The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชุดที่ 2 เรื่องการบูรณาการความรู้ในการแก้ปัญหา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Anocha Utumsakulrat, 2023-10-12 10:04:20

ชุดที่ 2 เรื่องการบูรณาการความรู้ในการแก้ปัญหา

ชุดที่ 2 เรื่องการบูรณาการความรู้ในการแก้ปัญหา


ก คำนำ ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์หน่วยที่ 2 เรื่องการบูรณาการความรู้ในการแก้ปัญหาตามแนวคิด แบบโยนิโสมนสิการ จัดทำเพื่อเป็นเครื่องมือในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ความพึงพอใจทางการเรียนเคมี ส่งเสริมความสามารถทางการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1-3 โรงเรียนสุวรรณารามวิทยาคม โดยในทุกกิจกรรมได้จัดลำดับขั้นตอนที่เน้นการเพิ่มพูนประสบการณ์ ทางวิทยาศาสตร์นักเรียนจะได้รับการทดสอบก่อนเรียน และศึกษาเนื้อหาความรู้ที่ส่งเสริมให้นักเรียนศึกษา และสืบค้น โดยมีความรู้เพิ่มเติมนอกเหนือจากในบทเรียน การตอบคำถาม การทำแบบฝึกหัด และทำกิจกรรม การทดลองตามขั้นตอนตลอดจนทำแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อประเมินตนเองหลังจากการเรียนรู้ในแต่ ละกิจกรรมการเรียนรู้ ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ หน่วยที่ 2 เรื่องการบูรณาการความรู้ ในการแก้ปัญหา ตามแนวคิดแบบโยนิโสมนสิการ จะทำให้ผู้เรียนมีความรู้และความสามารถในการ สืบค้น การจัดระบบสิ่งที่เรียนรู้ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อสร้างองค์ความรู้ ได้เป็นอย่าง ดีสามารถนำความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ และเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ สนใจใช้เป็นแนวทาง ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ได้ต่อไป นางสาวอโนชา อุทุมสกุลรัตน์


ข เรื่อง หน้า คำนำ ก สารบัญ ข ข้อแนะนำการเรียนรู้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ ค โครงสร้างชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ ง แบบทดสอบก่อนเรียน จ ขั้นที่ 1 การหาความรู้ ปฏิบัติการ ฝึกอ่าน : ฝึกคิด 1 - เรื่องกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมคืออะไร 1 - กิจกรรม สืบเสาะ ค้นหา เรื่อง สายไฟแป้งโดว์ 2 - ตรวจสอบความเข้าใจ 6 ขั้นที่ 2 สร้างความรู้ ปฏิบัติการ ฝึกทำ : ฝึกสร้าง 8 - กิจกรรมฝึกทำ : ฝึกสร้าง เรื่อง การแก้ปัญหาโดยการบูรณาการความรู้ 8 ขั้นที่ 3 ซึมซับความรู้ ปฏิบัติการ คิดดี ผลงานดี มีความสุข 13 - นักวิทย์ฯ คิดอย่างมีวิจารณญาณ 13 แบบทดสอบหลังเรียน 15 บรรณานุกรม 17 สารบัญ


