49
CONFLICT OF INTERESTS
การเป็ นคู่สัญญาหรือ ทํางานในธุรกิจเอกชนใน การรับทรัพย์สิน
มีส่ วนได้ เสี ยในสัญญา กาํ กับหน่วยงานรัฐที หรอื
สังกดั
การเป็ นหุ้นส่วนในห้าง ประโยชน์ต่าง ๆ
ฯผ้ถู ือหุ้นในบริษทั ที การรับสัมปทานหรือคง
เเป็ นคู่สัญญากับรัฐ ถือไว้ซึงสัมปทานจากรัฐ
ปัญหาไกลตวั ?
79
CPI : Corruption Perception Index
ดชั นีชวี ดั ภาพลกั ษณค์ อรร์ ปั ชนั
CPI
CPI ตารางค่าคะแนน CPI ประจาํ ปี 2563 ในกล่มุ ประเทศ
อาเซียน
อันดบั ประเทศ คะแนน อันดบั โลก
1 สิงคโปร์ 85 3
2 บรูไน 60 35
3 มาเลเซีย 51 57
Thailand 4 อินโดนีเซีย 37 102
36 ป 2563 ประเทศไทยได 36 คะแนน จากคะแนน 5 ไทย 36 104
เต็ม 100 คะแนน ซึ่งไมเปลี่ยนแปลงจากป
6 เวียดนาม 36 104
ในสวนของ2อ5ัน6ด2ับโลกจากทั้งหมด 180 ประเทศ ไดปรับตัว 7 ฟิ ลิปปิ นส์ 34 115
ลดลงเปน ลาํ ดับท่ี 104 จากอันดับ 101 เมอ่ื ปท่แี ลว 8 ลาว 29 134
8 เมียนมา 28 137
9 กัมพูชา 21 160
80
50
จาํ นวนเรอื งรอ้ งเรยี น
2558 2560 คา้ ง 15,326 2562
รบั ใหม่ 4,622
5,382 เสรจ็ 3,752
คงเหลอื 16,232
เร่ืองรองเรยี นรับใหม
4,622
เรือ่ งรองเรยี นรับใหม
เรื่องรองเรยี นรับใหม เร่อื งรองเรียนรับใหม เรื่องรอ งเรยี นรบั ใหม
3,051 4,896 3,285
2559 2561 คา้ ง 16,232
รบั ใหม่ 3,285
เสรจ็ 5,167
คงเหลอื 14,350
81
CONFLICT OF INTERESTS
ปรบั ระบบคดิ คดิ เป็ น
ฐานความคดิ
...คดิ แยกแยะ...
82
51
อนาลอ็ ค ANALOG ดิจิทลั DIGITAL
ยอมรบั กบั คําพูดท่วี า “ทุจริตบาง ไมยอมรบั กับคาํ พดู ท่ีวา
ไมเปนไรถา เราไดป ระโยชน” “ทจุ ริตบา งไมเ ปน ไร
ถาเราไดประโยชน“
ไมส ามารถแยกประโยชนส วนตน
ออกจากประโยชนสวนรวม แยกประโยชนส ว นตนออกจาก
ประโยชนส ว นรวม
ประโยชนทับซอ น/สนิ บน/คอรร ัปชัน
ระบบคดิ เหน็ ประโยชนส าธารณะมากอน
ระบบอปุ ถัมภ ประโยชนส วนตน
ใชค วามสัมพนั ธส วนตวั อยาง
ไมถ กู ตอง
83
ระบบคดิ
อนาลอ็ ค ANALOG ดิจิทลั DIGITAL
เอาวสั ดคุ รุภณั ฑห์ ลวง ไม่นําวสั ดคุ รุภณั ฑห์ ลวงไป
ไปใชท้ บี า้ น ใชท้ บี า้ น
เอารถยนตห์ ลวงมาใช้ ไมใ่ ชร้ ถหลวงในเรอื ง
ธุระสว่ นตวั ส่วนตวั
เอาโทรศพั ทห์ ลวงมาใช้ ไม่ใชโ้ ทรศพั ทห์ ลวงโทร
ตดิ ตอ่ ธรุ ะส่วนตวั ธุระส่วนตวั
เอาอปุ กรณไ์ ฟฟ้ าส่วนตวั ไมน่ ําอปุ กรณไ์ ฟฟ้ า
มาชารจ์ ทที าํ งาน สว่ นตวั มาชารจ์ ทที าํ งาน
ใชน้ ําประปาหลวงมาลา้ งรถ
สว่ นตวั ไมร่ บั ของขวญั จากผูม้ า
ตดิ ตอ่ ราชการ
84
52
CONFLICT OF INTEREST
พระราชบญั ญัตปิ ระกอบ
รฐั ธรรมนญู วา ดว ยการ
ปองกันและปราบปราม
การทจุ ริต พ.ศ. ๒๕๖๑
หมวด 6
การขดั กันระหวา งประโยชน
สว นบคุ คลประโยชนสว นรวม
มาตรา 126-129
85
พระราชบญั ญตั ิประกอบรฐั ธรรมนูญวา ดวยการปอ งกัน
และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
การขดั กนั ระหวา งประโยชนส ว นบุคคลและประโยชนส ว นรวม
มาตรา 126 มาตรา 127 มาตรา 128 มาตรา 129
ห า ม มิ ใ ห ก ร ร ม ก า ร หามมิใหกรรมการ ดํารง หามมิใหเจาพนักงานของรัฐ การกระทําอันเปนการ
ผูดํารงตําแหนงในองคกร ตาํ แหนงในองคกรอิสระ รบั ทรพั ยส ินหรือประโยชนอื่น ฝาฝ นบ ทบั ญ ญั ติ ใน
อิสระ และเจาพนักงานของ ผดู ํารงตําแหนงระดับสูงและ ใดอันอาจคํานวณเปนเงินได หมวดนี้ให ถื อวาเป น
รัฐท่ีคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผูดาํ รงตาํ แหนงทางการเมือง จ า ก ผู ใ ด น อ ก เ ห นื อ จ า ก การกระทําความผิดตอ
