. ตัวเลข ง. เสียง

9. ข้อใดถูกต้องเกีย่ วกบั การใชร้ ูปภาพประกอบการนำเสนองาน

ก. เลือกรปู ภาพใหญ่เกือบเต็มจอแตไ่ มเ่ ตม็ จอ ข. เลอื กรปู ภาพที่ไม่ไดร้ บั อนุญาต

ค. ขยายรูปภาพใหม้ ีขนาดใหญ่ ง. เลือกรูปภาพทีเ่ หมาะกบั เน้ือหา

10. บคุ ลิกภาพขณะนำเสนอทคี่ วรทำคือข้อใด

ก. ควรสบตาใหท้ ัว่ ถงึ ข. ใชเ้ สียงใหด้ งั จะได้ฟังชดั

ค. แต่งกายสบาย ๆ แต่ต้องสะอาด ง. ใชภ้ าษาไทยและภาษาอังกฤษเทา่ น้นั

11. ข้อใดคือบุคลิกภาพของผู้นำเสนอท่ีประสบความสำเร็จ

ก. มคี วามเชอ่ื ม่นั ในตนเอง ข. มภี าพลกั ษณท์ ีด่ ี

ค. มีความร้อู ย่างถ่องแท้ ง. ถูกทุกขอ้

12. ข้อใดไม่ใชว่ ตั ถุประสงคใ์ นการนำเสนอข้อมลู

ก. เพื่อใหผ้ ู้รบั การนำเสนอขอ้ มลู ไดร้ บั ความรู้จากข้อมลู ที่นำเสนอ

ข. เพ่อื ใหผ้ รู้ บั การนำเสนอขอ้ มูลรบั ทราบความคดิ เหน็

ค. เพ่อื บรรยายข้อมูลทางด้านวชิ าการ

ง. เพอื่ เผยแพรป่ ระชาสัมพนั ธ์

13. การกำหนดขนาดตัวอกั ษรเน้ือหาภาษาไทยควรใช้ขนาดเท่าใด

ก. 16-20 พอยต์ ข. 21-35 พอยต์

ค. 36-50 พอยต์ ง. 51-53 พอยต์

14. ข้อใดหมายถึงสง่ิ ท่ีไม่ควรทำในการออกแบบ

ก. อยา่ ใสข่ ้อความจำนวนมาก

ข. อย่าใสร่ ูปภาพมากหรอื พ้นื หลงั เปน็ ภาพทีไ่ มช่ ัด ทำให้อ่านยาก

ค. แสดงตารางขนาดเล็ก

ง. ถูกทั้งข้อ ก. และข้อ ข.

15. หลักการใช้แบบอกั ษรจัดทำสไลดท์ ีถ่ ูกต้อง

ก. ไม่ใชอ้ ักษรมากกวา่ 2 แบบในสไลดเ์ รื่องหน่ึง ข. ควรใชอ้ กั ษรมากกว่า 3 แบบในสไลด์เรอ่ื งหน่ึง

ค. ควรใช้เฉพาะตัวหนาหรอื ตัวเอนแทน ง. ถกู ทั้งข้อ ก. และขอ้ ค.