ค สำหรับนักเรียน จุดประสงค์ของการเรียนรู้วิทยาศาสตร์มุ่งหวังให้นักเรียนเป็นผู้มีความสามารถทางการ จัดการความรู้ทางวิทยาศาสตร์3 ด้าน ได้แก่ 1. ด้านความรู้ความคิด 2. ด้านทักษะการจัดการความรู้ทางวิทยาศาสตร์ 3. ด้านค่านิยมต่อตนเองเพื่อสังคม ซึ่งนักเรียนจะได้เสริมสร้างความสามารถดังกล่าวดังนี้1.การหาความรู้(Operation) จาก กิจกรรมการสืบเสาะ ค้นหา กิจกรรมร่วมกันคิด และกิจกรรมร่วมกันค้น 2.การสร้างความรู้ (Combination) เป็นขั้นฝึกการวิเคราะห์ประกอบด้วยการฝึกคิดแบบสืบสาวปัจจัยเหตุและแบบ แยกแยะส่วนประกอบโดยใช้ ข้อความและสถานการณ์ เพื่อพัฒนาตนเอง 3. การซึมซับความรู้ (Assimilation) เป็นขั้นที่ให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เช่น หนังสือ อินเตอร์เน็ต ฝึกคิดอย่างมีวิจารณญาณ ฝึกทักษะการเขียนเพื่อนำเสนอแก้ไขปัญหาที่พบ ประกอบการตอบคำถามฝึกการวิเคราะห์จุดเด่น และจุดด้อยของผลงาน ตรวจสอบและปรับปรุงเพื่อ สร้างชิ้นงานใหม่ต่อไปได้และข้อเสนอแนะกับผู้อ่านได้โดยในทุกกิจกรรมได้จัดลำดับขั้นตอนที่เน้น การเพิ่มพูนประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์ เพื่อเป็นผู้มีความสามารถทางการจัดการความรู้ทาง วิทยาศาสตร์ดังนี้ 1. อ่าน และทำความเข้าใจในทุกขั้นตอนของกิจกรรมการเรียนรู้ 2.รักและสนใจตนเอง สร้างความรู้สึกที่ดีให้กับตนเอง ว่าตัวเราเป็นผู้มีความสามารถมี ศักยภาพอยู่ในตัว และพร้อมที่จะเรียนรู้ทุกสิ่งที่สร้างสรรค์ 3. รู้สึกอิสระและแสดงออกอย่างเต็มความสามารถ 4. ฟัง คิด ถาม เขียน ปฏิบัติอย่างรอบคอบในทุกกิจกรรม ใช้เนื้อที่กระดาษที่จัดไว้สำหรับ เขียนให้เต็ม โดยไม่ปล่อยให้เหลือเปล่า เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับตนเอง 5. ใช้เวลาในการเรียนรู้อย่างคุ้มค่า ใช้ทุกๆ นาทีทำให้ตนเองมีความสามารถเพิ่มมากขึ้น 6. ตระหนักตนเองอยู่เสมอว่าจะเรียนรู้วิทยาศาสตร์เพื่อนำมาพัฒนาตนเองและพัฒนาสังคม จุดเด่นของการเรียนรู้วิทยาศาสตร์คือ การสร้างคุณค่าที่ดีให้กับสังคม จึงขอเชิญชวนนักเรียน มาร่วมกันเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ด้วยใจรัก และ พัฒนาตนให้เต็มขีดความสามารถ ขอส่งความปรารถนาดีให้แก่นักเรียนทุกคนได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์อย่างมีความสุขพึ่งตนเองได้ และเป็นผู้มีความสามารถทางการจัดการความรู้ทางวิทยาศาสตร์เพื่อสังคม ยิ่งๆ ขึ้น สืบไป ข้อแนะนำการเรียนรู้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์วิทยาศาสตร์


ง สาระสำคัญ การศึกษาและการแก้ปัญหาในสถานการณ์หรือประเด็นที่สนใจทำได้โดยการบูรณาการความรู้ ทางเคมีร่วมกับวิทยาศาสตร์แขนงอื่น รวมทั้งคณิตศาสตร์เทคโนโลยีและทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์หรือกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม โดยเน้นการคิดวิเคราะห์แก้ปัญหาและความคิด สร้างสรรค์ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายวิธีการทางวิทยาศาสตร์หรือกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม 2. ออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาโดยใช้การบูรณาการความรู้ทางเคมีร่วมกับศาสตร์อื่น แก้ปัญหาสถานการณ์หรือประเด็นที่สนใจ 3. ตั้งใจเรียนรู้และแสวงหาความรู้ การจัดกระบวนการเรียนรู้ใช้รูปแบบการจัดการความรู้ทางวิทยาศาสตร์มี3 ขั้น คือ 1. การหาความรู้(Operation) 2. การสร้างความรู้(Combination) 3. การซึมซับความรู้(Assimilation) เวลาที่ใช้ 30 ชั่วโมง การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ นักเรียนประเมินผลตนเองโดยใช้แบบประเมินผลตนเองก่อนเรียน-หลังเรียน โครงสร้างชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ หน่วยที่ 2 เรื่องการบูรณาการความรู้ในการแก้ปัญหา