ประกาศกําหนด ดําเนิน ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ท รั พ ย สิ น ห รื อ ป ร ะ โ ย ช น อั น ตําแหนงหนาท่ีราชการ
กจิ การ (1) - (4) กําหนด ดําเนินการใดตาม ควรไดตามกฎหมาย กฎ หรือ ห รื อ ค ว า ม ผิ ด ต อ
มาตรา 126 (4) ภายในสองป ขอ บังคับที่อ อกโดยอาศัย ตําแหนงหนาที่ในการ
นับแตว นั ท่พี น จากตําแหนง หมวด 6 อํ า น า จ ต า ม บ ท บั ญ ญั ติ แ ห ง ยุติธรรม
ก ฎ ห ม า ย เ ว น แ ต ก า ร รั บ
ทรัพยสินหรือประโยชนอ่ืนใด
โดยธรรมจรรยา
86
มาตรา 53
126
สาระสาํ คัญ
87
หา มมิใหก รรมการผูดํารงตาํ แหนงในองคก รอสิ ระ และเจาพนักงานของรฐั
ท่คี ณะกรรมการ ป.ป.ช. ประกาศกาํ หนดดาํ เนินกจิ การ ดงั ตอไปนี้
01 เปนคสู ญั ญาหรอื มีสว นไดเ สียในสญั ญาท่ีทาํ กับหนวยงาน
ของรฐั
เ.ปนหุนสว นในหา งหนุ สวนหรอื ผถู ือหุนในบริษทั ทเ่ี ขา เปน
02 คสู ัญญากับหนวยงานของรฐั
รับสัมปทานหรอื คงถือไวซึ่งสมั ปทานจากรฐั หรอื เขาเปน คูสัญญา
03 อนั มลี ักษณะผกู ขาดตดั ตอน เปนหุนสวนในหา งหนุ สว นหรือผูถอื
หนุ ในบรษิ ัททรี่ ับสมั ปทานหรือเขาเปน คสู ญั ญาในลกั ษณะดังกลาว
เปน กรรมการ ทปี่ รกึ ษา ตัวแทน พนกั งานหรอื ลกู จา ง
04 ในธุรกิจของเอกชนซึ่งอยภู ายใตก ารกาํ กบั ดแู ล ควบคุม
ตรวจสอบของหนว ยงานของรฐั
มาตรา การเปนคูสัญญา หมายถึง การเขามาทําสัญญาโดยตรง
126
(1) กับหนวยงานของรัฐ ท่ีมีเจาหนาที่ของรัฐในตําแหนงน้ัน
เปน ผปู ฏบิ ตั ิงานในฐานะทเี่ ปนเจา หนา ท่ีของรัฐ ซึ่งมีอํานาจ
88 กํากบั ดแู ล ควบคุม ตรวจสอบหรอื ดําเนนิ คดี
เปนคูสัญญาหรือมีสวนไดเสียในสัญญาที่ทํากับหนวยงานของรัฐ
ท่ีเจาพนักงานของรฐั ผูนนั้ ปฏิบัตหิ นาทีใ่ นฐานะท่เี ปน เจา พนกั งานของรัฐ
ซึ่งมีอํานาจไมวาโดยตรงหรือโดยออมในการกํากับ ดูแล ควบคุม
ตรวจสอบหรือดาํ เนนิ คดี
การมีสวนไดเสียในสัญญา หมายถึง การใชอํานาจหนาที่เขาไปยุง
เกย่ี วกบั สัญญาน้นั หรอื การเขาไปดาํ เนนิ การใด ๆ
54
มมาาตตรราา “การเปนหุนสวน” หมายถึง การท่ีบุคคลได
12612(62)
ลงทนุ รวมกัน ในหางหนุ สวนสามัญ หางหุนสว นสามญั
(2) จดทะเบยี น หรือหา งหนุ สว นจํากดั
89 เปนหุนสวนหรือผูถือหุนในหางหุนสวนหรือบริษัทท่ีเขา
เปนคูสัญญากับหนวยงานของรัฐ ที่เจาพนักงานของรัฐผูนั้น
ปฏิบัติหนาที่ในฐานะท่ีเปนเจาพนักงานของรัฐซึ่งมีอํานาจไมวาโดยตรง
หรือโดยออมในการกํากับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบหรือดําเนินคดี เวนแต
จะเปนผูถือหุนในบริษัทจํากัดหรือบริษัทมหาชนจํากัดไมเกินจํานวนที่
คณะกรรมการ ป.ป.ช. กําหนด
“การเปนผถู อื หนุ ในบรษิ ทั ” หมายถึง การมีหุนใน
บรษิ ทั ตามทะเบียนผูถอื หุน และบรษิ ทั ท่ีมีเจาหนาที่ของรัฐมหี นุ อยูนั้น
มาตรา รบั สัมปทานหรือคงถอื ไวซ งึ่ สมั ปทานจากรัฐ หนวยราชการ หนวยงานของรฐั รัฐวสิ าหกิจ หรอื ราชการ
126 สวนทอ งถน่ิ หรือเขา เปนคสู ญั ญากับรัฐ หนว ยราชการ หนวยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการ
(3) สว นทอ งถิ่น อนั มลี ักษณะเปนการผูกขาดตัดตอน หรือเปนหุนสวนหรือผูถือหุนในหางหุนสวนหรือ
บรษิ ัททร่ี บั สัมปทานหรอื เขาเปน คูสัญญาในลกั ษณะดงั กลา ว ในฐานะทเ่ี ปน เจา พนกั งานของรัฐซึ่งมี
อํานาจไมว าโดยตรงหรือโดยออมในการกาํ กบั ดแู ล ควบคมุ ตรวจสอบหรอื ดาํ เนนิ คดี เวน แตจ ะเปน
ผถู อื หุนในบริษทั จํากดั หรือบรษิ ทั มหาชนจาํ กดั ไมเ กินจาํ นวนท่ีคณะกรรมการ ป.ป.ช. กาํ หนด
