The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชุดกิจกรรม2การถ่ายโอนความร้อน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Anocha Utumsakulrat, 2022-10-22 05:58:16

ชุดกิจกรรม2การถ่ายโอนความร้อน

ชุดกิจกรรม2การถ่ายโอนความร้อน

สารบญั หนา้

บทนำ............................................................................................................................ .... ก
คำชีแ้ จงการใชช้ ดุ กจิ กรรม................................................................................................ ข
แบบประเมนิ ตนเองก่อนเรยี น........................................................................................... 1
ขั้นพฒั นาปญั ญา กจิ กรรม ฝึกอา่ น : ฝกึ คิด 1
หนว่ ยพลังงานความร้อน บทท่ี 2 การถา่ ยโอนความร้อน ........................................ 1
2
เรือ่ งท่ี 1 การถา่ ยโอนความร้อนในชีวิตประจำวัน................................. 3
-ทบทวนความรูก้ ่อนเรยี น 1 ……………………………………………
-กิจกรรม สืบเสาะ ค้นหา 1 เร่อื งความร้อนถา่ ยโอนผ่าน…….. 5
ของแข็งได้อยา่ งไร
-กจิ กรรม สบื เสาะ คน้ หา 2 เร่ืองการถ่ายโอนความรอ้ นของ 10
ของเหลวและแกส๊ 12
-กิจกรรม สืบเสาะ ค้นหา 3 เรอ่ื งการถา่ ยโอนความร้อนโดยไม่ 13
อาศัยตวั กลางเป็นอยา่ งไร……………………………………………..… 14
-ร่วม กนั คดิ 1…………………………………………………………..… 14

เรื่องท่ี 2 สมดลุ ความรอ้ น....................................................................... 18
-ทบทวนความรู้ก่อนเรยี น 2 …………………………………………… 19
-กิจกรรม สบื เสาะ ค้นหา 4 เร่ืองน้ำอุณหภูมิตา่ งกนั ผสมกัน.. 20
จะเปน็ อยา่ งไร……................................................................. 22
-รว่ ม กนั คิด 2…………………………………………………………… 25

ขน้ั นำปญั ญาพฒั นาความคดิ กจิ กรรม ฝึกทำ : ฝกึ สร้าง
ขน้ั นำปัญญาพัฒนาตนเอง กิจกรรม คดิ ดี ผลงานดี มีความสขุ
แบบประเมินตนเองหลงั เรียน............................................................................................
อา้ งอิง............................................................................................................................

บทนำ
ชุดกิจกรรมที่ผู้เรียนจะได้ศึกษาน้ีเรียกว่าชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ตามแนวคิดแบบโยนิโสมนสิการ
หน่วยพลงั งานความรอ้ น บทท่ี 2 การถ่ายโอนความร้อน เป็นสื่อวทิ ยาศาสตร์ท่ีเนน้ ใหผ้ ู้เรียนมีความสามารถใน
การคิดแก้ปัญหาอย่างมีระบบ พบคำตอบของปัญหาหรือสถานการณ์น้ันด้วยตนเอง ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดการ
เรียนร้ดู ้วยตนเอง ไดค้ ิดและลงมอื ปฏิบัตกิ จิ กรรมตา่ ง ๆ และ เพ่อื ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ นักเรียน
ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ตามแนวคิดแบบโยนิโสมนสิการเน้ือหาส่วนใหญ่เน้นการให้นักเรียนสามารถ
นำไปประยุกต์ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันเพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนรู้เน้ือหาได้ด้วยตนเองจึงได้เรียบเรียง
เน้ือหาให้กระชับและน่าสนใจและนอกจากนี้ยังได้แทรกรูปภาพและคำถามชวนคิดไว้ตลอดทำให้ไม่เบ่ือในการ
อา่ นและทำกิจกรรม
ผู้จัดทำชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ตามแนวคิดแบบโยนิโสมนสิการหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารชุดนี้จะมี
ประโยชนใ์ นการเรยี นร้เู นอื้ หาตามหลกั สูตร ผ้เู รียนมีความรแู้ ละความสามารถในการสืบค้น การจัดระบบสิ่งท่ี
เรียนรู้ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพ่ือสรา้ งองค์ความรู้ ได้เป็นอย่างดีสามารถนำความรู้ท่ีได้จากการ
เรียนรู้ไปปรับใช้ในชีวติ ประจำวนั ได้ และเป็นประโยชน์สำหรับผ้ทู ่ีสนใจใช้เป็นแนวทาง ในการจัดกระบวนการ
เรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ไดต้ ่อไป

...........................................
( นางสาวอโนชา อุทุมสกุลรตั น์ )
ผ้จู ดั ทำชดุ กจิ กรรมวิทยาศาสตร์



คำช้ีแจงการใชช้ ดุ กจิ กรรมวิทยาศาสตรต์ ามแนวคดิ แบบโยนโิ สมนสิการ
เรอ่ื ง การถ่ายโอนความร้อน

1. สาระที่ 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ
มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลงั งาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน

ปฏิสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสสารและพลงั งาน พลงั งานในชีวติ ประจำวัน ธรรมชาติของคลน่ื ปรากฏการณท์ ี่เกยี่ วข้อง
กบั เสยี ง แสง และคล่นื แมเ่ หล็กไฟฟ้ารวมทง้ั นำความรู้ไปใช้ประโยชน์
2. มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตวั ชี้วัด ว 2.3 ม.1/6 1,7
3. วธิ เี รยี นรู้จากชดุ กจิ กรรมนี้เพื่อให้เกดิ ประโยชน์สูงสุดนกั เรียนควรปฏิบัตติ าม
คำช้แี จง ต่อไปนี้

1. ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์สองภาษาตามแนวคิดแบบโยนโิ สมนสกิ าร เรอ่ื ง การถา่ ยโอนพลงั งาน
ชดุ นี้ ใช้เวลา 14 ช่ัวโมง
2. ให้นกั เรยี นจัดกล่มุ ๆ ละประมาณ 6 คน
3. ใหน้ ักเรยี นศึกษามาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชีว้ ัดของชดุ การเรยี น
4. ให้นักเรยี นปฏบิ ตั กิ ิจกรรมในชดุ กจิ กรรมวทิ ยาศาสตร์ตามแนวคดิ แบบโยนโิ สมนสิการ โดยใช้

รปู แบบการเรียนรู้แบบโยนิโสมนสิการตามข้นั ตอนดังนี้
1. ขัน้ พัฒนาปัญญา
2. ข้ันนำปญั ญาพฒั นาความคิด
3. ข้ันนำปัญญาพฒั นาตนเอง

4. สาระสำคัญ
การถ่ายโอนความรอ้ นมี 3 วิธี คือ การนำความร้อน การพาความร้อนและการแผร่ ังสคี วามรอ้ น การ

นำความร้อนเปน็ การถ่ายโอนความร้อนท่ีอาศยั ตัวกลาง โดยทีอ่ นุภาคของตวั กลางไมเ่ คลือ่ นที่ แต่สนั่
ต่อเน่อื งกนั ไป การพาความร้อนเป็นการถา่ ยโอนความร้อนซ่ึงอาศัยตวั กลางท่เี ป็นของเหลวหรือแกส๊ โดยที่
อนภุ าคของตัวกลางเคล่ือนท่ไี ปพรอ้ มกับพาความร้อนไปด้วย การแผ่รังสีความร้อนเปน็ การถา่ ยโอนความร้อน
ท่ีไม่ต้องอาศยั ตวั กลาง แตค่ วามร้อนส่งผา่ นโดยคลื่นแมเ่ หล็กไฟฟ้า

ความร้อนถ่ายโอนจากสสารท่ีมอี ณุ หภมู สิ ูงกวา่ ไปยังสสารท่ีมอี ณุ หภมู ิต่ำกว่าจนกระทั่งอุณหภูมขิ อง
สสารทง้ั สองเท่ากนั สภาพที่สสารท้งั สองมีอณุ หภูมิเทา่ กัน เรยี กวา่ สมดุลความร้อน เม่ือมีการถ่ายโอนความ
ร้อนระหว่างสสารซงึ่ มีอณุ หภูมิต่างกันจนเกิดสมดลุ ความรอ้ น ปริมาณความร้อนทส่ี สารหนึง่ ได้รับจะเท่ากบั
ปริมาณความร้อนที่อีกสสารหน่งึ สญู เสยี