จ แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ 2 เรื่องการบูรณาการความรู้ในการแก้ปัญหา วิชาเคมี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 10 นาที ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… คำชี้แจง 1. แบบทดสอบฉบับนี้เป็นแบบปรนัยเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 10 ข้อใช้เวลาในการสอบ 10 นาที 2. ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียวแล้วทำเครื่องหมาย × ลงในกระดาษคำตอบ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1. กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมหมายถึงข้อใด ก. กระบวนการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบในด้านต่างๆ ข. กระบวนการแก้ปัญหาอย่างถูกต้องและได้ผลลัพธ์มากที่สุด ค. กระบวนการแก้ปัญหาที่ดำเนินการอย่างเป็นระบบและคุ้มค่ามากที่สุด ง. กระบวนการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบภายใต้ทรัพยากร ข้อจำกัดต่างๆและความคุ้มทุน 2. กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมประกอบด้วยขั้นตอนการทำงานสำคัญคือ ก. กำหนดปัญหา สร้างแนวทางแก้ปัญหา ลงมือปฏิบัติ ข. กำหนดปัญหา ดำเนินการแก้ปัญหา ทดสอบ ประเมินผล ค. กำหนดปัญหา สร้างแนวทางแก้ปัญหา ดำเนินการแก้ปัญหา ประเมินผล ง. กำหนดปัญหา สร้างแนวคิด ดำเนินการแก้ปัญหา ประเมินผล นำเสนอผล 3. ข้อใดเป็นประโยชน์ของกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม ก. ทำให้มนุษย์สุขภาพดีขึ้น ข. ทำให้มนุษย์มีความสุขมากขึ้น ค. ทำให้มนุษย์เพิ่มจำนวนมากขึ้น ง. ช่วยในการแก้ปัญหาการดำรงชีวิตของมนุษย์ 4. สมาคมนักเทคโนโลยีและวิศวกรรมศึกษานานาชาติกำหนดขั้นตอนของแก้ปัญหาทางเทคโนโลยีไว้ ในมาตรฐานการรู้เรียกว่าอะไร ก. กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม ข. กระบวนการแก้ปัญหาทางวิศวกรรม ค. กระบวนการแก้ปัญหาทางเทคโนโลยี ง. กระบวนการแก้ปัญหาทางเทคโนโลยีและวิศวกรรม 5. พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์บอสตันขับเคลื่อนหลักสูตรใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมกับ นักเรียนในระดับใด ก. ระดับอนุบาล ข. ระดับประถมศึกษา ค. ระดับมัธยมศึกษา ง. ระดับอุดมศึกษา 6. ข้อใดไม่ได้กล่าวถึงความสำคัญของกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม ก. เป็นวิธีการทำงานภายใต้เงื่อนไขและข้อจำ ข. เป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการวิจัยเพื่อสอบสนองความต้องการของมนุษย์ ค. เป็นเครื่องมือที่ช่วยเสริมสร้างและพัฒนาการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยีให้กับผู้เรียน ง. เป็นกระบวนการที่เอาแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และ วิศวกรรมศาสตร์ มาพัฒนาแนวทางแก้ปัญหาที่เหมาะสมที่สุด


ฉ 7. ข้อใดกล่าวถึงความสำคัญของกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมได้ถูกที่สุด ก. เป็นเครื่องมือสำหรับนักวิศวกรรมศึกษานานาชาติ ข. เป็นเครื่องมือการวางแผนเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหา ค. เป็นเครื่องมือค้นหาปัญหางานภายใต้เงื่อนไขและข้อจำกัด ง. เป็นเครื่องมือที่ช่วยเสริมสร้างและพัฒนาการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยีให้กับผู้เรียน 8. ข้อใดหมายถึงกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม ก. Efficient Design Process ข. Education Design Process ค. Engineering Design Process ง. Elementary Design Process 9. ข้อใดคือส่วนประกอบของการออกแบบเชิงวิศวกรรม ก. วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ข. คณิตศาสตร์ เทคโนโลยีและกำลังไฟฟ้า ค. วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี ง. วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสมองกลฟังตัว 10. กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมเป็นการประยุกต์ใช้ศาสตร์ใดบ้าง ก. วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ศิลปะศาสตร์ ข. วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี ค. คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี สังคมศาสตร์ ง. วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคมศาสตร์ คะแนนเต็ม 10 คะแนน ได้ ........... คะแนน