“สญั ญาสมั ปทาน” หมายถงึ สัญญาทเ่ี อกชนไดร ับอนุญาตจากรัฐ
ใหด าํ เนินการตา ง ๆ ดังตอ ไปนี้
- สัญญาท่รี ฐั อนุญาตใหเ อกชนจดั ทาํ บรกิ ารสาธารณะ เชน สญั ญา
สัมปทานรถไฟฟา สญั ญาสมั ปทานในกิจการโทรมนาคม
- สญั ญาทรี่ ัฐใหเอกชนรวมลงทุนในกิจการของรัฐ
- สญั ญาทรี่ ฐั ใหเอกชนแสวงหาประโยชนจ ากทรัพยากรธรรมชาติ
เชน การทําเหมืองแร การทาํ โรงโมห นิ รงั นกอแี อน
90
55
จาํ นวน หุน้ ในบริษทั จาํ กดั หรือ บริษทั มหาชน จาํ กดั ทีถูกกาํ หนด
กรรมการ ผดู ํารงตาํ แหนงในองคก รอสิ ระ ไมเ่ กนิ %
เจาพนกั งานของรัฐ ทค่ี ณะกรรมการ ป.ป.ช.กําหนด
ถือหุนใน บริษัทจํากัด หรือ บริษัทมหาชน
จํากดั ตามมาตรา 126 (2) และ มาตรา 126 (3)
รอยละหาไมเกิน ของจาํ นวนหนุ ทัง้ หมดทจ่ี าํ หนายไดใ นบริษัท
* ตอ งดําเนินการภายใน สามสบิ วนั ประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่องกาํ หนดจํานวนหุนในบรษิ ทั จาํ กดั หรือบรษิ ัทมหาชนจาํ กัดทก่ี รรมการ ผดู ํารงตําแหนง ใน
องคการอสิ ระ และเจา พนักงานของรฐั ทค่ี ณะกรรมการ ป.ป.ช.ประกาศกาํ หนด ถือหุน ไดตามมาตรา 126 (2) พ.ศ.2563
นับแตว ันท่เี ขา ดํารงตําแหนง ม. ๑๒๖ วรรค ๔ ประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่องกําหนดจํานวนหุนในบรษิ ัทจาํ กดั หรือบรษิ ทั มหาชนจาํ กัดที่กรรมการ ผดู ํารงตําแหนง ใน
องคก ารอิสระ และเจาพนกั งานของรฐั ทค่ี ณะกรรมการ ป.ป.ช.ประกาศกําหนด ถอื หุนไดต ามมาตรา 126 (3) พ.ศ.2563
91
มาตรา เขาไปมีสวนไดเสียในฐานะท่ีเปนกรรมการ ที่ปรึกษา ตัวแทน
126 (4) พนกั งานหรือลกู จา งในธรุ กิจของเอกชน
ภายใตการ กํากับ ดูแล ควบคุม
กรรมการ ตรวจสอบ ของหนวยงานของรฐั
ท่ปี รกึ ษา ที่เจาพนักงานของรัฐผูน้ันสังกัดอยูหรือปฏิบัติ
ตวั แทน หนา ทใี่ นฐานะท่เี ปน เจา พนกั งานของรัฐ
พนักงาน ซึ่งโดยสภาพของผลประโยชนของธุรกิจของเอกชนน้ันอาจขัด
ลูกจา ง หรอื แยง ตอประโยชนส ว นรวม หรือประโยชนทางราชการ หรือ
กระทบตอความมีอิสระในการปฏิบัติหนาที่ของเจาพนักงาน
ของรฐั ผูนั้น
92
56
มาตรา 126 วรรค 2 วรรค 3
วรรคสอง :ใหน าํ ความในวรรคหนงึ่ มาใชบังคับกบั คูส มรสของเจาพนักงานของรัฐ ตามวรรค
หน่ึงดวยโดยใหถือวาการดําเนินกิจการของ“คูสมรส”เปนการดําเนินกิจการของ“เจาพนักงาน
ของรฐั ” เวนแตเ ปน กรณที ค่ี ูสมรสน้นั ดาํ เนินการอยูกอ นทเี่ จาพนักงานของรัฐจะเขาดาํ รงตาํ แหนง
วรรคสาม :“คสู มรส” ตามวรรคสองใหหมายความ
รวมถึง “ผูซึ่งอยูกินกันฉันสามีภริยาโดยมิได
จดทะเบียนสมรส”ดวย ทั้งน้ี ตามหลักเกณฑท่ี
คณะกรรมการ ป.ป.ช. กําหนด
93
มาตรา 126 วรรค 3
ทาํ พิธีมงคลสมรสหรือพิธีอืนใดในทาํ นองเดียวโดยมี
บุคคลในครอบครัวหรื อบุคคลภายนอกรับทราบว่าเป็ นการ
อยู่ กินเป็ นสามีภริยากนั ตามประเพณี
“ผูซ้ งึ อยู่กนิ ฉนั สามภี รรยา
โดยไมจ่ ดทะเบยี น”
แสดงให้ปรากฏว่ามีสถานะเป็ นสามีภริยากนั หรือมี
พฤตกิ ารณ์เป็นทีรับรู้ของสังคมทวั ไปวา่ มีสถานะดงั กล่าว
ไดจ้ ดทะเบียน หยา่ ขาด จากกนั ตามกฎหมาย แต่ยงั
แสดงให้ปรากฏหรือมีพฤตกิ ารณ์ซึงเป็ นทีรับรู้ของสังคม
ทวั ไปวา่ มีสถานะเป็ นสามีหรือภริยากนั
ประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อง หลักเกณฑข องผูซงึ่ อยูก ินกันฉัน
สามภี รยิ าโดยมิไดจ ดทะเบยี นสมรสอนั ถอื วา เปน คสู มรส พ.ศ. ๒๕๖๑ ขอ ๓
94
57
ตาํ แหน่งทถี กู ตอ้ งหา้ มตามมาตรา 126
1. คณะกรรมการ ป.ป.ช. ประธานกรรมการ และกรรมการ ป.ป.ช.