ความรูเ้ กย่ี วกับการถา่ ยโอนความรอ้ นสามารถนำไปใช้ประโยชนใ์ นชีวติ ประจำวันหรอื ใช้ในการอธิบาย
ปรากฏการณ์ทีเ่ กิดขน้ึ ตามธรรมชาติได้

*** ขอใหน้ ักเรยี นทุกคนได้เรียนรู้วทิ ยาศาสตร์อยา่ งมีความสขุ ***



แบบประเมินตนเองก่อนเรยี น

คำชีแ้ จง : ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามต่อไปน้ี ใชเ้ วลา 30 นาที
1. นำขอ้ ความต่อไปนเ้ี ติมในช่องว่างของผังมโนทัศน์ใหถ้ ูกต้องและครบถว้ น (เลือกตอบไดม้ ากกวา่ 1 คำ)

การถ่ายโอนความรอ้ น การนำความร้อน การพาความร้อน การแผ่รังสคี วามร้อน
อาศัยตวั กลาง ไม่อาศัยตวั กลาง ของแข็ง ของเหลว แก๊ส

2. การปงิ้ แป้งขนมปังซง่ึ ด้านล่างมถี า่ นไม้ตดิ ไฟอยู่ ดงั รูป ความร้อนจากการเผาไหม้ถ่านไมจ้ ะถ่ายโอนไปสู่
บริเวณใดบา้ งและถ่ายโอนไปได้อย่างไรบา้ ง จงวาดภาพประกอบและเขยี นอธิบาย

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. การสวมเสื้อกันหนาวในฤดูหนาวทำใหร้ า่ งกายอบอุ่น นักเรียนคดิ ว่าเหตุการณ์ดังกลา่ ว เก่ียวข้องกบั การถา่ ย
โอนความร้อนหรือไม่ อย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
4. ในงานแข่งขันแกะสลักก้อนน้ำแขง็ บนยอดเขาสูงแห่งหน่งึ ในคนื ของฤดหู นาว ซึง่ มีอุณหภูมิ -2 องศา
เซลเซียสผู้เข้าแข่งขนั คนหน่ึงแกะสลกั กอ้ นน้ำแข็งเปน็ รปู หญิงสาว เม่อื ผลงานเสร็จแลว้ ผเู้ ข้าแข่งขนั นำเสื้อคลุม
บาง ๆ คลุมก้อนนำ้ แขง็ ท่ีแกะสลกั เพื่อทำให้เกิดความสมจริง เมื่อถึงตอนเชา้ มดื ก้อนน้ำแข็งรปู หญงิ สาวจะเกดิ
การเปลย่ี นแปลงหรือไม่ อยา่ งไร เพราะเหตุใด
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. เม่อื วางแก้วใส่นำ้ ผสมนำ้ แข็งในห้องทีม่ ีอณุ หภมู ิ 35 องศาเซลเซยี ส ระยะเวลานาน 4 ชั่วโมง น้ำในแก้วจะมี
อณุ หภมู ิเปน็ อยา่ งไรเม่ือเทยี บกบั อุณหภูมิของอากาศในห้อง เพราะเหตุใด
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

6. นำแก้วนำ้ มวล 170 กรมั อุณหภมู ิ 28 องศาเซลเซยี ส ใส่น้ำรอ้ นมวล 320 กรัม อุณหภูมิ 80 องศาเซลเซยี ส
ความร้อนมีการถ่ายโอนอย่างไร ปริมาณความรอ้ นท่ีถา่ ยโอนเปน็ ก่แี คลอรี (ความร้อนจำเพาะของแก้วเทา่ กบั
0.20 แคลอร/ี กรัมองศาเซลเซียส และความรอ้ นจำเพาะของนำ้ เท่ากับ 1 แคลอรี/กรัม องศาเซลเซยี ส)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
7. ข้อแนะนำประการหนึ่งในการใชต้ ูเ้ ย็น คอื ไม่ควรนำของที่ยงั รอ้ นอยู่แช่ในตู้เยน็ เพราะเป็นการสน้ิ เปลือง
พลังงานไฟฟ้า นักเรียนเห็นด้วยหรือไม่ เพราะเหตุใด จงอธิบายโดยใช้หลักการของสมดลุ ความร้อน
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

คะแนนเต็ม 7 คะแนน
ได้ ........... คะแนน

ขั้นพฒั นาปัญญา 1

การถา่ ยโอนความร้อน

เวลา 14 ชว่ั โมง

กิจกรรม ฝึ กอ่าน : ฝึ กคิด

เรือ่ งท่ี 1 การถา่ ยโอนความรอ้ นในชีวิตประจำวัน

ภาพที่ 1 การประกอบอาหารดว้ ยวธิ ตี ่าง ๆ

ที่มา หนงั สอื แบบเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ม.1 เลม่ 2 สสวท

ขน้ั ตอนการนำอาหารสดที่แช่แขง็ มาประกอบอาหารจะต้องทำ
อย่างไร
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………..

การประกอบอาหารเพอ่ื ทำให้อาหารสุกต้องใช้ความร้อนจากแหล่งความร้อนตา่ ง ๆ เชน่ เตาไฟฟา้
เตาแก๊ส หรือเตาถา่ นการทำอาหารแต่ละวธิ ีเกยี่ วข้องกับการถ่ายโอนความร้อนอย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2

ทบทวนความร้กู ่อนเรยี น 1

1. ระบวุ า่ ในแตล่ ะเหตุการณ์ต่อไปน้ีมีการถ่ายโอนความร้อนจากสิ่งใดไปสู่สง่ิ ใด

1.1 น้ำแขง็ ท่ีใส่ลงไปในน้ำหวาน ………………………………………………………………………

1.2 ซาลาเปารอ้ นทว่ี างไวบ้ นถาดพลาสติก ………………………………………………………..

1.3 คนทีน่ ่ังอยู่ข้างกองไฟ ……………………………………………………………..………………………………………..

2. เขียนอธิบายการจดั เรยี งอนภุ าคและการเคลอ่ื นทขี่ องอนุภาคของสสาร

การจัดเรยี งอนภุ าค การเคลอ่ื นที่ของอนุภาค

ไอน้ำ …อนุภาคกระจายอยหู่ ่างกนั มาก....... ….. อนภุ าคเคลอ่ื นทไ่ี ด้อยา่ งอสิ ระทุกทศิ ทาง…..

เกลือ .......................................................... …………………………………………………………………

นมถ่วั เหลือง .......................................................... …………………………………………………………………

ภาพที่ 2 ลกู ชนิ้ ป้ิง
ที่มา http://www.e-toyotaclub.net

ภาพแสดงลกู ช้ินเสียบไมไ้ วห้ ลายลูก ดา้ นหน่งึ ของลกู ชิ้นวางบนแทง่ เหล็กท่ีไดร้ ับความรอ้ น

นกั เรยี นคดิ ว่ามีการถ่ายโอนความรอ้ นอยา่ งไร ลูกช้นิ ท่ีตำแหนง่ ใดจะ
สกุ กอ่ น
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………..