1 ขั้นที่1 การหาความรู้ Operation วิธีการทางวิทยาศาสตร์เป็นเครื่องมือ สำคัญที่ช่วยให้ได้ความรู้พื้นฐานสำหรับการพัฒนาต่อ ยอดเป็นความรู้ใหม่เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันและพัฒนานวัตกรรมที่ทำให้คุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของมนุษย์ดีขึ้นทั้งนี้กระบวนการแก้ปัญหาและการสร้างนวัตกรรมในสถานการณ์จริง อาจมีการใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม (Engineering Design Process) ซึ่งมีขั้นตอนอย่างไรจะ ได้ศึกษาต่อไปในบทเรียนนี้ กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมประกอบด้วยองค์ประกอบ 6 ขั้นตอน ได้แก่ 1.ระบุปัญหา (Problem Identification) เป็นการทำความเข้าใจปัญหาหรือความท้าทาย วิเคราะห์เงื่อนไขหรือข้อจำกัดของสถานการณ์ปัญหา เพื่อกำหนดขอบเขตของปัญหา ซึ่งจะนำไปสู่การ สร้างชิ้นงานหรือวิธีการในการแก้ปัญหา 2.รวบรวมข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับปัญหา (Related Information Search) เป็น การรวบ รวมข้อมูลและแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับแนว ทางการแก้ปัญหาและประเมินความเป็นไปได้ ข้อดีและข้อจำกัด ซึ่งในการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับ ปัญหาอาจทำได้หลายวิธี เช่น - การสืบค้นจากอินเทอร์เน็ตที่น่าเชื่อถือ - การสอบถามจากผู้เชี่ยวชาญ - การสืบค้นจากเอกสาร บทความ งานวิจัย -การทดลองทางวิทยาศาสตร์ 3.ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา (Solution Design) เป็นการประยุกต์ใช้ข้อมูลและแนวคิดที่ เกี่ยวข้องเพื่อการออกแบบชิ้นงานหรือวิธีการในการแก้ปัญหา โดยคำนึงถึงทรัพยากร ข้อจำกัดและ เงื่อนไขตามสถานการณ์ที่กำหนด 4.วางแผนและดำเนินการแก้ปัญหา (Planning and Development) เป็นการกำหนด ลำดับขั้นตอนของการสร้างชิ้นงานหรือวิธีการ แล้วลงมือสร้างชิ้นงานหรือพัฒนาวิธีการเพื่อใช้ในการ แก้ปัญหา การบูรณาการความรู้ในการแก้ปัญหา เล่มที่ 2 เวลา 30 ชั่วโมง ปฏิบัติการ ฝึกอ่าน : ฝึกคิด กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมคืออะไร กระบวนการออกแบบเชิง วิศวกรรมมีขั้นตอนแตกต่างจากวิธีการทาง วิทยาศาสตร์หรือไม่


2 5.ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไขวิธีการแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน (Testing, Evaluation and Design Improvement) เป็นการทดสอบและประเมินการใช้งานของชิ้นงานหรือ วิธีการ โดยผลที่ได้อาจนำมาใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาได้อย่าง เหมาะสมที่สุด 6.นำเสนอวิธีการแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน (Presentation) เป็นการ นำเสนอแนวคิดและขั้นตอนการแก้ปัญหาของการสร้างชิ้นงานหรือการพัฒนาวิธีการ ให้ผู้อื่นเข้าใจและ ได้ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาต่อไป เรื่อง สายไฟแป้งโดว์ จุดประสงค์ของกิจกรรม 1. สร้างสายไฟแป้งโดว์เพื่อทำให้หลอด LED สว่าง ตามเงื่อนไขที่กำหนด 2. นำเสนอขั้นตอนการสร้างสายไฟแป้งโดว์ วัสดุ อุปกรณ์ และสารเคมี รายการ ปริมาณต่อกลุ่ม สารเคมี 1. แป้งโดว์ 2. เกลือแกง 3. น้ำตาลทราย 4. เบกกิ้งโซดา 5. น้ำกลั่น 1 ก้อน (30 g) 5 g 5 g 5 g 3 mL รายการ ปริมาณต่อกลุ่ม วัสดุและอุปกรณ์ 1. หลอด LED ขนาดเล็ก (1.5V) 2. สายไฟที่ต่อกับคลิปปากจระเข้ 3. ถ่านไฟฉาย 1.5V 2 ก้อน ในรางถ่าน 4. ภาชนะสำหรับผสม 5. ผังตำแหน่งของหลอด LED และรางถ่าน 2 หลอด 1 เส้น 1 ชุด 1 ใบ 1 แผ่น ในการปฏิบัติงานสามารถย้อนขั้นตอนการทำงาน กลับไปมา และอาจะทำงานซ้ำบางขั้นตอน เพื่อ พัฒนาหรือปรับปรุงการแก้ปัญหาให้ดีขึ้น กิจกรรม สืบเสาะ ค้นหา