คณะกรรมการการเลอื กตง้ั ผตู รวจการแผน ดนิ คณะกรรมการ 2. ผูด้ ํารงตาํ แหน่งในองคก์ รอสิ ระ
ตรวจเงินแผนดนิ คณะกรรมการสทิ ธมิ นุษยชนแหง ชาติ
ผูวาการตรวจเงนิ แผนดนิ ประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรอ่ื ง กําหนดตาํ แหนง
เจาพนกั งานของรฐั ท่ตี อ งหา มมใิ หดาํ เนนิ กิจการตาม
3. ตาํ แหน่งทคี ณะกรรมการ ป.ป.ช.กําหนด ความในมนตรา 126 พ.ศ.2563
95
ตาํ แหน่งทคี ณะกรรมการ ป.ป.ช.กาํ หนด
จาํ นวน 9,927 คน
1. ผูด้ าํ รงตําแหน่งทางการเมอื ง นายกรัฐมนตรี รฐั มนตรี สมาชกิ สภาผแู ทนราษฎร
สมาชิกวฒุ ิสภา
ขา ราชการพลเรอื น (หัวหนาสวนราชการฯ) ขา ราชการ
ทหาร (ปลดั ฯ,ผูบญั ชาการฯ)ผบู ัญชาการตาํ รวจแหงชาติ 2. ผูด้ าํ รงตําแหน่งระดบั สูง
ผวู า ราชการจงั หวัด ปลดั กรงุ เทพมหานคร กรรมการและ
ผูบ รหิ ารสูงสุดของรฐั วสิ าหกิจ หวั หนาหนวยงานองคก ร ผวู าราชการกรุงเทพมหานคร นายกเมอื งพทั ยา
อสิ ระ (เลขาธกิ ารฯ) ผูดํารงตาํ แหนง เทียบเทา (เลขาธกิ ารฯ) นายก อบจ. นายกเทศมนตรี นายก อบต.
3. ผูบ้ รหิ ารทอ้ งถนิ
ประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรอ่ื ง กาํ หนดตําแหนง เจาพนักงานของรัฐท่ตี อ งหามมใิ หด ําเนนิ กจิ การตามความในมนตรา 126 พ.ศ.2563
96
58
สรุป กจิ การตอ้ งหา้ มดาํ เนินการ มาตรา 126
เปนคสู ญั ญาหรือมีสวน เ ป น หุ น ส ว น ใ น ห า ง รับสัมปทานหรือคงถือไวซึ่ง เ ป น ก ร ร ม ก า ร ที่
ไดเสียในสัญญาที่ทํา หุ น ส ว น ห รื อ ผู ถื อ หุ น สัมปทานจากรัฐ หรือเขาเปน ป รึ ก ษ า ตั ว แ ท น
กับหนวยงานของรฐั ในบ ริ ษั ทที่เ ข าเ ป น คสู ัญญาอันมีลักษณะผูกขาด พนักงาน หรือลูกจาง
คสู ญั ญากับหนวยงาน ตัดตอน เปนหุนสวนในหาง ในธุรกิจเอกชนซึ่งอยู
ใชบังคับกับคูสมรสดวย ของรฐั * หนุ สวนหรือผถู ือหุนในบริษัท ภายใตการกํากับ ดูแล
ย ก เ ว น คู ส ม ร ส ดํ า เ นิ น ที่รับสัมปทานหรือเขาเปน ตรวจสอบ ของ
กจิ การอยูกอน *ยกเวนถือหุนในบริษัท คสู ัญญาในลักษณะดงั กลา ว* หนว ยงานของรฐั
ไมเ กินรอยละ 5
97
มาตรา สาระสําคัญ
127
หาม มใิ ห กรรมการ ผูดํารงตาํ แหนง ในองคกรอิสระ ผูดาํ รง
98
ตาํ แหนงระดบั สงู และผูดํารงตาํ แหนง ทางการเมืองทค่ี ณะกรรมการ
ป.ป.ช. กาํ หนด ดําเนินการใดตามมาตรา 126 (4) ภายในสองป
นบั แตวนั ที่พน จากตาํ แหนง
เขา ไปมสี ว นไดเสยี ใน ธุรกจิ ของเอกชนในฐานะ
“กรรมการ ที่ปรึกษา ตวั แทน พนกั งานหรอื ลูกจา ง”
ภายใตก าร กาํ กบั ดแู ล ควบคมุ ตรวจสอบ ของหนว ยงาน
ของรัฐทสี่ ังกดั หรอื ปฏบิ ัตหิ นา ท่อี ยู
ซึ่งโดยสภาพของผลประโยชนของธุรกิจของเอกชนอาจขัด
0ห4รือแยงตอประโยชนสวนรวม หรือประโยชนทางราชการ
หรอื กระทบตอ ความมีอสิ ระในการปฏิบตั หิ นา ที่
59
มาตรา 127 หา มดาํ เนนิ การใดตามมาตรา 126 (4) ภายในสองป นบั แต
วันท่พี นจากตาํ แหนง
เขาไปมีสวนไดเสียในฐานะท่ีเปนกรรมการ ภายใตการ กํากับ ดูแล ควบคุม
ท่ีปรึกษา ตัวแทน พนักงานหรือลูกจาง
ในธุรกิจของเอกชน ตรวจสอบ ของหนวยงานของ
รัฐ
111 กรรมกา 2/ ที ตวั แทน พนกั งา ลูกจา้ ง
1ร ปรกึ ษา น
ท่ีเจาพนักงานของรัฐผูนั้นสังกัดอยูหรือปฏิบัติหนาท่ีใน
ฐานะทีเ่ ปนเจา พนักงานของรฐั
ซ่ึงโดยสภาพของผลประโยชนของธุรกิจของเอกชนนั้นอาจขัดหรือแยงตอประโยชนสวนรวม หรือ
ประโยชนทางราชการ หรือกระทบตอความมอี ิสระในการปฏบิ ตั หิ นา ทีข่ องเจาพนกั งานของรฐั ผนู ้นั
99
ตาํ แหน่งทถี กู ตอ้ งหา้ มตามมาตรา 127
1. คณะกรรมการ ป.ป.ช. ประธานกรรมการ และกรรมการ ป.ป.ช.