3

กิจกรรม สบื เสาะ คน้ หา 1

กจิ กรรมท่ี 1 ความร้อนถ่ายโอนผา่ นของแข็งได้อย่างไร

จดุ ประสงค์ :

1. สังเกตและอธบิ ายการถ่ายโอนความร้อนของแผ่นอะลูมเิ นียม

2. รวบรวมขอ้ มลู และสร้างแบบจำลองเพื่ออธิบายการถ่ายโอนความร้อนของของแข็ง

วัสดแุ ละอุปกรณ์

รายการ ปริมาณ/กลุ่ม

1. เทยี นไข 1 เล่ม

2. เทียนไขขนาดเลก็ 2 เลม่

3. แผน่ อะลูมเิ นียมขนาด 15 x 15 cm 1 แผน่

4. วงเวยี น 1 อนั

5. ไม้ขดี ไฟ 1 กลกั

6. ที่ก้ันลมของชุดตะเกียงแอลกอฮอล์ 1 อนั

7. ไมบ้ รรทัด 1 อัน

8. กรรไกร 1 เล่ม

9. มดี คดั เตอร์ 1 อนั

10. เคร่ืองบันทกึ ภาพเคลื่อนไหว (ถ้ามี) 1 เครือ่ ง

วิธีการทดลอง

1. ตดั แผน่ อะลมู เิ นยี มขนาด 15 x 15 cm ใหใ้ ช้วงเวยี นวาดวงกลม 3 วง ซอ้ นกนั ดังรปู

2. ตดั เทยี นไขเปน็ ชิน้ เล็กๆขนาดเท่าๆกนั จำนวน 13 ชนิ้
3. นำแผน่ อะลมู เิ นยี มวางพาดไวบ้ นท่ีก้ันลม จากนนั้ วางช้ินเทยี นไขบนแผ่นอะลูมเิ นยี ม
ตำแหนง่ ใดก็ได้ 4 ช้ินในแต่ละวง และวางไว้ตรงกลางวงกลมอีก 1 ชนิ้ ดงั รปู

ภาพท3่ี การจัดอุปกรณใ์ นกิจกรรมความรอ้ นถา่ ยโอนผ่านของแข็งได้อย่างไร

ท่มี า หนงั สือแบบเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 2 สสวท

4

4. จุดเทียนไขอกี แท่งหนึง่ ใต้แผน่ อะลมู ิเนียมให้เปลวเทียนอยตู่ รงกลางแผน่ สงั เกตการเปล่ยี นแปลงหรอื ถ่าย

ภาพเคลอื่ นไหวนำเสนอ

5. นำขอ้ มลู ท่ีได้จากการสังเกตมาสรา้ งแบบจำลอง โดยวาดภาพการจดั เรยี งอนภุ าคแสดงการถ่ายโอนความ

รอ้ นของของแขง็

6. สืบค้นข้อมลู การถ่ายโอนความรอ้ นของของแขง็ ในระดบั อนุภาคจากแหล่งคน้ ควา้ ทเี่ ชอื่ ถือได้บันทึกผล

7. ปรบั ปรุงแบบจำลองการถ่ายโอนความร้อนของของแข็งในขอ้ 5 ให้ถูกต้อง นำเสนอ

ผลการทำกจิ กรรม

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

แบบจำลองตามความคิดของตนเอง แบบจำลองทีป่ รับปรุงแลว้

คำถามทา้ ยกิจกรรม
1. เมือ่ ให้ความร้อนแกแ่ ผน่ อะลมู เิ นียม การเปลีย่ นแปลงของชิน้ เทียนไขแต่ละตำแหน่งเหมอื นหรอื แตกต่างกัน
อยา่ งไร
คำตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
2. การถ่ายโอนความรอ้ นของแผ่นอะลมู ิเนียมเปน็ อยา่ งไร ทราบได้อยา่ งไร
คำตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
3. แบบจำลองการถ่ายโอนความรอ้ นของของแข็งทส่ี รา้ งข้ึนในตอนแรกเหมือนหรอื แตกต่างจากแบบจำลองท่ี
ปรบั ปรงุ แล้วอย่างไร
คำตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
4. แบบจำลองการถ่ายโอนความรอ้ นท่ีปรบั ปรุงแล้วอธิบายการถ่ายโอนความร้อนของของแขง็ ไดอ้ ยา่ งไร
คำตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

5

5. แบบจำลองการถ่ายโอนความรอ้ นของของแขง็ ที่สร้างขน้ึ มีอะไรบ้างทไ่ี ม่สามารถแสดงให้เห็นตามความเป็น
จรงิ ได้
คำตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
6. จากกิจกรรม สรุปไดว้ ่าอย่างไร
คำตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

กิจกรรม สืบเสาะ คน้ หา 2 กจิ กรรมท่ี 2 การถา่ ยโอนความร้อนของของเหลวและแกส๊

จุดประสงค์ :

1. สังเกตและอธบิ ายการถ่ายโอนความร้อนของนำ้ และอากาศ

2. รวบรวมขอ้ มลู และสร้างแบบจำลองเพ่ืออธบิ ายการถ่ายโอนความร้อนของของเหลวและแก๊ส

วัสดแุ ละอุปกรณ์

รายการ ปรมิ าณ/กลุ่ม

1. บกี เกอร์ขนาด 250 cm3 1 ใบ

2. ชุดตะเกยี งแอลกอฮอล์ 1 ชดุ

3. เทอร์มอมเิ ตอร์ 0 - 100 °C 2 อนั

4. ขาตัง้ พร้อมท่ีจับ 2 ชุด

5. เมล็ดแมงลัก 10 เมล็ด

6. น้ำ 200 cm3

7. ไม้ขดี ไฟ 1 กลกั

8. นาฬกิ าจับเวลา 1 เรือน

9. กระดาษลอกลาย 1 แผน่

10. เส้นดา้ ยยาว 30 cm 1 เส้น

11. กรรไกร 1 เลม่

12. เทยี นไข 1 เลม่

13. เคร่ืองบันทึกภาพเคลอ่ื นไหว (ถ้ามี) 1 เครอ่ื ง

วธิ กี ารทดลอง ตอนที่ 1
1. เติมนำ้ ปรมิ าตร 200 cm3 ในบกี เกอร์จากนนั้ นำบีกเกอร์ตงั้ บนตะแกรงของชุดตะเกยี งแอลกอฮอล์ หยอ่ น
เมลด็ แมงลักทีพ่ องแล้วจำนวน 10 เมล็ด ใหจ้ มลงไปทกี่ น้ บีกเกอร์ นำเทอร์มอมิเตอร์อันหนึง่ วดั อุณหภมู ิของนำ้

ที่ก้นบีกเกอร์และอกี อันหนงึ่ วัดอณุ หภมู ขิ องน้ำท่ีผิวนำ้ ดงั รูป บันทึกผล

6

เทอร์มอมิเตอร์

เมลด็ แมงลกั

ภาพท4ี่ การจดั อปุ กรณใ์ นกจิ กรรมการถา่ ยโอนความร้อนของของเหลว

ทมี่ า หนงั สือแบบเรียนวทิ ยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 2 สสวท

2. ให้ความร้อนแก่น้ำโดยใช้ตะเกยี งแอลกอฮอล์ และเร่ิมจับเวลา
3. วดั และบนั ทกึ อุณหภูมิของนำ้ ท้ัง 2 บรเิ วณทุกๆครง่ึ นาทีจนนำ้ เดอื ด สังเกตและบันทึกผลการเปล่ียนแปลง
ของเมลด็ แมงลักตง้ั แตเ่ ร่ิมตน้ จนน้ำเดอื ด หรอื ถ่ายภาพเคลอ่ื นไหว
4. นำข้อมลู ที่ได้จากการสงั เกต มาสรา้ งแบบจำลองโดยวาดภาพการจัดเรยี งอนภุ าคแสดงการถ่ายโอนความ
รอ้ นของของเหลวในบกี เกอร์
5. สืบคน้ ขอ้ มลู การถ่ายโอนความรอ้ นของของเหลวในระดับอนภุ าคจากแหล่งค้นคว้าทเี่ ชื่อถือไดบ้ นั ทึกผล
6. ปรับปรุงแบบจำลองการถา่ ยโอนความร้อนของของเหลวในข้อ 4 ให้ถูกต้องนำสนอ
ผลการทำกจิ กรรม ตอนท่ี 1

เวลา อุณหภมู ขิ องนำ้ (°C) การเปล่ียนแปลงของเมลด็ แมงลกั
(นาท)ี
บริเวณ ใกล้
ผวิ นำ้ กน้ บีกเกอร์

0 25.0 25.0 เมล็ดจมนิง่ อยู่ก้นบีกเกอร์

0.5 25.8 26.5 ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

1 27.3 29.5 บางเมล็ดเรม่ิ เคล่อื นท่ีขึน้ มาช้า ๆ ถงึ กลางภาชนะแลว้ ตกกลบั ลงมาท่ี
กน้ บกี เกอร์