3 การเตรียมล่วงหน้า 1. เตรียมแป้งโดว์ ดังนี้ - ชั่งแป้งสาลี 200 g ตวงน้ำมันถั่วเหลือง 20 mL และ น้ำกลั่น 100 mL - เติมน้ำมันถั่วเหลืองลงในแป้งสาลี ผสมให้เข้ากัน - ค่อย ๆ เติมน้ำกลั่นลงไป และนวดให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน (แป้งโดว์ที่เตรียมได้สามารถใช้ได้กับการทดลองของนักเรียนประมาณ 10 กลุ่ม) 2. ชั่งแป้งโดว์แบ่งให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม กลุ่มละ 30 g วิธีทำกิจกรรม 1. ทดสอบการต่อวงจรไฟฟ้า โดยต่อสายไฟที่ต่อกับคลิปปากจระเข้กับหลอด LED ซึ่งต่อกับรางถ่านดัง รูป ตามผังที่กำหนดสังเกตความสว่างของหลอด LED และบันทึกผล และบันทึกผล หลอด LED หลอด LED 18 cm รางถ่าน ผังตำแหน่งของหลอด LED และรางถ่าน OFF-ON


4 2. ต่อวงจรไฟฟ้าตามข้อ 1 แต่เปลี่ยนสายไฟที่ต่อกับทิพย์ปากจระเข้เป็นแป้งโดว์สังเกตความสว่างของ หลอด LED และบันทึกผล 3. ออกแบบวิธีการเติมสารลงในแป้งโดว์และการต่อวงจรเพื่อทำให้หลอดแอลอีดีทั้ง 2 หลอดสว่างและ ทำการทดลองตามเงื่อนไขดังนี้ - เลือกใช้สารเคมีเพียง 1 ชนิดจากสารเคมีต่อไปนี้เพื่อละลายในน้ำและผสมลงในแป้งโดว์ทั้ง ก้อน 1.เกลือแกง (NaCl) 2. น้ำตาลทราย (C12H22O11) 3. เบกกิ้งโซดา (NaHCO3) - วางตำแหน่งของหลอด LED กำหนดให้ - กำหนดระยะเวลาดำเนินการภายใน 30 นาที - กลุ่มที่ใช้สารเคมีปริมาณน้อยที่สุดจะได้คะแนนมากที่สุด 4.บันทึกข้อมูลลงในแบบฟอร์ม “การบันทึกข้อมูลการดำเนินการ” ที่กำหนดให้ 5. นำเสนอข้อมูลการดำเนินการ ผลการทำกิจกรรม การบันทึกข้อมูลการดำเนินการ 1. เปรียบเทียบความสว่างของหลอด LED เมื่อต่อวงจรไฟฟ้าด้วยสายไฟที่ต่อกับคลิปปากจระเข้และ แป้งโดว ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ระบุปัญหาและเงื่อนไขในการแก้ปัญหา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………


5 3. ระบุสารเคมีที่เลือกใช้เติมลงในแป้งโดว์ พร้อมอธิบายเหตุผล ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. ออกแบบขั้นตอนการดำเนินการ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. ดำเนินการตามขั้นตอนที่ได้ออกแบบไว้และระบุผลการดำเนินการในครั้งแรก ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 6. ระบุวิธีการปรับปรุงแก้ไข หากไม่สามารถทำให้หลอด LED ทั้งสองหลอดสว่างในครั้งแรกของการ ดำเนินการ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………


6 7. สรุปวิธีการดำเนินการและเสนอแนะวิธีการดำเนินการที่ให้ผลดีขึ้น พร้อมวาดรูปการต่อ วงจรไฟฟ้า สำหรับทดสอบความสว่างของหลอด LED ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… รูปการต่อวงจร สรุปผลการทำกิจกรรม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… วิธีการทางวิทยาศาสตร์และกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมมีส่วนของวัตถุประสงค์ และขั้นตอนที่เหมือนและต่างกันอย่างไร วัตถุประสงค์ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ตรวจสอบความเข้าใจ


7 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ขั้นตอน วิธีการทางวิทยาศาสตร์และกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมมีขั้นตอนทั้งส่วนที่เหมือนกัน และแตกต่างกัน ดังแผนภาพ วิธีการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม


8 เรื่อง การแก้ปัญหาโดยการบูรณาการความรู้ จุดประสงค์ของกิจกรรม เลือกสถานการณ์ปัญหาหรือประเด็นที่สนใจและออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาโดยการบูร ณาการความรู้ทางเคมีกับความรู้ในศาสตร์อื่น และใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์หรือกระบวนการ ออกแบบเชิงวิศวกรรม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………


9 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………


10 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………..………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………