คณะกรรมการการเลอื กต้งั ผตู รวจการแผนดนิ คณะกรรมการ 2. ผูด้ าํ รงตําแหน่งในองคก์ รอสิ ระ
ตรวจเงนิ แผนดิน คณะกรรมการสทิ ธมิ นุษยชนแหง ชาติ
ผูวาการตรวจเงนิ แผนดนิ ประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรอ่ื ง กําหนดตาํ แหนง
เจา พนักงานของรัฐท่ีตอ งหา มมใิ หด าํ เนนิ กจิ การตาม
3. ผูด้ ํารงตําแหน่งระดบั สูงและผูด้ าํ รงตําแหน่งทาง ความในมนตรา 127 พ.ศ.2563
การเมอื งทคี ณะกรรมการ ป.ป.ช.กาํ หนด
100
60
มาตรา 127 01 ผูด้ าํ รงตําแหน่งทางการเมอื ง
“ไมรวมถึงคูส มรส”
นายกรฐั มนตรี รฐั มนตรี สมาชกิ สภาผูแ้ ทน
ตาํ แหน่ง ราษฎร สมาชกิ วฒุ สิ ภา
ทคี ณะกรรมการ ป.ป.ช. 02 ผูด้ ํารงตาํ แหน่งระดบั สูง
กาํ หนด
ขา้ ราชการพลเรอื น (หวั หนา้ สว่ นราชการ)
จาํ นวน 1,156 ขา้ ราชการทหาร (ปลดั ฯ ผบู ้ ญั ชาการฯ) ผบู ้ งั คบั การ
คน ตํารวจแหง่ ชาติ ผวู ้ า่ ราชการจงั หวดั ปลดั
กรงุ เทพมหานคร ผบู ้ รหิ ารสูงสุดของรฐั วสิ าหกจิ
หวั หนา้ หน่วยงานองคก์ รอสิ ระ (เลขาธกิ ารฯ) ผดู ้ ํารง
ตาํ แหน่งเทยี บเทา่ (เลขาธกิ ารฯ)
101
มาตรา 128 สาระสาํ คญั
ความในวรรคหนึ่งมิใหใชบังคับกับ หา ม มิใหเ จาพนกั งานของรัฐผใู ดรบั ทรัพยสินหรือประโยชนอ่ืน
การรับทรัพยสินหรือประโยชนอ่ืนใด
ใดอนั อาจคาํ นวณเปน เงินได จากผูใ ด นอกเหนอื จากทรัพยสินหรือ
จาก “บุพการี สืบสันดาน ประโยชนอันควรไดตามกฎหมาย กฎ หรือขอบังคับที่ออกโดย
หรือ ญาติ”ที่ใหตามประเพณี หรือ อาศยั อํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย เวนแตการรับทรัพยสิน
ตามธรรมจรรยาตามฐานานรุ ูป หรือประโยชนอ่ืนใด “โดยธรรมจรรยา” ตาม
หลกั เกณฑและจํานวนท่ีคณะกรรมการ ป.ป.ช. กาํ หนด
บทบัญญตั ใิ นวรรคหน่ึงใหใชบ งั คบั กบั การรบั
ทรพั ยส นิ หรือประโยชนอ ืน่ ใดของ
04 ผูซ ึ่งพนจากการเปน เจา พนกั งานของรฐั มาแลว
ไมถงึ สองปด วยโดยอนโุ ลม
102
61
มาตรา 128
ใชบงั คบั กบั เจา พนักงานของรัฐทุกคน ทงั้ ขาราชการ พนักงาน
ราชการ ลกู จาง ฯลฯ + ผซู ่งึ พน จากการเปนเจาพนักงานของรฐั
มาแลว ยังไมถึง 2 ปดว ย
หลกั = “หา มรบั ”ทรัพยส ินหรือประโยชนอ ืน่ ใด
เวนแต
1) รับตามกฎหมาย กฎ หรือขอบังคับท่ีออกโดยอาศัยอํานาจตาม
บทบัญญตั แิ หง กฎหมาย เชน คาเบย้ี เล้ียงเดินทาง คาเบี้ยประชุม
2) จากบุพการี ผูสบื สันดาน หรือญาติท่ีใหตามประเพณี หรือตาม
ธรรมจรรยาตามฐานานรุ ูป
3) รับตามธรรมจรรยาตามหลักเกณฑและจํานวนท่ีคณะกรรมการ
ป.ป.ช. กําหนด : ไมเ กิน 3,000 บาท
103
มาตรา 128 หลกั เกณฑก์ ารรบั ทรพั ยส์ นิ หรอื
ประโยชนอ์ นื ใดโดยธรรมจรรยา
“รบั โดยธรรมจรรยา”
“ประโยชนอนื่ ใดอันอาจคาํ ณวณเปน เงนิ ได”
(1) รับทรัพยสินหรือประโยชนอ่ืนใดจากบุคคลอื่น
ซึ่งไมใชญาติมีราคาหรือมูลคาในการรับจากแตละ หมายความวา สงิ่ ทมี่ มี ูลคา ไดแก การลดราคา การรับ
บุคคล แตล ะโอกาสไมเกิน 3,000 บาท ความบันเทงิ การรบั บรกิ าร การรับการฝก อบรม หรือสิ่งอืน่
(2) รับทรัพยสินหรือประโยชนอ่ืนใดที่การใหนั้น ใดในลักษณะเดยี วกนั
เปนการใหใ นลกั ษณะใหกับบุคคลท่วั ไป
“. การรับทรัพยสินหรือประโยชนอ่ืนใดโดย
. ธรรมจรรยา” หมายความวา การรับทรัพยสิน หรือ
ประโยชนอ่ืนใดอันอาจคําณวณเปนเงินไดจากบุคคลท่ีให
กนั ในโอกาสเทศกาลหรอื วันสาํ คญั โอกาสแสดงความยินดี
การแสดงความขอบคณุ การตอนรับ การแสดงความเสยี ใจ
หรอื ใหต ามมารยาทท่ีถือปฏบิ ตั กิ นั ในสังคม
“ญาติ” หมายความ พ่ีนองรวมบิดาหรือมารดาเดียวกัน
ลุง ปา นา อา คูสมรส ผบู ุพการหี รอื ผสู บื สนั ดานของคสู มรส
บุตรบญุ ธรรมหรือผูรบั บตุ รบุญธรรม
104
62
การรบั ทรพั ยสนิ หรอื ประโยชนท ่ีไมเปนไปตามหลกั เกณฑ หรอื มีราคา/มูลคามากกวาที่กาํ หนด