1.5 29.2 31.0 บางเมล็ดเรม่ิ เคล่ือนที่ขน้ึ มาชา้ ๆ ถงึ กลางภาชนะแล้วตกกลบั ลงมาทีก่ ้น
บกี เกอร์

2 32.2 35.0 บางเมล็ดเริม่ เคลือ่ นทข่ี นึ้ มาชา้ ๆ ถึงกลางภาชนะแลว้ ตกกลบั ลงมาทีก่ น้
2.5 35.0 บีกเกอร์
3 38.0
3.5 39.8 36.2 บางเมล็ดเรมิ่ เคล่ือนทข่ี ้ึนมาชา้ ๆ ถงึ กลางภาชนะแลว้ ตกกลบั ลงมาทกี่ ้น
4 41.5 บีกเกอร์

39.5 บางเมล็ดเรม่ิ เคลือ่ นที่ขน้ึ มาชา้ ๆ ถงึ กลางภาชนะแลว้ ตกกลบั ลงมาทก่ี ้น
บกี เกอร์

41.5 บางเมลด็ เร่มิ เคลอ่ื นที่ข้นึ มาถงึ กลางภาชนะ
แล้วตกกลับลงมาที่ก้นบีกเกอร์

43.3 บางเมลด็ เรมิ่ เคลอ่ื นทขี่ ้นึ มาถึงกลางภาชนะ
แลว้ ตกกลับลงมาที่กน้ บกี เกอร์

7

4.5 44.0 47.5 บางเมล็ดเคล่ือนที่ขน้ึ ไปใกลผ้ ิวน้ำ แลว้ ตกกลบั ลงมาที่กน้ บีกเกอร์
5 47.5 51.2 2 - 3 เมล็ดเคล่ือนที่ขึ้นไปใกลผ้ วิ นำ้ แลว้ ตกกลบั ลงมาทกี่ น้ บีกเกอร์
5.5 50.0 54.4 2 - 3 เมลด็ เคลอ่ื นท่ีข้ึนไปใกลผ้ วิ นำ้ แล้วตกกลบั ลงมาท่ีกน้ บีกเกอร์
6 52.0 56.5 3 - 4 เมล็ดเคลือ่ นที่ขน้ึ ไปใกล้ผวิ นำ้ แล้วตกกลับลงมาทกี่ น้ บีกเกอร์
6.5 54.0 59.0 4 - 5 เมลด็ เคลื่อนทข่ี น้ึ ไปใกลผ้ วิ น้ำ แล้วตกกลับลงมาทก่ี น้ บีกเกอร์
7 56.8 61.8 4 - 5 เมลด็ เคล่อื นทขี่ นึ้ ไปใกลผ้ วิ น้ำอยา่ งรวดเร็วแลว้ ตกกลบั ลงมาทีก่ ้น

บกี เกอร์

แบบจำลองการถ่ายโอนความร้อนของของเหลว แบบจำลองทปี่ รับปรงุ แลว้
แบบจำลองตามความคิดของตนเอง

คำถามท้ายกจิ กรรม ตอนท่ี 1
1. เมื่อให้ความร้อนแกน่ ำ้ ความรอ้ นถ่ายโอนจากบรเิ วณใดไปสบู่ รเิ วณใด ทราบได้อยา่ งไร
คำตอบ เมอื่ ให้ความร้อนแก่น้ำ ความรอ้ นจะถ่ายโอนจากน้ำบริเวณทอ่ี ยใู่ กล้เปลวไฟซ่งึ มีอุณหภมู สิ ูงกวา่ ไปยัง
นำ้ บริเวณท่อี ยหู่ า่ งออกไปซ่ึงมีอณุ หภมู ิต่ำกว่า ทราบได้จากการวดั อุณหภูมขิ องนำ้ บริเวณก้นบกี เกอรซ์ ึ่งสูงกวา่
นำ้ บริเวณใกลผ้ ิวนำ้
2. เมือ่ ให้ความร้อนแก่นำ้ นำ้ มกี ารเคลื่อนท่ีอยา่ งไร ทราบได้อย่างไร
คำตอบ เม่ือให้ความร้อนแก่น้ำ นำ้ บรเิ วณด้านล่างใกล้กบั ก้นบีกเกอร์ เคลื่อนท่ีขึน้ มาดา้ นบน ทราบได้จากการ
เคลื่อนที่ของเมลด็ แมงลักทล่ี อยตวั ขึ้นไปใกล้ผวิ นำ้ แสดงวา่ น้ำทอ่ี ยูด่ า้ นลา่ งซ่ึงมีอณุ หภูมิสงู กวา่ เคลอ่ื นที่ขนึ้ ไป
ด้านบน
3. แบบจำลองการถ่ายโอนความร้อนของนำ้ ท่สี ร้างขน้ึ ในตอนแรกเหมือนหรอื ตา่ งจากแบบจำลองท่ปี รบั ปรุง
แล้วอยา่ งไร
คำตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
4. แบบจำลองการถ่ายโอนความรอ้ นท่ีปรบั ปรุงแลว้ อธิบายการถา่ ยโอนความร้อนของของเหลวไดอ้ ยา่ งไร
คำตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
5. แบบจำลองการถา่ ยโอนความร้อนของของเหลวทสี่ รา้ งข้ึน มอี ะไรบา้ งทไี่ ม่สามารถแสดงใหเ้ ห็นตามความ
เปน็ จริงได้
คำตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

8

6. จากกจิ กรรม สรปุ ได้วา่ อย่างไร
คำตอบ ความร้อนถ่ายโอนผ่านของเหลวจากบรเิ วณท่มี ีอณุ หภมู ิสูงกวา่ ไปยังบริเวณที่มอี ุณหภูมิตำ่ กว่าโดย
อนุภาคของของเหลวที่มีอณุ หภูมสิ ูงกว่าจะเคลื่อนท่ีขน้ึ ดา้ นบนพรอ้ มกบั พาความร้อนไปด้วยจงึ ทำให้ของเหลว
บรเิ วณดา้ นบนมอี ุณหภมู ิสงู ข้ึนตามไปด้วย

วธิ ีการทดลอง ตอนท่ี 2
1. ตัดกระดาษลอกลายเปน็ สี่เหลีย่ มจัตุรสั ยาวด้านละ 10 cm แล้วตัดกระดาษใหเ้ ป็นเส้นฝอยยาวประมาณ 2
ใน 3 ของแผน่ ม้วนกระดาษเขา้ ด้วยกนั มลี ักษณะเปน็ พหู่ ้อยลง แล้วใชเ้ ชือกผกู กบั ปลายดา้ นบนของพู่กระดาษ
2. จัดอุปกรณด์ ังรปู โดยแขวนพกู่ ระดาษให้หา่ งจากพื้นประมาณ 30 cm สังเกตลักษณะของพกู่ ระดาษ บนั ทึก
ผล
3. จดุ เทียนไขไวใ้ ตพ้ ู่กระดาษ ห่างจากพ้ืนพ่กู ระดาษประมาณ 25 cm วดั อุณหภูมิของอากาศบริเวณปลายลา่ ง
และปลายบนของพกู่ ระดาษทุกๆคร่ึงนาที เปน็ เวลา 3 นาที และสังเกตส่ิงทเี่ กิดขึ้นกบั พกู่ ระดาษ บนั ทึกผล
4. นำแท่งเทียนไขออกจากตำแหน่งเดิม สังเกตส่ิงที่เกิดขึน้ กับพูก่ ระดาษอีกครง้ั บันทึกผล
5. นำขอ้ มลู ที่ได้จากการสังเกตมาสรา้ งแบบจำลองโดยวาดภาพการจดั เรียงอนภุ าคแสดงการถา่ ยโอนความรอ้ น
ของแก๊ส
6. สบื ค้นข้อมูลการถ่ายโอนความร้อนของแกส๊ ในระดับอนุภาคจากแหล่งค้นควา้ ที่เชอ่ื ถือได้ บันทึกข้อมูลที่
รวบรวมได้
7. ปรบั ปรุงแบบจำลองการถ่ายโอนความร้อนของแก๊สในขอ้ 5 ให้ถูกต้องนำเสนอ