11 เกณฑ์การให้คะแนนสำหรับแบบประเมินระหว่างการทำ กิจกรรมที่ 2 การแก้ปัญหาโดยการบูรณา การความรู้ สิ่งที่ต้องการประเมิน เกณฑ์การประเมิน ระดับคุณภาพ การสำรวจปัญหาและการ ตั้งคำ ถาม/การระบุปัญหา มีข้อมูลจากการสำรวจสนับสนุน ให้เห็นความสำคัญของปัญหา และตั้งคำถาม/ระบุปัญหาได้ สอดคล้องกับสถานการณ์ปัญหา ดี มีข้อมูลจากการสำรวจสนับสนุน ให้เห็นความสำคัญของปัญหา แต่ตั้งคำถาม/ระบุปัญหาไม่สอด คล้องกับสถานการณ์ปัญหา พอใช้ ไม่มีข้อมูลจากการสำรวจ สนับสนุนให้เห็นความสำคัญ ของปัญ หาและตั้งคำถาม/ระบุ ป ั ญ ห า ไ ม ่ ส อ ด ค ล ้ อ ง กั บ สถานการณ์ปัญหา ต้องปรับปรุง การกำหนดวัตถุประสงค์ และขอบเขตของงาน มีการศึกษาค้นคว้าความรู้ทาง เคมีและความรู้หรือข้อเท็จจริง อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาและ เพียงพอในการแก้ปัญหา ดี มีการศึกษาค้นคว้าความรู้ทาง เคมีและความรู้หรือข้อเท็จจริง อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาแต่ไม่ เพียงพอในการแก้ปัญหา พอใช้ มีการศึกษาค้นคว้าความรู้ทาง เคมีและความรู้หรือข้อเท็จจริง อื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับปัญหา เป็นส่วนใหญ่ ต้องปรับปรุง การออกแบบวิธีดำเนินการ แก้ปัญหา วิธีดำเนินการสอดคล้องและ ครอบคลุมกับวัตถุประสงค์และ ขอบเขตของงานและเป็น แนวทางที่นำไปสู่การแก้ปัญหา ได้ ดี วิธีดำเนินการสอดคล้องแต่ไม่ รอบคลุมวัตถุประสงค์และ ขอบเขตของงานทั้งหมด และ พอใช้


12 เป็นแนวทางที่นำ ไปสู่การ แก้ปัญหาได้ วิธีดำเนินการไม่สอดคล้องกับ วัตถุประสงค์และขอบเขตของ งาน และไม่ใช่แนวทางที่นำ ไปสู่ การแก้ปัญหาได้ ต้องปรับปรุง การดำเนินการแก้ปัญหา ดำเนินการแก้ปัญหาตามที่ได้ ออกแบบวิธีการไว้ และใช้ อุปกรณ์/เครื่องมือในการดำ เนิน การได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ดี ดำเนินการแก้ปัญหาตามที่ได้ ออกแบบวิธีการไว้ แต่ใช้ อุปกรณ์/เครื่องมือในการ ดำเนินการไม่ถูกต้องเหมาะสม พอใช้ ดำเนินการแก้ปัญหาโดยไม่ เป็นไปตามขั้นตอนที่ได้ออกแบบ วิธีการไว้และใช้อุปกรณ์/ เครื่องมือในการดำ เนินการไม่ ถูกต้องเหมาะสม ต้องปรับปรุง