เจาพนักงานของรัฐรบั มาแลว โดยมคี วามจาํ เปนเพอื่ รกั ษาไมตรี มติ รภาพ หรอื ความสัมพันธอ นั ดี
แจงตอหัวหนา สวนราชการ/ผูบริหารสูงสุด ภายใน 30 วัน นับแตวันทีไ่ ดรับทรพั ยสิน
ไมส มควรรับ
คนื ทรพั ยส นิ หรือประโยชนแ กผใู หทันที
ไมส ามารถคนื ได
สงมอบทรัพยสนิ หรอื ประโยชนใหเ ปนสิทธขิ องหนวยงาน
ผล เจาพนกั งานของรัฐผูน้นั ไมเ คยรบั ทรัพยส นิ หรอื ประโยชนดังกลา วเลย
105
การรายงานการรบั ทรพั ยส์ นิ ฯ
ผดู าํ รงตาํ แหนง ส.ส. ส.ว. ประธานสภาผูแ้ ทนราษฎร
และสมาชิกสภาทอ งถ่ิน ประธานวฒุ สิ ภา หรอื
ประธานสภาทอ้ งถนิ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ประธานกรรมการและกรรมการใน
องคกรอิสระตามรฐั ธรรมนูญ
ผบู งั คับบญั ชาซงึ่ เปนหวั หนา
สวนราชการ ระดบั กระทรวง ผูม้ อี าํ นาจแตง่ ตงั ถอดถอน
หรอื เทยี บเทา
106
63 ไมจาํ เปน ตอ งแจง
ขอ เทจ็ จริงเก่ยี วกบั
เขม็ กลัดทองคาํ จาก การรบั ทรัพยส นิ ตอ
ผมู อี ํานาจแตงต้งั
กองทนุ สวสั ดิการ
ถอดถอน
นาย ส. ลาออกจากราชการ เขารวมงานแสดงมุทิตาจิตแด
ผลู าออกจากราชการและผเู กษยี ณอายรุ าชการ
ไดรับเข็มกลัดทองคํามีมูลคาประมาณ 12,000 บาท จาก
กองทนุ สวัสดกิ ารของหนว ยงานตามขอกําหนดในการมอบของ
ที่ระลกึ ใหก ับผทู อ่ี อกจากราชการ
ขอบังคับคณะกรรมการสวัสดิการภายในสํานักงาน วาดวยการ
มอบของท่รี ะลกึ ใหแกสมาชิกกรณีออกจากราชการ พ.ศ. 2559
ขอ 3 (2) ท่ีใหอํานาจแกกองทุนสวัสดิการสามารถมอบของท่ี
ระลกึ ใหแ กส มาชกิ ทอ่ี อกจากราชการซึง่ มีอายรุ าชการตงั้ แต 25 ป
ขน้ึ ไป ไดไ มเกินรายละ 15,000 บาท
รบั โดยอาศยั อาํ นาจตามบทบญั ญตั ิแหงกฎหมาย
107
คดเี รยี กรบั เงินโบนสั คดีหมายเลขดําที่ อท./2402561
เลขแดงที่ 9849/2561
นายก อบต. เรียกรับเงินประโยชนตอบแทนอื่นเปนกรณีพิเศษ หรือ ศาลอทุ ธรณ ยนื ตาม
โบนสั จาก พนง.- ลกู จาง 25 คน ศาลอาญาคดที จุ รติ
ประพฤตมิ ชิ อบภาค 3
เจา หนาท่กี ารเงินเสนอบันทึกขออนุมัติจายเงินพรอมเอกสาร เรียก
สงั่
เจาหนา ที่ไปพบขอเรยี กเงิน รอ ยละ 5 ของจาํ นวนเงนิ ทีแ่ ตล ะคนมสี ิทธิ
ไดรับ เจาหนา ท่กี ารเงินไปเกบ็ เสนอมาโดยจําเลยเขียนคาํ วา “รอ” และ จาํ คกุ 3 ป
4 เดอื น
ลงชอ่ื ในกระดาษสเี หลอื งปด ไวท ีส่ มุดเชค็
เสนอบนั ทึกอกี ครง้ั จาํ เลยเรยี กเจา หนาที่ไปพบใหไ ปแจง วาขอเรียก มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และ พ.ร.บ.
ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 มาตรา 103 วรรคหนึง่ มาตรา 122 วรรคหนง่ึ
เงนิ เพมิ่ จาก รอยละ 5 เปน รอยละ 10 แตล ะคนเกรงวาอาจมีปญหา
ในการทาํ งานจงึ ยอมจา ย จําเลยจงึ ไดล งนามในเชค็ จนท.สงสัยเรียกเพ่มิ
เพราะอะไรเลยไปสอบถาม จําเลยตอบ น้าํ มนั แพง
พนักงาน-ลูกจาง ไดนําเงินสดหอกระดาษใหเจาหนาท่ีคนหนึ่ง
รวบรวมไปมอบใหจําเลยหลังเลิกงานขณะจําเลยรออยูในรถที่จอดอยู
หนาสํานักงาน จําเลยอางวาไมไดรับเงินเพราะกลับบานตรงเวลาหลัง
เลิกงานไมม กี ารรอรับเงิน
108
64
บทกาํ หนดโทษ
126 127 128 129
มาตรา 168 มาตรา 170 มาตรา 169 ถือเปน การกระทําความผิด
ตองระวางโทษจําคุกไมเกิน ตอ ตาํ แหนงหนาท่ีราชการ
ตองระวางโทษจําคุกไมเกิน ตองระวางโทษจําคุกไมเกิน 3 ป หรอื ปรับไมเกนิ 60,000 หรือความผิดตอตําแหนง
บาท หรือ ทง้ั จําทง้ั ปรับ หนาทใ่ี นการยตุ ธิ รรม
3 ป ห รื อ ป รั บ ไ ม เ กิ น 6 เดื อ น หรื อ ป รั บ ไม เ กิ น
60,000 บาท หรือ ทั้งจําท้ัง 10,000 บาท หรอื ทั้งจาํ ทง้ั ปรับ
ปรับ
กรณีมาตรา 126 วรรค 2 ถาพิสูจนไดวาเจาพนักงานของ
รัฐรูเ ห็นยนิ ยอม ตอ งระวางโทษตาม ม 168 ว 2
109
จํานวนเรอื งกล่าวหารอ้ งเรยี น
160 มาตรา 100 (ม.126) พ.ร.บ.ประกอบ
รัฐธรรมนูญว่าดว้ ยการป้องกนั และปราบปราม
การทุจริต พงศ.๒๕๖๑
439 COI 16
มาตรา 103(ม.128) พ.ร.บ.