ภาพท่ี5 การจัดอปุ กรณใ์ นกจิ กรรมการถา่ ยโอนความร้อนของแกส๊

ที่มา หนงั สือแบบเรียนวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 2 สสวท

ผลการทำกิจกรรม ตอนท่ี 2

ตาราง ผลการสงั เกตพกู่ ระดาษ

กจิ กรรม ผลการสังเกต

ก่อนจดุ เทียนไข พู่กระดาษอยู่นงิ่ ไม่ขยับ

จุดเทยี นไข พ่กู ระดาษขยับบานข้นึ ดา้ นบน สกี ระดาษเร่ิมเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล

เมือ่ นำเทยี นไขออก พู่กระดาษตกกลบั ลงมาอยู่น่ิงเหมือนเดิม

9

ตาราง อุณหภมู ขิ องอากาศ

เวลา อณุ หภูมิของอากาศ (°C)

(นาที) บริเวณดา้ นบนของพู่กระดาษ บริเวณดา้ นลา่ งของพกู่ ระดาษ

0 29.5 29.5

0.5 31.0 32.0

1 31.5 34.0

1.5 32.0 38.0

2 33.0 40.0

2.5 35.0 43.0

3 37.0 47.0

แบบจำลองการถ่ายโอนความร้อนของแกส๊ แบบจำลองท่ปี รบั ปรงุ แล้ว
แบบจำลองตามความคดิ ของตนเอง

คำถามทา้ ยกิจกรรม ตอนที่ 2
1. เมอ่ื ให้ความร้อนแกอ่ ากาศ ความรอ้ นถา่ ยโอนจากบริเวณใดไปสบู่ ริเวณใด ทราบได้อย่างไร
คำตอบ เมื่อให้ความร้อนแก่อากาศ ความร้อนจะถ่ายโอนจากอากาศบรเิ วณที่อยู่ใกล้เปลวไฟซง่ึ มีอุณหภมู สิ ูง
กวา่ ไปยังอากาศบรเิ วณที่อยูห่ ่างออกไปซง่ึ มีอณุ หภมู ติ ่ำกว่าทราบไดจ้ ากการวัดอุณหภูมขิ องอากาศบรเิ วณ
ด้านล่างของพู่กระดาษซงึ่ มคี า่ มากกวา่ อากาศบริเวณด้านบนของพกู่ ระดาษ
2. เมอ่ื ให้ความร้อนแกอ่ ากาศ อากาศมกี ารเคลื่อนที่อยา่ งไร ทราบได้อยา่ งไร
คำตอบ เมอ่ื ให้ความร้อนแก่อากาศ อากาศบริเวณท่ีอยูใ่ กล้เปลวไฟจะเคลอื่ นที่ขนึ้ มาด้านบน ทราบได้จากการ
เคลอ่ื นท่ีของพูก่ ระดาษที่เคล่อื นไหวและบานข้นึ แสดงว่าอากาศด้านล่างท่มี ีอุณหภมู ิสงู กว่าจะเคลื่อนทข่ี น้ึ ไป
ดา้ นบน
3. แบบจำลองการถ่ายโอนความร้อนของแก๊สที่สร้างขนึ้ ในตอนแรกเหมอื นหรือตา่ งจากแบบจำลองที่ปรบั ปรุง
แล้วอย่างไร
คำตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
4. แบบจำลองการถา่ ยโอนความรอ้ นทป่ี รับปรุงแลว้ อธิบายการถ่ายโอนความรอ้ นของแก๊สไดอ้ ย่างไร
คำตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

10

5. แบบจำลองการถา่ ยโอนความร้อนของแก๊สท่ีสรา้ งข้นึ มอี ะไรบ้างที่ไมส่ ามารถแสดงใหเ้ หน็ ตามความเป็นจรงิ
ได้
คำตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
6. จากกิจกรรม สรปุ ไดว้ ่าอย่างไร
คำตอบ แก๊สมีการถ่ายโอนความรอ้ นจากบริเวณท่ีมีอณุ หภูมิสงู กว่าไปยงั บริเวณที่มีอุณหภมู ติ ำ่ กวา่ โดยอนภุ าค
ของแกส๊ บริเวณที่มอี ุณหภูมสิ งู กวา่ จะเคล่ือนท่ีขึ้นด้านบนจนทำใหแ้ กส๊ บริเวณดา้ นบนมีอุณหภมู ิสูงขน้ึ ตามไป
ด้วย
7. จากกจิ กรรมท้ัง 2 ตอน สรุปไดว้ า่ อย่างไร
คำตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

กิจกรรม สืบเสาะ คน้ หา 3 กิจกรรมท่ี 3 การถา่ ยโอนความรอ้ นโดยไม่อาศยั ตัวกลางเปน็

อย่างไร

จดุ ประสงค์ :

สบื คน้ ข้อมูลและสร้างแบบจำลองการถา่ ยโอนความร้อนโดยไม่อาศัยตวั กลาง

วัสดุและอุปกรณ์

-

วธิ กี ารดำเนินกิจกรรม

1. อภปิ รายร่วมกันเกย่ี วกบั การถา่ ยโอนความร้อนโดยไม่อาศยั ตวั กลางในปรากฏการณต์ ่างๆในชวี ิตประจำวัน

เชน่ การถา่ ยโอนความร้อนจากดวงอาทิตยม์ ายังโลก

2. สร้างแบบจำลองการถา่ ยโอนความร้อนโดยไม่อาศยั ตวั กลางตามความคดิ ของตนเอง

3. สืบคน้ ขอ้ มลู การถา่ ยโอนความร้อนโดยไม่อาศัยตัวกลางจากแหล่งคน้ ควา้ ท่เี ชือ่ ถือไดบ้ ันทึกข้อมูลที่รวบรวม

ได้

4. ปรับปรุงแบบจำลองการถ่ายโอนความรอ้ นโดยไม่อาศยั ตัวกลางในข้อ 2 ให้ถูกตอ้ งนำเสนอ

ผลการทำกิจกรรม

แบบจำลองการถา่ ยโอนความรอ้ นโดยไม่อาศยั ตัวกลาง

แบบจำลองตามความคิดของตนเอง แบบจำลองที่ปรบั ปรงุ แลว้

11

คำถามท้ายกิจกรรม
1. การถ่ายโอนความร้อนโดยไม่อาศยั ตัวกลางเปน็ อย่างไร ตวั อย่างการถ่ายโอนความร้อนโดยไม่อาศยั ตวั กลาง
มีอะไรบ้าง
คำตอบ การถ่ายโอนความร้อนโดยไมอ่ าศยั ตัวกลางเกดิ จากแหลง่ พลงั งานความร้อนแผ่คล่นื แม่เหล็กไฟฟา้ โดย
ไม่ต้องอาศัยอนภุ าคของสสาร ตัวอยา่ งเชน่ การส่งผา่ นความรอ้ นของดวงอาทิตย์มายงั โลก
2. แบบจำลองการถ่ายโอนความรอ้ นโดยไมอ่ าศัยตวั กลางที่สรา้ งข้นึ ในตอนแรกเหมอื นหรือตา่ งจากแบบจำลอง
ทีป่ รับปรุงแลว้ อยา่ งไร
คำตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
3. แบบจำลองทป่ี รบั ปรงุ แล้วสามารถอธิบายการถา่ ยโอนความร้อนโดยไม่อาศยั ตวั กลางได้อย่างไร
คำตอบ การถ่ายโอนความร้อนโดยไม่อาศัยตัวกลางเกดิ ขึ้นโดยการแผ่คลื่นแม่เหลก็ ไฟฟ้าออกจากแหลง่ ความ
รอ้ นในทุกทศิ ทาง โดยคลืน่ แม่เหล็กไฟฟ้าไม่ต้องอาศยั ตัวกลางในการเคลอื่ นที่
4. แบบจำลองการถา่ ยโอนความร้อนโดยไม่อาศัยตวั กลางท่ีสร้างขน้ึ มีอะไรบ้างท่ีไม่สามารถแสดงให้เห็นตาม
ความเปน็ จริงได้
คำตอบ แบบจำลองการถ่ายโอนความร้อนไม่สามารถแสดงใหเ้ ห็นตามความเป็นจรงิ ได้ เชน่ ทิศทางการ
เคลือ่ นท่ีของคลื่นแมเ่ หล็กไฟฟา้
5. จากกิจกรรม สรปุ ได้วา่ อย่างไร
คำตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