13 นักวิทย์ฯ คิดอย่างมีวิจารณญาณ คำชี้แจง ให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม อ่านข่าวที่กำหนดให้และเติมข้อความลงในช่องว่างให้ถูกต้องและ สมบูรณ์ โควิด-19 กระจายเกินครึ่งประเทศ โฆษก ศบค. เปิด 3 ฉากทัศน์ แนวโน้มการระบาดระลอก ใหม่ของโควิด-19 คาดเดือน ม.ค.64 จะมีผู้ติดเชื้อรายวัน 18,000 คนต่อวัน ระบุทำกลางๆ ยังติดเชื้อ วันละ 4-8 พันคน ย้ำยกการ์ดเข้มสูงสุด โอกาสติดเชื้อวันละ 1 พัน วันนี้ (29 ธ.ค.) นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า แนวโน้มการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ จากภาพฉากทัศน์การระบาด ซึ่งทีมคณะทำงาน ระบาดวิทยาของกรมควบคุมโรค เสนอ 3 ฉากทัศน์ ดังนี้ ฉากทัศน์แรก ถ้าไม่ทำอะไรเลยจะพบว่าสีแดงระฆังคว่ำตัวเลขจะชันขึ้นเรื่อยๆ และถึงวันที่ 14 ม.ค. 64 จะมีผู้ป่วยต่อวัน 18,000 คน และจะเริ่มต้นจากขึ้นวันละ 1,000-2,000 คนจะชันขึ้นเรื่อยๆ ฉากทัศน์ที่ 2 หากมีมาตรการกลางๆ คือ เส้นกราฟสีเหลือง ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ คาดว่า จะ มีผู้ป่วยรายใหม่ 4,000 คนต่อวัน เรียกว่าสะสมไม่นานก็จะหลักหมื่นภายในไม่กี่วัน ฉากทัศน์สุดท้าย คือ กราฟสีเขียว ถ้าร่วมมือกัน ใส่หน้ากากอนามัย การล้างมือบ่อยๆ จะน้อย กว่า 1,000 คนต่อวัน “ระลอก 2 ระลอกใหม่ที่ตอนนี้ผมพูดตามคำวิชาการ แต่ไม่อยากเห็นเส้นภาพสีแดง ซึ่ง กลางเดือน ม.ค.64 ตอนนี้เรายังอยู่ในเส้นสีส้ม ยอมรับว่ากังวลใจ เพราะแค่เส้นสีส้มยังทแยงขึ้น 45 องศา ต้องมีคนป่วยหลักพันหลักหมื่น ถ้าป่วย 8,000 คนต่อวันคือตัวเลขที่สูงมาก” นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กวิเคราะห์สถานการณ์แพร่ระบาดในไทย ขณะนี้ แบ่งออก 2 แบบ คือ 1. การติดเชื้อจากบุคคลสู่บุคคล คือ รู้ว่าตัวเองไปในพื้นที่เสี่ยง/กิจกรรมเสี่ยง และไม่รู้ และไม่ระมัดระวังว่าได้สัมผัสหรือใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ เช่น กรณีผู้ว่าฯสมุทรสาคร และ 2.การ ติดเชื้อแบบกลุ่มก้อน ซึ่งมีสาเหตจากการเข้าไปร่วมกิจกรรมต่างๆ เช่น งานเลี้ยงสังสรรค์ การประชุม และกิจกรรมที่ลักลอบ เช่น การพนัน มั่วสุมทำให้เกิดการติดเชื้อตัวเลข 2 หลัก “ขณะนี้ยังคงมาตรการที่ ศบค.ชุดใหญ่ประกาศ 4 พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้า ระวังและที่ต้องเร่งดำเนินการเพิ่ม คือ ทางจังหวัด ต้องหารือในจังหวัดให้แบ่งส่วนพื้นที่ต่างๆ ภายใน ขั้นที่3 ซึมซับความรู้ Assimlation ปฏิบัติการ คิดดี ผลงานดี มีความสุข เปิด 3 ฉากทัศน์โควิด-19 ระบาดรอบใหม่ กลางเดือน ม.ค.64 อาจติดเชื้อถึงวันละ 18,000 รายหากไม่ทำอะไรเลย : ที่มา ผู้จัดการออนไลน์29 ธ.ค. 2563 13:37


14 วันพรุ่งนี้ (30 ธ.ค.) ต้องแบ่งออกมาในระดับอำเภอ เช่น กรณี จ.ระยอง ขณะนี้พื้นที่ควบคุมสูงสุด คือ อำเภอเมืองระยอง” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว คะแนนที่ได้…………….คะแนน ประเภทของข่าว ……………………………………………………………………… ……………………………………………………………………… …………………………………….. พาดหัวข่าว ……………………………………………………………………… ……………………………………………………………………… ……………………………………………………………………… ……………………………………………………………………… ……………………………………………………………………… ……………………………………………………………………… ……………… เหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นในข่าว …………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… ……………………………………………………