16. การเตรยี มการนาํ เสนอจริงหมายถึงข้อใด

ก. การใสเ่ ทคนิคการเปลยี่ นแผน่ สไลด์ ข. การพิมพ์เอกสารประกอบการบรรยาย

ค. เทคนคิ การเปลย่ี นแผ่นสไลด์ ง. ต้องซ้อมการพดู

17. ข้อใดคอื หลักการเพม่ิ ความน่าสนใจในการนาํ เสนอ

ก. แบบอกั ษร ข. การใสเ่ ทคนิคการเปลีย่ นแผน่ สไลด์

ค. กำหนดหัวขอ้ ตา่ งๆ ง. ศึกษากลุ่มผูฟ้ งั

18. ข้อใด ไมใ่ ช่ การออกแบบพน้ื หลังสไลด์

ก. เรยี บง่าย มองสบายตา ข. เน้นทต่ี ัวขอ้ ความเปน็ สำคัญ

ค. หลีกเลย่ี งการใชส้ ีแวววาว ง. ชนิดของแผน่ สไลด์

15

19. ขอ้ ใดไม่จำเป็นต้องปรากฏบนโปสเตอรน์ ำเสนอโครงงาน

ก. บทคดั ยอ่ ข. วธิ ดี ำเนินการ

ค. ผลการวจิ ยั ง. การอภิปรายผล

20. สง่ิ ท่ตี ้องกำหนดและวางแผนกอ่ นการออกแบบโปสเตอร์ คืออะไร

ก. องคป์ ระกอบการจดั วาง ข. การกำหนดขนาดและรปู แบบของโปสเตอร์

ค. การกำหนดกระดาษ ง. รปู แบบปกของโปสเตอร์

21. ข้อใดเตรียมการนำเสนอได้ถกู ต้อง

ก. สรุปประเด็น วเิ คราะหเ์ นื้อหา ศกึ ษาขอ้ มูล วางแผนการนำเสนอ

ข. กำหนดวธิ กี ารนำเสนอ วางแผนการนำเสนอ ศึกษาข้อมูล เตรียมวสั ดอุ ปุ กรณ์

ค. ศกึ ษาข้อมลู วางแผนการนำเสนอ เตรยี มวัสดุอปุ กรณ์ เตรียมสถานที่

ง. วางแผนการนำเสนอ ศึกษาข้อมลู สรุปประเดน็ เตรียมวัสดอุ ปุ กรณ์22. ข้อใดถูกต้อง

23. ขอ้ มูลวธิ ีการทดลอง ควรจัดทำข้อมลู ในรูปแบบใดเพื่อความเหมาะสม

ก. แผนภาพ ข. แผนภมู ิ

ค. กราฟ ง. ตาราง

24. ข้อใดเปน็ จุดประสงค์หลกั ของการนำเสนอและเผยแพรผ่ ลงาน

ก. เพอื่ ป้องกนั ไม่ใหผ้ ู้อื่นเลยี นแบบผลงานของตน

ข. เพอ่ื เป็นเกียรติต่ออาจารย์ท่ปี รกึ ษา

ค. เพอื่ ปฏิบัติตามกฎหมายลิขสทิ ธิเ์ กี่ยวกับการทำผลงาน

ง. เพ่อื ให้ผู้อนื่ นำผลงานดงั กล่าวไปพัฒนาและใช้ในชีวติ ประจำวัน

25. ข้อใดกลา่ วถกู ต้อง

ก. การใชต้ ัวอกั ษรท่เี ล็กลงจะทำใหใ้ ส่เน้อื หาลงในโปสเตอร์ไดม้ ากขน้ึ

ข. การใชส้ ีพน้ื หลังฟ้าควรใช้ตวั อักษรสเี ขยี ว

ค. การนำเสนอโปสเตอร์เป็นการนำเสนอจากสง่ิ ที่เราทำจึงไมจ่ ำเป็นต้องซักซ้อม

ง. การจดั เรียงเน้ือหาในโปสเตอร์ควรมลี ักษณะเปน็ การเล่าเร่ือง

26. ข้อใดไมใ่ ช่ข้อพึงระวังทท่ี ำให้การนำเสนอด้อยประสิทธิภาพ

ก. ความลังเล ข. พดู งมึ งำ

ค. ระดบั เสยี ง ง. ใช้คำพดู และประโยคส้ันงา่ ย ๆ

27. ผ้นู ำเสนอควรยืนหา่ งจากแท่นพดู โดยประมาณเท่าไร

ก. ประมาณ 1 เมตร ข. ประมาณ 0.5 เมตร

ค. ประมาณ 1 คบื ง. ประมาณ 1 ศอก

28. จังหวะทีด่ ใี นการพดู คอื ข้อใด

ก. เปน็ เสยี งท่ีมลี กั ษณะสงู ต่ำ หนกั เบา ข. เสียงเหมาะกับตำแหน่งการงาน

ค. ไม่รวั หรอื ลัดคำ ง. พดู ดว้ ยความรสู้ กึ ทจ่ี รงิ ใจ

29. ข้อใด ไมใ่ ช่ หลักการพนื้ ฐานของการนำเสนอข้อมูล

16

ก. การดึงดดู ความสนใจ ข. เน้นการนำเสนอข้อมูลดว้ ยขอ้ ความ

30. ข้อใดคือความหมายของการนำเสนอข้อมูล

ก. การสรปุ ขอ้ มลู

ข. การวางโครงร่างไสลด์

ค. การบรรยายขอ้ มูลท่ีต้องการส่ือสารใหผ้ ฟู้ งั ได้รบั รู้

ง. การสร้างงานนำเสนอโดยใช้โปรแกรมคอมพวิ เตอร์

คะแนนเต็ม 10 คะแนน
ได้ ........... คะแนน

17

บรรณานุกรม

มปช. (2560). เทคนิคการนำเสนอ. สืบค้นเมอ่ื 25 ตุลาคม 2562, จาก http://home.psu.ac.th
/~manee.v/850-498 /data/presentation%20skills.pdf

สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี. (2563). คมู่ ือครู รายวิชาเพ่ิมเตมิ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
เคมี ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 เลม่ 6.พิมพ์ครั้งที่ 1 ; กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พแ์ ห่งจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั .

สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย.ี (2562). หนงั สอื เรียนรายวชิ าเพิ่มเติมวทิ ยาศาสตรแ์ ละ
เทคโนโลยี เคมี เลม่ 1. พมิ พ์ครงั้ ท่ี 2. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย.

สมชาติ ลีลาไกรศร. (2558). การนำเสนออย่างมืออาชีพ. สบื ค้นเม่อื 25 ตลุ าคม 2562, จาก
https://tma.or.th/old/userfiles/foundation_download/20140221053022.pdf


Click to View FlipBook Version