.
➢ พลงั งานความร้อนสามารถถา่ ยโอนจากที่ท่ีมีอุณหภูมิสูงไปยังที่ท่ีมีอณุ หภูมิต่ำกว่าได้หลายแบบ
1. การนำความร้อน

การนำความร้อนเกิดขึ้นเน่ืองจากโมเลกุลของสารในตำแหน่งที่สัมผัสกับความร้อนมีพลังงานเพ่ิมข้ึน ทำ
ให้โมเลกุลสั่นและส่งผลกระทบกบั โมเลกุลที่อยู่ข้างเคยี งเป็นการถ่ายทอดพลังงานความร้อนจากโมเลกุลหน่ึงไปยัง
อีกโมเลกลุ หนึ่งตอ่ เนือ่ งกนั ไป

2. การพาความรอ้ น

การที่เราเอามือไปองั เหนือเปลวไฟแลว้ รสู้ กึ ร้อน ทง้ั ๆ ทีเ่ รา
อังหา่ งจากเปลวไฟแล้ว นัน่ เป็นเพราะอากาศเปน็ ตัวนำความร้อนจาก
เปลวไฟมาสมู่ ือเรา

3. การแผ่รงั สคี วามร้อน
การถา่ ยโอนพลังงานความรอ้ นอาศัยตวั กลางในการถ่ายโอนความร้อน แตส่ ำหรบั การถา่ ยโอนพลังงาน

ความร้อนแบบการแผ่รงั สคี วามร้อน สามารถแผ่มาได้เองในรูปขอรงั สคี วามร้อนสารแตล่ ะชนดิ มี
ความสามารถในการนำความร้อนไดต้ า่ งกัน ซึง่ เราเรยี กว่า สภาพนำความร้อนของแข็งสามารถนำความรอ้ น

12

ไดด้ ีกวา่ ของเหลว และของเหลวนำความรอ้ นได้ดกี วา่ แก๊ส สว่ นสุญญากาศไม่สามารถนำความรอ้ นไดเ้ ลย
สารท่ีนำความรอ้ นไดน้ ้อยเรียกว่า ฉนวนความร้อน เช่น แก้ว ไม้ พลาสติก ยาง อากาศ เป็นตน้

ร่วม กนั คดิ 1

จงตอบคำถาม

1. การพาความร้อนแตกต่างจากการนำความร้อนหรือไม่ อยา่ งไร

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

2. เม่ือเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ในอาคาร ผู้ประสบภัยควรหลีกเล่ยี งการสดู ดมควันไฟอยา่ งไร เพราะเหตใุ ด

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

3. ให้นกั เรยี นเขยี นสรุปสง่ิ ที่ได้เรียนรูจ้ ากความเข้าใจของตนเองโดยใช้แผนผงั เวนน์เปรยี บเทยี บความเหมือน

และความแตกต่างกันระหว่างการพาความรอ้ นและนำความรอ้ น

การพาความรอ้ น การนำความรอ้ น

4. การแผร่ ังสคี วามรอ้ นเหมือนและแตกตา่ งจากการนำความร้อนและการพาความรอ้ นอย่างไร
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
5. ให้นักเรียนดูภาพการส่งหนังสือเรียนจากหน้าห้องไปหลังห้องดังภาพด้านล่าง แล้วให้นักเรียนคิด
เปรยี บเทียบวา่ ภาพแตล่ ะภาพแสดงการถ่ายโอนความร้อนแบบใด เพราะเหตุใด และสิ่งที่อยูใ่ นภาพแทนอะไร

13

ภาพ ก
ภาพ ข

ภาพ ค

คำตอบ ภาพทงั้ 3 ภาพ แสดงวิธีการทนี่ ักเรียนส่งหนังสือจากที่หนงึ่ ไปยังอีกท่ีหนึ่งด้วยวิธีการทีแ่ ตก ต่างกัน 3
แบบเปรียบเสมือนการถ่ายโอนความร้อนแต่ละวิธี โดยนักเรียนแต่ละคนแทนอนุภาคของสสาร และหนังสือสี
แดงแทนความร้อนภาพ ก เปรียบได้กับ............................................เพราะหนังสือที่ส่งผ่านแต่ละคนไปนั้น
นักเรียนแต่ละคนไม่ได้เคล่ือนท่ี ภาพ ข เปรียบได้กับ............................................เพราะนักเรียนถือหนังสือไป
พร้อมกบั การเคลื่อนท่ไี ปดว้ ย ภาพ ค เปรียบได้กบั ............................................เพราะหนังสอื ถูกสง่ ไปไดโ้ ดยไม่
ต้องอาศัยตวั นกั เรียนเป็นผูถ้ ือไป

เรื่องที่ 2 สมดุลความรอ้ น

ภาพที่ 6 ทอร์มอมิเตอรว์ ดั ไข้
ท่ีมา หนงั สือแบบเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 2 สสวท

14

ปกติร่างกายของคนจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 37 องศาเซลเซียส แต่เม่ือมีไข้จะทำให้อุณหภูมิของร่างกาย
เพ่ิมสูงข้ึนการวัดอุณหภูมิร่างกายทาได้โดยการนาเทอร์มอมิเตอร์วัดไข้สอดใต้ล้ินหรือใต้รักแร้เป็นระยะเวลา
หน่ึง เมื่อเทอร์มอมิเตอร์สัมผัสกับร่างกายท่ีมีอุณหภูมิสูงกว่า ความร้อนจากร่างกายจะถ่ายโอนไปยังของเหลว
ในเทอร์มอมิเตอร์ซ่ึงมีอุณหภูมิต่ำกว่าทำให้ระดับของของเหลวในเทอร์มอมิเตอร์สูงขึ้นจนกระทั่งคงท่ี จงึ ทำให้
อา่ นค่าอณุ หภูมขิ องร่างกายได้รหู้ รอื ไม่ว่า ทำไมต้องวัดอุณหภูมิของร่างกาย เมือ่ ระดบั ของของเหลวในเทอรม์ อ
มิเตอรค์ งที่

ทบทวนความร้กู ่อนเรยี น 2

เขียน ลอ้ มรอบปริมาณตา่ ง ๆ ที่ใช้ในการคำนวณหำปริมาณความรอ้ นท่ีทำใหข้ องแข็งจำนวนหนึ่งที่
อณุ หภูมหิ ้องเปลี่ยนสถานะเปน็ ของเหลวหมดพอดี

มวล ปรมิ าตร อณุ หภูมิท่เี ปล่ยี นไป ความร้อนจำเพาะ
ความรอ้ นแฝงของการกลายเปน็ ไอ ความรอ้ นแฝงของการหลอมเหลว

ความหนาแน่น

เม่ือมีการถ่ายโอนความร้อนระหว่างน้ำที่มีอุณหภูมิต่างกัน
อุณหภูมิของน้ำท้ังสองจะเปลี่ยนแปลงไปจนกระท่ังเป็น
อยา่ งไร
……………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………
……………………………..