15 แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยที่ 2 เรื่องการบูรณาการความรู้ในการแก้ปัญหา วิชาเคมี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 10 นาที …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… คำชี้แจง 1. แบบทดสอบฉบับนี้เป็นแบบปรนัยเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 10 ข้อใช้เวลาในการสอบ 10 นาที 2. ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียวแล้วทำเครื่องหมาย × ลงในกระดาษคำตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1. กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมหมายถึงข้อใด ก. กระบวนการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบในด้านต่างๆ ข. กระบวนการแก้ปัญหาอย่างถูกต้องและได้ผลลัพธ์มากที่สุด ค. กระบวนการแก้ปัญหาที่ดำเนินการอย่างเป็นระบบและคุ้มค่ามากที่สุด ง. กระบวนการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบภายใต้ทรัพยากร ข้อจำกัดต่างๆและความคุ้มทุน 2. กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมประกอบด้วยขั้นตอนการทำงานสำคัญคือ ก. กำหนดปัญหา สร้างแนวทางแก้ปัญหา ลงมือปฏิบัติ ข. กำหนดปัญหา ดำเนินการแก้ปัญหา ทดสอบ ประเมินผล ค. กำหนดปัญหา สร้างแนวทางแก้ปัญหา ดำเนินการแก้ปัญหา ประเมินผล ง. กำหนดปัญหา สร้างแนวคิด ดำเนินการแก้ปัญหา ประเมินผล นำเสนอผล 3. ข้อใดเป็นประโยชน์ของกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม ก. ทำให้มนุษย์สุขภาพดีขึ้น ข. ทำให้มนุษย์มีความสุขมากขึ้น ค. ทำให้มนุษย์เพิ่มจำนวนมากขึ้น ง. ช่วยในการแก้ปัญหาการดำรงชีวิตของมนุษย์ 4. สมาคมนักเทคโนโลยีและวิศวกรรมศึกษานานาชาติกำหนดขั้นตอนของแก้ปัญหาทางเทคโนโลยีไว้ ในมาตรฐานการรู้เรียกว่าอะไร ก. กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม ข. กระบวนการแก้ปัญหาทางวิศวกรรม ค. กระบวนการแก้ปัญหาทางเทคโนโลยี ง. กระบวนการแก้ปัญหาทางเทคโนโลยีและวิศวกรรม 5. พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์บอสตันขับเคลื่อนหลักสูตรใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมกับนักเรียน ในระดับใด ก. ระดับอนุบาล ข. ระดับประถมศึกษา ค. ระดับมัธยมศึกษา ง. ระดับอุดมศึกษา 6. ข้อใดไม่ได้กล่าวถึงความสำคัญของกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม ก. เป็นวิธีการทำงานภายใต้เงื่อนไขและข้อจำ ข. เป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการวิจัยเพื่อสอบสนองความต้องการของมนุษย์ ค. เป็นเครื่องมือที่ช่วยเสริมสร้างและพัฒนาการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยีให้กับผู้เรียน ง. เป็นกระบวนการที่เอาแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และ วิศวกรรมศาสตร์ มาพัฒนาแนวทางแก้ปัญหาที่เหมาะสมที่สุด


16 7. ข้อใดกล่าวถึงความสำคัญของกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมได้ถูกที่สุด ก. เป็นเครื่องมือสำหรับนักวิศวกรรมศึกษานานาชาติ ข. เป็นเครื่องมือการวางแผนเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหา ค. เป็นเครื่องมือค้นหาปัญหางานภายใต้เงื่อนไขและข้อจำกัด ง. เป็นเครื่องมือที่ช่วยเสริมสร้างและพัฒนาการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยีให้กับผู้เรียน 8. ข้อใดหมายถึงกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม ก. Efficient Design Process ข. Education Design Process ค. Engineering Design Process ง. Elementary Design Process 9. ข้อใดคือส่วนประกอบของการออกแบบเชิงวิศวกรรม ก. วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ข. คณิตศาสตร์ เทคโนโลยีและกำลังไฟฟ้า ค. วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี ง. วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสมองกลฟังตัว 10. กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมเป็นการประยุกต์ใช้ศาสตร์ใดบ้าง ก. วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ศิลปะศาสตร์ ข. วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี ค. คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี สังคมศาสตร์ ง. วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคมศาสตร์ คะแนนเต็ม 10 คะแนน ได้ ........... คะแนน


17 บรรณานุกรม สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2563). คู่มือครู รายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เคมี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เล่ม 6.พิมพ์ครั้งที่ 1 ; กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์แห่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2562). หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยา ศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี เล่ม 1. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย. ผู้จัดการออนไลน์. (2563). เปิด 3 ฉากทัศน์โควิด-19 ระบาดรอบใหม่ กลางเดือน ม.ค.64 อาจติดเชื้อ ถึงวันละ18,000 ราย หากไม่ทำอะไรเลย. สืบค้นเมื่อ 30 ธันวาคม 2563, จาก https://mgronline.com/qol/detail/9630000132918



Click to View FlipBook Version