มาตรา 149 ประกอบรัฐธรรมนูญว่าดว้ ยการป้องกนั
ประมวลกฎหมายอาญา และปราบปรามการทุจริต พงศ.๒๕๖๑
ขอมลู ณ วนั ท่ี ๓๐ มิถนุ ายน 2563 รวมจาํ นวน 626 เร่อื ง 11
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 6 พ.ร.บ.ความรับผดิ ของพนกั งานใน
พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนญู วาดวยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๖๑ องคก์ ารหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.๒๕๐๒
พ.ร.บ. ความรบั ผดิ ของพนกั งานในองคก ารหรือหนว ยงานของรฐั พ.ศ. ๒๕๐๒
110
65
สรุปสาระสําคญั เร่ือง การชดั กนั ระหวา งประโยชนส ว นตนและประโยชนสว นรวม
ตามพระราชบัญญตั ิประกอบรัฐธรรมนูญวา ดวยการปองกันและปราบปรามการทจุ รติ พ.ศ. ๒๕๖๑
111
CONFLICT OF INTERESTS
แนวทางการรบั มือกับการขดั กนั
แหง ผลประโยชน
กรณีที่ไมอาจหลีกเล่ียงได ผูมีอํานาจควรหยุดการปฏิบัติหนาท่ี หรือหยุดการ
พจิ ารณา วินจิ ฉยั หรือลงมติ ในเรอ่ื งนัน้
กรณีท่ีไมอาจหลีกเล่ียงการปฏิบัติหนาที่ได ควรแจง ประกาศ หรือ เปดเผย
ขอ มูลตอ บุคคลท่ีเกยี่ วของ ผบู ังคับบญั ชา หรือสาธารณะ
กรณีทีไ่ มอ าจหลกี เลยี่ งการปฏบิ ัติหนา ทไี่ ด ควรปฏิบัติหนาที่ หรือ พิจารณาโดย
ยึดหลกั เหตุผล โปรง ใส และเปดเผย
ศึกษากฎหมายท่ีเกีย่ วของกบั การขัดกันแหง ผลประโยชน
COI แก้ไขได้... ถ้าคดิ เป็ น...
112
66
กรณี เขาไป มีสว นเกย่ี วของกบั การ กระทาํ ความผดิ
เพราะ ถูกส่ังการ ใหกระทํา
โตแยง ทบทวน ยนื ยัน แจง
คณะกรรมการ ป.ป.ช.
มาตรา ในกรณีท่ีเจาพนักงานของรัฐผูใดมีสวนเกี่ยวของ กับการกระทําความผิดเพราะ
134 ผบู งั คบั บญั ชาสั่งการใหท าํ ถาไดทาํ หนังสอื โตแ ยง หรือใหผ บู งั คบั บัญชาทบทวนคําสั่งหรือให
ยืนยันคําสั่งแลว หรือไดแจงใหคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทราบถึงเบาะแส ขอมูล หรือ
ขอเท็จจริงภายในสามสิบวันนับแตวันที่ไดกระทําการนั้น ใหเจาพนักงานของรัฐผูน้ัน ไม
ตอ งรับโทษ
113
COI แกไขได... ถาคดิ เปน ...
CONFLICT OF INTEREST
The Bureau of Conflict of interest ,
Office of the National Anti-Corruption Commission
สาํ นกั การขดั กนั แห่งผลประโยชน์ สาํ นกั งาน ป.ป.ช.
โทร. 0 2528 4800
114
67
ระบบคิดฐานสองกบั การแกป ญ หาในสังคม
115
พระราชบัญญตั ิการเดินเรือในนา นน้ําไทย พ.ศ. 2560
• มีผลบังคับใชเ ดอื น กุมภาพนั ธ 2560
• ครอบครองสิง่ ลวงลาํ้ ลาํ นา้ํ โดยไมไ ดรบั อนญุ าต
– ระวางโทษจําคุกไมเกิน 3 ป หรือปรบั ตร.ม.ละ 1,000-20,000 บาท
116
68
พระราชบัญญัตทิ างหลวง พ.ศ. 2535
• มาตรา 49 กอสรา ง ดัดแปลงอาคาร หรือตดิ ตง้ั ปา ยโฆษณาโดยไมไดรับอนญุ าต
– ระวางโทษจําคุกไมเกนิ สามเดือน หรอื ปรับไมเ กินหา พันบาท หรือทง้ั จําท้งั ปรับ
117
พระราชบญั ญัติ รกั ษาความสะอาด
และความเปน ระเบียบเรียบรอ ยของบานเมอื ง พ.ศ. 2560
• ซ้อื – ขายกลวยแขกกลางสี่แยก เสย่ี งอบุ ัติเหตุ – ผิดกฎหมาย !!!