กจิ กรรม สืบเสาะ คน้ หา 4 กจิ กรรมที่ 4 น้ำอณุ หภูมิต่างกันผสมกันจะเปน็ อยา่ งไร

จดุ ประสงค์ :

วัดอุณหภูมขิ องน้ำและอธิบายการถ่ายโอนความร้อนระหวา่ งนำ้ ทม่ี ีอณุ หภมู ิต่างกัน

วัสดุและอุปกรณ์

รายการ ปริมาณ/หอ้ ง
1000 cm3
1. นำ้ รอ้ น 1000 cm3
2. นำ้ เย็น

รายการ ปรมิ า รายการ รายการ ปริมาณ/กลมุ่
1. แคลอรีมิเตอร์ขนาด 50 cm3 1 ชุด

15

2. เทอรม์ อมเิ ตอร์ 2 อัน
3. ถว้ ยตวง 1 ใบ
4. แก้วน้ำ 1 ใบ
5. นาฬิกาจับเวลา 1 เรือน
6. กระดาษกราฟ 1 แผ่น

วธิ กี ารทดลอง
1. เทนำ้ เย็น 25 cm3 ลงในแคลอรีมเิ ตอร์ วดั และบนั ทึกอุณหภมู ิ
2. เทน้ำร้อน 25 cm3 ลงในแกว้ น้ำ วดั และบนั ทกึ อุณหภมู ิ

3. เทนำ้ รอ้ นลงในแคลอรมี เิ ตอร์แลว้ ปดิ ฝาให้แนน่ ทันที วดั และบนั ทึกอุณหภูมิของนำ้ ในแคลอรีมเิ ตอร์ ทุกๆ

10 วนิ าที เป็นเวลา 2 นาที เขยี นกราฟแสดงความสมั พนั ธ์ระหวา่ งอุณหภมู ิกับเวลา

4. วเิ คราะห์กราฟเพื่อสงั เกตการเปลย่ี นแปลงอุณหภูมิของน้ำหลงั ผสมในช่วงเวลาตา่ งๆ
5. ทำกิจกรรมทง้ั หมดซ้ำอีก 1 คร้ังโดยเปลี่ยนอุณหภมู ิของนำ้ รอ้ นและนำ้ เย็น

ผลการทำกิจกรรม คร้ังท่ี 1
อุณหภูมขิ องน้ำร้อนก่อนผสม = 58.5 องศาเซลเซยี ส
อณุ หภมู ิของนำ้ เย็นกอ่ นผสม = 28.5 องศาเซลเซยี ส

ตาราง อณุ หภมู ิของนำ้ เมื่อผสมแล้ว

เวลา (วินาที) อณุ หภมู ิ (°C)
0 28.5
10 38.0
20 39.2
30 40.3
40 41.0
50 41.2
60 41.5
70 41.5
80 41.6
90 41.6
100 41.6
110 41.6
120 41.6

16

กราฟความสัมพันธ์ระหวา่ งอุณหภมู ิของน้ำทผ่ี สมและเวลา

ผลการทำกิจกรรม ครั้งที่ 2 อุณหภมู ิ (°C)
อุณหภมู ิของนำ้ ร้อนก่อนผสม = 54.2 องศาเซลเซียส 11.8
อุณหภูมขิ องนำ้ เยน็ ก่อนผสม = 11.8 องศาเซลเซยี ส 21.0
26.0
ตาราง อณุ หภูมิของนำ้ เมื่อผสมแลว้ 28.0
เวลา (วนิ าที) 28.8
0
10 30.3
20
30 30.5
40
50 30.8
60
70 30.9
80 31.0
90
100 31.0
110
120 31.0

31.0

17

กราฟความสัมพนั ธ์ระหว่างอุณหภูมิของน้ำทผ่ี สมและเวลา

คำถามทา้ ยกจิ กรรม
1. การเปล่ียนแปลงอุณหภมู ขิ องนำ้ หลังผสมในชว่ งเวลาต่าง ๆ เป็นอยา่ งไร
..............................................................................................................................................................................
2. อุณหภูมิของน้ำหลงั ผสมแตกต่างจากอุณหภูมิของนำ้ ก่อนผสมหรอื ไม่ อยา่ งไร
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
3. เมอื่ ทำกจิ กรรมซ้ำอีกคร้งั อณุ หภูมสิ ดุ ทา้ ยของน้ำหลงั ผสมท้ัง 2 คร้งั เท่ากันหรือไม่ อยา่ งไร
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
4. กจิ กรรมนีม้ ีการถา่ ยโอนความร้อนหรือไม่ อย่างไร
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
5. จากกิจกรรม สรปุ ได้วา่ อย่างไร
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

➢ ในขณะสมดุลความร้อน ปริมาณความร้อนท่ีสสารหน่งึ สูญเสียไปจะเท่ากบั ปรมิ าณความรอ้ นท่ีอกี
สสารหน่งึ ได้รบั หรือเขียนอธิบายโดยใช้ความสัมพนั ธ์

Q สูญเสยี = Q ได้รบั

เม่ือนำกลอ่ งนมออกจากตเู้ ย็นมาวางไวใ้ นหอ้ งเป็นเวลา 3 ช่วั โมง
อุณหภมู ิของกล่องนมจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………..

18

ร่วม กนั คดิ 2

1.เม่ือนำชามท่ีทำจากเงินมวล 20 กรัม ท่ีแช่เย็นจนมีอุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส มาใส่น้ำอุ่นมวล 100 กรัม
อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซยี ส ความร้อนมกี ารถา่ ยโอนอย่างไร สมดุลความรอ้ นเกิดข้นึ ท่ีอุณหภูมเิ ทา่ ใด
(กำหนดให้ความร้อนจำเพาะของเงินเท่ากับ 0.056 แคลอรี/กรัม องศาเซลเซียส ความร้อนจำเพาะของน้ำ
เทา่ กับ 1 แคลอรี/กรมั องศาเซลเซยี ส)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ขน้ั นาปัญญาพฒั นาความคิด 19

คดิ แบบนักวทิ ย์

กิจกรรม ฝึ กทา : ฝึ กสร้าง

ให้นกั เรยี นนำเสนอผังมโนทศั นส์ รปุ องค์ความรใู้ นบทเรียนการ
ถา่ ยโอนความร้อน

20

กจิ กรรม คิดดี ผลงานดี มีความสขุ

ขน้ั นาปัญญาพฒั นาตนเอง

จากสถานการณ์ “สรา้ งตูข้ นสง่ สนิ ค้ากนั ความร้อนได้อยา่ งไร” (10 คะแนน)

จดุ ประสงค์ ออกแบบและสรา้ งแบบจำลองตู้ขนส่งสนิ คา้ กันความร้อนโดยใช้ความรู้เก่ยี วกบั การถา่ ยโอน

ความร้อน

วัสดแุ ละอุปกรณ์

วัสดทุ ี่ใชต้ ่อห้อง

รายการ ปริมาณ/ห้อง

1. แผน่ โฟม

2. ลังกระดาษ วัสดุอุปกรณ์เปล่ยี นแปลงได้ตาม

3. แผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์ ความตอ้ งการของนักเรยี น

4. กระดาษหนงั สือพมิ พ์

5. แผ่นพลาสติกลูกฟกู

6. แผน่ โฟม

7. เครอ่ื งช่งั มวล 1 เครื่อง

วสั ดทุ ใี่ ชต้ อ่ กลมุ่

รายการ ปรมิ าณ/ กลุ่ม

1. เทอร์มอมิเตอร์ 1 อัน

2. ดินนำ้ มนั 1 กอ้ น

3. กรรไกร 2 เลม่

4. กาว 1 ขวด

5. เทปกาว 1 มว้ น

ผลการทำกจิ กรรม
ภาพร่าง

21

ขนาดของตูข้ นสง่ สินค้า (ก x ย x ส) ………………………………………… cm มวล …………………….. g

กิจกรรม อุณหภูมิภายในกลอ่ ง (°C)

ก่อนนำไปวางกลางแจง้

หลงั นำไปวางกลางแจง้ 30 นาที

คำถามท้ายกจิ กรรม

1. นำความรู้เกีย่ วกับการถ่ายโอนความร้อนมาใช้ในการสร้างช้ินงานอยา่ งไรบา้ ง

คำตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. ถา้ ต้องการเปรยี บเทียบประสทิ ธิภาพตูข้ นส่งสนิ คา้ กนั ความรอ้ นของกลมุ่ ตนเองกับกลุ่มอนื่ ๆ ใหม้ ีความ

น่าเชอ่ื ถอื ทางวทิ ยาศาสตรต์ ้องควบคมุ ปัจจยั ใดบา้ ง

คำตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

เกณฑก์ ารประเมนิ

รายการประเมนิ ดมี าก (5 คะแนน) ดี (3 คะแนน) พอใช้ (1 คะแนน)

การนำเสนอแบบรา่ ง นำเสนอแนวทางใน นำเสนอแนวทางในการ นำเสนอแนวทางในการ

การออกแบบโครงสรา้ ง ออกแบบโครงสร้าง การ ออกแบบโครงสรา้ ง การ

การเลอื กใช้วสั ดอุ ุปกรณ์ เลือกใช้วัสดุอุปกรณโ์ ดย เลอื กใชว้ สั ดอุ ปุ กรณ์โดย

โดยใชค้ วามร้เู กย่ี วกับ ใช้ความร้เู ก่ยี วกบั การถ่าย ใชค้ วามรูเ้ กยี่ วกบั การ

การถา่ ยโอนความรอ้ นได้ โอนความร้อนไดถ้ ูกต้องแต่ ถ่ายโอนความร้อนได้ถูก

อย่างถูกต้องครบถ้วน อาจจะไมค่ รบถ้วน ต้องบางสว่ นและอาจมี

แนวคดิ คลาดเคล่ือน

การจุของในตู้ขนส่ง สามารถบรรจุขวดนำ้ สามารถบรรจขุ วดนำ้ ขนาด สามารถบรรจุขวดน้ำ

สนิ ค้า ขนาด 600 ml จำนวน 600 ml จำนวน 3 - 4ขวด ขนาด 600 ml

5 ขวดได้ ได้ จำนวน 1 – 2 ขวดได้

ประสทิ ธภิ าพในการ ทำใหต้ ู้ขนส่งสินค้ามี ทำใหต้ ขู้ นส่งสนิ ค้ามี ทำใหต้ ู้ขนสง่ สนิ ค้ามี

กันความร้อนของ อณุ หภูมิภายในสงู ขน้ึ อุณหภมู ภิ ายในสูงข้ึน อณุ หภมู ิภายในสูงขน้ึ

ชิ้นงาน กว่าเดมิ น้อยกว่า 3 กว่าเดิมระหว่าง 3 - 5 กว่าเดิมมากกว่า 5 องศา

องศาเซลเซียส องศาเซลเซยี ส เซลเซียส

การปรบั ปรุงชน้ิ งาน วเิ คราะหข์ ้อบกพร่องใน วเิ คราะหข์ ้อบกพร่องใน วิเคราะห์ข้อบกพรอ่ งใน

ชิ้นงานได้ พร้อมเสนอวธิ ี ชิ้นงานได้ พร้อมเสนอ ช้ินงานได้ แตไ่ มน่ ำเสนอ

แก้ไขชิน้ งานโดยใช้ความ วิธีแก้ไขช้นิ งานโดยใช้ วิธีแกไ้ ขช้นิ งาน

ร้เู กี่ยวกบั การถา่ ยโอน ความรเู้ กี่ยวกบั การถา่ ยโอน

ความร้อนหรือความรู้ ความรอ้ นหรือความรู้

วิทยาศาสตรอ์ น่ื ๆ ได้ วิทยาศาสตร์อน่ื ๆ ไดโ้ ดย

อย่างมเี หตผุ ลไดด้ ว้ ย การชีแ้ นะของครู

ตนเอง

22

แบบประเมินตนเองหลังเรยี น

คำชแี้ จง : ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามต่อไปน้ี ใช้เวลา 30 นาที
1. นำข้อความต่อไปน้ีเตมิ ในช่องวา่ งของผงั มโนทัศนใ์ ห้ถูกต้องและครบถ้วน (เลือกตอบได้มากกว่า 1 คำ)

การถา่ ยโอนความร้อน การนำความรอ้ น การพาความรอ้ น การแผ่รงั สคี วามร้อน
อาศยั ตวั กลาง ไมอ่ าศยั ตวั กลาง ของแข็ง ของเหลว แกส๊

2. การปงิ้ แปง้ ขนมปงั ซึ่งด้านล่างมถี ่านไมต้ ิดไฟอยู่ ดังรปู ความร้อนจากการเผาไหมถ้ า่ นไมจ้ ะถ่ายโอนไปสู่
บริเวณใดบ้างและถ่ายโอนไปได้อยา่ งไรบ้าง จงวาดภาพประกอบและเขยี นอธิบาย

23

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. การสวมเสอ้ื กนั หนาวในฤดูหนาวทำให้ร่างกายอบอ่นุ นักเรียนคิดว่าเหตุการณ์ดงั กลา่ ว เกี่ยวขอ้ งกับการถา่ ย
โอนความร้อนหรือไม่ อย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
4. ในงานแขง่ ขันแกะสลักก้อนนำ้ แขง็ บนยอดเขาสงู แห่งหน่งึ ในคืนของฤดหู นาว ซึง่ มีอุณหภูมิ -2 องศา
เซลเซยี สผเู้ ข้าแข่งขนั คนหนึ่งแกะสลักก้อนน้ำแข็งเปน็ รปู หญิงสาว เมื่อผลงานเสร็จแลว้ ผเู้ ขา้ แข่งขนั นำเส้ือคลมุ
บาง ๆ คลุมก้อนน้ำแขง็ ทแี่ กะสลกั เพอ่ื ทำใหเ้ กดิ ความสมจริง เม่อื ถึงตอนเชา้ มดื ก้อนนำ้ แข็งรูปหญงิ สาวจะเกิด
การเปล่ียนแปลงหรอื ไม่ อย่างไร เพราะเหตุใด
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. เมือ่ วางแก้วใสน่ ้ำผสมนำ้ แขง็ ในห้องท่ีมีอณุ หภมู ิ 35 องศาเซลเซยี ส ระยะเวลานาน 4 ช่ัวโมง น้ำในแกว้ จะมี
อณุ หภมู ิเปน็ อยา่ งไรเม่ือเทยี บกบั อุณหภมู ิของอากาศในห้อง เพราะเหตุใด
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
6. นำแก้วน้ำมวล 170 กรัม อุณหภูมิ 28 องศาเซลเซียส ใส่นำ้ ร้อนมวล 320 กรัม อณุ หภูมิ 80 องศาเซลเซียส
ความร้อนมีการถ่ายโอนอยา่ งไร ปริมาณความรอ้ นที่ถา่ ยโอนเป็นกแ่ี คลอรี (ความร้อนจำเพาะของแกว้ เทา่ กับ
0.20 แคลอร/ี กรมั องศาเซลเซียส และความร้อนจำเพาะของน้ำเทา่ กับ 1 แคลอรี/กรมั องศาเซลเซยี ส)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

24

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…..………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……..……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………..…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………..…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………..……………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
7. ขอ้ แนะนำประการหนง่ึ ในการใชต้ ู้เยน็ คือไม่ควรนำของที่ยังร้อนอย่แู ชใ่ นตู้เย็น เพราะเปน็ การส้ินเปลือง
พลังงานไฟฟา้ นกั เรียนเห็นด้วยหรือไม่ เพราะเหตุใด จงอธิบายโดยใชห้ ลักการของสมดุลความรอ้ น
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…..………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……..……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

คะแนนเต็ม 7 คะแนน
ได้ ........... คะแนน

เอกสารอ้างอิง

ศรีลักษณ์ ผลวัฒนะ และ คณะ . (2551). สอื่ การเรียนรแู้ ละเสริมสรา้ งทกั ษะตามมาตรฐานและ
ตัวช้ีวดั ชัน้ ปีกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ เลม่ 1. กรงุ เทพฯ.นิยมวิทยา.

สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ,สถาบัน. คูม่ ือครู รายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ 1 ชั้น
มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 เล่ม 1. (2553). กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พค์ ุรุสภาลาดพร้าว.

สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี , (2553). สถาบัน.หนงั สือเรยี นวิทยาศาสตร์ 1 ช้นั
มัธยมศึกษา ปที ี่ 1 เล่ม 1 .กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรสุ ภาลาดพร้าว.

ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี , (2561). สถาบนั .หนงั สือเรยี นวิทยาศาสตร์ เล่ม2 ช้ัน
มัธยมศึกษา ปที ี่ 1 เลม่ 2 .กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ครุ ุสภาลาดพรา้ ว.


Click to View FlipBook Version