• มาตรา 20 หาม ปรงุ อาหาร ขายหรือจาํ หนายสนิ คา บนถนนหรือทส่ี าธารณะ
• ฝาฝนระวางโทษปรับไมเ กินสองพนั บาท
• มาตรา 21 หา มผูขบั ขี่รถซอ้ื สินคา ท่จี ําหนา ยบนถนน
• ฝาฝน ระวางโทษปรับไมเกินหนึ่งพนั บาท
118
69
คาํ สง่ั หัวหนาคณะรักษาความสงบเรียบรอยแหงชาติ
ท่ี 5/2559
• ใหก รมปา ไมรบั ผิดชอบพนื้ ที่ปา ไมท ีท่ วงคืนไดจ าํ นวน 100,000 ไร
พระราชบญั ญัตปิ า ไม พ.ศ. 2484
• มาตรา 54(30) ยึดถอื ครอบครองปา โดยไมไ ดรับอนุญาต
– ระวางโทษจําคกุ ไมเ กนิ หาป หรือปรบั ไมเ กินหา หมนื่ บาท หรือทัง้ จําทั้งปรบั
119
พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522
• มาตรา 54 หา มจอดรถกดี ขวางการจราจร
• มาตรา 57 หา มจอดรถในที่หา มจอด
– ฝาฝน ระวางโทษปรบั ไมเ กิน 500 บาท
120
70
ประมวลกฎหมายอาญา
หมวด ๒ ความผิดตอ่ ตาํ แหนง่ หนา้ ทีราชการ
มาตรา ๑๔๗ ผใู้ ดเป็นเจา้ พนกั งาน มีหนา้ ทีซอื ทาํ จดั การหรอื รกั ษาทรพั ยใ์ ด เบียดบงั
ทรพั ยน์ นั เป็นของตน หรอื เป็นของผอู้ นื โดยทจุ รติ หรอื โดยทจุ รติ ยอมใหผ้ อู้ นื เอาทรพั ย์ นั
นนั เสยี ตอ้ งระวางโทษจาํ คกุ แตห่ า้ ปีถึงยสี บิ ปี หรอื จาํ คกุ ตลอดชวี ิต และปรบั ตงั แตส่ องพนั
บาท ถงึ สีหมนื บาท
121
การแกป้ ัญหาความขดั แยง้ ทางสังคม : แนวคิดวา่ ดว้ ย
ทรัพยส์ นิ สว่ นกลางในสังคมสงฆ์
พระพทุ ธเจา้ ไมท่ รงนาํ ระบบกรรมสิทธิในทรพั ยส์ นิ สว่ นตวั เหมอื นอยา่ งระบบทรพั ยส์ นิ แบบ
อบุ าสก อบุ าสกิ า มาใชก้ บั สงั คมสงฆ์ แตท่ รงนาํ ระบบทรพั ยส์ นิ สว่ นกลางซงึ เป็นแนวคดิ
ใหมม่ าใชใ้ นสงั คมสงฆ์
122
71
แนวความคิดวา่ ดว้ ยทรพั ยส์ ินสว่ นกลางในสงั คมสงฆ*์
พระมหาดวงเดน่ ฐิตญาโณ, ดร.(ปรชั ญา) (2558)
“พระพทุ ธเจา้ ทรงนาํ ระบบทรพั ยส์ ินส่วนกลางมาใชใ้ นสงั คมสงฆ์ เพอื ใหท้ กุ คนเป็นเจา้ ของรว่ มกนั
ป้องกนั ความขดั แยง้ แกง่ แยง่ และการขาดแคลน ทงั ยงั เป็นแนวทางเพือสรา้ งความยตุ ิธรรมหรอื ความเสมอ
ภาคเท่าเทยี มกนั อีกดว้ ย”
“แนวคิดระบบทรพั ยส์ ินของสงฆ”์
“สงั คมสงฆ์ เริมตน้ จากการสละทรพั ยส์ ินสว่ นตวั ซึงเป็ นการนับ ตวั อย่าง แนวคดิ ระบบทรพั ยส์ ินของสงฆ์ เชน่
หนึงเท่ากนั กล่าวคือ กอ่ นบวชตอ้ งสละฐานะ ยศ ตาํ แหน่งหนา้ ที - ภิกษุมอี ฏั ฐบรขิ ารใชเ้ พียงเล็กน้อยและเท่าทีจาํ เป็ น
ความเป็ นเครอื ญาติ วงศต์ ระกลู และทรพั ยส์ ินส่วนตวั ทิงใหห้ มด - มลี หุภณั ฑแ์ ละครุภณั ฑท์ เี ป็นทรพั ยส์ ินกองกลางของสงฆ์
และฝากชวี ิตไวก้ บั สงั คมสงฆส์ ว่ นรวม ทาํ ใหเ้ กดิ พฤติกรรมทีไม่ - ไมใ่ หส้ ะสมส่วนเกนิ หรอื ครอบครองไวเ้ ป็นสมบตั ิสว่ นตวั
แสวงหาเพอื สะสม เป็ นการมีใชส้ อยเทา่ ทีจาํ เป็น และถา้ มีส่วนที - มรี ะบบตวั แทนสงฆใ์ นการดูแลรกั ษาและแจกจา่ ย
เหลือกส็ ละเขา้ กองกลางเพือแผ่คนอืนทยี งั ขาดแคลน”
123
แนวความคิดวา่ ดว้ ยทรพั ยส์ ินส่วนกลางในสงั คมสงฆ*์
พระมหาดวงเด่น ฐิตญาโณ, ดร.(ปรชั ญา) (2558)
“ทรพั ยส์ ินของสงฆ์ หมายถึง วตั ถสุ ิงของทีถวายแกส่ งฆท์ วั ไปทงั หมด เป็นของสงฆท์ งั 4 ทิศโดยไม่เจาะจงใหภ้ ิกษุ
รูปใดรูปหนึง เป็นการใหเ้ พือใหต้ กเป็ นของสว่ นกลางของสงฆ์ ซึงก็แลว้ แตส่ งฆจ์ ะตกลงใชส้ อยรว่ มกนั โดยหลกั การคือ
ภกิ ษุสงฆเ์ ป็ นผมู้ ีสทิ ธิและถอื กรรมสิทธิในทรพั ยส์ ินรว่ มกนั ทรพั ยส์ ินของสงฆม์ ี 2 ประเภท”
1. ลหภุ ณั ฑ์ 2. ครภุ ณั ฑ์
หมายถึง ของเบา เชน่ บณิ ฑบาต เภสชั อฏั ฐบรขิ าร เป็ นตน้ หมายถึง ของหนัก ตามพระบาลี มี 5 หมวด ไดแ้ ก่
- พนื ทแี ละของปลูกสรา้ งเป็ นอาราม ตลอดจนตน้ ไม้
เป็ นของทีแจกจา่ ยกนั ได้ - พนื ทแี ละของปลูกสรา้ งเป็ นวหิ าร กุฏิทอี ยู่
- ของทีเป็นตวั เสนาสนะ เช่น เตียง ฟกู หมอน
แตง่ ตงั ภิกษุเป็ นตวั แทนสงฆใ์ นการแจกจา่ ยแบง่ ปัน - เครืองโลหะทีเป็นภาชนะและเครืองมือ
- เครืองสมั ภาระสาํ หรบั เสนาสนะและเครอื งใช้
- จวี รปฏิคคาหกภิกขุ (ผูด้ แู ลแจกจา่ ยเครืองนุ่งหม่ )
- ภตั ตุทเทสกภกิ ขุ (ผูด้ ูแลแจกจา่ ยอาหาร) เป็ นของทหี า้ มแจกกนั เป็ นของส่วนตวั ใหต้ กเป็ นของ
- เสนาสนคาหาปกภิกขุ (ผูด้ แู ลแจกจา่ ยเสนาสนะ) สาธารณะเพือประโยชนต์ อ่ การใชส้ อยรว่ มกนั
- เภสชั ชะภาชกะภกิ ษุ (ผูด้ ูแลแจกจา่ ยคลิ านเภสชั )
124
72
125